คำไวพจน์
นายเพิ่มพูลทรัพย์ วังสนาม
๖๔๓๑๑๐๐๑๐๒๒๑
วิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร
การศึกษาและการเรียนรู้
ภาคเรียนที่๑ ปีการศึกษา๒๕๖๕
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คำไวพจน์ (การหลากคำ) เป็นชื่อเรียกคำในภาษาไทยอีกพวกหนึ่ง มีความหมายต่าง
กันเป็น ๒ นัยหนึ่งพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๔๒ ให้คำ
อธิบายว่า "คำที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก เช่น
มนุษย์ กับ คน บ้าน กับ เรือน รอ กับ คอย ป่า กับ ดง คำพ้องความ ก็ว่า"
(พจนานุกรม ๒๕๔๒ หน้า ๑๐๙๑)และในที่เดียวกันนี้ได้ให้ความหมายที่พระยาศรี
สุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) กล่าวไว้ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ด้วยว่า
หมายถึง "คำที่ออกเสียงเหมืมอนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น
ใส กับ ไส โจทก์ กับ โจทย์ พาน กับ พาล ปัจจุบันเรียกว่า คำพ้องเสียง"
ปัจจุบัน มีการศึกษาคำที่พ้อง และแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่ม คือ คำพ้องรูป คำพ้องเสียง
และคำพ้องความหมายหรือคำพ้องความ คำพ้องรูป คือคำที่มีรูปเขียนเหมือนกัน มี
ความหมายต่างกัน ออกเสียงต่างกันหรือเหมือนกันก็ได้ เช่น คำว่า ชิน แปลว่า คุ้น
จนเจน หรือผู้ชนะ หรือเนื้อโลหะเจือชนิดหนึ่ง คำพ้องเสียง (คำไวพจน์ของพระยาศรี
สุนทรโวหาร) คือคำที่เขียนต่างกัน มีความหมายต่างกัน ออกเสียงเหมือนกัน เช่น
คำว่า ใจ กับ ไจ จร กับ จอน คำพ้องความ (คำไวพจน์ของพจนานุกรมราชบัณฑิตฯ)
คือคำต่างรูป ต่างเสียง แต่มีความหมายเหมือนหรือใกล้เคียงกัน เช่น กิน กับ รับ
ประทาน กัลยา นารี สุดา สมร หญิง เป็นคำพ้องความกัน
ตัวอย่างคำไวพจน์
ศิตางศุ์ คำไวพจน์ ศศิวิมล
ศศิธร พระจันทร์ นิศากร
รัชนีกร
แข บุหลัน
ตะวัน คำไวพจน์ ทินกร
สุริยา พระอาทิตย์ ทิวากร
อาภากร ทยุมณี
อังศุมาลี
คีรี คำไวพจน์ บรรพต
พนม ภูเขา สิงขร
นคินทร ไศล
ภูผา
คำไวพจน์
อาโป น้ำ หรรณพ
สินธุ ชลาลัย
วารี คงคา ชลธี
มัจฉา คำไวพจน์ ปุถุโลม
มัสยา ปลา อัมพุชา
วารีชาติ ชลจร
มัจฉาชาติ
คำไวพจน์
ยุพิน ผู้หญิง ดรุณี
นารี บังอร
กัลยา นงราม
ยุพา