การบญั ชี (Accounting)
ความหมายของการบญั ชี วัตถุประสงค์ของการบญั ชี
ประโยชน์ของการบญั ชี
กลบั หนา้ หลกั
ความหมายของการบัญชี
การบญั ชี (Accounting)
คือ ข้นั ตอนของระบบการรวบรวม การวเิ คราะห์และการรายงานขอ้ มลู ทางการเงิน (Pride, Hughes and Kapoor. 1996 : 534)สมาคมนักบญั ชี
และผู้สอบบัญชรี บั อนุญาตแหง่ ประเทศไทย ซ่ึงเรยี กย่อวา่ ส.บช. (The Institute of Ceritfied Accountants and Auditor of Thailand :
ICAAT) ไดใ้ ห้ความหมายของการบญั ชีไว้ดังนี้
การบญั ชี (Accounting) หมายถึง ศิลปะของการเกบ็ รวบรวม บันทึก จาแนก และทาสรุปข้อมลู อนั เก่ยี วกับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรปู ตวั เงนิ
ผลงานขน้ั สุดทา้ ยของการบัญชีก็คือการให้ข้อมลู ทางการเงิน ซง่ึ เป็นประโยชน์แกบ่ คุ คลหลายฝา่ ย และผู้ท่สี นใจในกจิ กรรมของกิจการ
สมาคม ผ้สู อบบญั ชีรบั อนญุ าตของประเทศสหรฐั อเมรกิ า ( The American Institute of Certified Public Accountants : AICPA) ไดใ้ ห้
ความหมายของการบัญชไี วด้ ังน้ี
' Accounting is the art of recording, classifying and หsummarizing in a significant manner and in terms of money,
transactions and events which are, in part at least, of financial character and interpreting the results thereof.'
กลบั หนา้ หลกั
จากคานิยามดังกล่าว การบญั ชี หมายถึง ศลิ ปะของการจดบนั ทกึ การจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ และการสรปุ ผลสงิ่ สาคญั ในรปู ตวั เงิน
รายการและเหตุการณต์ า่ ง ๆ ซึง่ เกี่ยวข้องกับทางด้านการเงนิ รวมทั้งการแปลความหมายของผลการปฏบิ ตั ิดงั กลา่ วดว้ ย
การบัญชมี คี วามหมายท่สี าคญั 2 ประการ คอื
1. การทาบญั ชี (Bookkeeping) เปน็ หน้าทขี่ องผ้ทู าบญั ชี (Bookkeeper) ซ่ึงมีข้นั ตอนการปฏิบตั ดิ ังนี้
1.1 การรวบรวม (Collecting) หมายถงึ การรวบรวมขอ้ มูลหรือรายการค้าท่เี กิดข้ึนประจาวันและหลักฐานข้อมูลท่ีเกยี่ วกบั
การดาเนนิ ธรุ กจิ เชน่ หลักฐานการซ้ือเชื่อและขายเชือ่ หลักฐานการับและจา่ ยเงนิ เปน็ ตน้
1.2 การบันทกึ (Recording) หมายถงึ การจดบันทึกรายการค้าท่เี กิดขึ้นแต่ละครงั้ ใหถ้ ูกต้องตามหลกั การบัญชีทีร่ ับรอง
ท่ัวไป พร้อมกบั บนั ทึกข้อมูลให้อยใู่ นรปู ของหนว่ ยเงนิ ตรา
1.3 การจาแนก (Classifying) หมายถึง การนาข้อมลู ท่ีจดบันทึกไวแ้ ลว้ มาจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมขู่ องบญั ชีประเภทตา่ งๆ
เชน่ หมวดสนิ ทรพั ย์ หนสี้ ิน สว่ นของเจา้ ของ รายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่าย
1.4 การสรุปขอ้ มูล (Summarizing) เป็นการนาขอ้ มูลทไี่ ด้จาแนกให้เปน็ หมวดหมู่ดงั กล่าวมาแลว้ มาสรุปเป็นรายงาน ทาง
การเงนิ (Accounting report) ซ่ึงแสดงถึงผลการดาเนนิ งานและฐานะการเงินของธุรกจิ ตลอดจนการได้มาและใช้ไป ของเงนิ สดในรอบ
ระยะเวลาบญั ชหี นงึ่
2. การให้ข้อมูลทางการเงิน เพอ่ื ประโยชน์แกบ่ ุคคลที่เกี่ยวข้องหลายฝา่ ย เชน่ ฝา่ ยบรหิ าร ผ้ใู หก้ ู้ เจ้าหนี้ ตัวแทนรัฐบาล
นักลงทุน เปน็ ต้น นอกจากนีข้ ้อมูลทางการเงนิ ยงั สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในการวเิ คราะห์ทางดา้ นการเงนิ การจดั ทางบประมาณการ
ปรับปรงุ ระบบบัญชี เป็นตน้
กลบั หนา้ หลัก
วตั ถปุ ระสงค์ของการบญั ชี
1. เพอ่ื จดบันทกึ รายการค้าต่าง ๆ ที่เกิดขน้ึ โดยเรยี งลาดบั กอ่ นหลัง และจาแนกประเภทของรายการคา้ ไวอ้ ยา่ งสมบรู ณ์
2. เพื่อใหก้ ารจดบันทกึ รายการค้านัน้ ถกู ต้อง เปน็ ไปตามหลักการบัญชี และตามกฎหมายว่าดว้ ยการบญั ชี
3. เพื่อแสดงผลการดาเนินงานในรอบระยะเวลาหนึ่ง และแสดงฐานะทางการเงินของกจิ การในรอบระยะเวลาหน่ึง
4. การทาบญั ชเี ปน็ การรวบรวมสถติ อิ ย่างหน่งึ ที่ชว่ ยในการบรหิ ารงาน และใหข้ ้อมลู อันเป็นประโยชน์ในการวางแผนการดาเนินงาน
และควบคมุ กิจการให้ประสบผลสาเรจ็ ตามความมงุ่ หมาย
กลบั หนา้ หลกั
ประโยชนข์ องการบญั ชี
1. ช่วยให้เจา้ ของกิจการสามารถควบคมุ ดูแล รักษาสินทรัพยข์ องกิจการได้
2. ชว่ ยให้ทราบผลการดาเนินงานของกจิ การ ในระยะเวลาใดเวลาหนง่ึ วา่ มี ผลกาไรหรือขาดทุนเปน็ จานวนเงนิ เทา่ ใด
3. ชว่ ยใหท้ ราบฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึง่ ว่ามีสินทรพั ย์ หนี้สนิ และสว่ นของเจา้ ของเป็นจานวนเงนิ เทา่ ใด
4. ข้อมลู ทางการบญั ชเี ปน็ ประโยชนต์ ่อผู้บรหิ าร ช่วยในการกาหนดนโยบาย ในการวางแผนและชว่ ยในการตดั สนิ ใจต่างๆในการ
บรหิ ารงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
5. ข้อมูลทางบญั ชีท่ีจดบันทึกไว้ สามารถชว่ ยในการตรวจสอบหาขอ้ ผดิ พลาด ในการดาเนินงานได้