“เพศศึกษา” เรื่อง(ไม่)ลับที่เราควรรู้

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

เจนนี่! เย็นนี้เธอว่างมั้ย อืม...ก็ว่างนะ มีอะไรเหรอ ศึกพษอาดวีัเเนพริน่าีม้ไเมลใ่หยค้ห่ออนย่ยอเาขย้กาจใใะหจไ้ดวเิ้ธชมัอา้ยเช่พวศย
ติว
ได้สิ
แล้วจะไปติว
ที่ไหนกันดีล่ะ

งั้น...มาที่บ้านฉันมั้ย เอ๋...มันจะดีเหรอ ทำไมล่ะ เธอไม่เชื่อใจฉันเหรอ ไม่ใช่นะ ฉันเชื่อใจเธอ
วันนี้พ่อแม่ฉันไม่อยู่บ้านน่ะ ถ้างั้น...ฉันไปก็ได้

เยี่ยมเลย ถ้างั้น โอเคจ้ะ... Tips : การปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
หลังเลิกเรียนเจอกันนะ
หากเรากำลังพบเจอสถานการณ์ที่เผลอตอบตกลงไป ทำให้เกิดความอึดอัด

กระอักกระอ่วนอยู่ในใจ ไม่เต็มใจที่จะไปและไม่กล้าปฏิเสธออกเราสามารถ


หลีกเลี่ยงหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าวได้ เช่น
- การชวนเพื่อนคนอื่นๆมาอยู่ด้วยกัน หลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันลำพัง 2ต่อ1
- อ้างเหตุผลอื่นๆที่ทำให้ไม่สามารถไปได้ เช่น พ่อแม่ไม่อนุญาตให้ไป หรือ


มีธุระกับทางบ้าน เป็นต้น

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้ ทเี่รพาัเฒมราานเกร่ิาอ่มกนตาิแรวขลก้ัอวนกงเัถรน่าอนงะะกเาริ่ยม



ชอบใช่มั้ยล่ะ จะมาบ่อยๆก็ได้นะ ว้าว! บ้านเธอใหญ่มากเลย ได้เลย!
สำหรับเธอมาได้อยู่แล้ว

กล่าวโดยทั่วๆ ไป วัยรุ่นเริ่มจากการเริ่มมีวุฒิภาวะทางเพศ (ชาย
นักจิตวิทยาและนักการศึกษาจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะ

และหญิงมีเพศสัมพันธ์กัน สามารถให้กำเนิดบุตรได้) จนกระทั่ง
ใช้อายุเฉลี่ยเป็นเครื่องกำหนดจุดเริ่มต้นของวัยรุ่น บางแห่ง

สามารถเป็นอิสระจากการปกครองของผู้ใหญ่ แต่โดยเหตุที่มีความ

แตกต่างกันในด้านอายุของการมีวุฒิภาวะทางเพศ จึงเป็นการยาก
ก็กำหนดเอาว่าอายุ 21 ปีเด็กควรจะเป็น ผู้ใหญ่ เพราะทำ

ที่จะกำหนดอายุลงไปให้แน่นอนว่า วัยรุ่นเริ่มจากอายุเท่าใดแน่ อะไรตามกฎหมายได้แล้ว ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถแบ่งอายุ


ของเด็กวัยรุ่นได้ดังนี้

1.วัยรุ่นตอนต้น (Early Adolescence) อายุ
ส่วนเด็กชายจะสังเกตได้จากการหลั่งน้ำอสุจิในครั้งแรก การมีขนตา

13-15 ปี ร่างกายมีการเจริญเติบโตทางเพศ
มอวัยวะเพศ น้ำเสียงที่พูดจะแตกพร่า สัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็

อย่างสมบูรณ์ทั้งในเพศหญิงและชาย สำหรับ

เพศหญิงสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญของ
เปลี่ยนไป โดยเฉพาะด้านอวัยวะเพศและการเจริญเติบโตของ

ร่างกายเต็มที่ คือ การมีประจำเดือน มีขนขึ้น
ทรวงอก เนื่องจากต่อมต่าง ๆ ผลิตน้ำฮอร์โมนไปบำรุงมากขึ้น ใน

ระยะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นนี้เป็นระยะที่เตือนให้เราเห็นว่า ระยะของวัยรุ่นได้

ตามบริเวณอวัยวะเพศ
ใกล้เข้ามาแล้ว

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้ ผู้หญิงจะมีใบหน้าอิ่ม ริม

ฝีปากเต็ม ดวงตาเป็น

2.วัยรุ่นตอนกลาง (Middle Adolescence) อายุ
ประกาย ผมดำยาวสลวย

15-18 ปี มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ

และความนึกคิด มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ในด้าน
ตะโพกกลม ฯลฯ

ร่างกายนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมาก และสิ้นสุดลง

เมื่อถึงวุฒิภาวะของวัยรุ่น กล่าวคือ มีลักษณะการ

เปลี่ยนแปลงที่ดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม

ส่วนผู้ชายจะมีใบหน้ายาว
ในด้านจิตใจนั้นส่วนใหญ่เป็นผลพลอยได้มาจากความเปลี่ยนแปลงทาง

แก้มตอบ คางเหลี่ยม กราม
ร่างกาย แม้ว่าลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายจะเป็นสิ่งปกติของเด็กทุก

แข็งแรง ไหล่กว้าง แขนขา

ยาว เริ่มมีหนวด และเคราสม
คนเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นก็ตาม แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจของเด็ก

แต่ละคนมักไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
ลักษณะชายชาตรี

เด็กในวัยนี้จะเริ่มให้ความสนใจกับเพศตรง
- วิตกกังวลกับอารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น และรู้สึกไม่แน่ใจในความเป็นชาย

ข้ามและกิจกรรมทางเพศมากขึ้น มีความ
หรือหญิงของตนที่อาจทำให้ภาพพจน์หรือความนับถือตนเองเริ่มสั่นคลอน
วิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ
- กังวลกับพฤติกรรมทางเพศ ได้แก่ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง ความ


ร่างกายว่า มีความผิดปกติหรือไม่ อยากรู้อยากเห็นหรือมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม
วัยรุ่นคนอื่น ๆจะเป็นแบบนี้หรือไม่ -เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อน ทั้งกับเพื่อนเพศเดียวกัน หรือเพื่อนต่างเพศ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

3. วัยรุ่นตอนปลาย (Late Adolescence) อายุ 18-21 ปี ในระยะนี้
เด็กวัยรุ่นตอนนี้มักพยายามปรับปรุงร่างกายของตัวให้

การพัฒนาการของวัยรุ่นเริ่มเข้าสู่วุฒิภาวะอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่ง
เข้ากับสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยพยายามหัดตัดสิน

มักมีการพัฒนาทางด้านจิตใจมากกว่าทางร่างกาย โดยเฉพาะ
ใจแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง ก่อให้เกิดความมั่นคง

อย่างยิ่งทางด้านเกี่ยวกับความนึกคิดและปรัชญาชีวิต ด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องขึ้นกับสภาพครอบครัวด้วย คือ ใน

บุคคลที่อยู่ในครอบครัวใหญ่ ๆ มีฐานะมั่นคงและพ่อแม่

ไม่เข้มงวดจนเกินไป จะมีความมั่นใจและมั่นคงมากกว่า

คนที่อยู่ในครอบครัวเล็ก ๆ และได้รับความเข้มงวดจาก


พ่อแม่

เมื่อประสบปัญหาในระยะนี้ เด็กมักหลีกเลี่ยงการขอความช่วย
ตามปกติวัยรุ่นตอนปลายมักมีความกระตือรือร้นที่จะ

เหลือจากพ่อแม่ ครูบา-อาจารย์ แต่มักพยายามหาทางแก้ปัญหา
สร้างสิ่งประทับใจต่าง ๆ เพื่อที่จะแสดงว่าตนไม่ใช่วัย

ด้วยตัวเอง ซึ่งจะก่อให้เกิดการปรับตัวที่ดีขึ้นและอยู่ร่วมกับคนอื่น
รุ่นต่อไป เช่น ในเด็กหญิงก็จะเริ่มใช้ลิปสติกและสวม

ได้ด้วยความสบายใจ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็จะ
รองเท้าส้นสูง ส่วนในเด็กชายมักจะฝันที่จะเป็นเจ้าของ

รถยนต์สักคัน ทั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างความประทับใจ

ทำให้อารมณ์ไม่ดี ใจคออ่อนไหวง่าย แต่จะพยายามดับอารมณ์
ว่าขณะนี้เขาโตเต็มที่แล้ว และย่อมจะมีสิทธิเสรีภาพ

ด้วยความสุขุมเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น ต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ และจะพยายามลอกเลียน


แบบผู้ใหญ่ เช่น สูบบุหรี่ หัดดื่มเหล้า เป็นต้น

ตอนนี้พวกเราอยู่ชั้นม.4 ก็อยู่ใน
ทใชาค่ง่แอรล่้นาวงขล้่กาะงาพยคววจกิบตเครใุจมากยแำาลลกัะงอทีมาเีดรพีัมยฒณว์นทีา่

ปัญหาที่เราพบส่วนใหญ่ในวัยนี้ก็
พมีฤอตถาิูยกกุเกตรฉ้ราอลรมี่งยศกึคกา1้8นรษตปพาัี้มงบแัคธใลนยระรวมสิ่ภจวต์ัยในอนกในมหาตาญร้ร่นสดเำพิาร่วงวัยจจบร
ุ่น


ช่วงอายุวัยรุ่นตอนกลางใช่มั้ย คงเป็นการท้องในวัยเรียนสินะ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้ อย่เารงาแต้รอกงเสกลำอยเนกนิเาดกีร่กยศ่ึอวกกนษับากในารปครุมะเ
ทศ


ทำไมถึงเกิดปัญหาการท้องในวัย
เกพำเรรเานาิะไดขม่าแยดลอคะมวกสาามอรรนศูึ้คใกนวษเาราืม่อในเงข้ปนาีร้ใยจะังเใทนไงศกลาข่ะรอคงุม

เราจะสามารถแก้ปัญหาการท้องในวัย

เรียนเยอะแบบนั้นล่ะ เรียนให้น้อยลงและหมดไปได้ไหม?

การคุมกำเนิด คือ วิธีการป้องกันไม่ให้อสุจิและไข่ผสมกันจนเกิด
ในปัจจุบันมีวิธีการคุมกำเนิดอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่ละวิธีก็ไม่ได้เหมาะ

การปฏิสนธิหรือป้องกันการฝังตัวของตัวอ่อนที่ถูกผสมแล้ว
กับทุกคน ซึ่งการจะเลือกใช้วิธีใดนั้นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ลองตั้ง

รวมถึงการทำลายไข่ที่ผสมแล้วและมีการฝังตัวในเยื่อบุโพรง
คำถามเหล่านี้ดูเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม
มดลูก ซึ่งมีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใส่ถุงยางอนามัย
การทานยาคุมกำเนิด การทำหมัน - ต้องการมีบุตรในอนาคตหรือไม่?
- ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดมีปัญหาด้านสุขภาพอะไรบ้าง?
- วิธีคุมกำเนิดแต่ละแบบยับยั้งการคุมกำเนิดอย่างไร? - มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหน และเปลี่ยนคู่นอนบ่อยหรือไม่?
- วิธีคุมกำเนิดแต่ละแบบมีผลข้างเคียงหรือไม่ มีความปลอดภัยมาก
- ต้องการใช้วิธีที่สามารถป้องกันเชื้อไวรัส HIV และโรคติดต่อทาง
น้อยแค่ไหน? เพศสัมพันธ์ด้วยไหม?
- ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดสามารถใช้วิธีคุมกำเนิดนั้นๆ อย่างถูกวิธีและ

ตามกำหนดเวลาได้หรือไม่? ประเภทของการคุมกำเนิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- วิธีคุมกำเนิดที่ใช้เป็นที่ยอมรับในด้านศาสนาและขนบธรรมเนียมหรือ
1. การคุมกำเนิดแบบถาวร (Permanent Contraception)
ประเพณีของผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดหรือไม่? การคุมกำเนิดแบบถาวร ได้แก่ การทำหมันหญิงและการทำหมันชาย

เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีบุตรเพียงพอแล้ว ไม่ต้องการมีบุตรอีกใน

อนาคต หรือหากตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายได้ และด้วยความที่เป็นวิธีคุม

กำเนิดแบบถาวร หากเปลี่ยนใจอยากมีบุตรคงเป็นไปได้ยาก หรือหากหมัน

หลุดในผู้หญิง จะมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง ซึ่งเป็น


อันตรายต่อทั้งแม่และเด็กทารกในครรภ์

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

1.1 การทำหมันหญิง (Female Sterilization, Tubal Sterilization) 1.) การทำหมันเปียก หากผ่าคลอดทางหน้าท้องสามารถ

การคุมกำเนิดประเภทนี้เป็นวิธีการที่ทำให้ท่อนำไข่อุดตันหรือตัดออก โดยวิธี
ทำได้ทันทีแต่หากเป็นการคลอดทางช่องคลอด สามารถ

การต่างๆ เช่น การผูกและตัดท่อนำไข่ การจี้ไฟฟ้า การฉีดสารเคมี ใช้วงแหวน
ทำได้หลังคลอดไปแล้ว 24-48 ชั่วโมง หรือนานสุดหลัง

พลาสติกรัด หรือคลิปหนีบ โดยหลังทำจะเป็นหมันทันที เพราะอสุจิของฝ่าย
คลอด 6 วัน วิธีนี้จะทำให้ทำหมันได้ง่ายแพทย์จึงมักแนะนำ

ชายไม่สามารถมาเจอกับไข่ของฝ่ายหญิงได้ สามารถทำได้ 2 ช่วงเวลา คือ
ให้ทำหมันหลังคลอดเลย

2.)การทำหมันแห้ง เป็นการทำหมันในช่วงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์หรือ

ช่วงหลังคลอดเกิน 6 สัปดาห์ไปแล้ว เนื่องจากระยะปกติมดลูกจะ

อยู่ในอุ้งเชิงกราน การหาท่อนำไข่จึงยากขึ้น การผ่าตัดทำหมัน


แห้งจึงยากกว่าการทำหมันเปียก

1.2 การทำหมันชาย (Male Sterilization, Vasectomy)
การทำหมันชาย คือ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน โดยแพทย์จะ

ทำการผูกหรือตัดท่ออสุจิ เพื่อไม่ให้ตัวอสุจิสร้างแล้วถูกลำเลียงออกไปได้ แต่

สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติและความรู้สึกทางเพศไม่ลดลง โดยน้ำอสุจิที่ออก

มาจะไม่มีตัวอสุจิอยู่ ทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิในโพรงมดลูกของเพศหญิง ซึ่งการ

ทำหมันชายสามารถทำได้ง่ายและไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล หลังจาก

ทำแล้วควรคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

2. การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว (Temporary or
2.1 การใช้ถุงยางอนามัย
Reversible Contraception) เรียกได้ว่าเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมและมีการณรงค์ให้ใช้กันอย่างกว้างขวาง ซึ่ง

ถุงยางอนามัยที่เราคุ้นเคยคือถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย แต่จริงๆ แล้วยังมีถุงยาง

การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวเป็นวิธีที่มีผลเฉพาะ
อนามัยสำหรับผู้หญิงด้วย การใช้ถุงยางอนามัยนอกจากจะหาซื้อง่ายแล้วยังเป็นวิธีคุม

ขณะที่คุม แต่เมื่อเลิกคุมกำเนิดแล้วก็สามารถกลับ
กำเนิดที่ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ HIV และโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ได้ รวมถึง

ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่อนข้างดีเพียงแต่ต้องใช้อย่างถูกวิธี ข้อเสียคืออาจทำให้เกิดการ

มาตั้งครรภ์ได้ตามปกติ มีหลากหลายวิธีได้แก่ ระคายเคืองในช่องคลอดสำหรับผู้หญิงบางราย

ถุงยางอนามัยชาย (Condom)
ใช้ใส่อวัยวะเพศชายขณะแข็งตัวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิเข้าไปผสมกับไข่ใน

มดลูก โดยถุงยางอนามัยสามารถผลิตจาก 3 วัสดุด้วยกัน คือ สำไส้สัตว์ ยาง

ธรรมชาติ และยางสังเคราะห์
ในปัจจุบันถุงยางอนามัยที่มีขายในท้องตลาดส่วนใหญ่ทำจากยางสังเคราะห์

มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ และมีการผลิตรูปแบบแตกต่างกันอีกด้วย ทั้งไซซ์

ผิวสัมผัส กลิ่น ความบาง สารหล่อลื่น และสารชะลอการหลั่ง

แต่ก่อนใช้งานจำเป็นจะต้องรู้วิธีการใช้อย่างถูก ดังนี้ - เมื่อใช้งานเสร็จแล้วให้รูดถุงยางออกในขณะที่อวัยวะเพศชาย

- ขั้นตอนการฉีกออกจากซอง ให้ใช้มือฉีก ไม่ใช้ปาก กรรไกร หรือของ
ยังแข็งตัว ก่อนจะห่อด้วยกระดาษชำระอย่างมิดชิดแล้วนำไป

มีคมตัด เพราะอาจทำให้เกิดรอยฉีกขาดบริเวณถุงยางได้ ทิ้งในถังขยะ
- การสวมใส่อย่างถูกวิธี คือต้องใส่เมื่ออวัยวะเพศชายแข็งตัวแล้ว
-ห้ามใช้ถุงยางอนามัยซ้ำ ห้ามใส่ซ้อน 2 ชั้น ห้ามถอดถุงยาง

เท่านั้น โดยใช้มือหนึ่งบีบกระเปาะตรงปลายให้แน่นเพื่อไล่อากาศ เวลา
กลางคัน หรือหากใส่ผิดด้านในตอนแรกให้ทิ้งไปเลยแล้วใช้อัน

ใส่ให้รอยม้วนของขอบถุงยางอยู่ด้านนอก และใช้อีกมืออีกข้างค่อยๆ
ใหม่ และห้ามใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ
รูดถุงยางไปตามอวัยวะเพศชายจนสุด

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

ถุงยางอนามัยหญิง (Female Condom) การใช้ถุงยางอนามัยหญิงจะช่วยให้ตัวอสุจิไม่สามารถเข้าไปผสมกับ

เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ยังไม่ได้เป็นที่นิยมแพร่หลายนัก ทำให้
ไข่ได้ หลักการทำงานเหมือนกันกับถุงยางอนามัยของเพศชาย โดย

การหาซื้อค่อนข้างยากกว่าถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย
ถุงยางอนามัยของเพศหญิงผลิตมาจากสารที่เรียกว่า โพลียูรีเทน

และนอกจากหาซื้อยากกว่าแล้ว ขั้นตอนการใส่หรือใช้งาน

ก็ไม่สะดวกเท่าของผู้ชาย และมีโอกาสที่ถุงยางอนามัย
(Polyurethane) มีความบางและนุ่ม มีลักษณะเหมือนถุงมี

วงแหวนตรงปลาย 2 ด้าน แต่ด้านหนึ่งเปิดอีกด้านหนึ่งปิด
หญิงจะหลุดได้ง่ายอีกด้วย

2.2 ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน (Oral Contraceptive) 1.)ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี่ยว
เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงชนิดเดียว เป็นชนิดที่

สำหรับยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยากับเภสัชกร ผลิตออกมาเพื่อลดอาการข้างเคียงจากฮอร์โมนเอสโตรเจน

หลักการทำงานคือตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการตกไข่ทำให้อสุจิที่เข้าไปไม่สามารถผสมกับไข่ได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาสุขภาพหรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรหลังค

ข้อดีคือเมื่อหยุดใช้สามารถกลับมามีบุตรได้ปกตินอกจากนั้นยังให้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ลอด เพราะหากทานชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนด้วยจะส่งผล

อีก เช่น ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติและลดอาการปวดท้องประจำเดือน ช่วยลดสิวลด ต่อการผลิตน้ำนมของคุณแม่ ผลข้างเคียงคืออาจจะทำให้รอบ

ผิวมัน ลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เดือนไม่มา มาไม่สม่ำเสมอ หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย

ทั้งนี้ทั้งนั้นการทานยาคุมก็จำเป็นต้องทานอย่างถูกต้องถูกเวลาและสม่ำเสมอ
หากลืมทานอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ เป็นๆ หายๆ ขณะที่ใช้ยา

2.)ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม 2.3 การฉีดยาคุมกำเนิด (Injectable Contraceptive)
เป็นชนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุดมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตร
การฉีดยาคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดชั่วคราวแบบ

หนึ่ง โดยจะทำการฉีดตัวยาเข้ากล้ามเนื้อของผู้หญิง

เจนและโปรเจสตินรวมกันในเม็ดเดียว โดยยาคุมชนิดนี้จะมี
หลังจากนั้นฮอร์โมนจะค่อยๆ ออกมา เป็นวิธีที่มี

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงหากรับประทานอย่างถูกต้อง ประสิทธิภาพค่อนข้างสูง ฉีดง่ายไม่ยุ่งยาก ออกฤทธิ์

นาน ในปัจจุบันมีให้เลือก 2 แบบคือ แบบออกฤทธิ์ 1

เดือน และแบบออกฤทธิ์ 3 เดือน

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

หลักการทำงานของตัวยาจะเข้าไปยับยั้งการตก
ยาคุมกำเนิดแบบฉีดมี 2 ชนิดคือ ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิด

ไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ในสภาพไม่เหมาะแก่
ฮอร์โมนเดี่ยว เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถใช้ฮอร์โมนเอสโตเจนได้ และ

การฝังตัวของตัวอ่อน และทำให้มูกบริเวณปาก

ยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิดฮอร์โมนรวม
มดลูกข้นเหนียวส่งผลให้อสุจิผ่านได้ยาก ข้อควรระวังคือไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการจะมีบุตรทันทีหลังหยุดยา

เพราะตัวยาจะไม่ได้หมดประสิทธิภาพทันทีที่หยุดฉีด ในบางคนใช้


เวลาหลายเดือนเพื่อรอยาหมดฤทธิ์ จึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้

2.4 ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง (Contraceptive Implant) หลังจากฝังไปแล้วตัวยาจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือด ออก

ฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ และทำให้โพรงมดลูกไม่พร้อมต่อการฝัง

ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวออกฤทธิ์นาน
ตัวของตัวอ่อนในกรณีที่เกิดการปฏิสนธิขึ้น สามารถใช้ได้กับ

สามารถออกฤทธิ์ได้นาน 3-5 ปี แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมาก
ทั้งคนที่เป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน แต่ต้องคอยเฝ้าระวัง

นักแม้จะมีการเริ่มใช้งานมาหลายสิบปีแล้ว โดยตัวยาจะ
และประสิทธิภาพของยาอาจไม่เท่ากับคนทั่วไป ซึ่งวิธีการคุม

กำเนิดโดยฝังยาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงมาก อัตราล้มเหลว

มีลักษณะเป็นแท่งยาวสีขาว ขนาดประมาณ 3

เซนติเมตร แพทย์จะฝังยาลงไปใต้ผิวหนังบริเวณท้อง
เพียงแค่ 0.05-0.1% เท่านั้น

แขนด้านใน มีทั้งแบบ 2 แท่ง และแบบ 1 แท่ง

2.5 การใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด (Intrauterine Device: IUD) ส่วนผู้ที่ไม่เหมาะจะใช้ห่วงยาคุมกำเนิดคือ ผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งปากมดลูก ผู้

ที่เพิ่งหายจากอุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID) ไม่เกิน 3 เดือน ผู้ที่มีอาการแพ้ทองแดง

เป็นวิธีคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิงที่ได้รับความนิยม สามารถอยู่ได้

3-10 ปี โดยห่วงที่ใส่เข้าไปจะไปขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนใน
และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ลักษณะของห่วงจะเป็นรูปตัว T ขนาดอยู่ที่ 2-3

มดลูก ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ผลข้างเคียงต่ำ มี 2 แบบ
เซนติเมตร ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการใส่ห่วงคุมกำเนิดคือวันสุดท้ายของการมี

คือ แบบห่วงที่เคลือบสารทองแดง และแบบห่วงเคลือบฮอร์โมน

โปรเจสติน ทำให้ผู้ที่ไม่สามารถใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็สามารถ
ประจำเดือนหรือวันถัดไป เพื่อลดโอกาสการใส่ห่วงในขณะที่ตั้งครรภ์อยู่
ใช้ได้ ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว ไม่คลื่นไส้อาเจียนหรือเกิดสิว

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

2.6 การใส่วงแหวนคุมกำเนิด (Vaginal Ring) ตัววงแหวนจะบรรจุฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินเหมือน

กับยาเม็ดคุมกำเนิด เมื่อใส่เข้าไปตัวฮอร์โมนจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่

วงแหวนคุมกำเนิด เป็นการคุมกำเนิดสำหรับเพศ
กระแสเลือด ออกฤทธิ์ป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิโดยยับยั้ง

หญิง โดยการใส่วงแหวนเข้าไปในช่องคลอด

ลักษณะของวงแหวนจะเป็นพลาสติกใส ไม่มีสี
การตกไข่ ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียวข้น ตัวอสุจิจึง

ยืดหยุ่นได้ และไม่ละลายในช่องคลอด เข้าไปได้ยาก โดยให้ใส่วันแรกที่ประจำเดือนมาและนับไป 21 วัน


ถอดออกอีก 7 วัน แล้วค่อยใส่เข้าไปใหม่

ผู้ที่ใช้วิธีนี้ในการคุมกำเนิดอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้
2.7 การใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด (Transdermal Patch)
ปวดศีรษะ ผู้ที่ไม่ควรใส่วงแหวนคุมกำเนิดคือ ผู้ที่มีอาการเลือดอุด
แผ่นแปะคุมกำเนิด มีลักษณะเป็นแผ่นซึ่งจะมีตัวยาที่ใช้คุมกำเนิด

ตัน ตับทำงานผิดปกติ ผู้ที่เป็นไมเกรนบางประเภท ผู้ที่เป็นมะเร็ง
คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยตัวยาจะซึมเข้ากระแส

เลือดอย่างช้าๆ ใช้แปะบริเวณผิวหนังที่แห้งและสะอาด เช่น สะโพก

เต้านม และผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตรที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน แขนบนด้านนอก ท้องล่าง แต่ไม่ควรแปะที่หน้าอกหรือบริเวณที่มี


การอักเสบ

การใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดเหมาะสำหรับคนที่
2.8 ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน (Emergency pill)
ไม่ต้องการทานยาคุมหรือฉีดยาคุม

เนื่องจากตัวยามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน
มักใช้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันและไม่ตั้งใจ หรือเกิดเหตุไม่

แต่ใช้งานง่ายกว่า ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการ
คาดคิด เช่น ถุงยางอนามัยหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์ การทานยาคุม

คุมกำเนิดนานๆ เนื่องจากการใช้แผ่นแปะคุม
ฉุกเฉินจะต้องเริ่มทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่เป็นยาที่มี

กำเนิดนานเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงสูงทั้งผลในระยะสั้นคือ คลื่นไส้ อาเจียน และถ้าเกิดการตั้ง

ได้ ครรภ์ในรอบที่ทานยาคุมฉุกเฉินไปจะมีโอกาสเกิดการท้องนอกมดลูกได้

สูงซึ่งเป็นอันตรายมาก จึงไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ
1. การหลั่งนอกหรือกลั้นอสุจิ (Withdrawal or Coitus Interruptus)
ไม่อยากท้องห้ามทำ!!
สำหรับการหลั่งนอกคือ ผู้ชายจะถอนอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดก่อนถึงจุด

การคุมกำเนิดที่ประสิทธิภาพต่ำ คือการไม่ใช้
สุดยอดหรือก่อนเกิดการหลั่ง แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลเนื่องจากมีโอกาสที่จะถอน

อุปกรณ์หรือฮอร์โมนใดๆ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้
อวัยวะเพศชายออกไม่ทัน และของเหลวที่อวัยวะเพศชายอาจมีตัวอสุจิผสมอยู่

สูงมากในแต่ละวิธี จึงไม่ใช่วิธีที่แพทย์หรือผู้

โดยไม่จำเป็นต้องถึงจุดสุดยอด ไม่ว่าจะมองมุมไหนวิธีนี้ก็ทำให้มีโอกาสตั้งท้อง

เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ ได้สูง โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ womenhealth.gov ระบุว่าผู้หญิงที่ใช้วิธีนี้คุม


กำเนิดเพียงวิธีเดียว สามารถตั้งท้องได้ 22 คนจาก 100 คนเลยทีเดียว

2. การนับวันหน้า 7 หลัง 7 (Fertility Awareness Method: FAM) 3. การให้นมบุตรหลังตั้งครรภ์ (Lactational Amenorrhea Method:

การนับวันหน้า 7 หลัง 7 อาศัยการนับวันตกไข่และรอบเดือน สามารถมีเพศ
LAM)
สัมพันธ์ได้ก่อนมีประจำเดือน 7 วัน และหลังจากมีประจำเดือนวันแรก 7 วัน

สามารถใช้ได้กับผู้หญิงที่แข็งแรง มีประจำเดือนมาตรงตามรอบทุกครั้ง แต่ก็
การให้นมบุตรหลังคลอดไม่เกิน 6 เดือนเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบ

ธรรมชาติ เนื่องจากการที่ลูกดูดนมจากมารดา ทำให้หัวนมถูก

เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกับคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ กระตุ้นร่างกายจึงตอบสนองโดยการยับยั้งการตกไข่ แต่คุณ

แม่จะต้องให้นมลูกทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อลดโอกาสการ

ตกไข่และตั้งครรภ์ และไม่สามารถการันตีได้ว่าจะไม่ตั้งครรภ์

4. การสวนล้างช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ 5. การปัสสาวะทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์

เป็นอีกหนึ่งความเชื่อผิดๆ ที่คิดว่าการใช้น้ำล้างช่อง
แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียและป้องกันการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ (UTIs)

คลอดจะทำให้สามารถล้างเอาอสุจิออกได้หมด
หลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิด เหตุผลคือ ช่องคลอดและท่อปัสสาวะเป็น

นอกจากจะไม่ป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังทำให้เป็น
คนละส่วนกันแม้จะอยู่ใกล้กันก็ตาม ดังนั้นเมื่อมีการหลังน้ำอสุจิในช่องคลอด การ

อันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้น้ำสบู่ล้าง ถึงขั้น
ปัสสาวะหลังจากนั้นไม่ได้ขับอสุจิออกมาด้วย และอีกเหตุผลคือเมื่อตัวอสุจิเข้าไปใน

เกิดการติดเชื้อและอักเสบภายในช่องคลอดได้ ช่องคลอดแล้ว จะไม่ว่ายทวนออกมาตามธรรมชาติ มีแต่จะพยายามหาทางเข้าไป


ผสมกับไข่ให้เร็วที่สุด

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

โอ้โห มีวิธีการคุมกำเนิดเยอะขนาด
ส่พงเวสกริผวมู่้าใใหเหป้ญ็เนด่็ไกกม่าๆสรมอชีีเ้นโพพยศัรงสงไังมใหลพ้่กัะนรเธพะ์รใรนอาวกะัยเคเ้ราีคยิดน
มันก็เป็นเรื่องธรรมชาตินี่นา
พเอด็ปกิดมแีกคลั้้นววากไ็มมเ่กใอิหด้ยเปดาั็กญกรๆู้หอราัยบตารูาก้มกล็มกอาลงอมาีกยากเปข็ึน้นว
่า

นี้เลยเหรอ มีบางวิธีที่ไม่เคยได้ยิน
ทำไมจะต้องปิดบังกันด้วยล่ะ

มาก่อนเลย

3 ปัญหาและผลกระทบส่วนใหญ่ที่เกิดจากการมีเพศ
1.ปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
สัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันอย่างถูกวิธี
การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ หมายถึง
1.ปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในเพศหญิงซึ่งเป็นผลสืบ
2.ปัญหาการทำแท้ง เนื่องมาจากการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
3.ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยอาจมีสาเหตุส าคัญมาจากพฤติกรรมทางเพศที่ไม่
เหมาะสมของวัยรุ่นหรืออาจเกิดจากการถูกข่มขืน

กระทำชำเรา

สาเหตุการตั้งครรภ์ไม่พร้อม อาจเกิดได้จาก
การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
หลายสาเหตุ การตั้งครรภ์ในแม่ที่มีอายุ
- การไม่ป้องกันในการร่วมเพศ ระหว่าง 10 – 19 ปี เสี่ยงต่อการเกิด
- ท้องเมื่ออายุน้อย ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
- ถูกบังคับ ล่อลวง ขืนใจให้ร่วมเพศ
ทำให้เกิดผลกระทบ เด็กมีอัตราการเสียชีวิตสูง
- เกิดผลเสียด้านร่างกาย จิตใจ สังคม เสีย
หรือมีความผิดปกติแต่กำเนิด
อนาคต ผู้ปกครองเดือดร้อน

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

แนวทางการป้องกันและหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม

1.หลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยง กรมสวัสดิการ คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อการพัฒนาสังคม สำนักอนามัย
2.รู้จักให้เกียรติซึ่งกันและกัน และคุ้มครองแรงงาน แผนกสตรี สภาพระสังฆราช สภาคาทอลิก การเจริญพันธุ์
3.ใช้ทักษะการปฏิเสธ
4.ระมัดระวังเรื่องการแต่งกาย แห่งประเทศไทย
5.หลีกเลี่ยงการเดินทางเพียงลำพังใน
เวลากลางคืนหรือเส้นทางเปลี่ยว

2.ปัญหาการทำแท้ง การทำแท้งเมื่อแม่ไม่พร้อมส่งผลต่อร่างกาย

แม้ในปัจจุบันกฎหมายไทยสามารถทำแท้งได้อย่าง
เสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อันเกิดจาก ตกเลือด และติดเชื้อ

ถูกกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังเกิดผลเสียตามมาจากการ
เนื่องจากยังมีเศษเนื้อเยื่อของทารกติดอยู่ เป็นต้น ยิ่งเป็นเด็กที่มีอายุ

ทำแท้ง ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจของคนเป็นแม่
ต่ำว่า 16 ปี ความเสี่ยงเพิ่มเป็น 4 เท่า
ช่องคลอดฉีกขาด ทำให้อุจาระและปัสสาวะไหลออกมาทางช่องคลอด
และลูก และไม่เป็นที่ยอมรับตามวัฒนธรรมไทย มีปัญหาด้านสุขภาพภายในระยะยาว และอาจจะมีบุตรไม่ได้อีกตลอด


ชีวิต



กรณีทำแท้งนั้นไม่เป็นผลสำเร็จ ทารกที่เกิดมาจะมีความเสี่ยงหลายอย่าง อัตราการเติบโตของวัยรุ่นที่ท้องเมื่อไม่พร้อม

เด็กเสี่ยงที่จะพิการเนื่องจากผลข้างเคียงของยาทำแท้งหรือการ
นั้นมีสูงขึ้นมากในทุกปี สาเหตุหลักก็หนีไม่พ้น

ทำให้ครรภ์กระทบกระเทือน การละเลยดูแลบุตรหลานของผู้ปกครองทำให้

เด็กอาจต้องคลอดก่อนกำหนด มีน้ำหนักน้อย เสี่ยงต่อเป็นโรค
เด็กขาดที่พึ่งพิง การที่ครอบครัวไม่กล้าสอน

ภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และมีปัญหาด้านสุขภาพในระยะยาว เรื่องเพศสัมพันธ์และวิธีการป้องกันให้กับลูก

มีพัฒนาการช้า อาจจะเป็นเด็กพิเศษในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ขาดความอบอุ่น เนื่องจากเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดมา
เพราะส่วนใหญ่ยังคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย
หรือเป็นเด็กกำพร้า ถูกทอดทิ้งแต่แรกเกิด

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

การแก้ปัญหาเมื่อเด็กท้องในวัยเรียนแม้ว่าจะเป็นการ
3.ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แก้ไขปัญหาเมื่อเกิดเหตุแล้ว แต่ผู้ปกครองท่านใดที่

กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่จะต้องใจเย็น ไม่ควรไล่หรือ
คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศ

ด่าทอเขาให้ไปทำแท้ง เพราะไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสที่
สัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะ

เด็กที่ท้องก่อนวัยอันควรนั้นจะจบปัญหาด้วยการฆ่า
เป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือ


ตัวตายมีสูงมาก ทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค”

(venereal diseases)

ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึง
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ

เปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์”
ของประเทศไทย และชี้ให้เห็นถึงการขาดความรู้

ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากการ

(sexually transmitted infections, STIs) โรคที่
ติดโรค รวมถึงการขาดความตระหนักถึงอันตราย

สำคัญคือ ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริม หูด
ของโรค สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มี

หงอนไก่ และเอดส์
แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

จากรายงานของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุม
สาเหตุของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
โรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราป่วยเพิ่ม

จาก 19 รายต่อประชากรแสนคนในปีพ.ศ. 2556
1.เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งบางชนิดรักษาหาย บางชนิดไม่มียารักษา บางชนิดจะแฝง

เป็น 23.2 รายและ 28.9 รายต่อประชากรแสนคน
ตัวและเป็นซ้ำได้อีก เช่น เริมที่อวัยวะเพศ หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ
ในปีพ.ศ. 2558 และ 2560 ตามลำดับ โดยกลุ่ม
2.เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย รักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น ซิฟิลิส หนองใน
เยาวชนอายุ 15–24 ปีมีสัดส่วนการป่วยมากที่สุด หนองในเทียม ช่องคลอดอักเสบ ฯลฯ
3.เกิดจากเชื้ออื่นๆ เช่น พยาธิ สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการใช้ยา

ปฏิชีวนะ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

อาการแบบใดสงสัยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ในผู้ชาย ปัสสาวะแสบขัด ขาหนีบบวม เป็นฝี เจ็บปวด

อวัยวะเพศ มีผื่น ตุ่ม แผลบริเวณอวัยวะเพศ มีเมือกใสหรือ
- คนที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
หนองไหลออกมา - ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใน 1 ปีที่ผ่านมา
- ในผู้หญิง รู้สึกเจ็บเสียวท้องน้อย ขาหนีบบวม เป็นฝี เจ็บ
- ผู้ที่ไม่สวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์
ปวด คันอวัยวะเพศ มีผื่น ตุ่ม แผลบริเวณอวัยวะเพศ มี

ตกขาวสีเหลืองมีกลิ่นเหม็น

การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปัญหาที่ตามมานี่น่ากลัวมากๆ
สสัมภใพชชาั่อพนแบธรล์่้ขาวเงอรล่กงาะตาตเ้ยพอนงรจเิอตาตะงรใงัแจว้นลจแกคะ่ลคอูว่ะนนาคมทอีว่พนจามะดรม้้รอีวัเบยมพผขศิดอ
ง


เลย บางคนอาจเสียอนาคตไปได้

- ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เลยนะเนี่ย
-รักษาความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศ
อย่างสม่ำเสมอ
-ตรวจโรคเป็นประจำทุกปีโดยเฉพาะคู่ที่กำลัง
จะแต่งงาน

แล้วถ้าเราจะต้องมีเพศสัมพันธ์
1.เช็คความพร้อมของตนเอง
ครั้งแรก เราควรจะต้องรู้หรือ

แน่นอนว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเป็นการตัดสินใจที่เราต้องคิดให้ดีๆ

เตรียมตัวอะไรบ้างเหรอ และถี่ถ้วน ถ้าคิดทบทวนดีแล้วว่าตัวเองพร้อม ก็เดินหน้าได้เลย แต่ต้องมี

ความพร้อมและสมยอมกันทั้งคู่จริงๆ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

2.อย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะออกมาดีหรือไม่ เพราะเซ็กซ์ต้องสะสมประสบการณ์ 3.จุดสุดยอดไม่ได้ไปถึงกันได้ง่าย ๆ

การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เปรียบเสมือนการเดบิวต์เข้าสู่การเรียนรู้ที่ลึก
ปลายทางของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และครั้งต่อ ๆ ไป คือการทำ

ซึ้ง เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องปกติมากที่ทั้งตัวเราเอง และฝ่ายชายก็จะต้อง
ภารกิจให้เสร็จถึงจุดหมาย ในฝั่งของฝ่ายชายอาจจะสังเกตได้ง่าย

เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นรสนิยม ความชอบ ร่างกายที่เป็นจุดเสียว
และมักไม่ค่อยมีปัญหา แต่สิ่งที่สาว ๆ ควรรู้ไว้ก็คือ ผู้หญิงถึงจุดสุด

ในครั้งแรกอาจมีตะกุกตะกักบ้าง ต้องค่อย ๆ เรียนรู้กันไป ยอดช้ากว่าปกติ ใช้เวลานานกว่า และอาจจะไม่ถึงจุดหมายเลยก็เป็น

ไปได้ แต่ถ้ารู้จังหวะ และจุดสัมผัสที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถไปถึงจุด


สุดยอดได้แน่นอน

4.ดูแลร่างกายบริเวณน้องสาว/น้องชายให้เรียบร้อย 5.ข้อจำกัดของตัวเอง

จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกต้องเตรียมพร้อมในเรื่องกลิ่นและความสะอาดเป็นเรื่องที่
หากรู้สึกว่าในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เรายังไม่สะดวกใจจะ

สำคัญมาก ๆ เพราะเรากำลังจะทำภารกิจแนบชิดกาย ให้เลี่ยงอาหารที่ส่งผลถึง
ทำอะไรให้บอกไปตรง ๆ ว่ายังไม่พร้อม อย่าไปคิดว่าเขาอยาก

กลิ่นของน้องสาวไปก่อน เช่น ของหมักดอง อาหารรสจัด เครื่องเทศหนัก ๆ อาหาร
ได้อะไรเราทำให้ได้ทั้งหมด แต่ลึก ๆ ในใจเราไม่อยากทำ เพราะ

ทะเล เป็นต้น และการรักษาความสะอาดนั้นควรล้างด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียว
การมีเซ็กซ์ที่แฮปปี้ทั้งสองฝ่ายจะต้องรู้สึกไปด้วยกัน ไว้พร้อม


ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาด และสบายใจจะทำค่อยทำ จะรู้สึกดีกว่ากันทั้งสองฝ่าย

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

6.รู้วิธีป้องกัน แต่ถึงจะรู้เรื่องการป้องกัน แต่การมี
แเปลพละูรกมาัฝกะัวใงัชฒค้ควนวาธใามนมรคตรบิัดมวริกคไสทุานทยรๆธริใ์ันนมกั้นสานตมวััดยลสกสิ่นงอควนุนณมัตกัคว่จาะ



เพศสัมพันธ์ก่อนแต่งก็ยังถือเป็น

หากยังอยู่ในวัยไม่ยังไม่พร้อมต่อการมีบุตรในการมีเพศสัมพันธ์ครั้ง

แรก จำเป็นจะต้องรู้วิธีคุมกำเนิดกันไว้ด้วย ต้องให้ฝ่ายชายใส่ถุงยาง
เรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในสังคมไทยอยู่
อนามัยก่อนทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะช่วยทั้งการคุมกำเนิด และ


โรคติดต่อทางเพศได้ด้วย

ดแจีไตะป่มไีเมวล่ิใธยชี่กซว่าาะรทคี่คเาิดดนีิมยหยาวรมกือมขกันอนวำ่งอาไปปยู่รปทีะ่รตเััทบวศใบชุเ้คยรัคางจลไงะวไ่
มา่

ค่านิยมทางเพศ (Sexual Value)
หมายถึง หลักการพื้นฐานที่บุคคลยึดเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อ

ดำเนินชีวิตซึ่งเกี่ยวกับเรื่องเพศ โดยค่านิยมทางเพศของบุคคลเกิด

จากการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ในสถาบันครอบครัว ระบบการ

ศึกษา ประสบการณ์ กระบวนการขัดเกลาและถ่ายทอดทางสังคม


ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ

ค่านิยมทางเพศที่เหมาะสมที่ควรพิจารณาและนำไปปฏิบัติมีดังนี้ 2.ค่านิยมการให้เกียรติและการวางตัว ผู้ชายควรมีความเป็นสุภาพบุรุษ

1. ค่านิยมความรักนวลสงวนตัว โดยเฉพาะในเพศหญิงซึ่งควร
และให้เกียรติผู้หญิง ไม่ดูถูกเหยียดเพศ เช่นเดียวกัน ผู้หญิงก็ต้องให้เกียรติ

ระวังเนื้อ ระวังตัว ไม่เปิดเผย แสดงออกลักษณะทางเพศมากเกิน
ผู้ชาย และวางตัวอย่างเหมาะสมไม่อยู่ที่เปลี่ยวตามลำพังสองต่อสอง

ไปเช่น นุ่งกางเกงหรือกระโปรงสั้นเกินพอดี ใส่สายเดี่ยวบางๆ ใส่
พูดจากันด้วยภาษาสุภาพเรียบร้อย แสดงความมีน้ำใจช่วยเหลือกันเป็นต้น
เสื้อผ้าบางรัดรูป เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยป้องกันการ

ล่วงละเมิดทางเพศได้ ทำให้ชายและหญิงไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันหรือ

แตะเนื้อต้องตัวกันมากเกินไป จนเกิดอารมณ์ทางเพศตามมาได้

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

3. ค่านิยมการสร้างคุณค่าความดีงามในจิตใจ ความดีงามในจิตใจเป็นสิ่ง
4. ค่านิยมความเข้าใจในความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเพศ ทั้ง

มีคุณค่าเพราะเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในสังคมต้องการ ดังนั้นจึงควรปลูก ชายและหญิงควรเข้าใจในความแตกต่างทางสภาพสรีระของทั้งสองฝ่าย

ฝังและสร้างคุณธรรมความดีให้เกิดแก่หมู่วัยรุ่น เพื่อที่เด็กๆ เหล่านั้นจะได้
และให้เกียรติช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น ผู้ชายที่ธรรมชาติสร้างมาให้แข็ง

เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติต่อไป แรงกว่าผู้หญิง ผู้ชายก็ไม่ควรไปรังแกผู้หญิง แต่ต้องช่วยเหลือผู้หญิงใน

ด้านต่างๆ เป็นต้น

ค่านิยมทางเพศในวัฒนธรรมไทย 1.2 การไม่สนับสนุนหรือส่งเสริมให้บุคคลในสังคมพูดคุยกันในเรื่อง

ในประเทศไทย มีความเป็นไทย มีขนบธรรมเนียมประเพณีและ
เพศอย่างเปิดเผย
วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเฉพาะค่านิยมในเรื่อง
1.3 การยกย่องให้เพศชายเป็นใหญ่กว่าเพศหญิง

เพศ ซึ่งมักมีมุมมองได้ 2 ทาง ดังนี้ 2.ค่านิยมทางเพศที่ดีของสังคมไทย

1. ค่านิยมทางเพศในเรื่องที่ค่อนข้างปิดกั้นของคนไทย ได้แก่ 2.1 หญิงไทยมักจะรักนวลสงวนตัว ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน

1.1 การไม่เผยแพร่ความจริงในเรื่องเพศหรือการไม่ให้ความรู้เรื่อง
2.2 ชายไทยไม่ควรสำส่อนทางเพศเพราะอาจเกิดผลเสียโดยการติดโรค

เพศแก่ บุตรหลาน โดยคิดว่าเป็นเรื่องหยาบคาย หรือน่าอาย 2.3 ชายไทยมีความรับผิดชอบต่อเพศหญิง ไม่หลอกลวง ไม่ข่มเหงน้ำใจ

แผปู้ลคฏิะนบคัส่ตห่าิวทนีลิน่ยไามมมก่าดทหีกีอ่ถแลึยูงล่าค้จืยวอะแทไ"ตดา่ค้กงร็ันเยบพังทกีศ่ไามดีร"้ครยับวอกามมารัรบ


2.4 ชายไทยรับผิดชอบต่อครอบครัว
แม้ทุกวันนี้ ภาพของประเทศไทยจะดูมีเสรี เปิดกว้างให้กับเพศที่ 3


หรือเพศทางเลือก พบ LGBT ได้ทั่วไป ไม่ต้องหลบซ่อน แต่ในความ


เป็นจริงแล้ว สังคมไทยกลับยังมีพื้นที่ที่ปิดกั้น และไม่ได้เปิดออก


ยอมรับคนเหล่านี้อย่างเต็มที่ หรือแม้จะมีการยอมรับ ก็เป็นการ


ยอมรับอย่างมี ‘เงื่อนไข’

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

แอลจีบีที (LGBT) คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอยู่ใน

ตัวอักษร L G B T ย่อมาจาก Lesbian, Gay, Bisexual และ
สังคมต่างๆ ทุกสมัยจะมีการพูดถึงความปิดกั้นทางเพศ รวมถึง

Transgender นอกจากนี้ยังมีตัวอักษรอื่นๆ ต่อท้ายอย่างเช่น ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ ในประเทศที่มีการยอมรับทาง

- แอลจีบีทีคิว LGBTQ ตัว Q ย่อมาจาก Queer กฎหมาย ก็จะเพิ่มสิทธิพื้นฐานทางสังคม เช่น การแต่งงานระหว่าง

- แอลจีบีทีไอ LGBTI ตัว I ย่อมาจาก Intersex เพศเดียวกัน การรับสิทธิสวัสดิการในที่ทำงาน หากเรามีความ


- แอลจีบีทีคิวเอ LGBTQA ตัว A ย่อมาจาก Asexual หรือ Aromantic
เข้าใจกับกลุ่มเพศที่หลากหลาย ก็จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้

หรือ Ally แสดงออกต่อกันได้อย่างเท่าเทียม

7 ข้อเท็จจริงกับความหลากหลายทางเพศในวัฒนธรรมเอเชีย 2.คู่รักร่วมเพศมีลูกไม่ได้ อย่างนี้มันก็ผิดธรรมชาติน่ะสิ
คู่รักต่างเพศที่ไม่มีลูกก็มีถมไป ไม่ว่าจะไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ เป็นหมัน

1.แต่รักร่วมเพศมันขัดกับ“วัฒนธรรมอันดีงาม”ของเอเชียนะ หรือไม่อยากมีเอง แต่คนกลุ่มนั้นก็ไม่เคยถูกสังคมตีตราว่าผิดธรรมชาติ

แต่อย่างใด
“วัฒนธรรมอันดีงาม”, “จารีตประเพณี”, และ “ค่านิยมของสังคม”
สิทธิมนุษยชนไม่ใช่สิ่งที่จะขาดตอนได้แค่เพราะคนๆ นั้นจะไม่มีลูก กลับ

ไม่ใช่เหตุผลในการละเมิดสิทธิผู้อื่นได้ ต่อให้คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่เห็น
กัน มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกได้ว่าจะมีลูกหรือไม่ เมื่อไหร่ หรือกี่คน
ด้วย สหประชาชาติก็เคยประกาศไว้แล้วเมื่อปี 2010 ว่า “เมื่อใดที่

วัฒนธรรมและสิทธิมนุษยชนขัดกัน สิทธิมนุษยชนต้องคงอยู่เสมอไป”

3.โดยกฎหมายน่ะ คำว่า “สมรส” มันใช้ได้เฉพาะคู่ที่เป็นผู้หญิงกับผู้ชายนะ 4. รัฐไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายจารีตของสังคมนะ
แค่เพราะกฎหมายไม่รองรับการแต่งงานในเพศเดียวกัน ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะเป็นใบ
สหประชาชาติได้ตกลงร่วมกันไปแล้วว่าความเสมอภาคในฐานะ

อนุญาตไปเบียดเบียนคนรักเพศเดียวกันได้ กฎหมายระหว่างประเทศระบุชัดเจน
มนุษย์อยู่เหนือทุกจารีตประเพณี ถ้าการมีอยู่ของประเพณีนั้นๆ

ถึงการห้ามเลือกปฎิบัติต่อบุคคลเพราะเพศสภาพของคนนั้นๆโดยกฎดังกล่าวไม่
ทำให้มีผู้เสียหายที่ถูกละเมิดสิทธิของบุคคลนั้น รัฐมีหน้าที่ที่จะ

ได้พูดถึงการแต่งงานแต่อย่างใด เข้าไปช่วยเหลือบุคคลนั้นให้อยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี

ดังนั้น แค่เพราะประเทศของคุณไม่รับรองการสมรสในเพศเดียวกัน ไม่ได้แปลว่าจะ
แม้จะหมายถึงการลบเลือนจารีตประเพณีนั้นๆ ให้หายไปก็ตาม
สามารถนำกฎหมายนั้นมาตีความเพื่อกลั่นแกล้งทำร้ายผู้แตกต่างทางเพศได้อยู่ดี

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

5.ทำไมต้องปกป้องกลุ่มพิเศษพวกนั้นกว่าคนอื่นๆ เขาด้วย 6.ครอบครัวรักร่วมเพศจะเลี้ยงลูกดีๆได้หรือ
การศึกษาของเราพบว่าผู้มีความหลากหลายทางเพศยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กๆในครอบครัวรักร่วมเพศไม่เคยมาจากการมีผู้

อีกมากมายในหลายๆ ประเทศ หรือแม้กระทั่งต้องตกอยู่ในอันตรายๆ
ปกครองเพศเดียวกัน แต่มาจากการที่สังคมชอบกลั่นแกล้งเด็กที่มา

ทุกๆวัน ดังนั้นการมีวิธีเพื่อปกป้องคนเหล่านี้ที่ถูกพัฒนาเพื่อคนกลุ่มนี้
จากครอบครัวรักร่วมเพศ
ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้รับสิทธิพิเศษ แต่เป็นหนึ่งในกระบวนการ
โลกของเรามีลักษณะของครอบครัวมากมายหลายชนิด แต่สังคม

เพื่อทำให้ทุกภาคส่วนของสังคมสามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชนได้อย่าง
กลับถือว่าครอบครัวที่มีพ่อเป็นผู้ชายและแม่เป็นผู้หญิงเท่านั้นที่ปกติ

เท่าเทียม ทั้งที่ครอบครัวชนิดอื่นๆเหล่านั้นก็เลี้ยงดูลูกๆของพวกเขาออกมาได้

สมบูรณ์เช่นเดียวกัน

การศึกษาหลายๆ ครั้งแสดงให้เห็นแล้วว่าครอบครัวรักร่วม
7.ทำไมบางโรงเรียนถึงสอนเรื่องเพศศึกษาร่วมกับเพศสภาพด้วย
เพศไม่ได้มีความเสี่ยงหรืออันตรายต่อเด็กมากไปกว่า
การศึกษาเรื่องเพศ เพศสัมพันธ์ การเจริญพันธุ์ และเพศสภาพมี

ส่วนสำคัญในการทำให้เด็กโตขึ้นมามีสุขภาพกายและจิตที่ดี ซึ่งการ

ครอบครัวต่างเพศแต่อย่างใด ดังนั้น การกีดกันว่าคนกลุ่ม
ศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะจัดให้เด็กๆอย่างทั่วถึง การปิดกั้นข้อมูล

หนึ่งไม่ควรจะเป็นผู้ปกครองเด็กแค่เพราะเพศสภาพที่แตก
ในเรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่ความไม่เข้าใจที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกและ

กลั่นแกล้งในโรงเรียน และทำให้เด็กโตขึ้นมามีทัศนคติที่เป็นภัยต่อผู้

ต่างจึงถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่อันตราย
มีความหลากหลายทางเพศ

โอ้โห ฉันเพิ่งจะเข้าใจผู้ที่มี
มาสเกัรงๆาคต้ไมอม่เงคพีทวยำรงคกเีวพดากรมัานเะขพเ้ขาวใาจกเกปเั็ขบนาพอLวGอกBกเTจขาาก

ฉันหวังว่าทุกๆคนจะเข้าใจในผู้
ฉัมนากส็หรุวปังสิ่ไงว้ทแี่เบรบาเนัร้ีนยเนหวมันือนีน้กกัันนเถเออาะล!่ะ

ความหลากหลายทางเพศก็
ที่มีความหลากหลายทางเพศ


ตอนนี้เองนะเนี่ย มากขึ้นนะ

Sex EDUCATION : เพศศึกษา เรื่อง(ไม่ลับ)ที่เราควรรู้

วัยรุ่นนั้น แบ่งอายุออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนนั้นอาจเป็นเรื่องที่เร็วไปสำหรับ

1.วัยรุ่นตอนต้น อายุ 13-15 ปี วัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่เด็กๆก็ควรรับรู้เรื่องของเพศ

2.วัยรุ่นตอนกลาง อายุ 15-18 ปี และการป้องกันไว้เพื่อป้องกันปัญหาการท้องไม่พึงประสงค์


3.วัยรุ่นตอนปลาย อายุ 18-21 ปี การทำแท้ง การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่อาจตามมาได้
ซึ่งในแต่ละช่วงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย

อารมณ์ จิตใจ และความคิดที่ต่างกันออกไป ผู้ปกครองควร

ให้ความเอาใจใส่และให้คำแนะนำที่เหมาะสมแก่บุตรหลาน เพื่อ


ให้เด็กๆนั้นเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างมีความสุข

1.มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม มีวุฒิภาวะมากพอที่จะรับผิดชอบ
ค่านิยมเรื่องเพศในประเทศไทยเช่นการรักนวลสงวนตัว การ

ตนเองและคู่นอน ไม่ชิงสุกก่อนห่ามนั้นเป็นสิ่งที่ดีและควรปฏิบัติตาม เป็นการ

2.ต้องมีการยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่บังคับขืนใจคู่นอนของตน ป้องกันภัยทางเพศได้ด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามความบริสุทธิ์

3.มีการป้องกันทุกครั้งหากไม่พึงประสงค์จะตั้งครรภ์! ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณค่าของคนๆนั้น การปฏิบัติตนทางเพศ

หากไม่ได้ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนก็สามารถทำได้ตาม

และการให้เกียรติผู้อื่นก็เป็นสิ่งสำคัญในค่านิยมเช่นกัน ไม่ว่า

จะกับเพศเดียวกัน เพศตรงข้าม หรือผู้ที่มีความหลากหลาย
ที่ตนเองสะดวกใจ
ทางเพศ เพราะทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน มีสิทธิเท่าเทียมกัน

เราไม่ควรกีดกันใครก็ตามที่มีความคิดหรือมีค่านิยมต่างออก
ขอบคุณเธอมากๆเลยนะ ฉศัึนกหษวาังไปว่ปาดเร้ธัวบอยใจชค้ะไสวด้าาอมมยยา่ิารนงถดเีนหจำ้มะเารื่ะอสงมเนพะศ

ฉันเข้าใจมากขึ้นเยอะเลย
ไปจากที่สังคมได้ตั้งไว้