เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณใ์ นดนตรสี ากล
1. บรรทัด 5 เส้น (Staff)
บรรทัด 5 เส้น เป็ นสัญลักษณท์ างดนตรีทผี่ ู้เรียนดนตรีสากลควรทราบตอ่ จากตัวโน้ตและตวั หยุด เป็ นสิ่งทแี่ สดงว่าตวั โน้ต
ทบี่ นั ทกึ ลงในบรรทัด 5 เส้นนีม้ รี ะดับใด เสียงสูง หรือต่า กว่าตัวโน้ตตัวอน่ื ๆ หรือไม่
ลักษณะของบรรทดั 5 เส้น หรือเส้นบนั ทกึ โน้ต เป็ นเส้นตรงแนวนอน 5 เส้น ทขี่ นานกันและมีระยะหา่ งเทา่ ๆกัน ใชส้ าหรับ
บนั ทกึ ตวั โน้ตและตวั หยุด
วธิ ีการนับเส้นและชอ่ ง จะนับจากเส้นข้างล่างขนึ้ ไปหาเส้นขา้ งบน ดงั นี้
เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณใ์ นดนตรสี ากล
บรรทดั 5 เส้น ทุกเส้นจะมตี ัวโน๊ตคาบเส้น และ ทุกช่องกจ็ ะมตี วั โน๊ตประจาอยู่
เครื่องหมายประจาหลักเสยี ง เขยี นอยู่หน้าบรรทัดเรียกว่า กุญแจซอล
กุญแจประจาหลกั
กุญแจซอลฺ
เป็ นเครื่องหมายประจาหลักทใี่ ช้กันมากสาหรับบนั ทกึ ระดับเสยี งของเครื่อง
ดนตรีหรือเสียงร้องทมี่ รี ะดับกลางถงึ สูงภาษาองั กฤษเรียก “จี เคลฟ”(G
Clef) หรือ “เทร็บเบลิ้ เครฟ” (Treble Clef) โดยท่วั ไปเรียกว่า “กุญแจ
ซอล” ในการเขียนกุญแจซอลบนั ทกึ โดยหวั กุญแจใหค้ าบเส้นท่ี 2 ของบรรทดั 5 เส้น
โน้ตทกุ ตัวทค่ี าบอยู่บนเส้นท่ี 2 ของบรรทดั 5 เส้นจะมเี สียงเดยี วกับชอื่ กุญแจ
คอื “ซอล” ดงั ตวั อยา่ ง
กุญแจฟา
เป็ นเครื่องหมายประจาหลักทใ่ี ช้กนั มากสาหรับบนั ทกึ ระดบั เสียงของเคร่ืองดนตรีหรือ
เสียงร้องทมี่ รี ะดับต่าภาษาองั กฤษเรียก “เอฟเคลฟ”(F Clef) หรือ “เบส เครฟ” (Bass
Clef) โดยท่วั ๆไปมักเรียกว่า “กุญแจฟา” ในการเขียนกุญแจฟาเขียนโดยหวั กุญแจใหค้ าบ
เส้นที่ 4 ของบรรทดั 5เส้น โน้ตทกุ ตัวทค่ี าบอยู่บนเส้นที่ 4 ของบรรทดั 5 เส้นจะมเี สยี ง
เดยี วกบั ชอื่ กุญแจคอื “ฟา” ดงั ตวั อยา่ ง
เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณใ์ นดนตรสี ากล
นอกจากบรรทดั 5 เส้น ซงึ่ ใช้เป็ นหลักในการบันทกึ ตวั โน้ต และตัวหยุดแล้ว ยังมี
เส้นทใ่ี ช้ขีดใต้ บรรทดั 5 เส้น หรือ เหนือบรรทดั 5 เส้น เป็ นเส้นสั้นๆ ทใี่ ช้ขีด
เฉพาะตวั โน้ตทม่ี ีระดบั เสียงต่ากว่า หรือมรี ะดบั เสียงสูงกว่าเส้นทป่ี รากฏใน
บรรทดั 5 เส้น เรียกเส้นสั้นๆนีว้ ่า เส้นน้อย (Ledger Line)
ลักษณะตวั โน้ต และตวั หยุด
ตัวโน้ต คอื เคร่ืองหมายทใี่ ช้บนั ทกึ แสดงความสั้น - ยาว ของเสียง อัตราความสั้น -
ยาวของตวั โน้ตจะมกี ่ีจงั หวะนั้นจะขึน้ อยกู่ ับเคร่ืองหมายกาหนดจังหวะ
ลักษณะของตวั โน้ตทพ่ี บโดยท่วั ไปมีลักษณะ ดงั นี้
แผนภมู กิ ระจายตัวโน้ต
การเขียนโน้ตตัวเขบต็ ในกรณีทเ่ี ขียนตวั โน้ตเรียงตอ่
กนั นิยมเขียนในลักษณะ ดงั นี้
ตัวกลมมี 4 จังหวะ
ตวั ขาวมี 2 จังหวะ
ตัวดามี 1 จงั หวะ
ตวั เขบด็ หนึ่งชัน้ 2 ตวั มี 1จังหวะ
ตัวเขบด็ สองชั้น 4 ตวั มี 1จงั หวะ
ตัวโน๊ตเป็ นเครื่องหมายแทนเสียงของเครื่องดนตรีทกุ ชนิด เราควร
จาชือ่ ของตวั โน๊ตใหแ้ ม่นเหมอื นกับทเ่ี วลาเราอา่ นหนังสอื
เคร่ืองหมาย ตวั หยุด แทนเสยี งดนตรี
ขณะทด่ี นตรีกาลังบรรเลงอยู่ถา้ ต้องการใหเ้ สยี งหายไป แตก่ ารนับจังหวะต้องดาเนินอยู่จะขาด
หายไม่ไดจ้ งึ มเี คร่ืองหมายแทนตัวโน๊ตนั้นๆไว้ให้ มคี ่าเท่ากับตวั โน๊ตตา่ งๆดังนี้
ตัวหยดุ หรือเคร่ืองหมายพกั เสยี ง คอื เคร่ืองหมายทท่ี าใหเ้ สยี งเงยี บ หรือหยุด
ช่ัวคราว แตจ่ ังหวะยังคงดาเนินตอ่ เน่ืองไป จะหยุดนานเท่าใดนั้นขนึ้ อยู่กับลักษณะของตวั
หยุด ลักษณะ และอัตราความยาวของตวั หยุดมดี งั นี้
ตวั หยดุ ตวั กลม
ตวั หยดุ ตวั ขาว
หยดุ ตวั ดา
ตวั หยดุ เขบด็ 1ชนั้
ตวั หยดุ เขบด็ 2 ชนั้
โน้ตดนตรีสากล
การกาหนดอตั ราจงั หวะของเพลง
การนาเอาเสียงส้ัน-ยาว มาเรียงร้อยกนั อยา่ งสม่าเสมอ จากน้นั นาเสียงสูง-ต่า มารวมเขา้ กบั จงั หวะ
ของเพลง
การจดั วรรคตอน
การนาจงั หวะและเสียงที่รวมกนั เหลา่ น้นั มาแบ่งวรรคตอนใหเ้ กิดเป็นทานอง
ของเพลง
การแบ่งท่อนทานองสาคญั ของบทเพลง
การจดั ทานองเพลงที่แต่งข้ึนโดยแบ่งวรรคตอนเป็นท่อน A หรือ B หรือ C
๑. เคร่ืองหมายกาหนดอตั ราจงั หวะ (Time Signature)
เครื่องหมายกาหนดจงั หวะ คือ เคร่ืองหมายที่เป็นเลขเศษส่วน ใชบ้ นั ทึกหลงั กญุ แจประจาหลกั
เป็นเคร่ืองหมายที่กาหนดจงั หวะในแตล่ ะหอ้ งเพลง
เลขตวั บน คือ จานวนจงั หวะในแตล่ ะหอ้ งเพลง
เลขตวั ล่าง คือ ลกั ษณะจงั หวะของตวั โนต้
ตวั โนต้ ในอตั ราธรรมดา ๒ พยางค์ คือ จงั หวะประเภทที่แบ่งส่วนปลีกยอ่ ยออกเป็น ๒ ส่วน และส่วนท่ี
เพิ่มข้ึนดว้ ยจานวน ๒ ๔ ๘ และ ๑๖
ตวั โนต้ ในอตั ราผสม ๓ พยางค์ คือ จงั หวะประเภทที่แบ่งส่วนปลีกยอ่ ยออกเป็น ๓ ส่วน และส่วนท่ี
เพ่มิ ข้ึนดว้ ยจานวน ๓ ๖ ๑๒
อตั ราธรรมดา ๒ พยางค์ (Simple Time) หมายถึง การใชโ้ นต้ ที่ไม่ประจุดเป็นเกณฑ์ ๑ จงั หวะ
อตั ราผสม ๓ พยางค์ (Compound Time) หมายถึง การใชโ้ นต้ ประจุดเป็นเกณฑ์ ๑ จงั หวะ
โนต้ อตั ราธรรมดา ๒ พยางค์ แบ่งส่วน โนต้ อตั ราผสม ๓ พยางค์ แบ่งส่วน
ตวั อยา่ ง
โนต้ บทเพลง ๒ จงั หวะ ในอตั ราธรรมดา : เพลงลาวเส่ียงเทยี น
ตวั อยา่ ง
โนต้ บทเพลง ๓ จงั หวะ ในอตั ราธรรมดา : เพลงสายทพิ ย์
โนต้ บทเพลง ๔ จงั หวะ ในอตั ราธรรมดา : เพลงใจรัก
ตวั อยา่ ง
โนต้ บทเพลงในอตั ราผสม : SILENT NIGHT
ตวั อยา่ ง
อตั ราจงั หวะผสม
มีจานวนจงั หวะแตล่ ะ มีจงั หวะเคาะ 3 จงั หวะ
หอ้ งไมเ่ ทา่ กนั
ตวั อยา่ ง อัตราจังหวะผสม
มีการประจดุ ตวั โนต้ ตวั เลขดา้ นบนหารดว้ ย 3
ลงตวั
๒. เคร่ืองหมายประจากญุ แจเสียง (Key Signature)
เครื่องหมายประจากญุ แจเสียง คือ เคร่ืองหมายแปลงเสียงท้งั หมดที่ใชใ้ นเพลง
เครื่องหมายชาร์ป เครื่องหมายแฟลต
จุดประสงคข์ องการใชเ้ คร่ืองหมายประจากญุ แจเสียง
เพอ่ื ลดจานวนของเคร่ืองหมายท่ีใชใ้ นการกากบั เสียงซ่ึงจะแทรกอยตู่ ามตวั โนต้
ของแตล่ ะบรรทดั หา้ เสน้
เพอ่ื ทาใหอ้ า่ นโนต้ ไดง้ ่ายข้ึน
เคร่ืองหมายแปลงเสียง
เป็ นเคร่ืองหมายทที่ าให้เสยี งของตวั โน้ตสูงขนึ้ หรือตา่ ลงคร่ึงเสยี ง ตามปกตใิ ช้เขยี นหน้า
ตวั โน้ตทตี่ ้องการแปลงเสยี ง มดี ังนี้
1) เคร่ืองหมายชารป์ (Sharp) เป็ นเคร่ืองหมายแปลงเสยี งทที่ าให้เสยี งทที่ าให้ตวั
โน้ตมรี ะดบั เสยี งสูงขนึ้ กว่าปกตคิ ร่ึงเสยี ง
2) เครื่องหมายแฟลต (Flat) เป็ นเคร่ืองหมายแปลงเสียงทที่ าใหต้ วั โน้ตมีระดับ
เสียงตา่ ลงกว่าปกตคิ ร่ึงเสียง
ตาแหน่งของ ชารป์ และ แฟลต บนลม่ิ คยี บ์ อรด์
3) เนเจอรัล (Natural) ใช้แปลงสภาพของตัวโน้ตทเี่ คยถูกเครื่องหมาย ชารป์ หรือ แฟลต
บงั คับเสยี งใหส้ ูงขนึ้ หรือตา่ ลงกว่าปกตไิ ว้แล้วใหก้ ลับมาใช้เสยี งเดมิ
หลกั การใชเ้ ครื่องหมายประจากญุ แจเสียง
หลกั การเบ้ืองตน้ คือการนาเครื่องหมายกากบั เสียงของตวั โนต้ แตล่ ะตวั มารวมกนั ไวท้ ่ีหนา้ บรรทดั
โดยที่เครื่องหมายประจากญุ แจเสียงน้ี จะอยถู่ ดั จากกญุ แจประจาหลกั และอยกู่ ่อนเครื่องหมาย
ประจาจงั หวะ โดยท่ีเครื่องหมายประจากญุ แจเสียงน้ีจะมีผลกบั โนต้ น้นั ทุกตวั ไม่วา่ จะอยใู่ น
ช่วงเสียงใด ๆ
ตวั อยา่ ง ในเพลงน้ีมีเครื่องหมายชาร์ป ( ) บนเสน้ ตวั โนต้ G
(ซอล) ดงั น้นั เพลงน้ีท้งั เพลงกจ็ ะตอ้ งเล่น G
ในหอ้ งเพลงน้ีมีเคร่ืองหมาย แนเชอรัล ( ) กากบั อยทู่ ี่ G
(ซอล) ดงั น้นั หอ้ งน้ีกจ็ ะเล่นโนต้ น้ีเป็นตวั ปกติไม่ตอ้ งข้ึนไป
อีกคร่ึงเสียง
ตวั อยา่ งบทเพลงสากลท่ีใช้
เครื่องหมายกาหนดจงั หวะ
และเครื่องหมายประจากญุ แจ
เสียง : เพลงสยามานุสติ
ตวั อยา่ งบทเพลงสากลที่ใช้
เคร่ืองหมายกาหนดจงั หวะ
และเคร่ืองหมายประจากญุ แจ
เสียง : เพลงสยามานุสติ (ต่อ)
ตวั อยา่ งบทเพลงสากลที่ใช้
เคร่ืองหมายกาหนดจงั หวะ
และเคร่ืองหมายประจา
กญุ แจเสียง : เพลง
สรรเสริญพระบารมี
โน้ตดนตรีไทย
การสอนดนตรีไทยไดพ้ ฒั นาวิธีการสอนโดยใชโ้ นต้ เพลงไทยที่เป็นตวั อกั ษรแทนสียง
ดนตรี เพื่อประโยชน์ในการถา่ ยทอดทานองเพลง และจดจาตวั โนต้ ของแต่ละบทเพลง
อตั ราจงั หวะ เพลงไทยอตั ราจงั หวะ ๓ ช้นั มีจงั หวะชา้
ของเพลงไทย เพลงไทยอตั ราจงั หวะ ๒ ช้นั มีจงั หวะปานกลาง
เพลงไทยอตั ราจงั หวะ ช้นั เดียว มีจงั หวะเร็ว
เคร่ืองดนตรีท่ีเป็นเคร่ืองกากบั จงั หวะของไทย ไดแ้ ก่ กรับ กลอง โหม่ง ฉาบ และฉ่ิง ใน
การดาเนินจงั หวะใหเ้ ป็นไปตามอตั ราจงั หวะท้งั ๓ อตั ราน้นั จะตอ้ งยดึ หลกั กลอง หรือ
จงั หวะหนา้ ทบั เป็นหลกั ส่วนจงั หวะฉิ่งน้นั เป็นจงั หวะข้นั พ้ืนฐานท่ีสามารถปฏิบตั ิได้
โดยง่าย
๑. โน้ตบทเพลงไทยอตั ราจังหวะ ๒ ช้ัน
เพลงอตั ราจงั หวะ ๒ ช้นั หรือเพลงสองช้นั ถือเป็นเพลงหลกั ที่จะตอ่ ยอดเป็นเพลงอตั ราจงั หวะ ๓ ช้นั หรือ
ลดลงเป็นเพลงอตั ราจงั หวะช้นั เดียว เพลงสองช้นั เป็นเพลงที่ร้องง่าย และเป็นเพลงส้นั ๆ เป็นส่วนใหญ่
โน้ตเพลงบังใบ
ตวั อยา่ ง
เพลงบังใบสองช้ัน
ไดย้ นิ คาสาเนียงเสียงเสนาะ แสนไพเราะรสรักเป็นหนกั หนา
เหมือนยนิ เสียงหงส์ทองที่ฟ่ องฟ้า กลอ่ มสุนทรวอนวา่ น่ายนิ ดี
ถึงแมว้ า่ จะสนิทนิทรา กผ็ วาเมื่อสดบั ศพั ทเ์ สียงพ่ี
ถึงดิฉนั ร้อนรุมกลุม้ ฤดี เสียงเหมือนทิพยว์ ารีมาประพรม
แต่โอว้ า่ อนิจจาไดก้ ินหวาน มิชา้ นานกต็ อ้ งกลืนท้งั ขื่นขม
พอพไี่ ปใจนอ้ งตอ้ งระทม ยงิ่ มาชมกย็ ง่ิ ช้าระกาใจ
ใชเ้ ป็นเพลงขบั ร้องและบรรเลงเพอื่ การรับฟัง และประกอบการแสดง ซ่ึงนิยมเล่นใน
งานร่ืนเริงต่าง ๆ เนื่องจากเพลงบงั ใบมีลกั ษณะตดั พอ้ ต่อวา่ วงดนตรีสุนทราภรณ์จึงนา
ทานองทางดนตรีมาแต่งเป็นเพลงไทยสากล โดยประพนั ธ์คาร้องใหม่ใหช้ ื่อวา่
“เพลงรักบงั ใบ”
เพลงรักบงั ใบ
กามเทพหลอกลวง เสียบศรปักทรวงใหห้ ่วงหา
ใหร้ ักแลว้ ใยมาริดรักราแรมไกล
รักของขา้ ดงั่ บวั บงั ใบ บงั มิใหใ้ ครเห็น
เฝ้าครวญหวนทุกเชา้ เยน็ ตรอมตรม
สุดหกั สุดหายหวั ใจมิวายระทม
สุดตรอมตรม ใจยงิ่ คิดใหโ้ หยหา
ตอ้ งบงั รักไวไ้ ม่กลา้ บอกใคร
เยน็ ยา่ สุริยาตะวนั จากตาพามืดมิด
โอช้ ่างเหมือนดวงจิต มิดมืดยามรักไกล
น้าตาตกตามตะวนั นึกแลว้ หวน่ั พร่ันใจ
อกเอ๋ยทาฉนั ใดเล่าเอย คู่ชื่นเคยเชยรักร้างเลยแรมรา
ยง่ิ พาใหห้ นาวไฉน ปองรักอยา่ งบวั บงั ใบ ตอ้ งช้าหวั ใจเร่ือยมา
๒. โน้ตบทเพลงไทยอตั ราจังหวะ ๓ ช้ัน
เพลงอตั ราจงั หวะสามช้นั หรือเพลง ๓ ช้นั คือ เพลงท่ีใชเ้ พลง ๒ ช้นั เป็นหลกั แลว้ แตง่ ขยายข้ึนอีก ๑ เท่าตวั
ทาใหจ้ งั หวะจะชา้ ลง และยาวกวา่ เพลง ๒ ช้นั เช่น เพลงนางครวญ ๓ ช้นั เพลงนกเขาขะแมร์ ๓ ช้นั
ตวั อยา่ ง เพลงนกเขาขะแมร์ทานองของเดิมเป็นเพลงเขมรแท้ ๆ หลวงประดิษฐไ์ พเราะ (ศร ศิลปบรรเลง)
ไดต้ ่อทานองเพลงดงั กล่าวมาจากขนุ สาเนียงไพเราะ เจา้ กรมปี่ พาทยห์ ลวงในพระเจา้ มณีวงศ์
แต่คร้ังตามเสดจ็ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และพระบรมราชินีเยอื นประเทศแถบอินโดจีน
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ และเมื่อกลบั มาเมืองไทยหลวงประดิษฐไ์ พเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ไดน้ าเพลง
ที่ชาวเขมร เรียกวา่ เพลงนกเขา มาปรุงทางใหม่ใหเ้ ขา้ หลกั ดุริยางคศิลป์ ไทยครบท้งั เถา โดยใหม้ ีทานอง
สาเนียงเขมร มีลูกลอ้ ลูกขดั และมีทานองเลียนเสียงขนั คูของนกเขาและไดข้ อใหน้ ายมนตรี ตราโมท
ช่วยแต่งบทร้องให้ แต่สาหรับเน้ือร้องท่ีนามาเป็นเน้ือร้องของศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ นาคสวสั ด์ิ โดยนา
ทานองเพลงนกเขาขะแมร์ ท่อน ๒ ของหลวงประดิษฐไ์ พเราะมาประพนั ธ์ และใชช้ ื่อวา่ เพลงจูฮ้ ุกกรู
เพลงนกเขาขะแมร์ใชห้ นา้ ทบั ปรบไก่ หรือหนา้ ทบั เขมร
โน้ตเพลงนกเขาขะแมร์ (สามช้ัน)
ตวั อยา่ ง
โน้ตเพลงนกเขาขะแมร์ (สามช้ัน)
ตวั อยา่ ง
เพลงจู้ฮุกกรู
จูฮ้ ุกกรู จูฮ้ ุกกรู จูฮ้ ุกกรู นกเขาขนั อยใู่ นร่มไพรพฤกษ์
จูฮ้ ุกกรู จูฮ้ ุกกรู กอ้ งกึก ในร่มไพรพฤกษ์ ส่งสาเนียงเสียงจา้
จุกกรูก่กู อ้ งพนา
จุกกรู (ดนตรี) จุกกรู (ดนตรี) เสียงปักษาเร่ือยร่ี
ต้งั แตร่ ุ่งทิวา จูฮ้ ุกกรูคูมา กล่อมดว้ ยเพลงดนตรี
ฟังยง่ิ ฟังเหมือนดงั บรรเลง (ดนตรี) เร้าฤดีเพลิดเพลิน
โอว้ า่ เจา้ ปักษี ส่งสาเนียงเสียงดี
เพลงนกเขาขะแมร์ เป็นเพลงท่ีใชบ้ รรเลงขบั ร้องและมีการนาทานองของเพลง
ไปประยกุ ตเ์ ป็นเพลงไทยสากลที่ไดย้ นิ ไดฟ้ ังอยเู่ สมอ เช่น เพลงนกเขาคูรัก
(ชาย) เพลงนกเขาคูรัก
(หญิง)
(ชาย) โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรู นกมนั เฝ้าคูหาชูม้ นั
(หญิง) โถโก่งคอทาเสียงหวาน ช่างน่าสงสารนะกระไรใจขา้
(ชาย) กพ็ ่ปี ักใจใฝ่ รัก รัก เจา้ ใยมิเห็นใจเมตตา
(ชาย) นกมนั รักกนั รักมนั กม็ ีแต่จะ๊ จ๋า ไม่มีมารยาเสมือนร้อยลิ้นคนพร่า
(หญิง) ดวงใจเอ๋ยนกมนั เหมือนพี่เฉลย เอ่ยคา (หญิง) พดู ไปแลว้ ตอ้ งจา
(ชาย) พดู ไปแลว้ พี่จา มิตอ้ งพดู ซ้าดวงใจ
(ชาย) พี่อยา่ เป็นเหมือนเช่นนกแกว้
(ชาย) พ่ไี ม่เป็นเหมือนเช่นนกแกว้ (หญิง) พดู เจ่ือยแจว้ เรื่อยไป
*(หญิง) ออกจากปากพีไ่ ป (หญิง) ขอใหอ้ อกจากใจ
(ชาย) พปี่ ากกบั ใจตรงกนั
(ชาย) แน่ะใคร (ชาย) ไหนใคร (หญิง) โน่นไง แฝงตวั ร่มเงาไมใ้ หญ่
(หญิง) ใช่ใครนกเขาคู่มนั (หญิง) เสียงใคร (ชาย) ไหนกนั (หญิง) เสียงนน่ั
(หญิง) อ๋อนกมนั พรอดคาราพนั ฝากชีวนั รักกนั ไงเล่า
ใยรู้ (ชาย) ดูเอา พ่เี ห็นมนั เฝ้าหยอกเยา้ ต่อกนั
พต่ี อ้ งเอาอยา่ งมนั (ชาย) พี่จะเอาอยา่ งมนั มิเปล่ียนแปรผนั เลยเอย * ยอ้ น
ผงั สรุปสาระสาคญั เคร่ืองหมายกาหนดอตั ราจงั หวะ
เครื่องหมายท่ีเป็นเลขเศษส่วนหลงั กญุ แจประจาหลกั เลขบน คือ จานวน
โน้ตดนตรีสากล จงั หวะในแต่ละหอ้ งเพลง เลขล่าง คือ ลกั ษณะจงั หวะของโนต้ เพลง
เคร่ืองหมายประจากญุ แจเสียง
โน้ตดนตรีไทยและสากล เป็นเคร่ืองหมายที่บงั คบั โนต้ ใหม้ ีเสียงเป็นไปตามชนิดของเคร่ืองหมายน้นั
ประกอบดว้ ย ชาร์ป และแฟลต
โน้ตดนตรีไทย
เพลงอตั ราจังหวะ ๒ ช้ัน
เพลงสองช้นั เป็นเพลงท่ีร้องง่ายและเป็นเพลงส้ัน ๆ
เพลงอตั ราจังหวะ ๓ ช้ัน
เพลงสามช้นั เป็นเพลงที่มีจงั หวะชา้