The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยสมบูรณ์เพื่อการพัฒนานวัตวิถีชุมชนเชิงสร้างสรรค์เมืองเชียงแสน คู่มือที่ได้เรียบเรียงเพื่อสะดวกต่อการศึกษา ค้นคว้า ให้กับนักท่องเที่ยวและสถาบันการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by naboon1960, 2022-02-15 21:09:06

รายงาน การพัฒนาแอพพลิเคชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เมืองเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

งานวิจัยสมบูรณ์เพื่อการพัฒนานวัตวิถีชุมชนเชิงสร้างสรรค์เมืองเชียงแสน คู่มือที่ได้เรียบเรียงเพื่อสะดวกต่อการศึกษา ค้นคว้า ให้กับนักท่องเที่ยวและสถาบันการศึกษา

๔๖

โบราณสถานวัดป่าสกั (นอกเมอื ง)

เจดยี ์วดั ปา่ สกั ตงั้ อยู่ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชียงราย
วัดป่าสัก จังหวัดเชียงราย เป็นวัดและกลุ่มโบราณสถานในอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ซึ่งก่อสร้างโดยพระเจ้าแสนภู ในปีพ.ศ. ๑๘๓๘ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ "โคปผกะธาตุ"
(พระธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาของพระพุทธเจ้า) และโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นสักจำนวน ๓๐๐ ต้นทั่ว
บริเวณ จึงเป็นท่ีมาของชอ่ื วัดป่าสกั ในประชมุ พงศาวดารภาคท่ี ๖๑ มมี หาเถรเจา้ องคห์ น่งึ เอาพระบรม
ธาตุกระดูกตาตีนถ้ำขวา(เบี้องขวา)แห่งพระ พุทธเจ้าใหญ่เท่าเม็ดถั่วกว่าง(ถั่วเขียว)เอามาแต่เขตเมือง
ปาฏลบี ุตรนนั้ เอามาสพู่ ระยาราชแสนดู แล้วทา่ นก็พร้อมกับด้วยมหาเถรเจ้าเอาไปสรา้ งมหาเจดีย์บรรจุ
ไวภ้ ายนอกประตูเชียงแสน ด้านเวยี งแหง่ ตนภายตะวันตก ตอ่ วดั พระหลวงภายนอกท่นี นั้ แลว้ ก็สร้างให้
เป็นความกว้าง ๕๐ วา เอาไม้สักมาปลูกแวดกำแพง ๓๐๐ ต้น แล้วเรียกว่าความป่าสักแต่นั้นมาแล
แลว้ กส็ ร้างกฎุ ใี ห้เป็นทานแกม่ หาเถรเจา้ ตนชอ่ื ว่า พทุ ธโฆษาจารย์ อยู่สถิตทีน่ ้นั ก็อภเิ ษกขน้ึ เป็นสังฆราช
มหาเถร
เจดยี ว์ ดั ป่าสกั เป็นเจดยี ์ห้ายอดคล้ายเจดีย์เชียงยนื ทว่ี ดั พระธาตหุ ริภุญไชย จังหวัดลำพูน แต่มี
ลักษณะคลคี่ ลายออกไปแลว้ คอื ผังสว่ นล่างรูปสเ่ี หลี่ยมจตั ุรสั เตย้ี ๆซ้อนลดหลน่ั รองรบั ช้นั แถวจระนำซึ่ง
ท้งั ส่ีด้านมีซุ้มประดิษฐาน พระพุทธรูปยืนดา้ นละสาม องค์ รวมทัง้ หมด ๑๒ องค์ และยังมีจระนำเล็กอีก
สสี่ ลบั สำหรับประดิษฐานรปู เทวดายนื เหนือขึน้ ไปเปน็ ฐานเขยี งลดหลัน่ ส่ชี ้ัน ชั้นทเี่ พมิ่ ขนึ้ นอกเหนือจาก
ท่ปี รากฏทีเ่ จดยี เ์ ชียงยนื พ้นจากสว่ นนเ้ี หมอื นเจดยี ์เชียงยืนคือ เปน็ ฐานบัวรองรับเรือนธาตุส่ีเหล่ียม แต่
ละด้านมีซมุ้ ประดิษฐานพระพทุ ธรูป ประทับยืนท้ังสีด่ ้าน กรอบซุ้มประดับด้วยฝักเพกาสูงแหลมลดหลั่น
กนั แบบศลิ ปะพุกามท่ีมชี ื่อเรียกวา่ เคล็ก (Clec) ท่ีมมุ เหนอื เรอื นธาตปุ ระดับเจดยี ์องคเ์ ลก็ ๆ เหนือเรือน
ธาตุตรงกลางเป็นแท่นแปดเหลี่ยมมีบัวปากระฆังรองรับองค์ระฆังกลมที่ประดับลายรัดอก เหนือองค์
ระฆงั เปน็ บวั กลมุ่ ซอ้ นกันขนึ้ ไปจนถงึ ปลียอด

๔๗

โบราณสถานวดั เจดีย์หลวง

วัดเจดีย์หลวง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย หรือ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง เป็น
วัดโบราณในอำเภอเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู เป็นวัดที่สำคัญของหิรัญนครเงินยาง อาณาจักร
ล้านนา วัด ได้ชื่อมาจากพระธาตุเจดีย์หลวง ขนาดของพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สูง ๘๘ เมตร มีฐานกว้าง
๒๔ เมตร เป็นพระเจดยี ท์ รงระฆังแบบลา้ นนา

๔๘

วัดเจดีย์หลวง เป็นวัดที่เก่าแก่ของเมืองเชียงแสน พญาแสนภูเป็นกษัตริย์ลำดับที่ ๓ ใน
ราชวงศ์มังราย ทรงเป็นพระราชโอรสองค์โต ของพระยาไชยสงครามและเป็นพระราชนัดดาของพระ
ยามังราย ประสตู เิ มือ่ ปี พ.ศ. ๑๘๒๐ ทรงสรา้ งวัดนี้ข้นึ เมื่อ พ.ศ.๑๘๘๗ หลังจากทท่ี รงสรา้ งกำแพงเมือง
เชียงแสนแล้ว ๓ ปี เจดีย์ประธานของวัดเป็นเจดีย์แบบล้านนา มีขนาดสำหรับประดิษฐานพระบรม
สารีริกธาตุ กระดูกหน้าอก ตอ่ มาพระเมืองแกว้ ตรัสให้ขัดฐานเจดีย์องคเ์ ดมิ แล้วกอ่ เจดีย์องค์ปัจจุบันใน
ปี พ.ศ. ๒๐๕๘ ได้รับการบูรณะอย่างดี สมกับเป็นวัดที่สำคัญของเมืองหิรัญนครเงินยางภายในสมัย
อาณาจักรลา้ นนาไท ศิลปะแบบชาวเหนือ มบี ันไดข้ึนลงทง้ั ๒ ข้าง พระพุทธรปู บนฐานที่ยกสูงข้ึนไปนั้น
มหี ลวงพอ่ เชียงแสน สิงห์ ๑ ประดิษฐานเป็นองค์ประธาน และด้านบน พระพทุ ธอโุ ฆษ พระพุทธรูปปาง
มารวิชยั ประดษิ ฐานเบ้อื งหนา้ องค์หลวงพอ่ เชียงแสนสงิ ห์ ๑

โบราณสถานที่เก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน ภายในบริเวณวิหารของวดั
เจดียห์ ลวงยังมีองค์พระพุทธรูปเชยี งแสน สงิ ห์ ๑ ประดษิ ฐาน เปน็ องค์ประธานอยภู่ ายในพระวิหารของ
วัดพระธาตุเจดีย์หลวง เป็นพระพทุ ธรูที่มคี วามสำคัญ และมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้รับการ
ตกแต่งตามแบบศิลปะชาวเหนือ มีบันไดสำหรับขึ้นลงทั้งสองด้าน เมื่อมองจากด้านหน้าจะสามารถ
มองเหน็ องคพ์ ระปฏมิ ากรสที องเหลอื งอรา่ มได้อย่างชัดเจน

โบราณสถานภายในวัดเจดีย์หลวง มีบริเวณภายในวัดยังมีลานกิจกรรมสำหรับคนในชุมชนใช้
จัดกิจกรรมตา่ ง ๆ เชน่ การแสดงพ้นื บ้านเปน็ ต้น

๔๙

โบราณสถานวัดบญุ ยนื

สถานทตี่ ัง้ ถ.สาย ๒ ต.เวียง (เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน) อ.เชียงแสน
วัดบุญยืน ตั้งอยู่ในริมถนนสาย ๒ ภายในเมืองเชียงแสนด้านทิศเหนือ ใกล้ประตูยางเทิง ตรง

ข้ามกับวัดเชียงม่นั ปจั จบุ นั อยใู่ นเขตเทศบาลตำบลเวียงเชยี งแสนและตัวอำเภอเชยี งแสน
วดั บุญยืนเป็นโบราณสถานที่ไดร้ ับการขุดแตง่ บูรณปฏิสงั ขรณ์ และปรบั ปรุงภมู ทิ ศั นแ์ ลว้ มกี าร

ปลูกต้นไม้และหญ้าคลุมดิน มีป้ายระบุชื่อและข้อมูลโบราณสถาน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้
ทกุ วนั โดยไมเ่ สยี ค่าเขา้ ชม
หนว่ ยงานทด่ี ูแลรักษา: กรมศิลปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน, อำเภอเชียงแสน

๕๐

โบราณสถานวัดออ้ มแก้ว

ตง้ั อยู่ทเี่ ทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน ตำบลเวียง อำเภอเชยี งแสน จังหวัดเชียงราย
วัดอ้อมแก้ว โบราณสถานแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองเชียงแสน ใกล้กับกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก
ประกอบด้วยเจดีย์และพระวิหาร เจดีย์ เหลือเพียงส่วนฐานและเรือนธาตุบางสว่ น คือฐานเจดีย์เป็นชั้น
หน้ากระดานสี่เหลี่ยมซ้อนลดเหลี่ยม ๓ ชั้น เหนือขึ้นไปเป็นชั้นหน้ากระดานยกเก็จรองรับชั้นบัวคว่ำ
และท้องไม้คาดลูกแก้วอกไก่และยังพบร่องรอยการก่อสรา้ งซ้อนทบั ๒ ครั้ง มลี านประทักษิณรอบเจดีย์
วิหาร เหลือเพียงสว่ นฐาน วางตัวในแนวทิศตะวันออก – ตะวันตก หันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามคติ
ของพระพุทธศาสนา ฐานวิหารมีการย่อเก็จ ๑ ชั้น การยกเก็จของฐานวิหารมีความสัมพันธ์กับการลด
ชั้นของหลังคา สันนิษฐานว่ามีหลังคาซ้อนลดหลั่น ๒ ชั้น บันไดอยู่ทางด้านหน้าและฐานชุกชีมีการ
กอ่ สร้างซอ้ นทบั ๘ ครงั้ สนั นษิ ฐานวา่ เป็นสถาปตั ยกรรมล้านนาอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑ – ๒๒
วัดอ้อมแก้ว เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่ภายในเมืองเชียงแสนใกล้กับกําแพงเมือง ด้านทิศ
ตะวันตกประกอบด้วยเจดีย์และวิหาร จากลักษณะทางศิลปะเจดีย์เหลือเพียงส่วนฐานและเรือธาตุ
บางสว่ น คอื ฐานเจดียเ์ หนือขน้ึ ไปเป็นชน้ั หนา้ กระดานยกเก็จรองรบั บัวคว่ำและท้องไมค้ าดลูกแก้วอกไก่
และยังพบร่องรอยการก่อสร้าง ซ้อนทับ ๒ ครั้ง มีลานประทักษิณรอบเจดีย์ส่วนวิหารเหลือเพียงส่วน
ฐาน วางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก หันหน้าไป ทางทิศตะวันออกตามคติของพระพุทธศาสนา
สันนิษฐานวา่ มีหลังคา ซ้อนลดหลั่น ๒ ชั้น บันไดอยู่ทางด้านหน้า ฐานชุกชีมีการก่อสร้างซ้อนทับกัน ๘
ครั้ง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑-๒๒ สภาพปัจจุบันของพื้นที่โบราณสถานมีต้นไม้
ปลูกไว้หน้าเจดีย์ ปลูกต้นกล้วย กองไผ่หลังวิหาร ส่วนเจดีย์ที่เหลือเพียงส่วนที่เป็นฐาน และมีวิหารท่ี
เหลือไม่มีรูปทรงแต่ฐานเป็นรูปทรงสี่เหลียมผืนผ้า ความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนต่อโบราณสถาน
คอ่ นข้างน้อย ปัจจบุ นั โบราณสถานแหง่ นี้เหลือซากไว้เพยี งเลก็ น้อย และไม่เปน็ รูปทรง

๕๑

โบราณสถานวดั มหาธาตุ

ต้ังอยู่ท่ีตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๖ แม่จัน-เชยี งแสน) เทศบาลตำบลเวียงเชยี งแสน

ตำบลเวยี ง อำเภอเชยี งแสน จังหวัดเชยี งราย
วัดมหาธาตุตั้งอยู่ช่วงกลางเมืองฝั่งด้านทิศตะวันตก ภายในเมืองเชียงแสน ริมประตูเชียงแสน

หวั มุมระหว่างถนนพหลโยธินกบั ถนนรอบเวยี ง
วดั มหาธาตเุ ปน็ โบราณสถานร้างท่ีได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และปรับปรุงภูมิทัศน์แล้ว

สภาพทั่วไปร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ พื้นดินมีการปลูกหญ้าและทำทางเดินอิฐ มีป้าย
ระบุชื่อและข้อมูลโบราณสถานสำหรับผู้เยี่ยมชม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไม่เสีย
คา่ เข้าชม

วัดมหาธาตุ เมืองเชียงแสน ได้รบั การประกาศข้ึนทยี นโบราณสถาน ๒ ครง้ั
ครั้งที่ ๑ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๗๔ ตอน ๙๖ วันที่ ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๐๐ เร่ือง
การกำหนดจำนวนและขอบเขตโบราณสถานสำหรบั ชาติ
ครั้งที่ ๒ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม ๙๗ ตอน ๔๑ วันที่ ๑๔ มนี าคม ๒๕๒๓ เรอ่ื ง การ
กำหนดเขตที่ดินโบราณสถานสำหรับชาติ
หน่วยงานที่ดแู ลรักษา กรมศลิ ปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน, อำเภอเชียงแสน

๕๒

โบราณสถานวัดอุดม

ต้งั อยทู่ ี่ถนนทัพม่าน เทศบาลตำบลเวียงเชยี งแสน ตำบลเวยี ง อำเภอเชยี งแสน จังหวดั เชียงราย
วัดอุดม ตั้งอยู่สี่แยกรมิ ถนนทัพม่านและถนนสาย ๑ ติดกับโบราณสถานหมายเลข ๑๒ ภายใน

เมอื งโบราณเชยี งแสน ซงึ่ ปัจจบุ ันอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและตวั อำเภอเชยี งแสน
เป็นแหล่งท่องเที่ยว โบราณสถานวัดอุดมเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์

และปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นดินโดยรอบโบราณสถานมีวัชพืชขึ้นหนาแน่นมาก มีป้ายระบุชื่อและข้อมูล
โบราณสถานสำหรบั ผู้เยี่ยมชม แต่ป้ายให้ข้อมูลหันด้านหน้าไปทางกำแพงและพื้นทีร่ กร้างที่มีวัชพืชข้ึน
สูง ทำให้ผู้เยย่ี มชมไมส่ ามารถอ่านได้

๕๓

โบราณสถานวดั สบเกย๋ี ง (นอกเมอื ง)

ต้งั อยูท่ ี่ ถนนรมิ โขง ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข ๑๒๙๐ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จงั หวัด
เชียงราย ๕๗๑๕๐

วดั สบเกยี๋ งตง้ั อยนู่ อกกำแพงเมอื งเชียงแสนดา้ นทศิ เหนือ เป็นคูเมอื งเชียงแสนดา้ นทิศเหนือ อยู่
เรียบรมิ ฝ่งั ถนนริมโขงมุ่งหน้าทศิ เหนือหรือเส้นทางไปสามเหลีย่ มทองคำประมาณ ๒๗๐ เมตร เข้าซอย
สู่วัดสบเกีย๋ งอยู่ทางซ้ายมอื (วัดสบเกี๋ยงตัง้ อยู่ด้านหลังบา้ นเรือนราษฎร) วัดสบเกี๋ยงเปน็ โบราณสถานท่ี
ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และปรับปรุงภูมิทัศน์ สภาพทั่วไปร่มรื่น มีการปลูกหญ้าคลุมดิน
ล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนราษฎร มีป้ายระบุชื่อ และข้อมูลโบราณสถานสำหรับ นักท่องเที่ยวสามารถ
เข้าหาขอ้ มูลไดต้ ลอดเวลา

๕๔

โบราณสถานวดั จอมหมอกหรือจอมสวรรค์ (นอกเมือง)

วัดจอมหมอก ตั้งอยู่บนเนินทางทิศตะวันตกนอกกำแพงเมืองเชียงแสน สภาพพื้นที่ของวัดมี
ความลาดเอียงจากทิศตะวันออกลงสู่ทางทิศตะวันตก วัดจอมสวรรค์ (ร้าง) ทางทิศเหนือ คูเมือง /
กำแพงเมืองเชียงแสน ทางทิศตะวันออก ส่วนทางทิศใต้ และตะวันตกเป็นพื้นที่ลาดเอียงเชิงเขาและท่ี
ราบ โบราณคดีทว่ี ัดนีเ้ ม่ือปี พ.ศ.๒๕๔๘ หลกั ฐานด้านชน้ั ดินการทับถมท่ีพบการท้ิงรา้ งและพังทลายของ
สิง่ ก่อสรา้ งในระยะหลังสมัยล้านนา หรอื หลังพทุ ธศตวรรษที่ ๒๑ ผังรปู แบบการสรา้ งวัด ลักษณะมีพระ
เจดีย์เป็นสิ่งก่อสร้างหลักและสร้างพระวิหารตัดกันทางทิศตะวันออกอันถือเป็นทิศทา งการหันหน้าวัด
โดยทั่วไปในล้านนาที่นิยมสร้างวัดให้หันหน้าทางทิศตะวันออก พระเจดีย์ สร้างก่ออิฐ (ฉาบปูน) พบ
หลักฐานการซ่อมบูรณะเพ่ิมเติมในระยะหลงั อยา่ งน้อย ๓ คร้ัง ลักษณะปจั จุบนั เป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบ
สุโขทัย จากการทำชั้นมาลัยเถา (ตอนล่างองค์ระฆัง) แบบถวั ถลาซ้อนกนั ไม่มชี ้ันฐานปัทย์ย่อเก็จรองรับ
พระวิหาร ลักษณะแต่เดิมเป็นอาคารฐานสี่เหลี่ยมหลังคาเครื่องไม้ทรงจั่ว สภาพปัจจุบันพังทลายเหลือ
หลักฐานเฉพาะสว่ นฐานกอ่ อฐิ ทพี่ บการซอ่ มบรู ณะระยะหลังเพม่ิ เตมิ รวม ๖ ครงั้ กำแพงแกว้ ท่ลี อ้ มรอบ
องค์พระเจดีย์และวิหาร สภาพพังทลายเสียหายมาก โดยพบบันไดทางขึ้นทางด้านทิศตะวันออก ด้าน
เหนือ และด้านใต้ ส่วนโบราณวัตถุสำคัญที่พบจากการขุดแต่ง นอกจากเศษภาชนะดินเผาแหล่งเตา
ล้านนาท่พี บท้ังจากแหล่งเตาลา้ นนาและสโุ ขทัยแลว้ อฐิ บางก้อนจำนวนรว่ ม ๕๐ ชิ้น ได้พบรอยขีดเขียน
และจารึกอักษรล้านนาในระยะพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เช่นเดียวกับ ชั้นส่วนกระเบื้อดินเผามุงหลังคา (ดิน
ขอ) ทีบ่ างช้ินทำลวดลายท่ีสว่ นขอเกย่ี วด้านนอก ชิน้ ส่วนพระพุทธรปู ปูนปั้นท่ีมลี ักษณะพื้นเมืองล้านนา
แบบสิงห์ (พระพทุ ธสิหงิ ค์) ลวดลายปนู ปนั้ รปู แบบตา่ ง ๆ ตะปจู ีน – ตะปปู ลิง แผ่นโลหะฉลลุ าย ชน้ิ ส่วน
ฐานพระพทุ ธรูปสำรดิ และแก้ว กลอ้ งยาสูบดนิ เผา (กลอ้ งบยู า) เฉพาะอย่างยิ่ง ไดพ้ บเศษภาชนะดินเผา
จีนแบบเคร่อื งเคลือบเนือ้ ขาว เขียนลายสีนำ้ เงินใต้เคลือบ สมยั ราชวงศห์ มิง (พ.ศ.๑๙๑๑ – ๒๑๘๗)

วัดจอมหมอก เป็นหนึ่งในจำนวนวดั ร้างกว่า ๗๐ วัด ที่ตั้งอยู่นอกขอบเขตกำแพงเมือง คูเมือง
เชียงแสน ท่แี สดงถึงความเป็นเมืองท่ีชุมชนเลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ดังปรากฏในเอกสารทาง
ประวัติศาสตร์ที่กษัตรยิ ์ล้านนาหลายพระองค์ได้เสด็จมาทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา เฉพาะอย่างยิ่งการ
ปรากฏอิทธิพลศิลปะสุโขทัยในหลาย ๆ วัด รวมถึงเจดีย์ของวัดจอมหมอกแสดงถึงความสัมพันธ์ไมตรี
อันดี ทั้งด้านการเมืองและพุทธศาสนาระหว่างแคว้นล้านนากับแคว้นสุโขทัยในอดีต เช่นเดียวกับ
หลักฐานเครื่องถ้วย จากแหล่งเตาในล้านนา แหล่งเตาสุโขทัย ศรีสัชนาลัย รวมไปถึงแหล่งเตาจาก
ประเทศจนี แสดงถงึ ระบบเศรษฐกิจการคา้ ทด่ี ีในระยะเวลา ๕๐๐ – ๗๐๐ ปี

๕๕

โบราณสถานหมายเลข ๖ (วัดร้าง)

วดั รา้ งหมายเลข ๖ เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน ตำบลเวียง อำเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย

๕๖

โบราณสถานหมายเลข ๑๒

โบราณสถานหมายเลข ๑๒ ตั้งอยู่รมิ ถนนสาย ๑ ภายในเมืองโบราณเชียงแสน ซง่ึ ปัจจบุ ันอยูใ่ น
เขตเทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสนและตวั อำเภอเชียงแสน

โบราณสถานหมายเลข ๑๒ เป็นโบราณสถานท่ไี ด้รับการขุดแต่ง บรู ณปฏิสังขรณ์ และปรบั ปรงุ
ภูมิทศั น์แลว้ แตพ่ น้ื ดินโดยรอบโบราณสถานมวี ัชพชื ข้นึ หนาแน่นมาก มีป้ายระบุชอื่ และข้อมูล
โบราณสถานสำหรับผูเ้ ยยี่ มชมนักท่องเท่ียวสามารถเข้าเยีย่ มชมได้ทุกวนั

๕๗

โบราณสถานหมายเลข ๒๑

โบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) ตงั้ อยู่ทเี่ มืองเชยี งแสนนอ้ ย ริมทางหลวงหมายเลข
๑๑๒๙ (เชยี งแสน-เชยี งของ) ห่างจากคูเมอื งด้านทศิ ใต้ของเมืองเชยี งแสน มาทางทิศใตต้ ามทางหลวง
หมายเลข ๑๑๒๙ ประมาณ ๔.๖ กโิ ลเมตร จะพบโบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) ทางขวามือ

โบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) เป็นโบราณสถานทไี่ ดร้ บั การขุดแต่ง บูรณปฏสิ ังขรณ์
และปรับปรงุ ภมู ิทัศน์แล้ว แต่ไม่มปี ้ายระบชุ อ่ื และข้อมูลโบราณสถาน นกั ท่องเท่ยี วสามารถเขา้ เยีย่ มชม
ไดท้ ุกวนั

๕๘

โบราณสถานหมายเลข ๒๕

โบราณสถานหมายเลข ๒๕ ตั้งอยู่รมิ ถนนสาย ๑ ภายในเมืองโบราณเชยี งแสน ซ่งึ ปัจจบุ ันอยู่ใน
เขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและตัวอำเภอเชียงแสน

โบราณสถานหมายเลข ๒๕ เป็นโบราณสถานที่ได้รบั การขุดแตง่ บูรณปฏิสังขรณ์ และปรับปรงุ
ภูมทิ ัศน์แล้ว แตพ่ ื้นดนิ โดยรอบโบราณสถานมวี ัชพืชขน้ึ หนาแนน่ มาก มีป้ายระบชุ ่อื และข้อมูล
โบราณสถานสำหรบั ผู้เยี่ยมชม นกั ท่องเทยี่ วสามารถเข้าเย่ียมชมไดท้ ุกวัน

๕๙

โบราณสถานวัดปา่ งัวเชียง

สถานที่ต้ัง หมู่ที่ ๒ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จงั หวดั เชียงราย
วัดป่างัวเชียง ประวัติศาสตร์จากเอกสารและหลักฐานทางโบราณคดีโบราณสถานแห่งนี้ได้มี

การบรู ณะโดยกรมศลิ ปากร เม่อื พ.ศ.๒๕๔๘ และ ๒๕๔๙ แสดงใหเ้ ห็นถงึ เจดียว์ หิ าร และโบราณวัตถุท่ี
สำคัญหลายชิ้นด้วยกันจากลักษณะทางศิลปะ จากการขุดแต่งทางโบราณคดีพบวิหารและเจดีย์วิหารมี
แผนผังอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เจดีย์เป็นทรงระฆังย่อมุ่มไม้ ๒๔ รองรับฐานบัวที่เชิดปลายกลีบบัวและ
ประดับลูกแก้วอกไก่ ๒ ชิ้นเหนือขึ้นไปหักพังทลายลง และพบว่าส่วนฐานมีการสร้างซ้อนกันอย่างน้อย
๒ สมัย แต่ทั้งนี้น่าจะเป็นเจดีย์ในรูปทรงเดิมคือ เจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาสันนิษฐานจากรูปแบบ
สถาปัตยกรรม น่าจะสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๑นอกจากนั้นยังพบพระพุทธรูปสำริด พระ
พิมพ์ ที่มีเครื่องทรงคล้ายกับเทวดาที่วัดเจ็ดยอด เชียงใหม่ ซึ่งสามารถกำหนดอายุได้ราวกลางพุทธ
ศตวรรษที่ ๒๑๑สภาพปัจจุบัน ถึงแม้จะได้รับการบูรณะแล้วแต่มีความทรุดโทรมของโบราณสถาน
บริเวณโดยรอบมีหญ้าขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณ ปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้เป็นวัดร้าง มีร่องรอยของการ
บรู ณะโบราณสถาน รวมทง้ั การใช้พ้ืนที่วา่ งของโบราณสถานในการจอดรถ คนในชุมชนมคี วามสัมพันธ์ท่ี
ดีตอ่ โบราณสถานแห่งนี้เพราะเป็นสง่ิ ก่อสร้างที่มมี าต้ังแตส่ มัยดัง้ เดิมชาวบ้านบางคนเกดิ และโตมาพร้อม
กบั สถานทแ่ี หง่ นจ้ี ึงเกดิ ความผูกพนั และหวงแหน ในทุกๆ วันพระหรอื เทศกาลทางศาสนาก็จะร่วมกันนํา

๖๐

ดอกไม้มาไหวส้ ักการะอยูเ่ ปน็ ประจำคนในชุมชนค่อนข้างมีความเชื่อและเคารพนบั ถือโบราณสถานแห่ง
นีเ้ พราะในบริเวณโบราณสถานพบว่าชาวบ้านได้เข้ามาสักการะนําอาหาร เครอ่ื งดื่มและสิ่งของมาวางไว้
บริเวณโบราณสถานด้วย

ตง้ั อย่ภู ายในเมืองเชียงแสนติดกับแม่น้ำโขง จากการขดุ แต่งทางโบราณคดีพบ วหิ าร เจดยี ์ และ
อาคารอีกสองหลังวิหาร มีแผนผังอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ลดมุขด้านหน้า
มบี นั ไดทางขึ้นดา้ นหน้าและดา้ นขา้ งทง้ั สองข้างใกล้กับฐานชกุ ชโี ดยเฉพาะบันไดขา้ งดา้ นทิศเหนือ พบว่า
มรี าวบนั ไดประดบั ตวั เหงา ดา้ นบนอาคารพบฐานชุกชี พนื้ ปอู ิฐและเสา ส่วนฐานอาคารตกแต่งเป็นฐาน
บวั เจดีย์ เป็นเจดียร์ ะฆัง ย่อมุมไม้ ๒๔ รองรับฐานบวั ที่เชดิ ปลายกลบี บัวขึน้ และประดับลูกแกว้ อกไก่ ช้ัน
เหนอื ข้นึ ไปหักพลังพลายลง รอบเจดยี ม์ ีลานประทกั ษิณ แทน่ บชู าและบนั ไดข้นึ สพู่ น้ื ลานประทกั ษิณ
อาคารหมายเลข ๑ ตั้งอยู่ติดลานประทักษิณด้านทิศใต้ของเจดีย์ มีแผนผังสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกเก็จ
ด้านหน้า พื้นปูอิฐอาคารหมายเลข ๒ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเจดีย์ มีแผนผัง
ส่ีเหลีย่ มผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวนั ออก ฐานอาคารตกแตง่ เป็นฐานบวั

๖๑

โบราณสถานวัดคว้าง

สถานทตี่ ้งั หลงั ตลาดสด อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชยี งราย
ปัจจบุ นั เปน็ โบราณสถานร้าง ท่ีอย่ใู นชมุ ชนที่มที ี่พักอาศัยล้อมรอบ ทำใหท้ ัศนยี ภาพโดยรวม

หายไป ซากวิหาร และเจดียไ์ ด้หกั พักไปตามเวลา สถานการณ์ กรมศิลปากรเปน็ ผดู้ ูแลรับผดิ ชอบใน
การบูรณะ

๖๒

โบราณสถานวัดมหาโพธ์ิ

วดั มหาโพธิ์ ต้ังอยูท่ างทิศตะวันออกเฉยี งเหนือภายในเมืองเชียงแสน ริมถนนรมิ โขง (ทางหลวง
หมายเลข ๑๒๙๐) ทางทศิ ตะวนั ตกเฉียงใตข้ องวดั มงคล

วัดศรีมหาโพธิ์เป็นโบราณสถานในเมืองเชียงแสนที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และ
ปรบั ปรงุ ภมู ทิ ัศนแ์ ล้ว ปจั จุบันเป็นวดั รา้ งทสี่ ำคัญแห่งหนึ่งของเชยี งแสน ชาวเชยี งแสนให้การเคารพบูชา
มาก โดยทกุ วันท่ี ๑๖ เมษายนของทุกปี ซ่ึงเป็นวนั ปากปข๋ี องคนเมอื ง ชาวบา้ นจะนำไมง้ ่ามขนาดใหญ่มา
ค้ำกิ่งโพธิ์ (ค้ำสะหรี่) มีการประดับตกแต่งไม้ค้ำ และยังนำไม้ง่ามขนาดเลก็ (จำนวนมากกว่าอายุจริง ๑
อัน) มามัดกองรวมกันไว้ใต้ต้นโพธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ (สงกรานต์) ภายในพื้นที่มีการ
ปลูกตน้ ไมแ้ ละหญ้าคลมุ ดิน มปี ้ายระบุชือ่ และขอ้ มลู โบราณสถานสำหรับผูเ้ ยี่ยมชม นกั ท่องเที่ยวท่ีสนใจ
สามารถเขา้ เยยี่ มชมไดท้ ุกวนั

๖๓

โบราณสถานวดั สังฆาแกว้ ดอนทัน

วัดสังฆาแก้วดอนหัน อยู่ถนนเลียบแม่น้ำเชียงแสน-เชียงของ ใกล้วัดพระธาตุจอมกิตติ มี
ประวตั ติ ามตำนานว่า สรา้ งโดยพระเจา้ ลวจักราช เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๒ แต่หลกั ฐานท่ีพบแสดงว่า
มีอายุอยู่ในช่วงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ ๒๑ กรมศิลปากรได้ขุดพบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ
มากมาย โดยเฉพาะภาพบนแผ่นอฐิ เป็นเรื่องราวเก่ยี วกบั ทศชาติตอนเวสสันดรชาดก เช่น พระเวสสนั ดร
เดินป่า ชูชกเฝ้าพระเวสสันดร เป็นต้น ลักษณะของภาพเป็นการเขียนลงบนอิฐก่อนการเผาอิฐถูกนำมา
กอ่ เปน็ ผนังและฉาบปูนปิดทับ ความศรทั ธาของชาวบ้านผ้สู ร้างวัดถวายมากกว่าเจาะจงให้คนมาชม พบ
ชิ้นส่วนจิตรกรรมฝาผนังที่หลุดพังมาจากผนงั วิหาร มีสภาพแตกหักแต่ยังคงเหลือลักษณะของสีและตัว
ภาพซ่ึงใชส้ ีชาดและสแี ดงเพยี ง ๒ สี นับไดว้ า่ เป็นการคน้ พบท่ีสำคญั ทางวชิ าการอยา่ งยิ่ง

วัดสังกาแก้วดอนหนั เป็นอีกหนึ่งวัดในเชยี งแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ป้ายภายใน
วัดนั้น มีเร่ืองเลา่ ตามพงศาวดารโยนกถึงทีม่ าว่า หลังสรา้ งเมืองหิรัญนครเงินยางแล้ว ลาวจกได้สร้างวดั
ชื่อ สังฆาแก้วดอนทัน หรือวัดสังกายางเงิน ประมาณ พ.ศ.๑๑๘๒ บริเวณต้นหมากตัน(พุทรา) ตรงกับ
ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๑ ว่า วัดสังกายางเงินตั้งอยู่หัวเวียงด้านทิศตะวันออก ใกล้วัดผ้าขาวป่าน
ปจั จบุ ันเป็นวัดร้างคงเหลือฐานเจดียอ์ ยูด่ ้านหลังวหิ ารซึง่ หันหน้าไปทางทศิ ตะวันออก และฐานอุโบสถ ท่ี
วัดนี้ไดพ้ บภาพจารึกบนแผ่นอิฐ เป็นภาพเลา่ เรือ่ ง มหาเวสสนั ดารชาดก เช่น ตอนพระเวสสันดรเดนิ ปา่
ชูชกเฝ้าพระเวสสันดร เป็นต้น สันนิษฐานจากรูปแบบสถาปัตยกรรมแล้ว วัดนี้น่าจะสร้างขึ้นประมาณ
พุทธศตวรรษท่ี ๒๑ และร้างไปเมือ่ ประมาณ พ.ศ. ๒๓๔๗ ในช่วงสงครามขับไลพ่ มา่

สาเหตุที่วัดสังกาแก้วดอนหันเป็นการค้นพบที่สำคัญก็คือ ภาพจารึกบนแผ่นอิฐที่พบนั้น
ลักษณะของภาพเป็นการเขียนลงบนอิฐก่อนการเผา จากนั้นอิฐดังกล่าวถูกก่อปูนปิดทับ สันนิษฐานว่า
คงจะทำขึ้นด้วยความศรัทธามไิ ด้มีเจตนาจะให้ชมภาพ นอกจากนี้ยงั พบชิน้ สว่ นจติ รกรรมฝาผนงั ท่หี ลุด
พังมาจากผนังวิหาร ซึ่งแม้ว่าจะมีสภาพแตกหักแต่ยังคงเหลือลักษณะของสีและตัวภาพอยู่ ซึ่งจุดท่ี
น่าสนใจคือ มีการใช้สีชาดและสีแดงเพียง ๒ สีเท่านั้น เป็นรูปแบบเก่าแก่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ นับได้ว่าเป็นข้อมลู ทางวิชาการที่สำคัญยิ่งการเดนิ ทาง: ใกล้วัดพระธาตุจอม
กิตติ ไปตามถนนเชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ สอบถามเส้นทางโดยละเอียดได้จากข้อมูลด้านล่างนี้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: องค์การบริหารส่วนตำบลเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โทร. ๐๕๓-
๖๕๐๘๐๓

๖๔

โบราณสถานวดั เสาเคยี น

สถานทต่ี ั้ง ถนนรมิ โขง ตำบลเวียง อำเภออำเภอเชยี งแสน จงั หวดั เชียงราย
วัดเสาเคียน เป็นวัดร้างกลางชุมชม ที่มีซากฐานพระวิหารสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ และ

พระพทุ ธรูปปางมารวชิ ัยปูนป้นั ท่เี หลือเพยี งพระอุระ
วดั เสาเคยี น (Wat Sao Khian) เชียงแสน (วดั ร้าง) ถนนรมิ โขง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน

จังหวัดเชียงราย ๕๗๑๕๐

๖๕

โบราณสถานวัดร้อยข้อ

สถานทีต่ ัง้
วัดร้อยข้อ ตั้งอยู่ที่ ถ.ริมโขง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ๕๗๑๕๐ วัดร้อยข้ออยู่ซ้ายมือใกล้สี่

แยกตัด ถ. หนองมูต ที่มาจากป้อมประตูหนองมูต ไปออกถนนริมแม่น้ำโขง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.
เชยี งราย

วัดร้อยข้อ (วัดร้าง) Wat Roi Ko เชียงแสน ถนนริมโขง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัด
เชยี งราย ๕๗๑๕๐

องค์การบริหารส่วนตำบลเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โทร / แฟ็กซ์ :: ๐๕๓-
๖๕๐๘๐๓ (อบต.เวียง)

วดั รอ้ ยข้อ อยซู่ ้ายมอื ใกลส้ ี่แยกที่ตดั กับ ถ. หนองมตู ทม่ี าจากปอ้ มประตูหนองมูต ไปออกถนน
รมิ แม่นำ้ โขง ต.เวยี ง อ.เชยี งแสน จ.เชยี งราย เปน็ วัดรา้ งทไ่ี ดร้ บั การบรู ณะเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๔ มเี จดีย์แปด
เหลี่ยมแบบล้านนา ทางด้านทิศตะวันออกเป็นวิหารที่เหลือแต่ฐานรากและฐานชุกชีประดิษฐาน
พระพุทธรูปสขี าว

น่าจะสร้างราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ และเกี่ยวพันกับการอพยพของชุมชนเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๗ ใน
ยุคเกบ็ ผกั ใสซ่ ้า เกบ็ ขา้ ใส่เมอื ง

๖๖

โบราณสถานวัดมหาอาราม

วดั เชยี งมน่ั (ร้าง)

สถานทตี่ ง้ั
ตำบลเวยี ง อำเภออำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

วัดเชียงมั่น ตั้งอยู่ปากซอย ๑ ริมถนนสาย ๒ ฝั่งด้านทิศตะวันตกภายในเมืองเชียงแสนดา้ นทิศ
เหนอื ใกลป้ ระตูยางเทิง (ห่างจากประตยู างเทงิ มาทางทิศใต้ประมาณ ๑๕๐ เมตร) ตรงขา้ มกับวัดบญุ ยืน
ปจั จบุ นั อยใู่ นเขตเทศบาลตำบลเวียงเชยี งแสนและตวั อำเภอเชยี งแสน

ตำนานพน้ื เมืองเชยี งแสนระบุวา่ ครัง้ พญาลวะจังกราช สรา้ งเมอื งหริ ัญนครเงินยางเชียงแสนน้ัน
ทรงสร้างวัดนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๑๘๓ ชื่อว่า “อารามเชียงมั่นช้างคุง” และบรรจุพระธาตุกระดูกคาง
ด้านซ้าย (วามหานุกัง) ที่พระมหาเถรญาณรังสี นำมาจากเมืองปาตลีบุตร ต่อมาครั้งพญาแสนภูสร้าง
เมอื งเชยี งแสนในราว พ.ศ.๑๘๗๐ เสดจ็ เข้าทางประตูยางเทิงและมาประทับที่นี้ ทรงเห็นซากอารามเก่า
จงึ ทรงให้ปฏิสงั ขรณ์เป็นวดั ข้ึนใหม่ ชือ่ ว่า “อารามเชยี งมั่น” และใน พ.ศ.๒๓๔๗ ครั้งทัพล้านนายกมาตี
พม่าที่เมืองเชียงแสน วัดนี้จึงถูกทิง้ รา้ งไป มีการพบพระพุทธรปู ที่วัดเชียงมั่น โดยเป็นพระพุทธรปู โลหะ
ปางมารวชิ ัย ขดั สมาธิเพชร (ปจั จบุ นั จัดแสดงอยู่ท่พี ิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาติ เชยี งแสน) ลกั ษณะโดยรวม
เปน็ แบบสิงห์หนง่ึ อายุราวต้นพทุ ธศตวรรษท่ี ๒๑ โบราณสถานทป่ี รากฏในปัจจุบันมเี พียงฐานวิหารและ
ฐานเจดีย์ วิหาร ก่ออิฐถือปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ ๑๐ เมตร ยาวประมาณ ๒๗ เมตร
หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีบันไดขึ้นทางด้านหนา้ บนฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปปูนป้ัน เจดีย์
ตั้งอยู่ด้านหลังหรือทิศตะวันตกของวิหาร ผังส่วนฐานเป็นรูปแปดเหลี่ยม จากลักษณะสถาปัตยกรรม
และโบราณวัตถุทำให้สันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่า โบราณสถานแห่งนี้น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงต้นพุทธ
ศตวรรษที่ ๒๑

๖๗

โบราณสถานวัดอโศก-ช้างคำ้

วัดช้างค้ำ ปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและตัวอำเภอเชียงแสน ตั้งอยู่ติดกับ
วัดอโศก หลังบ้านเรือนราษฎร ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากริมถนน แต่สามารถเข้าได้ทางถนนทัพ
ม่าน (มปี า้ ยบอกทางเขา้ ทีร่ มิ ถนน) โดยจำเป็นต้องเดินผ่านท่ดี นิ รกร้างของเอกชน มกี ำแพงและประตูรั้ว
กน้ั

วัดช้างค้ำเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และปรับปรุงภูมิทัศน์แล้ว แต่
พื้นดินโดยรอบโบราณสถานมีวัชพืชขึ้นหนาแน่นมาก มีป้ายระบุชื่อและข้อมูลโบราณสถานสำหรับผู้
เยี่ยมชม

โบราณสถานวัดช้างค้ำและวัดอโศกที่ตั้งอยู่ติดกัน เป็นโบราณสถานขนาดใหญ่และสำคัญของ
เมืองเชียงแสน แต่ถูกล้อมรอบด้วยบ้านเรอื นราษฎร ทำให้ไม่สามารถสังเกตเหน็ โบราณสถานไดจ้ ากริม
ถนน แมว้ า่ จะมีป้ายบอกทางเข้าอยู่ริมถนน แตเ่ น่อื งจากทางเดนิ เข้าเปน็ พื้นทรี่ กร้างของเอกชน มีวัชพืช
และต้นไมข้ ึน้ สูง มกี ำแพงและประตูรวั้ กนั้ จงึ ไมส่ ะดวกในการเขา้ ชม
นกั ท่องเท่ยี วสามารถเข้าเยี่ยมชมไดท้ ุกวัน

๖๘

โบราณสถานวดั อาทิตน้ แกว้

วัดอาทิต้นแก้ว ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือภายในเมืองเชียงแสน ปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาล
ตำบลเวียงเชยี งแสนและตัวอำเภอเชยี งแสน รมิ ถนนสาย ๒ ฝั่งด้านตะวนั ออก

วัดอาทิต้นแก้วเป็นโบราณสถานในเมืองเชียงแสนที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และ
ปรับปรุงภูมิทศั น์แล้ว มีการปลูกหญ้าคลุมดนิ แต่ขณะสำรวจหญ้าและวัชพืชอื่นๆ ขึ้นค่อนข้างสงู ทั้งยัง
ขึ้นที่ตัวโบราณสถานด้วย ภายในพื้นที่โบราณสถานมปี ้ายระบุชือ่ และขอ้ มูลโบราณสถานสำหรับผู้เยี่ยม
ชม นกั ท่องเทย่ี วทสี่ นใจสามารถเข้าเยย่ี มชมไดท้ กุ วนั โดยไม่เสยี คา่ เข้าชม

๖๙

โบราณสถานวดั บา้ นรอ้ ง

โบราณสถานแห่งนี้อยู่ภายในเมืองเชียงแสนด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้กับแม่น้ำโขง
ประกอบด้วยอาคาร ๕ หลังคือ วิหาร ห้องท้ายวิหาร เจดียร์ าย(ช้างลอ้ ม) เจดียร์ ายและเจดียส์ ถปู จำลอง
ไม่ปรากฏประวัติความเป็นมาจากเจดีย์รายที่มีการประดับช้างล้อม พบว่ามีรูปแบบลักษณะเดียวกับ
เจดีย์ประธานวัดช้างค้ำและพระธาตุภูเขา แตท่ ี่วัดแหง่ นี้เป็นเจดีย์ราย จึงน่าจะมอี ายหุ ลังกวา่ ท้ังสองแห่ง
ที่กล่าว ในช่วงครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ ๒๐ เป็นต้นมา และใช้งานจนถึงในช่วงต้นพุทธศตวรรษท่ี
๒๒ และทงิ้ ร้างไปในชว่ งเวลานี้หรืออาจจะหลังจากนีไ้ ปไมน่ านนัก

๗๐

โบราณสถานวดั สวัสด(ี สสั ด)ี

สถานทตี่ งั้
ตำบลเวยี ง อำเภออำเภอเชยี งแสน จังหวดั เชียงราย

วัดสัสดี จากลักษณะทางศิลปะมีมณฑปก่ออิฐถือปูนหลังคาค่อนไปทางด้านตะวันออก เป็น
ทางเขา้ ด้วยลักษณะอาคารสี่เหลย่ี ม ส่วนบนทางเขา้ เป็นคูหามผี นงั สปี ูนแดงคล้ำ ส่วนวหิ ารต้ังอยู่ทางทิศ
ตะวันออกเชื่อมต่อจากมณฑป รูปแบบของเจดีย์อาจมีเค้าโครงของเจดีย์รุ่นแรกในกลุ่มวัดจอมหมอก
ฐานของมณฑปที่เป็นฐานบวั ลูกฟักและคติการสร้างมณฑปท้ายวหิ ารหรือคันธกฏุ ีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึง
ความสมั พนั ธท์ างดา้ นรูปแบบกับสโุ ขทยั โดยเฉพาะเมืองศรีสัชนาลัย ดังนั้นจึงนา่ จะเปน็ หลกั ฐานสําคัญท่ี
แสดงให้เหน็ ถงึ วัดในระยะแรกของเมืองเชียงแสนอย่างน้อยน่าจะมีอายุต้งั แต่ราวตน้ พุทธศตวรรษที่ ๒๐
เป็นต้นมาสภาพปจั จบุ ัน เป็นวดั ร้างที่อยู่ในเขตกาํ แพงเมืองด้านทิศตะวนั เฉียงใต้ติดกบั แมน่ ้ำโขง เป็นวัด
ที่มีขนาดใหญ่ อาคารหลักประกอบด้วยเจดีย์ประธาน มีวิหารอยู่ด้านหน้า ท้ายวิหารมีมณฑป อาคาร
ทั้งหมดตั้งอยู่บนฐานไพทีเดียวกัน มณฑปท้ายวิหารใช้ผนังเชื่อมต่อกัน หลักฐานทางศิลปกรรมคือ
พระพุทธรูปสําริดที่เป็นพระประธานของวัด ปัจจุบันอยู่ที่ประดิษฐานในวิหารวัดปงสนุก ในอดีตพื้นท่ี
สว่ นใหญ่ยงั คงเป็นป่า เม่อื มกี ารเริ่มตงั้ บา้ นเรือนที่อยู่อาศยั จงึ เร่ิมมีการถางปา่ จึงทําให้เห็นร่องรอยของ
โบราณสถาน แต่ก็ปรากฏเพียงนิดเดียวเพราะยังไม่มีการบรู ณะเน่ืองจากโบราณสถานแหง่ นี้ได้กอ่ ตั้งมา
นานชาวบา้ นมีความเชอ่ื วา่ มศี กั ด์สิ ิทธ์สิ ิงหส์ ถิตอยูด่ ังนั้นในวันสำคัญทางพุทธศาสนาก็จะมีการนาํ ข้าว นำ้
ไปถวาย และกราบไหว้บูชาทกุ วนั

๗๑

วดั พระธาตจุ อมกิตติ

เมืองเงินยางเชยี งแสนสร้างพระธาตุจอมกิตติ โดยพระพุทธโฆษาจารย์ พระมหาเถระชาวโกศล
นคร เมืองสุธรรมวดี ได้นำพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองลังกามาถวายพระเจ้าพังคราช พระองค์พร้อม
พระราชโอรส คอื พระเจา้ พรหมกุมารจึงไดส้ ร้างพระธาตุขึ้นบนดอยน้อย เมือ่ พ.ศ.๑๔๘๓ แล้วอัญเชิญ
พระธาตุที่ไดม้ าบรรจุไว้ ให้พระนามพระธาตุองค์นี้ว่า “พระธาตุจอมกิตติ”ในปี พ.ศ.๒๐๓๐ หมื่นเชียง
สงเจ้าผู้ครองเมืองเชียงแสนได้ทำการบูรณะซ่อมแซมองค์พระธาตุขึ้นครั้งหนึ่ง พระธาตุชำรุดทรุดโทรม
ลง เจ้าฟ้าเฉลิมเมืองพร้อมกับคณะพระญาติและประชาชนได้ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่
อีกคร้งั ในราวปี พ.ศ.๒๒๓๗ รปู แบบทางสถาปตั ยกรรมคอื เป็นศิลปกรรมอยุธยาตอนปลายพระธาตุจอม
กติ ตเิ ป็นปูชนยี สถานสำคัญค่เู มืองเชียงแสน พระธาตุนตี้ ั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเชยี งแสนทางด้านทิศเหนือ
ประมาณ ๒ กิโลเมตร เส้นทางเดินผ่านบันไดนาคไปจนถึงลานทักษิณใกล้พระธาตุ เส้นทางเพื่อขึ้นไป
นมสั การองคพ์ ระธาตุ วดั พระธาตุจอมกติ ติ จะสามารถเหน็ ทวิ ทศั นข์ องตัวเมืองเชยี งแสน

วัดพระธาตจุ อมกติ ติ ดา้ นหน้าเป็นพระวิหารท่สี ร้างดว้ ยศิลปกรรมสมัยใหม่ บรเิ วณแนวกำแพง
เมืองเชียงแสนโบราณยงั มีการบรู ณะโดยการขุดกำแพงเมืองเพื่อเอาอิฐเกา่ ออกนำมาเรียงซ้อนกันใหม่ให้
เป็นแบบสมัยใหม่ และไม่ถูกต้องตามตำนานประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของกรมศิลปากรท่ี
จะตอ้ งเข้ามาดูแลรักษา บรู ณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานแหง่ ใดที่ไดร้ บั การบรู ณะปฏิสังขรณ์อยา่ งถูกวิธี

๗๒

วดั พระธาตผุ าเงา

วัดพระธาตุผาเงา ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขงทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับประเทศลาว อยู่ใน
หม่บู ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จงั หวดั เชยี งราย มพี ื้นทีท่ ั้งหมด ๗๔๓ ไร่ พื้นท่ีส่วนใหญ่เป็น
เนนิ เขาเล็กๆ ทอดยาวลงมาต้งั แต่บา้ นจำปี ผา่ นบ้านดอยจัน และมาสน้ิ สุดทบี่ า้ นสบคำ แต่ก่อนชาวบา้ น
เรียกดอยลูกนี้ว่า "ดอยคำ" แต่ต่อมาช่วงหลังๆ ชาวบ้านเรียกว่า "ดอยจัน" ผาเงา ก็คือเงาของก้อนผา
(ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า
“พระธาตุผาเงา” ส่วนพระพุทธรูปหลวงพ่อผาเงานั้นเปน็ พระพุทธรูปสำคัญประจำวัดและมีอายุเก่าแก่
มากถึง ๗๐๐-๑,๓๐๐ ปี ขุดพบเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๑๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. โดยมีนัยว่า เมื่อคณะ
ศรัทธาได้ปรับพื้นท่ีหมดเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มขุดและยกตอไม้ขนาดใหญ่ออก ทุกคนต่างตื่นเต้นและปิติ
ยินดีเมอ่ื ไดพ้ บวา่ ใตต้ อไมน้ ้นั มีอิฐโบราณก่อเรยี งไว้ เมือ่ ยกอฐิ ออกก็พบหน้ากาก (แผน่ ทึบ) ก่อก้นั ไว้ พอ
ยกหน้ากากออกจงึ ได้พบพระพุทธรูปทีม่ ีลักษณะสวยงามมาก ผ้เู ชยี่ วชาญดา้ นโบราณวตั ถไุ ดว้ ิเคราะห์ว่า
พระพุทธรูปองค์นี้มีอายุระหว่าง ๗๐๐-๑,๓๐๐ ปี คณะศรัทธาทั้งหมดจึงได้พร้อมใจกันตั้งช่ือ
พระพทุ ธรปู นี้ว่า “หลวงพอ่ ผาเงา” และเปลยี่ นช่ือวัดใหมจ่ ากวดั สบคำ มาเป็นวัดพระธาตผุ าเงา

๗๓

วัดพระเจา้ ลา้ นทอง

ทอ่ี ยู่ ตำบล เวียง อำเภอ เชียงแสน เชียงราย ๕๗๑๕๐
พระพุทธรูปสำคัญ พระสิงห์หนง่ึ ชุ่มเชียงแสน, พระเจา้ แสนแสว้ (แสนแซ่), พระเจา้ ทองทิพย์
วัดพระเจ้าล้านทอง เป็นวัดและโบราณสถานในอำเภอเชยี งแสน จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในเขต

กำแพงเมืองเชียงแสน วดั พระเจา้ ล้านทองเป็นวัดสำคญั วดั หนึ่งของเมืองเชยี งแสน เป็นประดิษฐานพระ
เจา้ ล้านทอง พระพทุ ธรูปศกั ดิ์สทิ ธ์คิ ่เู มืองเชยี งแสน

วัดพระเจ้าล้านทอง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๐๓๒ โดยพระยาสรีรัชฏเงินกอง (หมื่นหอยงั่ว หรือ
หม่นื งัว่ ) เจา้ เมืองเชยี งแสน ซงึ่ มีศกั ดเ์ิ ป็นหลานของพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ลา้ นนาราชวงศ์มงั ราย องค์
ที่ ๙ เมื่อครั้งวันที่หมื่นงั่วได้ครองเชียงแสน ได้เกิดเหตุการณ์อันพิศดารคือ มีเงินทองงอกโผล่มาจาก
พ้นื ดินในบรเิ วณลานราชฐานเป็นกอง จึงไดพ้ ระนามยศใหมว่ ่า พระยาสรีรัชฏเงินกอง เม่ือเฉลิมฉลองกับ
ตำแหน่งและพระนามใหม่แล้ว พระยาสรีรัชฏเงินกองพร้อมเสนาอามาตย์ได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้น สร้าง
วิหาร ๑ หลัง กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๘ เมตร ณ บริเวณหัวใจเมือง พร้อมหล่อพระพุทธรูปสำริดด้วย
สาร ๕ ชนิด น้ำหนักล้านหน่ึง (๑,๒๐๐ กิโลกรัม) และสร้างเจดียข์ ึ้น ๑ องค์ ฐานกว้าง ๖ เมตร สูง ๑๔
เมตร บรรจหุ ัวใจพระพทุ ธเจ้าองค์หนึ่ง แล้วใหช้ อื่ ว่าวัดพระเจา้ ลา้ นทอง

พระเจ้าล้านทอง สร้างในปี พ.ศ. ๒๐๓๒ โดยพระยาสรีรัชฏเงินกอง หนักประมาณ ๑,๒๐๐
กโิ ลกรมั หน้าตกั กวา้ ง ๒ เมตร สูง ๓ เมตรเศษ

๗๔

วดั ผ้าขาวปา่ น

พระยาลาวเก้าแผ่นมาเมืองกษัตริย์ที่ ๒ ของหิรัญนครเงินยางจุลศักราช ๑๒๓ พ.ศ. ๑๓๐๔
โปรดให้สร้างพระเจดียส์ ูง ๔ วาอก บรรจพุ ระบรมธาตุเจา้ ๑,๐๕๐ องค์วัดผ้าขาวปา้ น ตง้ั อยรู่ ิมฝ่ังแม่น้ำ
โขงในตัวอำเภอเชียงแสน อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ ๓๐๐ เมตร สิ่งสำคัญภายในวัดได้แก่
พระเจดีย์บนฐานสูง มีเรือนธาตุและซุ้มทิศประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานอภัย และพระพุทธรูป
ปางลลี า สว่ นยอดเป็นเจดยี ์ทรงกลมพระยาลาวเกา้ แก้วเมืองมา ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างข้ึนเมอื่ ปี พ.ศ.
๑๓๔๐ วัดผ้าขาวป้านปี พ.ศ.๒๑๖๐ เจ้าเมืองเชียงแสนพร้อมด้วยภรรยาได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นองค์หนึง่
เพ่อื บรรจพุ ระบรมสารรี ิกธาตุ และพระอรหันต์ พร้อมทงั้ อุทิศบ้านเรอื น คน และทดี่ นิ ใหแ้ กว่ ดั

พระธาตุเจดีย์วัดผ้าขาวป้านก่อด้วยอิฐมีลักษณะของการผสมการสร้างหลายแบบอายรุ าวพุทธ
ศตวรรษท่ี ๒๓ พระธาตุเจดยี ์วดั ผา้ ขาวป้าน มลี กั ษณะท่รี วบรวมเอาลักษณะต่าง ๆ ของพระธาตุเจดีย์ท่ี
มีมาแต่เดิมเข้าไว้ในองค์เดียวกัน จึงเกิดเป็นลักษณะพระธาตุเจดีย์ คือ ส่วนฐานท่อนล่างทำเป็นฐาน
สี่เหลี่ยมจัตุรสั สามชั้นลดหล่ันกันขึ้นไป ย่อมุมไม้ ๒๐ ถัดมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทึบแบบวัดพระบวชแต่ย่อ
มุมมากกว่า เป็นย่อมุไม้ ๒๐ ไป ต่อจากนั้นจึงเป็นส่วนกลางนี้ก็ย่อมุมไม้ ๒๐ อีกเช่นกัน ส่วนบนเป็น
เจดยี ์ทรง ๑๖ เหลี่ยม มีทองจงั โกหุ้มตลอด องค์ประกอบขององค์พระธาตเุ จดีย์นน้ั เพิ่มความยุ่งยากมาก
ขึ้นยิ่งกว่าพระธาตุเจดีย์จอมกิตติ พระธาตุเจดยี ์วดั ผ้าขาวป้านน้ี กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะตามแบบ
สภาพรปู ทรงเดิมทกุ ประการ และไดข้ นึ้ ทะเบียนเปน็ โบราณสถาน

๗๕

วัดพระธาตุภเู ขา้

สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๕๓๗๘ ๔๒๒๔ และ ๐๘ ๑๗๐๖ ๐๓๑๑
วดั พระธาตุดอยปเู ข้าโบราณสถานประกอบด้วยพระวหิ าร และกลุม่ เจดีย์ที่พังทลาย ก่อด้วยอิฐ

มรี ่องรอยการตกแตง่ ด้วยลวดลายปูนป้ัน นอกจากน้ีบนดอยเชียงเมย่ี งยงั เป็นจุดชมวิว สามารถมองเห็น
สามเหลี่ยมทองคำได้ชัดเจนวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำรวกบนดอยเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ดอยเชียงเมี่ยง และเพราะ
ความเก่าแก่ของวัด ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน จึงได้มีการจดทะเบียนให้เป็นโบราณสถาน
สำคัญอีกแห่งหนึ่งคู่จังหวัดเชียงราย น่าชม พระวิหารที่มีอายุกว่าพันปี ซึ่งภายในประดิษฐาน
พระพุทธรูปหลายองค์ รวมทั้งพระเจ้าเชียงแสนองค์ใหม่ที่สร้างขึ้นภายหลัง พระพุทธรูปพระเจ้าเชียง
แสนองคเ์ กา่ ทีอ่ ยู่คู่วัดประดิษฐานอย่นู อกพระวหิ าร ซงึ่ ปัจจุบนั เหลือเพยี งพระวรกายบางส่วนให้ได้กราบ
สักการะบูชา พระธาตุดอยปูเข้า บนยอดดอยเชียงเมี่ยงเหลือให้เห็นเพียงซากปรักหักพัง และดอยเชียง
เมี่ยงแห่งนี้ยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์งดงามของสามเหลี่ยมทองคำซึ่งเป็นรอยต่อชายแดน ๓
ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมาร์ ตำนานแห่งพระธาตุ ตามตำนานเล่าว่าพระธาตุแห่งนี้ถูกสร้าง
ขึ้นใน พ.ศ. ๑๓๐๒ ในรัชสมัยของพระยาลาวเก้าแก้วเมืองมา กษัตริย์องค์ที่ ๒ แห่งเวียงหิรัญนครเงิน
ยาง ในสมัยที่พระองค์ยังทรงเยาว์วัยนั้น มีปูยักษ์ ๒ ตัว เข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตรของ
ประชาชน พระยาระวะจักรราช พระราชบิดาของพระองค์ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งรายได้
มอบหมายให้พระองค์มาปราบปูยักษ์ และในที่สุดก็จับได้ตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวหนีลงไปใต้ภูเขา พระองค์
ทรงข้นึ ครองราชย์ก็ได้สร้างพระธาตุปิดทางปูเอาไว้ ทำใหพ้ ระธาตุแห่งน้ีมชี ่ือว่าพระธาตุปูเข้า พระพุทธ
องค์ยงั มีพระชนมช์ ีพอยู่น้ันเคยเสดจ็ มายังบริเวณน้ีและได้ทำนายไวว้ ่า ในอนาคตท่ีแห่งนี้จะมีช่ือว่าดอย
ปูเข้าและจะมีความเจรญิ ในภายภาคหนา้

๗๖

วดั จอมแจง้

วดั พระธาตจุ อมแจ้ง อำเภอเชยี งแสน จังหวัดเชยี งราย ตัง้ อยบู่ นดอยน้อย ใกลก้ ับพระธาตุจอม
กิติ พระเจ้าสุวรรณคำล้าน เจ้าเมืองเชียงแสนให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๐๓๐ ตรงกับรัชสมัยของพระยอด
เชียงราย พระธาตุจอมแจ้งนี้ก็ได้บรรจุอัฐิธาตุไว้ด้วย แต่คงไม่ใช่พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์
น่าจะเป็นพระอรหนั ต์ธาตุ

เมื่อ พ.ศ.๒๐๓๐ เจ้าเมืองเชียงแสนนามว่า เจ้าสุวรรณคำล้าน ซึ่งน่าจะหมายถึงมาบูรณะองค์
พระธาตุจอมกิติและสร้าง "วัดพระธาตุจอมแจ้ง" ผมเข้าใจตามนี้ แม้แต่เมืองเชียงแสน ตำนานที่สร้าง
หลังสุดคือสร้างโดยพระเจ้าแสนภู กษัตริย์ราชวงศ์เชียงราย สร้างเมืองเชียงแสนเมื่อ พ.ศ. ๑๘๗๑ แต่
หากมองย้อนกลับไปถึงสมัยพระเจ้าพรหมมหาราชเมืองเชียงแสนก็มีอยู่แล้ว และเมื่อพระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลกมหาราช โปรดให้ยกทัพขึ้นไปตีเชียงแสน เมื่อตีได้แล้วถอยทัพไทยกลับก็ให้เผาเชียงแสนเสีย
เพราะพม่าเข้ามายึดเป็นที่มั่นอยูเ่ ป็นการประจำจึงเผาเสีย เชียงแสนมาฟื้นคืนชีพเป็นเมืองที่เห็นอยู่ทุก
วนั น้ีในรัชสมัยของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๔

๗๗

วัดมุงเมอื ง

ที่ตั้ง องคก์ ารบริหารส่วนตำบลเวยี ง ต.เวยี ง อ.เชยี งแสน จ.เชียงราย
วัดมุงเมืองตั้งอยู่ตรงข้ามวัดพระบวชในตัวอำเภอเชียงแสน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญคือ พระเจดีย์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมุมซ้อนกันสี่ชั้น รองรับ
ฐานปัทม์ย่อมุม ถัดขึ้นไปเป็นเรือนธาตุ มีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลกทั้งสี่ดา้ น ส่วนยอด
เปน็ องคร์ ะฆงั กลม มีเจดยี เ์ ลก็ ๆ ประดบั อยู่ท่มี ุมคล้ายเจดียท์ วี่ ัดปา่ สัก วัดนีไ้ มป่ รากฏหลกั ฐานการสร้าง
จากรูปทรงทางสถาปัตยกรรมและพระพุทธรูปยืนปูนปั้นท่ีประดิษฐานอยู่ในซุ้มทิศ พอจะสันนิษฐานได้
ว่าน่าจะสร้างขึ้นภายหลังวัดป่าสัก เพราะมีวิวัฒนาการทางรูปแบบเพิ่มมากยิ่งขึ้น และน่าจะมีอายุอยู่
ประมาณพุทธศตวรรษท่ี ๒๐

๗๘

วัดพระบวช

วดั พระบวชได้รบั การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ๒ ครง้ั คือ
๑. ในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๘๒ ตอนท่ี ๕๓ วนั ที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๐๘ เรอื่ ง การกำหนด

จำนวนโบราณวตั ถุสถานสำหรับชาติ
๒. ในราชกิจจานุเบกษา เลม่ ๙๗ ตอนที่ ๑๐ วนั ท่ี ๒๔ มกราคม ๒๕๒๓ เรอ่ื ง ข้นึ ทะเบียน

โบราณสถานและกำหนดเขตทีด่ ินโบราณสถาน
วัดพระบวช ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงแสน ปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสนและตัว

อำเภอเชยี งแสน รมิ ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๖) ฝง่ั ด้านทิศใต้ ตรงข้ามฝ่ังถนนกับวัดมุง
เมอื ง

วัดพระบวชเป็นโบราณสถานในเมืองเชียงแสนที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และ
ปรับปรุงภูมิทศั นแ์ ล้ว มีการปลูกหญ้าคลมุ ดิน แต่ขณะสำรวจหญา้ และวัชพืชอื่นๆ ขึ้นค่อนข้างสงู ทั้งยัง
ขึ้นที่ตัวโบราณสถานด้วย ภายในพื้นที่โบราณสถานมีป้ายระบุชือ่ และขอ้ มูลโบราณสถานสำหรับผูเ้ ยี่ยม
ชม นกั ท่องเท่ยี วทีส่ นใจสามารถเขา้ เยี่ยมชมได้ทุกวนั โดยไมเ่ สยี ค่าเข้าชม

หนว่ ยงานที่ดแู ลรักษา กรมศิลปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชียงแสน, อำเภอเชยี งแสน

๗๙

วัดพระยนื

วัดพระยืน ตั้งอยู่ในตัวอำเภอเชียงแสน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงพระเจดีย์เท่านั้น เป็นเจดีย์ฐาน
สี่เหลี่ยมจตุรัสซ้อนลดหลั่นกันสามชั้น มีเรือนธาตุย่อมุม มีลวดบัวคาดกลางโดยตลอด ตอนบนเป็นองค์
ระฆังแปดเหลีย่ ม

ตามตำนาน และพงศาวดารกล่าวว่า พญาคำฟูโอรสของพญาแสนภู ทรงโปรดให้สร้างขึ้น
เมื่อปี พ.ศ.๑๘๗๔ ต่อมาพระเจดีย์เกิดชำรุด พระยาหลวงไชยชิตจึงทำการซ่อมแซม เมื่อปี พ.ศ.๒๑๘๑
จากรูปแบบของสถาปตั ยกรรมสนั นษิ ฐานว่านา่ จะสร้างเมอ่ื ประมาณ พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๑

๘๐

วดั ก่เู ต้า

ทอ่ี ยู่: ตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชียงราย, ๕๗๑๕๐
วัดกู่เต้าอยู่นอกเมืองเชียงแสนทางทิศตะวันตก วัด วัดร้าง ศาสนสถาน ลักษณะเป็นเจดีย์ที่มี

เรือนธาตุกลมบนฐานสี่เหลี่ยมแบบพื้นเมือง คล้ายเจดีย์วัดตะโปธาราม วัดพวงหงส์ และวัดเฉียงโฉมใน
เชยี งใหม่ อาจไดร้ ับอิทธพิ ลจากเจดียก์ กู่ ูด ลำพนู และน่าจะสรา้ งในปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๑

๘๑

วัดเชตวนั

วัดเชตวัน พงศาวดารโยนกกล่าวว่า ศักราช ๙๙๘ (พ.ศ.๒๐๗๙) ปี ชวด อัฐศก เจ้าฟ้าสุทโธ

ธรรมราชาทรงบำเพ็ญพระราชกุศล แล้วมีพระราชโองการสถาปนาที่วังนางฟ้ากาเผือก เมืองเชียงแสน

เป็น พระอารามขนานนามวา่ วัดเชตวัน แลว้ อาราธนาพระมหาเถรวดั ปา่ ไผ่ ดอนแทน่ มาเปน็ เจา้ อาวาส

ชาดกเรอ่ื งกาเผือก (พระพุทธเจ้า ๕ พระองค)์

คัมภรี ใ์ บลานเร่ืองกาเผือก ไดม้ พี ญากาเผือก ๒ ตัวผัวเมียทำรังอยู่ทต่ี ้นมะเดื่อริมฝ่ังแม่น้ำต่อมา

แมก่ าเผอื กได้ออกไข่ ๕ ฟอง วันหนง่ึ เม่ือสองกาเผือกออกไปหาอาหาร เกิดฝนตกฟ้าคะนองพายุใหญ่พัด

กระหน่ำ ไขท่ ้ังหมด ไดถ้ กู ลมพัดตกนำ้ ไหลกระจายไปคนละทาง แม่กาเผอื กเมือ่ กลับมาถงึ รงั ไม่เห็นไข่ ก็

พยายามตามหาแต่ก็ไม่พบ ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ แม่กาเผือกไมส่ ามารถระงับความอาลัยได้จึงสิ้นใจ

ตาย ด้วยอานิสงส์แห่งความรักเมตตาลูก จึงได้ไปเกิดอยู่แดนพรหมโลกชั้นสุธาวาส ชื่อท้าวฆติกา

มหาพรหม ส่วนไข่แต่ละฟองก็มีผู้นำไปฟักเลี้ยง และในเวลาต่อมา พระโพธิสัตว์ ทั้ง ๕ ก็ประสูติออก

จากไข่ ปรากฏเป็นมนุษย์ รูปร่างสวยสดงดงาม ทั้ง ๕ พระองค์ พอโตเป็นหนุ่ม ชายทั้งห้า ต่างก็ออก

บวชเปน็ ฤาษี บำเพญ็ บารมอี ยูใ่ นป่า อยู่มาวนั หนึ่งได้เหาะไปหาอาหารผลไม้ และบำเพ็ญเพียรธรรมที่ป่า

ดอยสิงคตุ ตระปิฎฐา ดว้ ยเหตุปัจจัยในกศุ ลบารมธี รรม ฤาษที ัง้ ๕ ก็ไดม้ าพบกัน จึงสอบถามความเป็นมา

ของกันและกนั จึงไดร้ แู้ ต่ว่า แตล่ ะคนมแี ตแ่ ม่เล้ยี ง แม่ทแี่ ท้จรงิ อยทู่ ี่ไหนก็ไมร่ ู้ จึงได้ร่วมกันต้ังสัจจะอธิ

ฐาน ขอให้ได้พบแม่บังเกิดเกล้าที่แท้จริง ด้วยอำนาจธรรมอันบริสุทธิ์ของฤาษีทั้ง ๕ คำอธิษฐานจึงดัง

ก้องไปถงึ พรหมโลก ทา้ วฆติกามหาพรหม (แมก่ าเผือก) จงึ จำแลงเปน็ แมก่ าเผอื กลงมาปรากฏฤาษีท้ัง ๕

ก็รู้ด้วยญาณทัศนะวา่ นี่แหละเป็นแม่บังเกิดเกล้าที่แท้จริง ด้วยความสำนึกในบุญคุณอันใหญ่หลวงของ

แม่กาเผือก ก่อนจากกัน ฤาษีทั้ง ๕ จึงกราบขอรอยเท้าของแม่กาเผือกเอาไว้บูชา แม่กาเผือกจึงนำเอา

ฝ้ายมาฟั่น เป็นรูปตีนกาให้ไว้ใช้เปน็ ไส้ประทปี จุดบชู าทุกวนั พระ (เป็นที่มาของประเพณีจุดประทีปโคม

ไฟ ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ (เทศกาลยี่เพง ลอยกระทง) ต่อมาฤาษีทั้ง ๕ ได้บำเพ็ญบารมีจนได้เก้า

พนั ปที ิพย์ จึงไดเ้ สวยชาติลงมาเกิดเปน็ พระพุทธเจา้ ทงั้ ๕ พระองค์ ตามลำดบั คือ

องคท์ ่ี ๑ มีพระนามวา่ พระกกสุ นั โธ ตามนามแม่เลี้ยงทเ่ี ปน็ ไก่

องค์ที่ ๒ มพี ระนามวา่ พระโกนาคมโน ตามนามแม่เลีย้ งเป็นนาค

องค์ท่ี ๓ มีพระนามว่า พระกสั สโป ตามนามแม่เล้ยี งเป็นเตา่

องคท์ ่ี ๔ มีพระนามวา่ พระโคตโม(องคป์ ัจจุบัน) ตามนามแมเ่ ลีย้ งเป็นโค

องคท์ ่ี ๕ มีพระนามวา่ พระศรีอริยเมตไตรยโย ตามนามแม่เล้ยี งที่ เปน็ ราชสีห์

๘๒

วดั ชมุ แสง

ซอยรมิ โขง ๖ ตำบล เวยี ง อำเภอ เชียงแสน จังหวดั เชียงราย ๕๗๑๕๐, ประเทศไทย
ทีอ่ ยนู่ ต้ี ัง้ อยู่บนถนน ซอยรมิ โขง ๖, เวยี ง และอยู่ในย่านของ อำเภอ เชยี งแสน, เชยี งราย

๘๓

วัดธาตุโขง

ทอ่ี ยู่: ตำบล เวยี ง อำเภอ เชยี งแสน เชียงราย ๕๗๑๕๐
วัดธาตุโขง เป็นวัดร้างนอกเมืองเชียงแสน ตั้งที่บ้านเชียงแสนน้อย ถนนสายอำเภอเชียงแสน

และเชียงของ ระยะทางจากตัวเมืองเชียงแสน ประมาณ ๗ กิโลเมตร เป็นวัดที่ได้สร้างมานานติดอยูก่ ับ
ถนนด้านขวามือ สามารถไปเที่ยวชมได้สะดวก มีการบูรณะอยู่ตลอดเรื่อยมาจากความรับผิดชอบของ
กรมศลิ ปกร และชมุ ชนพน้ื ที่อำเภอเชียงแสน

๘๔

วัดปราสาทคมุ้

ถนน สาย ๒ ซอย ๕ ตำบล เวียง อำเภอ เชียงแสน เชยี งราย ๕๗๑๕๐
วัดปราสาทคุ้ม เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ฐานกว้างด้านละ ๘ เมตร ลักษณะฐานปัทม์สูงย่อเก็จ

ประดับลูกแก้ว ยอดระฆังทรงกลม บัวกลุ่มกลีบยาวเหนือชั้นบัลลังก์เป็นลักษณะที่นิยมสร้างในเจดีย์
เชียงแสน เมื่อพทุ ธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓

๘๕

วดั ป่ากลว้ ย

วัดป่ากล้วย เป็นวัดร้างตั้งอยู่ที่บ้านสบกก ซึ่งปล่อยให้เป็นพื้นที่รกร้างไม่มีการดูแลทำให้
ชาวบ้านเข้าไปในพื้นวัด ปลูกข้าวโพดเพื่อการดำรงชีพ การดูแลกรมศิลปกรเข้ามาทำการบูรณะวัดใน
พ.ศ. ๒๔๔๑ ปัจจุบันทีย่ ังคงเหลือไว้ คือ ฐานของพระธาตุ วิหารที่สร้างด้วยอิฐ หลังคามุงด้วยกระเบื้อง
ดินขอ เนื่องจากวัดติดกบั แม่น้ำโขง ที่ในอดีตแม่น้ำโขงขึ้นมาท่วมในพืน้ ที่วัดทำให้บางส่วนของวัดยังจม
ลงในดนิ ทย่ี งั ไม่มกี ารขดุ ค้นเพอ่ื หาข้อมูลเพม่ิ เติมดงั กลา่ ว

๘๖

วัดพระเจา้ ทองน้อย

วดั พระเจา้ ทองน้อย ตัง้ อย่กู ลางเมอื งเชียงแสน ปจั จบุ นั อย่ใู นเขตเทศบาลตำบลเวียงเชยี งแสน
และตวั อำเภอเชยี งแสน ริมถนนพหลโยธนิ (ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑๖)

วัดพระเจ้าทองน้อยเป็นโบราณสถานท่ีไดร้ ับการขดุ แต่ง บรู ณปฏิสังขรณ์ และปรบั ปรงุ ภูมทิ ศั น์
แลว้ แต่พืน้ ดินโดยรอบโบราณสถานมีวัชพืชขึ้นค่อนขา้ งหนาแนน่ มีป้ายระบชุ ื่อและขอ้ มูลโบราณสถาน
สำหรบั ผเู้ ยยี่ มชม นักท่องเทีย่ วสามารถเข้าเยี่ยมชมไดท้ ุกวัน โดยไมเ่ สียค่าเขา้ ชม
หนว่ ยงานทดี่ แู ลรกั ษา กรมศิลปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน, อำเภอเชยี งแสน

๘๗

วดั พวกพันตอง

ท่ีต้ัง ตำบลเวยี ง อำเภออำเภอเชียงแสน จงั หวัดเชยี งราย
วดั พวกพนั ตอง (วัดรา้ ง) Wat Phuok Phan Tong เชียงแสน ถนนริมโขง ตำบลเวียง อำเภอ

เชียงแสน จงั หวัดเชียงราย ๕๗๑๕๐ ศิลปกรรมฯ วดั วัดรา้ ง ศาสนสถาน
วัดพวกพันตอง หรือวัดพันตอง ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ประกอบด้วยเจดีย์ วิหาร และอาคารที่มี

หลุมเสาไม้รองรับโครงสร้างหลังคา วัดนี้ไมป่ รากฏหลักฐานชัดเจนว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่จากรูปแบบ
สถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุที่พบ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ อย่างไรก็ตาม
หลกั ฐานจากตำนานพ้ืนเมอื งเชยี งแสน ทัพพระยาสรุ สีห์ยกทพั มาตีเมืองเชยี งแสนใน พ.ศ. ๒๓๑๗ ครบู า
วัดพนั ทองไดบ้ ิณฑบาตขอเมืองไวท้ ำให้เมืองเชยี งแสนไม่ถูกทำลาย ตอ่ มาเม่อื ทัพลา้ นนาตีเมืองเชียงแสน
ได้ใน พ.ศ. ๒๓๔๗ ได้กวาดต้อนเชลยชาวเชียงแสนเดินทางผา่ นวัดพนั ตองน้ีไปยังเมืองเชียงใหม่

๘๘

วดั มงคลวดั รา้ ง บา้ นเชียงแสนนอ้ ย

วัดมงคลตั้งอยู่ทางทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือภายในเมอื งเชยี งแสน รมิ ถนนรมิ โขง (ทางหลวง
หมายเลข ๑๒๙๐) ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวัดมหาโพธิ์ (ตดิ กับวดั มหาโพธ์)ิ

วัดมงคลเป็นโบราณสถานรา้ งท่ีได้รบั การขดุ แต่ง บรู ณปฏิสงั ขรณ์ และปรบั ปรงุ ภมู ทิ ัศน์แลว้ แต่
พ้นื ดินโดยรอบโบราณสถานมีวชั พชื ข้นึ หนาแนน่ มาก มีปา้ ยระบุชอ่ื และข้อมูลโบราณสถานสำหรบั ผู้
เย่ียมชม
นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถเขา้ เยี่ยมชมได้ทุกวัน โดยไมเ่ สยี คา่ เข้าชม
หน่วยงานที่ดแู ลรกั ษา กรมศิลปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน, อำเภอเชยี งแสน

๘๙

วัดหมน่ื เชยี ง

ทอี่ ยู่: ตำบล เวียง อำเภอ เชียงแสน เชยี งราย ๕๗๑๕๐
ถนน สาย ๒ ตำบล เวยี ง อำเภอ เชยี งแสน จงั หวัด เชียงราย ๕๗๑๕๐

วัดหมื่นเชียง หมื่นเชียงสงเจ้าผู้ครองเมืองเชียงแสน เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ.๒๐๓๐ รูปแบบของ
เจดีย์ที่เป็นทรงปราสาทยอดเดียว ส่วนสำคัญที่ใช้ในการกำหนดอายุได้อย่างดีที่สุด คือ ลวดลายปูนป้นั
ประดับเสาและผนังเรือนธาตุ นับเป็นเจดีย์ที่มีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งเพราะเป็นเจดีย์ปราสาท
ทรงยอดเดียวแบบล้านนาที่เหลืออยู่องค์เดียว ความสัมพันธ์ที่ชาวบ้านมีต่อโบราณสถานเป็นไปใน
ลักษณะของการถวายเครื่องสักการะ เช่นถวายข้าว น้ำ ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา และมีความเช่ือ
เร่อื งส่ิงศักดสิ์ ทิ ธแ์ิ ละเรือ่ งลีล้ ับ เพราะเคยปรากฏดวงแก้วลอยจากบรเิ วณโบราณสถาน ในอดตี ชว่ ง พ.ศ.
๒๕๔๗ พื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นป่า ยังไม่ค่อยมีบ้านเรือนเข้ามาตั้งเท่าใดนัก ถนนยังเป็นลูกรัง ดิน
แดง บรเิ วณที่เป็นโบราณสถานกย็ งั ไม่ได้รบั การบูรณะ และถูกปกคลมุ ไปด้วยต้นไม้มเี ศษอิฐแตกกระจาย
ไปทว่ั หลังจากนัน้ กรมศลิ ปากรก็ข้ามาบรู ณะทำใหเ้ ห็นสภาพของโบราณสถานชดั เจน

๙๐

วัดอโศก

วดั อโศก ปจั จบุ ันอย่ใู นเขตเทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสนและตวั อำเภอเชยี งแสน ตัง้ อยู่ติดกับวัด
ชา้ งค้ำ ลอ้ มรอบไปดว้ ยบ้านเรือนราษฎร ทำให้ไมส่ ามารถมองเห็นได้จากริมถนน แต่สามารถเข้าได้ทาง
ถนนทัพม่าน โดยจำเปน็ ตอ้ งเดินผ่านท่ีดนิ รกรา้ งของเอกชน มีกำแพงและประตูรั้วก้ัน

วัดอโศกเป็นโบราณสถานที่ได้รับการขุดแต่ง บูรณปฏิสังขรณ์ และปรับปรุงภูมิทัศน์แล้ว แต่
พื้นดินโดยรอบโบราณสถานมีวัชพืชขึ้นหนาแน่นมาก มีป้ายระบุชื่อและข้อมูลโบราณสถานสำหรับผู้
เยี่ยมชม แต่ปา้ ยตัง้ อยู่ใกล้และหันหนา้ ออกส่กู ำแพง

โบราณสถานวัดช้างค้ำและวัดอโศกที่ตั้งอยู่ติดกัน เป็นโบราณสถานขนาดใหญ่และสำคัญของ
เมืองเชียงแสน แต่ถูกล้อมรอบด้วยบ้านเรือนราษฎร ทำให้ไม่สามารถสงั เกตเห็นโบราณสถานได้จากริม
ถนน แม้ว่าจะมีป้ายบอกทางเข้าอยู่ริมเดินเข้าเป็นพื้นที่รกร้างของเอกชน มีวัชพืชและต้นไม้ขึ้นสูง มี
กำแพงและประตรู ัว้ ก้นั จงึ ไมส่ ะดวกในการเขา้ ชม
หน่วยงานที่ดูแลรักษา กรมศิลปากร, เทศบาลตำบลเวยี งเชยี งแสน, อำเภอเชียงแสน

๙๑

๙๒

โบราณสถานวดั สบกก (นอกเมือง)

วัดสบกก อยูท่ ่ี ต.บา้ นแซว อ.เชียงแสน จ.เชยี งราย ๕๗๑๕๐ โทร ๐๘๑๖๐๒๐๗๙๗
วัดสบกก เดิมเป็นวัดติดกับลำน้ำโขงหลังจากเกดิ การเปลี่ยนแปลงจากการไหลของน้ำโขงทำให้

น้ำกัดเซาะตะหลิ่งพังเขา้ ในพ้ืนที่ของวัดสบกกที่เปน็ วัดร้าง ต่อมาได้มีการสรา้ งวัดสบกกขึ้นใหมโ่ ดยการ
ขยับขึ้นในพื้นที่ที่บ้านสบกกที่เป็นจุดที่แม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อป้องกันไม่ให้วัดสบกกถูกน้ำโขง
กลืน

๙๓

โบราณสถานวดั ธาตเุ ขียว (นอกเมอื ง)

วดั ธาตุเขยี ว ( Wat That Khieo ) [ วดั ร้าง โบราณสถาน ] บา้ นเชียงแสนน้อย เวียง เชียงแสน
เชยี งราย

วดั ธาตุเขยี ว ลักษณะของพระธาตเุ นทรงระฆงั กลม ซ่ึงเป็นพระธาตุทตี่ ั้งอยหู่ ลงั วิหารของวัดธาตุ
เขยี ว วัดจะหันหน้าไปทางติดตะวันออก วิหารเป็นลวดลายปูนป้นั ในสมัยล้านนาเปน็ ที่นยิ มกันมาก ฐาน
ชุกชีประดับบนวหิ ารที่มองไม่ค่อยชัดซ่ึงการหักพังตามการเวลา สถาปัตยกรรมท่ีสันนิษฐานจากสิ่งปลูก
สร้างวหิ าร และพระธาตุ ประมาณ พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๒

๙๔

โบราณสถานหมายเลข ๑๖

ทอี่ ย:ู่ ตำบล เวยี ง อำเภอ เชยี งแสน เชียงราย ๕๗๑๕๐
โบราณสถานหมายเลข ๑๖ ตั้งอยู่ในกำแพงเมือง อำเภอเชียงแสน ทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ใกล้กับ

กำแพงเมืองเชียงแสนปัจจุบัน มณฑปเหลือเพียงส่วนฐานเป็นแบบจัตุรมุข หมายถึง มีมุขทางขึ้นย่ืน
ออกมาจากฐานอาคารทั้ง ๔ ด้าน พื้นภายนอกอาคารปูด้วยอิฐ ด้านล่างมีแทนปูนอยู่ที่มุมอาคารทั้ง ๔
มมุ มองเหน็ ได้ชัดเจน และปพู ้นื ลานประทกั ษณิ ดว้ ยอิฐ ๖ เหล่ยี ม

โบราณสถานหมายเลข ๑๖ เป็นวัดร้างที่ไม่มีการบูรณะแล้วในปัจจุบัน เหลือให้เห็น มณฑป
วิหาร เจดยี ์ ฐานอาคาร บ่อนำ้ และฐานประตูวิหาร ซ่ึงทัง้ หมดไดห้ กั พังเหลือเปน็ บางส่วน

๙๕

โบราณสถานหมายเลข ๒๑

โบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) ตั้งอยู่ที่เมืองเชียงแสนน้อย ริมทางหลวงหมายเลข
๑๑๒๙ (เชียงแสน-เชียงของ) ห่างจากคูเมืองด้านทิศใต้ของเมืองเชียงแสน มาทางทิศใต้ตามทางหลวง
หมายเลข ๑๑๒๙ ประมาณ ๔.๖ กโิ ลเมตร จะพบโบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) ทางขวามอื
โบราณสถานหมายเลข ๒๑ (นอกเมือง) เปน็ โบราณสถานที่ได้รบั การขุดแต่ง บูรณปฏสิ งั ขรณ์ และ
ปรบั ปรุงภมู ทิ ศั นแ์ ล้ว แต่ไมม่ ีปา้ ยระบชุ ื่อและข้อมลู โบราณสถาน
หน่วยงานทด่ี แู ลรกั ษา กรมศลิ ปากร


Click to View FlipBook Version