ตาแหน่งที่ตรงกลางหลุมแลว้ ลกู ชายคนโตไม่ทกั ทว้ งใดๆแลว้ ลอ่ ไถ่ก็
บอกใหล้ ูกหลานข้ ึนไปดา้ นบนปากหลุมเพื่อทาการขอซ้ ือที่ดินกบั เจา้
ท่ีเจา้ ทาง เจา้ หนา้ ที่โกยทรายใส่ลงไปในหลุม
การขอซ้ ือท่ีดินจากเจา้ ท่ีเจา้ ทางจะใชเ้ หรียญเงิน-ทองกระดาษ
พรอ้ มกบั ดินหยอดลงไปในหลุมบริเวณมุมท้งั ๔ ของหลุม พรอ้ มกบั
บอกเจา้ ท่ีเจา้ ทางว่า “ลูกหลานขอซ้ ือที่ดินแห่งน้ ีแบบถาวรเพ่ือเป็ น
บา้ นหลงั ใหมใ่ หก้ บั ผวู้ ายชนม”์ จากน้ันลอ่ ไถ่ (老大) จะทาพิธีที่หนา้
ซักปี (ป้ายหิน)โดยจะเชิญเทพทุกสารทิศ แลว้ จากน้ันก็จะหว่าน
จุง้ จื่อแลว้ อวยพรลูกหลาน การหว่านจุง้ จ่ือน้ ีในสมยั ก่อนน้ ีก็คือการ
มอบเมล็ดพนั ธุข์ องพืชนานาชนิดใหก้ บั ลูกหลานเพื่อเอาไวเ้ พาะปลูก
ในยามท่ีตอ้ งไวท้ ุกข์ใหก้ ับพ่อแม่ท่ีจากไปนานถึง ๓ ปี ในสมัยก่อน
การไวท้ ุกขใ์ นช่วง ๓ ปี น้ ี ลูกหลานท่ีกตัญญูจะตอ้ งปลูกกระท่อมอยู่
ใกลๆ้ บริเวณท่ีฝังศพ เมล็ดพนั ธุ์ที่ไดม้ าก็จะนาไปหวา่ นเพ่ือจะไดเ้ ก็บ
เกย่ี วใชป้ ระโยชน์ระหวา่ งท่ีเฝ้าหลุมศพตลอดระยะเวลา ๓ ปี นัน่ เอง
ภำพท่ี 79 ขณะนาไถ่วุกลงไปในหลุมลูกหลานหา้ มดู
ภำพท่ี 80 เจา้ พนักงานกาลงั ค่อยๆวางไถ่วกุ ลงในหลุม
ภำพที่ 81 ลกู หลานขอซ้ ือท่ีดินกบั เจา้ ท่ีเจา้ ทาง
ภำพท่ี 82 ล่อไถ่ทาพิธีหนา้ ป้ายเสร็จกห็ วา่ นจงุ้ จือ่ อวยพร
กำรหว่ำนพชื ผล (点种)
ในธรรมเนียมโบราณเมื่อมีการฟังศพท่ีสุสานแลว้ ลูกหลาน
จะตอ้ งอยเู่ ฝ้าบริเวณท่ีฝังน้ ีเป็ นเวลา ๓ ปี การอยทู่ ี่น่ีเพอ่ื เฝ้าสุสานของ
ลูกหลานกตัญญูล่อไถ่จะมอบเมล็ดพืชพนั ธุต์ ่างๆเพ่ือใชใ้ นเพาะปลูก
ใหก้ บั ลูกหลานบางส่วน หลงั จากมอบเมล็ดพืชพนั ธุ์ใหเ้ สร็จแลว้ ก็จะ
ทาการปลูกพืชพนั ธุ์บริเวณรอบๆหลุมฝังศพใหก้ บั ลูกหลานดว้ ย ซ่ึง
พิธีการในช่วงน้ ีเรียกว่า เต้ ียมจุง้ (点种)หรือการหว่านพืชผล
นัน่ เอง
เต้ ียมจุง้ (点种)หรือการหว่านพืชผลน้ ีล่อไถ่จะสอดวอ้ ย
(ใหพ้ ร) และเดินนาลูกหลานไปรอบๆหลุม ระหว่างเดินไป ๒ รอบ
แรก ล่อไถ่ก็จะหว่านเมล็ดลงไปเป็ นจุดๆ แต่ละจุดก็จะกล่าวคาอวย
พร ลูกหลานที่เดินตามมาขา้ งหลงั ก็รบั คาอวยพรดว้ ยการกล่าวคาว่า
ย้ ิว แปลว่า มี นัน่ เอง พอครบรอบที่ ๓ ล่อไถ่ก็จะบอกใหล้ ูกหลานเร่ิม
เก็บพืชผลต่างๆเอาได้ เมล็ดพืชพนั ธุท์ ่ีเก็บเอาไวน้ ้ ีในอดีตก็นาไปเป็ น
ตน้ เช้ ือเมล็ดพนั ธุ์เพ่ือเอาไวเ้ พาะปลูกมาหากินจริงๆ แต่ปัจจุบนั การ
ประกอบอาชีพของลูกหลานเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้ทาการเกษตร
เพาะปลูกกันอีกแลว้ เมล็ดพืชพันธุ์เหล่าน้ ีบางบา้ นก็จะนาไปใส่ใน
กระถางธูป บางบา้ นกน็ าไปใส่ถงั เก็บขา้ วเป็ นตน้ ส่วนเมล็ดพนั ธุ์ที่ใช้
ในพิธีไดแ้ ก่ ลาใยแหง้ , ถวั่ เขียว, ถวั่ งา, ขา้ วหมกั , ขา้ วเปลือก
ภำพท่ี 83 ล่อไถ่ทาพิธีเต๊ียมจุง้ โดยการเดินรอบหลุมศพและ
หวา่ นพืชผลตามทิศทางต่างๆ
ภำพท่ี 84 - 85 ลูกหลานที่เดินตามหลงั มาเร่ิมเก็บพืชพนั ธุ์
ภำพท่ี 86 กลอนอวยพรระหวา่ งทาพธิ ีฟู ลิ-อุ๋ง เต้ ียมจงุ้
ในตอนทา้ ยล่อไถ่จะโปรยเมล็ดพืชพันธุ์ต่างๆไวบ้ นเนินสุสาน
พรอ้ มท้ังกล่าวอวยพรดว้ ย ลูกหลานก็จะรับคาอวยพรโดยการกล่าว
คาวา่ ย้ วิ เช่นกนั ในขณะท่ีล่อไถ่กาลงั โปรยเมล็ดพืนพนั ธุท์ ่ีเนินสุสาน
น้ ีลูกหลานก็จะมานัง่ คุกเข่าท่ีหน้าป้ายหลุมศพอีกคร้งั จากน้ันล่อไถ่
จะพาลูกหลานทาพิธีเซ่นไหวห้ น้าหลุมศพอีกคร้ัง การเซ่นไหวน้ ้ ีจะ
คลา้ ยๆกบั การเซ่นไหวห้ น้าประราพิธีศพท่ีวดั ก่อนนาศพออกมาฝังท่ี
สุสาน มีการยกเคร่ืองเซ่นไหวแ้ ต่ละชนิดมาใหล้ ูกหลานเพ่ือประเคน
เมื่อประเคนจนครบทุกอย่างแลว้ ลูกหลานจะไหวด้ ้วยการคุกเข่า
คานับ ๓ คร้งั เป็ นอนั เสร็จพธิ ี
ภำพที่ 87 ลูกหลานทาพิธีหน้าศพ ด้วยการเซ่นไหว้ด้วย
เคร่ืองเซน่ ไหวช้ นิดต่างๆ
สาหรับลูกหลานที่ใส่ชุดผา้ ฝ้ายสีขาวท้ังหมดและญาติมิตรที่
มาร่วมพิธีทุกท่าน เม่ือเสร็จจากการไหวห้ น้าหลุมศพเรียบรอ้ ยแลว้ ก็
ใหเ้ ดินไปข้ นึ รถเพื่อเตรียมกลบั ไดเ้ ลย
ภำพที่ 88 ลกู หลานกราบเซน่ ไหวห้ นา้ หลุมศพคร้งั สุดทา้ ย
ส่วนลูกชาย ลูกสะใภ้ ลูกสาว และหลานชายคนโตท่ีใส่ชุด
กระสอบจะตอ้ งถอดชุดกระสอบออกไม่ตอ้ งนากลบั ไปบา้ นดว้ ย เมื่อ
ถอดชุดกระสอบเสร็จใหไ้ หวเ้ พื่อบอกกล่าวอาป๊ าหรืออาแมอ้ ีกคร้งั ถึง
การยา้ ยบา้ นใหม่มาอยู่ ณ.ท่ีแห่งน้ ี จากน้ันใหท้ ุกๆคนยกเวน้ ลูกชาย
คนโตและลูกอีก ๑ คนเดินไปข้ ึนรถเพ่ือเดินทางกลบั โดยมีขอ้ ท่ีตอ้ ง
ปฏิบัติคือหา้ มหนั หลงั กลับไปมองท่ีหลุมศพ ส่วนลูกชายคนโตใหไ้ ป
เชิญกระถางธูปข้ ึนรถกลบั บา้ นไปดว้ ย ส่วนลูกอีกคนใหเ้ ชิญภาพถ่าย
กลบั ไป โดยรูปถ่ายน้ ีหา้ มหนั หน้าออกมาจนกว่าจะถึงเวลาท่ีจะทาพธิ ี
ในช่วงถดั ไป
ภำพท่ี 89 - 90 ลูกชายคนโตถือกระถางเชญิ อาป๊ ากลบั บา้ น ลูก
คนถดั ไปเชญิ ภาพถ่ายกลบั บา้ น
อ็อนหลนิ (安灵)กำรเชิญวิญญำนกลบั บำ้ น
ความแตกต่างในเร่ืองความเช่ือของไทยและจีนเก่ียวกบั ธรรม
เนียมการบาเพ็ญกุศลศพน้ันมหี ลายประการ ธรรมเนียมท่ีเห็นชดั เจน
ที่แตกต่างกนั อีกธรรมเนียมก็คือ ในธรรมเนียมการบาเพ็ญกุศลศพ
แบบจีนน้ัน เมื่อบรรจุศพที่สุสานเป็ นที่เรียบรอ้ ยแลว้ ลูกหลานจะมี
ก า ร เ ชิ ญ ก ร ะ ถ า ง ธู ป แ ล ะ ภ า พ ถ่ า ย ซ่ึ ง ป รี ย บ เ ส มื อ น ตั ว แ ท น ข อ ง
ผู้เสียชีวิตกลับบ้าน คนจีนเชื่อกันว่าคนเราเม่ือเสียชีวิตไปแล้ว
วญิ ญานจะแยกออกเป็ น ๓ ดวง ดวงแรกพระหรือนักพรตจะเชิญใหม้ า
สถิตยอ์ ยู่ที่โคมวิญญานเพื่อเขา้ ร่วมพิธีกงเต็ก วิญญานดวงน้ ีจะถูกส่ง
ขา้ มสะพานเพื่อไปรบั การตดั สินในยมโลก วิญญานดวงท่ี ๒ จะสถิตย์
อยู่ที่หลุมฝังศพ วิญญานดวงน้ ีเช่ือกันว่าจะคอยดูแลลูกหลานใน
ตระกูลยาวนานไปถึง ๗ ชัว่ อายุคน ดังน้ันหลุมฝังศพของคนจีนจึง
ตอ้ งเลือกชยั ภูมิที่ดี เพ่ือใหด้ วงวิญญานที่อาศัยอยู่ท่ีนัน่ เป็ นสุข สงบ
และร่มเย็น ซ่ึงวิญญานท่ีเป็ นสุขน้ ีก็จะสามารถส่งพลังมาถึงคนเป็ น
หรือลูกหลานไดน้ ั่นเอง วิญญานดวงท่ี ๓ วิญญานดวงน้ ีสถิตย์อยู่ที่
ป้ายสถิตยว์ ิญญาน (家神位) หรือภาพถ่ายหน้าศพ วิญญานดวงน้ ี
คนจีนเช่ือกนั ว่าท่านจะเป็ นเทพบรรพชนที่คอยปกปักรกั ษาลูกหลาน
ในตระกูล ดังน้ันเม่ือทาพิธีฝังศพเรียบรอ้ ยแลว้ คนจีนจะเชิญดวง
วิญญานดวงท่ี ๓ น้ ีเขา้ ไปสถิตยอ์ ยูใ่ นบา้ นหรือเรียกพิธีกรรมในช่วงน้ ี
ว่าอ็อนหลิน (安灵)การเชิญวิญญานกลับบา้ น การเชิญวิญญาน
กลบั บา้ นจะมขี น้ั ตอนต่างๆดงั น้ ี
ภำพที่ 91 - 93 โคมสถิตยว์ ิญญานดวงท่ี ๑ ภาพถ่ายหน้าศพท่ี
สถิตยด์ วงวิญญานดวงท่ี ๒ และไถ่วุกท่ีสถิตยด์ วงวญิ ญานดวงท่ี ๓
เม่ือลูกหลานกลับมาถึงที่บา้ นเรียบรอ้ ยแลว้ ขบวนลูกหลานยงั
ไม่สามารถเขา้ ไปในบา้ นได้ กระถางธูป ภาพถ่ายหน้าศพหรือป้าย
สถิตยว์ ิญญานจะต้งั รอไวท้ ี่หน้าบา้ น ลูกชายคนโตจะถูกเรียกใหม้ าทา
ความสะอาดกระถางธูป ที่บา้ นจะตอ้ งเตรียมผา้ สะอาดและกะละมงั
ใส่น้าไปรอไวเ้ พ่ือใหล้ ูกชายคนโตไดช้ าระลา้ งความสกปรกท้ังปวง
ใหก้ ับดวงวิญญาน ในระหว่างน้ ีธูปในกระถางจะตอ้ งคอยดูแลไม่ให้
ดบั ส่วนดา้ นในบา้ นล่อไถ่จะจดั เตรียมสถานที่สาหรบั ทาพิธีบูชาป้าย
สถิตยว์ ิญญาน โดยมีโต๊ะและเกา้ อ้ ีท่ีขนาดกาลังพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่
จนเกนิ ไป จดั ไวใ้ นมุมสงบของบา้ น เตรียมเส้ ือของผูต้ ายสวมใส่ไปบน
พนักเกา้ อ้ ีท่ีเตรียมไว้ แขวนผา้ เตี่ยนท่ีนามาจากวัดไวด้ า้ นหลังโต๊ะ
บูชาถา้ หากการไวท้ ุกขค์ ร้ังน้ ีลูกเขยของผูเ้ สียชีวิตไดร้ ่วมการไวท้ ุกข์
ด้วย เม่ือจัดสถานท่ีเรียบรอ้ ยแลว้ ล่อไถ่จะพาลูกหลานทาพิธีขอ
อนุ ญาตเทพเจ้าท่ีเฝ้ าประตูหรือหมุนสิน (门神)ของไหว้ก็
ประกอบไปดว้ ย ไถ่ป้อ ๑ แผ่น สม้ ๔ ผล ๑ จาน น้าชา ๑ ถว้ ย และ
ขนมบวั ลอย ๑ ชาม ก่อนจะเริ่มไหวล้ ่อไถ่จะดึงเอากระดาษแดงที่ปิ ด
ทบั ออกก่อนจากน้ันล่อไถ่จึงนาลูกหลานรายงานตวั และขออนุญาตพา
ดวงวิญญานเขา้ ไปประกอบพิธีในบา้ น เมื่อไหวห้ มุนสินเรียบรอ้ ยแลว้
ล่อไถ่ก็จะพาลูกหลานมาไหวข้ ออนุญาตปักกุ๊งหรือเจา้ ท่ีบา้ น ของไหว้
ก็ประกอบดว้ ย ไถ่ป้อ ๑ แผ่น สม้ ๔ ผล ๑ จาน น้าชา ๕ ถว้ ย และ
ขนมบวั ลอย ๕ ชาม ก่อนจะเร่ิมไหวล้ ่อไถ่จะดึงเอากระดาษแดงท่ีปิ ด
ทบั ออกก่อนจากน้ันลอ่ ไถ่จงึ นาลูกหลานรายงานตวั และขออนุญาตพา
ดวงวิญญานเขา้ ไปประกอบพิธีในบา้ นเช่นเดียวกบั ท่ีขออนุญาตหมุน
สิน
ภำพท่ี 94 ลูกชายคนโตทาความสะอาดกระถางธูป
ภำพท่ี 95-96 ขออนุญาตหมุนสินและถู่ถ่ีปักกุง๊
ภำพที่ 97 ล่อไถ่พาลกู หลานเชญิ วิญญานเขา้ บา้ น
ภำพที่ 98 การจดั โต๊ะสาหรบั ไวใ้ นชว่ งไวท้ ุกข์
เม่ือขออนุญาตส่ิงศกั ด์ิในบา้ นเป็ นที่เรียบรอ้ ยแลว้ ล่อไถ่ก็จะพา
ลูกหลานมาไหวท้ ่ีหน้าโต๊ะบูชาของอาป๊ า บนโต๊ะบูชาจะมีการจดั วาง
ของไหวต้ ่างๆดังน้ ี สม้ ๔ ผล ๑ จาน น้าชา ๓ ถว้ ย ขนมบัวลอย ๓
ชาม ขนมจนั อบั ๑ จาน ชุดลา้ งหน้าซึ่งประกอบดว้ ย กะละมงั แกว้ น้า
แปรงสีฟัน ยาสีฟัน และผา้ ขนหนูสาหรบั เช็ดหน้า ๑ ผืน นอกจากน้ัน
บนโตะ๊ บชู าน้ ียงั ใชส้ าหรบั วางเชงิ เทียนไฟฟ้า ๑ คซู ึ่งจะตอ้ งจุดใหส้ ว่าง
ตลอดระยะเวลาท่ีไหวไ้ วท้ ุกข์ กระถางธูปท่ีเชิญกลบั มาจากหลุมฝังศพ
และรูปถ่ายหน้าศพ ล่อไถ่กาชบั ว่ารูปถ่ายหน้าศพน้ ีเม่ือวางลงไปแลว้
หา้ มขยบั ดังน้ันลูกหลานจึงตอ้ งใชเ้ ทปกาวแบบหนาแปะเอาไวเ้ พื่อ
ไม่ใหร้ ูปถ่ายของอาป๊ าขยบั สาหรบั ดา้ นหลงั โต๊ะบูชาและรูปถ่ายจะมี
เกา้ อ้ ี ๑ ตวั ที่พนักเกา้ อ้ ีสวมเส้ ืออาป๊ าไว้ บนเกา้ อ้ ีวางกางเกงไว้ ๑ ตวั
และดา้ นล่างใตเ้ กา้ อ้ ีวางรองเทา้ ของอาป๊ าไว้ ๑ คู่ โต๊ะบูชาน้ ีจะทาการ
ไหวท้ ุกๆวนั จนครบ ๔๙ วนั
จอ้ ฉิด (做七) หรือจอ้ ซูน้ ไหวไ้ วท้ กุ ข์
โต๊ะบูชาที่ผ่านพิธีอ็อนหลินเรียบรอ้ ยแลว้ ทุกๆวนั จะมีการการ
ไหว้ โดยการไหวน้ ้ันจะแบ่งเป็ น ๒ ช่วง ช่วงแรกจะเป็ นการเปล่ียนน้า
ในกะละมงั และใส่ยาสีฟันสาหรบั ใหผ้ ูท้ ี่เสียชีวิตไดท้ าธุระส่วนตวั ตอน
เชา้ เฉกเช่นเดียวกบั สมยั ที่ท่านยงั มชี ีวิตอยู่ จากน้ันที่บา้ นกจ็ ะไหวด้ ว้ ย
น้าชาและกาแฟ ช่วงท่ีสองคือช่วงเวลา ๑๐.๓๐ น. แต่ไม่เกิน ๑๑.๐๐
น. จะไหวอ้ าหารซ่ึงจะเป็ นกบั ขา้ ว ๒ อย่าง คือมีท้ังแบบผัดและแบบ
ตม้ พรอ้ มกับขา้ วสวย ๑ ชาม พอครบ ๗ วนั ก็จะมีการไหวใ้ หญ่คร้ัง
หนึ่ง ซึ่งประกอบดว้ ยอาหารคาว ๓ อยา่ ง ผลไม้ ๓ อยา่ ง ขนมสีขาวไม่
แตม้ จุดแดง ๓ อย่าง กบั ขา้ ว ๓ หรือ ๕ อย่าง ขา้ วสวย ๑ ถว้ ย น้าชา
๓ ถว้ ย และเหลา้ ๓ จอก ลูกหลานสายตรงแต่ละบา้ นมาไหวร้ วมกนั
โดยตอ้ งใส่ชุดผา้ ดิบและผา้ ฝ้ายขาวมาร่วมพิธีไหว้ การไหวใ้ หญ่ในแต่
ละสัปดาห์น้ ีมีคาเรียกเฉพาะว่า จอ้ ซู้น การจอ้ ซูน้ แบบที่บา้ นจะทา
ท้งั หมด ๗ คร้งั ที่บา้ นจึงเรียกการไหวไ้ วท้ ุกขแ์ บบน้ ีเรียกว่า จอ้ ฉิด (
做七) การไหวไ้ วท้ ุกขแ์ บบจดั ๗ น้ ีจะนับช่วงระยะเวลาที่จดั งานศพ
ก่อนการฝังเป็ น หยิดซู้น หรือสัปดาห์ท่ี ๑ พอกลับมาจากงาน
ศพอ็อนหลินเรียบรอ้ ยแลว้ นับไปอีก ๗ วนั ถือว่าเป็ น หง่ีซู้น หรือไหว้
สปั ดาหท์ ี่สอง การไหวแ้ บบจดั เจ็ดของอาป๊ าจะงดไหวใ้ นสปั ดาหท์ ี่ ๔
ส่วนการไหวส้ ปั ดาหอ์ ่ืนๆก็ไหวต้ ามปกติ
ภำพท่ี 99 การจดั โต๊ะบูชาสาหรบั ไหวไ้ วท้ ุกขใ์ นช่วงครบรอบ ๗
วนั
ภำพที่ 100-101 ลูกหลานที่มาร่วมพิธีไหวจ้ อ้ ซู้นจะใส่เส้ ือ
ชุดผา้ ดิบหรือผา้ ฝ้ายตามแบบท่ีใชใ้ นงานบาเพ็ญกุศลศพ
สาหรบั อาหารที่ควรหลีกเล่ียงไม่นามาไหวใ้ นช่วงไวท้ ุกข์ ไดแ้ ก่
อาหารท่ีประกอบดว้ ยเมนูเสน้ ชนิดต่างๆครบั เพราะปกติอาหารเมนู
เสน้ จะใชใ้ นงานมงคลถือวา่ อวยพรใหอ้ ายุยืนยาวเหมือนเสน้ ที่ยืดยาว
นอกจากน้ันตามธรรมเนียมแลว้ ไม่นิยมไหวอ้ าหารท่ีมีรสขมหรือชนิด
อาหารท่ีมีช่ือของความขมตามภาษาจีน เพราะระหว่างที่ไหวไ้ วท้ ุกข์
น้ันก็ถือว่าขมขื่นอยู่แล้ว จึงห้ามไม่ให้ไหวอ้ าหารรสขมหรือมีช่ือ
เกยี่ วขอ้ งกบั ความขมอนั จะเป็ นการทาใหท้ ุกขซ์ อ้ นนัน่ เอง
การไหวไ้ วท้ ุกข์น้ ีนอกจากจะมีการเตรียมอาหารมาไหวผ้ ู้ท่ี
เสียชีวิตไปแลว้ อย่างพิถีพิถนั อนั แสดงถึงความเคารพและความอาลยั
ต่อการจากไปอย่างสุดซ้ ึงแล้ว การแต่งตัวของลูกหลานตลอด
ระยะเวลาท่ีไวท้ ุกขก์ ม็ ีธรรมเนียมปฏิบตั ิท่ีค่อนขา้ งแตกต่างจากธรรม
เนียมการไวท้ ุกข์ของชนชาติอ่ืนๆ สาหรับการแต่งตัวของลูกหลาน
ตลอดระยะเวลาการไหวไ้ วท้ ุกข์ที่ผู้รู้ท่านแนะนาใหท้ าคือ ถ้าผู้ท่ี
เสียชวี ิตมีศกั ด์ิเป็ นพ่อ แม่ หรือมอี ายุมากกวา่ เรา ใหล้ ูกหลานใสเ่ ส้ ือสี
ขาวเกงกางดา ติดแถบไวท้ ุกขส์ ีดาแผ่นเล็กๆท่ีแขนซา้ ยถา้ ผูเ้ สียชีวิต
เป็ นพ่อ แต่ถา้ แม่เสียชีวิตแถบสีดาแผ่นเล็กๆน้ ีจะติดไวท้ ี่แขนขา้ งขวา
ของลูกหลานนัน่ เอง การไวท้ ุกขต์ ามแบบที่ไดร้ บั การแนะนามาน้ ีจะ
ไม่อนุญาตใหใ้ ส่เคร่ืองประดับหรือแต่งหน้าตลอดระยะเวลา ๔๙ วนั
ในขณะเดียวกนั ท้งั ลูกสาวและลูกชายตลอดจนลูกสะใภ้ ก็จะอนุญาต
ใหส้ ระผมทาความสะอาดไดท้ ุกๆ ๗ วนั ส่วนเล็บน้ันก็ใหต้ ัดไดเ้ มื่อ
ครบ ๗ วนั เชน่ กนั และสุดทา้ ยหนวดของผูช้ ายจะไมโ่ กนเลยจนกวา่ จะ
ครบ ๔๙ วนั หรือพน้ จากพิธีออกทุกขไ์ ปแลว้
ธรรมเนียมการไวท้ ุกข์แบบน้ ีไม่แน่ใจว่ามีท่ีมาท่ีไปอย่างไร
ส่วนตัวแลว้ ก็ไดท้ าใหท้ ้ังอาป๊ าและอาแม่ผูล้ ่วงลับดว้ ยความเต็มใจ
แบบน้ ีเช่นกนั และถา้ ยอ้ นกลับไปรุ่นของอาแม่ ไหงก็เคยเห็นอาแม่
ยดึ ถือธรรมเนียมปฏิบตั ิแบบน้ ีเมือ่ คร้งั ที่อาแมไ่ วท้ ุกขใ์ หอ้ าผอหรือคุณ
แม่ของอาแม่นัน่ เอง ส่วนตวั แลว้ คิดว่าธรรมเนียมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
เหล่าน้ ีคงหาเหตุผลของการปฏิบัติได้ยากมากสาหรับปัจจุบันน้ ี
สุดทา้ ยกข็ ้ ึนอยกู่ บั ความสมคั รใจของลูกหลานแต่ละบา้ น ตวั ไหงและพี่
น้องไหงคิดตรงกนั ว่า อาป๊ าและอาแม่ผูล้ ่วงลบั น้ันท่านลาบากเล้ ียงดู
เราจนเติบใหญม่ าดว้ ยความเต็มใจอยา่ งยิ่ง เม่ือท่านจากเราไปสิ่งไหน
ที่เราพวกเราทาไดแ้ ละไมเ่ หลือบ่ากวา่ แรงเกินไปพวกเราก็จะทาเต็มที่
และทาดว้ ยความเต็มใจ ท่ีสาคญั การปฏบิ ตั ิตวั แบบน้ ีในช่วงไวท้ ุกขน์ ้ัน
ไม่ตอ้ งใชเ้ งินมากมายอะไร ใชแ้ ค่เพียงความต้ังใจและความอดทน
เพียงเท่าน้ัน ดงั น้ันพวกเราลูกหลานของอาป๊ าและอาแม่จึงรว่ มใจกนั
ทาโดยไม่มขี อ้ โตแ้ ยง้ ใดๆเลย
ควำมรูเ้ พิม่ เติมดำ้ นภำษำเก่ียวกบั กำรไหวไ้ วท้ ุกข์
สมัยก่อน "จอ้ ซู้น" จะทาทุกๆสิบวัน ทาท้ังหมดสิบคร้ง คือ
"ปักหงิด" หรือ ๑๐๐ วนั ตวั อกั ษรจงึ ใช้ "ซนู้ " 旬 ตวั น้ ี ซึ่งหมายถึง สิบ
วนั ปัจจุบนั มีการบูรณาการใหเ้ ขา้ กบั สภาพความเป็ นอยูใ่ นสงั คมและ
การทางานของลูกหลานในตระกลู ธรรมเนียมไหวไ้ วท้ ุกข์จึงลดลงมา
เป็ น ไหวท้ ุกๆ ๗ วนั ทาจนครบ ๗ คร้งั รวม ๔๙ วนั จึงมีการเปลี่ยน
อักษรให้เหมาะสม เปล่ียนมาใช้ 巡 เพื่อใหเ้ ป็ นความหมายว่า
ครบรอบวนั กาหนดท่ีตอ้ งมาเย่ียมคารวะ ดงั น้ันจอ้ ซูน้ ของครอบครวั ที่
ไหวแ้ บบจดั เจ็ดหรือจอ้ ฉิด (做七) จึงเขียนดว้ ยตัวอกั ษร ๒ ตัวน้ ี 做
巡 น่าจะตรงกบั ความหมายและการกระทาในปัจจุบนั น้ ีท่ีสุด
ฉุดเฮำ้ (出孝)
เม่ือไหวค้ ร้งั ท่ี ๗ เสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ ก็จะเชิญกระถางธูปและรปู
ถ่ายข้ ึนไปสถิตบนห้ ิง ในกรณีที่ในบา้ นมีห้ ิงบรรพชนเดิมอยู่กอ่ นหน้า
น้ันแลว้ การข้ ึนห้ ิงของวิญญานที่เสียชีวิตใหม่น้ ีตอ้ งแยกออกมาจาก
ห้ ิงบรรพชนที่เสียชีวิตไปก่อนหน้า จะรวมห้ ิงไดก้ ็ต่อเมื่อครบ ๓ ปี ไป
แลว้ จงึ สามารถทาพธิ ีรวมกระถางธูปได้ สาหรบั การไหวค้ ร้งั ท่ี ๗ ของ
ท่ีบา้ นจะมีการเชิญป้ายสถิตวิญญาณดว้ ย ดังน้ันก่อนเร่ิมพิธีไหวจ้ ึง
ตอ้ งทาพิธีเชิญป้ายใหเ้ รียบรอ้ ยก่อน ป้ายสถิตวิญญานท่ีเตรียมไวจ้ ะ
ถูกห่อดว้ ยกระดาษสีแดงวางอยู่ในถาดต้ังอยู่หน้าประตูบา้ น ลูกชาย
คนโตทาพิธีเซ่นไหวเ้ จา้ ประตูและเจา้ ที่ จากน้ันลูกหลานจะมาเซ่น
ไหวท้ ่ีป้ายสถิตวิญญาณ และเชิญป้ายน้ ีเขา้ บา้ นเพื่อไปต้ังไวบ้ นโต๊ะ
ประกอบพิธี จากน้ันก็ทาพิธีไหวไ้ ป้ฉิดหรือไหวค้ ร้งั ท่ี ๗ ไดต้ ามปกติ
เมอื่ ไหวค้ รบ ๓ รอบกจ็ ะลาเคร่ืองกระดาษไปเผา แลว้ จึงมาลาของไหว้
อื่นๆ เม่อื ลาของไหวเ้ สร็จลูกหลานก็จะเขา้ มาหยบิ ของขวญั ช้ ินสุดทา้ ย
หรือท่ีเรียกว่า ซิ่วมุย้ (手尾) ออกไป ซ่ิวมุย้ น้ ีไม่มีการกาหนดตายตวั
ว่าจะต้องเป็ นอะไร ข้ ึนกับว่าท่านเตรียมอะไรไว้ให้ลูกหลาน
สาหรบั ซิ่วมุย้ ของอาป๊ าท่านไม่ไดเ้ ตรียมอะไรไวใ้ ห้ เพราะท่านจากไป
แบบกะทนั หนั ลูกหลานจึงทาล็อกเกต็ รูปอาป๊ าและอาแม่ข้ ึนมา เพ่ือ
เป็ นของขวญั ช้ ินสุดทา้ ยท่ีอาป๊ ามอบใหล้ ูกๆทุกคน ส่วนของลูกสะใภ้
และหลานๆจะไดแ้ หวนทองคนละ ๑ วง
ภำพท่ี 102 ลูกหลานทาพิธีเซ่นไหวเ้ พ่ือเชิญป้ายสถิตยว์ ิญญาน
เขา้ บา้ น
เม่ือรบั ซ้ ิวมุย้ เรียบรอ้ ยแลว้ ลูกหลานจะเชิญกระถางธูป รูปถ่าย
และป้ ายสถิตวิญญาณที่เตรียมไว้ข้ ึนห้ ิง ท่ีห้ ิงน้ ี ดอกไม้จะถูก
เปลี่ยนเป็ นสีอ่ืนที่ไม่ใช่สีขาว ส่วนเทียนก็เปล่ียนเป็ นสีแดง ลูกหลาน
นาผา้ กระสอบ ผา้ ดิบมดั ขอ้ มือ ผา้ แถบไวท้ ุกข์ และถอดโคมพ่อแม่ลง
มาเพ่ือเผา เป็ นการเสร็จพิธีไป้ฉิดหรือการฉุดเฮา้ โดยสมบูรณ์ นับ
จากน้ ีจนครบ ๑๐๐ วนั ลูกหลานไดร้ บั อนุญาตใหส้ ระผม ตัดเล็บ ใส่
เส้ ือผา้ สีอื่นๆท่ีไม่ใช่สีดาขาวไดแ้ ลว้ แต่ยงั คงไม่ใส่เส้ ือผา้ สีฉูดฉาด
เช่นสีแดง สีชมพู หรือสีเหลือง เป็ นตน้ จนกว่าจะทาพิธีบาเพ็ญกุศล
ครบ ๑๐๐ วนั
ภำพที่ 103 - 106 โต๊ะไหวค้ ร้งั ท่ี ๗ มีขนมพิเศษที่เพ่ิมข้ ึนมา
คอื ขนมลกู หลานสีขาว ชุดหมู (หวั เทา้ และหาง) หบี เส้ ือผา้ สีเขียว
ภำพที่ 107 - 108 ของขวญั ช้ ินสุดทา้ ยหรือซิ่วมุย้ (手尾) ท่ี
ผูล้ ว่ งลบั เตรียมไวใ้ หล้ กู หลานและจะมอบใหใ้ นวนั ออกทุกข์
ภำพท่ี 109 ลูกๆรบั ของขวญั ช้ ินสุดทา้ ยหรือซ่ิวมุย้ (手尾)
ภำพที่ 110 ห้ ิงสาหรับวิญญานใหม่จะแยกจากห้ ิงเทพบรรพชน
เดิมและมรี ะดบั ท่ีเต้ ียกวา่
สาหรับการข้ ึนห้ ิงสาหรับบูชาก็มีธรรมเนียมท่ีถูกสอนกันมาว่า
วิญญานที่เสียชีวิตใหม่ยงั ไม่ครบ ๓ ปี จะยงั ไม่สามารถข้ ึนไปอยู่รวม
กบั ห้ ิงเทพบรรพชนได้ การติดห้ ิงสาหรบั วิญญานใหม่น้ ี จึงตอ้ งติดห้ ิง
แยกออกจากห้ ิงบรรพชนที่มีอยู่เดิม และตอ้ งอยู่ในระดับที่เต้ ียลงมา
จากห้ งิ บรรพชนเดิมดว้ ย
บำเพญ็ กุศลครบรอบ ๑๐๐ วนั
การทาบุญ ๑๐๐ วนั สว่ นใหญ่จะไมต่ รงกบั ๑๐๐ วนั พอดี เพราะ
ตามธรรมเนียมขักหงินจะมีการยืดออกไปอีก ๒ – ๓ วัน ตามคา
กล่าวโบราณที่พูดกันว่า “เหยนกองงิบ ปักกองฉุด” (圆扛入百扛
出) หรือวนั ครบรอบ (๔๙) ใหเ้ ล่ือนเขา้ มา ส่วนครบรอ้ ยวนั ใหเ้ ล่ือน
ออกไป
“เหยนกองงิบ” น้ันเป็ นช่วงที่จะออกทุกขค์ ือครบรอบ ๔๙ วนั
ตามธรรมเนียมโบราณท่านกล่าวไวใ้ หเ้ ลื่อนเขา้ มา ดงั น้ันวนั ออกทุกข์
จึงมักจะไม่ครบ ๔๙ วัน ในขณะที่ครบรอ้ ยวนั ก็จะไม่ทาพิธีตรงกับ
วนั ท่ี ๑๐๐ พอดี แต่ตามธรรมเนียมโบราณท่านกล่าวไวว้ ่า “ปักกอง
ฉุด” คือเม่ือครบรอ้ ยวนั ใหเ้ ล่ือนออกไปนัน่ เอง ส่วนการเลื่อนเขา้ และ
เล่ือนออกจะมากหรือน้อยท่านผูร้ ูท้ ่านก็บอกว่าใหด้ ูจากปริมาณลูก
ชายของผวู้ ายชนมเ์ ป็ นหลกั ครบั
การทาบุญครบรอบรอ้ ยวนั ใหก้ บั อาป๊ า ที่บา้ นไดน้ ิมนต์พระจีน
จากวดั โพธ์ิคุณารามมาประกอบพิธีให้ เคร่ืองเซ่นไหวค้ ร้ังน้ ีก็ไม่ได้
แตกต่างจากการไหวไ้ ป๊ ฉิด เพียงแต่สีของขนมลกู หลานจะเปลี่ยนเป็ น
สีชมพู, ขนมท้ังหลายท่ีส่วนใหญ่ทาจากแป้งที่มีสีขาวก็จะถูกแตม้ สี
แดงเอาไวบ้ นตวั ขนม ส่วนหีบเส้ ือผา้ ก็จะเปล่ียนเป็ นสีแดงแทนสีเขียว
ในการไหวค้ รบ ๑๐๐ วนั ของอาป๊ า พวกเราลกู หลานฝากหบี เส้ ือผา้ ไป
ใหอ้ ากุ๊งและอาแม่อีกท่านละ ๑ หีบ ในพิธีจึงมีหีบสีแดงใบใหญ่
จานวน ๓ ใบ
การทาพิธีเริ่มจากหลวงจีนที่นิมนตม์ าจะเขา้ มายืนลอ้ มโต๊ะเซน่
ไหวท้ ี่จดั เตรียมอาหารและเคร่ืองเซ่นไหวต้ ่างๆไวเ้ รียบรอ้ ยแลว้ หลวง
จีนท่านก็จะสวดมนต์ ส่วนลูกหลานและคนท่ีมาร่วมงานก็จะไหวอ้ ยู่
รอบโต๊ะ เม่ือเสร็จจากพิธีส่งเคร่ืองเซ่นไหวแ้ ลว้ ลูกหลานและญาติๆก็
จะนิมนต์หลวงจีนฉันภัตาหารเจ ที่เตรียมไว้ เมื่อหลวงจีนฉันเสร็จ
เรียบร้อยแล้วก็ถวายสังฆทาน หลวงจีนจะให้ศีลให้พร และพา
ลูกหลาน ญาติโยมกรวดน้าอุทิศส่วนบุญกุศล จากน้ันก็จะส่งหลวงจนี
กลบั พระอาราม เมื่อหลวงจีนออกจากบา้ นไปลูกหลานก็จะลาเคร่ือง
กระดาษท้งั หมดแลว้ นาไปเผา เมื่อเผาเสร็จก็จะมาลาเครื่องเซ่นไหว้
อื่นๆเป็ นการจบพิธีบาเพ็ญกุศลศพท่ีกินเวลายาวนานมากกว่า ๑๐๐
วนั
ภำพที่ 111 หลวงจนี ยืนลอ้ มโตะ๊ เซน่ ไหวเ้ พ่ือสวดมนต์
อย่างไรก็ดีธรรมเนียมเกี่ยวกบั บรรพชนผูล้ ่วงลับน้ันยงั ไม่เสร็จ
สมบูรณ์นะครับ แมว้ ่าหลังจากท่ีลูกหลานไดเ้ ชิญท่านข้ ึนห้ ิงไปแลว้
แต่กย็ งั มธี รรมเนียมปฏิบตั ิท่ียึดถือกนั มานานและยงั คงปฏิบตั ิสืบทอด
กนั ต่อมาในบางครอบครวั ซึ่งผเู้ ขยี นจะขออธิบายในตอนต่อไปครบั
ภำพท่ี 112 โต๊ะเซน่ ไหวแ้ ละเคร่ืองเซ่นไหวใ้ นวนั ครบรอบ ๑๐๐
วนั ของไหวจ้ ะเปล่ียนเป็ นสีมงคล
ภำพท่ี 113 - 114 หลวงจนี ฉนั ภตั ตาหารเจ รบั สงั ฆทาน และอุทิศ
ส่วนบุญกุศล
กำรไหวภ้ ำยในระยะเวลำ ๓ ปี แรก
ธรรมเนียมปฏิบตั ิสาหรบั การไหวว้ ิญญานใหม่ที่ยงั ไม่ครบ ๓ ปี
และยงั ไม่ไดร้ วมห้ ิง ลูกหลานจะตอ้ งไหวท้ ่านแยกจากบรรพชนท่ีข้ ึน
ห้ งิ ผ่าน ๓ ปี ไปแลว้
ธรรมเนียมการไหวก้ ่อนน้ ี จะไหวก้ ่อนถึงวันไหวจ้ ริง ๑ วัน
ตัวอย่างเช่น ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ วนั ตรุษจีนตรงกับวนั ท่ี ๒๕ มกราคม
ดงั น้ันวนั ไหวส้ ้ ินปี จะตรงกบั วนั ที่ ๒๔ มกราคม การไหวบ้ รรพชนใหม่
ท่ียงั ไม่ครบ ๓ ปี ตอ้ งไหวก้ ่อนวนั ไหวจ้ ริง ๑ วนั ซ่ึงก็ตรงกบั วนั ท่ี ๒๓
มกราคม ในการไหวก้ ่อนวันไหว้จริง ๑ วันน้ ี ผู้รู้ท่านสอนไวว้ ่า
กลางคืนก่อนวนั ที่เราจะตอ้ งไหวก้ ่อนวนั จริง ๑ วนั ใหล้ ูกชายจุดธูป
บอกกล่าวดวงวิญญานบรรพชนท่ีเราตอ้ งการเชิญมารบั การเซ่นไหว้
ก่อนวนั จริงใหท้ ่านรับทราบท่ีบริเวณกลางแจง้ ซ่ึงก็จะเป็ นการดีต่อ
บรรพชนท่านน้ันเพอ่ื ท่านจะไดเ้ ตรียมตวั ลว่ งหน้านัน่ เอง
สาหรบั ครอบครวั ที่มีพ่อแม่หรือป่ ูยา่ ที่เสียชีวิตไปยงั ไม่ครบ ๓ ปี
น้ัน นอกจากจะตอ้ งจัดพิธีไหวแ้ ละเคร่ืองเซ่นไหวเ้ ป็ น ๒ วัน ๒ ชุด
แลว้ ในระยะเวลา ๓ ปี น้ ี ภายในครอบครวั จะไม่มีการจดั งานมงคล
ใดๆท้งั ส้ ิน ไมว่ า่ จะเป็ น งานแต่งงานหรืองานข้ ึนบา้ นใหม่
เนื่องจากการไหวบ้ รรพชนใหม่ภายในระยะ ๓ ปี น้ ี ลูกหลาน
หลายๆครอบครวั ก็อาจจะไม่สะดวกท่ีจะจดั การเซ่นไหว้ ๒ คร้งั ในแต่
ละเทศกาลเหมือนสมยั ก่อน ท้ังน้ ีเพราะสภาพความเป็ นอยู่และชีวิต
หน้าที่การงานที่เปล่ียนแปลงไป บางบา้ นกม็ ีผูร้ ูช้ ่วยทาพิธีกา้ วขา้ ม ๓
ปี ใหล้ ูกหลานเพือ่ ยน่ ระยะเวลาช่วงน้ ีไป
การทาพิธีกา้ วขา้ ม ๓ ปี สาหรับผูว้ ายชนมท์ ี่ผูเ้ ขียนเคยผ่านมา
เองก็คือการทาพิธีใหอ้ าแม่ ซ่ึงผูป้ ระกอบพิธีใหใ้ นตอนน้ันเป็ นคนจีน
แต้จ๋ิว การทาพิธีจะทาข้ ึนท่ีสุสาน เมื่อยกโลงศพฝังลงในหลุม
ลูกหลานไหวล้ าหน้าหลุมศพคร้งั สุดทา้ ยเรียบรอ้ ยแลว้ ลูก หลาน คน
อ่ืนๆจะถูกสงั่ ใหไ้ ปข้ ึนรถรอ ในขณะท่ีลูกชายคนโตจะถูกนาไปทาพิธี
ดังกล่าว การทาพิธีน้ ีผูร้ ูท้ ่านจะใหล้ ูกชายคนโตยกจอบไหวข้ ้ ึนเหนือ
ศีรษะท่ีหน้าหลุมศพแลว้ กล่าวคาตาม จากน้ันท่านจะพาไปเดิน
วนรอบหลุมศพ ๓ รอบ ในขณะที่เดินวนรอบหลุมศพ ผูร้ ูท้ ่านก็จะให้
ลูกชายคนโตใชจ้ อบขดุ ดินแต่ละจุดๆ รอบๆหลุมศพ โยนลงไปในหลุม
ศพดว้ ย เมื่อเสร็จแลว้ ท่านก็สงั่ ใหไ้ ปข้ ึนรถ โดยระหว่างทางที่เดินไป
ข้ ึนหา้ มหนั หลงั กลบั มามอง เป็ นอนั เสร็จพธิ ีกา้ วขา้ ม ๓ ปี
เม่ือทาพิธีน้ ีเสร็จแลว้ เวลากลับถึงบา้ นก็เชิญกระถางธูปและ
ภาพถ่ายข้ ึนห้ ิงไดเ้ ลย ไม่จาเป็ นตอ้ งทาจอ้ ฉิดเพราะไดท้ าการออก
ทุกขไ์ ปแลว้
ภำพท่ี 115 - 116 การทาพธิ ีกา้ วขา้ ม ๓ ปี
โดยส่วนตวั แลว้ ผูเ้ ขียนนิยมธรรมเนียมปฏิบตั ิแบบครบสมบูรณ์
มากกว่า แต่เน่ืองดว้ ยความรูท้ ่ีมีในขณะน้ันยงั ไม่มาก ผูร้ ูท้ ่านแนะนา
อย่างไรไวเ้ ราเป็ นเด็กกต็ อ้ งทาตามท่านแนะนา แต่ในคราวของอาป๊ า
หวุนป้ อก๊อที่เมตตามาประกอบพิธีให้ ท่านแนะนาให้พวกเรา
ลูกหลานวา่ ควรทาพิธีแบบเต็ม ครบสมบูรณ์ใหอ้ าป๊ าจะดีกวา่ ซ่ึงพวก
เราพี่น้องก็ไม่มีใครเห็นต่าง ดังน้ันงานของอาป๊ าและอาแม่จึงทาให้
พวกเราไดเ้ หน็ มุมคิดในธรรมเนียมปฏิบตั ิท่ีแตกต่างกนั นัน่ เอง
กำรรวมห้ ิงบรรพชน
“ธรรมเนียมกตญั ญู” หรือธรรมเนียมปฏิบตั ิสาหรบั ผวู้ ายชนมท์ ่ี
มีเช้ ือสายป้ันซ้นั ขกั ท่ีผูเ้ ขียนไดต้ ้งั ใจเขียนรวบรวมไวจ้ ากประสบการณ์
ตรงของผูเ้ ขียนเองก็ดาเนินมาถึงข้นั ตอนสุดทา้ ยแลว้ ข้นั ตอนน้ ีผูว้ าย
ชนม์จะไดเ้ ปล่ียนสถานะไปเป็ นเทพบรรพชนคุม้ ครองวงศ์ตระกูล
อย่างสมบูรณแ์ บบหรือที่เรามีคาจีนขกั วอ้ ยเรียกวา่ “กาสินจ”ู้ (家神
主) น้ันเอง
ก่อนวันครบรอบ ๓ ปี ซึ่งเป็ นการนับตามปี ปฏิทินไม่ใช่นับ
จานวนวันใหค้ รบ ๓ ปี ตัวอย่างเช่น ผู้วายชนม์เสียชีวิตในเดือน
ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ นับปี ที่เสียคือปี พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็ นปี ที่ ๑ ครบรอบ
๓ ปี จึงตรงกบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังน้ันในวนั ไหวช้ ่วงส้ ินปี ๒๕๖๒ และ
ตรุษจีน ๒๕๖๓ จึงตอ้ งมีการรวมห้ ิงบรรพชนใหเ้ รียบรอ้ ยเสียก่อน
การรวมห้ งิ ก็จะมกี ารดูฤกษ์งามยามดีประกอบเพ่อื ความเป็ นสิริมงคล
ข้นั ตอนแรกลูกหลานจุดธูปเทียนบอกกล่าวบรรพชนที่ห้ ิงใหญ่
เพ่ือขออนุญาตหรือแจง้ ใหท้ ่านทราบว่า ต่อไปน้ ีจะมีบรรพชนเขา้ มา
เพ่ิมอีก ๑ ท่าน เม่ือขออนุญาตเรียบรอ้ ยแลว้ ก็ขยบั ปรบั เปล่ียนส่ิงของ
ต่างๆบนห้ งิ ใหเ้ หมาะสม
การวางภาพถ่ายบรรพชนชายเมอ่ื ลกู หลานหนั หน้าเขา้ ห้ ิงบรรพ
ชน ผู้ชายจะอยู่ด้านขวามือของลูกหลาน ส่วนด้านซ้ายมือของ
ลูกหลานจะเป็ นบรรพชนฝ่ ายหญิง ตรงกลางสุดจะเป็ นคู่ท่ีมีอาวุโสสูง
ที่สุดเรียงออกมาตามลาดบั
阿阿阿 阿
ซา้ ย 姆 嬤 公 ขวา
爸
แม่ ยา่ ป่ ู พอ่
ภำพท่ี 117 ตาแหน่งการต้งั ภาพถ่ายบรรพชนบนห้ ิง
ข้นั ตอนถดั ไป เม่ือขออนุญาตบรรพชนที่ห้ ิงใหญ่เป็ นที่เรียบรอ้ ย
แลว้ จากน้ันลูกหลานก็จุดธูปบอกกล่าวบรรพชนที่ตอ้ งการจะยา้ ย
ไปสู่ห้ ิงใหม่เพื่อแจ้งใหท้ ่านทราบ เมื่อธูปไหม้ไปได้สักพักก็เชิญ
ภาพถ่าย ป้ายบรรพชน รวมท้ังข้ ีธูปในกระถางที่อยู่ห้ ิงเก่าไปยังห้ ิง
ใหม่ ภาพถ่ายและป้ายบรรพชนก็วางยงั ตาแหน่งท่ีจดั เตรียมไว้ ส่วนข้ ี
ธูปท่ีนามาก็ใหน้ าไปใส่รวมในกระถางธูปของบรรพชนท่ีห้ ิงใหม่ได้
เลย
ข้นั ตอนสุดทา้ ยเม่ือจดั เตรียมทุกอยา่ งเขา้ ที่เรียบรอ้ ยแลว้ กใ็ หน้ า
ของเซ่นไหวอ้ ันประกอบดว้ ย ขนมบัวลอย สม้ และ น้าชา กระดาษ
เงินกระดาษทอง นาไปเซ่นไหวส้ ิ่งศักด์ิสิทธ์ิที่มีอยู่ในบา้ น โดยการ
เซ่นไหวข้ องท่ีบา้ นจะเร่ิมไหวจ้ ากพระพุทธรูปซ่ึงผูเ้ ขียนถือว่าเป็ น
ประธานของส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิท้ังปวงในบา้ น จากน้ันจึงไหวเ้ จา้ ท่ี ไหวเ้ จา้
ประตู และไหวท้ ี่ห้ ิงบรรพชนเป็ นลาดับสุดทา้ ย หลงั จากน้ ีลูกหลานก็
สามารถไหวบ้ รรพชนตรงวนั ตรงเทศกาลไดต้ ามปกติ
สรุป
จากธรรมเนียมปฏิบตั ิเก่ียวกบั ผูว้ ายชนมท์ ี่ผูเ้ ขียนไดป้ ระสบพบ
เองมากับตัวไม่ว่าจะเป็ นธรรมเนียมแบบจีนแคะหรือแตจ้ ๋ิว แต่ละ
ข้ันตอนของพิธีการน้ันนับได้ว่ามีความหมายที่ลึกซ้ ึงกินใจ และมี
ความหมายเพ่ือการอวยพรใหล้ ูกหลานผูอ้ ยู่เบ้ ืองหลงั ไดเ้ จริญรุ่งเรือง
สืบต่อไปในอนาคต
แต่ อย่างไรก็ดี การ ประกอบพิธี กรรม ตามธรรมเนี ยมป ฏิ บัติ
เหล่าน้ ีใหไ้ ดค้ รบถว้ นสมบรู ณแ์ บบน้ันกต็ อ้ งมีองคป์ ระกอบหลายอย่าง
เขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง เช่นทุนทรัพย์ของลูกหลานผู้เป็ นเจา้ ภาพในการ
จัดการงาน ท้ังน้ ีเนื่องจากการประกอบพิธีกรรมตามธรรมเนียม
เหล่าน้ ีจะมีค่าใชจ้ ่ายที่มากกว่าการประกอบพิธีกรรมตามธรรมเนียม
ไทยพุทธประมาณ ๓ - ๕ เท่า หลายๆธรรมเนียมปฏิบตั ิแบบด้ังเดิม
จึงค่อยๆเลือนหายไปจากครอบครวั ของคนไทยเช้ อื สายจนี
นอกจากน้ันดว้ ยกระบวนการท่ีซบั ซอ้ นและใชเ้ วลาคอ่ นขา้ งนาน
ในการปฏิบัติตามธรรมเนียมใหค้ รบถว้ นสมบูรณ์แบบ ประกอบกบั
จานวนผูร้ ูจ้ ริงหรือผูช้ านาญการในดา้ นน้ ีก็มีเหลือไม่มากนัก ดังน้ัน
แมว้ ่าหลายๆท่านจะมีเงินทองพอท่ีจะสามารถใชจ้ ่ายเพื่อทาตาม
ธรรมเนียมน้ ีไดไ้ ม่ยาก แต่การจะไดม้ าซ่ึงผูร้ ูห้ รือผูช้ านาญการน้ันก็
อาจเป็ นเรื่องยาก เพราะลูกหลานผูว้ ายชนมอ์ าจจะไม่ทราบว่าจะไป
ติดต่อขอความช่วยเหลือจากผรู้ หู้ รือผชู้ านาญการที่ไหน
ในส่วนของครอบครัวของผูเ้ ขียนนับว่าเป็ นโชคดีอย่างย่ิงที่ได้
คุณ ธนวัฒน์ ตันวิบูลย์วงษ์ (陈文宝) และคณะผู้ชานาญการด้าน
พธิ ีกรรมจากสมาคมฮงสุนและสมาคมเซ้ ียงฉินแหง่ ประเทศไทย มาเป็ นผูจ้ ดั
พิธีบาเพ็ญกุศลศพแบบจีน – ป้ันซ้นั ขกั ใหอ้ ย่างครบถว้ นสมบูรณ์แบบ ใน
ขณะเดียวกนั ท่านยงั ไดถ้ ่ายทอดความรู้ ความหมายของการทาในข้นั ตอน
ต่างๆอย่างละเอียดลึกซ้ ึงใหก้ ับลูกหลานที่มาเข้าร่วมพิธีกรรมเพ่ือเป็ น
ความรูอ้ ีกดว้ ย ท้งั หมดน้ ีจึงเป็ นแรงบนั ดาลใจท่ีทาใหผ้ ูเ้ ขียนอยากจะบนั ทึก
เร่ืองราว ธรรมเนียมบาเพ็ญกุศลศพแบบจีน – ป้ันซ้นั ขกั เอาไวเ้ พ่ือจะได้
แบ่งปันใหล้ ูกหลานจีนป้ันซ้ันขักทุกๆคนที่สนใจจะสืบสาน “ธรรมเนียม
กตญั ญู” น้ ีใหอ้ ยคู่ ูก่ บั ลูกหลานป้ันซ้นั ขกั ตลอดไป
อนุสรณ์ธรรมเนียมกตญั ญูคุณป่ ูชนิ หยกั เซ้ ียงแตน๊ ณ สุสานเจริญเมอื ง อ.พาน จ.เชยี งราย 12 พฤศจิกายน 2541
อนุสรณ์ธรรมเนียมกตญั ญูคุณแม่ฮ้งั จวง แซเ่ ฮง้ ณ วดั หวั ลาโพง กรุงเทพมหานคร 10 มนี าคม 2548
อนุสรณ์ธรรมเนียมกตญั ญูคุณพ่อสงวนศกั ด์ิ ธีรรตั นสถิต ณ วดั หวั ลาโพง กรุงเทพมหานคร 13 ตุลาคม 2560
半山客白喜文化
ธรรมเนียมกตญั ญู