โครงงานการงานอาชีพ น้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ จัดทำโดย 1. ด.ช.ชยกฤต บำรุงทรัพย์ 2. ด.ช.ชิณวุฒิ ศิลารักษ์ 3. ด.ญ.ปสุตา เอื้อจิตรเมต ครูที่ปรึกษาการจัดทำโครงงาน นางสาวภัทราภรณ์ กาญจนาพิทักษ์ และคณะครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านบางกะปิ สำนักงานเขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
หัวข้อโครงงาน น้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ ผู้จัดทำโรงงาน 1. ด.ช.ชยกฤต บำรุงทรัพย์ 2. ด.ช.ชิณวุฒิ ศิลารักษ์ 3. ด.ญ.ปสุตา เอื้อจิตรเมต ครูที่ปรึกษาหลัก นางสาวภัทราภรณ์ กาญจนาพิทักษ์ ครูที่ปรึกษาร่วม คณะครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 วิชา การงานอาชีพ โรงเรียน บ้างบางกะปิ บทคัดย่อ โครงงานเรื่องน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อศึกษาสรรพคุณ และวิธีทำน้ำ กระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ่วา มีวิธีการทำอย่างไร ใช้อะไรในการทำบ้าง และช่วยลดปริมาณกระเจี๊ยบในชุมชน การนำ กระเจี๊ยบมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน สามารถนำมาประยุกต์เข้ากับชีวิตประจำวัน ตลอดจนสามารถพัฒนาสู่การทำเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต ได้อีกด้วย จากการศึกษาค้นคว้าการทำโครงงานพบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจคือช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และแก้หวัด แก้กระหาย ให้ร่างกายสดชื่น และที่สำคัญคือสามารถนำพืชผักมาแปรรูปทำเป็นเครื่องดื่มที่มี ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสามัคคี และฝึกทักษะแก่คนในกลุ่มอีกด้วย
กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรื่องน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีเพราะได้รับความอนุเคราะห์และความ ช่วยเหลือจากครูภัทราภรณ์ กาญจนาพิทักษ์ และคณะครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ให้คำปรึกษาในการทำ โครงงาน นอกจากนี้ยังได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ปกครองที่ให้การแนะนำและช่วยเหลือในการทำโครงงานนี้ สำเร็จไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทำมีความซาบซึ้งในความกรุณาของทกุท่านที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น รวมทั้งผู้ที่ได้มีส่วน สนับสนุนที่ไม่อาจกล่าวได้ทั้งหมด ตลอดจนแหล่งความรู้ต่าง ๆ ที่เราได้นำมาประกอบการทำโครงงาน ทางคณะ ผู้จัดทำจึงขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านเป็นอย่างสูงด้วยความจริงใจ ที่ได้ให้ความสนับสนุนโครงงานนี้จนสำเร็จลุล่วง ไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทำ
คำนำ การจัดทำโครงงานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการงานอาชีพ โดยคณะผู้จัดทำได้จัดทำโครงงานเรื่องน้ำ กระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพเพื่อศึกษาสรรพคุณ และวิธีทำน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพว่า มีวิธีการทำอย่างไร ใช้อะไรในการ ทำบ้าง และช่วยลดปริมาณกระเจี๊ยบในชุมชน การนำอัญชันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และนำเสนอแก่ผู้ที่สนใจ ในการทำน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ รวมถึงยังสามารถนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และพัฒนาสู่อาชีพเพื่อการสร้างรายได้อีกด้วย หากโครงงานนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ทางคณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้และจะดำเนินการพัฒนา ผลงานให้ดีขึ้นไป คณะผู้จัดทำ
สารบัญ เรื่อง หน้า บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน 1 บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง 2 บทที่ 3 วิธีการดำเนินโครงงาน 4 บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน 6 บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 7 ภาคผนวก 8
1 บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ความเป็นมาและความสำคัญของโครงงาน ปัจจุบันเครื่องดื่มหลากหลายประเภทได้รับความนิยมสูงมากขึ้น เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลมหลากสี น้ำชาจีน ชาเขียว ทั้งแต่งแต้มรสชาติ กลิ่นและสีให้แปลกใหม่ ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และเด็กมักสนุกที่จะเลือก หยิบได้ตามความต้องการ ขณะที่อิทธิพลจากโฆษณามีผลกระตุ้นให้เด็กอยากรู้ อยากลองชิมมากขึ้นซึ่งอาจติดใจจน กลายเป็นเครื่องดื่มแทนน้ำเปล่า ทำให้เด็กเริ่มติดรสหวาน และกินบ่อยเป็นประจำจนกลายเป็นเด็กอ้วนได้ง่าย พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองคงไม่สามารถปิดกั้นไม่ให้เด็กเลือกดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ได้ แต่ควรแนะนำให้เลือกสรรสิ่งที่มี ประโยชน์ และมีคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสมกับเด็ก ดังนั้น เครื่องดื่มที่สามารถทำได้ง่าย ราคาไม่แพงสามารถนำพืชผักผลดอกต่าง ๆ ที่มีอยู่แถวบ้านนำมาทำเป็น เครื่องดื่มที่มีประโยชน์สามารถรักษาโรคได้ในบางตัว และมีผลดีต่อสุขภาพร่างกายเราเอง ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ปลอดภัย สะอาด และสามารถเก็บไว้ได้นานกว่าเครื่องดื่มที่มีสารสีผสมอาหารผสมอยู่ วัตถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพื่อเพื่อศึกษาสรรพคุณกระเจี๊ยบ 2. เพื่อศึกษาขั้นตอนในการทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากกระเจี๊ยบ 3. เพื่อให้รู้คุณค่าสมุนไพรไทย 4. เพื่อนำเครื่องดื่มมาทำอาชีพเสริมให้มีรายได้ ขอบเขตของโครงงาน ศึกษาค้นคว้าเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและนำมาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเครื่องดื่มที่เป็นสมุนไพรเพื่อพัฒนา สู่อาชีพเป็นการสร้างรายได้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ได้รับความรู้และประโยชน์จากน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ 2. เป็นแนวทางในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
2 3. เป็นแนวทางในการพัฒนาสู่อาชีพเพื่อสร้างรายได้ บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ความหมายของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ คือ สมุนไพรที่ได้จากผัก ผลไม้ ธัญพืช คนมักใช้กินเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุรวมทั้งสารอื่น ๆ ซึ่งล้วนแต่มีความจำเป็นต่อร่างกายที่จะนำไปสู่สุขภาพ ที่ดี ปัจจุบันนี้เครื่องดื่มประเภทน้ำสมุนไพรได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ได้จากการนำ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของพืช ได้แก่ ใบ ดอก ผล ลำต้น และราก นำมาแปรรูปให้ตรงกับความต้องการของเรา เช่น ผัก ผลไม้กินทุกวันบางครั้งจะเบื่อในรสชาติ หรือบางคนไม่ชอบกินผักผลไม้บางชนิด เราก็สามารถนำมาทำเป็น เครื่องดื่มในรูปของน้ำผลไม้ น้ำผัก/ธัญพืช ถ้ามีเหลือมาก ๆ อาจนำมาตากแห้ง หรืออบแห้งเป็นชาสมุนไพรก็ได้ยิ่ง ในฤดูร้อนเครื่องดื่มจะมีความหมายมาก เพราะช่วยลดอาการกระหายน้ำ ลดอาการเหนื่อยเพลีย เนื่องจากเหงื่อ ออกมาก ดังนั้นควรทำไว้ดื่มกินเอง จะช่วยประหยัด สะอาด ถูกสุขลักษณะ และควรดื่มทันทีหลังปรุงเสร็จ เพื่อให้ ได้คุณค่าทางอาหารและทางยามากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานแล้วดื่ม เพราะจะทำให้คุณค่าลดลง การดื่มน้ำสมุนไพรจะ ได้ทังกลิ่นและรสตามธรรมชาติของสมุนไพรนั้น ๆ และยังมีคุณค่าทางยาอีกด้วย เช่น น้ำกระเจี๊ยบ ช่วยบำรุง สายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้หวัด แก้กระหาย ให้ร่างกายสดชื่นอีกด้วย เครื่องดื่มนี้เป็นได้ทั้งอาหารและให้ คุณค่า จึงอาจกล่าวได้ว่าน้ำสมุนไพรจึงเป็นยาช่วยบำรุง ปกป้องรักษา สภาพสภาวะสมดุลทำให้มีสุขภาพที่ดี การดื่มน้ำสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ น้ำผัก/ธัญพืชหรือชาสมุนไพร สักกี่คนจะรู้ว่าเมื่อดื่มน้ำสมุนไพร แล้วร่างกายกระชุ่มกระชวย มีชีวิตชีวา คลายเครียดและยังช่วยลดสารพิษ ซึ่งคุณค่าอันมากมายเหล่านี้ทุกคนล้วน หาได้ไม่ยาก และถ้าหากต้องใช้เครื่องดื่ม ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวัน งานเลี้ยง ประชุมต่าง ๆ ก็ให้นึกถึงน้ำสมุนไพร จะทำให้ผู้ดื่มมีสุขภาพที่ดีขึ้น ประโยชน์ที่ได้รับจากน้ำอัญชันมะนาวเพื่อสุขภาพ ข้อมูลของกระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Hibiscus sabdariffa Linn. จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE) สมุนไพรกระเจี๊ยบแดง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ผักเก็งเค็ง, ส้มเก็งเค็ง, ส้มตะเลงเครง (ตาก), ใบส้มม่า (ระนอง), แกงแคง (เชียงใหม่), ส้มปู (แม่ฮ่องสอน), แบลมีฉี่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), แต่เพะฉ่าเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ปร่างจำบู้ (ปะหล่อง), กระเจี๊ยบ, ส้มเก็ง ส้มพอเหมาะ (ภาคเหนือ), ส้มพอดี (ภาคอีสาน), กระเจี๊ยบแดง, กระเจี๊ยบเปรี้ยว (ภาคกลาง), ส้มพอ ส้ม
3 พอเหมาะ เป็นต้น มีถิ่นกำเนิดในประเทศซูดาน อินเดีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยในประเทศไทยมีแหล่งผลิต ที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา สรรพคุณของกระเจี๊ยบ 1. กลีบเลี้ยงของดอกหรือกลีบที่เหลือที่ผล ใช้เป็นยาลดไขมันในเส้นเลือดและช่วยลดน้ำหนัก โดยมีการ ทดลองกับกระต่ายที่มีไขมันสูง แล้วพบว่าระดับไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และระดับไขมันเลว (LDL) ลดลง และมีปริมาณของไขมันชนิดดี (HDL) เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ความรุนแรงของการอุดตันหลอดเลือดแดงใหญ่จาก หัวใจก็น้อยลงกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับสารสกัดกระเจี๊ยบแดงอีกด้วย (ผล, เมล็ด, น้ำกระเจี๊ยบแดง) 2. ดอกกระเจี๊ยบแดงช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด (ดอก) 3. เมล็ดใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง (เมล็ด, น้ำกระเจี๊ยบแดง, ยอดและใบ) 4. ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย 5. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน 6. ช่วยลดความดันโลหิต โดยไม่มีผลร้ายแต่อย่างใด มีรายงานการวิจัยทางคลินิกพบว่าในวันที่ 12 หลัง ผู้ป่วยได้รับชาชงกระเจี๊ยบแดงทุกวัน ค่าความดันโลหิตเมื่อหัวใจบีบตัวและคลายตัวลดลง 11.2% และ 10.7% ตามลำดับเมื่อเทียบกับวันแรก และ 3 วันหลังจากหยุดดื่มชาชง ความความดันโลหิตทั้งสองค่าก็เพิ่มขึ้นอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติ (น้ำกระเจี๊ยบแดง) 7. เมล็ดช่วยบำรุงโลหิต 8. ช่วยแก้เส้นเลือดตีบตัน 9. ช่วยรักษาเส้นเลือดให้แข็งแรงและอ่อนนิ่มยืดหยุ่นได้ดี 10. น้ำกระเจี๊ยบช่วยทำให้ความเหนียวข้นของเลือดลดลง (น้ำกระเจี๊ยบแดง) ดอกกระเจี๊ยบแดงช่วยรักษา โรคเส้นเลือดแข็งเปราะได้เป็นอย่างดี (น้ำกระเจี๊ยบแดง)
4 บทที่ 3 วิธีการดำเนินโครงงาน ในการจัดทำโครงงานเรื่องน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ โดยใช้กระเจี๊ยบมาแปรรูปเพื่อทำน้ำกระเจี๊ยบเพื่อ สุขภาพ เนื่องจากกระเจี๊ยบมีสรรพคุณทางยารักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค ซึ่งมีวิธีการดำเนินงานดังนี้ ส่วนผสมของน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ 1. กระเจี๊ยบแห้ง 50 กรัม 2. น้ำสะอาด 5 ลิตร 3. น้ำตาลทราย 500 กรัม 4. เกลือ 1 ช้อนชา ขั้นตอนการทำน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ 1. นำดอกกระเจี๊ยบแห้งมาล้างน้ำให้สะอาด ล้างฝุ่นออก สะเด็ดน้ำให้แห้ง 2. จากนั้นก็ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ และดอกกระเจี๊ยบแห้งที่เตรียมไว้
5 3. ต้มประมาณ 20 นาที ดูให้น้ำออกเป็นสีแดงสดดี หรือดูสีดอกกระเจี๊ยบที่ต้ม ถ้าสีซีดลง ตักดอก กระเจี๊ยบออก 4. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลาย ลองชิมรสเติมหวานเค็มได้ตามชอบ 5. นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง น็อกด้วยน้ำเย็น น้ำแข็ง เพื่อเป็นการพลาสเจอร์ไรซ์ และจะทำให้น้ำหวาน เก็บได้นานขึ้น 6. เติมน้ำแข็ง ตารางปฏิบัติกิจกรรมโคงงาน สัปดาห์ที่ กิจกรรมที่ปฏิบัติ สถานที่ ผู้รับผิดชอบ 1 เลือกหัวข้อเรื่องการทำโครงงานและนำเสนอครู พร้อมทั้งเหตุผลในการนำเสนอครูพร้อมทั้งแสดง ความคิดเห็นและให้เหตุผล ห้องเรียนป.3 นักเรียน และครูที่ปรึกษา 2 ประชุมในกลุ่มให้ทุกคนเตรียม อุปกรณ์ต่างๆ ห้องเรียนป.3 นักเรียน และครูที่ปรึกษา 3 ลงมือปฏิบัติจริง โดยสมาชิกในกลุ่มช่วยกัน ปฏิบัติ โรงอาหาร นักเรียน และครูที่ปรึกษา 4 เสนอโครงงานหน้าชั้นเรียนและสรุปประเมินผล ห้องเรียนป.3 นักเรียน
6 บทที่ 4 ผลการดำเนินโครงงาน พบว่าการศึกษาโครงงานเรื่องน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ ช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและแก้หวัด แก้กระหาย ให้ร่างกายสดชื่น จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องอยู่กับหน้าคอม/โทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ เป็นหวัดง่าย อ่อนล้า อ่อนเพลียจากการทำงานหรือจากการเรียน ช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยลดความดันโลหิต น้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพที่ได้มีกลิ่นหอมและรสชาติน่าดื่มสีของน้ำสมุนไพรเข้มข้น ซึ่งสามารถสรุปผลการ ทดลองได้ดังนี้1) การทำน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพนี้ทำได้ง่ายไม่ซับซ้อน 2) สมุนไพรที่ใช้ในการทำน้ำกระเจี๊ยบเพื่อ สุขภาพต่างให้กลิ่นหอม และมีรสชาติน่าดื่มและสามารถให้ประโยชน์ได้จริง
7 บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ สรุปผล น้ำจากกระเจี๊ยบดีมากว่าน้ำที่ซื้อตามซุปเปอร์แต่งกลิ่น แต่งสี แต่งรสมีสารปนเปื้อนจากเคมีไม่ปลอดภัย กับสุขภาพหรืออาจมีผลข้างเคียง น้ำกระเจี๊ยบดีต่อสุขภาพ กลิ่นหอม และยังมีสรรพคุณที่สามารถรักษาโรคได้ หลายโรคอีกด้วย ข้อเสนอแนะ
8 1. ควรมีการศึกษาเปรียบเทียบสมุนไพร ผัก ผลไม้ชนิดอื่น ๆ 2. สามารถนำกระเจี๊ยบมาทำเป็นอาหารเพื่อใช้ในการบำรุงร่างกาย 3. สามารถนำส่วนอื่นของกระเจี๊ยบไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นได้อีกมากมาย
9 ภาคผนวก ขั้นตอนและการดำเนินโครงงานน้ำกระเจี๊ยบเพื่อสุขภาพ