The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือวิทยุเสียงธรรม

คู่มือสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน
ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี


คาน า
เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน อาทิ เช่น กรรมการมูลนิธิ เสียงธรรมฯ ผู้ดูแลและผู้อุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเครือข่ายทั่วประเทศ ตลอดจนจิตอาสา ช่วยงานวิทยุเสียงธรรม ได้มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ข้อบังคับ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการ ออกอากาศกระจายเสียงวิทยุระบบ FM ตลอดจนระเบียบปฏิบัติในการบริหารจัดการสถานี ความรู้พื้นฐาน ด้านเทคนิค ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารควบคุมดูแลการออกอากาศกระจายเสียงวิทยุเสียงธรรมให้มี ประสิทธิภาพ สามารถดาเนินงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย คณะผู้บริหารวิทยุเสียงธรรมจึงได้จัดทาคู่มือสถานี วิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเล่มนี้ขึ้นมา เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ ที่ควรทราบ
คณะผู้จัดทาหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการดาเนินงานควบคุมดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรม หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ ขออนุโมทนาบุญกับผู้อานวยการสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ (นายโอฬาร ตรังคานุกูลกิจ) ที่เป็นเจ้าภาพในการจัดพิมพ์คู่มือเล่มนี้ และขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มี ส่วนในการรักษาสืบทอดมรดกธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ที่ได้ก่อตั้ง และมอบไว้เป็นมรดกธรรม เพื่อค้าจุนแผ่นดินไทย ให้มีความสงบร่มเย็น ให้เสียงอรรถเสียงธรรมได้มีโอกาสเข้า สู่ใจพี่น้องประชาชนชาวไทยได้อย่างสะดวกและกว้างขวาง ให้มีความมั่งคงและยั่งยืนคู่แผ่นดินไทยสืบไป
คณะผู้จัดทา 7 มกราคม 2563


สารบาญ
 คานา
 ธรรมค้าแผ่นดิน ไมส่ ูญสิ้นความเปน็ ไทย 1
 ระเบียบปฏิบัติในการควบคุมดูแลสถานี 5
 กฎหมายที่เกยี่วข้องกับสถานีวิทยุเสียงธรรม 21
 สรุปประเด็นรายละเอียดกฎหมายที่ควรทราบ 24 หลักเกณฑ์การอนญุาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง 27
 การต่ออายุการทดลองประกอบกิจการ 29
 การเปลยี่นแปลงข้อมลู ของผู้ทดลองประกอบกิจการ 34
 รูปแบบหนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 36
 เบอร์ติดต่อหน่วยงานในสายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สานักงาน กสทช. 46
 ความรู้พื้นฐานระบบสถานี FM ที่มีประสิทธิภาพ 47
 การป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกินในอาคารจากเหตุการณ์ฟ้าผ่า 81
 ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protector) 90
 เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้า Voltage Stabilizer or Automatic Voltage Regulator 94
 พื้นที่การกระจายเสยีงและประเภทการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ของสถานีวิทยุ 98
 การรบกวนคลื่น และการแพร่แปลกปลอม 101
 การปรับปรุงสถานีวิทยุFMให้มีประสิทธิภาพและไม่เกดิการรบกวน 106
 หลักเกณฑ์การใช้คลื่นความถี่ในการทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง 110
 การตรวจมาตรฐานทางด้านเทคนคิประจาปี 112 ปัญหาและแนวทางการแก้ไขปญัหาเบื้องต้นในการออกอากาศ 115
 ข้อมูลการจดัผังรายการวิทยเุสียงธรรมโครงสร้างการบริหารงาน 123
และช่องทางการรับฟังวิทยุเสียงธรรม
 เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉนิ และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อส่วนกลาง 139
 ภาคผนวก 140
 ภาคผนวก ก. รายละเอียดกฎหมาย ข้อบังคับที่ควรรู้ 141
 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 142
 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 150
 ประกาศกสทช.หลักเกณฑ์การอนญุาตทดลองประกอบกจิการวิทยกุระจายเสียงพ.ศ.2555 181
 ประกาศกสทช.หลักเกณฑ์การกากบัดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงพ.ศ.2556 192
 ประกาศกสทช.หลักเกณฑ์การกากบัดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงฉบับที่2พ.ศ.2559 205
 ภาคผนวก ข. คู่มือการใช้งาน เครื่องส่งวิทยุรุ่นช้างน้อย 272
หน้า


ธรรมค้าแผ่นดิน ไม่สูญส้ินความเป็นไทย
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๐ ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ จนทาให้ประเทศชาติประชาชน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) วัดป่าบ้านตาด ได้ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว ที่จะลุกลามกระทบกระเทือนต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ท่ีองค์ท่าน เทิดทูนและหวงแหนยิ่ง ซึ่งองค์ท่านพิจารณาแล้วไม่เห็นมีผู้ใดที่จะสามารถแก้ไขวิกฤตินี้ได้ ดังน้ันแม้องค์ ท่านจะเพิ่งหายอาพาธจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย 85 ปี แต่ด้วยจิตท่ีเต็มเปี่ยมด้วย เมตตาธรรม จึงได้อาสาเป็นผู้นาพี่น้องประชาชนชาวไทย ตั้งโครงการผ้าป่าช่วยชาติ ข้ึนเมื่อวันท่ี ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ และเดินทางออกแสดงธรรมเทศนา และรับผ้าป่าช่วยชาติตามสถานท่ีต่างๆ ทั่วประเทศ เพ่ือนาธรรมเข้าสู่จิตใจพ่ีน้องประชาชน และประกาศบอกบุญให้ร่วมกันทามหากุศลด้วยการเสียสละเงินทอง เพ่ือค้าจุนชาติไทย โดยตั้งเป้ารับบริจาคให้ได้ทองคาอย่างน้อย๑๐ตันและเงินดอลลาร์อย่างน้อย๑๐ล้าน ดอลลาร์ เพ่ือนามอบเข้าสู่คลังหลวงเป็นทุนสารองของประเทศให้มีความมั่นคง ซึ่งแม้ปัจจุบันองค์ท่านจะละ สังขารไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 แล้ว แต่เหล่าสานุศิษย์ยังคงร่วมใจกันสืบทอดโครงการ “ผ้าป่า ๑๒ เมษาฯ สืบ หน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาคุณองค์หลวงตา” อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมียอดมอบทองคาเข้าคลังหลวง สรุป ข้อมูลล่าสุด วันท่ี ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ยอดรวมทองคาทั้งหมด ๑๓,๐๕๙.๒๘๕กิโลกรัม ยอดรวมเงิน ดอลลาร์ ๑๐,๔๕๗,๑๕๙.๖๓ เหรียญ
ด้วยเหตุที่องค์ท่านเมตตาเดินทางไปแสดงพระธรรมเทศนาและรับผ้าป่าช่วยชาตินี้เอง จึงทาให้ธรรม ป่าสายวิปัสสนากรรมฐานได้มีโอกาสเผยแผ่สู่สาธารณชนในวงกว้าง องค์หลวงตาให้ความสาคัญกับการนา ธรรมเข้าสู่จิตใจคน มากยิ่งกว่าวัตถุสิ่งของในการช่วยเหลือสงเคราะห์โลก เพราะโลกจะสงบร่มเย็นได้ จาเป็นต้องอาศัยธรรม ดังตอนหนึ่งในพระธรรมเทศนาว่า
“...ถ้าธรรมได้เข้าสู่ใจโลกแล้ว โลกจะมีความสงบร่มเย็น รู้บาป รู้บุญ ธรรมเป็นน้าดับไฟ มันจะ แสดงเปลวจรดเมฆก็ตาม น้าสาดลงไปน่ียุบเลย ไฟยุบด้วยน้าดับ กิเลสก็ยุบด้วยธรรม ที่ว่าไฟน่ีนะ...”
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑ )


โดยทุกคนได้เห็นประจักษ์แล้วว่าประเทศไทยของเราสามารถรอดพ้นวิกฤติการณ์ด้านเศรษฐกิจมาได้ ก็เพราะอาศัยธรรม การเสียสละเพื่อส่วนรวม การมีศรัทธาเช่ือกฎแห่งกรรม การสร้างสมบุญกุศลเพื่อประโยชน์ ตนและผู้อ่ืน ความสามัคคีพร้อมเพรียงกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การรู้จักประหยัดมัธยัสถ์ สันโดษในการใช้ จ่ายและการดาเนินชีวิต ซ่ึงเป็นธรรมท่ีองค์หลวงตาได้เมตตาเทศนาสั่งสอนพ่ีน้องชาวไทยมาโดยตลอด
นอกจากการออกเดินทางไปแสดงธรรม และรับผ้าป่าช่วยชาติ เกือบทั่วประเทศแล้ว องค์หลวงตายัง มีเมตตาจิตอนุเคราะห์ช่วยเหลือโรงพยาบาล หน่วยงานราชาการ ผู้พิการยากไร้ แม้กระท่ังสัตว์พิการในวงกว้าง องค์ท่านได้ออกเดินทางไปเยี่ยมเยือนเอาเสบียงอาหารการกินไปมอบให้กับโรงพยาบาลในเขตพื้นที่ต่างๆ และ เจ้าหน้าท่ีดูแลป่า เพราะท่านให้ความสาคัญกับการดูแลรักษาประชาชนผู้เจ็บป่วยท่ีได้รับความทุกข์ทรมาน และการดูแลรักษาป่าไม้เป็นพิเศษ ทาให้วัดป่าบ้านตาดสมัยนั้นเป็นเหมือนตลาดบุญใหญ่ ที่เปิดโอกาสให้พ่ี น้องชาวไทยได้มีโอกาสร่วมสร้างบุญกุศลกับองค์หลวงตา ได้อย่างกว้างขว้างเต็มท่ี ซ่ึงองค์ท่านไม่เคยเก็บเงิน ทองข้าวของที่ประชาชนนามาถวายไว้เพื่อประโยชน์แห่งตน ได้มาเท่าไหร่ ก็แจกจ่ายออกไปเท่านั้น เพื่อ ช่วยเหลืออนุเคราะห์โลก ดังคาปรารภขององค์หลวงตาที่ว่า
“...เราคิดทุกด้านทุกทาง เพ่ือพี่น้องชาวไทยลูกหลานไทยเรา เราไม่หวังอะไรแหละ เราพูดตรงๆ ถ้า พูดทางด้านจิตใจ เราก็พอเต็มที่แล้ว พูดถึงอย่างอื่นก็เหลือเฟือดังท่ีเห็น แต่ที่คิดไปภายนอกกระจายออกไป เพื่อลูกหลานของเราน่ันละบกพร่อง เราจึงได้อุตส่าห์พยายามคิดไว้ทุกด้านทุกทางเมื่ออยู่ในฐานะพอเป็นไปได้ อยู่ เราก็พาตะเกียกตะกายอย่างนีแหละ...”
นอกจากการสงเคราะห์โลกทางด้านวัตถุสิ่งของแล้ว องค์หลวงตาให้ความสาคัญกับการสงเคราะห์ โลกทางด้านจิตใจด้วยธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะองค์หลวงตาให้ความสาคัญกับเร่ืองจิตใจ และเห็นประโยชน์ คุณค่าของอรรถของธรรม ที่จะช่วยพัฒนาขัดเกลาจิตใจผู้คนให้ได้รับความสุข สงบร่มเย็น องค์ท่านจึงเห็นชอบ ให้มีการจัดต้ังสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเป็นคร้ังแรกที่โรงเรียนบ้านตาดเมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใฝ่ปฏิบัติธรรม ทั้งบรรพชิตและฆราวาส ได้มีโอกาสรับฟังธรรมแท้ ธรรม ภาคปฏิบัติของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐานหลวงปู่มั่นท่ีบรรลุธรรมขั้นสูงสุดที่องค์หลวงตารับรอง ได้ อย่างสะดวกทั่วถึง และต่อมาได้มีการขยายสร้างสถานีวิทยุเสียงธรรมเครือข่ายกระจายออกไปท่ัวประเทศรวม ท้ังหมด 119 สถานี (เฉพาะท่ีได้รับใบอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงในปัจจุบัน) โดย คณะผู้มีจิตศรัทธาได้สร้างและมอบถวายแก่องค์หลวงตา พร้อมปวารณาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการ ดาเนินงานของแต่ละสถานีเอง โดยองค์ท่านจะรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายส่วนกลางเฉพาะสถานีวิทยุแม่ข่าย ทั้งหมด องค์หลวงตาให้ความสาคัญในการดูแลรักษาวิทยุเสียงธรรมให้ย่ังยืนต่อไปในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง ดังคา ปรารภท่ีว่า
“...ระยะนีวิทยุกระจายออก ดูเหมือนจะทั่วประเทศไทยแล้วมัง ออกอย่างรวดเร็วนะ ออกทางโน้น ทางนี ท่านเหล่านันเป็นผู้รับผิดชอบเองหมด เรารับผิดชอบเฉพาะบ้านตาดแห่งเดียว นอกจากนันท่านเหล่านัน รับผิดชอบตัวเองๆ ทังหมด ทุกแห่งที่ตังสถานีวิทยุที่ไหนรับผิดชอบเองด้วยกันทังนัน เราก็รับผิดชอบเฉพาะ บ้านตาดเท่านัน ถ้าให้เราไปรับผิดชอบด้วยเราไม่ไหว ตังแต่สถานีบ้านตาดนีก็ยังต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องปัญหา เวลาเราตายไปเพราะเวลานีเราอยู่นีก็ไม่มีปัญหาอะไรทุกส่ิงทุกอย่างเวลาเราตายแล้วจะท้ายังไง เลยท้าให้ คิดกันจะตังมูลนิธิขึน เอาเงินมาตังเป็นมูลนิธิขึนส้าหรับเอาดอกผลออกไปช่วยทางวิทยุเวลาเราตาย ถ้าเรายังมี
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒ )


ชีวิตอยู่นีก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนเราตายนั่นซีล้าบาก เลยต้องคิดไว้ไม่คิดไม่ได้ อันนีเราเป็นคนจัดการเองหมด การจับการจ่ายเงินดงเงินเดือนของเจ้าหน้าท่ีทังหมด เราจัดหมด สถานท่ีปลูกสร้างให้ท่ีอยู่ที่พักเราจัดการเอง หมดเลย ทีนีมาวิตกวิจารณ์ตอนเราตายไป เงินเดือนหรือค่าใช้จ่ายในสถานีวิทยุต่อๆ ไปนี เราตายแล้วจะท้า ยังไงเลยท้าให้คิด จึงว่าจะตังเป็นมูลนิธิขึน มีเงินก้อนเอาไว้ส้าหรับจ่ายอันนี เวลาเราตายแล้วจะไม่ได้เดือดร้อน ภายหลัง เราว่างันนะ...”
ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดตั้งมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน และจัดต้ังกองทุนวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ข้ึนมา โดยคณะสงฆ์นาโดยพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ได้มอบถวายปัจจัยเป็นปฐมฤกษ์จานวนเงิน ๑ ล้านบาทถ้วน และองค์หลวงตาได้มอบถวายเพิ่มอีก 1 ล้านบาท รวมเป็นเงินสองล้านบาทในการประเดิมตั้ง กองทุนตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมา
เม่ือวันท่ี 12 เดือนมกราคม พ.ศ. 2548 “สถานีวิทยุชุมชนเสียงธรรมบ้านตาด” ได้ย้ายมาอยู่ใน สถานที่ปัจจุบัน เลขที่ 309/1 หมู่ 1 ตาบลบ้านตาด อาเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีเน้ือที่ 14 ไร่เศษ ซึ่งเดิม เป็นท่ีต้ังของวัดโพธ์ิศรีซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดโยธานิมิต และเม่ือวันที่ 26 เดือนเมษายน พ.ศ. 2548 สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับเป็นองค์อุปถัมภ์ เครือข่ายวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน และทรงเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดแพรคลุมป้าย เม่ือวันที่ 8 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2549 (ซ่ึงได้ยึดถือเป็นวันสถาปนาสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ ในปัจจุบัน)
นอกจากการเผยแผ่ธรรมทางด้านวิทยุแล้ว องค์ท่านยังได้เห็นชอบให้มีการเผยแผ่ธรรมในช่องทาง ต่างๆ อาทิ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยสร้างเว็บไซต์ www.luangta.com และเริ่มการเผยแผ่ธรรมผ่าน โทรทัศน์ดาวเทียมไทยคม 5 ในระบบ ซีแบนด์ เมื่อวันที่ 30 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2549 โดยใช้ช่ือว่า “สถานีโทรทัศน์เสียงธรรมบ้านตาด” (SBT TV) ค่าความถี่ 04040 ค่าซิมโบล์เรตท์ 30000 แนวรับ สัญญาณ แนวตั้ง (V) สามารถรับชม ได้โดยติดต้ังจานรับสัญญาณดาวเทียม และปรับต้ังตามค่าดังกล่าว (ปัจจุบันเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียมสามารถปรับต้ังช่องโดยอัตโนมัติ โดยมีเลขช่องแตกต่างกันตามยี่ห้อ เครื่องรับ) กรณีต้องการรับฟังวิทยุเสียงธรรมผ่านระบบโทรทัศน์ดาวเทียม ให้กดปุ่มรีโมทคอนโทรลเคร่ืองรับ ปุ่ม LANG (Language) เพื่อเปล่ียนภาษาที่สองจะได้รับฟังเสียงจากวิทยุเสียงธรรม ทาให้การรับฟังธรรม เป็นไปด้วยความสะดวกและแพร่หลาย สมดังเจตนาขององค์หลวงตาที่จะอนุเคราะห์ช่วยเหลือโลกอย่างเต็ม
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓ )


กาลังในทุกๆ ด้าน อย่างสุดกาลังความสามารถขององค์ท่าน โดยเฉพาะด้านธรรมและการพัฒนาจิตใจท่ีองค์ หลวงตาให้ความสาคัญสูงสุด จึงได้ก่อกาเนิดวิทยุเสียงธรรมเป็นมรดกธรรมตกทอดมาให้ลูกหลานชาวไทย ช่วยกันรักษาสืบไป
การที่กระแสเสียงธรรมได้มีโอกาสแพร่กระจายออกอากาศได้อย่างแพร่หลายกว้างขวางทั่วประเทศ ไทย ยืนหยัดแทรกกระแสเสียงแห่งโลกได้ ก็ด้วยอาศัยผู้อุปถัมภ์และผู้ดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน เครือข่ายทั่วประเทศทุกคน มีจิตศรัทธาและความทุ่มเทเสียสละในการช่วยกันก่อตั้ง และดาเนินงาน ควบคุมดูแลรับสัญญาณการถ่ายทอดเสียงจากสถานีแม่ข่ายที่บ้านตาด มากระจายเสียงออกอากาศในพื้นท่ี ให้ ประชาชนได้มีโอกาสรับฟังเสียงอรรถเสียงธรรม สร้างเสริมความสงบสุขให้กับประเทศชาติบ้านเมืองด้วยการ เผยแผ่หลักธรรมให้มีโอกาสเข้าสู่จิตใจพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวาง โดยรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่าย ในการดาเนินงานของสถานีด้วยตนเองมาโดยตลอด ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านท่ีมีส่วนในการสร้างมหา กุศลข่วยกันสืบทอดรักษาเสียงธรรมร่วมกัน อันได้ชื่อว่าทุกท่านมีส่วนร่วมในการสร้างมหากุศล ดังนี้
 ได้ช่ือว่าเป็นผู้ท่ีมีส่วนร่วมในการ “เผยแผ่หลักธรรมคาสอนของเหล่าพระอริยสงฆ์ ผู้ทาให้กระจ่างแจ้ง ในพุทธธรรมคาสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า”
 ได้ช่ือว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “สร้างความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ) แก่สาธารณชนโดยทั่วไป”  ได้ช่ือว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “ปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้งอกงามในจิตใจผู้คน” ได้ช่ือว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน การเจริญจิตตภาวนา”
 ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “ส่งเสริมให้สาธุชนมีศรัทธาแก่กล้า ในการบาเพ็ญกองบุญกุศลต่างๆ”  ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “เสริมสร้างความสงบสุข ร่มเย็น แก่ประเทศชาติและบ้านเมือง”
 ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน ช่วยค้าจุนรักษาความเป็นไทยไม่ให้สูญสิ้นไป” ได้ช่ือว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “รักษาสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงและยั่งยืน”
 ได้ช่ือว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการ “ให้ธรรมเป็นทาน อันเป็นทานอันเลิศชนะการให้ทานทั้งปวง”
ขออานาจแห่งผลบุญจากการร่วมทามหากุศล สืบทอดรักษามรดกธรรมแห่งองค์หลวงตา จงได้ปก ปักษ์รักษาให้ทุกท่านแคล้วคลาด ปราศจากโรคภัยอันตรายใดๆ ประสบแต่ความสุข ความเจริญ สมปรารถนา ในสิ่งที่พึงปรารถนา ได้ดวงตาเห็นธรรม เข้าสู่แดนพระนิพพานได้โดยไว และช่วยคุ้มครองรักษาประเทศชาติ แผ่นดินไทยให้มีความสงบสุขร่มเย็นด้วยเสียงแห่งธรรม สมดังคาว่า “ธรรมค้าแผ่นดิน ไม่สูญส้ินความเป็นไทย” ตราบนานเท่านานด้วยเทอญ...
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔ )


ระเบียบปฏิบัติสถานีวิทยุเสียงธรรม ว่าด้วยการควบคุมดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมลูกข่าย พ.ศ. 2563
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๕ )


ระเบียบปฏิบัติสถานีวิทยุเสียงธรรม ว่าด้วยการควบคมุ ดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมลูกข่าย พ.ศ. 2563 --------------------------------------------
เพื่อให้ผู้รับผิดชอบดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมลูกข่ายทั่วประเทศ มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับ แนวทางการปฏิบัติงานในการควบคุมดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมลูกข่าย ให้ออกอากาศได้อย่างมั่นคงยั่งยืน และ มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน ตลอดจนปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานสถานีวิทยุ คณะกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมฯ จึงเห็นควรให้มีการกาหนดระเบียบปฏิบัติในแต่ละหมวดเพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการควบคุมดูแลสถานีวิทยุเสียงธรรมลูกข่าย ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบปฏิบัตินี้เรียกว่า “ระเบียบปฏิบัติสถานีวิทยุเสียงธรรม ว่าด้วยการควบคุมดูแลสถานี วิทยุเสียงธรรมลูกข่าย พ.ศ. 2563”
ข้อ 2 ระเบียบปฏิบัตินี้ให้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบปฏิบัตินี้
“สถานีแม่ข่าย”
“สถานีลูกข่าย” “คณะกรรมการมูลนิธิ”
“ผู้ดูแล” “กสทช.”
หมายถึง สถานีวิทยุเสียงธรรมเพ่ือประชาชนวัดป่า บ้านตาดฯ
หมายถึง สถานีวิทยุเสียงธรรมเพ่ือประชาชนฯ ลูกข่ายท่ัว ประเทศ
หมายถึง คณะกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ในพระ อุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราช กุมารี
หมายถึง บุคคลท่ีรับผิดชอบควบคุมดูแลการดาเนินงาน ออกอากาศสถานีวิทยุเสียงธรรมเพ่ือประชาชนลูกข่าย
หมายถึง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๖ )


หมวด 1 การบริหารจัดการสถานี
ข้อ 4 เพื่อให้การควบคุมดูแลสถานีลูกข่ายมีความมั่นคงยั่งยืน การบริหารสถานีควรเป็นในรูป คณะกรรมการมากกว่าการบริหารรับผิดชอบเพียงบุคคลเดียว ควรสรรหาจิตอาสาที่มีจิตศรัทธาช่วยงานสถานี วิทยุเสียงธรรมในพื้นท่ี มาร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารสถานีวิทยุลูกข่าย ทาหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการ บริหารจัดการ และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบช่วยกันดาเนินการควบคุมดูแลสถานีลูกข่าย ในการกระจายเสียง ออกอากาศด้วยความเรียบร้อย
ข้อ 5 นโยบายและแนวทางการบริหารสถานีลูกข่ายต้องสอดคล้อง และเป็นไปตามแนวทางที่ คณะกรรมการมูลนิธิกาหนด อาทิ การห้ามจัดรายการเอง การนารายการอื่นมาเปิดแทรก หรือการ เปลี่ยนแปลงผังรายการโดยพลการ ห้ามไม่ให้มีการออกอากาศสดเพ่ือบอกบุญขอรับบริจาคเงินสนับสนุน หรือ จัดรายการสดเองโดยพลการ
ข้อ 6 มูลนิธิเสียงธรรมเป็นเจ้าของใบอนุญาตทดลองประกอบการวิทยุกระจายเสียง ผู้ดูแลสถานีลูก ข่ายไม่มีสิทธิโอน หรือยกให้ผู้ใดมาประกอบกิจการแทน เพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย
ข้อ 7 คณะผู้ดาเนินการก่อตั้งสถานีลูกข่ายส่วนใหญ่ได้มอบถวายสถานีวิทยุให้กับองค์หลวงตาพระ มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด ซึ่งองค์หลวงตาได้มอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิเป็นผู้รับผิดชอบ ดูแลกิจการสถานีวิทยุเสียงธรรมทั้งหมด ดังนั้นทรัพย์สินอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ในสถานีลูกข่ายจึงถือเป็น ทรัพย์สินของมูลนิธิเสียงธรรม ผู้ดูแลจึงไม่สามารถเคลื่อนย้าย โอน หรือมอบอุปกรณ์ต่างๆ ในสถานีลูกข่าย ให้กับผู้อื่นได้ ซึ่งจะกระทาได้ต่อเม่ือได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการมูลนิธิก่อนเท่านั้น
ข้อ 8 แต่ละสถานีลูกข่ายได้มีการแต่งต้ังผู้อานวยการสถานี เพื่อควบคุมดูแลการออกอากาศ ข้อมูล รายชื่อตามที่สถานีแม่ข่ายได้แจ้งไว้ต่อ กสทช. ตามเอกสารข้อมูลการบริหารสถานี ในแฟ้มเอกสารที่สถานีแม่ ข่ายจัดเตรียมให้
ข้อ 9 ต้องมีการติดต้ังแสดงป้ายชื่อสถานีให้ถูกต้องตามหนังสืออนุญาตประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง (กรณีชื่อที่ได้รับอนุญาตไม่ถูกต้องให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายเพื่อดาเนินการแก้ไข) พร้อม ระบุคลื่นความถสี่ ถานีวิทยุ เพ่ือให้สาธารณชนเห็น ณ ท่ีต้ังได้อย่างชัดเจน
ข้อ 10 สถานีวิทยุเสียงธรรมเป็นสถานีวิทยุประเภทกิจการ บริการสาธารณะ ตามกฎหมายจึงห้ามหา รายได้จากการโฆษณา แต่สามารถเผยแพร่ภาพ ข้อมูล ข่าวสารของหน่วยงานภาครัฐ หรือภาพลักษณ์ของ มูลนิธิเสียงธรรมได้ โดยไม่มุ่งเน้นผลทางพาณิชย์
ข้อ 11 หากได้รับแจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ กสทช. หรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ ว่าคลื่นสถานีลูก ข่ายไปรบกวนวิทยุการบิน หรือคล่ืนสถานีวิทยุอื่น ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย เพื่อจะได้ส่งช่างไปดาเนินการ ตรวจสอบ และดาเนินการปรับปรุงแก้ไข ถ้าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการกระจายเสียงของสถานีลูกข่ายจริง
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๗ )


ข้อ 12 ปัจจุบันสถานีลูกข่ายอยู่ในฐานะการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ซึ่งสถานีวิทยุที่ สามารถกระจายเสียงออกอากาศได้ ต้องได้รับการอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง จาก กสทช. ปัจจุบันใบอนุญาตทดลองจะมีอายุเพียง 1 ปี โดยสถานีแม่ข่ายเป็นผู้รับผิดชอบดาเนินการจ้างห้องปฏิบัติการ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับ กสทช. มาดาเนินการตรวจมาตรฐานด้านเทคนิคประปี และตรวจวัดแพร่ แปลกปลอม(กรณีสถานีตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องตรวจ) และเป็นผู้ดาเนินการต่ออายุการทดลองประกอบกิจการให้ แต่ละสถานีลูกข่าย โดยจะดาเนินการยื่นเรื่องต่ออายุก่อนวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 120 วัน และเม่ือได้รับการ ต่ออายุเรียบร้อยจะส่งสาเนาหนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่ได้ปรับปรุงข้อมูลต่ออายุล่าสุด ให้ สถานีลูกข่ายจัดเก็บในแฟ้มจัดเก็บเอกสารที่สถานีแม่ข่ายจัดให้
ข้อ 13 กรณีมีปัญหาในการต่อใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการไม่ทัน ทาให้ใบอนุญาตหมดอายุ สถานีลูกข่ายจะต้องหยุดออกอากาศกระจายเสียงทันที นับตั้งแต่วันหมดอายุ โดยสถานีแม่ข่ายจะประสาน แจ้งให้ทราบกรณีเกิดปัญหาดังกล่าว ทั้งน้ีสถานีแม่ข่ายจะรีบดาเนินการยื่นต่ออายุให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับจากวันหมดอายุ เพื่อไม่ให้สิทธิในการยื่นคาขอทดลองประกอบกิจการสิ้นสุดลง ในกรณีนี้การตรวจ มาตรฐานด้านเทคนิค จะต้องมีการขอรับหนังสือเพ่ือนาเครื่องส่งเข้ารับการตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิค และต้องย่ืนคาร้องขอออกอากาศชั่วคราวเพ่ือทาการตรวจวัดการแพร่แปลกปลอม พร้อมชาระเงินเพิ่ม เมื่อ ได้รับการอนุมัติต่ออายุ จึงจะกระจายเสียงออกอากาศได้อีกคร้ัง
ข้อ 14 เคร่ืองส่งวิทยุที่จะใช้ออกอากาศกระจายเสียงได้ ต้องได้รับอนุญาตให้ ทา (ซ้ือ ประกอบใหม่ หรือซ่อมเคร่ือง) และอนุญาตให้ ใช้ ออกอากาศเฉพาะสถานีนั้น อย่างถูกต้องตามกฎหมาย พรบ. วิทยุ คมนาคม และผ่านการตรวจมาตรฐานด้านเทคนิคว่าเคร่ืองได้มาตรฐานตามเกณฑ์เงื่อนไขที่ กสทช. กาหนด ซึ่งจะมีหลักฐานการติดสติกเกอร์บนตัวเคร่ือง และควรเก็บสาเนาใบอนุญาตให้ ใช้ ไว้ในแฟ้มเก็บเอกสารเพ่ือ แสดงแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ กสทช. กรณีมาขอตรวจสอบ ดังนั้นสถานีลูกข่ายต้องไม่อนุญาตให้ใครมาเปิด เครื่อง หรือซ่อมเครื่องโดยพลการจนทาให้สติกเกอร์คุมเคร่ืองชารุด หรือใช้เครื่องส่งอ่ืนที่ไม่มีใบอนุญาตให้ ทา และใบอนุญาตให้ ใช้ หรือมีใบอนุญาตให้ ใช้ แต่เป็นช่ือของสถานีอื่น มาออกอากาศกระจายเสียง เพราะมี ความผิดตามกฎหมาย
ข้อ 15 สถานีลูกข่ายไม่สามารถเปล่ียนแปลงความถี่ออกอากาศ ท่ีตั้งสถานี ที่ตั้งเครื่องส่ง หรือที่ตั้ง สายอากาศ (เสาส่งวิทยุ) โดยพลการ เพราะการเปล่ียนแปลงเหล่าน้ีต้องย่ืนขออนุญาตเปล่ียนแปลงกับ กสทช. โดยต้องมีเหตุจาเป็นทางด้านการรบกวนคลื่นความถี่ ด้านภูมิศาสตร์ หรือตามกฎหมายอื่นที่เก่ียวข้อง (อาทิ เช่น เจ้าของสถานที่ยกเลิก ไม่ยินยอมให้ใช้ตั้งสถานี) และไม่สามารถดาเนินการแก้ไขไดด้ ้วยวิธีต่างๆ จึงจะเป็น เหตุให้ได้รับการอนุญาตเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อได้รับการอนุญาตแล้วจงึ จะดาเนินการเปลี่ยนแปลงได้
ข้อ 16 สถานีลูกข่ายไม่สามารถหยุดการกระจายเสียงออกอากาศได้ ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย หรือความ จาเป็นต้องหยุดการให้บริการ อาทิ เครื่องส่งวิทยุเสีย ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ความเสียหายจากภัย พิบัติ เป็นต้น กรณีเป็นเหตุสุดวิสัยที่มิอาจคาดหมายให้แจ้งสถานีแม่ข่าย เพื่อประสานแจ้งเหตุเป็นลายลักษณ์ อักษรแก่สานักงาน กสทช. ทันทีที่รับทราบเหตุนั้น โดยเจ้งเหตุผล ระยะเวลาหยุดออกอากาศ และแนวทาง แก้ไขปัญหา พร้อมมีมาตรการเยียวยาผู้รับบริการในช่วงที่หยุดให้บริการ และสถานีแม่ข่ายจะประสานแจ้งแก่ สานักงาน กสทช. ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มกลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๘ )


หมวด 2 การขอรับบริจาคเงินสนับสนุนการดาเนินงาน
ข้อ 17 การขอรับบริจาคเงินสนับสนุนการดาเนินงานของสถานีลูกข่ายจากประชาชนท่ัวไป ควร ปฏิบัติตามแนวทางดังนี้
(1) กรณีสถานีลูกข่ายต้ังอยู่ในวัดหรือสานักปฏิบัติธรรม สามารถต้ังตู้ขอรับบริจาค พร้อม ติดป้ายประชาสัมพันธ์บอกบุญขอรับบริจาคสนับสนุนการดาเนินงานสถานีลูกข่ายภายในบริเวณวัดหรือสานัก ปฏิบัติธรรมได้ตามความเหมาะสม โดยควรเปิดบัญชีเงินฝากเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ ดาเนินงานสถานีวิทยุเท่าน้ัน กรณีบริหารด้วยคณะกรรมการ ควรให้คณะกรรมการดูแลบัญชี กรณีไม่ได้ บริหารในรูปคณะกรรมการ ควรให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าสานักปฏิบัติธรรมเป็นผู้ดูแลบัญชี
(2) กรณีสถานีลูกข่ายดูแลโดยฆราวาส และไม่ได้ต้ังอยู่ในวัดหรือสานักปฏิบัติธรรม ไม่ควร ต้ังตู้รับบริจาค หรือมีป้ายประชาสัมพันธ์บอกบุญ แต่สามารถบอกบุญด้วยวาจากับญาติมิตรเพื่อนฝูง หรือผู้มี จิตศรัทธาที่รู้จักได้ หรือดาเนินการจัดงานทาบุญทอดผ้าป่าสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นคร้ังๆ ได้เท่าท่ีจาเป็น โดย ควรเปิดบัญชีเงินฝากเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดาเนินงานสถานีวิทยุเท่านั้น โดยมีคณะกรรมการ ดูแลบัญชี
ข้อ 18 กรณีมีผู้บริจาคทาบุญกับสถานีลูกข่ายท่ีไม่ใช่วัด แต่ต้องการใบอนุโมทนาบัตร เพ่ือนาไปเป็น หลักฐานลดหย่อนการเสียภาษีเงินได้ ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายเพื่อให้ผู้บริจาคโอนเงินเข้ากองทุนอุปถัมภ์ และประสานออกใบอนุโมทนาบัตรให้ผู้บริจาค หลังจากนั้นสถานีแม่ข่ายจะโอนเงินจากกองทุนอุปถัมภ์คืน ให้กับสถานีลูกข่าย ในรูปเงินสนับสนุนการดาเนินงานของสถานีลูกข่ายนั้น
ข้อ 19 กรณีผู้ดูแลสถานีลูกข่ายมีความพร้อมด้านปัจจัยที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน ท้ังหมด กรณีสถานีแม่ข่ายดาเนินการซ่อม ซ้ือหรือจัดหาอุปกรณ์ หรือจ้างตรวจมาตรฐานด้านเทคนิคประจาปี เพ่ือต่อใบอนุญาต โดยสถานีแม่ข่ายได้ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน สถานีแม่ข่ายจะแจ้งยอดค่าใช้จ่ายให้ผู้ดูแลได้รับ ทราบ เพื่อโอนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวคืนกลับมา ในรูปการบริจาคเงินเข้ากองทุนอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรม เต็มจานวน หรือจานวนเท่าที่สามารถดูแลรับผิดชอบได้
ข้อ 20 กรณีสถานีลูกข่ายใดมีปัญหาด้านปัจจัยในการดาเนินงานออกอากาศ อาทิ ค่าไฟฟ้าในการ ออกอากาศ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือสนับสนุนจากสถานีแม่ข่าย โดยอาจขอรับการสนับสนุนเพียง บางส่วน หรือสูงสุดต้องไม่เกินยอดรวมของค่าไฟฟ้า เฉพาะส่วนที่เก่ียวข้องกับการออกอากาศกระจายเสียง วิทยุเท่านั้น กรณีที่ได้รับเงินสนับสนุนค่าไฟฟ้าในการออกอากาศแล้ว สถานีลูกข่ายนั้นควรดาเนินงาน ออกอากาศกระจายเสียงให้ต่อเนื่องเป็นปกติ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๙ )


หมวด 3 การประสานงานสถานีแม่ข่าย และการจัดการเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ข้อ 21 สถานีแม่ข่ายได้กาหนดช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับสถานีลูกข่าย ไว้สามช่องทางหลักดังนี้
(1) ติดต่อทางโทรศัพท์ กรณีเป็นเร่ืองเร่งด่วน หรือเป็นเร่ืองท่ีมีความจาเป็นต้องซักถาม พูดคุยหรือชี้แจงรายละเอียด ดังนั้นผู้ดูแลควรแจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ให้สถานีแม่ข่ายรับทราบ กรณีผู้ดูแลไม่สะดวกในการใช้งานโทรศัพท์ อาจให้เบอร์โทรศัพท์บุคคลอื่นที่สะดวกในการประสานรับข่าวสาร และประสานแจ้งแก่ผู้ดูแลได้อย่างรวดเร็ว และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ ควรแจ้งสถานีแม่ ข่ายให้รับทราบเพื่อปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง
(2) ติดต่อทางไลน์ (Line App.) กรณีต้องส่ือสารเป็นลายลักษณ์อักษร หรือเพื่อใช้ในการส่ง ข้อมูลไฟล์ ภาพถ่ายระหว่างกัน ดังน้ันผู้ดูแลควรมีไลน์ (Line) ที่จะใช้ติดต่อประสานงานกับสถานีแม่ข่าย โดยเพิ่มเข้าร่วมกลุ่ม Official Line@ ผู้ดูแลสถานีเสียงธรรม โดยการส่องคิวอาร์โค๊ด (QR Code) หรือกด ลิงค์ (Link) เชื่อมเข้ากลุ่มตามคาเชิญ
(3) ติดต่อทางไปรษณีย์ กรณีจาเป็นต้องส่งเอกสารหลักฐาน หรือแบบฟอร์มท่ีต้องกรอก ข้อมูลหรือลงนาม
ข้อ 22 สถานีแม่ข่ายได้จัดทาเอกสาร รายการเบอร์โทรศัพท์ที่ควรทราบ เพ่ือให้สถานีลูกข่ายสะดวก ในการติดต่อขอคาปรึกษาแนะนา และขอความช่วยเหลือในแต่ละเรื่อง ตลอดจนเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินต่างๆ ท่ี สถานีลูกข่ายควรทราบ ดังนั้นควรติดเอกสารน้ีให้เห็นเด่นชัดในห้องส่งวิทยุ
ข้อ 23 กรณีสถานีแม่ข่ายประสานขอข้อมูล หรือขอความอนุเคราะห์ตอบแบบสอบถาม กรุณาให้ ความร่วมมือในการให้ข้อมูล และตอบแบบสอบถาม เพ่ือนาข้อมูลไปใช้ในการบริหารจัดการสถานีวิทยุเสียง ธรรมให้มีประสิทธิภาพ กรณีมีปัญหาข้อสงสัย หรือไม่สามารถให้ข้อมูลได้ กรุณาแจ้งกลับให้สถานีแม่ข่าย ได้รับทราบ
ข้อ 24 กรณีสถานีลูกข่ายได้รับจดหมายจากส่วนราชการต่างๆ ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย พร้อม ถ่ายหรือสแกนเน้ือหาจดหมายให้รับทราบ โดยเอกสารจดหมายต้นฉบับให้จัดเก็บไว้ในแฟ้มเอกสารที่สถานีแม่ ข่ายจัดทาและมอบให้ ในหมวดจดหมายเข้าจากส่วนราชการ พร้อมลงบันทึกรับจดหมายตามแบบฟอร์มที่ กาหนด เพ่ือให้สถานีแม่ข่ายรับทราบ และดาเนินการตอบจดหมายส่วนราชการนั้นแทนสถานีลูกข่าย ทั้งนี้ไม่ ควรตอบจดหมายส่วนราชการเอง โดยไม่ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย
ข้อ 25 เอกสารหลักฐานที่สถานีลูกข่ายควรจัดเก็บสาเนาเอกสารเอาไว้ให้เป็นระเบียบในแฟ้มเอกสาร ที่สถานีแม่ข่ายจัดให้ เพื่อการตรวจสอบหรือตอบคาถามเจ้าหน้าท่ี กสทช. หรือเจ้าหน้าท่ีตารวจ ทหาร ที่เข้ามา สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานีลูกข่าย โดยเอกสารหลักฐานตัวจริงทั้งหมดจะเก็บรักษาไว้ที่สถานีแม่ข่าย โดยมี รายการเอกสารดังนี้
(1) สาเนาหนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง (ฉบับล่าสุด) (2) สาเนาใบอนุญาตวิทยุคมนาคม (ใบทา)
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๐ )


(3) สาเนาใบอนุญาตวิทยุคมนาคม (ใบใช้)
(4) สาเนาใบอนุญาตวิทยุคมนาคม (ใบต้ัง)
(5) สาเนาใบอนุญาตก่อสร้างสถานีวิทยุ เสาส่งวิทยุ (แบบ อ.1)
(6) ใบรับรองสิ่งปลูกสร้าง (เสาวิทยุ)
(7) ข้อมูลเกี่ยวกับผังรายการและสัดส่วนรายการ (สถานีแม่ข่ายจัดทาให้) (8) ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถาน (สถานีแม่ข่ายจัดทาให้)
(9) สาเนาสัญญาเช่าสถานีวิทยุ (กรณีทาสัญญาเช่า)
(10) สาเนาใบอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิเสียงธรรมสาขาย่อย
(11) ใบอนุญาตให้ทาการเปล่ียนแปลงข้อมูลสถานี (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง)
ข้อ 26 นอกจากการส่งสาเนาเอกสารหลักฐานท่ีควรมีให้กับสถานีลูกข่ายแต่ละสถานีแล้ว สถานีแม่ ข่ายยังได้สแกนจัดเก็บเอกสารในรูปไฟล์ PDF บน Google Drive เพ่ือให้สถานีลูกข่ายเข้ามาดูหรือดาวน์โหลด ได้โดยวิธีการกดลิงค์เช่ือมที่โพสต์ไว้ในกลุ่มไลน์ผู้ดูแลสถานี
หมวด 4 การดูแลห้องส่งสถานีวิทยุ และสภาพแวดล้อมภูมทิ ัศน์โดยรอบ
ข้อ 27 เพ่ือเป็นการถนอมอายุการใช้งานเครื่องส่งวิทยุ จาเป็นต้องควบคุมความชื้นสัมพัทธ์อากาศ ให้ มีค่าระหว่าง 30-50% ไม่ให้มีความชื้นอากาศมากเกินไปหรือน้อยเกินไป และอุณหภูมิของห้องส่งไม่ควรสูง เกิน 27 องศา ดังน้ันกรณีติดตั้งเคร่ืองส่งวิทยุในอาคารควรกั้นห้องให้เป็นสัดส่วน ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป และ ควรติดตั้งเคร่ืองปรับอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้อง และควรติดตั้งเครื่องส่งวิทยุบนแร็คช้ันวางดีกว่า การวางบนโต๊ะ กรณีมีความชื้นสัมพัทธ์สูงให้ตั้งโหมดการทางานของเคร่ืองปรับอากาศเป็นโหมดกาจัดความช้ืน อากาศ
ข้อ 28 ควรจัดวางเคร่ืองส่ง และอุปกรณ์อื่นๆ ให้เป็นระเบียบ และปลอดภัย ไม่ควรวางสิ่งของอื่นๆ บนเคร่ืองส่งวิทยุ และไม่ควรเก็บอุปกรณ์เคร่ืองใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระจายเสียงออกอากาศในห้องส่งวิทยุ
ข้อ 29 ห้ามนาอาหาร เคร่ืองด่ืม มารับประทานในห้องส่งวิทยุ และควรทาความสะอาดห้องส่งวิทยุ อย่างสม่าเสมอ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นละอองสะสม
ข้อ 30 ห้องส่งวิทยุ ควรมีประตูและกุญแจล๊อค พร้อมติดป้ายเตือน “ห้ามบุคคลภายนอกเข้าโดยไม่ได้ รับอนุญาต” เพ่ือควบคุมไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเก่ียวข้องเข้าไปในห้องส่งวิทยุ
ข้อ 31 ควรจัดเก็บแฟ้มเอกสารหลักฐานเก่ียวกับสถานีลูกข่ายท่ีสถานีแม่ข่ายจัดทาให้ และคู่มือสถานี วิทยุเสียงธรรม จัดเก็บไว้ในห้องส่งให้เป็นระเบียบ ในตาแหน่งที่เห็นง่ายและหาง่าย พร้อมติดป้ายเบอร์ โทรศัพท์ที่ควรทราบให้มองเห็นไดช้ ัดเจน
ข้อ 32 ควรดูแลปรับปรุงสภาพแวดล้อมภูมิทัศน์โดยรอบห้องส่งสถานีวิทยุ ไม่ให้มีสภาพรกรุงรัง สกปรก หรือมีส่ิงของวางไม่เป็นระเบียบ ให้ดูสะอาดเรียบง่าย เหมาะสมกับสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๑ )


หมวด 5
การดูแลระบบไฟฟ้า ระบบป้องกัน และอุปกรณ์ในการกระจายเสียงออกอากาศ
ข้อ 33 ผู้ดูแลควรศึกษาหาความรู้พื้นฐานด้านเทคนิคเกี่ยวกับสถานีวิทยุกระจายเสียงในระบบ FM ใน หนังสือคู่มือสถานีวิทยุเสียงธรรม ที่สถานีแม่ข่ายได้จัดทาขึ้น เพื่อให้มีความรู้พื้นฐานในการควบคุมดูแลการ ออกอากาศกระจายเสียงวิทยุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อ 34 ระบบไฟฟ้า และระบบป้องกันของสถานีลูกข่าย ที่มีประสิทธิภาพ ควรมีอุปกรณ์และ ข้อกาหนดดังน้ี
(1) ควรมีการติดตั้งตู้เมนเบรกเกอร์ (Consumer Unit) ของสถานีวิทยุแยกต่างหาก และมี การติดตั้งระบบกราวน์สายดินของห้องส่งวิทยุ โดยวัดค่าความต้านทานสายดินต้องมีค่าน้อยกว่า 10 โอมห์ โดยเดินสายดินขนาดไม่น้อยกว่า 10 ตร.มม. ต่อเข้า Ground Bus ในตู้เมนเบรกเกอร์
(2) ควรมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection Device) ที่มาจาก ระบบการไฟฟ้าอันเนืองมาจากฟ้าผ่า หรือมีปัญหาในระบบการไฟฟ้า โดยใช้ชนิดที่ติดต้ังท่ีตู้เมนเบรกเกอร์โดย ต่อขนานกับระบบไฟฟ้าหลัก โดยมีค่าทนรับกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 20 kA (8/20 μs) เพื่อป้องกันไม่ให้ เครื่องส่งวิทยุ และอุปกรณ์อื่นๆ ชารุดเสียหาย
(3)ในตู้เมนเบรกเกอร์ให้แยกลูกเซอร์กิตเบกเกอร์สาหรับวงจรเคร่ืองส่งวิทยุอุปกรณเ์ครื่อง ปรับแต่งเสียง และเคร่ืองรับสัญญาณดาวเทียมโดยเดินสายไฟขนาดไม่น้อยกว่า 2.5 ตร.มม. พร้อมสายดิน ขนาดเดียวกัน ส่วนอีกวงจรเป็นโหลดแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศ
(4) ควรมีอุปกรณ์ควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Voltage Stabilizer) เพื่อป้องกันแรงดันไฟฟ้าสวิง แรงดันไฟฟ้าตก หรือแรงดันไฟฟ้าเกิน ขนาดไม่ต่ากว่า 2 KVA. ก่อนจ่ายไฟให้กับเครื่องส่งวิทยุ และกล่องรับ สัญญาณดาวเทียม และอุปกรณ์ปรับแต่งเสียง
(5) มีการต่อสายดินท่ีตัวถังเครื่องส่งวิทยุ ขนาดสายดินไม่น้อยกว่า 2.5 ตร.มม.
(6) ในรอบปี ควรมีการครวจสอบระบบไฟฟ้า จุดต่อ ปล๊ักไฟ ต่างๆ มีสภาพปกติไม่หลวม หรือชารุด และตรวจวัดค่าความต้านทานระบบสายดินต้องไม่สูงเกิน 10 โอมห์
ข้อ 35 สถานีลูกข่ายรับสัญญาญเสียงวิทยุจากสถานีแม่ข่าย ผ่านช่องสัญญาณเสียงภาษาสอง ของทีวี ดาวเทียมช่อง SBT ในระบบ C-Band ดาวเทียมไทยคม 5 โดยมีการต้ังค่าช่อง SBT ดังนี้ ค่าความถี่ (Frequency) 04040 ค่าซิมโบล์เรตท์ (Symbol Rate) 30000 แนวรับสัญญาณ (Polality) แนวตั้ง (V) ค่าวีดีโอ พีไอดี (Video PID) 511 ค่าออดิโอ พีไอดี 1 (Audio PID 1) 611 (เสียงโทรทัศน์) ค่าออดิโอ พีไอดี 2 (Audio PID 2) 711 (เสียงวิทยุ) ค่าพีซีอาร์ พีไอดี (PCR PID) 511
ข้อ 36 เพ่ือไม่ให้เกิดปัญหาช่องคลื่นเปลี่ยนกรณีไฟดับหรือมีการอัพเดทช่องอัตโนมัติ (Auto OTA) ให้ต้ังค่ากล่องรับสัญญาณดาวเทียม โดยการลบรายการช่องทีวีทั้งหมดออกให้หมด แล้วทาการเพิ่มช่องเฉพาะ SBT เข้าไปเพียงช่องเดียว ตั้งเป็นเสียงภาษาสอง(เสียงวิทยุ) แล้วไปต้ังค่าปิดระบบ OTA ไม่ให้ทางานอัตโนมัติ เพราะถ้าไม่ปิดระบบ OTA เวลาไฟดับ แล้วไฟมาเคร่ืองจะเปิดอีกคร้ัง กล่องรับสัญญาณจะสแกนช่องทีวี ทั้งหมดและเพิ่มช่องรายการทึ่ตรวจพบเองโดยอัตโนมัติ โดยสามารถโทรมาสอบถามวิธีการตั้งค่ากับเจ้าหน้าที่ เทคนิคสถานีแม่ข่ายได้ หรือประสานขอกล่องรับสัญญาณจากสถานีแม่ข่ายที่ได้ทาการตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๒ )


ข้อ 37 สถานีลูกข่ายควรจัดหาทีวีหรือจอภาพมอนิเตอร์ (TV Monitor) เพ่ือใช้ในการตรวจสอบความ แรง และคุณภาพสัญญาณดาวเทียมช่อง SBT และควรตรวจสอบอย่างน้อย 3 เดือนคร้ัง เพราะถ้าสัญญาณมี ความแรงและคุณภาพแย่ จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพเสียงวิทยุในการออกอากาศ โดยควรมีความแรงของ สัญญาณไม่ต่ากว่า80% และคุณภาพของสัญญาณไม่ต่ากว่า40% กรณีสัญญาณมีความแรงหรือคุณภาพ ต่ากว่าเกณฑ์ที่กาหนด ให้ตรวจสอบจุดต่อสัญญาณที่กล่องเคร่ืองรับ และที่หัว LNB ที่จานรับ และตรวจสอบ ส่ิงบดบังจานดาวเทียมในรัศมีรับ ถ้ายังมีปัญหาอีกควรติดต่อช่างทีวีดาวเทียมในพ้ืนที่ เพื่อมาตรวจสอบและ แก้ไข (อาทิเช่น การปรับต้ังตาแหน่งจาน และหัว LNB ใหม่) เพื่อให้ความแรงและคุณภาพสัญญาณได้ตาม เกณฑ์ที่แนะนา
ข้อ 38 เพื่อให้คุณภาพเสียง และความดังสัญญาณเสียงวิทยุมีค่าได้มาตรฐานไม่เบาเกินไป (ทาให้ช่วง ความกว้างของคล่ืนออกอากาศแคบปรับหาคลื่นยาก) หรือดังเกินไป (ช่วงความกว้างของคลื่นออกนอกแถบไป รบกวนคลื่นข้างเคียงได้ซ่ึงผิดกฎหมาย) ก่อนเข้าเครื่องส่งวิทยุ ควรมีการจัดหาเครื่องปรับแต่งเสียงออดิโอ โปรเซสเซอร์ (Audio Processor) ขนาดเล็กเพื่อใช้ปรับแต่งสัญญาณเสียงวิทยุจากกล่องรับสัญญาณดาวเทียม โดยควรปรับแต่งให้คลื่นความถ่ีเสียงพูด (1 kHz.) แรงสุด และความดังอยู่ในระดับสูงสุดที่จะไม่เกิดปัญหาแพร่ คลื่นนอกแถบรบกวนคลื่นข้างเคียง การตั้งค่าดังกล่าวควรให้ช่างที่สถานีแม่ข่ายจ้างมาตรวจสอบมาตรฐาน ด้านเทคนิคเครื่องประจาปี ดาเนินการปรับตั้งค่าให้ และให้สถานีลูกข่ายมาร์คและใช้ตาแหน่งระดับเสียง ดังกล่าวในการดาเนินงานออกอากาศกระจายเสียง โดยมีการตรวจสอบปรับแต่งทุกปีเมื่อครบรอบการ ตรวจสอบมาตรฐานเทคนิคเครื่องส่งประจาปี
ข้อ 39 สถานีลูกข่ายควรมีเครื่องรับวิทยุ FM เพ่ือเปิดรับคล่ืนวิทยุของสถานีลูกข่ายตลอดเวลาท่ี ออกอากาศ เพ่ือควบคุมติดตามคุณภาพเสียงการออกอากาศ และทุกวันผู้ดูแลควรตรวจสอบที่เครื่องส่งวิทยุ ว่ากาลังส่งได้ 500 วัตต์ และความถี่คล่ืนถูกต้องตรงกับท่ีได้รับอนุญาตเป็นประจาทุกวัน
ข้อ 40 ในรอบระยะเวลาหน่ึงเดือน ผู้ดูแลควรมีการตรวจสอบรัศมีการกระจายเสียงออกอากาศตาม ทิศทางเส้นทางหลักรอบสถานีลูกข่าย ว่ามีรัศมีการรับฟังคลื่นได้ชัดเจนไกลสุดก่ีกิโลเมตรทางอากาศ โดยใช้ ข้อมูลจากแอพมือถือวิทยุเสียงธรรม SBT Luangta ที่สามารถระบุระยะห่างทางอากาศจากตาแหน่งที่อยู่กับ สถานีได้ เพื่อเป็นการตรวจสอบคุณภาพการออกอากาศ และปัญหาคุณภาพเสียงการรับฟังของผู้ฟัง กรณี รัศมีออกอากาศลดลงมากกว่าเดิมเกิน 5 กม. (ปกติเครื่องส่ง 500 วัตต์ เสาส่งสูง 60 เมตร จะมีรัศมีกระจาย เสียงประมาณ 20 กม. แต่ข้ึนกับปัจจัยสภาพภูมิศาสตร์ สิ่งปลูกสร้างโดยรอบ ความหนาแน่นของสถานีวิทยุ ใกล้เคียง)
ข้อ 41 การติดตั้งเสาส่งวิทยุ (TOWER) ให้ได้มาตรฐาน ทนทานและต้านทานแรงลมพายุได้ โดยมี รายละเอียดข้อกาหนดดังน้ี
(1) ควรใช้ชนิดโครงเหล็กสามเหลี่ยม ขนาดไม่น้อยกว่า 12 น้ิว ติดตั้งบนฐานคอนกรีตเสริม เหล็กที่แข็งแรงประกอบเข้าเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่ายึดต่อกันเป็นท่อน ๆ จนได้ขนาดความสูงไม่เกิน 60 เมตร จากพื้นดิน
(2) มีสายสเตย์ยึดโยง (GUYED-TYPE) ไม่นอ้ ยกว่า สามด้าน จานวนชั้นดึงสลิง ไม่น้อยกว่า
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๓ )


4 ช่วง ดึงเป็นระยะจากมุมทั้งสามของโครงเหล็กเสาอากาศยึดเข้ากับหลักสมอบกคอนหรีตเสริมเหล็กอย่าง แข็งแรง
(3) การออกแบบโครงสร้างเสาอากาศ ฐานรับเสาอากาศและฐานสมอบก จะต้องคานวณ และออกแบบตามมาตรฐาน EIA-Standard 222-G สามารถทนความเร็วลมไม่ต่ากว่า 130 กิโลเมตรต่อ ช่ัวโมง กระทากับเสาอากาศและอุปกรณ์ประกอบทั้งหมดบนเสาอากาศ
(4) โครงเสาท่อนบนสุด มีเหล็กแผ่นปิด หนาไม่ต่ากว่า 9 มม. เพื่อป้องกันน้าที่จะเข้าและขัง ภายในขาเสาอากาศ
(5) โครงเหล็กเสาอากาศ รวมท้ังสกรู นอต เกลียวเร่ง และอุปกรณ์ประกอบเสาอากาศ ทั้งหมด เมื่อผลิตแล้วเสร็จ ต้องทาการ ชุบสังกะสีเพื่อป้องกันสนิม ด้วยกรรมวิธี Hot Dip Galvanized ตาม มาตรฐาน ASTM
(7) สายสเตย์ยึดระหว่างโครงเหล็กเสาอากาศกับสมอบก เป็นลวดแข็งอาบสังกะสี ชนิด 7 เส้น ตีเกลียว ชุบกันสนิมขนาด ตาม มาตรฐาน ASTM.A475-72A ขนาดไม่เล็กกว่า 3/8" (35mm) มีความ ยาวตลอดไม่มีการต่อระหว่างกลาง เป็นของใหม่ ไม่เคยใช้งานมาก่อนหรือของเก่าเก็บ
(8) กรณีสถานีลูกข่ายต้ังอยู่ใกล้เขตการบิน ต้องมีการติดตั้งระบบไฟสัญญาณเตือนการบิน ชนิดโคมเด่ียว แบบ LED แรงดันไม่น้อยกว่า 12 VDC. และมีชุดควบคุมการกระพริบ และ สวิทซ์แสงแดด (Photo switch) ท่ีควบคุมการเปิด-ปิด กลางวันและกลางคืน โดยอัตโนมัติ
(9)มรีะบบล่อฟ้าและระบบสายดินติดต้ังท่อเหล็กและชุดล่อฟ้าปลายแหลม(ชุบกันสนิม) ที่ปลายสุดของเสาอากาศ เดินสายล่อฟ้าลงมาตามขาเสา ด้วยทองแดงเปลือย ขนาดไม่ต่ากว่า 35 sq.mm แล้วยึดเข้ากับแท่งกราวด์ร็อด ขนาด ไม่ต่ากว่า 5/8" มีความยาวไม่น้อยกว่า 10 ฟุต ที่โคนเสา 4 จุด และท่ี สมอบก (จากแผ่นมือเสือ) ไปยังกราวด์ร็อด อีกตาแหน่งละ 1 จุด สายล่อฟ้าที่เดินลงมาตามขาเสาอากาศ ให้ จับยึดด้วยลูกถ้วยฉนวนหรือร้อยในท่อ Conduit ชนิด PVC สีเหลือง เพื่อ ป้องกันไม่ให้สายล่อฟ้ากระทบถูก ส่วนใดส่วนหนึ่งของเสาอากาศ ให้มีสายกราวด์เช่ือมต่อจากขาเสาอากาศ ไปยังระบบสายดิน อีก 1 จุด การ เชื่อมต่อระหว่างสายล่อฟ้ากับแท่งล่อฟ้าและแท่งกราวด์ร็อด ให้ใช้วิธีเช่ือมประสานแบบหลอมละลาย (Exothermic welding) ต้องทาการทดสอบค่าความต้านทานดินด้วยเคร่ืองทดสอบค่าความต้านทานดิน (Earth tester) โดยต้องมีค่าความต้านทานดินไม่เกินกว่า 10 โอหม์
ข้อ 42 ทุกรอบปี ควรมีการตรวจสอบเสาส่ง น็อตยึด ฐานคอนกรีต ความตึงของสายสเตย์ยึดเสา และควรมีการตรวจสอบการทางานของระบบไฟสัญญาณเตือนการบินเป็นประจาทุกวัน ถ้าพบความผิดปกติให้ ดาเนินการแก้ไขเอง หรือประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายให้ส่งช่างมาดาเนินการแก้ไขให้
ข้อ 43 สายนาสัญญาณมีผลต่อกาลังส่งในการออกอากาศ ควรเลือกใช้สายนาสัญญาณคลื่นวิทยุที่มี ขนาดเหมาะสมมีค่าอิมพีแดนซ์ตรงกับสายอากาศส่ง และมีคุณสมบัติค่าความสูญเสียต่า อาทิ เช่น สายนา สัญญาณชนิดHeliaxขนาด7/8น้ิว โดยการติดต้ังต้องไม่มีการตัดต่อสายระหว่างทางเพื่อลดจุดต่อให้น้อย ที่สุด การต่อเข้าเคร่ืองส่งต้องใช้ชนิด connector ท่ีเหมาะสมขันให้แน่นพอดี ไม่แรงหรือหลวมเกินไป การ ต่อกับสายเฟทเบย์สายอากาศ ควรต่อผ่านอุปกรณ์ Power Divider
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๔ )


ข้อ 44 การติดตั้งอุปกรณ์สายอากาศควรเลือกใช้ชนิดสายอากาศท่ีเหมาะสมกับสภาพที่ต้ังสถานี มี ค่าความกว้างของคลื่นแคบ(Band width) และมีค่า VSWR ของสายอากาศ ณ ความถี่ที่ใช้งานต้องไม่สูงเกิน กว่า 1:1.5 โดยควรติดตั้งเบย์สายอากาศจานวน 4 – 8 เบย์ ตามความเหมาะสม
ข้อ 45 สายนาสัญญาณทุกเส้นต้องมี Lightning Arrester ณ ความถี่ท่ีใช้งาน เพ่ือป้องกันหรือลด ความเสียหายของวิทยุ สื่อสารจากฟ้าผ่า
ข้อ 46 ทุกรอบ 3 ปี สถานีแม่ข่ายจะประสานช่างเพื่อเข้าไปตรวจสอบและบารุงรักษาเบย์ สายอากาศ ด้วยการถอดลงมาขัดล้างคราบออกไซด์ที่เกิดขึ้นซึ่งจะทาให้ประสิทธิภาพกาลังส่งออกอากาศ ลดลง แล้วเคลือบแต่งผิวเบย์สายอากาศใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างและเครือบผิวท่ีมีคุณภาพ ทาความสะอาด Power Divider เปลี่ยนสายเฟทใหม่ ตรวจสอบจุดต่อต่างๆ เทปละลายพันจุดต่อเพ่ือไม่ให้มีปัญหาฉีกขาดน้า ไปขังในข้อต่อ
ข้อ 47 สถานีลูกข่ายควรวางแผนในการจัดหาเคร่ืองส่งวิทยุสารอง ไว้ใช้กรณีเครื่องส่งหลักเสีย ต้อง ส่งซ่อมตามขั้นตอนที่ กสทช. กาหนด ซ่ึงใช้เวลา 1-3 เดือนจึงแล้วเสร็จ เพ่ือลดผลกระทบการหยุดออกอากาศ ระหว่างส่งซ่อม
ข้อ 48 กรณีสภาพปัจจุบันของสถานีลูกข่าย ไม่เป็นไปตามคาแนะนาด้านเทคนิคของระบบสถานี วิทยุท่ีมีประสิทธิภาพข้างต้น ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย เพื่อจะได้วางแผนในการพัฒนาปรับปรุงสถานีลูก ข่ายให้ได้มาตรฐานตามคาแนะนาต่อไป
ข้อ 49 กรณีสถานีลูกข่ายจาเป็นต้องจัดหา ซ้ืออุปกรณ์เคร่ืองมือเพื่อใช้งานในสถานีลูกข่าย กรณี สถานีลูกข่ายมีความพร้อมด้านปัจจัยรับสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดซ้ือด้วยตนเอง ควรประสานแจ้ง สถานีแม่ข่าย เพ่ือให้คาแนะนาในการจัดหาอุปกรณ์ เพราะสถานีแม่ข่ายมีการจัดทาข้อมูลรายชื่อผู้จาหน่าย อุปกรณ์ท่ีได้คุณภาพ พร้อมการต่อรองราคาล่าสุดที่ดีกว่าท้องตลาด เพ่ือเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของ สถานีลูกข่าย กรณีสถานีลูกข่ายไม่มีความพร้อมด้านปัจจัยในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และอุปกรณ์ ดังกล่าวมีความจาเป็นต้องจัดหา สถานีแม่ข่ายจะรับผิดชอบดาเนินการจัดหาและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้
หมวด 6
การแก้ไขปัญหา การแจ้งซ่อม และการควบคุมการเข้าปฏิบัติงานของช่าง
ข้อ 50 กรณีสถานีลูกข่าย เกิดปัญหาในการออกอากาศกระจายเสียง ให้ผู้ดูแลศึกษาแนวทางการ แก้ไขปัญหาการออกอากาศกระจายเสียงเบื้องต้น จากคู่มือสถานีวิทยุเสียงธรรม และดาเนินการตรวจสอบ และแก้ไขตามคาแนะนาในคู่มือ โดยสามารถโทรปรึกษาขอคาแนะนาจากเจ้าหน้าที่เทคนิคสถานีแม่ข่ายได้ หรือโทรศัพท์ปรึกษากับที่ปรึกษาด้านเทคนิคตามเบอร์โทรศัพท์ที่สถานีแม่ข่ายแจ้งไว้ ถ้าไม่สามารถแก้ไข ปัญหาด้วยตนเอง หรือคาแนะนาในคู่มือ ให้ประสานแจ้งซ่อม กรณีปัญหาไม่ได้เกิดจากเครื่องส่งวิทยุ อาจ ประสานช่างในพื้นที่มาตรวจสอบแก้ไขได้ แต่ถ้าเป็นปัญหาเกี่ยวกับเคร่ืองส่งวิทยุ ให้ผู้ดูแลประสานแจ้งซ่อม
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๕ )


กับสถานีแม่ข่ายทางโทรศัพท์หรือทางไลน์กลุ่มผู้ดูแลวิทยุเสียงธรรม(Official Line) พร้อมรายละเอียดข้อมูล (ภาพถ่ายถ้ามี) ของปัญหา สถานีแม่ข่ายจะประสานช่างเข้าไปดาเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้กลับมา ออกอากาศกระจายเสียงโดยเร็วที่สุด
ข้อ 51 เน่ืองด้วยสถานีลูกข่ายเป็นการทดลองประกอบการวิทยุกระจายเสียง ภายใต้กฎหมาย ประกาศ ข้อบังคับ โดยเฉพาะเคร่ืองส่งวิทยุ ดังน้ันผู้ดูแลจึงควรมีการควบคุมการเข้าออกห้องส่งวิทยุของช่าง ที่เข้ามาปฏิบัติงาน ดังนี้
(1) กรณีสถานีลูกข่ายติดต่อช่างท้องถิ่นเข้ามาดาเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องส่งวิทยุ ควร ประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายให้รับทราบ โดยมีข้อมูลชื่อช่าง วันที่ดาเนินการ รายละเอียดการปฏิบัติงาน เพื่อที่ สถานีแม่ข่ายจะลงบันทึกการเข้าทางานของช่างให้กับสถานีลูกข่าย
(2) กรณีเป็นช่างท่ีสถานีแม่ข่ายส่งมาปฏิบัติงาน สถานีแม่ข่ายจะแจ้งให้ผู้ดูแลสถานีทราบ ล่วงหน้า พร้อมข้อมูลชื่อช่างและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ดังน้ันกรณีมีช่างเข้ามาติดต่อขอเข้าห้องส่งวิทยุโดย พลการ โดยไม่ได้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย ต้องไม่อนุญาตให้เข้าปฏิบัติงาน จนกว่าช่างจะประสานแจ้งสถานี แม่ข่าย และได้รับอนุญาตจากสถานีแม่ข่ายก่อน จึงจะอนุญาตให้เข้าปฏิบัติงานได้ และควรตรวจสอบชื่อช่าง ที่เข้าดาเนินการ ว่าตรงกับที่สถานีแม่ข่ายประสานแจ้งหรือไม่
(3) ผู้ดูแลควรอยู่ร่วมสังเกตการปฏิบัติงานของช่างทุกคร้ังจนแล้วเสร็จ กรณีไม่สะดวก หรือไม่ว่าง ควรมอบหมายบุคคลอ่ืนมาทาหน้าที่สังเกตการณ์การปฏิบัติงานแทน
(4) เมื่อดาเนินการแล้วเสร็จ ควรสอบถามสรุปรายละเอียดการดาเนินงาน และผล การดาเนินงานแก้ไข เพ่ือประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายในการลงบันทึกข้อมูลต่อไป
(5) ควรให้ความร่วมมือ และอานวยความสะดวกให้กับช่างที่เข้ามาปฏิบัติงานในสถานี ตามที่ สถานีแม่ข่ายได้มอบหมายและแจ้งแผนงานให้ทราบล่วงหน้า
(6) หากมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ท่ีสถานี
แม่ข่าย
หมวด 7
การตรวจมาตรฐานเทคนคิ การวัดแพร่แปลกปลอม และการต่อใบอนุญาตประจาปี
ข้อ 52 เพื่อเป็นการควบคุมการกระจายเสียงออกอากาศของสถานีวิทยุ ไม่ให้มีการรบกวนคลื่นวิทยุ โดยเฉพาะคลื่นวิทยุการบิน กสทช. จึงได้ออกประกาศบังคับให้แต่ละสถานีต้องมีการตรวจสอบรับรองคุณภาพ เครื่องส่งวิทยุ ว่าได้มาตรฐานเทคนิคตามที่กาหนด และไม่มีการแพร่คลื่นแปลกปลอม โดยกาหนดให้มีการ ตรวจสอบเป็นประจาทุกปี และจาเป็นต้องใช้หลักฐานการผ่านการตรวจสอบไปยื่นประกอบคาร้องขอต่ออายุ การทดลองประกอบการวิทยุกระจายเสียง ดังนั้นสถานีแม่ข่าย จะมีการจัดจ้างห้องแลปปฏิบัติการตรวจสอบ ท่ีได้ขึ้นทะเบียนกับ กสทช. ส่งช่างมาดาเนินการตรวจสอบมาตรฐานเทคนิค และตรวจการแพร่แปลกปลอม เป็นประจาทุกปี ซ่ึงหัวข้อหลักในการตรวจสอบและส่งรายงานทุกปี มีหัวข้อการตรวจสอบดังนี้
(1) มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๖ )


(2) การแพร่แปลกปลอมของสถานี (เฉพาะสถานีที่ตั้งอยู่พื้นที่ตามเง่ือนไขที่ต้องตรวจเท่าน้ัน)
(3) ระดับการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ข้อ 53 เครื่องส่งที่จะทาการตรวจสอบมาตรฐานด้านเทคนิคและวัดแพร่แปลกปลอม ต้องเป็นเคร่ืองที่ ได้รับใบอนุญาตให้ใช้ ตามท่ีข้ึนทะเบียนในใบอนุญาต มีสติกเกอร์สีเขียวติดหน้าเครื่อง และมีสติกเกอร์รับรอง มาตรฐานเทคนิคปีท่ีแล้วอยู่ท่ีหน้าเครื่อง และมีสภาพสติกเกอร์คุมเครื่อง (สติกเกอร์สีขาว) ที่ติดครอบคุมมุม ตัวถังเครื่องส่งที่ด้านหลังและด้านข้างเครื่องอยู่ในสภาพปกติไม่ชารุด (เพ่ือยืนยันว่าไม่มีการเปิดเครื่องส่งโดย พลการ) จึงจะพร้อมในการตรวจสอบมาตรฐานด้านเทคนิคต่อไป ดังนั้นหากมีปัญหาเคร่ืองไม่อยู่ หรือสติก เกอร์คุมเครื่องชารุด หรือสติกเกอร์ไม่ครบ ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่ายรับทราบ เพื่อดาเนินการแก้ไขปัญหา ต่อไป
ข้อ 54 รายละเอียดมาตรฐานด้านเทคนิคเครื่องส่งวิทยุ ต้องเป็นไปตามข้อกาหนดของเครื่องส่ง วิทยุกระจายเสียงที่ กสทช. กาหนดไว้ดังนี้
(1) กาลังคลื่นพาห์ท่ีกาหนด (Rated Carrier Power) จะต้องมีค่าไม่เกิน 500 วัตต์ ±0.5dB
(2)การแพร่แปลกปลอม(ConductedSpuriousEmission)ในขณะที่ไม่มีการมอดเูลต อย่างน้อยที่สุดตามสูตรคานวณที่กาหนด ดังนี้ 46 + 10log P หรือ 70 dBc โดยให้เลือกใช้ค่าทํี่ต่าสุด โดย ที่ P หมายถึง กาลังคลื่นพาหท์ท่ีกาหนด
(3) การแพร่นอกแถบ (Out-of-Band Emission) ต้องอยู่ภายในขอบเขตท่ีกาหนดไว้ใน ภาพข้างล่างน้ี ช่วงความถี่เบ่ียงเบนจากคลื่นสถานี+/-200kHz.มีค่าไม่เกิน-80dBcเกินจากช่วงความถ่ี ดังกล่าวแต่ไม่เกิน +/- 500 kHz. ต้องมีค่าไม่เกิน -85 dBc
(4) ค่าผิดพลาดทางความถ่ี (Frequency Error) จะต้องไม่เกิน ± 2 กิโลเฮิรตซ์ (kHz) ของ ความถ่ีคล่ืนพาห์ในขณะท่ีไม่มีการมอดูเลต
(5) ค่าเบี่ยงเบนทางความถ่ี (Frequency Deviation) ค่าแตกต่างที่มากที่สุดระหว่างความถี่ ขณะใดขณะหนึ่ง (Instantaneous Frequency) เมื่อมีการมอดูเลตกับความถี่คลื่นพาห์ในขณะท่ีไม่มีการมอดู เลต ค่าเบ่ียงเบนทางความถ่ีจะต้องไม่เกิน ± 75 กิโลเฮิรตซ์ (kHz)
ข้อ 55 เม่ือผลการตรวจสอบมาตรฐานด้านเทคนิคเครื่องส่งวิทยุผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ กสทช. กาหนด ช่างผู้ทดสอบจะลอกสติกเกอร์รับรองผลตรวจเก่าออกเพื่อนาไปติดรายงานผลตรวจส่ง กสทช. แล้ว ติดสติกเกอร์รับรองตัวใหม่แทนท่ีตาแหน่งเดิมหน้าเคร่ืองส่งวิทยุ
ข้อ 56 เพื่อป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ในกิจการวิทยุการบินตลอดระยะเวลาการทดลอง ประกอบกิจการ สถานีลูกข่ายท่ีมีที่ต้ังในพื้นที่ปลอดการรบกวนการใช้คล่ืนความถ่ี หรือต้ังอยู่ภายในรัศมี 0-50 กม. จากจุดพิกัดระบบควบคุมจราจรทางอากาศของท่าอากาศยาน หรือจุดพิกัดสถานีควบคุมจราจรทาง อากาศ หรือตั้งอยู่ใกล้กับสถานี FM อ่ืน ห่างกันไม่เกิน 1 กม. ต้องจัดทารายงานการแพร่แปลกปลอมของ สถานีตามประกาศ กสทช. เร่ือง หลักเกณฑ์การวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานีทดลองประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง และยื่นเป็นหนังสือต่อสานักงานด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนทุกปี ก่อนวันที่ อายุใบอนุญาตสิ้นสุดลงอย่างน้อย120วันสามารถศึกษารายละเอียดเพม่ิเติมและตรวจสอบรายช่ือสถานีท่ี
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๗ )


ต้องวัดแพร่แปลกปลอมที่เว็บไซต์ กสทช. https://broadcast.nbtc.go.th/ เลือกเมนูหลัก “กิจการวิทยุ” แล้วเลือกหัวข้อเมนูย่อย “การรบกวนกิจการวิทยุการบิน” แล้วเลือกหัวข้อย่อย “สถานีทดลองประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง (สถานีทดลอง)” รายละเอียดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การวัดแพร่แปลกปลอมโดยสรุปมี ดังนี้
(1) กรณีตั้งอยู่พ้ืนท่ีปลอดการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ สถานีวิทยุกระจายเสียงต้องมีกาลัง ของการแพร่แปลกปลอมของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่ากว่ากาลังคล่ืนพาห์ของสถานีวิทยุกระจายเสียงอย่าง น้อย 80 dBc หรือน้อยกว่า 100 ล้านเท่า
(2) กรณีตั้งอยู่ภายในรัศมี 0-50 กม. จากจุดพิกัดระบบควบคุมจราจรทางอากาศของท่า อากาศยานหรือจุดพิกัดสถานีควบคุมจราจรทางอากาศสถานีวิทยุกระจายเสียง ต้องมีกาลังของการแพร่ แปลกปลอมของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่ากว่ากาลังคล่ืนพาห์ของสถานีวิทยุกระจายเสียงอย่างน้อย 75 dBc หรือน้อยกว่า 31.62 ล้านเท่า
(3) กรณีต้ังอยู่ใกล้กับสถานี FM อ่ืน ห่างกันไม่เกิน 1 กม สถานีวิทยุกระจายเสียงต้องมีกาลัง ของการแพร่แปลกปลอมของสถานีวิทยุกระจายเสียงต่ากว่ากาลังคล่ืนพาห์ของสถานีวิทยุกระจายเสียงอย่าง น้อย 70 dBc หรือน้อยกว่า 10 ล้านเท่า
ข้อ 57 เนื่องจากคล่ืนวิทยุ เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อาจมีผลต่อสุขภาพมนุษย์ เพื่อความปลอดภัย เกี่ยวกับการใช้เครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงต่อสุขภาพของมนุษย์ (Radiation Exposure Requirements) การ ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงสาหรับการทดลองประกอบกิจการและการใช้งานเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงจะต้อง สอดคล้องกับข้อกาหนดของมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพของมนุษย์จากการใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดย อนุโลม ดังน้ันสถานีแม่ข่ายจึงรับผิดชอบในการจัดทารายงานระดับการแผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าของสถานี วิทยุกระจายเสียงสาหรับการทดลองประกอบกิจการให้กับสถานีลูกข่ายแต่ละแห่ง โดยวิธีใช้การคานวณด้วย แบบจาลอง ITU K-70 โดยปกติระยะห่างท่ีปลอดภัยควรอยู่ห่างจากเบย์สายอากาศขณะออกอากาศอย่างน้อย 15 เมตรข้ึนไป ในการออกอากาศ 500 วัตต์ ซ่ึงปกติเสาส่งวิทยุมีความสูงเกินกว่า 15 เมตร ดังน้ันจึงไม่มี ผลกระทบใดๆ ต่อคนท่ีอยู่ด้านล่าง
ข้อ 58 สถานีแม่ข่ายจะดาเนินการย่ืนเร่ืองขอต่อใบอนุญาตทดลองประกอบการวิทยุกระจายเสียง ล่วงหน้าก่อนวันหมดอายุอย่างน้อย 120 วัน เมื่อได้รับการต่ออายุเรียบร้อยจะดาเนินการปรับปรุงข้อมูล หนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง (เล่มสีน้าเงิน) แล้วจะดาเนินการสแกนสาเนาส่งให้สถานีลูกข่าย เก็บไว้ในแฟ้มเอกสารท่ีแม่ข่ายจัดทาให้ เพื่อเป็นหลักฐานการได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจาย เสียงอย่างถูกกฎหมาย
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๑๘ )


หมวด 8 การดูแลการเข้ามาสอบถามข้อมูล และการขอเข้าตรวจค้นจากเจ้าหน้าท่ี
ข้อ 59 กรณีมีจดหมาย หรือเจ้าหน้าที่ส่วนปกครองท้องถิ่น หรือจังหวัดเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการ ส่งผลการดาเนินงานมูลนิธิเสียงธรรมสาขาย่อย ซ่ึงจดทะเบียนตามท่ีต้ังของแต่ละสถานีลูกข่าย ให้ประสาน แจ้งสถานีแม่ข่ายทราบเพื่อดาเนินการตอบจดหมายแทนสถานีลูกข่าย เพราะการดาเนินงานมูลนิธิเสียงธรรมมี เฉพาะสาขาใหญ่เท่าน้ัน ไม่มีการดาเนินกิจกรรมใดของมูลนิธิเสียงธรรมสาขาย่อย
ข้อ 60 กรณีเจ้าหน้าที่ กสทช. ทหาร เข้ามาสอบถามข้อมูล ควรให้ข้อมูลตามสาเนาเอกสารในแฟ้ม เอกสารที่สถานีแม่ข่ายจัดให้ โดยเฉพาะข้อมูลสาเนาหนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง (ฉบับล่าสุด) และเอกสารหลักฐานอื่นๆ ในแฟ้มเอกสาร หากมีข้อสงสัย หรือไม่สามารถตอบข้อซักถามเจ้าหน้าท่ีได้ ให้ ติดต่อสอบถามสถานีแม่ข่ายเพื่อให้คาแนะนา และเป็นผู้ให้ข้อมูลแทน
ข้อ 61 กรณีเจ้าหน้าที่ตารวจขอเข้าตรวจค้น ให้ประสานติดต่อผู้รู้ หรือนักกฎหมายที่รู้จักในพ้ืนที่ หรือโทรปรึกษาที่ปรึกษาด้านกฏหมายท่ีระบุในหมายเลขโทรศัพท์ที่สถานีแม่ข่ายจัดทาให้ หรือโทรติดต่อ เจ้าหน้าที่วิทยุเสียงธรรมส่วนกลางให้รับทราบโดยทันที
ข้อ 62 อ่านเอกสารที่เจ้าหน้าที่นามา ซ่ึงควรมีเอกสารดังน้ี
(1) หมายศาล ซึ่งเป็นหมายค้น ในหมายศาลจะต้องอ่านดูว่า วันที่ในหมายศาลหมดกาหนด หรือยัง สถานที่ให้เข้าค้น ช่ือสถานีถูกต้องหรือตรงกับสถานีเราหรือไม่ บ้านเลขที่ถูกต้องหรือตรงกับสถานีเรา หรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ท่านปฏิเสธการเข้าตรวจค้น ถ้ายังไม่ยอมจะเข้ามาในสถานี ให้ โทรศัพท์แจ้งตารวจท้องที่ทันที หรือ 191 แจ้งว่ามีกลุ่มคนมาตรวจค้นท่ีสถานีโดยไม่มีหมายค้น ช่วยแจ้ง เจ้าหน้าทตี่ ารวจท้องที่หรือสายตรวจให้ด่วน
(2) ขอดูบัตรประจาตัวของกลุ่มคนดังกล่าวว่ามาจากหน่วยงานใด รูปในบัตรกับตัวจริงต้อง เป็นบุคคลคนเดียวกัน และตรงกับที่ระบุในหมายศาล อนุญาตให้เฉพาะ บุคคลที่มีรายช่ือระบุในหมายศาล เท่านั้นเข้ามาในสถานีได้ ผู้ที่ไม่ได้ระบุชื่อในหมายศาลห้ามเข้าเด็ดขาด
(3) อ่านข้อกล่าวหาว่า มาค้นในเรื่องอะไร เช่น ดูในรายละเอียดว่ามาตรวจเร่ืองอะไร เพราะ โดยปกติเจ้าหน้าที่ตารวจจะไม่มีความรู้เก่ียวกับเร่ืองน้ี แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ี กสทช. ซึ่งจะเป็นผู้ร้องทุกข์ กล่าวโทษตามกฏหมาย ตารวจเป็นเพียงเจ้าพนักงานผู้มีอานาจเปรียบเทียบปรับหรือจับกุมตามท่ีมีผู้ร้องทุกข์ กล่าวโทษเท่าน้ัน ดังนั้นถ้าไม่ได้มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษก็ไม่สามารถขอหมายศาลได้ เมื่อไม่มีหมายศาล (หมาย ค้น) ก็ไม่สามารถเข้าค้นได้
(4) ตรวจสอบว่าหมายค้นนั้น เป็นของจริงหรือไม่โดยโทรตรวจสอบไปที่หน่วยงานที่ออก หมายค้นนั้นๆ เช่น ศาลอาญาเขตใด แขวงใด เป็นต้น
ข้อ 63 หลังการตรวจค้น ไม่ว่าจะพบหรือ ไม่พบการกระทาผิดใดๆ ไม่ควรเซ็นช่ือในเอกสารใดๆ ที่ เจ้าหน้าท่ีตารวจส่งให้ท่าน ไม่ว่าจะเซ็นรับทราบ หรือเซ็นยอมรับข้อกล่าวหาหรือเซ็นเพื่อ ยอมรับว่าไม่มีความ เสียหายใดในการตรวจค้นครั้งน้ี การจะเซ็นชื่อรับทราบใดๆ ก็ตาม ควรท่ีจะปรึกษาผู้รู้ หรือนักกฎหมาย เสียก่อน
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๑๙ )


ข้อ 64 ในกรณีไม่มีหมายค้น โดยอ้างว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า ท่านมีสิทธิ์ปฏิเสธการเข้าตรวจค้นได้ เพราะกฎหมายข้อนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีความเห็นว่ากระทาไม่ได้เพราะขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบข้อหารือของสานักงานตารวจแห่งชาติ เกี่ยวกับเร่ืองนี้ว่า การกระทา ดังกล่าวไม่สามารถกระทาได้ โดยรายละเอียดปรากฏตามหนังสือของสานักงานกฤษฏีกา เรื่องเสร็จที่ 452/2546 มีใจความว่า การตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ไม่เป็นข้อยกเว้นท่ีให้อานาจพนักงานฝ่ายปกครองหรือ ตารวจจับกุมได้โดยไม่ต้องมีคาส่ังหรือหมายของศาล เน่ืองจากกรณีนี้ไม่ใช้เป็นความผิดซึ่งหน้าหรือมีเหตุจาเป็น อย่างอื่นที่ให้จับได้ตามท่ีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติไว้
ข้อ 65 ถ้าเจ้าหน้าที่ตารวจผู้นั้นไม่ยอมรับฟัง (กรณีไม่มีหมายค้น) ก็ไม่ควรอนุญาตให้เข้าตรวจค้น และถ้าตารวจบอกว่า ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ เพราะเม่ือไม่มีอานาจค้น ย่อมไม่เข้าองค์ประกอบ ความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางฯลฯ
ข้อ 66 กรณีเจ้าหน้าท่ีตรวจพบการกระทาผิด ให้ประสานแจ้งสถานีแม่ข่าย เพื่อจัดส่งทนายความ ไปให้คาแนะนา และดาเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายต่อไป โดยสถานีแม่ข่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และ ค่าปรับที่เกิดขึ้นให้กับสถานีลูกข่าย ถ้าเป็นการกระทาผิดที่ไม่ได้มีเจตนา ยกเว้นเป็นการกระทาผิดโดยเจตนา หรือเป็นการกระทาผิดส่วนตัวที่ไม่ได้เก่ียวข้องกับการดาเนินงานออกอากาศกระจายเสียงวิทยุเสียงธรรม
ประกาศ ณ วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2563
(พระอาจารย์มนฑน์จิตต์เกษม ธัมมธโร) ปฏิบัติหน้าท่ีแทนประธานคณะกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมฯ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๐ )


กฎหมาย ประกาศ และข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศกระจายเสียงสถานีวิทยุเสียงธรรม
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๒๑ )


กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานีวิทยุเสียงธรรม
รัฐธรรมนูญ
พ.ร.บ. (พระราชบญั ญตั ิ) / ประกาศ คสช.
ประกาศ กสทช.
มติ กสทช. / ประกาศสานกั งาน กสทช.
ลาดับข้ันตามความสาคัญของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานีวิทยุเสียงธรรม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
ที่เกี่ยวข้องกับสถานีวิทยุได้แก่ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มาตรา 60 โดยมีเนื้อหาดังน้ี
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๒๒ )


พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498
 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
 พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถ่ีและกากับการประกอบ กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
 ฉบับที่ 14/2557 เรื่อง ห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (ประกาศ ณ วันท่ี 22 พ.ค. 2557)
 ฉบับที่ 18/2557 เร่ือง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ (ประกาศ ณ วันท่ี 22 พ.ค. 2557)
 ฉบับที่ 23/2557 เร่ือง การถ่ายทอดการออกอากาศสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบแอ นาล็อก และสถานีวิทยุกระจายเสียง (ประกาศ ณ วันท่ี 23 พ.ค. 2557)
 ฉบับที่32/2557 เร่ืองระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนท่ีไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งข้ึนตาม กฎหมายและสถานีวิทยุกระจายเสียงท่ีได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ (ประกาศ ณ วันที่ 24 พ.ค. 267)
 ฉบับท่ี 66/2557 เรื่อง การออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบ กิจการ (ประกาศ ณ วันที่ 14 มิ.ย. 2557)
 ฉบับที่ 79/2557 เรื่อง เงื่อนไขในการออกอากาศของสถานีวิทย กระจายเสียงที่ได้รับอนุญาต ทดลองประกอบกิจการ (ประกาศ ณ วันที่ 9 ก.ค. 2557)
ประกาศ กสทช.
 หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองฯ 2555
 หลักเกณฑ์การกากับดูแลฯ 2556 และ 2559
 หลักเกณฑ์การจัดทาผังรายการ 2556 - 2559
 หลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อ่ืนดาเนินการ 2556
 หลักเกณฑ์การทดสอบเครื่องฯ 2555
 หลักเกณฑ์การวัดแพร่แปลกปลอมฯ 2559
มติ กสทช. และประกาศสานักงาน
 การต้ังช่ือสถาน การเปล่ียนแปลงข้อมูล การทา MOU
 การเปลี่ยนแปลงประเภทกิจการ การขอยื่นคาขอรับการสนับสนุนวิทยุชุมชนที่มีคุณภาพ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๓ )


สรุปประเด็นรายละเอียดกฎหมายที่ควรทราบ
พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 (ภาคผนวก ก.)
หมวด 1 การประกอบกิจการ
 การประกอบกิจการต้องได้รับใบอนุญาต
 คุณสมบัติ
 สิทธิเฉพาะตัว (ประกอบกิจการด้วยตนเอง แบ่งเวลา ให้ผู้อ่ืนดาเนินรายการตามหลักเกณฑ์)
 การหารายได้
 การบริหารสถานี (ผู้อานวยการสถานีสัญชาติไทย) หมวด 2 รายการ
 สัดส่วนผังรายการ (ข่าวสารสารประโยชน์ 70 / 70 / 25)
 รายการเพ่ือกลุ่มผู้ชมบางประเภท
 เนื้อหาต้องห้าม
 บันทึกรายการไม่น้อยกว่า 30 วัน
หมวด 6 การกากับดูแล
 กสทช. / พนง. มีอานาจต่อไปนี้ เมื่อมีเหตุควรสงสัย
 เรียกให้ช้ีแจง/ส่งเอกสาร/หลักฐาน
 หนังสือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคา หรือส่งเอกสารหลักฐาน
 เข้าไปในอาคาร/สถานที่ประกอบการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หมวด 7 บทกาหนดโทษ โทษทางปกครอง
 ชั้น 1 ปรับ 50,000 บ.
 ช้ัน 2 ปรับ 50,000 - 500,000 บ. ไม่ทาผังให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ ของการประกอบ
กิจการที่ได้รับใบอนุญาต
 ไม่แจ้งเปลี่ยนผังรายการไม่แจ้งข่าวให้ประชาชนทราบเม่ือมีภัยพิบัติ/เหตุฉุกเฉินตามที่รัฐบาล/
หน่วยงานของรัฐร้องขอ
 ชั้น 3 ปรับ 500,000 - 5,0000,000 ไม่ออกอากาศรายการเพื่อคุ้มครองเด็ก และเยาวชน
ในช่วงเวลาที่กาหนด
 สถานีธุรกิจ โฆษณาเกินเวลา (12.30นาท/ี ชม เฉล่ียท้ังวัน 10นาที/ชม.)
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๒๔ )


โทษอาญา
 ม.66 ใช้คล่ืนโดยไม่ได้รับอนุญาต (5ปี/ปรับ 5,000,000)
 ม.67 โอนใบอนุญาต (8ปี/ ปรับ 8,000,000)
 ม.68 ลงโทษผู้ได้รับอนุญาตที่แพร่กระจาย คล่ืนรบกวนผู้ได้รับอนุญาตรายอื่น ( 3 ปี/ ปรับ
3,000,000)
 ม.69 ลงโทษผู้ใดที่กระทาให้เกิดการรบกวน คล่ืนความถ่ีผู้ได้รับอนุญาตรายอื่น ( 3 ปี / ปรับ
60,000)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 ฉบับที่ 14/2557 เรื่อง ห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (ประกาศ ณ วันที่ 22 พ.ค. 2557)
 ฉบับที่ 18/2557 เร่ือง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ (ประกาศ ณ วันที่ 22 พ.ค. 2557) เน้ือหาการออกอากาศ
บังคับใช้ : เจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ทุกประเภท พิธีกรและสื่อมวลชน ห้ามเชิญบุคคลหรือกลุ่ม บุคคล ที่มิได้ตารงตาแหน่งราชการในปัจจุบันทั้งในส่วนของชาราการ และชการ รวทั้งอดีดผู้ปฏิบัติงานในศาล และกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระ ให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็น ในลักษณะที่อาจ ก่อให้เกิดการขยายความขัดแย้ง บิดเบ่ือน และสร้งความสับสนให้กับสังคมรวมท้ังอาจนาไปสู่การใช้ความ รุนแรงโดยเด็ดขาด
ห้ามนาเสนอข้อมูลข่าวสาร
 ข้อความเท็จ หรือท่ีส่อไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดขังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
 ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ / ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกป่ินให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราขอาณาจักร / หมิ่นประมาทบุคคลอื่น
 การวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของ คสช. เจ้าหน้าที่ของ คสช. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง / การชักชวน ซ่องสุม ให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้าน
 บุคคลข้างต้น
 ข้อมูลเสียง ภาพ วีติทัน ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างการขู่จะประหุษร้ายหรือทา
ร้ายบุคคล อันนาไปสู่ความตื่นตระหนัก หวาดกลัวแก่ประชาชน ( หากผ่าฝืนจะถูกเรียกตัวมา ดาเนินคดีตามกฎหมายตลอตจนระงับการออกอากาศทันท่ี )
ฉบับที่ 23/2557 เรื่อง การถ่ายทอดการออกอากาศสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพ้ืนดิน ระบบแอนาล็อกและ สถานีวิทยุกระจายเสียง(ประกาศ ณ วันที่ 23 พ.ค. 2557)
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๕ )


ฉบับที่ 32/2557 เร่ือง ระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตาม กฎหมาย และสถานีวิทยุ ให้ระงับการออกอากาศชั่วคราวกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ( ประกาศ ณ วันที่ 24 พ.ค. 2557 )
การออกอากาศ
บังคับใช้ : สถานีโทรทัศน์ภาคพ้ืนดินระบบแอนาล็อกซึ่งได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ (ช่อง 5) (ช่อง NBT) (ช่อง 9) (ช่อง TPBS) (ช่อง 3) (ช่อง 7)
และบังคับใช้ : สถานีวิทยุกระจายเสียงของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐสถานี วิทยุกระจายเสียงท่ีได้รับอนุญาตสัญญาหรือสัมปทานจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอ่ืนของรัฐให้ ออกอากาศรายการประจาของสถานีได้ตามปกติและปฏิบัติตามประกาศคสช. 14/2557 และ 15/2557 การระงับการออกอากาศชั่วคราว
บังคับใช้ : สถานีวิทยทดลองประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาต ให้ระงับการออกอากาศชั่วคราวหากฝ่า ฝืนจะถูกดาเนินคดตีามกฎหมาย
ฉบับท่ี 66/2557 เง่ือนไขเรื่องการออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบ กิจการการ(ประกาศ ณ วันท่ี 14 มิ.ย. 2557)
ฉบับท่ี 79/2557เร่ืองเงื่อนไขในการออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบ กิจการ (ประกาศ ณ วันท่ี 9 ก.ค. 2557)
การกลับมาออกอากาศ
บังคับใช้ : สถานีวิทยทดลองประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศรายการได้ตามปกติ เมื่อได้ ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กาหนดใน พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรฯ พร.บ.ประกอบฯ พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม 2498
เงื่อนไข
 เครื่องส่งจะต้องผ่านการตรวจสอบตามมาฐานทางเทคนิคที่กาหนด
 การใช้คลื่นความถ่ีและกาลังส่งต้องไม่ก่อให้เกิดการรบกวนกิจการต่างๆ
 เนื้อหาการออกอากาศไม่ขัดต่อกฎหมาย
 ต้องมาขอรับใบอนุญาตตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498 ภายในเวลาท่ี กสทช. กาหนดมติท่ีประชุม กสท.
คร้ังท่ี ๓๒/๒๕๕๗ วับที่ 4 ส.ค. 2557 กาหนดให้ผู้ทดลองฯ ท่ีใช้เคร่ืองส่งที่ผ่านการตรวจสอบมาตราฐาน ยื่นคาขอรับใบอนุญาตให้ทา นา เข้า มี ใช้ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมและต้ังสถานีวิทยุคมนาคมภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่สานักงาน กสทช. ประกาศรายชื่อให้ออกอากาศได้ามปกติมิฉะนั้นจะถูกพิกถอนใบอนุญาต / ยุติการออกอากาศ
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๒๖ )


ประกาศ กสทช. หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ภาคผนวก ก.) เงื่อนไขการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
ด้านคุณสมบัติ
 มีคุณสมบัติครบถ้วนตลอดระยะเวลาของการทดลองประกอบกิจการ (ภาคผนวก ก – ค ของประกาศ)
 ทดลองประกอบกิจการด้วยตนเองตลอดระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ( ม.67 โอนใบอนุญาต จาคุกไม่
เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3,000,000 บาท)
ด้านการบริหารจัดการสถานี
 แสดงป้ายซื่อสถานีให้สาธารณชนเห็น ณ ที่ตั้งอย่างซัดเจน
 แต่งตั้งผู้อานวยการสถานี (สัญชาติไทย) เพ่ือควบคุมดูแลการออกอากาศ
ด้านผังรายการและเนื้อหารายการ
 บันทึกรายการที่ได้ออกอากาศ และเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 30 วัน
 จัดส่งผังรายการภายใน 3 เดือนนับตั้งแตวันที่ได้รับอนุญาต
 แจ้งเปลี่ยนผังรายการให้คณะกรรมการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน ( ปรับทางปกครองชั้น 2
50,000 – 500,000 บาท )
 ประกาศช่ือสถานี คล่ืนความถี่ ประเภทกิจการ ชื่อผู้ดาเนินรายการ และหมายเลขโทรศัพท์ (ภาษา ราชการ) ในทุกช่วงตน้ ชั่วโมงและทุก 30 นาทีถัดไปท่ีดาเนินการออกอากาศ
แจ้งขา่วให้ประชาชนทราบเมื่อมีภัยพิบัติ/เหตุฉุกเฉินตามที่รัฐบาล/หนว่ยงานของรัฐร้องขอ
 กรณีเป็นสถานีประเภทกิจการทางธุรกิจ สามารถแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดาเนินรายการได้ ไม่น้อยกว่าร้อย
ละ 10 แต่ไม่เกินร้อยละ 40 ( ปรับทางปกครองชั้น 2 50,000 – 500,000 บาท )
ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาไม่ขัดต่อกฎหมาย ม. 37 โดยห้ามไม่ให้มีเนื้อหาดังน้ี
 ความเส่ือมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพ
 ล้มล้างการปกครอง
 กระทบความมั่นคงของรัฐ
 กระทบความสงบเรียบร้อย / ศีลธรรมอันดี
 ลามก อนาจาร
( ปรับทางปกครองชั้น 2 50,000 – 500,000 บาท )
เน้ือหารายการนอกจากไม่ขัดมาตรา 37 แล้ว ยังต้องไม่ขัดต่อประกาศ คสช. (ฉบับท่ี 14/2557 ฉบับท่ี 18/2557 และฉบับที่ 23/2557) กฎหมายด้านอาหารและยา และกฎหมายด้านคุ้มครองผู้บริโภค
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๗ )


ด้านการหารายได้ กิจการบริการสาธารณะ
 ห้ามหารายได้จากการ โฆษณา แต่สามารถเผยแพร่ ภาพข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานภาครัฐ หรือ ภาพลักษณ์ขององค์กรได้ โดยไม่มุ่งเน้นผลทางพาณิชย์
กิจการบริการชุมชน
 ห้ามหารายได้จากการโฆษณา แต่สามารถรับบริจาค หรืออุดหนุนสถานีได้
กิจการทางธุรกิจ
 ให้โฆษณาหรือให้บริการทางธุรกิจได้ไมเ่กิน 12 นาทีคร่ึง/ช่ัวโมง เฉลี่ยทั้งวันไม่เกิน 10 นาท/ี ช่ัวโมง
 หารายได้จากการจัดเก็บค่าสมาชิก หรือโดยวิธีการอื่นใด
( โทษปรับทางปกครองช้ัน 3 500,000 – 5,000,000 บาท )
ด้านเทคนิค
 มิให้แพร่กระจายคลื่นความถี่ที่ก่อให้เกิดการรบกวนผู้ที่ได้รับอนุญาตรายอื่น
 ม.68 ลงโทษผู้ได้รับอนุญาต ที่แพร่กระจายคลื่นรบกวนผู้ได้รับอนุญาตรายอื่น (จาคุกไม่เกิน 3 ปี
หรือปรับไม่เกิน 3,000,000 บาท)
 ม.69 ลงโทษผู้ใด ที่แพร่กระจายคลื่นรบกวนผู้ได้รับอนุญาตรายอื่น (จาคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่
เกิน 60,000 บาท)
 ได้ปรับปรุง แก้ไข และระงับการแพ่รกระจายคลื่นความถ่ีท่ีก่อให้เกิดการรบกวนโดยทันที เมื่อได้รับ
แจ้งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้คลื่นความถ่ีตามภาคผนวก ค ครบถ้วนทุก
ประการ
 ได้ปฏิบัติตามประกาศ คสช. ฉบับที่ ๗๙/๒๕๕๗ เรื่อง เงื่อนไขในการออกอากาศของสถานี
วิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
 ได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วย การควบคุมอาคารโดยครบถ้วนทุกประการ
 ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่มีอานาจตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ ( กรณีสถานีต้ังอยู่ใน
บริเวณเขตปลอดภัยการเดินอากาศ )
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๘ )


การต่ออายุการทดลองประกอบกิจการ
ตามหลักเกณฑก์ารกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง(ฉบับที่2) ระยะเวลา
ย่ืนต่ออายุล่วงหน้า ก่อนวันท่ีอายุใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง ไม่น้อยกว่า 120 วัน สามารถออกอากาศได้ ต่อไปในระหว่างการพิจารณา
เอกสารท่ีต้องใช้
1. แบบรับรองการปฏิบัติตามเงื่อนไขการทดลองประกอบกิจการ (แบบใหม่)
2. ผังรายการประจาปีปฏิทิน
3. รายงานการตรวจเคํรอ่ งส่ง (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
4. รายงานการวัดการแพร่แปลกปลอม (อายุไม่เกิน 6 เดือน)
5. แบบรายงานการแผ่คลื่นแมเ่หล็กไฟฟ้า (ภาคผนวก จ)
6. หนังสือมอบอานาจติดอากรแสตมป์ 30 บาท พร้อมเอกสารผู้มอบอานาจ และผู้รับมอบ
อานาจ (ถ้ามี)
ค่าดาเนินการ ชาระให้ครบถ้วนในวันท่ีย่ืนต่ออายุการทดลองประกอบกิจการ  กิจการสาธารณะ ค่าดาเนินการ 2,000 บาท
 กิจการชุมชน ค่าดาเนินการ 500 บาท
 กิจการทางธุรกิจ ค่าดาเนินการ 1 สถานี 10,000 บาท มากกว่า 1 สถานี ( อัตราก้าวหน้า ตาม
ตารางในภาคผนวก ข )
ช่องทาง / วิธีการ นาส่งด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ณ สานักงาน กสทช. (ส่วนกลาง) หรือช่องทางอ่ืนพิ่มเติม
การต่ออายุการทดลองประกอบกิจการภายหลังใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดลง
ตามหลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ฉบับที่ ๒)
 สิทธิการออกอากาศ สามารถออกอากาศได้จนถึงวันท่ีใบอนุญาตเดิมหมดอายุ - ฝ่าฝืน - ระวางโทษ จาคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท หรือทั้งจาท้ังปรับ
 ผลทางกฎหมายแตกต่างจากการต่ออายุในกรณีปกติ การเข้าสู่กระบวนการทดลองประกอบกิจการ
ระยะเวลาดาเนินการ
 ภายใน 6 เดือน นับแต่ใบอนุญาตเดิมสิ้นสุด
 หากไม่ดาเนินการ สิทธิในการยื่นคาขอทดลองประกอบ กิจการตามข้อ 7 ของประกาศทดลอง สิ้นสุด
ลงทันท่ี
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๒๙ )


เอกสารที่ตอ้ งใช้
1. คาขอทดลองประกอบกิจการ
2. เอกสารประกอบคาขอทดลองประกอบกิจการ
3. ผังรายการประจาปีปฏิทิน
4. รายงานการตรวจเคร่ืองส่ง
5. รายงานการวัดการแพ่รแปลกปลอม
เงินเพิ่ม
 ร้อยละ 20 ต่อเดือน ของเงินค่าดาเนินการ
 คิดจากวันท่ีใบอนุญาตเดิมสิ้นสุดจนถึง วันที่ยื่นคาขอรับใบอนุญาตใหม่ โดยเศษของเดือนให้นับเป็น หนึ่งเดือน
ค่าดาเนินการพิจารณาต๋ออายุการทดลองประกอบกิจการ ค่าดาเนินการพิจารณาต่ออายุการทดลองประกอบกิจการของผู้ทดลองประกอบกิจการ ในแต่ละ
ประเภทกิจการจะมีอัตราที่แตกต่างกันตามท่ีกาหนดในภาคผนวก ข แนบท้ายประกาศ กสทช. หลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ฉบับที่ 2) ดังนี้
อัตราคงที่
1. กิจการบริการสาธารณะ 2,000 บาท
2. กิจการบริการชุมชน 500 บาท อัตราก้าวหน้า
เรื่อง
กิจการทางธุรกิจ ตามตารางแนบท้ายภาคผนวก ข ค่าดาเนินการของนิติบุคคล 1 ราย พิจารณาจาก จานวนสถานีท้ังหมดท่ีถือครอง หมายถึง นิติบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ประเภทกิจการ บริการธุรกิจ และ/หรือ นิติบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ประเภทกิจการบริการธุรกิจ ที่มีผู้ ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนรายใหญ่เป็นรายเดียวกันกับนิติบุคคลผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ประเภท กิจการบริการธุรกิจรายอื่น
ช่องทางการยื่นต่อออายุใบอนุญาต
● ด้วยตนเอง ณ อาคาร EXIM BANK ชั้น 21 ทางไปรษณีย์ หรือ ณ สานักงาน กสทช. ภาค / เขต ทั่ว
ประเทศ
● การชาระค่าธรรมเนียมพิจารณาคาขอณสานักงานกสทช.ส่วนกลางหรือณสานักงานกสทช.ภาค/
เขต ทั่วประเทศ โดยโอนเงินผ่านธนาคาร
● การตรวจสอบสถานะการพิจารณา สามารถตรวจสอบได้หลายช่องทาง ผ่านเว็บไซต์ www.nbtc.go.th,
ณ อาคาร EXIM BANK ชั้น 21 หรือ ณ สานักงาน กสทช. ภาค / เขต ทั่วประเทศ
หมายเหตุ สามารถตรวจสอบช่วงเวลาที่ต้องต่ออายุด้วยตนเองได้ท่ีเว็บไซต์ https://broadcast.nbtc.go.th/radio/radiorenew
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๐ )


กรณียังเตรียมเอกสารไม่ครบสามารถย่ืนก่อนได้ แต่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน ภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ ยกเว้นมอบอานาจไม่ถูกต้อง เช่น เซ็นไม่ครบ กรอก ไม่ครบ ไม่ปิดอากรแสตมป์ เป็นต้น หรือสภาพนิติบุคคลสิ้นสุด เช่น เลิก ร้าง ชาระบัญชีเสร็จสิ้น เจ้าหน้าท่ี ปฏิเสธการรับเอกสารได้
หากยื่นเอกสารเพ่ิมเติมหรือแก้ไขข้อมูลไม่ทันภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับแจ้ง พนักงานเจ้าหน้าที่จะ ส่งคืนเอกสารท้ังหมด และถอื ว่าไม่ได้มีการย่ืนเอกสารดังกล่าวมาก่อน
 ก่อนใบอนุญาตหมด จะต้องยื่นเอกสารและชาระค่าบริการใหม่ทั้งหมด
 หลังอายุใบอนุญาตหมด จะต้องยื่นเอกสารและชาระค่าบริการพร้อมท้ังเงินเพิ่ม (ถ้ามี) ใหม่ท้ังหมด
เตรียมเงินมาไม่พอจะยื่นเอกสารไว้ก่อนได้หรือไม่ ?
 ไม่ได้เนื่องจากประกาศฯ กาหนดให้ผู้ทดลองประกอบกิจการจะต้องชาระค่าดาเนินการและเงินเพ่ิม
(ถ้ามี) ให้ครบถ้วนภายในวันที่ยื่นคาขอ ทั้งนี้สามารถร้องขอให้เจ้าหน้าท่ีตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นให้
ได้ แต่จะไม่ถือว่าได้ยื่นคาขอในวันดังกล่าว
 การส่งเอกสารทางไปรษณีย์ แต่ไม่ได้รับค่าดาเนินการหรือเงินเพิ่มให้ครบถ้วน พนักงานเจ้าหน้าที่จะ
ส่งคืนเอกสารทั้งหมด และถือว่าไม่ได้มีการยื่นเอกสารดังกล่าวมาก่อน
 ก่อนอายุใบอนุญาตหมด จะต้องย่ืนเอกสารและค่าดาเนินการใหม่ทั้งหมด
 หลังอายุใบอนุญาตหมด จะต้องยื่นเอกสารและค่าดาเนินการพร้อมทั้งเงินเพ่ิม (ถ้าม)ี ใหม่ทั้งหมด
การยื่นเอกสารหลังใบอนุญาตหมดอายุต่างจากการยื่นเอกสารก่อนใบอนุญาตหมดอายุอย่างไร
 ต้องชาระค่าดาเนินการ และ "เงินเพิ่ม"
 นอกจากต้องยื่นชุดเอกสารหมือนการต่ออายุตามปกติแล้ว จะต้องยื่นชุดคาขอใหม่ โดยมีเอกสารที่
ต้องยื่นเพิ่มเติม ดังนี้
1. แบบคาขอทดลองประกอบกจิ การ (ปส.01)
2. เอกสารแสดงที่ตั้งสถานี สานาทะเบียนบ้านทตี่ ้ังสถานี และหรือเสาอากาศ แผนท่ีตั้งของสถานีและ สายอากาศ ภาพถ่ายสถานี สายอากาศ เครื่องส่ง สัญญาเช่าหรือหลักฐานที่แสดงการยินยอมให้ใช้ พื้นที่
3. ผังโครงสร้างการบริหารงานของสถานีชื่อผู้อานวยการสถานี เจ้าหน้าที่รายการ เจ้าหน้าที่เทคนิค เจ้าหน้าท่ีธุรการ และกรรมการบริหารสถานี (ถ้ามี)
4. ยื่นแบบฟอร์มขอรับหนังสือ เพ่ือนาเครื่องส่งเข้ารับการตวจสอบมาตรฐานทางเทคนิค
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๑ )


5. ย่ืนคาร้องขอออกอากาศช่ัวคราว เพ่ือทาการตรวจวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานีทดลอง ประกอบกิจการ
การคานวณเงินเพิ่ม
การยื่นคาขอภายหลังอายุใบอนุญาตส้ินสุดลง จะต้องชาระค่าดาเนินการ และเงินเพิ่มในอัตราส่วน ร้อยละ 20 ต่อเดือนของจานวนค่าดาเนินการ นับตั้งแต่วันที่อายุใบอนญาตสิ้นสุดลงจนถึงวันท่ีย่ืน โดยเศษ ของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน
 ชุมชน 500x20 = 100 บาท / เดือน
 สาธารณะ 2,000x20 = 400 บาท / เดือน
 ธุรกิจ 10,000x20 = 2,000 บาท / เดือน
การขอรับหนังสือเพ่ือนาเครื่องส่งเข้ารับการตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิค
● หากใบอนุญาตหมดอายุห้องปฏิบัติการทดสอบหรือLABจะไม่สามารถตรวจเครื่องส่งให้ได้
● สามารถขอรับหนังสือส่งตัวได้ในวันที่มายื่นต่ออายุ และรอรับหนังสือส่งตัวได้ภายในวันเดียวกัน
● หากไม่ได้ย่ืนแบบฟอร์มขอส่งตัวในวันท่ีมาต่ออายุ ต้องมาดาเนินการภายในห้วงเวลาที่เจ้าหน้าที่แจ้ง
ให้แก้ไขเพ่ิมเติมเอกสาร (ภายใน 30 วันนับแต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่)
● หากไม่ตาเนินการภายในเวลาดังกล่าวพนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งคืนเอกสารทั้งหมด และถือว่าไม่ใด้มี
การยื่นเอกสารดังกล่าวมาก่อน การยื่นคาร้องขอออกอากาศช่ัวคราวเพ่ือทาการตรวจวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานีทดลองประกอบกิจการ
 หากใบอนุญาตหมดอายุ ผู้ทดสอบหรือ LAB จะไม่สามารถตรวจวัดแพร่ฯ ให้ได้ เนื่องจากสถานีต้อง ระงับการออกอากาศ
 ต้องมาดาเนินการย่ืนคาร้องขขอออกอากาศช่ัวคราว ภายในห้วงเวลาที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้แก้ไขเพ่ิมเติม เอกสาร ( ภายใน 30 วันนับแต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ )
 การยื่นคาร้องต้องเป็นไปตามงื่อนไขที่ กสทช. กาหนด
 หากไม่ดาเนินการภายในเวลาดังกล่าวพนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งคืนเอกสารทั้งหมดและถือว่าไม่ใด้มีการ
ยื่นเอกสารดังกล่าวมาก่อน
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๒ )


เง่ือนไขในการยื่นคาร้องขอออกอากาศชั่วคราวเพื่อทาการตรวจวัดการแพร่แปลกปลอม
1. ได้ยื่นต่ออายุการทดลองประกอบกิจการหรือย่ืนคาขอทดลองประกอบกิจการกับสานักงาน
2. ได้ทาบันทึกข้อตกลง(MOU)และดาเนินการตามประกาศคสช.ฉบับท่ี79/2557เรื่องเง่ือนไขใน
การออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ เรียบร้อยแล้ว
3. ไม่อยู่ระหว่างการพิจารณาคาร้องขอคัดค้านพิกัดท่ีตั้งสถาน่ี หรือคาร้องขอย้ายที่ตั้งสถานีและ
สายอากาศ
ข้ันตอนการยื่นคาร้องขอออกอากาศชั่วคราว
1. ยื่นคาขอรับการวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานึกับผู้ทดสอบ โดยให้นัดทาการตรวจวัดแพร่ แปลกปลอมลว่ งหน้าไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนวันย่ืนคาร้องขอออกอากาศชั่วคราวกับสานักงาน กสทช.
2. ยื่นคาร้องขอออกอากาศช่ัวคราวกับสานักงาน กสทช. ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วันทาการ ก่อนวันนัด
ทาการตรวจวัดแพร่แปลกปลอม โดยอย่างน้อยต้องแนบเอกสารหลักฐาน ดังนี้
2.1 สาเนาคาขอรับการวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานี ซึ่งระบุวันเวลานัดทาการตรจวัด แพร่แปลกปลอมกับผู้ทดสอบแล้ว
2.2 สาเนาหนังสือแจ้งผลการพิจารณาคาร้อง (กรณีขอย้ายท่ีตั้งสายอากาศ / ขอ เปล่ียนแปลงคลื่นความถ่ี หรือผลการคัดค้านพิกัดที่ต้ัง)
สานักงาน กสทช. จะแจ้งรายชื่อสถานี และระยะเวลาที่สามารถออกอากาศช่ัวคราวได้ผ่านทาง
เว็บไซต์ https://broadcast.nbtc.go.th/aired temp/ สถานีต้องติดต่อขอรับหนังสือแจ้งการออกอากาศ ช่ัวคราว สาหรับใช้เป็นหลักฐานแสตงต่อผู้ทดสอบและใช้ประกอบการนาส่งสาเนารายงานผลการวัตการแพร่ แปลกปลอมต่อสนักงาน กสทช. ภายในระยะเวลาท่ีกาหนตต่อไป
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๓ )


การเปล่ียนแปลงข้อมูลของผู้ทดลองประกอบกิจการ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการ กสทช. ทราบ
รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง
 ชื่อนิติบุคคล/กลุ่มบุคคล -
 ผู้มีอานาจกระทาแทน -
 ผู้ถือหุ้น/หุ้นส่วน เปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นไดไ้ ม่เกิน 50% และสถานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่คงเดิม  ที่ตั้งนิติบุคคล/กลุ่มคน -
 ตัวแทน/ผู้รับมอบ -
วิธีการแจ้ง ให้แจ้งภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เปล่ียนแปลง
การเปล่ียนแปลงข้อมูลที่ต้องได้รับการอนุมัติ
รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง
 ซ่ือสถานี ถ้อยคาเหมาะสมกับประเภทกิจการ/ไม่ขัดต่อศีลธรรมและกฏหมาย
 ความสูง / จานวน/ประเภทสายอากาศ  กาลังส่ง
 ประเภทการทดลอง
 ความถ/่ี ที่ตั้งสถาน/ี ท่ีต้ังสายอากาศ
1.)
ตามหลักเกณฑ์ในภาคผนวก ค ตามหลักเกณฑ์ในภาคผนวก ค
ตามหลักเกณฑ์ท่ี กสทช. กาหนด มีเหตุจาเป็น
 ปัญหาหารรบกวนคล่ืนความถี่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้  ไม่สามารถปฎิบัติตามกฎหมาย ภาคผนวก ค ได้  เหตุผลทางด้านกฎหมายกับภูมิศาสตร์
2.) ย้ายได้ไม่เกิน10กม.(อาจมีการเปลี่ยนแปลง) วิธีการแจ้ง ยื่นขออนุมัติก่อนเปลี่ยนแปลง และต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๓๔ )


หลักเกณฑ์ป้องกันการรบกวนการใช้คลื่นความถี่ในกิจการวิทยุทางการบิน
ผลของการไม่ปฏิบัติตามเง่ือนไขการใช้คลื่นความถี่ในภาคผนวก ค มาตรฐานเทคนิคสาหรับผู้ทดลอง ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
ผู้ทดลองประกอบกิจการ 1.จะต้องระงับการออกอากาศตามคาส่ังของพนักงานเจ้าหน้าท่ี(ข้อ33ของประกาศกากับฯ(ฉบบัที่2)
2. ไม่สามารถยื่นต่ออายุการทดลองประกอบกิจการได้ (ข้อ 9 ของประกาศกากับฯ (ฉบับที่ 2) หมายเหตุ
 การทดสอบมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง ให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เร่ือง หลักเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานทางเทคนิคของเครื่องส่งสถานีทดลองประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง
 การวัดการแพร่แปลกปลอมของสถานี ให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การวัดการ แพร่แปลกปลอมของสถานีทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
หลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
กรณีฝ่าฝืนเงื่อนไขการทดลองประกอบกิจการ
 บังคบัใช้มาตรการบังคับทางปกครองข้อ31,32โดยมีมาตรการจากเบาไปหาหนักดังนี้ o ออกคาสั่งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร
o ตักเตือนให้แก้ไขปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้อง
o สั่งให้ระงับการกระทาที่ฝ่าฝืน
o กาหนดค่าปรับทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
 พักใช้ หรือเพิกถอนการทดลองประกอบกิจการ กรณี
o ฝ่าฝืนทาผิดเงื่อนไขนั้นซ้าอีก
o เสียหายร้ายแรงต่อประโยชน์สาธารณะ ในประเด็นการหารายได้กิจการบางประเภท คุณสมบัติไม่ถูกต้องหรือไมไ่ดป้ระกอบกิจการด้วยตนเอง
 ไม่ต่ออายุใบอนุญาต หรือต่ออายุโดยมีเง่ือนไขบางประการ
 รับโทษทางปกครอง อาญา กรณีกฎหมายกาหนด
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๕ )


รูปแบบหนังสืออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
ด้านในของปกหน้าระเบียบการ
1.
2. 3. 4.
5.
โปรดนาหนังสืออนุญาตพร้อมบัตรประจาตัวประชาชน หรือเอกสารอื่นที่ทางราชการออกให้ มาแสดง ตนทุกครั้งที่ติดต่อกับสานักงาน กสทช.
หนังสืออนุญาตถือเป็นสิทธิเฉพาะตัวจะโอนให้แก่กันไม่ได้
โปรตเก็บรักษาหนังสืออนุญาดไว้ประจา ณ สถานีเพื่อแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อมีการร้องขอ
หนังสืออนุญาตถือเป็นเอกสารราชการ ห้ามแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงข้อความหรือส่วนใดๆ ทั้งสิ้น
หากหนังสืออนุญาตชารุด หรือสูญหายโปรตติดต่อสานักงาน กสทช. ทันที กรณีหนังสืออนุญาต ชารุดหรือสูญหายหากผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะให้จัดทาหนังสืออนุญาตขึ้นใหม่แทนเล่มเดิมจะต้อง ชาระค่าบริการจัดทาหนังสืออนุญาตในอัตรา 500 บาทต่อเล่ม
บทกาหนดโทษ
ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทาผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับต้ังแต่สองหม่ืนบาทถึงสองแสนบาทตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 266 และมาตรา 268
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๖ )


ปกหลังหนังสืออนุญาต หน้าสรุปข้อมูลสถานีวิทยุ (หน้า 1) แบ่งประเภทกิจการออกเป็น 3 ประเภท
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๓๗ )


หมวดท่ี 1 : แสดงข้อมูลการต่ออายุสาหรับจัดพิมพ์ข้อมูลการต่ออายุใบอนุญาตฯ (หน้า 2-3)
หมวดที่ 2 : บริหารสถานี
หน้ารายการจัดการบริหารสถานี (หน้า 4) สาหรับจัดพิมพ์สรุปรายละเอียดจัดการบริหารสถานี
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๘ )


หมวดท่ี 3 : ข้อมูลทางเทคนิค
หน้ารายการข้อมูลทางเทคนิค (หน้า 8) สาหรับจัดพิมพ์สรุปรายละเอียดข้อมูลทางเทคนิค
หมวดที่ 4 : วิทยุคมนาคม
หน้ารายการข้อมูลใบอนุญาตวิทยุคมนาคม (หน้า 12) สาหรับจัดพิมพ์สรุปรายละเอียดข้อมูล ใบอนุญาตวิทยุคมนาคม
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๓๙ )


การขอรับการปรับปรุงข้อมูลหนังสืออนุญาต
1. หนังสือแจ้งสิทธิการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและหรือหนังสืออนุญาตให้ เปลี่ยนแปลงข้อมูลการทดลองประกอกิจการ
2. นาหนังสือตามข้อ 1 พร้อมเอกสารหลักฐานเข้ารับการปรับปรุงข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือ
ปัญหาเกี่ยวกับการออกอากาศเน้ือหารายการและผังรายการ
ผู้ทดลองประกอบกิจการฯ ประเภทสาธารณะมีการออกอากาศโฆษณาเกินกว่าการการโฆษณาเชิง ภาพลักษณ์
แนวทางการกากับดูแลผู้ทดลองประกอบกิจการฯ ประเภทสาธารณะ และประเภทชุมชนกรณีมีการ ออกอากาศโฆษณา (มติที่ประชุม กสท. คร้ังที่ 39/2558 เมื่อวันท่ี 23 พฤศจิกายน 2558)
1. คาส่ังเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรให้แก้ไขปรับปรุงการออกอากาศ
2. หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 1 ให้มีคาสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา ๓๐ วัน
3. หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 2 ให้มีคาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
แนวทางการพิจารณาการพักหรือหยุดการให้บริการชั่วคราวของผู้ทดลองประกอบกิจการ
ตามประกาศสานักงาน กสทช. วิทยุกระจายเสียง เรื่องแนวทางการพิจารณาการพักหรือหยุดการ ให้บริการชั่วคราวของผู้ทดลองประกอบกิจการ (มติที่ประชุมกสท.ครั้งที่19/2561เมื่อวันท่ี10ตุลาคม 2561 )
1. การหยุดให้บริการต้องเกิดจากเหตุสุดวิสัยหรือความจาเป็น ได้แก่
 การพัฒนาคุณภาพการให้บริการให้ดีข้ึน เช่น พัฒนาคุณภาพทางเทคนิค คุณภาพเสียง พัฒนาเนื้อหารายการให้มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับบริการ
 เหตุสุดวิสัยท่ีส่งผลให้ไม่สามารถให้บริการได้
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๐ )


2. การหยุดให้บริการต้องไม่กระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
3. ให้หยุดบริการได้คราวละไม่เกิน 15 วัน
4. ให้แจ้งเหตุผลความจาเป็น และระบุระยะเวลาเริ่มต้น-สิ้นสุดการหยุดให้บริการล่วงหน้า 15 วัน กรณีเหตุสุดวิสัยที่มิอาจคาดหมายให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรทันทีที่สามารถกระทาได้
5. ให้ระบุแนวทางการแก้ปัญหาที่ทาให้ต้องหยุดให้บริการ
6. ต้องจัดให้มีมาตการเยียวยาผู้รับบริการในช่วงท่ีหยุดให้บริการ
7. ให้แจ้งแก่สานักงาน กสทช. เพื่อทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 15 วันนับต้ังแต่วันท่ีเริ่ม กลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๑ )


การเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ของผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง ทมี่ าหลักเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงข้อมูล
 พ.ศ.2556 ประกาศ กสทช. เร่ืองหลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ.2556 ข้อ 10 กาหนดให้การดาเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลใดๆ เก่ียวกับสถานีวิทยุท่ีได้รับ อนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามประกาศ กสทช. เร่ืองหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลอง ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ.2555 ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการก่อน
 พ.ศ.2557 ท่ีประชุม กสท. ครั้งที่ 9/2557 เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2557 ได้มีมติให้สานักงาน กสทช. นาเสนอรายละเอียดหลักการแนวปฏิบัติเงื่อนไขการขอใบอนุญาต ให้เปล่ียนแปลงข้อมูลผู้ประกอบ กิจการตามข้อ 10 ของประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการ กระจายเสียงพ.ศ.2556ตอ่ กสท.เพื่อพิจารณาต่อไป
 พ.ศ.2557 ที่ประชุม กสท. ครั้งที่ 29/2557 2557 เมื่อวันทร์ท่ี 7 กรกฎาคม 2557 ได้มีมติ เห็นชอบแนวทางการพิจารณาคาร้องขอเปล่ียนแปลงข้อมูลของสถานีวิทยุกระจายเสียงท่ี ได้รับอนุญาต ทดลองประกอบกิจการ ตามข้อ 10 แห่งประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลอง ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ.2556
 พ.ศ.2558 ที่ประชุม กสท. ครั้งท่ี 9/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มีนาค 2558 ให้สานักงาน กสทช. แจ้งสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการ ว่าในกรณีมีเหตุจาเป็นต้องขอ เปลี่ยนแปลงที่ตั้งหรือขอเปลี่ยนแปลงความถี่ ให้ดาเนินการยื่นคาร้องขอเปลี่ยนแปลงต่อ กสท. ภายใน วันที่ 1 ตุลาคม 2558 หากพ้นกาหนตระยะเวลาดังกล่าว กสท. จะไม่พิจารณาอนุญาตให้มีการ เปล่ียนแปลง เว้นแต่กรณีสุดวิสัย
 พ.ศ.2558 ที่ประชุม กสท. ครั้งท่ี 19/2558 เม่ือวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2558 ได้มีมติเห็นชอบ หลักการกรณีการย้ายท่ีตั้งสถานีของสถานีท่ีได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ต้องมี ระยะทางระหว่าง 10 กิโลเมตรทางอากาศ เว้นแต่ในการขอย้ายท่ีตั้งสถานีวิหยุกระจายเสียงฯ กรณีมี ข้อจากัดทางภูมิศาสตร์ หรือข้อจากัดทางกฎระเบียบอื่นใดท่ีเก่ียวข้อง
 พ.ศ.2559 ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ. 2559 (ฉบับท่ี 2) ข้อกาหนดหลักเกณฑ์และแนวทางกรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ดังนี้
○ คาร้องขอเปล่ียนแปลงชื่อสถานี ความสูง จาพวกหรือประเภทของสายอากาศตามข้อมูลมาตรฐาน ทางเทคนิคที่ได้ยื่นต่อคณะกรรมการเพ่ิมหรือลดกาลังส่งออกอากาศ ประเภทการทดลองประกอบ กิจการ ตามที่คณะกรรมการกาหนด และกรณีอ่ืนใดที่กระทบต่อสิทธิในการทดลองประกอบ กิจการตามที่คณะกรรมการกาหนดผู้ทดลองประกอบกิจการ ทั้งนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวม รายละเอียดในการดาเนินการเอกสารท่ีเก่ียวข้องพร้อมทั้งจัดทารายงานความเห็นเสนอต่อ คณะกรรมการพิจารณา ภายในสิบวัน
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๒ )


○ กาหนดให้การเปล่ียนแปลงความถ่ีออกอากาศ ที่ต้ังสถานี ที่ตั้งเครื่องส่ง หรือที่ต้ังเสาอากาศ จะ กระทาไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจาเป็นทางด้านการรบกวนคลื่นความถ่ี ด้านภูมิศาสตร์ หรือตาม กฎหมายอื่นท่ีเกี่ยวข้อง โดยจะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ทดลองประกอบกิจการไม่สามารถ แก้ไขปัญหาการรบกวนคลื่นความถี่ หรือปรับปรุงมาตรฐานเทคนิคให้เป็นไปตามภาคผนวก ค แนบท้ายประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการ (ฉบับท่ี 2) ท้ังน้ีการเปล่ียนแปลงที่ตั้งสถานี ที่ตั้งเคร่ืองส่ง หรือที่ตั้งสายอากาศ จะต้องมีระยะทางระหว่าง ที่ตั้งที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการครั้งแรก และท่ีตั้งใหม่ไม่เกินสิบกิโลเมตรทางอากาศ
 พ.ศ.2560 ที่ประชุม กสท. คร้ังท่ี 15/2560 เมื่อวันจันทร์ท่ี 5 มิถุนายน 2560 ได้มีมติเห็นชอบแนว ทางการพิจารณาการขอเปลี่ยนแปลงท่ีต้ัง หรือขอเปล่ียนแปลงความถี่ของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับ อนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงโดยกาหนดแนวทางการพิจารณา เฉพาะเหตุจาเป็น ทางด้านการรบกวนคลื่นความถี่ ด้านภูมิศาสตร์ หรือตามกฎหมายอื่นท่ีเก่ียวข้องโดยจะต้องทาการ ตรวจสอบเหตุการณ์เปล่ียนแปลงคลื่นความถ่ี และที่ตั้งสถานี สภาพปัญหาการรบกวนคล่ืนความถี่ ผลการ แก้ไขปัญหาการรบกวนคล่ืนความถ่ี สิทธิในการใช้สถานท่ีต้ังสถานี ข้อปฏิบัติทางเทคนิคของผู้ทดลอง ประกอบกิจการกระจายเสียง
การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเรื่อง หลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ.๒๕๕๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดย ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การกากับดูแลการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง (ฉบับท่ี 2) ข้อ 10 กาหนดหลักเกณฑ์ และแนวทางกรณีทจี่ ะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล โดยกาหนดให้การเปลี่ยนแปลงความถ่ี ออกอากาศ ท่ีตั้งสถานี ที่ตั้งเคร่ืองส่ง หรือท่ีต้ังสายอากาศ จะกระทาไม่ได้เว้นแต่มีเหตุจาเป็นทางด้านการ รบกวนคลื่น ความจาเป็นด้านภูมิศาสตร์ หรือตามกฎหมายอื่นที่เก่ียวข้อง โดยจะต้องปรากฎข้อเท็จจริงว่าผู้ ทดลองประกอบกิจการไม่สามารถแก้ไขปัญหาการรบกวนคล่ืนความถี่ หรือปรับปรุงมาตรฐานเทคนิคให้เป็นไป ตามภาคผนวก ค แนบท้ายประกาศ ทั้งนี้การเปล่ียนแปลงที่ตั้งสถาน ที่ตั้งเครื่องส่ง หรือที่ต้ังสายอากาศ จะต้องมีระยะทางระหว่างที่ตั้งที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการครั้งแรกและที่ตั้งใหม่ไม่เกินสิบกิโลเมตร ทางอากาศ
ข้อยกเว้นเหตุจาเป็นการเปล่ียนแปลงความถี่ ท่ีตั้งสถานี ที่ต้ังเคร่ืองส่งหรือที่ตั้งสายอากาศตามประกาศฯ
 กฎหมายอ่ืนที่เก่ียวข้อง
 ด้านการรบกวนคลื่นความถี่  ด้านภูมิศาสตร์
 ปัญหาอื่นๆ-ไม่รับพิจารณา
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๔๓ )


ขั้นตอนขอเปลี่ยนแปลงเน่ืองจากปัญหาด้านกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
๑. ตรวจสอบเอกสาร+หลักฐาน
๒. ตรวจการใช้คล่ืน (ภภ. 1-4 ตรวจสอบการใช้งานคล่ืนควมถ่ี) ๓. ให้คาแนะนา (ทส. และ รส. ให้คาแนะนาทางเทคนิค)
๔. พิจารณา(กสทช.พิจารณาและมีมต)ิ
๕. แจ้งผลการพิจารณา
๖. ทดสอบการออกอากาศ
๗. ผ่าน(กสทช.รับทราบและปรับปรุงฐานข้อมูลผ่าน)
๘. ไม่ผ่านแจ้งให้แก้ไขปรับปรุง
ข้ันตอนขอเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปัญหาด้านการรบกวนคลื่นความถี่
1) ยื่นคาร้อง (ยื่นคาร้องท่ี สนง. กสทช. ส่วนภุมิภาค)
2) ตรวจสอบ (ตรวจสอบโดย ภภ 1-4 หรือ ค.ส.)
3) เสนอวิธีแก้ (เสนอวิธีแก้ไขปัญหา)
4) ให้คาแนะนา (ทส. และ รส. ให้คาแนะนาทางด้านเทคนิค)
5) ตรวจหลักฐาน (ปส.1 ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน)
6) พิจารณา (กสทช. พิจารณาและมีมติ)
7) แจ้งผลการพิจารรา
8) ทดสอบออกอากาศ
ก. ไม่ผ่าน/ให้แก้ไขปรับปรุง
ข. ผ่าน/กสทช.รับทราบและปรับปรุงฐานข้อมูล
ขั้นตอนขอเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปัญหาด้านภูมิศาสตร์
1) ตรวจสอบ (ปส.1 ตรวจสอบเอกสาร+หลักฐาน)
2) ตรวจการใช้คล่ืน (ภภ. 1-4 ตรวจสอบ การใช้คล่ืนความถี่)
3) ให้คาแนะนา (ทส. และ รส. ให้คาแนะนาทางเทคนิค)
4) พิจารณา (กสทช.พิจารณาและมีมติ)
5) แจ้งผลการพิจารณา
6) ทดสอบการออกอากาศ
7) ผ่าน กสทช.รับทราบและปรับปรุงฐานข้อมูล
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๔ )


8)
หมายเหตุ
   
ไม่ผ่าน ให้แก้ไขปรับปรุง
ภภ. 1-4 ทส.
รส. ปส.1
หมายถึง สานักงาน กสทช. ภาค 1 - ภาค 4
หมายถึง สานักวิศวกรรมและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์
หมายถึง สานักรับรองมาตรฐานวิศวกรรมในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ หมายถึง สานักการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง
ข้อควรทราบกรณีมีการเปล่ียนแปลงที่ตั้งสถานี ท่ีตั้งเครื่องส่ง และท่ีตั้งสายอากาศ
1) ต้องแสดงเอกสารหลักฐานประกอบเหตุผลการเปลี่ยนแปลงที่ต้ัง
2) ภายหลังที่คณะกรรมการมีมติให้เปล่ียนแปลงข้อมูล จะต้องดาเนินการทดสอบการออกอากาศและ
ดาเนินตามเง่ือนไขเพิ่มเติมตามมติท่ีประชุม กสทช.
3) เมื่อได้รับหนังสือแจ้งปรับปรุงข้อมูลต้องดาเนินการขอรับใบอนุญาตตาม พรบ. วิทยุคมนาคม พ.ศ.
2498 ให้ครบถ้วน
4) เมื่อเกิดการรบกวนคล่ืนความถี่ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เปล่ียนแปลงข้อมูล ต้องเป็นผู้ดาเนินการปรับปรุง
แก้ไขการรบกวน
ข้อควรทราบกรณีการเปลี่ยนแปลงความถ่ี
1) ดาเนินการแจ้งการรบกวนคลื่นความถ่ีกับสานักงาน กสทช. ส่วนภูมิภาคในพื้นที่ เพื่อทาการ ตรวจสอบการรบกวนคลื่นความถี่
2) กรณีไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ สานักงาน กสทช. ส่วนภูมิภาค จะรายงานผลการตรวจสอบ และเข้าสู่กระบวนการเปล่ียนแปaงความถต่ี่อไป
3) กรณีพบปัญหาการรบกวนคล่ืนความถ่ี ต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกล่ียปรับปรุงมาตรฐานทางเทคนิค เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวจนเป็นท่ียุติและสานักงานกสทช.ส่วนภูมิภาครายงานมายังปส.1 เพื่อ เสนอคณะกรรมการพิจารณาการปรับปรุงข้อมูลต่อไป
4) ภายหลังที่คณะกรรมการมีมติมาให้เปล่ียนแปลงข้อมูลจะต้องดาเนินการทดสอบการออกอากาศ และ ดาเนินตามเงื่อนไขเพ่ิมเติมตามมติที่ประชุม กสทช.
5) เม่ือได้รับหนังสือแจ้งปรับปรุงข้อมูล ต้องดาเนินการขอรับใบอนุญาตตาม พรบ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ให้ครบถ้วน
6) เม่ือเกิดการรบกวนคลื่นความถ่ี ผู้ท่ีได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูล ต้องเป็นผู้ดาเนินการปรับปรุง แก้ไขการรบกวน
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๕ )


เบอร์ติดต่อหน่วยงานในสายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
ชื่อ - นามสกุล
เบอร์ตรง
เบอร์ภายใน
โทรสาร
สานักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (วส.)
02 271 7630
5262
02 271 7455
สานักกฎหมายกระจายเสียงและโทรทัศน์ (มส)
02 271 7642
5460
02 271 7454
สานักค่าธรรมเนียมและอัตราค่าบริการในกิจการกระจายเสียง และโทรทัศน์ (นส.)
-
5659
02 278 5492
สานักการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง (ปส.)
02-271- 7600,082- 456-0615
5152
02-278-5202
สานักการอนุญาตประกอบกิจการโครงข่าย สิ่งอานวยความ สะดวก และเครื่องวิทยุคมนาคม (ขส.)
02-271- 7600,082- 456-0615
5203
02 271 7433, 02 271 7400
สานักกากับการใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงและ โทรทัศน์ (คส.)
02 271 7600,02-271- 7675,02-271- 7400-7600
5751
02 271 7475, 02 271 7400
สานักส่งเสริมการแข่งขันและกากับดูแลกันเอง (สส.)
02-271-7600
5630
-
สานักกากับผังและเนื้อหารายการ และพัฒนาผู้ประกาศใน กิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ผส.)
02-271- 7600,02-271- 7500
5560
02-2799048- 49
สานักพัฒนาองค์กรวิชาชีพและส่งเสริมการบริการอย่างทั่วถึง (ชส.)
02-271-7600
5559
02-271-7450
สานักวิศวกรรมและเทคโนโลยีกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ทส.)
02 271 7635
5308
02 271 7453
สานักรับรองมาตรฐานวิศวกรรมในกิจการกระจายเสียงและ โทรทัศน์ (รส.)
02 271 7626
5402
02 271 7445
สานักคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (บส)
02 271 7681
5711
02 279 9048-9
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพ่ือประชาชน ( ห น้ า ๔๖ )


ความรู้พ้ืนฐานด้านเทคนิค เกียวกับการกระจายเสียงออกอากาศสถานีวิทยุ FM
คู่มือสถานีวทิ ยเุ สียงธรรมเพื่อประชาชน ( ห น้ า ๔๗ )


Click to View FlipBook Version