คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
สาร
ของ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร
สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งผู้สูงอายุเป็นวัยที่ ต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่จากสมาชิกในครอบครัว แต่เนื่องจากในปัจจุบันครอบครัวไทยมี ขนาดเลก็ ลงและมวี ถิ กี ารดําเนนิ ชวี ติ ตา่ งไปจากสงั คมไทยดง้ั เดมิ สง่ ผลในผสู้ งู อายจุ ํานวนมากตอ้ งดําเนนิ ชวี ติ อยู่โดยลําพัง ในขณะที่สภาพร่างกายอยู่ในภาวะเสื่อมถอย ส่งผลให้เกิดความเปราะบางทางด้านจิตใจ จึงจําเป็นต้องส่งเสริมบทบาทของพี่น้องประชาชนในชุมชนและสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล สุขภาพอนามัยผู้สูงอายุอย่างบูรณาการควบคู่กับการดําเนินนงานของภาครัฐและเอกชน
ผมและคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครตระหนักถึงความสําคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้ กําหนดเป็นนโยบายเพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างครบวงจร รวมทั้งการดูแลสุขภาพอนามัยของ ผู้ป่วยและผู้พิการให้ครอบคลุมและทั่วถึง ทั้งผู้ที่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และผู้ที่ไม่สามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้ เพื่อให้ทุกท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
การจัดทําหนังสือ “คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้” เล่มนี้ เป็นการเผยแพร่แนวทางการดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานของตนเองได้ เพื่อให้ผู้ดูแลและ ผู้สนใจทุกท่านได้มีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ใน กิจวัตรประจําวัน การป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ การดูแลด้านโภชนาการ สุขภาพจิต อุปกรณ์การแพทย์และการให้ยา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลและคําแนะนําในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์และสร้างความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ของผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ให้มีคุณภาพชีวิต ที่ดีและอยู่ในมหานครแห่งนี้อย่างมีความสุขตลอดไป
(หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
ที่ปรึกษา
พญ.วันทนีย์ นพ.โกวิท นางชุดาภรณ์
ผู้จัดทํา
ดร.ม.ล.สมจินดา
ผศ.วรรณเพ็ญ
นางสาววาณีรัตน์
นางวรนุช นางกรรภิรมย์ นางจิรานันท์ นางอรุณศรี นางสาวอพชา พญ.แหวนทับทิม นางชนัญทิพพ์ นางเรณู นางกัญญ์นลิน นางสาวกณิฐา นางสาวกัญจน์นาริศา
จัดพิมพ์โดย โทรศัพท์ Website พิมพ์ครั้งที่ จํานวน ปีที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์
วัฒนะ ยงวานิชจิต ศิริสนธิ
ชมพูนุท อินทร์แก้ว รุ่งเกียรติกุล
เนตรพิศาลวนิช นวพันธุ์ ติณสุวรรณ ฉั่วภักดี ชัยมงคล ธนโกเศศ เรียงวิโรจน์กิจ กรรโณ พรหมมายนต์ ตุ้ยดา
ผู้อํานวยการสํานักอนามัย รองผู้อํานวยการสํานักอนามัย นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านที่ปรึกษา) สํานักอนามัย
หวั หนา้ ภาคการพยาบาลอนามยั ชมุ ชนและจติ เวช วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระดับ 8 วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย รักษาการในตําแหน่ง ผู้อํานวยการกองการพยาบาลสาธารณสุข นักวิชาการพยาบาลชํานาญการพิเศษ นักวิชาการพยาบาลชํานาญการพิเศษ นักจิตวิทยาชํานาญการพิเศษ นักโภชนาการชํานาญการพิเศษ นักสังคมสงเคราะห์ชํานาญการพิเศษ นายแพทย์ชํานาญการ นักวิชาการพยาบาลชํานาญการ นักวิชาการพยาบาลชํานาญการ นักวิชาการพยาบาลปฏิบัติการ นักวิชาการพยาบาลปฏิบัติการ นักวิชาการพยาบาลปฏิบัติการ
สุขสวัสดิ์
กองการพยาบาลสาธารณสุข สํานักอนามัย กรุงเทพมหานคร 0 2276 8823
http://phn.bangkok.go.th
3
500 เล่ม
2558
โรงพิมพ์สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
คํานํา
กองการพยาบาลสาธารณสุข ในฐานะเป็นหน่วยงานในการจัดการบริการผู้ป่วยที่บ้าน (Home Health Care) ของสํานักอนามัย กรุงเทพมหานคร ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานศูนย์บริการ สาธารณสุข (PHCA) และการพยาบาลผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้าน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบท สภาพความจําเป็นและความต้องการในกลุ่มของผู้ป่วยและผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียง โดยได้จัดทํา คู่มือฉบับนี้ขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้ดูแลที่ได้รับการสอนโดยพยาบาลเยี่ยมบ้านของศูนย์บริการ สาธารณสุข สํานักอนามัย ซึ่งดูแล หมายถึง ญาติ หรือบุคคลผู้ให้ความช่วยเหลือการดูแล ในกิจกรรมลักษณะต่างๆ ที่บ้านแก่ผู้ซึ่งเจ็บป่วย พิการ หรือเจ็บป่วยเรื้อรัง ที่ไม่สามารถ ดูแลจัดการตนเองได้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการดูแล ให้ผู้ดูแลมีความรู้ ทักษะ เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุติดเตียง ที่บ้านได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม โดยเนื้อหาสาระในคู่มือฉบับนี้ ประกอบด้วย การดูแลกิจวัตรประจําวันพื้นฐาน, การดูแลเพื่อ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน, การดูแลด้านโภชนาการ, การดูแลด้านสุขภาพจิตและการดูแลผู้ป่วย ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์และการให้ยา
กองการพยาบาลสาธารณสุข สํานักอนามัย กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณ ผู้อํานวยการสํานักอนามัย ผู้อํานวยการกองการพยาบาลสาธารณสุข ผู้อํานวยการวิทยาลัย พยาบาลสภากาชาดไทยที่ได้ให้คําปรึกษาและสนับสนุนในการจัดทําคู่มือฉบับนี้ ขอขอบคุณ ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคณะกรรมการในการจัดทําคู่มือฉบับนี้ในความร่วมมือในการจัดทํา และมีข้อเสนอแนะเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ทําให้คู่มือฉบับนี้มีความสมบูรณ์และสําเร็จลุล่วง ไปด้วยดี
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ในการดูและผู้ป่วยที่บ้านและ ผู้สูงอายุติดเตียง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างเสริมให้กรุงเทพมหานคร เป็นมหานคร แห่งความสุขต่อไป
กองการพยาบาลสาธารณสุข สํานักอนามัย กรุงเทพมหานคร มีนาคม 2558
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
คํานํา
สารบัญ การดูแลกิจวัตรประจําวันพื้นฐาน
หน้า
สารบัญ
การอาบน้ําบนเตียง 1 การดูแลปากและฟัน 5 การสระผม 7 การดูแล หู ตา จมูก เล็บ 9 การดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ 12 การนวดหลัง 15 การแต่งกาย 18 การเคลื่อนย้ายบนเตียงและลงจากเตียง 19
การดูแลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การจัดท่าผู้ป่วย 25 การบริหารข้อและกล้ามเนื้อ 29 การป้องกันและดูแลแผลกดทับ 34 การขับเสมหะออกจากปอดและหลอดลม 36 การป้องกันและดูแลปัญหาท้องผูก 38
การดูแลโภชนาการ
การประเมินภาวะโภชนาการ น้ําและแร่ธาตุ 43 การทําอาหารที่ให้ทางสายยาง 44 การป้อนอาหาร 46
การดูแลสุขภาพจิต
การประเมินสุขภาพจิต 49 การส่งเสริมสุขภาพจิต 52 การส่งต่อมืออาชีพ 57
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
สารบัญ
การดูแลผู้มีอุปกรณ์การแพทย์และการให้ยา
หน้า
ผู้มีสายยางให้อาหาร 57 ผู้ที่ใช้ออกซิเจน 62 ผู้ที่ใส่สายสวนปัสสาวะ 67 ผู้ที่มีท่อหลอดลมคอและการดูดเสมหะ 69 ผู้มีทวารเทียมทางหน้าท้อง 72 ผู้ที่ล้างไตทางช่องท้องที่บ้าน 77 การให้ยา 81
บรรณานุกรม 83 ภาคผนวก
สูตรอาหารผสม 85 หน่วยงาน/สถานที่รับดูแลผู้ป่วยติดเตียงและ 88 ผู้สูงอายุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
แบบคัดกรองโรคซึมเศร้าด้วย 2Q 91 คําจํากัดความ 92
- ผู้ดูแล 93 - ผู้สูงอายุ (กลุ่มติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง) 94
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 1
การอาบน้ําบนเตียง
การอาบน้ําช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนัง ป้องกันการเกิดโรคผิวหนัง ทําให้ สดชื่น ผ่อนคลายความเครียด กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้สุขสบายหายอ่อนเพลีย และช่วย ป้องกันแผลกดทับได้ สําหรับผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผู้ดูแลควรอาบน้ําให้ผู้ป่วย ก่อนหรือหลังอาหารในตอนเช้า ตอนเย็นอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
อุปกรณ์
1. กะละมัง 2 ใบ ใส่น้ําอุ่นปริมาณ 2/3 ของกะละมัง 2. ผ้าเช็ดตัว 1 – 2 ผืน
3. ผ้าถูตัว2ผืน
4. ผ้าคลุมตัวหรือผ้าห่ม1ผืน
5. เครื่องใช้เช่นสบู่หวีครีมทาผิวแป้ง 6. เสื้อผ้าสําหรับเปลี่ยน1ชุด
วิธีพับผ้าถูตัว
พันผ้าถูตัวรอบมือให้กระชับฝ่ามือ ใช้นิ้วหัวแม่มือยึดผ้าไว้ พับชายผ้าลงมา 1/3 ของผ้าแล้วสอดเก็บชายผ้า
ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3
รูปที่ 1 วิธีการพับผ้าถูตัว
2 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การใช้ผ้าถูตัว
ผ้าถูตัว 2 ผืนใช้ต่างกัน โดยผืนที่ 1 ใช้สําหรับชุบน้ําฟอกสบู่ทําความสะอาดผิวหนัง ส่วนผืนที่ 2 ใช้ชุบน้ําเช็ดคราบสบู่ออกจากผิวหนังจนผิวหนังสะอาด
วิธีปฏิบัติ
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบว่าจะอาบน้ําให้
2. เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อมแล้วยกไปที่เตียง
3. ปิดประตูหน้าต่างหรือกั้นม่านเพื่อป้องกันไม่ให้ลมโกรกและไม่เปิดเผยผู้ป่วย 4. เลื่อนตัวผู้ป่วยมาชิดขอบเตียงด้านที่ผู้ดูแลยืนอยู่
5. ใช้ผ้าคลุมตัวคลุมร่างกายส่วนบนของผู้ป่วยแล้วถอดเสื้อออกให้หมด
6. คลุมผ้าเช็ดตัวบริเวณใต้ใบหูทั้ง2ข้างใต้คางและบริเวณหน้าอก
7. รองใต้ศีรษะด้วยผ้าเช็ดตัวป้องกันไม่ให้น้ําหยดลงหมอน
รูปที่ 2 การคลุมผ้าเพื่อทําความสะอาดใบหน้า
8. ทําความสะอาดใบหน้า ใช้ผ้าถูตัวชุบน้ําบิดพอหมาด เช็ดหน้าโดยเช็ดบริเวณตา ทง้ั 2 ขา้ งทล่ี ะขา้ ง เชด็ จากดา้ นหวั ตามาทางดา้ นหางตา เชด็ ตาขา้ งทอ่ี ยไู่ กลตวั ผดู้ แู ลกอ่ น ซกั ผา้ ถตู วั แล้วเช็ดส่วนอื่นๆ ของใบหน้า หู และหลังใบหูให้สะอาดแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวซับให้แห้ง
รูปที่ 3 การทําความสะอาดใบหน้า
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 3
9. ทําความสะอาดแขน เช็ดแขนข้างไกลตัวผู้ดูแลก่อน โดยใช้ผ้าเช็ดตัวรองใต้แขน จับข้อมือยกขึ้นเช็ดวนจากข้อมือจนถึงรักแร้ ฟอกสบู่แล้วใช้ผ้าชุบน้ําหมาดเช็ดคราบสบู่ออก ซับให้แห้ง แล้วเช็ดแขนข้างใกล้ตัว โดยปฏิบัติเช่นเดียวกับแขนข้างไกลตัว
รูปที่ 4 การทําความสะอาด แขน
10. วางผ้าเช็ดตัวทับผ้าคลุมบริเวณทรวงอก และเลื่อนผ้าคลุมตัวลงมาจนถึงหัวหน่าว
11.ทําความสะอาด ไหล่ ทรวงอก และหน้าท้อง สอดมือเข้าใต้ผ้าเช็ดตัวใช้ผ้าถูตัว ผนื ท่ี 1 และผนื ท่ี 2 เชด็ ตง้ั แตห่ นา้ อก หนา้ ทอ้ งถงึ บรเิ วณหวั หนา่ วใหส้ ะอาดดว้ ยนํา้ และสบแู่ ลว้ เชด็ สบู่ ออกให้สะอาดซับให้แห้งแล้วเลื่อนผ้าคลุมตัวขึ้นมาคลุมร่างกายส่วนบนของผู้ป่วยไว้
12.นําผ้าเช็ดตัวออกจากบริเวณทรวงอก พลิกตะแคงตัวผู้ป่วย ปูผ้าเช็ดตัวบนที่นอน ให้ความยาวของผ้าชิด และขนานไปกับความยาวหลังของผู้ป่วย
รูปที่ 5 การทําความสะอาดหลัง
13.การทําความสะอาดหลัง เช็ดหลังผู้ป่วยตั้งแต่ต้นคอถึงก้นให้สะอาดด้วยน้ําสบู่ เช็ดสบู่ออกให้หมด ซับให้แห้ง แล้วทาแป้งหรือโลชั่น และนวดหลัง
14.การทําความสะอาดมือและซอกเล็บ พลิกตัวผู้ป่วยให้นอนหงายเปลี่ยนน้ําใน กะละมัง วางกะละมังบนผ้าเช็ดตัวข้างผู้ป่วย แช่มือข้างไกลตัว ทําความสะอาดมือ ซอกเล็บ ด้วยน้ําและสบู่ให้สะอาด ซับให้แห้งแล้วทําด้านใกล้ตัวเช่นเดียวกัน
4 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
15. ทาแป้งบริเวณใบหน้าและลําตัว แล้วใส่เสื้อให้ผู้ป่วย เลื่อนผ้าคลุมตัว คลุมร่างกาย ส่วนล่างของผู้ป่วย
16.การทําความสะอาดขา สอดมือเข้าไปใต้ผ้าคลุมตัว ถอดผ้าถุงหรือกางเกงออก ปูผ้าเช็ดตัวรองใต้ขาข้างไกลตัว เช็ดด้วยน้ําและสบู่ให้สะอาด ซับให้แห้งแล้วเช็ดขาด้านใกล้ตัว ด้วยวิธีเดียวกัน
17.การทําความสะอาดเท้า ปูผ้าเช็ดตัวรองใต้เท้าทั้ง 2 ข้าง วางกะละมังบน ผ้าเช็ดตัวที่ปูไว้ แช่เท้าด้านไกลตัวผู้ดูแลก่อน โดยจับขาผู้ป่วยให้งอเข่าตั้งขาไว้ฟอกสบู่ให้ทั่ว เท้าและซอกนิ้ว และเล็บล้างให้สะอาด ซับให้แห้งแล้วปฏิบัติเช่นเดียวกันกับเท้าข้างใกล้ตัว
18. ทาแป้ง หรือโลชั่นที่ขาและเท้าทั้งสองข้าง
19.ถ้ายังไม่ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ให้ทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ แล้วใส่ ผ้าถุงหรือกางเกงให้ผู้ป่วย
20.หวีผมเปลี่ยนผ้าปูที่นอน จัดท่าให้ผู้ป่วยและดูแลสภาพแวดล้อมให้สะอาดเรียบร้อย 21. นําเครื่องใช้ไปทําความสะอาด และเก็บเข้าที่
รูปที่ 6 การจัดท่านอนหลังการอาบน้ําบนเตียง
หมายเหตุ
- ควรให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระก่อนอาบน้ํา เพื่อความสะดวกและ ไม่เสียเวลาหลายครั้งในการทําความสะอาด
- ขณะอาบน้ําควรสังเกตบริเวณผิวหนัง และความผิดปกติต่างๆ เช่น มีรอยแดง เขียวคล้ํา มีผื่น แผล ถ้าพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือ พยาบาล
- ระมัดระวังบริเวณซอกอับต่างๆ เช่นใต้ราวนม ขาหนีบ รักแร้ ต้องซับให้แห้ง เพื่อป้องกันโรคเชื้อราที่ผิวหนัง
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 5
การดูแลปากและฟัน
ผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องนอนบนเตียงตลอดเวลา นอกจากต้องได้รับการดูแล เรื่องการอาบน้ํา สระผม การดูแลความสะอาดของปากและฟันยังเป็นเรื่องที่สําคัญที่ควรได้รับ การดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อขจัดเศษอาหารและเชื้อโรคภายในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ โรคติดเชื้อในช่องปากก่อให้เกิดการเจ็บป่วยอื่นตามมา ผู้ดูแลควรทําความสะอาด ปากและฟันผู้ป่วยอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งหลังรับประทานอาหาร
อุปกรณ์
กรณีผู้ป่วยรู้สึกตัวช่วยเหลือตนเองได้
1. แปรงสีฟัน 2. ยาสีฟัน 3. ชามรูปไต 4. แก้วน้ํา
5. น้ํายาบ้วนปาก
6. ผ้าเช็ดตัวหรือผ้ารองกันเปื้อน
กรณีผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
1. ไม้กดลิ้น
2. ภาชนะใส่สําลีพร้อมปากคีบสะอาด(อาจใช้ไม้พันสําลีแทนได้)
3. น้ํายาบ้วนปาก
4. ชามรูปไต
5. ผ้ารองกันเปื้อน
6. วาสลีนหรือสารที่ทําให้ปากชุ่มชื้น
วิธีปฏิบัติกรณีผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
1. ล้างมือก่อนปฏิบัติ
2. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้แล้วบอกให้ผู้ป่วยทราบ
3. เลอ่ื นตวั ผปู้ ว่ ยมาชดิ รมิ เตยี ง ใหต้ ะแคงหนา้ มาทางผดู้ แู ลหรอื นอนหงายศรี ษะสงู
4. ปูผ้าเช็ดตัวหรือผ้ารองกันเปื้อนคลุมบริเวณใต้คาง แก้ม และข้างหมอน ใช้ชามรูปไต
รองที่ใต้คางชิดแก้มผู้ป่วย
6 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
5. เทนํา้ ยาบว้ นปากใสส่ ําลใี หช้ มุ่ เลก็ นอ้ ย ใชป้ ากคบี คบี สําลใี หแ้ นน่ แลว้ เชด็ ในปาก ดงั น้ี - ถฟู นั บนดา้ นในและนอก ถฟู นั ลา่ งดา้ นในและนอก และบรเิ วณเหงอื กทว่ั ทง้ั ปาก - ถูเพดานเป็นวงกลม
- ถูที่กระพุ้งแก้ม นวดบริเวณเหงือก
- ถูบริเวณลิ้น และด้านในปากจนสะอาด
6. เช็ดปากให้แห้งแล้วทาริมฝีปากด้วยวาสลินเพื่อป้องกันริมฝีปากแตก
7. จัดให้นอนในท่าที่สุขสบาย
8. นําเครื่องใช้ไปทําความสะอาดและเก็บเข้าที่
ข้อควรระวัง
1. ถ้าผู้ป่วยรู้สึกตัวไม่ดีอย่าสอดนิ้วเข้าในปากของผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยอาจกัดนิ้วและ ทําให้เกิดบาดแผลติดเชื้อได้
2. ถ้าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวห้ามใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้โดยเด็ดขาด เพราะอาจหลุดลงคอ อุดกั้นทางเดินหายใจได้
3. กรณีท่ลี ้นิ เป็นฝ้าขาวให้ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าขนหนูชุบน้ํายาบ้วนปากเช็ดออกจนสะอาด
วิธีปฏิบัติกรณีผู้ป่วยรู้สึกตัวช่วยเหลือตนเองได้
1. จัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคงหรือนอนศีรษะสูง
2. ปูผ้าเช็ดตัวหรือผ้ารองกันเปื้อนบริเวณใต้คางผู้ป่วย
3. วางชามรูปไตไว้ใต้คางข้างแก้มผู้ป่วยหรือให้ผู้ป่วยถือ
4. บีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟัน
5. ให้ผู้ป่วยบ้วนปากด้วยน้ําแล้วแปรงฟันบนและล่าง ทั้งด้านนอกและด้านในให้ทั่ว
แปรงลิ้นบ้วนปากให้สะอาด
6. จัดให้นอนในท่าที่สุขสบาย
7. นําเครื่องใช้ไปทําความสะอาดและเก็บเข้าที่
การดูแลผู้ป่วยที่มีฟันปลอม
ถอดฟันปลอมที่มีด้านบนและด้านล่างออก ทําความสะอาดโดยวิธีแปรงฟันตามปกติ ล้างน้ําให้สะอาด ระวังอย่าให้ฟันปลอมตก ทําความสะอาดปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น ให้ทั่วด้วยแปรงสีฟันที่นุ่มหรือไม้พันสําลี นวดเหงือกด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ใช้นิ้วหัวแม่มือ ถูเพดานปาก บ้วนปาก แล้วใส่ฟันปลอมเข้าที่ให้เรียบร้อย
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 7
การสระผม
การสระผมช่วยกําจัดสิ่งสกปรกทําให้ผมสะอาด ลดอาการคันเละเชื้อโรค ช่วยให้ ผู้ป่วยมีความสุขสบาย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและการทํางานของต่อมไขมันใต้หนังศีรษะ ผู้ดูแลควรสระผมให้ผู้ป่วยเป็นประจําอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
อุปกรณ์
1. ถังใส่น้ําอุ่นและขันน้ํา
2. ถังรองรับน้ําทิ้ง
3. ผ้ายางหรือแผ่นรองสระผมสําเร็จรูป1ผืน 4. ผ้าเช็ดตัว2ผืน
5. ผ้าถูตัว1ผืน
6. เหล็กหนีบกระดาษ/ไม้หนีบผ้า4อัน
7. ยาสระผมหวีแปรงสําลี
วิธีปฏิบัติ
1. บอกผู้ป่วยให้ทราบว่าจะสระผมให้
2. ล้างมือให้สะอาดและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมแล้วยกไปท่ีเตียง
3. จัดให้ผู้ป่วยนอนหงาย เลื่อนตัวผู้ป่วยให้ชิดริมเตียงข้างท่ีผู้ดูแลยืนอยู่ ในท่าเฉียง
กับเตียงให้ศีรษะอยู่ริมเตียงไม่หนุนหมอน
4. ใช้ผ้าเช็ดตัวพับ4ทบรองตรงคอ
5. ปูผ้ายางบนผ้าเช็ดตัวรองใต้ศีรษะโดยให้ชายผ้าโอบมาทางด้านหน้าอก
6. ม้วนริม 2 ข้างของผ้ายางเข้าหากันจนกระท่ังดูเป็นรางน้ํา โดยปลายด้านบนของ ผ้ายางโอบมาด้านหน้าอกใช้เหล็กหนีบกระดาษหนีบไว้ ส่วนปลายล่างให้อยู่ในถังรองรับน้ําท้ิง ใช้เหล็กหนีบไว้กับขอบถัง กรณีแผ่นรองสระผมสําเร็จรูปไม่ต้องม้วนริมแผ่นรอง
7. ใช้สําลีอุดหูทั้งสองข้าง
8. คลี่ผ้าห่มคลุมตัวไว้
9. ใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมบริเวณอกถึงไหล่ 10. หวี หรือแปรงผมให้ทั่วศีรษะ
รูปท่ี 1 การสระผมบนเตียง
8 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
11. ให้ผู้ป่วยหลับตา หากกลัวยาสระผมเข้าตา
12.ก่อนสระผมให้ทดสอบอุณหภูมิน้ําโดยเทน้ําลงที่ข้อมือด้านในก่อน ถ้าน้ําไม่ร้อน เกินไปจึงราดน้ําลงที่ผม จากด้านหน้าไปด้านหลัง ให้ผมเปียกทั่วศีรษะ ระวังน้ําไหลเข้าหน้า
13.เทยาสระผมใส่ฝ่ามือเติมน้ําเล็กน้อย ลูบผมเบาๆ ใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเป็น วงกลมให้ทั่ว
14.ล้างผมด้วยน้ําให้สะอาด ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดเป็นวงกลมเบาๆ ตรงบริเวณรอยต่อ โคนผมกับผิวหนังให้รอบศีรษะ ครั้งสุดท้ายใช้น้ําเย็นราดผมให้ทั่ว
15. หยิบสําลีที่หูออก
16. ใช้ผ้าเช็ดตัวที่ปิดหน้าอกเช็ดผมให้แห้ง
17.ปลดผา้ ยางลงไปในถงั ทร่ี องนํา้ แลว้ ดงึ ผา้ เชด็ ตวั ทร่ี องตน้ คอออกปบู นหมอน เลอ่ื นตวั
ขึ้นนอนบนหมอน แล้วจัดให้นอนในท่าที่สบาย 18. หวี หรือแปรงผมให้เรียบร้อย
19. เก็บเครื่องใช้ไปทําความสะอาด แล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
การสระผมแห้ง
กรณีที่ไม่สามารถสระผมด้วยน้ําได้ให้สระผมแห้งโดยใช้แป้งเด็กโรยที่ผมและขยี้ให้ทั่ว หนังศีรษะแล้วใช้ผ้าเช็ดออก หวีหรือแปรงผมให้เรียบร้อย
ข้อควรระวัง
1. ถ้าผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลียมากและหนาวให้ล้างผมให้สะอาดแล้วหยุดทําทันที 2. การสระผมบนเตียงควรทําอย่างรวดเร็วอย่าใช้เวลานานเกินไป
3. ขณะสระผมอย่าให้ลมโกรกหรือทําให้ผู้ป่วยหนาวสั่น
4. ถ้าผู้ป่วยนอนราบไม่ได้ให้นอนหนุนหมอนได้
5. ไม่ควรเกาหนังศีรษะ
6. อย่าทิ้งให้เตียงผู้ป่วยเปียกหลังสระผม
7. สังเกตความผิดปกติของผมและหนังศีรษะ เช่น มีตุ่มแดง เป็นขุยเชื้อรา ควรปรึกษา
แพทย์ หรือพยาบาล
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 9
การดูแล หู ตา จมูก เล็บ
การดูแลหู
การดูแลทั่วๆ ไป
1. ทําความสะอาดหูหลังอาบน้ํา สระผม ทุกครั้ง เช็ดหูเฉพาะภายนอก และใบหูให้แห้งโดยใช้ผ้าสะอาด
2. ห้ามใช้ของแข็งแคะหู หรือ เอาส่ิงแปลกปลอมเข้าหู
3. อย่าขยี้หรือใช้มือตบหู
การหยอดยาหู
1. ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด และเตรยี มยา หยอดหู สําลีแห้ง
2. จัดให้ผู้ป่วยอยู่ท่านั่ง หรือ นอนเอียงศีรษะให้หูด้านท่ีจะหยอดยา อยู่ด้านบน
3. ดึงใบหูขึ้นข้างบนและไป ข้างหลัง เพ่ือให้รูหูตรง หยดน้ํายาให้ไหล ไปตามผนังช่องหู
4. ใชส้ ําลกี ดเบาๆ บรเิ วณใกลร้ หู ู ทางด้านหน้าสักครู่ ไม่ให้สําลีเข้าไปในหู
5. จัดให้อยู่ท่าเดิม5-10นาที
รูปท่ี 1 การหยอดหู
10 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การดูแลตา
ผู้ดูแลควรเช็ดตาให้ผู้ป่วยทุกวัน ก่อนหรือหลังอาบน้ํา เพื่อความสะอาดและช่วยป้องกัน การติดเชื้อที่ตา
การเช็ดตา
1. ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2. จัดให้ผู้ป่วยนอนหรือนั่งโดยตะแคงศีรษะด้านที่จะเช็ดตาเล็กน้อย
3. ให้ผู้ป่วยหลับตา
4. ใช้สําลีชุบน้ําเกลือ หรือน้ําต้มสุกบีบหมาดๆ เช็ดจากหัวตาไปหางตา ทีละก้อน
แบบเช็ดครั้งเดียวแล้วทิ้ง ห้ามใช้เช็ดซ้ํา
5. เช็ดตาอีกข้างหนึ่งด้วยวิธีเดียวกัน เช็ดเปลือกตาจากหัวตาไปหางตาอย่างนุ่มนวล
6. สังเกตความผิดปกติที่ตา เช่น ตาแดง มีขี้ตามาก คันตา ควรปรึกษาแพทย์ หรือ พยาบาล
รูปท่ี 2 การหยอดตา
การหยอดยาตา
1. ล้างมือให้สะอาดเตรียมยาหยอดตาสําลีแห้ง
2. ให้ผู้ป่วยลืมตาและเหลือบตาขึ้นข้างบน
3. ผู้ดูแลใช้มือข้างหนึ่งวางที่ขอบตาล่าง มืออีกข้างถือขวดยา บีบยาลงบนตาขาว
โดยถือขวดยาสูง ประมาณ 0.5 - 1 นิ้ว
4. หลังหยอดตาให้ผู้ป่วยหลับตากดสําลีที่หัวตาตรงบริเวณรูเปิดท่อน้ําตา 5. ถ้าหยอดตาด้วยยา2ชนิดควรเว้นระยะเวลาห่างกัน5-10นาที
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 11
การป้ายยาตา
1. ล้างมือให้สะอาดเตรียมยาป้ายตา สําลีแห้ง
2. ให้ผู้ป่วยลืมตาและเหลือบตาขึ้นข้างบน
3. ผู้ดูแลใช้มือข้างหนึ่งดึงหนังตาล่างลงและ มืออีกข้างหนึ่งป้ายตาจากหัวตาไปหางตา
จากนั้นปล่อยมือ เพื่อให้หนังตาปิดทับยา
และคลึงหนังตาเบาๆ
4. ให้ผู้ป่วยหลับตาและจัดให้นอนในท่าที่สบาย
การดูแลจมูก
รูปท่ี 3 การป้ายยาตา
1. ล้างมือให้สะอาดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2. ใช้ผ้าชุบน้ําอุ่นเช็ดบริเวณจมูกด้านนอกให้สะอาด
3. ใช้ไม้พันสําลีชุบน้ําเกลือเช็ดภายในโพรงจมูกเบาๆให้สะอาด
4. สังเกตลักษณะเยื่อบุภายในโพรงจมูกการหายใจสิ่งคัดหล่ังและกล่ินลมหายใจ 5. กรณีท่ีมีสายยางให้อาหารทางจมูกตรวจดูตําแหน่งของสายให้ถูกต้องและแน่นดี 6. เช็ดคราบสกปรกที่ติดกับสายให้อาหาร หรือสายออกซิเจนทางจมูกด้วยสําชุบ
แอลกอฮอล์
การดูแลเล็บ
1. ล้างมือให้สะอาดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2. แช่มือและเท้าใช้ผ้าขนหนูทําความสะอาด
ตรงโคนเล็บดันหนังกําพร้าออก
3. ควรตัดเล็บมือเป็นรูปมนส่วนเล็บเท้าให้ตัด
เป็นรูปตรง เพื่อป้องกันเล็บขบ
4. ไม่ตัดเล็บสั้นเข้าไปจนถึงเน้ือและไม่ไว้เล็บยาว
มากเกินเหนือน้ิว
5. การตัดเล็บที่แข็งควรแช่นิ้วมือนิ้วเท้าด้วย
น้ําอุ่นก่อน จึงตัดเล็บให้
6. ใช้ครีมหรือน้ํามันทาที่บริเวณเล็บให้ท่ัว
รูปที่ 4 การดูแลเล็บและ การตัดเล็บ
12 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การดูแลความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกเป็นบริเวณที่มีการสะสมของเชื้อโรค ทําให้เกิดการติดเชื้อ ได้ง่าย โดยปกติควรทําความสะอาดทุกครั้งเมื่ออาบน้ํา หลังขับถ่ายต้องทําความสะอาดและ ซับให้แห้งเสมอ
การใช้หม้อนอน
1. จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมและบอกให้ผู้ป่วยทราบ
2. ปิดประตูหรือกั้นม่านให้มิดชิด
3. ใช้ผ้าคลุมให้ผู้ป่วยแล้วเลื่อนผ้าถุงขึ้นไปที่เอวหรือดึงกางเกงลงมาที่ขา
4. จัดท่าให้อยู่ในท่านอนหงายชันเข่าให้ปลายเท้าและขาแยกออกจากกัน
5. ปูผ้ายางรองบริเวณสะโพก
6. ยกก้นขึ้นแล้วสอดหม้อนอนที่ใต้ก้น
7. เมื่อผู้ป่วยขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว ให้ทําความสะอาดด้วยสําลีชุบน้ําสะอาด โดยให้เช็ด
จากด้านหน้าไปด้านหลังไม่เช็ดย้อนไปมา เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากทวารหนักมาที่อวัยวะเพศ 8. จากนั้นซับให้แห้งด้วยกระดาษชําระหรือผ้าสะอาด
รูปที่ 1 การให้หม้อนอน
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 13
การทําความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
อุปกรณ์
1. หม้อนอน
2. ภาชนะใส่น้ําและสําลีสะอาด 3. สบู่เหลวหรือน้ํา
4. ถุงมือสะอาด
5. ถุงใส่สิ่งสกปรก
เพศชาย
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2. รองก้นด้วยหม้อนอน
3. ผู้ดูแลล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้งสวมถุงมือสะอาดเทน้ําบริเวณขาหนีบเล็กน้อย
เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกตัว แล้วราดน้ําบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์
4. ใช้มือข้างซ้ายจับองคชาติตั้งขึ้นมือขวารูดหนังหุ้มปลายให้เปิดออก
5. หยิบสําลีชุบน้ําบิดหมาดๆ ทําความสะอาดรูเปิดของท่อปัสสาวะเช็ดไปในทิศวน
รอบไปทางเดียวจากรูเปิดไปข้างนอก เสร็จแล้วรูดหนังหุ้มปลายปิดให้เรียบร้อย
6. ทําความสะอาดด้านนอกขององคชาติจากปลายจนถึงโคนโดยสําลีชุบน้ําสะอาด 7. ทําความสะอาดถุงอัณฑะทั้งด้านบน ด้านล่าง ขาหนีบด้านไกลตัวผู้ดูแล ด้านใกล้ตัว
ตามลําดับ แล้วเช็ดผิวหนังข้างใต้จนถึงบริเวณทวารหนัก
8. เทน้ําลงบนอวัยวะสืบพันธุ์เพื่อชําระล้างอีกครั้ง
9. จากนั้นซับให้แห้งด้วยกระดาษชําระหรือผ้าสะอาด
รูปที่ 2 การทําความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
14 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
เพศหญิง
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
2. รองก้นผู้ป่วยด้วยหม้อนอน
3. ผู้ดูแลล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้งสวมถุงมือสะอาด ค่อยๆ เทน้ําบริเวณขาหนีบ
เล็กน้อย เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกตัว แล้วราดน้ําบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ 4. หยิบสําลีชุบน้ําต้มสุกบีบหมาดๆ
4.1 ก้อนที่ 1 เช็ดบริเวณหัวหน่าว จากซ้ายไปขวา
4.2 กอ้ นท่ี 2 เชด็ แคมใหญด่ า้ นไกลตวั ผดู้ แู ลกอ้ นท่ี3เชด็ ดา้ นใกลต้ วั จากดา้ นบนลงลา่ ง 4.3 ก้อนที่ 4 เช็ดแคมเล็กด้านไกลตัวผู้ดูแล
4.4 ก้อนที่ 5 เช็ดด้านใกล้ตัว จากด้านบนลงล่าง
4.5 ก้อนที่ 6 เช็ดตรงกลางจนถึงทวารหนัก
5. เทน้ําลงบนอวัยวะสืบพันธุ์เพื่อชําระล้างอีกครั้ง
6. จากนั้นซับให้แห้งด้วยกระดาษชําระหรือผ้าสะอาด
รูปที่ 3 การทําความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 15
การนวดหลัง
การนวดหลังเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณผิวหนัง ช่วยให้กล้ามเนื้อ คลายตัว แล้วยังสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกห่วงใย เอาใจใส่โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องนอน อยู่บนเตียงนานๆ จะมีความรู้สึกเมื่อยล้า การนวดหลังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีความสุขสบาย จากการที่กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย การนวดหลังจะทําภายหลังการอาบน้ํา ก่อนนอน หรือตามที่ ผู้ป่วยต้องการ
อุปกรณ์
1. โลชั่นแป้งหรือน้ํามัน
2. ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่หรือผ้าคลุมตัว
วิธีปฏิบัติ
1. เทโลชั่นแป้งหรือน้ํามันสําหรับการนวดผิวหนังลงบนฝ่ามือแล้วทาลงบนแผ่นหลัง
ของผู้ป่วย
2. นวดบริเวณแผ่นหลัง ด้วยวิธีในการนวด ดังนี้
- การลูบ โดยใช้ฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง วางบนก้นกบของผู้ป่วย แล้วค่อยๆ ลูบขึ้นไป ตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงต้นคอ แล้ววกกลับลงมาตามแนวสีข้าง และ สะโพกลูบช้าๆ อย่างนุ่มนวล
รูปที่ 1 การลูบ
16 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
- การจับกล้ามเนื้อยกบิดไปมาสลับกัน ใช้นิ้วหัวแม่มือและปลายนิ้วทั้งสี่ ดึงกล้ามเนื้อผู้ป่วยให้อยู่ในอุ้งมือ ประมาณ 3 นิ้ว ทั้งสองข้าง บีบ และคลาย สลับกันพร้อมกับหมุนมือทั้ง 2 ข้างขึ้นลงโดยไม่ยกมือขึ้น ทําตาม แนวกระดูกสันหลัง
รูปที่ 2 การจับกล้ามเนื้อบิดไปมาสลับกัน
- ท่าใช้อุ้งมือตบ ห่อมือให้ปลายนิ้วชิดกันทั้งห้านิ้ว ตบลงบนหลังของผู้ป่วย สลับกันไปทั้งสองมือเป็นจังหวะตามแนวกระดูกสันหลัง โดยใช้การกระดก ข้อมือ
รูปที่ 3 การใช้อุ้งมือตบ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 17
- ทา่ ใชน้ ว้ิ หวั แมม่ อื กดลงบนแผน่ หลงั ของผปู้ ว่ ย ในแนวดา้ นขา้ งของกระดกู สนั หลงั เป็นระยะตามยาวตลอดแนวสันหลัง
รูปที่ 4 การใช้สันมือสับ
3. จบการนวดหลังด้วยท่าการลูบ ทั้งนี้การนวดในแต่ละท่าจะทําท่าละประมาณ 4-5 รอบ ระหว่างการนวดจะต้องไม่ปล่อยมือออกจากแผ่นหลังผู้ป่วย และจบการนวดลง ด้วยท่าลูบ
หมายเหตุ
- ขณะทําการนวดหลังให้สังเกตลักษณะผิวหนัง และอาการผิดปกติต่างๆ
18 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การแต่งกาย
ผู้ดูแลควรจัดหาเสื้อผ้าที่มีขนาดพอเหมาะกับผู้ป่วยไม่เล็ก หรือใหญ่จนเกินไป เสื้อควร เป็นเสื้อผ่าหน้า เพื่อสะดวกในการใส่ กรณีผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีก การใส่นั้นควรเริ่มจากข้าง ที่อ่อนแรงก่อน
การสวมเสื้อสําหรับผู้ป่วยที่แขนอ่อนแรง
1. นง่ั ขา้ งเตยี ง หรอื เกา้ อ้ี ซง่ึ จะชว่ ยในการทรงตวั และคอ่ ยๆ สวมเสอ้ื แขนขา้ งทอ่ี อ่ นแรง 2. ดึงเสื้อขึ้นมาไว้บนไหล่
3. สวมเสื้อแขนข้างที่ปกติและดึงเสื้อให้เรียบร้อยก่อนที่จะติดกระดุม
ขั้นที่ 1 ข้ันท่ี 2 ขั้นที่ 3
รูปที่ 1 การสวมเส้ือ
การสวมกางเกงสําหรับผู้ป่วยที่ขาอ่อนแรง
1. นั่งข้างเตียง หรือเก้าอ้ี ซ่ึงจะช่วยในการทรงตัว ยกขาข้างที่อ่อนแรงไขว้ทับขาข้างที่ ปกติไว้ สวมกางเกงให้ขาข้างที่อ่อนแรง และดึงข้ึนมาถึงต้นขา
2. สวมกางเกงให้ขาข้างที่ปกติแล้วดึงขึ้นมาถึงต้นขาเช่นกัน
3. อาจจะนอนราบดึงกางเกงผ่านสะโพกขึ้นมาถึงเอวแล้วรัดเข็มขัด หรือขณะนั่งค่อยๆ ขยับซ้ายขวา แล้วดึงกางเกงผ่านสะโพกมาถึงเอว
ข้ันที่ 1 ขั้นที่ 2
รูปที่ 2 การสวมกางเกง
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 19
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยบนเตียงและลงจากเตียง
การเลื่อนตัวผู้ป่วยชิดริมเตียง
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบ
2. ผู้ดูแลยืนอยู่ข้างเตียงด้านที่จะเลื่อนตัวผู้ป่วยมา
3. จัดแขนผู้ป่วยวางพาดไว้บนอก
4. ผู้ดูแลยืนอยู่ในท่าก้าวเท้าข้างหนึ่งไปข้างหน้าพร้อมย่อเข่าทั้ง2ข้างและสะโพก
เล็กน้อยให้แขนอยู่ระดับเดียวกับเตียง
5. เลื่อนลําตัวส่วนบนก่อน โดยสอดแขนข้างหนึ่งเข้าใต้ไหล่ผู้ป่วย และสอดแขน
อีกข้างหนึ่งเข้าใต้เอว
6. ผู้ดูแลโยกตัวไปข้างหน้าย่อเข่าลง
แล้วโยกตัวมาข้างหลัง โดยให้ขาหน้าเหยียดตรง พร้อมเลื่อนตัวผู้ป่วยมาชิดริมเตียง
7. เลื่อนสะโพก ขา และเท้าโดยสอด แขนข้างหนึ่งเข้าใต้เอว อีกข้างหนึ่งสอดเข้า ใต้ต้นขา เลื่อนให้ไปริมเตียงด้วยวิธีเดียวกัน
8. จัดให้อยู่ในท่าสบาย
การเลื่อนตัวผู้ป่วยขึ้นทางด้านหัวเตียง
รูปที่ 1 การเลื่อนตัวผู้ป่วยชิดริมเตียง
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบว่า ถ้าผู้ป่วยนอนบนเตียงที่มีล้อให้ล็อคล้อเตียงก่อน จัดให้ เตียงอยู่ในแนวราบ
2. เอาหมอนหนุนศีรษะออกวางพิงไว้ที่พนักหัวเตียง
3. ผดู้ แู ลยนื อยขู่ า้ งเตยี ง ในทา่ กา้ วเทา้ ไปขา้ งหนา้ หนั หนา้ ไปทางหวั เตยี ง หรอื ในทศิ ทาง ที่จะเคลื่อนย้ายไป
4. ย่อเข่าและสะโพกให้แขนอยู่ในระดับเดียวกับเตียง
5. ผู้ดูแลสอดแขนข้างหนึ่งเข้าใต้ไหล่และศีรษะมืออีกข้างหนึ่งใต้ต้นขาผู้ป่วย
20 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
6. บอกให้ผู้ป่วยก้มศีรษะให้คางชิดอกและชันเข่าขึ้น
7. ผู้ดูแลอยู่ในท่ายืนเหยียดเข่าโยกตัวไปข้างหน้าดึงผู้ป่วยเลื่อนตัวขึ้นด้านหัวเตียง 8. ถ้าเลื่อนขึ้นหัวเตียงยังไม่สูงพอให้ทําเช่นนี้อีก
9. สอดหมอนใต้ศีรษะจัดท่านอนให้อยู่ในท่าสุขสบาย
รูปที่ 2 การเลื่อนตัวผู้ป่วยขึ้นทางด้านหัวเตียง
การช่วยเหลือผู้ป่วยลุกนั่งบนเตียง
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบ
2. ผู้ดูแลยืนอยู่ข้างเตียงตรงระดับสะโพกของผู้ป่วยหันหน้าไปทางปลายเตียง
3. ยืนในท่าก้าวเท้าไปข้างหน้าให้ขาหลังอยู่ใกล้เตียง
4. ให้ผู้ป่วยนอนหงายวางแขนข้างลําตัว
5. ผู้ดูแลย่อเข่าและสะโพกสอดแขนข้างไกลตัวโอบไหล่ผู้ป่วยด้านใกล้ตัวผู้ดูแล
จับต้นแขนผู้ป่วย
6. ผู้ดูแลย้ายน้ําหนักตัวจากขาหน้า
มาที่ขาหลัง แล้วย่อสะโพกลง
7. ยกไหล่ผู้ป่วยขึ้นและให้ผู้ป่วย
อยู่ในท่านั่ง
8. ดูแลความสุขสบายปลอดภัย
และอยู่เป็นเพื่อนในระยะแรก
รูปที่ 3 การช่วยเหลือผู้ป่วยนั่งบนเตียง
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 21
การช่วยเหลือผู้ป่วยนั่งห้อยเท้าบนเตียง
1. บอกให้ผู้ป่วยทราบ
2. จัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนตะแคงหันหน้าเข้าหาผู้ดูแล
3. ผู้ดูแลยืนข้างเตียงด้านที่ผู้ป่วยหันหน้ามา
4. ผู้ดูแลยืนแยกเท้ากว้างตรงระดับสะโพกผู้ป่วยหันหน้าไปทางปลายเตียง
5. ผู้ดูแลวางเท้าข้างที่อยู่ด้านปลายเตียงให้อยู่ข้างหลังของเท้าอีกข้างหนึ่ง
6. ผู้ดูแลสอดแขนข้างหนึ่งใต้ไหล่ผู้ป่วย และใช้มืออีกข้างหนึ่งจับต้นขาด้านหลัง
ผู้ป่วยไว้
7. ผู้ดูแลหมุนตัวใช้มือข้างที่จับไหล่ผู้ป่วยยกตัวขึ้น มืออีกข้างหนึ่งจับเข่าผู้ป่วย
หมุนให้เท้าห้อยลงข้างเตียง ขณะเดียวกันให้ผู้ดูแลย้ายน้ําหนักตัวมาที่ขาหลัง 8. จัดให้นั่งห้อยเท้าลงข้างเตียงในท่าที่สบาย
รูปที่ 4 การช่วยเหลือผู้ป่วยนั่งห้อยเท้าบนเตียง
22 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงไปนั่งเก้าอี้หรือรถเข็นนั่ง
ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3
รูปที่ 5 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงไปนั่งเก้าอี้หรือรถเข็นนั่ง
ขั้นตอนที่ 1
1. จัดท่าให้ผู้ป่วยนั่งอยู่ข้างเตียงนําเก้าอี้มาไว้ข้างเตียงทํามุมเฉียง45องศา
2. ผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหน้าผู้ป่วย ขาทั้งสองข้างแยกจากกันโดยวางเท้าข้างที่อยู่ใกล้เก้าอี้ หรือรถเข็นนั่งไปข้างหน้า
3. งอสะโพก และหวั เขา่ ใหอ้ ยใู่ นระดบั เดยี วกบั ผปู้ ว่ ย มอื จบั ทข่ี อบกางเกง หรอื ผา้ ผกู เอว เพื่อดึงให้ผู้ป่วยยืนขึ้น
ขั้นตอนที่ 2
4. เมื่อผู้ป่วยทรงตัวได้ดีแล้ว ผู้ดูแลถอยเท้าหน้ามาข้างหลัง และพยุงผู้ป่วยให้ยืน อยู่หน้าเก้าอี้ หรือรถเข็นนั่ง
ขั้นตอนที่ 3
5. ผู้ดูแลย่อเข่าสะโพกขณะที่ช่วยให้ผู้ป่วยหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้หรือรถเข็นนั่ง 6. จัดให้นั่งบนเก้าอี้หรือรถเข็นนั่งในท่าที่เหมาะสม
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 23
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเก้าอี้หรือรถเข็นนั่งไปยังเตียง
ผดู้แูลเขน็รถเขน็นง่ัไปชดิรมิเตยีงทํามมุ 45องศาถา้ผปู้ว่ยออ่นแรงใหร้า่งกายขา้งแขง็แรง ชิดริมเตียง วิธีการเคลื่อนย้ายเหมือนกับการเคลื่อนย้ายจากเตียงไปนั่งเก้าอี้ หรือรถเข็นนั่ง ผู้ดูแล ช่วยจับบริเวณเอว
ขั้นตอนท่ี 1 ขั้นตอนที่ 2
ขั้นตอนท่ี 3 ข้ันตอนท่ี 4
รูปท่ี 6 การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเก้าอ้ี หรือรถเข็นนั่งไปยังเตียง
24 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 25
การดูแลเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ผู้ป่วยที่นอนติดเตียงไม่สามารถเคลื่อนไหวช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ อันเนื่องจาก การเจ็บป่วยใดๆ ก็ตาม ที่ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย ที่พบบ่อยและเป็นปัญหา ได้แก่ การยึดติดของข้อต่อตามร่างกาย กล้ามเนื้ออ่อนแรงและลีบเล็ก เกิดแผลกดทับ การติดเชื้อ ในระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น การติดเชื้อในปอด ทางเดินปัสสาวะ และท้องผูก เป็นต้น ส่งผลให้เกิดความลําบากยุ่งยาก ซับซ้อน เสียค่าใช้จ่ายในการดูแลมากขึ้น ดังนั้นผู้ดูแล/ญาติ จึงมีส่วนสําคัญอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและดูแลแก้ไขเมื่อเกิด ภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวโดยปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
การจัดท่าผู้ป่วย
เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน ช่วยให้การทํางานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นไปอย่างสมดุล การจัดท่าที่เหมาะสมและผู้ป่วยต้องรู้สึกสบาย เน้นการพลิกตัวทุก 2 ช.ม. ด้วยความชํานาญ และนุ่มนวล
วิธีปฏิบัติ
ประเมินผู้ป่วยก่อนเริ่มจัดท่า สังเกต สีหน้า การหายใจ การขยับของทรวงอก ไอ มีเสมหะ จับอัตราการเต้นของหัวใจ ลักษณะแขนขา กล้ามเนื้อ ข้อต่อ มีผิดรูป ปวด บวม แดง ร้อน หรือไม่
26 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
ท่าการปฏิบัติเริ่มจาก
รูปที่1
1. ท่านอนหงาย
- ให้ผู้ป่วยนอนหนุนหมอนรองรับ บรเิ วณคอและศรี ษะ ไมแ่ หงนหนา้ (หมอนเตย้ี ) หรือคอพับเกินไป (หมอนสูง)
- ผู้ป่วยนอนเหยียดแขนสบายๆ มอื หงาย หรอื ควํา่ กไ็ ดอ้ าจมาวางไวบ้ นหนา้ อก - นําผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อนกลมๆ
ใส่ไว้ในมือ (รูปที่ 1)
- ลําตัวเหยียดตรง ขาเหยียดตรง อาจงอเข่าเล็กน้อย
- ใช้ผ้าขนหนูเล็กๆ รองตรงหลัง ข้อพับเข่า ข้อเท้า (รูปที่ 2)
- ปลายเท้ากระดกขึ้น โดยใช้ หมอน หรือผ้าห่มดันฝ่าเท้า
- วางหมอนข้าง ข้างสะโพกผู้ป่วย (รูปท่ี 3)
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 27
รูปที่5
2. ท่านอนตะแคง
- เริ่มจากท่านอนหงาย ให้หมอน หนนุ ศรี ษะแลว้ คอ่ ยๆ พลกิ ตะแคงตวั ผปู้ ว่ ยชา้ ๆ ระวังน้ําหนักตัวจะทับไหล่ข้างที่ตะแคงลง อาจเกดิ การปวดได้ โดยใหศ้ รี ษะโนม้ ไปขา้ งหนา้ เล็กน้อย
- เหยียดแขนด้านที่พลิกตะแคง ออกไป เพื่อไม่ให้ลําตัวทับ และแขนข้างบน ให้ไหล่โน้มไปข้างหน้า ใช้หมอนรองโดยใช้ หมอนข้าง หรือหมอนสูง (รูปที่ 4)
- ขาข้างบนงอ ก่ายบนหมอนข้าง ขาด้านล่างเหยียดตรง
- ใช้หมอนดันหนุนข้างหลัง (รูปที่ 5)
28 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
3. ท่านอนหงายศีรษะสูง
- จากท่านอนหงายค่อยประคอง ตัวผู้ป่วยขึ้น ให้ลําตัวตั้งประมาณ 45 องศา แล้วใช้หมอนหนุนลําตัว (รูปที่ 6)
- ใช้ผ้าขนหนูม้วนกลมรองใต้เข่า
- ปลายเท้ากระดกขึ้น ใช้หมอนหรือ ผ้าห่มรอง
- วางหมอนรองแขนทั้งสองข้าง และมือกําผ้าม้วนกลม
4. ท่านอนตะแคงกึ่งคว่ํา
- ใช้ในกรณีนอนคว่ําไม่ได้ (รูปที่ 7)
- จัดท่าผู้ป่วยจากท่าให้นอนตะแคง ศีรษะหันไปด้านที่ตะแคง
- แขนด้านที่ตะแคงกางไหล่และ งอข้อศอกคว่ํามือลงบนหมอนในท่าสบายๆ ส่วนแขนอีกข้างงอไหล่ แต่เหยียดแขนลงวาง ข้างลําตัว
- ขาด้านตะแคงงอ ใช้หมอนหนุน ใต้เข่า อีกข้างเหยียดตรง
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 29
การบริหารข้อและกล้ามเนื้อ
เพื่อลดภาวะข้อติด กล้ามเนื้อลีบ และลดการบาดเจ็บข้อต่อ ในกรณีไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว โดยก่อนปฏิบัติควรสังเกตลักษณะทั่วไปและความผิดปกติของผู้ป่วย เช่น ข้อบวมผิดปกติ ข้อต่อผิดรูป มีก้อนที่บริเวณข้อต่อหรือไม่ การปฎิบัติเริ่มจากข้อต่อส่วนบนไปส่วนปลาย จากไหล่ ไปข้อศอก ข้อมือ นิ้วมือ สะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า นิ้วเท้า ตามลําดับ ต้องทําด้วยความนิ่มนวล และระมัดระวัง ห้ามฝืนในกรณีที่มีข้อติด เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ
1. ท่าบริหารข้อไหล่
ใช้มือข้างหนึ่งจับบริเวณข้อมือผู้ป่วย อีกข้างประคองบริเวณต้นแขน
ท่าที่ 1 หัวไหล่
รูปท่ี 8
ท่าท่ี 1 ยกแขนตรงเหยียดข้อศอกข้ึนช้าๆ เหยียดจนสุดแล้ววางลงช้าๆ (ทําซ้ํา 5 คร้ัง)
ท่าที่ 2
รูปที่ 8
ท่าที่ 2 กางแขนผู้ป่วยออก 90 องศา ยกขึ้นช้าๆ จนสุด (ทําซ้ํา 5 ครั้ง)
30 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
2. ท่าบริหารข้อศอก
ใช้มือจับข้อมือ และอีกมือจับใต้ข้อศอก
ข้อศอก รูปที่ 9
ท่าที่ 1 เหยียดแขนงอศอกขึ้น-ลงช้าๆ (ทําซ้ํา 5 ครั้ง) ในท่าเหยียดแขนตรง
ท่าท่ี 2 กางแขนผปู้ ว่ ยออก งอขอ้ ศอกตง้ั ฉาก แล้วหมุนลงช้าๆ ระวังข้อไหล่หลุดในผู้ท่ีเคย ข้อไหล่หลุด จากนั้นกลับมาทําท่าเดิม งอข้อศอกตั้งฉากแล้วหมุนขึ้น (ทําซ้ํา 5 คร้ัง)
ท่าท่ี 1 กระดกข้อมือขึ้นเหยียดนิ้วมือตรง ท้ัง 4 น้ิว
ท่าที่ 2 กระดกข้อมือลง
ท่าที่ 3 เอียงข้อมือไปทางซ้ายและขวา
3. ท่าบริหารข้อมือ
ข้อมือ
รูปที่ 10
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 31
4. การบริหารนิ้วมือ
ท่าที่ 1 กํานิ้วผู้ป่วยให้กระชับ นิ้วโป้ง เหยียดตรงนาบไปกับนิ้วด้านฝ่ามือ และนว้ิ ชง้ี อกระชบั นว้ิ ผปู้ ว่ ย และดงึ นว้ิ ผปู้ ว่ ย เหยียดตรง ดึงออกช้าๆ ให้รู้สึกมีการขยับ ขอ้ ในแนวระนาบแลว้ หมนุ เบาๆ แลว้ ปลอ่ ย
ท่าที่ 2 งอนิ้วแต่ละนิ้วลงแล้วค่อยๆ เหยียดออก
ทา่ ท่ี 3 ขยบั ขอ้ ตอ่ นว้ิ ขน้ึ ลงทกุ ขอ้ เรม่ิ จาก พับมือลง งอนิ้วมือเข้าหาฝ่ามือ จากนั้น เอามือโอบหลังมือ ผู้ป่วยค่อยๆ ดันลงมา ให้ผู้ป่วยกํามือลง
ท่าท่ี 4 บริหารนิ้วโป้งโดยการจับน้ิวโป้ง ส่วนปลายแล้วค่อยๆ กางออกช้าๆ จนสุด แล้วกลับมาท่าเดิมทําซ้ํา
นิ้วมือ
รูปที่่ 11-13
นิ้วโป้ง
รูปที่่ 14
32 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
5. ข้อสะโพก - ข้อเข่า
มือประคองบริเวณข้อเท้า และข้อพับยกขึ้นช้าๆ
สะโพก
รูปที่่ 15
ท่าท่ี 1 ท่าท่ี 2 (รูปท่ี16)
รูปท่่ี 16
งอสะโพก งอเข่าแล้วค่อยๆ เหยียดขาตรง (รูปที่ 15)
กลับมาท่างอสะโพก ตั้งฉาก งอเข่า ต้ังฉาก หมุนปลายเท้าออกนอก และเข้าในช้าๆ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 33
รูปท่ี่ 17
6. ข้อเท้า
ท่าท่ี 1 มือจับเหนือข้อเท้าอีกมือประคอง ใต้ส้นเท้า ให้ท้องแขนชิดกับฝ่าเท้าเพื่อเป็น การประคอง ดันฝ่าเท้ากระดกขึ้นช้าๆ (ทําซ้ํา 5 คร้ัง)
ท่าท่ี 2 มือจับหลังเท้า และส้นเท้ากระดก ข้อเท้าข้ึนลง (ทําซ้ํา 5 คร้ัง)
ท่าท่ี 3 มือจับหลังเท้า และเหนือข้อเท้า บิดเท้าเข้าใน ออกนอก
ข้อเท้า
ท่าที่ 3 เหยียดขาผู้ป่วยตรง มือประคอง ที่หลังส้นเท้าและต้นขาค่อยๆ กางขาผู้ป่วย ออกและหุบเข้าช้าๆ
รูปท่ี่ 18-19
34 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การป้องกันและดูแลแผลกดทับ
เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดบาดแผลถลอก หรือแผลอักเสบรวมถึงการเกิดแผลกดทับ และให้ผิวหนัง สะอาด ลดการเกิดแผลกดทับ สามารถดูแลแผลกดทับได้อย่างถูกวิธี ดังนี้
อุปกรณ์
วิธีปฏิบัติ
รูปท่ี 1 อุปกรณ์ในการทําแผล
1. สังเกตผิวหนัง หรือลักษณะแผล เช่น ผิวหนังบวมแดงมีตุ่มน้ําใสเกิดจากการเสียด สีหรือแรงกดทับ ให้ใช้สําลีชุบน้ําเกลือเช็ดเบาๆ อาจใช้ผ้าก๊อซปิดบางๆ
2. ในกรณีท่ีเป็นถุงน้ํา ถ้าขนาดไม่ใหญ่ไม่ควรเจาะ เพ่ือป้องกันการติดเชื้อ ถ้าถุงน้ําแตก ให้ใช้สําลีชุบน้ําเกลือเช็ด และค่อยๆ ไล่น้ําในถุงออกแล้วปิดด้วยผ้าก๊อซบางๆ ห้ามใช้แอลกอฮอล์ และยาเบตาดีนเช็ดในแผล
1. ชุดทําแผล ประกอบด้วย ปากคบี ถว้ ยใสน่ ํา้ ยา สําลี ผ้าก๊อซ
2. น้ําเกลือปราศจากเชื้อ
3. แอลกอฮอล์70เปอรเ์ซน็ ต์ 4. พลาสเตอร์
รูปที่ 2 แผลกดทับ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 35
3. กรณีเป็นแผลแล้วการทําแผลมีขั้นตอนเริ่มจาก
3.1 ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และบอกให้ผู้ป่วยทราบ 3.2 เช็ดบริเวณรอบๆ แผลด้วย สําลีชุบแอลกอฮอล์โดยให้ห่างจากขอบแผล 2 นิ้ว 3.3 เช็ดในแผลด้วยสําลีชุบน้ําเกลือ ถ้ามีหนองต้องเช็ดเอาหนองออกให้มากที่สุด
ระวังอาการเจ็บของผู้ป่วย
3.4 ถ้าเป็นแผลลึกมากหลังทําความสะอาดแผลแล้ว ให้ใช้ผ้าก๊อซชุบน้ําเกลือ
บีบหมาดๆ ปิดลงบนแผลแล้วปิดทับด้วยก๊อซแห้ง เพื่อให้แผลหายเร็วและ
เนื้อตายหลุดออกได้ง่าย
3.5 ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น แผลมีหนองเพิ่มขึ้น มีกลิ่นเหม็น สีผิวหนังรอบๆ
แผลแดงมากขึ้น ควรไปพบแพทย์
3.6 เกบ็ อปุ กรณแ์ ละผา้ กอ๊ ซ สําลที ใ่ี ชแ้ ลว้ ทง้ิ ลงในถงุ พลาสตกิ ปดิ ปากถงุ ใหเ้ รยี บรอ้ ย 3.7 ในกรณีเปลี่ยนผ้าปิดแผล ถ้ามีรอยคราบพลาสเตอร์ติดแน่นให้ใช้สําลีชุบโลชั่น
หรือน้ํามันมะกอกเช็ดเบาๆ เพื่อให้ดึงออกง่าย
3.8 การปิดพลาสเตอร์บนผ้าก๊อซ ไม่ควรปิดทับแผล ควรปิดเหนือและใต้แผล
36 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การขับเสมหะออกจากปอดและหลอดลม
ผปู้ ว่ ยทไ่ี มส่ ามารถเคลอ่ื นไหวขยบั รา่ งกายได้ ภาวะแทรกซอ้ นทพ่ี บไดบ้ อ่ ยคอื การตดิ เชอ้ื ในระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากกล้ามเนื้อต่างๆ อ่อนแรงทําให้ไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้เอง ดังนั้นผู้ดูแล/ญาติ จึงควรช่วยหลือผู้ป่วยในการระบายเสมหะ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ดังกล่าวตามขั้นตอน ต่อไปนี้
1. การจัดท่าผู้ป่วย
เพื่อระบายเสมหะ เป็นวิธีการที่อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นหลัก โดยให้ส่วนของปอด ที่ต้องการระบายเสมหะอยู่สูงกว่าหลอดลม และปาก เพื่อให้เสมหะไหลออกมาได้ดีและขับออก ได้ง่าย
2. การเคาะปอด
การเคาะเพื่อให้เสมหะระบายออกได้ง่าย โดยใช้อุ้งมือทํามือโค้งนิ้วชิดกันและเคาะ โดยใช้การกระดกข้อมือไม่ใช้แรงจากแขนทั้งหมด ขณะเคาะถ้าผู้ป่วยไอให้หยุดเคาะ
3. การสั่นปอด
ใช้วิธีการสั่นสะเทือนแทนการเคาะถ้ามีข้อห้าม โดยเหยียดแขนตรงแนบฝ่ามือนิ้วชิดกัน ออกแรงสั่นมาจากหัวไหล่ ไม่ควรกดแรงเกินไป อาจเกิดการบาดเจ็บได้
4. การไออย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากเคาะเสร็จ ถ้าผู้ป่วยสามารถไอได้ให้สอนวิธีการไอ คือ เริ่มจากหายใจเข้าให้สุด กลั้นไว้สักครู่ หลังจากนั้นไอแรงๆ ออกมาจากช่องปอด โดยเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย กรณีไอแรง ไม่ได้ให้ใช้วิธีกระแอมซ้ําๆ แล้วหายใจเข้า - ออกช้าๆ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 37
วิธีการปฏิบัติ
1. ฟังเสียงการหายใจ ดูลักษณะการหายใจ นับจํานวนการหายใจ ปกติควร 12-20 ครั้งต่อนาที
2. จัดท่าผู้ป่วยเริ่มจากท่านอนหรือท่านั่งหงายศีรษะสูง
3. ฝึกการหายใจเข้าออกช้าๆและแนะนําวิธีการขับเสมหะโดยการไอที่ถูกต้อง
4. ใช้ผ้าปูบริเวณที่จะเคาะ และเคาะไล่จากส่วนบนลงมาส่วนล่างเป็นจังหวะสม่ําเสมอ
โดยเคาะด้านละประมาณ 3-5 นาที แล้วหยุดพัก
5. ใช้วิธีการไอเพื่อให้ได้เสมหะออกมาหรือใช้เครื่องดูดเสมหะ
6. ให้ผู้ป่วยพักหรือถ้ามีออกซิเจนให้ดมออกซิเจนเพื่อให้หายเหนื่อยแล้วค่อยเปลี่ยน
ตําแหน่งและท่าทางในการเคาะ ทําซ้ําตามขั้นตอนข้างต้น
ข้อสังเกต1. ควรงดอาหารหรือนมก่อนการเคาะปอด30นาที
2. การเคาะปอดให้ร่วมกับการจัดท่าข้างต้นตั้งแต่ท่านอนหงายตะแคงและกึ่งคว่ํา
ข้อห้าม เคาะปอดและการสั่นปอด 1. ไอเป็นเลือด
2. วัณโรคปอดระยะแรก
3. กระดูกบางผุ
4. มะเร็งแพร่กระจายกระดูกซี่โครง 5. หนองในช่องปอด
6. เนื้องอกในปอด
38 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การป้องกันและดูแลปัญหาท้องผูก
อาการท้องผูกพบมักได้บ่อยผู้ป่วยนอนติดเตียงที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง ตามปกติ จงึ ทําใหร้ ะบบในรา่ งกายรวมทง้ั ระบบทางเดนิ อาหารมกี ารทํางานชา้ ลงเกดิ อาการทอ้ งอดื แน่นท้อง ท้องผูก
ภาวะท้องผูก หมายถึง การขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือ 1 ใน 4 ครั้ง ของการขับถ่ายมีความยากลําบาก อุจจาระมีลักษณะแห้งแข็ง
แนวทางการดูแล
1. สังเกตช่วงเวลาที่ขับถ่ายแต่ละวัน จํานวนครั้ง ความถี่ในการขับถ่ายใน 1 สัปดาห์
2. สังเกตหน้าท้อง แข็งตึง โป่ง มีลมมาก ผายลมเรอได้หรือไม่ เสียงการเคลื่อนตัว ของลําไส้ วิธีสังเกตง่ายๆ ใช้มือสัมผัส หรือฟังเสียงการขยับตัวลําไส้โดยใช้หูแนบฟัง
3. ควรขยับตัวเปลี่ยนท่าทางอยู่สม่ําเสมอหรือทุก2ชั่วโมง
4. ฝึกขับถ่ายเป็นเวลา
5. ควรรับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผักและผลไม้ เพื่อช่วยในการขับถ่ายร่วมกับ
การดื่มน้ําวันละ 2-3 ลิตร เพื่อให้อุจจาระไม่แข็งถ่ายได้ง่าย
6. ในกรณีที่ไม่ค่อยถ่ายอาจเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ช่วยการขับถ่าย เช่น
มะขาม ลูกพรุน เป็นต้น ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยพิจารณาการใช้ยาระบายยาเพิ่มการทํางานของลําไส้ หรือการสวนอุจจาระ
การนวดหน้าท้อง
เป็นการกระตุ้นลําไส้ให้ขับถ่าย และเป็นวิธีที่ปลอดภัยสามารถทําได้ง่าย คือ
1. ใชป้ ลายนว้ิ ทง้ั สก่ี ดเบาๆ ไปทช่ี อ่ งทอ้ งดา้ นขวาลา่ งของผปู้ ว่ ย ซง่ึ เปน็ ตําแหนง่ ลําไสใ้ หญ่ และนวดคลึงเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาช้าๆ แล้วลูบมือไล่ลงไปที่กระดูกเชิงกรานช้าๆ ทําซ้ํา
2-3 รอบ
2. เลื่อนมือมาที่หน้าท้องด้านขวาล่าง นวดวนตามเข็มนาฬิกาด้วยปลายนิ้วทั้งสี่
แล้วลูบมือเลื่อนขึ้นมาที่ด้านขวาบนช้าๆ ทําซ้ํา 2-3 รอบ
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 39
3. เลื่อนมือมาที่หน้าท้องด้านขวาบน นวดวนตามเข็มนาฬิกาด้วยปลายนิ้วทั้งสี่ แล้วลูบมือเลื่อนมาทางหน้าท้องด้านซ้ายบนช้าๆ ทําซ้ํา 2-3 รอบ
4. เลื่อนมือมาที่หน้าท้องด้านซ้ายบน นวดวนตามเข็มนาฬิกาด้วยปลายนิ้วทั้งสี่ แล้วลูบมือเลื่อนลงมาทางหน้าท้องด้านซ้ายล่างช้าๆ ทําซ้ํา 2-3 รอบ
5. ใช้ฝ่ามือนวดตรงกลางท้องไปมาเป็นเหมือนลูกคลื่นเพื่อกระตุ้นลําไส้เล็ก
6. นวดซํา้ จากขวาลา่ งไลม่ าจากขวาบน แลว้ ไปยงั ซา้ ยบนจบทซ่ี า้ ยลา่ งตําแหนง่ ลําไสใ้ หญ่ ลูบเป็นรูปตัวยูหัวคว่ํา
ในคนที่หน้าท้องบาง ผู้นวดอาจคลําได้ก้อนเป็นลําของอุจจาระ และสามารถนวด ไล่มาตามทางเดินลําไส้ โดยตําแหน่งนี้จะแข็งกดอาจเจ็บได้ ต้องใช้วิธีนวดเบาๆ วนตามเข็มนาฬิกา เพื่อกระตุ้นลําไส้ตรงบริเวณนั้น
ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 4 ข้ันตอนที่ 5 ขั้นตอนที่ 6
รูปท่ี 1 ขั้นตอนการนวดหน้าท้อง
40 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
การล้วงอุจจาระ
ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถเบ่งอุจจาระออกมาได้เอง และมีก้อนอุจจาระที่บริเวณ ลําไส้ใหญ่ส่วนปลาย
อุปกรณ์
1. ถุงมือ2คู่
2. หม้อนอน
3. สารหล่อลื่นหรือวาสลิน 4. ผ้าคลุมตัว
5. ผ้ายาง
6. กระดาษชําระ
วิธีปฏิบัติ
1. บอกให้ทราบว่าจะล้วงอุจจาระ
2. จัดเตรียมเครื่องใช้และนํามาที่เตียง
3. กั้นม่านหรือปิดประตูให้มิดชิด
4. ปูผ้ายาง
5. จัดให้นอนตะแคงซ้ายงอเข่าและหันหลังมาทางด้านผู้ดูแลคลุมผ้าที่ลําตัว
และขา เหลือเฉพาะส่วนก้น
6. วางหม้อนอนไว้ใกล้ตัวผู้ป่วยด้านปลายเตียง
7. สวมถุงมือและหล่อลื่นนิ้วชี้มือด้านที่ถนัดด้วยวาสลิน
8. สอดนิ้วชี้มือด้านที่ถนัดเข้าไปในทวารหนักช้าๆทิศทางการสอดนิ้วให้ชี้ไปทาง สะดือ ดันนิ้วมือเข้าไปเรื่อยๆ ตามความยาวของช่องทวารหนักจนสุดนิ้วมือ หรือเมื่อสัมผัสกับ ก้อนอุจจาระที่อัดแน่น
9. เมื่อปลายนิ้วสัมผัสก้อนอุจจาระแล้วให้วนนิ้วรอบๆก้อนอุจจาระเพื่อให้ อุจจาระที่แข็งนุ่มลง และแตกจากกัน หรือใช้นิ้วทิ่มอุจจาระที่แข็งมากให้แตกออกแต่ต้องทํา อย่างนุ่มนวล ลากอุจจาระดึงมาทางส่วนปลายของลําไส้ตรง และช่องทวารหนัก แล้วควักออกมา ทีละน้อย ใส่ลงหม้อนอน
10. สังเกตการเหนื่อยเพลีย หน้าซีด ถ้ามีอาการให้หยุดล้วงทันที
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 41
11. ล้วงอุจจาระออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ โดยต้องมีการพักการล้วงบ้าง ทําให้อุจจาระออกได้หมด
12. เมื่อล้วงเสร็จแล้วถอดถุงมือคู่เดิมทิ้ง และสวมถุงมือคู่มือใหม่
13. ทําความสะอาดทวารหนัก และบริเวณรอบๆ บางรายอาจรู้สึกอยากถ่าย เนื่องจากมีการกระตุ้นบริเวณทวารหนัก ควรใส่ผ้าอ้อมสําเร็จรูปไว้
14. จัดสิ่งแวดล้อมให้เรียบร้อย และปราศจากกลิ่น เก็บผ้ายาง 15. สังเกตลักษณะอุจจาระ และปริมาณอุจจาระที่ล้วงออก 16. จัดท่านอนให้เหมาะสม
17. เก็บอุปกรณ์ไปทําความสะอาด
18. ล้างมือ
การสวนอุจจาระ
ในกรณีที่มีการอัดแน่นของก้อนอุจจาระ หรือล้วงอุจจาระแล้วไม่สามารถนําออกมา ได้หมด
อุปกรณ์
1. น้ํายาสวนทวารสําเร็จรูป 2. หม้อนอนกระดาษชําระ 3. ผ้าคลุมตัว
4. ผ้ายาง
5. ถุงมือ1คู่
วิธีปฏิบัติ
1. บอกให้ทราบว่าจะทําการสวนอุจจาระ 2. จัดเตรียมเครื่องใช้และนํามาที่เตียง 3. กั้นม่านหรือปิดประตูให้มิดชิด
4. ปูผ้ายางบริเวณสะโพกและต้นขา
5. สวมถุงมือ
42 คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้
6. จัดให้อยู่ท่านอนหงายชันเข่าให้ปลายเท้าและขาแยกออกจากกัน
7. ดึงผ้าถุงขึ้นไปที่เอวหรือดึงกางเกงลงล่างปิดผ้าบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ไว้ก่อน 8. ยกก้นขึ้นแล้วสอดหม้อนอนที่ใต้ก้น
9. เปิดมุมผ้าระหว่างขาขึ้น
10. เปิดฝาครอบหัวสวนของขวดน้ํายาออก
11. แยกก้นด้วยนิ้วมือให้เห็นรูทวารหนัก สอดปลายหัวสวนเข้าช่องทวารหนัก
อย่างช้าๆ และนุ่มนวล ลึกประมาณ 2 นิ้ว
12. ค่อยๆ บีบขวดพลาสติกให้น้ํายาเข้าไปช้าๆ เอาหัวสวนออกจากทวารหนัก
เมื่อน้ํายาหมด และทิ้งขวดน้ํายาในถังขยะ ให้ผู้ป่วยนอนบนหม้อนอนประมาณ 5-15 นาที
13. เมื่อดูว่าถ่ายอุจาระเสร็จแล้ว ให้ทําความสะอาดทวารหนักด้วยสบู่ และน้ํา
ซับให้แห้ง
14. เก็บผ้ายางออก
15. จัดให้นอนอยู่ในท่าสบาย
16. สังเกตลักษณะ และปริมาณอุจจาระ ประสิทธิภาพของการสวนดูได้จาก ปริมาณของอุจจาระที่ถูกขับออกมา
17. นําเครื่องใช้ไปทําความสะอาด และเก็บเข้าที่
คู่มือผู้ดูแลผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพพื้นฐานด้วยตนเองได้ 43
การประเมินภาวะโภชนาการ น้ําและแร่ธาตุ
สําหรับผู้ป่วย การดูแลให้ได้รับสารอาหารเพียงพอจะช่วยป้องกันปัญหาการติดเชื้อ และ การเสียชีวิตได้
การตรวจร่างกาย เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นโดยใช้วิธีการสัมผัสและสังเกต
1. ใช้มือจับใต้ท้องแขน เพื่อดูการสะสมของไขมันท้องแขน สังเกตบริเวณขมับ
และแก้ม
2. ใช้มือจับบริเวณหัวไหล่ กล้ามเนื้อท้องแขน ต้นขา น่อง เพื่อดูการสะสมของ
กล้ามเนื้อ
3. ใช้นิ้วหัวแม่มือกดบริเวณหลังเท้าแล้วสังเกตว่ารอยกดบุ๋มกลับสู่สภาพปกติเร็ว
หรือช้ามากน้อยเพียงไร เพื่อประเมินอาการบวม 4. สังเกตสภาพร่างกายทั่วไป
• อาการของภาวะทุพโภชนาการ
ปาก
ร่างกาย
เหงือก
เล็บ
ผิวหนัง
ลิ้น
ใต้ผิวหนัง
กล้ามเนื้อ
ขา
อาการ
ปากนกระจอก บวมแดงที่ริมฝีปาก
บวม เลือดออกตามไรฟัน
ซีด รูปช้อน
แห้ง เป็นขุย
สีน้ําล้างเนื้อ แดง เลี่ยน
บวม
ลีบ
โค้งงอ
การขาดสารอาหาร
ผม
ตา
บาง แห้งเปราะ หลุดง่าย เปลี่ยนสี
บางซีด เกล็ดกระดี่ที่ตา
โปรตีน โปรตีน – พลังงาน สังกะสี
เหล็ก วิตามินเอ ซี บี 12
วิตามินบี 2 ไนอาซีน เหล็ก
วิตามินซี
เหล็ก
วิตามินเอ กรดไขมันจําเป็น
วิตามินบี 2 ไนอาซีน เหล็ก โฟเลท วิตามินบี 12
โปรตีน – พลังงาน วิตามินบี 1
โปรตีน – พลังงาน
วิตามินดี แคลเซียม