ชื่อโครงาน ผ้าพิมพ์สีจากธรรมชาติ ชื่อผู้ทำโครงงาน นักศึกษา กศน.ตำบลเวียงชัย 1.นายณัฐพล นามจริง 2. นายฐิตินันท์ นันทเสน 3. นางสาวละไม กะตะศิลา บทที่1 บทนำ 1.ที่มาและความสำคัญของโครงงาน เนื่องจาก ครูกศน.ตำบลเวียงชัยได้ลงพื้นที่พานักศึกษา สำรวจพันธุ์ไม้ที่ ใกล้สูญพันธุ์และพันธุ์ไม้ที่หายากในชุมชน และได้จัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เรื่องการเพาะพันธุ์ไม้พื้น ถิ่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนทั่วไปจึงได้ลงสำรวจพันธุ์ไม้ และได้สังเกตเห็นใบไม้ต่างๆมีสีสัน ลวดลายที่สวยงาม คิดว่าน่าจะนำมาใช้ประโยชน์จากกสีใบไม้ได้ ได้ศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมที่ใช้ พิมพ์ลายผ้าจากใบไม้ เลยได้แนวคิดในการทำโครงงานนี้ขึ้นการย้อมผ้านั้นมักมาจากสารเคมีราคาสูง และ สารเคมีที่ช้อาจมีอันตรายต่อร่างกายของเราได้ การย้อมสีผ้าด้วยสีธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดี และนับเป็น ภูมิปํญญาที่สืบทอดกันมาแต่อดีด โดยกระบวนการย้อมสามารถหาสีย้อมได้จากวัสดุจากธรรมชาติในท้องถิ่น ซี่งเป้นเศษวัสดุเหลือใช้ มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังนำของที่เหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ทางคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นความสำคัญของการใช้สีย้อมผ้าจากวัสดุจากธรรมชาติแทนการใช้สีย้อมผ้าจาก สารเคมีทั้งนี้จึงเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ ได้แก่ ใบไม้ ดอกไม้ ซึ่งหาได้ง่ายในท้องถิ่นและไม่ต้องเสียเงินซื้อ ให้สี ที่ติดทน ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้ ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย 2.วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อสืบสานภูมิปัญญา 2.2 เพื่อให้ได้ความคิดสร้างสรรค์ 2.3 เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีลวดลายสีสันที่สวยงาม 2.4 เพื่อให้คนไทยหันกลับมาสวมใส่ผ้าพิมพ์ลายจากธรรมชาติมากขึ้น 3.สมมติฐานและตัวแปรที่ศึกษา 3.1 การศึกษา ชนิดของใบไม้ สมมติฐาน ใบอ่อนน่าติดสีดีกว่าใบแก่ ตัวแปรต้น ใบไม้ ตัวแปรตาม คุณสมบัติของสีใบไม้ ตัวแปรควบคุม 1. ปริมาณของ Ammonium alum ( สารส้ม) 2. ปริมาณ Sodium bicarbonate (เบกกิ้งโซดา) 3. ปริมาณของ กรดอะซิตริก Acetic Acid (น้ำส้มสายชู) 4. ปริมาณของน้ำสนิม 5. อุณหภูมิในการนึ่ง 6. เวลาที่ใช้ในการนึ่ง 7. ชนิดของใบไม้
3.2 การศึกษา น้ำสนิม สมมุติฐาน น้ำสนิมมีผลต่อการคายสีของใบไม้ ตัวแปรต้น น้ำสนิม ตัวแปรตาม สีจากใบไม้ ตัวแปรควบคุม 1.น้ำสนิม 2. เวลา 4.ขอบเขตของการศึกษา ในการศึกษาครั่งนี้มีขอบเขตการศึกษาดังนี้ 4.1 สิ่งที่ศึกษา 1) ศึกษาความเป็นมาของผ้าพิมพ์ลายธรรมชาติจากใบไม้ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ และขั้นตอนการ ทำผ้าพิมพ์ธรรมชาติจากใบไม้ 2) น้ำสนิม 4.2 ระยะเวลา มกราคม – มกราคม 2566 4.3 สถานที่กศน.ตำบล 5.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5.1 ได้สืบสานภูมิปัญญาไทย 5.2 ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดผลิตภัณฑ์ 5.3 ได้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีลวดลายสีสันที่สวยงาม 5.4 ได้หันกลับมาสวมใส่ผ้าพิมพ์ลายจากธรรมชาติที่ปลอดสารเคมี ไม่ทำลายสุขภาพ
บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง ผ้าพิมพ์ลายจากธรรมชาติได้จาก ใบไม้ ดอกไม้ต่างๆ สามารถนำมาพิมพ์ใส่ผืนผ้าที่เป็นผ้า จากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ย้อมได้ทั้งแบบต้มและแบบนึ่ง สีใบไม้ดอกไม้เป็นสีที่ต้อง อาศัยสารช่วยในการกระตุ้นช่วยให้สีออกเร็ว และให้สีติดแนบกับเส้นไหมหรือฝ้ายทำให้สีไม่ตกเวลา ซัก (วิษณุ ดาทอง, 2553) ข้อดีของสีธรรมชาติ - ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ผลิตและผู้บริโภค - น้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม - วัตถุดิบหาง่ายในชุมชนไม่ต้องใช้สารเคมีที่นำเข้าจากต่างประเทศ - การพิมพ์ลายผ้าจากวัสดุธรรมชาติสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง เป็นความรู้ที่เพิ่มพูนตามประสบการณ์ สามารถถ่ายทอดให้คนแก่ คนรุ่นหลัง เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น - การพิมพ์สีธรรมชาติมีความหลากหลายตามชนิด อายุและส่วนของพืชที่ใช้ ตลอดจนชนิดของสาร กระตุ้นหรือขั้นตอนการย้อม - การพิมพ์สีธรรมชาติทำให้เห็นคุณค่าและรู้จักใช้ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ข้อจำกัดของสีธรรมชาติ - ปริมาณสารสีในวัตถุดิบย้อม สีมีน้อย ทำให้สีติดได้ไม่เข้ม หรือต้องใช้วัถุดิบปริมาณมาก - การพิมพ์ลายผ้าจากธรรมชาติถ้าไม่มีวิธีการ และจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ย่อมจะกลายเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมได้
บทที่ 3 วิธีการศึกษา 3.1 วัสดุอุปกรณ์ ลำดับที่ รายการ จำนวน/หน่วย 1. ผ้าฝ้ายสีขาว 4 เมตร 2. กะละมังแช่ผ้า 3 ใบ 4. หม้อซึ้ง 1 เถา 5. เตาถ่าน 1 อัน 6. แผ่นพลาสติกห่อ 1 ม้วน 7. เชือกมัด 1 ม้วน 8. ใบไม้ 9. สารส้ม 1 กิโลกรัม 10. เบกกิ้งโซดา 50 กรัม 11. น้ำส้มสายชู 1 ลิตร 12. น้ำสนิม 1 ลิตร 3.2 วิธีการศึกษา ตอนที่ 1 การพิมพ์ลายผ้าจากธรรมชาติจากใบไม้ 1) นำน้ำที่จะย้อม (ต้องเป็นผ้าที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ) ไปซักให้สะอาด ผึ่ง ให้แห้ง 2) นำไปแช่ในน้ำมอร์แดนท์ นาน 2 ชั่วโมง 3) นำใบไม้ไปชุ่มในน้ำสนิมเหล็กประมาณ 30 นาที 4) นำผ้าไปแช่น้ำมอร์แดนท์ 5) นำใบไม้ที่แช่สนิมเหล็ก สะบัดน้ำออกให้หมด แล้วนำไปวางบนผ้า จากนั้นนำพลาสติกมา คลุมทับเพื่อกันไม่ให้สีของใบไม้แผ่กระจายไปเปรอะผ้าส่วนที่ไม่ต้องการ แล้วมัดให้แน่น ป้องกันไม่ให้สีของใบไม้แผ่กระจายลงบนผืนผ้าในส่วนมี่ไม่ต้องการ 6) นำไปนึ่งหรือต้ม ถ้าใช้เตาแก๊ส ใช้ไฟระดับอ่อนที่สุดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง ทิ้งไว้จนเย็นจึงค่อยแกะออก และทิ้งไว้นานเท่าไรสีก็จะติดทนมากขึ้น
ตอนที่ 2 ทำการศึกษา ชนิดของใบไม้ 1) ใบแก่ 2) ใบอ่อน ตอนที่ 3 ศึกษาการเปรียบเทียบระหว่างใบแก่ ใบอ่อน 1) นำใบไม้แก่ที่แช่น้ำสนิมแล้วมาวางบนผ้า 2) นำใบไม้อ่อนที่แช่น้ำสนิมแล้วมาวางบนผ้า 4) ม้วนผ้าตามขั้นตอนที่ 5-6 5) เมื่อนึ่งครบเวลาที่กำหนด แกะพลาสติกออกพบว่าใบไม้อ่อนจะออกสีติดผ้าชัดเจนมากกว่า ใบไม้แก่ ตอนที่ 4 ทำการศึกษาระยะเวลาในการแช่น้ำสนิมกับไม่แช่น้ำสนิม 1) การแช่ใบไม้ในน้ำสนิมใช้เวลาแช่ 30 นาที 2) ทำการล้างใบไม้กับน้ำเปล่า 3) บันทึกเวลา ตอนที่ 5 ศึกษาการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของน้ำสนิมและน้ำธรรมดา 1) นำใบไม้ที่แช่น้ำสนิมมาวางบนผ้าตามขั้นตอนที่ 1 2) นำใบไม้ที่แช่น้ำเปล่ามาวางบนผ้าเช่นข้อ 1 4) ม้วนผ้าตามขั้นตอนที่ 4 5) เมื่อนึ่งครบเวลาที่กำหนด แกะพลาสติกออกพบว่าใบไม้ที่แช่น้ำสนิมสีจะออกติดผ้าชัดเจน มากกว่าใบไม้ที่แช่น้ำธรรมดา
บทที่ 4 ผลการศึกษา การทำผ้าพิมพ์สีจากธรรมชาติสามารถทำได้ง่าย เพียงศึกษาข้อมูลจากผู้รู้และภูมิปัญญา ท้องถิ่นกระบวนการผลิตผ้าพิมพ์สีธรรมชาติ ใช้องค์ความรู้ ทั้งศาสตร์และศิลปะ ผู้สนใจในการทำผ้าสี ธรรมชาติต้องสนใจศึกษาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เบื้องต้นจะทำห้เข้าใจเกี่ยวกับสารที่เป็นสื่อในการจับ สีหรือที่รียกกันว่าโมเดิร์น (mordant) และสารช่วยเปลี่ยนสีหรือโมดิไฟเออร์ (modifier) เพื่อช่วยทำ ให้สีใบติดทนนานตลอดจนความป็นกรดและด่างที่มีผลต่อธรรมชาติที่พิมพ์ลงบนผืนผ้า ผ้าแต่ละชนิด จะรองรับสีจากธรรมที่แตกต่างกันแม้ว่าสีนั้นจะมาจากใบไม้ชนิดพันธุ์เดียวกันก็ตาม เมื่อนำมาทดลอง ผ่านกระบวนการแล้วพบว่าใบไม้แต่ละใบซ่อนอาหารไว้มากมาย เช่น ใบสักทองเมื่อนำมาพิมพ์ลงบน ผืนผ้าแล้วจะให้สีม่วงชมพูใบเพกาจะให้สีเหลืองอมส้ม น้ำสนิม ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีต่อใบไม้ เหมือนเป็นการดูดสีหรือให้ใบไม้ดอกไม้คายสีออกมาให้ มากที่สุด ปัญหาในการดำเนินงาน 1. การม้วนผ้าไม่สม่ำเสมอทำให้ใบไม้เคลื่อนตัวจากจุดที่ต้องการ 2. การมัดผ้าไม่แน่นพอทำให้สีกระจายไปโดนส่วนที่ไม่ต้องการ การแก้ปัญหา 1. ต้องมีผู้ช่วยจับชายผ้าไว้ให้เคลื่อน 2. ต้องทำการมัดผ้าให้แน่นพันหลายๆรอบจากเดิม
บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผล ใบไม้ในป่าชุมชนสามารถนำมาสร้างสีสันต์งานบนผืนผ้าได้อย่างงดงาม ลวดลายของใบไม้สามารถ มา รังสรรค์สร้างศิลปบนผืนผ้าเพื่อสร้างมูลค่าเป็นอาชีพได้ จากการทดลองเปรียบแทบการใช้ใบแก่กับการใช้ใบอ่อน พบว่า ใบอ่อนมีประสิทธิภาพในการคายสี ติดผ้าได้มากกว่าใบแก่ และการใช้น้ำสนิมมาแช่ใบไม้จะทำให้ใบไม้คายสีออกมามากกว่าการล้างแช่ในน้ำเปล่า 5.2 อภิปรายผล ใบไม้จากต้นไม้ธรรมชาติสามารถนำมาทำเป็นงานศิลปบนผืนผ้าได้ โดยการพิมพ์ลวดลายบนผ้า โดย การใช้ผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ เช่นผ้าฝ้าย ผ้าไหม โดยผ่านกระบวนการทางธรรมชาติจากใบไม้เป็นผลิตภัณฑ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์โลก ไม่ใช้สารเคมี เมื่อนำใบไม้หลากชนิดมาวางลงบนตัวเนื้อผ้า ผ่านกระบวนการตาม ธรรมชาติ ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ผ้าสีหลากชนิดไม่ซ้ำกัน เสมือนเป็นหนึ่งเดียวของผลิตภัณฑ์แต่ละครั้งเนื่องจาก ธรรมชาติมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามฤดูการและสภาวะแวดล้อม ส่งผลให้สีสันในใบไม้ทรงคุณค่าและ สวยงามตามธรรมชาติ เชื่อมโยงกับวิถีธรรมชาติ ง่ายต่อการบำรุงรักษา ประหยัดพลังงานและต้นทุนในการ ดูแล 5.3 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมัดผ้าให้แน่นป้องกันไม่ให้สีของใบไม้แผ่กระจายลงบนผืนผ้าส่วนที่ไม่ต้องการ 2. ควรนำใบไม้มาแช่น้ำสนิมก่อนทุกครั้งเพื่อใบไม้จะได้คายสีออกให้มากที่สุด
เอกสารอ้างอิง https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2 %E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B8 %88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0 %B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%A A%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B 8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89&sxsrf=AJOqlzVPf cvkFQ8ILMpyQnkyvQ2Fn5jKmA%3A1678443628636&source=hp&ei=bAQLZIqw JKGgseMPiZ6cu สูตรการทำมอร์แดนท์ https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8 %A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0 %B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%94 %E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C&sxsrf=AJOqlzUQguQksrI1Vdhny41uA 4KZ6iJqrA%3A1678443670823&ei=lgQLZNDwMeKcseMPn8mGqAw&ved=0ahU KEwjQk5