สปั ดาห์ที่ 4-5
โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา
แผนการจัดการเรียนรู้
ภาคเรียนท่ี 1/…......……... ชือ่ ผูส้ อน ……………………………………...….…….
แผนการจดั กจิ กรรมยวุ กาชาด ชัน้ ....ประถมศึกษาปีที่ 4…… จานวน ……2…...คาบ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เร่ือง หนา้ ท่ีกาชาดสากล
1. สาระสาคัญ
กาชาดสากลมชี ื่อเรยี กอีกอย่างหนง่ึ วา่ องค์กรกาชาดและเส้ยี ววงเดอื นแดงระหว่างประเทศโดยมีสานกั งานต้ังอยู่ ณ
กรุงเจนวี า ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ ประกอบด้วยหนว่ ยงานหลัก 3 หนว่ ยงาน คือ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ
สหพนั ธส์ ภากาชาดและสภาเสย้ี ววงเดอื นแดงระหวา่ งประเทศ และสภากาชาดและสภาเสีย้ ววงเดือนแดงประจาแต่ละ
ประเทศ
กาชาด มีหนา้ ที่ บาเพ็ญประโยชนต์ ่อสว่ นรวม ช่วยเหลอื เพ่อื นมนุษย์ทัง้ ในยามปกติและในยามสงครามโดยไม่แบง่
เช้ือชาติ ชนชน้ั วรรณะ
2. มาตรฐานการเรียนรู้
1. บอกหน้าที่กาชาดสากลอย่างถกู ต้องได้ (K)
2. เขียนหรอื วาดภาพแสดงเครือ่ งหมายกาชาดสากลอย่างถูกตอ้ งได้ (P)
3. เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้หน้าที่กาชาดสากลดว้ ยความสนใจและกระตอื รือรน้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ คาบท่ี 1
คาบท่ี กิจกรรมการเรยี นการสอน
1-2 ผนู้ ากลุ่มยุวกาชาด หรอื รองผู้นากล่มุ ยุวกาชาด หรอื ครูผ้สู อน ควรจดั กจิ กรรม
ตามลาดับขัน้ ดงั น้ี
ขั้นตอนที่ 1: พธิ เี ปดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดครัง้ ที่ 4–5 (เข้าแถวรปู ครง่ึ วงกลม
ชกั ธงยวุ กาชาดขึน้ สยู่ อดเสา สงบนงิ่ กล่าวคา
ปฏิญาณตนยุวกาชาด ตรวจและรายงาน นดั หมายและ
ช้แี จง)
ขน้ั ตอนที่ 2: ให้สมาชิกยวุ กาชาดรว่ มเล่นเกมหรือร้องเพลงตามท่ผี นู้ ากลุ่มยุวกาชาด
หรือรองผนู้ ากลมุ่ ยุวกาชาด หรือครูผู้สอนนาปฏิบัติ
ขน้ั ตอนท่ี 3: การดาเนินกจิ กรรมการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมยวุ กาชาดครง้ั ที่ 4–5 ผู้นา
กลุม่ ยุวกาชาดหรือรองผูน้ ากลุ่มยุวกาชาด หรือครูผู้สอน สามารถแบ่ง
ลกั ษณะการจัดกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ดังน้ี
คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ครง้ั ท่ี 4 เร่อื งหน้าท่ีกาชาดสากล
1. ให้สมาชิกยวุ กาชาดอาสาสมัครออกมานาเสนอผลการศึกษาค้นควา้
ท่ไี ดร้ บั มอบหมายในการเปิด–ปิดกิจกรรมฯ คร้งั ทผี่ ่านมาให้เพอื่ นสมาชกิ ยุว
กาชาดฟังเพ่ือเปน็ การทบทวนความรู้
2. ครผู ู้สอนใหค้ วามรู้เก่ียวกบั เรื่องหน้าที่กาชาดสากลและยกตวั อยา่ ง
ประกอบ
3. สมุ่ สมาชกิ ยุวกาชาดใหแ้ สดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั หนา้ ที่กาชาดโดย
ให้ระบุบทบาทความสามารถทจ่ี ะปฏิบัตไิ ด้
4. ให้สมาชิกยวุ กาชาดรว่ มกันบาเพ็ญประโยชนร์ อบบริเวณโรงเรียน
เพอื่ กระตุ้นใหเ้ ห็นถงึ ความสาคญั ในการบาเพ็ญประโยชน์ต่อ
ส่วนรวม มีความเสยี สละ มีเมตตากรุณา และไม่เอาเปรยี บผอู้ ่ืน
5. มอบหมายใหส้ มาชิกยวุ กาชาดไปศึกษาค้นคว้าเร่อื ง หน่วยงาน
หลกั ของกาชาดสากลจากส่ืออินเทอรเ์ น็ตหรือสื่อต่างๆ ใน
หอ้ งสมดุ โรงเรียนแลว้ นามาเสนอในการเปดิ –ปิดกิจกรรมฯ ครงั้
ตอ่ ไป คาบท่ี 2
คร้งั ท่ี 5 หนว่ ยงานหลกั ของกาชาดสากล
1.นาสมาชิกยวุ กาชาดสนทนา เพอื่ ทบทวนความรู้และการปฏิบัติ
กจิ กรรมในคาบเรยี น ที่ผา่ นมา
2.ใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดอาสาสมคั รออกมานาเสนอผลการศึกษ
ตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายในการเปิด–ปดิ กิจกรรมฯ ครั้งท่ีผ่านมาโดย
ให้สมาชิกยวุ กาชาดสรุปความรทู้ ่ีได้จากการนาเสนอรว่ มกนั
3. ครผู สู้ อนให้ความรเู้ พม่ิ เติมเกีย่ วกับเร่ืองหน่วยงานหลกั ของ
กาชาดสากล
4. ใหส้ มาชิกยุวกาชาดรว่ มกันตอบคาถามท่เี ก่ยี วกบั เน้ือหาทีใ่ ห้
ความรูเ้ พ่ือตรวจสอบ ความเข้าใจในเนื้อหาการเรยี นรขู้ องสมาชกิ
ยวุ กาชาด
5. สมาชิกยุวกาชาดสรปุ ความรู้ทไี่ ดร้ บั โดยครูผู้สอนใหค้ วามรู้
เพิม่ เตมิ
ขั้นตอนที่ 4: การวดั และการประเมินผลการเรยี นรู้
1. วัดและประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤตกิ รรมของสมาชกิ ยุวกาชาด
โดยประเมินจากความสนใจและความตัง้ ใจในการเข้าร่วม
กิจกรรม (คร้งั ท่ี 4–5)
2. วัดและประเมินผลจากการซกั ถามสมาชิกยวุ กาชาด โดยการ
สนทนาเก่ียวกับหน้าท่ีกาชาดสากล (คร้งั ที่ 4) หนว่ ยงานหลัก
ของกาชาดสากล (ครงั้ ท่ี 5)
3. วดั และประเมินผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชิกยุวกาชาด
1) ปฏิบตั กิ จิ กรรมจรงิ
2) ทาแบบทดสอบด้านความรู้ประจาหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ตอนที่
1
4. วดั และประเมนิ ผลด้านทักษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมิน
ตอนท่ี 2 (ขอ้ มูลทีใ่ ชป้ ระกอบดไู ดจ้ ากตารางวเิ คราะห์โครงสรา้ ง
หน่วยการเรยี นรฯู้ )
5. วัดและประเมินผลด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ในภาคผนวก (ขอ้ มูลท่ีใช้ประกอบดู
ได้จากตารางวิเคราะห์โครงสร้างหนว่ ยการเรียนรู้ฯ)
ขนั้ ตอนท่ี 5: พิธเี ปดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดคร้ังที่ 1–2 (เขา้ แถวรปู คร่ึงวงกลม
ตรวจและรายงาน นดั หมายและช้แี จง ชกั ธงยุวกาชาด
ลง เลิกแถว)
4. ส่อื /อุปกรณ์ /แหลง่ การเรยี นรู้
5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1.วดั และประเมินผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรมของของสมาชกิ ยุวกาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความต้งั ใจ
ในการเข้ารว่ ม
2.วัดและประเมินผลจากการซักถามสมาชกิ ยวุ กาชาด โดยการสนทนาเกีย่ วกับ หลกั การกาชาดและความหมายของ
หลกั การกาชาดในแตล่ ะข้อ และแนวทางในการนาหลักการกาชาดไป
3.วัดและประเมินผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชิกยวุ กาชาดปฏิบัติกจิ กรรมจริง
ลงชือ่ .......................................................ผูส้ อน
ลงชื่อ.......................................................ฝ่ายวชิ าการ
ลงช่อื .......................................................ผู้อานวยการ
สปั ดาห์ท่ี 6-7
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี 1/…......……... ชอื่ ผู้สอน ……………………………………...….…….
แผนการจดั กิจกรรมยุวกาชาด ชั้น ....ประถมศกึ ษาปีท่ี 4…… จานวน ……2…...คาบ
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง คาปฏิญาณตนของยวุ กาชาด
1. สาระสาคญั
คาปฏญิ าณตนของยุวกาชาด มี 3 ข้อ โดยยุวกาชาดต้องท่องจาและปฏบิ ัติให้ไดด้ งั น้ี ข้อ 1 ขา้ ฯ จะจงรกั ภักดตี ่อชาติ
ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ หมายถงึ การประพฤตติ นเปน็ พลเมอื งดี ปฏบิ ัติตามกฎหมาย เคารพและปฏบิ ตั ิตามจารตี ประเพณีและถวาย
ความจงรักภกั ดตี อ่ พระมหากษัตริย์ ข้อท่ี 2 ขา้ ฯ จะเป็นมิตรกับคนทวั่ ไป และจะบาเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ กส่ ่วนรวม หมายถงึ
การปฏิบัตติ นเป็นผู้มีความโอบอ้อมอารี เปน็ มติ รกับบคุ คลทวั่ ไป และพยายามกระทาตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ชว่ ยเหลือผู้อ่ืนอย่ตู ลอดเวลา
ขอ้ ท่ี 3 ข้าฯ จะรักษาอนามัยของตนเอง และสง่ เสริมอนามัยของผู้อนื่ หมายถึง ใหย้ ุวกาชาดทุกคนฝกึ การปฐมพยาบาลและเคห-
พยาบาลเพือ่ สุขภาพอนามัยของตนเอง และพร้อมที่จะช่วยเหลอื สขุ ภาพอนามยั แกช่ มุ ชนหรอื บคุ คลท่ัวไป
2. มาตรฐานการเรียนรู้
1. กล่าวคาปฏญิ าณตนของยุวกาชาดอยา่ งถูกต้องได้ (K)
2. แสดงภาพการปฏบิ ตั ติ นตามคาปฏญิ าณตนของยวุ กาชาดอยา่ งถูกต้องได้ (P)
3. เขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกบั คาปฏญิ าณตนของยุวกาชาดรว่ มกับผู้อืน่ ด้วยความสนใจและ
กระตอื รือร้น (A)
3. สาระการเรยี นรู้ : คาปฏิญาณตนของยุวกาชาด คาบท่ี 1
คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1-2 ผ้นู ากลมุ่ ยุวกาชาด หรอื รองผู้นากลุ่มยุวกาชาด หรือครูผู้สอน ควรจัดกจิ กรรม
ตามลาดบั ข้ัน ดงั นี้
ข้ันตอนที่ 1: พิธีเปิดกิจกรรมยุวกาชาดคร้ังที่ 6–7 (เข้าแถวรูปครึ่งวงกลม
ชกั ธงยุวกาชาดขนึ้ สู่-ยอดเสา สงบนิง่ กลา่ วคา
ปฏญิ าณตนยวุ กาชาด ตรวจและรายงาน นัดหมาย
และชแี้ จง)
ขัน้ ตอนท่ี 2: ใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดร่วมเลน่ เกมหรือร้องเพลงตามที่ผนู้ ากลุ่มยวุ กาชาด
หรือรองผนู้ ากลมุ่
ยุวกาชาด หรอื ครผู สู้ อนนาปฏบิ ตั ิ
ขนั้ ตอนที่ 3: การดาเนนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมยวุ กาชาดครัง้ ท่ี 6–7 ผู้นา
กลุม่ ยุวกาชาดหรือรองผู้นากล่มุ ยวุ กาชาด หรือครูผสู้ อนสามารถแบ่ง
ลกั ษณะการจดั กจิ กรรมได้ตามความเหมาะสม ดังน้ี
คาบท่ี กจิ กรรมการเรียนการสอน
ครง้ั ที่ 6 เร่อื งคาปฏญิ าณตนของยุวกาชาด
1. สมาชิกยวุ กาชาดสนทนาเก่ียวกบั การเรยี นรู้และการปฏิบัติกจิ กรรม
ในการเปิด–ปิดกิจกรรมฯ ครั้งทผ่ี า่ นมา เพื่อเป็นการทบทวนความรู้
2. ใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดร่วมกนั กล่าวคาปฏญิ าณตนของยุวกาชาดทงั้ 3
ขอ้ โดยครูผสู้ อนเขียนคาปฏิญาณตนทงั้ 3 ขอ้ ลงบนกระดาน
3. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดร่วมกนั ระดมสมองเพ่ือให้ความหมายของคา
ปฏิญาณตนและแนวทางในการแสดงออกตามคาปฏิญาณตนของยวุ กาชาด
ในข้อที่ 1-3 โดยในแต่ ละข้อ ครูผูส้ อนให้ความร้เู พ่ิมเตมิ
4. ใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาด ร่วมกันกลา่ วคาปฏิญาณตนของยวุ กาชาดทงั้ 3
ข้อ ใหจ้ น คล่องแคล่วและพร้อมเพรยี งกัน
คาบท่ี 2
ครัง้ ท่ี 7 เร่อื งคาปฏิญาณตนของยวุ กาชาด (ต่อ)
1. ใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดสนทนาเกี่ยวกับการเรยี นรู้และการปฏิบัติ
กจิ กรรมในการเปดิ –ปิดกจิ กรรมฯ ครง้ั ที่ผา่ นมา เพ่ือเป็นการทบทวนความรู้
2. เฉลยคาตอบจากแบบทดสอบความร้ปู ระจาหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4
ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดทราบ และให้สมาชกิ สอบถามตามประเด็นทสี่ งสยั
เพมิ่ เติมโดยให้สมาชกิ ยวุ กาชาด ท่ีเลอื กคาตอบไมถ่ ูกตอ้ งใหแ้ ก้ไขให้
ถกู ต้อง
3. ใหค้ วามรูแ้ ละความสาคญั เกย่ี วกบั คาปฏิญาณตนของสมาชกิ ยุ
กาชาดแก่สมาชกิ ยุวกาชาด
4. ให้สมาชิกยวุ กาชาดรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั แนวทางการ
ปฏิบตั ิตนของ ยุวกาชาดทัง้ 3 ข้อ
5. ใหค้ วามร้แู ละแนวทางการปฏบิ ตั ิตามคาปฏิญาณของยุวกาชาดท่ี
ถกู ต้องแก่สมาชิก ยุวกาชาด และใหบ้ นั ทึกความร้ลู งในสมุดบนั ทึก
ขัน้ ตอนท่ี 4: การวัดและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วัดและประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤติกรรมของสมาชกิ ยุวกาชาด
โดยประเมนิ จากความสนใจและความตั้งใจในการเขา้ รว่ ม
กจิ กรรม (คร้ังท่ี 6–7)
2. วัดและประเมนิ ผลจากการซกั ถามสมาชกิ ยุวกาชาด โดยการ
สนทนาเกย่ี วกบั คาปฏญิ าณตนของยวุ กาชาด (ครงั้ ท่ี 6–7)
คาบท่ี กจิ กรรมการเรียนการสอน
3. วดั และประเมินผลจากการทดสอบ
1) ปฏิบัติกจิ กรรมจริง
2) ทาแบบทดสอบดา้ นความรู้ประจาหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 5 ตอนท่ี
1
4. วดั และประเมนิ ผลด้านทักษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมนิ
ตอนท่ี 2 (ขอ้ มูลทใี่ ช้ประกอบดไู ดจ้ ากตารางวิเคราะหโ์ ครงสรา้ ง
หน่วยการเรียนรูฯ้ )
5. วดั และประเมนิ ผลดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และ
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นภาคผนวก (ข้อมูลที่ใชป้ ระกอบดู
ไดจ้ ากตารางวิเคราะห์โครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรฯู้ )
ขั้นตอนที่ 5: พิธเี ปดิ กิจกรรมยุวกาชาดคร้ังที่ 1–2 (เขา้ แถวรปู ครงึ่ วงกลม
ตรวจและรายงาน นัดหมายและชแี้ จง ชกั ธงยวุ กาชาดลง
เลกิ แถว)
4. ส่ือ/อปุ กรณ์ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนยวุ กาชาด ป. 4 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน สมบูรณแ์ บบ ของบริษัท สานักพิมพ์วัฒนาพานชิ จากัด
2. แผนภมู แิ สดงคาปฏิญาณตนของสมาชิกยวุ กาชาด
3. พระบรมฉายาลกั ษณห์ รอื พระบรมสาทสิ ลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว และสมเดจ็ พระนางเจ้า-
สริ ิกิติ์ พระบรมราชินนี าถ
4. ชดุ พระหมบู่ ชู า และธงชาติไทย
5. แผนภมู แิ สดงวิธกี ารเลน่ เกมและอุปกรณ์ประกอบ
6. แผนภมู เิ พลงและเครื่องดนตรปี ระกอบจงั หวะ
5. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
1.วัดและประเมนิ ผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรมของของสมาชกิ ยวุ กาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความตั้งใจ
ในการเข้ารว่ ม
2.วัดและประเมินผลจากการซักถามสมาชกิ ยุวกาชาด โดยการสนทนาเกย่ี วกบั หลักการกาชาดและความหมายของ
หลักการกาชาดในแตล่ ะข้อ และแนวทางในการนาหลกั การกาชาดไป
3.วดั และประเมินผลจากการทดสอบ โดยใหส้ มาชกิ ยุวกาชาดปฏิบัติกจิ กรรมจริง
ลงช่ือ.......................................................ผสู้ อน
ลงชือ่ .......................................................ฝา่ ยวิชาการ
ลงชื่อ.......................................................ผอู้ านวยการ
สัปดาห์ที่ 8-10
โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี 1/…......……... ชื่อผู้สอน ……………………………………...….…….
แผนการจัดกิจกรรมยุวกาชาด ชนั้ ....ประถมศึกษาปที ี่ 4…… จานวน ……3…...คาบ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง กฎจราจรเบ้อื งตน้ และสัญญาณจราจร
1. สาระสาคัญ
กฎจราจร คือ ข้อบงั คับในการใชร้ ถใช้ถนน ซง่ึ ถือเปน็ กฎแห่งความปลอดภัย ทีผ่ ้ใู ชร้ ถใช้ถนนตอ้ งเรียนรู้และ
ปฏิบัติตาม สว่ นสัญญาณจราจร หมายถงึ เครื่องหมายทแี่ สดงใหผ้ ใู้ ชถ้ นนปฏบิ ัตติ าม สัญญาณจราจรท่ียวุ กาชาดควรทราบ
ได้แก่ 1. สญั ญาณไฟ โดยท่ัวไปสัญญาณไฟน้นั มักจะตดิ ตั้งในบริเวณทางแยกหรือทางข้ามเพ่ือใหผ้ ู้ใชร้ ถใชถ้ นนได้ปฏิบตั ติ าม
2. สัญญาณมอื ตามทางแยกและบริเวณถนนทม่ี ีการจราจรแออดั มากๆ จะมเี จา้ หน้าทห่ี รอื ตารวจจราจรคอยแสดงสญั ญาณ
มอื และ 3. สญั ญาณจราจร เปน็ ปา้ ยเขียนเป็นรปู หรอื เครอ่ื งหมายตา่ งๆ
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
1. บอกความหมายของกฎจราจรเบ้อื งต้นและสญั ญาณจราจรอยา่ งถูกตอ้ งได้ (K)
2. อธิบายเครอื่ งหมายสญั ญาณจราจรได้ถูกต้องอย่างนอ้ ย 3 ชนดิ (K)
3. แสดงการปฏิบตั ิตามกฎจราจรอย่างถูกต้องได้ (P)
4. เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เก่ยี วกับกฎจราจรเบ้ืองต้นและสัญญาณจราจรรว่ มกับผู้อื่นดว้ ยความ
สนใจและกระตือรือรน้ (A)
3. สาระการเรียนรู้ 1. กฎจราจรเบื้องต้น 2. สัญญาณจราจร คาบที่ 1
คาบท่ี กจิ กรรมการเรียนการสอน
1-3 ผู้นากลมุ่ ยุวกาชาด หรอื รองผนู้ ากลุ่มยวุ กาชาด หรอื ครผู สู้ อน ควรจัดกจิ กรรมตามลาดบั
ขั้น ดงั นี้
ข้นั ตอนที่ 1: พิธเี ปิดกิจกรรมยวุ กาชาดคร้งั ที่ 8–10 (เขา้ แถวรูปคร่ึงวงกลม ชกั
ธงยุวกาชาดขน้ึ ส-ู่ ยอดเสา สงบนิ่ง กล่าวคาปฏญิ าณตน
ยวุ กาชาด ตรวจและรายงาน นดั หมายและชีแ้ จง)
ข้ันตอนที่ 2: ให้สมาชกิ ยวุ กาชาดรว่ มเล่นเกมหรอื ร้องเพลงตามทีผ่ นู้ ากลุ่มยุวกาชาด หรอื
รองผู้นากลุ่มยุวกาชาด หรือครูผ้สู อนนาปฏบิ ัติ
ขน้ั ตอนที่ 3: การดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมยุวกาชาดครง้ั ท่ี 8–10 ผ้นู า
กลุ่ม
ยุวกาชาดหรือรองผู้นากลุ่มยวุ กาชาด หรอื ครูผสู้ อน สามารถแบ่งลักษณะ
การจัดกจิ กรรมได้ตามความเหมาะสม ดังนี้
คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน
คาบที่ 2
คร้งั ที่ 8 เรื่องกฎจราจรเบ้ืองตน้
1. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดสนทนาเก่ยี วกบั การปฏบิ ัติตามคาปฏิญาณตนและ
ให้รว่ มกนั กล่าวคาปฏญิ าณตนของยุวกาชาดทง้ั 3 ข้อ อย่างพร้อม
เพรยี งกัน เพ่ือเป็นการทบทวนความรใู้ นการเปดิ –ปดิ กิจกรรมฯ ครง้ั ท่ี
ผ่านมา
2. เฉลยคาตอบจากแบบทดสอบความรู้ประจาหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ให
สมาชิกยุวกาชาดทราบ และใหค้ วามรตู้ ามประเดน็ ท่สี นใจเพมิ่ เตมิ โดย
ให้สมาชิกยุวกาชาดทเี่ ลือกคาตอบไม่ถกู ต้องใหแ้ กไ้ ขให้ถูกต้อง
3. ใหส้ มาชกิ ยุวกาชาดระดมความคดิ เห็นเกยี่ วกับความหมายกฎจราจรและ
สัญญาณจราจรเบ้อื งต้นโดยครูผู้สอนใหค้ วามรู้เพิม่ เตมิ
4. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดอาสาสมคั รออกมาสรปุ ความเข้าใจทีถ่ ูกตอ้ งเกย่ี วกบั
ความรู้ทไ่ี ดร้ บั แลว้ นาความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปถา่ ยทอดใหผ้ ู้ปกครองฟงั
คร้ังที่ 9 เร่อื งกฎจราจรเบ้อื งต้น (ตอ่ )
ครั้งที่ 10 1. นาสมาชิกยวุ กาชาดร่วมพดู คุยเพอื่ ทบทวนความรู้ และแนวทางการ
ปฏบิ ตั เิ กีย่ วกบั กฎการจราจรเบอื้ งตน้
2. ให้สมาชิกยุวกาชาดอาสาสมคั รบอกถงึ แนวทางทค่ี วรปฏบิ ัติในขณะอยู่
บนท้องถนนจากประสบการณข์ องตนเองให้เพอื่ นสมาชิกฟงั
3. นาสมาชกิ ยวุ กาชาดอา่ นเนอ้ื หาในหัวขอ้ การปฏิบัตติ ามกฎจราจรของ
คนเดินเท้า ในหนงั สือฯ หนา้ 31 เพ่ือเพิ่มทกั ษะการอา่ น
4. ให้ความรทู้ ่ีถกู ต้องเพม่ิ เติมแล้วให้สมาชิกยวุ กาชาดสรปุ ความรู้ทไี่ ดร้ บั
ร่วมกนั
คาบที่ 3
เร่อื งสัญญาณจราจร
1. ให้สมาชิกยวุ กาชาดอาสาสมคั รประมาณ 3-4 คน ออกมาเล่าถึงการ
เรียนรู้และการปฏิบตั กิ ิจกรรมในการเปดิ –ปิดกจิ กรรมฯ ครั้งทผี่ า่ นมา
เพอื่ เปน็ การทบทวนความรู้
2. สมุ่ สมาชิกยุวกาชาดออกมาเล่าถึงประสบการณเ์ กย่ี วกับการปฏิบัติ
ตนเองหรอื การปฏบิ ัตขิ องสมาชกิ ในครอบครวั เกีย่ วกบั การปฏบิ ตั ิขณะ
อยบู่ นท้องถนนให้เพอ่ื สมาชิกฟงั
3. นาสมาชกิ ยุวกาชาดอ่านเนือ้ หาในหัวขอ้ สัญญาณจราจร ในหนังสือฯ
หน้า 34 และให้สมุ่ สมาชกิ ยวุ กาชาดออกมาอธบิ ายเคร่อื งหมาย
สัญญาณจราจรไดถ้ กู ต้องอยา่ งนอ้ ย 3 ชนดิ และการปฏบิ ัติตามกฎ
จราจรอย่างถูกต้อง เพอ่ื เพิม่ ทกั ษะการอ่าน
คาบที่ กจิ กรรมการเรียนการสอน
4. ให้ความร้ทู ่ถี ูกต้องเพิม่ เตมิ แล้วใหส้ มาชิกยวุ กาชาดสรปุ ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั
รว่ มกนั
ขนั้ ตอนที่ 4: การวัดและการประเมินผลการเรยี นรู้ ครงั้ ที่ 8–10
1. วัดและประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤติกรรมของสมาชกิ ยวุ กาชาด โดย
ประเมนิ จากความสนใจและความตง้ั ใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม (คร้ังที่ 8–
10)
2. วดั และประเมินผลจากการซกั ถามสมาชกิ ยวุ กาชาด โดยการสนทนา
เกีย่ วกบั ความหมายของกฎจราจร (ครง้ั ที่ 8) กฎจราจรของคนเดนิ เทา้ ที่
ยุวกาชาดควรทราบ (ครั้งท่ี 9) และสัญญาณจราจร (ครง้ั ที1่ 0)
3. วดั และประเมินผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชกิ ยวุ กาชาด
1) ปฏิบตั ิกิจกรรมจรงิ
2) ทาแบบทดสอบดา้ นความรปู้ ระจาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ตอนท่ี 1
4. วดั และประเมินผลด้านทกั ษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมนิ
ตอนท่ี 1 (ขอ้ มูลทใ่ี ชป้ ระกอบดไู ด้จากตารางวิเคราะหโ์ ครงสรา้ ง
หน่วยการเรยี นรู้ฯ)
5. วัดและประเมนิ ผลดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ในภาคผนวก (ข้อมลู ที่ใชป้ ระกอบดไู ด้จากตาราง
วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งหน่วยการเรยี นร้ฯู )
ขั้นตอนที่ 5: พธิ ีเปิดกจิ กรรมยวุ กาชาดคร้งั ท่ี 8–10 (เข้าแถวรูปคร่ึงวงกลม
ตรวจและรายงาน นัดหมายและช้แี จง ชกั ธงยุวกาชาดลง
เลิกแถว)
3. สือ่ /อปุ กรณ์ /แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนยุวกาชาด ป. 4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น สมบูรณแ์ บบ ของบริษัท สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด
2. ภาพแสดงเครื่องหมายสญั ญาณจราจร
3. แผนภูมิแสดงวธิ ีการเลน่ เกมและอุปกรณ์ประกอบ
4. แผนภูมเิ พลงและเครอ่ื งดนตรปี ระกอบจงั หวะ
5. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
1.วดั และประเมนิ ผลจากการสงั เกตพฤติกรรมของของสมาชิกยวุ กาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความต้งั ใจ
ในการเข้าร่วม
2.วดั และประเมินผลจากการซักถามสมาชกิ ยุวกาชาด โดยการสนทนาเกยี่ วกบั หลักการกาชาดและความหมายของ
หลกั การกาชาดในแตล่ ะข้อ และแนวทางในการนาหลักการกาชาดไป
3.วัดและประเมนิ ผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชิกยวุ กาชาดปฏิบตั ิกิจกรรมจริง
ลงชอื่ .......................................................ผู้สอน
ลงชือ่ .......................................................ฝ่ายวิชาการ
ลงชอ่ื .......................................................ผอู้ านวยการ
สัปดาหท์ ี 11- 13
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1/…......……... ชื่อผูส้ อน …………………………………….....….
แผนการจดั กจิ กรรมยุวกาชาด ชน้ั ....ประถมศึกษาปีท่ี 4…… จานวน ……3...คาบ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6
เรอ่ื ง ความปลอดภัยทางน้า
1. สาระสาคญั
การเดนิ ทางด้วยการโดยสารเรือ สมาชกิ ยวุ กาชาดต้องใชค้ วามระมัดระวังให้มาก เพ่ือความปลอดภยั ควรปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
(1) ขนึ้ หรือลงเรือ ต้องรอใหเ้ รือจอดเทียบทา่ สนิทก่อน (2) ไมแ่ ย่งกันขนึ้ หรือลงเรือ (3) ไม่ลงเรอื ทมี่ ผี ู้โดยสารแนน่ จนเกินไป
(4) เม่ือข้นึ ไปอยบู่ นเรอื แลว้ ควรหาท่นี ัง่ หรือยืนใหเ้ รียบร้อย (5) ไม่นั่งหรือยืนบนกราบเรอื (6) ขณะเรือแล่น ไม่ควรยนื สว่ นใด
ส่วนหนงึ่ ของรา่ งกายออกนอกเรือ (7) ไมว่ ่งิ เลน่ หรือซกุ ซนบนเรอื (8) เช่ือฟังและปฏิบัติตามคาแนะนาของนายทา้ ยเรือ (9)
ถ้าจาเปน็ ต้องเดินทางโดยทางเรอื เปน็ ประจาควรหัดว่ายนา้ ให้เปน็ และรวู้ ธิ ีช่วยตนเองเมื่อพลัดตกน้าโดย (1) ตั้งสตใิ ห้ดี (2)
ปลดสง่ิ ของท่ีหนกั ทีต่ ิดตวั ออก (3) พยายามตะโกนให้คนช่วยเหลอื (4) พยายามลอยตวั เพอ่ื รับอากาศในการหายใจโดยการ
นอนหงายแล้วใช้มือพยุ้ น้าพร้อมกับเท้ากระทุ้มนา้ (5) เคล่ือนตวั เข้าหาฝง่ั หรือสิง่ ท่สี ามารถยดึ เกาะใหต้ วั เราสามารถลอยและ
รบั อากาศในการหายใจได้
2. มาตรฐานการเรียนรู้
1. บอกหลกั การโดยสารทางเรอื อยา่ งปลอดภัยได้ (K)
2. บอกและแสดงวิธีช่วยเหลอื ตนเองเม่ือพลัดตกนา้ อยา่ งถูกวธิ ไี ด้ (K, P)
3. เขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้เกี่ยวกับความปลอดภยั ทางน้ารว่ มกับผู้อืน่ ด้วยความสนใจและ
กระตือรือร้น (A)
3. สาระการเรยี นรู้
1. หลักการโดยสารเรืออยา่ งปลอดภัย
2. วธิ ีการชว่ ยเหลือตนเองเมือ่ พลดั ตกนา้ คาบท่ี 1
คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน
1-3 ผนู้ ากลมุ่ ยวุ กาชาด หรอื รองผู้นากลมุ่ ยวุ กาชาด หรือครูผู้สอน ควรจดั กิจกรรมตามลาดบั ข้ัน ดังน้ี
ขนั้ ตอนท่ี 1: พธิ เี ปดิ กจิ กรรมยวุ กาชาดคร้ังท่ี 11–13 (เขา้ แถวรูปคร่ึงวงกลม ชักธงยุวกาชาดขึ้นส-ู่ ยอด
เสา สงบนิง่ กลา่ วคาปฏญิ าณตนยวุ กาชาด ตรวจและรายงาน นัด
หมายและชแี้ จง)
คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน
ข้ันตอนท่ี 2: ให้สมาชิกยุวกาชาดร่วมเลน่ เกมหรือร้องเพลงตามท่ผี ูน้ ากล่มุ ยุวกาชาด หรอื รองผู้นากลมุ่ ยวุ
กาชาด หรือครูผู้สอนนาปฏบิ ัติ
ขั้นตอนท่ี 3: การดาเนนิ กจิ กรรมการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมยุวกาชาดครั้งที่ 11–13 ผูน้ ากลุม่ ยุวกาชาดหรอื
รองผู้นากลมุ่ ยวุ กาชาด หรือครูผสู้ อน สามารถแบ่งลักษณะการจัดกิจกรรมไดต้ ามความเหมาะสม ดังน้ี
คร้ังท่ี 11 เร่ืองหลกั การโดยสารเรอื อย่างปลอดภัย
1. เฉลยคาตอบจากการทาแบบทดสอบความร้ปู ระจาหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ทีถ่ ูกต้องให้สมาชกิ
ยุวกาชาดทราบ และสอบถามในประเด็นที่สนใจเพ่มิ เติมโดยให้สมาชิกยวุ กาชาดทเ่ี ลือก
คาตอบไม่ถกู ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง
2. นาสมาชิกยวุ กาชาดอาสาสมคั รสนทนาพดู คุยเพื่อแลกเปลีย่ นประสบการณ์เกยี่ วกบั
ประสบการณ์การเดินทางมาทีโ่ รงเรียนของสมาชิกยวุ กาชาดแต่ละคนรว่ มกนั เพื่อเปน็
แนวทางใหท้ ราบขอ้ มูลเกี่ยวกับวธิ กี ารเดนิ ทาง
3. ครูผู้สอนสุ่มสมาชิกยุวกาชาดอาสาสมคั รประมาณ 2–3 คน ที่มปี ระสบการณ์ในการเดินทาง
ดว้ ยการโดยสารเรอื ออกมาเลา่ ประสบการณ์ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟังเกีย่ วกับแนวทางในการปฏิบัติ
โดยครูผู้สอนให้ความรูท้ ี่ถกู ต้องเพิ่มเติม
4. สมาชกิ ยุวกาชาดและครูผู้สอนสรุปความรเู้ กี่ยวกบั แนวทางในการปฏิบตั ขิ ณะการเดินทาง
ด้วยการโดยสารเรือเพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั รว่ มกนั
คาบที่ 2
ครง้ั ท่ี 12 เร่ืองวิธกี ารชว่ ยเหลือตนเองเมื่อพลดั ตกน้า
1. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดร่วมกันพูดคยุ เพอ่ื ทบทวนความรู้และแนวทางการปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั วธิ กี าร
เดนิ ทางด้วยการโดยสารเรอื จากการเรยี นรูแ้ ละการปฏิบตั ิกิจกรรมในการเปดิ –ปิดกจิ กรรมฯ
คร้งั ท่ีผ่านมา
2. นาบตั รภาพ/ตวั อยา่ งของวธิ ีช่วยเหลอื ตนเองใหส้ มาชกิ ยุวกาชาดดู โดยใหร้ ่วมกันสรุปจาก
ความเข้าใจ และจากประสบการณข์ องสมาชิกยวุ กาชาดโดยผู้นากล่มุ หรือรองผนู้ ากลมุ่
หรือครูผูส้ อนให้ความรูท้ ี่ถูกต้องเพิ่มเติม
3. สมาชกิ ยวุ กาชาดระดมความคิดเห็นร่วมกนั ในแนวทางการปฏิบตั ิ
เพื่อความปลอดภัยในขณะเดินทางด้วยการโดยสารเรือจากประสบการณ์
ของสมาชิกยวุ กาชาดโดยครูผู้สอนคอยให้ความรเู้ พ่ิมเติม
4. มอบหมายให้สมาชิกยุวกาชาดแบง่ กลุ่มเป็น 2 กลุ่ม โดยแตล่ ะกลุ่ม สมาชิกของกลมุ่ รว่ มกนั
ระดมความคดิ เหน็ เพ่ือรว่ มกันแสดงบทบาทสมมตุ ทิ เ่ี ก่ยี วกับเหตกุ ารณท์ ี่แสดงถึงการปฏิบัติ
เพอ่ื ความปลอดภัยในการเดินทางด้วยการโดยสารเรอื โดยนามาแสดงในการเปดิ –ปิด
กิจกรรมฯ ครั้งต่อไป ดงั นี้
กลมุ่ ท่ี 1 แสดงบทบาทสมมตุ ิเก่ียวกับหลกั การโดยสารเรืออย่างปลอดภยั
กลุ่มที่ 2 แสดงบทบาทสมมุตเิ กย่ี วกับวิธีการชว่ ยเหลือตนเองเมอ่ื พลดั ตกน้าอยา่ งถูกวธิ ี
คาบที่ กจิ กรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 3
คร้งั ที่ 13 เร่ืองการแสดงบทบาทสมมตุ ิ
1. สมาชกิ ยุวกาชาดแตล่ ะกล่มุ ผลัดเปล่ยี นกันออกมานาเสนอการแสดงบทบาทสมมตุ ติ ามทีแ่ ต่
ละกลุ่มไดร้ บั มอบหมาย
2. ให้สมาชิกยุวกาชาดผลดั เปลีย่ นกันแสดงความคดิ เหน็ และความรทู้ ่ีไดร้ บั จากการดูกลุม่ ของ
เพอ่ื นท่ีแสดงบทบาทสมมุติดังกล่าว
3. ผู้นากลุ่ม หรอื รองผู้นากลุ่ม หรอื ครผู ู้สอนกลา่ วใหค้ าแนะนาเกีย่ วกบั การแสดงบทบาทสมมตุ ิ
ท่ีแตล่ ะกลุ่มแสดง เพ่อื เปน็ การให้ความรแู้ ละคาแนะนาในการนาไปปฏบิ ัติในชีวติ ประจาวัน
ตอ่ ไป
4. สมาชกิ ยวุ กาชาดร่วมสรปุ ความรู้ที่ไดร้ ับจากการแสดงบทบาทสมมุตโิ ดยบันทึกลงในสมุด
บันทึก
ขั้นตอนที่ 4: การวัดและการประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วัดและประเมินผลจากการสงั เกตพฤติกรรมของสมาชกิ ยวุ กาชาด โดยประเมนิ จากความ
สนใจและความตั้งใจในการเข้าร่วมกจิ กรรม (ครงั้ ท่ี 11–13)
2. วดั และประเมนิ ผลจากการซักถามสมาชกิ ยุวกาชาด โดยการสนทนาเก่ียวกับหลกั การ
โดยสารเรืออย่างปลอดภัย (ครง้ั ที่ 11) การช่วยเหลอื ตนเองเมื่อพลัดตกนา้ (ครัง้ ท่ี 12)
3. วดั และประเมินผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชกิ ยวุ กาชาด
1) ปฏิบัติกิจกรรมการแสดงบทบาทสมมุติ
2) ทาแบบทดสอบด้านความรู้ประจาหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ตอนที่ 1
4. วดั และประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมนิ ตอนที่ 2 (ข้อมูลท่ีใช้
ประกอบดไู ด้จากตารางวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ฯ)
5. วัดและประเมินผลดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณสมบตั ทิ ี่อนั พึงประสงค์ (ข้อมูล
ทใี่ ชป้ ระกอบดูได้จากตารางวิเคราะหโ์ ครงสร้างหน่วยการเรียนร้ฯู )
ขนั้ ตอนท่ี 5: พิธีเปิดกิจกรรมยุวกาชาดครง้ั ที่ 11–13 (เขา้ แถวรปู คร่งึ วงกลม ตรวจและรายงาน
นัดหมายและชี้แจง ชกั ธงยุวกาชาดลง เลิกแถว)
4. สอ่ื /อุปกรณ์ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นยวุ กาชาด ป. 4 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น สมบูรณ์แบบ ของบริษัท สานักพิมพ์วัฒนาพานิช จากัด
2. ภาพแสดงลักษณะการโดยสารทางเรือที่ถูกต้อง
3. ภาพแสดงวิธกี ารลอยตวั ในทา่ นอนหงาย
4. แผนภูมิแสดงวิธกี ารเลน่ เกมและอุปกรณ์ประกอบ
5. แผนภมู ิเพลงและเครอื่ งดนตรปี ระกอบจงั หวะ
5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1.วดั และประเมินผลจากการสังเกตพฤตกิ รรมของของสมาชกิ ยวุ กาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความตัง้ ใจ
ในการเขา้ ร่วม
2.วัดและประเมนิ ผลจากการซกั ถามสมาชิกยวุ กาชาด โดยการสนทนาเก่ียวกบั หลักการกาชาดและความหมาย
ของ
หลักการกาชาดในแต่ละข้อ และแนวทางในการนาหลกั การกาชาดไป
3.วัดและประเมนิ ผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชิกยุวกาชาดปฏบิ ัตกิ จิ กรรมจรงิ
ลงชอื่ .......................................................ผสู้ อน
ลงช่ือ.......................................................ฝ่ายวิชาการ
ลงช่ือ.......................................................ผอู้ านวยการ
สปั ดาหท์ ี่ 14-17
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา
แผนการจดั การเรียนรู้
ภาคเรยี นท่ี 1/…......……... ชื่อผูส้ อน ……………………………………...…….
แผนการจดั กิจกรรมยวุ กาชาด ชน้ั ....ประถมศึกษาปีท่ี 4…… จานวน …4…...คาบ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 เร่อื ง ปอ้ งกนั ตนเองจากภยั ส่งิ เสพติด
1. สาระสาคัญ
สง่ิ เสพตดิ หมายถงึ สิง่ ท่ีเสพ กนิ ดม่ื ดม หรือฉดี เข้าไปในร่างกายแลว้ ทาใหเ้ กดิ ความตอ้ งการท่ีจะเสพต่อไป
เรอื่ ยๆ โดยการเพ่มิ ปริมาณขึ้น ทาใหเ้ กิดผลเสียตอ่ สุขภาพร่างกายและสญู เสียทรัพยส์ นิ
เงนิ ทอง ซึ่งสงิ่ เสพติดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สิง่ สิง่ เสพติดให้โทษ หมายถึง ส่ิงที่เสพไปแล้วมผี ลกระทบ
ตอ่ สุขภาพ รา่ งกาย จติ ใจ และเศรษฐกจิ และส่ิงเสพตดิ เป็นนิสัย หมายถงึ สิง่ ทีต่ ้องเสพบ่อยคร้งั จนเกดิ ความ
เคยชินและติดเปน็ นิสัย เชน่ บุหรี่ ยานอนหลับ ผเู้ สพส่ิงเสพตดิ จะมีลกั ษณะ ดงั น้ี ผิวหนงั หยาบกรา้ น เป็นแผลพุพอง มีฝี
หนองน้าเหลอื งคล้ายโรคผวิ หนัง บริเวณสะโพกและไหล่เป็นแผลจ้า ๆ ซบู ผอม นา้ หนักตวั ลดลง
ไม่มแี รง ตาโรย ขาดความกระปรก้ี ระเปร่า ม่านตาขยาย น้ามกู ไหล รมิ ฝีปากเขียวคลา้ แห้งแตก เหง่ือออกมาก กลิ่นตัวแรง
มักใส่เส้อื แขนยาวเพอื่ ปกปดิ รอยเข็มฉีดยา น้วิ มอื มีรอยคราบสีเหลอื งสกปรก
วธิ ปี ้องกนั ตนเองให้พน้ จากส่งิ เสพติด (1) ไมม่ วั่ สมุ กบั ผตู้ ิดสิ่งเสพติด (2) ไม่ทดลองเสพสิง่ เสพติด
ทกุ ชนิด (3) ไม่หลงเช่ือเมือ่ มีผูม้ าชกั ชวนให้เสพส่ิงเสพติด (4) ไมร่ ับประทานขนมหรอื ด่ืมน้าจากคนแปลกหนา้ (5) เมอื่ มี
ปัญหาตา่ ง ๆ เกดิ ขน้ึ ควรมจี ติ ใจหนกั แน่น และ (6) ควรใชย้ าทกุ ชนิดตามคาส่งั ของแพทย์และเภสชั กร
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
1. บอกและระบวุ ธิ ีปอ้ งกนั ตนเองให้พน้ จากสงิ่ เสพติดได้ (K, P)
2. อธบิ ายและระบุอาการของผูเ้ สพสิง่ เสพติดชนิดตา่ ง ๆ ได้ (K, P)
3. อธบิ ายและระบุลักษณะของผูเ้ สพสิ่งเสพติดได้ (K, P)
4. เข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้เกย่ี วกับการป้องกนั ตนเองจากภยั สิง่ เสพตดิ รว่ มกบั ผู้อื่นด้วยความสนใจ
และกระตอื รือร้น (A)
3. สาระการเรยี นรู้ : การป้องกนั ตนเองจากภยั สงิ่ เสพติด
คาบท่ี 1
คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1-4 ผนู้ ากลุ่มยุวกาชาด หรอื รองผู้นากลุม่ ยุวกาชาด หรอื ครผู สู้ อน ควรจดั กจิ กรรม
ตามลาดบั ข้ัน ดงั นี้
ขน้ั ตอนท่ี 1: พธิ ีเปิดกิจกรรมยวุ กาชาดคร้งั ที่ 14–17 (เขา้ แถวรปู ครง่ึ วงกลม
ชักธงยุวกาชาดขึน้ สู่-ยอดเสา สงบน่ิง กลา่ วคาปฏญิ าณ
ตนยวุ กาชาด ตรวจและรายงาน นัดหมายและช้ีแจง)
ข้ันตอนที่ 2: ให้สมาชกิ ยุวกาชาดร่วมเล่นเกมหรอื ร้องเพลงตามทผี่ ูน้ ากลมุ่ ยุว
กาชาด หรือรองผูน้ ากล่มุ ยุวกาชาด หรือครูผู้สอนนาปฏิบตั ิ
ขั้นตอนท่ี 3: การดาเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ การจดั กจิ กรรมยวุ กาชาดครั้งท่ี 14–17
ผู้นากลมุ่ ยุวกาชาดหรือรองผนู้ ากลุม่ ยวุ กาชาด หรือครผู ู้สอน สามารถแบง่ ลักษณะ
การจดั กิจกรรมไดต้ าม
ความเหมาะสม ดงั นี้
คร้ังที่ 14 เรอื่ งการป้องกันตนเองจากภยั สงิ่ เสพตดิ
1. เฉลยคาตอบจากแบบทดสอบความรู้ประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ใหส้ มาชิกยวุ กาชาด
ทราบ และใหส้ อบถามในประเด็นทีส่ นใจเพ่ิมเติม โดยให้สมาชกิ ยุวกาชาดทเี่ ลือกคาตอบไม่
ถูกต้องแกไ้ ขคาตอบให้ถูกต้อง
2. ครผู สู้ อนเฉลยคาตอบลักษณะของผตู้ ดิ สารเสพตดิ ภาพชนิดของผตู้ ดิ สารเสพตดิ
ทัง้ ประเภทที่จัดเป็นสิง่ เสพติดใหโ้ ทษและสิ่งเสพติดเปน็ นิสัยใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดดู แลว้
ร่วมกนั ระดมความคิดเหน็ เพ่ือตอบคาถามในประเดน็ ต่อไปนี้
- บคุ คลในภาพมีบุคลิกภาพอย่างไรและสมาชิกยวุ กาชาดชอบหรอื ไม่ (ตัวอย่าง
คาตอบ มลี ักษณะรปู ร่างผอมแหง้ ไม่น่าไวใ้ จ ไมช่ อบ)
- มสี งิ่ ใดบ้างท่ปี รากฏอย่ใู นภาพ (บุหรี่ สรุ า ทินเนอร์ อุปกรณ์ในการสูบกัญชา)
- สมาชิกยุวกาชาดคดิ ว่าสิ่งท่ีปรากฏในภาพส่งผลกระทบต่อคนเราอยา่ งไร (ทาให้
สุขภาพร่างกายทรดุ โทรมและเป็นอันตรายต่อชีวติ )
3. ครผู ูส้ อนให้ความรู้เกย่ี วกับความหมาย ประเภท และลักษณะของผูต้ ดิ สิ่งเสพติดประกอบ
ภาพดังรายละเอยี ดในหนังสือเรียนยุวกาชาด ป. 4 ของสานักพิมพว์ ัฒนา-พานิช จากดั
4. สมาชิกยุวกาชาดร่วมกนั สรุปความหมาย ประเภท และลักษณะของผ้ตู ดิ สิ่งเสพติดร่วมกนั
และมอบหมายใหส้ มาชิกยุวกาชาดศกึ ษาเก่ียวกบั โทษและวิธีการปอ้ งกนั ตนเองจากสิง่ เสพติด
มาล่วงหน้าโดยขอความรู้และคาแนะนาจากผปู้ กครอง
คาบท่ี 2
ครงั้ ที่ 15 เรื่องการป้องกันตนเองจากภัยสิง่ เสพติด (ตอ่ )
1. สุม่ สมาชิกยุวกาชาดให้ตอบคาถามเกย่ี วกบั ความหมาย ประเภท และลักษณะของผ้ตู ิดสงิ่
เสพติด (ใชค้ นละ 1 คาถาม) เพือ่ เป็นการทบทวนความรู้
2. สมุ่ สมาชิกยวุ กาชาดใหร้ ะบโุ ทษของสง่ิ เสพตดิ ในแตล่ ะประเด็นจากการท่ีศึกษามา
ล่วงหน้า โดยให้เพื่อนสมาชกิ ยุวกาชาดร่วมแสดงความคดิ เหน็ ต่อคาตอบดังกลา่ ว โดย
ครูผู้สอนใหค้ าตอบที่ถูกต้องเพ่ิมเตมิ หากคาตอบใดไมถ่ ูกต้อง
3. สมาชกิ ยุวกาชาดอาสาสมัครประมาณ 2-3 คน แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การป้องกนั
ตนเองจากสง่ิ เสพติดที่ศึกษามาลว่ งหน้าโดยให้เพื่อนสมาชิกยุวกาชาดท่ีเหลือร่วมแสดงความ
คดิ เหน็
4. สมาชิกยวุ กาชาดร่วมกันสรปุ โทษของสิง่ เสพตดิ และวธิ กี าปอ้ งกนั ตนเองจากสิง่ เสพติด
รว่ มกนั โดยให้บันทึกความร้ลู งในสมดุ บันทึก
คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
คาบท่ี 3
ครัง้ ท่ี 16 เรอ่ื งการป้องกนั ตนเองจากภยั ส่ิงเสพติด (ต่อ)
1. ส่มุ สมาชกิ ยุวกาชาดใหอ้ อกมาเล่าถึงผลการศึกษาและการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในการเปิด–
ปดิ กิจกรรมฯ คร้งั ทีผ่ า่ นมาโดยสรุปความรู้ และแนวทางในการปอ้ งกนั ตนเองให้พน้
จากส่ิงเสพตดิ ให้เพื่อน ๆ สมาชิกยวุ กาชาดฟัง
2. นาบตั รขอ้ ความแสดงวธิ ีปอ้ งกันตนเองให้พน้ ส่งิ เสพตดิ ชนดิ ตา่ ง ๆ ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดอ่าน
พรอ้ มกันเพอ่ื ส่งเสริมทกั ษะการอ่าน
3. ใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกับอาการของผเู้ สพสิง่ เสพติดชนดิ ต่าง ๆ และลกั ษณะของผเู้ สพสารเสพติด
แกส่ มาชกิ ยุวกาชาด (ดงั รายละเอียดในหนงั สือฯ หนา้ 45–46) แล้วใหส้ รุปความรู้ท่ีได้รบั
ร่วมกัน
4. แบ่งสมาชกิ ยวุ กาชาดออกเป็น 3 กลุ่ม ให้แต่ละกลุม่ ร่วมกนั ออกแบบทา่ ทางเพื่อเป็นการ
แสดงบทบาทสมมตุ เิ กยี่ วกบั วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองให้พน้ จากส่งิ เสพตดิ ในคาบเรียนต่อไป
กลุ่มท่ี 1 แสดงบทบาทสมมุตเิ รอ่ื ง วิธีปอ้ งกนั ตนเองใหพ้ ้อนจากส่งิ
เสพตดิ
กลุม่ ที่ 2 แสดงบทบาทสมมุตเิ รอื่ ง อาการของผู้เสพสิง่ เสพติดชนดิ
ตา่ งๆ
กลุ่มท่ี 3 แสดงบทบาทสมมตุ ิเรื่อง ลกั ษณะของผตู้ ิดส่ิงเสพติด
คาบท่ี 4
ครัง้ ที่ 17 เรื่องการป้องกันตนเองจากภยั สิ่งเสพตดิ (ตอ่ )
1. สมาชกิ ยุวกาชาดสนทนาเกี่ยวกบั วิธีป้องกันตนเองจากสิ่งเสพติดร่วมกัน เพือ่ เปน็ การ
ทบทวนความรู้
2. สมาชกิ ยุวกาชาดแตล่ ะกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมตุ ิในเร่อื ง วิธีการปอ้ งกันตนเอง
ให้พ้นจากสง่ิ เสพตดิ ที่ได้รบั มอบหมายในการเปดิ –ปิดกิจกรรมฯ ครัง้ ที่ผา่ นมา
3. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดแต่ละกลุ่มแสดงความรู้สึกที่เกิดขน้ึ ในการแสดงบทบาทสมมุติ
4. ให้สมาชกิ ยวุ กาชาดร่วมกันสรปุ ความรู้ท่สี ามารถนาไปป้องกนั ตนเองในชีวติ ประจาวนั
โดยครผู ู้สอนใหแ้ นวคิดเพิ่มเติม
ขน้ั ตอนที่ 4: การวดั และการประเมินผลการเรียนรู้
1.วดั และประเมินผลจากการสงั เกตพฤติกรรมของสมาชกิ ยุวกาชาด โดยประเมนิ จาก
ความสนใจและความตงั้ ใจในการเขา้ ร่วมกิจกรรม (คร้งั ที่ 14–17)
คาบที่ กิจกรรมการเรยี นการสอน
2.วัดและประเมินผลจากการซักถามสมาชิกยุวกาชาด โดยการสนทนาเก่ียวกับ ประเภท
ของสิ่งเสพติดและลกั ษณะของผตู้ ิดส่งิ เสพติด (ครง้ั ที่ 17) โทษของ สารเสพตดิ และการ
ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพติด (ครงั้ ที่ 18)
3.วดั และประเมนิ ผลจากการทดสอบ โดยใหส้ มาชกิ ยุวกาชาด
4. วดั และประเมินผลด้านทักษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมนิ ตอนท่ี 2 (ข้อมลู ที่ใช้
ประกอบดไู ด้จากตารางวิเคราะห์โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ฯ)
5. วัดและประเมินผลด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ใน
ภาคผนวก (ข้อมูลท่ีใช้ประกอบดูได้จากตารางวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรู้ฯ)
ขน้ั ตอนท่ี 5: พธิ เี ปดิ กจิ กรรมยุวกาชาดครั้งท่ี 14–17 (เข้าแถวรูปครง่ึ วงกลม
ตรวจและรายงาน นดั หมายและชแ้ี จง ชักธงยวุ กาชาดลง
เลกิ แถว)
3. สื่อ/อุปกรณ์ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นยุวกาชาด ป. 4 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น สมบูรณ์แบบ ของบรษิ ัท สานักพิมพ์วฒั นาพานิช จากัด
2. ภาพแสดงลักษณะของผู้ติดสารเสพตดิ
3. ภาพแสดงสารเสพติดท่จี ัดเป็นส่ิงเสพติดใหโ้ ทษและสิง่ เสพติดเป็นนสิ ัย
4. แผนภมู ิแสดงวธิ ีการเลน่ เกมและอุปกรณ์ประกอบ
5. แผนภมู ิเพลงและเคร่ืองดนตรีประกอบจังหวะ
5. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1.วัดและประเมินผลจากการสังเกตพฤตกิ รรมของของสมาชกิ ยุวกาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความตัง้ ใจ
ในการเขา้ รว่ ม
2.วดั และประเมนิ ผลจากการซักถามสมาชิกยวุ กาชาด โดยการสนทนาเกีย่ วกบั หลกั การกาชาดและความหมายของ
หลักการกาชาดในแต่ละข้อ และแนวทางในการนาหลักการกาชาดไป
3.วัดและประเมนิ ผลจากการทดสอบ โดยใหส้ มาชกิ ยุวกาชาดปฏิบัติกจิ กรรมจรงิ
ลงช่ือ.......................................................ผสู้ อน
ลงชอื่ .......................................................ฝา่ ยวชิ าการ
ลงชอ่ื .......................................................ผอู้ านวยการ
สปั ดาหท์ ี่ 18-20
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี 1/…......……... ชอ่ื ผสู้ อน ……………………………………...….…….
แผนการจัดกจิ กรรมยวุ กาชาด ชนั้ ....ประถมศึกษาปที ี่ 4…… จานวน ……3…...คาบ
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 เร่ือง การเคารพในสิทธมิ นษุ ยชน
1. สาระสาคัญ
สิทธิมนษุ ยชน คือ ศกั ดศิ์ รีความเป็นมนษุ ย์ สทิ ธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคของบุคคล ท่ีไดร้ บั การรับรองหรือ
ค้มุ ครองตามกฎหมาย สิทธิ หมายถึง ประโยชน์หรืออานาจท่บี ุคคลพงึ ไดร้ บั ตามกฎหมาย เสรภี าพ หมายถงึ ความเป็นอสิ ระ
ของบุคคลท่ีจะกระทาสิ่งใดส่ิงหนึ่งภายใตข้ อบเขตของกฎหมาย ความเสมอ-ภาค หมายถึง ความเท่าเทยี มกนั ระหวา่ งบคุ คล
การรับรองหรือคุ้มครองตามกฎหมาย หมายความวา่ กฎหมายของไทยจะใหห้ ลักประกันในเร่ืองของการปฏบิ ัติต่อบุคคลใน
เรื่องศักด์ิศรีความเปน็ มนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคแก่บคุ คล หลกั การพื้นฐานในการสร้างมนุษยส์ มั พนั ธ์ คอื (1)
ต้องทาความเข้าใจเร่ืองความตอ้ งการของมนุษย์ (2) ตอ้ งทาความเข้าใจเรอ่ื งความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล (3) ตอ้ งทาความ
เข้าใจเก่ียวกับ การรจู้ ักตนเอง และ (4) ต้องทาความเข้าใจเรอื่ งวธิ ีการผูกมิตร
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
1. บอกความหมายและหลักการของสิทธิมนุษยชนอย่างถกู ตอ้ งได้ (K)
2. บอกหลกั การสรา้ งมนุษยสัมพนั ธ์ได้ (K)
3. แสดงออกเกยี่ วกับบทบาทในเรอ่ื งหลักการของสิทธมิ นุษยชนและหลักการสรา้ งมนษุ ยสัมพันธ์ (P)
4. เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกบั การเคารพในสิทธมิ นุษยชนและหลกั ารสรา้ งมนุษยสมั พนั ธ์รว่ มกบั ผูอ้ ื่นด้วย
ความสนใจและกระตือรือรน้ (A)
3. สาระการเรยี นรู้
1. สิทธมิ นุษยชน
2. หลกั การของสิทธมิ นษุ ยชน
3. หลกั การสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธ์ คาบที่ 1
คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1-3 ข้ันตอนที่ 1: พิธเี ปดิ กจิ กรรมยุวกาชาดคร้ังท่ี 18–20 (เขา้ แถวรูปครึง่ วงกลม ชัก
ธงยวุ กาชาดข้ึนสู่-ยอดเสา สงบน่งิ กล่าวคาปฏญิ าณตนยุว
กาชาด ตรวจและรายงาน นดั หมายและช้ีแจง)
ข้ันตอนท่ี 2: ให้สมาชกิ ยุวกาชาดรว่ มเล่นเกมหรือร้องเพลงตามท่ีผูน้ ากลมุ่ ยวุ กาชาด
หรือรองผนู้ ากลมุ่ ยุวกาชาด หรือครผู ู้สอนนาปฏิบตั ิ
ขัน้ ตอนที่ 3: การดาเนินกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมยวุ กาชาดคร้ังท่ี 18–20
ผู้นากลมุ่ ยุวกาชาดหรือรองผู้นากลมุ่ ยวุ กาชาด หรอื ครูผ้สู อน สามารถ
คาบท่ี กิจกรรมการเรยี นการสอน
ครง้ั ท่ี 18 เรื่องสทิ ธิมนุษยชน
1. นาสนทนาโดยให้สมาชกิ ยวุ กาชาดออกมาสรุปความรู้และการปฏิบัติกิจกรรมในการ
เปิด–ปิดกจิ กรรมฯ ครั้งทผ่ี ่านมาใหเ้ พ่ือนสมาชิกยุวกาชาดฟัง เพื่อเป็นการทบทวนความรู้
2. ใหส้ มาชกิ ยุวกาชาดอาสาสมคั รประมาณ 2–3 คน ออกมาใหค้ วามหมายของ สิทธิ
มนุษยชนให้เพื่อนสมาชิกฟังตามทีเ่ ขา้ ใจ
3. นาสมาชิกยวุ กาชาดอ่านความรู้ในเรื่อง ความหมายของสทิ ธมิ นุษยชน ดงั รายละเอยี ดที่
ระบไุ วใ้ นหนงั สือเรยี นฯ หนา้ 51 เพ่ือเพ่ิมทกั ษะการอ่าน
4. ให้สมาชิกยุวกาชาดสรปุ ความรู้และแนวทางท่ีไดร้ ับเพื่อนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
รว่ มกนั โดยครูผูส้ อนใหค้ วามร้เู พมิ่ เติม
คาบท่ี 2
ครั้งท่ี 19 เรื่องหลักการของสิทธมิ นุษยชน
1. นาสนทนาโดยใหส้ มาชกิ ยวุ กาชาดสรุปความหมายของสิทธมิ นษุ ยชน เพื่อทบทวนความรู้
2. นาสมาชิกยุวกาชาดอ่านเน้ือหาความรู้ในเรื่อง หลักการของสิทธิมนษุ ยชน ในหนงั สอื เรียน
หนา้ 51 เพ่ือเพิม่ ทกั ษะการอ่าน จากนน้ั ให้สมาชิกยวุ กาชาดระดมสมองร่วมกันเพ่ือสรุป
ความหมายของสทิ ธมิ นุษยชน และหลักการของสิทธมิ นุษยชน
3. นาตัวอย่างภาพการแสดงออกถึงการปฏิบตั ิตามหลัการของสทิ ธิมนษุ ยชนทส่ี มาชิกยวุ -
กาชาดสามารถปฏิบัติได้โดยครูผสู้ อนให้ความรู้เพิ่มเตมิ ประกอบ
4. มอบหมายให้สมาชิกยวุ กาชาดไปศกึ ษาเกยี่ วกบั การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธท์ ่ตี นเอง
สามารถปฏิบตั ิได้แล้วนามาเล่าให้เพ่ือนสมาชิกฟังในการเปิด–ปดิ กิจกรรมฯ ครั้งต่อไป
ครั้งที่ 20 เร่ืองการสรา้ งมนุษยสมั พันธ์
1. แบง่ กลุม่ สมาชกิ ยวุ กาชาดทไี่ ปศึกษาคน้ ควา้ ในเรื่องการสร้างมนุษยสมั พนั ธท์ ต่ี นเอง
สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ท่อี ย่ใู นกลุ่มเดียวกนั แลว้ ใหก้ ลุ่มสนทนาสรุปเรื่องที่ไปศึกษาและ
คัดเลอื กตัวแทนในกลมุ่ ออกมาเล่าเร่อื งดังกลา่ วใหเ้ พื่อนสมาชกิ ฟัง
2. ใหส้ มาชิกยวุ กาชาดรว่ มกันตอบคาตอบในประเดน็ ความหมาย และหลกั การของสทิ ธิ
มนษุ ยชนและวิธีการปฏิบตั ใิ นการสรา้ งมนษุ ยสัมพนั ธ์ เพื่อทบทวนความรู้
3. สมาชกิ ยุวกาชาดสรปุ ความรูจ้ ากการเรียนรู้และการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมร่วมกันโดย
ครูผู้สอน ให้ความรู้ท่ีถูกต้องเพ่ิมเติม
คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 3
ขั้นตอนท่ี 4: การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้
1.วดั และประเมนิ ผลจากการสังเกตพฤติกรรมของสมาชกิ ยุวกาชาด โดยประเมนิ จากความ
สนใจและความตั้งใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรม (ครัง้ ท่ี 18–20)
2.วดั และประเมนิ ผลจากการซกั ถามสมาชิกยุวกาชาด โดยการสนทนาเกย่ี วกับความหมาย
ของมนษุ ยชน สิทธิ เสรภี าพ ความเสมอภาค และการรบั รอง คุ้มครองตามกฎหมาย (คร้ังที่
18) หลักการของสทิ ธิมนุษยชน (ครงั้ ท่ี 19) และแนวทางในการสร้างมนษุ ยสัมพันธ์ ครั้งที่ 20
3.วัดและประเมนิ ผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชกิ ยวุ กาชาด
1) ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมจริง
2) ทาแบบทดสอบด้านความรู้ประจาหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 ตอนที่ 1
4. วัดและประเมินผลดา้ นทักษะกระบวนการโดยการใชแ้ บบประเมิน ตอนท่ี 2 (ข้อมลู ทใ่ี ช้
ประกอบดไู ดจ้ ากตารางวิเคราะห์โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ฯ)
5. วดั และประเมินผลดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ในภาคผนวก (ขอ้ มลู ทีใ่ ชป้ ระกอบดไู ด้จากตารางวิเคราะห์โครงสร้างหน่วยการเรยี นรฯู้ )
ขั้นตอนท่ี 5: พิธเี ปดิ กิจกรรมยวุ กาชาดครั้งท่ี 18–20 (เขา้ แถวรูปครงึ่ วงกลม
ตรวจและรายงาน นดั หมายและชี้แจง ชักธงยวุ กาชาดลง
เลกิ แถว)
4. สอื่ /อปุ กรณ์ /แหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนยุวกาชาด ป. 4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น สมบูรณ์แบบ ของบรษิ ัท สานักพิมพ์วฒั นาพานชิ จากัด
2. ภาพ/แสดงการใชส้ ทิ ธิในการออกเสียงเลอื กตวั แทนตา่ ง ๆ
3. ภาพที่แสดงถงึ สิทธิ เสรภี าพในการแสดงออกของประชาชน
4. แผนภมู ิแสดงวธิ ีการเลน่ เกมและอุปกรณ์ประกอบ
5. แผนภูมิเพลงและเครือ่ งดนตรปี ระกอบจงั หวะ
5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1.วัดและประเมนิ ผลจากการสงั เกตพฤตกิ รรมของของสมาชิกยุวกาชาดโดยประเมินจากความสนใจและความตัง้ ใจ
ในการเขา้ ร่วม
2.วดั และประเมินผลจากการซักถามสมาชิกยุวกาชาด โดยการสนทนาเก่ียวกับ หลกั การกาชาดและความหมายของ
หลกั การกาชาดในแต่ละข้อ และแนวทางในการนาหลักการกาชาดไป
3.วดั และประเมินผลจากการทดสอบ โดยให้สมาชกิ ยุวกาชาดปฏบิ ัติกิจกรรมจริง
ลงชอื่ .......................................................ผูส้ อน
ลงชือ่ .......................................................ฝ่ายวชิ าการ
ลงชอ่ื .......................................................ผอู้ านวยการ