The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาสังคมศึกษา ป.4 เทอม 1-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2020-06-11 10:07:50

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาสังคมศึกษา ป.4 เทอม 1-63

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาสังคมศึกษา ป.4 เทอม 1-63

โครงสร้างรายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1/................ เวลา 20 ชว่ั โมง

หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ที่ /เรื่อง ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง) คะแนน

1 ความสำคญั ของ มาตรฐานท่ี ส 1.1 พระพุทธศาสนาเปน็ เคร่ือง 1 5

พระพทุ ธศาสนา รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ยึดเหนย่ี วจติ ใจของ (ส.1)

ศาสดา หลกั ธรรมของ พุทธศาสนกิ ชน เป็นศูนยร์ วม

พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับ ของการทำความดีและพฒั นา

ถือและศาสนาอืน่ มีศรทั ธาทถ่ี กู ต้อง จิตใจพระพุทธศาสนามศี าสน

ยึดมนั่ และปฏิบัตติ ามหลักธรรมเพือ่ สถานเปน็ ท่ีประกอบพธิ ีกรรม

อยู่ร่วมกันอย่างสันติสขุ ทางศาสนาและเป็นแหล่ง

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป 4/1 ปฏิบตั กิ จิ กรรมทางศาสนา

อธบิ ายความสำคญั ของ

พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตน

นบั ถือในฐานะเปน็ ศูนย์รวมจิตใจ

ของศาสนิกชน

1 พุทธประวตั ิ มาตรฐานที่ ส 1.1 ศาสนาทกุ ศาสนามคี วาม 1 5

รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ สำคญั และมีประโยชน์ต่อศา (ส.2)

ศาสดา หลกั ธรรมของ สนิกชนซ่ึงการศกึ ษาเร่อื งราว

พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับ ของศาสนา ประวัตคิ วาม

ถือและศาสนาอื่น มศี รทั ธาทถ่ี กู ตอ้ ง เป็นมาของศาสนา ศาสดา

ยดึ มัน่ และปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมเพ่ือ และพระคัมภรี ข์ องแตล่ ะ

อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ขุ ศาสนา

ตัวชว้ี ดั ที่ ป 4/1

อธิบายความสำคญั ของ

พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับ

ถือในฐานะเป็นศนู ยร์ วมจิตใจ

ของศาสนิกชน

โครงสร้างรายวชิ า สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1/.............. เวลา 20 ช่วั โมง

หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
2 ตวั ช้ีวดั (ชัว่ โมง) คะแนน

2 พทุ ธสาวก มาตรฐานที่ ส 1.1 พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรม 1 5
(ส.3)
รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ แล้ว พระองคไ์ ด้นำ 5
1
ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรม หลักธรรมไปเผยแผแ่ ก่ (ส.4)

ของพระพุทธศาสนาหรือ บุคคลตา่ ง ๆ จนมีผศู้ รทั ธา

ศาสนาทตี่ นนับถอื และศาสนา เล่อื มใสและออกบวชตาม

อ่ืน มีศรทั ธาทถี่ ูกต้อง ยึดม่ัน บุคคลเหลา่ น้มี สี ว่ นสำคัญ

และปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมเพอื่ ช่วยเผยแผ่

อยูร่ ่วมกนั อย่างสนั ติสุข

ตัวชีว้ ัดท่ี ป 4/3

เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตาม

แบบอย่างการดำเนนิ ชีวิตและ

ขอ้ คิดจากประวัติสาวก ชาดก

เรือ่ งเล่าและศาสนิกชนตวั อยา่ ง

ชาดก มาตรฐานท่ี ส 1.1 ชาดก คอื เร่อื งราวของ

รู้และเขา้ ใจประวตั ิ พระพุทธเจา้ ในอดตี ชาติ

ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรม กอ่ นทจ่ี ะมาประสูติเปน็

ของพระพทุ ธศาสนาหรอื พระพุทธเจา้ ในชาตสิ ุดท้าย

ศาสนาที่ตนนับถือและศาสนา เราเรียกว่าพระพทุ ธเจ้าใน

อนื่ มีศรทั ธาทถี่ ูกตอ้ ง ยึดม่นั อดตี ชาติว่าพระโพธ์สิ ตั ว์

และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมเพอื่

อยูร่ ่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุข

ตัวชีว้ ัดที่ ป 4/3

เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตาม

แบบอยา่ งการดำเนินชวี ิตและ

ขอ้ คดิ จากประวัติสาวก ชาดก

เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตวั อย่าง

โครงสร้างรายวชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1/.............. เวลา 20 ชวั่ โมง

หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
3 เรียนรู้ ตวั ช้ีวัด (ช่ัวโมง) คะแนน

พระรัตนตรยั มาตรฐานท่ี ส 1.1 พระรัตนตรยั เปน็ 2 5
ไตรสิกขา (ส.6-7)
รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ องคป์ ระกอบทสี่ ำคญั ของ 5
1
ความสำคัญ ศาสดา พระพุทธศาสนา (ส.8)

หลกั ธรรมของ พทุ ธศาสนกิ ชนท่ีดจี ึงควรมี

พระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ความศรทั ธาในพระ

ที่ตนนบั ถอื และศาสนาอื่น รัตนตรยั แสดงความเคารพ

มีศรทั ธาทถี่ ูกตอ้ ง ยึดมัน่ พระรัตนตรัยปฏิบัติตาม

และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม ไตรสิกขาใน

เพื่ออยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ุข พระพทุ ธศาสนา

ตวั ช้วี ัดท่ี ป 4/4

แสดงความเคารพพระ

รตั นตรัยปฏบิ ัตติ าม

ไตรสกิ ขาใน

พระพทุ ธศาสนา

3 หลักโอวาท3 มาตรฐานที่ ส 1.1 เบญจศลี นั้นคือ ข้อ

รแู้ ละเข้าใจประวัติ ปฏิบัติ ตนโดยไม่ทำชั่วทาง

ความสำคญั ศาสดา กาย ทางวาจา ทางใจ

หลกั ธรรมของ และสังคมปฏบิ ัติตนอย่างนี้

พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนา สงั คมก็สงบสขุ

ทต่ี นนับถือและศาสนาอ่นื

มีศรัทธาที่ถูกตอ้ ง ยดึ มั่น

และปฏิบัติตามหลักธรรม

เพ่อื อยรู่ ว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ

ตวั ช้ีวดั ที่ ป 4/4

แสดงความเคารพพระ

รัตนตรยั ปฏบิ ตั ิตาม

ไตรสกิ ขาในพระพุทธ

ศาสนา

โครงสร้างรายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1/................. เวลา 20 ชวั่ โมง

หน่วย ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ที่ เรียนรู้ ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน

3 พุทธศาสนสภุ าษิต มาตรฐานที่ ส 1.1 พุทธศาสนสภุ าษติ 1 5
รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ เป็นสุภาษติ ทาง (ส.9)
ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนาซง่ึ เป็น
หรอื ศาสนาท่ีตนนับถอื และศาสนาอ่นื ขอ้ ความที่กลา่ วในเชิง
มศี รทั ธาท่ถี ูกตอ้ ง ยึดมั่นและปฏิบตั ิ สอนใหน้ ำไปใช้ใน
ตามหลักธรรมเพอ่ื อยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติ ชวี ิตประจำวนั ส่วนไตร
สุข ปฎิ ก เปน็ ช่ือของคัมภรี ์
ทางพระพุทธศาสนาซึ่ง

ตวั ช้วี ัดท่ี ป 4/7 รวบรวมคำส่งั สอนของ

ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา พระพุทธเจา้ ไวว้ า่ ด้วย
ที่ตนนับถอื เพ่อื การอยรู่ ว่ มกนั เปน็ ชาติ กฎระเบยี บ กตกิ า

ไดอ้ ย่างสมานฉนั ท์

สอบกลางภาค 10

3 หลักธรรมเพือ่ การ มาตรฐานท่ี ส 1.1 เบญจศลี นั้นคอื ข้อ 1 5

อยูร่ ่วมกนั อย่าง รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ปฏบิ ัตติ นโดยไม่ทำช่ัว (ส.11)

สมานฉันท์ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา ทางกาย ทางวาจา

หรอื ศาสนาที่ตนนับถอื และศาสนาอ่ืน ทางใจ และสงั คม

มีศรทั ธาท่ีถกู ตอ้ ง ยดึ ม่ันและปฏบิ ัติ ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งน้สี งั คมก็

ตามหลกั ธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติ สงบสขุ

สุข

ตัวชีว้ ัดท่ี ป 4/4

แสดงความเคารพพระรตั นตรัย

ปฏิบัติตามไตรสกิ ขา และหลกั ธรรม

โอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนา หรอื หลัก

ธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามที่

กำหนด

โครงสร้างรายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1/............... เวลา 20 ชัว่ โมง

หนว่ ยที่ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก
4 เรยี นรู้ ตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน

4 หนา้ ทช่ี าวพทุ ธ มาตรฐานท่ี ส 1.1 ชาวพทุ ธท่ยี อมรับคำสงั่ 1 5
(ส.12)
รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ สอนของพระพุทธเจ้าว่า 5
1
ความสำคัญ ศาสดา เปน็ สงิ่ ประเสริฐสามารถ (ส.13)

หลกั ธรรมของพระพทุ ธ เปน็ แนวทางทจี่ ะนำผู้

ศาสนาหรอื ศาสนาท่ตี นนบั ปฏบิ ัติตามไปสู่ความสงบ

ถือและศาสนาอน่ื มีศรทั ธาที่ และความเจรญิ กา้ วหนา้ ได้

ถกู ตอ้ ง ยดึ มั่นและปฏิบัตติ าม

หลกั ธรรมเพอื่ อยรู่ ่วมกนั อย่าง

สันติสขุ

ตัวช้ีวัดท่ี ป 4/1

อธบิ ายความสำคัญของ

พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่

ตนนบั ถอื ในฐานะเป็นศูนย์

รวมจิตใจของศาสนกิ ชน

มารยาทชาวพทุ ธ มาตรฐานที่ ส 1.2 มารยาทชาวพุทธ

เข้าใจ ตระหนกั และปฏิบตั ิ หมายถึง กิริยาวาจาทถ่ี อื

ตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และ ว่าสุภาพเรียบรอ้ ยทชี่ าว

ธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา พุทธพงึ ประพฤติปฏบิ ตั ติ อ่

หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ กนั

ตัวชี้วดั ท่ี ป 4/2

มีมรรยาทของความเปน็ ศา

สนิกชนที่ดีตามทกี่ ำหนด

โครงสรา้ งรายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1/................. เวลา 20 ชว่ั โมง

หน่วยท่ี ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
เรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน

5 การบริหารจิต มาตรฐานที่ ส 1.1 การปฏบิ ตั กิ ารบรหิ าร 2 5

เจรญิ ปญั ญา รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั จิตเจรญิ ปัญหาโดยการ (ส.14-15)

ศาสดา หลักธรรมของ ใช้สมาธิการฝึกจติ ให้มี

พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี น ความสงบโดยการฝึก

นับถือและศาสนาอ่ืน มีศรทั ธาท่ี สมาธิ

ถกู ต้อง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ิตาม

หลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกนั อย่าง

สนั ตสิ ขุ

ตวั ชีว้ ัดที่ ป 4/6

เหน็ คณุ คา่ และสวดมนต์ แผ่

เมตตา มีสติท่เี ป็นพน้ื ฐานของ

สมาธิในพระพุทธศาสนา หรือการ

พฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนา

ทต่ี นนบั ถือตามทก่ี ำหนด

6 ศาสนพิธี มาตรฐานที่ ส 1.1 พุทธศาสนิกชนทุก 2 5

รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ คนพงึ กลา่ วคำ (ส.16-17)

ศาสดา หลักธรรมของ อาราธนาศลี อาราธนา

พระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี น ธรรม อาราธนาพระ

นบั ถอื และศาสนาอนื่ มศี รทั ธาท่ี ปริตร และปฏบิ ตั ติ น

ถูกตอ้ ง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ติ าม ในศาสนพิธี พธิ ีกรรม

หลักธรรมเพ่ืออยรู่ ว่ มกนั อยา่ ง ในวนั สำคญั ทาง

สันติสขุ พระพุทธศาสนาได้

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป 4/6 อย่างถกู ตอ้ ง

เหน็ คุณคา่ และสวดมนต์ แผ่

เมตตา มีสติทเ่ี ปน็ พืน้ ฐานของ

สมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หรอื การ

พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนา

ท่ตี นนับถือตามท่กี ำหนด

โครงสรา้ งรายวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 1/................. เวลา 20ชั่วโมง

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
7 เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชั่วโมง) คะแนน

ประวตั ิศาสดา มาตรฐานที่ ส 1.1 ศาสนาในประเทศไทยมี 2 10
ของศาสนาอืน่ ๆ (ส.18-19)
รแู้ ละเข้าใจประวัติ มากมายหลายศาสนา คน 20
20 100
ความสำคัญ ศาสดา ไทยส่วนใหญ่นับถอื

หลักธรรมของพระพุทธ พระพทุ ธศาสนา และมีคน

ศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับ ไทยอกี ส่วนหนง่ึ นับถอื

ถอื และศาสนาอน่ื มศี รทั ธาท่ี ศาสนาครสิ ต์ ศาสนา

ถูกต้อง ยดึ มัน่ และปฏบิ ตั ิตาม อสิ ลาม เปน็ ตน้ ทุก

หลกั ธรรมเพือ่ อยรู่ ่วมกนั อย่าง ศาสนามจี ุดม่งุ หมาย

สนั ตสิ ุข เดียวกนั คอื สอนใหท้ กุ คน

ตวั ชีว้ ัดที่ ป 4/8 ทำความดแี ละมีความ

อธิบายประวัติศาสดาของ เมตตาตอ่ กัน

ศาสนาอ่ืนๆ โดยสงั เขป

สอบปลายภาคเรยี นท่ี1/....................

รวม

สัปดาหท์ ่ี 1

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี 1/................. ชือ่ ผสู้ อน......................................................

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั

มาตรฐานที่ ส 1.1

รูแ้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือและศาสนา

อืน่ มศี รัทธาทถี่ กู ต้อง ยึดม่ันและปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมเพอ่ื อย่รู ว่ มกนั อย่างสันติสุข

ตัวชี้วัดท่ี ป 4/1

อธิบายความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถอื ในฐานะเปน็ ศนู ย์รวมจติ ใจของศาสนกิ ชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

พระพุทธศาสนาเปน็ เคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจของพุทธศาสนกิ ชน เปน็ ศนู ย์รวมของการทำความดี

และพัฒนาจิตใจพระพุทธศาสนามศี าสนสถานเปน็ ท่ปี ระกอบพธิ กี รรมทางศาสนาและเปน็ แหลง่ ปฏิบัติ

กจิ กรรมทางศาสนา

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นเครือ่ งยึดเหนีย่ วจติ ใจพทุ ธศาสนิกชนได้ (K)

2) วิเคราะห์ประวัติความเป็นมาและประโยชนข์ องศาสนา (P)

3) ) มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน

ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาพระพทุ ธศาสนา ในฐานะที่ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

เปน็ เคร่ืองยึดเหนยี่ วจิตใจเปน็ ศูนยร์ วมการทำความดีและ

พัฒนาจิตใจ เช่น ฝกึ สมาธิ สวดมนต์ ศึกษาหลักธรรมเปน็ ที่

ประกอบศาสนพธิ ี (การทอดกฐิน การทอดผา้ ปา่ การเวยี น

เทียน การทำบุญ)เป็นแหล่งทำกิจกรรมทางสงั คม เชน่ การจัด

ประเพณีท้องถ่นิ การเผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารชมุ ชน และส่งเสริม

พฒั นาชุมชน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้ันนำ
1) นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น
2) ครถู ามนักเรียนวา่ มใี ครนับถอื ศาสนาพทุ ธบา้ ง พระพทุ ธศาสนามีความสำคัญทางดำเนนิ ชวี ิตของ

นกั เรยี นอยา่ งไร
ข้ันสอน

3) ครูนำภาพเกย่ี วกบั พระพทุ ธศาสนาใหน้ กั เรยี นดแู ลว้ ภาพนเ้ี กีย่ วกับศาสนาอะไร มคี วามสำคญั อย่างไร

4) ครูและนกั เรียนชว่ ยกันสรุปความเขา้ ใจในเรือ่ งพระพุทธศาสนา พร้อมซักถามนกั เรยี นเพื่อทำให้นกั เรยี นเกดิ
ความเขา้ ใจมากขึ้น

ข้ันสรปุ

5) นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั หนา้ ที่ 11-12
6) ครูและนักเรียนช่วยสรปุ เน้ือหาทง้ั หมดทีเ่ รียน เพอ่ื กลบั ไปทบทวนทบ่ี ้าน

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑ์การ
ความรู้ความ 1. อธิบายประวัตคิ วามเปน็ มาและ 1. แบบฝกึ หัด ประเมนิ
เข้าใจ (K) ประโยชนข์ องศาสนา 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ทักษะ/ 1.วเิ คราะหป์ ระวตั คิ วามเป็นมา 1. คำถามกระต้นุ ประเมิน
กระบวนการ (P)
และประโยชน์ของศาสนา ความคดิ 70% ข้ึนไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑ์การ
คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต ประเมิน
รบั ผดิ ชอบต่องานทีส่ ง่ั และส่งงาน พฤตกิ รรม
ได้ทนั ตามที่กำหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มนั่ ในการ
ทำงาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้

1) หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ป.4
2) บัตรภาพ กจิ กรรมและพธิ ีกรรมทางพระพทุ ธศาสนา

7.2แหล่งการเรียนรู้

1) หอ้ งเรยี น

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ.............................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 2

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1/.............. ชอ่ื ผสู้ อน..................................................

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง พุทธประวัติ

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานที่ ส 1.1
รูแ้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื และศาสนา
อนื่ มศี รัทธาทถี่ ูกตอ้ ง ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมเพอ่ื อยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ุข
ตวั ช้ีวัดที่ ป 4/1
อธิบายความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือในฐานะเป็นศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

ศาสนาทกุ ศาสนามีความสำคัญและมปี ระโยชน์ตอ่ ศาสนกิ ชนซง่ึ การศึกษาเรื่องราวของศาสนา ประวตั ิ
ความเปน็ มาของศาสนา ศาสดาและพระคมั ภีร์ของแต่ละศาสนา

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) อธิบายพทุ ธประวัติต้ังแต่ประสตู ิจนถงึ ตรสั รู้ได(้ K)
2) วิเคราะห์ข้อคิดและแบบอย่างทดี่ ีในพทุ ธประวตั ิไปประยกุ ต์ปฏิบตั ไิ ด้(P)
3) มีความสนใจใฝ่เรียนรแู้ ละมุง่ มนั่ ในการทำงาน(A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

สรปุ พทุ ธประวัติ (ทบทวน)ตรัสรู้ประกาศธรรม
ไดแ้ ก่ โปรดชฎิล โปรดพระเจ้าพิมพิสาร พระอคั ร
สาวก แสดงโอวาทปาฏโิ มกข์

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ

1) นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น
ขั้นสอน

2) ครแู ละนักเรียนอภปิ รายในเรือ่ งประวตั ริ าชวงศข์ องเจ้าชายสิทธัตถะโดยดแู ผนภูมิ ประวตั ิประกอบดว้ ย
3) ครูเสนอภาพพระพทุ ธประวัตติ อนประสูติ ตรัสรู้ และปรนิ พิ าน พรอ้ มต้งั คำถาม นกั เรยี นวา่ ภาพนม้ี ี
ความสำคัญอยา่ งไร
4) ครเู ปิดคลปิ พุทธประวัติ ใหน้ ักเรียนดูพรอ้ มทง้ั อธบิ ายเพ่ิมเตมิ

ขั้นสรุป
5) ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหดั หนา้ ที่ 17-18

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ผา่ นเกณฑ์การ
ความร้คู วาม 1. บอกประวัตขิ องพระพุทธเจา้ ได้ 1.คำถามกระต้นุ ประเมิน
เข้าใจ (K) ความคดิ 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ผา่ นเกณฑก์ าร
ทักษะ/ 1.วิเคราะหป์ ระวัติของ 1. แบบฝกึ หัด ประเมิน
กระบวนการ (P) พระพทุ ธเจา้ ได้
70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
คุณลกั ษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้ 1. แบบสังเกต ผา่ นเกณฑก์ าร
2. สังเกตจากการมุง่ ม่นั ในการ พฤติกรรม ประเมิน
ทำงาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1) หนังสือเรียน พระพทุ ธศาสนา ป.4
2) บตั รภาพ พทุ ธประวัติตอนประสูตแิ ละศึกษาศิลปวิทยา

7.2 แหล่งการเรียนรู้

1) ห้องเรียน
2) อนิ เทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..........................................ครูผสู้ อน ลงชื่อ...........................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

บตั รภาพ พุทธประวตั ิตอนประสตู แิ ละศึกษาศลิ ปวิทยา

ภาพที่ 1
ภาพที่ 2

สปั ดาหท์ ี่ 3

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี 1/.............. ชอ่ื ผู้สอน..................................................

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรือ่ ง พทุ ธสาวก

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานที่ ส 1.1
รูแ้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถอื และศาสนาอน่ื มี
ศรทั ธาทถี่ ูกต้อง ยดึ ม่ันและปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมเพอื่ อยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ
ตวั ชวี้ ัดท่ี ป 4/3
เหน็ คุณค่าและปฏิบัตติ นตามแบบอย่างการดำเนินชวี ิตและขอ้ คดิ จากประวตั สิ าวก ชาดก เรื่องเล่าและศาสนกิ ชน
ตวั อยา่ ง

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

พระพทุ ธเจ้าไดต้ รสั รู้ธรรมแล้ว พระองคไ์ ดน้ ำหลักธรรมไปเผยแผแ่ ก่บคุ คลต่าง ๆ จนมีผ้ศู รทั ธาเลือ่ มใสและ
ออกบวชตามบุคคลเหลา่ นีม้ ีสว่ นสำคญั ช่วยเผยแผ่

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) บอกวิธีปฏิบัตติ นเพื่อเปน็ หลกั ในการดำเนินชวี ติ ตามแนวทางของพุทธสาวกได(้ K)
2) อธิบายประวตั ขิ องพระอุรุเวลกัสสปะทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนาได้(K)
3) วิเคราะหค์ ณุ ธรรมอนั เปน็ แบบอย่างในการดำเนนิ ชีวิตของพระอรุ เุ วลกัสสปะและนำไปปฏิบัตไิ ด(้ P)
4) มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ มั่นในการทำงาน(A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิน่
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า
- พระอุรุเวลกสั สปะ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นำ
1) นกั เรยี นสดู ลมหายใจเขา้ ลึก ๆ เพอ่ื ผอ่ นคลายและทำจติ ใจใหส้ งบ ฝึกสมาธิ

ขั้นสอน
2) นักเรียนดูภาพพระสงฆแ์ ล้วซกั ถามนกั เรียนวา่ บคุ คลในภาพมคี วามสำคัญอย่างไรในทางพระพุทธศาสนา
3) ครเู ปดิ วดิ ีโอเกย่ี วกับพระอุรุเวลกัสสปะ ให้นักเรียนดู พรอ้ มท้งั อธบิ ายเพิม่ เตมิ

ขนั้ สรปุ
4) ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปเน้อื หาจากท่นี กั เรยี นได้ดูในวิดโี อ
5) นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั หนา้ ที่ 24-25

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
ผา่ นเกณฑ์การ
ความรู้ความ 1. บอกวธิ ปี ฏิบัตติ นเพอื่ เปน็ หลัก 1.คำถามกระตนุ้ ประเมิน
เขา้ ใจ (K) 70% ขึ้นไป ถอื วา่
ในการดำเนินชีวติ ตามแนวทางของ ความคดิ ผา่ นเกณฑก์ าร
ทกั ษะ/ ประเมิน
กระบวนการ (P) พทุ ธสาวก
70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
1.วเิ คราะหค์ ณุ ธรรมอันเป็น 1. แบบฝกึ หัด ผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน
แบบอย่างในการดำเนนิ ชีวิตของ

พระอรุ เุ วลกสั สปะ

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต
รับผดิ ชอบตอ่ งานทสี่ ่ังและส่งงาน พฤติกรรม
ได้ทันตามที่กำหนด

7. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1) หนังสือเรยี น พระพทุ ธศาสนา ป.4

7.2 แหล่งการเรยี นรู้

1) หอ้ งเรียน
2) อินเทอรเ์ น็ต

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชือ่ .........................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 4

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1/.............. ชอื่ ผสู้ อน..................................................

กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง ชาดก

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานที่ ส 1.1
รูแ้ ละเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับถอื และศาสนา
อ่ืน มศี รทั ธาทถี่ กู ตอ้ ง ยดึ มน่ั และปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสันติสุข
ตวั ช้ีวดั ที่ ป 4/3
เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามแบบอยา่ งการดำเนินชวี ิตและขอ้ คิดจากประวตั สิ าวก ชาดก เร่ืองเล่าและ
ศาสนิกชนตัวอยา่ ง

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ชาดก คอื เรอื่ งราวของพระพุทธเจา้ ในอดีตชาตกิ ่อน ทีจ่ ะมาประสตู เิ ป็นพระพุทธเจา้ ในชาติสดุ ทา้ ย เรา
เรยี กวา่ พระพุทธเจา้ ในอดีตชาตวิ า่ พระโพธิส์ ัตว์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) สรุปสาระสำคัญของกุฏิทสู กชาดกและมหาอกุ กุสชาดกได้ (K)
2) วิเคราะหค์ ณุ ธรรมทไ่ี ดจ้ ากกฏุ ทิ ูสกชาดกและมหาอุกกสุ ชาดกและนำไปเปน็ แนวทางการปฏบิ ตั ไิ ด้ (P)
3) มีความสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ

สาระการเรียนรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

ชาดก
- กฏุ ิทสู กชาดก
- มหาอกุ กสุ ชาดก

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นำ
1) ครสู นทนากับนักเรียนเกีย่ วกบั พระพุทธประวตั ิทไ่ี ด้เรยี นมาแล้ว

ขั้นสอน
2) นักเรยี นและครอู ภปิ รายในเรื่องกฎุ ิชาดกและมหาอุทกชาดกโดยการซักถามนกั เรยี น
3) นักเรยี นสง่ ตัวแทนชายและหญิงออกมาสรุปใจความสำคัญจากการศึกษา โดยครอู ภิปรายเพ่ิมเติม

ข้ันสรปุ
4) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปเกี่ยวกับชาดกทเ่ี ก่ียวกับพระพทุ ธศาสนาทำแบบฝกึ หัดเพ่ือเป็นการทบทวน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 1.คำถามกระตนุ้ 70% ข้ึนไป ถอื วา่
ความคดิ ผา่ นเกณฑก์ าร
ความร้คู วาม 1. สรปุ สาระสำคัญของกฏุ ิทูสก ประเมนิ
เขา้ ใจ (K) ชาดกและมหาอกุ กสุ ชาดก 1. แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑ์การ
ทักษะ/ 1.วเิ คราะหเ์ รือ่ งราวทเี่ กีย่ วกบั ประเมิน
กระบวนการ (P) ชาดกในพระพทุ ธศาสนา
70% ขึน้ ไป ถอื วา่
คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสังเกต ผา่ นเกณฑก์ าร
รบั ผิดชอบต่องานท่ีส่งั และสง่ งาน พฤตกิ รรม ประเมนิ
ได้ทันตามท่กี ำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทำงาน

7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
7.1สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สือเรยี น พระพุทธศาสนา ป.4

7.2 แหลง่ การเรียนรู้

1) หอ้ งเรยี น

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครผู ้สู อน ลงชื่อ............................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 5

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1/.............. ชอื่ ผู้สอน..................................................

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง พุทธศาสนิกชนตัวอยา่ ง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานท่ี ส 1.1
ร้แู ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและศาสนา
อน่ื มศี รทั ธาทถ่ี ูกต้อง ยดึ ม่ันและปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมเพอ่ื อยรู่ ว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ
ตวั ช้ีวดั ที่ ป 4/3
เหน็ คุณค่าและปฏิบตั ิตนตามแบบอยา่ งการดำเนินชวี ติ และขอ้ คดิ จากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเลา่ และ
ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ศาสนิกชนท่ดี ีพึงแสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทีต่ นนบั ถอื บำเพ็ญ
ประโยชน์ตอ่ วัดหรอื ศาสนสถานของศาสนาทต่ี นนบั ถอื

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) เล่าพระราชประวตั ิของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก
และสมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนีได้ (K)

2) วิเคราะหค์ ณุ ธรรมอันเปน็ แบบอย่างการดำเนินชีวติ และขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการศึกษาชาวพทุ ธตวั อย่างได้ (P)
3) มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

ศาสนิกชนตวั อยา่ ง
- สมเด็จพระมหติ ลาธิเบศรอดุลยเดชวกิ รม

พระบรมราชชนก*
-สมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนน*ี

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นนำ
1. ครูนำนักเรยี นยืนขนึ้ ชสู องมอื (สลับกับปรบมอื 3 ครงั้ ) ปรบ-ปรบ-ปรบ, นัง่ ลง (สลับกบั ปรบมือ

3 ครงั้ ) ปรบ-ปรบ-ปรบ, ยนื ขึน้ ชสู องมอื (สลับกบั ปรบมือ 3 คร้งั ) ปรบ-ปรบ-ปรบ เพือ่ บริหารสมอง

ขั้นสอน
2. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ต้งั ชอื่ สมาชกิ ในกลมุ่ โดยมีชื่อ ดังน้ี
- สมาชกิ คนที่ 1 ชอ่ื “คนด”ี
- สมาชิกคนที่ 2 ชอ่ื “โชคดี”
- สมาชิกคนที่ 3 ชือ่ “คดิ ด”ี
- สมาชกิ คนที่ 4 ชอื่ “ทำด”ี
3. สมาชกิ คนท่ี 1 ชอ่ื “คนด”ี ของทกุ กลุม่ ไปรวมกนั และรว่ มกันศึกษาและสนทนา เรือ่ ง สมเด็จพระมหิตลาธิ

เบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตอน พระราชประวัติ จากหนงั สอื เรียน
4. สมาชกิ คนที่ 2 ชอื่ “โชคดี” ของทกุ กลมุ่ ไปรวมกนั และรว่ มกนั ศึกษาและสนทนา เรือ่ ง สมเดจ็ พระมหติ ลาธิ

เบศร อดลุ ยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ตอน พระราชกรณียกจิ ในด้านตา่ งๆ จากหนังสอื เรยี น
5. สมาชกิ คนท่ี 3 ชื่อ “คดิ ด”ี ของทกุ กลุ่มไปรวมกนั และร่วมกนั ศกึ ษาและสนทนา เรอื่ ง สมเดจ็ พระศรนี ครนิ

ทราบรมราชชนนี ตอน พระราชประวัติ จากหนงั สือเรียน
6. สมาชิกคนที่ 4 ชอ่ื “ทำด”ี ของทกุ กล่มุ ไปรวมกนั และรว่ มกนั ศกึ ษาและสนทนา เร่ือง สมเดจ็ พระศรีนคริน

ทราบรมราชชนนี ตอน พระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ จากหนังสือเรียน
7. นกั เรยี นแตล่ ะคนกลับกลมุ่ เดมิ แลว้ นำความรทู้ ่ีศกึ ษาและสนทนาจากเพ่ือนกลมุ่ อน่ื มาเล่าให้เพอื่ นในกลุ่ม

ฟัง
ขน้ั สรุป

8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปสาระสำคญั เก่ียวกับประวตั ิชาวพทุ ธตวั อยา่ งทน่ี กั เรียนไดร้ ว่ มกันศกึ ษา
9. นกั เรยี นทำแบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย หน้าท่ี 35-36

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวัดผล เครอ่ื งมอื วัด เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 70% ข้ึนไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑ์การ
ความรคู้ วาม 1. เล่าพระราชประวัตขิ องสมเด็จ 1.คำถามกระตนุ้ ประเมิน
เข้าใจ (K) พระมหติ ลาธิเบศรอดลุ ยเดชวกิ รม ความคดิ
พระบรมราชชนกและสมเด็จพระ 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/ ศรีนครินทราบรมราชชนนี*ได้ 1. แบบทดสอบท้าย ผ่านเกณฑก์ าร
กระบวนการ (P) หน่วย ประเมนิ
1.วิเคราะห์คณุ ธรรมอันเปน็
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) แบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ิตและ 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถอื วา่
ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาชาวพุทธ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑก์ าร
ตวั อย่างได้ ประเมิน

1. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
2. สังเกตจากการมุ่งมน่ั ในการ
ทำงาน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอื่ การเรยี นรู้

1) หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ป.4

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1) ห้องเรียน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผ้สู อน ลงชอื่ ..............................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 6-7

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ 1/.............. ช่ือผู้สอน..................................................

กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง พระรตั นตรัย ไตรสกิ ขา

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานท่ี ส 1.1
รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาทต่ี นนับถอื และศาสนา
อืน่ มศี รัทธาทถี่ กู ตอ้ ง ยดึ ม่ันและปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมเพอ่ื อยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสขุ
ตวั ชี้วัดท่ี ป 4/4
แสดงความเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบตั ิตามไตรสิกขาในพระพุทธศาสนา

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

พระรตั นตรัยเป็นองค์ประกอบทีส่ ำคญั ของพระพุทธศาสนาพุทธศาสนิกชนทด่ี ีจงึ ควรมคี วามศรัทธาในพระ
รัตนตรัยแสดงความเคารพพระรัตนตรยั ปฏิบตั ติ ามไตรสกิ ขาในพระพทุ ธศาสนา

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) บอกความหมายและความสำคญั ของไตรสิกขาได้ (K)
2) ปฏบิ ัตติ นท่ีถกู ต้องตามหลกั ไตรสกิ ขาได(้ P)
3) มีความสนใจใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทำงาน(A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่

สาระการเรียนรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

ไตรสกิ ขา
-ศลี สมาธิ ปัญญา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำ

1) ครซู ักถามนกั เรียนว่า “ใครอยากเรยี นเกง่ บา้ ง “ “ แล้วใครรู้บ้างวา่ หากต้องการเรียนเกง่ ตอ้ งทำอยา่ งไร“
2) นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถามของครูโดยครบู ันทึกคำตอบท้ังหลายลงในกระดาน
3) ครูบอกนักเรยี นว่าคำตอบทง้ั หลายท่ีนกั เรยี นช่วยกันตอบทง้ั หมดนี้ หากใครทำไดก้ จ็ ะเป็นเด็กเกง่ และหาก
ใครทำได้เช่นนีก้ แ็ สดงว่านกั เรยี นเปน็ คนทม่ี ศี ลี อยใู่ นตัวเอง เม่ือนักเรียนมศี ีลในเวลาเรยี นนกั เรยี นกจ็ ะเกดิ สมาธิ และ
เม่อื นักเรียนมสี มาธิ ปญั ญากจ็ ะเกิดตามมานั่นเอง

ขั้นสอน

4) ครใู หน้ ักเรยี นดูภาพพระพุทธรูป พระธรรม และพระสงฆ์ แล้วใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบวา่ แตล่ ะภาพคือภาพ
อะไร และมคี วามสำคญั อยา่ งไร

5) อธิบายเกย่ี วกบั พระรตั นตรยั และไตรสกิ ขา

6) ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั หนา้ ที่44-45

ข้ันสรุป

7) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เนือ้ หาทไ่ี ด้เรียนไป

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 1.คำถามกระตนุ้ 70% ขึ้นไป ถอื วา่
ความคิด ผา่ นเกณฑ์การ
ความรู้ความ 1. บอกความหมายและ ประเมิน
เขา้ ใจ (K) ความสำคญั ของไตรสกิ ขาได้ 1.แบบฝกึ หัด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ผา่ นเกณฑก์ าร
ทักษะ/ 1.ปฏิบัติตนทีถ่ กู ตอ้ งตามหลกั ประเมิน
กระบวนการ (P) ไตรสกิ ขาได้
70% ข้ึนไป ถอื ว่า
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต ผ่านเกณฑ์การ
รับผิดชอบตอ่ งานท่สี ั่งและสง่ งาน พฤติกรรม ประเมนิ
ไดท้ ันตามท่กี ำหนด
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ
ทำงาน

7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอื่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ป.4

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชอื่ ........................................ครผู สู้ อน ลงชอื่ ..............................................ฝ่ายวชิ าการ
(.......................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 8

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1/.............. ชอ่ื ผู้สอน..................................................

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เร่อื ง หลกั โอวาท3

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั

มาตรฐานที่ ส 1.1

รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือและศาสนา

อ่นื มีศรัทธาทถี่ ูกต้อง ยึดมน่ั และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรมเพอ่ื อยู่รว่ มกันอย่างสันตสิ ุข

ตวั ชว้ี ัดที่ ป 4/4

แสดงความเคารพพระรตั นตรัยปฏบิ ตั ติ ามไตรสิกขาในพระพทุ ธศาสนา

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

เบญจศีลนั้นคอื ข้อปฏบิ ตั ิ ตนโดยไม่ทำชว่ั ทางกาย ทางวาจา ทางใจ และสงั คมปฏิบัติตนอยา่ งนี้สังคมก็

สงบสุข

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1) บอกหลักของโอวาท3ได(้ K)

2) วิเคราะหห์ ลกั ของโอวาท3 (P)

3) มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้และมุ่งม่ันในการทำงาน(A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน

โอวาท 3 พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

1) ไมท่ ำชว่ั

- เบญจศลี

- ทุจริต 3

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำ

1) นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น

ขั้นสอน

2) ครแู ละนกั เรียนสนทนาในเรอื่ งหลกั ธรรมท่ีพระพุทธเจา้ ทรงตรสั ไว้ คอื ไมท่ ำชวั่ โดยยดึ หลักธรรมของเบญจ
ศลี หรอื ศีล 5

3) ครซู ักถามนกั เรียนในความเขา้ ใจในศีล 5 ทเ่ี รียนมาในชนั้ ป.3 หรือเคยไดย้ นิ หรอื เคยได้สมั ผสั ในการบวช
เณรภาคฤดรู ้อนมา ถ้ามใี ครเคยบวชมาก็ออกมาหนา้ ชน้ั และอธิบายหัวขอ้ ดังน้ี

- ศลี ข้อที่ 1 , ศลี ข้อที่ 2 , ศลี ขอ้ ที่ 3 , ศีลข้อท่ี 4 , ศลี ขอ้ ที่ 5
โดยคุณครคู อยชีแ้ นะนักเรยี นในศลี ข้อท่ี ไมช่ ดั เจน แต่ถา้ ไม่มีใครเคยบวช คุณครูก็อธิบายให้นกั เรยี นฟงั ในแต่
ละขอ้ โดยมแี ผนภมู ปิ ระกอบ

ข้นั สรุป

4) นักเรียนทำแบบฝกึ หดั เพื่อทบทวน

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 1.คำถามกระตุ้น 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
ความคิด ผ่านเกณฑก์ าร
ความรคู้ วาม 1. บอกหลกั ของโอวาท3ได้ ประเมิน
เข้าใจ (K) 1. แบบฝึกหดั 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑ์การ
ทกั ษะ/ 1.วเิ คราะห์หลกั ของโอวาท3 ประเมนิ
กระบวนการ (P)
70% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
คณุ ลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์การ
รับผดิ ชอบต่องานทสี่ ัง่ และสง่ งาน พฤตกิ รรม ประเมิน
ได้ทันตามทกี่ ำหนด
2. สังเกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้
3. สังเกตจากการมุง่ มนั่ ในการ
ทำงาน

7. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้

1)หนังสือเรยี น พระพุทธศาสนา ป.4

7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรียน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชื่อ....................................... ครผู สู้ อน ลงชอื่ ................................................ฝา่ ยวิชาการ
(......................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 9

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1/.............. ชือ่ ผสู้ อน..................................................

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรอ่ื ง พทุ ธศาสนสภุ าษิต

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั

มาตรฐานท่ี ส 1.1

รแู้ ละเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถอื และศาสนา

อ่นื มีศรัทธาทถี่ ูกตอ้ ง ยึดมนั่ และปฏบิ ตั ติ ามหลักธรรมเพอ่ื อยู่ร่วมกนั อยา่ งสันติสขุ

ตัวชี้วัดที่ ป 4/7

ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนาท่ตี นนับถือ เพือ่ การอยรู่ ว่ มกันเป็นชาติได้อย่างสมานฉนั ท์

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

พทุ ธศาสนสภุ าษิต เป็นสภุ าษิตทางพระพทุ ธศาสนาซึ่งเปน็ ข้อความที่กล่าวในเชิงสอนใหน้ ำไปใช้ใน

ชวี ิตประจำวันส่วนไตรปิฎก เปน็ ช่อื ของคัมภีรท์ างพระพุทธศาสนาซึง่ รวบรวมคำส่ังสอนของพระพุทธเจ้าไว้ว่าดว้ ย

กฎระเบยี บ กตกิ า

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1) บอกความหมายของพทุ ธศาสนสุภาษิตได้ (K)

2) วเิ คราะห์และประโยชนข์ องการศกึ ษาพุทธศาสนสภุ าษิต (P)

3) มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่

อธิบายความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนา พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
ท่ีตนนบั ถอื ในฐานะเปน็ ศนู ย์รวมจิตใจของศาสนกิ ชน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ

1) นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น

ขั้นสอน

2) ครูและนักเรียนร่วมกนั บอกหลักการอยู่รว่ มกันในสังคม และการทำงานกลุ่มตอ้ งยึดหลกั อะไรบ้าง ให้
นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ ราย

3) ครูอธบิ ายความหมายของพทุ ธศาสนาสภุ าษิต และสอนวธิ ีการอา่ นคำบาลี
4) นกั เรียนศกึ ษาจากหนังสือเรอื่ งพทุ ธศาสนาสุภาษิตบท สุขา สงั สงฆสส สามคดี และ โลโกปตกมภิกา
เมตตา โดยครูคอยอธิยายเพ่ิมเตมิ ให้กบั นกั เรยี น
5) นักเรยี นทำสมุดเลม่ เลก็ ในเรอื่ งพทุ ธศาสนสภุ าษิต โดยหามาไมน่ ้อย 10 พทุ ธศาสนสภุ าษติ

ขัน้ สรปุ

6) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เนื้อหาอีกครัง้ เพื่อทำความเขา้ ใจ

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์
70% ข้นึ ไป ถอื ว่า
ความรคู้ วาม 1. บอกความหมายของพทุ ธศาสน 1.คำถามกระตุ้น ผ่านเกณฑก์ าร
เขา้ ใจ (K) ประเมิน
สภุ าษติ ได้ ความคดิ
70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ทักษะ/ 1.วิเคราะห์และประโยชนข์ อง 1. คำถามกระตนุ้ ผ่านเกณฑ์การ
กระบวนการ (P) การศกึ ษาพทุ ธศาสนสภุ าษิต ความคิด ประเมนิ

คุณลกั ษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 70% ขึ้นไป ถอื วา่
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานทีส่ ่งั และสง่ งาน พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์การ
ไดท้ ันตามทก่ี ำหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการม่งุ มั่นในการ
ทำงาน

7. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรียน พระพทุ ธศาสนา ป.4

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชือ่ ..........................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ.............................................ฝ่ายวชิ าการ

(....................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 11

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี 1/.............. ช่ือผสู้ อน..................................................
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง หลกั ธรรมเพอื่ การอยู่ร่วมกันอย่าง
สมานฉันท์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด

มาตรฐานท่ี ส 1.1

ร้แู ละเข้าใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือและศาสนา

อนื่ มีศรัทธาทถี่ กู ต้อง ยึดม่นั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมเพอื่ อย่รู ว่ มกนั อย่างสันติสขุ

ตวั ช้วี ดั ท่ี ป 4/4

แสดงความเคารพพระรตั นตรัย ปฏิบตั ิตามไตรสิกขา และหลกั ธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรอื

หลักธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามที่กำหนด

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

เบญจศีลนน้ั คอื ข้อปฏิบัตติ นโดยไม่ทำชว่ั ทางกาย ทางวาจา ทางใจ และสังคมปฏบิ ตั ิตนอยา่ งนี้สงั คมก็

สงบสุข

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1) บอกการปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมตา่ งๆ ได้ (K)

2) วิเคราะหผ์ ลของการปฏิบัติตนตามหลักธรรมตา่ งๆ ได้ (P)

3) มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรแู้ ละม่งุ มั่นในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่

• หลกั ธรรมเพอื่ การอยู่รว่ มกันอย่างสมานฉันท์ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

- เบญจธรรม

- สจุ รติ 3

- พรหมวิหาร 4

5. กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นำ

1. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั ร้องเพลง คุณธรรม 8 ประการ และช่วยกันแสดงความคดิ เหน็ ว่า คณุ ธรรมท่ไี ดจ้ ากบท
เพลงมีอะไรบา้ ง และสามารถนำไปปฏิบตั ไิ ด้อย่างไรบ้าง

ขั้นสอน

2. นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1) มารวมกลุ่มกนั แล้วใหส้ มาชกิ กลุ่มเลือกหมายเลขประจำตัว
และชือ่ ประจำหมายเลข

3. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขแยกย้ายกันไปหาเพ่ือนใหมท่ ี่มหี มายเลขเดยี วกัน และร่วมมอื กันศึกษาความรู้จาก
หนงั สือเรยี น

- หมายเลข 1 ศกึ ษาเรื่อง เบญจธรรม สจุ ริต 3
- หมายเลข 2 ศกึ ษาเร่ือง พรหมวิหาร 4
- หมายเลข 3 ศกึ ษาเร่ือง กตัญญูกตเวทตี อ่ ประเทศชาติ
- หมายเลข 4 ศกึ ษาเรื่อง มงคลชีวิต
4. สมาชิกแตล่ ะหมายเลขนำความรทู้ ไ่ี ดม้ าอภิปรายสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ และผลัดกันอธิบายเพมิ่ เตมิ ใหส้ มาชกิ
ในกลุ่มมีความเขา้ ใจตรงกนั
5. ครูอธิบายเพม่ิ เติมเพ่อื ให้นักเรียนเข้าใจมากยิ่งข้นึ

ขน้ั สรปุ

6. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั หนา้ ท่ี 58-59

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 70% ขึน้ ไป ถอื ว่า
ผ่านเกณฑ์การ
ความรคู้ วาม 1. บอกการปฏิบัตติ นตาม 1.คำถามกระตนุ้ ประเมิน
เขา้ ใจ (K) หลกั ธรรมต่างๆ ความคิด 70% ขึน้ ไป ถอื ว่า
ผา่ นเกณฑ์การ
ทกั ษะ/ 1.วิเคราะห์ผลของการปฏิบตั ติ น แบบฝกึ หดั ประเมนิ
กระบวนการ (P) ตามหลกั ธรรมตา่ งๆ
70% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต ผ่านเกณฑ์การ
รับผดิ ชอบต่องานทส่ี ั่งและส่งงาน พฤติกรรม ประเมิน
ได้ทันตามทีก่ ำหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้
3. สังเกตจากการม่งุ ม่นั ในการ
ทำงาน

7. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนังสือเรียน พระพทุ ธศาสนา ป.4
2) เพลง คุณธรรม 8 ประการ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรียน

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชือ่ .........................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...............................................ฝ่ายวชิ าการ

(.......................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 12

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 1/.............. ชือ่ ผสู้ อน..................................................

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 จำนวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง หน้าทช่ี าวพุทธ

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานที่ ส 1.1
รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื และศาสนา
อืน่ มีศรทั ธาทถี่ กู ตอ้ ง ยดึ ม่นั และปฏิบัติตามหลกั ธรรมเพอื่ อยูร่ ว่ มกันอยา่ งสนั ตสิ ุข
ตวั ช้วี ดั ที่ ป 4/1
อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือในฐานะเปน็ ศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชน

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

ชาวพุทธทยี่ อมรับคำสง่ั สอนของพระพุทธเจ้าว่าเปน็ สงิ่ ประเสรฐิ สามารถเปน็ แนวทางท่ีจะนำผ้ปู ฏิบัตติ าม
ไปสคู่ วามสงบและความเจรญิ กา้ วหน้าได้

3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1) อธบิ ายหน้าทขี่ องชาวพทุ ธได้ (K)
2) แสดงความเคารพและบำรุงศาสนสถานของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ได้ (P)
3) มีความสนใจใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น
พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1) ความรเู้ บอ้ื งต้นและความสำคัญของศาสน
สถาน

2) การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน
3) การบำรุงรกั ษาศาสนสถาน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ

1) นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น

ขน้ั สอน

2) ครซู กั ถามนกั เรียนวา่ ใครเคยไปวัดบ้าง ไปกบั ใครและไปทำอะไรท่ีวดั (ใหน้ กั เรียนยกตวั อย่าง)
3) ครแู ละนักเรยี นอภิปรายเรื่องหนา้ ที่ชาวพุทธวา่ มคี วามสำคัญอยา่ งไร
4) ครสู มุ่ ใหน้ ักเรยี นออกมาเขยี นบนกระดาน เกย่ี วกับการแสดงความเคารพและการดแู ลรักษาศาสนสถาน

ขัน้ สรุป

5) ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ สิ่งท่ีนกั เรยี นไปเขียนบนกระดาน

6) นกั เรยี นทำแบบฝกึ หัดหนา้ ที่ 69-70

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 1.คำถามกระตุ้น 70% ขน้ึ ไป ถอื
ความคิด วา่ ผา่ นเกณฑก์ าร
ความรู้ความ 1. อธบิ ายหนา้ ท่ขี องชาวพุทธได้ ประเมิน
เข้าใจ (K) 1. แบบฝึกหัด 70% ขึ้นไป ถอื
วา่ ผ่านเกณฑก์ าร
ทักษะ/ 1.แสดงความเคารพและบำรงุ ศาสน ประเมนิ
กระบวนการ (P) สถานของศาสนาทีต่ นนบั ถือได้
70% ขึ้นไป ถอื
คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต วา่ ผา่ นเกณฑ์การ
รับผิดชอบตอ่ งานทส่ี งั่ และสง่ งานไดท้ ัน พฤติกรรม ประเมนิ
ตามที่กำหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝเ่ รยี นรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1) หนังสือเรยี น พระพทุ ธศาสนา ป.4

7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรยี น

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................ครูผสู้ อน ลงช่ือ.............................................ฝ่ายวชิ าการ

(..................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 13

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1/.............. ชอ่ื ผูส้ อน..................................................

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 2 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง มารยาทชาวพทุ ธ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั

มาตรฐานที่ ส 1.2

เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบัติตนเปน็ ศาสนกิ ชนทด่ี ี และธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนบั ถอื

ตวั ชี้วดั ที่ ป 4/2

มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนท่ีดีตามทก่ี ำหนด

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

มารยาทชาวพุทธ หมายถงึ กิริยาวาจาที่ถือว่าสุภาพเรียบร้อยทีช่ าวพทุ ธพงึ ประพฤติปฏิบตั ติ ่อกัน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1) บอกวธิ ปี ฏบิ ตั ิตอ่ สงฆแ์ ละปฏิบตั ิตนตามมารยาทตา่ ง ๆได้ (K)

2) ปฏิบตั ิตอ่ สงฆ์และปฏบิ ัติตนตามมารยาทตา่ ง ๆได้ (P)

3) มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถิ่น

มรรยาทของศาสนิกชน พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

- การปฏบิ ตั ติ นท่ีเหมาะสมต่อพระภกิ ษุ

- การยืน การเดนิ และการน่งั ทีเ่ หมาะสมใน

โอกาสต่างๆ

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ข้นั นำ
1) นักเรยี นสูดดมหายใจเขา้ ลึก ๆ เพ่ือคลายและทำจติ ใหส้ งบเป็นสมาธิ
2) ครซู กั ถามนกั เรยี นว่า “หากนักเรียนไปวัดนกั เรียนควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไรบ้าง” ( เพราะเหตุใด )

ขน้ั สอน
3) ครูนำภาพเกย่ี วกับพระสงฆ์และภาพมรรยาทชาวพุทธให้นกั เรยี นดู แล้วซกั ถามนกั เรยี นว่าบุคคลในภาพกำลงั

ทำอะไร นักเรยี นเคยทำเหมอื นบคุ คลในภาพหรอื ไม่ ทำแลว้ ร้สู ึกอย่างไรบ้าง
4) ครอู ธบิ ายเรอ่ื งมรรยาทชาวพทุ ธ
5) ครสู าธติ ในเรอื่ งการกราบเบญจางคประดิษฐ์และการประเคนส่ิงของแด่พระสงฆ์
6) นักเรยี นรว่ มกันทดสอบปฏิบัติการกราบเบญจางคประดษิ ฐ์ และการประเคนของแด่พระสงฆ์

ขั้นสรุป
7) ครแู ละนักเรียนสรปุ เก่ียวกบั มารยาทของชาวพุทธร่วมกันอีกคร้งั

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ความรู้ความ 1. บอกวิธีปฏิบตั ิต่อสงฆแ์ ละปฏิบตั ิ 1.คำถามกระตนุ้ ผ่านเกณฑ์การ
เข้าใจ (K) ประเมิน
ตนตามมารยาทตา่ ง ๆได้ ความคิด
70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ทักษะ/ 1.ปฏิบัตติ อ่ สงฆ์และปฏิบตั ิตนตาม 1. ทดสอบปฏบิ ตั ิการ ผ่านเกณฑก์ าร
กระบวนการ (P) มารยาทต่าง ๆได้ ประเมิน

คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้ 1. แบบสงั เกต 70% ข้นึ ไป ถอื ว่า
2. สังเกตจากการมงุ่ มนั่ ในการ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การ
ทำงาน ประเมิน

7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1) หนังสอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ป.4
2) บัตรภาพการฝึกมรรยาทชาวพทุ ธ

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชอื่ ..........................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(..........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

บตั รภาพ การฝึกมรรยาทชาวพุทธ

ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
ภาพท่ี 3 ภาพท่ี 4

ภาพท่ี 5 ภาพท่ี 6

สปั ดาหท์ ่ี 14-15

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1/.............. ชื่อผ้สู อน..................................................

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 จำนวน 2 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เร่อื ง การบริหารจิตเจริญปัญญา

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด

มาตรฐานท่ี ส 1.1
รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทต่ี นนับถอื และศาสนา
อื่น มศี รัทธาทถ่ี กู ตอ้ ง ยึดม่ันและปฏบิ ตั ติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อย่รู ่วมกนั อย่างสันติสุข
ตวั ชี้วดั ที่ ป 4/6
เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผเ่ มตตา มีสตทิ เ่ี ป็นพน้ื ฐานของสมาธิในพระพทุ ธศาสนา หรือการพัฒนาจติ ตาม
แนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การปฏบิ ัติการบรหิ ารจติ เจรญิ ปัญหาโดยการใชส้ มาธกิ ารฝกึ จิตให้มคี วามสงบโดยการฝึกสมาธิ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) บอกความหมายของสติสมั ปชัญญะ สมาธิ และปญั ญาได้ (K)
2) บอกวธิ ปี ฏิบตั กิ ารบริหารจติ และเจริญปญั ญาได(้ K)
3) ปฏบิ ัตกิ ารบริหารจิตและเจรญิ ปัญญาได(้ P)
4) มีความสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมุง่ ม่ันในการทำงาน(A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน

สวดมนต์ไหว้พระ สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรัย และแผ่ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
เมตตา

- รคู้ วามหมายของสตสิ มั ปชญั ญะ สมาธิ และ

ปญั ญา

- รวู้ ิธีปฏบิ ตั ิของการบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี1

 นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น

1) นกั เรยี นดภู าพคนนง่ั สมาธิ แลว้ สนทนากบั นกั เรยี นเรือ่ งการนง่ั สมาธโิ ดยใหน้ กั เรยี นตอบคำถามว่าคนในภาพ
กำลังทำอะไร ทำไมตอ้ งฝึกสมาธิฝึกสมาธิ แล้วจติ เปน็ อย่างไร จิตทมี่ ีสมาธมิ ปี ระโยชน์อยา่ งไร
2) ครแู ละนกั เรียน อภปิ รายเรอื่ งการบรหิ ารจิตและเจริญปัญญาในหวั ขอ้ การฝึกสติ และฝกึ สมาธจิ ากหนงั สอื
แบบเรียน

3) ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันสรุปจากการศกึ ษาและอภิปรายในหอ้ งชว่ ยกันสรุปความเขา้ ใจในเรือ่ งพระพทุ ธศาสนา พรอ้ ม
ซักถามนักเรียนเพ่ือทำใหน้ ักเรยี นเกดิ ความเขา้ ใจมากข้ึน

คาบที่2

4) ทำใบงานประโยชน์จากการฝึกสมาธิ
5) ครูสรปุ ประโยชน์ของการฝึกสมาธแิ ละฝกึ สติแล้วใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด
6) ครแู ละนกั เรียนสรปุ เร่อื งการน่งั สมาธอิ ย่างไรโดยครูให้นักเรยี น ลองฝึกปฏิบตั ิในห้องเรยี น 20 นาที

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 1.คำถามกระตุ้น 70% ข้ึนไป ถอื วา่
ความคิด ผา่ นเกณฑก์ าร
ความรู้ความ 1.บอกความหมายของ ประเมนิ
เข้าใจ (K) สติสัมปชญั ญะ สมาธิ และปญั ญา 1. ใบงานที่ 1.1 เร่ือง
ได้ ความสำคญั ของ 70% ข้นึ ไป ถอื ว่า
ทกั ษะ/ 2. บอกวิธีปฏิบตั กิ ารบรหิ ารจิต พระพทุ ธศาสนา ผ่านเกณฑ์การ
กระบวนการ (P) และเจริญปัญญาได้ ประเมิน

1.ปฏบิ ตั กิ ารบรหิ ารจติ และเจริญ
ปญั ญาได้

คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขึน้ ไป ถอื ว่า
รับผิดชอบตอ่ งานทส่ี ั่งและส่งงาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ
ได้ทนั ตามทีก่ ำหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝเ่ รยี นรู้
3. สังเกตจากการม่งุ มัน่ ในการ
ทำงาน

7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้

1) ตวั อยา่ งขา่ วเกี่ยวกบั ผลดขี องการฝกึ บริหารจติ และเจรญิ ปญั ญา
2) บัตรภาพ อิริยาบถของบคุ คลหรอื กลุม่ คนต่างๆ ทแ่ี สดงถงึ การมีสติ มสี มาธิ
3) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ...............................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

บตั รภาพ อริ ยิ าบถของบคุ คลหรอื กลมุ่ คนต่างๆ ท่แี สดงถงึ การมสี ติ มีสมาธิ

ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
ภาพท่ี 3 ภาพที่ 4

ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา

คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามทก่ี ำหนดให้ต่อไปน้ี

1) ถา้ นักเรียนไมม่ ีสตสิ ัมปชญั ญะในการเรียนจะเกดิ ผลเสียอย่างไร ยกตวั อยา่ งมาพอเข้าใจ

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

2) นกั เรยี นจะสงั เกตไดอ้ ยา่ งไรว่าเพอ่ื นมสี มาธใิ นการเรยี นหรอื ไม่ จงอธบิ ายมาพอเขา้ ใจ

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

3) ถา้ นกั เรยี นมปี ญั หาในการทำงานกลุม่ รว่ มกับเพอ่ื น จะแก้ปัญหาอย่างไร

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

4) เมือ่ จะบริหารจติ และเจริญปญั ญาควรทำส่งิ ใดเป็นขัน้ ตอนแรก เพราะเหตุใด

.............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

5) นกั เรยี นคิดวา่ การบรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญามปี ระโยชนต์ อ่ การเรยี นอยา่ งไร

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

6) ถ้านกั เรยี นพบเพอื่ นทม่ี นี ิสยั ซุ่มซา่ มเสมอ นกั เรยี นจะนำความรทู้ ไ่ี ดศ้ กึ ษาไปแนะนำเพอ่ื นอยา่ งไร

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

7) เพราะเหตใุ ด ขณะนกั เรยี นกำลงั ดม่ื น้ำ จงึ ควรทำอย่างมีสติ

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

8) ผู้ทค่ี ิดเป็น จะมีลักษณะอยา่ งไร

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

สัปดาห์ที่ 16

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี 1/.............. ชื่อผูส้ อน..................................................

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เรอ่ื ง ศาสนพิธี

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานท่ี ส 1.1

รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับถอื และศาสนา

อ่ืน มศี รทั ธาทถี่ กู ตอ้ ง ยึดม่นั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรมเพอื่ อยู่ร่วมกันอยา่ งสันติสุข

ตัวชี้วดั ท่ี ป 4/6

เห็นคณุ คา่ และสวดมนต์ แผเ่ มตตา มีสตทิ ีเ่ ป็นพน้ื ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา หรือการพฒั นาจติ ตาม

แนวทางของศาสนาทตี่ นนับถอื ตามที่กำหนด

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

พุทธศาสนกิ ชนทุกคนพึงกลา่ วคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปรติ ร และปฏบิ ัติตนในศาสน

พิธี พธิ กี รรมในวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนาได้อย่างถกู ต้อง

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายระเบียบพิธีและปฏบิ ัตติ นในวนั ธรรมสวนะได้ถกู ต้อง (K)

2) กลา่ วคำอาราธนาศีล สมาทานศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปรติ รได้ถูกต้อง (P)

3) มีความสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละม่งุ ม่ันในการทำงาน (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่

ปฏบิ ตั ติ นในศาสนพิธี พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

- การอาราธนาศีล

- การสมาทานศลี

- การอาราธนาธรรม

- การอาราธนาพระปรติ ร

- ระเบียบพิธแี ละการปฏิบตั ิตนในวนั

ธรรมสวนะ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่1

 นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น
1. ครูสอบถามนักเรียนวา่ ใครเคยสวดมนต์และแผเ่ มตตาบา้ ง และครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี นทเี่ คยสวดมนตแ์ ละ

แผเ่ มตตาออกมาท่องใหเ้ พื่อนฟัง
2. ครูแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายว่า การสวดมนต์และแผ่

เมตตากอ่ ให้เกิดผลดอี ยา่ งไรบ้าง เสร็จแลว้ ให้สง่ ตวั แทนออกนำเสนอทห่ี น้าชั้น

3. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศึกษา เรือ่ ง การสวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คณุ พระรตั นตรัย และแผ่เมตตา จากหนังสอื
เรียน เสรจ็ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ฝกึ ท่องคำนมัสการพระพุทธเจ้า คำบูชาพระรัตนตรยั บทสรรเสริญคุณพระ
รตั นตรยั บทแผเ่ มตตา และบทกรวดนำ้

4. ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมาทอ่ งบทสวดตา่ งๆ ทหี่ น้าชนั้ เรยี นทีละกลมุ่ จนครบทงั้ กลมุ่
5. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั เรอ่ื ง การสวดมนต์และแผ่เมตตา หนา้ ที่ 79-80 เสร็จแลว้ ครแู ละนกั เรียน
รว่ มกันเฉลยแบบฝกึ หัด
6. ครูนำภาพการปฏบิ ตั ิตนของชาวพุทธ เชน่ การเวยี นเทยี นในวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา การทำบุญตัก
บาตร มาให้นักเรียนดู เพ่ือนำเขา้ สู่บทเรียน
7. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันบอกความหมายของคำว่า ศาสนพิธี จากน้ันครอู ธิบายใหฟ้ งั ว่า ศาสนพธิ ี หมายถึง
พธิ ที างศาสนาทีก่ ำหนดให้ผทู้ นี่ บั ถอื ศาสนาได้ยดึ ถอื ปฏิบัติเปน็ แบบอย่างเดียวกัน
8. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายว่า การปฏิบัติศาสนพิธมี ีประโยชนอ์ ย่างไร แล้วสง่ ตัวแทนออกนำเสนอผล
การอภิปรายทห่ี น้าช้ันเรียน

คาบที่2

9. ครูใหน้ กั เรียนแบง่ เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศกึ ษาการอาราธนาศลี และสมาทานศลี การ
อาราธนาธรรม การอาราธนาพระปริตร และระเบียบพิธีและการปฏบิ ัติตนในวันธรรมสวนะ

10. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้ทไ่ี ด้ศึกษามา และให้แตล่ ะกล่มุ ออกมาทอ่ งบทคำอาราธนาศีล และคำ
นมัสการพระพทุ ธเจา้ บทไตรสรณคมน์ คำสมาทานเบญจศลี คำอาราธนาธรรม และคำ อาราธนาพระปริตร ที่
หนา้ ชัน้ เรียน

11. ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ศาสนพธิ ี โดยให้นักเรียนเตมิ คำตอบลงในชอ่ งว่าง เสรจ็ แล้วครแู ละ
นกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ

12. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 6

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ความรูค้ วาม 1. อธิบายระเบยี บพิธีและปฏบิ ัติตน 1.คำถามกระต้นุ ประเมิน
70% ขึน้ ไป ถอื ว่า
เขา้ ใจ (K) ในวันธรรมสวนะไดถ้ ูกตอ้ ง ความคิด ผา่ นเกณฑ์การ
ประเมนิ
ทักษะ/ 1.กลา่ วคำอาราธนาศีล สมาทาน ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง
กระบวนการ (P) ศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระ ศาสนพธิ ี 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
ปรติ รไดถ้ กู ตอ้ ง ผา่ นเกณฑ์การ
ประเมิน
คณุ ลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้ 1. แบบสังเกต
2. สงั เกตจากการมุง่ มน่ั ในการ พฤตกิ รรม
ทำงาน

7. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้

1) บทสวดมนต์
2) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง ศาสนพธิ ี

7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2)

8. กิจกรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงช่ือ..........................................ครูผ้สู อน ลงชื่อ.................................................ฝา่ ยวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

ใบงานที่ 2.1 เรื่อง ศาสนพธิ ี

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามทกี่ ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี

1) การอาราธนาศลี มีจดุ ประสงค์เพ่ืออะไร

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

2) การอาราธนาส่ิงใดจะตอ้ งมีทุกครั้งท่ีประกอบศาสนพธิ เี ก่ยี วกบั การเจรญิ พระพุทธมนต์

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

3) การอาราธนาธรรมมขี นั้ ตอนในการปฏิบัตอิ ยา่ งไร อธบิ ายมาพอเข้าใจ

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

4) วนั ธรรมสวนะ หมายถึงวันใด

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

5) นกั เรยี นควรปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไรในวนั ธรรมสวนะ

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

สปั ดาห์ท่ี 18-19

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี 1/.............. ชอ่ื ผสู้ อน..................................................

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จำนวน 2 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 เร่อื ง ประวัตศิ าสดาของศาสนาอน่ื ๆ

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานท่ี ส 1.1

รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ตี นนบั ถอื และศาสนา

อื่น มศี รัทธาทถี่ กู ต้อง ยึดมัน่ และปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรมเพอื่ อยู่รว่ มกนั อย่างสันติสุข

ตัวช้วี ัดท่ี ป 4/8

อธิบายประวตั ิศาสดาของศาสนาอื่นๆ โดยสังเขป

2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

ศาสนาในประเทศไทยมมี ากมายหลายศาสนา คนไทยส่วนใหญ่นับถอื พระพุทธศาสนา และมีคนไทยอีก

ส่วนหน่ึงนับถือศาสนาครสิ ต์ ศาสนาอสิ ลาม เปน็ ต้นทกุ ศาสนามีจุดมุ่งหมายเดยี วกัน คอื สอนใหท้ กุ คนทำความดี

และมีความเมตตาต่อกนั

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายประวตั ิของศาสดาของศาสนาอื่นได้ (K)

2) วเิ คราะหข์ อ้ คิดและแบบอย่างทด่ี ที ไี่ ด้จากประวัตขิ องศาสดาของศาสนาอน่ื ได้ (P)

3) มีความสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมุง่ ม่ันในการทำงาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน

- ประวตั ขิ องศาสดาของศาสนาครสิ ต์ และอิสลาม

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
คาบที่1

 นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรยั และทำสมาธกิ อ่ นเรยี น

1. ครูนำภาพเกย่ี วกบั พิธีกรรมของศาสนาคริสตแ์ ละศาสนาอสิ ลาม มาให้
นกั เรยี นดู แลว้ ใหน้ ักเรยี นทายปญั หาภาพ โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี
- ภาพใดเป็นภาพกจิ กรรม/พธิ ีกรรมของศาสนาคริสต์
- ภาพใดเป็นภาพกิจกรรม/พิธีกรรมของศาสนาอิสลาม
- ศาสดาของศาสนาคริสต์และอสิ ลามคือใคร

2. ครอู ธบิ ายเชือ่ มโยงให้นักเรยี นเห็นถงึ ความสำคัญของศาสดาของศาสนาคริสตแ์ ละศาสนาอิสลาม แล้วให้
นกั เรยี นรว่ มกนั กำหนดจดุ ประสงคใ์ นการศกึ ษาความรู้ และหวั ขอ้ สำคญั ในประวตั ศิ าสดาของศาสนาครสิ ตแ์ ละ
ศาสนาอสิ ลาม

3.ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันนำจดุ ประสงค์ และหัวขอ้ ทน่ี ักเรียนสนใจมาคน้ หาคำตอบ โดยใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั
วางแผนและกำหนดแนวทางเพอื่ ค้นหาคำตอบนักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ

คาบที่2

1. สมาชกิ ของแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาค้นควา้ หาความรู้เร่ือง ประวัติศาสดาของศาสนาอืน่ ๆ จากหนังสือเรียน
หนังสอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม และแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศตามแผนปฏิบัตงิ านท่ีกำหนดไว้

2. สมาชกิ แตล่ ะคนนำความรทู้ ไี่ ด้สบื คน้ มาเปน็ พ้นื ฐานในการทำใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ประวตั ศิ าสดาของศาสนา
อื่น

3. ครูเฉลยคำตอบของใบงานที่ 4.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มตรวจสอบความถกู ตอ้ ง แลว้ ตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ

6. การวัดและประเมินผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เครื่องมือวดั เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ผา่ นเกณฑ์การ
ความรู้ความ 1.อธิบายประวัตขิ องศาสดาของ 1.คำถามกระตุ้น ประเมิน
เขา้ ใจ (K) 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ศาสนาอน่ื ได้ ความคดิ ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ทักษะ/ 1.วเิ คราะห์ข้อคดิ และแบบอย่างท่ี ใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง
กระบวนการ (P) 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ดีทไ่ี ด้จากประวัตขิ องศาสดาของ ประวตั ิศาสดาของ ผา่ นเกณฑ์การ
ประเมนิ
ศาสนาอ่นื ได้ ศาสนาอ่นื

คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต
รบั ผิดชอบต่องานท่ีสงั่ และสง่ งาน พฤติกรรม
ได้ทนั ตามท่กี ำหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมั่นในการ
ทำงาน

7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สือเรียน พระพุทธศาสนา ป.4
2) บตั รภาพ พธิ กี รรมของศาสนาครสิ ตแ์ ละอิสลาม
3) ใบงานที่ 4.1 เร่อื ง ประวัติศาสดาของศาสนาอ่นื

7.2 แหล่งการเรยี นรู้
-

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..........................................ครผู ู้สอน ลงชอ่ื ...............................................ฝ่ายวชิ าการ

(.........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

บัตรภาพ พธิ ีกรรมของศาสนาครสิ ตแ์ ละอิสลาม

ภาพท่ี 1 ภาพที่ 2
ภาพท่ี 3 ภาพที่ 4

ภาพที่ 5 ภาพที่ 6

ใบงานท่ี 4.1
เรอื่ ง ประวตั ศิ าสดาของศาสนาอ่นื

ตอนที่ 1
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนนำคำหรอื ข้อความที่กำหนดใหไ้ ปเรยี บเรียงเร่ืองราวที่แสดงถึงประวัตศิ าสดาของศาสนา
คริสต์

พระเยซู เบธเลเฮม ศลี ล้างบาป นักบญุ โยฮัน

มาเรยี บำเพญ็ พรต เผยแผ่ศาสนา นมัสการพระเจา้

โยเซฟ ถกู ประหารชวี ติ ประกาศคำสอน

การตรึงบนไม้กเปาน็งเชขานวยวิ ประสูติทห่ี มบู่ า้ น มารดาชือ่

บิดาช่ือ ได้พบกับ และไดร้ บั

พระเยซไู ด้เขา้ ไปในปา่ เพอ่ื และ

พระเยซูได้ประกาศหลกั คำสอนและได้ นกั บวชชาวยิวใส่ความ

พระเยซจู นต้อง โดย

ตอนท่ี 2
คำช้ีแจง ให้นักเรียนนำคำหรือข้อความทีก่ ำหนดให้ไปเรียบเรยี งเร่อื งราวทแี่ สดงถงึ ประวัติศาสดาของศาสนา
อสิ ลาม

นบมี ฮู ัมมดั นางคอดญี ะฮ์ มักกะฮฺ

ภเู ขาฮีรอฮ์ ทูตสวรรค์ โองการพระเจา้

นางอามีนะฮ์ ประกาศศาสนา

ท่าน ประบสชู ูตาทิพเ่ีรมะอืเจงา้ เพียงองคเ์ ดยี ว เปน็ บุตรของ
แต่งงานกับ
มี วนั หน่ึงทา่ นไปหาความสงบในถ้ำบน
ท่านได้
นำ มาประทานแกท่ า่ น

ให้

ใบงานที่ 4.1 เฉลย

เร่อื ง ประวตั ิศาสดาของศาสนาอ่ืน

ตอนท่ี 1

คำช้แี จง ให้นกั เรียนนำคำหรอื ขอ้ ความทก่ี ำหนดให้ไปเรยี บเรยี งเร่ืองราวทแ่ี สดงถงึ ประวัติศาสดาของศาสนา

ครสิ ต์

พระเยซู เบธเลเฮม ศีลลา้ งบาป นักบญุ โยฮัน

มาเรีย บำเพญ็ พรต เผยแผศ่ าสนา นมสั การพระเจ้า

โยเซฟ ถกู ประหารชวี ติ ประกาศคำสอน การตรึงบนไมก้ างเขน

พระเยซู เป็นชาวยวิ ประสตู ทิ ีห่ ม่บู า้ น เบธเลเฮม มารดาช่ือ มาเรยี

บิดาชอ่ื โยเซฟ ไดพ้ บกับ นกั บุญโยฮนั และได้รับ ศีลลา้ งบาป
พระเยซูได้เขา้ ไปในป่าเพือ่ บำเพญ็ พรต และ นมัสการพระเจ้า

พระเยซูได้ประกาศหลกั คำสอนและได้ เผยแผศ่ าสนา นักบวชชาวยวิ ใส่ความ

พระเยซจู นต้อง ถกู ประหารชีวิต โดย การตรึงบนไมก้ างเขน

ตอนท่ี 2
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำคำหรือข้อความท่ีกำหนดใหไ้ ปเรยี บเรียงเรื่องราวทแ่ี สดงถึงประวตั ิศาสดาของศาสนา
อิสลาม

นบมี ฮู ัมมัด นางคอดีญะฮ์ มักกะฮฺ
ภเู ขาฮรี อฮ์ ทูตสวรรค์ โองการของพระเจา้

นางอามนี ะฮ์ ประกาศศาสนา บูชาพระ

เจา้ เพยี งองค์เดยี ว นางอามนี ะฮ์
ภเู ขาฮรี อฮ์
ท่าน นบมี ูฮัมมัด ประสตู ทิ เ่ี มอื ง มักกะฮฺ เป็นบุตรของ
แตง่ งานกับ นางคอดญี ะฮ์ วันหนึ่งทา่ นไปหาความสงบในถ้ำบน มาประทานแก่ท่าน

มี ทูตสวรรค์ นำ โองการของพระเจ้า

ท่านได้ ประกาศศาสนา ให้ บูชาพระเจ้าเพียงองคเ์ ดยี ว


Click to View FlipBook Version