โครงสร้างและแผนการสอน วิชาประวัติศาสตร์ ป.3 เทอม 2/2563

โครงสรา้ งการสอนวชิ า ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา ............... เวลา 18 ช่วั โมง

หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
การเรียนรู้/เรือ่ ง คะแนน
(ชม.)
1 แผนผังแผนทแี่ ละ มาตรฐานท่ี ส 5.1 - แ ผ น ผั ง แ ผ น ที่ แ ล ะ 5
/สัปดาห์
การถ่ายภาพใน เข้าใจลักษณะของโลก ทาง ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือ
1
(ส.1)

ชมุ ชน กายภาพ และความสัมพันธ์ของ สาหรับค้นหาข้อมูลทาง

- แผนผังแผนท่ี สรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อกนั และกันใน ภูมิศาสตร์แสดงข้อมูล

และการถ่ายภาพ ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่ ต่าง ๆ บนพ้ืนผิวโลกและ

ในชุมชน และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ใน ในการสร้างแผนผังที่ดี

การค้นหาวเิ คราะห์ สรปุ และใช้ ต้องทาการสารวจพ้ืนที่ท่ี

ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ อ ย่ า ง มี จะสร้างแผนผังก่อนแล้ว

ประสทิ ธภิ าพ จึงวาดภาพและกาหนด

ตัวชว้ี ัดที่ ป.3/1 สถาน ท่ีต่าง ๆ ลง ใน

ใช้แผนที่ แผนผัง และภาพถ่าย แผนผัง

ในการหาข้อมูลทางภูมศิ าสตร์ใน

ชมุ ชนได้อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวช้วี ัดที่ ป.3/2

เ ขี ย น แ ผ น ผั ง ง่ า ย ๆ เ พ่ื อ แ ส ด ง

ตาแหน่งที่ต้ังของสถานท่ีสาคัญ

ในบริเวณโรงเรยี นและชมุ ชน

-แผนผังของ มาตรฐานที่ ส 5.1 แ ผ น ผั ง แ ผ น ท่ี แ ล ะ 2 10
โรงเรยี น (ส.2-3)
เข้าใจลักษณะของโลก ทาง ภาพถ่ายเป็นเครื่องมือ

กายภาพ และความสัมพันธ์ของ สาหรับค้นหาข้อมูลทาง

สรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกนั และกันใน ภูมิศาสตร์ แสดงข้อมูล

ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่ ตา่ ง ๆ บนพื้นผิวโลกและ

และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ใน ในการสร้างแผนผังที่ดี

การค้นหาวเิ คราะห์ สรปุ และใช้ ตอ้ งทาการสารวจพ้ืนท่ีท่ี

ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ อ ย่ า ง มี จะสร้างแผนผังก่อนแลว้

ประสทิ ธิภาพ จงึ วาดภาพและ

โครงสร้างการสอนวิชา ประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา ............... เวลา 18 ช่วั โมง

หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
การเรียนรู้/เรื่อง (ชม.) คะแนน
/สปั ดาห์

ตัวชว้ี ัดที่ ป.3/1 กาหนดสถานท่ีต่าง ๆ

ใช้แผนที่ แผนผัง และภาพถ่ายใน ลงในแผนผัง

ก า ร ห า ข้ อ มู ล ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ ใ น

ชุมชนได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ

ตัวชี้วัดท่ี ป.3/2

เ ขี ย น แ ผ น ผั ง ง่ าย ๆ เ พื่ อ แสดง

ตาแหน่งท่ีตั้งของสถานท่ีสาคัญใน

บรเิ วณโรงเรียนและชุมชน

- แผนท่ี มาตรฐานที่ ส 5.1 แ ผ น ท่ี เ ป็ น เ ค รื่ อ ง มื อ 1 5
เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ ทางภูมศิ าสตร์ท่ีช่วยทา (ส.4)
และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมี ใ ห้ เ ร า รู้ ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ
ผ ล ต่ อ กั น แ ล ะ กั น ใ น ร ะ บ บ ข อ ง ท่ีต้ังของสิ่งต่างๆ ที่
ธรรมชาติ ใช้แผนที่และเคร่ืองมือ ปรากฏอยูบ่ นพน้ื โลก

ทาง ภูมิศาส ตร์ ใน ก าร ค้ น ห า

วิ เคร าะ ห์ สรุป และ ใช้ข้อ มูล

สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.3/1
ใช้แผนท่ี แผนผัง และภาพถ่ายใน

ก า ร ห า ข้ อ มู ล ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ ใ น
ชุมชนได้อยา่ งประสิทธิภาพ

โครงสร้างการสอนวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 3

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา ............... เวลา 18 ช่ัวโมง

หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
การเรยี นรู้/เรอื่ ง (ชม.) คะแนน
/สัปดาห์
5
การใช้แผนท่ี มาตรฐานที่ ส 5.1 การใช้แผนท่ีในการหา 1
(ส.5)
เข้าใจลักษณะของโลกทาง ข้อมูลต่างๆ น้ัน ผู้ใช้

กายภาพ และความสัมพันธ์ของ จะต้องรู้องค์ประกอบ

สรรพสิ่งซงึ่ มีผลต่อกันและกันใน เกยี่ วกบั ทศิ มาตราส่วน

ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนท่ี สัญลักษณ์ และการใช้สี

และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ใน ในแผนท่ี

การค้นหาวิเคราะห์ สรุป และใช้

ข้ อ มู ล ส า ร ส น เ ท ศ อ ย่ า ง มี

ประสิทธิภาพ

ตวั ชี้วดั ที่ ป.3/1
ใช้แผนท่ี แผนผัง และภาพถ่าย

ในการหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์
ในชมุ ชนไดอ้ ย่างประสทิ ธภิ าพ

ภมู ิประเทศและ มาตรฐานที่ ส 5.2 ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ภู มิ 2 10

ภูมอิ ากาศที่มี เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ประเทศและภมู ิอากาศ (ส.6-7)

- คว ามสัมพันธ์ กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ท่ีมีผลต่อสภาพสังคม

ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ที่ก่อให้เกิดก าร สร้าง สร ร ค์ ในชุมชนและสภาพทาง
กายภาพกับลักษณะ วัฒนธรรมมีจิตสานึกและมีส่วน กายภาพในชุมชน
สังคมปัจจุบันผลต่อ ร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร
สภาพสงั คมในชมุ ชน และสง่ิ แวดล้อมเพ่อื การพฒั นาที่

ยง่ั ยนื

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.3/1

เปรยี บเทียบการเปลย่ี นแปลง

สภาพแวดล้อมในชมุ ชนจาก

โครงสรา้ งการสอนวิชา ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา ............... เวลา 18 ช่วั โมง

หน่วยที่ ช่ือหนว่ ย มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
การเรียนรู้/ อดีตถึงปจั จุบัน (ชม.) คะแนน
/สปั ดาห์
เรื่อง

3 สภาพแวดลอ้ ม มาตรฐานที่ ส 5.2 การเปล่ียนแปลง ขอ ง 1 5
ในชมุ ชน (ส.8) 5
-เปรียบเทยี บ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งมนษุ ย์กับ ส่ิงแวดล้อมเกิดขึ้นท้ังจาก
ฝี มื อ ม นุ ษ ย์ แ ล ะ
การ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ที่ กระบวนการทาง
เปลย่ี นแปลง ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม ธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบ

ของ มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ ต่อการดาเนินชีวิตของ
สภาพแวดล้อม อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มนุษยท์ ง้ั สนิ้
ในชมุ ชนจาก
เพอื่ การพัฒนาที่ย่งั ยืน

อดีตถึงปัจจุบนั ตัวช้ีวัดที่ ป.3/1

เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง

สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจากอดีตถึง

-เปรียบเทยี บ ปัจจบุ ัน
การ
เปล่ียนแปลง สภาพแวดล้อมในชุมชน

ของ มาตรฐานที่ ส 5.2 จากอดีตถึงปัจจุบันมีการ 1
สภาพแวดลอ้ ม (ส.9)
ในชุมชนจาก เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนษุ ย์กับ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ไ ป ต า ม
สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ ก าลเว ลามีผลต่อ ก าร
อดตี ถึงปจั จบุ ัน ก่อให้เกิดการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรม ดาเนินชีวิตมนุษย์ และ
มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ การดาเนินชีวิตของคนใน
อนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม ชุมชน

เพือ่ การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื

โครงสร้างการสอนวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา ............... เวลา 18 ชัว่ โมง

โครงสร้างการสอนวชิ า สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3
ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา................ เวลา 18 ชัว่ โมง

หน่วยที่ ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
การเรยี นรู้/ (ชม.) คะแนน
ตัวชวี้ ัดที่ ป.3/1 /สัปดาห์
เรื่อง เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง
สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถึง
ปัจจบุ ัน

4 สภาพแวดล้อม มาตรฐานท่ี ส 5.2 ทรัพยากรธรรมชาติเป็น 1 5
เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนุษยก์ บั ส่ิ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น เ อ ง ต า ม (ส.10) 5
ในชุมชน ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ท่ี ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ มี ค ว า ม
ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม จาเป็นต่อการดารงชีวิต
-ก า ร พึ่ ง พ า มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ
ส่ิงแวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรม อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ของมนุษย์
ชาติกบั มนุษย์ เพื่อการพฒั นาที่ยั่งยืน

ตวั ชี้วดั ที่ ป.3/1
เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง
สภาพแวดล้อมในชุมชนจากอดตี ถึง

ปจั จุบัน

มาตรฐานที่ ส 5.2

-ปัญหามลพษิ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งมนษุ ย์กับ

ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ที่ ทรัพยากรธรรมชาติเป็น 1
ส่ิ ง ที่ เ กิ ด ข้ึ น เ อ ง ต า ม (ส.11)
ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วฒั นธรรม
มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและมีความ

เพ่ือการพฒั นาท่ยี ่งั ยืน จาเป็นต่อการดารงชีวิต

ของมนุษย์

โครงสรา้ งการสอนวิชา ประวัติศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3

ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา ............... เวลา 18 ช่วั โมง

ชื่อหน่วย เวลา น้าหนกั
(ชม.) คะแนน
หน่วยท่ี การเรียนรู้/ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระสาคัญ /สัปดาห์

เรื่อง

ตวั ชี้วัดที่ ป.3/1
เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง

สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถึง
ปจั จบุ นั

-ก า ร ก่ อ ม ล พิ ษ มาตรฐานท่ี ส 5.2 ปัญหามลพิษส่ิงแวดล้อม 2 10
และผลของ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนษุ ย์กบั ท า ใ ห้ เ กิ ด อั น ต ร า ย ต่ อ (ส.12-13)
มลพิษ
ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ที่ มนุษย์เราจึงต้องร่วมมือ
ก่อให้เกิดการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรม กั น ใ น ก า ร อ นุ รั ก ษ์
มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ
สิ่งแวดล้อมเพื่อให้มนุษย์
อนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม มีคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี
เพอื่ การพัฒนาที่ยัง่ ยืน

ตวั ช้ีวัดท่ี ป.3/3
อธิบายเกี่ยวกับมลพิษและการ
กอ่ ใหเ้ กดิ มลพิษโดยมนษุ ย์

เมืองและชนบท มาตรฐานท่ี ส 5.2

5 เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สภาพความเป็นอยู่ของ 2 10
ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ที่ ชุมชน แต่ละ แห่ง ย่อ ม (ส.14-15)
ก่อให้เกิดการสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรม
มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ แตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
อนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม องค์ประกอบพ้ืนฐานท่ี

เพื่อการพัฒนาท่ยี งั่ ยืน เป็นตวั กาหนด

โครงสรา้ งการสอนวชิ า ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ............... เวลา 18 ช่วั โมง

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสาคญั เวลา น้าหนัก
การเรยี นรู้/ คะแนน
ตัวชี้วัดท่ี ป.3/1 (ชม.)
เรื่อง เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง 10
สภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถึง /สัปดาห์
ปจั จบุ ัน
1
(ส.16-17)

ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง มาตรฐานที่ ส 5.2 สภาพความเป็นอยู่ของ 10
ชุมชนเมืองและ เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนษุ ย์กบั ชุมชน แต่ละ แห่ง ย่อ ม
ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ท่ี
ชนบท ก่อให้เกิดการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม แตกต่างกันท้ังนี้ข้ึนอย่กู ับ 2
มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการ องค์ประกอบพ้ืนฐานที่ (ส.18-19)

อนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เป็นตัวกาหนด
เพ่อื การพัฒนาท่ยี ัง่ ยืน

ตวั ชว้ี ัดที่ ป.3/1

เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง
สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดตี ถึง
ปัจจุบัน

โครงสรา้ งการสอนวชิ า ประวัติศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 3

ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา ............... เวลา 18 ชว่ั โมง

ช่อื หนว่ ย เวลา น้าหนัก
(ชม.) คะแนน
หนว่ ยท่ี การเรยี นรู้/ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคัญ /สปั ดาห์

เร่อื ง

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป.3/1
เ ป รี ย บ เ ที ย บ ก า ร เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง

สภาพแวดล้อมในชุมชนจากอดีตถึง
ปจั จบุ นั

สอบปลายภาคเรียนท่ี 2 (ส.18) 15 คะแนน
รวมภาคเรยี นที่ 2

สัปดาห์ท่ี 1

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 / …………. ชอ่ื ผสู้ อน ................................................................

กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หนว่ ยการเรียนท่ี 1 แผนผังแผนท่ีและภาพถ่ายในชมุ ชน เร่ือง แผนผงั แผนท่แี ละภาพถา่ ยในชมุ ชน

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานที่ ส 5.1
เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพสิ่งซง่ึ มีผลตอ่ กนั และกนั ใน
ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเคร่อื งมือทางภูมิศาสตร์ ในการคน้ หาวเิ คราะห์ สรปุ และใชข้ อ้ มูล
สารสนเทศอย่างมีประสทิ ธิภาพ

ตัวชวี้ ัดท่ี ป.3/1
ใชแ้ ผนที่ แผนผงั และภาพถ่ายในการหาข้อมูลทางภมู ิศาสตรใ์ นชมุ ชนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชวี้ ัดที่ ป.3/2
เขยี นแผนผงั งา่ ยๆเพอ่ื แสดงตาแหน่งทีต่ ้ังของสถานท่ีสาคัญในบริเวณโรงเรียนและชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
แผนผงั แผนทแ่ี ละภาพถ่ายเป็นเคร่ืองมอื สาหรบั ค้นหาข้อมูลทางภมู ศิ าสตร์ แสดงข้อมูลตา่ ง ๆ บน

พืน้ ผวิ โลกและในการสร้างแผนผงั ท่ีดีตอ้ งทาการสารวจพนื้ ท่ีที่จะสรา้ งแผนผงั กอ่ นแล้วจงึ วาดภาพและกาหนด
สถานทต่ี ่าง ๆ ลงในแผนผัง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายและความสาคญั ของแผนผงั แผนที่ และภาพถ่ายได้

2. สนใจใฝ่เรยี นรู้เร่ืองแผนทีแ่ ละเครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์

3. มีความสนใจใฝ่เรียนรแู้ ละมุ่งมนั่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

แผนผงั แผนทีแ่ ละภาพถ่ายในชมุ ชน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ

ครใู ห้นกั เรียนดแู ผนผังของโรงเรียน แลว้ ให้นักเรยี นตอบคาถาม ดังน้ี
- นกั เรียนรขู้ อ้ มลู อะไรจากการดแู ผนผังบา้ ง
- แผนผังมปี ระโยชน์อย่างไรบา้ ง

ขน้ั สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

1. ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 6 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปาน
กลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น แล้วครูแนะนาวธิ กี ารทางานร่วมกนั เป็นกลุ่ม

2. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาเกี่ยวกับแผนผัง จากหนังสือเรียนหรอื บทเรียนคอมพวิ เตอร์หรอื หนงั สอื
คน้ คว้าเพ่มิ เตมิ หรือหอ้ งสมดุ

3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

4. นักเรยี นแตล่ ะคนนาความรทู้ ไ่ี ด้จากการศึกษาเกยี่ วกับแผนผงั มาผลัดกันอธิบายกบั เพือ่ นภายในกลุม่ ใน
หัวข้อต่อไปนี้
1) ความหมาย
2) การอ่านตัวอยา่ งแผนผังของวัด

5. ครูขออาสาสมคั รนกั เรยี นออกมาบอกความหมายของแผนผงั หนา้ ช้นั เรยี น จากนั้นครูเสริมความรเู้ พ่ิมเตมิ
เกยี่ วกับวิธีการอา่ นแผนผังเพอื่ ใหน้ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจมากยงิ่ ขึ้น

ขน้ั สรุป

ข้นั ขยายความเข้าใจ
ข้ันตรวจสอบผล

1. ครสู ุ่มตวั แทนของแต่ละกลมุ่ 2-3 กลุม่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานครูตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครูเฉลยคาตอบในใบงานแลว้ ให้สมาชิกแตล่ ะกลุ่มตรวจสอบความถูกตอ้ ง และปรับปรุงแกไ้ ขในส่วนทไี่ ม่

ถูกต้อง
3. นกั เรียนช่วยกันสรุปความหมายของแผนผัง ครูตรวจสอบความถูกต้องและใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครื่องมือวดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระต้นุ
ความรู้ความ 1. สงั เกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคดิ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่
เขา้ ใจ (K) คาถาม ผา่ นเกณฑ์การ
2. แผนผงั แผนทแี่ ละภาพถา่ ยใน ประเมิน
ทักษะ/ ชมุ ชน
กระบวนการ (P) 1. ใบงานแผนผงั แผนที่ 70% ขึน้ ไป ถือว่า
1.บอกแผนผังแผนทแ่ี ละภาพถ่าย และภาพถ่ายในชุมชน ผ่านเกณฑ์การ
ในชุมชน
ประเมิน

คุณลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถอื วา่
พฤติกรรม ผา่ นเกณฑก์ าร
รับผดิ ชอบตอ่ งานท่ีส่ังและสง่ งาน ประเมนิ
ได้ทันตามท่ีกาหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมุ่งมน่ั ในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. แผนผงั โรงเรียน แผนท่ีประเทศไทย ภาพถา่ ยชายหาด
2. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบูรณ์แบบ ป.3
3. แบบฝกึ ทักษะรายวชิ าพื้นฐาน สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สมบรู ณแ์ บบ ป.3
4. ใบงานเรอ่ื งแผนท่ี
5. แบบทดสอบ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอรเ์ น็ต

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 2-3

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / …………….. ชอื่ ผสู้ อน ................................................................

กลุม่ สาระ ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 จานวน ......2...... คาบ

หนว่ ยการเรียนท่ี 1 แผนผงั แผนท่แี ละภาพถ่ายในชมุ ชน เรือ่ ง แผนผังของโรงเรียน

1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐานที่ ส 5.1
เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิง่ ซง่ึ มีผลต่อกนั และกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวเิ คราะห์ สรปุ และใชข้ อ้ มูล
สารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

ตัวชี้วัดที่ ป.3/1
ใช้แผนท่ี แผนผัง และภาพถ่ายในการหาขอ้ มูลทางภูมศิ าสตรใ์ นชุมชนไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

ตวั ช้วี ัดท่ี ป.3/2
เขียนแผนผังงา่ ยๆเพอื่ แสดงตาแหน่งท่ตี งั้ ของสถานท่สี าคัญในบริเวณโรงเรยี นและชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
แผนผงั แผนทแ่ี ละภาพถา่ ยเป็นเครือ่ งมอื สาหรับค้นหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ แสดงข้อมูลต่าง ๆ บน

พืน้ ผวิ โลกและในการสรา้ งแผนผังที่ดตี อ้ งทาการสารวจพื้นท่ีทีจ่ ะสร้างแผนผงั กอ่ นแล้วจึงวาดภาพและกาหนด

สถานที่ต่าง ๆ ลงในแผนผงั

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายและความสาคัญของแผนผัง แผนท่ี และภาพถ่ายได้(K)

2. สนใจใฝ่เรียนรเู้ รื่องแผนทีแ่ ละเครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์(P)

3. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้และมุ่งมน่ั ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา

แผนผังแผนท่ีและภาพถ่ายในโรงเรยี น

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขนั้ กระตุน้ ความสนใจ

ครูใหน้ ักเรียนดูแผนผังของโรงเรียน แล้วให้นักเรยี นตอบคาถาม ดังนี้
- นกั เรียนรูข้ ้อมูลอะไรจากการดูแผนผงั บา้ ง
- แผนผังมปี ระโยชนอ์ ย่างไรบ้าง

ขน้ั สอน

ข้ันสารวจคน้ หา

1. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน คละกันตามความ สามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปาน
กลางค่อนข้างอ่อน และออ่ น แลว้ ครูแนะนาวธิ ีการทางานร่วมกันเปน็ กลุม่

2. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเกีย่ วกบั แผนผงั
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

4. นักเรยี นแตล่ ะคนนาความรู้ท่ีได้จากการศึกษาเกย่ี วกับแผนผังมาผลัดกันอธบิ ายกบั เพ่อื นภายในกลุ่ม ใน
หัวขอ้ ต่อไปนี้
1) ความหมาย
2) การอา่ นตวั อยา่ งแผนผงั ของวัด

2. ครูขออาสาสมัครนักเรียนออกมาบอกความหมายของแผนผังหน้าชั้นเรียน จากนั้นครูเสริมความรู้
เพิ่มเตมิ เก่ียวกบั วธิ กี ารอา่ นแผนผงั เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจมากยิง่ ขน้ึ

ขน้ั สรปุ

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ

1. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับค่กู นั เปน็ 3 คู่ แลว้ ใหแ้ ต่ละคู่ทา ใบงาน เรอื่ ง การอ่านแผนผังของวดั
2. สมาชิกแต่ละคนู่ าเสนอคาตอบในใบงานของตนให้เพอ่ื นสมาชกิ ในกลมุ่ ฟัง แล้วให้สมาชกิ แตล่ ะกลุม่

ช่วยกันปรบั ปรุง และเพม่ิ เติมคาตอบในใบงานให้สมบูรณ์
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขั้นตรวจสอบผล

1. ครสู ่มุ ตัวแทนของแต่ละกลุม่ 2-3 กลุ่ม ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานครตู รวจสอบความ
ถูกตอ้ ง

2. ครูเฉลยคาตอบในใบงานแล้วให้สมาชิกแต่ละกลุ่มตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และปรับปรุงแก้ไขใน
สว่ นทไ่ี มถ่ ูกต้อง

3. นกั เรียนช่วยกันสรปุ ความหมายของแผนผงั ครูตรวจสอบความถกู ต้องและใหข้ อ้ เสนอแนะ
เพ่มิ เติม
6. การวดั และประเมินผล

การวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระต้นุ
ความรู้ความ 1. สงั เกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
เข้าใจ (K) คาถาม ผา่ นเกณฑ์การ
2. แผนผงั แผนที่และภาพถ่ายใน ประเมนิ
ทกั ษะ/ โรงเรียน
กระบวนการ (P) 1. ใบงานแผนผังแผนที่ 70% ขนึ้ ไป ถือวา่
1.บอกแผนผังแผนทแ่ี ละภาพถา่ ย
ในโรงเรยี น และภาพถ่ายใน ผา่ นเกณฑ์การ

โรงเรียน ประเมนิ

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ขึน้ ไป ถือว่า
รบั ผิดชอบตอ่ งานที่สง่ั และส่งงาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
ไดท้ นั ตามท่กี าหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.3
2) บทเรียนคอมพวิ เตอร์
3) หนังสอื ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ
4) แผนผังของโรงเรียน
5) ใบงานเร่ือง การอา่ นแผนผังของวดั

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
4) หอ้ งเรียน
5) ห้องสมุด
6) อนิ เทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ............................................ครผู สู้ อน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 4

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 2 / ………. ชื่อผ้สู อน ................................................................

กลุม่ สาระ ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรียนท่ี 1 แผนผังแผนทแี่ ละภาพถ่ายในชุมชน เรือ่ ง แผนที่

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
มาตรฐานที่ ส 5.1
เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสง่ิ ซงึ่ มผี ลต่อกนั และกนั ใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหาวเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูล
สารสนเทศอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ตวั ชีว้ ัดท่ี ป.3/1
ใชแ้ ผนท่ี แผนผัง และภาพถา่ ยในการหาข้อมูลทางภมู ิศาสตร์ในชุมชนไดอ้ ยา่ งประสิทธภิ าพ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
แผนท่ีเปน็ เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ที่ชว่ ยทาใหเ้ รารู้ลกั ษณะและทีต่ ัง้ ของส่งิ ต่างๆ ท่ีปรากฏอยบู่ นพนื้ โลก

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกความหมายและความสาคญั ของแผนผงั แผนท่ี และภาพถ่ายได้
2. สนใจใฝเ่ รยี นรูเ้ รอ่ื งแผนที่และเครอ่ื งมอื ทางภูมิศาสตร์
3. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้และมงุ่ มัน่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

ความหมายและประเภทของแผนท่ี

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครนู าแผนทปี่ ระเทศไทยมาใหน้ ักเรียนดู จากน้นั ใหบ้ อกว่า โรงเรยี นของตนเองอยใู่ นจังหวัดใด และอยูใ่ น
ส่วนใดของ แผนที่ โดยให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาช้ที แ่ี ผนท่ี แลว้ ครูชมเชย ผู้ที่สามารถชี้ไดถ้ ูกต้อง
2. ครูอธบิ ายเชอื่ มโยงให้นักเรยี นเขา้ ใจวา่ แผนท่เี ป็นเคร่อื งมอื ทางภูมิศาสตรช์ นิดหนึง่ ทชี่ ่วยให้เราสามารถ
คน้ หาสถานที่ต่างๆ ไดง้ ่าย
3. นกั เรยี นตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ

ขน้ั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา
1. นักเรยี นรวมกลุม่ เดมิ (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เรอื่ ง แผนที่
จากหนังสือเรยี นหรอื บทเรียนคอมพวิ เตอร์ หรอื หนงั สอื คน้ คว้าเพ่มิ เติม หรอื หอ้ งสมุด ในประเด็นตอ่ ไปนี้
1) ความหมาย
2) ประเภทของแผนที่
- แผนท่ีภมู ปิ ระเทศ
- แผนทีเ่ ฉพาะเรอื่ ง
2. นกั เรยี นนาความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษามาบันทึกลงในแบบบนั ทึกการอา่ น
3. นักเรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคิด

4. สมาชิกแตล่ ะคนในกล่มุ ผลดั กันอธบิ ายความรู้ที่ไดจ้ ากการ ศึกษาพรอ้ มแสดงแผนทปี่ ระกอบการอธบิ าย
แล้วรว่ มกนั ดขู อ้ มูลเฉพาะในแผนทภ่ี มู ิประเทศ เช่น ภเู ขา ทีร่ าบ แมน่ ้า ทะเล และแผนท่ีเฉพาะเรื่อง เชน่ แผน
ท่แี สดงที่ตงั้ เมอื ง แผนที่แสดงกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของมนษุ ย์

5. ครูชว่ ยแนะนาเพิม่ เติมเก่ียวกับจดุ เด่นของแผนท่แี ตล่ ะประเภท

ขน้ั สรปุ

ขั้นขยายความเข้าใจ
ขั้นตรวจสอบผล

1. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอคาตอบในใบงานหน้าชัน้ เรียน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและให้
ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ

2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความสาคัญของแผนท่ีและประเภทของแผนที่ ครตู รวจสอบความถูกต้อง

6. การวัดและประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตุ้น
ความรูค้ วาม 1. สงั เกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคิด 70% ขึ้นไป ถือ
เข้าใจ (K) คาถาม วา่ ผา่ นเกณฑ์การ
2. ความหมายและประเภทของ ประเมนิ
ทักษะ/ แผนท่ี
กระบวนการ (P) 1. ใบงานความหมาย 70% ข้นึ ไป ถอื
1.บอกความหมายและประเภท และประเภทของแผน วา่ ผ่านเกณฑก์ าร
ของแผนที่ ท่ี ประเมนิ

คณุ ลกั ษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสงั เกต 70% ขน้ึ ไป ถอื
พฤติกรรม วา่ ผ่านเกณฑ์การ
รบั ผิดชอบต่องานทสี่ ั่งและสง่ งาน ประเมิน
ได้ทันตามทกี่ าหนด
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ มน่ั ในการ
ทางาน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. แผนผังโรงเรียน แผนทปี่ ระเทศไทย ภาพถา่ ยชายหาด
2. หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สมบรู ณ์แบบ ป.3
3. แบบฝึกทักษะรายวิชาพ้ืนฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบูรณ์แบบ ป.3
4. ใบงานเรอื่ งแผนที่
5. แบบทดสอบ

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• หอ้ งเรียน
• ห้องสมดุ
• อินเทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 5

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นท่ี 2 / ………. ชอ่ื ผูส้ อน ................................................................

กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวน ......1...... คาบ

หน่วยการเรียนที่ 1 แผนผังแผนท่แี ละภาพถา่ ยในชุมชน เรือ่ ง การใช้แผนที่

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
มาตรฐานที่ ส 5.1
เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพสง่ิ ซ่ึงมีผลต่อกันและกนั ใน
ระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ ในการคน้ หาวิเคราะห์ สรปุ และใชข้ ้อมูล
สารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ช้วี ัดที่ ป.3/1
ใชแ้ ผนท่ี แผนผงั และภาพถ่ายในการหาข้อมูลทางภมู ิศาสตรใ์ นชุมชนไดอ้ ย่างประสิทธภิ าพ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การใช้แผนที่ในการหาขอ้ มูลต่างๆ น้ัน ผู้ใช้จะต้องร้อู งค์ประกอบเกี่ยวกับทิศ มาตราสว่ น สัญลกั ษณ์ และ

การใช้สีในแผนท่ี

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการใช้แผนทไ่ี ด้
2. สนใจใฝเ่ รียนรูเ้ ร่อื งแผนทีแ่ ละเคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์
3. มีความสนใจใฝ่เรยี นรแู้ ละมงุ่ ม่นั ในการทางาน (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

การใชแ้ ผนท่ี

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูนาแผนท่ีประเทศไทยมาใหน้ กั เรียนดู จากน้ันใหบ้ อกวา่ โรงเรียนของตนเองอยใู่ นจังหวดั ใด และอย่ใู น
สว่ นใดของ แผนท่ี โดยให้ตวั แทนนักเรยี นออกมาชท้ี ่ีแผนท่ี แลว้ ครชู มเชย ผู้ทีส่ ามารถชีไ้ ด้ถูกต้อง
2. ครูอธิบายเช่อื มโยงให้นกั เรียนเข้าใจวา่ แผนทเ่ี ป็นเครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตรช์ นดิ หนง่ึ ทชี่ ว่ ยให้เราสามารถ
ค้นหาสถานท่ีตา่ งๆ ได้ง่าย
3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุน้ ความคดิ

ขน้ั สอน

ขน้ั สารวจค้นหา
1. นักเรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1) แล้วให้แต่ละกลุม่ ร่วมกันศึกษาความรเู้ ร่ือง การ
ใชแ้ ผนท่ี และองคป์ ระกอบของแผนที่ จากหนังสือเรยี นหรอื บทเรียนคอมพิวเตอร์หรอื หนังสือคน้ คว้า
เพม่ิ เติม หรอื ห้องสมุด
2. นกั เรยี นนาความร้ทู ีไ่ ด้จากการศกึ ษามาบันทกึ ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน
3. สมาชิกในแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายประเด็นสาคัญของเร่ือง ท่ศี กึ ษา
4. สมาชิกแต่ละกล่มุ จับคู่กนั เปน็ 3 คู่ แล้วใหแ้ ต่ละคู่รว่ มกนั ทา ใบงาน ดงั นี้
- คทู่ ี่ 1 ทาใบงานเร่ือง ทศิ และมาตราส่วน
- คู่ท่ี 2 ทาใบงานเร่อื ง สัญลกั ษณ์และการใช้สี
- คู่ท่ี 3 ทาใบงานเร่ือง การใชแ้ ผนที่
5. สมาชิกแต่ละค่ผู ลดั กนั เล่าคาตอบในใบงานท่ีตนรบั ผิดชอบ ให้สมาชิกคู่อนื่ ๆ ภายในกลมุ่ ฟัง แล้วให้
สมาชิกทุกคนผลัดกนั ซักถามและแสดงความคดิ เห็นเพิ่มเตมิ เพ่ือให้ผลงานมคี วามสมบรู ณ์

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ
ขน้ั ตรวจสอบผล

ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ องคป์ ระกอบของแผนทแ่ี ละการใช้แผนท่ี

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตุ้น
ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ 70% ข้ึนไป ถือ
เข้าใจ (K) คาถาม ว่าผ่านเกณฑก์ าร
2. ความหมายการใชแ้ ผนท่ี 1. ใบงานการใช้แผนท่ี ประเมิน
ทกั ษะ/
กระบวนการ (P) 1.บอกความหมายและการใช้แผน 70% ขึ้นไป ถอื
ท่ี ว่าผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมิน

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ขึน้ ไป ถือ
รบั ผิดชอบต่องานท่สี ่งั และสง่ งาน พฤตกิ รรม วา่ ผ่านเกณฑก์ าร

ไดท้ นั ตามทก่ี าหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ มัน่ ในการ

ทางาน

7. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
• หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบูรณแ์ บบ ป.3
• ใบงานเร่อื ง ทิศและมาตราส่วน
• ใบงานที่เรอ่ื ง สญั ลกั ษณ์และการใช้สี
• ใบงานท่ี เร่ือง การใชแ้ ผนท่ี

7.2 แหล่งการเรยี นรู้
• ห้องเรยี น
• หอ้ งสมุด
• อนิ เทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 6-7

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 /……… ช่ือผูส้ อน . ..................................................................

กลุ่มสาระ ประวัติศาสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 3 จานวน ......2...... คาบ

หนว่ ยการเรยี นที่ 2 ภูมิประเทศและภูมิอากาศท่ีมี เรอ่ื ง ความสมั พันธ์ของลักษณะกายภาพกบั ลกั ษณะ

สังคมปจั จบุ ันผลต่อสภาพสงั คมในชุมชน

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐานที่ ส 5.2
เข้าใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ย์กบั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทก่ี อ่ ให้เกิดการสร้าง สรรค์
วฒั นธรรมมจี ิตสานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและสิง่ แวดล้อมเพอ่ื การพัฒนาที่ยัง่ ยนื
ตัวช้ีวัดที่ ป.3/1
เปรียบเทียบการเปลยี่ นแปลงสภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดตี ถงึ ปจั จุบนั

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ลกั ษณะของภมู ปิ ระเทศและภูมอิ ากาศทีม่ ีผลตอ่ สภาพสังคมในชุมชนและสภาพทางกายภาพ

ในชมุ ชน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายและวิเคราะหล์ ักษณะของภมู ิประเทศและภูมอิ ากาศท่มี ีผลตอ่ สภาพสงั คมในชมุ ชนได้(K)
2. วิเคราะหล์ ักษณะของภมู ปิ ระเทศและภูมิอากาศท่มี ผี ลตอ่ สภาพสงั คมในชมุ ชน(P)
3. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้และมงุ่ มนั่ ในการทางาน (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

ความสัมพันธข์ องลักษณะกายภาพกับลกั ษณะ
สังคมปจั จุบันผลตอ่ สภาพสงั คมในชุมชน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ
1. ครตู งั้ คาถามนักเรยี นเกยี่ วกบั การเปลย่ี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน
2. ครูใหน้ กั เรียนดภู าพกจิ กรรมต่าง ๆ เกย่ี วกับการเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดล้อมในชมุ ชน

ขน้ั สอน

ข้ันสารวจคน้ หา
1. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุม่ ละ6-7 คนค้นควา้ ศกึ ษาเก่ียวกบั การเปลยี่ นแปลงของสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชน

2. แตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอคน้ ควา้ จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปเรือ่ งการ
เปล่ียนแปลงของสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชนหลงั จากนั้นทาแบบฝกึ

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ
1. สมาชกิ แต่ละกลุ่มนาเสนอคาตอบในใบงานของตนใหเ้ พือ่ นสมาชิกในกลุ่มฟัง แล้วให้สมาชิกแต่ละกลุม่
ชว่ ยกนั ปรบั ปรุง และเพ่มิ เตมิ คาตอบในใบงานให้สมบรู ณ์
2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด

ขนั้ ตรวจสอบผล
1. ครสู ุม่ ตวั แทนของแตล่ ะกลุ่ม 2-3 กลมุ่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานครูตรวจสอบความ

ถูกต้อง
2. ครูเฉลยคาตอบในใบงานแล้วให้สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ตรวจสอบความถูกต้อง และปรับปรงุ แก้ไขใน

ส่วนท่ไี ม่ถูกตอ้ ง
3. นกั เรียนชว่ ยกันสรุปความหมายของความสมั พันธ์ของลักษณะกายภาพกบั ลักษณะสังคมปจั จบุ ัน

ผลตอ่ สภาพสงั คมในชมุ ชน
4. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและให้ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วิธีการวดั ผล เครื่องมือวดั เกณฑก์ าร

ประเมินผล

ความรูค้ วาม 1. สงั เกตจากการซกั ถาม ตอบ 1.คาถามกระตนุ้ 70% ข้ึนไป ถือ

เขา้ ใจ (K) คาถาม ความคดิ วา่ ผา่ นเกณฑก์ าร

2. ความสัมพนั ธ์ของลกั ษณะ ประเมิน

กายภาพกบั ลกั ษณะ

สังคมปัจจุบันผลตอ่ สภาพสงั คมใน

ชุมชน

ทกั ษะ/ 1.บอกความสมั พันธข์ องลกั ษณะ 1. ใบงานความสัมพันธ์ 70% ข้นึ ไป ถือ

กระบวนการ (P) กายภาพกับลักษณะ ของลักษณะกายภาพ ว่าผ่านเกณฑก์ าร

สงั คมปจั จุบันผลตอ่ สภาพสังคมใน กบั ลักษณะ ประเมนิ

ชมุ ชน สังคมปัจจุบันผลต่อ

สภาพสังคมในชมุ ชน

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ขน้ึ ไป ถอื
รบั ผิดชอบต่องานท่ีสั่งและสง่ งาน พฤตกิ รรม ว่าผา่ นเกณฑก์ าร

ได้ทนั ตามที่กาหนด ประเมิน
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สังเกตจากการมุง่ ม่นั ในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.3
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์
3) หนังสอื ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ
4) แผนผังของโรงเรยี น
5) ใบงานเรื่อง การอา่ นแผนผังของวดั

7.2 แหล่งการเรียนรู้
7) หอ้ งเรยี น
8) ห้องสมดุ
9) อินเทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................ครูผ้สู อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ่ี 8

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 2 /………… ชื่อผู้สอน . ..................................................................
กลมุ่ สาระ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ
หน่วยการเรยี นที่ 3 สภาพแวดล้อมในชมุ ชน เรื่อง เปรยี บเทียบการเปลี่ยนแปลงของ

สภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถึงปจั จบุ ัน

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ บั สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการสรา้ ง สรรค์
วฒั นธรรมมจี ิตสานกึ และมีสว่ นร่วมในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและส่งิ แวดล้อมเพ่อื การพฒั นาทย่ี งั่ ยนื
ตัวชี้วัดท่ี ป.3/1
เปรยี บเทียบการเปล่ยี นแปลงสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถงึ ปจั จุบนั

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเปลยี่ นแปลงของสิ่งแวดล้อมเกดิ ข้นึ ทง้ั จากฝมี ือมนษุ ยแ์ ละกระบวนการทางธรรมชาตซิ ง่ึ

ส่งผลกระทบตอ่ การดาเนินชีวติ ของมนุษยท์ ้ังส้ิน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายและวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในชุมชนได้
2. ตระหนักถึงปญั หาทเี่ กดิ จากการเปลี่ยนแปลงของส่งิ แวดลอ้ ม
3. สบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกับการอนุรักษส์ ิง่ แวดล้อมและปฏบิ ัติตนตามได้ถูกตอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

เปรียบเทยี บการเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อมใน

ชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขนั้ กระตุ้นความสนใจ

1. ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 5 คน ออกมาพดู ถงึ สภาพแวดล้อมของชุมชนในอดีตและปจั จุบนั ของตนเอง
คนละ 1 หัวข้อ ดังนี้
- แม่น้าลาคลอง
- อากาศ
- ทีอ่ ยู่อาศัย
- การประกอบอาชีพ
- การคมนาคม

2. นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่า สภาพแวดล้อมของชมุ ชนในอดตี และปจั จบุ ันทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลง
และมีความแตกต่างกันนั้นเกดิ จากสาเหตุใดบา้ ง

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด

ขน้ั สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา
1. นักเรยี นรวมกลมุ่ เดมิ ร่วมกันวางแผนสืบค้นขอ้ มลู เก่ยี วกบั ความแตกต่างของสภาพแวดล้อมของ

ชมุ ชนในอดีตและปจั จุบัน โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนไปสบื ค้นข้อมลู ของชมุ ชนทนี่ กั เรียนอาศัยอยู่ โดย
เปรียบเทยี บอดีตกบั ปัจจุบนั

2. สมาชกิ แตล่ ะคนไปสืบค้นข้อมูลของชุมชนท่นี กั เรยี นอาศัยอย่โู ดยเปรยี บเทียบอดตี กับปัจจุบนั
ตามแผนท่ีได้รว่ มกันวางไว้

3. นกั เรยี นแตล่ ะคนเขียนรายงาน เรือ่ ง สภาพแวดลอ้ มในชุมชนของฉนั จากอดีตถึงปัจจุบนั ส่งครู
โดยออกแบบการนาเสนอรายงานด้วยความคิดสร้างสรรค์

4. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด

5. สมาชิกแต่ละคนในกลุม่ นารายงาน เร่อื ง สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนของฉันจากอดีตถงึ ปัจจุบนั มา
อธิบายแลกเปลยี่ นกันในกลุ่ม แลว้ ให้สมาชกิ ในกลุ่มชว่ ยกนั เสนอแนะการพัฒนาผลงาน

6. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มคดั เลอื กผลงานทดี่ ีทส่ี ุดที่แสดงถงึ ความแตกตา่ งของสภาพแวดล้อมในชุมชนจาก
อดตี ถงึ ปัจจุบันออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น ครูตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ

7. สมาชกิ คนอน่ื ในกลุ่มส่งผลงานตอ่ ครู เพื่อตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสม

ขน้ั สรปุ

ขั้นขยายความเขา้ ใจ
ขน้ั ตรวจสอบผล

ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความแตกตา่ งสภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี และปัจจบุ นั ของแต่ละ
ชมุ ชน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตุ้น 70% ขน้ึ ไป ถือ
ความรู้ความ 1. สังเกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ ว่าผา่ นเกณฑ์การ
เข้าใจ (K) คาถาม ประเมนิ
2. เปรยี บเทยี บการเปลยี่ นแปลง 1. ใบงานเปรยี บเทยี บ
ทักษะ/ การเปล่ียนแปลงของ 70% ขึน้ ไป ถือ
กระบวนการ (P) ของสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจาก สภาพแวดลอ้ มใน วา่ ผ่านเกณฑ์การ
ชุมชนจากอดีตถึง ประเมิน
อดตี ถึงปัจจุบนั ปจั จบุ ัน
1. แบบสังเกต 70% ข้ึนไป ถือ
1.เปรยี บเทยี บการเปลย่ี นแปลง พฤตกิ รรม วา่ ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ของสภาพแวดล้อมในชุมชนจาก

อดตี ถึงปัจจุบัน

คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ
รบั ผิดชอบตอ่ งานท่สี ั่งและสง่ งาน
ไดท้ นั ตามท่กี าหนด

2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งม่ันในการ

ทางาน

7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.3
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์
3) หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม

7.2 แหล่งการเรียนรู้
10) ห้องเรียน
11) ห้องสมุด
12) อนิ เทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 9

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 /…………… ชื่อผูส้ อน . ..................................................................
กลมุ่ สาระ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน ......1...... คาบ
หนว่ ยการเรียนที่ 3 สภาพแวดลอ้ มในชุมชน เรอ่ื ง เปรียบเทยี บการเปล่ยี นแปลงของ

สภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถงึ ปัจจบุ ัน (2)

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนษุ ย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการสร้าง สรรค์
วฒั นธรรมมจี ติ สานึกและมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษท์ รพั ยากรและส่งิ แวดล้อมเพอื่ การพัฒนาทยี่ ่ังยนื
ตวั ช้ีวัดที่ ป.3/1
เปรียบเทียบการเปลีย่ นแปลงสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดตี ถึงปจั จบุ ัน

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบนั มกี ารเปล่ยี นแปลงไปตามกาลเวลามีผลต่อการดาเนินชวี ิต

มนษุ ย์ และการดาเนินชวี ิตของคนในชุมชน

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายและวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในชุมชนได้
2. ตระหนักถงึ ปัญหาทเ่ี กดิ จากการเปลีย่ นแปลงของส่ิงแวดล้อม
3. สืบค้นขอ้ มูลเกย่ี วกับการอนรุ ักษ์สงิ่ แวดล้อมและปฏบิ ตั ิตนตามได้ถกู ตอ้ ง

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

เปรียบเทียบการเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อมใน

ชมุ ชนจากอดตี ถึงปจั จบุ นั

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขัน้ กระตุ้นความสนใจ
1. ครูให้นกั เรยี นดภู าพชุมชนในอดีต แล้วใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นว่า นกั เรียนมีความประทบั ใจใน
ชมุ ชนไทยในอดตี อยา่ งไรบ้าง
2. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา
1. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปาน
กลางค่อนข้างออ่ น และอ่อน แลว้ ให้แต่ละกลุ่มรว่ มกนั อา่ นบทความ เรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนใน
อดีต จากเอกสารประกอบการสอน
2. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะหว์ จิ ารณเ์ ก่ยี วกบั ลกั ษณะของชมุ ชนในอดตี
3. ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
4. ครอู ธบิ ายความรู้เปรยี บเทียบสงั คมในอดตี และปจั จุบันให้นักเรียนฟัง จากน้ันให้แตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้
เรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มของชุมชนในอดีตและปจั จบุ ัน จากหนงั สอื เรียน หรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ หรือ
หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ หรอื ห้องสมุด แล้วบันทกึ ความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน
5. สมาชิกแต่ละกลุม่ รว่ มกันอภิปรายประเด็นสาคญั ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาความรู้
6. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันทาใบงานเร่อื ง สภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดีตและปัจจุบัน

ขน้ั สรุป

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ
ขนั้ ตรวจสอบผล

ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความแตกตา่ งสภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี และปัจจุบนั ของแตล่ ะ
ชมุ ชน

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตนุ้ 70% ขึน้ ไป ถือ
ความรูค้ วาม 1. สงั เกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ ว่าผา่ นเกณฑ์การ
เขา้ ใจ (K) คาถาม ประเมิน
2. เปรยี บเทยี บการเปลี่ยนแปลง 1. ใบงานเปรยี บเทียบ
ทักษะ/ การเปลย่ี นแปลงของ 70% ข้นึ ไป ถอื
กระบวนการ (P) ของสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจาก สภาพแวดล้อมใน ว่าผา่ นเกณฑ์การ
ชมุ ชนจากอดีตถงึ ประเมิน
อดีตถงึ ปัจจุบัน ปัจจบุ ัน
1. แบบสงั เกต 70% ขึ้นไป ถือ
1.เปรยี บเทยี บการเปล่ยี นแปลง พฤติกรรม ว่าผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ
ของสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจาก

อดตี ถึงปจั จบุ ัน

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม
รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีสั่งและสง่ งาน
ไดท้ นั ตามที่กาหนด

2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้
3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ

ทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.3
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์
3) หนงั สอื ค้นควา้ เพิม่ เติม

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• ห้องเรยี น
• ห้องสมดุ
• อนิ เทอรเ์ นต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 10

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 /……… ชื่อผูส้ อน . ..................................................................
กลมุ่ สาระ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ
หนว่ ยการเรยี นท่ี 3 สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน เรือ่ ง เปรียบเทยี บการเปล่ยี นแปลงของ

สภาพแวดลอ้ มในชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบนั (2)

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เขา้ ใจปฏสิ มั พันธ์ระหว่างมนษุ ยก์ บั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทกี่ อ่ ให้เกิดการสร้าง สรรค์
วัฒนธรรมมจี ติ สานึกและมสี ่วนร่วมในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรและสงิ่ แวดล้อมเพือ่ การพัฒนาทย่ี ั่งยนื
ตวั ช้ีวัดท่ี ป.3/1
เปรียบเทยี บการเปลย่ี นแปลงสภาพแวดล้อมในชุมชนจากอดตี ถึงปจั จุบนั

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจากอดีตถงึ ปัจจุบนั มีการเปลยี่ นแปลงไปตามกาลเวลามีผลตอ่ การดาเนินชีวิต

มนษุ ย์ และการดาเนนิ ชีวิตของคนในชมุ ชน

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายและวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนได้
2. ตระหนักถึงปัญหาท่เี กิดจากการเปลย่ี นแปลงของสิ่งแวดลอ้ ม
3. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกบั การอนรุ กั ษส์ ิ่งแวดลอ้ มและปฏบิ ัติตนตามไดถ้ กู ต้อง

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถิน่
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

เปรยี บเทียบการเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ มใน

ชมุ ชนจากอดีตถงึ ปจั จบุ ัน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา

ขัน้ กระตุ้นความสนใจ
1. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพชุมชนในอดีต แล้วใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นว่า นกั เรียนมีความประทบั ใจใน
ชมุ ชนไทยในอดตี อยา่ งไรบ้าง
2. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ

ขน้ั สอน

ขัน้ สารวจคน้ หา
1. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปาน
กลางค่อนข้างออ่ น และอ่อน แลว้ ให้แต่ละกลุ่มรว่ มกนั อา่ นบทความ เรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนใน
อดีต จากเอกสารประกอบการสอน
2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะหว์ จิ ารณเ์ ก่ยี วกบั ลกั ษณะของชมุ ชนในอดตี
3. ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
4. ครอู ธิบายความรู้เปรยี บเทียบสงั คมในอดตี และปจั จุบันให้นักเรียนฟัง จากน้ันให้แตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้
เรอ่ื ง สภาพแวดลอ้ มของชุมชนในอดีตและปจั จบุ ัน จากหนงั สอื เรียน หรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ หรือ
หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ หรอื ห้องสมุด แล้วบันทกึ ความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน
5. สมาชิกแต่ละกลุม่ รว่ มกันอภิปรายประเด็นสาคญั ที่ไดจ้ ากการศกึ ษาความรู้
6. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันทาใบงานเร่อื ง สภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดีตและปัจจุบัน

ขน้ั สรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ
ขนั้ ตรวจสอบผล

ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความแตกตา่ งสภาพแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี และปัจจุบนั ของแตล่ ะ
ชมุ ชน

6. การวดั และประเมินผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตนุ้ 70% ขึน้ ไป ถือ
ความรูค้ วาม 1. สงั เกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ ว่าผา่ นเกณฑ์การ
เขา้ ใจ (K) คาถาม ประเมิน
2. เปรยี บเทยี บการเปลี่ยนแปลง 1. ใบงานเปรยี บเทียบ
ทักษะ/ การเปลย่ี นแปลงของ 70% ข้นึ ไป ถอื
กระบวนการ (P) ของสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจาก สภาพแวดล้อมใน ว่าผา่ นเกณฑ์การ
ชมุ ชนจากอดีตถงึ ประเมิน
อดีตถงึ ปัจจุบัน ปัจจบุ ัน
1. แบบสงั เกต 70% ขึ้นไป ถือ
1.เปรยี บเทยี บการเปล่ยี นแปลง พฤติกรรม ว่าผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ
ของสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจาก

อดตี ถึงปจั จบุ ัน

คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม

รบั ผิดชอบตอ่ งานท่ีสั่งและสง่ งาน
ไดท้ นั ตามที่กาหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ
ทางาน

7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.3
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์
3) หนงั สอื ค้นควา้ เพิม่ เติม

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• ห้องเรยี น
• ห้องสมดุ
• อนิ เทอรเ์ นต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................ครูผ้สู อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 11

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 /……….. ชื่อผู้สอน . ..................................................................
กลุม่ สาระ ประวัตศิ าสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......1...... คาบ
หนว่ ยการเรยี นท่ี 4 สภาพแวดลอ้ มในชุมชน เรื่อง การพ่ึงพาส่งิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

กบั มนุษย์

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างมนุษย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการสร้าง สรรค์วฒั นธรรม

มีจิตสานึกและมสี ว่ นร่วมในการอนุรักษท์ รพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมเพอื่ การพัฒนาทยี่ ่ังยืน

ตัวชี้วัดท่ี ป.3/1
เปรยี บเทียบการเปลย่ี นแปลงสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนจากอดีตถึงปัจจุบัน

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ทรพั ยากรธรรมชาติเปน็ สงิ่ ท่เี กิดขน้ึ เองตามธรรมชาติและมคี วามจาเป็นตอ่ การดารงชีวิตของมนุษย์

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอ้ มในชุมชนได้

2. ตระหนกั ถึงปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดล้อม

3. สืบค้นข้อมูลเก่ยี วกบั การอนรุ กั ษ์สง่ิ แวดล้อมและปฏบิ ัตติ นตามไดถ้ ูกต้อง

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

การพง่ึ พาสิง่ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติกับ

มนุษย์

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

ขั้นกระต้นุ ความสนใจ
1. ครตู ั้งคาถามนกั เรียนเกี่ยวกบั การเปล่ยี นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ มในชมุ ชน

2. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับการเปลยี่ นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน

ขน้ั สอน

ข้ันสารวจคน้ หา
1. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ6-7 คนค้นคว้าศึกษาเกย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในชุมชน
2. แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอค้นควา้ จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เรอื่ งการ

เปลี่ยนแปลงของสงิ่ แวดล้อมในชุมชนหลงั จากน้ันทาแบบฝกึ

ขน้ั สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
ขน้ั ตรวจสอบผล

ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปการพงึ่ พาส่งิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติกับมนุษย์

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัดผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การ
จดุ ประสงค์ ประเมินผล
1.คาถามกระตุ้น
ความรคู้ วาม 1. สงั เกตจากการซกั ถาม ตอบ ความคดิ 70% ข้ึนไป ถอื
เข้าใจ (K) คาถาม ว่าผา่ นเกณฑก์ าร
2. การพึง่ พาสง่ิ แวดลอ้ มและ ประเมิน
ทักษะ/
กระบวนการ (P) ทรพั ยากรธรรมชาติกบั มนษุ ย์ 1. ใบงานการพึ่งพา 70% ข้นึ ไป ถือ

1.การพึ่งพาสิ่งแวดลอ้ มและ สง่ิ แวดลอ้ มและ วา่ ผา่ นเกณฑก์ าร

ทรัพยากรธรรมชาติกับมนษุ ย์ ทรัพยากรธรรมชาติกับ ประเมนิ

มนุษย์

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขน้ึ ไป ถือ
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ีส่งั และส่งงาน พฤติกรรม ว่าผา่ นเกณฑก์ าร

ได้ทนั ตามท่กี าหนด ประเมนิ
2. สงั เกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้

3. สงั เกตจากการมงุ่ ม่ันในการ
ทางาน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. แบบฝกึ
2. หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบรู ณ์แบบ ป.3

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• ห้องเรยี น
• ห้องสมดุ
• อนิ เทอรเ์ นต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 12-13

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 2 /…………. ช่ือผ้สู อน . ..................................................................
กลมุ่ สาระ ประวตั ิศาสตร์ ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน ......2...... คาบ
หน่วยการเรียนที่ 4 สภาพแวดลอ้ มในชมุ ชน เรือ่ ง ปัญหามลพิษ

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างมนษุ ยก์ บั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทกี่ อ่ ให้เกิดการสร้าง สรรคว์ ัฒนธรรม

มจี ติ สานกึ และมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรและส่งิ แวดล้อมเพือ่ การพัฒนาทีย่ ัง่ ยืน

ตัวช้ีวดั ที่ ป.3/1
เปรียบเทียบการเปล่ยี นแปลงสภาพแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถึงปัจจบุ นั

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ทรัพยากรธรรมชาติเปน็ ส่ิงท่ีเกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติและมคี วามจาเป็นต่อการดารงชวี ิตของมนุษย์

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอ้ มในชมุ ชนได้
2. ตระหนักถงึ ปญั หาท่เี กิดจากการเปลี่ยนแปลงของสงิ่ แวดลอ้ ม
3. สืบคน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั การอนุรกั ษ์สิ่งแวดล้อมและปฏิบตั ติ นตามไดถ้ กู ต้อง

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

ปัญหามลพษิ

5. กิจกรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ
ครูใหน้ กั เรียนดูภาพสภาพแวดลอ้ มท่อี ากาศเปน็ พิษ แล้วให้นักเรยี นตอบคาถามตามที่กาหนด

ขน้ั สอน

ขั้นสารวจค้นหา
1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ แลว้ ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรเู้ ร่ือง มลพิษทเ่ี กิดจากการกระทาของคนจาก
หนงั สอื เรียน แล้วนามาอภปิ รายรว่ มกันในประเดน็ สาคญั
2. นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานเรอื่ ง มลพษิ จากนั้นนาคาตอบของตนมาเลา่ ให้สมาชิกคนอ่ืนๆ ภายในกลมุ่
ฟัง โดยเล่าทีละคนแบบเลา่ เรอ่ื งรอบวง แล้วใหส้ มาชิกคนอ่ืนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น และให้
ขอ้ เสนอแนะอย่างมเี หตุผล
3. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานแลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มตรวจสอบคาตอบ และแก้ไข
เพิ่มเตมิ ในส่วนทไ่ี ม่สมบรู ณ์

ขน้ั สรปุ

ข้ันขยายความเขา้ ใจ
ขั้นตรวจสอบผล

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปสาเหตุ และผลกระทบของมลพิษทเี่ กดิ จากการกระทาของคน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมินผล วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมอื วดั เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล
1.คาถามกระตุ้น
ความร้คู วาม 1. สงั เกตจากการซักถาม ตอบ ความคดิ 70% ขึน้ ไป ถือว่า
เข้าใจ (K) คาถาม ผา่ นเกณฑ์การ
2. ปญั หามลพษิ ประเมนิ

ทกั ษะ/ 1.การอธิบายสาเหตุการเกิดปญั หา 1. ใบงานปัญหามลพษิ 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
กระบวนการ (P) มลพิษ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมิน

คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขน้ึ ไป ถือว่า
รับผิดชอบตอ่ งานท่สี งั่ และส่งงาน พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์การ

ไดท้ นั ตามทก่ี าหนด ประเมิน
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้

3. สงั เกตจากการมุง่ มน่ั ในการ
ทางาน

7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1. แบบฝกึ
2. หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบูรณแ์ บบ ป.3

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• ห้องเรียน
• ห้องสมดุ
• อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ............................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(........................................................) (.......................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาหท์ ่ี 14-15

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท่ี 2 /2562 ช่ือผสู้ อน . ..................................................................
กลุ่มสาระ ประวตั ศิ าสตร์ ช้ัน ประถมศึกษาปที ่ี 3 จานวน ......2...... คาบ
หน่วยการเรียนท่ี 4 สภาพแวดล้อมในชมุ ชน เร่อื ง การกอ่ มลพิษและผลของมลพิษ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งมนษุ ย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพท่กี อ่ ใหเ้ กิดการสร้าง สรรคว์ ฒั นธรรม

มีจติ สานกึ และมีสว่ นรว่ มในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการพัฒนาทีย่ ่งั ยืน

ตัวชี้วดั ที่ ป.3/3
อธบิ ายเก่ียวกับมลพิษและการก่อให้เกดิ มลพิษโดยมนษุ ย์

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ปญั หามลพษิ สงิ่ แวดล้อมทาให้เกดิ อนั ตรายต่อมนุษยเ์ ราจงึ ตอ้ งรว่ มมอื กนั ในการอนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

เพอื่ ให้มนุษยม์ คี ณุ ภาพชีวิตท่ดี ี

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายลักษณะและสาเหตกุ ารเกิดปญั หามลพษิ ได้
2. บอกวิธีการอนรุ ักษส์ ่งิ แวดลอ้ มได้
3. ตระหนักถึงปัญหามลพษิ และเหน็ ความสาคัญของการอนรุ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้ทู ้องถน่ิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

การก่อมลพิษและผลของมลพษิ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขน้ั นา

ขั้นกระตุ้นความสนใจ
1. ครูใหน้ ักเรียนศึกษาวดี ทิ ัศนเ์ กยี่ วกบั ปัญหาโลกรอ้ นและมลพิษ
2. ครูต้ังคาถามนกั เรยี นเกี่ยวกับปญั หาโลกรอ้ นและมลพษิ
3. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพกิจกรรมต่าง ๆ เกยี่ วกบั ปัญหาโลกรอ้ นและมลพษิ

ขน้ั สอน

ข้ันสารวจคน้ หา
1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ6-7 คนค้นควา้ ศึกษาเก่ียวกบั ปัญหาโลกร้อนและมลพิษและช่วยกันหา

ข่าวเกยี่ วกบั ปญั หาโลกรอ้ นและมลพิษ
2. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอข่าวปญั หาโลกร้อนและมลพิษท่ีค้นคว้ามาจากนนั้ ครูและ

นักเรียนร่วมกนั สรปุ เรื่อง ปัญหาโลกร้อนและมลพิษ
3. หลงั จากนั้นทาแบบฝกึ
4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ6-7 คนค้นคว้าศึกษาเก่ยี วกบั โครงงานเร่อื งปัญหาโลกร้อนและมลพษิ
5. แตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอค้นควา้ จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรือ่ ง ปญั หาโลก

ร้อนและมลพษิ หลงั จากนั้นทาแบบฝึก

ขน้ั สรปุ

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ
ข้นั ตรวจสอบผล

ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปสาเหตุ และผลกระทบของมลพิษทีเ่ กิดจากการกระทาของคน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การ
จุดประสงค์ ประเมนิ ผล

ความรคู้ วาม 1. สังเกตจากการซักถาม ตอบ 1.คาถามกระตุ้น 70% ขึ้นไป ถือว่า
เขา้ ใจ (K) คาถาม ความคิด ผ่านเกณฑ์การ
2. การก่อมลพษิ และผลของมลพิษ ประเมนิ

ทักษะ/ 1.การอธิบายการกอ่ มลพิษและผล 1. ใบงานการกอ่ มลพิษ 70% ขน้ึ ไป ถือว่า
กระบวนการ (P)
ของมลพิษ และผลของมลพษิ ผา่ นเกณฑ์การ

ประเมนิ

คุณลักษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ข้นึ ไป ถือว่า
รบั ผดิ ชอบต่องานทสี่ ง่ั และสง่ งาน พฤตกิ รรม
ไดท้ นั ตามทก่ี าหนด ผา่ นเกณฑก์ าร
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้ ประเมนิ
3. สังเกตจากการมงุ่ มั่นในการ
ทางาน

7. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1. แบบฝึก
2. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สมบรู ณแ์ บบ ป.3

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
• หอ้ งเรยี น
• หอ้ งสมดุ
• อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ............................................ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(........................................................) (.......................................................)

ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)