แผนการจัดการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์ ม.2

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม
สาระเศรษฐศาสตร์

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ปจั จัยการผลิต

2

นางสาวยุภาวดี ช่างยนั ต์

เอกสารการประเมิน ภาค ค การแข่งขันเพ่อื บรรจุและแต่งต้ัง บคุ คลเข้ารบั ราชการ
เปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
ตาแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวดั ฉะเชงิ เทรา

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี2 เล่มน้ีจัดทาข้ึนเพ่ือใช้
ประกอบการเข้ารับการประเมิน ภาค ค ความเหมาะสมกับตาแหน่ง ในการคัดเลือกบุคคลเข้ารับตาแหน่งครู
ผู้ช่วย สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งประกอบด้วยโครงสรา้ งรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ คาอธบิ าย
รายวิชาและแผนการจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์ประกอบในแผนการจัดการเรียนรู้ เอกสาร
ประกอบการเรียนและสื่อการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จะทาให้ทุกท่านที่ได้อ่าน เห็นถึงความสามารถโดยรวมของ
ข้าพเจ้าและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการประเมินและพิจารณาข้าพเจ้าเพ่ือเข้ารับ
ตาแหน่งครูผู้ช่วย สานักงานศึกษาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา หากมีข้อผิดพลาดประการใดข้าพเจ้าขออภัย ณ
โอกาสนี้

ยุภาวดี ชา่ งยนั ต์

หน้า | ก

สำรบญั หนำ้

เนื้อหำ ก
ข
คานา 1
สารบญั 3
6
▪ โครงสรา้ งรายวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 7
▪ โครงสรา้ งแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2
▪ คาอธิบายรายวชิ าเศรษฐศาสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
▪ แผนการจัดการเรยี นรูร้ ายวิชาเศรษฐศาสตร์ ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

ภาคผนวก ก เอกสารประกอบการเรียน
ภาคผนวก ข สอื่ การจัดการเรียนรู้
ภาคผนวก ค แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องผ้เู รยี น

หน้า | ข

โครงสร้างรายวิชา

รายวิชาเศรษฐศาสตร์ (ส22102) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี2 จานวน 0.5 หนว่ ยกติ (1 ช่วั โมง/สัปดาห)์ เวลา 20 ช่ัวโมง

ผู้สอน นางสาวยุภาวดี ช่างยันต์

หนว่ ยท่ี หน่วยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา คะแนน
เรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง)

1 การออมและ ส 3.1 ม.2/1 ปัจจัยสำคญั ทมี่ ีผลต่อกำรลงทุนและ 4 20

การลงทุน กำรออมมีหลำยประกำร ซ่ึงกำร

ลงทนุ และกำรออมล้วนมคี วำมสำคัญ

ต่อ

ระบบเศรษฐกิจ

2 การผลติ สนิ ค้า ส 3.1 ม.2/2 กำรผลติ สนิ ค้ำและบรกิ ำรอย่ำงมี 4 20

และบรกิ าร ประสทิ ธภิ ำพนน้ั ยอ่ มมหี ลักกำร

ผลติ และใช้เทคโนโลยีอยำ่ ง

เหมำะสม ซ่งึ ปจั จยั กำรผลติ และ

ปัจจยั ที่มีอทิ ธพิ ลต่อกำรผลติ สินค้ำ

และบริกำรมหี ลำยประกำร

3 เศรษฐกจิ ส 3.1 ม.2/3 ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งมี 4 20

พอเพียงกบั หลักกำรและเป้ำหมำยสำคัญท่ี

การผลติ สำมำรถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในกำร

สนิ ค้าและ พฒั นำกำรผลติ สนิ คำ้ และบรกิ ำร

บรกิ าร ในท้องถิ่น ซงึ่ จะสง่ ผลดีตอ่

เศรษฐกิจของชุมชนและวิถกี ำร

ดำเนนิ ชีวติ ของสมำชกิ ในชุมชน

หน้า | 1

หน่วยที่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา คะแนน
เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง)

4 การคุ้มครอง ส 3.1 ม.2/4 กำรคมุ้ ครองสิทธิของตนเองในฐำนะ 4 20

ผบู้ รโิ ภค ผบู้ รโิ ภค เปน็ ไปตำมกฎหมำย

คุ้มครองผู้บรโิ ภคโดยดำเนินกิจกรรม

พทิ ักษ์สิทธิและผลประโยชน์ตำม

กฎหมำย

ในฐำนะผู้บรโิ ภค

5 ระบบ ส 3.2 ม.2/1 กำรดำเนนิ กจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ 4 20

เศรษฐกจิ ม.2/2 ของ
การพึ่งพา แต่ละประเทศมคี วำมแตกต่ำงกันไป

การแข่งขัน ม.2/3 ตำมระบบเศรษฐกิจ ประเทศใน
ทางเศรษฐกจิ ภมู ิภำคเอเชียลว้ นมีกำรพง่ึ พำอำศัย
ในทวปี เอเชยี
ม.2/4 กนั และแขง่ ขนั กนั ทำงเศรษฐกิจ มี

กำรกระจำยทรพั ยำกร ซงึ่ สง่ ผลดตี อ่

ควำมสัมพันธ์ทำงเศรษฐกิจระหวำ่ ง

ประเทศ คณุ ภำพสินคำ้ กำรผลติ

และรำคำสินค้ำ

รวม 20 100

หน้า | 2

โครงสรา้ งแผนการรจัดการเรียนรู้

รายวชิ าเศรษฐศาสตร์ (ส22102) กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี2 จานวน 0.5 หน่วยกติ (1 ชว่ั โมง/สปั ดาห)์ เวลา 20 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นางสาวยุภาวดี ช่างยนั ต์

หน่วย แผนการจัด วธิ ีสอน/กระบวนการ ทักษะการคดิ เวลา คะแนน
การ การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ (ชัว่ โมง)
เรยี นรู้
1 1. ควำมสำคญั และ - วธิ ีสอนโดยกำรจดั กำร 1. ทกั ษะกำรรวบรวม 15
เรียนร้แู บบรว่ มมือ : ขอ้ มลู
ปัจจัยกำรออม เทคนคิ กำรเรยี นรว่ มกนั 2. ทักษะกำรวเิ ครำะห์ 15
3. ทกั ษะกำรสรำ้ งควำมรู้
15
2. กำรออมอยำ่ งมี - วธิ สี อนโดยกำรจดั กำร 1. ทักษะกำรรวบรวม
ประสทิ ธิภำพ เรยี นรู้แบบร่วมมอื : ข้อมูล 15
เทคนคิ กำรตอ่ เรอื่ งรำว 2. ทกั ษะกำรวเิ ครำะห์ 15
(Jiqsaw) 3. ทกั ษะกำรสร้ำงควำมรู้

3. ควำมสำคัญและ - วิธีสอนโดยกำรจดั กำร 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์
แหล่งทีม่ ำของ เรียนรู้แบบรว่ มมือ :
กำรลงทุน เทคนคิ คูค่ ดิ
ส่ีสหำย
4. กำรลงทุน
- วธิ สี อนแบบสบื เสำะหำ 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์
ควำมรู้
(Inquiry Method : 5E)

2 1. ขน้ั ตอนกำรผลติ - วิธีสอนแบบสบื เสำะหำ 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์
สินคำ้ ควำมรู้
(Inquiry Method : 5E)

หน้า | 3

หนว่ ย แผนการจดั วิธีสอน/กระบวนการ ทกั ษะการคิด เวลา คะแนน
การ การเรยี นรู้ จัดการเรยี นรู้ (ชั่วโมง)
เรยี นรู้
2 2. ปจั จยั ในกำร - วธิ ีสอนแบบสืบเสำะหำ 1. ทกั ษะกำรวเิ ครำะห์ 1 5
ควำมรู้ 2. ทกั ษะกำรนำควำมร้ไู ป 2 10
ผลิต (Inquiry Method : 5E) ใช้ 1 5

3. หลกั กำรผลติ - วิธีสอนโดยใชท้ กั ษะ 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์
สินคำ้ และ กระบวนกำรเผชิญ 2. ทักษะกำรนำควำมรไู้ ป
บริกำร สถำนกำรณ์
ใช้
3 1. หลกั กำรและ
เป้ำหมำยของ - วิธสี อนโดยเน้น 1. ทักษะกำรวเิ ครำะห์
ปรัชญำของ กระบวนกำร :
เศรษฐกิจ กระบวนกำรสรำ้ งเจต
พอเพียง คติ

2. กำรผลติ สนิ ค้ำ - วิธีสอนโดยเนน้ 1. ทกั ษะกำรวเิ ครำะห์ 1 5
และบรกิ ำรใน กระบวนกำร : 2. ทกั ษะกำรประยกุ ต์ใช้
ทอ้ งถ่นิ กระบวนกำรเรียน
ควำมรู้ ควำมรู้
ควำมเข้ำใจ

3. เศรษฐกจิ - วิธสี อนแบบธรรม 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์ 2 10
พอเพยี งกบั กำร สำกจั ฉำ 2. ทักษะกำรประยกุ ตใ์ ช้
ผลิตสนิ ค้ำและ 1 5
บริกำรใน ควำมรู้ 1 5
ท้องถิน่

4 1. สิทธผิ บู้ รโิ ภค - วิธีสอนแบบบรรยำย 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์
2. ทกั ษะกำรสรำ้ งควำมรู้

2. กฎหมำย - วิธสี อนโดยกำรจัดกำร 1. ทักษะกำรวิเครำะห์
คุ้มครองผบู้ รโิ ภค เรียนร้แู บบรว่ มมอื : 2. ทักษะกำรสรำ้ งควำมรู้
เทคนคิ เลำ่ เรอ่ื งรอบวง

หน้า | 4

หนว่ ย แผนการจดั วธิ ีสอน/กระบวนการ ทักษะการคิด เวลา คะแนน

การ การเรียนรู้ จัดการเรยี นรู้ (ช่วั โมง)

เรยี นรู้

4 3. กำรปกปอ้ ง - วธิ สี อนแบบ KWL 1. ทกั ษะกำรวิเครำะห์ 2 10
คมุ้ ครองผบู้ ริโภค 2. ทกั ษะกำรสร้ำงควำมรู้

3. ทกั ษะกระบวนกำรคดิ

ตัดสนิ ใจ

5 1. ระบบเศรษฐกจิ - วิธีสอนตำมรปู แบบ 1. ทกั ษะกำรวเิ ครำะห์ 2 10
โมเดล 2. ทักษะกำรเปรยี บเทยี บ
ซิปปำ (CIPPA

Model)

2. กำรพง่ึ พำ และ - วิธสี อนตำมแนววัฏจกั ร 1. ทักษะกำรรวบรวมข้อมูล 2 10

กำรแข่งขนั ทำง กำรเรียนรู้ (4 MAT) 2. ทกั ษะกำรวเิ ครำะห์

เศรษฐกิจในทวีป 3. ทักษะกำรเปรยี บเทียบ

เอเชยี 4. ทกั ษะกำรให้เหตุผล

5. ทกั ษะกำรสรำ้ งควำมรู้

รวม 20 100

หน้า | 5

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา เศรษฐศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 2
รหัสวิชา ส 22102 เวลา 20 ช่วั โมง/ปี

ศึกษำ วิเครำะห์ ระบบเศรษฐกิจแบบต่ำงๆ กำรพึ่งพำอำศัยกัน และกำรแข่งขันกันทำงเศรษฐกิจใน
ภูมิภำคเอเชีย กำรกระจำยของทรัพยำกรในโลกท่ีส่งผลต่อควำมสัมพันธ์ทำงเศรษฐกิจระหว่ำงประเทศ กำร
แข่งขันทำงกำรค้ำในประเทศและตำ่ งประเทศที่ส่งผลตอ่ คุณภำพสินค้ำ ปริมำณกำรผลิตและรำคำสินค้ำปจั จยั
ที่มีผลต่อกำรลงทุนและกำรออม ปัจจัยกำรผลิตสินค้ำและบริกำร และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกำรผลิตสินค้ำและ
บริกำร เสนอแนวทำงกำรพัฒนำกำรผลิตในท้องถ่ินตำมปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง กำรคุ้มครองสิทธิของ
ตนเองในฐำนะผูบ้ ริโภค

โดยใชก้ ระบวนกำรคดิ กระบวนกำรสืบคน้ ข้อมลู กระบวนกำรทำงสงั คม กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์
และแก้ปัญหำ กระบวนกำรปฏิบัติ กระบวนกำรกลมุ่

เพ่ือให้มีควำมรู้ควำมเข้ำใจ ควำมสัมพันธ์ทำงเศรษฐกิจ สำมำรถใช้ทรัพยำกรที่มีอยู่จำกัดได้อย่ำงมี
ประสิทธิภำพและคุ้มค่ำ เข้ำใจหลักกำรของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อกำรดำรงชีวิต สำมำรถส่ือสำรสิ่งที่เรียนรู้
มีคุณธรรมจริยธรรม และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้ำนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในกำรทำงำน มีจิต
สำธำรณะ อยอู่ ย่ำงพอเพยี ง

ตวั ชีว้ ัด
ส 3.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
ส 3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวม 8 ตวั ชวี้ ดั

หน้า | 6

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา วฒั นธรรม ภาคเรียนท2่ี /2564
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
วิชา เศรษฐศาสตร์ รหัสวชิ า ส 22102
จานวน 4 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การผลติ สนิ ค้าและบรกิ าร จานวน 1 ช่ัวโมง

เร่ือง ปัจจยั การผลิต

ผ้สู อน : นางสาวยภุ าวดี ช่างยันต์

1.มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั การเรียนรู้

ส 3.1 เขำ้ ใจและสำมำรถบริหำรจดั กำรทรัพยำกรในกำรผลติ และกำรบรโิ ภค กำรใช้ทรพั ยำกรท่ีมอี ยู่
จำกัดได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพและคมุ้ ค่ำ รวมทั้งเขำ้ ใจหลักกำรของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ กำรดำรงชวี ติ อยำ่ งมี
ดุลยภำพ

ม.2/2 อธบิ ำยปัจจัยกำรผลิตสนิ ค้ำและบริกำร และปัจจัยทม่ี ีอิทธพิ ลต่อกำรผลิตสินคำ้ และบริกำร

2.สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

ปัจจัยกำรผลติ หรอื ทรัพยำกรกำรผลติ เป็นส่ิงท่นี ำมำใช้ผลติ สินค้ำและบรกิ ำร โดยผำ่ นกระบวนกำร
ผลติ ปัจจยั กำรผลติ ประกอบดว้ ยทด่ี ิน แรงงำน ทนุ และผ้ปู ระกอบกำร ซงึ่ ในกำรตดั สนิ ใจเลือกใช้ทรัพยำกร
ผผู้ ลติ ต้องคำนึงถงึ ผลตอบแทนทำงต้นทนุ ควำมคมุ้ ค่ำของกำรใชป้ จั จัยกำรผลติ และปจั จัยทำงดำ้ นคณุ ธรรม

3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. สำมำรถอธบิ ำยควำมหมำยของปจั จัยกำรผลิตสนิ คำ้ และบริกำรได้อยำ่ งถูกต้อง (K)
2. สำมำรถวิเครำะห์กำรใช้ปจั จัยกำรผลติ สินค้ำและบรกิ ำรได้อย่ำงสมเหตุสมผล (P)
3. ตระหนกั ถงึ ควำมสำคัญของปจั จยั กำรผลติ สนิ ค้ำและบริกำรไดท้ ีม่ ีผลตอ่ ระบบเศรษฐกิจ (A)

4.สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ควำมหมำย ควำมสำคญั และหลักกำรผลติ สินคำ้ และบริกำรอยำ่ งมีประสิทธิภำพ

5.กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบ 5 E

ขั้นท่ี1 กระตุน้ ความสนใจ Engage

ครใู หน้ ักเรยี นดบู ัตรภำพ แล้วให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมควำมคดิ เห็นวำ่ บัตรภำพดังกลำ่ วคือภำพอะไรมี
ควำมสำคัญและสำมำรถเชอ่ื มโยงกบั กำรผลิตสนิ ค้ำและบริกำรไดอ้ ยำ่ งไร

หน้า | 7

ขั้นท่ี2 สารวจค้นหา Explore

1. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม5-6 คนจำกนั้นแจกชดุ บัตรคำกลมุ่ ละ 1 ชุด แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั
เรียงบัตรคำให้เป็นควำมหมำยของปัจจัยกำรผลติ ใหถ้ ูกตอ้ ง

2. ครใู หน้ ักเรียนศึกษำค้นคว้ำเก่ยี วกบั ปจั จัยกำรผลิต หนังสอื เรยี นวชิ ำเศรษฐศำสตร์ เอกสำร
ประกอบกำรเรยี นเรอื่ งปจั จัยกำรผลติ และกรณศี กึ ษำ เพอ่ื นำข้อมลู มำอภปิ รำยรว่ มกันในชนั้ เรยี น

ขน้ั ท3่ี อธิบายความรู้ Explain

1. ครสู ุ่มให้นักเรียนยกตวั อย่ำงกำรผลติ สนิ คำ้ และบรกิ ำรที่นักเรียนใชใ้ นชวี ิตประจำวัน แลว้ ใหบ้ อกว่ำใช้
ปจั จัยกำรผลติ อะไรบำ้ ง พร้อมทง้ั บอกแหล่งทม่ี ำของปจั จัยกำรผลิต

2. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั วิเครำะหภ์ ำพทเี่ ห็นจำกกลอ่ งหรรษำแล้วร่วมกันจำแนกว่ำในกล่องหรรษำมี
ปัจจยั กำรผลติ ที่สำคญั อะไรบำ้ ง และปัจจยั กำรผลติ แต่ละประเภทมีผลตอบแทนคืออะไร

3. ครตู ั้งคำถำมเกยี่ วกบั ปัจจยั กำรผลติ ให้นักเรยี นรว่ มแสดงควำมคดิ เหน็ ในประเด็นต่อไปน้ี
▪ แรงงำนมคี วำมสำคญั ตอ่ กำรผลติ สินคำ้ และบริกำรอยำ่ งไร
(แนวกำรตอบ แรงงำนถอื เปน็ องคป์ ระกอบสำคัญของปจั จัยกำรผลิต แรงงำนจะใช้
ควำมสำมำรถ ทักษะควำมเชย่ี วชำญในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลติ ภัณฑต์ ำ่ งๆธรุ กิจทมี่ แี รงงำนมี
ควำมรู้ ควำมเช่ยี วชำญในงำนที่ทำ กส็ ำมำรถพฒั นำธุรกจิ ใหป้ ระสบควำมสำเรจ็ ได้สูง)
▪ ถ้ำนักเรียนเป็นผู้ประกอบกำร นักเรยี นจะมวี ธิ กี ำรบริหำรจดั กำรปัจจยั กำรผลติ อยำ่ งไร
เพอื่ ใหก้ ำรผลติ มปี ระสทิ ธิภำพสูงสดุ และมกี ำไรสงู สดุ
(แนวกำรตอบ ควบคุมปัจจยั กำรผลติ ควบคุมกำรผลิต ตดิ ตำมสภำวะกำรตลำด เพอื่ ลด
ควำมเสีย่ งในดำ้ นต่ำงๆทมี่ ผี ลตอ่ กำรดำเนินธุรกิจและกำรบรหิ ำรจัดกำร )
▪ ในบทบำทของผปู้ ระกอบกำรนกั เรียนคิดวำ่ กำรนำเทคโนโลยสี ำรสนเทศมำปรับใช้กบั ธรุ กจิ มี
ควำมสำคัญอยำ่ งไร(อธบิ ำยพอสังเขป)
(แนวกำรตอบ กำรนำเทคโนโลยีสำรสนเทศมำประยุกต์ใช้ในธรุ กจิ เปน็ กำรเพิ่มผลผลิต
ภำพรวมของธุรกจิ อีกทง้ั ยังเปน็ กำรลดคำ่ ใชจ้ ำ่ ย และระยะเวลำในกำรดำเนินงำนให้ส้นั ลง
เทคโนโลยี เป็นเครอ่ื งมือท่ีสำคัญที่ชว่ ยสรำ้ งควำมได้เปรียบในกำรแข่งขนั แกธ่ รุ กจิ และสรำ้ ง
ภำพลักษณท์ ดี่ ใี นควำมรสู้ ึกของผบู้ รโิ ภค)

ข้นั ที่4 ขยายความเขา้ ใจ Expand

ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกล่มุ เลือกผลิตสนิ ค้ำและบริกำรทนี่ ักเรยี นสนใจในทอ้ งถนิ่ โดยไม่ซำ้ กันในช้ันเรียน
แล้วจดั ทำแผนผงั ควำมคดิ แสดงกำรวเิ ครำะหป์ จั จัยกำรผลติ ใหค้ รบทัง้ 4 ประเภท(ท่ดี ิน ทุน แรงงำน
ผูป้ ระกอบกำร)

หน้า | 8

ขน้ั ท่ี5 ตรวจสอบผล Evaluate

ครตู รวจผลงำน โดยพิจำรณำจำกควำมถกู ต้องของขอ้ มลู และให้นกั เรียนทดสอบควำมเขำ้ ใจในบทเรยี น
โดยใช้เกมสต์ อบคำถำม woldwall “สรุปควำมเขำ้ ใจปจั จัยกำรผลติ ”พจิ ำรณำควำมถกู ต้องตำมคะแนนใน
เกมส์

6. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

6.1 ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
6.2 ควำมสำมำรถในกำรคิด

1. ทักษะกำรวิเครำะห์
2. ทักษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้
6.3 ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ
7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุง่ มั่นในกำรทำงำน
8. ชิน้ งาน/ภาระงาน
1. แผนผังควำมคิด “กำรเลือกผลิตสนิ ค้ำและบริกำร”
9. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น เศรษฐศำสตร์ ม.2
2. เอกสำรประกอบกำรสอน ปจั จยั กำรผลติ
3. กล่องหรรษำพำรเู้ ศรษฐศำสตร์
4. บัตรภำพ
5. บัตรคำ
6. เกมสต์ อบคำถำม woldwall “สรปุ ควำมเข้ำใจปจั จัยกำรผลิต”

หน้า | 9

10. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์
วิธกี าร
แบบประเมินชนิ้ งำน รอ้ ยละ 70 ผำ่ นเกณฑ์
ตรวจชนิ้ งำน
สงั เกตพฤติกรรมในกำรเรยี นรำยบุคคล แบบสังเกตพฤตกิ รรมในกำรเรียน ระดบั คณุ ภำพผ่ำนเกณฑ์
รำยบุคคล ระดับดี

สงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนกลุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ ระดับคุณภำพผ่ำนเกณฑ์
ระดบั ดี

สังเกตควำมมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในกำร แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภำพผ่ำนเกณฑ์
ทำงำน ระดบั ดี

หน้า | 10

11. ขอ้ เสนอแนะและความคดิ เหน็ ของผูต้ รวจ
ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..…….
.......……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..….…

ลงชือ่ ...................................................
(...............................................)

ตำแหน่ง หวั หนำ้ กลุม่ สำระสังคมศกึ ษำฯ
วันท.ี่ .......เดอื น..................พ.ศ............

ความคิดเห็นของกลมุ่ บริหารวชิ าการ
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..……
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..……………………………………………………………………………………………………………………………………….…..……

ลงชอ่ื ...................................................
(...............................................)

ตำแหน่ง ผูช้ ว่ ยผอู้ ำนวยกำรกลุม่ บริหำรวิชำกำร
วันที.่ .......เดอื น..................พ.ศ............

ความคดิ เห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………..……
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………………………………………………………………………………………..…..…

ลงช่อื ...................................................
(...............................................)

ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน
วันท่.ี .......เดือน..................พ.ศ............

หน้า | 11

12. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้
ผลการจัดการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………..………………………………………………………………………………..……
…..................…………………………………………………………………………..……………………………………………………………
…………………..........……………………………………………………………………….………………………………………………………
……………………………….………………………………………………………………………….………………………………………………
ปญั หา / อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………………………………………………………………………………………..……..
…...........................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………………………………………………………………………………………..…..…
…...........................................................................................................................................................................
แนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
........……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………….………………………………………………………..………………………………………………………………………………..……
…..................…………………………………………………………………………..……………………………………………………………
…………………..........……………………………………………………………………….………………………………………………………
……………………………….………………………………………………………………………….………………………………………………

ลงชอ่ื ………………………………
( นำงสำวยภุ ำวดี ช่ำงยนั ต์)

ผู้สอน
................/..................../.............

หน้า | 12

ภาคผนวก ก เอกสารประกอบการเรยี น

เอกสารประกอบการเรียน

กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
สาระเศรษฐศาสตร์ รหัสวชิ า ส21102
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี2

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ีท่ี 2 การผลิตสนิ คา้ และบริการ
เรอ่ื งปัจจยั การผลิต
สอนโดย นางสาวยุภาวดี ช่างยันต์

ศกึ ษาเพ่มิ เติมได้ท่ี QR CODE

ปจั จยั ในการผลติ

ทรัพยากรท่นี ามาใชใ้ นการผลติ สินค้าและบรกิ าร เรยี กว่า ปัจจัยการผลิต ซง่ึ เป็นสง่ิ จาเป็นขัน้
พนื้ ฐาน ในการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารทกุ อยา่ ง ในการผลติ จะตอ้ งนาปัจจยั การผลิตทม่ี อี ย่อู ย่างจากัด
มาผา่ น กระบวนการผลติ เพอ่ื ให้เกิดการผลติ สินคา้ ขึ้น ในทางเศรษฐศาสตร์แบง่ ปัจจยั การผลติ ออกเปน็
๔ ประเภท ดงั นี้

1. ท่ีดนิ

ทด่ี ินเปน็ ทรพั ยากรธรรมชาติท่ใี ชใ้ นการผลิตสินคา้ และบริการทีด่ นิ รวมถงึ ส่งิ ที่เกดิ ใต้ดิน บนดิน
หรอื เหนอื พนื้ ดินเข้าไวด้ ้วยกัน ซง่ึ จะรวมถงึ ท่ีดินและทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่ีเกดิ ขึน้ เองทกุ ชนิด เปน็ ตน้ วา่
ป่าไม้ นา้ ตก แร่ธาตุ น้ามนั โดยมผี ลตอบแทนของผู้เปน็ เจ้าของทด่ี นิ คอื “คา่ เชา่ ”

2. แรงงาน

แรงงานเป็นการใชค้ วามสามารถหรือความพยายามทัง้ กาลงั กาย จติ ใจ และสติปญั ญาของ
มนุษย์ใน การกระทาสงิ่ ใดก็ตามในกระบวนการผลิต ผ้ใู ช้แรงงานในกระบวนการผลิตมีท้ังแรงงานทใ่ี ช้
สมองหรือความคดิ สตปิ ญั ญา เช่น ข้าราชการ ลูกจา้ งรฐั วิสาหกจิ ลกู จา้ งในหน่วยงานต่างๆ เป็นตน้
โดยท่วั ไปแล้วแรงงานแบง่ ได้ ๒ ประเภท ดังนี้

2.1 แรงงานมฝี มี ือ หรอื แรงงานที่ใช้ความรคู้ วามสามารถเปน็ แรงงานท่ีไดร้ ับการอบรมความรู้
เฉพาะทางมาเป็นอยา่ งดี ซ่ึงแรงงานประเภทนป้ี ระกอบอาชพี โดยมีสถานภาพการทางานทแี่ ตกตา่ งกัน
ออกไป เช่น พนกั งาน ทางานในภาครัฐและภาคเอกชน แพทย์ พยาบาล ครู วศิ วกร ข้าราชการใน
หน่วยงานตา่ งๆ นายจา้ งและลกู จา้ งในบรษิ ทั เปน็ ตน้

2.2 แรงงานไร้ฝีมือ หรอื แรงงานท่ไี ม่ มคี วามชานาญ เปน็ แรงงานที่ใช้แตก่ าลังแรงกาย ซ่ึง
มกั จะไม่ได้รบั การฝกึ ฝนอบรมในดา้ นความรเู้ ฉพาะทาง มาก่อน เชน่ กรรมกร รบั จา้ งแบกหาม คนงาน
รับจา้ ง ทว่ั ไป เปน็ ต้น แรงงานมีฝมี อื เปน็ ผทู้ มี่ ีความรู้ ความเชีย่ วชาญในงานที่ ทาเปน็ อยา่ งดี

ประเทศที่มแี รงงานท่ีมคี ณุ ภาพ คอื มีการศกึ ษาและประสบการณ์สูง มีความเชยี่ วชาญในงานท่ี
ทาจะชว่ ยเพม่ิ ผลผลติ และทาใหผ้ ลผลติ มีคุณภาพมากย่งิ ขน้ึ โดยเฉพาะในประเทศท่ีพฒั นาแล้ว และใน
ประเทศเหลา่ น้ีแรงงานจะได้รับคา่ ตอบแทนที่สงู มากกวา่ ประเทศทก่ี าลงั พฒั นา ทาให้ตอ้ งมกี ารเข้ามา
ลงทนุ ในประเทศ ทกี่ าลังพฒั นา เนอ่ื งจากมีคา่ จา้ งแรงงานถูกกวา่ ทาให้ต้นทุนการผลติ ต่างๆและไดผ้ ล
กาไรเพมิ่ ขึ้น

สาหรับผลตอบแทนทเี่ จา้ ของแรงงานไดร้ บั เรียกวา่ “คา่ จ้าง” ซ่งึ อาจเปน็ เงนิ เดอื นคา่ จ้าง
รายวัน หรอื รายช้นิ งานตามแตต่ กลงกนั

3. ทนุ

ทนุ เปน็ ปจั จัยการผลติ ที่มนุษยส์ รา้ งขึ้นสาหรบั นามาผลติ สินคา้ และบรกิ าร เรยี กอกี ช่อื หน่งึ วา่
สินค้าทนุ (capital goods) ไดแ้ ก่ ส่ิงก่อสรา้ ง เชน่ โรงงาน ถนน สะพาน ทางรถไฟ เครอ่ื งจักรเครือ่ งมอื
เช่น เครื่องจกั รในโรงงาน เครอื่ งสูบนา้ รถแทรกเตอร์ รถบรรทุก รถไถนา สัตวท์ ี่ใช้แรงงาน อุปกรณ์
ตา่ งๆ วตั ถุดิบ เช่น เมล็ดพันธุ์พชื ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ามนั เชือ้ เพลงิ เหล็กเส้น ไม้แปรรูป ยางแผน่ เม็ด
พลาสตกิ ผัก ผลไม้ ทจ่ี ะนามาประกอบหรือแปรรูปสนิ ค้าทุนเหล่านถี้ อื ว่าเปน็ ทุนท่แี ท้จริง (real
capital)

ทนุ เป็นตัวเงนิ หรือ เงนิ ทุน (money capital) ในแงข่ องนักเศรษฐศาสตรพ์ จิ ารณาว่า เปน็ เพยี งสื
อกลางใช้แลกเปลี่ยน แต่ สินค้าทุน จะเป็นตวั บง่ ชี้กาลังการผลติ ที่เปน็ จรงิ ไดด้ ีกวา่ เงินทนุ ดงั นน้ั เงนิ ทนุ
จงึ ไม่นับเปน็ ทนุ ในทางเศรษฐศาสตร์

ดอกเบ้ีย (interest) เปน็ ผลตอบแทนของเจา้ ของทนุ เนือ่ งจากสินค้าทุนมีความยุ่งยากในการ
คานวณผลตอบแทน จงึ มักตีราคาเป็นตวั เงนิ ก่อน และคานวณหาผลตอบแทนเปน็ ดอกเบยี้ เชน่ เดียวกับ
เงินทนุ โดยทวั่ ไป

ในทางเศรษฐศาสตร์ส่งิ ทีจ่ าเปน็ เช่น เคร่อื งจกั ร โรงงาน ทง้ั ทีล่ งทนุ ซื้อมานานแลว้ หรอื เพงิ่ จะ
ซ้ือ ถอื วา่ มคี วามสาคัญตอ่ การผลติ สินค้าท้งั สน้ิ ซ่ึงในบางครัง้ ถ้าปจั จัยเหล่านี้มไี ม่เพยี งพอ กอ็ าจมีการ
ลงทุนซอื้ เพม่ิ ขน้ึ หรอื อกี นยั หนงึ่ เปน็ การลงทนุ หรือการสะสมทุนใหม้ ากข้ึนนนั่ เอง

4. ผปู้ ระกอบการ

ผู้ประกอบการทาหน้าที่ในการนาเอาปัจจัยการผลิตท้งั หลายมารวมเขา้ ด้วยกัน ไดแ้ ก่ ทีด่ นิ
แรงงาน และทุน เพอ่ื ทาการผลติ สนิ ค้าและบรกิ ารเพ่อื สนองความต้องการของผบู้ ริโภค โดยจ่ายคา่ จา้ ง
แรงงาน คา่ เชา่ ท่ีดินและดอกเบีย้ ใหแ้ กป่ ัจจยั การผลติ ท้งั สามข้างต้น อีกทัง้ มุง่ หวงั ใหก้ ารผลติ มี
ประสทิ ธภิ าพสูงสดุ เพราะ จะต้องควบคุมปัจจัยการผลิต ควบคุมการผลิตการตลาด ซึ่งนบั เป็นความ
เสยี่ งอยา่ งมากในการประกอบการ ดังน้ันผู้ประกอบการจึงตอ้ งใช้ความรูค้ วามสามารถ ตลอดจน
เทคโนโลยีและประสบการณ์ในการบรหิ ารธุรกิจ เพ่อื ให้ธรุ กจิ ของตนประสบความสาเร็จ ผลตอบแทน
จากการใช้ความรู้ความสามารถและความอตุ สาหวริ ิยะท่ี ผู้ผลิตหรือผ้ปู ระกอบการได้รับ เรียกว่า
“กาไร”

ผ้ปู ระกอบการมหี นา้ ที่สาคัญในการสร้างการผลติ หรอื กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทั้งหลายโดยมี
หนา้ ที่ ความรบั ผดิ ชอบ ดงั นี้

ตัดสนิ ใจเก่ียวกบั ธุรกิจ ผลติ สินค้าใด คณุ ภาพระดับใด ผลติ อยา่ งไร

ผลิตเพือ่ ใคร

จดั การองค์กร วางแผนการผลติ บริหารองคก์ ร พัฒนาบคุ ลากร

พัฒนาคุณภาพและ ติดตามสภาวะตลาด ตดิ ตามข่าวสารตา่ งๆ วจิ ัยผลิตภณั ฑ์

วิจยั ผลติ ภัณฑ์ ศึกษาค่แู ข่ง

บรหิ ารความเสี่ยง สารวจตลาด พฒั นาคุณภาพสนิ คา้ ใช้เทคโนโลยกี ารผลิต
บรหิ ารการเงิน

ปจั จุบันการประกอบการจะต้องอาศัยความสามารถ ตลอดจนความชานาญ ซง่ึ ถอื เป็นสิง่ ท่ี
สาคัญมาก ทจ่ี ะช่วยให้ผปู้ ระกอบการสามารถวางแผน และจัดการทางด้านธรุ กิจ ทีม่ คี วามเสี่ยงใน
ระดับตา่ งๆ ใหผ้ า่ นไปได้ ด้วยดี และนาธรุ กจิ ไปสคู่ วามสาเร็จ หรอื ไดผ้ ลกาไรตามเปา้ หมายท่ีวางไว้ ซ่งึ
เป็นเป้าหมายสาคญั ของ ผู้ประกอบการ คือ การบริหารดแู ลกิจการเพื่อใหไ้ ดก้ าไรสงู สุด โดยเสยี
ทรพั ยากรการผลิตนอ้ ยลงหรอื ลดตน้ ทนุ การผลติ ให้ได้มากทสี่ ุดนั่นเอง

ตวั อย่างกรณีศึกษา

กรณีศึกษาท่ี 1

บริษัท ไหมไทย เป็นบริษัทที่ผลิตผ้าไหมไทยออกจาหน่ายท้ังในประเทศและ
ส่งออกไปจาหน่ายยังต่างประเทศ เดิมบริษัทมีที่ดินจานวน 5 ไร่ ต่อมาขยายกิจการให้ใหญ่ข้ึน
จึงซ้ือที่ดินสาหรับอาคารเพ่ิมข้ึนอีก 10 ไร่ บริษัทประกาศรับคนงานแผนกต่างๆ คือ ฝ่ายทอผ้า
ไหม ฝา่ ยบรรจลุ งกลอ่ ง ฝ่ายขนส่งจากอาคารไปยงั รถเพ่อื นาไปจาหน่าย บรษิ ัทไหมไทยตอ้ ง
หาแหล่งทนุ เพื่อนาไปใชใ้ นการลงทุนมากขึ้นกว่าเดมิ

ดงั น้นั คณะกรรมการบรหิ ารของบรษิ ัทจงึ ลงมติให้กู้ยืมเงนิ จากธนาคารอกี
และหาผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายผลิตและฝ่ายจัดจาหน่าย อีก 2 ตาแหน่ง เมื่อสิ้นปีทางฝ่ายบัญชี
สรปุ ยอดรายไดส้ ทุ ธิเพ่ิมขึ้นจากปที ี่แล้ว 12 ล้านบาท

ปัจจัยการผลติ ทีส่ าคญั ของบริษัทไหมไทย คือ
1) ทีด่ ิน บริษัทมที ่ดี ินจานวน 15 ไร่
2) แรงงาน บรษิ ัทไหมไทยมีแรงงานทมี่ ีฝีมอื คือ ฝา่ ยทอผ้าไหม และมแี รงงานไร้
ฝีมือ คือ ฝา่ ยบรรจกุ ลอ่ ง และฝา่ ยขนส่ง
3) ทนุ บริษัท มีวตั ถุทนุ คอื โรงงาน เครื่องจักร รถบรรทกุ สนิ คา้
4) ผู้ประกอบการ คอื ผู้จัดการบริษทั ผ้ชู ว่ ยผจู้ ัดการ และคณะกรรมการบริหารงาน
ของบริษัท

ตัวอยา่ งกรณีศึกษา

กรณศี กึ ษาท่ี 2

ลุงดามสี วนผลไม้จานวน 50 ไร่ เขาปลูกผลไมห้ ลายอยา่ ง เชน่ เงาะ ทเุ รียน มังคุด
และส้มผสมกัน ลุงดาจ้างคนงานสาหรับปลูกต้นไม้ ตกแต่งก่ิงของผลไม้ ใส่ปุ๋ย เม่ือต้นไม้
ออกผลก็จ้างคนเพ่ิมมาช่วยกันเก็บผลผลิตออกไปจาหน่าย ซ้ือรถบรรทุกและจ้างคนขับรถ
เพ่ือบรรทุกผลไม้ไปส่งที่ตลาด และสร้างโกดังเก็บผลไม้ก่อนส่งออกจาหน่าย จ้างคนทา
บญั ชรี ายรบั รายจ่า

ลงุ ดาก้ยู ืมเงนิ จากธนาคารมาใช้จา่ ยในการทาสวนเพิ่มขึ้นอกี 10 ลา้ นบาท เขาศึกษา
ความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับการเพ่มิ ผลผลิตของผลไม้ทุกชนดิ ให้ออกผลมากข้นึ นอกจากนัน้
ลุงดายังจ้างท่ีปรึกษาที่มีความสามารถในการหาตลาดจาหน่ายผลไม้ ลุงดาได้กาไรจาก
สวนผลไมป้ ีละหลายลา้ นบาท
ปจั จัยการผลิตทสี่ าคญั ของสวนผลไม้ คอื

1) ท่ีดนิ สวนผลไมข้ องลงุ ดามที ่ีดินจานวน 50 ไร่
2) แรงงาน ลุงดาใช้แรงงานมีฝีมือ ไดแ้ ก่ คนขบั รถ ทีป่ รกึ ษาฝา่ ยการตลาด คนทา
บญั ชี แรงงาน แรงงานไรฝ้ ีมือ คอื คนงานปลกู ต้นไม้ ใส่ปยุ๋ ตน้ ไม้ เก็บผลไม้
3) ทนุ ลงุ ดาตอ้ งกู้ยืมเงินจากธนาคาร และวัตถทุ ุน คือ รถบรรทกุ โกดงั เกบ็ ผลไมก้ อ่ น
ออกไปจาหน่าย
4) ผปู้ ระกอบการ คือ ลุงดาต้องใชค้ วามรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการปลูก
ผลไมใ้ หอ้ อกผลตามเป้าหมาย

และหาตลาดจาหนา่ ย

ภาคผนวก ข ส่อื การจดั การเรยี นรู้

▪ บัตรภาพ
▪ บัตรคา
▪ กล่องหรรษาพารู้เศรษฐศาสตร์

▪ เกมสต์ อบคาถาม woldwall “สรปุ ความเขา้ ใจปจั จัยการผลิต”
Scan Qr Code





ภาคผนวก ค แบบประเมินการจดั การเรยี นรู้

แบบประเมนิ ชิน้ งาน

วิชาสังคมศกึ ษา(ส22102) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในช่อง
ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน

เลขท่ี ช่ือ – สกลุ ความถูกต้อง การใช้ภาษา ความ ความคดิ ความ

ของผรู้ บั การ เรียบร้อย วิเคราะห์/ รับผดิ ชอบ/ หมาย
ประเมิน ความคดิ ตรงตอ่ เวลา เหตุ
สรา้ งสรรค์

43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1

เกณฑก์ ารวดั ผล ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแต่ละพฤตกิ รรมดงั นี้
ดมี าก = 4 ชิ้นงานมคี วามถกู ตอ้ ง การใช้ภาษา ความเรยี บร้อย ความคิดวิเคราะห/์ ความคดิ สร้างสรรค์
ความรบั ผิดชอบ/ตรงต่อเวลา
ดี = 3 ชน้ิ งานมคี วามถูกต้อง การใชภ้ าษา ความเรียบรอ้ ยและสง่ งานตรงเวลา อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 ช้นิ งานมคี วามถกู ตอ้ ง การใช้ภาษา ความเรยี บร้อยและส่งงานตรงเวลา อยู่ในเกณฑป์ ระมาณ50%
ปรบั ปรงุ = 1 ชิ้นงานไมส่ มบรู ณ์ สง่ งานไมต่ รงเวลา

ลงชอ่ื ……………………....................………….ผู้สอน
( นางสาวยุภาวดี ชา่ งยนั ต์ )
………....…/………....…/……...…..

แบบสังเกตพฤติกรรมในการเรยี นรายบคุ คล

วชิ าสงั คมศกึ ษา(ส22102) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2

คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน

พฤติกรรม

เลขที่ ชือ่ ผู้รับการประเมนิ ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับ ทางาน หมาย
ความคิดเหน็ คาถาม ฟงั คนอ่นื ตามท่ีได้รบั เหตุ
มอบหมาย

43 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1

เกณฑก์ ารวัดผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดังนี้
ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไม่หลบั ไมพ่ ูดคุยในชน้ั มีคาถามทีด่ ี ตอบคาถามถกู ตอ้ ง ทางานสง่ ครบตรงเวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 70 %
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50 %
ปรับปรุง = 1 เข้าชัน้ เรียน แตก่ ารแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา

ลงชอื่ ……………………....................………….ผู้สอน
( นางสาวยุภาวดี ชา่ งยนั ต์ )
………....…/………....…/……...…..

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่

วชิ าสงั คมศึกษา(ส22102) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2

คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง
ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน

กลุ่ม ชือ่ กลุ่ม ความ การแสดง การรับฟัง ความตั้งใจ การแกไ้ ข รวม
ท่ี ร่วมมือกัน ความคดิ เห็น ความคิดเห็น ทางาน ปญั หา/หรือ 20
ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงานกล่มุ

43214321432143214321

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน

ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน

ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

18 - 20 ดมี าก ลงชือ่ ……………………………………………ผู้สอน
14 - 17 ดี (นางสาวยภุ าวดี ชา่ งยนั ต)์
10 - 13 ........... / ........... / ...........
ตา่ กวา่ 10 พอใช้
ปรับปรุง

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงคน์ กั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

คาชีแ้ จง :ให้ ครผู สู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่อง
ที่ตรงกับระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ด้าน 321
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้
กษตั รยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์

2. ซื่อสตั ย์ สุจรติ ต่อโรงเรยี น
3. มวี ินัย รับผิดชอบ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา
4. ใฝเ่ รยี นรู้ 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีเกี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นจดั ข้ึน
2.1 ใหข้ อ้ มูลท่ถี ูกต้อง และเปน็ จรงิ
5. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิง่ ทถี่ กู ตอ้ ง
3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั
6. มงุ่ มั่นในการ
ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั
4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้
7. รกั ความเป็นไทย 4.2 รูจ้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม
8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เชอ่ื ฟงั คาสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้
4.4 ต้งั ใจเรียน
5.1 ใช้ทรัพย์สินและส่งิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั
5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า
5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงิน
6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็
7.1 มีจิตสานกึ ในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน
8.2 รจู้ กั การดูแล รักษาทรพั ยส์ มบัตแิ ละสิ่งแวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ลงชื่อ……………………………………………ผู้สอน
(นางสาวยุภาวดี ช่างยนั ต)์
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน ........... / ........... / ...........

พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั บิ ำงครงั้ ให้ 1 คะแนน