The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สรุปผลการดำเนินงานเชิงวิจัยกิจกรรมเด็กก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Asman Weakama, 2024-01-07 21:07:02

สรุปผลการดำเนินงานเชิงวิจัยกิจกรรมเด็กก

สรุปผลการดำเนินงานเชิงวิจัยกิจกรรมเด็กก

Keywords: การพัฒนาเด็กกำพร้า

ห น ้ า | 43 การเรียนรู้แนวทางในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ในพื้นที่ : ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทอง ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ความเป็นมา เครือข่ายสินธุ์แพรทอง เป็นเครือข่ายแห่งการเรียนรู้ มีเป้าหมายมุ่งแก้ปัญหาสาธารณะ ของตำบล จากการรวมตัวกันคนใน ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยเครือข่ายเป็นแกนกลาง ในการขับเคลื่อนกิจกรรมในตำบล และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตำบลอย่างเป็นรูปธรรมในเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบันนี้ ด้วยหัวใจหลักที่ว่า ร่วมแก้ปัญหาสาธารณะของตำบลโดยชุมชน เพื่อชุมชน และอาศัย การมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชนเป็นแกนหลักของการขับเคลื่อน วัตถุประสงค์ เพื่อเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ที่สำคัญ โดยมุ่งแก้ไขปัญหา สาธารณะของชุมชนที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ให้สามารถพึงพาอาศัยและหวงแหนแผ่นดินบ้านเกิด โดยใช้วิถีการเกษตรพอเพียง แนวทางการดำเนินงาน 1. วิทยากรประจำศูนย์บรรยายให้ความรู้ ความเป็นมา ปัญหา/อุปสรรคและการพัฒนา ไปเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่สำคัญของพื้นที่ 2. ลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูแนวทางการนำพืชต่างถิ่น (ต้นเหลียงใบใหญ่) ที่มีลักษณะพิเศษ มาพัฒนาให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผลที่ได้รับ ครูและนักเรียนมีความสนใจที่จะนำต้นเหลียงใบใหญ่มาปลูกแซมในสวนยางพารา เพื่อสร้างอาชีพเสริมที่ก่อให้เกิดรายได้ สรุปผลการดำเนินงาน 1. การพัฒนาและแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการส่งเสริม อาชีพ ต้องพิจารณาถึงความถนัดและความสามารถของนักเรียน เพื่อให้การพัฒนาดังกล่าวสอดคล้อง กับความต้องการของตัวเป้าหมาย ก่อให้เกิดผลการดำเนินงานที่ยั่งยืน 2. ต้องส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มเด็กกำพร้า ให้สามารถสร้างเครือข่ายในการช่วยเหลือ เด็กกำพร้าอื่นในพื้นที่ ที่สามารถเชื่อมโยงกับสถาบันหลักทางสังคม ได้แก่ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และสถาบันทางศาสนา (มัสยิด) เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในสังคม 3. ต้องส่งเสริมและสนับสนุนทักษะทางวิชาการ เพื่อให้นักเรียนในโรงเรียนเอกชน สอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ สามารถใช้ทักษาะภาษาไทย เพื่อการเข้าถึงการบริการภาครัฐในหลากหลายมิติ ลดการสร้างเงื่อนไข ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 4. ภาครัฐต้องสร้างภาคีเครือข่ายกับส่วนราชการและเอกชนอื่นๆ ในพื้นที่ให้สามารถ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ได้ในทุกมิติ โดยการพัฒนาดังกล่าวต้องสอดคล้องกับความต้องการของตัวเอง สอดคล้องกับความสามารถและความถนัด ตลอดจนการส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้การใช้เทคโน โลยี ในการประกอบอาชีพในอนาคต


ห น ้ า | 44 5. โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามต้อง สร้างกระบวนการเรียนรู้ภายในโรงเรียน ให้หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถมีทางเลือกในการตัดสินใจ วางแผน การเรียนในระดับอุดมศึกษา หรือการแสวสงหาทุนการศึกษาจากหลากหลายแหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศ 6. โรงเรียนต้องประชาสัมพันธ์ หรือแนะแนวหรือเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษา ในระดับอุดมศึกษาเข้าถึงตัวนักเรียน เพื่อให้มีโอกาสในการตัดสินใจเลือกเข้าโรงเรียนหรือเลือกเรียน ตามความถนัดของตัวเอง 7. ส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษา โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาสถานศึกษา และองค์กรสังคมสงเคราะห์ เพื่อสร้างโอกาสให้นักเรียนในพื้นที่มีการเข้าถึง การศึกษาที่เท่าเทียมกับนักเรียนในพื้นที่อื่น เช่น การจัดโครงการเดินหน้าในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้ถูกต้อง และเหมาะสม การจัดส่งเสริมการเรียนรู้ทางไกลผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร เปิดโอกาสให้นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ ห่างไกลสามารถเข้าถึงบทเรียนและแหล่งเรียนรู้ได้ 8. สำนักงานการศึกษาเอกชนในแต่ละจังหวัด ต้องให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม (ปอเนาะ) ต้องส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะเพื่อการงานและชีวิตที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนในพื้นที่ชายแดน ภาคใต้ เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและทักษะการทำงาน ร่วมกันและการเลือกอาชีพ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะเหล่านี้เช่น การสร้างชุมชนการเรียนรู้ที่เน้น การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การจัดโครงการเรียนรู้ตามหลักสูตรวิชาชีพ เป็นต้น 9. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ควรสนับสนุนครูและบุคลากร ทางการศึกษา ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ โดยให้การฝึกอบรม และพัฒนาทักษะที่เหมาะสม เช่น การฝึกอบรมในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีในการสอน การสร้างวัสดุการ เรียนรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของนักเรียนในพื้นที่และการสร้างและสนับสนุนชุมชนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้ครู และบุคลากรทางการศึกษาสามารถพัฒนาและปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียน ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 10. ส่วนราชการและเอกชน ควรสนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมนอกห้องเรียนที่สร้างสรรค์ และสอดคล้องกับการเรียนรู้ เช่น กิจกรรมกลุ่มชุมชน กีฬาและกิจกรรมศิลปะ การเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมพัฒนาทักษะทางสังคม ทักษะการทำงานร่วมกัน และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในนักเรียน 11. ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างพันธมิตรและความร่วมมือในการพัฒนานักเรียนในพื้นที่ โดยการแบ่งปันทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น การให้คำปรึกษา การสนับสนุนทางเศรษฐกิจ และการสร้างโอกาสในการฝึกงานหรือสหกิจศึกษา ให้แก่นักเรียน ข้อเสนอเชิงนโยบาย ในการส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเปราะบาง (เด็กกำพร้า) ในพื้นที่ การพัฒนาและยกระดับการพัฒนาเด็กกำพร้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่อง ที่ต้องให้ความสำคัญและการดำเนินการเป็นเชิงนโยบายอย่างมีเป้าหมาย เพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและสันติภาพ ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีข้อเสนอเชิงนโยบายที่สามารถนำเสนอเพื่อพัฒนาและยกระดับการพัฒนาเด็กกำพร้า ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ดังนี้ 1. ให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาที่เข้มแข็งและเป็นระบบในพื้นที่ สร้างโอกาส ให้กับเด็กกำพร้าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมกัน โดยเน้นให้มีโรงเรียน


ห น ้ า | 45 ที่มีคุณภาพและครอบคลุมทุกระดับชั้นเพื่อเสริมสร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่เหมาะสมและเพื่อสนับสนุนการพัฒนา ทักษะและความสามารถของเด็ก 2. ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างงานที่มีคุณค่าและงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดน ภาคใต้ เพื่อให้ครอบครัวที่มีเด็กกำพร้าสามารถมีรายได้เพียงพอและสามารถดูแลเด็กได้ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังควรสนับสนุนการออกแบบและพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อสร้างงานที่มีรายได้สูงและสร้าง โอกาสให้กับเด็กกำพร้าในอนาคต 3. ควรมีการสร้างระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและสามารถเข้าถึงได้สำหรับเด็กกำพร้า รวมถึงการให้ความสนใจและการดูแลเฉพาะบุคคลสำหรับเด็กที่มีความต้องการเพิ่มเติม นอกจากนี้ควรมี การสนับสนุนในเรื่องของสวัสดิการสำหรับเด็กและครอบครัว เช่น การให้เงินช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน การสนับสนุนการพัฒนาทักษะชีวิตและการให้คำปรึกษาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดูเด็ก 4. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาและดูแลเด็กกำพร้า ให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนกับชุมชนท้องถิ่นและสถาบันทางศาสนา สร้างการ รับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาเด็กและสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับกับการเติบโต และพัฒนาของเด็กกำพร้า 5. การสนับสนุนในการพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับเด็กกำพร้า เช่น การสร้าง โอกาสให้เด็กได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและสนับสนุนในการเรียนรู้ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ควรมีการเตรียมความพร้อมให้เด็กกำพร้าที่จะเข้าสู่สังคม โดยการสนับสนุนในเรื่องของทักษะส่วนบุคคล เช่น ทักษะสังคม ทักษะการแก้ไขปัญหา และทักษะการสื่อสาร 6. ควรมีการสนับสนุนในการดูแลและคุ้มครองสิทธิของเด็กกำพร้าในพื้นที่ รวมถึงการ ป้องกันความรุนแรงและการทุจริตต่อเด็ก นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของเด็กในการตัดสินใจ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ปัญหาและอุปสรรค 1. ปัญหาที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต : เนื่องด้วยกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนกำพร้า ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม (ปอเนาะ) ที่มีแนวทางการปฏิบัติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับการดำเนิน ชีวิต จำเป็นต้องใส่ใจเป้นพิเศษ เช่น อาหารการกิน ที่พัก สถานที่ประกอบศาสนากิจในระหว่างเดินทาง และในระหว่างการศึกษาอบรม 2. ปัญหาของการสื่อสาร : เนื่องจากนักเรียนเป้าหมาย มักใช้ภาษายาวีในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันในโรงเรียน ส่งผลให้นักเรียนขาดความมั่นใจในการใช้ภาษาไทย ยิ่งออกนอกพื้นที่ ยิ่งทำให้ขาด ความมั่นใจในการใช้ภาษามากขึ้น 3. ปัญหาความเข้าใจในเรื่องการเรียนรู้ : เนื่องจากการเรียนรู้ประวัติศาสตร์รัชกาลไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน (อุทยานราชภักดิ์) ปรากฏรูปหล่อสำริดของรัชกาลไทย ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจเป็นการ เรียนรู้รูปเคารพ ซึ่งขัดต่อหลักการศาสนา จึงต้องสร้างความเข้าใจกับนักเรียนและครูในเรื่องดังกล่าว เนื่องจาก เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ส่งผลต่อการปฏิบัติราชการในพื้นที่ 4. ปัญหาความสนใจส่วนตัว : นักเรียนเป้าหมายที่เป็นเด็กกำพร้ามีความแตกต่างในด้าน ความต้องการและความสามารถ เช่น บางคนสนใจเทคโนโลยี ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ ต่อการเรียนรู้น้อย จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้เป็นไปตามความสามรถของกลุ่มเป้าหมายในอนาคตต่อไป


ห น ้ า | 46 คำปรารภพิธีปิดกิจกรรม โดยนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานในพิธีปิดกิจกรรมอบรมพัฒนา ศักยภาพและศึกษาดูงานการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ แก่นักเรียน (กำพร้า/ครู) โรงเรียนสังกัดเอกชนในพื้นที่ จชต. ณ ห้องประชุมศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทอง ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดย มีนายอุทัย บุญดำ ประธานศูนย์เครือข่ายสินธุ์แพรทอง และคณะให้การต้อนรับ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้เสนอให้โรงเรียนร่วมวางแผนการพัฒนาแกนนำของเยาวชน ในการช่วยเหลือนักเรียนให้เข้าถึงโอกาสและสร้างสรรค์กิจกรรมเชิงบวก เพื่อให้เกิดจุดเชื่อมต่อโดยภาครัฐจะทำ หน้าที่หนุนเสริม เช่น กิจกรรม G – sport หรือการเข้าถึงแหล่งทุนต่างๆ อาทิ ทุนการเรียนรู้วิถีเกษตร ในต่างประเทศ ทุนนวัตกรรมการเกษตรในระดับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ซึ่งรัฐพร้อมสนับสนุนช่องทางการศึกษา และจัดหาแหล่งทุนสำคัญเพื่อให้นักเรียนกำพร้าที่เป็นกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ สามารถสานฝันทางการศึกษา ในระดับที่สูง ซึ่งถือเป็นการเข้าถึงโอกาสที่สำคัญของเยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้ดำเนินกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ที่เกื้อหนุนระหว่าง บ้าน โรงเรียน และมัสยิด โดย บ้านเป็นแหล่งที่สำคัญ ต่อสถาบันครอบครัว โรงเรียน เป็นสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในชุมชน และมัสยิด เป็นสถาบันที่ขัดเกลาเยาวชนให้ประพฤติปฏิบัติดี มีศีลธรรม กิจกรรมที่ 2 ประชุมเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการทำเกษตร (ปลูกผักไฮโดร โปนิค) ให้แก่สถานศึกษานำร่องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 1. โรงเรียนสุขสวัสดิ์ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ผลการดำเนิน ไม่สามารถขยายผลการดำเนินงานได้ ปัญหา/อุปสรรค 1. ขาดความเชี่ยวชาญในการประกอบอุปกรณ์ปลูกผักไฮโดรโปนิค โดยเกิดรอยรั่วระหว่าง ข้อต่อของรางปลูกผัก 2. ยางปิดหลังคาโรงเรือนไม่ครบ ทั้งได้ประสานผู้รับจ้างให้ดำเนินการส่งเพิ่มเติม ซึ่งผู้รับจ้าง ได้นำส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม - ขอบคุณผู้บริหาร ศอ.บต. ที่ได้สร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดภาวะผู้นำ และมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้ - ขอรางยาวแบบไม่มีรอยต่อ เพื่อง่ายต่อการดำเนินงานและลดปัญหาน้ำรั่ว


ห น ้ า | 47 2. โรงเรียนสามัคคีอิสลาม อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ผลการดำเนินงาน 1. มีการจัดโครงสร้างกลุ่มอย่างชัดเจน โดยให้นักเรียนที่ผ่านกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพฯ กับ ศอ.บต. เป็นประธาน 2. มีการจัดเวรและการมอบหมายงานในการดูแลการปลูกผักในแต่ละวัน 3. มีแผนงานและเป้าหมายการดำเนินงานในระยะถัดไป และมีการวางแผนทางการตลาดเพื่อ สร้างรายได้ให้กับโรงเรียน 4. มีการจัดทำบัญชีในลักษณะบัญชีรายรับรายจ่ายของกลุ่ม ปัญหา/อุปสรรค - ขาดความเชี่ยวชาญในการประกอบอุปกรณ์ปลูกผักไฮโดรโปนิค โดยเกิดรอยรั่วระหว่างข้อ ต่อของรางปลูกผัก แก้ไขด้วยการให้กาวแล้วทดสอบการรั่วซึม ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 1. ขอให้ทาง ศอ.บต. ดำเนินกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะนักเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม มีความกล้าในการแสดงออกมากยิ่งขึ้น เกิดภาวะผู้นำมาก ยิ่งขึ้น สามารถเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเชิงการเกษตรในโรงเรียนได้ 2. อยากให้มีกิจกรรมที่เป็นการสร้างแนวคิดและทัศนคติที่สามารถส่งเสริมให้นักเรียน คิดเอง ทำเป็น เน้นประโยชน์ส่วนร่วม 3. โรงเรียนอิสลามพัฒนา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ผลการดำเนินงาน 1. เกษตรอำเภอและผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนอำเภอมายอ ได้ให้ ความสำคัญในกิจกรรม มีการติดตามและให้กำลังใจเป็นระยะ และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการปลูกผักไฮโดร โปนิค 2. โรงเรียนดังกล่าวมีการเรียนการสอนในลักษณะอยู่ประจำ ทำให้นักเรียนสามารถ หมุนเวียนกันดูแล พร้อมกับมอบหมายภารโรงประจำโรงเรียนในการกำกับ ควบคุมดูแลด้วย 3. นักเรียนที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ จะเป็นแกนหลักสำคัญในการดำเนินงาน ปัญหา/อุปสรรค 1. วัสดุอุปกรณ์เป็นพลาสติก มีการหดตัวทำให้เกิดรอยรั่วซึม ต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการ ซ่อมแซมและปรับปรุงเพิ่มเติม 2. มีการดำเนินการล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากโรงเรียนติดภารกิจการประเมินผล ทำให้ครู ต้องดำเนินการเชิงธุรการ


ห น ้ า | 48 ข้อเสนอแนะ 1. การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวต้องใช้องค์ความรู้เป็นอย่างมาก จึงขอให้ผู้จัด (ศอ.บต.) ได้ศึกษาแนวทางการดำเนินงาน เพื่อที่จะสามารถให้คำแนะนำได้ 2. หากปีถัดไปมีกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว ขอให้ทาง ศอ.บต. ได้ทบทวนกิจกรรมให้เกิด ความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 4. โรงเรียนนิด้าศึกษาศาสตร์ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ผลการดำเนินงาน 1. โรงเรียนมีการจัดตั้งชุมนุมการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการแบ่งภารกิจการดำเนินงาน การมอบหมายหน้าที่อย่างชัดเจน 2. อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบน้ำ และทดสอบกระบบน้ำ 3. ยังไม่มีการเพาะกล้าแต่อย่างใด ปัญหา/อุปสรรค - ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการปลูกผักไฮโดรโปนิค ข้อเสนอแนะ 1. ต้องการให้มีการส่งเสริมการเกษตรแบบยกแคร่ หรือแบบอื่นๆ ที่ง่ายต่อการดำเนินการ และสามารถก่อให้เกิดผลผลิตได้รวดเร็ว 2. ต้องการให้ ศอ.บต. มีการอบรมพัฒนาศักยภาพนักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจาก เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น


ห น ้ า | 49 5. โรงเรียนต้นตันหยง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ผลการดำเนินงาน 1. อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้ง ซึ่งต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราช นครินทร์ มาเป็นที่ปรึกษาให้กับนักเรียน 2. มีการจัดตั้งชุมนุมการเกษตรในพื้นที่ เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่นักเรียนอื่นๆ ให้ความสนใจ ในการดำเนินงานด้านเกษตร 3. ได้ข้อคิดที่ว่า “ความรุนแรงไม่อาจแก้ไขปัญหา” ซึ่งเป็นชุดความรู้ที่ได้จากการเข้าไป เรียนรู้ในศูนย์เรียนรู้สินธ์แพรทอง ตำบลลำสินธ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ปัญหา/อุปสรรค 1. ได้รับอุปกรณ์ไม่ครบ ซึ่งได้ประสานไปยังผู้จัดจำหน่ายแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการจัดส่ง 2. เกษตรอำเภอที่มาให้องค์ความรู้ ไม่มีความรู้ในด้านการปลูกผักไฮโดรโปนิค ข้อเสนอแนะ 1. ต้องการให้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพฯ นักเรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะนักเรียน มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมและทัศนะคติ มีความกล้าในการนำเสนอและมีความกล้าที่จะเป็นผู้นำ มากยิ่งขึ้น 2. ได้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ธรรมชาติบำบัด ซึ่งสามารถปรับใช้องค์ความรู้ในการแก้ไข ปัญหานักเรียน โดยนักเรียนเองและเพื่อนักเรียน ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น 6. โรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์วิทยา อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ผลการดำเนินงาน 1. มีการจัดตั้งแกนนำกลุ่มเกษตรในโรงเรียน โดยนักเรียนที่ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ เป็นผู้เสนอแนวคิดและได้ริเริ่มดำเนินการหาสมาชิก 2. มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับสมาชิกกลุ่ม 3. ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งโครงและทดสอบระบบน้ำไหล ปัญหา/อุปสรรค 1. ขาดผู้เชี่ยวชาญในการให้ความรู้เกี่ยวกับเกษตรไฮโดรโปนิค 2. เกษตรอำเภอมาให้ความรู้ในลักษณะภาพรวม มิได้มีการสาธิตการติดตั้งแต่อย่างใด ข้อเสนอแนะ 1. ต้องการให้ ศอ.บต. ได้จัดกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะ นักเรียนที่เข้าร่วมสะท้อนว่า เป็นกิจกรรมที่ดีมาก สามารถสร้างพลังเชิงบวกได้ 2. หากมีการดำเนินการต่อในปีถัดไป ให้พิจารณากิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้ในลักษณะที่ สามารถดำเนินการเองได้ มีความสะดวก


ห น ้ า | 50 7. โรงเรียนอิสลามวิทยามูลนิธิ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ข้อเสนอแนะ 1. ต้องการให้เกิดกิจกรรมที่มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน เนื่องจากไฮโดรโปนิคต้องใช้ ผู้ที่มีทักษะเฉพาะในการดำเนินการ และทางโรงเรียนไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ต้องอาศัยหน่วยงานภายนอก เกิดความ ยุ่งยาก 2. ต้องการพัฒนาทักษะในการทำโครงการ และการปฏิบัติงานในแนวทางราชการ เพื่อเป็น ประสบการณ์ในการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาต่อไป 8. โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ผลการดำเนินงาน 1. ดำเนินการปลูกแล้ว บางส่วน มีการมอบหมายให้นักเรียนหญิงดูแล เนื่องจากโรงเรียน ได้แยกการเรียนการสอนระหว่างชายและหญิงอย่างชัดเจน 2. นักเรียนได้ทดลองปลูกแล้ว ๒ รอบ รอบแรกพันธุ์ผักตายเนื่องจากฝนตกหนัก รอบสอง พันธุ์ผักมีขนาดลำต้นยาวเนื่องจากตั้งไว้ในที่ร่ม ไม่โดนแดด ปัญหา/อุปสรรค 1. อุปกรณ์มีปัญหาในเรื่องจุดเชื่อมต่อ เกิดรอยรั่วเนื่องจากเป็นพลาสติกแล้วมีการหดตัว 2. ต้องประสานผู้มีความรู้ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหา 3. ต้องใช้งบประมาณในการซื้อพันธุ์ผักเพิ่ม เนื่องจากมีการตายไปในรอบแรก


ห น ้ า | 51 ข้อเสนอแนะ 1. ต้องการให้มีถาดเพาะ เนื่องจากโรงเรียนต้องไปจัดหาถาดมาเพาะพันธุ์ 2. ต้องการให้มีการอบรมพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาทักษะของนักเรียนเกิด องค์ความรู้และมีความกล้าแสดงออก 9. โรงเรียนอิสลามบาเจาะวิทยา อำเภอบันนังสตา จังหวัดสงขลา ผลการดำเนินงาน 1. มีการจัดตั้งกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อดำเนินงานทางการเกษตร ซึ่งอยู่ระหว่างการ ติดตั้ง และการเพาะพันธุ์ 2. เพาะพันธุ์ผักไม่งอก ตามวิธีการดำเนินงานที่แนะนำ และไม่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ จำเป็นต้องศึกษาใน YOUTUBE ด้วยตนเอง ปัญหา/อุปสรรค 1. ได้รับวัสดุคลุมหลังคาไม่ครบ 2. ไม่ทราบวิธีเก็บรักษาพันธุ์ผัก ส่งผลให้เพาะแล้วกล้าผักไม่งอก ข้อเสนอแนะ - ไม่มี – 10. โรงเรียนพัฒนาวิทยากร อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ผลการดำเนินงาน 1. เพาะพันธุ์ไม่งอก งอบบางส่วน จำนวนน้อยและโตช้า 2. มีการแบ่งกลุ่มในการดูแลรักษา ปัญหา/อุปสรรค 1. เนื่องจากโรงเรียนปิดหลายวันในช่วงวันรายอที่ผ่านมา ส่งผลให้การดำเนินงานล่าช้า 2. ภารกิจของโรงเรียนจำนวนมาก ครูต้องจัดเตรียมและดำเนินการทางเอกสารและ ธุรการจำนวนมาก ส่งผลให้การเตรียมงานค่อนข้างล่าช้าเพิ่มขึ้นอีก 3. เมล็ดพันธุ์ที่เพาะไม่งอก


ห น ้ า | 52 ข้อเสนอแนะ - ขอให้มีกิจกรรมที่สามารถดำเนินการเองได้ เกิดความคล่องตัว 11. โรงเรียนมุสลิมพัฒนศาสตร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ผลการดำเนินงาน 1. พันธุ์มีการเน่าเสีย ปลูกได้บางส่วน 2. มีการมอบหมายและจัดทำเวรในการดูแลผัก ปัญหา/อุปสรรค 1. วัสดุอุปกรณ์เกิดรอยรั่วในจุดเชื่อม ต้องปรึกษาและหาข้อมูลในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากไม่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าว 2. เมล็ดผักที่เพาะ ไม่งอกในระยะเวลาที่กำหนด ข้อเสนอแนะ - ไม่มี – ผลการประเมิน (N=49 คน) 1. ข้อมูลทั่วไป 1.1 เพศ เพศ จำนวน ร้อยละ x ชาย 23 46.93 0.47 หญิง 26 53.07 0.53 รวม 49 100 1 จากตารางที่ 1.1 เพศ พบว่า เพศหญิง จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 53.07 และเพศชาย จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 46.93 สามารถสรุปได้ว่า เพศหญิงมีบทบาทต่อการประเมินสมรรถนะมากกว่าเพศชาย และทำให้เพศหญิงมีบทบาทในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่าเพศชาย 1.2 อายุ อายุ จำนวน ร้อยละ x 11 – 15 ปี 6 12.24 0.12 16 – 20 ปี 24 48.98 0.49 21 – 25 ปี - 0 26 ปีขึ้นไป 19 38.78 0.39 รวม 49 100 1


ห น ้ า | 53 จากตารางที่ 1.2 อายุ พบว่า เด็กกำพร้าส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 16 – 20 ปี ส่วนช่วงอายุ 26 ปีขึ้นไป เป็นครูหรือบุคลากรทางการศึกษา จะเห็นได้ว่าเยาวชนในช่วงอายุดังกล่าวมีความพร้อมในการเรียนรู้ และร่วม กิจกรรมต่างๆ ทางสังคม มาก รองลงมาเป็นบทบาทของครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่มีความพร้อม ในการเข้ากิจกรรมต่างๆ 1.3 ชั้นเรียน ช่วงชั้นการเรียน จำนวน ร้อยละ x มัธยม 1 – 3 6 12.24 0.12 มัธยม 4 – 6 23 48.98 0.49 ระดับอุดมศึกษา 19 38.78 0.39 รวม 49 100 1 จากตารางที่ 1.3 ชั้นเรียน พบว่า ช่วงชั้นระหว่างมัธยม 4 – 6 มีจำนวน 23 ราย คิดเป็น 48.98 มีบทบาท ในการประเมินสมรรถนะมากกว่าช่วงชั้นอื่น โดยคำตอบที่ได้จากแบบสอบถามตรงตามกลุ่มตัวอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ และช่วงชั้นการเรียน อยู่ในภาวะปกติ 2. ข้อมูลผู้ได้รับประโยชน์ ชื่อโรงเรียน จำแนกระดับชั้น (คน) รวม (คน) อบ. 1 - 3 ป. 1 - 3 ป. 4 – 6 ม. 1 – 3 ม. 4 – 6 ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง 1. โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม 3 7 7 2 6 12 24 28 9 14 112 2. โรงเรียนอิสลามวิทยามูลนิธิ 0 0 0 0 0 0 7 10 3 6 26 3. โรงเรียนอิสลามพัฒนา 1 0 0 1 2 3 22 29 14 15 87 4. โรงเรียนต้นตันหยง 0 0 0 0 0 0 12 22 15 25 74 5. โรงเรียนสุขสวัสดิ์ 0 0 0 0 0 0 8 6 5 8 27 6. โรงเรียนสามัคคีอิสลาม 0 0 0 0 0 0 5 8 5 8 26 7. โรงเรียนอิสลามบาเจาะ 0 0 2 2 2 6 3 2 3 1 21 8. โรงเรียนมุสลิมพัฒนาศาสตร์ 1 2 1 3 4 2 11 4 11 23 62 9. โรงเรียนพัฒนาวิทยากร 0 0 0 0 0 0 7 6 4 3 20 10. โรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์ 0 0 0 0 2 1 2 4 7 3 19 11. โรงเรียนนิด้าศึกษาศาสตร์ 1 3 0 4 2 6 3 2 1 1 23 รวม 6 12 10 12 18 30 104 121 77 107 497 จากตารางที่ 2 ข้อมูลผู้ได้รับประโยชน์ พบว่า การดำเนินงานในการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติการ แบบมีส่วนร่วมในการดำเนินงานด้านการทำเกษตร (ปลูกผักไฮโดรโปรนิค) ให้แก่สถานศึกษานำร่องในพื้นที่ จชต. ในพื้นที่ จชต. สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกระดับ อีกทั้งพบว่า โรงเรียนสามารถบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถเข้าถึงและให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวและนักเรียนกำพร้า เพื่อลดภาวะพึ่งพิงของโรงเรียน ลงได้ โดยพิจารณาจากการที่โรงเรียนสามารถนำผลผลิตจากการดำเนินงานไปสร้างรายได้ และลดรายจ่าย ในรายการอาหารกลางวันให้กับกลุ่มเด็กกำพร้าได้ เมื่อคิดค่าเฉลี่ยการลงทุนต่อราย


ห น ้ า | 54 ❖ การหาค่าการลงทุนต่อหน่วย งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 490,000 บาท โรงเรียนเป้าหมาย 11 แห่ง มูลค่าการลงทุนต่อหน่วย 44,545 บาท ❖ การหาค่าการลงทุนต่อผู้รับประโยชน์ (ราย) งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 490,000 บาท ผู้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 497 ราย ค่าเฉลี่ยการลงทุนต่อราย 986 บาท ❖ การหาผลตอบแทนจากการลงทุน งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 490,000 บาท รายได้จากการขายเฉลี่ยต่อกิโลกรัม 250 บาท จำนวนที่ขายได้ในแต่ละวัน 2.5 กิโลกลัม จำนวนวันที่สามารถขายต่อเนื่อง (สนับสนุนเพียง 1 โรง: แห่ง) 5 วัน จำนวนหน่วยที่สามาถจำหน่ายได้ (ทั้งหมด 11 แห่ง) 9 แห่ง รายได้โดยเฉลี่ยต่อหน่วยจำหน่าย (250*2.5*5*9) 39,375 บาท (39,375 * 100/490,000) ร้อยละ 8.02 บาทต่อแห่ง จะเห็นได้ว่า การลงทุนในระยะเริ่มแรกมีอัตราความสำเร็จของกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 9 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 81.81 ของกลุ่มเป้าหมาย สามารถขายได้ในระยะแรก (เวลา 60 วัน) มีกำไรเฉลี่ยร้อยละ 8.02 บาทต่อแห่ง คิดเป็นเงินประมาณ 3,158 บาทของจำนวนรายได้เฉลี่ยต่อหน่วยจำหน่าย แม้ว่า ค่าการลงทุนจะไม่สามารถ ทำผลตอบแทนที่ดี (3,159/497 = 6.35 บาท) เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับเยาวชนในพื้นที่ และขาดความรู้ที่เพียงพอต่อการดำเนินงาน แต่การดำเนินการดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดทักษะ เกิดกระบวน ทัศน์ใหม่และมีกำไรเล็กน้อยจากการดำเนินงาน 3. ประเภทของเด็กกำพร้า ชื่อโรงเรียน ภาวะตาม ธรรมชาติ กำพร้าจากสถานการณ์ความไม่สงบ รวม (คน) ได้รับการเยียวยา ตามระเบียบ ฯ ไม่ได้รับการรับรอง 3 ฝ่าย บิดา – มารดา เป็น จนท. รัฐ บิดา – มารดา ระชาชน ทั่วไป บิดา – มารดาประชาชน ทั่วไป ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง 1. โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม 46 57 1 0 1 2 1 4 112 2. โรงเรียนอิสลามวิทยามูลนิธิ 10 16 0 0 0 0 0 0 26 3. โรงเรียนอิสลามพัฒนา 31 37 3 4 2 5 2 3 87 4. โรงเรียนต้นตันหยง 23 42 2 4 3 0 0 0 74 5. โรงเรียนสุขสวัสดิ์ 12 14 0 0 0 1 0 0 27 6. โรงเรียนสามัคคีอิสลาม 10 16 0 0 0 0 0 0 26 7. โรงเรียนอิสลามบาเจาะ 10 11 0 0 0 0 0 0 21 8. โรงเรียนมุสลิมพัฒนาศาสตร์ 28 34 0 0 0 0 0 0 62 9. โรงเรียนพัฒนาวิทยากร 10 8 0 0 0 0 1 1 20 10. โรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์ 11 8 0 0 0 0 0 0 19 11. โรงเรียนนิด้าศึกษาศาสตร์ 7 16 0 0 0 0 0 0 23 รวม 198 259 6 8 6 8 4 8 497


ห น ้ า | 55 จากตารางที่ ๓ ประเภทของเด็กกำพร้า พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่ที่เป็นเด็กกำพร้าที่เกิดจากภาวะปกติ (พ่อหรือแม่หรือพ่อ - แม่ เสียชีวิตจากธรรมชาติ เช่น ป่วย หรืออุบัติเหตุ เป็นต้น) โดยที่จำนวนเด็กกำพร้าชาย น้อยกว่าเด็กกำพร้าหญิง โดยเฉลี่ยในสัดส่วน 1: 1.31 คน มีความสอดคล้องกันอย่างใกล้เคียงกับอัตราส่วน เพศของประชากร รายงานสถิติสาธารณสุข ปีพ.ศ. 2553 (ชาย : หญิง/1 : 1.03) และพบว่า กลุ่มเด็ก กำพร้าที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบ และไม่ได้รับการเยียวยาตามระเบียบ จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 2.41 ของจำนวนเด็กกำพร้าในสถานศึกษาเป้าหมายทั้งหมด 4. ข้อมูลการประเมินผล เกณฑ์การให้คะแนนในระดับคุณภาพ ดังนี้ ระดับ 5 ค่าความถี่ 5 หมายถึง มากที่สุด ระดับ 4 ค่าความถี่ 4 – 4.9 หมายถึง มาก ระดับ 3 ค่าความถี่ 3 – 3.9 หมายถึง ปานกลาง ระดับ 2 ค่าความถี่ 2 – 2.9 หมายถึง น้อย ระดับ 1 ค่าความถี่ 1 – 1.9 หมายถึง น้อยที่สุด ผลการประเมิน การประเมินผลการดำเนินงาน โดยการประเมินสมรรถนะด้านต่างๆ ของความพร้อม องค์ความรู้ การเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมและทัศนคติ การวางแผนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา ของโรงเรียน และการสร้างความร่วมมือและกระบวนการมีส่วนร่วมของครองครัวและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น โดยมีผลการประเมินในภาพรวม ดังนี้ ตารางที่ 1 ผลการประเมินโดยรวม สมรรถนะหลัก ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน สมรรถนะด้านการเตรียมความพร้อมในการปลูกผักไฮโดรโปนิค 3.62 1.01 ปานกลาง สมรรถนะด้านการส่งเสริมการเรียนรู้การดำเนินงานทางการเกษตร 4.15 0.70 มาก สมรรถนะด้านผลกระทบที่เกิดกับนักเรียนกำพร้า 4.14 0.66 มาก สมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชน 3.10 1.40 ปานกลาง สมรรถนะด้านการสร้างสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.10 1.40 ปานกลาง สมรรถนะด้านการปฏิบัติการและการฝึกปฏิบัติ 3.86 1.00 ปานกลาง สมรรถนะด้านการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหา 3.39 1.26 ปานกลาง รวม 3.62 1.04 ปานกลาง จากตารางที่ 1 ผลการประเมินโดยรวม พบว่า ค่าสมรรถนะด้านการส่งเสริมการเรียนรู้การดำเนินงาน ทางการเกษตรมีค่าเฉลี่ย 4.15 อยู่ในระดับมาก รองลงมาค่าสมรรถนะด้านผลกระทบที่เกิดกับนักเรียนกำพร้า มีค่าเฉลี่ย 4.14 สรุปได้ว่า ครูหรือบุคลากรทางการศึกษาได้มีการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการเกษตรในโรงเรียน ให้กับนักเรียน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อนักเรียนกำพร้าในสถานศึกษาเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ และค่า สมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชน และค่าสมรรถนะการสร้าง สัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีค่าเฉลี่ย 3.10 น้อยที่สุด ทั้งนี้ ค่าสรรถนะน้อยที่สุด มีผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายละเอียดการประเมินสมรรถนะด้านต่างๆ ดังนี้


ห น ้ า | 56 ตารางที่ 1.1 สมรรถนะด้านการเตรียมความพร้อมในการปลูกผักไฮโดรโปนิค สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (mean) s.d. ผลการ ประเมิน มีการประชุมชี้แจงให้กับนักเรียนกำพร้า เพื่อให้นักเรียนที่เข้าร่วม กิจกรรมเกิดความเข้าใจในระดับ 3.55 0.83 ปานกลาง มีการจัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดตั้งโรงเรือน 4.1 0.80 มาก ครูและนักเรียนกำพร้ามีหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคก่อน ดำเนินการ 3.61 1.19 ปานกลาง ครูและนักเรียนได้รับคำแนะนำจากเกษตรอำเภอหรือผู้ที่เชี่ยวชาญก่อน ดำเนินงาน 3.30 1.40 ปานกลาง รวม 3.62 1.01 ปานกลาง จากตารางที่ 1.1 สมรรถนะด้านการเตรียมความพร้อมในการปลูกผักไฮโดรโปนิค พบว่า โรงเรียน มีการจัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดตั้งโรงเรือนอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.1) ครูและนักเรียนกำพร้า มีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคก่อนดำเนินการอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.61) และครู และนักเรียนได้รับคำแนะนำจากเกษตรอำเภอหรือผู้ที่เชี่ยวชาญก่อนดำเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด (3.30) สรุปได้ว่า โรงเรียนมีความพร้อม ครูและนักเรียนกำพร้าได้มีการศึกษาหาความรู้ เกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคก่อนที่จะได้รับการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และครูและนักเรียนได้รับคำแนะนำ จากเกษตรอำเภอหรือผู้ที่เชี่ยวชาญก่อนดำเนินงานน้อยที่สุด แต่ผลการประเมินยังอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ตารางที่ 1.2 สมรรถนะด้านการส่งเสริมการเรียนรู้การดำเนินงานทางการเกษตร สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน นักเรียนกำพร้าได้รับการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดร โปนิค เกิดความเข้าใจในการดำเนินงาน 4.04 0.76 มาก นักเรียนกำพร้าได้รับองค์ความรู้และศึกษาดูงาน ทำให้เกิดความเข้าใจ ในระดับ 4.20 0.71 มาก นักเรียนกำพร้าเกิดการพัฒนาทักษะการเกษตรและการบริหารจัดการ ในด้านการปลูกผักไฮโดรโปนิค 4.20 0.71 มาก รวม 4.15 0.70 มาก จากตารางที่ 1.2 สมรรถนะด้านการส่งเสริมการเรียนรู้การดำเนินงานทางการเกษตร พบว่า นักเรียนกำพร้า ได้รับองค์ความรู้และศึกษาดูงาน ทำให้เกิดความเข้าใจ และนักเรียนกำพร้าเกิดการพัฒนาทักษะการเกษตร และการบริหารจัดการในด้านการปลูกผักไฮโดรโปนิค มีค่าเฉลี่ยมาก (ค่าเฉลี่ย 4.20) มีผลการประเมินอยู่ใน ระดับมาก และนักเรียนกำพร้าได้รับการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิค เกิดความเข้าใจ ในการดำเนินงานมีค่าเฉลี่ยน้อย (ค่าเฉลี่ย 4.04) ทั้งนี้ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก สรุปได้ว่า การจัดการ อบรมพัฒนาศักยภาพและศึกษาดูงานฯ สามารถสร้างองค์ความรู้ให้กับครูและนักเรียนได้มาก แต่ต้องเน้น เนื้อหาการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคเพิ่มขึ้น


ห น ้ า | 57 ตารางที่ 1.3 สมรรถนะด้านผลกระทบที่เกิดกับนักเรียน สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน นักเรียนกำพร้า เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิค 3.91 0.84 ปานกลาง นักเรียนกำพร้าที่เข้าร่วมกิจกรรม เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรม เช่น มีความรับผิดชอบ/มีความกล้าแสดงออก/สามารถสื่อสารภาษาไทย ได้อย่างถูกต้อง 4.30 0.74 มาก นักเรียนกำพร้าเกิดความรับผิดชอบในการดูแลผักไฮโดรโปนิค รวมถึงมี แนวคิดในการต่อยอดการดำเนินงาน เพื่อก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 4.20 0.54 มาก รวม 4.14 0.66 มาก จากตารางที่ 1.3 สมรรถนะด้านผลกระทบที่เกิดกับนักเรียน พบว่า ผลกระทบที่ส่งผลให้นักเรียนกำพร้า ที่เข้าร่วมกิจกรรม เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรม เช่น มีความรับผิดชอบ/มีความกล้าแสดงออก/สามารถ สื่อสารภาษาไทยได้อย่างถูกต้องอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.30) รองลงมานักเรียนกำพร้าเกิดความรับผิดชอบ ในการดูแลผักไฮโดรโปนิค รวมถึงมีแนวคิดในการต่อยอดการดำเนินงาน เพื่อก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.20) และนักเรียนกำพร้า เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคอยู่ใน ระดับปานกลาง ซึ่งมาค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด (3.91) สรุปได้ว่า นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีการเปลี่ยนแปลง ในเชิงพฤติกรรม มีความรับผิดชอบ มีความกล้าแสดงออกสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย (มีความมั่นใจในการใช้ ภาษาไทย) และเกิดแนวคิดในการพัฒนางาน เพื่อสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้ ส่วนองค์ความรู้จำเป้นต้องศึกษา เพิ่มเติม อาจจะเป็นเพราะการปลูกผักไฮโดรโปนิคเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีผู้ดำเนินการหรือผู้ประกอบการน้อย ส่งผลให้แหล่งการเรียนรู้น้อยและมีขอบเขตที่จำกัด ตารางที่ 1.4 สมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชน สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน ครอบครัวเด็กกำพร้า ให้ความร่วมมือในการปลูกผักไฮโดรโปนิค 3.51 1.21 ปานกลาง โรงเรียนมีการแบ่งปัน/สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิค ให้กับครอบครัวและชุมชน 3.51 1.21 ปานกลาง ชุมชนพร้อมให้การสนับสนุนการปลูกและการสนับสนุนผลผลิต จากไฮโดรโปนิค 3.51 1.12 ปานกลาง รวม 3.11 1.40 ปานกลาง จากตารางที่ 1.4 สมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชน พบว่า สมรรถนะดังกล่าวอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.51) สรุปได้ว่า กระบวนการมีส่วนร่วมของครอบครัว และชุมชนต้องมีการพัฒนากระบวนการดังกล่าวให้มีความร่วมมือมากยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนต้องจัดทำแผนรองรับ ความร่วมมือทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชน โดยสร้างความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้า เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในพื้นที่ และการพัฒนาในกระบวนการเรียนการสอนส่งผลต่อการสร้างความร่วมมือ และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่


ห น ้ า | 58 ตารางที่ 1.5 สมรรถนะด้านการสร้างสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน โรงเรียนมีการสร้างกลไกความร่วมมือกับองค์กรส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการปลูกผักไฮโดรโปนิค (มีแผนการขอรับการสนับสนุนเพื่อต่อยอดกับองค์ส่วนท้องถิ่น และได้มี การดึงองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาเรียนรู้และดูผลผลิตของนักเรียน) 3.10 1.31 ปานกลาง องค์กรส่วนท้องถิ่นมีการสนับสนุน เพื่อส่งเสริมการดำเนินงาน ของนักเรียนกำพร้าในโรงเรียน (การสนับสนุนอื่นๆ นอกจากการปลูกผัก ไฮโดรโปนิค) 3.06 1.50 ปานกลาง โรงเรียนมีการประสานงานในประเด็นการให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้า ในโรงเรียน (มีการประชุมวางแผนการให้ความช่วยเหลือและอื่นๆ การองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามาจัดกิจกรรมกับเด็กกำพร้า ในโรงเรียน) 3.20 1.45 ปานกลาง รวม 3.11 1.40 ปานกลาง จากตารางที่ 1.5 สมรรถนะด้านการสร้างสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า โรงเรียนมีการประสานงานในประเด็นการให้ความช่วยเหลือเด็กกำพร้าในโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 3.20 ) ผลการประเมินในระดับปานกลาง และองค์กรส่วนท้องถิ่นมีการสนับสนุน เพื่อส่งเสริมการดำเนินงาน ของนักเรียนกำพร้าในโรงเรียนมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด (ค่าเฉลี่ย 3.06) ทั้งนี้ ผลการประเมินอยู่ในระดับปานกลาง สรุปได้ว่า สมรรถนะด้านการสร้างสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการพัฒนา และสร้างกระบวนการในการสานสัมพันธ์เพิ่มขึ้น และต้องกระบวนการแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้าในพื้นที่ ให้เป็นบทบาทของทุกฝ่าย โดยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงความร่วมมือในพื้นที่ ตารางที่ 1.6 การปฏิบัติการและการฝึกปฏิบัติ สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน คุณภาพของการจัดการปฏิบัติการและการฝึกปฏิบัติของโรงเรียน 3.90 0.93 ปานกลาง โรงเรียนมีการส่งเสริมการเรียนรู้จากปฏิบัติการ (กำหนดเวลาสำหรับ การให้นักเรียนทำการเกษตร) 3.83 1.10 ปานกลาง รวม 3.86 1.00 ปานกลาง จากตารางที่ 1.6 การปฏิบัติการและการฝึกปฏิบัติพบว่า โรงเรียนมีสมรรถนะในการจัดการฝึกปฏิบัติ มีคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.90) สรุปได้ว่า การเสริมสร้างพฤติกรรมในการสนับสนุนนักเรียน ให้เกิดกระบวนปฏิบัติงานในเชิงคุณถาพ ต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ในเชิงทดลองหรือการปฏิบัติ หรือการดำเนินงานในด้านต่างๆ ในโรงเรียน เพิ่มชั่วโมงการเรียนรู้ในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนได้มีเวลาในการลง มือทำงานด้านต่างๆ ให้มากขึ้น สอดคล้องกับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้าง การลงมือทำหรือการทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างความสนใจในการปฏิบัติงาน


ห น ้ า | 59 ตารางที่ 1.7 สมรรถนะด้านการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหา สมรรถนะย่อย ค่าเฉลี่ย (Mean) s.d. ผลการ ประเมิน การให้คำแนะนำ การสนับสนุนส่งเสริมจากเกษตรในพื้นที่ 2.9 1.50 น้อย โรงเรียนการสร้างพลังเชิงบวก การสร้างกำลังใจ การสร้างแรงจูงใจ ให้ นักเรียนกำพร้าสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขในสังคม 3.9 1.20 ปานกลาง รวม 3.40 1.26 ปานกลาง การตารางที่ 1.7 สมรรถนะด้านการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหา พบว่า โรงเรียนมีการสร้างพลังเชิงบวก การสร้างกำลังใจ การสร้างแรงจูงใจ ให้นักเรียนกำพร้าสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขในสังคมอยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.9) และการสนับสนุนจากเกษตรในพื้นที่อยู่ในระดับน้อย (ค่าเฉลี่ย 2.9) สรุปได้ว่า สมรรถนะด้านการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหา ต้องมีการพัฒนา และต้องเสริมสร้างครูหรือบุคลากร ทางการศึกษาที่ดูแลเด็กกำพร้าได้เกิดทักษะในการปลูกฝั่งแนวคิดเชิงบวก การแนะแนวทางตามความถนัด ของเด็กกำพร้า เพื่อให้สามารถเสริมสร้างแนวคิดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมและทัศนคติของ เยาวชนในพื้นที่ การนำไปใช้ประโยชน์ การนำผลการสรุปผลการดำเนินงานของนักเรียนกำพร้าไปใช้ประโยชน์สามารถช่วยให้ โรงเรียนและนักเรียนมีการกำหนดแบบแผนและเป้าหมายการเรียนรู้ที่ชัดเจนและเพิ่มโอกาสในอนาคต ดังนี้ 1) ปรับปรุงแผนการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยในการตรวจสอบว่านักเรียนกำพร้ามีส่วนร่วม ในการดำเนินงานอย่างไร มีความสนใจในระดับใด ความสนใจดังกล่าวนั้นส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ในเชิงพฤติกรรมและเชิงทัศนะคติอย่างไร ช่วยให้โรงเรียนสามารถกำหนดเป้าหมายในการกำหนดแผนกิจกรรม ต่างๆ ในสถานศึกษา การเลือกกิจกรรมที่มีความสนใจ และตรงตามความต้องการของนักเรียนกำพร้า ในสถานศึกษาเอกชนในพื้นที่ 2) การสร้างแผนการศึกษาเสริม กรณีพบว่านักเรียนต้องปรับปรุงในบางประเด็น เช่นความสามารถทางวิชาการหรือทักษะเฉพาะทางอื่น ๆ โรงเรียนและนักเรียนสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการสร้าง แผนการศึกษาเสริม เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะเหล่านี้ 3) รวบรวมภาวะความต้องการ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาวะและความต้องการ ของนักเรียนกำพร้าในสถานศึกษา ถึงทักษะและความสามารถในการปรับตัวกับความหลากหลายทางชีวภาพ ที่นำไปสู่ความร่วมมือในมิติต่างๆ การพัฒนาทักษะสำคัญและความต้องการที่จะช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของนักเรียนกำพร้า 4) การสร้างแผนการพัฒนาที่ตรงกับความต้องการของนักเรียนกำพร้า รวมถึงกิจกรรม, โครงการหรือการปัญหาที่จะช่วยในการส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาคุณภาพชีวิต และการนำแผน การพัฒนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการภายในสถานศึกษา อาจจะรวมถึงการปรับเปลี่ยนการเรียนการ การสร้างโอกาสในการร่วมมือหรือการสนับสนุนการพัฒนาทักษะทางสังคมและทักษะอื่น ๆ 5) การติดตามและประเมินที่ได้รับจากแผนการพัฒนา เปรียบเทียบข้อมูลกับผลการวิจัย เริ่มต้นเพื่อให้เห็นถึงความสำเร็จและความปรับปรุงที่จำเป็น การรายงานผลการดำเนินการและผลการวิจัย ให้กับผู้ปกครอง,ครู,และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมือและรับข้อมูลการดำเนินงานของเด็กกำพร้า ตลอดจนปรับปรุงแผนการพัฒนาและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของนักเรียนกำพร้า


ห น ้ า | 60 6) สร้างความตระหนักรู้การใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการวิจัยและการดำเนินการเพื่อสร้าง ความตระหนักรู้ในสังคมและชุมชนเกี่ยวกับความสำคัญของการส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของนักเรียนกำพร้า ******************


บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ การสรุปผลเชิงวิจัยกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กกำพร้า ในสถานศึกษานำร่องในพื้นที่ เพื่อรวบรวมผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการดำเนินงาน ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตของเด็กกำพร้าในสถานศึกษาเอกชนนำร่องในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบด้วยจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา และสตูล จำนวน 11 แห่ง โดยมีกลุ่มตัวอย่างได้แก่ครูหรือบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนกำพร้า ที่เข้าร่วมกิจกรรมอบรมพัฒนาศักยภาพ และการศึกษาดูงานการทำเกษตรทฤษฎีใหม่แก่นักเรียน (กำพร้า) จำนวน 49 คน สามารถสรุปผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้ สรุปผล การนำเสนอสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวมและข้อสรุปผลการดำเนินงานเชิงวิจัยที่เป็นไป ตามวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) สมรรถนะด้านการเตรียมความพร้อมในการปลูกผักไฮโดรโปนิค โรงเรียนมีความพร้อม ครูและนักเรียนกำพร้ามีการศึกษาและหาความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคก่อนที่จะได้รับการสนับสนุน วัสดุอุปกรณ์ การเลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิคมีความสำคัญ เนื่องจาก ต้องมีการควบคุมสภาพแวดล้อมและความพร้อมด้านการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การติดตาม และป้องกันโรคและแมลง, ปัญหาที่เกิดจากสภาพอากาศ, และปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นในระบบปลูก การศึกษาและปรับปรุงระบบการปลูกตามประสิทธิภาพและปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการปลูกผัก ไฮโดรโปนิคกระบวนการดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดทักษะกับนักเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในสถานศึกษาตลอดจน การพัฒนาและขยายผลการทำเกษตรไฮดรโปนิค 2) การส่งเสริมการเรียนรู้และการดำเนินงานทางการเกษตรในการปลูกผักไฮโดรโปนิค จำเป็นต้องมีการจัดการอบรมพัฒนาศักยภาพและศึกษาดูงานฯ ซึ่งสามารถสร้างองค์ความรู้ให้กับครู และนักเรียนได้มาก แต่ต้องเน้นเนื้อหาการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การสนับสนุน การศึกษาและการอบรมในเกษตรอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความรู้และทักษะในการเกษตร การสร้างและสนับสนุน สถาบันการศึกษาที่เน้นด้านการเกษตรและเทคโนโลยีทางการเกษตร การใช้เทคโนโลยีและแหล่งข้อมูล ในการเพิ่มความรู้ของเกษตรกร เช่น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อวางแผนการเพาะปลูกและการจัดการ ทรัพยากรการสนับสนุนการตลาดและการตลาดออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้และช่วยให้เกษตรกรสามารถขายสินค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมทักษะในการวางแผนและการปรับตัวต่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ในการเกษตรการสนับสนุนการพัฒนาทักษะทางการธุรกิจและการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มความยั่งยืน ในการเกษตรสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยเรื่อง ความเที่ยงตรงของโครงสร้างองค์ประกอบและแบบจำลอง ความสัมพันธ์เชิงโครงสร้าง การมองเชิงบวกทางวิชาการของครูในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จังหวัดชายแดนใต้พบว่า การมองเชิงบวกทางวิชาการของครูได้รับอิทธิพลทางตรงจากมุมมองเกี่ยวกับเวลา มุมมองการจัดการเรียนการสอน แรงจูงใจของนักเรียนและการสนับสนุนจากชุมชน 3) การเรียนรู้สมรรถนะด้านผลกระทบกับนักเรียน นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีการเปลี่ยนแปลง ในเชิงพฤติกรรม มีความรับผิดชอบ มีความกล้าแสดงออกสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทย (มีความมั่นใจในการใช้ภาษาไทย) และเกิดแนวคิดในการพัฒนางาน เพื่อสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้ ส่วนองค์ความรู้จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม อาจจะเป็นเพราะการปลูกผักไฮโดรโปนิคเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่มีผู้ดำเนินการหรือผู้ประกอบการน้อย ส่งผลให้แหล่งการเรียนรู้น้อยและมีขอบเขตที่จำกัด การกำหนด


ห น ้ า | 62 นโยบายการศึกษามุ่งเน้นให้การสอนและการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและเน้นการพัฒนาทักษะและความรู้ ที่มีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีการศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน และการเรียนรู้มีการวัดและประเมินที่ครอบคลุมและเป็นมาตรฐานเพื่อประเมินสมรรถนะและผลกระทบ ต่อนักเรียน การให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะและความรู้ของครูในการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ ของนักเรียน การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่กระตุ้นและสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียน การสร้างพื้นที่ การเรียนรู้ที่เปิดกว้างและหลากหลายที่สร้างสรรค์และกระตุ้นความรักในการเรียนรู้มุ่งเน้นการศึกษา และส่งเสริมความหลากหลายในการเรียนรู้และสมรรถนะด้านผลกระทบ จะเป็นเพิ่มความรู้และเข้าใจ เรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการสอนตามคุณค่าหลักทางสังคม การศึกษาส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตและการพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา จะสามารถส่งเสริมการเรียนรู้วิธีการจัดการกับสถานการณ์ และทำความเข้าใจถึงผลกระทบของพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง การเพิ่มความรับผิดชอบอาจช่วยกระตุ้น ความรับผิดชอบของนักเรียนต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง การสร้างการเรียนรู้ที่มีคุณค่าส่งผลให้นักเรียน มีการเรียนรู้ที่มีคุณค่าและการเปลี่ยนแปลงสังคมและสภาพแวดล้อม โดยสร้างองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ การพัฒนายั่งยืน 4) การประเมินสมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจกับครอบครัวและชุมชน กระบวนการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนต้องมีการพัฒนากระบวนการดังกล่าว ให้มีความร่วมมือ มากยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนต้องจัดทำแผนรองรับความร่วมมือทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชน โดยสร้าง ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้าเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในพื้นที่ และการพัฒนาในกระบวนการเรียน การสอนส่งผลต่อการสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ การประเมินความสามารถ ในการร่วมมือกับครอบครัวและชุมชน โดยใช้ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกัน, การสนับสนุน, และการแบ่งปันทรัพยากร การสนับสนุนและเสริมสร้างสวัสดิภาพของสังคม การเสริมสร้างคุณค่าของครอบครัว การประเมินสมรรถนะด้านการสร้างความร่วมมือและความเข้าใจในครอบครัวและชุมชน มีประโยชน์ในการพัฒนา โครงสร้างและโปรแกรมที่สนับสนุนครอบครัวและชุมชนในมิติทางสังคมและสวัสดิภาพที่แข็งแรงและยั่งยืน สอดคล้องกับข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการสนับสนุนทางสังคมสำหรับเด็กกำพร้าในครอบครัวอุปถัมภ์ ให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์สายใยระหว่างตัวอุปถัมภ์สมาชิกในครอบครัวอุปถัมภ์และตัวเด็กกำพร้า อยู่อย่างสม่ำเสมอ 5) สมรรถนะด้านการสร้างสัมพันธ์และเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการพัฒนาและสร้างกระบวนการในการสานสัมพันธ์เพิ่มขึ้น และต้องสร้างกระบวนการในการแก้ไขปัญหา เด็กกำพร้าในพื้นที่ให้เป็นบทบาทของทุกฝ่าย โดยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงความร่วมมือในพื้นที่ เน้นการสื่อสารและการเชื่อมโยงกับองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล, ทรัพยากร, และความรู้การเชื่อมโยงที่ดีช่วยให้สามารถสร้างบทบาทที่สำคัญในระหว่างหน่วยงานและเพิ่มความสามารถ ในการประสานงาน การบริหารความขัดแย้งเน้น การจัดการและแก้ไขความขัดแย้งหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างหน่วยงานหรือองค์กรช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความร่วมมือ เน้นการวางแผนและการดำเนินงาน ในโครงการหรือกิจกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงานหรือองค์กร การจัดการดีช่วยเสริมสร้างความร่วมมือ และสำเร็จในการบรรลุวัตถุประสงค์ของทุกฝ่าย 6) สมรรถนะด้านการปฏิบัติและการฝึกปฏิบัติการเสริมสร้างพฤติกรรมในการสนับสนุน นักเรียนให้เกิดกระบวนปฏิบัติงานในเชิงคุณถาพ ต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ในเชิงทดลอง หรือการปฏิบัติ หรือการดำเนินงานในด้านต่างๆ ในโรงเรียน เพิ่มชั่วโมงการเรียนรู้ในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียน ได้มีเวลาในการลงมือทำงานด้านต่างๆ ให้มากขึ้น สอดคล้องกับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างการลงมือทำหรือการทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างความสนใจในการปฏิบัติงาน เน้นความสามารถ ในการแสดงความรู้และทักษะในสถานการณ์จริงและการพัฒนาความชำนาญของบุคคลในสาขาหรืองาน ที่กำลังปฏิบัติตลอดจนการช่วยให้เราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้รับ


ห น ้ า | 63 7) สมรรถนะด้านการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหา ต้องมีการพัฒนาและเสริมสร้างครู หรือบุคลากรทางการศึกษาที่ดูแลเด็กกำพร้า ได้เกิดทักษะในการปลูกฝั่งแนวคิดเชิงบวก การแนะแนวทาง ตามความถนัดของเด็กกำพร้า เพื่อให้สามารถเสริมสร้างแนวคิดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม และทัศนคติของเยาวชนในพื้นที่การสนับสนุนเน้นการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้อื่นในการเรียนรู้และการแก้ไข ปัญหาสามารถรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้อื่นอย่างรับผิดชอบ และเห็นความสำคัญของการเข้าใจ ปัญหาหรือความต้องการของผู้อื่น และการมอบความช่วยเหลือและร่วมมือกับผู้อื่นในการแก้ปัญหาหรือในการ ทำงานร่วมกัน การสนับสนุนนี้อาจเป็นการให้ข้อมูล การส่งเสริมหรือการให้คำปรึกษาตามความเหมาะสม ตลอดจนการตีความปัญหา วิเคราะห์สาเหตุและพัฒนาแผนการแก้ไขปัญหา ผลการดำเนินงานเทียบกับวัตุประสงค์ วัตถุประสงค์ ผลการดำเนินงาน 1. เพื่อแสวงหาแนวทางในการ ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้าง ความเข้าใจ และการส่งเสริมเติม เต็มให้กับผู้ด้อยโอกาสทางสังคม (เด็กกำพร้า) ในการสร้างอาชีพ ให้กับเด็กกำพร้าเพื่อสร้างพื้นที่ สันติสุข • โรงเรียนและสถานศึกษามีการเตรียมความพร้อมสถานที่ ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิค ซึ่งมีความสำคัญ เนื่องจากต้องมีการควบคุมสภาพแวดล้อมได้ความพร้อมด้านการ รับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น สามารถก่อให้เกิดความเข้าใจ เพื่อ เป็นข้อมูลในการขยายผลการดำเนินงานทางการเกษตร • สามารถสร้างองค์ความรู้ให้กับครูและนักเรียนได้มาก แต่ต้องเน้น เนื้อหาการฝึกอบรมเกี่ยวกับการปลูกผักไฮโดรโปนิคเพิ่มขึ้นเพื่อ ก่อให้เกิดทักษะในด้านการเกษตรที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น 2. เพื่อศึกษาพฤติกรรมเชิงบวก ของนักเรียนกำพร้าในสถานศึกษา เอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ที่ ผ่านการอบรมพัฒนาศักยภาพ ภ า ย ใ ต ้ ก ิ จ ก ร ร ม ท ี ่ ศ อ . บ ต . สนับสนุน • นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรม มีความรับผิดชอบ มีความกล้าแสดงออกสามารถสื่อสารด้วย ภาษาไทย (มีความมั่นใจในการใช้ภาษาไทย) ส่งผลต่อความเรียนรู้ และการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาของนักเรียน รวมถึงการพัฒนา ทักษะการแก้ปัญหา การเพิ่มความรับผิดชอบอาจช่วยกระตุ้น ความรับผิดชอบของนักเรียนต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง • การเสริมสร้างพฤติกรรมในการสนับสนุนนักเรียนให้เกิดกระบวน ปฏิบัติงานในเชิงคุณถาพ ต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ ในเชิงทดลองหรือการปฏิบัติ หรือการดำเนินงานในด้านต่างๆ ในโรงเรียน เพิ่มชั่วโมงการเรียนรู้ในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนได้ มีเวลาในการลงมือทำงานด้านต่างๆ ให้มากขึ้น • การพัฒนาและเสริมสร้างครู หรือบุคลากรทางการศึกษาที่ดูแลเด็ก กำพร้า ได้เกิดทักษะในการปลูกฝั่งแนวคิดเชิงบวก การแนะ แนวทางตามความถนัดของเด็กกำพร้า เพื่อให้สามารถเสริมสร้าง แนวคิดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม 3. เพื่อหนุนเสริมกระบวนการมีส่วน ร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา เด็กกำพร้า ลดความเหลื่อมล้ำ ให้กับเด็กกำพร้าสามารถเข้าถึง โอกาสและการสนับสนุนจากภาคี เครือข่ายที่สำคัญ โดยใช้โรงเรียน เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา • กระบวนการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน ต้องมีการพัฒนา กระบวนการดังกล่าวให้มีความร่วมมือมากยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนต้อง จัดทำแผนรองรับความร่วมมือทั้งในระดับครัวเรือนและระดับ ชุมชน โดยสร้างความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้าเป็น หน้าที่ของทุกฝ่ายในพื้นที่ และการพัฒนาในกระบวนการเรียน การสอนส่งผลต่อการสร้างความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุก ภาคส่วนในพื้นที่


ห น ้ า | 64 ข้อเสนอแนะ 1. ส่งเสริมและสนับสนุนทักษะการดูแลเด็กกำพร้าให้กับครูหรือบุคลากรทางการศึกษา ให้สามารถดูแลเยาวชนกลุ่มเปราะบางในสถานศึกษา เพื่อลดการเกิดพฤติกรรมเชิงลบในการดำเนินชีวิต ของเด็กนักเรียนในสถานศึกษาเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ 2. การส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นสร้างกระบวนการพัฒนาทั้งในเชิงของพฤติกรรมและทัศนคติ เพื่อให้เด็กกำพร้าในพื้นที่สามารถยอมรับในความหลากหลายทางชีวภาพทางสังคม ที่เป็นการส่งเสริม และสนับสนุน ที่เอื้อต่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในต่างพื้นที่ เช่น ทักษะการใช้ภาษา มารยาทมาตรฐาน ทางสังคม จารีตและประเพณีที่หลากหลาย 3. ส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะทางความสามารถ และสามารถพัฒนาไปสู่การสร้างอาชีพในอนาคต 4. สนับสนุน/ส่งเสริมเด็กกำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และไม่ได้รับ การรับรอง หรือช่วยเหลือเยียวยา เพื่อให้เยาวชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการช่วยเหลือ ในด้านการศึกษา ทุนการศึกษารวมทั้งโอกาสในการประกอบอาชีพหรือการรับราชการของเด็กกำพร้าดังกล่าว 5. ส่งเสริมให้ส่วนราชการในระดับพื้นที่ หน่วยราชการระดับท้องถิ่น ได้สร้างกระบวนการ ในการสนับสนุนเด็กกำพร้า ผ่านช่องทางการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และส่งเสริม การช่วยเหลือสำหรับครอบครัวเด็กกำพร้าที่มีความยากจน เพื่อให้สามารถส่งบุตร - หลาน เข้าถึงการศึกษา ในระดับอุดมศึกษาหรือการศึกษาภาคบังคับ ตลอดจนการส่งเสริมกิจกรรมเชิงบวกในสถานศึกษาเอกชน สอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ 6. การสนับสนุนภาคประชาชนหรือภาคประชาสังคม กลุ่มอาสาต่างๆ ในพื้นที่ได้เข้าไปมี บทบาทในกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่ เพื่อสร้างกระบวนทัศน์ ให้กับนักเรียนกำพร้า ได้พัฒนาทัศนคติ การสร้างสรรค์โอกาสและการเข้าถึงวิทยาการสมัยใหม่ เพื่อเป็นโอกาส ในการแข่งขันทางการศึกษาให้สามารถเกิดความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ ที่สำคัญในสังคม 7. ภาครัฐต้องกำหนดนโยบายสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาในการสร้างโอกาส ทั้งการใช้ ภาษาไทยการสร้างกระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนกำพร้าในสถานศึกษา เอกชนนำร่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดตรรกะของความคิดในเชิงบวกหรือเชิงสร้างสรรค์ที่มีเหตุ และผลประกอบของความคิดดังกล่าว สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่หลากหลายประกอบการตัดสินใจรวมถึง การดำเนินชีวิตในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน 8. ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเด็กกำพร้า โดยสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ในสังคม ให้ตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาสังคมร่วมกันของทุกภาคส่วน และการสร้างความสัมพันธ์ในระหว่าง ครอบครัวและชุมชนให้สามารถเกื้อกูลและมีส่วนร่วมกับโรงเรียนมากยิ่งขึ้น ********************************************


ห น ้ า | 65 บรรณานุกรม สุวรา แก้วนุ้ย,/สุภาภรณ์ พนัสนาชี/(2558).//สถานการณ์เด็กในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้./สืบค้น 28 กันยายน 2566,//จาก www.deepsouthwatch.org/th/node/6656 สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา./(2564).// ‘เด็กกำพร้า’ ผู้ด้อยโอกาสในระบบการศึกษาที่รัฐ ต้องเร่งเยียวยา./สืบค้น 18 ตุลาคม 2566,//จาก https://research.eef.or.th/orphans-inthailand-education-system. สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา./(2565).// The Hidden Pandemic: ‘เด็กกำพร้า’ ระเบิด เวลาที่ถูกจุดชนวนด้วยโควิด-19./สืบค้น 18 ตุลาคม 2566,//จาก https://research.eef.or.th/thehidden-pandemic/ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้./(2566).//สืบค้น 19 ตุลาคม 2566,//จาก https://deepsouthwatch.org พระมหาประเวช สมสมัย./(2552).//การบริหารจัดการสวัสดิการด้านการศึกษาแก่เด็กกำพร้าและยากจน ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าและยากจน วัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง.//กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฮานานมูฮิบบะตุดดีน นอจิ,/นำชัย ศุภฤกษ์ชัยสกุลและคณะ./(2561).//ความเที่ยงตรงของโครงสร้าง องค์ประกอบและแบบจ าลอง ความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างการมองเชิงบวกทางวิชาการของครู ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จังหวัดชายแดนใต้./สืบค้น 19 ตุลาคม 2566,//จาก https://peaceresourcecollaborative.org/deep -south/society-identity-andculture/islamicschool รสสุคนธ์ แสงมณี,/จงรัก พลาศัย และคณะ./(2556).//ประเมินผลการดำาเนินงานเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับ ความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ อันเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ : กรณีจังหวัดนราธิวาส./สืบค้น 19 ตุลาคม 2566,/จาก https://peaceresourcecollaborative.org/wpcontent/uploads/2020 ผศ.ดร.ดวงหทัย บูรณเจริญกิจ./(2564).//สถานการณ์เด็กเยาวชนและผู้หญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้./ สืบค้น 20 ตุลาคม 2566,// จาก https://peaceresourcecollaborative.org/deepsouth/overview-analysis/children-and-women วนิดา ภูชำนิ./(2564)./การพัฒนาสมรรถนะของครูเพื่อการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21: กรณีโรงเรียน บ้านนาตาลคำข่า/(ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา)./ม.ป.พ./มหาวิทยาลัย ราชภัฏสกลนคร./สืบค้นจาก https://gsmis.snru.ac.th/e-hesis/file_att1/ สมพร โกมารทัด./อรัญญา ตุ้ยคัมภีร์./(2564).//การสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ในประเทศไทย./สืบค้น 21 ตุลาคม 2566.//จาก https://doi.nrct.go.th/ListDoi/Download/642921/ ธเนตร ตัญญวงษ์./(2554)./ผลของกิจกรรมนันทนาการเพื่อเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเองของเด็ก กำพร้าที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ บ้านแกร์ด้า จังหวัดลพบุรี./ปริญญานิพนธ์หลัดสูตรปริญญา วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาชาวิชาการจัดการนันทนาการ./ม.ป.พ./มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ./ สืบค้นจาก http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/ Bede Sheppard./(2553).// "กลุ่มเป้าหมายทั้งสองฝ่าย” ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ครู และโรงเรียน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย.//Human rights watch,/สืบค้น จาก https://www.hrw.org/th/report/2010/


ห น ้ า | 66 ประวัติ ผู้ดำเนินงาน


ประวัติ ประสบการณ์ทำงาน 2548 ครูศูนย์การเรียนชุมชน อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 2553 นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส กรมการพัฒนาชมุชน กระทรวงมหาดไทย 2555 นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดนราธิวาส กรมการพัฒนาชมุชน กระทรวงมหาดไทย 2560 นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สำนักประสานนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) 2561 นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ สำนักประสานนโยบาย การพัฒนาเศรษฐกิจ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) 2564 นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษา และเสริมสร้างโอกาสทางสังคม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนา ฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. 2565 นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษา และเสริมสร้างโอกาสทางสังคม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนา ฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. การศึกษา • ระดับประถมศึกษาโรงเรียนเพ็ญศิริตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา • ระดับมัธยมศึกษา พ.ศ. 2536 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา • (เอกศิลป์-คณิต) • พ.ศ.2539 โรงเรียนสตรียะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา (เอกศิลป์-คณิต) • ระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2547 มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ (ศศบ.) รัฐศาสตร์ เอกการเมืองการปกครอง • ระดับปริญญาโท พ.ศ. 2556 มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระราชูปถัมภ์ • รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต เอกการปกครองท้องถิ่น • • การอบรม 2558 นักบริหารจัดการชุมชน ศูนย์พัฒนาชุมชน 2565 Deep south Hackatorn ศอ.บต . 19 ถนนผังเมือง 4 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 95000 09 1184 9595 [email protected] นายปฏิพัทธ์ มะลิสุวรรณ


ประวัติ ประสบการณ์ทำงาน 2547 เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล ที่ทำการปกครองอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี 2551 เจ้าหน้าที่ประสานงานระดับพื้นที่ สมาคมอาสาพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 2555 นายกสมาคมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 2558 ผู้ช่วยนักวิจัยแพทย์แผนไทย วิทยาลัยสาธารณสุขสิริธร จังหวัดยะลา 2559 วิทยากรพิเศษ คณะแพทย์แผนไทย วิทยาลัยสาธารณสุขสิริธรจังหวัดยะลา 2560 อาสาพัฒนาชุมชน สำนักพัฒนาชุมชนอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี 2560 นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2561 นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอปากท่อ จังหวัดนครราชสีมา กรมการพัฒนาชมุชน กระทรวงมหาดไทย 2561 นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ สำนักประสานนโยบายสังคมจิตวิทยา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) 2563 นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กลุ่มงานสังคมจิตวิทยา กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (ศอ.บต.) 2566 นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษา และเสริมสร้างโอกาสทางสังคม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนา ฝ่ายพลเรือน การศึกษา • ระดับอนุบาล โรงเรียนแสงสันติปอซัน ตำบลปิตูมุดี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี • ระดับประถมศึกษาโรงเรียนตลาดนัดบาซาเอ ตำบลปิตูมุดี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี • ระดับมัธยมศึกษา พ.ศ. 2537 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา • (เอกศิลป์ภาษาอังกฤษ - สังคม) • พ.ศ.2537 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี (เอกวิทยาศาสตร์) • ระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2543 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (ศศบ.) บริหารธุรกิจ เอกการตลาด • พ.ศ. 2543 มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ (ศศบ.) รัฐศาสตร์ เอกการเมืองการปกครอง • การอบรม 2549 หลักสูตรอาสาสมัครเสริมสร้างสันติสุขในชุมชน กองบัญชาการทหารสูงสุด 2554 วิทยากรกระบวนการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รุ่นที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการป่องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) 4/2 หมู่ที่ 3 ตำบลปิตูมุดี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี 94160 06 5356 2996 [email protected] นายอัสมัน แวกามา


ประวัติ ประสบการณ์ทำงาน 2552 เจ้าหน้าสโมสรและศูนย์กีฬา สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย 2561 นักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพปฏิบัติการ สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และเยาวชน จังหวัดภูเก็ต กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกระทรวง ยุติธรรม 2563 - ปัจจุบัน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษา และเสริมสร้างโอกาสทางสังคม กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนา ฝ่ายพลเรือนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ประวัติการศึกษา สถานศึกษา วัน เดือน ปี ที่สำเร็จการศึกษา วุฒิ (สาขาวิชาเอก) โรงเรียนบ้านหนองหว้า ปีที่จบ 254๒ ป.1-ป.6 โรงเรียนราชประชานุ เคราะห์ 28 จังหวัดยโสธร ปีที่จบ 254๕ ม.1-ม.3 โรงเรียนทรายมูลวิทยา ปีที่จบ 25๔๘ ม.4-ม.6 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีที่จบ 2552 ปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยปทุมธานี ปีที่จบ 2566 ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร มหาบัณฑิต ๑๑๒ หมู่ ๑๐ ตำบลโพนงาม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ๓๕๑๔๐ 0๙๙ ๖๙๖ ๑๖๙๓ [email protected] นายวุธิไกร ศรีจันทร์


กลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างโอกาสทางสังคม โทรศัพท์ 0 7320 3771


Click to View FlipBook Version