ชุดกิจกรรมปฏิบัติการทดลอง
วิชาวิทยาศาสตร์งานธุรกิจและบริการ
รหัสวิชา 30000-1308
ประกอบกิจกรรมการสอน สำหรับนักศึกษา
ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
เรื่อง
หน่วยที่ 7 สารเคมีในชีวิตประจำวัน
และสำนักงาน
โดย
นางสาวทิพกฤตา อินไชย
ตำแหน่ง ครู
วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ อาชีวศึกษาจังหวัดแพร่
สถาบันการอาชีวศึกษาภาคเหนือ 2 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
1
คำนำ
ชุดกิจกรรมปฏิบัติการทดลอง เรื่อง สารเคมีในชีวิตประจำวันและสำนักงาน จัดทำขึ้นตาม
จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและคำอธิบายรายวิชา ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
(ปวส.) พุทธศักราช 2563 ใช้เป็นสื่อการเรียนประกอบการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 สารเคมีใน
ชีวิตประจำวันและสำนักงาน รายวิชาวิทยาศาสตร์งานธุรกิจและบริการ รหัสวิชา 30000-1308 ระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เพื่อให้นักศึกษาใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์สืบเสาะหาความรู้
เกดิ ความรู้ทีค่ งทนถาวรและไดเ้ รียนรู้ด้วยตนเอง ซงึ่ เปน็ ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ชี ว่ ยสรา้ งนสิ ัยให้นักศึกษาเป็น
ผู้คิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความกระตือรือร้นในการเรียน ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษามีจิตวิทยา
ศาสตร์
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดการเรียนรู้เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนานักศึกษาและมีส่วน
ช่วยให้ทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน เกิดความเข้าใจซึ่งเป็นประโยชน์แก่นัก ศึกษา
และชว่ ยใหน้ ักศึกษาเกิดทกั ษะสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งดียิ่ง
ทพิ กฤตา อนิ ไชย
สารบัญ 2
เรอื่ ง หนา้
คำนำ 1
สารบัญ 2
คำชแ้ี จงประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3
คำชแ้ี จงประกอบการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรสู้ ำหรับนกั ศกึ ษา 4
ข้ันตอนการศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5
แนวทางการใชช้ ุดกจิ กรรมการเรยี นรู้สำหรบั นกั ศกึ ษา 6
สมรรถนะประจำหนว่ ย จดุ ประสงค์รายวชิ าและคำอธิบายรายวิชา 7
แบบทดสอบกอ่ นเรียน 8
ชดุ กิจกรรมท่ี 1 เร่อื ง การใชส้ าร 16
ชุดกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง สมบัติของสารเคมี 17
ชุดกิจกรรมที่ 3 เร่ือง สารเคมีในชวี ิตประจำวัน 19
ชุดกจิ กรรมท่ี 4 เรือ่ ง การจำแนกสารตามการใช้งาน 21
แบบทดสอบหลังเรียน 22
บรรณานกุ รม 30
ภาคผนวก 31
3
คำชี้แจงประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
ชดุ กจิ กรรมปฏบิ ตั กิ ารทดลอง เรือ่ ง สารเคมีในชีวิตประจำวันและสำนกั งาน รายวิชาวิทยาศาสตร์
งานธรุ กจิ และบริการ รหัสวิชา 30000-1308 ระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) แบง่ เน้อื หา
ออก เป็นทั้งหมด 4 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมท่ี 1 การใชส้ าร กจิ กรรมท่ี 2 สมบตั ิของสารเคมี กจิ กรรมท่ี
3 สารเคมใี นชีวิตประจำวนั และกิจกรรมที่ 4 การจำแนกสารตามการใชง้ าน
ในชุดกิจกรรมประกอบด้วย คำนำ คำชี้แจง แนวทางการใช้ชุดการเรียนรู้สำหรับนักศึกษา
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน ใบความรู้ กิจกรรม เฉลยกจิ กรรมแบบทดสอบหลัง
เรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อให้นักศึกษาใช้ประกอบการเรียน มีเนื้อหาสาระและ
กิจกรรมเหมาะสมกับวัยและความสามารถของนักศึกษา นักศึกษาต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยครูผู้สอนคอย
ดูแลและช่วยเหลือ กระตุ้นให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหน้ กั ศึกษาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในข้ันตอน
การทำกจิ กรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ทคี่ รูผสู้ อนจัดทำข้ึน
4
คำชี้แจงประกอบการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้
สำหรบั นักศึกษา
นักศึกษาอา่ นคำชี้แจงต่อไปนี้ใหเ้ ข้าใจ
1. ชุดกิจกรรมการเรียนร้ฉู บับน้ี เป็นชดุ กิจกรรมปฏิบตั ิทดลอง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่องสารเคมีใน
ชวี ติ ประจำวันและสำนักงาน
2. นกั ศึกษาทกุ คนต้องซือ่ สตั ยต์ อ่ ตนเอง ไมเ่ ปิดดูเฉลย กอ่ นที่จะลงมอื ทำกจิ กรรม
3. นกั ศึกษาทกุ คนควรให้ความร่วมมอื กนั ในการคิด การสบื คน้ ข้อมลู การปฏบิ ตั ิ การทดลอง
และการทำกจิ กรรมต่างๆ ตามชุดกิจกรรมจนเสร็จทุกกจิ กรรมอยา่ งเต็มความสามารถ
4. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 20 ข้อ เพื่อตรวจสอบความรเู้ ดิมและเป็นขอ้ มลู ในการ
พัฒนา ส่งเสรมิ หรือแกไ้ ขการเรียนรู้ของนกั ศกึ ษาแล้วตรวจคำตอบจากแนวคำตอบ พร้อมทัง้ บันทึกคะแนนลง
ในแบบบันทึกคะแนน (ทำลงในแบบบันทกึ กิจกรรมทีค่ รแู จกให)้
5. ศึกษารายละเอียดของเน้ือหา กิจกรรม จากใบกิจกรรมและแนวคำตอบใบกิจกรรมตามลำดับ
ขนั้ ตอนของชดุ กิจกรรมการเรยี นรฉู้ บับน้ี ซึง่ ได้แก่
5.1 แบบทดสอบก่อนเรียน
5.2 ศึกษาเน้ือ หาในใบกิจกรรมเน้ือหา
5.3 ทำกิจกรรมในใบกจิ กรรม
5.4 แบบทดสอบหลังเรียน
6. นกั ศกึ ษาตรวจคำตอบ ประเมนิ ผลตามเฉลยและแนวคำตอบ ซ่ึงอย่ใู นชดุ กิจกรรม
7. การปฏบิ ัตติ ามกจิ กรรม ควรทำให้เสรจ็ ตามกำหนดเวลาและหากนักศึกษาไม่เข้าใจใหก้ ลับไป
ศกึ ษาใบกิจกรรมเนื้อหาอกี คร้ัง (สืบคน้ เพ่ิมเติม หรือปรกึ ษาครู)
8. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น จำนวน 20 ขอ้ แลว้ ตรวจคำตอบจากเฉลยในชุดกิจกรรม
พรอ้ มท้ังบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกคะแนน เพอ่ื ประเมินตนเองว่าสามารถบรรลตุ ามจุดประสงค์การเรียนรู้
ท่ีกำหนดไว้หรือไม่ (ทำลงในแบบบันทกึ กิจกรรม ทค่ี รแู จกให้)
9. เกบ็ วัสดอุ ุปกรณ์และชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ง คืนครเู มอ่ื ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเสร็จส้ินแล้ว
7
สมรรถนะประจำหนว่ ย จดุ ประสงค์รายวิชาและคำอธิบายรายวชิ า
สมรรถนะประจำหนว่ ย
มีความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับสารเคมที ใ่ี ช้ในชีวิตประจำวันและสำนกั งาน
จุดประสงคร์ ายวิชา
1. นกั ศึกษาอธิบายคุณสมบัติและผลกระทบที่เกิดจากสารเคมีทีพ่ บในชีวิตประจำวันได้
2. นักศึกษามีทกั ษะการสำรวจ ทกั ษะการทดลองและสามารถประยุกตใ์ ช้ความรูเ้ ร่อื งสารเคมใี น
ชีวิตประจำวนั ในงานอาชพี และการดำรงชวี ติ ของตนเองได้
3. นักศึกษาแสดงทศั นคติ ความรู้สกึ และพฤติกรรมทีด่ ตี ่อการเรียนรู้ เรอ่ื ง สารเคมใี นชีวิตประจำวัน
คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาและปฏิบัติงานวิทยาศาสตร์งานธุรกิจและบริการเกี่ยวกับไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบา้ นและ
สำนักงาน สารละลาย ปฏิกริ ิยาเคมี สารเคมีท่ใี ช้ในชีวิตประจำวันและสำนักงาน สารสังเคราะห์และผลิตภัณฑ์
การใช้พลังงานเพื่อการขนส่ง การอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และการประยุกต์ใช้ในงานอา ชีพที่
เกี่ยวขอ้ ง
เวลาทีใ่ ช้ 4 ชว่ั โมง
8
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง สารเคมใี นชวี ิตประจำวนั และสำนักงาน
คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 20 ขอ้ คะแนน 20 คะแนน
2. ให้นกั ศึกษาเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพียงข้อเดยี ว
1. ซอสมะเขือเทศ มสี มบัติอยา่ งไร
ก. มฤี ทธ์เิ ป็นกรด ข. มฤี ทธเ์ิ ปน็ เบส
ค. มฤี ทธเ์ิ ปน็ กลาง ง. มฤี ทธผ์ิ สมผสาน
2. สารในขอ้ ใดใช้ทำความสะอาดผวิ หนงั
ก. สบู่ ข. ยาสีฟัน
ค. สเปรย์ ง. แชมพู
3. ผงซกั ฟอก จัดเปน็ สารประเภทใด
ก. สารปรุงแต่งอาหาร ข. สารกำจดั แมลง
ค. สารซกั ล้าง ง. ยารกั ษาโรค
4. สารในขอ้ ใดใช้แตง่ กลิน่
ก. บอแรกซ์ ข. ผงชูรส
ค. น้ำนมแมว ง. ซปุ ไกก่ ้อน
5. สารในขอ้ ใดมีอันตรายต่อร่างกาย
ก. โฟมลา้ งหนา้ ข. ยากนั ยุง
ค. สบเู่ หลว ง. นำ้ ยาบว้ นปาก
6. กอ่ นใช้สารต้องทำอย่างไรก่อน
ก. สวมถงุ มอื ข. อา่ นฉลากใหเ้ ขา้ ใจ
ค. เปดิ ฝาแล้วเทใส่ภาชนะ ง. เขย่าขวดก่อนใช้
7. สารในขอ้ ใดมคี วามเป็นเบสเข้มข้นมากทส่ี ดุ
ก. นำ้ ยาลา้ งจาน ข. แชมพู
ค. ผงซกั ฟอก ง. สบู่
9
8. สญั ลกั ษณ์ไวไฟ ส่วนใหญ่จะพบบนฉลากในข้อใด
ก. ขนมขบเคี้ยว ข. ผลติ ภัณฑล์ า้ งหน้า
ค. อาหารกระป๋อง ง. ยากำจดั แมลง
9. สารในข้อใดมีวิวัฒนาการมาจากสบู่
ก. ผงซักฟอก ข. ยากนั ยุง
ค. นำ้ ยาขดั พ้ืน ง. แชมพู
10. กระป๋องสารกำจดั แมลง เม่ือใชแ้ ล้วควรกำจดั ท้ิงอยา่ งไร
ก. เผาไฟ ข. แยกท้ิงลงถัง
ค. ทิ้งนำ้ ง. ฝงั ดิน
11. การใช้แป้งผสมในยาสีฟันเพือ่ วัตถปุ ระสงคใ์ ด
ก. เกดิ ฟอง ข. มีรสหวาน
ค. เปน็ สารเหนียวขน้ ง. ขัดฟนั ให้ขาว
12. Thickener ในยาสีฟันสูตร 2 ทำหน้าที่อะไร
ก. ทำใหข้ ้น ข. ทำให้คงรปู
ค. ทำใหร้ วมเป็นเนอ้ื เดยี วกัน ง. ทำใหฟ้ นั ขาวเป็นเงางาม
13. ถา้ ต้องการใหย้ าสีฟนั มรี สหวานควรผสมสารใด
ก. นำ้ ผงึ้ ข. นำ้ ตาลทราย
ค. กลเี ซอรีน ง. ถกู ทุกข้อ
14. ส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาลา้ งเล็บสูตร 2 คืออะไร
ก. Acetone ข. Ethyl Acetate
ค. Butyl Acetate ง. น้ำสะอาด
15. ไขมันที่ทำจากน้ำมันชนิดใดดที ีส่ ุด สำหรบั ผลิตลปิ สตกิ
ก. น้ำมนั มะพรา้ ว ข. นำ้ มันมะกอก
ค. น้ำมันละหงุ่ ง. นำ้ มันจากเมล็ดฝ้าย
16. ผู้ท่ีมีอาการแพล้ ปิ สตกิ เนอ่ื งจากสารใดในลิปสติก
ก. สี ข. น้ำหอม
ค. นำ้ มัน ง. ไขมัน
10
17. สารใดในแชมพสู ระผมมีสมบตั ิการทำ ความสะอาดเสน้ ผม
ก. Texapan N.40 ข. Texapon BS
ค. Citiol He ง. Bronidox-L
18. ในการผลติ ครีมนวดผมจะตอ้ งใช้สารใดเปน็ สว่ นประกอบมากทสี่ ุด
ก. หวั นำ้ หอม ข. นำ้ สะอาด
ค. Dehyten Wex AB ง. Dehyguat AC
19. ส่วนผสมทใี่ ช้มากทสี่ ุดในแป้งหอม คอื อะไร
ก. Borneol ข. Menthol
ค. Talcum Powder ง. แปง้ คารล์ าไมน์
20. ส่วนผสมทเ่ี หมือนกันในยาดมและยาหม่องคืออะไร
ก. Menthol ข. Ucarlyptus
ค. น้ำมันสะระแหน่ ง. ถกู ทุกข้อ
11
แบบทดสอบก่อนเรียน
เรื่อง ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีเป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 20 ขอ้ คะแนน 20 คะแนน
2. ใหน้ กั ศึกษาเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งทสี่ ุดเพียงข้อเดียว
1. ในการทดลองเพ่ือศกึ ษาผลของการงอกของเมล็ดถั่วเขยี วในสำลชี ุบนำ้ และสำลไี ม่ชุบน้ำ ควรต้ังสมมติฐานตาม
ข้อใด
ก. สำลชี บุ นํา้ เป็นปัจจยั ในการงอกของเมลด็ ถัว่ เขียว
ข. นํ้าเป็นปัจจยั ท่สี ำคญั ในการงอกของเมลด็ ถ่วั เขียว
ค. ปริมาณนาํ้ ท่แี ตกตา่ งกันทำให้พชื เจริญเตบิ โตตา่ งกนั
ง. ความชืน้ นา่ จะมีส่วนสัมพันธก์ บั การงอกของเมลด็
2. ในการทดลองเพาะเห็ดฟาง 2 แปลง ในพ้ืนท่ีเดยี วกนั เวลาเดยี วกนั อาหารเสริมและปรมิ าณน้ำท่ีใชเ้ หมือนกนั
และใชเ้ วลาในการเพาะเทา่ กัน ดงั น้ี
แปลงที่ 1 วสั ดุทีใ่ ช้เพาะเห็ดฟาง ไดแ้ ก่ ฟางขา้ ว
แปลงท่ี 2 วัสดุทใี่ ชเ้ พาะเห็ดฟาง ได้แก่ ต้นถว่ั ผสมเปลอื กฝักถวั่
การทดลองนี้มีสมมติฐานวา่ อย่างไร
ก. แสงมีผลต่อการเจริญเติบโตของเหด็ ฟาง
ข. อาหารเสรมิ มีผลต่อการเจรญิ เตบิ โตของเหด็ ฟาง
ค. ความช้ืนมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของเห็ดฟาง
ง. วสั ดุท่ใี ชเ้ พาะเห็ดต่างกัน การเจริญเติบโตของเหด็ ฟางจะต่างกัน
3. ในการทดลองรีดเมลด็ สะตอออกจากฝักโดยใชเ้ ครื่องรีดแบบ 2 ลูกกล้ิง โดยใช้สะตอที่เป็นพันธเ์ุ ดียวกัน ขนาด
ฝกั และเมล็ดเท่ากนั ลวกนำ้ รอ้ นทีม่ ีอุณหภมู ิ และเวลาในการลวกเทา่ กัน จากน้นั นำไปรีดดว้ ยเครื่องรีดเมลด็ สะตอ
โดยต้งั ระยะห่างของลกู กลิง้ ดงั น้ี 0.3, 0.5 และ 0.7 cm ตามลำดับ การทดลองน้ีมี สมมติฐานวา่ อย่างไร
ก. ความเรว็ ของลูกกลิ้งมีผลตอ่ การรดี เมลด็ สะตอออกจากฝกั
ข. ลักษณะผิวของลูกกลิ้งมีผลต่อการรดี เมล็ดสะตอออกจากฝกั
ค. ระยะหา่ งของลกู กล้ิงมีผลต่อการรดี เมล็ดสะตอออกจากฝกั
ง. ระยะหา่ งและความเร็วของลูกกลง้ิ มผี ลต่อการรีดเมล็ดสะตอออกจากฝัก
12
4. ขอ้ ใดเป็นความหมายของสมมติฐาน
ก. การวางแผนเกบ็ ข้อมูล
ข. การกำหนดแนวทางการวิจัย
ค. การกำหนดขอบเขตของการวิจยั
ง. การคาดคะเนผลการวิจัยไว้ลว่ งหนา้
5. ข้อใดเปน็ ส่ิงที่สังเกตไดจ้ ากการเปา่ อากาศเข้าไปในลกู โปง่
ก. หลังจากเป่าแล้วลูกโป่งจะมนี ้ําหนักมากขน้ึ
ข. อากาศในลูกโปง่ มีแรงดัน
ค. ถา้ อากาศเขา้ ไปมากๆ ลูกโป่งอาจจะแตกได้
ง. ลูกโปง่ พองออก
6. ขอ้ ใดเป็นข้อมูลจากการสังเกตแท่งลปิ สติก
ก. ลิปสตกิ สีสวย ราคาแพง
ข. ลปิ สตกิ เป็นแท่งยาวประมาณ 5 cm
ค. ลิปสตกิ นท้ี ำในเมืองไทย
ง. ลปิ สตกิ นี้ควรเก็บไวใ้ นทเ่ี ยน็ จะไดไ้ มเ่ ละ
7. จากการทดลองเพ่ือทดสอบวา่ “วัตถตุ ่างชนดิ กนั จะนำความรอ้ นได้ดีไมเ่ ทา่ กัน” ความหมายของการนำความ
รอ้ นในข้อใดสามารถวัดหรอื สังเกตได้
ก. ปรมิ าณความร้อนของวัตถทุ ส่ี ูญหายไป
ข. ปรมิ าณความร้อนของวัตถทุ ่ีเพ่ิมขึน้
ค. ปรมิ าณความรอ้ นที่วัตถุรับได้
ง. การท่คี วามร้อนเคลือ่ นท่ีผ่านวตั ถุ
8. ถา้ ตอ้ งการหาคำตอบวา่ “ปริมาณของผงถา่ นมผี ลการฟอกสีของสารละลายน้ำตาลจรงิ หรือไม่”
ขอ้ มูลทตี่ ้องเก็บในขณะดำเนินการทดสอบคืออะไร
ก. ปรมิ าณน้ำตาล ข. สขี องน้ำตาล
ค. ปรมิ าณของผงถ่าน ง. ภาชนะสำหรบั กรอง
13
9. นกั ศึกษาต้ังสมมติฐานว่า “ถ้าอตั ราการทำงานของเอนไซม์ขึน้ อยู่กับอุณหภูมิ ดังน้นั ถา้ อุณหภูมติ า่ งกนั การ
ทำงานของเอนไซม์จะแตกต่างกนั ” ตวั แปรต้นในสมมตฐิ านดงั กลา่ วคอื ข้อใด
ก. ความแตกต่างของอุณหภมู ิ
ข. ความเข้มข้นของเอนไซม์
ค. การทำงานของเอนไซม์
ง. ชนดิ ของเอนไซม์
10. จากสมมติฐานทวี่ า่ “พืชทีป่ ลกู ในดนิ ตา่ งชนดิ กันจะเจรญิ เตบิ โตได้แตกตา่ งกนั ” ตวั แปรตน้ คอื ข้อใด
ก. ชนิดของดิน
ข. ขนาดของลำต้นหลงั ปลูก
ค. การเจริญเตบิ โตของพชื
ง. ชนิดของพืชที่ปลกู
11. นอ้ งหญิงทำการเล้ียงไหม 3 วธิ ี โดยนำตัวไหมมา 20 ตัวจัดการทดลอง โดยใบหม่อน วันละ 1 กโิ ลกรัม
จำนวนใบทนี่ ับจากยอด แตกต่างกันดังน้ี
ชุดที่ 1 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 3-5 โดยนบั จากดอก
ชดุ ท่ี 2 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 6-8 โดยนับจากดอก
ชดุ ที่ 3 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 9-11 โดยนบั จากดอก
ผลปรากฏว่าหลังจากเวลาผ่านไป 7 วัน ชุดการทดลองที่ 2 ตวั ไหมมีการเจริญเตบิ โตมากท่ีสดุ น้องหญงิ จึงตัดสินใจ
เล้ียงไหมตามชุดการทดลองท่ี 2 นักเรียนคดิ วา่ ตัวแปรต้นในการทดลองของน้องหญิง คอื อะไร
ก. จำนวนตวั ไหม
ข. จำนวนใบหม่อน
ค. อายขุ องใบหม่อน
ง. การเจรญิ เติบโตของตัวไหม
12. “จาการทดลองปลกู ข้าวโพด 3 แปลง โดยใช้ดินสภาพเดียวกนั แปลงที่ 1 ใช้ปุ๋ย A 25 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่
แปลงที่ 2 ใชป้ ุ๋ย B 25 กโิ ลกรัมต่อไรแ่ ปลงท่ี 3 ใช้ปยุ๋ C 25 กิโลกรมั ต่อไร่ พบวา่ ขา้ วโพดทงั้ 3 แปลง มี
ผลผลิตตอ่ ไรแ่ ตกต่างกันอยา่ งชัดเจน” ขอ้ ใดเปน็ ตัวแปรตน้
ก. ผลผลติ ของขา้ วโพดต่อไร่
ข. ชนดิ ของดินท่ีปลกู
ค. พนั ธุข์ องข้าวโพด
ง. ชนิดของปุ๋ย
14
13. ในการทดลองเพื่อทดสอบสมมติฐานทวี่ า่ “เม่ือตอนพืชแล้วไว้เป็นเวลาต่างกันและรดน้ำอยา่ งสม่ำเสมอ การ
งอกของรากพืชจะตา่ งกัน” ส่งิ ทจ่ี ะต้องจัดใหแ้ ตกต่างกันในการทดลองคอื อะไร
ก. ชนดิ ของพืชทีใ่ ชใ้ นการตอน
ข. ปริมาณของน้ำ
ค. เวลาท่ีปล่อยไว้หลงั จากตอนแลว้
ง. วสั ดุท่ีใชใ้ นการตอน
14. ถา้ ตอ้ งการทดสอบสมมตฐิ านทีว่ า่ “กลว้ ยตากแห้ง สามารถเก็บไวไ้ ด้นานวัน ถ้าใสส่ ารละลายน้ำตาลที่มคี วาม
เขม้ ขน้ สูง” สิ่งท่นี ักเรียนตอ้ งจัดให้แตกต่างกันในการทดสอบเพ่อื หาคำตอบคืออะไร
ก. ความสดของกล้วย
ข. ขนาดของกล้วย
ค. ปรมิ าณน้ำตาล
ง. อุณหภูมิท่ีใชใ้ นการตาก
15. ถ้าต้องการหาคำตอบว่า “ปริมาณของผงถ่านมผี ลการฟอกสีของสารละลายน้ำตาลจรงิ หรอื ไม่” ข้อมลู ท่ตี ้อง
เกบ็ ในขณะดำเนินการทดสอบคืออะไร
ก. ปรมิ าณน้ำตาล
ข. สีของน้ำตาล
ค. ปรมิ าณของผงถ่าน
ง. ภาชนะสำหรับกรอง
16. ในการทดสอบเพื่อท่จี ะดูว่า “เมื่อปล่อยลูกบอลจากทีร่ ะดับความสงู เทา่ ๆ กัน ลงสพู่ ื้น ลูกบอล
จะกระดอนขึ้นสูงเทา่ ๆ กันหรอื ไม”่ สง่ิ ท่ตี ้องคอยติดตามดูคอื อะไร
ก. ระยะทางระหวา่ งลูกบอลกับพน้ื ขณะปล่อย
ข. ระยะเวลาทลี่ ูกบอลตกจากจุดปล่อยถึงพน้ื
ค. ระยะเวลาท่ีลกู บอลกระดอนจากพ้ืนถงึ จุดสงู สดุ
ง. ระยะทางระหว่างลูกบอลกบั พื้นทก่ี ระดอนถงึ จดุ สูงสดุ
17. ในการทดลองเพื่อทีจ่ ะศกึ ษาว่า “แสงสว่างมีอิทธพิ ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื ” ในการดำเนิน
การทดลอง นักเรยี นเกบ็ ข้อมลู ในข้อใดซึง่ หมายถึงการเจริญเตบิ โตของพืช
ก. จำนวนใบที่เพ่มิ ข้ึน
ข. โครงสร้างของใบ
ค. ความเข้มของสีเขียวบนใบ
ง. ปริมาณแป้งท่สี ะสมอยใู่ นใบ
15
18. ข้อใด ไมใ่ ชก่ ิจกรรมการแปลความหมาย
ก. การบนั ทึกข้อมลู ลงในตาราง
ข. การนาํ เสนอขอ้ มูล
ค. การเขียนกราฟระบบพิกัดฉาก
ง. การรวบรวมข้อมูล
ใช้ขอ้ มลู ในตารางตอบคำถามข้อ 19
ชนดิ ของสตั ว์ อาหารทกี่ ิน
ชา้ ง พืช
งู สัตว์
ไก่ พชื และสัตว์
เสือ สัตว์
ววั พืช
ปลา พืชและสัตว์
19. จากข้อมูลข้อใดเป็นการตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุปที่ดที ่ีสดุ
ก. เสอื และไก่กนิ สัตวไ์ ด้
ข. พชื เปน็ ผ้ผู ลิตและผู้บริโภค
ค. ชา้ งเป็นสัตวใ์ หญจ่ งึ กนิ พืชเปน็ อาหาร
ง. สัตวแ์ บ่งออกเป็น 3 พวกคอื กนิ พชื กินสตั ว์และกนิ ทั้งพชื และสัตว์
20. จากการทดลองเม่อื เอาสาร A ทบ่ี ดกับไมบ่ ด ไปละลายน้ำ ผลการทดลองปรากฏดังตารางต่อไปน้ี
สาร ปริมาณสาร (g) ปรมิ าตรน้ำ อุณหภูมขิ องน้ำ (oC) ปริมาณสารที่ละลาย (g)
(cm3)
A 2 40 35 2.5
(ไมบ่ ด)
A 2 40 35 4.5
(ละเอยี ด)
นักศึกษาจะตคี วามหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ อย่างไร
ก. ปรมิ าณของสาร A ทล่ี ะลายในนำ้ จะมากหรอื น้อยไม่ข้นึ กบั อณุ หภูมิของนำ้
ข. สาร A ท่ีบดละเอียดจะละลายในน้ำไดม้ ากกว่าสาร A ที่ไม่ไดบ้ ด
ค. น้ำท่มี ีอุณหภูมสิ ูงกว่าจะละลายสาร A ท่บี ดละเอียดได้มากกว่า
ง. นำ้ ทม่ี ีอณุ หภูมิสูงกวา่ จะละลายสาร A ท่ีไมบ่ ดได้มากกว่า
16
คำชแี้ จง ใหน้ ักศกึ ษาสำรวจการใช้สารในการทำกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั แล้วบันทึกข้อมูลลง
ในตาราง
กจิ กรรมท่ที ำ ชอื่ สารทใ่ี ช้ การใช้ประโชน์
17
คำสงั่ ให้นกั ศกึ ษาทดลองเกี่ยวกับสมบัติของสารเคมีดังน้ี
อปุ กรณก์ ารทดลอง 2. ช้อนพลาสติก 3. กระดาษลติ มสั 10. หลอดดูด
1. ถ้วยพลาสติก 5. น้ำตาลทราย 6. แปง้ มัน
4. น้ำ 8. น้ำสม้ สายชู 9. น้ำมันพชื
7. ผงซักฟอก
วธิ กี ารทดลอง
1. ตกั สารเคมีท่เี ตรียมไวแ้ ต่ชนิดปริมาณ 2 ช้อนใส่ในหลอดแกว้ ทดลอง แล้วสังเกตลักษณะของสี
และสถานะ บันทกึ ผลในตารางบันทึกผลการทดลอง
2. เตมิ น้ำลงในถว้ ยพลาสติกปริมาณ 5 ซีซี ทีล่ ะหลอดใชแ้ ท่งคน สังเกตการณเ์ ปลีย่ นแปลงแล้ว
บันทึกในตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง
ผลการทดลอง
สารเคมี สถานะ สี ลกั ษณะของสารเคมเี ม่ือเติมน้ำลงไป
นำ้ ตาลทราย
แปง้ มัน
ผงซักฟอก
นำ้ ส้มสายชู
นำ้ มนั พืช
สรปุ ผลการทดลอง
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
18
คำถามหลงั การทดลอง
1. สารเคมีที่นำมาทดลองมีสถานะใดบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. สารเคมใี ดบา้ งท่ีมสี ถานะและสีเหมือนกัน
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. สารเคมใี ดบ้างทน่ี ำมาทดลองเมื่อผสมนำ้ แลว้ ละลายหมดได้ของเหลว
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. สารเคมชี นดิ ใดบ้างทนี่ ำมาทดลองเม่ือผสมกับน้ำแล้วไดข้ องเหลวข่นุ หรอื ชั้น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. นอกจากสารทีน่ ำมาทดลองนักเรยี นคิดวา่ สารเคมอี ะไรอกี ทเี่ ปน็ ของแข็งและละลายนำ้ ได้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. มีสารเคมีอะไรอีกบ้างท่ีเป็นของแข็งและไม่ละลายน้ำ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. นักศึกษารูจ้ กั สารเคมีอะไรบ้างท่เี ป็นของเหลวและละลายนำ้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
8. มีสารเคมีอะไรบ้างที่เป็นของเหลวและไม่ละลายนำ้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
19
คำช้แี จง ให้นักศึกษาทำการทดลอง เร่ือง ตรวจสอบความเปน็ กรด-เบสของสาร
อปุ กรณ์ 2. น้ำเกลือ 1 แก้ว
1. นำ้ มะนาว 1 แก้ว 4. น้ำสบเู่ ขม้ ขน้ 1 แกว้
3. นำ้ ปูนใส 1 แกว้ 6. จานแกว้ 5 ใบ
5. นำ้ ส้มสายชู 1 แก้ว 8. บีกเกอร์ 5 ใบ
7. กระดาษลิตมสั สีแดงและสีน้ำเงิน 1 กลอ่ ง
9. หลอดหยด 5 อัน
วิธีทำ
1. นักศกึ ษาแบง่ กลุ่ม ให้แต่ละกลมุ่ นำกระดาษลติ มัสสแี ดงและสนี ้ำเงินวางลงในจานแกว้ แต่ละใบ
2. ใชห้ ลอดหยดดูดนำ้ มะนาว แลว้ หยดลงบนกระดาษลติ มสั ทั้งสองสี สีละ 1-2 หยด แลว้ สงั เกต
การเปลีย่ นแปลง จากนั้นบันทึกผล
3. ทำการทดลองซำ้ ขอ้ 2 แตเ่ ปลย่ี นจากนำ้ มะนาวเป็นน้ำเกลอื น้ำปนู ใส นำ้ สบู่เข้มข้นและน้ำส้มสายชู
ตามลำดบั
ตารางบันทึกผล
สารละลาย การเปลีย่ นสขี องกระดาษลติ มสั ไม่เปลยี่ นสี
เปลี่ยนจากสีนำ้ เงิน เปล่ียนจากสแี ดง
นำ้ มะนาว
น้ำเกลือ สีแดง สนี ำ้ เงิน
น้ำปูนใส
นำ้ สบเู่ ขม้ ข้น
นำ้ สม้ สายชู
20
สรปุ ผลการทดลอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
21
คำช้ีแจง ใหน้ ักศกึ ษาจำแนกสารที่กำหนดตามการใชง้ าน
สบูเ่ หลว ยากนั ยงุ นำ้ ยาลา้ งจาน ซอสมะเขือเทศ
แชมพูสระผม ดีดที ี ผงชูรส ซอี ๊ิวขาว
นำ้ ส้มสายชู นำ้ ยาลา้ งห้องนำ้ นำ้ ตาลปีบ เกลือ
ยาสฟี นั ผงซกั ฟอก นำ้ ยาปรบั ผ้าน่มุ
สารท่ีใชป้ รุงอาหาร
.............................................................................................................................................................
สารที่ใชท้ ำความสะอาดร่างกาย
.............................................................................................................................................................
สารท่ีใชท้ ำความสะอาดเสอ้ื ผ้า
.............................................................................................................................................................
สารทใี่ ช้ทำความสะอาดภาชนะ
.............................................................................................................................................................
สารทีใ่ ช้ทำความสะอาดหอ้ งน้ำ
.............................................................................................................................................................
สารทีใ่ ช้กำจดั แมลง
.............................................................................................................................................................
22
แบบทดสอบหลงั เรียน
เรื่อง สารเคมใี นชวี ิตประจำวนั และสำนักงาน
คำชี้แจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตวั เลือก จำนวน 20 ขอ้ คะแนน 20 คะแนน
2. ให้นกั ศึกษาเลอื กคำตอบที่ถูกตอ้ งทส่ี ดุ เพียงข้อเดยี ว
1. ซอสมะเขือเทศ มสี มบัติอยา่ งไร
ก. มฤี ทธ์เิ ป็นกรด ข. มฤี ทธ์ิเป็นเบส
ค. มฤี ทธเ์ิ ปน็ กลาง ง. มฤี ทธผิ์ สมผสาน
2. สารในขอ้ ใดใช้ทำความสะอาดผวิ หนงั
ก. สบู่ ข. ยาสฟี นั
ค. สเปรย์ ง. แชมพู
3. ผงซกั ฟอก จัดเปน็ สารประเภทใด
ก. สารปรุงแต่งอาหาร ข. สารกำจดั แมลง
ค. สารซกั ล้าง ง. ยารกั ษาโรค
4. สารในขอ้ ใดใช้แตง่ กลิน่
ก. บอแรกซ์ ข. ผงชรู ส
ค. น้ำนมแมว ง. ซปุ ไกก่ ้อน
5. สารในขอ้ ใดมีอันตรายต่อร่างกาย
ก. โฟมลา้ งหนา้ ข. ยากันยุง
ค. สบเู่ หลว ง. น้ำยาบ้วนปาก
6. กอ่ นใช้สารต้องทำอย่างไรก่อน
ก. สวมถงุ มอื ข. อา่ นฉลากใหเ้ ขา้ ใจ
ค. เปดิ ฝาแล้วเทใส่ภาชนะ ง. เขยา่ ขวดก่อนใช้
7. สารในขอ้ ใดมคี วามเป็นเบสเข้มข้นมากทส่ี ดุ
ก. นำ้ ยาลา้ งจาน ข. แชมพู
ค. ผงซกั ฟอก ง. สบู่
23
8. สญั ลกั ษณ์ไวไฟ ส่วนใหญ่จะพบบนฉลากในข้อใด
ก. ขนมขบเคี้ยว ข. ผลติ ภัณฑล์ า้ งหน้า
ค. อาหารกระป๋อง ง. ยากำจดั แมลง
9. สารในข้อใดมีวิวัฒนาการมาจากสบู่
ก. ผงซักฟอก ข. ยากนั ยุง
ค. นำ้ ยาขดั พ้ืน ง. แชมพู
10. กระป๋องสารกำจดั แมลง เม่ือใชแ้ ล้วควรกำจดั ท้ิงอยา่ งไร
ก. เผาไฟ ข. แยกท้ิงลงถัง
ค. ทิ้งนำ้ ง. ฝงั ดิน
11. การใช้แป้งผสมในยาสีฟันเพือ่ วัตถปุ ระสงคใ์ ด
ก. เกดิ ฟอง ข. มีรสหวาน
ค. เปน็ สารเหนียวขน้ ง. ขัดฟนั ให้ขาว
12. Thickener ในยาสีฟันสูตร 2 ทำหน้าที่อะไร
ก. ทำใหข้ ้น ข. ทำให้คงรปู
ค. ทำใหร้ วมเป็นเนอ้ื เดยี วกัน ง. ทำใหฟ้ นั ขาวเป็นเงางาม
13. ถา้ ต้องการใหย้ าสีฟนั มรี สหวานควรผสมสารใด
ก. นำ้ ผงึ้ ข. นำ้ ตาลทราย
ค. กลเี ซอรีน ง. ถกู ทุกข้อ
14. ส่วนประกอบสำคัญของน้ำยาลา้ งเล็บสูตร 2 คืออะไร
ก. Acetone ข. Ethyl Acetate
ค. Butyl Acetate ง. น้ำสะอาด
15. ไขมันที่ทำจากน้ำมันชนิดใดดที ีส่ ุด สำหรบั ผลิตลปิ สตกิ
ก. น้ำมนั มะพรา้ ว ข. นำ้ มันมะกอก
ค. น้ำมันละหงุ่ ง. นำ้ มันจากเมล็ดฝ้าย
16. ผู้ท่ีมีอาการแพล้ ปิ สตกิ เนอ่ื งจากสารใดในลิปสติก
ก. สี ข. น้ำหอม
ค. นำ้ มัน ง. ไขมัน
24
17. สารใดในแชมพสู ระผมมีสมบตั ิการทำ ความสะอาดเสน้ ผม
ก. Texapan N.40 ข. Texapon BS
ค. Citiol He ง. Bronidox-L
18. ในการผลติ ครีมนวดผมจะตอ้ งใช้สารใดเปน็ สว่ นประกอบมากทสี่ ุด
ก. หัวน้ำหอม ข. นำ้ สะอาด
ค. Dehyten Wex AB ง. Dehyguat AC
19. ส่วนผสมทใี่ ช้มากทสี่ ุดในแป้งหอม คอื อะไร
ก. Borneol ข. Menthol
ค. Talcum Powder ง. แปง้ คารล์ าไมน์
20. ส่วนผสมทเ่ี หมือนกันในยาดมและยาหม่องคืออะไร
ก. Menthol ข. Ucarlyptus
ค. น้ำมนั สะระแหน่ ง. ถกู ทุกข้อ
25
แบบทดสอบหลงั เรยี น
เรอ่ื ง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีเปน็ แบบทดสอบปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ขอ้ คะแนน 20 คะแนน
2. ให้นกั ศกึ ษาเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ้ งทส่ี ดุ เพียงข้อเดยี ว
1. ในการทดลองเพอื่ ศกึ ษาผลของการงอกของเมล็ดถั่วเขยี วในสำลชี ุบนำ้ และสำลีไม่ชบุ นำ้ ควรตงั้ สมมติฐานตาม
ข้อใด
ก. สำลีชุบนา้ํ เปน็ ปัจจยั ในการงอกของเมล็ดถว่ั เขียว
ข. นา้ํ เปน็ ปัจจัยที่สำคัญในการงอกของเมลด็ ถว่ั เขียว
ค. ปริมาณน้ําทีแ่ ตกต่างกนั ทำใหพ้ ืชเจรญิ เติบโตตา่ งกัน
ง. ความชนื้ นา่ จะมีส่วนสมั พันธ์กบั การงอกของเมลด็
2. ในการทดลองเพาะเห็ดฟาง 2 แปลง ในพ้ืนทีเ่ ดียวกัน เวลาเดยี วกัน อาหารเสรมิ และปรมิ าณนำ้ ที่ใช้เหมอื นกนั
และใชเ้ วลาในการเพาะเท่ากนั ดงั นี้
แปลงท่ี 1 วสั ดุท่ใี ชเ้ พาะเห็ดฟาง ไดแ้ ก่ ฟางข้าว
แปลงท่ี 2 วสั ดุทใี่ ชเ้ พาะเห็ดฟาง ได้แก่ ต้นถ่ัวผสมเปลือกฝกั ถ่ัว
การทดลองนี้มสี มมติฐานว่าอย่างไร
ก. แสงมผี ลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดฟาง
ข. อาหารเสรมิ มีผลต่อการเจริญเตบิ โตของเหด็ ฟาง
ค. ความชื้นมีผลตอ่ การเจริญเติบโตของเหด็ ฟาง
ง. วัสดุท่ใี ช้เพาะเหด็ ต่างกนั การเจรญิ เตบิ โตของเห็ดฟางจะต่างกัน
3. ในการทดลองรดี เมล็ดสะตอออกจากฝกั โดยใชเ้ ครอื่ งรดี แบบ 2 ลกู กล้ิง โดยใช้สะตอที่เป็นพนั ธุ์เดยี วกัน ขนาด
ฝัก และเมลด็ เทา่ กนั ลวกนำ้ รอ้ นทีม่ ีอุณหภมู ิ และเวลาในการลวกเท่ากัน จากนั้นนำไปรีดดว้ ยเครื่องรดี เมล็ดสะตอ
โดยตงั้ ระยะห่างของลกู กล้งิ ดงั น้ี 0.3, 0.5 และ 0.7 cm ตามลำดับ การทดลองน้ีมี สมมติฐานว่าอยา่ งไร
ก. ความเรว็ ของลูกกล้ิงมีผลตอ่ การรดี เมลด็ สะตอออกจากฝกั
ข. ลกั ษณะผิวของลูกกลิ้งมีผลตอ่ การรีดเมลด็ สะตอออกจากฝกั
ค. ระยะหา่ งของลกู กลิ้งมีผลตอ่ การรดี เมล็ดสะตอออกจากฝกั
ง. ระยะหา่ งและความเรว็ ของลกู กล้ิงมีผลต่อการรดี เมล็ดสะตอออกจากฝัก
26
4. ขอ้ ใดเป็นความหมายของสมมติฐาน
ก. การวางแผนเกบ็ ข้อมูล
ข. การกำหนดแนวทางการวิจัย
ค. การกำหนดขอบเขตของการวิจยั
ง. การคาดคะเนผลการวิจัยไว้ลว่ งหนา้
5. ข้อใดเปน็ ส่ิงที่สังเกตไดจ้ ากการเปา่ อากาศเข้าไปในลกู โปง่
ก. หลังจากเป่าแล้วลูกโป่งจะมนี ้ําหนักมากขน้ึ
ข. อากาศในลูกโปง่ มีแรงดัน
ค. ถา้ อากาศเขา้ ไปมากๆ ลูกโป่งอาจจะแตกได้
ง. ลูกโปง่ พองออก
6. ขอ้ ใดเป็นข้อมูลจากการสังเกตแท่งลปิ สติก
ก. ลิปสตกิ สีสวย ราคาแพง
ข. ลปิ สตกิ เป็นแท่งยาวประมาณ 5 cm
ค. ลิปสตกิ นท้ี ำในเมืองไทย
ง. ลปิ สตกิ นี้ควรเก็บไวใ้ นทเ่ี ยน็ จะไดไ้ มเ่ ละ
7. จากการทดลองเพ่ือทดสอบวา่ “วัตถตุ ่างชนดิ กนั จะนำความรอ้ นได้ดีไมเ่ ทา่ กัน” ความหมายของการนำความ
รอ้ นในข้อใดสามารถวัดหรอื สังเกตได้
ก. ปรมิ าณความร้อนของวัตถทุ ส่ี ูญหายไป
ข. ปรมิ าณความร้อนของวัตถทุ ่ีเพ่ิมขึน้
ค. ปรมิ าณความรอ้ นที่วัตถุรับได้
ง. การท่คี วามร้อนเคลือ่ นท่ีผ่านวตั ถุ
8. ถา้ ตอ้ งการหาคำตอบวา่ “ปริมาณของผงถา่ นมผี ลการฟอกสีของสารละลายน้ำตาลจรงิ หรือไม่”
ขอ้ มูลทตี่ ้องเก็บในขณะดำเนินการทดสอบคืออะไร
ก. ปรมิ าณน้ำตาล ข. สขี องน้ำตาล
ค. ปรมิ าณของผงถ่าน ง. ภาชนะสำหรบั กรอง
27
9. นกั ศึกษาต้ังสมมติฐานว่า “ถ้าอตั ราการทำงานของเอนไซม์ขึน้ อยู่กับอุณหภูมิ ดังน้นั ถา้ อุณหภูมติ า่ งกนั การ
ทำงานของเอนไซม์จะแตกต่างกนั ” ตวั แปรต้นในสมมตฐิ านดงั กลา่ วคอื ข้อใด
ก. ความแตกต่างของอุณหภมู ิ
ข. ความเข้มข้นของเอนไซม์
ค. การทำงานของเอนไซม์
ง. ชนดิ ของเอนไซม์
10. จากสมมติฐานทวี่ า่ “พืชทีป่ ลกู ในดนิ ตา่ งชนดิ กันจะเจรญิ เตบิ โตได้แตกตา่ งกนั ” ตวั แปรตน้ คอื ข้อใด
ก. ชนิดของดิน
ข. ขนาดของลำต้นหลงั ปลูก
ค. การเจริญเตบิ โตของพชื
ง. ชนิดของพืชที่ปลกู
11. นอ้ งหญิงทำการเล้ียงไหม 3 วธิ ี โดยนำตัวไหมมา 20 ตัวจัดการทดลอง โดยใบหม่อน วันละ 1 กโิ ลกรัม
จำนวนใบทนี่ ับจากยอด แตกต่างกันดังน้ี
ชุดที่ 1 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 3-5 โดยนบั จากดอก
ชดุ ท่ี 2 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 6-8 โดยนับจากดอก
ชดุ ที่ 3 ใหใ้ บหมอ่ นใบที่ 9-11 โดยนบั จากดอก
ผลปรากฏว่าหลังจากเวลาผ่านไป 7 วัน ชุดการทดลองที่ 2 ตวั ไหมมีการเจริญเตบิ โตมากท่ีสดุ น้องหญงิ จึงตัดสินใจ
เล้ียงไหมตามชุดการทดลองท่ี 2 นักเรียนคดิ วา่ ตัวแปรต้นในการทดลองของน้องหญิง คอื อะไร
ก. จำนวนตวั ไหม
ข. จำนวนใบหม่อน
ค. อายขุ องใบหม่อน
ง. การเจรญิ เติบโตของตัวไหม
12. “จาการทดลองปลกู ข้าวโพด 3 แปลง โดยใช้ดินสภาพเดียวกนั แปลงที่ 1 ใช้ปุ๋ย A 25 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่
แปลงที่ 2 ใชป้ ุ๋ย B 25 กโิ ลกรัมต่อไรแ่ ปลงท่ี 3 ใช้ปยุ๋ C 25 กิโลกรมั ต่อไร่ พบวา่ ขา้ วโพดทงั้ 3 แปลง มี
ผลผลิตตอ่ ไรแ่ ตกต่างกันอยา่ งชัดเจน” ขอ้ ใดเปน็ ตัวแปรตน้
ก. ผลผลติ ของขา้ วโพดต่อไร่
ข. ชนดิ ของดินท่ีปลกู
ค. พนั ธุข์ องข้าวโพด
ง. ชนิดของปุ๋ย
28
13. ในการทดลองเพื่อทดสอบสมมตฐิ านที่ว่า “เม่ือตอนพชื แล้วไวเ้ ป็นเวลาต่างกนั และรดน้ำอยา่ งสม่ำเสมอ การ
งอกของรากพืชจะต่างกนั ” ส่ิงทีจ่ ะต้องจดั ใหแ้ ตกตา่ งกนั ในการทดลองคอื อะไร
ก. ชนดิ ของพืชทใี่ ชใ้ นการตอน
ข. ปริมาณของน้ำ
ค. เวลาท่ปี ล่อยไว้หลังจากตอนแล้ว
ง. วัสดุท่ีใชใ้ นการตอน
14. ถ้าต้องการทดสอบสมมติฐานทว่ี ่า “กลว้ ยตากแหง้ สามารถเกบ็ ไว้ได้นานวัน ถา้ ใสส่ ารละลายน้ำตาลท่ีมีความ
เข้มขน้ สงู ” ส่งิ ทนี่ ักศกึ ษาต้องจัดใหแ้ ตกตา่ งกันในการทดสอบเพ่ือหาคำตอบคืออะไร
ก. ความสดของกลว้ ย
ข. ขนาดของกล้วย
ค. ปรมิ าณน้ำตาล
ง. อณุ หภูมทิ ีใ่ ชใ้ นการตาก
15. ถ้าต้องการหาคำตอบว่า “ปรมิ าณของผงถ่านมผี ลการฟอกสขี องสารละลายน้ำตาลจรงิ หรอื ไม่” ข้อมลู ที่ต้อง
เก็บในขณะดำเนินการทดสอบคอื อะไร
ก. ปรมิ าณน้ำตาล
ข. สขี องน้ำตาล
ค. ปริมาณของผงถา่ น
ง. ภาชนะสำหรับกรอง
16. ในการทดสอบเพื่อทจี่ ะดูว่า “เม่ือปล่อยลกู บอลจากทีร่ ะดับความสูงเทา่ ๆ กนั ลงสู่พื้น ลกู บอล
จะกระดอนข้ึนสูงเทา่ ๆ กนั หรือไม่” สิ่งทต่ี ้องคอยตดิ ตามดูคืออะไร
ก. ระยะทางระหว่างลกู บอลกบั พ้ืนขณะปล่อย
ข. ระยะเวลาท่ีลูกบอลตกจากจดุ ปลอ่ ยถึงพน้ื
ค. ระยะเวลาทล่ี ูกบอลกระดอนจากพน้ื ถึงจุดสงู สุด
ง. ระยะทางระหวา่ งลูกบอลกบั พนื้ ทก่ี ระดอนถงึ จดุ สูงสดุ
17. ในการทดลองเพ่ือทจ่ี ะศกึ ษาวา่ “แสงสว่างมีอิทธพิ ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพืช” ในการดำเนนิ
การทดลอง นักศึกษาเก็บข้อมลู ในขอ้ ใดซึง่ หมายถึงการเจรญิ เติบโตของพืช
ก. จำนวนใบท่เี พิ่มข้นึ
ข. โครงสรา้ งของใบ
ค. ความเข้มของสีเขียวบนใบ
ง. ปริมาณแป้งทสี่ ะสมอยู่ในใบ
29
18. ข้อใด ไมใ่ ช่ กิจกรรมการแปลความหมาย
ก. การบันทกึ ข้อมูลลงในตาราง
ข. การนาํ เสนอข้อมลู
ค. การเขยี นกราฟระบบพิกัดฉาก
ง. การรวบรวมขอ้ มูล
ใช้ขอ้ มลู ในตารางตอบคำถามข้อ 19
ชนดิ ของสตั ว์ อาหารทกี่ ิน
ชา้ ง พืช
งู สัตว์
ไก่ พชื และสัตว์
เสือ สัตว์
ววั พืช
ปลา พืชและสัตว์
19. จากข้อมูลข้อใดเป็นการตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปที่ดที ่ีสดุ
ก. เสือและไกก่ ินสัตวไ์ ด้
ข. พชื เป็นผูผ้ ลิตและผ้บู รโิ ภค
ค. ช้างเป็นสัตวใ์ หญจ่ งึ กนิ พืชเปน็ อาหาร
ง. สัตวแ์ บ่งออกเป็น 3 พวกคือ กินพืช กินสตั ว์และกนิ ทั้งพชื และสัตว์
20. จากการทดลองเมอื่ เอาสาร A ทบี่ ดกบั ไม่บด ไปละลายน้ำ ผลการทดลองปรากฏดังตารางต่อไปน้ี
สาร ปรมิ าณสาร (g) ปรมิ าตรนำ้ อุณหภูมขิ องน้ำ (oC) ปริมาณสารที่ละลาย (g)
(cm3)
A 2 40 35 2.5
(ไมบ่ ด)
A 2 40 35 4.5
(ละเอยี ด)
นักศึกษาจะตีความหมายขอ้ มลู และลงข้อสรปุ อย่างไร
ก. ปรมิ าณของสาร A ที่ละลายในน้ำจะมากหรอื น้อยไม่ข้นึ กบั อณุ หภูมิของนำ้
ข. สาร A ที่บดละเอียดจะละลายในน้ำไดม้ ากกว่าสาร A ที่ไม่ไดบ้ ด
ค. นำ้ ที่มีอุณหภูมิสูงกวา่ จะละลายสาร A ท่บี ดละเอียดได้มากกว่า
ง. นำ้ ท่ีมีอณุ หภมู ิสูงกวา่ จะละลายสาร A ท่ีไมบ่ ดได้มากกว่า
30
บรรณานุกรม
จักรพนั ธ์ุ ปัญจะสุวรรณ. (2563). วทิ ยาศาสตร์งานธรุ กิจและบริการ. กรุงเทพฯ: ศนู ยส์ ง่ เสรมิ วิชาการ.
พิมพค์ รั้งท่ี 1 . ปที ี่พิมพ์ 2563.
ณัฐวุฒิ ประทุมชาติ. (2563). วทิ ยาศาสตร์งานธรกุ จิ และบริการ. กรุงเทพฯ: สำนักพมิ พศ์ นู ยส์ ง่ เสรมิ อาชีวะ.
พิมพ์ครัง้ ท่ี 1 . ปีที่พมิ พ์ 2563.
นวลอนงค์ อชุ ภุ าพ. (2563). วทิ ยาศาสตรง์ านธรุ กจิ และบริการ. กรงุ เทพฯ: ศูนยห์ นงั สือเมอื งไทย. พิมพ์ครง้ั ท่ี 1
ปที ีพ่ ิมพ์ 2563.
มนวรรธณ์ นกอม่ิ . (2563). วิทยาศาสตรง์ านธรุ กิจและบริการ. กรุงเทพฯ: ศนู ยห์ นงั สือเมืองไทย. พิมพ์คร้ังที่ 1 .
ปีที่พิมพ์ 2563.
31
32
ข้อท่ี เฉลย ข้อที่ เฉลย
1. ก 11. ค
2. ก 12. ก
3. ค 13. ง
4. ค 14. ก
5. ข 15. ค
6. ข 16. ข
7. ค 17. ก
8. ง 18. ค
9. ง 19. ค
10. ข 20. ง
33
ข้อท่ี เฉลย ข้อที่ เฉลย
1. ง 11. ค
2. ง 12. ง
3. ค 13. ค
4. ง 14. ค
5. ง 15. ข
6. ข 16. ง
7. ง 17. ก
8. ข 18. ง
9. ก 19. ง
10. ก 20. ข
34
คำช้ีแจง ใหน้ กั ศึกษาสำรวจการใชส้ ารในการทำกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวนั แลว้ บนั ทึกข้อมูลลงใน
ตาราง
กจิ กรรมทท่ี ำ ช่อื สารทใ่ี ช้ การใช้ประโชน์
1. แปรงฟัน ยาสีฟนั ทำความสะอาดฟัน
2. อาบน้ำ สบู่ ทำความสะอาดร่างกาย
3. สระผม แชมพสู ระผม ทำความสะอาดเสน้ ผม
4. ปรงุ รสอาหาร น้ำปลา/นำ้ ตาล/นำ้ ส้มสายชู ปรงุ รสอาหาร
5. ลา้ งจานชาม น้ำยาลา้ งจาน ทำความสะอาดภาชนะ
35
คำสงั่ ใหน้ ักศึกษาทดลองเกย่ี วกับสมบตั ิของสารเคมีดังน้ี
อปุ กรณก์ ารทดลอง 2. ชอ้ นพลาสติก 3. กระดาษลิตมสั 10. หลอดดดู
1. ถ้วยพลาสติก 5. น้ำตาลทราย 6. แปง้ มนั
4. น้ำ 8. นำ้ สม้ สายชู 9. น้ำมนั พชื
7. ผงซักฟอก
วิธีการทดลอง
1. ตักสารเคมีท่ีเตรียมไวแ้ ต่ชนดิ ปริมาณ 2 ช้อนใส่ในหลอดแก้วทดลอง แลว้ สังเกตลักษณะของสี
และสถานะ บนั ทกึ ผลในตารางบนั ทึกผลการทดลอง
2. เติมนำ้ ลงในถ้วยพลาสติกปรมิ าณ 5 ซีซี ทล่ี ะหลอดใชแ้ ทง่ คน สงั เกตการณเ์ ปลี่ยนแปลงแล้ว
บนั ทึกในตารางบันทกึ ผลการทดลอง
ผลการทดลอง
สารเคมี สถานะ สี ลกั ษณะของสารเคมเี มอ่ื เติมน้ำลงไป
นำ้ ตาลทราย ของแข็ง ขาว ละลายน้ำ
แป้งมัน ของแข็ง ขาว ละลายน้ำ
ผงซกั ฟอก ของแข็ง ขาว
น้ำสม้ สายชู ของเหลว ใส ละลายนำ้ ได้บ้าง
นำ้ มนั พืช ของเหลว เหลอื งออ่ น ละลายนำ้
ไม่ละลายน้ำ
สรปุ ผลการทดลอง พิจารณาตามคำตอบของนักศกึ ษา โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผูส้ อน
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................
36
คำถามหลังการทดลอง
1. สารเคมีท่ีนำมาทดลองมีสถานะใดบ้าง
ของแข็ง และ ของเหลว
2. สารเคมใี ดบ้างท่ีมสี ถานะและสีเหมือนกัน
นำ้ ตาลทราย แปง้ มนั ผงซักฟอก สีขาว สถานะของแข็ง
3. สารเคมใี ดบ้างทนี่ ำมาทดลองเมื่อผสมนำ้ แล้วละลายหมดไดข้ องเหลว
นำ้ ตาลทราย แป้งมนั
4. สารเคมชี นิดใดบ้างทนี่ ำมาทดลองเมื่อผสมกับน้ำแล้วไดข้ องเหลวข่นุ หรอื ชัน้
ผงซักฟอก น้ำมันพืช
5. นอกจากสารท่นี ำมาทดลองนักเรียนคิดวา่ สารเคมอี ะไรอีกทเี่ ป็นของแขง็ และละลายน้ำได้
เกลอื ปุ๋ยยูเรยี ดา่ งทบั ทิม
6. มีสารเคมีอะไรอีกบา้ งทเี่ ป็นของแข็งและไมล่ ะลายนำ้
ผงชอล์ก ยาขดั รองเท้า พลาสตกิ
7. นักศึกษารู้จักสารเคมอี ะไรบา้ งทเ่ี ป็นของเหลวและละลายนำ้
นำ้ ยาล้างห้องน้ำ แอลกอฮอล์ล้างแผล น้ำอดั ลม นำ้ ยาล้างจาน
8. มสี ารเคมีอะไรบ้างที่เปน็ ของเหลวและไมล่ ะลายนำ้
น้ำมันพืช
37
คำชแี้ จง ใหน้ ักศกึ ษาทำการทดลอง เรื่อง ตรวจสอบความเป็นกรด-เบสของสาร
อปุ กรณ์ 2. น้ำเกลอื 1 แกว้
1. น้ำมะนาว 1 แก้ว 4. น้ำสบู่เขม้ ขน้ 1 แกว้
3. น้ำปูนใส 1 แก้ว 6. จานแกว้ 5 ใบ
5. น้ำสม้ สายชู 1 แก้ว 8. บีกเกอร์ 5 ใบ
7. กระดาษลิตมัสสแี ดงและสีน้ำเงนิ 1 กลอ่ ง
9. หลอดหยด 5 อัน
วิธีทำ
1. นักศึกษาแบ่งกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกล่มุ นำกระดาษลติ มัสสีแดงและสีน้ำเงนิ วางลงในจานแกว้ แตล่ ะใบ
2. ใชห้ ลอดหยดดูดน้ำมะนาว แล้วหยดลงบนกระดาษลิตมัสท้ังสองสี สีละ 1-2 หยด แลว้ สังเกต
การเปลยี่ นแปลง จากนั้นบนั ทกึ ผล
3. ทำการทดลองซ้ำข้อ 2 แต่เปล่ียนจากน้ำมะนาวเปน็ น้ำเกลอื นำ้ ปูนใส นำ้ สบเู่ ขม้ ข้นและนำ้ ส้มสายชู
ตามลำดับ
ตารางบนั ทึกผล
สารละลาย การเปล่ียนสขี องกระดาษลิตมัส ไม่เปลยี่ นสี
เปลีย่ นจากสีน้ำเงิน เปลย่ี นจากสแี ดง
น้ำมะนาว
น้ำเกลอื สีแดง สนี ำ้ เงิน
น้ำปนู ใส
38
น้ำสบเู่ ข้มข้น
นำ้ สม้ สายชู
สรุปผลการทดลอง
สารที่เปล่ยี นสีกระดาษลิตมัสสนี ำ้ เงนิ เปน็ สแี ดง คือ น้ำมะนาว และน้ำสม้ สายชู
สารทเ่ี ปลย่ี นสกี ระดาษลิตมัสสแี ดงเปน็ สนี ้ำเงิน คอื นำ้ ปูนใส และนำ้ สบู่เขม้ ขน้
สารท่ีไมเ่ ปลี่ยนสีของกระดาษลิตมัส คอื น้ำเกลอื
39
คำช้แี จง ใหน้ ักศกึ ษาจำแนกสารท่ีกำหนดตามการใช้งาน
สบูเ่ หลว ยากันยุง นำ้ ยาล้างจาน ซอสมะเขือเทศ
แชมพูสระผม ดีดีที ผงชรู ส ซอี ๊ิวขาว
นำ้ สม้ สายชู นำ้ ยาล้างหอ้ งนำ้ น้ำตาลปบี เกลอื
ยาสฟี ัน ผงซักฟอก น้ำยาปรบั ผา้ นมุ่
สารทใ่ี ช้ปรุงอาหาร
ซอสมะเขือเทศ ผงชรู ส ซอี ิ๊วขาว นำ้ ส้มสายชู น้ำตาลปีบ เกลือ
สารทใ่ี ชท้ ำความสะอาดร่างกาย
สบู่เหลว แชมพสู ระผม ยาสฟี นั
สารที่ใชท้ ำความสะอาดเสื้อผา้
ผงซกั ฟอก น้ำยาปรบั ผ้าน่มุ
สารทใี่ ช้ทำความสะอาดภาชนะ
น้ำยาลา้ งจาน
สารท่ใี ชท้ ำความสะอาดห้องน้ำ
น้ำยาล้างห้องนำ้
สารท่ีใชก้ ำจัดแมลง
ยากนั ยุง ดีดีที