ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
วิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
รหัสวิชา 20000-1301
ประกอบกิจกรรมการสอน สำหรับนักเรียน
ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 สารและการเปลี่ยนแปลง
ชุดที่ 3 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสาร
โดย
นางสาวทิพกฤตา อินไชย
ตำแหน่ง ครู
วิทยาลัยการอาชีพตากฟ้า อาชีวศึกษาจังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ
1
คำนำ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง สารและการเปลี่ยนแปลง ชุดที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสาร ระดับ
ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) จัดทำขึน้ ตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชาและคำอธิบายรายวชิ า
ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562 ใช้เป็นสื่อการเรียนประกอบการจัดการ
เรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 สารและการเปลี่ยนแปลง รายวชิ าวิทยาศาสตร์เพอ่ื พฒั นาทักษะชีวิต รหัสวิชา
20000-1301 ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพื่อให้นักเรียนใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์สืบ
เสาะหาความรู้ เกิดความรู้ที่คงทนถาวรและได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ช่วยสร้าง
นิสัยให้นักเรียนเป็นผู้คิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความกระตือรือร้นในการเรียน ตลอดจนส่งเสริมให้
นกั เรียนมีจิตวทิ ยาศาสตร์
ผู้จัดทำหวงั เปน็ อยา่ งยิ่งว่าชดุ การเรียนรเู้ ล่มน้ี จะเป็นประโยชนต์ อ่ การพฒั นานกั เรยี นและมีส่วนช่วย
ให้ทุกทา่ นที่มสี ่วนเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอน เกดิ ความเข้าใจซึง่ เป็นประโยชนแ์ ก่นกั เรียน และชว่ ย
ใหน้ ักเรียนเกิดทกั ษะสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้อยา่ งดยี ่งิ
ทพิ กฤตา อินไชย
สารบัญ 2
เรื่อง หนา้
คำนำ 1
สารบญั 2
คำชี้แจงประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3
คำชแี้ จงประกอบการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรสู้ ำหรับนกั เรียน 4
ขนั้ ตอนการศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5
แนวทางการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนกั เรยี น 6
สมรรถนะประจำหนว่ ย จุดประสงค์รายวิชาและคำอธบิ ายรายวชิ า 7
แบบทดสอบก่อนเรยี น 8
ใบความรูท้ ี่ 4 เรอื่ งการเปลี่ยนแปลงสาร 15
กิจกรรมท่ี 1 การเปลีย่ นแปลงสาร 21
แบบฝึกหัดที่ 1 การเปลย่ี นแปลงสาร 24
แบบทดสอบหลังเรยี น 25
บรรณานกุ รม 28
ภาคผนวก 29
3
คำช้แี จงประกอบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื ง สารและการเปลีย่ นแปลง รายวิชาวิทยาศาสตรเ์ พือ่ พัฒนาทกั ษะชีวิต
รหัสวิชา 20000-1301 ระดับช้นั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) แบง่ เนอ้ื หาออก เป็นท้งั หมด 4 ชดุ ดังนี้
ชดุ ท่ี 1 ความหมายและสมบัติของสาร
ชดุ ที่ 2 การจำแนกสาร
ชุดท่ี 3 การเปลย่ี นแปลงสาร
ชุดท่ี 4 การแยกสาร
แต่ละชุดประกอบด้วย คำนำ คำชี้แจง แนวทางการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับนักเรียน
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ใบความรู้ กิจกรรม แบบฝกึ หัด แบบทดสอบหลังเรียน เฉลย
กิจกรรม เฉลยแบบฝึกหัด เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนใช้ประกอบการเรียน มี
เนื้อหาสาระและกิจกรรมเหมาะสมกับวัยและความสามารถของนักเรียน นักเรียนต้องเรยี นรู้ด้วยตนเอง โดย
ครผู สู้ อนคอยดแู ลและช่วยเหลือ กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นเกิดการเรียนรู้ เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดแ้ ลกเปล่ียนเรียนรู้
ในขน้ั ตอนการทำกิจกรรมตามแผนการจดั การเรยี นรทู้ ค่ี รูผู้สอนจัดทำขน้ึ
4
คำชแี้ จงประกอบการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้
สำหรับนักเรยี น
นักเรียนอา่ นคำชี้แจงต่อไปน้ีใหเ้ ข้าใจ
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฉบับนี้ เป็นชุดที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสาร หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง สารและ
การเปล่ยี นแปลง
2. นกั เรยี นทุกคนต้องซอ่ื สตั ยต์ ่อตนเอง ไม่เปดิ ดูเฉลย กอ่ นที่จะลงมือทำกจิ กรรม
3. นักเรียนทุกคนควรใหค้ วามรว่ มมอื กันในการคดิ การสบื คน้ ข้อมูล การปฏบิ ัติ การทดลอง
และการทำกิจกรรมตา่ งๆ ตามชุดกจิ กรรมจนเสร็จทุกกจิ กรรมอยา่ งเตม็ ความสามารถ
4. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน จำนวน 10 ข้อ เพือ่ ตรวจสอบความรเู้ ดมิ และเป็นขอ้ มูลในการ
พัฒนา สง่ เสริม หรอื แก้ไขการเรียนรู้ของนักเรียนแล้วตรวจคำตอบจากแนวคำตอบ พรอ้ มทง้ั บันทึกคะแนนลง
ในแบบบนั ทึกคะแนน (ทำลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรมท่คี รแู จกให)้
5. ศึกษารายละเอียดของเนื้อหา กิจกรรม จากใบกิจกรรมและแนวคำตอบใบกิจกรรมตามลำดับ
ขนั้ ตอนของชดุ กจิ กรรมการเรียนรูฉ้ บบั นี้ ซ่ึง ไดแ้ ก่
5.1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
5.2 ศึกษาเนื้อ หาในใบกิจกรรมเนื้อหา
5.3 ทำกจิ กรรมในใบกิจกรรม
5.4 แบบทดสอบหลังเรียน
6. นกั เรยี นตรวจคำตอบ ประเมนิ ผลตามเฉลยและแนวคำตอบ ซึง่ อยใู่ นชุดกิจกรรม
7. การปฏิบัตติ ามกิจกรรม ควรทำให้เสร็จตามกำหนดเวลาและหากนกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจให้กลบั ไป
ศกึ ษาใบกิจกรรมเน้ือหาอีกคร้ัง (สืบคน้ เพ่ิมเติม หรือปรึกษาครู)
8. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น จำนวน 10 ข้อ แลว้ ตรวจคำตอบจากเฉลยในชดุ กจิ กรรม
พร้อมทั้งบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนน เพ่ือประเมนิ ตนเองว่าสามารถบรรลตุ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ทก่ี ำหนดไว้หรอื ไม่ (ทำลงในแบบบันทึกกิจกรรม ทีค่ รูแจกให)้
9. เกบ็ วัสดุอปุ กรณ์และชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ง คืนครูเม่ือปฏบิ ัติกิจกรรมเสร็จส้ิน แลว้
5
การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต เรื่อง
สารและการเปลี่ยนแปลง ชุดที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสาร ประกอบการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอน สำหรับนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพื่อให้
นักเรียนได้รับ ประสบการณอ์ ย่างครบถ้วน ขอให้นักเรียนอ่านคำแนะนำ และ ปฏิบัติ
ตามคำช้แี จงในแตล่ ะขนั้ ตอน ตงั้ แต่ตน้ จนจบ ดงั ตอ่ ไปนี้
ขั้นตอนการศกึ ษาชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
ศึกษาคำแนะนำการใช้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
ทดสอบก่อนเรียน
ดำเนนิ การใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ วชิ าวิทยาศาสตร์เพ่ือพฒั นาทักษะชวี ิต เรื่อง สารและการ
เปลีย่ นแปลง ชดุ ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงสาร ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนสำหรบั นกั เรยี น
ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) โดยจดั กจิ กรรมให้นักเรยี นได้ปฏิบัติ กิจกรรมกลุ่มดงั น้ี
1. ขั้นสร้างความสนใจ : กจิ กรรมคำถามชวนคดิ
2. ขั้นสำรวจและคน้ หา : กิจกรรมท่ี 1 การเปลี่ยนแปลงสาร
3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป : กจิ กรรมท่ี 1 การเปลย่ี นแปลงสาร
4. ข้นั ขยายความรู้ : แบบฝึกหดั ที่ 1 การเปลี่ยนแปลงสาร
5. ขั้นประเมินผล : กจิ กรรมประเมินผลการเรยี นรู้
ทดสอบหลงั เรียน
ผ่านเกณฑ์
ศกึ ษากจิ กรรมชดุ ต่อไป
6
แนวทางการใช้ชดุ กิจกรรมการ
เรียนรสู้ ำหรับนักเรยี น
1. นักเรียนศึกษาผลการเรยี นรู้
2. นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
3. นกั เรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมในชุดการเรียนรู้
4. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน
5. นักเรียนประเมินความพงึ พอใจที่มตี อ่ ชุดการเรียนรู้
6. ถา้ นกั เรยี นมขี ้อสงสัยในการศกึ ษาสามารถปรกึ ษาครไู ดต้ ลอดเวลา
7
สมรรถนะประจำหน่วย จดุ ประสงคร์ ายวชิ าและคำอธบิ ายรายวชิ า
สมรรถนะประจำหน่วย
แสดงความรู้ ทักษะ และปฏิบตั กิ ารเกี่ยวกบั สารและการเปล่ียนแปลง
จดุ ประสงค์รายวิชา
1. อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงของสารทางกายภาพและทางเคมีได้
2. ทำการทดลองและสรปุ ผลการทดลองการเปลย่ี นแปลงของสารได้
คำอธิบายรายวชิ า
ศึกษาและปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมโครงงานวทิ ยาศาสตร์ หน่วยและการ
วัด แรงและการเคลอ่ื นท่ี นาโนเทคโนโลยี โครงสร้างอะตอมตารางธาตุ สารและการเปลี่ยนแปลง ปฏิกริ ยิ าเคมี
ในชวี ติ ประจำวนั ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยชี วี ภาพและระบบนิเวศ
เวลาทใ่ี ช้ 2 ช่วั โมง
8
แบบทดสอบก่อนเรียน
วดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน
เรื่อง สารและการเปล่ียนแปลง
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้เี ป็นแบบทดสอบปรนัย 4 ตัวเลอื ก จำนวน 20 ข้อ คะแนน 20 คะแนน
2. ให้นักเรียนเลอื กคำตอบท่ีถกู ตอ้ งที่สดุ เพยี งข้อเดยี ว
1. ข้อใดกลา่ วถึงความหมายของสสารถกู ต้อง
ก. สิง่ ท่ีมตี ัวตน มมี วล มนี ้ำหนัก
ข. ธาตุตา่ ง ๆ ท่ีมีอยใู่ นธรรมชาติ
ค. ส่งิ ทม่ี ีองค์ประกอบอยา่ งเดียวกัน
ง. ทกุ สิ่งทกุ อยา่ งทีอ่ ยู่รอบ ๆ ตัวเรา
2. ข้อใดต่อไปนี้ไม่จัดเปน็ สาร
ก. เกลอื
ข. เสยี ง
ค. อากาศ
ง. ทองคำ
3. ขอ้ ความใดแสดงถึงลักษณะของสารได้ถกู ต้อง
ก. นำ้ จะมกี ารเปลยี่ นแปลงตามภาชนะทีใ่ ส่
ข. หนิ สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างไดต้ ามทเี่ ราตอ้ งการ
ค. อากาศจะคงท่รี ูปร่างเมื่อปล่อยให้อยใู่ นพืน้ ท่ีจำกัด
ง. นำ้ แข็งจะคงสภาพไม่มกี ารเปลย่ี นแปลงใดเมื่ออณุ หภูมคิ งที่
4. สารใดต่อไปนี้เป็นของแข็ง ของเหลว และกา๊ ซตามลำดับ
ก. น้ำแขง็ น้ำปลา ออกซิเจน
ข. นำ้ ปลา นำ้ ตาล ออกซิเจน
ค. น้ำแข็งแห้ง น้ำปลา ออกซเิ จน
ง. นำ้ ปลา ออกซิเจน นำ้ แขง็ แห้ง
9
5. ข้อใดคือสมบตั ิของที่เหมือนกนั ของของแขง็ และของเหลว
ก. รปู ร่าง
ข. ปรมิ าตร
ค. เปน็ ของไหล
ง. การจัดเรียงของอนุภาค
6. สารเนือ้ เดยี ว หมายถงึ อะไร
ก. สารทีส่ ังเกตเหน็ เนื้อสารไมก่ ลมกลืนเปน็ เน้อื เดียวกัน
ข. สารทป่ี ระกอบด้วยสารเพียงอยา่ งเดียว
ค. สารท่สี ังเกตเหน็ เน้อื สารกลมกลืนเป็นเนอื้ เดยี วกนั ท้งั หมด
ง. สารทม่ี องเหน็ เป็นเนอ้ื สารคนละอย่างได้ชัดเจน
7. ข้อใดกล่าวถึงสารเนอื้ ผสมไดถ้ ูกต้องที่สุด
ก. มีหลายสถานะ ลกั ษณะใสไม่มสี ี
ข. เนอื้ สารทกุ สัดส่วนมีสมบัตไิ ม่เหมือนกนั
ค. เปน็ ได้ทั้งสารบรสิ ทุ ธิ์และสารละลาย
ง. มจี ุดหลอมเหลวและจดุ เดือดท่ีจุดเดียวกัน
8. ถา้ จำแนกออกเปน็ ของแขง็ ของเหลว แกส๊ นักเรยี นตอ้ งใช้เกณฑใ์ นข้อใด
ก. การนำไฟฟา้
ข. ปรมิ าตร
ค. ความหนาแน่น
ง. สถานะ
9. ขอ้ ใดจำแนกสารโดยใช้สถานะเปน็ เกณฑ์
ก. นำ้ ปลา น้ำมนั หอย นำ้ ตาล
ข. ผงชรู ส เกลอื ป่น ซีอ้ิว
ค. สบู่ ผงซกั ฟอก นำ้ ยาล้างจาน
ง. เกลอื ปน่ น้ำตาลทราย พริกไทย
10
10. ข้อใดเรยี งลำดบั ขนาดอนุภาคของสารจากขนาดเลก็ กลาง ใหญ่
ก. สารละลาย คอลลอยด์ สารแขวนลอย
ข. คอลลอยด์ สารละลาย สารแขวนลอย
ค. สารแขวนลอย คอลลอยด์ สารละลาย
ง. สารละลาย สารแขวนลอย คอลลอยด์
11. ข้อใดเป็นการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ
ก. การเกดิ สนิม
ข. การเนา่ เป่ือยของสง่ิ มชี ีวิต
ค. การลอยได้ของฟองน้ำ
ง. การลุกติดไฟของกระดาษ
12. ข้อใดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ก. น้ำแขง็ ลอยได้ในน้ำ
ข. เงินนำไฟฟา้ ได้ดีท่ีสุด
ค. เกลอื ละลายได้ดีในน้ำรอ้ น
ง. การสกุ ของมะละกอ
13. ข้อใดเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
1. การละลายเกลือ
2. การเกิดสนมิ
3. การจุดธูป
4. การกลั่นน้ำ
ก. ขอ้ 1 , 2
ข. ข้อ 1 , 3
ค. ขอ้ 2 , 3
ง. ขอ้ 2 , 4
14. การเปล่ียนแปลงในข้อใดไม่ใชก่ ารเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ
ก. การระเหดิ ของลกู เหม็น
ข. การละลายของเกลอื ในน้ำ
ค. การย่อยสลายสารอินทรีย์ในดนิ
ง. การควบแนน่ ของไอนำ้ ในอากาศ
11
15. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้อง
ก. การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ คือการเปล่ียนแปลงที่ไม่มกี ารเปลี่ยนโครงสรา้ งทางเคมี
ข. การเปลีย่ นแปลงทางเคมี สารจะสามารถเปล่ียนกลับมาเปน็ สารเดิมได้
ค. สมบัติทางกายภาพคือสมบตั ิท่ีสามารถทดสอบโดยใชเ้ ครื่องมือทดสอบอย่างงา่ ยได้
ง. ตวั อยา่ งสมบตั ิทางกายภาพ เช่น จุดหลอมเหลว ผลึกของสาร
16. นักเรยี นจะใช้หลกั การใดในการแยกกรวดออกจากทราย
ก. การทำให้ตกตะกอน
ข. การใช้ตะแกรงร่อน
ค. การกรอง
ง. การตกผลกึ
17. นกั เรียนจะใช้หลักการใดในการแยกผงตะไบจากน้ำตาล
ก. การรอ่ น
ข. การกรอง
ค. การหยบิ ออก
ง. การใชแ้ มเ่ หลก็
18. สารผสมทุกข้อใช้หลักการระเหดิ ยกเวน้ ข้อใด
ก. การบูร และ เกลอื แกง
ข. พิมเสน และ น้ำตาลทราย
ค. ผงไอโอดีน และเอทานอล
ง. ลูกเหม็น และ ผงถ่าน
19. ข้อใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ งเกี่ยวกับการตกผลกึ
ก. อาศยั หลักการละลายได้ที่ต่างกัน
ข. สารที่ละลายได้นอ้ ยกวา่ จะตกผลกึ ออกมากอ่ น นกั เรยี นมาทบสอบวัดความรู้
ค. สารตัวหนง่ึ ในสารผสมจะไม่ละลายในตวั ทำละลาย ก่อนเรียนก่อนคะ่
ง. ผลึกจัดเป็นสารบรสิ ุทธิ์
20. ในการแยกนำ้ มันดบิ ในอตุ สาหกรรมน้ำมนั ใช้วิธกี ารใด
ก. อาศยั ความหนาแน่น
ข. การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย
ค. การกล่ันลำดับสว่ น
ง. การระเหิ
12
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เปน็ แบบทดสอบปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ข้อ คะแนน 10 คะแนน
2. ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องทสี่ ุดเพียงข้อเดยี ว
1. ข้อใดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
ก. การเกดิ สนมิ
ข. การเน่าเปือ่ ยของสงิ่ มชี ีวิต
ค. การลอยได้ของฟองน้ำ
ง. การลกุ ติดไฟของกระดาษ
2. ข้อใดเปน็ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ก. น้ำแข็งลอยได้ในน้ำ
ข. เงนิ นำไฟฟ้าได้ดที ่สี ดุ
ค. เกลือละลายไดด้ ีในน้ำร้อน
ง. การสุกของมะละกอ
3. ขอ้ ใดจดั เปน็ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ก. การตม้ น้ำ
ข. การละลายนำ้ ตาล
ค. การเกิดหนิ งอกหินย้อย
ง. การทำใหเ้ หล็กเป็นแมเ่ หล็ก
4. จงพจิ ารณาข้อความต่อไปน้ี
1. การเปล่ยี นแปลงสถานะของน้ำจากของแขง็ เปน็ ของเหลวและไอน้ำ เป็นการเปลี่ยนแปลงสมบัติ
ทางเคมี
2. การเผาไหมข้ องเชื้อเพลงิ เปน็ การเปลยี่ นแปลงสมบตั ิทางเคมี
3. โบรมีนเมื่อละลายน้ำแลว้ มีฤทธ์ิเปน็ กรดเปน็ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
13
ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง
ก. ข้อ 1 , 2
ข. ขอ้ 2 , 3
ค. ข้อ 1 , 3
ง. ขอ้ 1 , 2 , 3
5. ข้อใดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี
1. การละลายเกลือ
2. การเกดิ สนิม
3. การจดุ ธปู
4. การกล่ันนำ้
ก. ข้อ 1 , 2
ข. ขอ้ 1 , 3
ค. ข้อ 2 , 3
ง. ข้อ 2 , 4
6. สนมิ (Fe2O3) ท่เี กิดขึน้ บนท่อเหลก็ (Fe) หลังจากสัมผสั กบั อากาศชน้ื เปน็ เวลานาน เปน็ การอธิบาย
ถึงการเปล่ยี นแปลงชนดิ ใด
ก. การเปล่ยี นแปลงเชิงกล
ข. การเปล่ียนแปลงทางนวิ เคลยี ร์
ค. การเปล่ียนแปลงทางเคมี
ง. การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ
7. การเปล่ยี นแปลงในข้อใดไม่ใช่การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ
ก. การระเหิดของลูกเหม็น
ข. การละลายของเกลอื ในน้ำ
ค. การย่อยสลายสารอนิ ทรียใ์ นดนิ
ง. การควบแนน่ ของไอนำ้ ในอากาศ
8. การเปล่ยี นแปลงในข้อใดจัดวา่ มกี ารเปล่ียนแปลงทางเคมเี กิดขนึ้
ก. เกิดตะกอน
ข. เกดิ ฟองแก๊ส
ค. มีสเี ปลีย่ นแปลงไป
ง. สงั เกตไดจ้ ากทกุ ข้อ
14
9. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกต้อง
ก. การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ คอื การเปลยี่ นแปลงที่ไม่มีการเปลย่ี นโครงสร้างทางเคมี
ข. การเปล่ียนแปลงทางเคมี สารจะสามารถเปลี่ยนกลบั มาเป็นสารเดิมได้
ค. สมบตั ทิ างกายภาพคอื สมบตั ทิ ี่สามารถทดสอบโดยใช้เครื่องมือทดสอบอยา่ งงา่ ยได้
ง. ตวั อยา่ งสมบตั ิทางกายภาพ เช่น จดุ หลอมเหลว ผลกึ ของสาร
10. ข้อใดไมใ่ ช่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
ก. การเปล่ยี นสถานะของสาร
ข. การสังเคราะห์ด้วยแสง
ค. การละลายของเกลือ
ง. การตกผลึก
15
การเปลยี่ นแปลงของสารอาศัยสมบตั ิของสาร แบง่ การเปล่ียนแปลงออกเปน็ 2 ประเภท คอื
การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ หมายถึง การเปล่ียนแปลงทเ่ี ก่ียวข้องกับสมบัตทิ างกายภาพของสาร
เชน่ การเปลยี่ นสถานะ การละลายน้ำ การหลอมเหลว และการเดอื ด เปน็ ต้น การเปลี่ยนทางกายภาพจะต้องไม่
เก่ียวข้องกับการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี และไมม่ ีสารใหมเ่ กิดข้ึน หลงั จากการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพสมบัติ
ตัวอยา่ งของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ไดแ้ ก่
การละลายน้ำของเกลือแกง เป็นการเปล่ยี นสถานะจากของแข็ง เป็นสารละลาย
การระเหยของน้ำ เปน็ การเปล่ียนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ
การระเหดิ ของลูกเหมน็ เป็นการเปลี่ยนสถานะจากของแขง็ เปน็ ไอ
16
การเปลีย่ นแปลงทางเคมี หมายถึง กระบวนการท่อี ะตอมของสารหนึ่งหรือมากกว่าน้นั ถกู จัดเรียงใหม่
หรือรวมกันเพอ่ื สร้างสารใหม่ เมอ่ื สารผา่ นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี สมบตั ทิ างเคมีของสารจะเปลีย่ นไปและจะ
ถกู เปลีย่ นเป็นสารต่างๆ ที่มีองค์ประกอบทางเคมีแตกตา่ งกัน วิวัฒนาการของพลังงาน การกอ่ ตัวของฟอง การ
เปล่ียนแปลงกลิน่ การเปล่ียนแปลงของอณุ หภมู ิ เปน็ สญั ญาณของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี อกี วธิ ีหน่งึ เรียกว่า
ปฏกิ ิริยาเคมซี ่ึงสารที่เกี่ยวข้อง เรียกว่า สารตง้ั ตน้ และผลลัพธข์ องปฏกิ ิริยา เรยี กว่า ผลิตภณั ฑ์ การ
เปลีย่ นแปลงพลงั งาน เปน็ หน่ึงในลักษณะของการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เน่อื งจากการก่อตวั ของผลิตภณั ฑใ์ หม่
เมอื่ เกดิ การเปล่ียนแปลงทางเคมจี ะไมส่ ามารถย้อนกลับได้ ตัวอยา่ ง เช่น การเพิ่มน้ำสม้ สายชูลงใน
เบกก้งิ โซดา การฟอกคราบการหมกั องุ่น ฯลฯ
ตวั อยา่ งของการเปล่ียนแปลงทางเคมี ไดแ้ ก่
- โลหะโซเดยี มทำปฏิกริ ิยากับน้ำ ไดส้ ารใหม่ คือ โซเดยี มไฮดรอกไซด์ และกา๊ ซไฮโดรเจน
- การเผาไหม้ของลกู เหม็น ได้สารใหม่ คือ ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ และน้ำ
- การเกิดสนมิ เหลก็ ไดส้ ารใหม่ คือ ออกไซด์ของเหล็ก
- การเผาไหมข้ องไม้ ไดส้ ารใหม่ คือ น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไมเ่ ก่ยี วกับปฏกิ ริ ิยาเคมี และไม่มีสารใหม่
สว่ นทางเคมี จะมสี ารใหมเ่ กิดข้ึนเสมอ
17
โดยทว่ั ๆ ไปการเปลี่ยนแปลงของสารสามารถมีทั้งการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพและการเปลย่ี นแปลง
ทางเคมคี วบคูก่ ันไป ดังตารางเปรยี บเทียบระหวา่ งการเปล่ียนแปลงทางกายภาพกับทางเคมี
ตารางสรุปการเปล่ียนแปลงทางกายภาพและการเปล่ียนแปลงทางเคมี
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
1. ไมเ่ กิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี 1. เกิดปฏิกริ ิยาเคมี
2. ไม่มสี ารใหม่เกดิ ขนึ้ 2. มสี ารใหมเ่ กดิ ขนึ้
3. ภายหลงั การเปล่ยี นแปลงองคป์ ระกอบและ 3. ภายหลงั การเปลยี่ นแปลงสารใหม่ท่ีได้จะมี
สมบัติทางเคมขี องสารจะเหมือนเดมิ แตร่ ปู รา่ ง องค์ประกอบและสมบตั ทิ างเคมแี ตกต่างจากเดิม
ภายนอกอาจแตกต่างจากเดมิ
4. ทำให้กลับคนื สสู่ ภาพเดิมไดง้ า่ ย 4. ทำใหก้ ลับคนื สสู่ ภาพเดมิ ไดย้ าก
ตัวอยา่ งของการเปล่ียนแปลงทางเคมี ได้แก่
การเผาไหมข้ องเทยี น : ในขณะทีก่ ารละลายของแวก็ ซ์เปน็ การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
เนอื่ งจากสถานะของสารเปลี่ยนจากของแข็งเปน็ ของเหลวการเผาแว็กซเ์ ป็นการเปลีย่ นแปลง
ทางเคมีหลังจากใช้พลังงานจากขผ้ี ึ้งแสงจะสว่างขน้ึ
การปรุงอาหาร : การปรงุ อาหารผกั ดบิ หรือธัญพชื เป็นการเปล่ยี นแปลงทางเคมี
และการเปล่ียนน้ำใหเ้ ปน็ ไอเป็นการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ
ข้อสรุป
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ คอื การเปลีย่ นแปลงใดๆ ทเ่ี ปลี่ยนแปลงคณุ สมบตั ิทางกายภาพ
ของสารเท่านนั้ แต่การเปล่ยี นแปลงทางเคมสี ่งผลใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงในโครงสรา้ งทางเคมี
ของสารทเี่ กย่ี วข้อง
18
ตัวอย่างการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของสาร
การหลอมเหลวของน้ำแขง็ การเดือดของน้ำ
การละลายของเกลือในนำ้ การเกิดนำ้ ค้างแขง็
การตกผนึกของเกลือ การผสมสี
19
ตวั อย่างการเปล่ยี นแปลงทางเคมีของสาร
การเกิดหนิ งอกหนิ ย้อย การเกดิ สนมิ ของเหลก็
การติดไฟของกระดาษ การเกดิ สีน้ำตาลของแอปเปิล
การสุกของผลไม้ ผลไม้เน่าสีย
20
สรุป
ข้อเปรียบเทยี บระหว่างการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพและทางเคมี
การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ การเปลยี่ นแปลงทางเคมี
1. ไมเ่ กิดปฏกิ ิรยิ าเคมี 1. เกิดปฏิกริ ิยาเคมี
2. ไมม่ สี ารใหม่เกิดขน้ึ 2. มีสารใหม่เกดิ ข้ึน
3. ทำใหก้ ลับคืนสสู่ ภาพเดิมไดง้ า่ ย 3. ทำให้กลับคืนสสู่ ภาพเดมิ ได้ยาก
4. ภายหลังการเปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบ 4. ภายหลังการเปล่ยี นแปลงสารใหม่
และสมบตั ิทางเคมีของสารจะเหมือนเดมิ ทีไ่ ด้จะมีองค์ประกอบและสมบัติทางเคมี
แตร่ ูปรา่ งภายนอกอาจจะแตกต่างไปจาก แตกต่างจากเดมิ
เดมิ
ข้อสงั เกต การเปล่ยี นแปลงตอ่ ไปนี้ จดั เปน็ การเปล่ียนแปลงเคมแี นน่ อน
1. การสนั ดาป หมายถึง การทำปฏกิ ริ ิยากบั O2 (คายความร้อน)
2. การหมกั (คายความร้อน)
3. กระบวนการเมแทบอลซิ ึม (ปฏิกริ ยิ าในสิง่ มีชีวิต) เช่น การหายใจ การยอ่ ยอาหาร
ผลไม้สุก เนอ้ื เน่า
4. การถลุงแร่ การเกดิ สนมิ ปฏิกิรยิ าในแบตเตอร่ี
21
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายเก่ียวกับการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพและทางเคมีของสารได้
2. จำแนกการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพและทางเคมขี องสารได้
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนพิจารณาข้อความท่กี ำหนดให้ต่อไปน้ี ข้อใดเป็นการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพหรอื
ทางเคมี โดยใส่เคร่ืองหมาย () ลงในช่องทต่ี รงกับความเข้าใจของนกั เรยี น
ขอ้ ความท่ีกำหนด การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี
การนำความร้อน
การเกดิ สนิมเหล็ก
ลกั ษณะผลกึ
ความหนาแน่น
การเผาไหม้
การละลายของน้ำตาลในน้ำ
การเกิดฟองแกส๊ ของน้ำยาล้างหอ้ งนำ้ กบั
พ้นื หอ้ งน้ำ
การลกุ ไหม้ของไสเ้ ทียน
การระเหยเป็นไอของนำ้
การสงั เคราะหแ์ สงของพืช
ทุกคนมาระดมความคดิ ช่วยกนั
วิเคราะห์กิจกรรมทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
หมาย
22
คำถามกอ่ นทำกิจกรรม
1. กิจกรรมนี้มีจดุ ประสงค์อะไร
2. เมอื่ ผสมน้ำกับนำ้ มันพืชจะเกิดการเปล่ยี นแปลงอย่างไร
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง
สาร ลักษณะที่สงั เกตได้ การเปลยี่ นแปลงเมื่อ
1. เกลือแกง (สถานะ/สี) เตมิ นำ้ เตมิ กรดซติ รกิ 5% ใหค้ วามรอ้ น
2. น้ำตาลทราย
3. เปลอื กไข่
4. นำ้ มันพชื
5. เอทานอล
อยา่ ลืมบันทึกผลการทดลองให้
ถูกต้องด้วยนะคะ
23
คำถามหลังทำกจิ กรรม
1. สารทีล่ ะลายน้ำได้แก่สารใดบา้ ง
2. สารทีท่ ำปฏกิ ริ ิยากับกรดอะซิตรกิ 5% ไดแ้ กส่ ารใดบา้ ง
3. สารที่เกดิ การลุกไหมเ้ ม่อื นำไปใหค้ วามรอ้ น ไดแ้ กส่ ารใด
4. ถา้ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของสารสามารถสังเกตไดจ้ ากภายนอกหรอื ได้จากการทดลองอย่างงา่ ย
จากการทดลองการเปล่ียนแปลงของสารได้แกก่ ารเปลีย่ นแปลงใดบ้าง
5. ถ้าการเปล่ยี นแปลงทางเคมี สามารถสังเกตได้จากการมีสารใหมเ่ กดิ ขน้ึ ดังนน้ั การเปล่ียนแปลงทางเคมี
ของสาร ได้แก่ การเปล่ียนแปลงใดบ้าง
6. เปลอื กไข่ มกี ารเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีอยา่ งไรบา้ ง
7. นำ้ มันพชื และเอทานอลมีการเปลีย่ นแปลงใดที่เหมือนกันและการเปลีย่ นแปลงใดที่แตกต่างกนั
8. สรุปผลการทดลอง
24
25
คำช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบปรนยั 4 ตัวเลือก จำนวน 10 ขอ้ คะแนน 10 คะแนน
2. ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ้ งทส่ี ุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไมใ่ ช่การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ
ก. การเปลย่ี นสถานะของสาร
ข. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
ค. การละลายของเกลือ
ง. การตกผลึก
2. ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ต้อง
ก. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ คือการเปลยี่ นแปลงท่ีไมม่ กี ารเปลย่ี นโครงสร้างทางเคมี
ข. การเปลี่ยนแปลงทางเคมี สารจะสามารถเปล่ียนกลับมาเป็นสารเดิมได้
ค. สมบัตทิ างกายภาพคือสมบตั ทิ ี่สามารถทดสอบโดยใช้เครื่องมือทดสอบอย่างง่ายได้
ง. ตัวอย่างสมบัตทิ างกายภาพ เช่น จุดหลอมเหลว ผลึกของสาร
3. การเปลีย่ นแปลงในขอ้ ใดจดั ว่ามีการเปล่ียนแปลงทางเคมเี กิดขน้ึ
ก. เกิดตะกอน
ข. เกิดฟองแกส๊
ค. มีสเี ปลย่ี นแปลงไป
ง. สังเกตได้จากทกุ ขอ้
4. การเปลยี่ นแปลงในขอ้ ใดไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
ก. การระเหิดของลกู เหม็น
ข. การละลายของเกลือในน้ำ
ค. การยอ่ ยสลายสารอินทรีย์ในดนิ
ง. การควบแนน่ ของไอนำ้ ในอากาศ
26
5. สนิม (Fe2O3) ท่ีเกดิ ข้ึนบนทอ่ เหล็ก (Fe) หลังจากสัมผสั กับอากาศชืน้ เป็นเวลานาน เป็นการอธบิ าย
ถงึ การเปลยี่ นแปลงชนิดใด
ก. การเปลยี่ นแปลงเชิงกล
ข. การเปลี่ยนแปลงทางนิวเคลียร์
ค. การเปลี่ยนแปลงทางเคมี
ง. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
6. ขอ้ ใดเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
1. การละลายเกลือ
2. การเกดิ สนิม
3. การจดุ ธูป
4. การกล่นั นำ้
ก. ขอ้ 1 , 2
ข. ข้อ 1 , 3
ค. ขอ้ 2 , 3
ง. ขอ้ 2 , 4
7. จงพิจารณาขอ้ ความต่อไปนี้
1. การเปลย่ี นแปลงสถานะของน้ำจากของแข็งเป็นของเหลวและไอน้ำ เป็นการเปลี่ยนแปลงสมบตั ิ
ทางเคมี
2. การเผาไหม้ของเชื้อเพลงิ เปน็ การเปลย่ี นแปลงสมบัติทางเคมี
3. โบรมีนเมอ่ื ละลายน้ำแลว้ มฤี ทธเิ์ ป็นกรดเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง
ก. ข้อ 1 , 2
ข. ข้อ 2 , 3
ค. ขอ้ 1 , 3
ง. ขอ้ 1 , 2 , 3
8. ขอ้ ใดจดั เปน็ การเปล่ียนแปลงทางเคมี
ก. การต้มน้ำ
ข. การละลายนำ้ ตาล
ค. การเกิดหินงอกหนิ ย้อย
ง. การทำใหเ้ หล็กเปน็ แม่เหล็ก
27
9. ขอ้ ใดเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมี
ก. น้ำแข็งลอยได้ในน้ำ
ข. เงนิ นำไฟฟา้ ได้ดที ่สี ดุ
ค. เกลือละลายไดด้ ีในน้ำร้อน
ง. การสุกของมะละกอ
10. ข้อใดเป็นการเปล่ียนแปลงทางกายภาพ
ก. การเกิดสนิม
ข. การเน่าเปื่อยของสิง่ มีชีวิต
ค. การลอยได้ของฟองน้ำ
ง. การลกุ ตดิ ไฟของกระดาษ
28
บรรณานกุ รม
ชัยพร จติ รอาร.ี (2563). วทิ ยาศาสตร์เพ่อื พัฒนาทกั ษะชีวิต. กรุงเทพฯ: ศูนย์สง่ เสรมิ วิชาการ. พิมพ์ครัง้ ท่ี
1 . ปีท่ีพิมพ์ 2563.
สุด ปลืม้ ใจ. (2563). วิทยาศาสตรเ์ พอ่ื พัฒนาทกั ษะชีวิต. กรุงเทพฯ: ศูนย์หนงั สอื เมืองไทย. พมิ พ์ครัง้ ที่ 1 . ปีที่
พมิ พ์ 2563.
เปรมจติ ลมิ ปะพันธุ์. (2563). วิทยาศาสตรเ์ พื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต. กรงุ เทพฯ: ศูนยห์ นังสือเมอื งไทย. พิมพ์ครัง้ ที่
1 . ปีท่พี ิมพ์ 2563.
การเปล่ยี นแปลงของสาร(2564). [ออนไลน์]. แหลง่ ทีม่ า : https://bit.ly/3tyc5lj (วันทค่ี ้นหาข้อมลู 17 มกราคม
2565)
สสารและการเปลย่ี นแปลง(2564). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : https://bit.ly/3fvXFdn (วันท่คี ้นหาข้อมลู 17
มกราคม 2565)
ตวั อย่างการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพเปรยี บเทียบกับการเปลีย่ นแปลงทางเคมี. (2564). [ออนไลน์].
แหล่งที่มา : https://bit.ly/3GCQOdY (วันทคี่ ้นหาขอ้ มูล 17 มกราคม 2565)
สถานะของสารและการเปล่ียนแปลง. (2564). [ออนไลน์]. แหล่งทีม่ า : https://bit.ly/3tzrgeb (วนั ทคี่ น้ หา
ขอ้ มลู 17 มกราคม 2565)
29
30
ขอ้ ท่ี เฉลย ข้อที่ เฉลย
1. ก 11. ง
2. ข 12. ง
3. ก 13. ค
4. ก 14. ง
5. ข 15. ข
6. ค 16. ข
7. ค 17. ง
8. ง 18. ค
9. ง 19. ค
10. ก 20. ค
31
ขอ้ เฉลย
1ง
2ง
3ค
4ข
5ค
6ค
7ง
8ค
9ข
10 ข
32
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายเกี่ยวกบั การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพและทางเคมีของสารได้
2. จำแนกการเปล่ียนแปลงทางกายภาพและทางเคมขี องสารได้
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนพิจารณาข้อความที่กำหนดให้ต่อไปน้ี ข้อใดเปน็ การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพหรือ
ทางเคมี โดยใสเ่ คร่ืองหมาย () ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ความเขา้ ใจของนกั เรยี น
ขอ้ ความทีก่ ำหนด การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ การเปลย่ี นแปลงทางเคมี
การนำความรอ้ น
การเกดิ สนิมเหลก็
ลกั ษณะผลกึ
ความหนาแนน่
การเผาไหม้
การละลายของน้ำตาลในนำ้
การเกิดฟองแก๊สของน้ำยาล้างห้องนำ้ กับ
พื้นห้องนำ้
การลุกไหม้ของไสเ้ ทียน
การระเหยเป็นไอของนำ้
การสงั เคราะห์แสงของพชื
ทุกคนมาระดมความคดิ ช่วยกัน
วเิ คราะห์กิจกรรมทไี่ ด้รับมอบหมาย
หมาย
33
คำถามกอ่ นทำกจิ กรรม เพื่อศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพและทางเคมีของสารได้
1. กิจกรรมน้ีมจี ุดประสงค์อะไร
2. เมอื่ ผสมน้ำกับน้ำมันพชื จะเกดิ การเปล่ียนแปลงอย่างไร
สารสองชนดิ แยกชั้นกนั อย่างชัดเจน โดยนำ้ อยู่ด้านลา่ งของหลอดทดลอง น้ำมันพืชอย่ชู นั้ บน
ตารางบนั ทึกผลการทดลอง
สาร ลักษณะท่ีสังเกตได้ เตมิ นำ้ การเปลี่ยนแปลงเมื่อ ให้ความรอ้ น
1. เกลือแกง (สถานะ/ส)ี ละลายได้ เติมกรดซิตรกิ 5% ของแข็งสขี าว
ไม่เปลีย่ นแปลง
ของแข็ง สีขาวขนุ่
2. นำ้ ตาลทราย ของแข็ง สขี าวขนุ่ ละลายได้ ไม่เปล่ียนแปลง เปลย่ี นเป็นสีดำ
3. เปลือกไข่ ของแข็ง สีขาวขนุ่ ไมล่ ะลาย มีฟองแก๊ส มกี ลน่ิ เหม็น
4. น้ำมันพืช ของเหลวใส ไมล่ ะลายนำ้ แยก ไม่เปล่ียนแปลง เกิดการลุกไหม้
5. เอทานอล สเี หลืองอ่อน เป็นชน้ั นำ้ มนั อยู่ ไมเ่ ปลี่ยนแปลง เกิดการลุกไหม้
ดา้ นบน นำ้ อยลู่ า่ ง
ของเหลวใส
ไมม่ ีสี มีกลน่ิ ละลายได้
อย่าลืมบนั ทกึ ผลการทดลองให้
ถูกต้องด้วยนะคะ
34
คำถามหลงั ทำกิจกรรม สารทลี่ ะลายน้ำไดแ้ ก่ เกลอื แกง และเอทานอล
1. สารทล่ี ะลายน้ำไดแ้ ก่สารใดบา้ ง
2. สารท่ีทำปฏิกิริยากับกรดอะซติ รกิ 5% ได้แกส่ ารใดบา้ ง สารท่ีทำปฏิกริ ยิ ากบั กรดอะซติ รกิ 5% ได้แก่ เปลอื กไข่
3. สารทเี่ กดิ การลกุ ไหมเ้ ม่ือนำไปใหค้ วามรอ้ น ได้แก่สารใด
สารทท่ี ำเกดิ การลกุ ไหม้เม่ือนำไปให้ความรอ้ น ไดแ้ ก่ เอทานอล นำ้ มันพืช
4. ถ้าการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสารสามารถสงั เกตไดจ้ ากภายนอกหรือได้จากการทดลองอยา่ งงา่ ย
จากการทดลองการเปล่ียนแปลงของสารได้แก่การเปล่ยี นแปลงใดบ้าง
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของสาร ไดแ้ ก่ สถานะ สี การละลายนำ้
5. ถา้ การเปลีย่ นแปลงทางเคมี สามารถสังเกตได้จากการมีสารใหม่เกิดขึ้น ดังน้ันการเปลยี่ นแปลงทางเคมี
ของสาร ไดแ้ ก่ การเปลย่ี นแปลงใดบ้าง
การเปลี่ยนแปลงทางเคมขี องสาร ไดแ้ ก่ การทำปฏกิ ิริยากับกรดอะซิติก การเผาไหม้
6. เปลือกไข่ มกี ารเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและทางเคมีอย่างไรบ้าง
การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของเปลอื กไข่ ได้แก่ สถานะของแขง็ สีขาวขนุ่ ส่วนการเปล่ยี นแปลงทางเคมขี อง
เลอื กไข่ ได้แก่ การทำปฏกิ ิริยากบั กรดอะซิตรกิ เกดิ ฟองแก๊ส เม่อื เผาไหมจ้ ะมกี ล่ินเหม็น
7. น้ำมนั พชื และเอทานอลมีการเปลยี่ นแปลงใดที่เหมอื นกนั และการเปลีย่ นแปลงใดท่ีแตกตา่ งกัน
การเปล่ียนแปลงทีเ่ หมือนกนั ของน้ำมนั พืช และเอทานอล คอื เป็นของเหลวใส เม่ือเตมิ กรดอะซติ รกิ ไม่มีการ
เปล่ียนแปลงและเม่ือใหค้ วามร้อนจะเกิดการลกุ ไหม้ ส่วนการเปลยี่ นแปลงที่ต่างกนั คือ น้ำมนั พชื ไมล่ ะลายน้ำ
แต่เอทานอลละลายนำ้ ได้
8. สรปุ ผลการทดลอง
การเปลีย่ นแปลงของสารสังเกตได้จากภายนอก ไดแ้ ก่ สถานะ สี กลิ่น การละลายน้ำของสาร เรียกวา่ การ
เปลีย่ นแปลงทางกายภาพ ส่วนการเปลยี่ นแปลงทางเคมีสงั เกตไดเ้ มื่อเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมเี กิดขน้ึ ไดแ้ ก่ การเติม
กรดอะซติ ริกแล้วเกดิ ฟองแก๊สและใหค้ วามร้อนจาเกดิ การลุกไหม้ เรียกว่า สมบตั ิทางเคมี
35
36
ข้อ เฉลย
1ข
2ข
3ค
4ง
5ค
6ค
7ข
8ค
9ง
10 ง