ใบความรูเ้ รอื่ ง ประเภทของสายไฟและการตอ่ สายไฟฟา้
สายไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ท่ีใชส้ ่งพลงั งานไฟฟ้าจากทีห่ นงึ่ ไปยังอกี ท่หี นงึ่ โดยกระแสไฟฟ้าจะเป็นตวั นำ
พลังงานไฟฟา้ ผา่ นไปตามสายไฟจนถึงเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า สายไฟทำดว้ ยสารทย่ี อมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ เรยี กว่า
ตัวนำไฟฟ้า และตวั นำไฟฟา้ ท่ีใชท้ ำสายไฟเป็นโลหะทีย่ อมใหก้ ระแสไฟฟ้าผา่ นไดด้ ี ลวดตวั นำแต่ละชนิดยอม
ให้กระแสไฟฟา้ ผา่ นไดต้ ่างกัน ตัวนำไฟฟ้าทีย่ อมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้มากเรยี กว่ามคี วามนำไฟฟ้ามากหรือมี
ความตา้ นทานไฟฟา้ น้อย ลวดตัวนำจะมีความตา้ นทานไฟฟ้าอยู่ด้วย โดยลวดตวั นำทมี่ คี วามตา้ นทานไฟฟ้า
มากจะยอม ให้กระแสไฟฟา้ ผ่านไดน้ อ้ ย
สายไฟฟ้าเป็นสือ่ กลางในการนำเอากำลังไฟฟ้าจากแหลง่ ต้นกำลงั ไปยังสถานท่ีตา่ งๆ ทต่ี ้องการใช้
ไฟฟ้าไปตดิ ตั้งใชง้ าน จะพจิ ารณาจากข้อมูลเบื้องตน้ ดังตอ่ ไปน้ี
1. ความสามารถในการนำกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดโดยไมท่ ำใหฉ้ นวนของสาย (Insulated) ได้รับความ
เสียหายซง่ึ สามารถดเู ปรยี บเทียบไดจ้ ากตารางสำเร็จรปู โดยท่ีขอ้ กำหนดการใช้งานสายไฟฟ้าขนาดต่างๆ
ดังกล่าวนี้ เป็นไปตามมาตรฐานการตดิ ตั้งไฟฟ้า
2. แรงดนั ไฟฟา้ ทส่ี ายไฟฟา้ ทนได้ สว่ นใหญโ่ รงงานผผู้ ลติ จะจดั พิมพ์ และติดไวท้ ่ีผิวฉนวนดา้ นนอก
ของสายไฟฟ้า เชน่ 300V หรือ 750V เปน็ ตน้
3. อณุ หภมู แิ วดลอ้ มขณะใช้งาน เช่น 60"C หรอื 70"C เป็นตน้
4. ชนิดของฉนวนท่ีใช้หมุ้ เช่น ฉนวนพีวซี ี (PVC) หรือเรียกวา่ โพลิไวนิลคลอไรด์ ซึ่งเหมาะสำหรบั
การเดินสายไฟฟ้าในอาคารทั่วไป ทั้งน้ีเนื่องจากพลาสติกพีวีซี มีความอ่อนตวั สามารถดัดโคง้ งอได้ ทนต่อ
ความรอ้ น มีความเหนยี วและไม่เปื่อยง่าย ฉนวนพลาสติกอีกชนดิ หนงึ่ คือ ครอสลง่ิ ก์ โพลิเอธทิลีน (Cross
Linked Polyethylene: XLPE) ซงึ่ เปน็ สายอลูมิเนยี มหมุ้ ฉนวนหนาพเิ ศษ จงึ สามารถรับแรงกระแทกได้มาก
ยิ่งขนึ้
5. ลักษณะการนำไปใชง้ าน โดยพิจารณาจากลกั ษณะการติดตั้ง สถานทีใ่ ช้งาน สภาพความแขง็ แรง
ของสายไฟฟา้ ทั้งน้ีจะต้องพิจารณาใหเ้ หมาะสมกบั สายไฟฟ้าแต่ละชนิดด้วย
ชนิดของสายไฟ
สายไฟจะแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คือ สายสำหรับไฟแรงดนั ตำ่ และสำหรบั ไฟแรงดนั สงู ใน
เรื่องนจี้ ะกล่าวถึงสายไฟท่ีใชต้ ามอาคารบ้านเรือนซ่ึงจัดเปน็ สายไฟแรงดันตำ่ สำหรบั ประเทศไทยสายไฟ
แรงดนั ต่ำจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.11-2531 หรือ TIS-11-2531 ตามมาตรฐานแล้วสายไฟแรงดันตำ่
จะมหี ลายขนาด (พ้ืนทหี่ นา้ ตัด) ตง้ั แตข่ นาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ซ่ึงจะทนแรงดันไฟฟ้าไดต้ ง้ั แต่ 300 โวลต์ ถงึ
750 โวลต์ สายไฟตามมาตรฐาน มอก.11-2531 จะแบ่งเป็นประเภทตามขนาด ความทนแรงดันไฟและการใช้
งาน ไดด้ งั น้ี
1. สายไอวี (IV) สายชนิดน้ีเป็นสายเดียวหรือแกนเดี่ยวชนดิ ทนแรงดนั ไฟ 300 โวลต์ ใชเ้ ป็นสายเดนิ
เขา้ อาคารสำหรับท่ีพกั อาศยั ท่ีใชร้ ะบบ 1 เฟส และห้ามใช้กับระบบ 3 เฟสที่มแี รงดนั 380 โวลต์ การใช้งาน
ถา้ เดินสายลอยต้องยึดดว้ ยวัสดฉุ นวน หรอื เดนิ ในช่องเดนิ สายในสถานทแี่ ห้ง แตห่ า้ มร้อยทอ่ ฝังดินหรือฝังดิน
โดยตรง
2. สายวีเอเอฟ (VAF) เป็นสายชนิดทนแรงดัน 300 โวลต์ มที ั้งชนดิ เปน็ สายเดีย่ วสายคแู่ ละท่มี สี าย
ดนิ อยดู่ ว้ ย ถ้าเปน็ สายเด่ยี วจะเป็นสายกลม และถา้ เปน็ ชนิด 2 แกนหรือ 3 แกนจะเปน็ สายแบน ตวั นำ
นอกจากจะมีฉนวนหมุ้ แล้วยังมีเปลือกหุ้มอีกช้ันหนึ่ง สายคู่จะนิยมเดินตามฝาผนงั ดว้ ยเข็มขัดรัดสาย (Clip)
หรอื เดนิ ในชอ่ งเดินสายแตห่ า้ มเดนิ ฝงั ดินโดยตรง การจะเดินสายประเภทนใ้ี ต้ดินจะตอ้ งเดินในท่อฝงั ดินที่มี
การปอ้ งกนั นำ้ ซึมเข้าทอ่ ใช้ในบ้านอยู่อาศัยท่ัวไป สายชนดิ นหี้ ้ามใช้ในวงจร 3 เฟส ทม่ี ีแรงดัน 380 โวลต์ (ใน
ระบบ 3 เฟส แต่แยกไปใชง้ านเปน็ แบบ 1 เฟส แรงดนั 220 โวลต์ จะใชไ้ ด้)
3. สาย VFF ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงฝอยจำนวนสองแกน สาย VFF หุ้มดว้ ยฉนวนพีวีซชี ้นั
เดยี ว (PVC insulated) ดงั รูป เหมาะสำหรบั งานท่ีต้องเคลอื่ นย้ายบอ่ ยๆ พกิ ัดแรงดนั และอุณหภมู ิใช้งาน
เหมือนกบั สาย VAF
สิ่งสำคัญประการหนงึ่ ของผู้เริ่มเป็นชา่ งไฟฟา้ ควรจะต้องเรยี นรู้ คอื วิธีการเช่ือมต่อสายไฟฟ้าเขา้
ดว้ ยกนั ให้มคี วามมนั่ คงทงั้ ทางกลและทางไฟฟา้ ทั้งน้เี พราะจุดเชือ่ มต่อสายไฟฟา้ เป็นจุดท่ีอ่อนแอและมักจะ
กอ่ ความยุ่งยากในระบบไฟฟา้ ฉะนั้นการเชื่อมต่อสายไฟฟา้ นนั้ จะตอ้ งกระทำอยา่ งระมัดระวงั
การต่อสายไฟฟ้า
การต่อสายไฟฟา้ เข้าดว้ ยกันคือ การต่อตวั นำตั้งแต่ 2 สายหรือมากกวา่ ใหเ้ ป็นตัวนำอนั เดยี วกนั
ดว้ ยการบิดตเี กลียวตัวนำเหล่าน้นั ด้วยมือ คีม หรือเครื่องมือสำหรบั การต่อสายไฟ ดว้ ยเหตทุ ี่การต่อสายไฟ
เข้าดว้ ยกนั นม้ี ักจะกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาขึ้นบ่อยๆ ดังนั้นจึงต้องทำอย่างระมัดระวัง รอยต่อสายไฟจะตอ้ งมคี วาม
ทนทานต่อแรงที่กดทบั รอยต่อนนั้ และกระแสไฟฟ้าจะต้องสามารถไหลผา่ นตัวนำสายไฟทม่ี ไิ ด้ขาดจากกนั ถา้
รอยตอ่ น้นั ตีเกลียวหลวมไปจะนำกระแสไฟฟา้ ได้ไม่ดี และเกิดความร้อนขึน้ เนื่องจากความตา้ นทานของ
รอยต่อน้นั และจะเกดิ ความเสียหายขึน้ ได้
จุดประสงคข์ องการต่อสายไฟ ต้องการใหแ้ น่น, แข็งแรง, ตรงรอยต่อสมั ผัสกนั มากท่ีสดุ และ แลดู
สวยงาม การตอ่ สายไฟฟา้ มีวิธีต่อไดห้ ลายแบบ
เครอ่ื งมือในการต่อสายไฟ ได้แก่ มีดคัทเตอร์ คีมปอกสายไฟ คีมปลายแหลมหรือคมี ผสม เทปพัน
สายไฟ
การตอ่ สายเด่ียว ทำดังน้ีคือ
1. ทำการปลอกสายที่หุ้มฉนวนออกเส้นละประมาณ 3 นว้ิ
2. ทำการขดุ ทำความสะอาดสาย
3. เอาปลายทัง้ สองบดิ เข้าหากันเปน็ เกลยี ว
4. ใช้คีมบบี ใหแ้ นน่
2. การต่อสายแบบไมร่ บั แรงดึงหรือบดิ ตเี กลยี วแบบหางหมู
การต่อแบบหางเปยี ทำดงั น้ีคอื
1. ทำการปอกฉนวนปลายสายข้างละประมาณ 3 นิว้
2. ทำการขดุ ทำความสะอาดสาย
3. เอาปลายทั้งสองขา้ งมาชิดกนั แลว้ บิดเปน็ เกลียวใหแ้ นน่ (ดงั รูป)
3. การตอ่ สายแบบแยก
การต่อแยกสาย คือการตอ่ แยกสายออกเป็น 3 ทางหรือ 4 ทาง แลว้ แตง่ านซ่งึ แยกออกตาม
ประเภทของงานคือ
ก. แยกแบบเสน้ เดียว
ข. แยกแบบหลายเสน้
1. ทำการปอกสายไฟเส้นทตี่ อ้ งการแยกประมาณ 1 นิ้ว
2. ทำการปอกสายทจ่ี ะแยกออกประมาณ 3 น้ิว
3. วางปลายสายท่ีจะแยกลงบนเสน้ ท่ไี มแ่ ยกตรงปอกแล้ว
4. ใช้คมี ดงึ และบิดเป็นเกลยี วใหแ้ น่น
4. การต่อสายแขง็ กบั สายออ่ น
คือมสี ายอยู่สองชนิด ชนดิ แข็งกบั ชนิดอ่อนนำมาต่อกนั วิธีตอ่ ปอกฉนวนปลายสายท้ัง 2 เสน้ ออก
ข้างละประมาณ 3 น้วิ แล้วใช้สายอ่อนพนั รอบๆ สายแขง็ ให้เปน็ เกลียวเสร็จแลว้ พับหรืองอปลายสายแข็งให้
เป็นขอเพื่อป้องกันมใิ ห้สายหลดุ ไดง้ า่ ย
การพนั สายด้วยผ้าเทปพันสาย
ตามปกติ หลงั จากท่ีทำการตอ่ สายไฟเรยี บร้อยแล้ว สงิ่ สำคัญที่จะลมื ไมไ่ ด้คือ การใชผ้ า้ เทปพัน
สายไฟที่ต่อไวอ้ ยา่ งแน่นหนา เพื่อป้องกันมใิ ห้วัตถุใด ๆ หรอื มือคนไปสัมผสั กบั สายไฟฟา้ นน้ั จะทำให้เกิดการ
ลัดวงจรหรอื เกิดอนั ตรายข้ึนไดโ้ ดยสามารถหาซ้ือผา้ เทปพันสายไดจ้ ากรา้ นขายอปุ กรณ์ไฟฟ้าทัว่ ไป
อปุ กรณต์ อ่ สายไฟ
วายนทั
แผงตอ่ สาย พลาสติก
แผงต่อสาย โลหะ 6ชอ่ ง 25A
หางปลากลม หางปลาแฉก
ลูกเต๋าต่อสายไฟหรือแผงต่อสาย PVC
PUSH IN WIRE CONNECTOR