1
ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
สํานักงาน กศน. จังหวัดอํางทอง
สํานักงาน กศน.
สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
คํานํา
กระทรวงศึกษาธิการ
2
คํานํา
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕64 ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
ึ
ในฐานะสถานศึกษาที่ทําหน๎าทในการสงเสริมสนับสนุน และจดการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย ไดนําเอา
๎
ํ
ั
ี่
ั
ึ
ี่
ั
นโยบายและจุดเน๎นการดําเนินงานของสํานักงาน กศน. ปี ๒๕64 มาวิเคราะห๑สูํการปฏิบัติในพื้นท ตามศกยภาพ
และเปูาหมายในการจดการศกษาของสถานศกษา เพื่อพัฒนาให๎ผเรียนและผรับบริการมีอัตลกษณ ตามท ี่
ั
ั
ึ
๑
ู๎
ึ
ู๎
ํ
ี่
ู
สถานศึกษากําหนด คือ “ยกระดับความรู๎สูํอาชีพและชีวิตที่ยั่งยืน” ซึ่งในรอบระยะเวลาทผานมาบุคลากรของศนย๑
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ไดรํวมกันดาเนินงานตามภารกิจ เพื่อตอบสนอง
ํ
๎
ิ
นโยบายและเปูาหมายของสถานศกษา โดยดาเนินงานตามแผนปฏิบัตการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕64
ํ
ํ
ึ
ํ
ี่
ู
ํ
ึ
ดงนั้นเพื่อให๎ทราบผลการดาเนินงานตามเปูาหมายการดาเนินงานทกําหนดไว๎ ศนย๑การศกษานอกระบบและ
ั
การศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง จึงได๎จัดทํารายงานผลการดําเนินงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕64 ขึ้นเพื่อ
ิ
ูํ
ึ
นําเสนอและรวบรวมผลการดําเนินงานจากการมีสํวนรํวมของผู๎ปฏิบัตทุกระดับ ในการนํานโยบายสการปฏิบัต จง
ิ
ึ
ํ
หวังเป็นอยํางยิ่งวําเอกสารเลมนี้จะเป็นประโยชน๑ตอการดาเนินงานการศกษานอกระบบและการศกษาตาม
ํ
ํ
ึ
อัธยาศัย และผู๎เกี่ยวข๎องตํอไป
กศน.อําเภอโพธิ์ทอง
10 กันยายน 2564
3
สารบัญ
หน๎า
บทที่ 1 ข๎อมูลพื้นฐานของ ศูนย๑การศกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง 5
ึ
บทที่ 2 โครงสร๎างและการบริหารงาน กศน.อําเภอโพธิ์ทอง 18
บทที่ 3 ทิศทางการดําเนินงานของศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง 20
บทที่ 4 การบริหารเชิงกลยุทธ๑ของศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง 32
บทที่ 5 สรุปผลโครงการที่ปรากฏในแผนปฏิบัติการประจําปีงบประมาณ 2564 39
1. โครงการสํงเสริมการรู๎หนังสือไทย 40
2. โครงการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 48
3. โครงการพัฒนาคุณภาพผู๎เรียน 54
4. โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต 60
5. โครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน 73
6. โครงการการจัดกระบวนการเรียนรู๎เศรษฐกิจพอเพียง 84
7. โครงการวิชาชีพระยะสั้น (หลักสูตร ไมํเกิน 30 ชั่วโมง) 92
8. โครงการวิชาชีพระยะสั้น (หลักสูตร 31 ชั่วโมงขึ้นไป) 105
9. โครงการจัดและสํงเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อคงพัฒนาทางกายจิต
และสมองของผู๎สูงอายุ 120
10. โครงการ 1 อําเภอ 1 อาชีพ 128
11. โครงการพัฒนาห๎องสมุดประชาชน“เฉลิมราชกุมารี” อําเภอโพธิ์ทอง
ให๎เป็น Digtal Library 134
12. โครงการสํงเสริมการอํานสูํชุมชน (รถห๎องสมุดเคลื่อนท) 147
ี่
13. โครงการบ๎านหนังสือชุมชน 153
14. โครงการห๎องสมุดเคลื่อนทสําหรับชาวตลาด 159
ี่
15. โครงการครอบครัวรักการอําน 165
16. โครงการพัฒนาแหลํงเรียนรู๎ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง 176
17. โครงการอาสาสมัคร กศน.ตําบล 180
18. โครงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 183
19. โครงการนิเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 186
20. โครงการพัฒนาบุคลากร กศน.อําเภอโพธิ์ทอง 191
ผู๎จัดทํา
4
แผนที่อําเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอํางทอง
5
บทที่ 1
ข๎อมูลพื้นฐานของศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
สภาพทั่วไปของสถานศึกษา
ชื่อสถานศึกษา ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
ที่ตั้ง/การติดตํอเลขที่ 96หมูํที่ 6 ถนนโพธิ์ทอง – อํางทอง ตําบลบางพลับ อําเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอํางทอง
รหัสไปรษณีย๑ 14120 โทรศัพท๑ , โทรสาร 035-691993
[email protected]
Website : sites.google.com/a/angthong.nfe.go.th/p-thong
สังกัดสํานักงานสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอํางทอง
สํานักงานสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
6
ประวัติอําเภอโพธิ์ทอง
อําเภอโพธิ์ทองได๎รับการจัดตั้งเป็นอําเภอเมื่อปีพ.ศ. 2439 มีชื่อวําอําเภอห๎วยลิง ตามชื่อตําบลซึ่งเป็น
ที่ตั้งของที่วําการอําเภอ ได๎ย๎ายมาอยูํที่หมูํ 9 ตําบลคลองสาหรําย ฝั่งซ๎ายของแมํน้ําน๎อย พร๎อมกับเปลี่ยนชื่อใหมํ
ํ
เป็น อําเภอโพธิ์ทอง แตํตํอมาได๎ย๎ายที่วําการอําเภอกลับมาตั้งยังที่เดิม คือที่ตาบลห๎วยลิง หรืออํางแก๎วในปัจจุบัน
๎
เนื่องจากได๎รับการสนับสนุนจากพระเทพสังวรญาณ เจาอาวาสวัดศีลขันธาราม ซึ่งได๎ซื้อที่ดินจํานวนกวํา 15 ไรํ
ี่
มอบให๎แกํทางราชการสําหรับใช๎เป็นทตั้งที่วําการอําเภอ
อาณาเขตที่ตั้ง
อําเภอโพธิ์ทองมีอาณาเขตติดตํอกับอําเภอตําง ๆ จังหวัดอํางทองและจังหวัดใกล๎เคียงดังนี้
ทิศเหนือ ติดตํอกับอําเภอแสวงหา อําเภอทําช๎าง และอําเภอพรหมบุรี (สิงห๑บุรี)
ทิศตะวันออก ติดตํอกับอําเภอไชโย
ทิศใต ตดตํอกับอําเภอเมืองอํางทอง อําเภอวิเศษชัยชาญ และอําเภอสามโก๎
ิ
๎
ทิศตะวันตก ติดตํอกับอําเภอศรีประจันต๑ (สุพรรณบุรี)
สภาพของชุมชน
อําเภอโพธิ์ทอง เป็นอําเภอหนึ่งอยูํในจังหวัดอํางทอง มีเนื้อที่ประมาณ 219.414 ตารางกิโลเมตร
ํ
ลักษณะบ๎านเรือนของประชาชนในอําเภอ มีลักษณะเป็นหมูํบ๎านริมน้ําทอดไปตามลาน้ําน๎อย ซึ่งเป็นลําน้ําที่สําคัญที่ใช ๎
เป็นเส๎นทางการคมนาคมในอําเภอโพธิ์ทอง การคมนาคมระหวํางอําเภอจะมีเส๎นทางติดตํอกันโดยรถยนต๑ สํวนใหญํนับ
ถือศาสนาพุทธ แบํงการปกครองเป็น 15 ตําบล 110 หมูํบ๎าน มี 5 เทศบาลตําบล 9 องค๑การบริหารสํวนตําบล
ํ
ได๎แกํ เทศบาลตําบลโพธิ์ทอง เทศบาลตําบลรํามะสัก เทศบาลตําบลมํวงคัน เทศบาลตาบลทางพระ เทศบาลตําบล
โคกพุทรา อบต. อํางแก๎ว (ตําบลอํางแก๎ว ตําบลบํอแรํ ตําบลสามงําม) อบต.บางพลับ (ตําบลบางพลับ ตําบลโพธิ์รังนก)
อบต.บางระกํา อบต.บางเจาฉํา อบต.องครักษ๑ อบต. ยางซ๎าย อบต. อินทประมูล อบต. หนองแมํไกํ
๎
และ อบต. คําหยาด
การปกครองสํวนท๎องถิ่น
ท๎องที่อําเภอโพธิ์ทองประกอบด๎วยองค๑กรปกครองสํวนท๎องถิ่น 14 แหํง ได๎แกํ
เทศบาลตําบลโพธิ์ทอง ครอบคลุมพื้นที่บางสํวนของตําบลอํางแก๎ว บางสํวนของตําบลอินทประมูล และ
บางสํวนของตําบลบางพลับ
เทศบาลตําบลรํามะสัก ครอบคลุมพื้นที่บางสํวนของตําบลรํามะสัก
เทศบาลตําบลโคกพุทรา ครอบคลุมพื้นที่ตาบลโคกพุทราทั้งตําบล
ํ
ํ
เทศบาลตําบลทางพระ ครอบคลุมพื้นที่ตาบลทางพระทั้งตําบล
เทศบาลตําบลมํวงคัน ครอบคลุมพื้นที่ตําบลรํามะสัก (นอกเขตเทศบาลตําบลรํามะสัก)
องค๑การบริหารสํวนตําบลอํางแก๎ว ครอบคลุมพื้นที่ตําบลอํางแก๎ว (นอกเขตเทศบาลตาบลโพธิ์ทอง) ตําบล
ํ
บํอแรํ ทั้งตําบล และตําบลสามงํามทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลอินทประมูล ครอบคลมพื้นที่ตําบลอินทประมูล (นอกเขตเทศบาลตําบลโพธิ์ทอง)
ุ
องค๑การบริหารสํวนตําบลบางพลับ ครอบคลุมพื้นที่ตําบลบางพลับ (นอกเขตเทศบาลตําบลโพธิ์ทอง) และ
ตําบลโพธิ์รังนกทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลหนองแมํไกํ ครอบคลุมพื้นที่ตําบลหนองแมํไกํทั้งตําบล
7
องค๑การบริหารสํวนตําบลบางระกํา ครอบคลุมพื้นที่ตําบลบางระกําทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลองครักษ๑ ครอบคลุมพื้นที่ตําบลองครักษ๑ทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลยางช๎าย ครอบคลุมพื้นที่ตําบลยางช๎ายทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลบางเจ๎าฉํา ครอบคลุมพื้นที่ตําบลบางเจ๎าฉําทั้งตําบล
องค๑การบริหารสํวนตําบลคําหยาด ครอบคลุมพื้นที่ตําบลคําหยาดทั้งตําบล
ลักษณะภูมิประเทศ
เป็นที่ราบลุํมมีน้ําไหลผําน เหมาะแกํการประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีแหลํงน้ําทสําคัญคือ แมํน้ําน๎อย
ี่
ซึ่งไหลผํานอําเภอโพธิ์ทอง ทางทิศตะวันออก ใช๎เป็นเส๎นทางสัญจรขนสํงสินค๎าทางเรือได๎ตลอดปี ประชาชนใช๎น้ํา
จากแมํน้ําน๎อยสําหรับอุปโภค และประกอบการเกษตรกรรม คลองชลประทานไหลผํานทุกตําบล สามารถสํงน้ําใช ๎
ทํานา และเกษตรกรรมอื่น ๆ
ลักษณะภูมิอากาศ
ู
จัดอยูํในโซนร๎อนและชุํมชื้น เป็นแบบฝนเมืองร๎อนเฉพาะฤด โดยได๎รับอิทธิพลจากลมมรสมตะวันออกเฉียงเหนือ ชํวงเดือน
ุ
พฤศจิกายนจนถึงกุมภาพันธ๑ ทําให๎อากาศหนาวเย็น และแห๎งแล๎ง และจะได๎รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียง
๎
ใตชํวงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน ทําให๎มีเมฆมากและฝนตกชุกใน ชํวงนี้
ด๎านเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพ
ชาวอําเภอโพธิ์ทองประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ทํานาข๎าว ทาสวน อาชีพเสริม เลี้ยงสัตว๑
ํ
จักสานไม๎ไผํ และอาชีพรับจาง ในปัจจุบันมีแนวโน๎มวําเกษตรกรได๎พยายามดัดแปลง ที่นาไปใช๎ประโยชน๑อื่นเชํน ปลูก
๎
ํ
ี
พืชผักสวนครัว ทาสวนผลไม๎ และทําบํอขุดทราย ซึ่งทําให๎มีรายได๎ดีขึ้นกวําการทํานาข๎าวเพียง อยํางเดยวอาชีพหลัก
วัฒนธรรมพื้นบ๎าน
ํ
ี่
1. หัตถกรรมพื้นบ๎านเกี่ยวกับเครื่องจักสาน ทตําบลบางเจ๎าฉํา ตาบลบางพลับ ตาบลบางระกํา และตาบล
ํ
ํ
ุ
องครักษ๑ ซึ่งมีการสานตะกร๎า กระบุง กระจาด กระเป๋าถือลายดอกพิกุล ฯลฯ วัสดที่ใช๎มีทั้งไม๎ไผํสีสุก และหวาย
ี่
สําหรับทตําบลบางเจาฉํา ได๎ตั้งเป็นหมูํบ๎านเครื่องจักสานขึ้นที่บ๎านยางทอง ใกล๎วัดยางทอง และตั้งเป็นพิพิธภัณฑ๑
๎
เครื่องใช๎ไม๎ไผํด๎วย ซึ่งอยูํหํางจากตัวอําเภอโพธิ์ทองไปตามถนนริมคลองชลประทานประมาณ 5ก.ม. สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จมาเยี่ยมชม เมื่อปี พ.ศ.2525หมูํบ๎านนี้เป็นหมูํบ๎านตัวอยํางในการ
พัฒนาอาชีพด๎วย เพราะมีการประยุกต๑รูปแบบในการผลิตให๎เป็นไปตามความต๎องการของตลาดอยูํเสมอ
2.เพลงพื้นบ๎านโดยเฉพาะเพลงกลํอมเด็ก เพราะต๎องร๎องเพลงกลํอมให๎เด็กซึ่งเป็นลูกหลานฟังอยูํแล๎ว
เมื่อถึงหน๎าเกี่ยวข๎าว นวดข๎าว มีการลงแขกกัน ก็จะร๎องเพลงเกี่ยวข๎าว คือ ร๎องเมื่อกําลังก๎มหน๎าเกี่ยวข๎าวพร๎อมกัน
เพลงเต๎นกํา จะร๎องเมื่อเกี่ยวข๎าวไปจนตกหน๎าคันนาหนึ่ง หรือเกี่ยวไปจนบํายคล๎อยเหน็ดเหนื่อยหนักหนาก็หยุด
ํ
ตั้งวงร๎องเพลงเต๎นกํากันขึ้น เพลงจาก ร๎องเมื่อแยกย๎ายกันกลับ และ เพลงสงฟาง เพลงสงคอลาพวน เพลงชัก
กระดาน ซึ่งร๎องกันในลานนวดข๎าว แตํปัจจุบันไมํมีการลงแขกเกี่ยวข๎าวนวดข๎าวกันแล๎วทําให๎เพลงพื้นบ๎านเหลํานี้
จึงไมํมีคนร๎องกันอยํางนําเสียดาย
3.การละเลํนพื้นบ๎าน การละเลํนของเด็ก เชํน การเลํนมอญซํอนผ๎า ตี่จับ ลูกชํวง ชักคะเยํอ กาฟักไขํหมาก
๎
เก็บ รีรีข๎าวสาร แคะขนมครก ขายของ ปืนก๎านกลวย หมากขุม การเลํนลูกขําง เดินกะลา หม๎อข๎าวหม๎อแกง กระโดด
เชือก ยิงหนังสติ๊ก เปุาปี่ซังข๎าว เป็นต๎น การละเลํนเหลํานี้มีน๎อยลงมาก เพราะเด็กมีของเลํนสมัยใหมํททามาจาก
ี่
ํ
ิ
พลาสตกมาขายมากมาย การละเลํนของผู๎ใหญํมี การเลนกระบี่กระบอง การแขํงเรือ การเลํนชกคะเยํอการเลํนลูกชํวง
ั
ํ
การเลํนตะกร๎อ การเลํนสะบ๎า การเลํนไกํชน เป็นต๎น
8
4. อาหารพื้นบ๎านที่ทํารับประทานกันในสมัยกํอน เชํน แกงบอน แกงอํอม กะปิคั่ว ปลาเจา ปลาร๎าสับปลาร๎า
ํ
๎
หลน ปลาตะเพียนต๎มเค็ม ปลายํางรมควัน ต๎มโคลงปลายําง ขนมกรวย ขนมขุยหนู และขนมจีน สําหรับอาหาร
พื้นบ๎านที่หาซื้อรับประทานได๎บ๎าง เชํน ขนมกง ขนมตาล ขนมกล๎วย ขนมถ๎วยฟู ขนมสามเกลอ เป็นต๎น
ประชากร
ประชากรอําเภอโพธิ์ทอง แบํงเป็น 12 ตําบล กับ 5 เทศบาล มีรายละเอียดดังตาราง
ประชากร (คน)
ที่ ตําบล จํานวนหมูํบ๎าน
ชาย หญิง รวม
1 ตําบลบํอแรํ 4 817 861 1,678
2 ตําบลอํางแก๎ว 7 1,101 1,150 2,251
3 ตําบลคําหยาด 9 1,505 1,715 3,220
4 ตําบลอินทประมูล 7 1,102 1,196 2,298
5 ตําบลองครักษ๑ 8 2,402 2,662 5,064
6 ตําบลบางเจ๎าฉํา 8 1,595 1,726 3,321
7 ตําบลยางช๎าย 11 2,820 3,095 5,915
8 ตําบลโพธิ์รังนก 3 807 881 1,688
9 ตําบลสามงําม 6 919 1,000 1,919
10 ตําบลหนองแมํไกํ 7 1,413 1,560 2,976
11 ตําบลบางพลับ 6 1,298 1,465 2,763
12 ตําบลบางระกํา 7 1,108 1,244 2,352
ํ
1 เทศบาลตาบลโคกพุทรา 7 1284 1,400 2,684
ํ
2 เทศบาลตาบลทางพระ 8 1,300 1,387 2,687
ํ
3 เทศบาลตาบลมํวงคัน 6 1,871 2,084 3,955
4 เทศบาลตาบลโพธิ์ทอง 2,083 2,320 4,403
ํ
5 เทศบาลตาบลรํามะสัก 6 2,044 2,250 4,361
ํ
รวม 110 25,469 27,996 53,535
9
ด๎านการศึกษา จํานวนสถานศึกษาในสังกัดตางๆ
ํ
สังกัด จํานวนโรงเรียน(แหํง)
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (โรงเรียนประถมศึกษา) 35
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (โรงเรียนมัธยมศึกษา) 2
สํานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (วิทยาลัยการอาชีพโพธิ์ทอง) 1
สํานักงานสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(ศูนย๑ 1
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง)
รวม 39
สถานที่ทํองเที่ยว
ตามที่ไดกลําวมาตั้งแตํต๎นแล๎ววําอํางทองเป็นเมืองประวัติศาสตร๑ ดังนั้นจึงมีโบราณสถานและโบราณวัตถ ุ
๎
เป็นจํานวนมากหลงเหลือให๎คนในยุคนี้ได๎มาชมถึงความเจริญรุํงเรืองและความมีศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรไทย
ในอดีต ทั้งมีแหลํงผลิตงานหัตถกรรมพื้นบ๎านที่ยอดเยี่ยมหลายแหํง และมีสภาพความงามตามธรรมชาติและ
สถานที่ที่นําทํองเที่ยวเพื่อพักผํอนจํานวนไมํน๎อย ซึ่งชาวอํางทองภูมิใจอยากจะให๎คนอื่นมาชม
1. พระนอนวัดขุนอินทประมูล พระพุทธไสยาสน๑หรือพระนอนขุนอินทประมูลนี้ ประดิษฐานอยูํบนโคก
ดินกลางทุํงนา ตําบลอินทประมูล อําเภอโพธิ์ทอง หํางจากอําเภอประมาณ 2 กิโลเมตร การเดินทางจากจังหวัดไป
ยังพระนอนวัดขุนอินทประมูล โดยรถโดยสารประจําทางสายอํางทอง – โพธิ์ทอง ระยะทางประมาณ9 กิโลเมตร
นับได๎วําเป็นศิลปกรรมอันยิ่งใหญํของไทยแหํงหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานวําขุนอินทประมูลเป็นผู๎สร๎างขึ้น แตํไมํมีหลักฐาน
ํ
อ๎างอิงวําเป็นสมัยใด แตด๎านอายุและรูปแบบขององค๑พระเป็นสมัยสุโขทัย สร๎างมาแล๎วประมาณ 600 ปี ภายใน
ี
วัดรํมรื่น เป็นแหลํงทํองเที่ยวและเป็นที่พักผํอนหยํอนใจได๎เป็นอยํางด
ํ
2. พระตําหนักคําหยาด หรือชาวบ๎านเรียกกันวํา “ตึกคําหยาด” ตั้งอยูํที่ตําบลคาหยาด อยูํหํางจาก
อําเภอโพธิ์ทอง ไปยังทศใต๎ ประมาณ 7 กิโลเมตร สภาพของตัวตําหนักยังคงเหลือผนังทั้ง 4 ด๎าน เมื่อดูภายนอก
ิ
แล๎วยังคงเห็นความสวยงามทางด๎านศลปกรรมมากชํอประตูหน๎าตํางเป็นแบบโค๎งแหลมเหมือนกับสงกํอสร๎างใน
ิ่
ิ
็
สมัยสมเดจพระนารายณ๑มหาราช
3. วัดโพธิ์ทอง หํางจากอําเภอโพธิ์ทองประมาณ 9 กิโลเมตร ตามเส๎นทางถนนสายอํางทอง–โพธิ์ทอง ใน
พระราชพงศาวดาร กลําววําเป็นวัดที่กรมขุนพรพินิต (เจ๎าฟูาอุทุมพรหรือขุนหลวงหาวัด) ได๎เสด็จมาประทับที่วัดนี้
เมื่อพระองค๑ทรงผนวช
4.วังปลาวัดขํอย ตั้งอยูํหน๎าวัดขํอย บริเวณแมํน้ําน๎อย ตําบลโพธิ์รังนก อําเภอโพธิ์ทอง มีปลาอาศัยอยูํเป็น
จํานวนมาก ไมํน๎อยกวํา 50,000 ตัว เชํน ปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาเทโพ ปลาแรด ปลานิล ในบริเวณวัดมี
พิพิธภัณฑ๑พื้นบ๎าน เชํน เรือโบราณประเภทตําง ๆ อุปกรณ๑ในการประกอบอาชีพของชาวนา เชํน ครก โมํข๎าว
กระด๎ง
สากฯลฯ อันแสดงถึงวิถีชีวิตไทยภาคกลางเป็นอยํางดี การเดินทางไปวัดขํอย ระยะทาง จากจังหวัดอํางทองไปถึงวัด
ประมาณ 12 กิโลเมตร ระยะทางจากอําเภอโพธิ์ทอง ไปถึงวัดขํอย ประมาณ5 กิโลเมตร
5. ค๎างคาวแมํไกํ คางคาวแมํไกํอาศัยอยูํตามต๎นไม๎ รวมกับนกนานาชนิด ประมาณ25,000 ตัว บริเวณ
๎
วัดจันทราราม คางคาวแมํไกํออกหากินในเวลากลางคืน กลางวันนอนห๎อยหัวลงอยูํตามกิ่งไม๎ อาศัยต๎นไม๎บริเวณวัด
๎
ี่
จันทรารามเป็นที่พักและแพรํพันธุ๑มาหลายชั่วอายุคนแล๎ว วัดจันทราราม ตั้งอยูํบ๎านช๎าง หมูํท 5 ตําบลโคกพุทรา
อําเภอโพธิ์ทอง ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร
10
ิ
6. หมูํบ๎านจักสาน ผลตภัณฑ๑ขึ้นชื่อของอําเภอโพธิ์ทองด๎านหัตถกรรม ได๎แกํ เครื่องจักสานไม๎ไผํ
พิพิธภัณฑ๑จักสานไม๎ไผํ ศูนย๑จําหนํายสินคาหมูํบ๎านจักสานตั้งอยูํหํางจากอําเภอโพธิ์ทอง ไปบนถนนสาย โพธิ์ทอง –
๎
ทําช๎าง ประมาณ 5กิโลเมตร
ธนาคาร
มีธนาคาร 3 แหํง ได๎แกํ
1. ธนาคารออมสิน
2. ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน)
3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ๑การเกษตร
ด๎านการสาธารณสุข
มีโรงพยาบาลอําเภอ 1 แหํง มีโรงพยาบาลสํงเสริมสุขภาพตําบล 16 แหํง
ห๎องสมุดประชาชน
ห๎องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”อําเภอโพธิ์ทอง จํานวน 1 แหํง
ประวัติความเป็นมาของสถานศึกษา
ประวัติสถานศึกษา : จากสภาวการณ๑ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยํางรวดเร็วทั้งในด๎านสังคมเศรษฐกิจและ
การเมือง ประชาชนจึงมีความจําเป็นอยํางยิ่งที่จะต๎องแสวงหาความรู๎และประสบการณ๑เพิ่มเติมอยูํตลอดเวลา
เพื่อที่จะสามารถปรับตัวให๎สอดคล๎องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป การศึกษาเป็นเครื่องมือประเภทหนึ่งในบรรดา
เครื่องมือหลายประเภททผู๎บริหารประเทศเลือกใช๎ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย๑ ซึ่งจะมีผลตํอการพัฒนาเศรษฐกิจ
ี่
และสังคมโดยสํวนรวมตามนโยบาย “ การศึกษานําการพัฒนา” (บุญเลิศ มาแสง. 2536 : 55)และเพื่อประโยชน๑ใน
การพัฒนาประเทศ กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ จึงจัดการศึกษาเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา
ํ
ี่
ให๎แกํเด็กเยาวชนและผู๎ใหญํที่อยูํนอกระบบโรงเรียน ให๎ได๎รับการศึกษาทจําเป็นตํอการดารงชีวิตมีพื้นฐานในการ
ุ
เรียนรู๎ รู๎จักคิดเป็น เห็นชํองทางในการประกอบอาชีพ มีคณธรรม จริยธรรม ได๎รับข๎อมูลขําวสารที่เป็นประโยชน๑
และทันตํอเหตุการณ๑รวมทั้งมีโอกาสพัฒนาทักษะและวิชาชีพตามความจําเป็นอยํางตํอเนื่องตลอดชีวิต (กรมการ
ศึกษานอกโรงเรียน. 2535:1)
๎
การดําเนินงานการศึกษานอกโรงเรียน ให๎สอดคลองกับนโยบายการศึกษาของชาตในปัจจุบัน ไดเน๎นการ
๎
ิ
ํ
สํงเสริมให๎มีการกระจายอํานาจการบริหารการศึกษานอกโรงเรียนไปยังสํวนภูมิภาคเพื่อให๎เกิดความคลองตัวและมี
๎
ั
ระบบมากขึ้น มีการเรํงรัดปรับปรุงกลไกการจดการศึกษานอกโรงเรียนให๎สอดคล๎องกับแผนพัฒนาระดบทองถิ่น ทั้งนี้
ั
ึ
เพื่อให๎ประชาชน มีสํวนรํวมในการแก๎ปัญหาของตนเองอยํางแท๎จริง โดยใน ขั้นแรกกรมการศกษานอกโรงเรียนได ๎
ทดลองระบบบริหารเพื่อการกระจายอํานาจและเสริมสร๎างสมรรถนะ เพื่อการสํงเสริมการประสานงานการจดกิจกรรม
ั
ั
การศึกษานอกโรงเรียนลงไปในระดับต่ํากวําจังหวัดโดยดําเนินงานโครงการทดลองศูนย๑บริการขําวสารข๎อมูลระดบ
อําเภอ (ศบอ.อําเภอ)
ในปีงบประมาณ 2527 เป็นการทดลองข๎อมูลขําวสารระดบอําเภอ ภาคละ1แหํง รวม 4แหํง ไดแกํ
๎
ั
ั
ี่
ั
ภาคเหนือทศนย๑บริการขําวสารข๎อมูลอําเภอพยุหะครี จงหวัดนครสวรรค๑ ภาคกลางทอําเภอวิเศษชยชาญ จงหวัด
ู
ี
ี่
ั
ี
ี่
ี่
ั
ั
ิ้
อํางทอง ภาคใตทอําเภอชะอวด จงหวัดนครศรีธรรมราช และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทอําเภอสคว จงหวัด
๎
นครราชสีมา(กรมการศึกษานอกโรงเรียน. 2536:1) ตอมา กรมการศกษานอกโรงเรียนจงไดดาเนินการกระจายอํานาจ
ํ
ึ
ึ
ํ
๎
ิ
๎
ั
็
ึ
การบริหารงานของศนย๑การศกษานอกโรงเรียนจงหวัดให๎เปนสถานศกษาทสามารถขยายการปฏบัตงานไดอยําง
ู
ึ
ิ
ี่
ั
กว๎างขวาง โดยจัดให๎มีหนํวยงานประสานงานการศกษานอกโรงเรียนของศนย๑การศกษานอกโรงเรียนจงหวัด ไปอยูํตาม
ู
ึ
ึ
11
๎
๎
อําเภอตํางๆ เพื่อให๎สามารถจัดการศึกษา ได๎สอดคล๎องกับปัญหาความต๎องการของประชาชนไดอยํางแทจริง และมุํงเน๎น
ู
๎
ุ
ู๎
การประสานงานในการนําทรัพยากรในทองถิ่นมาใชให๎เกิดประโยชน๑สงสด โดยมีบุคลากรคอผประสานงานการศึกษา
๎
ื
นอกโรงเรียน ระดบอําเภอเปนหัวหน๎า มีครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน เจาหน๎าทห๎องสมุดประชาชน ครู
็
ั
ี่
๎
ํ
ุํ
ึ
ู
ี่
ิ
ประจากลมและวิทยากรวิชาชพทปฏิบัตงานโดยอยูํในการกํากับดแลของนายอําเภอ และศกษาธิการอําเภอ ในฐานะ
ี
ผู๎แทนกระทรวงศึกษาธิการ และเรียกวํา ศูนย๑ประสานงานการศกษานอกโรงเรียนระดบอําเภอ ตอมาในปี พ.ศ. 2533
ึ
ั
ํ
ี่
ั
กรมการศึกษานอกโรงเรียนไดสารวจศนย๑ประสานงานการศกษานอกโรงเรียนระดบอําเภอทมีความพร๎อมและประกาศ
ํ
ู
ึ
๎
ึ
ํ
ู
็
ึ
ู
ั้
ั
จดตงเปนศนย๑การศกษานอกโรงเรียนอําเภอนํารํองจานวน 125แหํง ผลการศกษาสภาพการดําเนินงานของศนย๑
ิ
ประสานงานการศกษานอกโรงเรียนระดบอําเภอ พบวํามีปัญหาหลายประการ เชน ระบบการตดตามและประเมินผล
ํ
ั
ึ
การดําเนินงาน ระบบบริหารและการจดองค๑กร เป็นต๎น
ั
ํ
ั
ั
ึ
ดงนั้น เพื่อให๎การจดการศกษานอกโรงเรียนมีความคลองตวสามารถระดมสรรพกําลงเพื่อตอบสนอง
ั
ั
ึ
ความต๎องการจากชุมชนได๎อยํางทันทํวงที การศึกษานอกโรงเรียนจึงพัฒนากลไกในการจัดการศกษานอกโรงเรียน
ํ
ในระดับอําเภอ ให๎ทําหน๎าที่เป็นศูนย๑รวมการปฏิบัตการ การสงเสริมสนับสนุน และการประสานงานการศกษา
ึ
ิ
นอกโรงเรียนทุกรูปแบบ โดยกรมการศกษานอกโรงเรียนจดสรรบุคลากร และทรัพยากรจากหนํวยงานในระดบอําเภอ
ั
ึ
ั
ี่
ั
ี่
ึ
๎
ู
ื่
ภาคและสวนกลาง มาเสริมกําลงให๎หนํวยงานในระดบอําเภอแลวเปลยนบทบาทเปลยนชอศนย๑การศกษานอก
ํ
ั
ึ
ํ
ู
ั้
โรงเรียนอําเภอที่ประกาศจดตงอยูํแลวใน 125 อําเภอ เป็นศนย๑บริการการศกษานอกโรงเรียนอําเภอ ตอมา
๎
ั
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2536 กระทรวงศึกษาธิการไดประกาศจัดตั้งศูนย๑บริการการศึกษานอกโรงเรียนอําเภอ
๎
ทวประเทศ จานวน 789 แหํง และไดมีการแตงตงหัวหน๎าศนย๑บริการการศกษานอกโรงเรียนอําเภออยําง
ู
ํ
๎
ั่
ํ
ึ
ั้
ถูกต๎องตามระเบียบกฎหมายเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2537 เป็นต๎นมา โดยมีนายธนกฤต วงษ๑ทองด ปฏิบัต ิ
ี
หน๎าทหัวหน๎าศนย๑ฯ เป็นคนแรกตอมาไดเปลยนชอ ศนย๑บริการการศกษานอกโรงเรียนอําเภอโพธิ์ทองมาเป็น
ึ
ี่
ู
ํ
ี่
๎
ู
ื่
ั
ู
ิ
“ศนย๑การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยอําเภอโพธิ์ทอง” ประกาศตามพระราชบัญญัตสงเสริม
ึ
ึ
ํ
ั
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศย พ.ศ. 2551 ตงแตวันท 4 มีนาคม พ.ศ. 2551 เป็นสถานศกษา
ั้
ํ
ี่
ึ
อยูํในสํวนภูมิภาคในเขตจังหวัดอํางทอง ในสังกัด สํานักงานสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย
ั
ึ
สานักงานปลดกระทรวงศกษาธิการ กระทรวงศกษาธิการ และปัจจบันมีนางสาวกุหลาบ อํอนระทวย ปฏิบัต ิ
ั
ึ
ึ
ุ
ํ
หน๎าที่เป็นผู๎อํานวยการศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
ทําเนียบผู๎บริหาร
ระยะเวลาที่
ลําดับที่ ชื่อ – สกุล ตําแหนํง
ดํารงตําแหนํง
1 นายธนกฤต วงษ๑ทองด ี หัวหน๎าศูนย๑ฯ 2537 – 2541
2 นายธีระพัฒน๑ แก๎วทับทิม ผู๎อํานวยการ 2541 – 2548
3 นางชนิญา โพธิ์สุข ผู๎อํานวยการ 2548 – 2552
4 นายดิลก ญาณสุภาพ ผู๎อํานวยการ 2552 – 2559
5 นางอุทัยวรรณ แก๎วเขียว ผู๎อํานวยการ 2560 – 2562
6 นางสาวกุหลาบ อํอนระทวย ผู๎อํานวยการ 2563 - ปัจจบัน
ุ
12
ข๎อมูลคณะกรรมการสถานศึกษา
ระยะเวลาที่
ลําดับที่ ชื่อ – สกุล ตําแหนํง
ดํารงตําแหนํง
1 นายสมควร สิงห๑คะ ประธานกรรมการ
2 พระปลัดจีระพนธ๑ อมรรังส ี กรรมการ
3 นายสมเกียรติ อินทรดํา กรรมการ
4 นางจารวี จันทราภิรมย๑ กรรมการ
5 นายประดิษฐ๑ โพธิ์ศรีนาค กรรมการ
6 นายรังสรรค๑ คล๎ายพันธ๑ กรรมการ
7 นายมนูญ อิ่มสะอาด กรรมการ
8 นางผกามาศ ภูํประดิษฐ๑ กรรมการ
9 ผู๎อํานวยการ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง กรรมการและเลขานุการ
10 นางสาวมะลิ จุ๎ยกง ผู๎ชํวยกรรมการและเลขานุการ
ทําเนียบบุคลากร
ที่ ชื่อ นามสกุล ตําแหนํง วุฒิ หน๎าที่รับผิดชอบ
1 นางสาวกุหลาบ อํอนระทวย ผู๎อํานวยการ ค.ม. ผู๎บริหาร
ชํานาญการพิเศษ บริหารงาน กศน.อําเภอโพธิ์ทอง
2 นางสาวมะลิ จุ๎ยกง บรรณารักษ๑ ค.ม. หัวหน๎างานการศึกษาตามอัธยาศัย/
ชํานาญการพิเศษ งานประกันคุณภาพ/แผนงาน/
โครงการ/งานงบประมาณ/งานนิเทศ
ภายใน/งานภาคีเครือขําย/งาน
บุคลากร
3 นายนนทชัย มาพิจารณ ๑ ครู ผู๎ชํวย ค.ม. หัวหน๎างานการศึกษาขั้นพื้นฐานนอก
ระบบ/งานทะเบียนและวัดผล/งาน
พัฒนาหลักสูตร /สื่อ/ศูนย๑ให๎
คําปรึกษาแนะนํา /หัวหน๎างานพัสด ุ
4 นายวรพจน๑ เชิดแสง เจ๎าพนักงาน ปกศ.สูง หัวหน๎างานอาคารสถานที่/ ชํวยงาน
ห๎องสมุด ชํานาญ อัธยาศัย
งาน
5 นางกาญจนา เชิดแสง พนักงานราชการ ศษ.บ. ปฏิบัติงานในพื้นที่ 1
ตําแหนํงครูอาสา
6 นางสาวฤทัย ช๎างพันธุ๑ พนักงานราชการ ศศ.บ. ปฏิบัติงานในพื้นที่ 2
ตําแหนํงครูอาสา งานการศึกษาตํอเนื่อง/งานสํงเสริม
การรู๎หนังสือ/งานการเงิน/
งานประชาสัมพันธ๑
13
ที่ ชื่อ นามสกุล ตําแหนํง วุฒิ หน๎าที่รับผิดชอบ
7 นางนงลักษณ๑ ไหมเงิน พนักงานราชการ ศศ.บ. ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3/
ตําแหนํงครูอาสา งานกิจกรรมพิเศษ/ กศน.ตําบล
องครักษ๑
ั
9 นางแววตา เสือลายตลบ ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน. ตําบลบางพลับ
8 นางสาวสุพัตรา หว๎านหอม ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน.ตําบลสามงําม
10 นางสาวอนุกูล ทองเติม ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน. ตําบลบางระกํา
11 นายภูบดินทร๑บํายเที่ยง ครู กศน.ตําบล บธ.บ. กศน. ตําบลรํามะสัก
12 นางสาวอรวรรณ สร๎อยแสง ครู กศน.ตําบล รป.บ. กศน. ตําบลโพธิ์รังนก
13 นายพงศ๑กาญจน๑ อํวมรอต ครู กศน.ตําบล รป.บ. กศน.ตําบลอํางแก๎ว
14 นางสาวอุทัยวรรณ พิลาศาสตร๑ ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน.ตําบลบางเจ๎าฉํา
15 นางประภาพร ประวัติวิไล ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน.ตําบลทางพระ
16 นางสาวพรพรรณ วินิจฉัย ครู กศน.ตําบล ศศ.บ. กศน.ตําบลคําหยาด
17 นางสาวจตุพร พวงเงิน ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน.ตําบลโคกพุทรา
18 นางสาวระพีพร สหะวิเศษไชชาญ ครู กศน.ตําบล ค.บ. กศน.ตําบลยางชาย
๎
ิ
19 นางชยุตา ประสมศลป์ ครู กศน.ตําบล ศศ.บ. กศน.ตําบลหนองแมํไกํ
20 นายพงศ๑ไชศร ไชยมูล ครู กศน.ตําบล วท.บ. กศน.ตําบลอินทประมูล
21 นางสาวสุวนันท๑ กลิ่นสุคนธ๑ ครู กศน.ตําบล วท.บ. กศน.ตําบลบํอแรํ
22 นางธนพร รื่นกาญจนถาวร ครูสอนผู๎พิการ ศศ.บ. กศน.ตําบลอํางแก๎ว
23 นายนพนันท๑ บัวเผื่อน พนักงานบริการ ปวช. ผู๎ชํวยงานการศึกษาตามอัธยาศัย/
ผู๎ชํวยงานอาคารสถานท ี่
24 นางสาวสยาม ก๐งฉิน บรรณารักษ๑ ค.บ. ผู๎ชํวยงานการศึกษาตามอัธยาศัย
อัตราจ๎าง
ิ
๎
25 นายชูชาต อันคลาย พนักงานบริการ ม.๓ งานอาคารสถานท ี่
อัตราจ๎าง
จํานวนบุคลากร(ปีปัจจุบัน)
จํานวน
ที่ ประเภท/ตําแหนํง
ต่ํากวําป.ตรี ป.ตรี ป.โท ป.เอก รวมจํานวน
1. ผู๎บริหาร 1 1
2 ข๎าราชการครู - 1 - - 1
3 บุคลากรทางการศึกษา 1 - 1 - 2
4 ลูกจ๎างประจํา 1 - - - 1
5 พนักงานราชการ ครูอาสาฯ - 3 - - 3
6 พนักงานราชการ ครู กศน.ตําบล - 13 1 - 14
7 ครูสอนผู๎พิการ - 1 - - 1
8 อัตราจ๎าง 1 1 - - 2
รวม 3 19 3 25
14
แหลํงเรียนรู๎และภาคีเครือขําย
ชื่อ กศน. ตําบล ที่ตั้ง ผู๎รับผิดชอบ
1. กศน. ตําบลทางพระ หมูํ 1 ตําบลทางพระ อําเภอโพธิ์ทอง นางประภาพร ประวัติวิไล
ํ
2. กศน. ตําบลองครักษ๑ หมูํ 5 ตาบลองครักษ๑ อําเภอโพธิ์ทอง นางนงลักษณ๑ ไหมเงิน
ํ
3. กศน. ตําบลบํอแรํ หมูํ 2 ตาบลบํอแรํ อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวสุวนันท๑ กลิ่นสุคนธ๑
4. กศน. ตําบลบางเจ๎าฉํา หมูํ 8 ตําบลบางเจ๎าฉํา อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวอุทัยวรรณ พิลาสศสตร๑
ิ
5. กศน. ตําบลหนองแมํไกํ หมูํ 4 ตําบลหนองแมํไกํ อําเภอโพธิ์ทอง นางชยุตา ประสมศลป์
6. กศน. ตําบลอํางแก๎ว หมูํ 6 ตําบลอํางแก๎ว อําเภอโพธิ์ทอง นายพงศ๑กาญจน๑ อํวมรอต
7. กศน. ตําบลรํามะสัก หมูํ 3 ตําบลรํามะสัก อําเภอโพธิ์ทอง นายภูบดินทร๑ บํายเที่ยง
8. กศน. ตําบลโพธิ์รังนก หมูํ 3 ตาบลโพธิ์รังนก อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวอรวรรณ สร๎อยแสง
ํ
9. กศน. ตําบลสามงําม หมูํ 6 ตาบลสามงําม อําเภอโพธิ์ทอง นายพงศ๑กาญจน๑ อํวมรอต
ํ
10. กศน. ตําบลบางระกํา หมูํ 3 ตาบลบางระกํา อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวอนุกูล ทองเติม
ํ
11. กศน. ตําบลบางพลับ หมูํ 6 ตาบลบางพลับ อําเภอโพธิ์ทอง นางแววตา เสือลายตลับ
ํ
ํ
12. กศน. ตําบลอินทประมูล หมูํ 2 ตาบลอินทประมูล อําเภอโพธิ์ทอง นายพงศ๑ไชศร ไชยมูล
13. กศน. ตําบลคําหยาด หมูํ 3 ตาบลคําหยาด อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวพรพรรณ วินิจฉัย
ํ
14. กศน. ตําบลโคกพุทรา หมูํ 1 ตาบลโคกพุทรา อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวจตุพร พวงเงิน
ํ
ํ
15. กศน. ตําบลยางช๎าย หมูํ 7 ตาบลยางช๎าย อําเภอโพธิ์ทอง นางสาวระพีพร สหะวิเศษไชชาญ
ภูมิปัญญาท๎องถิ่น
ชื่อ ภูมิปัญญาท๎องถิ่น ความสามารถและประสบการณ๑ ที่อยูํ
1.นายสําราย พํวงด ี เกษตรกรรมและการทํามาหากิน /ทําปุ๋ย 72 หมูํ 1 ต. รํามะสัก
ชีวภาพ
2.นางสงัด พรมเมศ แพทย๑แผนไทยและสมุนไพร /ทําลูกประคบ 136 หมูํ 5 ต. รํามะสัก
สมุนไพร
3.นายระแนง ยิ่งยวด เกษตรกรรมและการทํามาหากิน /ทําปุ๋ย หมูํ 12 ต.รํามะสัก
ชีวภาพ
๎
4.นายสุเทพ ยิ้มสอาด ศิลปการแสดงและดนตรีไทย 1 หมูํ 7 ต.ยางชาย
ํ
5.นายอุดม สุขน๎อย ศิลปการแสดงลิเก 58 หมู 1 ต.คาหยาด
6.นายไพโรจน๑ โพธิ์ศรีนาค ศิลปการแสดงและดนตรีไทย 19 หมูํ 9 ต.ยางช๎าย
7.นางเรณู แก๎วศรีเทียน ศิลปหตถกรรมและสิ่งทอ/กระเช๎าหวาย 27/1 หมูํ 4 ต. สามงําม
ั
๎
10.นางอาภา ปรีชากูลย๑ แพทย๑แผนไทยและสมุนไพร / นวดแผน 4/1 หมูํ 6 ต.บางเจาฉํา
ไทย
15
ชื่อ ภูมิปัญญาท๎องถิ่น ความสามารถและประสบการณ๑ ที่อยูํ
11.นายประภาศ ประคองศรี เกษตรกรรมและการทํามาหากิน/ปลูกมะมํวง 25 หมูํ 2 ต.บางระกํา
นอกฤด ู
12.นายสําเริง จรเทศ ศิลปการแสดงและดนตรี /ดนตรีไทย 77/1 หมูํ 2 ต.องค๑รักษ๑
13.นางยุพา พํวงนิ่ม ศิลปการแสดงและดนตรี /เลํนละคร ตัดเย็บ 81 หมูํ 2 ต.ทางพระ
ชุดแสดง
14.นายสมศักดิ์ สุดสงวน ศิลปหตถกรรมและสิ่งทอ /ทํากรอบพระ 19/2 หมูํ 4 ต.บํอแรํ
ั
15.นางสาววณาพร ศิริมงคล อาหารและโภชนาการ /ถนอมอาหาร แปร 16 หมูํ 2 ต.อินทประมูล
ิ
รูปผลผลต
16.นายเฉลิม นาคยรรยงค ๑ อาหารและโภชนาการ / นาข๎าว เกษตร 47 หมูํ 1 ต.บางระกํา
ชีวภาพ
17.นางสาวจงกล ปิ่นเกต ุ อาหารและโภชนาการ / ขนมไทย / ปุ๋ย 44 หมูํ 4 ต. องค๑รักษ๑
ชีวภาพ
18.นางจินตนา เจริญผล อาหารและโภชนาการ / ขนมไทย 81 หมูํ 1 ต.องค๑รักษ๑
19.นางบังอร ธัญญานนท ๑ อาหารและโภชนาการ / การถนอมอาหาร 18/1 หมูํ 2 องค๑รักษ๑
20.นางสีวัน ขวัญเสือ เกษตรปลอดสารพิษ 12 หมูํ 3 ต. องค๑รักษ๑
21.นายปริญญา สํานักนี้ เกษตรกรรม/ ปุ๋ยน้ําชีวภาพ หมูํ 1 ต.บางพลับ
22.นางหวั่น พินวงศ ๑ ศิลปหตถกรรม/ จักสานไม๎ไผ ํ หมูํ 1 ต.บางพลับ
ั
23.นายสมจิต สํานักนี้ ศิลปประดิษฐ / การแทงหยวก หมูํ 2 ต.บางพลับ
๑
23.นายเกษมศานส๑ เกลื่อนกุศล ศิลป ประติมากรรม/ การปั้นรูปเหมือน หมูํ 3 ต.บางพลับ
24.นางสาวปราณี อินคํานึง ศิลปหตถกรรม / ดอกไม๎ประดิษฐ ๑ หมูํ 3 ต.บางพลับ
ั
16
แหลํงเรียนรู๎อื่น
ที่ ชื่อ แหลํงเรียนรู๎อื่น ประเภทแหลํงเรียนรู๎ ที่ตั้ง
1 แหลํงเรียนรู๎เศรษฐกิจพอเพียง ภูมิปัญญา ต.โพธิ์รังนก
2 ศูนย๑เรียนรู๎วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรไทย แพทย๑แผนไทย หมูํ 5 ต. รํามะสัก
3 หมูํบ๎านจักสานหวาย ชุมชน หมูํ 12 ต.รํามะสัก
4 กลุํมแพทย๑แผนไทย ภูมิปัญญา หมูํ 10 ต.รํามะสัก
5 กลุํมจักสานหวาย ชุมชน หมูํ 3 ต.สามงําม
6 แหลํงเรียนรู๎เศรษฐกิจพอเพียง ภูมิปัญญา หมูํ 6 ต.สามงําม
7 บ๎านหนังสือชุมชน แหลํงข๎อมูล ทุกตําบล 45 หมูํบ๎าน
8 สหกรณ๑ยูเนียนบ๎านบํอแรํ แหลํงเรียนรู๎ หมูํ 4 ต.บํอแรํ
9 ศูนย๑เรียนรู๎เศรษฐกิจพอเพียง ภูมิปัญญา 15 ตําบล
10 พระธาตุเจดีย๑ศรีโพธิ์ทอง วัดทําอิฐ โบราณสถาน หมูํ 6 ต.บางพลับ
11 ศูนย๑เรียนรู๎ยาสมุนไพร ภูมิปัญญา หมูํ 2 ต.บางพลับ
12 การทําพลุดอกไม๎ไฟ ภูมิปัญญา หมูํ 3 ต.บางพลับ
13 การทําหัวโขน ภูมิปัญญา หมูํ 3 ต.บางพลับ
14 วัดจันทร๑ แหลํงเรียนรู๎ ต.ทางพระ
15 หมูํบ๎านจักสานไม๎ไผํบ๎านบางเจ๎าฉํา แหลํงเรียนรู๎/ภูมิปัญญา หมูํ 8 ต.บางเจ๎าฉํา
16 วัดขุนอินทประมูล วัด/โบราณสถาน ต.อินทประมูล
17 กลุํมนานาน้ําพริก อาหาร/ขนม หมูํ 5 ต.บางระกํา
18 เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหมํ เศรษฐกิจพอเพียง หมูํ 1 ต.หนองแมํไกํ
ํ
19 พระตําหนักคําหยาด โบราณสถาน หมูํ 8 ต.คาหยาด
20 จักสานหวาย จักสาน ต. อํางแก๎ว
21 แหลํงเรียนรู๎เฟอร๑นิเจอร๑หวาย ศิลปะหัตกรรม ต.ยางช๎าย
22 พิพิธภัณฑ๑ภูมิปัญญาไทยบ๎านโคกพุทรา แหลํงเรียนรู๎ ต.โคกพุทรา
17
ภาคีเครือขําย
ที่ ชื่อ ภาคีเครือขําย ที่ตั้ง/ที่อยูํ
1 องค๑การบริหารสํวนตําบล รวม 12แหํง
2 เทศบาลตาบล รวม 5 แหํง
ํ
3 วัด รวม 15 ตําบล
4 โรงเรียน รวม 15 ตําบล
5 โรงพยาบาลสํงเสริมสุขภาพตําบล รวม 15 ตําบล
6 ชมรมผู๎สูงอายุ รวม 19 ชมรม
7 คณะกรรมการสถานศึกษา รวม 8 คน
8 คณะกรรมการ กศน.ตําบล รวม 15 ตําบล
9 อาสาสมัคร กศน. รวม 45 คน
10 อาสาสมัครสํงเสริมการอําน รวม 110 คน
11 คณะกรรมการ สคบ. รวม 15 ตําบล
12 คณะกรรมการองค๑กรนักศึกษา รวม 15 ตําบล
13 ผู๎นําชุมชน รวม 110 คน
14 อาสาสมัครปูองกันภัยฝุายพลเรือน รวม 15 ตําบล
15 อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม) รวม 15 ตําบล
18
บทที่ ๒
โครงสร๎างและการบริหารงาน กศน.อําเภอโพธิ์ทอง
โครงสร้างสถานศึกษา
ผู้อ านวยการสถานศึกษา
คณะกรรมการสถานศึกษา
กลุ่มอ านวยการ กลุ่มจัดการศึกษานอกระบบ กลุ่มภาคีเครือข่าย
และการศึกษาตามอัธยาศัย
และกิจการพิเศษ
งานบุคลากร
งานกา รศึกษาพื้นฐาน งานส่งเสริม สนับสนุน
ภาคีเครือข่าย
งานการเงิน/บัญชี
งานการศึกษาต่อเนื่อง
งานกิจกรรมพิเศษ
งานธุรการ/สารบรรณ
งานการศึกษาตามอัธยาศัย
งานกิจการลูกเสือ/
งานพัสด ุ ยุวกาชาด
งานท ะเบียนและวัดผล
งานอาคารสถานที่
งานศูนย์บริการให้ค าปรึกษาแนะน า
งานแผนงาน/โครงการ
งานประชาสัมพันธ ์
งานนิเทศภายใน
งานข้อมูลสารสนเทศ
งานประกันคุณภาพภายใน
19
ึ
ึ
ั
ู
ศนย๑การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยอําเภอโพธิ์ทอง แบํงการบริหารงานภายใน
สถานศึกษาออกเป็น 3 กลุํมงานดังนี้
ี
ี่
ุํ
๑. กลมอํานวยการ มีหน๎าทและความรับผดชอบเกี่ยวกับ งานบุคลากร งานการเงิน งานบัญช งาน
ิ
ธุรการงานสารบรรณ งานพัสด งานอาคารสถานท งานแผนงานและโครงการ งานประชาสมพันธ๑ งานนิเทศ
ุ
ี่
ั
ภายใน งานข๎อมูลสารสนเทศ งานประกันคุณภาพภายใน
๒. กลุํมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีหน๎าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการ
จดการศกษาขั้นพื้นฐาน งานการศกษาตอเนื่อง งานการศกษาตามอัธยาศย งานทะเบียนและวัดผล งาน
ึ
ึ
ั
ึ
ํ
ั
ศูนย๑บริการให๎คําปรึกษาแนะนํา
ํ
ํ
ี
ี่
๓. กลมสงเสริมภาคเครือขํายและกิจการพิเศษ มีหน๎าทและความรับผดชอบเกี่ยวกับการสงเสริม
ิ
ุํ
ั
ั้
ี
ั
ุ
ํ
สนับสนุนภาคเครือขํายโดยระดมสรรพกําลงจากหนํวยงานตางๆทงภาครัฐภาคเอกชนให๎ทกภาคสวนของสงคม
ํ
ั
ํ
ํ
เป็นเครือขํายรํวมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยสนับสนุนโครงการพิเศษตางๆ เชน โครงการ
ํ
ิ
๑
ู
ื
อันเนื่องมาจากพระราชดาริ งานปูองกันและแก๎ไขปัญหายาเสพตด โรคเอดส กิจกรรมประชาธิปไตย งานลกเสอ
และงานยุวกาชาด
20
บทที่ 3
ทิศทางการดําเนินงานของ
ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
ี
ตามที่พระราชกฤษฎีกาวาดวยหลักเกณฑ๑และวิธีการบริหารกิจการบานเมืองทด พ.ศ. 2546 มาตรา 9
ี่
ื
ั
ิ
ไดกําหนดไววา การบริหารราชการเพื่อใหเกิดผลสมฤทธิ์ตอภารกิจของรัฐใหสวนราชการปฏิบัตคอ (1) กอนจะ
ดําเนินการตามภารกิจใด สวนราชการตองจัดทําแผนปฏิบัติราชการไวเปนการลวงหนา (2) การกําหนดแผนปฏิบัต ิ
ราชการของสวนราชการตาม (1) ตองมีรายละเอียดของขั้นตอนระยะเวลาและงบประมาณทจะตองใชในการ
ี่
ดําเนินการของแตละขั้นตอน เปาหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ และตัวชี้วัดความสาเร็จของภารกิจ และ
ํ
มาตรา 16 ใหสวนราชการจัดทําแผนปฏิบัติราชการของสวนราชการนั้น “ในแตละปงบประมาณ ใหสวนราชการ
ิ
ํ
ํ
ิ
ํ
ั
ั
จดทาแผนปฏิบัตราชการประจาปี โดยใหระบุสาระสาคญเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัตราชการของสวนราชการ
เปาหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานรวมทงประมาณการรายได และรายจาย และทรัพยากรอื่นทจะตองใชเสนอตอ
ี่
ั้
ิ
รัฐมนตรีเพื่อใหความเห็นชอบเมื่อรัฐมนตรีใหความเห็นชอบแผนปฏิบัตราชการของสวนราชการใดแลวใหสานัก
ํ
งบประมาณดําเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานใหบรรลุผลสําเร็จในแตละภารกิจตามแผนปฏิบัตราชการ
ิ
ดังกลาว
ี่
ดังนั้นเพื่อใหเปนไปตามพระราชกฤษฎีกาวาดวยหลักเกณฑและวิธีการบริหารกิจการบานเมืองทด พ.ศ. 2546
ี
สอดคลองกับมตคณะรัฐมนตรีกรอบยุทธศาสตรชาตระยะ 20 ป (พ.ศ. 2560 - 2579) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ
ิ
ิ
ิ
ิ
ึ
และสงคมแหงชาตฉบับท ี่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) แผนการศกษาแหํงชาต (พ.ศ. 2560 - 2579) และ
ั
ึ
ั
ึ
ั
ึ
ู
บริบทตางๆ ที่เกี่ยวของศนย๑การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยอําเภอโพธิ์ทองจงไดจดแผนปฏิบัต ิ
การประจําปงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขึ้น เพื่อใชเปนกรอบแนวทางในการปฏิบัตงานประจาปงบประมาณ พ.ศ.
ํ
ิ
2563 ของ ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ไดอยางมีประสิทธิภาพ
ึ
กรอบยุทธศาสตร๑ชาติระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙)
๎
คณะกรรมการจัดทํายุทธศาสตร๑ชาติไดดําเนินการยกรํางกรอบยุทธศาสตร๑แหํงชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.
๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เพื่อใชเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ ๒๐ ปี โดยกําหนดวิสัยทัศน๑ เปูาหมายและ
๎
ยุทธศาสตร๑ ดังนี้
วิสัยทัศน๑
๎
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแลวดวยการพัฒนาตามหลกปรัชญาของ
ั
ั่
๎
เศรษฐกิจพอเพียง” และเป็นคติพจน๑ประจําชาติวํา “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
เปูาหมาย
๑. ความมั่นคง
๑.๑ การมีความมั่นคงปลอดภัย จากภัยและการเปลยนแปลงทงภายในประเทศและภายนอกประเทศใน
ั้
ี่
ั้
ิ
ิ
ทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความมั่นคงในทกมิต ทงมิตเศรษฐกิจ
ุ
สังคม สิ่งแวดล๎อม และการเมือง
๑.๒ ประเทศ มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาต ศาสนา พระมหากษัตริย๑ ทเข๎มแข็งเป็น
ี่
ิ
ี่
ศูนย๑กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองทมั่นคงเป็นกลไกทนําไปสการบริหารประเทศท ี่
ี่
ูํ
ตํอเนื่องและโปรํงใสตามหลักธรรมาภิบาล
ี
ั
๑.๓ สงคม มีความปรองดองและความสามัคค สามารถผนึกกําลงเพื่อพัฒนาประเทศชมชนมีความ
ุ
ั
เข๎มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุํน
21
ี่
ํ
ี
ั
๑.๔ ประชาชน มีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได๎ที่มั่นคงพอเพียงกับการดารงชวิต มีทอยูํอาศย
และความปอดภัยในชีวิตและทรัพย๑สิน
๑.๕ ฐานทรัพยากรและสิ่งแวดล๎อม มี่ความมั่นคงของอาหาร พลังงาน และน้ํา
๒. ความมั่งคั่ง
ุํ
ั
ํ
๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตวของเศรษฐกิจอยํางตอเนื่อง ยกระดบเป็นประเทศในกลมประเทศ
ั
๎
ี
ํ
รายได๎สูง ความเหลื่อมล้ําของการพัฒนาลดลง ประชากรไดรับผลประโยชน๑จากการพัฒนาอยํางเทาเทยมกันมาก
ขึ้น
๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแขํงขันสูง สามารถสร๎างรายได๎ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ
ั้
สร๎างฐานเศรษฐกิจและสังคมแหํงอนาคต และเป็นจุดสําคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาคทงการคมนาคมขนสง การ
ํ
ั
๎
ผลต การคา การลงทน และการทาธุรกิจ มีบทบาทสาคญในระดบภูมิภาคและระดบโลก เกิดสายสมพันธ๑ทาง
ิ
ุ
ั
ั
ํ
ํ
ั
เศรษฐกิจและการค๎าอยํางมีพลัง
ุ
๎
๑
๒.๓ ความสมบูรณในทุนที่จะสามารถสร๎างการพัฒนาตํอเนื่อง ไดแกํ ทนมนุษย๑ ทนทางปัญญา ทนทาง
ุ
ุ
การเงิน ทุนที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม
๓. ความยั่งยืน
ี
ุ
ี่
๎
๓.๑ การพัฒนาทสามารถสร๎างความเจริญ รายได และคณภาพชวิตของประชาชนให๎เพิ่มขึ้นอยําง
ิ
๎
ตํอเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่ไมํใช๎ทรัพยากรธรรมชาตเกินพอด ไมํสร๎างมลภาวะตอสงแวดลอม
ี
ิ่
ํ
จนเกิดความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศน๑
๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล๎อม และสอดคล๎องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก
ุ
๎
ี
ิ
ิ่
๑
ซึ่งเป็นทยอมรับรํวมกัน ความอุดมสมบูรณของทรัพยากรธรรมชาตและสงแวดลอม มีคณภาพดขึ้น คนมีความ
ี่
รับผิดชอบตํอสังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละเพื่อผลประโยชน๑สํวนรวม
ั
ํ
ํ
๓.๓ มุํงประโยชน๑ตอสวนรวมอยํางยั่งยืน ให๎ความสาคญกับการมีสวนรํวมของประชาชนทกภาคสวน
ุ
ํ
ํ
ํ
เพื่อการพัฒนาในทุกระดับอยํางสมดุล มีเสถียรภาพ และยั่งยืน
๓.๔ ประชาชนทุกภาคสํวนในสังคม ยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
วัตถุประสงค๑
๑. เพื่อสร๎างความปรองดองสมานฉันท ๑
ี
ุ
๎
๒. เพื่อเพิ่ม กระจายโอกาสและคณภาพการใหบริการของรัฐอยํางทั่วถึง เทําเทยม เป็นธรรม
๓. เพื่อลดต๎นทุนให๎ภาคการผลิตและบริการ
๔. เพื่อเพิ่มมูลคาสินค๎าเกษตร อุตสาหกรรม และบริการด๎วยนวัตกรรม
ํ
ยุทธศาสตร๑ของกรอบยุทธศาสตร๑ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙)
ประกอบด๎วย ๖ ยุทธศาสตร๑ โดยมีสาระสําคัญทเกี่ยวข๎องกับสํานักงาน กศน. ดังนี้
ี่
ยุทธศาสตร๑ที่ ๑ ดานความมั่นคง มีเปูาหมายทงในการสร๎างเสถียรภาพภายในประเทศและชวยลดและ
ั้
ํ
๎
ปูองกันภัยคุกคามจากภายนอก รวมทั้งสร๎างความเชื่อมั่นในกลุํมประเทศอาเซียนและประชาคมโลกที่มีตํอประเทศไทย
๑.๑ การเสริมสร๎างความมั่นคงของสถาบันหลักและการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมี
พระมหากษัตริย๑ทรงเป็นประมุข
ั
๑.2 การรักษาความมั่นคงภายในและความสงบเรียบร๎อยภายใน ตลอดจนการบริหารจดการความมั่นคง
ชายแดนและชายฝั่งทะเล
ั
ุ
ุ
1.3 การพัฒนาระบบ กลไก มาตรการ และความรํวมมือระหวํางประเทศทกระดบ และรักษาดลยภาพ
ความสัมพันธ๑กับประเทศมหาอํานาจ เพื่อปูองกันและแก๎ไขปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหมํ
22
ั
1.4 การพัฒนาเสริมสร๎างศกยภาพผนึกกําลงปูองกันประเทศ การรักษาความสงบเรียบร๎อย
ั
ภายในประเทศ สร๎างความรํวมมือกับประเทศเพื่อนบ๎านมิตรประเทศ
ูํ
ยุทธศาสตร๑ที่ ๒ ดานการสร๎างความสามารถในการแขํงขัน เพื่อให๎ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปสการ
๎
ิ
๎
เป็นประเทศพัฒนาแล๎ว ซึ่งจําเป็นต๎องยกระดับผลิตภาพการผลตและการใชนวัตกรรมในการเพิ่มความสามารถใน
การแขํงขันและการพัฒนาอยํางยั่งยืนทั้งในสาขาอุตสาหกรรม เกษตรและบริการ การสร๎างความมั่นคงและความ
ู๎
๎
ปลอดภัยทางดานอาหาร การเพิ่มขีดความสามารถทางการคาและการเป็นผประกอบการ รวมทงการพัฒนา
๎
ั้
ฐานเศรษฐกิจแหํงอนาคต กรอบแนวทางที่ต๎องให๎ความสําคัญ ประกอบด๎วย
2.1. การพัฒนาการผลิตและการบริการ บนฐานของการพัฒนานวัตกรรม และมีความเป็นมิตรตํอ
ิ
๎
ิ
สิ่งแวดล๎อม โดยมีการใช๎ดจิทัลและการค๎าที่เข๎มขนเพื่อสร๎างมูลคําเพิ่มและขยายกิจกรรม การผลตและบริการ โดย
มุํงสูํความเป็นเลศในระดับโลกและในระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมหลายสาขา และในภาคบริการทหลากหลาย
ิ
ี่
ํ
ุ
ี่
ํ
ี่
ตามรูปแบบการดาเนินชีวิตและการดาเนินธุรกิจทเปลยนไป รวมทั้งเป็นแหลํงอาหารคณภาพ สะอาดและปลอดภัยของ
โลก
2.1.1 ภาคเกษตร โดยเสริมสร๎างฐานการผลิตให๎เข๎มแข็งและยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการ
ูํ
ี่
แขํงขันภาคการเกษตร สงเสริมเกษตรกรรายยํอยให๎ปรับไปสการทาเกษตรยั่งยืนทเป็นมิตรกับสงแวดลอมและ
ํ
๎
ํ
ิ่
ี
๎
ิ
ี่
ี่
ั
ุ
รวมกลมเกษตรกรในการพัฒนาอาชพทเข๎มแข็ง และการพัฒนาสนคาเกษตรทมีศกยภาพและอาหารคณภาพ
ุํ
สะอาด และปลอดภัย
2.1.2 ภาคอุตสาหกรรม โดยพัฒนาอุตสาหกรรมศกยภาพ ยกระดบการพัฒนาอุตสาหกรรม
ั
ั
ิ
๎
ํ
ปัจจุบันที่มีศักยภาพสูง และพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคตที่มีศักยภาพ โดยการใชดจทลและการคามาเพิ่มมูลคาและ
๎
ิ
ั
ยกระดับหํวงโซํมูลคําในระดับที่สูงขึ้น
ู๎
ั
ั
ิ
ุ
ู๎
2.2. การพัฒนาผประกอบการและเศรษฐกิจชมชน พัฒนาทกษะผประกอบการ ยกระดบการผลต
ศักยภาพแรงงาน และพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยํอย (SMEs) สสากล และพัฒนาวิสาหกิจชมชนและ
ูํ
สถาบันเกษตรกร
2.3. การพัฒนาพื้นทเศรษฐกิจพิเศษและเมือง พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และพัฒนาระบบเมือง
ี่
ั
๎
ิ่
ศนย๑กลางความเจริญ จดระบบผงเมืองทมีประสทธิภาพและมีสวนรํวม มีการจดการการสงแวดลอมเมืองและ
ิ
ั
ี่
ู
ํ
ั
โครงสร๎างพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจที่สอดคล๎องกับศักยภาพ
ยุทธศาสตร๑ที่ ๓ ด๎านการพัฒนาและเสริมสร๎างศักยภาพคน เพื่อพัฒนาคนและสังคมไทยให๎เป็นรากฐานท ี่
แข็งแกรํงของประเทศ มีความพร๎อมทางกาย ใจ สตปัญญา มีความเป็นสากล มีทกษะการคดวิเคราะห๑อยํางมี
ิ
ิ
ั
เหตุผล มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีคุณธรรม จริยธรรม รู๎คุณคําความเป็นไทย มีครอบครัวที่มั่นคง
๓.๑ การพัฒนาศักยภาพคนตลอดชํวงชีวิตให๎สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
๓.๒ การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู๎ให๎มีคุณภาพ เทําเทียม และทั่วถึง
๓.๓ การปลูกฝังระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม คํานิยมที่พึงประสงค ๑
3.4 การเสริมสร๎างให๎คนมีสุขภาวะที่ด ี
3.5 การสร๎างความอยูํดีกินดีมีสุขของครอบครัวไทยเสริมสร๎างบทบาทของสถาบันครอบครัวในการบํม
เพาะจิตใจให๎เข๎มแข็ง
ํ
ี
ั
ยุทธศาสตร๑ที่ ๔ ด๎านการสร๎างโอกาส ความเสมอภาคและเทาเทยมกันทางสงคม เพื่อเรํงกระจายโอกาส
การพัฒนา และสร๎างความมั่นคงให๎ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ําไปสูํสังคมที่เสมอภาคและเป็นธรรม
๔.๑ การสร๎างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้ําทางดานเศรษฐกิจและสังคม
๎
๔.๒ การสร๎างสภาพแวดล๎อมและนวัตกรรมที่เอื้อตํอการดํารงชีวิตในสังคมสูงวัย
23
ี่
ิ่
ํ
๎
ุ
ี
ยุทธศาสตร๑ที่ ๕ ด๎านการสร๎างการเติบโตบนคณภาพชวิตทเป็นมิตรตอสงแวดลอม เพื่อเรํงอนุรักษ๑ฟื้นฟู
และสร๎างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติ และมีความมั่นคงดานน้ํา รวมทงมีความสามารถในการปูองกัน
๎
ั้
ผลกระทบและปรับตัวตํอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติ และพัฒนามุํงสูํการเป็นสังคม
สีเขียว
๕.๔ การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล๎อม
ยุทธศาสตร๑ที่ ๖ ด๎านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให๎หนํวยงานภาครัฐมี
ู
ิ
ี่
ิ
ขนาดทเหมาะสมกับบทบาทภารกิจ มีสมรรถนะสง มีประสทธิภาพและประสทธิผล กระจายบทบาทภารกิจไปส ูํ
ท๎องถิ่นอยํางเหมาะสม มีธรรมาภิบาล
๖.๑ การปรับปรุงโครงสร๎าง บทบาท ภารกิจของหนํวยงานภาครัฐ ให๎มีขนาดทเหมาะสม
ี่
๖.๓ การพัฒนาระบบบริหารจัดการกําลังคนและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ
๖.๔ การตํอต๎านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
๖.๕ การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบตําง ๆ ให๎ทันสมัยเป็นธรรมและเป็นสากล
แผนการศึกษาแหํงชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙)
๎
สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได๎จัดทําแผนการศึกษาแหํงชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ เพื่อใชเป็นแผน
ํ
ึ
ี่
ยุทธศาสตร๑ระยะยาวสาหรับหนํวยงานทเกี่ยวข๎องกับการศกษาของประเทศ ไดนําไปใชเป็นกรอบแนวทางการ
๎
๎
พัฒนาการศึกษาสําหรับพลเมืองทุกชํวงวัยตั้งแตํแรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยได๎กําหนดสาระสําคัญไว๎ ดังนี้
๎
วิสัยทัศน๑: “คนไทยได๎รับการศึกษาและเรียนรู๎ตลอดชีวิตอยํางมีคุณภาพ ดํารงชีวิตอยํางเป็นสุข สอดคลอง
กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ ๒๑”
เปูาหมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) ๕ ประการ
ึ
ี่
ั่
ี้
ุ
ั
ุ
ํ
ั
ี่
๑. ประชากรทกคนเข๎าถึงการศกษาทมีคณภาพและมีมาตรฐานอยํางทวถึง (Access) มีตวชวัดทสาคญ
เชํน ประชากรกลุํมอายุ ๖ - ๑๔ ปี ทุกคนได๎เข๎าเรียนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต๎นหรือเทียบเทาท ี่
ํ
ี่
รัฐต๎องจัดให๎ฟรี โดยไมํเก็บคําใช๎จําย ผู๎เรียนพิการได๎รับการพัฒนาสมรรถภาพหรือบริการทางการศกษาทเหมาะสม
ึ
ทุกคน และประชากรวัยแรงงานมีการศึกษาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เป็นต๎น
ุ
๒. ผู๎เรียนทุกคน ทุกกลุํมเปูาหมายได๎รับบริการการศึกษาที่มีคณภาพตามมาตรฐานอยํางเทาเทียม
ํ
๎
(Equity) มีตัวชี้วัดที่สําคัญ เชํน ผู๎เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนได๎รับการสนับสนุนคําใชจํายในการศึกษา
๑๕ ปี เป็นต๎น
็
ุ
ู๎
ี่
ึ
๓. ระบบการศกษาทมีคณภาพ สามารถพัฒนาผเรียนให๎บรรลขีดความสามารถเตมตามศกยภาพ
ุ
ั
ิ
(Quality) มีตัวชี้วัดที่สําคัญ เชํน นักเรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต ํ
ละวิชาผํานเกณฑ๑คะแนนร๎อยละ ๕๐ ขึ้นไปเพิ่มขึ้น และคะแนนเฉลยผลการทดสอบโครงการประเมินผลนักเรียน
ี่
ิ
รํวมกับนานาชาต (Programme for international Student Assessment : PISA) ของนักเรียนอายุ ๑๕ ปี
สูงขึ้น เป็นต๎น
ี่
ุ๎
ํ
ึ
ี่
ิ
ึ
๔. ระบบการบริหารจดการศกษาทมีประสทธิภาพ เพื่อการลงทนทางการศกษาทคมคาและบรรล ุ
ั
ุ
ี่
ํ
เปูาหมาย (Effiency) มีตัวชี้วัดที่สําคัญ เชํน ร๎อยละของสถานศกษาขนาดเลกทไมํผานเกณฑ๑การประเมินคณภาพ
ุ
็
ึ
ภายนอกลดลง มีระบบการบริหารงานบุคล ครู และบุคลากรทางการศกษาทมีประสทธิภาพและเป็นไปตามเกณฑ๑
ิ
ี่
ึ
มาตรฐาน รวมทั้ง
มีกลไกสํงเสริมให๎ทุกภาคสํวนสนับสนุนทรัพยากรเพื่อการจัดการศึกษา เป็นต๎น
24
ี่
ี่
๕. ระบบการศึกษาที่สนองตอบและก๎าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เปนพลวัตและบริบททเปลยนแปลง
็
ึ
ี
ํ
ั
๎
ั
ํ
ั
ํ
ั
ี้
ี่
(Relevancy)มีตวชวัดทสาคญ เชน อันดบความสามารถในการแขํงขันของประเทศดานการศกษาดขึ้น สดสวน
ผู๎เรียนอาชีวศึกษาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผู๎เรียนสามัญศึกษาและจํานวนสถาบันอุดมศึกษาที่ติดอันดับ ๒๐๐ อันดบแรก
ั
ของโลกเพิ่มขึ้น เป็นตน
๎
ปัจจัยและเงื่อนไขความสําเร็จ (Key Success Factors)
ู
ํ
การดําเนินการตามวัตถุประสงค๑ เปาหมายของแตละยุทธศาสตร๑ตามที่กําหนดไว๎ในแผนการศึกษา
แหํงชาติจะประสบผลสาเร็จตามที่ระบุไว๎ในแตํละยุทธศาสตร๑และแนวทางการพัฒนาได๎หนํวยงานทั้งระดับนโยบาย
ํ
และระดับปฏิบัติการ ทั้งในสํวนกลาง สํวนภูมิภาค จังหวัด เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาต๎องยึดถือเป็น
แนวทางในการ
ํ
ดําเนินงาน และมีการทบทวน ปรับปรุงมาตรการ เปูาหมายความสําเร็จให๎ทันตํอการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแตละ
พื้นที่ เพื่อการพัฒนาศักยภาพผู๎เรียนในทุกชํวงวัย ซึ่งต๎องดําเนินการ ดังนี้
ั
๎
ํ
ี
ํ
ู๎
ํ
๑. การสร๎างการรับรู๎ ความเข๎าใจ และการยอมรับจากผมีสวนไดสวนเสยและประชาสงคมในการสงเสริม
สนับสนุนการพัฒนาการศึกษาในลักษณะตําง ๆ อยํางกว๎างขวาง มุํงเน๎นที่การจัดระบบการศึกษาที่มีประสทธิภาพ
ิ
โปรํงใส ตรวจสอบได๎ และมุํงเน๎นการพัฒนาคุณภาพของผู๎เรียนในทุกระดับ
๒. การสร๎างความเข๎าใจในเปูาหมายและยุทธศาสตร๑การดําเนินงานของแผนการศึกษาแหํงชาติของผู๎ปฏิบัต ิ
ทุกหนํวยงานทุกระดับ เพื่อให๎การขับเคลื่อนแผนการศึกษาแหํงชาติไปสูํการปฏิบัติ มีการบริหารจัดการและการ
เชื่อมโยงยุทธศาสตร๑และแนวทางการพัฒนาให๎บรรลุเปูาหมายและวิสัยทัศน๑ของการจัดการศึกษา มีคณะกรรมการ
ิ
ุ
กํากับดูแลแตํละยุทธศาสตร๑ให๎เกิดการนําไปปฏิบัตโดยมีระบบงบประมาณเป็นกลไกสนับสนุนให๎บรรลผลอยํางเป็น
รูปธรรม
๓. การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน๑ของการจัดการศึกษา จากการเป็นผู๎จัดการศึกษาโดยรัฐ มาเป็นการจด
ั
ึ
ั
ํ
ี
ํ
การศึกษาโดยทุกภาคสวนของสังคม ที่มุํงการจดการศกษาเพื่อความเทาเทยมและทวถึง (Inclusive Education)
ั่
๎
ตลอดจนการสงเสริมการเรียนรู๎ตลอดชวิตสาหรับทกคน ซึ่งสอดคลองกับเปูาหมายการพัฒนาทยั่งยืน
ํ
ี่
ี
ํ
ุ
(Sustainable Development Goals)
ั
ึ
ิ
ึ
๔. การจัดให๎แผนการศกษาแหํงชาตเป็นเสมือนแผนงบประมาณดานการจดการศกษาของรัฐ ระบบการ
๎
ี่
จัดสรรงบประมาณประจําปีให๎ยึดแผนงาน โครงการ และเปูาหมายการพัฒนาทกําหนดไว๎ในยุทธศาสตร๑และแนว
ึ
ํ
ทางการพัฒนาของแผนการศึกษาแหํงชาติ เป็นหลักในการพิจารณาเพื่อให๎การดาเนินงานพัฒนาการศกษาเป็นไป
๎
ในทิศทางและปูาหมายการพัฒนาผู๎เรียนแตํละชํวงวัยและการพัฒนากําลังคนตามความตองการของตลาดงานและ
ประเทศ เพื่อการจัดการศึกษาบรรลุผลตามยุทธศาสตร๑ ตัวชี้วัดในชํวงเวลาที่กําหนด
๕. การปรับระบบการบริหารจัดการภาครัฐให๎เกิดประสิทธิภาพ โดยปรับโครงสร๎างการบริหารงานให๎มี
ู
ความชัดเจนในด๎านบทบาทหน๎าที่ และการกระจายอํานาจและการตัดสินใจจากสํวนกลางสูํระดับภมิภาคและ
สถานศึกษารวมทั้งการปรับระบบการบริหารจัดการ และการบริหารงานบุคคลในแตละระดับให๎สํงเสริม สนับสนุน
ํ
การจัดการศึกษาในสถานศึกษาให๎เป็นไปอยํางมีคณภาพ ผู๎เรียนได๎รับบริการการศึกษาที่มีมาตรฐานอยํางเสมอภาค
ุ
และเทําเทยม
ี
๖. การสร๎างระบบข๎อมูลและสารสนเทศที่บูรณาการและเชื่อมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายในและ
ํ
การประเมินคุณภาพภายนอกผํานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการรายงานตอสาธารณชนจะเป็นกลไกในการ
ิ
สร๎างการรับรู๎ของผู๎จัดการศึกษาและผู๎เรียน เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และความรับผดชอบ
ตํอผู๎เรียน ผํานระบบการกํากับ ตรวจสอบติดตามและประเมินผล
๗. การปฏิรูประบบทรัพยากรและการเงินเพื่อการศกษา เอให๎รัฐสามารถใชเครื่องมือทางการเงินในการ
ึ
๎
กํากับการดําเนินงานของสถานศึกษาให๎เป็นไปตามแผนการศึกษาแหํงชาติ และนโยบายรัฐบาล
25
นโยบายรัฐบาล
ิ
ิ
ี่
๎
ั
ิ
ํ
นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ๑ จนทร๑โอชา) ไดแถลงนโยบายตอสภานิตบัญญัตแหํงชาต เมื่อวันท ๑๒
กันยายน ๒๕๕๗ ไว๎ ๑๑ ด๎าน โดยมีนโยบายสําคัญที่เกี่ยวข๎องกับสํานักงาน กศน. ดังนี้
นโยบายที่ ๑ การปกปูองและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย๑
สถาบันพระมหากษัตริย๑เป็นองค๑ประกอบสําคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประเพณี
การปกครองของไทย รัฐบาลจึงถือเป็นหน๎าทสําคญยิ่งยวดในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ไว๎ด๎วยความจงรักภักดี และ
ั
ี่
ปกปูองรักษาพระบรมเดชานุภาพ โดยจะใช๎มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางสังคมจิตวิทยา และมาตรการทาง
ระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการดําเนินการกับผู๎คะนองปาก ยํามใจหรืประสงค๑ร๎าย มุํงสั่นคลอน
สถาบันหลักของชาติ โดยไมํคํานึงถึงความรู๎สํานึกและความผูกพันภักดีของคนอีกเป็นจํานวนมาก ตลอดจนเผยแพรํ
ความรู๎ความเข๎าใจที่ถูกต๎องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย๑และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ทั้ง
ี่
จะสนับสนุนโครงการทั้งหลายอันเนื่องมาจากพระราชดําริ สํงเสริมให๎เจ๎าหน๎าทสถานศึกษา ตลอดจนหนํวยงาน
ทั้งหลายของรัฐเรียนรู๎เข๎าใจหลักการทรงงาน สามารถนําหลักดังกลําวมาประยุกต๑ใช๎ในการปฏิบัติราชการและการ
พัฒนา ตลอดจน
ี่
เรํงขยายผลตามโครงการและแบบอยํางททรงวางรากฐานไว๎ให๎แพรํหลายเป็นที่ประจักษ๑และเกิดประโยชน๑ในวง
กว๎างอันจะชํวยสร๎างความสมบูรณ๑พูนสุขแกํประชาชนในที่สุด
นโยบายที่ ๒ การรักษาความมั่นคงของรัฐและการตํางประเทศ
๒.๒ เรํงแก๎ไขปัญหาการใช๎ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต๎ โดยนํายุทธศาสตร๑เข๎าใจ เข๎าถึง และ
ั
ํ
ิ
ู๎
ิ
ํ
ุ
ุ
ั
ิ
พัฒนามาใช๎ตามแนวทางกัลยาณมิตรแบบสนตวิธี สงเสริมการพูดคยสนตสขกับผมีความคดเห็นตางจากรัฐ สร๎าง
ั
ื
ิ
ั
ิ
ิ
ิ
ความเชอมั่นในกระบวนการยุตธรรมตามหลกนิตธรรมและหลกสทธิมนุษยชนโดยไมํเลอกปฏิบัต ควบคกับการ
ูํ
ื่
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่สอดคล๎องกับความตองการของประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นพหุสงคม ขจดการฉวยโอกาส
ั
๎
ั
๎
๎
ุ
กํอความรุนแรงแทรกซ๎อน เพื่อซ้ําเติมปัญหาไมํวําจากผู๎มีอิทธิพลในทองถิ่นหรือเจาหน๎าทฝายบ๎านเมือง ทงจะเพิ่ม
ี่
ั้
ระดับปฏิสัมพันธ๑กับตํางประเทศและองค๑การระหวํางประเทศที่อาจชํวยคลี่คลายปัญหาได ๎
นโยบายที่ ๔ การศึกษาและเรียนรู๎ การทะนุบํารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
ึ
ึ
ํ
ั้
๔.๑ จัดให๎มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู๎ โดยให๎ความสาคญทงการศกษาในระบบและการศกษา
ั
ทางเลอกไปพร๎อมกัน เพื่อสร๎างคณภาพของคนไทยให๎สามารถเรียนรู๎ พัฒนาตนไดเตมตามศกยภาพ ประกอบ
ั
็
ุ
ื
๎
อาชีพและดํารงชีวิตได๎โดยมีความใฝุรู๎และทักษะที่เหมาะสมเป็นคนดีมีคุณธรรม สร๎างเสริมคณภาพการเรียนรูํ โดย
ุ
ี่
๎
ื่
้ํ
ี่
ี
ั
เน๎นการเรียนรู๎เพื่อสร๎างสัมมาอาชพในพื้นท ลดความเหลอมลาและพัฒนากําลงคนให๎เป็นทตองการเหมาะสมกับ
พื้นที่ ทั้งในด๎านการเกษตร อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ
๔.๒ ในระยะเฉพาะหน๎า จะปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษา ให๎สอดคลองกับความ
๎
ี่
ู๎
ึ
ั
ํ
ึ
จาเป็นของผเรียนและลกษณะพื้นทของสถานศกษา และปรับปรุงและบูรณาการระบบการกู๎ยืมเงินเพื่อการศกษาให๎มี
๎
ู๎
ั่
ิ
ิ
ั
ประสทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสแกํผยากจนหรือดอยโอกาส จดระบบการสนับสนุนให๎เยาวชนและประชาชนทวไปมีสทธิ
เลอกรับบริการการศกษา ทงในระบบโรงเรียนและนอกโรงเรียน โดยจะพิจารณาจดให๎มีคปองการศกษาเป็นแนวทาง
ึ
ั้
ู
ื
ั
ึ
หนึ่ง
๔.๓ ให๎องค๑กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค๑กรปกครองสํวนท๎องถิ่นและประชาชนทั่วไปมีโอกาสรํวม
จัดการศึกษา ที่มีคุณภาพและทั่วถึง และรํวมในการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู๎ กระจายอํานาจการบริหารจด
ั
ั
การศึกษาสําสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และองค๑การปกครองสํวนท๎องถิ่น ตามศกยภาพและความพร๎อม โดย
ให๎สถานศึกษาสามารถเป็นนิตอบุคคล และบริหารจัดการได๎อยํางอิสระและคลํองตัวขึ้น
26
ั
๔.๔ พัฒนาคนทุกชํวงวัยโดยสํงเสริมการเรียนรู๎ตลอดชีวิต เพื่อให๎สามารถมีความรู๎และทกษะใหมํท ี่
ู
๎
ั
สามารถประกอบอาชีพได๎หลากหลายตมแนวโน๎มการจางงานในอนาคต ปรับกระบวนการเรียนรู๎และหลกสตรให๎
ื่
ั
ั้
๎
เชอมโยงกับภูมิสงคม โดยบูรณาการความรู๎และคณธรรมเข๎าดวยกัน เพื่อให๎เอื้อตอการพัฒนาผเรียนทงในดาน
ํ
๎
ู๎
ุ
ุ
ั
ความรู๎ ทกษะ การใฝเรียนรู๎ การแก๎ปัญหา การรับฟังความเห็นผอื่น การมีคณธรรม จริยธรรม และความเป็น
ู๎
ุ
พลเมืองดี โดยเน๎นความรํวมมือระหวํางผู๎เกี่ยวข๎องทั้งในและนอกโรงเรียน
๔.๖ พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครู ที่มีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเป็นครู เน๎นครูผสอนให๎มี
ู๎
คุณวุฒิตรงตามวิชาทสอนนําเทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช๎ในการเรียนการสอนเพื่อเป็น
ี่
เครื่องมือชํวยครูหรือเพื่อการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง เชํน การเรียนทางไกล การเรียนโดยระบบอิเล็กทรอนิกส๑ เป็นต๎น
รวมทั้งปรับระบบการประเมินสมรรถนะที่สะท๎อนประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาคุณภาพ
ผู๎เรียนเป็นสําคัญ
นโยบายที่ ๑๐ การสํงเสริมการบริหารราชการแผํนดินที่มีธรรมาภิบาล และการปูองกันปราบปรามการทุจริต
และประพฤติมิชอบในภาครัฐ
๑๐.๑ ปรับปรุงระบบราชการในด๎านองค๑กรหรือหนํวยงานภาครัฐ ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และ
ท๎องถิ่น ทบทวนการจัดโครงสร๎างหนํวยงานภาครัฐที่มีอํานาจหน๎าที่ซ้ําซ๎อนหรือลดหลั่นกันหรือมีเสนทางการ
๎
ปฏิบัติงานที่ยืดยาว ปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการให๎ทันสมัยโดยนําเทคโนโลยีมาใช๎แก๎ไขกฎระเบียบให๎โปรํงใส ชัดเจน
ั
สามารถบริการประชาชนได๎อยํางมีประสิทธิภาพ ตลอดจนจดระบบอัตรากําลังและปรับปรุงคําตอบแทนบุคลากร
ภาครัฐให๎เหมาะสมและเป็นธรรม ยึดหลักการบริหารกิจการบ๎านเมืองที่ดีการบริหารจัดการภาครัฐแบบใหมํ การ
๎
ตอบสนองความต๎องการของประชาชนในฐานะที่เป็นศูนย๑กลาง และการอํานวยความสะดวกแกํผู๎ใชบริการเพื่อ
สร๎างความเชื่อมั่นวางใจในระบบราชการลดต๎นทุนดําเนินการของภาคธุรกิจ เพิ่มศักยภาพในการแขํงขันกับนานา
ประเทศ และการรักษาบุคลากรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพไว๎ในระบบราชการ โดยจะดําเนินการตั้งแตํระยะเฉพาะ
ั
หน๎าไปตามลําดบความจําเป็นและตามที่กฎหมายเอื้อให๎สามารถดําเนินการได ๎
๑๐.๕ ใช๎มาตรการทางกฎหมาย การปลูกฝังคํานิยม คุณธรรม จริยธรรมและจิตสํานึกในการรักษาศักดิ์ศรี
ั
ุ
ูํ
ของความเป็นข๎าราชการและความซื่อสัตย๑สจริต ควบคกับการบริหารจดการภาครัฐทมีประสทธิภาพ เพื่อปูองกัน
ี่
ิ
ิ
ั
ุ
ี่
ิ
ุ
๎
และปราบปรามการทจริตและประพฤตมิชอบของเจาหน๎าทของรัฐทกระดบอยํางเครํงครัด ยกเลกหรือแก๎ไข
ํ
กฎหมาย ระเบียบ ข๎อบังคับตําง ๆ ที่ไมํจําเป็น สร๎างภาระแกํประชาชนเกินควร หรือเปิดชํองโอกาสการทจริต เชน
ุ
ั
ระเบียบการจดซื้อ จดจาง การอนุญาต อนุมัตและการขอรับการบริการจากรัฐ ซึ่งมีขั้นตอนยืดยาวใชเวลานาน
ั
๎
๎
ิ
ซ้ําซ๎อน และเสียคําใช๎จํายทั้งของภาครัฐและประชาชน
27
นโยบายและจุดเน๎นการดําเนินงาน สํานักงาน กศน.
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
...................................................
วิสัยทัศน๑
ุ
ํ
ึ
ี่
ํ
คนไทยทกชวงวัยไดรับโอกาสทางการศกษาและการเรียนรู๎ตลอดชวิตอยํางมีคณภาพ มีทกษะทจาเป็น
ั
ี
๎
ุ
ี่
๎
ั
ี
ิ
ํ
และสมรรถนะทสอดรับกับทศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดารงชวิตไดอยํางเหมาะสมบนรากฐานของหลก
ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง
พันธกิจ
ุ
ึ
๑. จัดและสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัยที่มีคณภาพ สอดคล๎อง กับหลักปรัชญา
ั
ของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อยกระดบการศึกษา และพัฒนา
สมรรถนะ ทักษะการเรียนรู๎ของประชาชนกลุํมเปาหมายให๎เหมาะสมในแตละชํวงวัย ให๎พร๎อมรับ การเปลี่ยนแปลง
ํ
ู
และการปรับตัวในการดํารงชีวิตได๎อยํางเหมาะสม ก๎าวสูํการเป็นสังคมแหํงการเรียนรู๎ตลอดชีวิต อยํางยั่งยืน
๒. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู๎ สื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศกษา การวัด
ึ
ุ
ั
๎
และประเมินผลในทกรูปแบบให๎มีคณภาพและมาตรฐานสอดคลองกับรูปแบบการจดการเรียนรู๎และบริบท ใน
ุ
ปัจจุบัน
ํ
๓. สงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศกษา และนําเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อเพิ่มชองทางและโอกาส
ํ
ึ
การเรียนรู๎ รวมถึงการเพิ่มประสทธิภาพในการจดและให๎บริการการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย
ึ
ั
ึ
ั
ิ
ให๎กับประชาชนกลุํมเปูาหมายอยํางทั่วถึง
ํ
ี
๔. สํงเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความรํวมมือเชงรุกกับภาคเครือขําย ให๎เข๎ามามีสวนรํวม ใน
ิ
ํ
ั
ี
ึ
ึ
การสนับสนุนและจัดการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย และการเรียนรู๎ตลอดชวิตในรูปแบบตาง ๆ
ให๎กับประชาชน
๕. ฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองค๑กรให๎มีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการทด บนหลก ของธรร
ี่
ี
ั
มาภิบาล มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และคลํองตัวมากยิ่งขึ้น
ุ
ั
๖.ยกระดบการบริหารและการพัฒนาศกยภาพบุคลากรให๎มีความรู๎ ทกษะ สมรรถนะ คณธรรม และ
ั
ั
จริยธรรมที่ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให๎บริการทางการศึกษาและการเรียนรู๎ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
เปูาประสงค๑
1. ประชาชนผู๎ด๎อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนทั่วไปได๎รับโอกาส ทาง
การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาตํอเนื่อง และการศึกษา ตาม
ุ
อัธยาศัยที่มีคณภาพอยํางเทําเทียมและทั่วถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต๎องการของแตํละ
กลุํมเปูาหมาย
2. ประชาชนได๎รับการยกระดับการศึกษา สร๎างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม หน๎าทความเป็น
ี่
พลเมืองที่ดภายใต๎การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย๑เป็นประมุข ที่สอดคล๎องกับหลัก
ี
ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง อันนําไปสูํการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร๎างความเข๎มแข็งให๎ชมชน เพื่อ
ุ
พัฒนา ไปสูํความมั่นคงและยั่งยืนทางด๎านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร๑ และสิ่งแวดล๎อม
3. ประชาชนได๎รับการพัฒนาทักษะการเรียนรู๎และแสวงหาความรู๎ด๎วยตนเองผํานแหลํงเรียนรู๎ ชํอง
ทางการเรียนรู๎ และกิจกรรมการเรียนรู๎รูปแบบตําง ๆ รวมทั้งมีเจตคติทางสังคม การเมือง วิทยาศาสตร๑ และ
28
ี่
เทคโนโลยีทเหมาะสม สามารถคิดวิเคราะห๑ แยกแยะอยํางมีเหตุผล และนําไปประยุกต๑ใช๎ในชีวิตประจําวัน รวมถึง
การแก๎ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได๎อยํางสร๎างสรรค ๑
4. หนํวยงานและสถานศึกษา กศน. มีหลักสูตร สอ นวัตกรรม ชํองทางการเรียนรู๎ และกระบวนการ
ื่
เรียนรู๎ในรูปแบบที่หลากหลาย ทันสมัย และรองรับกับสภาวะการเรียนรู๎ในสถานการณ๑ตําง ๆ เพื่อแก๎ปัญหา และ
พัฒนาคุณภาพชีวิตตามความต๎องการของประชาชนและชุมชน รวมทั้งตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงบริบท ด๎าน
เศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร๑ และสิ่งแวดล๎อม
ั
ิ
5. หนํวยงานและสถานศึกษา กศน. สามารถนําเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดจิทล มาพัฒนา
เพื่อเพิ่มชํองทางการเรียนรู๎ และนํามาใช๎ในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรู๎และโอกาสการเรียนรู๎ ให๎กับ
ประชาชน
6. ชุมชนและภาคเครือขํายทุกภาคสํวน มีสํวนรํวมในการจัด สํงเสริม และสนับสนุนการศึกษา นอกระบบ
ี
และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู๎ของชุมชน
7. หนํวยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการองค๑กรที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และเป็นไป ตาม
หลักธรรมาภิบาล
8. บุคลากร กศน. ทุกประเภททุกระดับได๎รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มทักษะและสมรรถนะในการปฏิบัติงาน
และการให๎บริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบัติงานตามสายงานอยํางมี
ประสิทธิภาพ
29
30
จุดเน๎นการดําเนินงาน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
1. น๎อมนําพระบรมราโชบายด๎านการศึกษาสูํการปฏิบัติ
1.1 สืบสานศาสตร๑พระราชา โดยการสร๎างและพัฒนาศูนย๑สาธิตและเรียนรู๎ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อ
ํ
ํ
ํ
ิ
เป็นแนวทางในการจัดการบริหารทรัพยากรรูปแบบตาง ๆ ทงดน น้ํา ลม แดด รวมถึงพืชพันธุ๑ตาง ๆ และสงเสริม
ั้
การใช๎พลังงานทดแทนอยํางมีประสิทธิภาพ
1.2 จัดให๎มี “หนึ่งชุมชน หนึ่งนวัตกรรมการพัฒนาชุมชน” เพื่อความกินดี อยูํดี มีงานทํา
ิ
ู
ั
ู๎
ิ
ั
ี่
ุํ
1.3 การสร๎างกลมจตอาสาพัฒนาชมชน รวมทงปลกฝงผเรียนให๎มีหลกคดทถูกตองดานคณธรรม
ั้
ุ
๎
ุ
๎
ี
ํ
ี่
ั
ิ
ู๎
ํ
จริยธรรม มีทศนคตทดตอบ๎านเมือง และเป็นผมีความพอเพียง ระเบียบวินัย สจริต จตอาสา ผานกิจกรรมการ
ิ
ุ
พัฒนา ผู๎เรียนโดยการใช๎กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด
2. สํงเสริมการจัดการศึกษาและการเรียนรู๎ตลอดชีวิตสําหรับประชาชนที่เหมาะสมกับทุกชํวงวัย
ั
ํ
2.1 สงเสริมการจดการศกษาอาชพเพื่อการมีงานทา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร๎าง
ึ
ี
ํ
ั
ี่
ุ
๎
ิ
นวัตกรรมและผลตภัณฑ๑ทมีคณภาพ มีความหลากหลาย ทนสมัย และตอบสนองความตองการของประชาชน
ผู๎รับบริการ และสามารถออกใบรับรองความรู๎ความสามารถเพื่อนําไปใช๎ในการพัฒนาอาชีพได ๎
2.2 สํงเสริมและยกระดับทักษะภาษาอังกฤษให๎กับประชาชน (English for ALL)
ํ
ิ
ี
ึ
ี่
ู๎
ูํ
ู
ั
ํ
2.3 สงเสริมการเรียนการสอนทเหมาะสมสาหรับผทเข๎าสสงคมสงวัย อาท การฝกอบรมอาชพ ท ี่
ี่
ุ
ู
เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคณภาพชีวิตและสํงเสริมสมรรถนะผสงวัย และหลกสตร การดแล
ู
ั
ู๎
ู
ผู๎สูงวัย โดยเน๎นการมีสํวนรํวมกับภาคีเครือขํายทุกภาคสํวนในการเตรียมความพร๎อมเข๎าสูํสังคมสูงวัย
3. พัฒนาหลักสูตร สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลํงเรียนรู๎ และรูปแบบ การจัดการศึกษาและ
การเรียนรู๎ ในทุกระดับ ทุกประเภท เพื่อประโยชน๑ตํอการจัดการศึกษาที่เหมาะสม กับทุกกลุํมเปูาหมาย มีความ
ทันสมัย สอดคล๎องและพร๎อมรองรับกับบริบทสภาวะสังคมปัจจุบัน ความต๎องการ ของผู๎เรียน และสภาวะการ
เรียนรู๎ในสถานการณ๑ตําง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
3.1 พัฒนาระบบการเรียนรู๎ ONIE Digital Leaming Platform ทรองรับ DEEP ของ
ี่
กระทรวงศึกษาธิการ และชํองทางเรียนรู๎รูปแบบอื่น ๆ ทั้ง Online On-site และ On-air
3.2 พัฒนาแหลงเรียนรู๎ประเภทตาง ๆ อาท Digital Science Museum/ Digital Science Center/
ํ
ิ
ํ
๎
ู
ุ
Digital Library ศนย๑การเรียนรู๎ทกชวงวัย และศนย๑การเรียนรู๎ตนแบบ กศน. (Co-Learning Space) เพื่อให๎
ู
ํ
สามารถ “เรียนรู๎ได๎อยํางทั่วถึง ทุกที่ ทุกเวลา”
ี
3.3 พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝึกอบรมแบบออนไลน๑ มีระบบการเทยบโอนความรู๎ ระบบ
๑
สะสมหนํวยการเรียนรู๎ (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการให๎บริการระบบทดสอบอิเลกทรอนิกส (E-
็
exam)
4. บูรณาการความรํวมมือในการสํงเสริม สนับสนุน และจัดการศึกษาและการเรียนรู๎ให๎กับ ประชาชนอยํางมี
คุณภาพ
ั้
๑
ั้
๎
4.1 รํวมมือกับภาคเครือขํายทงภาครัฐ เอกชน ประชาสงคม และองคกรปกครองสวนทองถิ่น รวมทง
ั
ี
ํ
ั
สํงเสริมและสนับสนุนการมีสํวนรํวมของชุมชน อาทิ การสํงเสริมการฝึกอาชีพที่เป็นอัตลกษณและบริบทของชมชน
ุ
๑
สํงเสริมการตลาดและขยายชํองทางการจําหนํายเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ๑/สินค๎า กศน.
4.2 บูรณาการความรํวมมือกับหนํวยงานตาง ๆ ในสงกัดกระทรวงศกษาธิการ ทงในสวนกลาง และ
ํ
ั
ั้
ํ
ึ
ภูมิภาค
31
5. พัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพในการทํางานของบุคลากร กศน.
๎
ั
5.1 พัฒนาศกยภาพและทกษะความสามารถดานเทคโนโลยีดจทล (Digital Literacy & Digital Skills)
ั
ิ
ิ
ั
ให๎กับบุคลากรทุกประเภททุกระดับ รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัลอยํางมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาครูให๎มีทกษะ
ั
ั
ึ
ั
ความรู๎ และความชํานาญในการใช๎ภาษาอังกฤษ การผลิตสื่อการเรียนรู๎และการจดการเรียนการสอนเพื่อฝกทกษะ
การคิดวิเคราะห๑อยํางเป็นระบบและมีเหตุผล เป็นขั้นตอน
ํ
5.2 จัดกิจกรรมเสริมสร๎างความสัมพันธ๑ ของบุคลากร กศน.และกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทางาน
ํ
รํวมกันในรูปแบบตําง ๆ อาทิ การแขงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการทํางาน
6. ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร๎างและระบบบริหารจัดการองค๑กร ปัจจัยพื้นฐานในการจัดการศึกษา และการ
ประชาสัมพันธ๑สร๎างการรับรู๎ตํอสาธารณะชน
ํ
ํ
6.1 เรํงผลักดันรํางพระราชบัญญัติสงเสริมการเรียนรู๎ พ.ศ. ... ให๎สาเร็จ และปรับโครงสร๎าง การบริหาร
และอัตรากําลังให๎สอดคล๎องกับบริบทการเปลี่ยนแปลง เรํงการสรรหา บรรจุ แตํงตั้งที่มีประสิทธิภาพ
ั
ั
ํ
๎
6.2 นํานวัตกรรมและเทคโนโลยีดจทลมาใชในการบริหารจดการ พัฒนาระบบการทางานและข๎อมูล
ิ
ิ
ํ
๎
ี
ั
ั
ู
ั้
ั
สารสนเทศด๎านการศึกษาที่ทันสมัย รวดเร็ว และสามารถใชงานทนท โดยจดตงศนย๑ข๎อมูลกลาง กศน. เพื่อจดทา
ข๎อมูล กศน. ทั้งระบบ (ONE ONIE)
ี่
๎
6.3 พัฒนา ปรับปรุง ซํอมแซม ฟื้นฟูอาคารสถานท และสภาพแวดลอมโดยรอบของหนํวยงาน
สถานศึกษา และแหลํงเรียนรู๎ทุกแหํง ให๎สะอาด ปลอดภัย พร๎อมให๎บริการ
6.4 ประชาสมพันธ๑/สร๎างการรับรู๎ให๎กับประชาชนทวไปเกี่ยวกับการบริการทางวิชาการ/กิจกรรม ดาน
ั่
ั
๎
ี่
๎
ํ
ั
ึ
การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย และสร๎างชองทางการแลกเปลยนเรียนรู๎ดานวิชาการ ของ
ึ
ั
ึ
ํ
ั
ํ
ื่
ั
หนํวยงานและสถานศกษาในสงกัด อาท ขําวประชาสมพันธ๑ ผานสอรูปแบบตาง ๆ การจดนิทรรศการ/มหกรรม
ิ
วิชาการ กศน.
การจัดการศึกษาและการเรียนรู๎ในสถานการณ๑การแพรํระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19) ของสํานักงาน กศน.
๑
ื้
ื
จากสถานการณการแพรํระบาดของเชอไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เมื่อเดอนธันวาคม 2562
ึ
ั้
สํงผลกระทบตํอระบบการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกระดับชน ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงศกษาธิการ ไดออก
๎
ิ
ประกาศและมีมาตรการเฝาระวังเพื่อปูองกันการแพรํกระจายของเชอไวรัสดงกลาว อาท กําหนดให๎มี การเว๎น
ู
ื้
ํ
ั
ระยะหํางทางสังคม (Social Distancing) ห๎ามการใช๎อาคารสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ทุกประเภท
ึ
ั
ํ
ํ
ี่
เพื่อจดการเรียนการสอน การสอบ ฝกอบรม หรือการทากิจกรรมใด ๆ ทมีผเข๎ารํวมเป็นจานวนมาก การปิด
ู๎
ิ
สถานศึกษาด๎วยเหตุพิเศษ การกําหนดให๎ใชวิธีการจดการเรียนการสอนรูปแบบใหมํ อาท การจดการเรียนรู๎ แบบ
๎
ั
ั
ั
ั
ี
ออนไลน๑ การจดการเรียนรู๎ผานระบบการออกอากาศทางโทรทศน๑ วิทยุ และโซเซียลมีเดย ตาง ๆ รวมถึง การ
ํ
ํ
สื่อสารแบบทางไกลหรือด๎วยวิธีอิเล็กทรอนิกส ๑
ในสํวนของสานักงาน กศน. ไดมีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดาเนินงานในภารกิจ
ํ
๎
ํ
ิ
ี
ํ
ั
ํ
ํ
๎
ี
๑
ตอเนื่องตาง ๆ ในสถานการณการใชชวิตประจาวัน และการจดการเรียนรู๎เพื่อรองรับการชวิตแบบปกตวิถีใหมํ
(New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรู๎ตาง ๆ ไดให๎ความสาคญกับการดาเนินงานตามมาตรการการปูองกัน การ
๎
ั
ํ
ํ
ํ
ิ
ั
ุ
แพรํระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COMID - 19) อาท การจดกิจกรรมการเรียนรู๎ทกประเภท หากมีความ
๎
จําเป็นต๎องมาพบกลุํม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาตองมีมาตรการปูองกันทเข๎มงวด มีเจล แอลกอฮอลลาง
ี่
๎
ิ
ิ
ั
มือ ผู๎รับบริการต๎องใสํหน๎ากากอนามัยหรือหน๎ากากผ๎า ต๎องมีการเว๎นระยะหํางระหวํางบุคคล เน๎นการใชสอดจทล
ื่
๎
และเทคโนโลยีออนไลน๑ในการจัดการเรียนการสอน
32
บทที่ 4
การบริหารเชิงกลยุทธ๑ของ
ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ได๎ประชุมบุคลากรเพื่อรํวมกัน
ประเมินสถานการณ๑ของหนํวยงาน โดยใช๎การวิเคราะห๑สภาพแวดล๎อมและศักยภาพ (SWOT Analysis) ในการ
ุ
กําหนดจุดแข็งและจดอํอนจากสภาพแวดล๎อมในหนํวยงาน รวมทั้งโอกาสและอุปสรรคจากสภาพแวดล๎อม
ภายนอกหนํวยงานซึ่งเป็นจุดยืนหรือจุดเริ่มต๎นของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ ศูนย๑การศึกษานอกระบบ
และการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง อันเปนปัจจัยตํอการสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
็
อัธยาศัยของสถานศึกษาในสังกัด เพื่อนําผลไปใช๎ในการกําหนดทิศทางการดําเนินงานของหนํวยงาน ซึ่งได๎ผลการ
ประเมินสถานการณ๑ของหนํวยงาน ตามกรอบการบริหารเชิงกลยุทธ๑ของศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษา
๑
ตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ประกอบด๎วยองคประกอบยํอยพื้นฐาน 5 ประการคือ
1) การกําหนดทิศทาง (Direction Setting)
2) การประเมินองค๑กร/หนํวยงานและสภาพแวดล๎อม (SWOT Analysis)
3) การกําหนดกลยุทธ๑ (Strategy Formulation)
ิ
4) การนํากลยุทธ๑ไปปฏิบัต (Strategy Implementation)
5) การประเมินผลและการควบคุม (Evaluation and Control) ดังนี้
1) การกําหนดทิศทาง (Direction Setting)
ึ
ิ
ู
การกําหนดทศทางของศนย๑การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยอําเภอโพธิ์ทอง จะ
ึ
ั
ั
ํ
ประกอบด๎วย ปรัชญา วิสัยทัศน๑ พันธกิจกลยุทธ๑ และเปูาประสงค ซึ่งเป็นกรอบในการดาเนินงานทชดเจนจะชวย
ี่
๑
ํ
ิ
๑
๎
ํ
ู๎
ให๎ สถานศกษาสามารถกําหนดทศทางในระยะยาวซึ่งสานักงานโดยผบริหารและบุคลากรในองคกรไดรํวมกัน
ึ
ั
ิ
๎
๑
ั
พิจารณาปรัชญา วิสยทศน๑พันธกิจกลยุทธ๑และเปูาประสงคโดยปรับจากของเดมให๎สอดคลองกับภาระงานและ
ี่
บทบาทหน๎าทของ สถานศึกษาเพื่อเป็นแนวทางในการดําเนินงานดังนี้
ปรัชญา “คิดเป็น”
ื
๎
เป็นกระบวนการตัดสินใจโดยใช๎ข๎อมูล 3 ด๎าน คอ ข๎อมูลด๎านตนเอง ข๎อมูลดานสังคมและชุมชน
ข๎อมูลด๎านวิชาการ
วิสัยทัศน๑ กศน. อําเภอโพธิ์ทอง เป็นองค๑กรแหํงการเรียนรู๎ จัดการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพ
เพื่อการมีงานทําที่มีคุณภาพได๎อยํางทวถึงและเทําเทียมกันบนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ั่
อัตลักษณ๑ “ผู๎เรียนได๎รับการยกระดับความรู๎ สูํอาชีพ และชีวิตที่ยั่งยืน”
เอกลักษณ๑ “เป็นสถานศึกษาเพิ่มพูนพัฒนาอาชีพพอเพียง”
33
พันธกิจ
ุ
1. จัดและสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศัยให๎มีคณภาพ ตามหลักธรรมาภิบาล
ึ
ุ
ํ
ิ
ุ๎
(หลักนิติธรรม หลักคณธรรม หลักความโปรํงใส หลักความรับผดชอบ หลักความคมคาและหลักการมีสํวนรํวม)
2. จัดและสํงเสริมการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทําเพื่อพัฒนาสมรรถนะของประชาชนและชุมชน ให๎
สามารถสร๎างสรรค๑และแขํงขันด๎านอาชีพได๎อยํางยั่งยืน
3. สํงเสริมการมีสํวนรํวมของภาคีเครือขํายในการดําเนินการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
ั
อัธยาศยเพื่อสํงเสริมการศึกษาและการศึกษาเพื่อการมีงานทํา
๎
4. พัฒนาและสํงเสริม กศน. ตําบล ในการนําเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใชให๎เกิด
ประสิทธิภาพ ตํอการจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทํา
5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให๎สามารถดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษา
ํ
ตามอัธยาศัย เพื่อสํงเสริมการศึกษาและการศึกษาเพื่อการมีงานทําของประชาชนได๎อยํางมีประสิทธิภาพ
6. จัดการศึกษาให๎กลุํมเปูาหมายพิเศษ ผู๎พิการและผู๎สูงอายุมีสุขภาพกาย สขภาพจิตดี พึ่งพาตนเองได๎
ุ
ั
สามารถพัฒนาตนเอง ให๎เป็นพลังของชุมชน สงคมได ๎
ิ
7. กํากับดูแลตรวจสอบ นิเทศภายใน ตดตามประเมินผลและรายงานการดําเนินงานจัดกิจกรรมของ
กศน. อยํางเป็นระบบ
เปูาประสงค๑และตัวชี้วัดความสําเร็จ
เปูาประสงค๑ ตัวชี้วัดความสําเร็จ
ุํ
๎
ุํ
1.ประชาชนทกกลมเปูาหมายไดรับโอกาสทาง 1. ร๎อยละของประชากรกลมตางๆ (ประชากรวัย
ุ
ํ
ู๎
ุํ
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศย อยําง แรงงาน ผดอยโอกาส ผพิการ และกลมผสงอายุ)
ู
ู๎
ั
ู๎
๎
๎
ทั่วถึง มีคุณภาพ และเทําเทียมกัน ไดรับบริการการศกษานอกระบบและการศกษาตาม
ึ
ึ
อัธยาศัยอยํางทั่วถึง ครอบคลุม และเป็นธรรม
2. ร๎อยละของผรับบริการการศกษานอกระบบและ
ู๎
ึ
ั
ึ
ุํ
การศกษาตามอัธยาศย กลมตางๆ (ประชากรวัย
ํ
ุํ
ู
ี่
๎
ู๎
ู๎
ู๎
แรงงาน ผดอยโอกาส ผพิการ และกลมผสงอายุ) ทมี
ความพึงพอใจตํอบริการที่ได๎รับ
ู๎
๎
ั
ํ
2.ประชาชนสามารถเรียนรู๎ไดอยํางกว๎างขวาง 1. จานวนผรับบริการไดรับความรู๎และทกษะพื้นฐาน
๎
ั
หลากหลายตามความสนใจศกยภาพความพร๎อมและ ในการแสวงหาความรู๎ที่เอื้อตํอการเรียนรู๎ตลอดชีวิต
ู๎
ู๎
ี
ี่
โอกาสตามหลักการศกษาตลอดชวิตทมีความเชอมโยง 2. ร๎อยละของผเรียน/ผรับบริการทสามารถใช๎
ึ
ื่
ี่
๎
ึ
ระหวํางการศกษาในระบบการศกษานอกระบบและ Internet สบคนข๎อมูลไดหรือร๎อยละของผเรียนท ี่
๎
ู๎
ึ
ื
การศึกษาตามอัธยาศัย สามารถสบค๎นข๎อมูลความรู๎จากห๎องสมุด/แหลงเรียนรู๎
ื
ํ
ได ๎
3. ร๎อยละของผรับบริการทมีความพึงพอใจตอการใช ๎
ํ
ู๎
ี่
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสารของสถานศึกษา
ี
ํ
3.องคกรภาคสวนตางๆ มารํวมเป็นภาคเครือขํายใน 1. ร๎อยละของภาคเครือขํายในการดาเนินงาน
ํ
ี
๑
ํ
การดําเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกษาตาม การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยเพิ่ม
ั
ึ
ึ
ึ
อัธยาศัยอยํางกว๎างขวาง มากขึ้น
34
เปูาประสงค๑ ตัวชี้วัดความสําเร็จ
2. ร๎อยละของภาคเครือขํายทเข๎ามามีสวนรํวมในการ
ี่
ี
ํ
ดาเนินงานการศกษานอกระบบและการศกษาตาม
ึ
ํ
ึ
อัธยาศัย
๎
ึ
4.การนําเทคโนโลยีเพื่อการศกษา และเทคโนโลยี 1. ใชเทคโนโลยีเพื่อการศกษา และเทคโนโลยี
ึ
ื่
๎
ื่
สารสนเทศและการสอสาร มาใชในการเพิ่ม สารสนเทศและการสอสาร ในการเพิ่มประสทธิภาพ
ิ
ึ
ประสทธิภาพการศกษานอกระบบและการศกษาตาม การบริหารองคกร และบริการการศกษาและการ
๑
ึ
ิ
ึ
อัธยาศัยอยํางทั่วถึง เรียนรู๎ให๎กับประชาชน
ํ
ี่
ู๎
2. ร๎อยละของผรับบริการทมีความพึงพอใจตอการใช ๎
เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร ขององค๑กร/หนํวยงาน
ึ
5.ประชากรวัยแรงงานมีสมรรถนะในการประกอบ 1. ร๎อยละของประชากรวัยแรงงานทเข๎ารับการศกษา
ี่
ี
อาชพ สามารถประกอบอาชพทสร๎างรายไดให๎กับ อาชพเพื่อการมีงานทามีสมรรถนะในการประกอบ
ํ
ี
ี
ี่
๎
ตนเองและครอบครัวได๎อยํางยั่งยืน อาชีพที่เพิ่มขึ้น
ํ
ึ
ี่
2. ร๎อยละของประชากรวัยแรงงานทสาเร็จการศกษา
อาชีพเพื่อการมีงานทํา ที่สามารถนําความรู๎ไปใช๎ในการ
สร๎างรายได๎ให๎กับตนเองและครอบครัว
ี
ุ
6.ประชาชนมีคณธรรมดาเนินชวิตบนพื้นฐานปรัชญา 1. ร๎อยละของจํานวนกิจกรรมและหลักสูตรของ
ํ
เศรษฐกิจพอเพียงวัฒนธรรมทองถิ่นสามารถปรับตว สถานศึกษาที่เน๎นคุณธรรมจริยธรรมคํานิยมที่ดีงาม
๎
ั
รู๎เทําทันกับการเปลี่ยนแปลง รู๎จักสิทธิหน๎าที่ของตนเอง
ู๎
ุ
ู๎
2. ร๎อยละของผเรียน/ผรับบริการคณธรรมและ
จริยธรรมและคํานิยมที่พึงประสงค ๑
3. ร๎อยละของผเรียน/ผรับบริการสามารถปฏิบัตตว
ู๎
ู๎
ั
ิ
เป็นแบบอยํางทดของครอบครัวชมชนและสามารถ
ี
ุ
ี่
๎
๎
ี่
๑
แก๎ไขปัญหาพฤตกรรมทไมํพึงประสงคไดอยํางถูกตอง
ิ
เหมาะสม
ู๎
ู๎
4. ร๎อยละของผเรียน/ผรับบริการมีความสามารถใน
ํ
การคดวิเคราะห๑ข๎อมูลตางๆ และประเมินปัญหาหรือ
ิ
สถานการณ๑ที่อยูํรอบตัวที่มีผลตํอการดําเนินชีวิตได ๎
ี่
7.บุคลากรขององค๑กร/หนํวยงานไดรับการพัฒนาเพื่อ 1. ร๎อยละของบุคลากร ทไดรับการพัฒนาเพื่อเพิ่ม
๎
๎
เพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัตงานการศกษานอกระบบ สมรรถนะในการปฏิบัตงานการศกษานอกระบบและ
ึ
ิ
ึ
ิ
และการศึกษาตามอัธยาศัยอยํางทั่วถึง การศึกษาตามอัธยาศัย
2. ร๎อยละของบุคลากร ที่ได๎รับการพัฒนาสมรรถนะใน
ึ
การดําเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกษาตาม
ั
อัธยาศยและสามารถนํามาพัฒนางานไดอยํางมี
๎
ประสิทธิภาพ
๑
ั
8. องคกร/หนํวยงานมีการพัฒนาระบบการบริหาร 1. การพัฒนาระบบการบริหารจดการเพื่อเพิ่มประ
ิ
ั
จดการเพื่อเพิ่มประสทธิภาพในการดาเนินงาน สทธิ ภาพในการดาเนินงานการศกษานอกระบบและ
ํ
ํ
ิ
ึ
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การศึกษาตามอัธยาศัย
ู๎
ํ
ี่
2. ร๎อยละของผรับบริการทมีความพึงพอใจตอระบบ
35
เปูาประสงค๑ ตัวชี้วัดความสําเร็จ
การบริหารจดการในการดาเนินงานการศกษานอก
ํ
ั
ึ
ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
การประเมินองค๑กร/หนํวยงานและสภาพแวดล๎อม (Environment Scanning)
การประเมินสภาพแวดล๎อมขององค๑กร/หนํวยงานโดยมีจดมุํงหมายเพื่อให๎ทราบถึงจดแข็งจดอํอนโอกาส
ุ
ุ
ุ
ู
๎
ึ
ึ
ั
และอุปสรรคซึ่งศนย๑การศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยอําเภอโพธิ์ทอง ไดดาเนินการวิเคราะห๑
ํ
แบบสว็อท (SWOT Analysis) สรุปได๎ดังนี้
จุดแข็ง (Strengths-S)
ํ
1.สามารถปรับการทางานให๎ยืดหยุํนตามความต๎องการของผู๎ใช๎บริการ สภาพแวดล๎อมและวัฒนธรรมของ
ท๎องถิ่น
2.ได๎รับความรํวมมือจากภาคีเครือขํายหลายประเภท
3. ผู๎บริหารให๎อิสระในการทํางานและให๎การสนับสนุน
4. บุคลากรมีสํวนรํวมในการรํวมวางแผนการปฏิบัติงาน
ิ
5. มีการมอบหมายบุคลากรให๎กระจายความรับผดชอบการจัดกิจกรรมในพื้นท ี่
จุดอํอน (WEAK )
1. บุคลากรบางคนยังไมํเข๎าใจในภารกิจของหนํวยงาน
2. มีข๎อจํากัดในการใช๎งบประมาณ
3. การจัดการศึกษาพื้นฐานยังไมํได๎มาตรฐานคุณภาพของผู๎สําเร็จการศึกษา
โอกาส( OPPORTUNITY )
1. จัดการศึกษาได๎หลายรูปแบบ
2. ได๎รับการสนับสนุนด๎านตํางๆ จากภาคีเครือขําย เชํน สถานที่ทํางาน วิทยากร งบประมาณ
3. เนื่องจากอําเภอโพธิ์ทองมีสถานประกอบการเกิดขึ้นมากมาย จึงทําให๎ประชากรวัยแรงงานเห็น
ความสําคัญของการศึกษาเพี่อนําไปใช๎ในการประกอบอาชีพในอนาคต
4. พ.ร.บ.การศึกษาแหํงชาติเปิดโอกาสให๎ประชาชนได๎รับการศึกษาอยํางทั่วถึง
5. มีแหลํงการเรียนรู๎และ กศน. ตําบล กระจายอยูํในพื้นท ี่
6. มีภูมิปัญญาท๎องถิ่นแหลํงทํองเที่ยงที่มีชื่อเสียงอยูํในชุมชน
7. มีกลุํมอาชีพที่มีคุณภาพ สามารถขยายผลไปยังชุมชนอื่นๆ ได ๎
อุปสรรค ( TREAT )(สภาพแวดล๎อมภายนอก)
1. ขาดการตํอเนื่องของการพัฒนางาน
2. คุณภาพการปฏิบติงานของบุคลากรการดําเนินงานช๎ากวําเวลาที่กําหนด
ั
3. ประสิทธิภาพการทํางานไมํดีเทําที่ควร
4. ประชาชนบางกลุํมยังไมํพร๎อมและไมํเห็นความสําคัญในการปรับวิถีชีวิตให๎คืนสูํธรรมชาติโดยไมํลดละ
เลก ใช๎สารที่กํอให๎เกิดการตกค๎างในผลิตภัณฑ๑และผลิตผลทใช๎บริโภค
ิ
ี่
5. เกิดโรคระบาดไวรัสโคโรนา-19
36
การกําหนดกลยุทธ๑องค๑กร/หนํวยงาน
จากการวิเคราะห๑ความสอดคล๎องกับสาระสําคัญของยุทธศาสตร๑ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. ๒๕60-2579)
และจุดเน๎นการดําเนินงานกระทรวงศึกษาธิการโดยเน๎นนโยบาย แนวทางหลักการดําเนินงานและโครงการที่สําคัญ
ของกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข๎องกับ กศน. ผนวกกับยุทธศาสตร๑และจุดเน๎นการดําเนินงานสํานักงาน กศน.
ประจําปีงบประมาณ 2563 โดยศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ได๎วิเคราะห๑
และกําหนดกลยุทธ๑ดังนี้
กลยุทธ๑ที่ 1 พัฒนาคุณภาพผู๎เรียน/ผู๎รับบริการ
ั
ึ
ั
สํงเสริมและสนับสนุนการจดการศกษานอกระบบให๎ประชาชนมีความรู๎พื้นฐานตลอดจนการจด
การศึกษาตํอเนื่องที่หลากหลายเพื่อการพัฒนาอาชีพทักษะชีวิต และการพัฒนาชุมชนและสังคมอยํางมีคุณภาพ
กลยุทธ๑ที่ ๒ พัฒนาแหลํงการเรียนรู๎ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและภูมิปัญญาให๎เป็นแหลํงการเรียนรู๎
สงเสริมและสนับสนุนการจดการศกษาตามอัธยาศยโดยการพัฒนาแหลงการเรียนรู๎การพัฒนา
ํ
ํ
ั
ั
ึ
ี่
ี
ํ
๎
ํ
ู๎
รูปแบบและวิธีการทหลากหลายเพื่อสงเสริมให๎ผเรียนไดเรียนรู๎อยํางตอเนื่องตลอดชวิตโดยน๎อมนําปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงมาใช๎ในการดําเนินชีวิต
๎
ี่
ํ
สงเสริมและสนับสนุนให๎มีการนําสอและเทคโนโลยีสารสนเทศทเหมาะสมมาใชประโยชน๑เพื่อ
ื่
การศึกษาอยํางสร๎างสรรค ๑
กลยุทธ๑ที่ ๓ สํงเสริมและพัฒนาให๎สอดคล๎องกับสภาพและความต๎องการของกลุํมเปูาหมาย
สํงเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชนให๎สอดคลองกับสภาพและความตองการ
๎
๎
ของกลุํมเปูาหมายและเพื่อให๎เกิดกระบวนการเรียนรู๎ในการแก๎ไขปัญหาและการพัฒนาชุมชน
กลยุทธ๑ที่ 4 ผนึกกําลังภาคีเครือขํายให๎มีสํวนรํวมในการจัดการศึกษา
สํงเสริมและสนับสนุนการมีสํวนรํวมของภาคีเครือขํายในการจัดการศึกษา
สํงเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ
สํงเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมพร๎อมในการเข๎าสูํประชาคมอาเซียน
กลยุทธ๑ที่ 5 พัฒนาศักยภาพของบุคลากรและการบริหารจัดการ
มุํงเน๎นการพัฒนาวิชาการบุคลากรมาตรฐานและการประกันคณภาพตลอดจนการพัฒนาการ
ุ
เรียนรู๎ในองค๑กรไปสูํองค๑กรแหํงการเรียนรู๎
37
การนํากลยุทธ๑ไปปฏิบัติ (Strategy Implementation)
การนํากลยุทธ๑ไปปฏิบัติ คือ กระบวนการทผู๎บริหารแปลงนโยบายกลยุทธ๑ไปสูํแผนปฏิบัติการทระบุถึงแนว
ี่
ี่
ี่
ทางการปฏิบัติทสอดประสานกับบทบาทหน๎าทของกลุํมงานตํางๆ อยํางชัดเจนและเข๎าใจได๎ซึ่งจากเปูาหมายเชิง
ี่
กลยุทธ๑ (Strategic goals) อาจถูกแปลงเป็นเปูาหมายยํอย (Sub-goals)กําหนดเป็นเปูาหมายประจําปี
(Annual goals) จากนั้นจะแตกไปเป็นเปูาหมายของแตํละกลุํมแตํละโครงการการกระจายกลยุทธ๑ (Strategic
Deployment) หากองค๑กรมีการสร๎างวิสัยทัศน๑สร๎างพันธกิจขึ้นมาแล๎ว แตํไมํได๎มีการดําเนินการก็จะทําให๎เกิดการ
ํ
ิ
สูญเปลํา (Waste) ได๎แม๎วําแผนเหลานั้นจะเป็นแผนงานที่ถูกจัดทํามาอยํางดีผํานการระดมความคดมาอยํางเข๎มข๎น
เพียงใดก็ตามหากไมํลงมือปฏิบัติก็ยํอมไมํเกิดผล ดังนั้น ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
อําเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอํางทองจึงกําหนดแนวทางการนํากลยุทธ๑ไปปฏิบัติดังนี้
ํ
๑. การกําหนดขอบขํายของงาน ความสาเร็จขององคกร/หนํวยงานนั้นเกี่ยวข๎องกับประสทธิภาพในการ
๑
ิ
ั
ึ
นํา กลยุทธ๑ไปประยุกตปฏิบัต ดงนั้นจงไดกําหนดหน๎าทและความรับผดชอบของบุคลากรตลอดจนแนวทางหรือ
๎
ิ
ี่
๑
ิ
วิธีการในการปฏิบัติงานเพื่อนํากลยุทธ๑ไปสูํการปฏิบัติอยํางเป็นรูปธรรม
ั
ี้
ั
ึ
ํ
ํ
๒. การกําหนดตวชวัดความสาเร็จโดยกําหนดตามแนวทางของสานักงานปลดกระทรวงศกษาธิการ
กลําวคือผู๎รับบริการไมํน๎อยกวําร๎อยละ 80 มีความพึงพอใจในการให๎บริการและให๎มีการประเมินผล
๓. ความพึงพอใจในโครงการที่ปฏิบัต ิ
๔. การจัดทําแผนปฏิบัติการประจําปีต๎องคํานึงถึงกลยุทธ๑และการมีสํวนรํวมของทุกภาคสํวน
๑
๕. การจัดการความรู๎การก๎าวเข๎าสูํองค๑กรแหํงการเรียนรู๎ตามปรัชญาของ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง นั้นองคกร
จําเป็นต๎องมีการสร๎างแสวงหาและถํายโยงความรู๎และมีการเปลี่ยนแปลงเป็นพลวัต (Dynamics)มีพัฒนาการคล๎าย
ี่
มีชีวิตสามารถสร๎างผลงานตามทตั้งเปูาหมายไว๎ทั้งในด๎านคุณภาพประสิทธิภาพตลอดจนการสร๎างนวัตกรรม
(Innovation) และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค๑กรไปสูํคุณภาพ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง จึงได๎กําหนดแนวทางใน
การดําเนินงานคือ
1) การมีสํวนรํวมโดยให๎บุคลากรทุกคนในองค๑กรมีสํวนรํวม
2) การออกแบบกระบวนการทํางานให๎เหมาะสมสอดคล๎องกับทรัพยากรการศึกษา
3) การจัดการสารสนเทศการเผยแพรํและเชอมโยงโดยใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศ
ื่
การประเมินผลและการควบคุม (Evaluation and Control)
การควบคุมกลยุทธ๑เป็นหน๎าที่สาคัญที่เกี่ยวข๎องกับการติดตามตรวจสอบประเมินผลกลยุทธ๑ที่นําไปปฏิบัต ิ
ํ
ทั้งนี้ในการนํากลยุทธ๑ไปปฏิบัตินั้นมักจะเกิดข๎อผิดพลาดที่ต๎องการการปรับปรุง เพื่อให๎แนํใจวํากลยุทธ๑นั้นจะ
๎
ั้
กํอให๎เกิดผลการปฏิบัติงานที่ตรงตามแผน ที่ไดตงไว๎ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง จึงได๎ใช๎กลไกการประกันคุณภาพใน
การควบคุมการบริหารเชิงกลยุทธ๑เพื่อการประเมินผลการดําเนินงานเชิงกลยุทธ๑การตรวจสอบคณภาพและ
ุ
ึ
ึ
มาตรฐานการศกษาตามมาตรฐานที่สานักงานสํงเสริมการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย กําหนดใน
ั
ึ
ํ
ิ
พระราชบัญญัตการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๐ กําหนดให๎สถานศึกษา
ดําเนินการประกันคุณภาพภายในให๎สอดคล๎องกับระบบ หลักเกณฑ๑และวิธีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
ุ
ตลอดจนสร๎างความเข๎าใจกับบคลากรทุกคนภายใน กศน. อําเภอโพธิ์ทอง เพื่อให๎เกิดความตระหนักถึง
ความสําคัญของ การทํางานโดยการใช๎กระบวนการ PDCA ที่มีการตรวจสอบทบทวนการดําเนินงานดังนี้
ี่
ิ
ึ
P : Plan การวางระบบสานักงานมีแผนพัฒนาการจดการศกษาทกําหนดทศทางในการพัฒนาไปส ูํ
ั
ํ
ี่
ิ
เปูาหมายภายในระยะเวลาทกําหนดเชน 3-5 ปีจากแผนระยะยาวดงกลาว นํามากําหนดเป็นแผนปฏิบัตการ
ํ
ั
ํ
ิ
ประจําปีซึ่งแผนปฏิบัติการประจําปีจะประกอบไปดวย โครงการและกิจกรรมยํอย ๆ ทระบุขั้นตอนวิธีปฏิบัตงาน
๎
ี่
38
ิ
ี่
ํ
๎
ิ
ํ
ี่
ั
ู๎
หรือกิจกรรมทชดเจนซึ่งผทรับผดชอบแตละโครงการหรือแตละกิจกรรมจะตองนําไปปฏิบัตเพื่อให๎เกิดประโยชน๑
สูงสุดกับผู๎รับบริการ
D : DO การปฏิบัติตามแผน ในขั้นตอนนี้ทุกคนต๎องปฏิบัติงานตามแผนของสานักงานและโครงการทตน
ํ
ี่
ุ
ิ่
ั
ํ
ํ
รับผดชอบผบริหารพึงตองสงเสริมสนับสนุนให๎บุคลากรทางานอยํางมีความสขมีการจดสงอํานวยความสะดวก
ู๎
๎
ิ
ิ
ั
ู๎
ุํ
จดหาทรัพยากรให๎เพียงพอ มีการนิเทศกํากับตดตาม ให๎ขวัญกําลงใจแกํผปฏิบัตงานเป็นรายบุคคลและรายกลม
ิ
ั
๎
เพื่อให๎ผู๎ใต๎บังคับบัญชาสามารถปฏิบัติงานไดอยํางมีประสิทธิภาพ
C : Check การตรวจสอบหรือประเมินผลการประเมินต๎องเริ่มต๎นตั้งแตํการกําหนดกรอบการประเมินวํา
จะประเมินอยํางไร ใครเป็นผู๎ประเมินระยะเวลาประเมินเครื่องมือวิธีที่ใช๎การเก็บรวบรวมข๎อมูลที่ดีจะทําให๎ได ๎
ข๎อมูลทสอดคล๎องกับวัตถุประสงค๑ของการประเมินสามารถนํามาวิเคราะห๑รายโครงการผลการดําเนินการประจําปี
ี่
แล๎วนํามาสรุปผลเป็นภาพรวมของ กศน.อําเภอ
A : Action การนําผลการประเมินมาปรับปรุงงานหลังจากประเมินผลการดําเนินงานตามกรอบ
ุ
มาตรฐานการประเมินแล๎วควรนําผลการประเมินมาวิเคราะห๑หาจดเดํนจุดด๎อยของแตํละระบบ และพิจารณาวํา
เกี่ยวข๎องกับกลุํมงานหรือกลไกใด แล๎วจัดประชุมบุคลากรเพื่อแจ๎งผลการวิเคราะห๑ชแจงรายละเอียดให๎บุคลากร
ี้
ทุกคนทราบวําการดําเนินงานโครงการ กิจกรรม หรือระบบการทํางานใด ผลการดําเนินงานทําได๎ไมํดี คือต๎อง
ปรับปรุงแก๎ไขซึ่งต๎องนํามาพิจารณาหรือปรับปรุง เมื่อบุคลากรผู๎รับผดชอบได๎ดําเนินการปรับปรุงแก๎ไขในสํวนท ี่
ิ
ตนเองรับผิดชอบแล๎ว ก็ควรจะต๎องมีการนําเสนอแนวทางใหมํให๎บุคลากรในองค๑กรพิจารณารํวมกันเพื่อ
กําหนดเป็นแนวทางการปฏิบัติในภาพรวมของ กศน.อําเภอ อยํางเหมาะสมและมีประสิทธิภาพซึ่งทุกคนใน
องค๑กรได๎เรียนรู๎รํวมกัน
39
บทที่ 5
โครงการที่ปรากฏในแผนปฏิบัติการประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
กศน. อําเภอโพธิ์ทอง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กศน.อําเภอโพธิ์ทอง ได๎จัดทําโครงการเพื่อรองรับนโยบาย
กระทรวงศึกษาธิการ และนโยบาย สํานักงาน กศน. โดยสรุปดังนี้
1. โครงการสํงเสริมการรู๎หนังสือไทย 40
2. โครงการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 48
3. โครงการพัฒนาคุณภาพผู๎เรียน 54
4. โครงการการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต 60
5. โครงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน 73
6. โครงการการจัดกระบวนการเรียนรู๎เศรษฐกิจพอเพียง 84
7. โครงการวิชาชีพระยะสั้น (หลักสูตร ไมํเกิน 30 ชั่วโมง) 92
8. โครงการวิชาชีพระยะสั้น (หลักสูตร 31 ชั่วโมงขึ้นไป) 105
9. โครงการจัดและสํงเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อคงพัฒนาทางกายจิต
และสมองของผู๎สูงอายุ 120
10. โครงการ 1 อําเภอ 1 อาชีพ 128
11. โครงการพัฒนาห๎องสมุดประชาชน“เฉลิมราชกุมารี” อําเภอโพธิ์ทอง
ให๎เป็น Digtal Library 134
12. โครงการสํงเสริมการอํานสูํชุมชน (รถห๎องสมุดเคลื่อนท) 147
ี่
13. โครงการบ๎านหนังสือชุมชน 153
14. โครงการห๎องสมุดเคลื่อนทสําหรับชาวตลาด 159
ี่
15. โครงการครอบครัวรักการอําน 165
16. โครงการพัฒนาแหลํงเรียนรู๎ กศน.อําเภอโพธิ์ทอง 176
17. โครงการอาสาสมัคร กศน.ตําบล 180
18. โครงการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 183
19. โครงการนิเทศเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 186
20. โครงการพัฒนาบุคลากร กศน.อําเภอโพธิ์ทอง 191
40
รายงานผลการดําเนินงานโครงการ
ตามยุทธศาสตร๑และจุดเน๎นการดําเนินงาน สํานักงาน กศน.จังหวัดอํางทอง
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
๑. ชื่อโครงการ โครงการสํงเสริมการรู๎หนังสือไทย
๒. ความสอดคล๎องกับนโยบาย
นโยบายเรํงดํวนเพื่อรํวมขับเคลื่อนยุทธศาสตร๑การพัฒนาประเทศ
๔.ยุทธศาสตร๑ด๎านการสร๎างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา
๓.เพิ่มอัตราการรู๎หนังสือและยกระดับการรู๎หนังสือของประชาชน
๓.๑ เรํงจัดการศึกษาเพิ่มเพิ่มอัตราการรู๎หนังสือ และคงสภาพการรู๎หนังสือ
๎
ให๎ประชาชน สามารถอํานออก เขียนได๎และคิดเลขเป็น โดยใชสื่อและกระบวนการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และ
กลุํมเปูาหมาย
ั
ั
ื
ั
๓.๒ ยกระดบการรู๎หนังสอของประชาชน โดยจดกิจกรรมพัฒนาทกษะการเรียนรู๎
ิ
ํ
ื
ั้
๎
ั
ี
หนังสอในรูปแบบตางๆ รวมทงทกษะดานเทคโนโลยีดจทล เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู๎ตลอดชวิตของ
ั
ิ
ประชาชน
ภารกิจตํอเนื่อง
๑.ด๎านการจัดการศึกษาและการเรียนรู๎
๑.๒ การสํงเสริมการรู๎หนังสือ
๑) พัฒนาระบบฐานข๎อมูลผู๎ไมํรู๎หนังสือ ให๎มีความครบถ๎วน ถูกต๎อง ทันสมัย
และเป็นระบบเดียวกันทั้งสํวนกลางและพื้นท ี่
ั
ู
ื่
ํ
๒) พัฒนาหลกสตร สอ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดาเนินงาน การ
สํงเสริมการรู๎หนังสือที่สอดคล๎องกับสภาพแตํละกลุํมเปูาหมาย
ั
๓) พัฒนา กศน. และภาคเครือขํายรํวมจด ให๎มีความรู๎ ความสามารถ และ
ี
ทักษะกระบวนการเรียนรู๎ให๎กับผู๎ไมํรู๎หนังสืออยํางมีประสิทธิภาพและอาจจัดให๎มีอาสาสมัครการรู๎หนังสือในพื้นท ี่
๔) สงเสริม สนับสนุนให๎สถานศกษาจดกิจกรรมสงเสริมการรู๎หนังสอ การคง
ึ
ั
ํ
ื
ํ
ื
ั
ื
ึ
สภาพการรู๎หนังสอ การพัฒนาทกษะการรู๎หนังสอให๎กับประชาชนเพื่อเป็นเครื่องมือในการศกษาและการเรียนรู๎
อยํางตํอเนื่องตลอดชีวิตของประชาชน
๓. หลักการและเหตุผล
๎
การเรียนรู๎ของผู๎ใหญํมีลักษณะที่สําคัญกลําวคือ ผู๎ใหญํสามารถเรียนรู๎ไดดวยตนเองและการตดสนใจของ
ิ
๎
ั
ผใหญํสอดคลองเหมาะสมกับสภาพพื้นฐานของผใหญํแตละคน การจดกระบวนการเรียนรู๎ในทกกิจกรรมของ
ู๎
ั
ํ
ุ
ู๎
๎
ํ
๎
ิ
ู๎
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจาเป็นตองมีความรู๎ความเข๎าใจสภาพธรรมชาตของผเรียนซึ่งเป็น
ี่
ุํ
ู๎
ั
ี่
ํ
๎
ผใหญํทมีความพร๎อมและศกยภาพในการเรียนรู๎ทแตกตางจากกลมเปูาหมายในโรงเรียนซึ่งตองทาความเข๎าใจ
ํ
ํ
เกี่ยวกับความคิด จิตใจ อารมณ๑ พฤติกรรมของผใหญํ ทมีความแตกตางระหวํางบุคคลมีความสนใจและมีลกษณะ
ู๎
ี่
ั
การเรียนรู๎เฉพาะของตน การสํงเสริมการรู๎หนังสือซึ่งมีความสําคัญมากสําหรับประชาชนที่อาศัยอยูํในประเทศไทย
ู๎
ุ
ี่
ํ
ี้
ทแสดงให๎เห็นวําอัตราการรู๎หนังสอยังเป็นตวชวัดทสาคญในการพัฒนาประเทศ ปัจจบันประเทศไทยยังมีผไมํรู๎
ั
ี่
ื
ั
ึ
หนังสือกระจายอยูํทั่วไปในทุกกลุํมคน ทุกกลุํมอายุและทุกภูมิภาค ซึ่งถือวําเป็นภารกิจโดยตรงของสถานศกษาใน
ํ
ํ
ํ
ี่
ึ
ู๎
ั
ั
ํ
สงกัดของสานักงานสงเสริมการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศยทจะตองมีการสารวจจานวนผไมํรู๎
๎
ึ
หนังสอในพื้นที่ให๎ได๎ข๎อมูลที่ชัดเจนและดําเนินการจัดให๎ผู๎ไมํรู๎หนังสือได๎เรียนรู๎จากหลกสตรและสอ ทเหมาะสมกับ
ื
ื่
ู
ั
ี่
๎
๎
ํ
สภาพของกลุํมเปูาหมายแตํละกลุํมทั้งนี้โดยรํวมมือกับสถานศึกษาและองค๑กรปกครองสวนทองถิ่นและสอดคลองกับ
ึ
ั
เจตนารมณ๑ของพระราชบัญญัติสํงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย พ.ศ.๒๕๕๑ ตลอดจนแผนยุทธศาสตร๑
41
ํ
ํ
ึ
ํ
สงเสริมการศกษานอกระบบและการศกษาตามอัธยาศย ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖4 ตามนโยบายเรํงดวนเพื่อรํวม
ั
ึ
ึ
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร๑การพัฒนาประเทศ ข๎อ ๔.ยุทธศาสตร๑ด๎านการสร๎างโอกาสและความเสมอภาคทางการศกษา
ื
ั
ื
ํ
ั
ข๎อที่ ๓.เพิ่มอัตราการรู๎หนังสอและยกระดบการรู๎หนังสอของประชาชนและ ภารกิจตอเนื่อง ข๎อ ๑.ดานการจด
๎
การศึกษาและการเรียนรู๎ ๑.๒ การสํงเสริมการรู๎หนังสือ
ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง ได๎ตระหนักถึงความสําคัญของ
ู๎
ื
ึ
ู๎
ั
๎
ื
ํ
ผไมํรู๎/ผลมหนังสอ จงไดจดทาโครงการสงเสริมการรู๎หนังสอไทย ปีงบประมาณ ๒๕๖4 ขึ้นเพื่อดาเนินการใน
ื
ํ
ํ
ปีงบประมาณ 2564 เพื่อให๎เกิดกระบวนการเรียนรู๎และบรรลุวัตถุประสงค๑สืบเนื่องไป
๔.วัตถุประสงค๑
เพื่อสํงเสริม สนับสนุน ให๎สถานศึกษาจัดกระบวนการเรียนรู๎ให๎ผู๎เข๎าเรียนรู๎ มีความรู๎ สามารถอํานออก เขียนได๎
คิดคํานวณได๎ตามหลักสูตรที่กําหนด
๕.เปูาหมาย
๕.๑ เชิงปริมาณ
ประชาชน 34 คน
๕.๒ เชิงคุณภาพ
ี่
ผู๎เรียน มีความรู๎ ความสามารถอํานออก เขียนได๎ คิดคํานวณได๎ตามทหลักสูตรกําหนด
6. แผน / ผลการดําเนินงานตามเปูาหมายโครงการทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
แผน ผล
เชิงปริมาณ เชิงปริมาณ
(ระบุหนํวยนับด๎วย) เชิงคุณภาพ (ระบุหนํวยนับด๎วย) เชิงคุณภาพ
34 คน ผู๎เรียน มีความรู๎ ความสามารถ 71 คน ผู้เรียนมีทักษะการฟัง พูด อ่าน
อํานออก เขียนได๎ คิดคํานวณ เขียน การใช้พยัญชนะ สระ
ได๎ตามหลักสตรที่กําหนด วรรณยุกต์ และการคิดคานวณ
ู
เบื้องต้น โดยบูรณาการอยู่ใน
สภาพการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ
วิถีชีวิตของผู้เรียน ครอบครัว
ชุมชน และสังคม
7. ระยะเวลาดําเนินการโครงการ : 1 ตุลาคม 2563 - 30 กันยายน 2564
8. งบประมาณที่ได๎รับจัดสรรทั้งหมด : 18,700 บาท และงบประมาณที่ใช๎ไป 18,700 บาท
9. พื้นที่ดําเนินงานของโครงการ
1. ตําบลสามงําม
2. ตําบลโพธิ์รังนก
3. ตําบลคําหยาด
4. ตําบลบํอแรํ
42
4. ตําบลอินทประมูล
5. ตําบลบางพลับ
10. จุดเดํน
ู๎
1. กลุํมเปูาหมายเป็นผสูงอายุ สํวนใหญํจะอยูํบ๎านสามารถทําให๎การจัดการเรียนรู๎สะดวกขึ้น
ี่
2. มีสถานทในพื้นที่เหมาะสมตํอการจัดการเรียนรู๎
11. จุดด๎อย
1. กลุํมเปูาหมายบางคน ไมํสามารถเรียนได๎อยํางตํอเนื่อง เนื่องจากต๎องประกอบอาชีพ
ู
2. กลุํมเปาหมายบางคนมีปัญหาด๎านสุขภาพและมีปัญหาทางสายตาการมองเห็นไมํชัดเจน
ํ
๎
เนื่องจากมีอายุมากแลว ทาให๎การเรียนรู๎เป็นไปได๎ช๎ากวําปกต ิ
3. กลุํมเปูาหมายไมํสามารถรวมกลุํมกันเพื่อจัดกิจกรรมได๎ เนื่องจากไมํสะดวกในการเดินทาง
4. เนื่องจากอยูํในสถานการณ๑การแพรํระบาดของโรคไวรัส โคโรนํา 2019 ทําให๎การพบกลุํมทาได๎ยาก
ํ
เนื่องจากผู๎เรียนและผู๎สอนต๎องระมัดระวังการติดเชื้อ
12. จุดที่ควรพัฒนา
1. ควรออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู๎ให๎หลากหลายและเหมาะสมสอดคล๎องกับกลุํมเปูาหมาย
2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู๎ต๎องเน๎นเนื้อหาสาระที่สามารถนําไปใช๎ในชีวิตประจําวันได๎ทันทีเพื่อ
เป็นการทบทวนการเรียนรู๎
43
13. ภาพกิจกรรมการดําเนินงานของโครงการ
กิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 2 /2563
ตําบลสามงําม และตําบลโพธิ์รังนก
44
กิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 2 /2563
ตําบลบํอแรํ และตําบลคําหยาด
45
กิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 2 /2563
ตําบลอินทประมูลและตําบลบางพลับ
46
กิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 1/2564
ตําบลสามงําม ตําบลบํอแรํ และตําบลคําหยาด
ประชาสัมพันธ๑รับสมัครผู๎เรียน กลุํมผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 1/2564
มอบอุปกรณ๑การเรียน แจกใบงานและใบความรู๎ ให๎กับผู๎เรียน
47
กิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ลืมหนังสือ ภาคเรียนที่ 1/2564
ตําบลอินทประมูล และตําบลบางพลับ
มอบอุปกรณ๑การเรียน แจกใบงานและใบความรู๎ ให๎กับผู๎เรียน
แจกใบความรู๎ และใบงาน
48
รายงานผลการดําเนินงานโครงการ
ตามยุทธศาสตร๑และจุดเน๎นการดําเนินงาน สํานักงาน กศน.จังหวัดอํางทอง
ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
1. ชื่อหนํวยงาน/สถานศึกษา : ศูนย๑การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอําเภอโพธิ์ทอง
2. ชื่อโครงการ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3. ความสอดคล๎องกับนโยบาย
นโยบายและจุดเน๎นการดําเนินงาน สํานักงาน กศน. ประจําปีงบประมาณ ๒๕๖4
นโยบายเรํงดํวน เพื่อรํวมขับเคลื่อนยุทธศาสตร๑การพัฒนาประเทศ
ข๎อ ๔ ยุทธศาสตร๑ด๎านการสร๎างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมข๎อ
4.1 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให๎กับประชากรวัยเรียนที่อยูํนอกระบบการศึกษา
ภารกิจตํอเนื่อง
ข๎อ ๑ ดานการจัดการศึกษาและการเรียนรู๎
๎
ข๎อ ๑.๑ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๔. วัตถุประสงค๑
ุ
๔.๑ เพื่อสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให๎ประชาชนทกคน ทุกเพศ ทุกวัย รวมถึงผู๎ยากไร๎ ผด๎อยโอกาส ผ ู๎
ู๎
พิการ ผู๎บกพรํองทางกาย บกพรํองทางการเรียนรู๎ในการเข๎าถึงบริการทางการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานท ี่
มีคุณภาพโดยไมํเสียคําใช๎จาย
ํ
๔.๒ เพื่อพัฒนาผู๎เรียนให๎มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามมาตรฐานการเรียนรู๎ตามเกณฑ๑ที่กําหนด โดยให๎
ผู๎เรียนมีสํวนรํวมในการกําหนดเนื้อหาสาระ และวิธีการเรียนรู๎และบูรณาการสาระการเรียนรู๎
ี
๔.๓ เพื่อพัฒนาวิธีการ รูปแบบการจัดการเรียนการสอนระดับการศกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีการเทยบโอน
ึ
ความรู๎และประสบการณ๑ มีการบูรณาการเนื้อหาเข๎ากับวิถีชีวิตจริง
5. กิจกรรมที่ดําเนินงาน
๑. วางแผนการดําเนินงาน/การรับสมัครนักศึกษา
๒.ประชาสัมพันธ๑หลากหลายรูปแบบ
๓. รับสมัคร/นําข๎อมูลผเรียนสํงงานทะเบียนบันทึกลงโปรแกรมทะเบียนผู๎เรียน/จัดตั้งกลุํม
ู๎
๔. วิเคราะห๑ผู๎เรียนรายบุคคลและรายกลม
ุํ
ู
๕. วิเคราะห๑หลักสตร วางแผนการจัดกิจกรรมรํวมกับผู๎เรียน
๖. จัดซื้อหนังสือเรียน
7. จัดทําแผนการเรียนรู๎ รายสัปดาห๑ รายภาคที่เน๎นผู๎เรียนเป็นสําคัญ และจดทําสื่อการเรียนการสอนท ี่
ั
หลากหลาย จัดทําแผนการสอนออนไลน๑ในสถานการเกิดโรคระบาดโควิด-19
8. จัดกิจกรรมการเรียนรู๎ตามแผนการเรียนรู๎และปฏิทินการศึกษา พร๎อมทั้งบันทึกผลหลังการสอน
9. วิจัยในชั้นเรียน
10. นิเทศ/สนับสนุน/ติดตามการจดกิจกรรมการเรียนรู๎
ั
๑1. การวัดผลและประเมินผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน
๑2. สรุปประเมินผลการจัดกิจกรรมเมื่อสิ้นภาคเรียน
49
6. แผน/ผลการดําเนินงานตามเปูาหมายโครงการทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
แผนการดําเนินงาน ผลการดําเนินงาน
เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ
ภาคเรียนที่ 1.ผู๎เรียนทุกคนได๎รับโอกาสในการ 1,235 คน 1.ผู๎เรียนทุกคนที่ลงทะเบียนเรียนภาคเรียน
2/2563 ลงทะเบียนเรียน ที่ 2/2563 และภาคเรียน 1/2564
จํานวน ในภาคเรียนที่ 2/2563 ได๎รับการสนับสนุน และมีโอกาสเข๎าถึง
ู๎
ุ
584 คน 2.ผเรียนทลงทะเบียนเรียนทกคน บริการทางการ ศึกษาในระดับการศึกษาขั้น
ี่
ไดรับโอกาสในการสนับสนุน และ พื้นฐานที่มีคุณภาพโดยไมํเสีย คําใชจําย
๎
๎
ึ
ภาคเรียนที่ มีโอกาสเข๎าถึงบริการทางการศกษา ๒. ผู๎เรียนที่เข๎ารํวมกิจกรรมได๎รับการวัดผล
ี่
ั
1/2564 ในระดบการศกษาขั้นพื้นฐานทมี ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ึ
จํานวน คุณภาพโดยไมํเสียคําใช๎จําย ตามมาตรฐานการเรียนรู๎ตามเกณฑ๑ท ี่
651 คน 3. ผู๎เรียนที่ลงทะเบียนเรียนทุกคน กําหนด
และเข๎ารํวมกิจกรรมจะได๎รับการ 3. ผู๎เรียนมีสํวนรํวมในการกําหนดเนื้อหา
วัดผล ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการ สาระและวิธีการเรียนรู๎และบูรณาการสาระ
เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู๎ตาม การเรียนรู๎
เกณฑ๑ที่กําหนด 4. ผู๎เรียนมีสํวนรํวมและได๎รับโอกาสในการ
ุ
4.ผู๎เรียนที่ลงทะเบียนเรียนทกคนมี พัฒนาวิธีการ รูปแบบการจัดการเรียนการ
สํวนรํวมในการกําหนดเนื้อหาสาระ สอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี
และวิธีการเรียนรู๎และบูรณาการ การเทียบโอนความรู๎และประสบการณ๑ มี
สาระการเรียนรู๎ การบูรณาการเนื้อหาความรู๎เข๎ากับวิถีชีวิต
5.ผู๎เรียนที่ลงทะเบียนเรียนทุกคน จริง
มีสํวนรํวมในการพัฒนาวิธีการ 5. ผู๎เรียนมีความพึงพอใจในการจัด
ั
รูปแบบการจัดการเรียนการสอนใน การศึกษาขั้นพื้นฐานอยูํในระดบดีขึ้นไป
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี
การเทียบโอนความรู๎และ
ประสบการณ๑ มีการบูรณาการ
เนื้อหาความรู๎เข๎ากับวิถีชีวิตจริง
7. ระยะเวลาดําเนินการโครงการ
ปีงบประมาณ 2564
8. งบประมาณที่ได๎รับจัดสรรทั้งหมด : 989,562 บาท และงบประมาณที่ใช๎ไป 776,916.12 บาท
9. พื้นที่ดําเนินงานโครงการ
กศน.ตําบล ในเขตพื้นที่อําเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอํางทอง
50
10. ปัญหาอุปสรรค และข๎อเสนอแนะของโครงการ
ปัญหาอุปสรรค
ประชาชนที่เข๎ารับโอกาสทางการศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สํวน
ํ
ใหญํมีข๎อจํากัดในดานวัยและอายุที่แตกตํางกัน ข๎อจํากัดด๎านเวลาเรียน ข๎อจากัดด๎านการเรียนรู๎เนื่องจากเป็น
๎
บุคคลที่พลาดโอกาสทางการศึกษามาเป็นระยะเวลานาน และเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทําให๎นักศึกษาไมํได๎เข๎ามา
พบกลุํมต๎องเรียนทางออนไลน๑ นักศึกษาบางคนไมํมีเครื่องมือในการเรียนออนไลน๑
ข๎อเสนอแนะ
จัดการเรียนการสอนทางออนไลน๑ ในชํวงสถานการณ๑เกิดโรคระบาดโควิด-19 เยี่ยมบ๎านนักศึกษา แจกใบ
งานควรมีการยืดหยุํนในเรื่องเวลาเรียนให๎มากขึ้น
11. ภาพกิจกรรมการดําเนินงานโครงการ
ภาพกิจกรรมการดําเนินงานการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาขั้นพื้นฐาน