The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวบรวมกวีนิพนธ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-02-26 03:06:57

รวบรวมกวีนิพนธ์

รวบรวมกวีนิพนธ์

ผลงาน

กวนี พิ นธ์ไทย

บษุ ราคมั

“ทุกประพันธ์กลน่ั กลอนอกั ษรศาสตร์
จกั ประกาศให้เหน็ เป็ นหลักฐาน
เชิญเปิ ดอ่านทานองสุนทรกาญจน์
ในผลงานบษุ ราคมั นากว”ี





คานา

หนงั สือ ผลงาน “กวีนิพนธ์ไทย” ของบุษราคมั เล่มน้ีเป็ นหนงั สือ
ที่ถูกจดั ทาข้ึนเพ่ือรวบรวมงานการแต่งคาประพนั ธ์ประเภทต่างๆที่ถูก
ประพนั ธ์ข้ึนจากการไดร้ ับมอบหมาย

กระผมหวงั ว่าหนงั สือเล่มน้ีจะเป็ นแนวทางในการศึกษาให้กับ
ผูอ้ ่านไม่มากก็น้อย และสามารถที่จะนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ให้เกิด
ประโยชน์ได้

หนังสือเล่มน้ีได้จดั ทาข้ึนและสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดีและตอ้ ง
ขอขอบพระคุณ อาจารยร์ ุ่งรัตน์ ทองสกุล ท่ีได้แนะนาแนวทางในการเขียน
ผลงาน จนทาให้กระผมได้สาเร็จในผลงานตามจุดประสงค์ที่กาหนดไว้

นายวิทวสั หนูริง
ผูจ้ ดั ทา

สารบญั ข

เรื่ อง หน้า
คานา ก
สารบญั ข-ค
กลอนแนะนาตัว ๑
กลอน๘ ๒

กลอนเปล่า ๓

โคลงส่ีสุภาพ ๔
กาพยย์ านี๑๑ ๕
กาพยฉ์ บงั ๑๖ ๖
กาพยส์ ุราคนางค์๒๘ ๗
นิราศ ๘-๑๒
ร่ายสุภาพ ๑๓
อินทรวิเชียรฉันท์๑๑ ๑๔
เพลงตนั หยง ๑๕
เพลงสอนน้องภาษาไทย ๑๖ -๑๘
บทครูในดวงใจ ๑๙-๒๐
วิเคราะห์บทครูในดวงใจ ๒๑ -๒๒
กลอนโนราห์(ประเภทกลอนหนัง) ๒๓
กลอนโนราห์(ประเภทลอดโหม่ง นางเดินดง) ๒๔





กลอนแนะนาตวั

นามของขา้ น้ีหรือคือวิทวสั เดก็ ราชภฏั ภเู ก็ตเดด็ เหลือหลาย
เรียกวา่ บาสก็ยนิ ดีตามสบาย ไมห่ นีหน่ายภูมิลาเนาเราอยตู่ รัง

บุษราคมั



กลอน๘
เรื่อง ...เสน่หร์ วงทอง

เรียงเมล็ดขาวขนุ่ ครุ่นครวญคิด มอบชีวิตผคู้ นจนเติบใหญ่

ช่วยค้าจนุ คุณคา่ ธญั ญาไทย แถลงไขผ่านสื่อคอื คากลอน

กอ่ นจะเป็นเพยี งคร่ึงหน่ึงเปิ ปขา้ ว ดงั คากลา่ วท่ีวา่ กลา้ ตอ้ งถอน

มีกระบวนมากมายหลายข้นั ตอน เหมือนอกั ษรตาราว่าเอาไว้

จากรวงทองร่องนามาโรงสี ดง่ั มาลีหอมหวนชวนหลงใหล

ราวกบั เพชรเมด็ ดีศรีวิไล ขา้ วพนั ธุไ์ ทยเลศิ ล้าจนร่าลือ

หอมมะลิผลเิ ปลอื กเผือกขาวร่วน ดจุ นางนวลโพสพบรรจบช่ือ

อีกสงั ขห์ ยดปลดเปล่อื งเลอื่ งระบือ แลซอ้ มมือสีสลบั ประดบั ตา

ไรซ์เบอร์รี่สีมว่ งดงั พวงแกว้ สีเพริศแพร้วผดุ ผ่องน่ามองหา

ผดู้ แู ลคอื คุณหุ่นไล่กา ใหช้ าวนาเกบ็ เก่ียวเคียวโคง้ งอ

มาถงึ ตอนจะลาอวสาน สุนทรกาญจน์ขา้ วไทยจาไวห้ นอ

หากอยากรู้ถว้ นถไ่ี ม่รีรอ คน้ ควา้ ตอ่ กอ่ เกิดประเสริฐเอย

บุษราคมั



กลอนเปล่า
เรื่ อง…ทุกที่คือรันเวย์

เอ๊ะ! ยามราตรีน้ีทาไมพระจันทร์สว่างจัง
มนั สลับกับแสงสีในเมืองเก่า ทาให้ฉันนึกครึกคร้ืน

เฉิดฉายปลุกความเป็ นตวั เองออกมา
แล้วหยิบแว่นตามาสร้างภาพเก๋ ๆ

บุษราคมั



โคลงส่ีสุภาพ
เรื่ อง..รักเราร้าวราน

คนเคยรักชิดใกล้ ห่างไกล เสียแลว้
หมดเย่ือใยดวงแกว้ ด่ังไข้
เสี ยงเครื อส่ันเบาแผ่ว จาต้อง จากลา
จิตครุ่นคิดครวญใคร่ รุ่มร้อนเพราะรัก
คิดถึง ความหลัง
สุดสะอ้ืนร่าร้อง ด่ังฟ้า
ชิดร่างสวยสะพรั่ง อกหัก ขาดใจ
สุดทนท่ีฉุดร้ัง เส่ือมส้ินสลาย
ไหวหวน่ั สุดอนาถ

บุษราคมั



กาพยย์ านี๑๑
เร่ือง....ไซดกั ปลาสู่ความหรรษาแห่งท้องทุ่ง

เขา้ สู่ยามหน้าฝน น้าเอ่อล้นเต็มท้องทุ่ง
ฉันมองเห็นคุณลุง แกรี บมุ่งไปปลายนา
ยืนตดั เอาไม้ไผ่ ทาอะไรล่ะลุงจ๋ า
แกตอบพร้อมมีดพร้า ตวั กูหนาจะทาไซ
น่ังลงยกหัวเข่า ช่วยกันเหลาอย่างเร็วไว
เสร็จแลว้ ล้อมอวนไว้ จนไดไ้ ซไปหาปลา
ดกั ท่ีใต้ต้นบอน เอ๊ะไอ้ช่อนตวั เท่าขา
มองดูช่างแปลกตา เอ้ยบองหลาว่าแล้วเชียว
รี บว่ิงอย่างหันเห หาทาเลท่ีน้าเช่ียว
วางลงสักประเด๋ียว แลว้ เดินเที่ยวระหว่างรอ
รีบกลบั มายกไซ แสนดีใจได้ปลาหมอ
แกงส้มมะละกอ อยู่ในหม้อพออ่ิมเอม

บุษราคมั



กาพยฉ์ บงั ๑๖
เรื่อง…จิตวิญญาณ ณ แดนมนุษย์

กลิ่นธูปหอมหวนยวนใจ ช่างน่าเลื่อมใส
แสงไฟเจิดจา้ สว่าง องค์เจ้าเขา้ ร่าง
เดินวนทวั่ ทิศ
เสียงดังรัญจวนครวญคราง ประทับร่างทรง
ท่าทางตวั ส่ันหวน่ั จิต เป็ นสิ่งยืนยนั
หน้าตาแตกต่ืน
เขา้ อ๊ามสาแดงแผลงฤทธ์
เหล่าศิษย์ชิดใกล้ก้มลง บุษราคมั

เรียกป๊ าบา้ งม๊าอาก๋ง
บรรจงอาภรณ์สวมพลัน

ผา้ แพรปักลายโบต๋ัน
ลุยควนั ลุยไฟกองฟื น

ในมือถือแส้ฟาดพ้ืน
คา่ คืนเทวาสถิต



กาพย์สุรางคนางค์๒๘
เรื่ อง…วิถีชาวเลปลาแดดเดียว

แดนอนั ดามัน ปลาหลากสายพันธุ์ เกิ นจะบรรยา ย รายไดม้ ากมี
ชาวเลออกเรือ ไปหามาขาย เรื อแจวเรื อพาย เก็บไวไ้ ด้นาน
ความคิดที่ดี พ้ืนบา้ นของเรา
แปรผลผลิต ปลาตวั น้อยนิด เน้ือแน่นเต็มที่
ทาปลาแดดเดียว รสเค็มเปรมปรีย์ น่ารับประทาน
ถือเป็ นอาหาร
ไปทอดให้กรอบ กินแล้วต้องชอบ
มีหลากรสชาติ อย่างเช่นรสหวาน

บุษราคมั



นิราศ
เรื่อง...นิราศกลับบา้ น มิตรภาพตรัง-สตูล

เก็บกระเป๋ ารวบรัดแลจัดการ นิราศถึงพึงลบั กลับถ่ินฐาน
ออกจากหอแต่เช้าเก้าโมงคร่ึง คิดถึงบ้านเน่ินนานจะกลับไป
รีบจอดรถเร็วพลนั สัญญาณไฟ ผ่านโ รงกลึงซ่ึ งหน้าหาไฉน
มุ่งมาถึงขนส่งที่รอฉัน มอเตอร์ไซค์เรียงรายรอเวลา
จอดกันอยู่ช่องทางชานชาลา รถหลากคนั ที่เห็นเป็ นหนักหนา
ผ่านวงเวียนเทพกษตั รีศรีสุนทร เดินเขา้ มาซ้ือตว๋ั กลวั มิทัน
ถึงด่านท่าฉัตรไชยในคร่ึงวนั อนุสรณ์ข้ึนช่ือที่ลือล่นั
ข้ึนสะพานสารสินถิ่นพงั งา เสียงขบขันหรรษาพาสาราญ
ให้สมหวงั กับส่ิงที่ต้องการ แล้วหลบั ตาต้ังจิตอธิษฐาน
เขา้ ขนส่งโคกกลอยพลอยชื่นจิต ดลบันดาลได้พบประสบเจอ
หัวชนเบาะหลับตาแล้วละเมอ เพื่อชีวิตน่ังฟังจนแอบเผลอ
เพื่อนบอกเธอรี บต่ืนช่ืนสบาย

ผ่านท่ีว่าทาการศาลจังหวดั ๙
ผูท้ าการมากจริงท้ังหญิงชาย
เขา้ อ่าวลึกครึกคร้ืนช่างต่ืนเต้น สถาปัตยง์ ดงามความหลากหลาย
รอไฟแดงเวลาห้านาที เดินเรียงรายถ้วนหน้าชุดกากี
เขา้ รับผูโ้ ดยสารดา้ นขนส่ง เหลียวมองเห็นภูเขาลาเนาที่
เห็นผูค้ นมากมายทาหน้าบ้ึง เมืองกระบ่ีช่างไกลใจราพึง
ผ่านทางเขา้ ถ้าเสือมิเบ่ือหน่าย แสนมึนงงไม่ไหวเม่ือไหร่ถึง
เขตเมืองตรังเป็ นเมืองแห่งคนดี ตวั ฉันจึงหลบั ต่อไม่รอรี
ถึงสี่แยกอนั ดามนั ฉันเตรียมตวั ช่างผ่อนคลายทรายขาวเขา้ พ้ืนท่ี
ท้ังเส้ือผา้ ท่ีพับทบั จนแบน เรียกคลองชีวงั วิเศษเขตดินแดน
ถึงส่ีแยกนานอนจอดก่อนจ้า จากรถทวั ร์พายกระเป๋ าเขา้ ที่แขน
มารอรับนั่นหรื อคือพ่ีชาย มิขาดแคลนครบครันน้ันสบาย
ลาเพ่ือนเสร็จแอบเขินเดินทางต่อ อนั ตวั ขา้ วิทวสั ที่นัดหมาย
อีกไม่นานเกินรอรวดเร็วพลนั โบกมือบายรถทวั ร์ทว่ั ท้งั คนั
ผ่านศาลเจ้าท่ามกงเยี่ยช่างชื่นจิต โทรหาพ่อถามไถ่อยู่ไหนนั่น
ยิ้มร่ื นเริ งเส้นทางอย่างว่องไว มารับฉันท่ีหมายมิใกลไ้ กล
ถึงปลายทางกาหนดรถหยุดนิ่ง ครวญครุ่นคิดยกมือพนมไหว้
คนขับหยอกบอกว่าไม่ต้องกลัว ช่างเร้าใจราพึงครอบครัว
ยืนเหม่อลอยคอยพ่ออยู่ป้าย ซุ่มซ่ ามจริ งทาน้าหกไปทว่ั

อย่าได้มัวรี บลงเสี ยเวลา
แบตดันหมดหงุดหงิดเสี ยจริ งหนา

๑๐

อากาศร้ อนเม่ือไหร่ จะถึงครา โอ้บิดามารับฉันกลับที
ท่านมาถึงขนของเขา้ รถเก๋ง ทาหน้าเซ็งหิวมากในตอนน้ี
ขบั รถพากินขา้ วที่บ๊ิกซี แสนเปรมปรี ด์ ิสุ ขใจในเน้ื อปลา
รี บมุ่งตรงกลับบ้านย่านโคกหล่อ เร็วจริงหน๋อเกือบวนั ช่างหรรษา
ท้งั เมารถหิวขา้ วคราวอุรา ถึงบ้านข้าช่ืนใ จภายเรื อน
ถึงตวั ขา้ พรรณวษาจะขอกล่าว คือเรื่ องราวสดใสหาไหนเหมือน
ไปหาพ่อกับแม่มิแชเชือน หาลืมเลือนเพื่อนสนิทคิดเม้าท์มอย
สิ้นปี น้ีดีใจได้กลับบา้ น รอมานานหลายวนั ฉันไม่ถอย
จนถึงวนั ที่ฉันน้ันเฝ้าคอย ตะวนั คล้อยพบั ผา้ พาไปกอง
เช้าวนั ใหม่สดใสใจเบิกบาน น่ังลา้ งจานจดั บา้ นให้เขา้ ช่อง
เขา้ อาบน้าแต่งตวั กลวั คนมอง ญาติพ่ีน้องรอฉันน้ันกลับไป
ถึงเวลาข้ึนทวั ร์กลวั จะเหงา เปิ ดเพลงเศร้านั่งฟังช่างสุขใส
รถล้อหมุนเดินทางอย่างเร็วไว เหงาจับใจลาพังน่ังคนเดียว
ถึงสะพานสารสินถ่ินความรัก ฉันก็ทกั พกั ใหญ่ให้แลเหลียว
ถึงพังงาช่างเงียบเสี ยจริ งเชียว รอไปเที่ยวกับญาติท่ีหาดทราย
เลื่อนเพลงเศร้าเพราะฉันน้ันนั่งเงียบ หากจะเปรียบท่ีนี่กระบี่ไหม
เปิ ดแผนที่แล้วดูรู้เร็วไว แล้วมองไปท่ีหน้าต่างอย่างลาพัง
หลับสักพกั แล้วต่ืนฟ้ื นที่นี่ ถึงสักทีคนขับไม่ผิดหวงั
ช่างเสียดายนอนเล่นไม่เห็นตรัง มองเห็นบังมารับกลับบา้ นเรา
ต่อด้วยฉันทาริกาคนฮาเฮ มิลังเลเมามวั กลวั เงียบเหงา

๑๑

มุ่งสตูลเร็วพลันกันเถิดเรา สู่ลาเนาบ้านเดิมเพ่ิมสุขเชียว
กลบั ถึงบา้ นมีชัยไปกว่าคร่ึง น่ังคะนึงถึงแต่แหล่งท่องเที่ยว
กลบั ไปถ้าเล่นน้าอยู่คนเดียว ลาธารเช่ียวไหลผ่านหมู่บ้านคน
มีวนั หยุดน้อยคร้ังฉันหวงั ว่า หากจะพาใครไปไม่สับสน
ชวนญาติมิตรพ่ีน้องไปผจญ เท่ียวซุกซนสนุกสุขใจดี
เท่ียวน้าตกช่ือว่าวงั สายทอง ท้ังเพ่ือนผองยิ้มง่ายมิหน่ายหนี
บรรยากาศสดชื่นร่ืนฤดี ร่ วมไมตรี ชี วีมีต่อกัน
อีกปิ้ งย่างลูกชิ้นกล่ินหอมฟุ้ง นั่งตบยุงหรรษาน่าขบขนั
เปิ ดเสียงเพลงบรรเลงไปพร้อมกัน ทาให้ฉันมีสุขทุกข์มลาย
ถึงตอนเที่ยงแดดส่ องร่ องหน้าผา ยอดหญ้าคาหุบใบน่าใจหาย
ลงล่องแก่งอาบน้าเวลาบ่าย เพ่ือผ่อนคลายตัวเราสดชื่นจัง
ที่ผ่านให้เก็บเป็ นความหลงั
อาทิตยล์ ับกลบั เรือนเถิดเพ่ือนหนา ไวค้ ราวหลงั ยงั มีอีกทีเอย
มีครอบครัวเพื่อนผองไม่ลาพัง

ชาวิททาพรรณ

สมาชิกในกลุ่ม

นางสาวชาลิสา ภาสกรกุล เลขท่ี๙ ทศศ๖๔๑

นายวิทวสั หนูริง เลขที่๒๗ ทศศ๖๔๑

นางสาวทาริกา นุ้ยเด็น เลขท่ี๑๑ ทศศ๖๔๒

นางสาวพรรณวสา ยุนุ้ย เลขที่๑๙ ทศศ๖๔๒

๑๒

สัดส่วนเปอร์เซ็นการทางาน
*กลุ่มของพวกกระผมได้เดินทางกลับบ้านพร้อมกันโดยบ้านของแต่ละคนก็อยู่ห่างไกล
คนละจังหวดั กัน พวกกระผมจึงได้คิดว่าเป็ นการนิราศที่น่าจะสนุกโดยต่างคนก็ต่างลงรถ
ในสถานท่ีของตนเอง และเท่ากับว่าได้แชร์สถานท่ีแต่ละที่ว่าผ่านที่ไหนบ้าง
โดยกระผม นายวิทวสั หนูริง เป็ นคนที่ลงรถคนแรก และกลุ่มของพวกเรามี๔คน
กระผมจึงนิราศไป ๑๒บท ต้งั แต่ นิราศถึงพึงลับกลบั ถิ่นฐาน จนไปถึง โบกมือบ๊ายรถ
ทัวร์ทว่ั ท้ังคนั
กระผมได้ทางานชิ้นน้ี ๔๐%
นางสาวชาลิสา ภาสกรกุล เป็ นคนลงรถคนที่๒ ถดั จากกระผมไป
นิราศไป ๖บท ต้งั แต่ ลาเพื่อนเสร็จรถเร่งเดินทางต่อ จนถึง ถึงบ้านขา้ ช่ืนใจในบ้านเรือน
ได้ทางานช้ินน้ี๒๐%
นางสาวพรรณวสา เป็ นคนลงรถคนท่ี๓ เขาเดินทางต่อไปจงั หวดั สตูล
นิราศไป ๖บท ต้งั แต่ สิ้นปี น้ีดีใจได้กลับบ้าน จนถึง ท้ังตระกูลรอรับกลับบ้านเรา
ได้ทางานช้ินน้ี๒๐%
นางสาวทาริกา นุ้ยเด็น เป็ นคนลงรถคนสุดท้าย
นิราศไป ๖บท ต้งั แต่ กลบั ถึงบ้านมีชัยไปกว่าคร่ึง จนถึง ไวค้ ราวหลงั ยงั มีอีกทีเอย
ได้ทางานชิ้นน้ี๒๐%
(ส่วนบทที่เหลือ ๒ กระผมได้คิดเพ่ิมข้ึน เพ่ือให้ได้สัมผสั ระหว่างบทกับของคนถัดไป)

๑๓

ร่ายสุภาพ
สดุดีบุคลสาคญั

ยอดกวีวิไลลาศ นักปราชญ์ช้ันบรมครู สุนทรภู่คู่นิพนธ์ไทย

ระบือไกลคาสร้อย ท้งั ร้อยกรองร้อยแกว้ เพราะเพริศแพร้วเร่ืองนิราศ

ศาสตร์และศิลป์ ชิ้นอกั ษร กลน่ั กลอนวรรณกรรม น้อมนาวรรณคดี

อภยั มณียอดนิยม คมคายล้าลึกบาด อีกนิราศเมืองแกลง

กล่าวแถลงทุกท่วงถ้อย มิย่อยย่ิงแยบยอ้ ย ถ่องทว่ั สยาม ยอดยิ่ง

บุษราคมั

๑๔

อินทรวิเชียรฉันท์๑๑
กล่าวถึงบุคคลสาคัญ

เจ้าเมือง ณ แดนตรัง มนหวงั พระยาใต้
นามรัษฎาไว้ นุประดิษฐ์ก็ชัดเจน
พืชเศรษฐกิจจดั ปฏิบตั ิ ฤ ดังเช่น
ต้นยางประดุจเด่น ธุระกิจพระพารา
ได้ทานุ บารุ ง ผลิผดุงและรักษา
ดูแลมิคลาดตา นฤมิตรประชาตรัง

บุษราคมั

๑๕

เพลงตันหยง
ตันหยงดอกดาหลา

ตันหยง ตนั หยง หยงไหรละน้องหยงดอกดาหลา
น้องน้ีอยากกินแกงพุงปลา น้าชุปแมงดากะน่าอ่ิม
ปลาแห้งลูกจากเอาเขา้ มาท่ิม
หยิบครกหยิบสาก แต่อยากให้ชิมของน้องหวา
น้าชุปแมงดากะน่าอ่ิม แม่ส า วตา หวา นน้ ันนั่งร อถ้า
น้าแกงพุงปลาน้ันชาดหรอยแรง
พ่ีบ่าวหลบบ้าน
แต่อยากให้ชิมของน้องหวา บุษราคัม

๑๖

เพลงสอนน้องภาษาไทย

เพลง ๗ ชนิดจาง่าย

ทานองเพลง 30 จีบได้

ศิลปิ น หญิงลี ศรีจุมพล

จะบอกกับน้องตรง ๆ
น้องไม่ต้องงง นั่งทาตาปริบ ปริบ

คาไทย ๗ ชนิด
คานาม สรรพนาม กริยา
วิเศษณ์ สันธาน บุพบท และคาอุทาน
น้ีคือ คาไทย ๗ ชนิด

รู้เอาไวซ้ ะดว้ ย
จาเป็ นอย่างย่ิงในการเรียน

** คานาม เรียกชื่อ สรรพนามคาใช้แทนช่ือคานาม
กริยา แสดงอาการ วิเศษณ์ขยายท้งั ๓ หน้าน้ี
คาบุพบทเชื่อมคา อยู่หน้าคานาม สรรพนาม กริยา
โถ คาสันธาน เชื่อมเหมือนกันแต่สละสลวย

** อุทาน แสดงอารมณ์ ความรู้สึกให้ชัดเจนมากข้ึน
ก็จบไปแลว้ คาไทยท้ัง ๗ ชนิด
หวงั ว่าน้องคงเขา้ ใจ คาในภาษาไทยท้งั ๗ ชนิด
โถ คาไทย ๗ ชนิด จาง่าย ใช้เป็ น จะดี

กาชาพรวิททาพรรณ

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

สาระการเรียนรู้ภาษาไทย : คาในภาษาไทยจาแนกได้ ๗ ชนิด

๑๗

คาในภาษาไทยจาแนกได้ ๗ ชนิดคือคานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ คาบุพบท
คาสันธาน และคาอุทาน
- คานาม คือคาท่ีใช้เรียนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ และสถานท่ี เช่น ครู นักปลา ดินสอ
โต๊ะ บา้ น โรงเรียน
- คาสรรพนาม คือคาที่ใช้แทนคานาม เช่น ผม ฉัน หนู เธอ คุณขา้ พเจ้า เขา ท่าน มนั
เป็ นต้น
- คากริยา คือ คาแสดงอาการของนาม สรรพนาม แสดงการกระทาของประโยค เช่น
เดิน ว่ิง เรียน อ่าน นั่ง เล่น เป็ นต้น
- คาวิเศษณ์ คือ คาท่ีใช้ขยายคาอื่นให้ได้ใจความชัดเจนยิ่งข้ึน เช่น สูง ใหญ่ ดา อ้วน
ผอม แคบ หวาน เค็ม กวา้ ง
- คาบุพบท คือคาที่ใช้นาหน้าคาอื่น แบ่งออกเป็ น ๒ พวก คือ
๑. ไม่เช่ือมกับบทอ่ืน ไดแ้ ก่ คาทกั ทาย หรือร้องเรียน เช่น ขา้ แต่ อนั ว่า
๒. เชื่อมกับบทอื่น ได้แก่ โดย ของ บน
- คาสันธาน คือคาเชื่อมคา หรือประโยคเช่ือมประโยคให้ต่อเน่ืองกัน มี ๒ ลกั ษณะ คือ
๑. เชื่อมคากับคา เช่น พี่กับน้อง เขียนกับอ่าน ลูกและหลาน
๒. เช่ือมประโยคกับข้อความ หรือขอ้ ความกับประโยค
- คาอุทาน คือคาที่เปล่งออกมาบอกอาการ หรือความรู้สึกของผูพ้ ูด เช่น อุ๊ย ! พุทโธ่ !
ว๊าย! โอโ้ ฮ! อนิจจา!
บรรณานุกรม
ครูอภิชัย อภิชัย ธิณทพั . (๒๕๕๒). คาในภาษาไทยจาแนกได้ ๗ ชนิด. (ออนไลน์). เขา้ ถึง
ไดจ้ าก:

๑๘

https://www.gotoknow.org/posts/208769 (๒๕๖๕, ๑๗ กุมพา
พนั ธ์)

สมาชิกในกลุ่ม

๑. นายกามาลุดดีน อสั นีย์ เลขที่๒ ทศศ.๖๔๑

๒. นางสาวชาลิสา ภาสกรกุล เลขท่ี๙ ทศศ.๖๔๑
๓. นางสาวพรชิตา ห้วยลึก เลขที่๑๙ ทศศ.๖๔๑
๔. นายวิทวสั หนูริง เลขที่๒๗ ทศศ.๖๔๑
๕. นางสาวทาริกา นุ้ยเด็น เลขที่๑๑ ทศศ.๖๔๒
๖. นางสาวพรรณวษา ยุนุ้ย เลขที่๑๙ ทศศ.๖๔๒

๑๙

บทครูในดวงใจ

ให้นักศึกษาหาตวั อย่างบทประพันธ์ที่ช่ืนชอบ บทครูในดวงใจ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
ร่าย พร้อมท้งั บอกที่มาให้ครบถว้ น เพ่ือใช้ในการสอบอ่านทานองเสนาะบทประพนั ธ์ท่ี

นักศึกษาเลือกไว้

โคลง

หน่ึงในนฤมิตขอ้ อษั ฎา

ตุ่มใหญ่ใส่อุทกา เกือบล้น

ตุ่ขนัดถดั รายมา เล็กวุ่น มากพ่อ

ขนหาบชนขนพน้ ในท้องตุ่มมหันต์

ที่มา:คาโคลงในเร่ือง โสฬสนิมิต แต่งโดย พระสมุห์หนู วดั เสนาเมือง จ.นครศรีธรรมราช
หน้า๑๔๒ (วรรณกรรมและภาษาถ่ินใต)้

ฉันท์

อ้าแม่มิควรโรย วรรณหมองฉวีวร

แดดลมระทมอร จะพิบากพิบตั ิองค์

ถ้าพระเสด็จเดียว อนาถเปลี่ยว ณ ไพรหง

เคยแนบองอนงค์ ก็นิทรเอกากาย

ท่ีมา:มหาราชคาฉันท์ แต่งโดย พระสมุห์หนู วดั เสนาเมือง จ.นครศรีธรรมราช หน้า ๑๔๔
(วรรณกรรมและภาษาถ่ินใต้)

กาพย์

เป็ นใจอย่าเจียนจิต แม้นเป็ นศิษย์อย่าเจียนครู

เป็ นตาถ้าฟังหู อย่าว่ารู้แต่ผูเ้ ดียว

๒๐

น้าตาลหวานเลิศลน้ ยงั ไม่พน้ กินกับเหนียว

คร้ันดีแต่ผูเ้ ดียว มกั ค่อยเปร้ียวเมื่อภายหลัง

ท่ีมา:สุภาษิตร้อยแปดคากาพย์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน หน้า๑๓๔(วรรณกรรมและภาษา
ถ่ินใต้)

กลอน

ไพรสินถ่ินน้ีมียกั ษ์ เฝ้าดกั เหย่ือหวงั มงั สะ

กรกุมกระบองชิชะ ใครนะมารอต่อฤทธ์

กูคือยกั ษากล้าคึก หาญฮึกลึกล้าอามหิต

เดชาปรากฎทศทิศ ใครคิดรานรุกจุกอก

ที่มา:ตวั อย่างคากลอนประเภทกลอนหก ประพนธ์ เรืองณรงค์ หน้า๑๔๐ (วรรณกรรม
และภาษาถ่ินใต้)

ร่าย

สมเด็จราชดิลก ไทธิราชปกเกล้าบดี ต้งั พระชาลีหลานราช

ถือพลมาตรโดยตรา เป็ นมรรคาธิบดี นาพิรีโยธา

ที่มา:มหาเวสสันดร กณั ฑ์มหาราช หน้า๑๔๔ (วรรณกรรมและภาษาถ่ินใต้)

นายวิทวสั หนูริง
ทศศ๖๔๑ เลขท่ี๒๗

๒๑

ให้นักศึกษาวิเคราะห์สุนทรียศาสตร์จาก บทครูในดวงใจของนักศึกษาเอง

โคลง

หน่ึงในนฤมิตข้อ อษั ฎา

ตุ่มใหญ่ใส่อุทกา เกือบล้น

ตุ่ขนัดถดั รายมา เล็กวุ่น มากพ่อ

ขนหาบชนขนพน้ ในท้องตุ่มมหันต์

จากบทประพันธ์คาโคลงในเรื่อง โสฬสนิมิต มีการเล่นเสียงในสัมผสั ในท้ังการเล่นเสียง
สระเช่น ใหญ่ใส่ หนัดถดั ชนขนพน้ มีการเล่นเสียงในสัมผสั อกั ษรเช่น หน่ึ งใน น

ฉันท์

อ้าแม่มิควรโรย วรรณหมองฉวีวร

แดดลมระทมอร จะพิบากพิบัติองค์

ถ้าพระเสด็จเดียว อนาถเปลี่ยว ณ ไพรหง

เคยแนบองอนงค์ ก็นิทรเอกากาย

จากบทประพันธ์มหาราชคาฉันท์ มีการเล่นเสียงในสัมผสั ในท้ังการเล่นเสียงสระเช่น ทร
(ทะ ระ) ลมทม องนงค์ และมีการเล่นเสียงในสัมผสั อกั ษรเช่น แม่มิ หวีวร บากบตั ิ เด็จ
เดียว องอ กากาย และมีการทอดเสียงยาวโดยมีคาว่า อา้ เพ่ือบอกในความตกตะลึง

กาพย์

เป็ นใจอย่าเจียนจิต แม้นเป็ นศิษย์อย่าเจียนครู

เป็ นตาถ้าฟังหู อย่าว่ารู้แต่ผูเ้ ดียว

น้าตาลหวานเลิศล้น ยงั ไม่พ้นกินกับเหนียว

คร้ันดีแต่ผูเ้ ดียว มกั ค่อยเปร้ียวเมื่อภายหลงั

๒๒

จากบทประพนั ธ์สุภาษิตร้อยแปดคากาพย์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน มีการเล่นเสียงใน
สัมผสั ในท้ังการเล่นเสียงสระเช่น ตาถา้ รู้ผู้ ตาลหวาน อย่าว่า และมีการเล่นเสียงสัมผสั
อักษรเช่น ใจเจียนจิต เลิศล้น กินกับ ดีเดียว และมีการเปรียบเปรยในการส่ังสอนโดยนา ตา
กับหู หวานกับเปร้ียว มาเปรียบเปรย

กลอน

ไพรสินถ่ินน้ีมียกั ษ์ เฝ้าดักเหย่ือหวงั มังสะ

กรกุมกระบองชิชะ ใครนะมารอต่อฤทธ์

กูคือยกั ษากล้าคึก หาญฮึกลึกล้าอามหิต

เดชาปรากฎทศทิศ ใครคิดรานรุกจุกอก

จากบทประพนั ธ์ประเภทกลอนหก มีการเล่นเสียงในสัมผสั ในท้งั การเล่นเสียงสระเช่น
สินถ่ิน น้ีมี หวงั มัง กระชะ รอต่อ ษากลา้ ฮึกลึก ล้าอา ชาปรา กฎทศ รุกจุก และมีการเล่น
เสียงในสัมผสั อกั ษรเช่น กรกุมกระ ชิชะ ลึกล้า ทศทิศ รานรุก ส่วนมากบทประพนั ธ์น้ีจะ
เป็ นคาตาย ซ่ึงบ่งบอกถึงความดุดันของยกั ษา ในขณะท่องทาให้น้าเสียงมีความดุดัน

ร่าย

สมเด็จราชดิลก ไทธิราชปกเกลา้ บดี ต้งั พระชาลีหลานราช

ถือพลมาตรโดยตรา เป็ นมรรคาธิบดี นาพิรีโยธา

จากบทประพนั ธ์มหาเวสสันดร กณั ฑ์มหาราช มีการสรรคา เช่นคาว่า สมเด็จ ซ่ึงบ่งบอกถึง
ชนช้ันวรรณะ อาจจะเป็ นผูป้ กครองบ้านเมืองก็ได้ และบ่งบอกถึงการแต่งต้งั เกียรติยศใน
สมัยน้ัน

นายวิทวสั หนูริง
ทศศ๖๔๑ เลขท่ี๒๗

๒๓

กลอนโนราห์(ประเภทกลอนหนัง)
ราลึกพระคุณครูผูส้ อนศิลป์

เสียงอ้ือฉาวที่เขา้ หูอยู่ในห้อง ญาติคงจาได้ดีทุกพ่ีน้อง ท่านผูม้ องพองขนลุกบอกศิษย์จุกเสถียร
ท้ังท่าราคาว่าไม่แปรเปล่ียน ตามท่ีเรียนศึกษาจากอาจารย์
เกิดแรกเริ่มเดิมทีมีเช้ือสาย จากปักษ์ใต้เมืองตรังหวงั สืบสาน บรรพชนเขารักษากนั มานาน
ได้ประทานทานองศิลป์ ถ่ินใต้ไทย
เจ้าตารับขับขังยงั ลือแน่น จากทวดแป้น เคร่ืองงาม นามขานไข ชื่อเสียงกะเด่นดงั ยงั ก้าวไกล
จีนแขกไทยทุกเช้ือสายเขากะทาได้หมด
ผมเป็ นเด็กรุ่นหลังหวงั สืบทอด วิชาสอดคอยส่องแล้วผมกะมองกาหนด ทุกท่าราคาว่ากะเราจาจด
ตามแบบบทพจมาน ท่ีนามาผสานเสียง
ออว่าให้เข้าทับแล้วฉับเรียบเรียง เป็ นสาเนียงคาว่าภาษาถ่ิน ออแล้วเป็ นสาเนียงคาว่าภาษาถ่ิน

บุษราคัม

๒๔

กลอนโนราห์(ลอดโหม่ง นางเดินดง)
ชมธรรมชาติ

ดวงตะวนั รุ่งแจ้ง แล้วแสงมันสาดทอตา มองเห็นต้นจันผา ใบระยา้ เป็ นสาย

เสียงร้องฉาวฉา นกบินหลาข้ีควาย แล้วลงไปจิกลูกหวาย ลวดลายหลงใหล

ย่านเถาวลั ย์พันเก่ียว คดเค้ียวกันไป ถูกพันกับต้นไทร รากน้อยใหญ่แน่นหนา

ลาธารไหลเชี่ยว เหลียวไปเห็นพนั ธุ์ปลา มากมายมจั ฉา คงพรรณนาไม่หมด

แหวกว่ายหวน่ั ไหว ท้งั ช่อนไชไหลหลด อีกท้ังแม่ปลากด ริมแม่น้าคดเค้ียว

เห็นต้นจันทร์กระพอ้ อีกท้ังต้นยอป่ า หอมกล่ินโยติกา มันหอมมารวยริ่น

บุษราคมั




Click to View FlipBook Version