แนวคิดการจัดการ แบบวิทยาศาสตร์

แนวคดิ การจัดการ
แบบวทิ ยาศาสตร์

แนวคิดทางการจดั การเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Management
Approach) เป็ นแนวคิดท่ีเกิดข้ึนในยุคดง้ั เดิม ทาใหเ้ กิดมีการปฏิวตั ิ
อุต สาหกรรมจากท่ ี เกิ ดจากนั กวิ ทยาศาสต ร์และ นั กคิ ดในยุ ค น้ั น
ท่ีตอ้ งการพฒั นาประสิทธิภาพในการทางาน โดยมีการตงั้ สมมุติฐาน
กาหนดตวั แปร ทดลอง และวดั ผลการทดลองในกรณีตา่ ง ๆ เพ่ือหา
วิธีการท่ีดีท่ีสุด ซ่ึงคลา้ ยกบั หลกั การศึกษาทางวิทยาศาสตร์

วิธีการสาคญั ของการจดั การแบบวิทยาศาสตร์

1.พฒั นาหลกั การทางานใหด้ ีข้ึน
2.กาหนดมาตรฐานในการทางาน ใชว้ ิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ท่ีมีหลกั เกณฑค์ ดั เลือก ฝึกฝน สอนและ
พัฒนาคนงานใหม้ ีคุณสมบัติตรงตามงานท่ีปฏิ บัติ
เพราะในอดีตคนงานจะทางานของตนและแสวงหา
ประสบการณไ์ ปเร่ือย ๆ จนพบวิธีท่ีดีท่ีสุด

วิธีการสาคญั ของการจดั การแบบวิทยาศาสตร์ (ตอ่ )

3.กาหนดเคร่ ื องมื อในการควบคุมงาน
4.มีการร่วมมือกบั คนงานอยา่ งจริงใจ

แนวคิดและทฤษฎีของ Frederick W. Taylor

Frederick W. Taylor ไดช้ ่ือวา่ เป็นบิดาแหง่ การจดั การตาม
หลกั วิทยาศาสตร์ (Principle of Scientific Management)
ช้ีใหเ้ ห็นถึงขอ้ ดีของวิธีการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ มี
ความสาคญั และดีกวา่ การจดั การแบบความเคยชินหรื อ
Rule of Thumb ซ่ึงเป็นการบริหารท่ีไมม่ ีรูปแบบ อาศยั
วิธีการบริหารแบบเดิม ๆ ทาตามกนั มาท่ีไดร้ ับการถา่ ยทอด
มาจากบรรพบุรุษ

แนวคิดและทฤษฎีของ Frederick W. Taylor (ต่อ)

หลกั สาคญั ของการจดั การแบบวิทยาศาสตรต์ ามแนวคิด
ของ Frederick w. Taylor มีลาดบั ขนั้ ท่ีสาคญั อยู่ 4
ประการ คือ
1.พฒั นาระบบการทางานเป็นแบบวิทยาศาสตร์ ผา่ นการ
วิเคราะหอ์ ยา่ งมีหลกั เกณฑแ์ ทนการใชก้ ฎท่ีไมแ่ น่นอน

แนวคิดและทฤษฎีของ Frederick W. Taylor (ต่อ)

2.เลือกคนงานโดยอาศยั วิธีการวิทยาศาสตรใ์ ชว้ ิธีการทาง
วิทยาศาสตร์ท่ีมีหลกั เกณฑค์ ดั เลือก ฝึกหัด สอนและ
พฒั นาคนงานใหม้ ีคุณสมบตั ิตรงตามงานท่ีปฏิบัติเพราะ
ใ น อ ดี ต ค น ง า น จ ะ ท า ง า น ข อ ง ต น แ ล ะ แ ส ว ง ห า
ประสบการณไ์ ปเร่ือย ๆ จนพบวิธีท่ีดีท่ีสุด

แนวคิดและทฤษฎีของ Frederick W. Taylor (ต่อ)

3.ใหก้ ารศึกษาอบรมการจัดการแบบวิทยาศาสตร์แก่
คนงาน แบง่ งานและความรับผิดชอบระหวา่ งการจดั การ
และแรงงานหรื อกล่าวง่าย ๆ ว่ามีการแบ่งงานและ
ความรับผิดชอบระหวา่ งฝ่ายบริหารและฝ่ายผลิต เพราะ
ในอดีตน้ันงานและความรับผิดชอบสว่ นใหญจ่ ะตกแกฝ่ ่าย
ผลิต

แนวคิดและทฤษฎีของ Frederick W. Taylor (ต่อ)

4.จัด ใ ห ้มี ก า ร ป ร ะ ส า น สั ม พัน ธ์ ร ะ ห ว่า ง ค น ง า น ก ับ
ฝ่ ายจัดการ เพ่ือใหเ้ ช่ือม่ันไดว้ ่างานทั้งหมดไดป้ ฏิบัติ
ตามหลกั เกณฑท์ ่ีไดพ้ ฒั นาข้ึน

แนวคิดและทฤษฎีของ Frank and Lillian Gillbreth

สนับสนุนแนวคิดของ Taylor บุกเบิกศึกษาการเคล่ือนไหว
Motion study ตน้ แบบการพฒั นาศาสตร์ Ergonomics
คิดคน้ วิธีเรียงอิฐใหไ้ ดง้ านเป็ นสองเทา่ ในเวลาเท่ากนั ทงั้
สองไดจ้ ดั ทาภาพยนตร์แสดงการเคล่ือนไหวของคนงานใน
การทางาน เพ่ือช้ีใหแ้ สดงถึงการเคล่ือนไหวท่ีสูญเปลา่ และ
ไมม่ ีผลทางการผลิต และเคล่ือนไหวท่ีจาเป็นในการทางาน
ทงั้ น้ีโดยเรียกความเคล่ือนไหวพ้ืนฐานน้ีวา่ Therblig

แนวคิดและทฤษฎีของ Alexander H. Church

หลกั การของ Alexander H. Church เก่ียวกบั การใช้
แรงงานไปประยุกตก์ บั โครงสรา้ งของหนา้ ท่ี มีลาดบั
ขน้ั ท่ีสาคญั ดงั น้ี คือ
1.ประสบการณใ์ นการทางาน จะตอ้ งสะสมไว้

อยา่ งมีระบบและเป็นระเบียบ

แนวคิดและทฤษฎีของ Alexander H. Church (ต่อ)

2.แรงงานท่ีใชใ้ นการทางานจะตอ้ งเป็น
ไปโดยประหยดั และสม่าเสมอ
3.ประสิทธิผลในการทางานของแตล่ ะ
บุคคลควรไดร้ ับการสง่ เสริมและสนับสนุน

แนวความคิดประเด็นสาคญั ของทฤษฎีการจดั การแบบวิทยาศาสตร์

1.มีสมมุติฐานความเช่ือว่า แรงจูงใจในการทางานท่ีดีท่ีสุดคือ
ปัจจยั เร่ื องเงิน ฉะน้ันจึงตอ้ งหาวิธีการท่ีจะจา่ ยค่าตอบแทนให้
เหมาะสมเพ่ือการสรา้ งแรงจูงใจในการทางาน

2.หน่วยในการวิเคราะหอ์ ยูท่ ่ีคนงานในระดบั ลา่ งมีความสาคญั
เป็ นอนั ดบั แรกรองลงมา คือ ผูจ้ ัดการในระดบั กลางหรื อ
หวั หนา้ คนงาน

แนวความคิดประเด็นสาคญั ของทฤษฎีการจดั การแบบวิทยาศาสตร์

3.วิธีการท่ีใชว้ ิเคราะหป์ ัญหาเก่ียวกบั การกาหนดมาตรฐานของงานหรือ
มาตรฐานของคา่ ตอบแทนนั้นจะตอ้ งใชว้ ิธีการแบบวิทยาศาสตร์มาใช้
ศึกษา คือ เร่ิมจากการสงั เกต รวบรวมขอ้ มูล ทดลองหาแนวทางท่ีดีท่ีสุด
แลว้ กาหนดเป็นมาตรฐาน

แนวความคิดประเด็นสาคญั ของทฤษฎีการจดั การแบบวิทยาศาสตร์

4.เน้ื อหาส่วนใหญท่ ่ีเสนอเพ่ือการแกไ้ ขปัญหาขององคก์ ารนั้น คือ
การเนน้ เร่ือง การแบง่ งานกนั ทา ตามความรูค้ วามสามารถโดยกาหนด
อานาจหน้าท่ีความรับผิดชอบ ระหวา่ งสายงานหลกั และสายงานท่ี
ปรึกษาใหช้ ดั เจน การจดั โครงสรา้ งองคก์ ารและการกาหนดวิธีการ
ปฏิบตั ิงานของคนงานใหเ้ ป็นวิธีการท่ีเร็วท่ีสุด ประหยดั เวลามากท่ีสุด

คำถำม

คำตอบ 1

ยุคดง้ั เดิม แนวคิดทางการจดั การเชิงวิทยาศาสตร์
(Scientific Management Approach)
เป็ นแนวคิดในยุคใด

คำตอบ 2

4 ขอ้ วิธีการสาคญั ของการจดั การแบบ
วิทยาศาสตรม์ ีก่ีขอ้

คำตอบ 3

Frederick W. Taylor บิดาแหง่ การจดั การตามหลกั วิทยาศาสตร์

(Principle of Scientific Management)
คือใคร

คำตอบ 4

4 ประการ หลกั สาคญั ของการจดั การแบบ
วิทยาศาสตรต์ ามแนวคิดของ
Frederick w. Taylor มีก่ีประการ

คำตอบ 5

Frank and Lillian แนวคิดทฤษฎีของใครท่ ีสนับสนุ น
Gillbreth แนวคิดของ Taylor

คำตอบ 6

3 ขน้ั ตอน หลกั การของ Alexander H. Church
เก่ียวกบั การใชแ้ รงงานไปประยุกตก์ บั
โครงสรา้ งของหนา้ ท่ี มีลาดบั ขน้ั ท่ี
สาคญั ก่ีขน้ั

คำตอบ 7

4 ขอ้ แนวความคิดประเด็นสาคญั ของทฤษฎี
การจดั การแบบวิทยาศาสตรม์ ีก่ีขอ้

คำตอบ 8

ปัจจยั เรื่องเงิน สมมุติฐานความเช่ือวา่ แรงจูงใจใน
การทางานท่ีดีท่ีสุดคือ ปัจจยั เร่ืองใด

คำตอบ 9

ผจู้ ดั การในระดบั กลาง หน่วยในการวิเคราะหอ์ ยูท่ ่ีคนงานใน
หรือหวั หนา้ คนงาน ระดบั ลา่ งมีความสาคญั เป็นอนั ดบั แรก
รองลงมาจากใคร

คำตอบ 10

วิธีการแบบวิทยาศาสตร์ วิธีการท่ีใชว้ ิเคราะหป์ ัญหาเก่ียวกบั การ
กาหนดมาตรฐานของงานหรื อ
มาตรฐานของคา่ ตอบแทนน้ันจะตอ้ ง
ใชว้ ิธีการแบบใดมาวิเคราะห์

THANK YOU
THANK YOU
THANK YOU

THANK YOU

THANK YOU
THANK YOU
THANK YOU