วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 1/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกบั แม่พมิ พ์โลหะ
จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม
1. อธิบายความหมายของแมพ่ มิ พโ์ ลหะได้
2. จาแนกประเภทตา่ งๆ ของของแมพ่ มิ พโ์ ลหะได้
3. อธิบายแม่พมิ พโ์ ลหะชนิด Simple Die ได้
4. อธิบายแม่พมิ พโ์ ลหะชนิด Compound Die ได้
5. อธิบายแม่พมิ พโ์ ลหะชนิด Progressive Die ได้
6. เลือกเคร่ืองปั๊มที่ใชก้ บั งานแม่พิมพโ์ ลหะได้
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 2/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
ความรู้ทวั่ ไปเกยี่ วกบั แม่พมิ พ์โลหะ
1.1 ความหมายของแม่พมิ พ์โลหะ
แม่พมิ พโ์ ลหะ หมายถึง แม่แบบที่ใชใ้ นการสร้างผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ โดยผา่ นกระบวนการ ตดั
เฉือน กด อดั หรือข้ึนรูปใหไ้ ดต้ ามวตั ถุประสงคท์ ่ีตอ้ งการ
1.2 ประเภทต่าง ๆ ของแม่พมิ พ์โลหะ
1.2.1 งานตัด (Shearing)
1.2.1.1 งานตัด (Shearing)
เป็นงานตดั ทว่ั ๆ ไปท่ีใชค้ มตดั เฉือนโลหะใหข้ าดออกจากกนั
ลกั ษณะงานที่ตดั
1.2.1.2 Bevel Shearing
เป็นงานตดั ริมขอบของชิ้นงาน โดยมีคมตดั ดา้ นบนเอียงทามุมกบั แนวดิ่ง
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 3/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.1.3 Blanking
เป็นงานตดั ที่ตอ้ งการเอาส่วนท่ีตดั ไปแปรสภาพเป็นชิ้นงานตอ่ ไป โดยส่วนท่ีถูกตดั จะ
มีรูปร่างตามที่ไดอ้ อกแบบไวแ้ ลว้
แผน่ blank ที่ตดั ออกจากแผน่ strip
1.2.1.4 Trimming
เป็นงานตดั ขอบส่วนที่ไม่ตอ้ งการออกจากชิ้นงานท่ีข้ึนรูปมาแลว้
แสดงลกั ษณะของการ trim ส่วน
ท่ีไม่ตอ้ งการออกจากชิ้นงาน
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 4/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.1.5 Notching
เป็นงานตดั ทางดา้ นริมของชิ้นงานออกดงั รูป
1.2.1.6 Slitting
เป็นการตดั ในแนวตรง ใชใ้ นการตดั แยกโลหะแผน่ เลก็ ออกจากแผน่ ใหญ่
1.2.1.7 Parting หรือ Separating
เป็นการตดั แยกชิ้นงานที่สมมาตรกนั ออกเป็ น 2 ส่วน
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 5/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.1.8 Piercing
เป็นการตดั เจาะรู เพ่ือนารูไปใช้ ต่างกบั blanking ที่นาเศษของรูไปใชง้ าน
การเจาะรูหลงั จากการข้ึนรูปและตดั ขอบแลว้
1.2.1.9 Perforating
เป็นการตดั เจาะรูหลาย ๆ รูพร้อมกนั ซ่ึงส่วนใหญ่รูเหล่าน้ีจะมีรูปร่างและขนาดเท่ากนั
ท้งั หมด
ตวั อยา่ งรูปแบบการเจาะรูต่อเนื่องแบบมีรูปแบบ
(Perforating patterns)
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 6/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.1.10 Shaving
เป็นการตดั คร้ังที่สอง หลงั จากท่ี shearing หรือ cutting มาแลว้ เพอื่ ทาใหข้ อบของ
ชิ้นงานเรียบ
ตวั อยา่ งชิ้นงานที่ผา่ นการ shaving
1.2.2 งานพบั และงานป๊ัมเข้ารูป (Bending and Forming)
1.2.2.1 Bending
เป็นการพบั โลหะ ซ่ึงอาจจะเป็นรูปตวั V หรือตวั U กไ็ ด้
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 7/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.2.2.2 Forming
เป็นการปั๊มเขา้ รูปโลหะแผน่ เรียบใหม้ ีรูปร่างตามตอ้ งการ โดยที่ชิ้นงานจะมีรูปร่างและ
ขนาดตามรูปร่างและขนาดของ punch และ die
1.2.2.3 Flanging
เป็นการพบั ขอบของชิ้นงาน ซ่ึงอาจมีท้งั พบั ตรง โคง้ ออก หรือเวา้ เขา้ ตามรูป
โคง้ ออก เวา้ เขา้
1.2.2.4 Burring
เป็นการพบั บริเวณขอบของรูหรือบานรูออก
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 8/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.2.5 Curling
เป็นการมว้ นท่ีปลายขอบชิ้นงานรูปถว้ ย ทอ่ หรือโลหะแผน่ เรียบ
1.2.2.6 Seaming
เป็นการตอ่ ปลายของโลหะเขา้ ดว้ ยกนั โดยวธิ ีการพบั ติดกนั
1.2.2.7 Beading
เป็นการข้ึนรูปสนั เนิน เพอ่ื เพ่ิมความแขง็ แรงใหก้ บั ชิ้นงาน
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 9/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.2.8 Embossing
เป็นการป๊ัมโลหะ เพ่อื ทาใหเ้ กิดเป็นรอยกดต้ืน ๆ ซ่ึงตามทฤษฎีแลว้ จะไมท่ าใหค้ วาม
หนาของโลหะเปล่ียนไป
1.2.2.9 Necking ใหร้ ูปร่างเหมือนกบั
เป็นการลดขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางของภาชนะรูปทรงกระบอก
บริเวณคอของขวด
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 10/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.3 งานพบั และงานปั๊มเข้ารูป (Drawing)
1.2.3.1 Drawing
เป็นการข้ึนรูปโดยท่ี punch จะกดโลหะแผน่ เรียบเขา้ ไปในช่องวา่ งของ die เพ่อื ทาให้
เกิดเป็นภาชนะรูปถว้ ยกลวงและไม่มีตะเขบ็
1.2.3.2 Redrawing
เป็นการข้ึนรูปตอ่ จากการข้ึนรูปคร้ังแรก ซ่ึงภาชนะรูปถว้ ยจะมีความลึกเพิ่มข้ึน และ
พ้นื ที่หนา้ ตดั จะลดลง
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 11/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.3.3 Reverse Redrawing
เป็นการข้ึนรูปตอ่ จากการข้ึนรูปคร้ังแรก แตท่ ิศทางของการข้ึนรูปตรงขา้ มกบั การข้ึน
รูปคร้ังแรก
1.2.3.4 Ironing
เป็นการลดความหนาของผนงั ดา้ นขา้ งของรูปถว้ ยและจะทาใหผ้ วิ หนา้ เรียบตลอด
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 12/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.2.4 งานประเภท Extrusion, Coining มีดงั น้ี
1.2.4.1 Cold Extrusion
เป็นการข้ึนรูปชนิดหน่ึง โดยที่ punch จะอดั โลหะเขา้ ไปใน die orifice ซ่ึงจะทาใหไ้ ด้
ชิ้นงานตามรูปพ้นื ที่หนา้ ตดั ของ orifice
1.2.4.2 Forward Extrusion
เป็นการอดั โลหะ โดยโลหะท่ีอดั จะไหลตวั เขา้ ไปในช่องวา่ งของ die และมีรูปร่างตาม
ลกั ษณะของ die
1.2.4.3 Backward Extrusion
เป็นการอดั โลหะ โดยที่โลหะที่ถูกอดั จะไหลตวั เคล่ือนเขา้ หา punch และจะไดร้ ูปร่าง
ของชิ้นงานตามลกั ษณะของ punch
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 13/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.4.4 Forward and Backward Extrusion
เป็นการอดั โลหะ โดยโลหะจะไหลตวั เขา้ ไปใน die และมีบางส่วนจะไหลตวั เคล่ือน
เขา้ หา punch ซ่ึงจะทาใหไ้ ดช้ ิ้นงานท่ีมีรูปร่างตามลกั ษณะของ punch และ die
1.2.4.5 Impact Extrusion เป็ น Backward Extrusion ใชไ้ ดก้ บั โลหะที่ออ่ นมาก เช่น
ชนิดหน่ึงซ่ึงความหนาของผนงั มีความบางมาก
อะลูมิเนียม ตะกว่ั ดีบุก และสงั กะสี
1.2.4.6 Upsetting โดยมีบางส่วนของชิ้นงานมีพ้ืนท่ีหนา้ ตดั
เป็นการอดั โลหะเพือ่ ใหค้ วามยาวลดลง
เพ่มิ ข้ึน
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 14/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.2.4.7 Swaging
เป็นการอดั โลหะจนโลหะไหลตวั เขา้ ไปจนเตม็ ช่องวา่ งของ die และจะมีโลหะ
บางส่วนไหลออกมานอก die
1.2.4.8 Coining
เป็นการอดั โลหะ โดยที่ทุกส่วนของชิ้นงานจะถูกอดั อยรู่ ะหวา่ ง punch กบั die และไม่
มีส่วนใดออกมานอก die
1.2.4.9 Sizing
เป็นการปั๊มคร้ังท่ีสองเพื่อให้ไดข้ นาดท่ีถูกตอ้ งแน่นอนตามตอ้ งการ
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 15/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.2.4.10 Heading
เป็นการปั๊มเพื่อข้ึนรูป ทางดา้ นปลายของชิ้นงาน เช่น งานปั๊มหวั โบลทแ์ ละรีเวท
1.2.5 งานปั๊มประเภทอน่ื ๆ
1.2.5.1 Bulging
เป็นการขยายผนงั ของรูปถว้ ย รูปทรงกระบอกหรือท่อต่าง ๆ โดยใชแ้ รงดนั จากดา้ นใน
ออกมา แรงน้ีไดจ้ าการอดั ตวั ของ punch ซ่ึงกระทาต่อตวั กลาง เช่น อากาศ ของเหลว
หรือสารพวกข้ีผ้งึ ไข หรือยาง
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 16/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.2.5.2 Stretch Draw Forming
เป็นการข้ึนรูปที่มี clamp ยดึ ปลายท้งั สองขา้ งของโลหะไว้ หลกั การของการข้ึน
รูปแบบน้ีกค็ ือ การทาใหโ้ ลหะยดื ตวั ออกจนอยใู่ นช่วงของ plastic range ในขณะ
เดียวกบั ที่โลหะจะถูกข้ึนรูปโดย punch และดว้ ยวธิ ีน้ีกส็ ามารถป้ องกนั การเกิด spring
back ได้
1.2.5.3 Hydro Forming
เป็นการข้ึนรูปที่มีแต่ punch เท่าน้นั ที่จะเป็ นตวั กาหนดรูปร่างของชิ้นงาน ส่วนที่ die
จะเป็นของเหลว ซ่ึงมีหนา้ ท่ีในการอดั โลหะใหม้ ีรูปร่างตามลกั ษณะของ punch การ
ข้ึนรูปชนิดน้ี นิยมใชก้ บั การข้ึนรูปชิ้นงานท่ีมีรูปร่างยงุ่ ยาก
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 17/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.3 ประเภทของแม่พมิ พ์โลหะ
1.3.1 แม่พมิ พ์เดย่ี ว (Single die)
ภาพแมพ่ ิมพเ์ ด่ียว (Single Die)
1. ดา้ ม (Shank)
2. ตวั ยดึ พ้นั ช์ (Punch holder or Upper shoe)
3. ไกดโ์ พสต์ (Guide Post set)
4. ตวั ยดึ ดาย (Die holder or Lower shoe)
5. พ้นั ช์ (Punch)
6. แผน่ พ้นั ช์ (Punch Plate)
7. สตริปเปอร์ดายตวั (Fix Stripper)
8. ดาย (Die)
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 18/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.3.2 แม่พมิ พ์ผสม (Compound Die)
เมื่อพิจารณาถึงการลดความยุง่ ยากต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนตา่ ง ๆ เช่น จานวนชิ้นงาน จานวนแม่พิมพ์
ฯลฯ ท่ีเกิดข้ึนในแมพ่ มิ พเ์ ดี่ยว เราสามารถใชแ้ มพ่ มิ พช์ นิดหน่ึงเรียกวา่ “แมพ่ มิ พผ์ สม” (Compound Die) เขา้ มา
ช่วยลดข้นั ตอนในการผลิตลง เนื่องจากแมพ่ มิ พผ์ สมน้นั รวมเอาแมพ่ ิมพข์ ้นั ตอนเดี่ยวมารวมกนั เป็นแม่พิมพ์
เพ่อื ใหพ้ ิจารณาง่ายจะยกตวั อยา่ งชิ้นที่ใกลเ้ คียงงานจากแมพ่ ิมพเ์ ด่ียวจากขา้ งตน้
1. เขม็ กระทุง้ (Knockout pin) 9. แผน่ ส่งกาลงั (Pressure plate)
2. ดา้ ม (Shank) 10.พ้นั ช์ (Punch)
3. สลกั กาลงั ส่ง (Pressure pin) 11.แผน่ รองหลงั (Backing plate)
4. ตวั ยดึ พ้นั ช์ (Punch holder or upper shoe) 12.แผน่ พ้นั ช์ (Punch plate)
5. ไกดโ์ พสต์ (Guild post set) 13.ดาย (Die)
6. สตริปเปอร์โบลต์ (Stripper bolt) 14.สตริปเปอร์ (Stripper)
7. ตวั ยดึ ดาย (Die holder or lower shoe) 15.แผน่ ดาย (Die plate)
8. พ้นั ช์ (Punch) 16.สปริง (Spring)
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 19/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.3.3 แม่พมิ พ์ต่อเน่ือง (Progressive Die)
แมพ่ มิ พต์ อ่ เน่ือง คือ แม่พมิ พท์ ี่ประกอบข้ึนดว้ ยหลายตาแหน่ง การทางานเรียงอยใู่ นแนว
เส้นตรง ส่วนชิ้นงานจะถูกป้ อนจากตาแหน่งหน่ึงไปยงั อีกตาแหน่งหน่ึง โดยในแตล่ ะข้นั ตอนจะทาหนา้ ที่ในแต่
ละข้นั น้นั หรืออาจกล่าวไดอ้ ีกนยั หน่ึงก็คือ การนาเอาแม่พิมพเ์ ด่ียว ๆ หลายตวั มารวมกนั ในแมพ่ ิมพเ์ ดียว
แม่พมิ พช์ นิดน้ีมีราคาสูง ดงั น้นั จึงใชส้ าหรับการผลิตจานวนมาก ๆ เหตุเพราะวา่ แม่พมิ พช์ นิด
น้ีอาจจะมีอุปกรณ์อ่ืนเขา้ มาดว้ ย เช่น ระบบป้ อน (Feed System) เครื่องมว้ น (Roll Machine) ดงั น้นั ตน้ ทุนจึงมี
ราคาสูง ในแมพ่ มิ พแ์ บบต่อเน่ืองสามารถลดจานวนการปฏิบตั ิงานไดม้ ากกวา่ แมพ่ ิมพเ์ ดี่ยว เพยี งแต่เสียเวลาใน
การติดตวั อุปกรณ์ หรือระบบป้ อน
นอกจากน้ีการทาแมพ่ มิ พต์ ่อเน่ือง (Progressive Die) จะตอ้ งมีการศึกษาถึงการวางแผนการ
ปฏิบตั ิงาน การคานวณราคา เวลา ซ่ึงจะกล่าวภายหลงั จากท่ีไดย้ กตวั อยา่ งขา้ งตน้ เราสามารถนาชิ้นงานขา้ งตน้
มาทาเป็นแม่พิมพต์ ่อเน่ืองได้
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 20/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
ช่ือชิ้นส่วนต่างๆของแม่พมิ พ์
1. ตวั ยดึ พ้นั ช์ (Punch holder or upper shoe)
2. แผน่ รองหลงั (Backing plate)
3. แผน่ พ้นั ช์ (Punch plate)
4. ไกดโ์ พสต์ (Guild post set)
5. ตวั ยดึ ดาย (Die holder or lower shoe)
6. พ้นั ช์ตดั (Punch)
7. ตวั กาหนดตาแหน่ง (Pilot)
8. พ้นั ช์ดดั (Punch)
9. พ้นั ช์ตดั (Punch)
10. พ้นั ช์เจาะ (Punch pierce)
11. สตริปเปอร์ (Stripper)
12. แผน่ นาวสั ดุ (Stock guild)
13. แผน่ รอง (Specer)
14. ดายอินเสิร์ท (Die insert)
15. แผน่ รองชิ้นงาน (Pad)
16. สปริง (Spring)
17. ปลอกนาตวั กาหนดตาแหน่ง (Pilot bushing)
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 21/22
หน่วยการเรียนที่ 1 : ความรู้ทว่ั ไป
1.4 เครื่องปั๊ม
เป็นรูปของเคร่ืองป๊ัมชิ้นส่วนแบบหน่ึง ซ่ึงแม่พิมพท์ ี่เราออกแบบข้ึนจะถูกนามายดึ อยบู่ นเคร่ือง
1.4.1 Eccentric Press
ลกั ษณะของเคร่ือง Eccentric Press
1.4.2 Screw Press
ลกั ษณะของเคร่ือง Screw Press
วชิ า : งานสร้างแม่พมิ พ์โลหะ ใบเนือ้ หา 22/22
หน่วยการเรียนท่ี 1 : ความรู้ทวั่ ไป
1.4.3 Dise Friction Press
ลกั ษณะของเคร่ือง Dise friction press
1.4.4 Hydraulic press
ลกั ษณะเครื่อง Hydraulic press