วันทอง
หนังสือสืเล่มล่นี้เป็นป็ส่วส่นหนึ่งในวิชวิาภาษาไทยระดับดัชั้นชั้มัธมัยมศึกศึษาปีที่ปี 6ที่ เพื่อ พื่ ใช้คช้วบคู่ไคู่ ปกับกัการเรียรีนเรื่อ รื่ งราวในวรรณคดี มีเมีนื้อหาเกี่ย กี่ วกับกั วรรณคดีเดีรื่อ รื่ งวันวัทอง เพื่อ พื่ นำ ไปใช้ใช้นการเรียรีนรู้ที่รู้ จ ที่ ะได้ทด้ราบเกี่ย กี่ วกับกั วรรณคดีเดีรื่อ รื่ งนี้ จัดจัทำ หนังสือเล่มล่นี้เพื่อ พื่ การศึกศึษา เพื่อ พื่ ให้ผู้อ่าอ่นเกิดกิ ความรู้ ความเข้าข้ใจ ผู้จัดจัทำ หวังวัว่าว่หนังสือสืเล่มล่นี้จะเป็นป็ ประโยชน์กับกัผู้อ่าอ่น ผู้ที่ต้ ที่ อต้งการ ศึกศึษาเรื่อ รื่ งนี้ต่อต่ ไม่มม่ากก็น้ก็ น้อย หากมีข้มีอข้ผิดพลาดประการใด ขออภัยภัมา ณ ที่นี้ ที่ นี้ ด้วด้ย นางสาว มนัญชยา นิรันรัตรพงศ์ ผู้จัดจัทำ คำ นำ วัดประเทศไทย
สา รบั ญ ประวัติความเป็นมา หัวข้อ หน้า คำ นำ 2 4 ตัวละคร 5 เนื้อเรื่อง 7 คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 15 บรรณานุกรม 16 ผู้ตรวจทาน 18
ประวัติ วั ติ บทประพันพัธ์ : ดัดดัแปลงจากเสภา เรื่อ รื่ ง ขุนขุช้าช้งขุนขุแผน บทโทรทัศทัน์ : พิมพิพ์มพ์าดา พัฒพันอลงกรณ์, พิมพิสิริสินริทร์ พงษ์วาณิชสุขสุ , จุติจุมติา แย้มย้ศิริศิริ กำ กับกั โดย : สันสัต์ ศรีแรีก้วก้หล่อล่ คำ ประพันพัธ์ : ประเภทกลอนเสภา “นางพิมพิพิลพิาไลย” หรือรื “นางวันวัทอง” จากเรื่อ รื่ ง “ขุนขุช้าช้งขุนขุแผน” เป็นป็หญิงญิงามแห่งเมือมืงสุพสุรรณ นางเป็นป็ลูกลูสาวของพันพัศรโยธา และ นางศรีปรีระจันจัพ่อพ่ค้าค้และแม่ค้ม่าค้แห่งเมือมืงสุพสุรรณที่มี ที่ ฐมีานะดี นางได้รัด้บรั การเลี้ย ลี้ งดูเดูป็นป็อย่าย่งดี ทำ ให้เป็นป็คนที่มี ที่ คมีวามละเอียอีดอ่ออ่น เป็นป็แม่ศม่รี เรือรืน มีน้ำมี น้ำ ใจ แต่ก็ต่มีก็นิมี นิสัยสั ใจคอที่เ ที่ หมือมืนแม่ด้ม่วด้ย คือคืค่อค่นข้าข้งปากร้าร้ย ชอบ ประชดประชันชัยิ่งยิ่เวลาโกรธใครนางจะด่าด่แบบไม่ไม่ว้หว้น้า สรรหาคำ ด่าด่ เจ็บจ็ๆ แสบๆ มาได้ตด้ลอด
ตัว ตั ละคร วันวัทอง ขุนขุแผน ขุนขุช้าช้ง
ตัว ตั ละคร แม่ขุม่นขุช้าช้ง พลายแก้วก้แม่วัม่นวัทอง แม่ขุม่นขุแผน Karnchang \
ณ เมืองสุพรรณบุรี กล่าวถึงครอบครัวสามครอบครัว คือ ครอบครัวของขุนไกรพลพ่าย รับราชการทหาร มีภรรยา ชื่อ นางทองประศรี มีลูกชายด้วยกันชื่อพลายแก้ว ครอบครัวของขุนศรีวิชัย เศรษฐีใหญ่ของเมืองสุพรรณบุรี รับราชการเป็นนายกองกรมช้างนอก ภรรยาชื่อนางเทพทอง มีลูกชายชื่อขุนช้าง ซึ่งหัวล้านมาแต่กำ เนิด และครอบครัวของ พันศร โยธาเป็นพ่อค้า ภรรยาชื่อ ศรีประจัน มีลูกสาวรูปร่าง หน้าตางดงามชื่อ พิมพิลาไลย
วันหนึ่งสมเด็จพระพันวษา มีความประสงค์จะล่าควาย ป่า จึงสั่งให้ขุนไกรปลูกพลับพลาและต้อนควายเตรียมไว้ แต่ควายป่าเหล่านั้ันแตกตื่นไม่ยอมเข้าคอก ขุนไกรจึงใช้ หอกแทงควายตายไปมากมาย ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป สมเด็จพระพันวษาโกรธมากสั่งให้ประหารชีวิตขุนไกรเสีย นางทองประศรีรู้ข่าวรีบพาพลายแก้วหนีไปอยู่เมือง กาญจนบุรีทางเมืองสุพรรณบุรี มีพวกโจรจันศรขึ้นปล้น บ้านของขุนศรีวิชัยและฆ่าขุนศรีวิชัยตาย ส่วนพันศร โยธาเดินทางไปค้าขายต่างเมือง พอกลับมาถึงบ้านก็เป็น ไข้ป่าตาย
เมื่อพลายแก้วอายุได้ 15 ปี ก็บวชเณรเรียนวิชาอยู่ที่วัดส้ม ใหญ่ แล้วย้ายไปเรียนต่อที่วัดป่าเลไลย ต่อมาที่วัดป่าเลไลยจัด ให้มีเทศน์มหาชาติ เณรพลายแก้วเทศน์กัณฑ์มัทรี ซึ่งนาง พิมพิลาไลยเป็นเจ้าของกัณฑ์เทศน์ นางพิมพิลาไลยเลื่อมใส มากจนเปลื้องผ้าสไบบูชากัณฑ์เทศ์ ขุนช้างเห็นเช่นนั้นก็เปลื้อง ผ้าห่มของตนวางเคียงกับผ้าสไบของนางพิมพิลาไลย อธิฐาน ขอให้ได้นางเป็นภรรยา ทำ ให้นางพิมพิลาไลยโกรธมาก ต่อมา เณรพลพลายแก้วก็สึก แล้วให้นางทองประศรีมาสู่ขอนางพิม พิมลาไลยและแต่งงานกัน
ทางกรุงศรีอยุธยาได้ข่าวว่ากองทัพเชียงใหม่ตีได้เมืองเชียง ทอง ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระพันวษา จึงถามหาเชื้อสายของขุนไกร ขุนช้างซึ่งเข้าไปรับราชการอยู่ จึงเล่าเรื่องราวความเก่งกล้าสามารถของพลายแก้ว เพื่อ หวังจะพรากพลายแก้วไปให้ไกลนางพิมพิลาไลย สมเด็จพระ พันวษาจึงให้ไปตามตัวมา แล้วแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพไปรบกับ เมืองเชียงใหม่และได้รับชัยชนะ นายบ้านแสนคำ แมนแห่ง หมู่บ้านจอมทอง เห็นว่าพลายแก้วกับพวกทหารไม่ได้ เบียดเบียนให้ชาวบ้านเดือดร้อน จึงยกนางลาวทองลูกสาว ของตนให้เป็นภรรยาของพลายแก้ว
นางวันทองอยู่กับขุนช้างผู้ซึ่งรูปชั่วแต่ก็น้ำ ใจดีและไม่มีหญิงอื่น เมื่อขุนแผนบุกขึ้นเรือนขุนช้างเพื่อจะพานางหนี นางวันทองได้ พบขุนแผนก็ต่อว่าโต้เถียงกัน ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่าย เป็นคนผิด กุมารทองซึ่งมากับขุนแผนก็ปรากฏกายให้เห็นและ พยายามไกล่เกลี่ย นางวันทองนึกอาลัยขุนช้างจะไปกับขุนแผนก็ มีภรรยาใหม่เสียแล้ว นางเศร้าใจตัวเองเพราะ “ผัวใหม่พึ่งไม่ได้ ปลุกไม่ลุก ผัวเก่าบุกรุกทำ หักหาญ” เมื่อตกลงไปกับขุนแผน ขณะที่เดินผ่านห้องนางแก้วกิริยาซึ่งตกเป็นภรรยาของขุนแผน แล้ว แต่ขุนแผนแสร้งถามว่าห้องใคร และยังทำ ทีหารือว่าจะ ชวนไปเป็นเพื่อนเพื่อไว้รับใช้ นางวันทองรู้ทันก็กล่าวประชดจน กุมารทองต้องช่วยกลบเกลื่อน จึงเดินทางไปกับขุนแผนแล้วคืนดี กันเหมือนเดิม
ส่วนนางพิมพิลาไลยเมื่อสามีไปทัพได้ไม่นานก็ป่วยหนักรักษาเท่าไรก็ ไม่หาย ขรัวตาจูวัดป่าเลไลยแนะนำ ให้เปลี่ยนชื่อเป็นวันทอง อาการไข้ จึงหาย ขุนช้างทำ อุบายนำ หม้อใส่กระดูกไปให้นางศรีประจันกับนาง วันทองดูว่าพลายแก้วตายแล้ว และขู่ว่านางวันทองจะต้องถูกคุมตัว ไว้เป็นม่ายหลวงตามกฏหมาย นางวันทองไม่เชื่อ แต่นางศรีประจัน คิดว่าจริง ประกอบกับเห็นว่าขุนช้างเป็นเศรษฐีจึงบังคับให้นางวัน ทองแต่งงานกับขุนช้าง นางวันทองจำ ต้องตามใจแม่ แต่นางไม่ยอม เข้าหอ ขณะนั้นพลายแก้วกลับมาถึงกรุงศรีอยุธยาและได้บรรดาศักดิ์ เป็นขุนแผนแสนสะท้าน จากนั้นก็พานางลาวทองกลับสุพรรณบุรี นางวันทองเห็นขุนแผนพาภรรยาใหม่มาด้วยก็โกรธด่าทอโต้ตอบกับ นางลาวทองและลืมตัวพูดก้าวร้าวขุนแผน ทำ ให้ขุนแผนโมโหพานาง ลาวทองไปอยู่ที่กาญจนบุรี ส่วนนางวันทองก็ตกเป็นภรรยาของขุน ช้างอย่างจำ ใจ
ต่อมาขุนช้างและขุนแผนเข้าไปรับการอบรมในวังและได้เป็นมหาดเล็กเวรทั้ง 2 คน วันหนึ่งนางทองประศรีให้คนมาส่งข่าวว่านางลาวทองป่วยหนัก ขุนแผน จึงฝากเวรไว้กับขุนช้างแล้วไปดูอาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระ พันวษาถามถึงขุนแผนขุนช้างบอกว่าขุนแผนปีนกำ แพงวังหนีไปหาภรรยา สมเด็จพระพันวษาโกรธตรัสให้ขุนแผนตระเวนด่านที่กาญจนบุรี ห้ามเข้าเฝ้า และริบนางลาวทองเข้าเป็นม่ายหลวง ขุนแผนได้ทราบเรื่องก็โกรธขุนช้าง คิดจะแก้แค้นแต่ยังมีกำ ลังไม่พอ จึงออก ตระเวนป่าไปโดยลำ พัง คิดจะหาอาวุธ ม้า และ กุมารทอง สำ หรับป้องกันตัว ได้ตระเวนไปจนถึงถิ่นของหมื่นหาญนักเลงใหญ่ ได้เข้าสมัครเข้าไปอยู่ด้วย เพราะหวังจะได้บัวคลี่ลูกสาวของหมื่นหาญ ได้ทำ ตัวนอบน้อมและตั้งใจทำ งาน เป็นอย่างดีจนเป็นที่รักใคร่ของหมื่นหาญถึงกับออกปากยกลูกสาวให้แต่งงาน ด้วย พอได้แต่งงานกับบัวคลี่แล้ว ขุนแผนก็ไม่ยอมทำ งานร่วมกับหมื่นหาญ ทำ ให้หมื่นหาญโกรธคิดฆ่าขุนแผน เพราะขุนแผนอยู่ยงคงกระพันจึงให้บัวคลี่ ใส่ยาพิษลงในอาหารให้ขุนแผนกิน แต่ผีพรายมาบอกให้รู้ตัว
ขุนแผนจึงทำ อุบายเป็นไข้ไม่ยอมกินอาหารแล้วออกปากขอลูกจากบัวคลี่ นาง ไม่รู้ความหมายก็ออกปากยกลูกให้ขุนแผน พอกลางคืนขณะที่บัวคลี่นอนหลับ ขุนแผนก็ผ่าท้องนางแล้วนำ ลูกไปทำ พิธีตอนเช้าหมื่นหาญและภรรยารู้ว่า ลูกสาวถูกผ่าท้องตายก็ติดตามขุนแผนไป แต่ก็สู้ขุนแผนไม่ได้ ขุนแผนเสก กุมารทองสำ เร็จ จึงออกเดินทางต่อไป แล้วไปหาช่างตีดาบ หาเหล็ก และ เครื่องใช้ต่างๆ เตรียมไว้ตั้งพิธีตีดาบจนสำ เร็จ ดาบนี้ให้ชื่อว่า ดาบฟ้าฟื้น ใช้ เป็นอาวุธต่อไปต่อมาขุนช้างและขุนแผนเข้าไปรับการอบรมในวังและได้เป็น มหาดเล็กเวรทั้ง 2 คน วันหนึ่งนางทองประศรีให้คนมาส่งข่าวว่านางลาวทอง ป่วยหนัก ขุนแผนจึงฝากเวรไว้กับขุนช้างแล้วไปดูอาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระพันวษาถามถึงขุนแผนขุนช้างบอกว่าขุนแผนปีนกำ แพงวัง หนีไปหาภรรยา สมเด็จพระพันวษาโกรธตรัสให้ขุนแผนตระเวนด่านที่ กาญจนบุรี ห้ามเข้าเฝ้าและริบนางลาวทองเข้าเป็นม่ายหลวง
หลังจากนั้นเดินทางไปหาม้า ได้ไปพบคณะจัดซื้อม้าหลวง ได้เห็นลูกม้าลูกม้า ตัวหนึ่งมีลักษณะถูกต้องตามตำ ราก็ชอบใจ ได้ออกปากซื้อ เจ้าหน้าที่ก็ขายให้ ในราคาถูก ขุนแผนจึงเสกหญ้าให้ม้ากิน และนำ มาฝึกจนเป็นม้าแสนรู้ให้ชื่อว่า ม้าสีหมอก เมื่อได้กุมารทอง ดาบฟ้าฟื้นและม้าสีหมอกครบตามความตั้งใจแล้วก็เดินทาง กลับบ้าน คิดจะไปแก้แค้นขุนช้าง นางทองประศรีมารดาห้ามปรามก็ไม่ฟัง ได้ เดินทางออกจากกาญจนบุรีไปยังสุพรรณบุรีขึ้นเรือนขุนช้าง ได้นางแก้วกิริยา ลูกสาวพระยาสุโขทัยที่นำ มาเป็นตัวจำ นำ ไว้ในบ้านขุนช้างเป็นภรรยา แล้วพา วันทองหนีออกจากบ้าน ขุนช้างตื่นได้ออกติดตามแต่ตามไม่ทัน ได้ไปทูลฟ้อง สมเด็จพระพันวษาให้กองทัพออกติดตามขุนแผน ขุนแผนไม่ยอมกลับได้ต่อสู้ กับกองทัพทำ ให้ขุนเพชร ขุนรามถึงแก่ความตาย กองทัพต้องถอยกลับกรุง ขุนแผนจึงกลายเป็นกบฏ ต้องเที่ยวเร่ร่อนอยู่ในป่า จนนางวันทองตั้งท้องแก่ ใกล้คลอด ขุนแผนสงสารกลัวนางจะเป็นอันตรายจึงยอมเข้ามอบตัวกับพระ พิจิตร พระพิจิตรได้ส่งตัวเข้าสู้คดีในกรุง ขุนแผนชนะคดีและได้นางวันทองคืน ขุนแผนมีความคิดถึงลาวทอง ได้ขอให้จมื่นศรีช่วยขอให้ ขุนแผนถูกกริ้ว และ ถูกจำ คุก แก้วกิริยาจึงตามไปปรนนิบัติในคุก
คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เป็นวรรณกรรมที่มี 1.สะท้อนถึงอารมณ์โกรธแค้นและสะเทือนใจ (พิโรธวาทัง) 2.ใช้ถ้อยคำ เกิดความเศร้าสะเทือนใจสงสารในชะตากรรมของตัวละคร(สัลลาปังคพิสัย) 3.การบรรยายโวหาร (เสาวรจนีย์) 4.การพรรณนาโวหาร (นารีปราโมทย์) 5.เชิงเปรียบเทียบ (อุปมาโวหาร) 6.กวีแทรกอารมณ์ขันในการแต่ง (หาสยรส)
บรรณานุกรม บทประพันธ์ : ดัดแปลงจากเสภา เรื่อรื่ง ขุนช้างขุนแผน บทโทรทัศน์ : พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ พิมสิรินริทร์ พงษ์วาณิชสุข จุติมา แย้มศิริ.ริ(2564). วรรณคดีเรื่อรื่งวันวัทอง. สืบค้น 7 กุมภาพันธ์ 2564, จากhttps://th.wikipedia.org/wiki/วันวัทอง โดย ผู้จัดการออนไลน์ (นามแฝง). (2564). เรื่อรื่งย่อวันวัทอง. สืบค้น 14 กุมภาพันธ์ 2566, จากhttps://mgronline.com/drama/detail/9640000016469
ผู้ตรวจทาน นางสาวอัญธิสา นิเวศน์ทอง นางสาวเกวลี คำ เขียว นายธนัตถ์ ทองภักดี
วันทอง