The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วัชระ ลานเจริญ. (2564). บทความอิเหนาร้างตุนาหงันบุษบา. บทความวิจัยทฤษฎีวรรณกรรมตะวันออก ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ตั้ม วัชระ, 2022-05-12 11:56:46

บทความอิเหนาร้างตุนาหงันบุษบา-วัชระ

วัชระ ลานเจริญ. (2564). บทความอิเหนาร้างตุนาหงันบุษบา. บทความวิจัยทฤษฎีวรรณกรรมตะวันออก ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

เราทรรส : อิเหนารา้ งตนุ าหงนั บุษบา

วชั ระ ลานเจริญ *

สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่

บทคดั ย่อ

บทความนี้ เป็นการศึกษาวิเคราะห์เราทรรสในวรรณคดีกลอนบทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ระหว่างตอน “อิเหนาบอกตัดนางบุษบา” ถึงตอน“อิเหนาหลงนาง
บุษบา” จํานวนท้งั ส้ิน 55 ตอน ตามกรอบแนวคดิ ทฤษฎีรสในวรรณคดสี นั สกฤต

ผลการศึกษาพบว่า วรรณคดีเรื่องอิเหนาปรากฏเราทรรสทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ วิภาวะ อนุภาวะ
และภาวะเสริม ด้านวิภาวะ(สาเหตุ)ที่พบคือ การบอกปฏิเสธการแต่งงานของอิเหนา อิเหนาไปอยู่กินกับนาง
จินตะหรา ท้าวดาหาปฏิเสธยกนางบุษบา การพูดเย้ยหยันหมิ่นเกียรติ และการแย่งชิงนางบุษบา ส่วนด้าน
อนุภาวะ(ผล)ที่พบคือ ความโกรธเคือง ความแค้น ความเกรี้ยวกราด การเพิกเฉย การแสดงอากัปกริยาแสดง
ความไม่พอใจ และภาวะเสริมที่พบได้แก่ อมรรษะ(ความแค้นเคือง) อุนมาทะ(ความบ้าคลั่ง) และอุครตา(ความ
รุนแรง) สําหรับตัวละครที่ปรากฏเรารสในวรรณคดีที่ศึกษาได้แก่ ท้าวกุเรปัน นางจินตะหรา นางบุษบา
ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง ท้าวสิงหัดส่าหรี ประไหมสุหรีดาหา สังคามาระตา ท้าวกะหมังกุหนิง วิหยาสะกํา
และพระปะตาระกาหราหรือพระอัยกากระยาหงัน และเมื่อพิจารณาการเกิดเราทรรสระหว่างตัวละครพบว่า
เป็นเราทรรสระหว่างท้าวกุเรปันกับอิเหนา ท้าวกุเรปันกับท้าวหมันหยา ท้าวดาหากับอิเหนา ประไหมสุหรีดา
หากับอิเหนา นางจินตะหรากับอิเหนา นางบุษบากับอิเหนา ท้าวดาหากับท้าวกะหมังกุหนิง วิหยาสะกํากับ
อิเหนา วิหยาสะกํากับสังคามาระตา ท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรีกับท้าวดาหา ท้าวกะหมังกุหนิงกับสังคา
มาระตา ระตูจรกากับวิหยาสะกํา และพระปะตาระกาหรากบั อเิ หนา
คําสําคญั : เราทรรส, อเิ หนา, วิภาวะ, อนุภาวะ, ภาวะเสริม, อมรรษะ, อุนมาทะ, อุครตา

* นกั ศึกษาหลกั สตู รศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวทิ ยาลัยขอนแกน?

นายวัชระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตนุ าหงนั บุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน

2

บทนํา
วรรณคดีไทยโบราณแต่งด้วยวัตถุประสงค์และวิธีการที่แตกต่างจากวรรณคดีในยุคปัจจุบัน

หากพิจารณาเพียงเนื้อหาจะพบว่าเนื้อหาวนเวียนอยู่ในชีวิตของชนชั้นศักดินา อย่างไรก็ตามไม่สามารถมองข้าม
สารหรืออารมณ์ที่มีในเนื้อหาไปได้ การศึกษาอารมณ์ในวรรณคดีจึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทําให้เข้าใจคุณค่าของ
วรรณคดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งอารมณ์คือธรรมชาติของมนุษย์ เป็นสาเหตุของงานศิลป์ กวีสร้างสรรค์ผลงานขึ้นจาก
อารมณ์สะเทือนใจการพิจารณาความหมายทางด้านอารมณ์ตามแนววรรณคดีวิจารณ์เชิงปฏิบัติมีหลักการเหมือน
การพิจารณารสในวรรณคดี โดยแยกความหมายทางด้านอารมณ์ไว้เป็นความหมายที่นอกเหนือจากความหมายท่ี
เป็นเนื้อหาสาระความหมายด้านนํ้าเสียง และความหมายด้านจุดประสงค์ของผู้แต่ง ส่วนทฤษฎีรสจะถือว่าความ
เข้าใจความหมายทางด้านอารมณ์ในงานเขียนเรื่องหนึ่งย่อมนําไปสู่ความเข้าใจความหมายด้านอื่น ๆ ของงานช้ิน
นนั้ ด้วยการทีจ่ ะรับรอู้ ารมณ์ต่าง ๆ อันเปน็ ภาวะท่แี สดงไวใ้ นงานเขยี น (กุสุมา รกั ษมณ,ี 2534)

ดังนั้นผู้ศึกษาจึงสนใจศึกษาวิเคราะห์เราทรรสในวรรณคดีกลอนบทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ตามกรอบแนวคิดรสในวรรณคดีสันสกฤต จากเนื้อหาระหว่างตอน
“อเิ หนาบอกตัดนางบุษบา” ถึงตอน อเิ หนาหลงนางบษุ บา จํานวนทั้งสน้ิ 55 ตอน

วัตถปุ ระสงคก์ ารวิจยั
1. เพื่อศึกษาวิเคราะห์เราทรรสที่ปรากฏในวรรณคดีกลอนบทละคร เรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ใน

พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัย

ระเบียบวธิ ีวจิ ยั
การศกึ ษาวจิ ัยครง้ั นี้เปน็ งานวิจัยเชงิ คุณภาพ (Qualitative research) มวี ธิ ีการดําเนนิ การวิจยั ดังตอ่ ไปนี้
1. การเลอื กข้อมูลและการเกบ็ ข้อมูล
ผู้ศึกษาเลือกศึกษาข้อมูลจากหนังสือวรรณคดีกลอนบทละคร เรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ใน

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ โดยเลือกศึกษาเนื้อหาระหว่างตอน
“อิเหนาบอกตัดนางบุษบา” ถงึ ตอน “อเิ หนาหลงนาบษุ บา” จํานวน 55 ตอน

2. กรอบแนวคิดที่ใช้ในการวเิ คราะห์
การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ตามกรอบแนวคิดทฤษฎีรสใน

วรรณคดสี ันสกฤต โดยเลือกใช้เฉพาะประเภท “เราทรรส” เท่าน้นั

แหลง่ ขอ้ มลู
ผู้ศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลจากวรรณคดีบทละคร เรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระ

พุทธเลิศหล้านภาลยั ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ

นายวัชระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตุนาหงันบษุ บา I สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวิทยาลยั ขอนแกEน

3

ศาสตร์/ศลิ ป์อกั ษรา : รสวรรณคดี วรรณกรรม
วรรณคดี วรรณกรรม เป็นศาสตร์และศิลป์ที่มีความงดงาม แต่งขึ้นมาเพื่อใช้ตอบสนองความต้องการ

ของกวีในบริบทต่าง ๆ เช่น การเชิดชูยกย่องสรรเสริญ ระบายความรู้สึก บันทึกเรื่องราวเหตุการณ์ จดหมาย
เหตุ รวมถึงการประพันธ์เพื่อความผ่อนคลาย วรรณคดี วรรณกรรมจึงมีทั้งความรู้ ความเชื่อ ทัศนคติ และความ
บันเทิงแฝงอยู่ภายในเนื้อหา ดังนั้น จึงมีผู้สนใจศึกษารสในวรรณคดีวรรณกรรมตามแนวคิดรสในวรรณคดี
สันสกฤต เพื่อให้เกดิ ความซาบซ้งึ ในรสวรรณคดี วรรณกรรมในเชงิ ลึก ดงั ตัวอยา่ งผลการวิจยั ดังตอ่ ไปนี้

ชนิดาภา ผิวอ่อน และสนม ครุฑเมือง (2560) ได้ศึกษาวิเคราะห์ศฤงคารรสที่ปรากฏในบทละครเรื่อง
อิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้กรอบการวิเคราะห์ คือ ความรักต่อบุคคล
ความรักต่อสถาบัน และความรักต่อสิ่งต่าง ๆ ผลการวิจัยพบว่าในบทละครเรื่องนี้ปรากฏศฤงคารรสจํานวน 415 คํา
ประพันธ์ โดยพบความรักต่อบุคคลมากที่สุด 376 คําประพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 90.60 รองลงมาคือความรักต่อ
สถาบัน 31 คําประพันธ์ คิดเป็นร้อยละ7.47 และความรักต่อสิ่งอื่น ๆ 8 คําประพันธ์ คิดเป็นร้อยละ1.93 ความรัก
ต่อบุคคล พบความรัก 5 ประเภท คือ 1) ความรักต่อบุพการี 2) ความรักต่อลูก 3) ความรักต่อญาติพี่น้อง
4) ความรักแบบชู้สาว 5) ความรักเพื่อน ความรักต่อสถาบัน พบความรัก 3 ประเภท คือ 1) รักสถาบันกษัตริย์หรือ
ผู้บังคับบัญชา 2) รักประชาชนหรือผู้ใต้บังคับบัญชา 3) รักชาติ ถิ่นฐานบ้านเมือง และความรักต่อสิ่งอื่น ๆ พบความ
รัก 2 ประเภทคือ 1) รักในสิ่งที่เป็นนามธรรม 2) รักสิ่งของ ผลการวิเคราะห์พบความรักแบบชู้สาวมากที่สุด โดยพบ
ทั้งสิ้น 268 คําประพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 64.58 รองลงมาคือ ความรักต่อลูก 52 คําประพันธ์ คิดเป็นร้อยละ12.53
ความรกั ตอ่ ญาตพิ ี่นอ้ ง 41 คําประพนั ธ์ คิดเป็นรอ้ ยละ 9.88 รกั สถาบนั กษัตริย์หรอื ผบู้ งั คบั บัญชา

เบญจวรรณ ภู่ระหงษ์, รัตน์ธิกานต์เปรมกาศ และสิริวรรณ ชัยชนะพีระกุล (ม.ป.ป.) ได้ศึกษา
วิเคราะห์รสวรรณคดีสันสกฤตในบทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า
จุฬาโลกมหาราช โดยใช้รสวรรณคดีสันสกฤตทั้ง 9 รสในการวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า บทละครเรื่อง
รามเกียรตพ์ิ ระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชเต็มไปดว้ ยความงามของรสตา่ ง ๆ
ทั้ง 9 รส แสดงให้เห็นว่า บทละครเรื่องรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราชมีองค์ประกอบด้านความงามของรสวรรณคดีสันสกฤตที่สมบูรณ์และมีคุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ต่อการ
ศกึ ษาวิจยั ทางด้านวรรณคดไี ทยอกี ดว้ ย

ณัฐสุดา สุดหล้า และสุฌัญญา ภูผาใจ (2564) ได้ศึกษาอารมณ์โกรธหรือเราทรรส ผ่านบทเพลงแร็ปที่
สะท้อนประเด็นการเมืองพบว่า ศิลปินหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ใช้เพลงแร็ปเป็นตัวแทนของการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง
จากการบริหารงานของรัฐบาลที่ถูกมองว่าไม่เป็นธรรมในหลายมิติซึ่งเป็นเหตุหรือวิภาวะที่ทํา ให้เกิดอารมณ์โกรธขึ้น
และสะท้อนให้เป็นผลของอากัปกิริยาที่ตอบสนองอารมณ์โกรธนั้นด้วยอนุภาวะ ทั้งนี้ก็พบได้ด้วยกันหลายประการ
จากผลการวิจัยที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น หากแต่ประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งที่ผู้วิจัยได้มองเห็น “รส” อื่นที่มา
หนุน ให้อารมณ์โกรธนั้นมีมิติมากขึ้น นั้นคือ พีภัตสรส คือความรู้สึกรังเกียจและชิงชัง ต่อฝ่ายอธรรม ซึ่งในที่น่ี
กล่าวถึง รัฐบาล และรู้สึกถึงความเป็นวีรบุรุษ จากวีรรส ผ่านกลุ่มศิลปินที่เป็นเสมือนแกนนํา สําคัญในการเรียกร้อง
สิทธคิ วามเสมอภาค ใหแ้ ก่ตนเองและคนในสงั คม

นายวัชระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนาร,างตนุ าหงนั บุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวทิ ยาลัยขอนแกEน

4

ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีความสนใจที่จะศึกษาวิเคราะห์เราทรรสที่ปรากฏในวรรณคดีกลอนบทละคร เรื่อง
อิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยเลือกศึกษาเราทรรสระหว่างตอน
“อเิ หนาบอกตดั นางบุษบา” ถึงตอน “อเิ หนาหลงนางบุษบา” รวมจํานวน 55 ตอน

ผลการศึกษา

จากการวิเคราะห์เราทรรสตามแนวคิดทฤษฎีรสในวรรณคดีสันสกฤตจากวรรณคดกี ลอนบทละครเรื่อง

“อิเหนา” พระราชนิพนธ์ใพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยศึกษาวิเคราะหเ์ นื้อหาวรรณคดีระหว่าง

ตอน “อิเหนาบอกตัดนางบุษบา” ถึงตอน “อิเหนาหลงนางบุษบา” ปรากฏเราทรรสในหลายช่วงดัง

รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

เมื่ออิเหนาไปตกหลุมรักนางจินตะหราและไปอยู่กินกับนางยังเมืองหมันหยา ประกอบกับท้าวกุเรปัน

ให้เสนาไปติดตามอิเหนากลับบ้านเมืองเพื่อมาแต่งงานกับนางบุษบา แต่อิเหนากลับตอบปฏิเสธแล้วให้เสนา

กลับมาทูลท้าวกุเรปันให้ยกเลิกการหมั้นหมาย พร้อมฝากข้อความไปบอกพระบิดาว่า แม้ใครมาสู่ขอนางบุษบา

ก็ให้ท้าวดาหายกให้คนอื่นไปตามความปรารถนา จึงทําให้ปรากฏเราทรรสแก่ท้าวกุเรปัน ดังในเนื้อหาของ

วรรณคดีวา่

“เมอื่ นนั้ องคท์ ้าวกุเรปนั เป็นใหญ่

ทราบสารดาลเดือดพระดนัย จงึ ตรสั ไปแก่อัครชายา

อะหนะอิเหนาน้ีผดิ นกั ไปพะวงหลงรกั จนิ ตะหรา

ที่รว่ มวงศเ์ ทเวศร์ไมเ่ จตนา สว่ นทต่ี า่ํ ช้าสิชอบใจ”

(อิเหนา, หน้า 223)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ท้าวกุเรปันหลังจากได้ทราบเรื่องราวจากเสนาก็มีความโกรธ

ต่ออิเหนาอย่างหนัก ซึ่งกวีได้ใช้คําว่า “ดาลเดือดพระดนัย” แสดงให้เห็นถึงเราทรรส และมีการใช้ภาวะเสริม

เพื่อให้เห็นเราทรรสเด่นชัดขึ้น โดยมีการใช้อมรรษะ แสดงความแค้นเคืองที่ต่อท้าวหมันหยาซึ่งเป็นพระบิดาของ

นางจนิ ตะหรา ดงั ในเน้อื หาวรรณคดวี า่ “เหน็ จะต้องงดการราํ คาญจติ พระยิ่งคิดเคืองแค้นท้าวหมันหยา”

ต่อมาท้าวกุเรปันให้เสนานําพาดะหมังดาหาเข้ามายังท้องพระโรง แล้วจึงมีรับสั่งต่อดะหมังให้กลับไปกราบทูลท้าว

ดาหาว่าตนเองร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วจึงได้เขียนจดหมายให้ดะหมังไปแจ้งขอผัดผ่อนการแต่งงานระหว่างอิเหนา

กับบุษบาตอ่ ท้าวดาหา เมือ่ ท้าวดาหาได้ทราบเรอื่ งกเ็ กดิ ความเดือดดาลอยา่ งย่งิ ดงั เนือ้ ว่าในวรรณคดวี า่

“เม่ือนนั้ พระองค์ทรงพภิ พดาหา

ทราบสารเคืองแคน้ แนน่ อรุ า จึงตรสั แก่กลั ยาท้งั หา้ องค์

จะรีรองอ้ ไปไยเลา่ อนั ลูกเราเขาไม่มีประสงค์

พระเชษฐารกั ศกั ดสิ์ ุริย์วงศ์ จึงทรงอาลยั ไกลเ่ กล่ียมา”

(อเิ หนา, หน้า 224)

นายวชั ระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตุนาหงันบุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน

5

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเราทรรสอย่างเด่นชัด เป็นความโกรธเคืองของท้าวดาหาที่มี

ต่ออิเหนาหลังจากที่ได้อ่านสารของท้าวกุเรปันที่ให้ดะหมังนํามาถวาย โดยใช้ข้อความว่า “ทราบสารเคืองแค้น

แน่นอุรา”ใช้แสดงถึงเราทรรสที่มีอมรรษะเป็นภาวะเสริม ท้าวดาหาจึงได้ตรัสกับมเหสีทั้งห้าพระองค์ว่า

แล้วเราจะรีรออยู่ทําไม ในเมื่อเขาไม่ต้องการแต่งงานกับลูกเรา ส่วนท้าวกุเรปันก็เพียงอยากไกล่เกลี่ยเพราะ

ต้องการรักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเท่านั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงอนุภาวะของเราทรรสนั้นเอง และด้วยความ

โกรธที่มีต่ออิเหนาในครั้งนี้ทําให้ท้าวดาหาประกาศว่า ใครมาขอนางบุษบาก่อนก็จะยกให้ ไม่สนใจแล้วว่าวงศ์

ตระกูลจะไปปะปนกับตระกูลไพร่ชั้นตํ่าก็ตาม ก็จะจัดงานแต่งให้ลูกสาวให้สมหน้าตาของวงศ์ตระกูล ยิ่งคิดยิ่ง

ทาํ ใหท้ า้ วดาหายง่ิ แคน้ ใจแกอ่ เิ หนามากย่ิงขึ้น ดงั เนื้อหาวรรณคดที ี่ว่า

“ซ่งึ จะคอยทา่ หลานตามสารศรี อกี ร้อยปีก็ไม่จากเมอื งหมนั หยา

แตจ่ ะเวยี นงดงานการววิ าห์ จะซํา้ รา้ ยอายหน้าย่ิงนกั

แมน้ ใครมาขอกจ็ ะให้ ไม่อาลยั ทร่ี ะคนปนศกั ด์ิ

ถึงไพรป่ ระดาษชาตทิ รลกั ษณ์ จะแต่งให้งามพักตร์พงศ์พนั ธ์ุ

ย่งิ คดิ ยิ่งแค้นแสนทวี พระภูมีกลุม้ กลดั อดั อน้ั

เสดจ็ จากแทน่ แก้วแพรวพรรณ จรจรัลเข้าในทไ่ี สยา ฯ”

(อเิ หนา, หน้า 224)

นอกจากนี้ การปฏิเสธการแต่งงานของอิเหนากับบุษบายังทําให้พระประไหมสุหรีของท้าวดาหาหรือ

พระมารดาของนางบุษบาเกิดความโกรธเคืองต่ออิเหนา(อมรรษะ)เป็นการแสดงถึงอนุภาวะของเราทรรสใน

วรรณคดีเรอ่ื งน้ี ดังในเนอื้ หาวรรณคดวี า่

“เม่ือนน้ั ประไหมสุหรีดาหา

ใหค้ ดิ แคน้ ขดั นัดดา สวมกอดบษุ บาเข้าร่าํ ไร ฯ”

(อิเหนา, หนา้ 224)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นว่า พระประไหมสุหรีดาหาเกิดความโกรธเคืองต่ออิเหนาท่ี

ปฏิเสธการแต่งงานกับลูกสาวของตนเอง และนึกสงสารนางบุษบาจึงเข้าไปสวมกอดนางบุษบาเพื่อปลอบใจ

นอกจากท้าวดาหาและพระประไหมสุหรีจะโกรธเคืองอิเหนาแล้ว การที่อิเหนาไปอยู่กินกับนางจินตะหรายังทํา

ให้พระอัยกาของอิเหนาทเี่ ป็นเทวดาเกิดความโกรธดว้ ยดังในเน้ือหาวรรณคดที ีว่ ่า

“มาจะกล่าวบทไป ถึงองค์อยั กากระยาหงนั

อาสน์ออ่ นเรา่ ร้อนคือไฟกลั ป์ เทวญั เล็งทิพเนตรดู

แจ้งวา่ อเิ หนาไปหลงรกั ทต่ี ่ําศกั ดขิ์ ืนเลยี้ งเคยี งคู่

จะให้น้องได้ครองกบั ระตู ไม่เกรงกูผู้เปน็ อัยกา

จําจะกอ่ เหตเุ ภทภัย ให้มนั ได้โทมนสั สหัสสา

คิดแล้วสําแดงเดชา เหาะระเห็จลงมาในเที่ยงคืน ฯ”

(อเิ หนา, หนา้ 239)

นายวชั ระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตนุ าหงันบษุ บา I สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวิทยาลยั ขอนแกEน

6

จากเนื้อหาของวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเราทรรส ท่ีเป็นความโกรธของพระอัยกาของอิเหนา

ซึ่งสถิตอยู่ในวิมาน ทิพยอาสน์ที่เคยอ่อนนุ่มกลับเร่าร้อนเหมือนไฟสุม พระองค์จึงใช้ตาทิพย์สอดส่องดูความ

เป็นไปจึงได้ทราบสาเหตุ นั่นคือ อิเหนาไปหลงรักและอยู่กินกับสตรีที่ตํ่าศักดิ์ ขัดต่อคําสั่งของพระอัยกาที่เคยส่ัง

ไว้สะท้อนให้เห็นถึงวิภาวะของเราทรรส ด้วยโกรธนี้พระอัยกาจึงบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ที่จะทําให้อิเหนาเศร้า

เสยี ใจในอนาคต เป็นอนภุ าวะเราทรรสทจี่ ะเกิดขนึ้

หลังจากนั้น ระตูจรกาต้องการจะเลือกคู่จึงให้ช่างศิลป์ออกไปแอบวาดภาพเจ้าหญิงเมืองต่าง ๆ มาให้

เลือก โดยช่างศิลป์ได้วาดภาพนางบุษบาได้จํานวนสองภาพ ระหว่างที่ช่างศิลป์จะเดินทางกลับเมืองจึงได้หยุด

พักค้างแรมกลางป่า พระปะตาระกาหราจึงได้ลอบมาลักเอาภาพวาดนั้นไปวางไว้ใต้ต้นไทรใหญ่ที่ชายป่าเพื่อให้

วิหยาสะกําเก็บได้ เมื่อรุ่งเช้าช่างศิลป์จึงออกเดินทางกลับบ้านเมืองและนําภาพวาดไปถวายแก่ระตูจรกา จรกา

เมื่อได้เห็นภาพวาดก็ตกหลุมรักนางบุษบา จึงได้ไปขอร้องให้พี่ชายไปสู่ขอนางบุษบาให้แก่ตน พี่ชายของท้าวจร

กาจึงได้ส่งเครื่องบรรณาการไปสู่ขอนางบุษบายังเมืองดาหา ด้วยท้าวดาหาเคยตรัสไว้ว่าใครมาขอก่อนก็จะยก

ให้ ดังนั้นจึงจําใจยกนางบุษบาให้แก่จรกา จากนั้นจึงสั่งให้เสนานําความไปแจ้งแก่ท้าวกุเรปัน ท้าวสิงหัดส่าหรี

และท้าวกาหลัง เมื่อท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรีได้ทราบเรื่องจึงเกิดความไม่พอใจต่อท้าวดาหาที่ยกบุษบา

ให้แก่ระตูจรกาซงึ่ มีตระกูลท่ตี ํ่ากวา่ ดังในเนอ้ื หาวรรณคดีวา่

“เมื่อน้นั สององค์แคน้ ขัดสหสั า

จึงมีมธรุ สวาจา แต่แรกพระเชษฐาไมห่ ารอื ”

(อเิ หนา, หนา้ 249)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงอนุภาวะเราทรรส ที่เกิดขึ้นกับท้าวกาหลังและท้าวสิงหัด

ส่าหรีน้องชายของท้าวดาหาหลังจากที่ได้ทราบว่า ท้าดาหายกนางบุษบาให้แก่ระตูจรกาไป เป็นอนุภาวะที่มี

อมรรษะมาช่วยในการอธิบายนั่นเอง นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดแก่ท้าวกุเรปันหลังจากที่ได้ทราบข่าว

วา่ ท้าวดาหายกนางบุษบาใหแ้ กร่ ะตจู รกา ดังเน้ือหาของวรรณคดีที่วา่

“เมื่อน้ัน องค์ศรปี ตั หราไดฟ้ ังสาร

จงึ ตรสั แกเ่ สนาด้วยเดือดดาล ถงึ จะเสยี วงศ์วานกท็ าํ เนา

ตามแต่อนุชาจะวา่ ไป ดว้ ยมไิ ด้เจ็บช้าํ นํา้ ใจเขา

อันความแค้นความอายของเรา จะตราบเทา่ สูญส้ินดนิ ฟ้า”

(อิเหนา, หนา้ 250)

จากเนื้อหาของวรรณคดีข้างต้นเป็นการแสดงถึงเราทรรสของท้าวกุเรปันที่มีต่อการทราบข่าวของท้าว

ดาหาที่ได้ยกนางบุษบาให้แก่ระตูจรกาไป แต่ก็จํายอมที่จะปล่อยให้วงศ์ตระกูลอื่นที่ตํ่ากว่ามาปะปนในวงศ์

ตระกูลสุริย์วงศ์ของตน ตามที่ท้าวดาหาได้ตัดสินใจไปแล้ว เพื่อไม่ให้เจ็บชํ้าในนํ้าใจของฝั่งท้าวดาหา ท้าวกุเรปัน

จึงได้กล่าวว่า ความเจ็บแค้นความอายครั้งนี้ จะอยู่กับตัวเองจนสูญสิ้นดินฟ้า กล่าวจบก็เข้าสู่ไปยังภายใน

ปราสาท เปน็ อนุภาวะของความโกรธที่เกดิ ข้ึน

นายวัชระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนารา, งตุนาหงันบษุ บา I สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวิทยาลัยขอนแกEน

7

จากการปฏิเสธการแต่งงานของอิเหนา ทําให้ท้าวดาหาโกรธอิเหนาอย่างหนักจนประกาศและยกนาง

บุษบาให้แก่จรกาไป อีกทั้งพระอัยกาของอิเหนายังได้นําภาพวาดของนางบุษบาไปไว้ที่ชายป่าเป็นเหตุให้วิหยา
สะกําเก็บได้ และตกหลุมรักนางบุษบาจนแทบเสียสติ ท้าวกะหมังกุหนิงจึงได้ให้เสนาออกตามหาจนได้ทราบว่า

สตรีที่อยู่ในภาพคือนางบุษบา จึงได้แต่งเครื่องบรรณาการเพื่อไปสู่ขอนางให้แก่ลูกชายของตน แต่ท้าวดาหา
กลับตอบปฏิเสธเพราะได้ยกนางบุษบาให้ระตูจรกาไปแล้ว ฝ่ายเสนากะหมังกุหนิงจึงได้ทูลตอบไปว่า หากไม่

ยินยอมก็ให้เตรียมรับศึกท้าวกะหมังกุหนิงจะยกทัพมาชิงนางบุษบา ซึ่งเป็นวิภาวะที่ทําให้เกิดอนุภาวะเราทรส
แกท่ า้ วดาหาเกดิ ความโกรธดังในเนื้อหาวรรณคดีว่า

“เม่อื นน้ั พระผ้ผู ่านไอศรู ย์สูงสง่
ประกาศติ สหี นาทอาจอง จะณรงคส์ งครามกต็ ามใจ”

(อิเหนา, หน้า 272)
จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเราทรรสที่เกิดขึ้นกับท้าวดาหาหลังจากได้ทราบใจความนอก

จดหมายท่ีเสนาของท้าวกะหมังกุหนิงกราบทูล โดยมีอุนมาทะหรือความบ้าคลั่งเป็นภาวะเสริมให้เราทรสเด่นชัด
ขึ้น ซึ่งเนื้อหาวรรณคดีข้างต้น เป็นการแสดงออกถึงความบ้าคลั่งของท้าวดาหาท่ีตะโกนเสียงดังออกมา ซึ่งกวีใช้

ข้อความวา่ “ประกาศติ สีหนาทอาจอง” เป็นขอ้ ความใชแ้ สดงถงึ ความบ้าคล่ังน่ันเอง
เมื่อได้รับการปฏิเสธจากท้าวดาหา เสนาที่เดินทางมาเป็นทูตจึงกลับไปกราบทูลท้าวกะหมังกุหนิงให้ได้

ทราบ เปน็ วิภาวะเราทรรสท่ที ําให้ทา้ วกะหมงั กุหนงิ เกดิ ความโกรธ ดังเน้ือหาวรรณคดีวา่

“เมือ่ นน้ั ท้าวกะหมงั กุหนิงนเรนทรส์ รู

ไดฟ้ งั ทง้ั สองทตู ทลู ใหอ้ าดรู เดือดใจดงั ไฟฟา้
(อิเหนา, หน้า 278)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นกวีได้ใช้ข้อความแสดงถึงความโกรธเคืองของท้าวกะหมังกุหนิงหลังจากที่ได้

ทราบว่าท้าวดาหาปฏิเสธที่จะยกนางบุษบาให้มาแต่งงานกับลูกชายของตนด้วยข้อความที่ว่า “ให้อาดูรเดือดใจ

ดงั ไฟฟา้ ” เป็นเราทรรสท่ีเกดิ ขึ้น ทําใหเ้ กิดอนุภาวะตามมาดงั ในเน้ือหาวรรณคดีว่า

จึงบัญชาตรัสดว้ ยขดั เคือง ดูดเู๋ จา้ เมืองดาหา

เราอ่อนง้อขอไปในสารา แตว่ า่ จะรับไวก้ ไ็ มม่ ี

ถงึ จรกามากล่าวนางไว้ ไดย้ กให้เขากอ่ นกค็ วรท่ี
จะโอภาปราศรัยมาให้ดี น่สี ติ ัดไมตรีให้ขาดทาง

เราก็เรืองฤทธาศกั ดาเดช อาณาจักรนัคเรศกว้างขวาง

จําตอ้ งมมี านะไม่ละวาง จะชงิ นางบุษบาลาวัณย์

แมน้ มไิ ด้สมคดิ ดังจติ ปอง ไม่คนื ครองกรงุ ไกรไอศวรรย์
จะสงครามตามตตี ดิ พัน ไปกว่าชีวนั จะบรรลัย ฯ”

(อิเหนา, หนา้ 278-279)

นายวชั ระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนาร,างตุนาหงันบษุ บา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน

8

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นอนุภาวะเราทรรสที่เกิดขึ้นกับท้าวกะหมังกุหนิง โดยพรรณนาถึงความ

เคืองแค้นของท้าวกะหมังกุหนิง ซึ่งเขียนจดหมายไปอ่อนง้อสู่ขอนางบุษบา แต่ท้าวดาหากลับยกนางบุษบาให้

ระตูจรกา และตอบปฏิเสธที่จะยกนางบุษบาให้ลูกชายของตน ทําให้เกิดความแค้นเคือง(อมรรษะ)ที่นําไปสู่

ความรนุ แรง(อุครตา)ในการส้รู บ ดังในเนื้อหาวรรณคดีว่า

“เม่ือนัน้ ทา้ วกะหมงั กหุ นิงแขง็ ขัน

ได้ฟังกร้ิวโกรธดงั เพลงิ กัลป์ จงึ กระช้นั สีหนาทประภาษไป

ถึงวา่ กษัตรยิ ท์ ้งั สกี่ รงุ จะมาช่วยรบพงุ่ เปน็ ศึกใหญ่

กกู ็ไม่ครน่ั ครา้ มขามใคร จะหักใหเ้ ปน็ ภัสมธ์ ลุ ีลง

ว่าพลางทางมพี จนารถ สง่ั อาํ มาตยด์ ะหมงั ตํามะหงง

เร่งเกณฑ์พวกพลรณรงค์ ท่สี ามารถอาจองในสงคราม”

(อเิ หนา, หนา้ 279)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงเราทรรสอย่างเด่นชัด ซึ่งพรรณนาถึงความโกรธ

อย่างเดือดดาลขั้นรุนแรงของท้าวกะหมังกุหนิงที่เกิดขึ้น จนตะโกนเสียงดังว่า แม้สี่กษัตริย์สุริวงศ์จะร่วมกันรบ

จนเกิดเป็นศึกใหญ่ตนเองก็ไม่ครั่นคร้าม จะรบพุ่งกับอีกฝ่ายให้ย่อยยับเป็นผงธุลีลง แล้วจึงสั่งให้อํามาตย์ไปแต่ง

กองทพั เตรยี มยกพลไปรบ เปน็ การแสดงถงึ อนุภาวะทีเ่ กิดขนึ้

นอกจากนี้ ด้วยเหตุที่ท้าวดาหาปฏิเสธที่จะยกนางบุษบาให้แก่วิหยาสะกํา จึงได้เกิดสงครามเพื่อแย่งชิง

นางบุษบาระหว่างกรุงดาหากับเมืองกะหมังกุหนิง เมื่อจะเกิดสงครามท้าวดาหาจึงได้แจ้งข่าวศึกไปขอความ

ช่วยเหลือยังพี่ชายและน้องชายของตน ทําให้เมืองต่าง ๆ จึงได้ยกกองทัพมาช่วยรบ ส่วนท้าวกุเรปันก็ได้มี

จดหมายไปตามให้อิเหนามาช่วยท้าวดาหารบ เนื้อหาภายในจดหมายมีลักษณะที่สื่อถึงความไม่พึงพอใจ

แฝงด้วยความโกรธเคือง ดงั ในเน้อื หาวรรณคดวี ่า

“มาตรแมน้ เสยี เมืองดาหา จะพลอยอายขายหน้าฤหาไม่

ซงึ่ เกิดศกึ สาเหตุเภทภัย กเ็ พราะใครทาํ ความไว้งามพักตร์

ครัง้ หนง่ึ ก็ใหเ้ สยี วาจา อายชาวดาหาอาณาจักร

คร้ังนีเ้ ร่งคดิ ดจู งนกั จะซํ้าให้เสยี ศักดิ์กต็ ามที

แมน้ มิยกพลไกรไปชว่ ย ถึงเราม้วยกอ็ ยา่ มาดผู ี

อย่าดทู งั้ เปลวอัคคี แตว่ ันน้ีขาดกันจนบรรลัย ฯ”

(อเิ หนา, หนา้ 296)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นอนุภาวะเราทรรสที่เกิดขึ้นโดยมีอมรรษะเป็ภาวะเสริม แสดง

ให้เห็นถึงอารมณ์ฉุนเฉียวของท้าวกุเรปันที่มีต่ออิเหนา ซึ่งในเนื้อหาในวรรณคดีกวีใช้ข้อความว่า “แม้นมิยกพล

ไกรไปช่วย ถึงเราม้วยก็อย่ามาดูผี อย่าดูทั้งเปลวอัคคี แต่วันนี้ขาดกันจนบรรลัย ฯ” นอกจากนี้ยังปรากฏ

เราทรรสที่เกิดขึ้นกับนางจินตะหราหลังจากที่ได้ทราบว่าอิเหนาจะต้องยกทัพไปช่วยกรุงดาหารบ ดังที่ปรากฏ

ในเน้ือหาวรรณคดีตอ่ ไปน้ี

นายวัชระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนาร,างตุนาหงันบุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวิทยาลัยขอนแกEน

9

“เมื่อนั้น จนิ ตะหราวาตมี ศี กั ดิ์

ฟงั ตรสั ขดั แค้นฤทยั นกั สะบดั พักตร์ผนิ หลังไมบ่ ังคม

แล้วตอบถ้อยน้อยฤพระทรงฤทธ์ิ ช่างประดิษฐ์คดิ ความพองามสม

ลว้ นกล่าวแกล้งแสร้งเสเล่หล์ ม คดิ คมแยบคายหลายชน้ั ”

(อิเหนา, หน้า 299)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นกวีใช้ข้อความว่า “ฟังตรัสขัดแค้นฤทัยนัก” เป็นการแสดงออกถึงเราทรรส

ที่เกิดขึ้นกับนางจินตะหรา นอกจากนี้นางจินตะหรายังแสดงอนุภาวะผ่านอากัปกิริยาที่ฉุนเฉียว โดยกวีใช้

ข้อความว่า “สะบัดพักตร์ผินหลังไม่บังคม” เพื่อให้เห็นถึงเราทรรสที่เด่นชัดขึ้น ประกอบกับการพรรณนาถึง

คาํ พูดทป่ี ระชดประชนั ของนางจนิ ตะหราท่เี ปน็ ภาวะเสรมิ ดงั ในเน้ือหาวรรณคดีวา่

“พระวาจาน่าเชอื่ เปน็ พ้นนกั จึงหลงรักภกั ดไี ม่เดยี ดฉนั ท์

พาซอ่ื สุจรติ คดิ สําคัญ หมายม่ันว่าเมตตาปรานี

มริ ูม้ าอาภพั กลบั กลาย จะหลีกเลย่ี งเบยี่ งบ่ายหนา่ ยหนี

ยังสมคําสญั ญาท่ีพาที กีร่ ้อยปีพระจะกลับคนื มา ฯ”

(อเิ หนา, หนา้ 299)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นคํากล่าวของนางจินตะหรามีต่ออิเหนา ซึ่งนางได้กล่าวว่า เพราะคําพูด

ที่น่าเชื่อถือของอิเหนานางจึงปลงใจรักและมีความภักดีให้กับอิเหนา หมายใจว่าอิเหนาจะรักและเมตตาปรานี

ตน แต่อิเหนากลับหาทางที่จะหลีกหนี เมื่อไปแล้วอีกกี่ร้อยปีจึงจะหวนกลับมา เป็นภาวะเสริมที่เป็นความโกรธ

เคืองของนาง(อมรรษะ) ส่วนอเิ หนาก็พยายามอธบิ ายให้นางเขา้ ใจวา่ ท้าวกุเรปนั เขียนจดหมายมาตามใหไ้ ปชว่ ย

ท้าวดาหารบ พร้อมทั้งยื่นจดหมายนั้นให้นางดูแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งนางจินตะหรายังมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึง

ความโกรธเคอื งต่ออเิ หนา ดงั ในเนอ้ื หาวรรณคดวี า่

“เมือ่ นั้น โฉมยงองคร์ ะเด่นจนิ ตะหรา

คอ้ นให้ไมแ่ ลดสู ารา กลั ยาคง่ั แค้นแน่นใจ ฯ

แลว้ วา่ อนิจจาความรัก พึ่งประจกั ษด์ ่ังสายน้ําไหล

ตั้งแตจ่ ะเช่ียวเปน็ เกลยี วไป ทไ่ี หนเลยจะไหลคนื มา

สตรีใดในพิภพจบแดน ไม่มีใครไดแ้ ค้นเหมือนอกขา้

ดว้ ยใฝ่รกั ใหเ้ กนิ พักตรา จะมีแตเ่ วทนาเปน็ เนอื งนติ ย์”

(อเิ หนา, หน้า 300)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่สื่อถึงความโกรธเคืองของนาง

จินตะหรา กวีใช้ข้อความว่า “ค้อนให้ไม่แลดูสารา กัลยาคั่งแค้นแน่นใจ ฯ” และ “ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอก

ข้า” เพื่อแสดงถึงเราทรรสที่เกิดขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดขึ้นแก่ท้าวดาหาหลังจากที่ได้ฟัง

คาํ พูดของสหุ รานากง ทา้ วดาหาจงึ กลา่ ววาจาตอบกลับว่า

นายวัชระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนารา, งตนุ าหงันบุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน

10

“ดูทที่ า้ วตรสั เหน็ ขดั เคือง วา่ ไหนจะจากเมืองหมันหยา

เมียเขาเขารักดังแกว้ ตา ฤจะอาจคลาดคลาเหน็ ผิดไป

แตพ่ ระเชษฐาใหห้ าตัว ก็ไมม่ คี วามกลัวยังขัดได้

เกิดณรงคส์ งครามกเ็ พราะใคร จนเดือดร้อนท่ัวไปท้ังธานี

นับประสาอะไรแกต่ ัวเรา ถงึ ตายเขากไ็ ม่ดผู ี

เหน็ เคอื งขดั ตรัสซา้ํ อยู่ดงั นี้ พระภูมีจงทราบบทมาลย์ ฯ”

(อิเหนา, หนา้ 313)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความโกรธซึ่งเป็นอนุภาวะเราทรรสของท้าวดาหาเมื่อได้ยิน

คําพูดจากสุหรานากงว่า ท้าวกุเรปันเขียนจดหมายไปตามอิเหนาให้มาช่วยรบ ท้าวดาหาจึงได้พูดแสดงความ

คิดเห็นต่อสุหรานากงว่า พิจารณาจากคําพูดของท่านแล้วน่าจะไม่เป็นความจริง ไฉนเลยอิเหนาจะยอมจาก

เมืองหมันหยามา เพราะเขารักเมียของเขามาก แม้ท้าวกุเรปันจะเขียนจดหมายไปตาม เขายังไม่ยอมกลับมา

ถึงจะเกิดสงครามผู้คนเดือดร้อนไปทั่วทั้งเมือง หรือแม้กระทั่งเราจะตายเขาก็ไม่มาดูผี จึงทําให้สุหรานากงได้

เข้าใจความรู้สึกของท้าวดาหา ทั้งนี้ยังปรากฏอมรรษะซึ่งเป็นภาวะเสริมเพื่อให้เราทรสเด่นชัดขึ้น โดยกวีใช้

ข้อความว่า “ดูที่ท้าวตรัสเห็นขัดเคือง” และ “เห็นเคืองขัดตรัสซํ้าอยู่ดังนี้” ในการสื่อความแทนอารมณ์โกรธ

ของท้าวดาหา นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดขึ้นกับวิหยาสะกํา ระหว่างสนทนากับอิเหนาด้วย ดังข้อความ

วรรณคดวี า่

“เมอ่ื นัน้ วิหยาสะกําใจกล้า

ไดฟ้ ังค่ังแค้นแทนบิดา จึงร้องตอบวาจาวา่ ไป

ดกู ่อนอรริ าชไพรี อยา่ พาทลี บหล่ทู ่านผ้ใู หญ่

โอหงั บังอาจประมาทใคร จะนบนอบยอบไหวอ้ ย่างพึงนกึ ”

(อเิ หนา, หน้า 322)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นอนุภาวะที่แสดงถึงความโกรธเคืองของวิหยาสะกําหลังจากได้ฟัง

คําตอบที่เป็นการหยามเกียรติต่อท้าวกะหมังกุหนิงผู้เป็นบิดาของตน โดยกวีได้ใช้ข้อความว่า “ได้ฟังคั่งแค้น

แทนบิดา” ในการสื่อถึงอารมณ์โกรธที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ยังปรากฏภาวะเสริมที่เป็นอุนมาทะ(ความเกรี้ยวกราด)ที่จะ

นาํ ไปส่คู วามรนุ แรงในการสรู้ บดว้ ย ดงั ในเนือ้ หาของวรรณคดตี ่อไปน้ี

มิเรากเ็ จ้าจะตายลง อย่าหมายจติ คิดทะนงในการศึก

ยงั มทิ นั พนั ตูมาขู่คึก จะรบั แพแ้ ลลึกไม่มลี าย ฯ”

(อิเหนา, หน้า 323)

จากคํากล่าวของวิหยาสะกําดังในเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นวิภาวะ(สาเหตุ)ท่ีทําให้ปรากฏเราทรรส

แก่สังคามาระตาหลังจากได้ฟังคําพูดหมิ่นเกียรติอิเหนา ทําให้เกิดจากความขุ่นเคืองใจ และขออาสาออกรบกับ

วิหยาสะกํา โดยกวีใช้ข้อความว่า “ฟังวิหยาสะกําอภิปราย หยาบคายเคืองขัดอัธยา” ในการสื่อสาร

ความรู้สกึ ของสังคามาระตานน่ั เอง

นายวัชระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตนุ าหงนั บุษบา I สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวิทยาลยั ขอนแกEน

11

เมื่อครั้นได้รับอนุญาตจากอิเหนาแล้วสังคามาระตาจึงได้ควบม้าไปหยุดตรงหน้าของวิหยาสะกํา

และกล่าวเย้ยหยันออกไปว่า ใครกันที่ไม่รักตัวกลัวตายหมายจะมาชิงพระธิดาบุษบา ก็ให้มาประฝีมือสู้รบกัน

ก่อน เพื่อให้เห็นถึงความสามารถ หากมีฝีมือคู่ควรกับพระธิดาแห่งวงศ์อสัญแดหวาก็จะยกให้ไป จากคํากล่าว

ของสงั คามาระตาเป็นวิภาวะให้เกดิ เราทรรสแก่วิหยาสะกําดังในเนอื้ หาวรรณคดวี ่า

เมือ่ นน้ั วิหยาสะกําศรีใส

ได้ฟังแคน้ ขัดกลดั ใจ จงึ ตอบคาํ ไปดว้ ยพลนั ”

(อเิ หนา, หนา้ 323)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นอนุภาวะเราทรรสที่เกิดขึ้นกับวิหยาสะกําหลังได้ฟังคําพูด

ของสังคามาระตา ดังข้อความว่า “ได้ฟังแค้นขัดกลัดใจ”โดยมีอมรรษะหรือความแค้นเคืองเข้ามาเป็นภาวะ

เสริมด้วย เป็นเหตุให้วิหยาสะกําถามกลับคืนไปยังสังคามาระตาว่าเป็นใครมาจากเมืองใด หรือว่าเป็นคนใน

ราชวงศ์อสัญแดหวาในสี่เมือง เหตุใดจึงแสร้งทําเป็นกล้าหาญไม่รักตัวกลัวตาย และที่ทรงม้ายืนอยู่ข้างหลังกาง

กั้นด้วยกลดพื้นทองสุวรรณเป็นใครจงบอกมา แม้นได้ทราบแล้วค่อยมารบกัน ด้วยคําถามเชิงดูถูก เหยียดหยาม

ของวหิ ยาสะกําเป็นวภิ าวะทีท่ าํ ให้เกิดเราทรรสแก่สงั คามาระตาดังในเนื้อหาวรรณคดวี ่า

เม่ือน้นั สงั คามาระตาเฉดิ ฉนั

ไดฟ้ งั ดังศรเสยี บกรรณ จึงตอบไปพลันทนั ใด

(อิเหนา, หนา้ 324)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงอนุภาวะเราทรรสที่เกิดขึ้นแก่สังคามาระตา หลังจากที่ได้

ฟังคําถามของวิหยาสะกํา โดยกวีใช้ความเปรียบแทนความรู้สึกของสังคามาระตาด้วยข้อความว่า “ได้ฟังดังศร

เสียบกรรณ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโกรธเคืองของสังคามาระตาที่ต่อคําพูดของวิหยาสะกํานั่นเอง นอกจากน้ี

ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดขึ้นระหว่างสังคามาระตากับวิหยาสะกําขณะกําลังสนทนากัน เมื่อวิหยาสะกําได้ทราบ

ว่าสังคามาระตาไม่มีความเกี่ยวพันกับราชวงศ์อสัญแดหวา แต่เป็นโอรสระตูเมืองปักมาหงัน จึงได้เย้ยหยันว่า

ทําไมจึงกล่าวว่าตนเองเป็นน้องชายของอิเหนา เรานี้ประหลาดใจยิ่งนัก ด้วยคําพูดของวิหยาสะกําข้างต้น ทําให้

เกดิ เราทรรสแก่สงั คามาระตาที่จะนําไปสกู่ ารสู้รบกนั ดงั ในเนอ้ื หาวรรณคดีตอ่ ไปนี้

“เมอ่ื นัน้ สังคามาระตาเรืองศรี

ฟงั วิหยาสะกาํ พาที ดังตรเี พชรบาดในอรุ า

จงึ ร้องว่าเหวยไพริน ลมลนิ้ หยาบคายนกั หนา

มาถามไถ่ไล่เอากิจจา คอื จะปรารถนาส่งิ ใด

สดุ แตว่ า่ จติ พิศวาส กน็ ับเปน็ วงศ์ญาตกิ ันได้

อย่าชกั เจรจาใหช้ า้ ไป จะชิงชัยให้เหน็ ฝมี ือกนั ”

(อิเหนา, หนา้ 324-325)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงเราทรรสที่เกิดขึ้นแก่สังคามาระตา เป็นอนุภาวะที่อมรรษะเป็น

ภาวะเสริมหลังได้ยินคําพูดของวิหยาสะกํา ซึ่งความโกรธเคืองครั้งนี้เป็นดังตรีสูรเพชรที่บาดลึกกลางใจของสังคา

นายวัชระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อิเหนารา, งตุนาหงันบุษบา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสังคมศาสตร? มหาวิทยาลัยขอนแกEน

12

มาระตา ดังปรากฏในเนื้อหาวรรณคดีว่า “ดังตรีเพชรบาดในอุรา” และยังปรากฏภาวะเสริมที่เป็นอุนมาทะ (ความ

บ้าคลั่ง) โดยกวีถ่ายทอดอากัปกิริยาของสังคามาระตาที่แสดงออกมาด้วยการร้องตะโกน ดังเนื้อหาวรรณคดีว่า “จึง

ร้องว่าเหวยไพริน ลมลิ้นหยาบคายนักหนา” ทั้งนี้จึงก่อให้เกิดการท้ารบของสังคามาระตากับวิหยาสะกํา ที่นําไปสู่

อุครตา(ความรุนแรง) นั่นคอื สังคามาระตาได่พงุ่ เข้าโจมตวี ิหยาสะกํา ดังเนอ้ื หาวรรณคดีว่า

“ว่าพลางทางกรายปลายทวน ราํ รา่ ยเป็นกระบวนหวนหัน

ชักอาชาชิดติดพัน เข้าประจญั จว้ งโจมโถมแทง ฯ”

(อิเหนา, หนา้ 325)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นการแสดงออกถึงความรุนแรง(อุครตา) ที่เกิดขึ้นจากความโกรธ ซึ่งเป็นภาวะ

เสริมทําให้เราทรรสของสังคามาระตาเด่นชัดขึ้น เป็นการแสดงถึงพฤติกรรมความรุนแรงในการรบ ดังเนื้อหา

วรรณคดีวา่ “เขา้ ประจญั จว้ งโจมโถมแทง ฯ” เป็นพฤตกิ รรมทีม่ ุ่งหมายทําร้ายหรอื เอาชวี ิตของฝา่ ยตรงขา้ ม

นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดขึ้นแก่ท้าวกะหมังกุหนิงที่ได้เห็นโอรสของตนเองถูกสังคามาระตา

สังหารบนหลังม้า ซึ่งเป็นสาเหตุ(วิภาวะ) ทําให้เกิดเราทรรส โดยกวีได้บรรยายถึงอนุภาวะเราทรรสที่เกิดขึ้น

ดังเนือ้ หาวรรณคดวี ่า

“กร้ิวโกรธโกรธาบ้าจิต จะรอร้ังย้ังคิดกห็ าไม่

แกวง่ หอกคู่ขบั อาชาไนย เข้ารกุ ไลส่ ังคามาระตา ฯ”

(อิเหนา, หน้า 326)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงอนุภาวะเราทรสที่เกิดขึ้น โดยมีภาวะเสริมครบทั้ง 3 ประเภท

ได้แก่ อมรรษะ อุนมาทะ และอุครตาเป็นภาวะเสริม ซึ่งกวีบรรยายความรู้สึกของท้าวกะหมังกุหนิงที่เป็นความโกรธ

เคือง(อมรรษะ) ด้วยข้อความว่า “กริ้วโกรธโกรธาบ้าจิต” บรรยายถึงความมบ้าคลั่ง(อุนมาทะ) ด้วยข้อความว่า

“จะรอรั้งยั้งคิดก็หาไม่” และบรรยายถึงพฤติกรรมที่แสดงถึงความรุนแรง(อุครตา) ด้วยข้อความว่า “แกว่งหอกคู่

ขบั อาชาไนย เข้ารุกไลส่ ังคามาระตา ฯ”

จากวรรณคดีเรื่องอิเหนายังปรากฏเราทรรสที่เกิดแก่ระตูจรกาหลังจากได้ทราบว่าวิหยาสะกําจะยก

กองทพั มาแยง่ ชงิ นางบษุ บาคหู่ มนั้ คูห่ มายของตนจงึ เกิดความโกรธดงั ในเน้อื หาวรรณคดีวา่

“เมอ่ื น้ัน ระตูจรกาเรืองศรี

ได้ฟงั ค่งั แค้นแสนทวี ด่งั อคั คจี ้จี ดุ ดวงใจ”

(อเิ หนา, หนา้ 336)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นแสดงให้เห็นถึงอนุภาวะของเราทรรสโดยมีอมรรษะเป็นภาวะเสริม โดยกวี

บรรยายความรู้สึกของระตูจรกาที่เป็นความโกรธเคืองด้วยข้อความว่า “ได้ฟังคั่งแค้นแสนทวี ดั่งอัคคีจี้จุดดวงใจ”

และยังปรากฏอนุภาวะท่ีมีอุนมาทะหรือความบ้าคลั่งเป็นภาวะเสริม โดยแสดงความเกรี้ยวกราดผ่านทางการ

แผดเสียง ดงั ในเนื้อหาวรรณคดตี อ่ ไปนี้

“แผดเสยี งสิงหนาทบรรหาร เหม่มันอหังการหยาบใหญ่

จะชงิ ดวงยิหวาของกไู ป ดแี ล้วจะได้เห็นกัน”

นายวัชระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนารา, งตุนาหงันบษุ บา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวิทยาลัยขอนแกEน

13

(อิเหนา, หน้า 336)

นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดแก่ท้าวดาหาและประไหมสุหรีที่มีต่ออิเหนา โดยมีสาเหตุมาจาก

การที่อิเหนาปฏิเสธการแต่งงานกับนางบุษบา แล้วไปอยู่กินกับนางจินตะหรา อีกทั้งอิเหนายังเป็นสาเหตุของ

เรื่องเดือดร้อนที่เกิดขึ้นทั้งหมด ท้าวดาหาและประไหมสุหรีจึงมีอนุภาวะของเราทรรสเกิดขึ้น สื่อผ่านออกมา

พฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การไมท่ ักทาย แสดงอาการหมางเมิน เบือนหนา้ หนี ดงั ในเนอ้ื หาวรรณคดีวา่

“ต่างแคน้ เคอื งขดั ไม่ตรสั ทัก มึนเมินพระพักตร์ผนิ ผนั

ขับแตส่ ียะตราลูกยานน้ั จงไปอภวิ ันทพ์ ระพีย่ า”

(อเิ หนา, หนา้ 342)

นอกจากนี้ยังปรากฏเราทรรสที่เกิดขึ้นแก่นางบุษบาซึ่งเป็นอนุภาวะ โดยมีวิภาวะมาจากการปฏิเสธ

การแตง่ งานของอเิ หนา ซงึ่ มีอมรรษะเปน็ ภาวะเสรมิ ดงั ในเนอื้ หาวรรณคดีตอ่ ไปนี้

เมือ่ นั้น บษุ บาแค้นขัดอชั ฌาสัย

สะบดั พกั ตร์ผินผันเสียทนั ใด ไมอ่ อกไปตามคําพระมารดา

นางน่ังนิ่งแฝงม่านอยู่ คิดละอายอดสหู นกั หนา

ชนนีซา้ํ เตือนให้เคลือ่ นคลา ก็ผูกค้วิ น้วิ หน้าไม่พาที ฯ

(อเิ หนา, หน้า 346)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นเราทรรสที่เกิดแก่นางบุษบา พฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความโกรธของ

นางบุษบา คือ การสะบัดหน้าหนี ไม่ฟังคําที่มารดาของนางพูด นั่งนิ่ง ๆ และกวีได้บรรยายถึงความโกรธเคือง

ของนางไว้ด้วยข้อความว่า “บุษบาแค้นขัดอัชฌาสัย” ซึ่งความโกรธครั้งนี้เกิดจากการปฏิเสธการแต่งงานของ

อิเหนานั่นเอง และยังปรากฏเราทรรสเพิ่มเติมที่เกิดแก่นางบุษบาในขณะที่ประไหมสุหรีดาหามาเกลี้ยกล่อมให้

นางออกไปไหวข้ อบคุณอเิ หนาทยี่ กทพั มาชว่ ยรบ ดังในเนือ้ หาวรรณคดวี ่า

เมื่อนัน้ ระเดน่ บษุ บาดวงสมร

ฟงั พระมารดาว่าวอน ใหก้ ลัดกลุ้มรมุ รอ้ นฤทยั

ยง่ิ คิดความหลังคง่ั แค้นนกั นงลักษณม์ ใิ ครจ่ ะไหวไ้ ด้

จําเปน็ ดว้ ยกลวั ก็จนใจ จําไหว้นิดหน่งึ พอเป็นที ฯ

(อิเหนา, หน้า 348)

จากเนื้อหาวรรณคดีข้างต้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโกรธเคืองของนางบุษบาเมื่อได้ฟังคําพูดของ

มารดาและนึกถึงการปฏิเสธการแต่งงานของอิเหนา โดยกวีได้บรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นของนางบุษบาด้วย

ข้อความว่า “ให้กลัดกลุ้มรุมร้อนฤทัย” ซึ่งเป็นเราทรรสที่แสดงให้เห็นถึงความร้อนรุ่มภายในจิตใจของนาง

และใช้ข้อความว่า “ย่งิ คดิ ความหลังค่ังแคน้ นัก” เป็นอนุภาวะที่มอี มรรษะเป็นภาวะเสรมิ นัง่ เอง

นายวชั ระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อิเหนาร,างตนุ าหงนั บษุ บา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวทิ ยาลัยขอนแกEน

14

สรปุ การศกึ ษา
จากการศึกษาวิเคราะห์เราทรรสในวรรณคดีกลอนบทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จ

พระพุทธเลิศหล้านภาลัย จากตอน “อิเหนาบอกตัดนางบุษบา” ถึง “อิเหนาหลงนาบุษบา” ตามกรอบแนวคิด
ทฤษฎีรสในวรรณคดีสันสกฤต ผลการศึกษาพบว่า วรรณคดีเรื่องอิเหนาปรากฏเราทรรสทั้ง 3 ประเภท ได้แก่
วิภาวะ อนุภาวะ และภาวะเสริม ด้านวิภาวะ(สาเหตุ)ที่พบคือ การบอกปฏิเสธการแต่งงานของอิเหนา อิเหนา
ไปอยู่กินกับนางจินตะหรา การบอกปฏิเสธยกนางบุษบา การพูดเย้ยหยันหมิ่นเกียรติ และการแย่งชิงนางบุษบา
ส่วนด้านอนุภาวะ(ผล)ที่พบคือ ความโกรธเคือง ความแค้น ความเกรี้ยวกราด การเพิกเฉย การแสดงอากัปกริยา
แสดงความไม่พอใจ และภาวะเสริมที่พบได้แก่ อมรรษะ(ความแค้นเคือง) อุนมาทะ(ความบ้าคลั่ง) และอุครตา
(ความรุนแรง) สําหรับตัวละครที่ปรากฏเรารสในวรรณคดีที่ศึกษาได้แก่ ท้าวกุเรปัน นางจินตะหรา นางบุษบา
ท้าวดาหา ท้าวกาหลัง ท้าวสิงหัดส่าหรี ประไหมสุหรีดาหา สังคามาระตา ท้าวกะหมังกุหนิง วิหยาสะกํา
และพระปะตาระกาหราหรือพระอัยกากระยาหงัน และเมื่อพิจารณาการเกิดเราทรรสระหว่างตัวละครพบว่า
เป็นเราทรรสระหว่างท้าวกุเรปันกับอิเหนา ท้าวกุเรปันกับท้าวหมันหยา ท้าวดาหากับอิเหนา ประไหมสุหรี
ดาหากับอิเหนา นางจินตะหรากับอิเหนา นางบุษบากับอิเหนา ท้าวดาหากับท้าวกะหมังกุหนิง วิหยาสะกํากับ
อิเหนา วิหยาสะกํากับสังคามาระตา ท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรีกับท้าวดาหา ท้าวกะหมังกุหนิงกับสังคา
มาระตา ระตูจรกากบั วิหยาสะกาํ และพระปะตาระกาหรากบั อิเหนา

อภิปรายผล
จากการศึกษาวิเคราะห์เราทรรสในวรรณคดีกลอนบทละครเรื่องอิเหนาตามกรอบแนวคิดวรรณคดี

สันสกฤตทําให้ได้ทราบถึงความโกรธของมนุษย์และอมนุษย์ ล้วนมีเหตุปัจจัยมาจากความต้องการ แต่ไม่ได้อย่างที่
ต้องการ สะท้อนให้เห็นกมลสันดานเดิมของมนุษย์ปุถุชน ซึ่งในเรื่องตัวละครที่ปรากฏเราทรรสล้วนอยู่ในวรรณะ
กษัตริย์ทั้งสิ้น จึงอาจกล่าวได้ว่า แม้จะเกิดในวรรณะที่สูงหรือตํ่าก็สามารถเกิดความโกรธเคืองได้เช่นกัน นอกจากนี้
ยังแสดงให้เห็นว่า แม้แต่เทพเทวดาก็ยังไม่สามารถสละซึ่งความโกรธได้ทั้งหมดเช่นกัน ดังที่ปรากฏแก่พระอัยกา
กระยาหยันอิเหนา ดังนั้น การศึกษาเราทรสในวรรณคดีเรื่องอิเหนาครั้งนี้ จึงเป็นการศึกษาความงามในธรรมชาติ
ของชีวติ ฝ่ังที่เปน็ อธรรมน่นั เอง

บรรณานุกรม
กสุ มุ า รกั ษมณ.ี (2534). การวเิ คราะหว์ รรณคดีไทยตามทฤษฎีวรรณคดีสันสกฤต. มลู นิธโิ ครงการตําราสงั คมศาสตร์

และมนษุ ยศาสตร์ คณะโบราณคดี มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร.

นายวชั ระ ลานเจริญ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนาร,างตุนาหงนั บุษบา I สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน

15
ชนิดาภา ผิวอ่อน และสนม ครุฑเมือง. (2560). การวิเคราะห์ศฤงคารรสที่ปรากฏในบทละครเรื่องอิเหนา

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย. วารสารพิฆเนศวร์สาร ปีที่ 13 ฉบับที่ 2,
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม.่
ณัฐสุดา สุดหล้า และสุฌัญญา ภูผาใจ. (2564). การวิเคราะห์เราทรรสที่ปรากฏในบทเพลงแร็ปสะท้อนการเมือง.
การนาํ บทความวชิ าการ หลักสตู รศิลปศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าภาษาไทย มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น.
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย. (2557). อิเหนา ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ. พิมพ์ครั้งที่ 17. กรุงเทพฯ :
แสงดาว.

นายวชั ระ ลานเจรญิ I 2564 I เราทรรส : อเิ หนารา, งตนุ าหงนั บษุ บา I สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร?

และสงั คมศาสตร? มหาวทิ ยาลยั ขอนแกEน


Click to View FlipBook Version