The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่-2-หลักการพูด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ตั้ม วัชระ, 2021-07-21 08:14:01

หน่วยที่-2-หลักการพูด

หน่วยที่-2-หลักการพูด

หน่วยที่ 2 หลกั การพูด
วชิ าทกั ษะภาษาไทยเชงิ วิชาชีพ (30000-1101)
หลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชน้ั สงู (ปวส.) พุทธศักราช 2563

ครูผสู้ อน : นายวชั ระ ลานเจรญิ
กลมุ่ สาระภาษาไทย แผนกสามญั สมั พันธ์ วทิ ยาลัยเทคนิคสกลนคร

หลกั การพดู ความหมายการพดู
จุดมุง่ หมายในการพูด

มารยาทในการพูด
การพฒั นาบุคลิกภาพการพดู
การเตรยี มความพร้อมในการพดู

ความหมายการพดู

การพดู คอื พฤตกิ รรมการสื่อสารของ

มนษุ ย์ โดยอาศยั ภาษาถอ้ ยคา้ น้าเสียงตลอดจนกริ ยิ า

ท่าทางต่าง ๆ เพื่อถา่ ยทอดความรสู้ ึกนึกคิดของตนเองแก่
ผอู้ ่นื ให้เกิดผลตอบสนองตามทีต่ อ้ งการ

จดุ มงุ่ หายในการพดู

การพดู จรรโลงใจ การพดู โนม้ นา้ วใจ

การพดู ให้ความรู้

เป็นการพูดท่ีเน้นเนือหาสาระเป็นส้าคญั เนอื หา
สาระอาจเปน็ ความรู้ท่ัวไป ความรตู้ ามหลักวิชา ความรู้
ทางวชิ าการในดา้ นใดดา้ นหนึง่ การพดู ให้ความรู้มี
รูปแบบการพูดดงั นี

การพูดปาฐกถา บรรยาย และเลา่ เรื่อง เป็นการพดู ท่เี นน้ ผู้พูด
1.1 เพยี งคนเดียว โดยทัว่ ไปเนน้ การบรรยายใหค้ วามรู้

1) การบรรยายทางวิชาการ เรยี กว่า ปาฐกถา
2) การบรรยายในลักษณะการสอน เรียกวา่ บรรยาย
3) การบรรยายเล่าเรอ่ื งเนน้ กสรเล่าสู่กนั ฟงั เรียกว่า การเลา่ เรอ่ื ง

การพดู อภปิ ราย สมั มนา และแลกเปลย่ี นเรียนรู้ มลี ักษณะคลา้ ย
1.2 คร่งึ กัน คอื มีการแสดงความคิดเห็นเปน็ สา้ คญั

การอภิปราย เรียนทคี่ ณะผู้พดู แสดงความคิดเหน็ หรืออาจ
1) เปน็ การพูดเดีย่ วเพ่ือแสดงความคดิ เห็นเรอ่ื งใดเรอ่ื งหนงึ่

การสัมมนา เนน้ การจดั การท่ีผแู้ สดงความคดิ เหน็ เป็นบคุ คล
22)) เดียวหรอื เปน็ คณะ แลว้ ผู้ฟังสามารถร่วมแสดงความคิดเหน็

3) การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ อาจจะเอาในรูปแบบสัมมนา แตม่ ี
บรรยากาศทไ่ี มเ่ คร่งครัดทางวชิ าการมากนัก

การพดู รายงานและการพูดนา้ เสนอผลงาน เปน็ การบอกเพ่ือให้
1.3 ผู้อื่นรู้เรือ่ งของตน

1) การพดู รายงาน เป็นการพดู ถึงสง่ิ ทตี่ นหรือกลุ่มของตนปฏิบตั ิ
หรอื ด้าเนนิ การเพอ่ื บอกหรอื รายงานใหผ้ อู้ ่นื ทราบ

การพูดน้าเสนอผลงาน เนน้ ทผี่ ลงานดา้ เนนิ การในเร่อื งใดเร่อื ง

2) หน่ึง ชีใหเ้ หน็ เความเป็นมา การดา้ เนินการ และสรุปผล และ

มักเป็นการพดู ประกอบสื่อหรือผลงาน เพื่อใหเ้ หน็ จริง

การพดู ชแี จง เปน็ การพูดเพ่ืออธิบายให้เขา้ ใจ ถึงสาเหตุขอ้ ผดิ พลาดหรือ

1.4 เรอ่ื งทเ่ี ขา้ ใจผดิ ใหเ้ กิดความกระจ่างแก่สงั คมหรอื ผเู้ กย่ี วข้องให้รับรู้

การพดู สาธติ เป็นการพูดประกอบการกระท้า การทดลองหรอื การแสดง

1.5 ให้ผฟู้ งั เห็นจรงิ เพือ่ ให้เกิดความเขา้ ใจที่ดยี ่ิงขนึ และสามารถปฏบิ ัตติ ามได้

การพดู เสวนา เปน็ การพูดคลา้ ยคร่งึ กับการสัมมนา คือมเี นอื หาวิชาการ

1.6 แตไ่ ด้ความรสู้ กึ ของความเปน็ กนั เองเหมอื นคุยกันสนุกๆ ลดความเครียด

การพดู ในรปู แบบอื่น ๆ เช่น การพดู รายงานข่าว การพูดสนุ ทรพจน์

1.7 การพดู แนะนา้ (แนะน้าตนเอง สถานที่ บคุ คล) ซง่ึ มลี กั ษณเฉพาะตวั

การพดู โนม้ นา้ วใจ

เป็นการพูดที่หวังประโยชน์ให้ผฟู้ ังเหน็ ดว้ ย หรือ
คลอ้ ยตามจนเกดิ การเปลี่ยนแปลง หรอื เกดิ การกระท้าให้
เป็นไปตามวัตถปุ ระสงคน์ ัน การพูดโน้มน้าวใจมีรปู แบบ
การพดู ได้แก่

2.1 การพดู เชญิ ชวน เป็นการพดู จูงใจทมี่ ี
จดุ มุ่งหมาย เพือ่ เปล่ียนแปลงทัศนคตขิ องผฟู้ งั ให้เป็นไป
ตามแนวทางของผพู้ ูด เช่น การพดู เชิญชวนให้ร่วม
ปฏิบัติทางสงั คม การเชิญชวนใหใ้ ช้บรกิ ารต่าง ๆ
การเชิญชวนใหเ้ ปลย่ี นความคิดทัศนคติ

2.2 การพดู โฆษณาสนิ คา้ และบรกิ าร เป็นการ
พดู ให้ขอ้ มูลของสนิ ค้าและบริการ เพ่อื จูงใจหรอื โน้ม
นา้ วใจใหก้ ลุ่มผบู้ ริโภค เปา้ หมายมีพฤติกรรมคอยตาม
เนอื หาสาระทีโ่ ฆษณา หรอื เอืออ้านวยให้มกี ารซอื สนิ ค้า
และบริการ

2.3 การพดู ชวนเชอ่ื เป็นการพูดเกลยี กลอ่ ม
ชักจูงใจผฟู้ ังเกดิ ความเชอื่ ถือ ศรทั ธา มคี วามเหน็ คลอ้ ย
ตามและปฏิบตั ิตาม

2.4 การพดู หลอกลวง ให้หลักแนวคดิ นมหนาว
ใจทางมิชอบเพอ่ื ชักชวนให้ผฟู้ งั เชือ่ อยา่ งสนทิ ใจดว้ ยการ
ให้เหน็ ผลเสมือนจรงิ เช่น ตกทอง call center

2.5 การพดู สรรเสรญิ เยนิ ยอ เปน็ การพดู ทีย่ ก
ย่อง ชมเชย กล่าวชมด้วยความชนื่ ชมนยิ มพอใจ หรอื
ยกยอ่ งในกลมุ่ งามความดี เช่น การกลา่ วสรรเสรญิ คน
ทมี่ คี วามกตญั อย่รู ูค้ ุณ

2.6 การพดู ปลกุ ใจ เป็นการพดู เพ่อื กระตุ้น เรา้
ใจใหก้ ล้าหาญหรอื กระตอื รือรน้ เชน่ การพูดปลุกใจ
ลูกทมี ในการทา้ งาน การพดู ถกู ใจให้รกั ชาติ

2.7 การพดู ปลกุ ระดม เป็นการพูดเพ่ือเราใจ
และยยุ งใหผ้ ฟู้ งั เกิดความเหิมในการกระท้าส่ิงใดสิ่งหน่งึ

2.8 การพดู ปลอบใจ เป็นการพูดเพ่อื ให้คลาย
กงั วลใจ ใหผ้ ่อนคลายจากอารมณข์ ่นุ มวั หรือเปน็ การ
พูดให้กา้ ลงั ใจใหผ้ ูฟ้ งั มีความรสู้ กึ ดขี ึน

2.9 การเจรจาตอ่ รอง เป็นการพูดเพอ่ื ให้ได้
ประโยชน์ โดยหวา่ นลอ้ มดว้ ยเหตุผล หรือขอ้ เสนอทท่ี ้า
ให้เกดิ การยอมรับ หรือนา้ เสนอเง่ือนไขขอ้ ตอ่ รองต่าง
ๆ เพอ่ื ให้คเู่ จรจากระทา้ ตามข้อเสนอ หรือในเง่อื นไขท่ี
ก้าหนดไว้

การพดู จรรโลงใจ

เป็นการพดู เพ่อื หวังผลใหผ้ ูฟ้ ังเกิดความผ่อนคลาย
สบายใจ จติ ใจสงบเบกิ บานเปน็ ส้าคญั รปู แบบการพูด
จรรโลงใจมดี ังนี

3.1 การพดู จรรโลงใจดา้ นความเพลดิ เพลิน
หมายถงึ การพดู ทมี่ ุ่งใหผ้ ูฟ้ งั ไดร้ บั ความสนุกสนาน
รนื่ เรงิ ตลกขบขนั เพื่อให้เกิดความผอ่ นคลายในจติ ใจ
เป็นการจรรโลงจติ ใจให้ชุมชื่นเบิกบาน ลดความเครียด
ความเหี่ยวแหง้ แล้ง เชน่ การพูดเล่าเร่อื งตลก ทอลก์ โชว์

3.2 การพดู จรรโลงใจด้านความสขุ สงบ
หมายถงึ การพูดเพื่อให้ผูฟ้ ังรู้แจ้งเห็นจรงิ ไดร้ ับรสพระ
ธรรม หรอื ข้อเตอื นใจตามหลักศาสนาใด ๆ ทท่ี ้าให้
จติ ใจสงบร่มเยน็ ไม่ฟงุ้ ซา่ น เปน็ การจรรโลงใจให้
แชม่ ชื่นเบกิ บาน เหน็ คณุ ค่าของชีวติ จติ ใจสงบ

มารยาทในการพดู

มารยาทในการพูด

1. ใชค้ ้าพดู สภุ าพเหมาะสมกบั กาลเทศะและบคุ คล ให้
เกยี รติกับผู้ทเ่ี ราพดู ดว้ ยเสมอ

2. รู้จักใชค้ า้ แสดงถงึ ความมีมารยาท เช่น คา้ ขอบคณุ
ขอบใจ และกลา่ วขอโทษ ขออภัย ในโอกาสทีเ่ รากระทา้ การ
ล่วงเกนิ ผู้อืน่

3. ไม่พูดจาเยาะเยย้ ถากถาง ดหู ม่ินเหยียดหยาม เสยี ดสี
ผู้อนื่ ไม่พูดจายกตนข่มทา่ น หรือปมด้อยของผูอ้ นื่ ใหเ้ กิดความ
อับอาย

4. ไมผ่ ูกขาดการพูดและความคดิ แตเ่ พยี งผู้เดียว ให้
โอกาสผูอ้ ืน่ ไดพ้ ดู ไมพ่ ดู ตัดบทในระหวา่ งผูอ้ ืน่ ก้าลังพดู คอย
ให้ผอู้ ่ืนพูดจนจบกระบวนความแลว้ จงึ พูดต่อ

5. เม่ือจะพูดคัดค้านหรอื โตแ้ ยง้ ควรหาโอกาสท่ี
เหมาะสม และมเี หตผุ ลเพยี งพอในการคัดคา้ นไม่ใช้อารมณ์
ควรใช้ค้าพูดท่นี ุ่มนวล ไมใ่ ห้เสยี บรรยากาศในการพูดคยุ

6. ในการพดู เพ่อื สร้างบรรยากาศ ให้เกดิ อารมณ์ขนั
ควรเปน็ เร่อื งทีต่ ลกครบครันที่สภุ าพไม่หยาบโลน หรอื พดู ใน
ลกั ษณะสองแง่สองงาม

7. ไมพ่ ดู ตเิ ตียน กล่าวหาหรือนินทาผอู้ นื่ ตอ่ หนา้ ชุมชน
หรือในขณะที่ผทู้ ่ีเราพูดถงึ ไมไ่ ดอ้ ยดู่ ว้ ย

8. ควรพูดดว้ ยน้าเสยี งนมุ่ นวลชวนฟงั ไม่ใช้นา้ เสยี ง
ห้วน ๆ หรือดดุ ันวางอา้ นาจเหนือผู้ฟงั รจู้ กั ใช้ค้า ค่ะ นะคะ
ครับ นะครับ หน่อย เถิด จะ๊ นะ เสริมการพูดให้สุภาพ
ไพเราะน่าฟัง

การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพการพดู

1. การปรากฏตวั เป็นเคร่อื งมอื สอ่ื ความหมายไปยงั ผ้ฟู งั ตังแต่
เริ่มตน้ บคุ ลิกภาพที่แสดงออกควรมีความเหมาะสมในด้าน
ต่าง ๆ ดังนี

1.1 การแต่งกายเหมาะสมกับใบและบคุ ลกิ ของตนเอง
1.2 การแต่งกายเหมาะสมกับสถานท่แี ละโอกาสท่พี ูด
1.3 ทา่ ทางการแสดงออกมคี วามเช่อื มน่ั ในตนเอง มี
ชีวิตชวี าเปน็ ธรรมชาติ
1.4 ไมเ่ สแสรง้ แสดงออกมากจนเกนิ ไปจนท้าใหผ้ ู้ฟัง
ร้สู กึ ร้าคาญ

2. การใชเ้ สียง เสยี งพดู มคี วามส้าคญั ทสี่ ือ่ ความร้สู ึกนกึ คดิ
และอารมณ์ของผู้พดู ดังนันจึงจา้ เปน็ ต้องฝึกการเปล่งเสียง
ดงั นี

2.1 ฝึกทักษะการหายใจท่ที า้ ใหก้ ารเปล่งเสียงมี
คุณภาพ เปน็ เสยี งที่มพี ลังแจม่ ใส

2.2 ฝกึ การใช้ระดบั เสยี งและจงั หวะการพดู ที่เหมาะสม
สุภาพ นมุ่ นวล ชัดเจน นา่ ฟงั

2.3 ใช้น้าเสยี งใหส้ อดคลอ้ งกับอารมณ์ ความรู้สึกนึก
คดิ และเรื่องราวทตี่ ้องการถา่ ยทอดไปส่ผู ฟู้ ัง

2.4 รู้จกั ควบคุมน้าเสยี งทีแ่ สดงถึงความอ่อนโยน
สุภาพ

2.5 ฝกึ การใช้ระดับเสียงท่แี ตกตา่ งกนั จะเป็นปจั จัยที่
ท้าให้การพดู น่าฟงั เชน่ เสยี ง สูง-ต้า่

3. การใชภ้ าษา การใชภ้ าษาในการพูดควรคา้ นึงถงึ
3.1 ร้จู ักเลือกใช้ถอ้ ยคา้ ให้ตรงตามความหมาย เข้าใจ

งา่ ย สัน กระทดั รัด ถกู ต้องตามหลกั ภาษา
3.2 ร้จู ักใช้ภาษาตามวฒั นธรรม โดยค้านึงถงึ

กาลเทศะ โอกาส บุคคล และวตั ถปุ ระสงคใ์ นการพดู
3.3 ไมใ่ ช้คา้ พดู ท่มี คี วามหมายก้ากวม ใชภ้ าษา

ฟุ่มเฟอื ยเยน่ิ เยอ้ มคี วามหมายหลายนัย จะท้าให้ผู้ฟงั เกิด
ความสับสน หรือเบอ่ื หนา่ ย ไม่อยากฟัง

3.4 ออกเสียงถูกตอ้ ง ชัดถ้อยชัดคา้ และแสดง
ความหมายท่เี ขา้ ใจง่าย

3.5 ผลการใชภ้ าษาจากการอา่ น การฟงั การสงั เกต
และเรยี นรูจ้ ากบคุ คลท่ีใช้ภาษาทีด่ จี ากสือ่ ตา่ งๆ

4. การแสดงอากปั กริ ยิ า การแสดงอากัปกริ ิยาที่
เหมาะสมและถกู จงั หวะ จะเสรมิ ใหก้ ารพูดนา่ สนใจ และชวน
ฟงั ท้าใหผ้ ู้ฟังเข้าใจเพม่ิ ขนึ ผพู้ ดู จึงควรฝกึ ฝนการใชก้ ิรยิ า
ท่าทางต่าง ๆ เช่น การแสดงสีหนา้ แววตาการเคลือ่ นไหว
อวัยวะและร่างกายให้เปน็ ธรรมชาตแิ ละมชี ีวิตชีวา การเดิน
การยนื การทรงตวั การใช้มือ แขน และศรี ษะอย่าง
เหมาะสม

การเตรยี มความพรอ้ ม
ในการพูด

1. เตรียมสถานที่ ผู้พดู จะตอ้ งรจู้ กั สถานทท่ี จ่ี ะต้อง
ไปพดู ทราบสถานทต่ี ังชัดเจน และพรอ้ มท่ีจะเดินทางไปถงึ
ได้อย่างไม่มปี ัญหา รจู้ กั บริเวณอาคารท่ีพดู ห้องที่พูด
พรอ้ มอุปกรณ์เครอ่ื งอา้ นวยความสะดวกในการพดู

2. เตรยี มเวลา ก้าหนดเวลาทีจ่ ะตอ้ งใชใ้ นการพูด
เนอื หา เวลาซักถาม เวลาวิสาสะในตอนทา้ ย ให้ตรงตาม
เวลาและเสร็จสินตามเวลาท่ีกา้ หนด

3. เตรยี มผ้ฟู งั ผู้พดู ตอ้ งรู้กลุม่ ผู้ฟงั โดยอาจถาม
จากผจู้ ดั งาน จากนนั วเิ คราะหผ์ ฟู้ งั เกีย่ วกบั เพศ อายุ
การศกึ ษา อาชีพ ความสนใจ เพื่อเขา้ ใจพฤตกิ รรม และ
ความประสงคข์ องกลมุ่ ผฟู้ ัง เพ่ือจะได้ใชค้ า้ พดู ตอบสนองได้
ถูกต้องเหมาะสม

4. เตรยี มเรือ่ งที่พดู เรื่องทีพ่ ูดคอื หวั ใจของการพดู
เมื่อก้าหนดหวั ข้อเรือ่ งทจ่ี ะพดู แลว้ ควรนา้ มาวิเคราะห์หา
องคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เรยี งตามล้าดบั หัวขอ้ สา้ คญั หัวข้อหลกั
หัวข้อรอง แลว้ ศึกษารายละเอียดตามหัวขอ้ ทก่ี ้าหนด

5. เตรียมวิธกี ารพดู ได้แก่ การกา้ หนดว่าจะพดู
แบบใด เชน่ ใช้รูปแบบการบรรยาย การตังประเด็น การ
ถาม-ตอบ แบบสาธิต แบบเลา่ เรอ่ื ง วธิ พี ดู จะตอ้ งสัมพันธ์
กบั เนือหาและกลมุ่ ผู้ฟังเป็นส้าคญั

6. เตรยี มบทพดู นา้ เนือหาท่มี คี วามพร้อมและ
สมบรู ณแ์ ลว้ มาทา้ ความเข้าใจ เรียบเรยี งเปน็ บทพูดพรอ้ มที่
จะน้าไปใช้พูด เพราะหากไม่เตรยี มบทพูด ผู้พดู จะพูดสับสน
วกวน ทงั ท่ีมีความรเู้ ปน็ อยา่ งดี

7. เตรยี มอปุ กรณแ์ ละสอื่ ประกอบการพดู การ
เตรยี มส่ือในการพดู ผู้พูดต้องจัดเตรียมดว้ ยตนเอง เชน่
การท้า PowerPoint ประกอบการพูด สื่อจะเปน็ ตัวช่วย
ในการพดู ให้เกดิ ประโยชน์อย่างยง่ิ ตรวจสอบไมโครโฟน
เคร่ืองเสยี ง ให้พร้อมในการใช้งาน


Click to View FlipBook Version