รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21101
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1
เรื่อง กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช
นางสกุ ัญญา เรอื งสวัสดิ์
ครูผสู้ อน
โรงเรยี นเทศบาลวดั โพธ์ิ
สงั กดั เทศบาลเมอื งชลบรุ ี จังหวดั ชลบรุ ี
การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื
พืชเปน็ สง่ิ มีชวี ติ ทสี่ ามารถสรา้ งอาหารไดเ้ อง และเปน็ แหลง่ อาหารที่
สาคัญของสงิ่ มีชวี ิตชนดิ อนื่ ทีไ่ มส่ ามารถสรา้ งอาหารได้เอง กระบวนการ
สรา้ งอาหารของพืช เรยี กวา่ กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ซ่ึงมี น้า
และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เปน็ วตั ถุดบิ มีแสงแสะคลอโรฟลิ ลช์ ว่ ยทาให้
ไดผ้ ลติ ภัณฑ์ คือ นา้ ตาล นา้ และแก๊สออกซเิ จน
การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช
กระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง (Photosynthesis) คอื
กระบวนการสรา้ งอาหารของพืชโดยใชค้ ลอโรฟลิ ล์ ทาหนา้ ที่ดดู กลนื
พลงั งานแสงอาทติ ยม์ าใชใ้ นการสรา้ งสารประกอบคาร์โบไฮเดรต โดย
การนาเอานา้ และแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์มาทาปฏิกริ ิยาเคมีกนั โดยมี
แสงเปน็ พลงั งานกระตุน้ ใหเ้ กดิ ปฏกิ ริ ยิ า ผลผลิตที่ได้คอื นา้ ตาลกลโู คส
ซ่ึงนา้ ตาลสว่ นหน่งึ จะนาไปสงั เคราะห์เปน็ สารอนื่ เกบ็ สะสมไว้ และยงั ได้
ไอน้า และแก๊สออกซเิ จน ซ่งึ พืชจะปลอ่ ยออกสสู่ ิ่งแวดลอ้ ม สาหรบั แก๊ส
ออกซเิ จนจะเปน็ แกส๊ ที่สงิ่ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ นาไปใชใ้ นกระบวนการหายใจ
การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืช
ขอ้ ควรทราบ
กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงเปน็ กระบวนการสร้างอาหารของพืชสเี ขยี ว
แตใ่ นใบพชื ทีม่ สี อี น่ื เช่น สแี ดง สเี หลอื ง เชน่ ใบโสนหรอื ใบฤาษผี สม ก็มี
คลอโรฟลิ ลอ์ ยู่ แต่เนอ่ื งจากมปี รมิ าณคลอโรฟลิ ล์นอ้ ยจงึ ทาใหม้ องเหน็ สเี ขยี วไดไ้ ม่
ชดั เจน แต่ใบพืชเหลา่ น้ยี งั สามารถสรา้ งอาหารไดเ้ ช่นกัน
แหล่งท่เี กดิ การสังเคราะหด์ ้วยแสง
การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงเกิดขน้ึ ได้ทุกสว่ นของตน้ พืชท่ีมสี ีเขียว
โดยมีใบเปน็ สว่ นทท่ี าหน้าทีน่ โี้ ดยตรง ตามปกตใิ บของพชื จะกางออกให้
ไดร้ ับแสงสว่างเต็มทแ่ี ละกา้ นใบมักจะมกี ารบดิ ตัวตามการเคลอื่ นท่ขี อง
ดวงอาทิตย์ เพือ่ ให้ใบไดร้ บั แสงแดดอยเู่ สมอ ผวิ ดา้ นบนสว่ นทร่ี บั แสง
เรยี กวา่ หลงั ใบ สว่ นผิวด้านลา่ งทีไ่ ม่ได้รบั แสงเรยี กวา่ ทอ้ งใบ ทาง
ด้านหลงั ใบมกั มสี ีเขียวเขม้ และผวิ เรยี บกวา่ ทางดา้ นท้องใบ แตเ่ ส้นใบ
ทางดา้ นทอ้ งใบจะนนู ออกมาเหน็ ไดช้ ดั เจนกวา่
แหล่งทเ่ี กดิ การสังเคราะหด์ ้วยแสง
ส่วนประกอบของใบ
การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชนน้ั เกิดขนึ้ ไดเ้ ฉพาะชว่ งเวลาท่มี แี สง ซึ่ง
กระบวนการนจ้ี ะเกิดในออรแ์ กเนลล์ของพชื ทเี่ รยี กวา่ “คลอโรพลาสต”์
องค์ประกอบทส่ี าคัญ
ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
1. คลอโรฟลิ ล์ (Chlorophyll)
คลอโรฟลิ ล์เปน็ รงควตั ถทุ ่มี สี เี ขยี ว มแี มกนีเซยี มเปน็ องคป์ ระกอบที่สาคญั อยู่
ภายในเมด็ คลอโรพลาสต์ มสี มบัตใิ นการดดู พลงั งานจากแสงสวา่ งเปลย่ี นเปน็
พลงั งานเคมใี นรปู ของนา้ ตาลกลโู คส
2. แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ (Carbondioxide)
เป็นวตั ถดุ บิ ท่สี าคญั ในการสรา้ งอาหารของพชื ซ่ึงไดจ้ ากอากาศท่ีแพร่าเขา้ สใู่ บ
ทางปากใบ
3. แสง (Light)
เปน็ แหลง่ พลงั งานสาหรบั การเกดิ กระบวนการสรา้ งอาหารในพชื ซง่ึ พชื ตา่ ง
ชนดิ กนั ก็มคี วามตอ้ งการแสงในปรมิ าณทแี่ ตกตา่ งกัน
องค์ประกอบทส่ี าคัญ
ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
4. นา้ (Water)
รากพชื ทาหนา้ ทด่ี ดู ซมึ น้าโดยกระบวนการออสโมซิสจากดนิ ลาเลียงไปตามทอ่
ลาเลียงน้า (xylem) ข้ึนไปทใ่ี บ เพ่อื นาไปใชใ้ นกระบวนการสร้างอาหารอาหารของพชื
ผลผลิตจาก
กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง
พืชใช้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ และน้า เป็นวตั ถดุ บิ โดยมคี ลอโรฟลิ ลแ์ ละ
แสงช่วยทาให้เกดิ ปฏกิ ิรยิ า ซ่งึ จะไดผ้ ลติ ภณั ฑ์ คอื น้าตาลกลโู คส แก๊สออกซิเจนและ
นา้ ดงั สมการ
น้าตาลกลโู คสที่ไดจ้ ากกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ถกู เปลย่ี นเป็น
พลังงานดว้ ยกระบวนการหายใจ ซ่ึงจะนาไปใช้ในกิจกรรมตา่ งๆ หากมปี รมิ าณมาก
เกินไป พชื จะเปลี่ยนน้าตาลกลโู คสใหเ้ ปน็ แป้ง แลว้ นาไปเกบ็ สะสมไวต้ ามสว่ นตา่ งๆ
ของพชื เชน่ ราก ลาตน้ ใบ ผล เมล็ด
ผลผลติ จาก
กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
พชื เก็บสะสมอาหารไวใ้ นรปู ของแปง้ และนา้ ตาลไวต้ ามส่วนต่างๆ ของตน้ พชื ดงั น้ี
ราก สะสมในรปู แปง้ และนา้ ตาล เช่น แครอท หัวผกั กาด
ลาต้น สะสมในรปู นา้ ตาลแปง้ เชน่ อ้อย มันฝร่ัง
ผล สะสมในรปู นา้ ตาล เชน่ มงั คดุ ทเุ รียน
ใบ สะสมในรปู นา้ ตาลและแปง้ เชน่ ผักบุง้ ผกั คะนา้
เมลด็ สะสมในรปู น้าตาล เช่น ข้าวโพด ถ่วั ลสิ ง
ปัจจัยทม่ี ผี ลต่อการสงั เคราะห์ด้วยแสง
1. แสงและความเขม้ ของแสง
เมื่อความเขม้ ของแสงสงู ขน้ึ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื จะมากขนึ้ ตามไป
ด้วย แต่ถ้าความเขม้ ของแสงมากเกินไปจะทาให้เนอ้ื เยอื่ ของพชื เกิดอนั ตรายจนไม่
สามารถสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงได้ และแสงสมี ว่ งมผี ลตอ่ การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงมากทีส่ ดุ
แสงสีเขยี วมผี ลตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงนอ้ ยทสี่ ดุ
ปัจจัยทมี่ ผี ลต่อการสงั เคราะหด์ ้วยแสง
2. น้า
เป็นวตั ถดุ บิ ในการสังเคราะห์ดว้ ยแสง หากพืชขาดน้า อัตราการสังเคราะห์
ด้วยแสงจะลดลง เนื่องจากปากใบปดิ ทาให้ปรมิ าณแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ขา้ สปู่ าก
ใบของพชื นอ้ ยลง
ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การสังเคราะหด์ ้วยแสง
3. ความเขม้ ข้นของแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์
แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ เปน็ วตั ถดุ บิ ในการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง ในอากาศมี
แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดป์ ระมาณ 0.04% และถา้ เพมิ่ ความเขม้ ของแกส๊
คารบ์ อนไดออกไซดอ์ ตั ราการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงกจ็ ะสงู ขนึ้
ปรมิ าณแกส๊ ออกซเิ จนลดลงจะ
ทาใหอ้ ตั ราการสังเคราะหด์ ว้ ย
แสงเพมิ่ ขน้ึ
ปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
4. แร่ธาตขุ องพชื
แร่ธาตบุ างชนดิ ท่จี าเปน็ ตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง มีดังน้ี
- ธาตแุ มกนีเซยี มและธาตไุ นโตรเจน เปน็ ธาตอุ งคป์ ระกอบของคลอโรฟลิ ล์
และถา้ ขาดแร่ธาตนุ จ้ี ะทาให้ใบพชื เหลอื งซีด
- ธาตเุ หล็ก จาเปน็ ตอ่ การสรา้ งคลอโรฟลิ ล์
- ธาตุแมงกานีสและธาตคุ ลอรนี จาเปน็ ตอ่ การแตกตวั ของนา้ ในปฏกิ ริ ยิ าการ
สงั เคราะห์ดว้ ยแสง
ปัจจยั ทมี่ ผี ลตอ่ การสังเคราะห์ด้วยแสง
5. อณุ หภมู ิ
อุณหภมู ิ มผี ลตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง คือ เม่ืออณุ หภมู สิ งู ขนึ้ ทาให้อตั รา
การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงสงู ขน้ึ เนอ่ื งจากทาใหป้ ฏิกริ ยิ าเคมเี กดิ ไดเ้ ร็วขนึ้ แต่ขอ้ เสยี คือ
การเพม่ิ อณุ หภมู สิ ูงอาจทาใหเ้ อนไซมใ์ นพชื เสอื่ มสภาพไปได้
ปจั จัยทม่ี ีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสง
6. อายุของใบ
อายขุ องใบตอ้ งไมอ่ อ่ นหรอื แกเ่ กินไป เพราะในใบออ่ นคลอโรฟลิ ล์ยังเจรญิ ไม่
เตม็ ที่ สว่ นใบท่แี ก่มากๆ คลอโรฟลิ ล์จะสลายตวั ไปเปน็ จานวนมาก ทาให้สงั เคราะห์
แสงไดน้ ้อยลง
ความสาคญั ของกระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง
ของพชื ทมี่ ีต่อสง่ิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม
1. เป็นแหลง่ อาหารทีส่ าคญั พชื สีเขยี วสามารถสงั เคราะหด์ ้วยแสง สร้าง
เป็นอาหารประเภทนา้ ตาลและแปง้ ซง่ึ ส่ิงมชี วี ติ อนื่ ๆ สามารถนาไปใช้
ประโยชนเ์ ปน็ พลงั งานสาคญั ของสง่ิ มชี วี ติ ทีก่ ินพืชเปน็ อาหาร
ความสาคญั ของกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
ของพืชทม่ี ีต่อส่ิงมชี วี ิตและสง่ิ แวดลอ้ ม
2. เปน็ แหลง่ ผลติ แกส๊ ออกซเิ จนและลดปริมาณแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แกส๊
ออกซเิ จนเปน็ ผลผลติ จากกระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง ซงึ่ พชื สเี ขยี วสามารถเกิด
กระบวนการนี้ แกส๊ ออกซิเจนน้ีสง่ิ มชี ีวิตทกุ ชนิดใชใ้ นกระบวนการหายใจเพอื่ ใหไ้ ด้
พลงั งานมาดารงชีวิตตอ่ ไป แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ วตั ถดุ บิ ในกระบวนการ
สังเคราะห์ดว้ ยแสง เมื่อมพี ชื มากก็จะใชป้ ริมาณแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดม์ ากทาใหแ้ กส๊
คารบ์ อนไดออกไซดล์ ดลงตามไปดว้ ย ซ่งึ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดเ์ ปน็ สาเหตสุ าคญั ท่ี
ทาให้เกิดปรากฎการณ์ภาวะเรอื นกระจกสง่ ผลใหโ้ ลกรอ้ นขนึ้ ดว้ ย
แลว้ พบกันใหมใ่ นบทเรียนตอ่ ไปนะคะ