วชิ าวทิ ยาศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การพยากรณ์อากาศ เลม่ ท่ี 6
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
ผสู้ อน
เมอื่ นกั เรียนศกึ ษาเรื่อง การพยากรณอ์ ากาศ นกั เรยี นสามารถ
1. อธบิ ายความหมายของการพยากรณ์อากาศและ
การแบ่งระยะเวลาในการพยากรณอ์ ากาศได้
2. สืบคน้ และวิเคราะห์วิธกี ารในการพยากรณ์
อากาศแบบตา่ งๆได้
3.สบื ค้นและวเิ คราะห์ขอ้ มลู ต่างๆ
จากการพยากรณ์อากาศได้
4. บอกประโยชน์และความสาคญั ของการ
พยากรณ์
อากาศในดา้ นตา่ งๆได้
การพยากรณอ์ ากาศ
ความกดอากาศตา่ (Low Pressure Area)
หมายถึง บรเิ วณทม่ี คี วามกดอากาศตา่ เมอื่ เทย่ี บกับบริเวณใกล้เคยี ง
ในระดับเดียวกัน กบั มีลมลมพดั เวียนเข้าหาศนู ยก์ ลางคลา้ ยกับกน้ หอยใน
ทิศทางทวนเขม็ นาฬกิ าในซกี โลกเหนือ ทอ้ งฟ้ามเี มฆมาก ถา้ หากมีความ
กดอากาศตา่ มาก จะเปน็ พายดุ ีเปรสชนั่ และอาจพัฒนาข้ึนเป็นพายุโซน
ร้อน หรอื พายใุ ตฝ้ ุ่น
รูปที่ 1 ร่องความกดอากาศต่า
ทม่ี า : http://tairgle.egat.
co.th/index.
ความกดอากาศสงู (High Pressure Area)
หมายถึง บริเวณทม่ี ีความกดอากาศสงู กว่าบรเิ วณข้างเคยี ง
ทอ้ งฟ้าแจ่มใส และความหนาวเยน็ กระแสลมจะพัดเวยี นออกจาก
ศูนยก์ ลางในทศิ ทางทางเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือ อิทธพิ ลของ
ความกดอากาศสูงจากประเทศจีน ทาใหอ้ ากาศประเทศไทยมอี ากาศ
หนาวเย็นในช่วงฤดหู นาว
รอ่ งมรสุม (Monsoon Trough)
มลี ักษณะเปน็ แนวพาดขวางในทศิ ตะวนั ออก-ตะวันตก ในร่องความ
กดอากาศต่าหรือรอ่ งมรสมุ เป็นบรเิ วณท่มี ีความกดอากาศต่า มีกระแส
อากาศไหลข้ึน-ลงสลับกัน รอ่ งความกดอากาศต่าหรือร่องมรสุมจะอยู่ในเขต
รอ้ นใกลๆ้ เสน้ ศนู ย์สตู ร โดยมกี ระแสลมพัดจากบรเิ วณความกดอากาศสงู ท่ี
อยูท่ างซกี โลกเหนอื และซกี โลกใต้เขา้ สรู่ อ่ งน้ี มกี ารขน้ึ ลงตามแนวโคจรของ
ดวงอาทติ ย์ ความกว้างประมาณ 6-8 องศาละตจิ ดู เปน็ บรเิ วณทม่ี ีเมฆมาก
และฝนตกอย่างหนาแน่น
รูปท่ี 2 รอ่ งมรสมุ
ท่มี า : http://earthscience.ipst.ac.th
พายุหมุนเขตรอ้ น
พายหุ มุนเขตร้อน เป็นระบบพายุทหี่ มุนอยา่ งรวดเรว็ มลี กั ษณะ
ไดแ้ ก่ ศนู ย์กลางความกดอากาศต่าการไหลเวยี นของบรรยากาศระดับต่า
แบบปดิ ลมกระโชกแรง และการจดั เรียงของพายฟุ า้ คะนองแบบก้นหอย
ซ่ึงให้เกดิ ฝนตกหนกั พายหุ มนุ เขตร้อนมีชอ่ื เรยี กหลายชอื่ ขึ้นอยกู่ ับ
ตาแหนง่ บนโลกและกาลงั เชน่ เฮอริเคน ไต้ฝนุ่ พายหุ มนุ เขตรอ้ น พายุ
ไซโคลน ดีเปรสชนั เขตร้อน หรือเรยี กเพยี งพายหุ มุนเฮอรเิ คนเปน็ พายุ
หมุนเขตร้อนทีเ่ กดิ ในมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมทุ รแปซฟิ ิก
ตะวันออกเฉียงเหนือ และไตฝ้ ุน่ เกิดในมหาสมทุ รแปซิฟิกตะวันตกเฉยี ง
เหนือ ส่วนในมหาสมุทรแปซฟิ ิกใต้หรอื มหาสมุทรอนิ เดยี พายุขนาด
เทา่ ๆ กันเรยี กเพียง "พายุหมนุ เขตร้อน" หรือ "พายุหมุนกาลงั แรง "
รูปท่ี 3พายุหมุนเขตร้อน
ท่ีมา : http://earthscience.ipst.ac.th
การแบง่ กาลงั ของพายตุ ามความเรว็ ของลมใกล้ศูนยก์ ลาง
1. พายุดเี ปรสชน่ั (Tropical Depression) มี
ความเรว็ ลมไม่เกนิ 33 นอต (61 กม./ชม.)
2. พายโุ ซนร้อน (Tropical Storm) มีความเร็วลม
34 - 63 นอต (62 - 117 กม./ชม.)
3. พายุไตฝ้ ่นุ (Typhoon) มีความเรว็ ลม 64 นอตขน้ึ
ไป (118 กม./ชม.ขนึ้ ไป)
ร่องความกดอากาศตา่
เมอ่ื พจิ ารณาจากแผนท่คี วามกดอากาศเทา่ คอื บรเิ วณหรอื
แนวทอ่ี ยู่ระหวา่ งความกดอากาศสงู ของทง้ั สองซีกโลกเปรียบไดก้ ับ
แนวร่องเขาทท่ี อดตวั อย่รู ะหวา่ งเขาสูง แนวรอ่ งความกดอากาศตา่ น้ี
จะวางตัวคอ่ นข้างจะเป็นตะวันตก-ตะวนั ออก เช่น พาดจากประเทศ
อินเดีย ผ่าน บงั คลาเทศ พมา่ ไทย ลาว ทะเลจีน ไปยังมหาสมุทร
แปซฟิ ิก ปกตมิ ักลากเชอื่ มระหวา่ งหย่อมความกดอากาศตา่ ความแรง
ของร่องขนึ้ อยูก่ บั ความแคบหรือถูกบีบจากบริเวณความกดอากาศสงู
จากสองซกี โลก
รูปท่ี 4 ร่องความกดอากาศตา่
ท่มี า : https://www.fisheries.go.th/mf-
emdec/mainweb/km_html/km_wind.html
การเคลื่อนทีข่ องแนวรอ่ งความกดอากาศต่า จะเลื่อนข้นึ และเล่ือน
ลงตามแรงดันของบรเิ วณความกดอากาศสูงจากทัง้ สองซีกโลก ซงึ่ ปกตเิ ลือ่ น
จากใต้ข้ึนเหนอื ในชว่ งต้นฤดูฝนจากอิทธิพลของบรเิ วณความกดอากาสสูงจาก
ซีกโลกใต้ทแ่ี รงข้ึน และจะเลือ่ นจากเหนือลงใต้ในปลายฤดูฝน
จากร่องความกดอากาศต่า อาจมไี ด้สองร่องเม่อื มีความกดอากาศสงู
จากมหาสมทุ รแปซิฟิกเข้ามาแทรก โดยตัวรอ่ งหลกั จะพาดตัง้ อยู่บริเวณ
ประเทศจีนตอนใต้ และรอ่ งที่สองจะพาดอยู่กบั ประเทศไทย มักจะมีกาลังไม่
คอ่ ยแรงโดยวางตวั จากฝงั่ ประเทศอินเดยี ผา่ นอ่าวเบงกอล ประเทศไทยไป
ยังชายฝัง่ ประเทศเวียดนาม
ลักษณะทีพ่ บในแผนท่อี ากาศ คือ เสน้ คูท่ ่รี ากเชื่อมระหว่างหย่อม
ความกดอากาศตา่ ระยะห่างของเสน้ คขู่ นานไมไ่ ด้กาหนดข้ึนไวเ้ ป็นการ
เฉพาะอย่างชดั เจน ขน้ึ อย่กู ับความเหมาะสมตามสเกลของแผนที่นน้ั ๆ ปกติ
จะหา่ งกันประมาณ 2 ละติจูด
วิธพี ยากรณอ์ ากาศ
การพยากรณ์อากาศมี 3 วิธี
1. วธิ แี นวโนม้ เปน็ การพยากรณ์อากาศโดยใชท้ ศิ ทางและความเรว็ ในการ
เคลื่อนท่ขี องระบบลมฟา้ อากาศที่กาลงั เกิดขึ้น เพอ่ื คาดหมายวา่ ในอนาคตระบบ
ดังกลา่ วจะเคล่ือนทไ่ี ปอยู่ ณ ตาแหน่งใด วธิ นี ีใ้ ช้ได้ดีกบั ระบบลมฟ้าอากาศที่ไมม่ ี
การเปล่ยี นความเร็ว ทิศทาง และความรุนแรง มักใช้วธิ นี ้ีสาหรบั การพยากรณ์ฝน
ในระยะเวลาไม่เกินครง่ึ ช่ัวโมง
2. วธิ ภี มู อิ ากาศ คือการคาดหมายโดยใชค้ า่ เฉล่ียจากสถิตภมู อิ ากาศหลายๆ
ปี วิธีนใี้ ช้ได้ดเี มอ่ื ลักษณะของลมฟ้าอากาศมสี ภาพใกลเ้ คียงกับสภาวะปกติของช่วง
ฤดกู าลนัน้ ๆ มกั ใช้สาหรับการพยากรณร์ ะยะยาว
3. การพยากรณอ์ ากาศดว้ ยคอมพวิ เตอร์
เป็นการใช้คอมพิวเตอรค์ านวณการเปลยี่ นแปลง
ของตัวแปรท่เี กีย่ วข้อง กับสภาวะของลมฟ้าอากาศ โดย
ใช้แบบจาลองเชงิ ตวั เลข (Numerical model) ซึ่งเปน็
การจาลองบรรยากาศและพืน้ โลก ดว้ ยสมการทาง
คณิตศาสตร์ทล่ี ะเอียดอ่อนและซับซอ้ น ข้อจากดั ของวิธี
นีค้ ือแบบจาลอง ไมม่ ีรายละเอยี ดครบถ้วนเหมอื น
ธรรมชาตจิ รงิ ในทางปฏบิ ัติ นกั พยากรณ์อากาศมกั ใช้
วธิ กี ารพยากรณ์อากาศหลายวธิ รี ว่ มกันตามความเหมาะสม
เพื่อให้ได้ผลการพยากรณ์ที่ถูกตอ้ งแมน่ ยาทส่ี ดุ เท่าที่จะทาได้
ความผดิ พลาดในการพยากรณอ์ ากาศ
แมว้ ่าในปัจจบุ นั การพยากรณ์อากาศจะก้าวหนา้ ไปอยา่ งรวดเร็ว แตก่ าร
พยากรณ์อากาศให้ถูกต้องสมบูรณ์โดยไมม่ ีความผดิ พลาดนั้นเปน็ สง่ิ ทีไ่ มอ่ าจกระทา
ได้ สาเหตสุ าคัญสามประการของความผดิ พลาดในการพยากรณอ์ ากาศ ได้แก่
1. ความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ
ทางอุตุนิยมวทิ ยายังไมส่ มบูรณ์
2. บรรยากาศเป็นส่งิ ท่ี
ต่อเน่อื งและมกี ารเปลย่ี นแปลงอยู่
ตลอดเวลา แตส่ ถานตี รวจอากาศมี
จานวนน้อยและอยู่หา่ งกนั มาก
รวมทัง้ ทาการตรวจเพียงบางเวลา
เทา่ น้ัน เชน่ ทกุ 3 ชั่วโมง ทาให้ไม่
อาจทราบสภาวะทีแ่ ทจ้ ริงของ
บรรยากาศได้ เมือ่ ไม่ทราบสภาวะ
อากาศที่กาลังเกิดขน้ึ อยา่ งสมบรู ณ์
จึงเปน็ ไปไม่ไดท้ ่จี ะพยากรณ์อากาศ
ให้มรี ายละเอยี ดครบถว้ นถกู ต้อง
ความผดิ พลาดในการพยากรณอ์ ากาศ (ตอ่ )
3. ธรรมชาตขิ องกระบวนการท่ีเกิดข้นึ ในบรรยากาศ มคี วามละเอียดอ่อน
ซับซอ้ นอยา่ งย่ิง ปรากฏการณ์ซ่ึงมีขนาดเล็กหรือเกิดข้นึ ในระยะสนั้ ๆ และไม่อาจ
ตรวจพบได้จากการตรวจอากาศ อาจทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพลมฟ้า
อากาศเป็นอย่างมากในระยะเวลาตอ่ มา ซ่งึ จะทาใหผ้ ลการพยากรณอ์ ากาศ
ผดิ พลาดไปได้อยา่ งมาก สาเหตุประการสุดทา้ ยนีเ้ ปน็ ข้อจากัดอย่างยิ่งในการ
พยากรณอ์ ากาศ เพราะเป็นเหตุใหก้ ารพยากรณ์อากาศจะมคี วามถูกต้องลดลงตาม
ระยะเวลา นนั่ คอื การพยากรณ์สาหรับช่วงเวลาที่ส้ันจะมคี วามถูกตอ้ งมากกว่าการ
พยากรณ์สาหรบั ช่วงเวลาท่ีนานกวา่ การพยากรณอ์ ากาศบรเิ วณเขตร้อนของโลก
เช่น ประเทศไทย จะยากกวา่ การพยากรณใ์ นเขตอบอุ่นและเขตหนาวเนือ่ งจากจาก
เหตผุ ลหลัก 3 ประการ
1. ความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั อตุ ุนยิ มวิทยา
เขตรอ้ นยงั ไม่กา้ วหน้าทดั เทียมกับอุตนุ ิยมวทิ ยาใน
เขตละตจิ ดู สงู เพราะการศึกษาวิจัยเก่ยี วกับ
อุตุนยิ มวทิ ยาในเขตร้อนมนี อ้ ยกวา่ มาก
2. สถานตี รวจอากาศในเขตร้อนมจี านวนน้อย
กวา่ ในเขตอบอุ่นและเขตหนาวทาให้ผลการตรวจ
อากาศมนี อ้ ยกวา่
3. ลมฟา้ อากาศในบริเวณละติจดู สงู ส่วนมากเป็น
ระบบขนาดใหญ่ ซง่ึ เกดิ จากมวลอากาศท่ีแตกตา่ งกนั มาพบ
กนั ทาใหต้ รวจพบได้โดยง่าย เชน่ ฝนทเี่ กดิ จากแนวปะทะ
อากาศมคี วามยาวมากกว่า 1,000 กโิ ลเมตร ในขณะท่ี
ระบบลมฟา้ อากาศในเขตรอ้ นส่วนมากมขี นาดเล็ก เพราะ
ไม่ได้เกิดจากความแตกต่างของมวลอากาศ เช่น ฝนทต่ี ก
เปน็ บริเวณแคบๆ
การพยากรณ์อากาศอาจเป็นการคาดหมายสาหรับชว่ งเวลาไม่กีช่ ่ัวโมง
ข้างหนา้ จนถึงการคาดหมายส่งิ ที่จะเกิดข้นึ ในอีกหลายปีจากปจั จุบนั สามารถ
แบ่งชนดิ ของการพยากรณอ์ ากาศตามระยะเวลาทีค่ าดหมาย ไดด้ ังน้ี
การพยากรณ์ปจั จบุ ัน (nowcast)
หมายถึง การรายงานสภาวะอากาศทเี่ กดิ ข้นึ ในปัจจบุ นั และการ
คาดหมายสภาพลมฟ้าอากาศสาหรบั ช่วงเวลาไมเ่ กิน 2 ช่ัวโมง
การพยากรณ์ระยะสน้ั มาก
คือ การพยากรณ์สาหรบั ชว่ งเวลาไมเ่ กนิ 12 ชัว่ โมง
การพยากรณอ์ ากาศระยะปานกลาง
คือ การพยากรณ์สาหรับช่วงเวลาทีเ่ กินกวา่ 3 วันข้นึ ไปจนถงึ 10 วนั
การพยากรณ์ระยะยาว
คือ การพยากรณ์สาหรบั ช่วงเวลาระหวา่ ง 10 ถึง 30 วัน โดยปกตมิ กั
เปน็ การพยากรณ์วา่ ค่าเฉลีย่ ของตัวแปรทางอุตนุ ยิ มวทิ ยาในช่วงเวลานนั้
การพยากรณ์ระยะนาน
การพยากรณร์ ะยะนาน คือ การพยากรณ์ตง้ั แต่ 30 วนั จนถึง 2 ปี ซ่ึงยงั
แบ่งยอ่ ยออกเปน็ 3 ชนดิ คือ
1. การคาดหมายรายเดอื น คือ การคาดหมายว่าคา่ เฉลี่ยของตวั แปรทาง
อตุ นุ ยิ มวิทยาในชว่ งนน้ั จะเบ่ียงเบนไปจากค่าเฉลี่ยทางภูมกิ าศอยา่ งไร
2. การคาดหมายรายสามเดอื น คือ การคาดหมายคา่ ว่าเฉลย่ี ของตัวแปร
ทางอตุ ุนยิ มวทิ ยาในชว่ งนัน้ จะเบ่ียงเบนไปจากค่าเฉล่ียทางภูมิอากาศอยา่ งไร
3. การคาดหมายรายฤดู คอื การพยากรณค์ า่ เฉล่ยี ของฤดนู ัน้ วา่ จะ
แตกตา่ งไปจากค่าเฉล่ยี ทางภูมอิ ากาศอย่างไร
การพยากรณ์ภมู อิ ากาศ คอื การพยากรณส์ าหรบั ชว่ งเวลามากกวา่ 2 ปี
ขึน้ ไป โดยแบง่ เป็น
- การพยากรณ์การผันแปรของภูมิอากาศ คอื การพยากรณ์ที่เก่ยี วขอ้ ง
กับการผนั แปรไปจากคา่ ปกตเิ ปน็ รายปีจนถึงหลายสิบปี
- การพยากรณ์ภูมอิ ากาศ คอื การพยากรณส์ ภาพภมู อิ ากาศในอนาคต
โดยพจิ ารณาท้ัง สาเหตุจากธรรมชาติและจากการกระทาของมนษุ ย์
การตรวจอากาศ
ขอ้ มลู อุตุนยิ มวิทยาท่ีตรวจวัดเพอ่ื การพยากรณอ์ ากาศ ได้แก่ ตวั แปรทม่ี ี
ความสัมพนั ธ์โดยตรงกบั ลกั ษณะอากาศท่ีเกดิ ขนึ้ ในแต่ละวัน ซง่ึ สถานีอุตุนิยมวทิ ยา
แตล่ ะแห่งจะต้องติดตงั้ อุปกรณท์ าการตรวจวัด ดงั นี้
1. ความกดอากาศ ตรวจวดั ดว้ ยบารอมิเตอร์ (Barometer)
2. ลม ตรวจวดั ดว้ ยเคร่อื งวดั ทศิ ทางลม (Wind vane) และเครื่องวดั
ความเรว็ ลม (Anemometer)
3. อุณหภูมิอากาศ ตรวจวดั ดว้ ยเทอรม์ อมเิ ตอรช์ นิดสงู สดุ ต่าสดุ (Max-min
thermometer)
4. ความช้ืนสมั พทั ธ์ ตรวจวัดด้วยไฮโกรมเิ ตอร์ชนิดกระเปาะเปยี กกระเปาะ
แหง้ (Wet dry bulb hygrometer)
5. ชนิดและปรมิ าณเมฆที่ปกคลุมท้องฟ้า ตรวจวดั ด้วยสายตา เรดาร์ และ
ดาวเทียม
6. หยาดนา้ ฟา้ ตรวจวดั ดว้ ยอุปกรณว์ ดั ปรมิ าณนา้ ฝน
7. ทศั นวสิ ัย ตรวจวัดดว้ ยสายตา
รปู ที่ 5 เครือขา่ ยตรวจอากาศ
ท่ีมา : https://www.hydro-1.net/Data
เคร่ืองมอื ตรวจอากาศผวิ พื้น
สถานอี ตุ นุ ยิ มวทิ ยาแต่ละแห่งจะติดต้ังอปุ กรณ์ตรวจวดั อากาศผิวพื้น
ตามที่กล่าวมาแล้วขา้ งต้น โดยจะทาการตรวจวดั อากาศตามเวลาทีก่ าหนด
ไว้ในแตล่ ะวนั ซง่ึ จะมเี วลาหลกั ของการตรวจวัด คอื 07.00 น. (00.00
UTC) และเวลา 19.00 น. (12.00 UTC) โดยในระหว่างเวลาหลักเหล่านี้
อาจมกี ารตรวจวัดเพิ่มเติมได้ตามที่กาหนดไว้เพอ่ื ความเหมาะสม
รปู ที่ 6 เครอื ขา่ ยตรวจอากาศ
ทมี่ า : https://star591.wordpress.com
เครอ่ื งมอื ตรวจอากาศชน้ั บน
เนื่องจากการเปลีย่ นแปลงของลักษณะอากาศบนพนื้ ผวิ มีความ
เก่ยี วพนั กบั การเปล่ยี นแปลงของบรรยากาศชั้นบนของโทรโพสเฟยี ร์ โดยใช้
บอลลูนตดิ ตั้งอปุ กรณต์ รวจอากาศซ่งึ ได้กล่าวมาแล้วในเบ้อื งตน้ และขอ้ มูล
ซ่ึงรายงานโดยนกั บิน ได้แก่ ทศั นวสิ ัย อณุ หภมู ิ ทิศทางและความเร็วลม
ปริมาณและชนดิ เมฆ
รูปท่ี 7 เครือ่ งมอื ตรวจอากาศชนั้ บน
ทม่ี า : http://119.46.166.126/self_all/selfaccess7
เครือ่ งมือตรวจอากาศพิเศษ
เปน็ เครอ่ื งมือทีใ่ ช้สาหรบั ตรวจวัดปรากฏการณห์ รอื ลักษณะอากาศท่ี
เกดิ ขึ้นเพอ่ื ชว่ ยเสรมิ ในการวิเคราะหพ์ ยากรณ์อากาศ ได้แก่ เรดารต์ รวจ
อากาศ และดาวเทียมอุตุนยิ มวทิ ยา
ท้ังนี้ ข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากเคร่อื งมือตรวจอากาศท้งั บนพื้นดนิ พ้นื น้า ใน
อากาศและอวกาศ จะถูกนามาใชป้ ระโยชน์รว่ มกันในการพยากรณอ์ ากาศ ใน
ระบบเครอื ขา่ ย
รูปที่ 8 เครอ่ื งมอื ตรวจอากาศพิเศษ
ทมี่ า : http://tairgle.egat.co.th/index.
แผนท่อี ากาศ
แผนทีอ่ ากาศ เปน็ แผนทแี่ สดงองคป์ ระกอบทาง
อุตนุ ยิ มวทิ ยา ณ เวลาใดเวลาหนง่ึ ข้อมลู ต่างๆ ในแผนท่ี
อากาศไดร้ บั มาจากเครือขา่ ยสถานีตรวจอากาศผิวพืน้
ทงั้ หลาย รวบรวมแล้วเขียนขนึ้ เปน็ ตวั เลข รหสั และ
สัญลกั ษณต์ ่างๆ ทางอุตุนิยมวิทยา ข้อมลู ท่อี ยใู่ นแผนท่ี
อากาศจะนาไปใชใ้ นการคาดหมายการเปล่ยี นแปลงลักษณะ
อากาศทีจ่ ะเกิดขนึ้
รูปที่ 9 แผนที่อากาศ
ท่มี า : http://www.lesa.biz/earth/atmosphere/weather-forcasting
ตัวอยา่ งสัญลกั ษณ์ทางอตุ นุ ิยมวิทยาบนแผนทอี่ ากาศ ได้แก่
L ศนู ย์กลางของหย่อมความกดอากาศต่า เปน็ บริเวณทอ่ี ากาศ
รอ้ นยกตวั ทาใหเ้ กิดเมฆ
H ศูนย์กลางของหย่อมความกดอากาศสูง เปน็ บรเิ วณท่ีอากาศ
เย็นแหง้ แลว้ ฟา้ ใส ไม่มีเมฆปกคลมุ
เสน้ ไอโซบาร์ (Isobar)
เปน็ เส้นโคง้ ท่ีลากเชอื่ มต่อบริเวณทมี่ คี วามกดอากาศเทา่ กัน มตี วั เลข
แสดงค่าความกดอากาศซึง่ มหี นว่ ยเปน็ เฮคโตปาสคาล (hPa) กากับไว้
แนวปะทะอากาศ (Front) เส้นอาร์คหนาทบึ สีแดงมเี ครอื่ งหมายวงกลม คือ
แนวปะทะอากาศร้อน เส้นอาร์คหนาทึบสีนา้ เงนิ มลี ิม่ สามเหล่ียม คือ แนวปะทะ
อากาศเยน็ เม่ือแนวปะทะท้งั สองชนกันจะทาใหเ้ กดิ ฝนตก
ขอ้ มลู จากสถานตี รวจอากาศภาคพน้ื แสดงโดยสัญลักษณ์ซ่งึ อธิบายได้ ดังนี้
- วงกลม แสดงปริมาณเมฆปกคลุมเหนอื สถานี สีขาว: ไม่มเี มฆ สีดา: เมฆมาก
- ลูกศร แสดงทิศทางลมทพ่ี ัดเข้าหาสถานี ขีดฉากท่ปี ลายลกู ศรแสดง
ความเร็วลม ขีดย่ิงมาก ลมย่งิ แรง
- ความกดอากาศทีร่ ะดบั น้าทะเล แสดงด้วยตัวเลขขวามือดา้ นบน เป็นตวั เลข
สามหลัก หมายถงึ ตัวเลขท้ายสองหลกั และทศนิยมหนง่ึ หลัก (107 หมายถงึ
1010.7 hPa)
- แนวโนม้ ของความกดอากาศเปรยี บเทียบกับ
3 ชวั่ โมงทแี่ ล้ว แสดงด้วยตวั เลขทางด้านขวามือ
มหี นว่ ยเปน็ hPa ค่า + หมายถึงความกดอากาศ
สูงขนึ้ , คา่ - หมายถงึ ความกดอากาศตา่ ลง
- อุณหภูมิจุดน้าคา้ ง แสดงดว้ ยตวั เลขขวามอื ดา้ นลา่ ง
- ลักษณะอากาศ แสดงด้วยสัญลกั ษณอ์ ุตนุ ยิ ม
วิทยาทางดา้ นขวามือ
- อณุ หภมู ิอากาศ แสดงดว้ ยตวั เลขดา้ นซ้ายบน
รปู ที่ 10 สญั ลักษณแ์ สดงขอ้ มลู ทสี่ ถานีตรวจอากาศผวิ พื้น
ทม่ี า : http://www.lesa.biz/earth/atmosphere/weather-
forcasting/weather-data/weather-chart
1. ใช้วางแผนพฒั นาประเทศท้งั ทางด้านเศรษฐกจิ และสงั คมการคา้ ขาย
สนิ คา้ ท้งั ภายในและต่างประเทศ
2. ใช้วางแผนการใชท้ ดี่ ิน เพือ่ ประโยชน์ต่างๆ เช่น เพื่อการเกษตร
เพอ่ื การอุตสาหกรรม
3. ใชว้ างแผนเพ่ิมผลผลติ และลดความสูญเสยี ของผลผลิตทางการเกษตร
4. ใชว้ างแผนพฒั นาแหลง่ น้า เพอ่ื การชลประทาน
5. ใชว้ างแผนการท่องเทีย่ ว การพกั ผอ่ น และสาธารณสขุ
6. ใช้วางแผน่ การพัฒนาการป้องกนั และลดความสญู เสยี จากภยั พบิ ตั ิ เช่น อทุ กภยั
วาตภัย ภยั แล้ง แผ่นดนิ ไหว อบุ ัติเหตุทางบก ทางน้า และทางอากาศ
7. ใช้วางแผนพฒั นาการขนสง่ และความปลอดภัยในการขนสง่ ทง้ั ทางบก
ทางน้า ทางอากาศ
ตวั อย่างการวิเคราะห์เนื้อหาการพยากรณ์อากาศ
พยากรณอ์ ากาศประจาวนั ประจาวันที่ 4 ธนั วาคม 2555
ลักษณะอากาศท่ัวไปเมือ่ เวลา 04:00 น.
บริเวณความกดอากาศสงู ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทาให้
บริเวณดงั กล่าวมอี ากาศหนาวเยน็ กับมีหมอกบางในตอนเช้า สาหรบั มรสมุ
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือทีพ่ ดั ปกคลมุ อ่าวไทยและภาคใต้มีกาลังคอ่ นข้างแรง
และหย่อมความกดอากาศต่าปกคลุมบริเวณชายฝงั่ ประเทศมาเลเซยี ลกั ษณะ
เช่นนีท้ าให้ภาคใต้ตอนลา่ งมฝี นตกหนักบางแหง่ ส่วนคลืน่ ลมในอ่าวไทย
ตงั้ แตจ่ งั หวัดสุราษฎร์ธานีลงไปสงู 2-3 เมตร ชาวเรือควรระมัดระวงั อันตราย
ในการเดินเรอื ในระยะนี้ไว้ด้วย
สรุปขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการพยากรณ์อากาศ
ขอ้ ความทเี่ ปน็ สภาพอากาศปจั จบุ ัน
1. บริเวณความกดอากาศสงู ยังคงปกคลุมประเทศไทย
ตอนบน
2. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนอื ท่ีพดั ปกคลมุ อา่ วไทยและ
ภาคใตม้ กี าลังคอ่ นขา้ งแรง และหยอ่ มความกดอากาศต่าปกคลมุ
บรเิ วณชายฝั่งประเทศมาเลเซยี
ขอ้ ความทเ่ี ปน็ คาพยากรณ์
1. ทาใหป้ ระเทศไทยตอนบนมอี ากาศหนาวเย็นกบั มีหมอก
บางในตอนเชา้
2. ลักษณะเช่นนีท้ าให้คลน่ื ลมในอ่าวไทยต้งั แตจ่ ังหวดั สุ
ราษฎรธ์ านลี งไปสงู 2-3 เมตร
องคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศ 2. อากาศหนาวเย็น
1. ความกดอากาศสูง 4. มรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนอื
3. หมอก 6. คลืน่ สูง 2-3 เมตร
5. ฝนตกหนัก
แปลความหมายจากคาพยากรณอ์ ากาศ
ข้อมลู ทเี่ ปน็ คาพยากรณอ์ ากาศ
1. ทาให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเยน็ กบั มีหมอกบาง
ในตอนเช้า
2. ลักษณะเชน่ นี้ทาใหภ้ าคใต้ตอนลา่ งมฝี นตกหนักบางแหง่
3. ลักษณะเชน่ น้ที าใหค้ ลน่ื ลมในอา่ วไทยตัง้ แตจ่ ังหวดั สุราษฎร์
ธานีลงไปสูง 2-3 เมตร
แปลความหมาย
1. ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น และมีหมอกบางๆใน
ตอนเชา้
2. ภาคใตต้ อนลา่ งมฝี นตกหนกั บางแหง่
3. อ่าวไทยต้งั แต่จังหวัดสรุ าษฎร์ธานลี งไปสงู 2-3 เมตร
กจิ กรรมที่ 1
เรอื่ ง การพยากรณอ์ ากาศทาไดอ้ ยา่ งไร
จดุ ประสงค์
รวบรวมข้อมลู และวเิ คราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่างองคป์ ระกอบลมฟ้าอากาศ
เพื่อพยากรณอ์ ากาศอย่างงา่ ย
วัสดอุ ปุ กรณ์
กระดาษกราฟ
วธิ ที ากจิ กรรม
1. รวบรวมข้อมูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศย้อนหลังเป็นเวลา 6 วนั จากแหล่งขอ้ มูล
ตา่ งๆ เชน่ เวบ็ ไซต์กรมอตุ ุนิยมวิทยา และเวบ็ ไซต์อืน่ ๆ
2. นาข้อมลู ที่รวบรวมได้ตั้งแต่วนั ท่ี 1-6 มาจัดกระทาในรปู แบบตา่ งๆ เช่น กราฟเส้น
แผนภมู ิแท่ง ตาราง และรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสม โดยอาจใช้โปรแกรม
สาเรจ็ รูปต่างๆ
3. วเิ คราะห์แนวโน้มการเปลย่ี นแปลงและความสมั พนั ธ์ขององค์ประกอบลมฟ้าอากาศ
จากขอ้ มูลทไ่ี ด้จัดกระทา เพอื่ สรา้ งคาพยากรณ์อากาศในวนั ถดั ไป โดยพยากรณ์
อุณหภูมอิ ากาศต่าสุด อณุ หภูมิอากาศสงู สุด และปรมิ าณฝน จากนั้นนาเสนอผลการ
พยากรณ์อากาศต่อชน้ั เรียน
4. ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาพยากรณ์อากาศกับสง่ิ ที่เกดิ ขน้ึ จริงในวนั ที่ 7 โดย
เปรยี บเทียบการพยากรณอ์ ณุ หภูมิอากาศต่าสุด อณุ หภมู อิ ากาศสูงสุด และปริมาณฝน
กับขอ้ มูลลมฟา้ อากาศท่ีสืบคน้ เพิ่มเติมจากแหลง่ ขอ้ มลู เดยี วกัน จากนน้ั อภิปรายรว่ มกัน
ในชน้ั เรียนเก่ียวกับปัจจยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ความแม่นยาของการพยากรณ์อากาศ
ชื่อ – สกุล ....................................................................ชน้ั ................เลขที่............
บนั ทึกผลการทากิจกรรม
สรุปผล
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
........................................................................................................................
คาถามหลงั จากทากิจกรรม
1. กิจกรรมนมี้ ีข้ันตอนในการพยากรณอ์ ากาศอยา่ งไร
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
2. จากกิจกรรมนี้ เหตใุ ดจงึ ตอ้ งเก็บรวบรวมข้อมลู องค์ประกอบลมฟา้ อากาศ 6 วนั
เพื่อใชใ้ นการพยากรณ์อากาศ
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
3. คาพยากรณ์ อุณหภูมิอากาศสงู สุด อณุ หภมู ิอากาศตา่ สุด และปรมิ าณฝน ตรงกบั
ขอ้ เท็จจรงิ ทเี่ กดิ ขนึ้ หรือไม่ อย่างไร
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
.............................................................................................................................
กิจกรรมที่ 2
เร่ือง คาพยากรณอ์ ากาศมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
จดุ ประสงค์
วิเคราะหแ์ ละแปลความหมายคาพยากรณอ์ ากาศเพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์
อยา่ งงา่ ย
วสั ดอุ ปุ กรณ์
1. คาพยากรณ์อากาศประจาวนั รายเดือน และรายสามเดอื น
2. คาพยากรณอ์ ากาศเพือ่ การเดนิ เรือ
3. คาพยากรณอ์ ากาศเพ่อื การเกษตร
วิธที ากจิ กรรม
1. วเิ คราะหข์ ้อมลู คาพยากรณ์อากาศประจาวัน รายเดือน และรายสามเดอื น คา
พยากรณ์อากาศเพื่อการเดนิ เรอื และคาพยากรณ์อากาศเพือ่ การเกษตร โดย
ร่วมกันอภปิ รายในกลมุ่ เพ่อื ระบขุ อ้ มูลองคป์ ระกอบลมฟา้ อากาศ และแปล
ความหมายจากคาพยากรณ์
2. แตล่ ะกลุม่ เลือกบทบาทสมมติเป็นกลมุ่ คนท่มี ีอาชีพตา่ งๆ เช่น ชาวสวน เจา้ ของ
รีสอร์ท ผ้วู า่ ราชการจังหวดั ซ่งึ อาศยั อยใู่ นพ้ืนท่ีเดยี วกนั และพืน้ ทน่ี น้ั อย่ใู น
ภาวะแหง้ แลง้
3. วเิ คราะหค์ าพยากรณ์วา่ มผี ลกระทบตอ่ สถานการณข์ องพื้นท่ีและอาชีพของ
ตนเองอย่างไร และนาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาจากมุมมองของแต่ละอาชพี
เพอ่ื หาข้อสรปุ ร่วมกันนาเสนอโดยแสดงบทบาทสมมติ
4. อภปิ รายรว่ มกนั ในช้นั เรียนเพอื่ หาขอ้ สรุปเกีย่ วกบั ประโยชน์ของคาพยากรณ์
อากาศ
ช่อื – สกุล ....................................................................ช้นั ................เลขท่ี............
บนั ทกึ ผลการทากจิ กรรม
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
................................................................................................................................
........................................................................
สรุปผล
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
คาถามหลังจากทากจิ กรรม
คาพยากรณอ์ ากาศบอกขอ้ มลู อะไรบา้ ง
......................................................................................................................
......................................................................................................................
......................................................................................................................
กจิ กรรมที่ 3
เร่ืองทบทวนความรเู้ กยี่ วกบั การพยากรณอ์ ากาศ
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
1. เขยี นเครื่องหมาย √ หนา้ ขอ้ ทเ่ี ปน็ องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ
อณุ หภูมิอากาศ
ความกดอากาศ
ความช้ืน
ปริมาณฝุ่น
2. การทส่ี ถานีอตุ นุ ยิ มวิทยามีการใช้เครือ่ งมือตรวจวดั องค์ประกอบลมฟา้ อากาศ
จดั ว่าอยู่ในขน้ั ตอนใดของการพยากรณอ์ ากาศ
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
3. บุคคลกล่มุ ใดทีค่ วรติดตามขา่ วสารการพยากรณอ์ ากาศอยา่ งสม่าเสมอ เพราะ
เหตใุ ด
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
ช่อื – สกุล ....................................................................ชั้น................เลขที่............
กจิ กรรมท่ี 1
เรื่อง การพยากรณอ์ ากาศทาไดอ้ ยา่ งไร
จุดประสงค์
รวบรวมขอ้ มลู และวิเคราะห์ความสมั พันธร์ ะหวา่ งองคป์ ระกอบลมฟ้าอากาศ
เพื่อพยากรณอ์ ากาศอย่างงา่ ย
วัสดอุ ปุ กรณ์
กระดาษกราฟ
วิธที ากจิ กรรม
1. รวบรวมขอ้ มลู องค์ประกอบลมฟ้าอากาศยอ้ นหลงั เปน็ เวลา 6 วัน จากแหล่งขอ้ มูล
ต่างๆ เชน่ เวบ็ ไซต์กรมอตุ นุ ยิ มวทิ ยา และเว็บไซต์อ่ืนๆ
2. นาขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ตั้งแตว่ นั ท่ี 1-6 มาจัดกระทาในรูปแบบต่างๆ เช่น กราฟเสน้
แผนภูมแิ ทง่ ตาราง และรูปแบบอน่ื ๆ ตามความเหมาะสม โดยอาจใช้โปรแกรม
สาเรจ็ รปู ต่างๆ
3. วเิ คราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและความสมั พนั ธ์ขององคป์ ระกอบลมฟา้ อากาศ
จากขอ้ มลู ท่ไี ดจ้ ัดกระทา เพ่อื สรา้ งคาพยากรณอ์ ากาศในวันถดั ไป โดยพยากรณ์
อณุ หภมู อิ ากาศตา่ สุด อุณหภูมิอากาศสงู สดุ และปริมาณฝน จากนน้ั นาเสนอผลการ
พยากรณอ์ ากาศตอ่ ชั้นเรียน
4. ตรวจสอบความถกู ต้องของคาพยากรณอ์ ากาศกบั สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ จริงในวนั ที่ 7 โดย
เปรียบเทยี บการพยากรณ์อุณหภูมิอากาศต่าสดุ อุณหภูมอิ ากาศสูงสดุ และปรมิ าณฝน
กับขอ้ มลู ลมฟ้าอากาศทสี่ ืบค้นเพิม่ เติมจากแหลง่ ข้อมลู เดียวกัน จากน้นั อภปิ รายร่วมกัน
ในชนั้ เรียนเกย่ี วกบั ปจั จัยทส่ี ่งผลต่อความแม่นยาของการพยากรณอ์ ากาศ
ชื่อ – สกุล ....................................................................ชัน้ ................เลขท่ี............
บันทกึ ผลการทากจิ กรรม
ตัวอยา่ งท่ี 1
ขอ้ มลู สภาพลมฟา้ อากาศทสี่ บื ค้นได้ ในพทน้ ทห่ี น่งึ ระหว่างวันท่ี
23 ก.พ. – 1 ม.ี ค. 2560 แสดงดังตาราง
วันท่ี อุณหภมู ากาศ อุณหภมู สิ งู สดุ ปรมิ าณ หมายเหตุ
(oC) (oC) ฝน
1/3/60 (mm)
28/2/60 สงู สุด ตา่ สุด ทิศทาง ความเรว็
27/2/60 (มุมทศิ ) (km/hr)
26/2/60
25/2/60 26.6 36.5 120 7.4 0 ทอ้ งฟา้ มเี มฆเลก็ นอ้ ย-สว่ นมาก
24/2/60 26.2 35.8 0 ทอ้ งฟ้ามเี มฆบางส่วน
23/2/60 90 20.4 0 ทอ้ งฟ้ามเี มฆบางสว่ น
27.0 35.0 120 7.4
26.8 34.3 240 7.4 0 ทอ้ งฟ้ามเี มฆเล็กนอ้ ย-ส่วนมาก
27.3 34.8 120 13.0 0 ท้องฟ้ามเี มฆเลก็ น้อย-สว่ นมาก
27.2 35.0 150 9.3 0 ท้องฟา้ มเี มฆเล็กน้อย-ส่วนมาก
27.0 35.8 140 9.3 0 ท้องฟ้ามีเมฆเล็กนอ้ ย-ปานกลาง
บันทึกผลการทากจิ กรรม
การวิเคราะห์
-ขอ้ มูลอุณหภมู ติ ่าสุด ย้อนหลงั 6 วนั พบวา่ อณุ หภมู ิมีแนวโน้มเปลีย่ นแปลงลด
ต่าลงก่อนทจี่ ะเพิ่มขน้ึ
-ขอ้ มูลอณุ หภมู ิสูงสุด ย้อนหลัง 6 วัน พบวา่ อณุ หภมู มิ แี นวโนม้ เปล่ยี นแปลงลด
ตา่ ลงกอ่ นท่ีจะเพ่ิมข้นึ
-ปรมิ าณนา้ ฝนพบว่าตลอดช่วง 6 วันทปี่ า่ นมาไม่มกี ารเกิดฝนตก ข้อมลู ความเรว็
ลมพบวา่ ลมมีความเร็วเพิ่มขน้ึ สูงก่อนลดลง
ดังนั้นในวนั ที่ 2 มนี าคม คาดวา่ อุณหภูมิอากาศตา่ สดุ และสงู สดุ ของวันจะมี
คา่ เพม่ิ ขึน้ เปน็ 27 และ 37 องศาเซลเซยี สตามลาดบั และจะไม่มฝี นตกในวนั นนั้
ข้อมลู จรงิ
สภาพอากาศพื้นท่ีเดยี วกนั ของวนั ท่ี 2 ม.ี ค.2560
-อณุ หภมู ิสูงสุด : 35.2 องศาเซลเซยี ส
-อณุ หภมู ิตา่ สุด : 26.0 องศาเซลเซียส
-ปรมิ าณนา้ ฝน : ไม่มฝี น
สรุปผล
................................................................................................................................
................ค..า..พ....ย..า..ก..ร...ณ...์อ...า..ก..า..ศ...ม..ีป...ร..ะ..โ..ย..ช...น..ต์...อ่ ..ก...า..ร..ด..า...เ.น..ิน...ช...ีว..ติ ..ข...อ..ง..ม...น..ุษ...ย...์ ..............
.....ม..น...ุษ...ย..ส์..า...ม..า..ร..ถ...ใ..ช..้ค...า..พ...ย...า..ก..ร..ณ....์อ..า..ก...า..ศ....เ.พ...อ่ื...ว..า..ง..แ...ผ...น..ก...า..ร..ด..า..เ..น..นิ...ช..วี...ิต.................
..........ชพ....ีว..ร..ิต..้อ....แ..ม....ลก....ะับ....ท..ร....รบั......พัม....อื..ย....ป์ส....นิ..อ้ ....ไง....ดก....้..นั ....เ....ห....ต......กุ....า....ร......ณ......์ท........อี่ ....า....จ....ก......อ่ ....ใ....ห......้เ..ก......ดิ ....ผ......ล....เ....ส....ีย....ห......ร....ือ......อ....ัน......ต....ร......า....ย....ต......อ่ ..............
................................................................................................................................
................................................................................................................................
........................................................................................................................
คาถามหลังจากทากิจกรรม
1. กิจกรรมนม้ี ีขนั้ ตอนในการพยากรณอ์ ากาศอยา่ งไร
................ร..ว..บ...ร..ว..ม..ข..อ้ ..ม..ูล..จ...า.ก..ก...า.ร..ต...ร..ว..จ..ว..ดั..อ..ณุ....ห..ภ..ูม...อิ ..า..ก..า..ศ..ส..ูง..ส..ุด..แ...ล..ะ.ต...่า..ส..ุด...................
......ค..ว..า..ม...เ.ร..็ว..ล..ม...แ...ล..ะ..ป..ร..ิม..า..ณ...น...า้ ..ฝ..น...จ...า.ก..น...ั้น..ว..เิ.ค...ร..า..ะ.ห..แ์...น..ว..โ..น..ม้..ว..า่..ส..ภ..า..พ...อ..า..ก..า..ศ..จ...ะ.........
......เ.ป...็น..อ...ย..า่ ..ง..ไ.ร.......................................................................................................
2. จากกจิ กรรมน้ี เหตุใดจึงตอ้ งเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลองค์ประกอบลมฟ้าอากาศ 6 วนั
เพอ่ื ใช้ในการพยากรณ์อากาศ
................เ.พ...อื่...ใ.ห...ม้ ..ีข..อ้ ..ม..ูล...เ.พ...ยี ..ง..พ...อ..ท...่ีจ..ะ.ด...ูแ..น..ว..โ..น..ม้..ข..อ...ง.ส..ภ...า..พ..อ...า..ก..า..ศ...โ.ด...ย..ท...่ีล..กั ..ษ...ณ...ะ.......
......อ..า..ก..า..ศ...ย..งั ..ไ.ม..่ม...กี ..า..ร..เ.ป..ล..ีย่...น..แ...ป..ล..ง..ไ..ป..ม...า.ก..น...ัก...จ..งึ..ใ..ช..้ข..อ้..ม...ูล..ป..ร..ะ..ม..า..ณ....6....ว..ัน....................
.............................................................................................................................
3. คาพยากรณ์ อณุ หภูมิอากาศสูงสุด อุณหภูมอิ ากาศตา่ สุด และปริมาณฝน ตรงกับ
ขอ้ เท็จจริงท่เี กิดข้ึนหรอื ไม่ อยา่ งไร
.................ข.อ้...ม..ูล..จ..า..ก..ค..า..พ...ย..า..ก..ร..ณ....์แ..ล..ะ..ข..อ้ ..เ.ท...จ็ ..จ..ร..ิง..ม..ีแ...น..ว..โ..น..ม้..ใ..ก..ล...้เ.ค..ีย..ง..ก..ัน..แ...ต..่...............
.......ต..วั ..เ.ล..ข..อ..า..จ..ไ..ม..่ต...ร..ง..ก..ัน..........................................................................................
.............................................................................................................................
กิจกรรมที่ 2
เร่ือง คาพยากรณอ์ ากาศมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
จดุ ประสงค์
วิเคราะหแ์ ละแปลความหมายคาพยากรณอ์ ากาศเพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์
อยา่ งงา่ ย
วสั ดอุ ปุ กรณ์
1. คาพยากรณ์อากาศประจาวนั รายเดือน และรายสามเดอื น
2. คาพยากรณอ์ ากาศเพือ่ การเดนิ เรือ
3. คาพยากรณอ์ ากาศเพ่อื การเกษตร
วิธที ากจิ กรรม
1. วเิ คราะหข์ ้อมลู คาพยากรณ์อากาศประจาวัน รายเดือน และรายสามเดอื น คา
พยากรณ์อากาศเพื่อการเดนิ เรอื และคาพยากรณ์อากาศเพือ่ การเกษตร โดย
ร่วมกันอภปิ รายในกลมุ่ เพ่อื ระบขุ อ้ มูลองคป์ ระกอบลมฟา้ อากาศ และแปล
ความหมายจากคาพยากรณ์
2. แตล่ ะกลุม่ เลือกบทบาทสมมติเป็นกลมุ่ คนท่มี ีอาชีพตา่ งๆ เช่น ชาวสวน เจา้ ของ
รีสอร์ท ผ้วู า่ ราชการจังหวดั ซ่งึ อาศยั อยใู่ นพ้ืนท่ีเดยี วกนั และพืน้ ทน่ี น้ั อย่ใู น
ภาวะแหง้ แลง้
3. วเิ คราะหค์ าพยากรณ์วา่ มผี ลกระทบตอ่ สถานการณข์ องพื้นท่ีและอาชีพของ
ตนเองอย่างไร และนาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาจากมุมมองของแต่ละอาชพี
เพอ่ื หาข้อสรปุ ร่วมกันนาเสนอโดยแสดงบทบาทสมมติ
4. อภปิ รายรว่ มกนั ในช้นั เรียนเพอื่ หาขอ้ สรุปเกีย่ วกบั ประโยชน์ของคาพยากรณ์
อากาศ
ช่อื – สกุล ....................................................................ช้นั ................เลขท่ี............
บนั ทึกผลการทากจิ กรรม
นกั เรียนแสดงบทบาทสมมตติ ามบทบาททเี่ ลอื ก เช่น เลือกบทบาทสมมตเิ ปน็
ผ้วู ่าราชการจังหวัด จากการวิเคราะหค์ าพยากรณอ์ ากาศ รายเดอื น และรายสามเดือน
พบว่า ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นชว่ งฤดูร้อนกอ่ นเข้าฤดฝู น ทาให้บาง
พนื้ ที่ฝนอาจท้งิ ช่วงและเกิดภาวะแหง้ แล้ง รวมทง้ั บางช่วงอาจเกดิ พายฤุ ดูรอ้ นสรา้ ง
ความเสียหายแกบ่ า้ นเรือนประชาชน ดงั น้ัน จงั ควรเตรยี มแผนรบั มอื ดงั น้ี
1. ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ชาวบา้ นในพนื้ ที่ที่ทาการเกษตรเตรยี มเพาะปลกู พืชผล
ท่ไี มต่ อ้ งใช้น้ามาก หรือเตรยี มเกบ็ น้าในแหลง่ นา้ ใหเ้ พยี งพอ
2. เตรียมแผนรบั มอื พายุฤดรู ้อน เช่น เตรยี มงบประมาณการชว่ ยเหลอื ผู้คน
ในช่วงก่อน ระหวา่ ง และหลังการเกดิ เหตุการณ์
แสดงบทบาทสมมตใิ ห้สอดคล้องกบั บทบาทสมมตอิ ืน่ หากมขี อ้ เสนออนื่ ๆ
สรุปผล
..............ค..า..พ....ย..า..ก..ร...ณ...์อ...า..ก..า..ศ...ม..ปี...ร..ะ..โ..ย..ช..น...์ต...่อ..ก...า..ร..ด..า...เ.น..ิน...ช...วี ..ิต..ข...อ..ง..ม...น..ุษ...ย...์ .ม...น..ุษ...ย...์ ..
...ส..า..ม..า..ร...ถ..ใ..ช...ค้ ..า..พ....ย..า..ก..ร...ณ...์อ...า..ก..า..ศ....เ.พ....่อื ..ว..า..ง..แ...ผ...น...ก..า..ร..ด...า..เ.น...ิน..ช...ีว..ิต....พ...ร...อ้ ..ม...ก..บั ...........
...ร..ับ...ม..ือ..ป...อ้...ง..ก..ัน...เ.ห...ต...กุ ..า..ร..ณ....ท์ ...่ีอ...า..จ..ก..อ่...ใ..ห...เ้ .ก..ดิ...ผ..ล...เ.ส..ีย...ห..ร...ือ..อ...ัน..ต...ร..า..ย...ต..่อ...ช..ีว...ิต..แ...ล...ะ.......
...ท...ร..ัพ...ย...ส์ ..นิ...ไ.ด...้ .......................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
คาถามหลังจากทากิจกรรม
คาพยากรณ์อากาศบอกขอ้ มูลอะไรบา้ ง
............ค..า..พ...ย..า..ก..ร..ณ...์อ..า..ก..า..ศ..ม..ปี...ร..ะ..โ.ย..ช..น...์ต..่อ..ก..า..ร..ด..า..เ..น..นิ ..ช..วี..ิต...ข..อ..ง..ม..น..ุษ...ย..์..ม..น..ษุ...ย..์........
..ส..า.ม...า.ร...ถ..ใ..ช..ค้ ..า..พ...ย..า..ก..ร..ณ...์อ..า..ก..า..ศ....เ.พ...อื่ ..ว..า..ง..แ..ผ...น..ก..า..ร..ด..า..เ.น...นิ ..ช..วี..ิต....พ...ร..้อ..ม..ก..บั...ร..บั ..ม..อื.......
..ป..อ้..ง..ก..ัน...เ.ห..ต...ุก..า..ร..ณ...์ท...่อี ..า..จ..ก..อ่..ใ..ห...้เ.ก..ิด..ผ...ล..เ.ส..ีย..ห..ร..อื...อ..ัน..ต...ร..า..ย..ต..อ่..ช...วี ..ติ ..แ..ล...ะ.ท...ร..พั...ย..ส์..นิ...ไ.ด..้..
กจิ กรรมที่ 3
เร่อื งทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั การพยากรณอ์ ากาศ
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี
1. เขียนเครอื่ งหมาย √ หนา้ ขอ้ ท่ีเปน็ องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ
√ อุณหภมู อิ ากาศ
√ ความกดอากาศ
√ ความชื้น
ปรมิ าณฝุ่น
2. การทสี่ ถานอี ตุ ุนยิ มวิทยามกี ารใช้เครอ่ื งมือตรวจวัดองค์ประกอบลมฟ้าอากาศ
จดั ว่าอยใู่ นข้ันตอนใดของการพยากรณ์อากาศ
.......................................................................................................................................
................ข..น้ั...ต...อ..น...ท...ี่ .1....ก..า..ร..ต...ร..ว..จ...อ..า..ก...า..ศ.........................................................................
.......................................................................................................................................
3. บคุ คลกลุม่ ใดท่ีควรติดตามขา่ วสารการพยากรณอ์ ากาศอย่างสมา่ เสมอ
เพราะเหตใุ ด
.................ท...กุ...ค...น...ค...ว..ร...ต...ดิ ...ต...า..ม...ก..า...ร..พ....ย...า..ก..ร...ณ....อ์...า..ก...า..ศ...อ...ย...่า..ง..ส...ม...่า..เ.ส...ม...อ....เ.พ....ร...า..ะ..จ...ะ.ช...่ว...ย..ใ...ห...้ .....
....เ..ร..า...เ.ข..า้...ใ..จ...ส..ภ...า..พ....ล...ม...ฟ...้า..อ...า...ก..า...ศ..แ....ล..ะ..เ..ต...ร..ีย...ม...ต...วั ..ส...า..ห...ร...ับ...ก..า...ร..ด...า...ร..ง...ช..ีว...ิต...ใ..น...แ...ต...่ล...ะ..ว...นั ...ไ..ด..ด้...ี.
....ย...่งิ ..ข...ึ้น....ห...ร...อื ....บ...คุ ...ค...ล..ท....่ีท....า..อ...า..ช...พี ...เ..ก...ีย่ ..ว...ก..ับ...ก...า..ร...ค...ม..น...า...ค...ม..ท....า..ง...น...า้ ..แ...ล...ะ..ท....า..ง..อ...า...ก..า...ศ...............
....เ..ก..ษ....ต...ร..ก...ร...ร..ม....ก...า..ร...ป...ร...ะ..ม..ง....ก...า..ร...เ.ฝ...้า..ร...ะ..ว..งั....ภ...ัย...พ....ิบ..ตั...ิท....า..ง...ธ..ร...ร...ม..ช...า..ต...ิ..ท....้งั ..น...ี้เ.พ....่ือ...น...า..ข...้อ..ม...ลู...
....ไ..ป...ใ...ช...ใ้ ..น...ก...า..ร..ป....ร..ะ..ก...อ...บ..อ...า...ช..ีพ....ห...ร...ือ..ด...า...ร..ง...ช..วี...ิต...ใ..ห...ป้....ล..อ...ด...ภ...ยั ...................................................
ช่อื – สกลุ ....................................................................ชนั้ ................เลขท่ี............