The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบความรู้วิทย์ ม.1 เทอม1 เรื่อง หน่วยสิ่งมีชีวิต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 2217.sukanya, 2021-06-10 06:59:05

หน่วยของสิ่งมีชีวิต

ใบความรู้วิทย์ ม.1 เทอม1 เรื่อง หน่วยสิ่งมีชีวิต

หนว่ ยที่ 1 เรยี นรู้วทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งไร

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวทิ ย์ | 1 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

หนว่ ยที่ 3 หน่วยพนื้ ฐานของส่ิงมีชีวติ

บทที่ 1 : เซลล์
เซลลเ์ ป็นหนว่ ยเลก็ ท่ีสุดของพืชและของสิ่งมชี วี ติ เซลล์พืชจะมีอยทู่ กุ ส่วนของพชื มีการทํางานอยา่ ง

ซบั ซอ้ น มรี ปู ร่างหน้าท่แี ละส่วนประกอบแตกต่างกัน
เรือ่ งที่ 1 : การศึกษาเซลล์ด้วยกล้องจลุ ทรรศน์

© กลอ้ งจุลทรรศนแ์ บบใช้แสง
ในการศึกษาด้านเซลล์ซ่ึงเป็นการศกึ ษาส่ิงมชี ีวิตขนาดเลก็ ที่ไมส่ ามารถมองเหน็ ได้ดว้ ยตาเปล่า จงึ

จำเปน็ ต้องอาศยั กล้องจุลทรรศน์ ซง่ึ เปน็ เคร่ืองมือวทิ ยาศาสตร์ทีส่ าํ คัญ จงึ ควรเรียนรเู้ ก่ยี วกับ กล้องจลุ ทรรศน์
และวิธีใช้ท่ีถูกต้อง กล้องจุลทรรศนม์ หี ลายชนิด แตส่ ว่ นใหญท่ ีใ่ ชใ้ นการศึกษาเบ้ืองตน้ จะเปน็ กล้องจลุ ทรรศน์
แบบใชแ้ สง (Light microscope)

๏ ส่วนประกอบ

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวิทย์ | 2 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

หน้าทขี่ องแตล่ ะส่วน :

1) ลาํ กล้อง (Body tube) เปน็ สว่ นทีเ่ ชอ่ื มโยงอย่รู ะหวา่ งเลนสใ์ กล้ตากบั เลนส์ใกล้วตั ถุด้วย ป้องกนั
ไมใ่ ห้แสงจากภายนอกรบกวน

2) จานหมุน (Revolving nose piece) คือจานกลมหมุนได้ มเี ลนส์ใกลว้ ตั ถตุ ิดอยูเ่ พื่อหมุนเปลี่ยน
กําลังขยายของเลนสต์ ามความตอ้ งการ

3), 4), 5) เลนส์ใกล้วัตถุ (Objective lens) จะอยู่ติดกบั จานหมนุ (Revolving nose piece) ซง่ึ
จาน หมุนนี้ทาํ หน้าทใี่ นการเปล่ยี นกําลังขยายของเลนส์ใกล้วตั ถุ ตามปกติเลนสใ์ กล้วัตถุมีกําลังขยาย 3 - 4
ระดบั คือ 4x, 10x, 40x, 100x ภาพที่เกดิ จากเลนส์ใกลว้ ัตถเุ ป็นภาพจรงิ หัวกลับ กรณีที่ใช้เลนส์ใกลว้ ัตถุ
กําลังขยาย 100x ต้องใชน้ ํา้ มันเปน็ ตัวกลางระหว่างเลนสแ์ ละวตั ถจุ ึงจะเหน็ ภาพ

6) ที่หนบี สไลด์ (Slide clip) ใช้หนบี สไลด์ให้ตดิ อยูก่ ับแท่นวางวตั ถุ ในกลอ้ งรุ่นใหม่มี Mechanical
stage แทนเพ่อื ควบคุมการเลื่อนสไลดใ์ ห้สะดวกขึ้น

7) เลนสร์ วมแสง (Condenser) ทําหนา้ ที่รวมแสงใหเ้ ข้มขึ้นเพ่ือสง่ ไปยังวตั ถทุ ่ตี ้องการศกึ ษา

8) หลอดไฟ (Light) ทาํ หนา้ ที่ใหแ้ สงสว่าง

9) เลนสใ์ กลต้ า (Eye piece) เป็นเลนส์ที่อยบู่ นสดุ ของลาํ กลอ้ ง โดยทวั่ ไปมกี าํ ลังขยาย 10x หรือ
15x ทําหน้าทข่ี ยายภาพท่ไี ดจ้ ากเลนสใ์ กล้วตั ถุให้มีขนาดใหญ่ขนึ้ ทําใหเ้ กิดภาพทีต่ าผ้ศู กึ ษาสามารถมองเห็นได้
โดยภาพท่ไี ด้เป็นภาพเสมือนหัวกลบั

10) แขนกลอ้ ง (Arm) คือ ส่วนที่ทาํ หน้าทีย่ ดึ ระหวา่ งส่วนลํากลอ้ งกับฐาน เปน็ ตําแหนง่ ที่จบั เวลา
ยกกลอ้ ง

11) แทน่ วางสไลด์ (Speciment stage) เป็นแท่นที่วางแผน่ สไลด์ทีต่ ้องการศึกษา

12) ปมุ่ ปรับภาพหยาบ (Coarse adjustment) ทําหนา้ ท่ีปรบั ภาพโดยเปล่ยี นระยะโฟกัสของเลนส์
ใกล้วตั ถุ (เลอื่ นลํากลอ้ งหรือแท่นวางวตั ถขุ ้นึ ลง) เพือ่ ทําให้เห็นภาพชัดเจน (กําลงั ขยายต่ำกว่า 10 เท่าลงมา)

13) ปมุ่ ปรบั ภาพละเอียด (Fine adjustment) ทําหน้าท่ีปรับภาพ ทําให้ภาพท่ชี ัดเจนมากขึน้
กําลัง ขยายต้ังแต่ 40 เท่าขน้ึ ไป

14) ฐาน (Base) เปน็ ส่วนท่ใี ช้ในการตงั้ กล้อง ทาํ หน้าท่ีรบั น้ำหนกั ตัวกลอ้ งท้งั หมด

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวิทย์ | 3 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

วธิ กี ารใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์

1. วางกล้องให้ฐานอยู่บนพนื้ รองรบั ทเี่ รียบสม่ำเสมอ เพ่อื ให้กล้องจุลทรรศน์ตั้งในแนวตรง
2. หมุนเลนส์ใกล้วัตถุอันท่ีมกี ําลงั ขยายต่ำสุดมาอยู่ตรงกับลํากลอ้ ง
3. ปรับแสงสวา่ งใหผ้ า่ นชอ่ งของแทน่ วางวตั ถเุ ข้ากลอ้ งให้มากทส่ี ดุ เพ่ือจะได้เห็นวัตถุในแผ่นสไลด์ได้
มากท่สี ุด โดยปรบั กระจกเงาใตแ้ ทน่ วางวตั ถุ
4. นำสไลด์ท่จี ะศึกษาวางบนแทน่ วางวัตถุ ใหว้ ตั ถุอยู่กลางบริเวณท่ีแสงผา่ น แลว้ ค่อยๆ หมุน ป่มุ ปรับ
ภาพหยาบใหล้ าํ กล้องเลื่อนลงมาอยใู่ กล้วตั ถุทีจ่ ะศึกษามากที่สุด โดยระวังอย่าให้เลนสใ์ กล้วัตถสุ ัมผัสกับกระจก
ปดิ สไลด์
5. มองภาพเลนส์ใกล้ตาลงตามลาํ กล้อง จากน้ันหมุนปมุ่ ปรับภาพเรว็ หรอื ล้อเลื่อนอันใหญ่ เพ่อื ปรบั
ระยะระหว่างเลนสก์ บั วตั ถใุ ห้อยใู่ นระยะที่มองเห็นภาพได้ จากนัน้ จึงค่อยๆ หมนุ ปุ่มปรับภาพชา้ หรอื ล้อเลอ่ื น
อันเล็กเพอื่ ปรับใหไ้ ด้ภาพชัดเจนที่สดุ
6. ถ้าต้องการขยายภาพให้ใหญ่ขึน้ ใหห้ มุนแผ่นแป้นกลมท่ีติดเลนสใ์ กลว้ ัตถุ เพ่ือเปล่ยี นขนาดเลนส์
เมอื่ เลนส์ขนาดขยายสูงข้นึ เข้ามาอยู่ในตาํ แหนง่ ของเลนส์ขยายต่ำแลว้ เมื่อมองทางเลนสใ์ กล้ตาจะเห็นภาพ
รางๆ เมื่อหมุนปมุ่ ปรบั ภาพช้าเพียงเล็กน้อยจะทําใหม้ องเห็นภาพชดั เจนขนึ้

การระวังรักษากลอ้ งจลุ ทรรศน์ ในขณะท่ีใชก้ ลอ้ งจุลทรรศนต์ อ้ งปฏิบตั ิดังนี้

1. การยกกล้องจุลทรรศนต์ ้องใชท้ ้ังสองมอื ยกกล้อง โดยมือหน่ึงจบั ทีแ่ ขนกล้อง และอกี มือหนึ่งรองที่
ฐาน และยกกล้องในลกั ษณะต้ังตรง เพ่ือปอ้ งกันการเลอื่ นหลุดของเลนสใ์ กล้ตา

2. สไลดแ์ ละกระจกปิดสไลด์ต้องไม่เปียก เพราะอาจทาํ ให้แทน่ วางเกิดสนิม และทาํ ใหเ้ ลนสใ์ กล้วัตถุ
ชนิ้ เกิดราได้ และหากมีน้ำหกลงเปยี กกลอ้ งจลุ ทรรศนจ์ ะต้องรบี เช็ดกล้องทันที

3. ไมม่ องทีเ่ ลนส์ใกล้ตา ในขณะทห่ี มุนปุ่มเลื่อนเลนส์ใกลว้ ัตถลุ งตอ้ งมองนอกเลนสใ์ กลต้ า ดูการเลื่อน
ลงของเลนส์ใกลว้ ัตถเุ พื่อจะได้ไม่เล่ือนลงไปจนกระแทกแผน่ สไลดท์ ําใหเ้ ลนสแ์ ตกได้

4. ในการเช็ดเลนส์ทุกชนิด ใช้เฉพาะกระดาษเช็ดเลนสเ์ ทา่ น้ันและหา้ มใชม้ ือแตะเลนส์
5. การหาภาพต้องเรม่ิ ตน้ ด้วยเลนส์ใกล้วัตถุกําลงั ขยายต่ำสุดกอ่ นเสมอ เพราะปรับหาภาพสะดวก
ท่สี ุด
6. เม่ือใช้เลนส์ใกล้วตั ถทุ ี่มกี ําลงั ขยายสูง ถ้าจะปรบั ภาพให้ชัดเจน ให้หมนุ เฉพาะปุ่มปรบั ภาพละเอยี ด
เท่านนั้
7. เมอ่ื เลกิ ใช้กล้องแล้ว ใช้กระดาษเช็ดเลนส์ทําความสะอาดเลนส์ใกล้วัตถุ หมนุ ปุ่มปรบั ภาพเร็ว เล่ือน
เลนสใ์ กล้วตั ถใุ หห้ า่ งจากวัตถุ เอาแผ่นสไลด์ออกจากแทน่ วางวตั ถุ เลื่อนเลนส์ทีม่ เี ลนสใ์ กล้วัตถทุ ม่ี ีกําลงั ขยาย
ตำ่ สดุ เอาไว้ในตําแหน่งตรงกบั ช่องแสงผา่ นจากแท่นวางวัตถุ หรอื ในตําแหนง่ ที่ใชข้ ยายวตั ถุ จากน้ันเล่อื นเลนส์
ใกล้วตั ถใุ ห้ลงมาต่ำสุด ตงั้ กระจกเงาให้อยใู่ นแนวต้งั ฉากกับพืน้ แลว้ นาํ กล้องจลุ ทรรศนเ์ ก็บเข้ากล่องหรอื ตู้ ให้
เรยี บรอ้ ย

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ชา้ ง สอนวทิ ย์ | 4 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

เร่อื งท่ี 2 : โครงสรา้ งและหน้าท่ขี องเซลล์

ส่งิ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ ประกอบไปด้วยเซลล์ เซลลข์ องสิ่งมีชีวิตแต่ละชนดิ จะมลี กั ษณะและรูปร่างแตกตา่ ง
กนั ตามหน้าท่ี เพื่อใหเ้ หมาะสมกับการดาํ รงชวี ติ

เซลล์ของสิ่งมชี ีวติ เซลลเ์ ดยี ว มลี ักษณะท่ีสาํ คัญดังนี้

- รูปร่างและโครงสรา้ งไมซ่ บั ซ้อน

- ดําเนินกิจกรรมในการดํารงชวี ิตในเซลล์เดยี ว เช่น การหายใจ การสบื พันธ์ุ การกินอาหาร การย่อย
อาหาร และอน่ื ๆ ตวั อยา่ งสตั ว์เซลล์เดยี ว ไดแ้ ก่ ยูกลีนา อะมบี า พารามีเซียม

เซลล์ของส่งิ มชี ีวิตหลายเซลล์ เซลลข์ องสงิ่ มชี ีวติ หลายเซลลม์ ีลกั ษณะที่สําคัญดงั น้ี

- มีลักษณะรูปรา่ ง ขนาดแตกตา่ งกัน เพ่ือความเหมาะสมต่อการทําหนา้ ทเ่ี ฉพาะน้นั ๆ เชน่ เซลล์พืช
เซลลส์ ัตว์ เซลล์ประสาท เปน็ ตน้

จัดระบบเซลลส์ ่ิงมีชวี ิตจากหนว่ ยที่
“เล็กทีส่ ุดไปหาหน่วยทใ่ี หญ่ทีส่ ุด”

เซลล์ -----> เน้ือเยือ่ -----> อวัยวะ -----> ระบบอวัยวะ -----> สิ่งมีชีวิต

จากแผนภาพจะเหน็ ว่าร่างกายประกอบดว้ ยหน่วยยอ่ ย คือ เซลล์ ทาํ หนา้ ที่ต่างๆ กนั เซลลห์ ลายๆ
เซลล์ท่ที ําหน้าท่เี หมือนกันรวมกันเป็นเนื้อเย่ือ เนื้อเยอ่ื หลายๆ ชนิดทท่ี าํ หน้าท่ีอยา่ งเดยี วกันรวมเปน็ อวัยวะ
อวัยวะหลายๆ อวยั วะทําหน้าทร่ี ่วมกนั เปน็ ระบบอวัยวะ และระบบอวัยวะตา่ งๆ รวมกนั เปน็ รา่ งกายของ
สิง่ มชี วี ิตน่ันเอง

รปู ร่างของเซลลท์ ่ีสัมพนั ธ์กับหนา้ ท่ี

เซลลเ์ ม็ดเลือดแดง :
1. มีลกั ษณะกลมและแบน = เพื่อให้เคล่ือนที่ในหลอดเลือดไดง้ ่าย
2. มลี กั ษณะเวา้ กลางทั้งสองดา้ น = เพ่ือเพ่ิมพ้นื ท่ีในการลําเลยี ง

ออกซิเจน

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวิทย์ | 5 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

เซลล์สเปิรม์ : มหี าง = ชว่ ยในการเคลอ่ื นทไ่ี ปยังเซลล์ไข่ได้งา่ ยขน้ึ
เซลลป์ ระสาท : มีลกั ษณะเป็นกอ้ นกลมและมีแขนงเป็นเส้นยาว = เพอ่ื ชว่ ยใหส้ ่งกระแสประสาทไดด้ ขี น้ึ
และไกลข้ึน

เรยี งลาํ ดับตามความสาํ คัญ
ตามการจัดระบบของสิ่งมีชีวติ จากหนว่ ยที่ “เล็กทส่ี ดุ ไปหาใหญท่ ส่ี ุด”
เซลล์ประสาท -----> เนื้อเย่อื ประสาท -----> สมอง -----> ระบบอวัยวะ -----> มนุษย์
เซลลข์ องสิง่ มชี ีวิตโดยท่วั ไปถึงแม้จะมรี ูปร่างและขนาดแตกต่างกนั แต่มสี ว่ นประกอบที่เป็นโครงสรา้ ง
พน้ื ฐานท่ีคล้ายคลงึ กนั 3 ส่วน คอื
1. สว่ นท่หี ่อหมุ้ เซลล์ ได้แก่ เยอ่ื ห้มุ เซลล์ (cell membrane) และผนงั เซลล์ (cell wall)
2. นิวเคลยี ส (nucleus)
3. ไซโทพลาซึม (cytoplasm)

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวิทย์ | 6 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต
๏ เซลล์ (Cell)

เซลล์ คอื หน่วยย่อยพ้นื ฐานท่ีไมส่ ามารถมองเหน็ ได้ดว้ ยตาเปลา่ และเป็นหน่วยที่เล็กท่สี ุดของ
สง่ิ มชี ีวิต สง่ิ มีชวี ิตบางชนิดอาจจะประกอบขึ้นจากเซลลเ์ พียงเซลลเ์ ดยี ว จึงทาํ ใหม้ ขี นาดเลก็ และมีโครงสรา้ ง ไม่
ซับซ้อน แตส่ ิ่งมชี ีวิตบางชนดิ ก็อาจจะประกอบข้นึ จากเซลล์จาํ นวนมาก โดยมีโครงสรา้ งและหน้าท่ี แตกต่างกนั

ภาพโครงสรา้ งเซลล์พชื

ภาพโครงสรา้ งเซลล์สัตว์

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวทิ ย์ | 7 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

หนา้ ท่สี ว่ นประกอบของเซลล์

แวควิ โอล (Vacuole)

ลักษณะ : เปน็ ถงุ ขนาดใหญ่ท่พี บในเซลลพ์ ชื มเี ยอ่ื หุ้มเพยี งช้ันเดียว

หนา้ ที่ : เก็บของเหลว น้ำ สารอนิ ทรียแ์ ละอนินทรีย์ เชน่ น้ำตาล กรดอนิ ทรีย์

คลอโรพลาสต์ (Chloroplast)

ลักษณะ : พบเฉพาะในเซลล์พชื มสี เี ขียวเพราะมีพลาสตกิ ทสี่ ะสมรงควัตถุสเี ขียวอยู่ภายในนัน่ คอื
คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)

หนา้ ท่ี : ช่วยในการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื

ไมโทคอนเดรยี (Mitochondria)

ลักษณะ : มีขนาดใหญ่ มีรปู รา่ งยาว กลมรี

หน้าที่ : หายใจระดับเซลล์ (กระบวนการทนี่ ้ำตาลกลโู คสถกู เปล่ียนเปน็ ATP ซง่ึ เปน็ พลังงานที่เซลล์

นําไปใชใ้ นการทํากจิ กรรมต่างๆ)

ผนงั เซลล์ (Cell wall)

ลกั ษณะ : เปน็ ส่วนท่ีอย่ชู ั้นนอกสุดของเซลล์ จะพบในเซลลพ์ ชื แต่ไม่พบในเซลล์สัตว์ เปน็ โครงสร้างท่ี
กาํ หนดขอบเขต และมีรปู รา่ งของสิง่ มีชีวิต

หนา้ ที่ : เพิม่ ความแข็งแรง ค้ำจุนโครงสร้างของเซลล์ ทําใหเ้ ซลล์คงรูป และป้องกันการสูญเสียน้ำ
ของเซลลพ์ ชื

เยอ่ื หุ้มเซลล์ (Cell membrane)

ลักษณะ : ประกอบด้วยฟอสโฟลปิ ดิ (Phospholipid bilayer) และโปรตนี จาํ นวนมาก

หนา้ ท่ี : หอ่ หุ้มสว่ นที่เปน็ ของเหลวและออรแ์ กเนลลภ์ ายใน ทง้ั ยังเปน็ เนื้อเยือ่ เลือกผ่าน ควบคุมการ
เข้าออกของสารต่างๆ จากสง่ิ แวดลอ้ มเขา้ สเู่ ซลล์

นิวเคลียส (Nucleus)
ลกั ษณะ : มรี ูปรา่ งคอ่ นขา้ งกลม

หน้าท่ี : ควบคุมการทาํ งานของเซลล์ และการถา่ ยทอดพันธกุ รรมจากพ่อแม่ไปสู่ลกู หลาน

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ชา้ ง สอนวทิ ย์ | 8 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

ไซโทพลาสซึม (Cytoplasm)

ลกั ษณะ : เป็นของเหลวทอ่ี ยู่ภายในเซลล์ ประกอบดว้ ยออรแ์ กเนลล์ และสารประกอบต่างๆ เชน่
น้ำตาล โปรตีน ไขมัน

หนา้ ที่ : เปน็ แหลง่ สะสมอาหาร และเปน็ ที่อยขู่ องออร์แกเนลล์

รา่ งแหเอนโดพลาสซึม (Endoplasmic Reticulum)

ลักษณะ : กลมรี แบง่ ออกเป็นแบบผวิ เรียบและผิวขรขุ ระ แบบผิวเรยี บไมม่ ีไรโบโซม ขณะท่ีแบบผิว
ขรขุ ระจะมีไรโบโซมเกาะอยู่ โดยไรโบโซม (Ribosome) นีเ้ ป็นแหล่งสรา้ งโปรตนี

หน้าที่ : ส่งโปรตนี ออกไปยังนอกเซลล์ และสลายสารอาหารเพื่อใหพ้ ลงั งานแกเ่ ซลล์

ตารางเปรยี บเทียบลกั ษณะและหน้าที่ของส่วนประกอบเซลล์

ช่อื ส่วนประกอบ ลกั ษณะ หน้าท่ี
ผนงั เซลล์ อยู่ด้านนอกสุดของเซลล์พชื เพม่ิ ความเหนยี วและความแข็งแรงใหแ้ กเ่ ซลล์

และช่วยป้องกนั อันตรายให้แก่เซลล์

เยื่อหุ้มเซลล์ เปน็ เยอื่ บาง มีคณุ สมบัติเปน็ เยอ่ื เลอื ก ควบคุมผ่านเข้าและออกของสารและสารละลาย

ผา่ นประกอบดว้ ยลิพิดและโปรตีน ต่างๆ จากเซลล์

ไซโทพลาสซึม เป็นสารกึ่งเหลว ประกอบดว้ ยนา้ํ และ เป็นแหล่งสะสมสารต่างๆ และเปน็ ที่อยู่ของ
สารตา่ งๆ ออรแ์ กเนลล์

นวิ เคลียส รปู ร่างค่อนขา้ งกลม ควบคมุ การทาํ งานและกิจกรรมต่างๆ ของเซลล์

แวคิวโอล มีลักษณะเป็นถุง ทําหนา้ ท่เี ก็บสะสมน้ำและสารต่างๆ

ไมโทคอนเดรยี กลมรี สลายสารอาหารเพ่ือให้พลงั งานแก่เซลล์

คลอโรพลาสต์ กลมรี สรา้ งอาหารโดยการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ชา้ ง สอนวิทย์ | 9 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

เกรด็ วิทย์ พชิ ติ สอบ

1) เย่ือหุ้มเซลล์ หน้าท่ี หอ่ หุ้มโครงสร้างตา่ งๆ ของเซลล์และควบคมุ การเข้าออกของสาร
เย่ือหุ้ม = คลมุ ทกุ อย่าง

2) ไซโทพลาสซมึ หนา้ ที่ แหล่งท่ีอยู่ของออร์แกเนลล์
“ซมึ ” ได้แสดงว่า เปน็ ของเหลว

3) นวิ เคลยี ส หน้าที่ ควบคุมการทํางานของเซลล์
นวิ เคลียสอยูต่ รงกลาง แสดงวา่ เป็นศูนย์กลางควบคุมทุกอย่าง

4) แวควิ โอล หนา้ ท่ี เก็บสะสมน้ำ และสารต่างๆ
โอล (คนแก)่ แสดงวา่ ชอบเก็บสะสม

5) ไมโทคอนเดรีย หน้าท่ี สลายสารอาหารใหพ้ ลังงาน
6) ผนังเซลล์ หน้าท่ี เพ่มิ ความแข็งแรงใหเ้ ซลล์

ผนังตอ้ งหนา แสดงว่า ใหค้ วามแข็งแรง
7) คลอโรพลาสต์ หนา้ ที่ เกย่ี วกับการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง

คลอโรพลาสต์ = คลอโรฟลิ ล์ ทาํ หนา้ ทีเ่ หมือนกนั

เกรด็ วทิ ย์ พิชิตสอบ

เปรยี บ “เซลล”์ เป็น “เมอื ง”
ผนงั เซลล์ -----> เปรยี บเหมือน กาํ แพงเมือง
เยื่อหุม้ เซลล์ -----> เปรยี บเหมือน ตํารวจตรวจคนเขา้ เมือง
ไซโทพลาสซึม -----> เปรียบเหมือน บรเิ วณเมือง
นวิ เคลยี ส -----> เปรยี บเหมอื น เจา้ เมือง
คลอโรพลาสต์ -----> เปรยี บเหมือน โรงอาหาร
ไมโทคอนเดรยี -----> เปรียบเหมือน กระทรวงพลังงาน
แวควิ โอล -----> เปรยี บเหมือน โกดงั เก็บของ

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวิทย์ | 10 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต
เทียบความแตกตา่ ง และความเหมือนของเซลล์พืช และเซลลส์ ตั ว์

เซลล์พืช เซลล์สัตว์

ข้อแตกตา่ ง เหมอื นกนั ขอ้ แตกต่าง
ผนงั เซลล์ เยื่อห้มุ เซลล์ รูปร่างคอ่ นข้างกลม
คลอโรพลาสต์ นิวเคลยี ส
รปู ร่างเหล่ียม ไซโทพลาซมึ
ไมโทคอนเดรยี
แวคิวโอล

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวทิ ย์ | 11 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

บทท่ี 2 : การลาํ เลียงสารเข้า-ออกของเซลล์

ในการดํารงชวี ติ ของเซลล์ เซลลจ์ ําเปน็ ตอ้ งได้รบั แกส๊ ออกซิเจนและอาหารจากภายนอกเซลลเ์ ขา้ สู่
ภายในเซลล์ และกาํ จัดแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ และของเสียออกสู่ภายนอกเซลล์ ซง่ึ เซลล์จะมีกลไกตา่ ง ๆ ใน
การรับและกาํ จดั สารตา่ ง ๆ เหล่านน้ั

การดูดนำ้ และแรธ่ าตุของพืชโดยรากเกิดจากการออสโมซสิ ซึ่งเกดิ ไดต้ ลอดเวลา เพราะความเข้มขน้
ของอนภุ าคของสารในดินและในรากแตกต่างกัน โดยการแพรข่ องน้ำหรือแร่ธาตุจากดินเข้าสรู่ าก โดยผ่านเยื่อ
กนั้ บางๆ เพราะบรเิ วณในดนิ มีความเข้มขน้ ของอนภุ าคน้ำหรือแรธ่ าตุมากกวา่ บริเวณผวิ ราก ดงั นน้ั เซลล์
บรเิ วณขนรากจะมคี วามเข้มข้นของน้ำหรือแร่ธาตุมากกว่าเซลล์บรเิ วณถดั ไป จากนั้นจะเกดิ การออสโมซิส
ต่อเนอ่ื งกนั ไป ทําให้น้ำหรือแรธ่ าตุแพรต่ อ่ ไปยงั เซลล์สว่ นต่างๆ ได้

การลําเลยี งสาร เช้า – ออก ของเซลล์

1) การแพร่ 2) การออสโมซิส

เร่ืองท่ี 1 : การแพร่

๏ การแพร่ (Diffusion) : เปน็ กระบวนการเคลอ่ื นทีข่ องอนุภาคสารจากบริเวณทมี่ ีความเขม้ ขน้ ของ
สารสูงไปสูบ่ ริเวณที่มีความเข้มขน้ ของสารต่ำจนกระท่ังความเขม้ ขน้ ของสารทัง้ สองบรเิ วณสมดุลกนั
ตวั อย่างเช่น เมอื่ ใส่สีผสมอาหารลงในน้ำทีบ่ รรจุในบีกเกอร์ ในระยะแรกสีผสมอาหาร จะยังไม่กระจายไปทัว่ น้ำ
ในบกี เกอร์ แตเ่ มื่อท้ิงไวส้ ักระยะ สผี สมอาหารจะกระจายไปท่ัวน้ำในบีกเกอร์ จนน้ำมีสีเดียวกันทัง้ บีกเกอร์
การเปลี่ยนสขี องน้ำหลังจากใสส่ ผี สมอาหารลงไป เกดิ จากอนุภาคของสผี สมอาหาร ซ่งึ เป็นบริเวณทม่ี คี วาม
เข้มข้มของอนภุ าคสารสูง แพร่ออกไป ปะปนกบั อนุภาคของน้ำซ่ึงเป็นบรเิ วณที่มคี วามเข้มขน้ ของอนุภาคสาร
ต่ำ จนกระท่ังการแพร่อนุภาคของสีผสมอาหารในน้ำสมดลุ กนั ทว่ั ทงั้ บีกเกอร์

• แผนภาพการแพร่ :

การแพร่ การเคลื่อนท่ีของสาร ความเขม้ ข้นสงู ความเข้มข้นตำ่

๏การแพรในชีวติ ประจาํ วัน

เชน่ การแพรข่ องดา่ งทับทิมในน้ำ การแพร่ของกลนิ่ อาหาร การแพร่กระจายของน้ำหอม การฉีดพ่น
ยากนั ยุง การฉีดพ่นสารกําพชื การแพร่แก็สออกซิเจนเข้าสู่หลอดเลือดเป็นต้น

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวทิ ย์ | 12 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต
๏ ปจั จยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกับการแพร่
1. ความเข้มขน้ ของสาร บรเิ วณท่มี คี วามเขม้ ขน้ ของสารแตกต่างกันมาก การแพรจ่ ะเกดิ ข้นึ
2. ขนาดของอนุภาค สารที่มีขนาดของอนุภาคเล็ก จะเคลื่อนทไี่ ด้ดี การแพร่จงึ เกดิ ขนึ้ ไดเ้ รว็
3. อณุ หภูมิ บรเิ วณทมี่ ีอุณหภูมสิ ูง อนภาคของสารจะเคล่อื นที่ไดเ้ รว็ มีพลงั งานจลนเ์ พ่ิมขน้ึ จงึ เกดิ ขึ้นไดเ้ ร็ว
4. ความดนั ถ้ามีความดนั มากจะชว่ ยใหก้ ารแพร่เกดิ ขน้ึ ได้เร็วข้ึน
5. สถานะ สารทมี่ สี ถานะเปน็ แกส๊ อนภุ าคเป็นอสิ ระ มีแรงยึดเหนี่ยวนอ้ ย จะเกิดการแพร่ไดเ้ รว็ กวา่ รองลงไป
คือ สถานะของเหลว และของแขง็ ตามลําดบั
6. ตัวกลาง ตวั กลางทม่ี คี วามหนืดสงู จะแพร่ได้ชา้ หรอื ถ้าตัวกลางที่มีอนภุ าคอ่นื เจือปนก็ทาํ ให้ การแพรเ่ กดิ ได้
ช้า
7. ความสามารถในการละลายของสาร สารท่สี ามารถละลายไดด้ ี การแพรจ่ ะเกดิ ได้เร็วกวา่

การแพรใ่ นพืช
๏ แกส๊ ออกซเิ จนท่ีอยใู่ นดนิ จะแพรเ่ ขา้ ส่เู ซลล์ขนรากโดยวิธกี ารแพร่ แล้วแพรเ่ ขา้ สู่เซลล์ข้างเคียง ทาํ

ให้ แก๊สออกซเิ จนเขา้ สูเ่ ซลล์พืชและใชใ้ นกระบวนการเมแทบอลซิ มึ หรือกระบวนการหายใจไดแ้ ก๊ส
คารบ์ อนไดออกไซด์ และแพร่ออกจากพืชทางปากใบ

๏ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดแ์ พร่ผ่านทางปากใบของพืชเข้าสู่เซลล์ เพ่อื ใชใ้ นกระบวนการสังเคราะห์
ด้วยแสง หรอื สรา้ งอาหารให้แก่พชื แล้วได้นา้ํ ตาลกลูโคส และแกส๊ ออกซเิ จน เม่ือในเซลล์มีแก๊สออกซิเจนมาก
จงึ แพร่ออกสภู่ ายนอกโดยผา่ นทางปากใบ

๏ ธาตุอาหารในดินจะแพร่เข้าสเู่ ซลลข์ นรากโดยวิธกี ารแพร่

การแพรใ่ นสตั ว์
๏ การแพร่ของแกส๊ ออกซเิ จนจากหลอดเลอื ดฝอยเขา้ ส่เู ซลล์
๏ การแพร่ของแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากเซลลเ์ ข้าสหู่ ลอดเลอื ดฝอย
๏ การแลกเปลีย่ นแก๊สออกซเิ จนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซดบ์ ริเวณหลอดเลอื ดฝอยและถุงลมภายในปอด

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ช้าง สอนวทิ ย์ | 13 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

เรอ่ื งท่ี 2 : ออสโมซสิ

๏ การออสโมซสิ (Osmosis) : เปน็ กระบวนการเคลอ่ื นท่ขี องน้ำจากบรเิ วณทมี่ ีความเขม้ ขน้ ของ
สารละลายต่ำไปสารละลายสูง หรือบริเวณท่มี โี มเลกลุ ของน้ำมากไปสบู่ ริเวณที่มโี มเลกลุ ของน้ำ สู่บรเิ วณท่ีมี
ความเข้มข้นของสารละลายสูง หรอื บริเวณทม่ี ีโมเลกุลของน้ำมาก โดยผ่านเยื่อเลือกผา่ น (semipermeable
membrane) หรอื เย่ือกน้ั บาง ๆ เชน่ เยื่อหุ้มเซลล์ กระดาษเซลโลเฟน กระเพาะปัสสาวะสตั ว์ เยื่อชนั้ ในของไข่

การออสโมซิสเป็นกระบวนการทส่ี ําคญั อย่างมากในการดํารงชวี ติ ของสิง่ มีชวี ติ เนื่องจากเซลลข์ อง
สง่ิ มีชวี ิต มีน้ำเป็นสว่ นประกอบหลกั และเซลลจ์ ะอยูใ่ นส่งิ แวดลอ้ มทส่ี ัมผัสกบั น้ำอยตู่ ลอดเวลา อีกทัง้ ยงั
เกีย่ วข้องกับ กระบวนการลําเลยี งสารต่าง ๆ ในพชื อีกด้วย

ปัจจยั ควบคุมการออสโมซสิ

การออสโมซสิ ของสารจะเกิดขึน้ ได้ช้าหรือเรว็ ซงึ่ มีหลายปัจจยั มาเกยี่ วข้อง ดงั น้ี

1) ความเข้มข้นของสาร ถา้ ความเข้มข้นของสารละลายระหว่างสองบริเวณแตกต่างกันมาก การ
ออสโมซิสจะเกดิ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว แตถ่ า้ ความเข้มขน้ ของสารละลายสองบรเิ วณใกลเ้ คียงกัน การออสโมซสิ จะ
เกดิ ช้า

2) อณุ หภมู ิ การเพิ่มอุณหภูมิเสมอื นเปน็ การเพ่ิมพลังงานจลนใ์ หแ้ กอ่ นภุ าคสาร ทําให้อนุภาคสาร
เคลื่อนที่ได้เร็ว กระบวนการออสโมซิสจึงเกดิ ข้นึ เร็ว

3) ขนาดของอนุภาค อนภุ าคท่มี ขี นาดเล็กจะเกิดการออสโมซิสได้ดี

4) สมบตั ิของเยอื่ ก้ัน เยื่อกน้ั บางชนิดจะยอมให้สารผา่ นได้ การออสโมซิสจึงเกดิ ไดด้ ี

แผนภาพการออสโมซิส :

ออสโมซิส การเคลอื่ นที่ของน้ำ ผา่ นเยือ่ เลือกผา่ น ความเขม้ ข้นต่ำ ความเข้มขน้ สงู

© การออสโมซิสในชีวิตประจําวนั
- การแช่ผักในน้ำ
- การปักดอกไม้ในแจกัน
- การดดู นำ้ เข้าส่รู ากของพืช
- การเท่ียวของตน้ พชื
- การพองของเยื่อชนั้ ในของไขเ่ มื่อแช่ในน้ำ

ใบความรู้ วิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เทอม 1 เพจ ครู ฉ ชา้ ง สอนวทิ ย์ | 14 หน่วย ่ที 3 หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต

การออสโมซิสในเซลลพ์ ืช

พชื จะดูดนำ้ เข้าส่เู ซลล์ขนราก ด้วยกระบวนการออสโมซสิ โดยผ่านเยอื่ หุม้ เซลล์ ซ่งึ ทําหน้าท่ี เป็นเยือ่
เลอื กผ่านเพราะบรเิ วณรอบๆ รากจะมีปริมาณน้ำมากกวา่ ในเซลลข์ นราก และจะออสโมซิสไปยงั เซลล์ขา้ งเคยี ง
ต่อไปเร่ือย ๆ จนถึงเน้ือเย่ือลาํ เลียงน้ำ

การเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลลเ์ มอ่ื เกดิ การออสโมซสิ การทีน่ ้ำผ่านเข้าออกจากเซลล์จะทําใหร้ ปู ร่าง
และสภาพของเซลลเ์ ปล่ยี นแปลงได้ ดงั นี้

1. ถา้ เซลล์เกิดการออสโมซิสของน้ำจากภายนอกเซลลเ์ คลื่อนเขา้ สู่ภายในเซลล์ เนื่องจากความเข้มขน้
ของสารภายในเซลลม์ ากกว่าภายนอกเซลล์ (ในเซลล์มนี ้ำน้อยกว่านอกเซลล์) จะทาํ ใหเ้ ซลลไ์ ดร้ ับน้ำมากเซลล์
จงึ บวมข้นึ ปรากฏการณ์นเ้ี รยี กวา่ เซลลเ์ ตง่ ถา้ เกิดกบั เซลลพ์ ืชเซลลจ์ ะไมแ่ ตก เนื่องจากมีผนังเซลล์ที่แข็งแรง
ชว่ ยป้องกนั แตถ่ า้ เกิดกับเซลลส์ ัตว์เซลลจ์ ะแตกได้เนื่องจากมีเพยี งเยือ่ หุ้มเซลลอ์ ย่างเดียว

2. ถา้ เซลลเ์ กิดการออสโมซสิ โดยน้ำจากภายในเซลล์เคลื่อนที่ออกนอกเซลล์ เน่อื งจากความเขม้ ข้น
ของสารภายนอกเซลลม์ ีมากกว่าภายในเซลล์ (ในเซลลม์ นี ้ำมากกว่านอกเซลล)์ เซลลจ์ ะเกดิ การสูญเสียน้ำ
ปรากฏการณ์นเี้ รยี กว่า เซลลเ์ หย่ี ว

3. ถา้ เซลล์เกิดการออสโมซิสโดยน้ำจากภายในเซลล์เคล่ือนท่อี อกนอกเซลลใ์ นอตั ราเดยี วกันกบั น้ำ
จาก นอกเซลล์เคล่อื นเข้าสูภ่ ายในเซลล์ เนื่องจากความเข้มขน้ ของสารภายในเซลล์กับภายนอกเซลล์เทา่ กนั
เซลล์จะอยใู่ นสภาวะสมดุลนั่นคอื เซลลจ์ ะไมเ่ ต่งและไมเ่ ห่ียว


Click to View FlipBook Version