บทที่ 6
การบดั กรแี ข็ง Brazing
ผลของการเรียนรู้
ท่านจะไดเ้ รยี นรู้เก่ียวกับพน้ื ฐานของการบัดกรีแข็ง Brazing ทาความเข้าใจความสาคัญของรอยต่อซึ่ง
ได้รับการบดั กรีแข็งท่ีได้คุณภาพสูงและความแตกต่างระหว่างแทง่ บดั กรีแข็งและพสิ ัยของการใช้แท่งบดั กรีแข็ง
เหล่านนั้ ทา่ นจะไดม้ าซงึ่ ภาพรวมของเคร่ืองมือการบัดกรีแขง็ ซ่ึงถกู ตอ้ งสาหรบั จุดมุง่ หมายเฉพาะด้วย
วัตถุประสงค์
เม่ือรบั การเรยี นรู้ในบทนแ้ี ลว้ ผู้ เรยี นจะต้องสามารถ
1. ทราบถึงการบัดกรแี ข็งในอตุ สาหกรรมRACHP ได้
2. เขา้ ใจทฤษฎีการบดั กรีอ่อนและการบัดกรีแขง็ ได้
3. ทราบถงึ ความปลอดภัยและเครื่องมือทใ่ี ช้ในการบัดกรไี ด้
4. เข้าใจข้นั ตอนในการทาบัดกรแี ข็งได้
5. ทราบถงึ การใหค้ ารบั รองความสามารถของผบู้ ดั กรแี ข็งได้
การจัดการใชส้ ารทาความเยน็ ท่ีตดิ ไฟได้อย่างปลอดภยั 175
บทที่ 6 การบัดกรีแข็ง Brazing
6.1 การบัดกรแี ข็งในอตุ สาหกรรม RACHP
การบัดกรีแข็ง Brazing เป็นกระบวนการเชื่อมต่อที่สาคัญอย่างสูงในอุตสาหกรรมเคร่ืองทาความเย็น
เครอื่ งปรบั อากาศและป๊ัมความร้อน (RACHP) การ Brazing ทาใหค้ วามเป็นไปได้ในการเชอ่ื มต่ออุปกรณห์ ลักเข้ากับ
ระบบไม่รั่วเช่ือมปิดสนิท การ Brazing ทาให้เกิดรอยต่อที่ทนต่อความดัน การสั่นสะเทือน การกระแทกและความ
ตึง การ Brazing จะลดการรั่วไหลของสารทาความเย็นและความผิดพลาดของระบบลงและเพ่ิมประสิทธิภาพและ
อายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ เพราะรอยต่อที่ได้รับการ Brazing ที่มีคณุ ภาพดีลดการรั่วไหลของสารทาความเย็นลง
และเพม่ิ ความปลอดภัยของระบบที่มีสารทาความเย็นท่ีติดไฟ โดยทใ่ี นเวลานี้ข้อระมัดระวงั ทางความปลอดภัยต้องมี
เพิม่ มากข้นึ โดยต้องเอาใจใส่ในกระบวนการ Brazingทีม่ สี ารทาความเย็นติดไฟ
คนงานผู้มีทักษะ RACHP ทุกคนต้องมีความชานาญในการ Brazing ผู้ทาการ Brazing ต้องมี
ประสบการณ์ในเชิงปฏิบัติในระดับที่เป็นท่ีต้องการในด้านทักษะและด้านคุณภาพ และการฝึกอบรมครั้งนี้
จะประยกุ ตเ์ พอื่ ใชก้ ับงานของสารทาความเยน็ ติดไฟโดยเฉพาะ
หัวทอรช์ เชอื่ ม
โลหะทเี่ ชื่อม โลหะทีใ่ ชเ้ ติม
ฟลักซ์ (ลวดเชอ่ื ม)
โลหะท่ีเชื่อม
บรเิ วณท่ใี หค้ วามร้อน
ภาพท่ี 6.1 กระบวนการเชื่อม Brazing
การบัดกรีแข็ง Brazing เป็นกระบวนการเชื่อมโลหะซ่ึงเช่ือมต่อโลหะท้ังแบบชนิดเดียวกันและต่างชนิดกัน
โดยใช้โลหะที่สามเช่ือมประสาน โลหะท่ีเติมเพื่อประสานท่ีเรียกกันว่า ลวดเช่ือม (โลหะบัดกรีอ่อนหรือโลหะบัดกรี
แข็งผสมโลหะประสาน) เปรียบเสมือน “กาว” และการประยุกต์การให้ความร้อน ลวดเชื่อม ซึ่งก็คือ โลหะซ่ึงกาลัง
ได้รับการเชื่อมต่อ เป็นโลหะท่ียังไม่ได้รับการหลอมเหลว อย่างไรก็ตามลวดเชื่อมดังกล่าวต้องมีอุณหภูมิจนถึง
อุณหภมู เิ หมาะสมจึงถือว่าเช่ือมติดกันกับโลหะชนิดเติม ในบรเิ วณรอยต่อของพื้นผวิ ทองแดงที่จะไดร้ ับการเช่ือมต่อ
ลวดเช่ือมผสมโลหะได้รับการก่อรูปขึ้นให้มีความแข็งแรงสูงกว่างโลหะเติม ทั้งน้ีท่ีสิ่งสาคัญคือโลหะเติมมีอุณหภูมิ
การจดั การใช้สารทาความเยน็ ท่ตี ิดไฟได้อยา่ งปลอดภัย 176
หลอมเหลวสูงกว่า 450 °C แต่อุณหภูมิต่ากว่าจุดหลอมเหลวของวัสดุท่ีได้รับการเช่ือมต่อ การ Brazing สามารถใช้
สาหรบั การเช่ือมต่อวัสดุทองแดงกับทองแดง วัสดุทองแดงกับอะลูมิเนยี มหรือวัสดุทองแดงกับเหล็กได้ สาหรับกรณี
ทีใ่ ช้ฟลกั ซต์ อ้ งทาความสะอาดโลหะและป้องกันการเกิดออกซิไดส์
ต่อไปนี้มาดูความแตกต่างกันของการเชื่อมต่อโลหะ ลวดเชื่อม ฟลักซ์และเปลวไฟท่ีใช้งาน ทั้งน้ีสุดท้ายจะ
อธิบายถงึ สิ่งที่ได้รบั การพิจารณาวา่ เป็นการ Brazing ที่ดีและให้เคล็ดลับว่าจะได้มาซ่ึงสิ่งเหล่าน้ีได้อย่างไร
6.1.1 การเปรยี บเทยี บของการบัดกรีแข็ง การบัดกรีอ่อน และการเชอื่ มโลหะ
การบัดกรีแขง็ Brazing เปน็ วิธกี ารหนง่ึ ของการเช่ือมต่อชิ้นโลหะ และแตกตา่ งจากการบัดกรีอ่อนและ
การเชื่อมโลหะ
การบัดกรีอ่อนมีกระบวนการเดียวกันกับการบัดกรีแข็ง บัดกรีเป็นวิธีการเก่าแก่ท่ีสุดเพ่ือเช่ือมต่อ
แต่การบัดกรีอ่อนเกิดข้ึนท่ีอุณหภูมิต่ากว่า 450 °C รอยต่อไม่แข็งแรง โลหะเข้าด้วยกันอย่างม่ันคงและได้ผ่าน
การใชเ้ ปน็ เวลานานมากกว่า 5,000 ปี
เท่ารอยต่อในขณะการบดั กรีแข็ง Brazing
การเชื่อมน้ันจะเชื่อมต่อโลหะสองช้ิน โดยหลอมเหลวตัวโลหะเองอย่างเพียงพอท่ีโลหะทั้งสองช้ิน
นั้นเช่ือมต่อกัน วัสดุที่เติมไม่ได้รับการใช้อย่างสม่าเสมอและโลหะสองช้ินนั้นซ่ึงได้รับการเช่ือมต่อกันต้องเป็น
ชนิดเดยี วกัน การเช่อื มทาให้รอยต่อแขง็ แรงทส่ี ดุ
ตารางท่ี 6.1: เปรยี บเทียบระหวา่ งการบดั กรีออ่ น Soldering และการบดั กรแี ขง็ Brazing
การบดั กรีอ่อน Soldering การบัดกรีแข็ง Brazing
อณุ หภูมิ นอ้ ยกวา่ 450 °C มากกวา่ 450 °C
อุณหภมู ทิ ี่
ใชง้ าน 220 °C ถึง 250 °C 6300 °C ถงึ 890 °C
ทวั่ ไป
งานติดตงั้ กา๊ ซ แอลพีจี และนา้ มนั
งานติดต้ังทอ่ สาหรบั น้าดม่ื ทมี่ ีเสน้ ผา่ น ทอ่ ท่มี อี ณุ หภูมมิ ากกวา่ 110°C (ตัวอยา่ งเชน่
การ ศนู ย์กลางภายนอกนอ้ ยกว่าและเท่ากับ 28 มม. พลงั แสงอาทิตย์หรือระบบทานา้ รอ้ น)
ประยุกตใ์ ช้ นา้ ร้อน อณุ หภมู ิจนถึง 110 °C ท่อทาความร้อนตามพนื้
งานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ นา้ ด่ืม
งานระบบ RACHP
แรงเฉอื นและใชก้ บั อณุ หภมู ิการทางานท่ีสงู ขึ้น
ลดความเสย่ี งของการกัดกรอ่ นท่อี ณุ หภมู ิ นอ้ ย มีความแขง็ แรง ทนทานและคณุ ภาพสูง (งาน
ขอ้ ดี กว่า 450 °C ซึ่งควรเลอื กใชส้ าหรบั น้าด่มื
ระบบ RACHP)
ข้อดอ้ ย ความพยายามซ่งึ สงู ข้นึ สาหรับการทาความ ทอ่ ทองแดงชนิดแขง็ และแบบกึ่งแข็งจะ
สะอาดของทอ่ สญู เสียความแขง็ แรงของทอ่ น้ันเม่อื บดั กรแี ข็ง
Brazing เพราะทอ่ ไดร้ บั การอบออ่ นโดยต้อง
การเชือ่ มตอ่ ซง่ึ ออ่ นแอกวา่ ทางานท่อี ุณหภมู สิ งู
การจัดการใช้สารทาความเย็นท่ตี ิดไฟได้อย่างปลอดภัย 177
6.1.2 การใช้ท่อทองแดงสาหรับการบัดกรแี ข็งระบบ RACHP
เพราะทองแดงมีข้อดีหลายอย่างใชง้ านได้ในเกือบทุกอตุ สาหกรรมและในส่วนของการใช้ชวี ิต ทองแดง
เปน็ ทรี่ จู้ กั สาหรบั สภาพการนาทางไฟฟ้าทด่ี เี ย่ียมของทองแดงในสายไฟฟ้า มอเตอรแ์ ละเจนเนอร์เรเตอร์
ในการแลกเปลี่ยนความร้อน การนาความร้อนที่ดีของทองแดงมีบทบาทสาคัญสาหรับเทคโนโลยี
RACHP สาหรับการติดตั้งท่อผิวเรียบความแข็งแรงสูงและความหนาท่อที่ต่า ช่างฝีมือที่ดีต้องทางานกับความ
หลากหลายของเทคโนโลยีการเช่ือมต่อ ความหนาแน่นของก๊าซท่ีมีต่อผลกระทบสภาพแวดล้อมและทนความ
ต้านทานการกัดกร่อนได้ดี คุณสมบัติของวัสดุทองแดงทาให้มันถูกกาหนดล่วงหน้าในการใช้งานเทคโนโลยี
RACHP ถา้ ได้รับการใช้งานอยา่ งถกู ตอ้ ง การเปราะบางทอ่ี ณุ หภมู ิต่าจะไมเ่ กดิ ขนึ้ กบั วสั ดุทองแดง
ดว้ ยเหตผุ ลเหล่าน้ี วัสดุทองแดงไดผ้ ่านการพจิ ารณาวา่ เปน็ วสั ดุท่ที นั สมัยเป็นเวลาหลายสบิ ปแี ละได้รับ
การยึดถือไว้ในข้อบังคับซ่ึงสอดคล้องกัน ท่อทองแดงได้รับใช้งานโดยสอดคล้องกับมาตรฐานและคาอธิบาย
รายละเอยี ดเพือ่ ยืนยนั ข้อกาหนดความต้องการของการรบั ประกันทางเทคนิคและทางกฎหมายถ้าจาเปน็
ทองแดงมีความคงทนต่อสารทาความเย็นตามมาตรฐานเกือบท้ังหมด (ซึ่งรวมถึงสารทาความเย็นติดไฟ)
และสารทาความเย็นผสมซึ่งสอดคล้องกัน ตารางที่ 6.2 แสดงสมบตั ทิ างวสั ดทุ ี่เกี่ยวข้องของทองแดง
ตารางท่ี 6.2: สมบัตทิ างวสั ดุของทองแดง
คณุ สมบตั ิ คา่ หน่วย
ความหนาแนน่ 8.93 g/cm³
สภาพนาความรอ้ น ท่ี 20 °C 293 – 364 W/(mK)
สมั ประสิทธข์ิ องการขยายตัวทางความร้อน 0.017 mm/(mK)
จดุ หลอมเหลว 1083
°C
ขอ้ กาหนดสาหรับความตอ้ งการพิเศษที่ใชท้ องแดงท่ีมีอยู่ โดยเฉพาะกบั :
R-717 แอมโมเนีย: การใช้เป็นไปได้ในทางเทคนิค แต่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ ณ ปัจจุบันการใช้
ของวัสดุทองแดงสาหรบั สารทาความเยน็ แอมโมเนยี เหลว ซ่ึงได้รับการลดลงเพื่อปรับเข้ามาตรฐาน
สาหรับระบบทาความเย็น ขนาดเล็กได้รับการ พิสูจน์ อย่างแท้จริงแล ะดังน้ัน วิทย าศาสตร์ แล ะ
เทคโนโลยีสมัยใหม่ มกี ารเปลี่ยนแปลงซ่ึงสอดคลอ้ งกนั ในขอ้ บงั คบั ท่ีเกย่ี วข้องยังไม่ได้กาหนดขึน้
R-744 คารบ์ อนไดออกไซด:์ สามารถใช้ไดเ้ ฉพาะในสภาพซง่ึ แหง้ อย่างสมบูรณ์
สาหรับการประยุกต์ใช้สารทาความเย็นนี้ ตัวอย่างระบบท่อ K65 ชนิดใหม่(ที่สร้างโดย
Wieland/Benninger) สามารถใช้งานได้ ท่อและตัวยึดจับได้รับการสร้างจากโลหะผสมทองแดง
ความแข็งแรงสูง Wieland K65 ได้ผ่านการใช้งานด้วยความสาเร็จในวิศวกรรมทางไฟฟ้าและ
อุตสาหกรรมยานยนต์ K65 ทาให้มีการติดตั้งท่ีปลอดภัยและประหยัดของระบบทาความเย็นที่มี
แรงดนั การทางานจนถงึ 120 บารท์ เ่ี ป็นไปได้
R764 ซัลเฟอร์ไดออกไซด:์ สามารถใชไ้ ดเ้ ฉพาะในสภาพซ่ึงแห้งอย่างสมบูรณ์
การจดั การใชส้ ารทาความเยน็ ทีต่ ิดไฟได้อย่างปลอดภยั 178
6.1.3 บรรทัดฐาน – การทาท่อ RAC
มาตรฐานยุโรป EN378:2017-3 (ISO 5149-3) สว่ นท่ี 2 ครอบคลุมลกั ษณะเฉพาะความปลอดภัยและ
ส่ิงแวดลอ้ มของการออกแบบ การกอ่ สรา้ ง และการตดิ ต้ังของระบบทาความเย็น
รอยตอ่ ตอ้ งไม่เสยี หายดว้ ยความเยน็ เยือกแขง็ ของนา้ บนด้านนอก รอยต่อท่บี ดั กรีอ่อนไมเ่ หมาะกับ
งานท่อการทาความเย็น
ท่อทองแดงสาหรบั การบดั กรแี ข็ง ควรสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กบั EN 12735-1
การบัดกรีแข็ง อาจได้รับการประยุกต์ใช้กับท่อเส้นผ่านศูนย์กลางมากจนถึง 54 มม. ส่วนท่อซึ่ง
ใหญก่ ว่าควรไดร้ ับการเช่ือมโลหะ
สาหรบั รอยต่อของท่อทองแดงซึ่งทนทานและเช่ือถือได้ ตวั ยดึ จับควรไดร้ บั การใช้ตาม EN 1254-1
(เส้นผ่านศูนย์กลางมากจนถงึ 104 มม.)
การใช้ลวดเช่ือมซ่ึงเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้รับการแสดงรายการต่อไปนี้เป็นวิธีการท่ีควรเลือกใช้
สาหรับการทารอยตอ่ ซึ่งไมส่ ามารถแยกจากกนั ได้
มาตรฐานทเ่ี กี่ยวขอ้ ง:
DIN 8905-1:1983-10; ท่อสาหรับระบบทาความเย็นท่ีมีคอมเพรสเซอร์แบบหุ้มปิดและก่ึงหมุ้ ปิด;
เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางด้านนอกมากจนถึง 54 มม.; เงอ่ื นไขการส่งมอบทางเทคนคิ
EN 1254-1:1998-03; ทองแดงและโลหะผสมทองแดง - ตัวยดึ จับระบบท่อ - สว่ นที่ 1 : ตัวยดึ จับ
ทม่ี ปี ลายสาหรับการบัดกรีท่อแคปทิว้ หรือการบดั กรแี ขง็ ท่อแคปท้ิวกบั ท่อทองแดง
EN 1254-4:1998-03; ทองแดงและโลหะผสมทองแดง - ตวั ยึดจบั ระบบท่อ - ส่วนท่ี 4 : ตัวยดึ จับ
ซึ่งรวมการเชอื่ มตอ่ ของปลายตา่ งๆ กับปลายทอ่ แคปทิว้ หรอื ปลายทางอดั
EN 1254-5:1998; ทองแดงและโลหะผสมทองแดง - ตัวยึดจับระบบท่อ - ส่วนที่ 5 : ตัวยึดจับทม่ี ี
ปลายส้ันสาหรับการบดั กรแี ข็งท่อแคปท้วิ กับท่อทองแดง
DIN 2607:2002-5; การงอทอ่ – สาหรับการเช่อื มตอ่ ชนของทองแดง
ISO 17672:2017-1; การบัดกรีแข็ง – ลวดเชื่อมระบุพิสัยท่ีประกอบขึ้นของอนุกรมของลวดเช่ือม
ที่ไดร้ บั การใชส่ าหรบั การบัดกรีแข็ง ลวดเชอ่ื มได้รบั การแบ่งออกเปน็ 7 ระดบั ซ่งึ เก่ยี วกบั องคป์ ระกอบของลวด
เช่อื มน้นั แตไ่ ม่จาเป็นตอ่ การมีอยขู่ องธาตุหลัก
EN 1045:1997-08; การบัดกรีแข็ง – ฟลักซ์สาหรับการบัดกรีแข็ง – การจาแนกประเภทและ
เงอ่ื นไขการส่งมอบทางเทคนิค
EN 12735-1:2016; ทองแดงและโลหะผสมทองแดง – ท่อกลมไร้ตะเข็บสาหรับการปรับอากาศ
และการทาความเยน็ - ส่วนท่ี 1 : ท่อสาหรบั ระบบท่อ
โดยท่ัวไปโลหะช้ินงานซึ่งทาให้มีการบัดกรีแข็งใน RACHP จะเป็นไปตามข้อกาหนดความตอ้ งการของ
มาตรฐานทีเ่ กยี่ วขอ้ งสาหรับการประยุกต์ใช้ที่กลา่ วถึงด้านบน
การจัดการใช้สารทาความเยน็ ที่ติดไฟได้อย่างปลอดภยั 179
หัวขอ้ สาคัญคอื :
ทองแดงและโลหะผสมทองแดง บทบรรยายรายละเอียดครอบคลุมท่อทองแดงไร้ตะเข็บ (เกรด
ของการทาความเย็นและการปรับอากาศ) ในการอบคืนตัวแบบอ่อน แบบก่ึงแข็งและแบบแข็ง ซ่ึงเหมาะสม
สาหรับการใช้ในอุตสาหกรรม RACHP
โลหะท่ีเป็นเหล็กและที่ไม่ใช่เหล็กซ่ึงรวมถึงเหล็กกล้าอ่อน คาร์บอนและเหล็กกล้าโลหะผสมต่า
เหล็กกล้าโลหะผสม เหลก็ กล้าไรส้ นิม เหล็กกล้าซง่ึ ตา้ นทานความรอ้ นและการกดั กร่อน และทองเหลอื ง
6.2 ทฤษฎกี ารบัดกรีออ่ นและการบัดกรแี ขง็
6.2.1 สารฟลกั ซ์
ฟลักซ์เป็นสารประกอบทางเคมีท่ีสามารถป้องกันการออกซิไดส์ของโลหะได้ ออกซิไดส์เป็นปฏิกิริยา
ของโลหะกับออกซิเจนจากอากาศที่อุณหภูมิสูง ออกซิไดส์ป้องกันลวดเชื่อมจากการเชื่อมติดกับโลหะและ
ดังนั้นจะทาให้เกิดการเชื่อมต่อที่ไม่ดี ฟลักซ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อของงานท่อทองแดงสาหรับระบบการทาความ
เย็นที่ต้องทางานท่ีอุณหภูมิ 600 °C ถึง 750 °C และโดยปกติมีพ้ืนฐานบนด่างของฟลูออไรด์ ฟลักซ์ท่ีตกค้าง
ต้องได้รบั การกาจดั ออกภายหลงั การบัดกรีแขง็ เน่ืองจากฟลักซท์ ตี่ กคา้ งอาจทาใหเ้ กดิ การกัดกร่อน
ภาพที่ 6.2 ฟลักซแ์ ละการทาเครือ่ งหมายทเี่ ก่ียวเนื่องตรงกัน
หมายเหตุ: ลวดเช่ือมสาหรับการบัดกรีแข็งต้องบังคับใช้ให้สัมพันธ์กับฟลักซ์ท่ีได้รับการกาหนดโดย
ผ้ผู ลติ สาหรับการใชก้ ับลวดเช่อื มโดยเฉพาะบนท่อหรอื ตวั ยดึ จบั ที่สอดคล้องสมั พนั ธ์กนั
ทองแดง/ทองเหลืองหรือทองแดง/การเชื่อมต่อของข้อต่อท่ีหล่อสีแดง: ฟลักซเ์ ป็นทตี่ อ้ งการเสมอ
ทองแดง/การเชื่อมต่อของทองแดง: ฟลกั ซไ์ มเ่ ป็นที่ต้องการถ้าตวั เตมิ ทองแดง-ฟอสฟอรัสไดร้ บั การใช้
ส่วนประกอบฟอสฟอรัสจะทาหน้าท่ีเป็นฟลักซ์ในกรณีน้ี สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยโลหะผสม CP 203 และ CP 105
ถ้าโลหะผสมน้ีได้รับการใช้ ท้ังน้ีได้รับการแนะนาให้หุ้มการเชื่อมต่อด้วยการเคลือบปกป้อง (ตัวอย่างเช่น การ
รองพ้ืนท่มี ีอีพอกซเี่ รซิน 2 ส่วนเปน็ พ้ืนฐาน) ไมค่ วรใช้กบั พวกสีฝุ่นสงั กะสี
การจดั การใชส้ ารทาความเยน็ ทตี่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภยั 180
ฟลักซ์ที่ได้รับการแนะนาในขณะการบัดกรีแข็ง: ประเภท FH 21 ตาม EN 1045 (ฟลักซ์บัดกรีแข็ง
สากล; อณุ หภมู กิ ารทางาน 750 °C ถงึ 1100 °C แบบไม่กัดกรอ่ น)
นา้ ยาประสานฟลักซ์ท่ีจัดวางไว้ก่อนหน้า สามารถได้ประยุกต์บนพื้นผิวภายในของรอยต่อได้; วธิ ีการน้ี
ประยุกต์ใช้โดยเฉพาะกบั รอยตอ่ ของโลหะชนิ้ งานซง่ึ เปน็ ชนดิ เดยี วกัน
ลวดเชอ่ื มการบัดกรีแขง็ บางวสั ดไุ ด้รบั การเคลอื บโดยใช้ฟลักซ์
ฟลักซส์ าหรบั การบัดกรีแข็งควรมกี ารทาเคร่ืองหมายต่อไปน:้ี
เครอ่ื งหมายผู้ผลิตหรือผจู้ าหนา่ ย
EN 1045:1997-08 - การบัดกรีแข็ง – ฟลักซ์สาหรับบัดกรแี ข็ง - การจาแนกประเภทและเงอื่ นไข
การสง่ มอบทางเทคนคิ
อักษรย่อประเภทฟลักซ์
อณุ หภมู ิการทางาน
ส่ิงท่ีตกค้างของฟลักซ์ของกลุ่ม FH21 สามารถได้รับการกาจัดออกเชิงกลภายหลังกระบวนการบัดกรี
แข็ง ตัวอย่างเชน่ การทาความสะอาดดว้ ยแปรงเหลก็
6.2.2 ลวดเช่ือมการบัดกรีแข็ง
ลวดเชื่อมการบัดกรีแข็ง (บางคร้ังเรียกว่าโลหะบัดกรีหรือโลหะผสมการบัดกรีแข็งด้วย) เป็นโลหะซ่ึง
ได้รบั การหลอมเหลวเพ่ือเติมในชอ่ งว่างระหวา่ งพืน้ ผิวของสว่ นประกอบ เพือ่ ให้ได้รับการเช่ือมต่อและก่อรูปข้ึน
การเช่ือมตดิ เมื่อโลหะนั้นเย็นตวั ลง ลวดเชือ่ มการบดั กรแี ข็งดังกลา่ วประกอบดว้ ยโลหะซ่งึ แตกต่างกันเพ่ือสร้าง
คุณสมบัติและลักษณะที่เจาะจง ตัวอย่างเช่น อุณหภูมิท่ีซึ่งเป็นการหลอมเหลว พฤติกรรมการไหลของลวด
เช่อื มการบัดกรแี ข็งและความแข็งแรงเชงิ กลของการเชือ่ มตอ่
กระบวนการบัดกรีแข็ง อาจได้รับการใช้กับแท่งฟอสฟอรัสทองแดงหรือแท่งเงินเชื่อมที่ผ่านการผสม
ฟลักซ์หรอื แท่งเงนิ เชอ่ื มท่ีไมผ่ สมฟลกั ซ์กบั ฟลักซ์ที่ไดร้ บั การให้จากภายนอก
โดยเฉพาะปริมาณของเงินเชื่อมที่มีอิทธิพลท่ีแน่นอนบนคุณสมบัติซ่ึงสาคัญท่ีสุด ดังเช่น อุณหภูมิของ
กระบวนการ คณุ สมบตั ิการไหลของลวดเช่ือมการบัดกรีแข็ง ความแขง็ แรงเชิงกลและเวลาท่ีจาเป็นสาหรับการ
บดั กรแี ข็ง ปรมิ าณเงนิ เชือ่ มสูงกว่าโดยปกติบ่งช้ีคณุ สมบัตทิ ช่ี ื่นชอบมากขึ้น
ภาพที่ 6.3 แท่งลวดเชื่อมบัดกรแี ข็ง (ซ้ายมือ) แท่งเงนิ เชอ่ื มและแทง่ บดั กรีแขง็ เงินเช่ือมหุ้มฟลักซ์ (ขวามือ)
การจัดการใชส้ ารทาความเย็นที่ติดไฟได้อย่างปลอดภยั 181
ลวดเช่ือมการบัดกรีแข็งบ่อยคร้ังได้รับการจัดให้มีเป็นแท่ง แต่มีใช้งานได้เป็นลวด เส้น หรือได้รับการ
ก่อรูปขึ้นก่อนล่วงหน้า (ดังเช่น วงแหวน) แบบแท่งโดยทั่วไปนิยมใช้มากที่สุดได้รับการใช้ในงาน RACHP
รปู รา่ งอนื่ ๆ บอ่ ยครง้ั ได้รบั การใช้ในการผลติ แบบตามลาดับ
ลวดเชือ่ มควรมีการทาเครื่องหมายต่อไปนี้:
เครอ่ื งหมายผผู้ ลิตหรอื ผู้จาหน่าย
ISO 17672:2017
ชอ่ื อยา่ งสนั้ ของโลหะบัดกรี
ประเภทของลวดเช่ือมบัดกรีแข็งข้ึนอยู่กับตาแหน่งและการประยุกต์ใช้ของท่อที่ถ่ายเทความร้อนของ
สารทาความเยน็ ตัวอยา่ งคอื สภาพเข้าถงึ ไดข้ องพนื้ ที่ซึ่งยากที่จะเขา้ ถึงหรอื อุณหภูมิท่อท่ีได้รับการยนิ ยอม/มาก
ท่ีสดุ ในขณะการทางาน
6.2.2.1 การเลอื กของวัสดเุ ตมิ ท่เี หมาะสมสาหรับการประยกุ ต์ใชก้ ารบัดกรีแขง็ RACHP
ตัวเลือกของลวดเช่ือมขึ้นอยู่กับวัสดุที่จะได้รับการเช่ือมต่อ ท้ังน้ีได้รับการหมายเหตุว่าสาหรับ
การเช่ือมต่อทองแดง-ทองแดง เงินเชื่อมไม่จาเป็นว่าจะต้องเป็นใช้ลวดเช่ือม วัสดุซ่ึงปราศจากเงินเชื่อม
โดยท่ัวไปนัน้ ถูกกว่า
ทองแดง/การเชื่อมต่อของทองแดง: ลวดเชื่อมบัดกรีแข็งโดยปราศจากปริมาณเงินเชื่อม
ตัวอยา่ งเช่น โลหะบัดกรีทองแดง-ฟอสฟอรสั L-CuP6 (CP 203)
ทองแดง/การเชื่อมต่อของทองแดง: ลวดเช่ือมบัดกรีแข็งท่ีมีปริมาณเงินเช่ือมต่า ตัวอย่างเช่น
โลหะบดั กรีทองแดง-เงิน-ฟอสฟอรัส L-Ag2P (CP 105) L-Ag5P
ทองแดง/ทองเหลือง: ลวดเช่อื มบดั กรีแข็งทีม่ ีปริมาณเงินสูง ตวั อย่างเชน่ L-Ag45Sn
ทองแดง/เหลก็ กลา้ : ลวดเช่อื มบัดกรีแขง็ ทมี่ ปี รมิ าณเงินสงู ตัวอย่างเชน่ L-Ag45Sn
ตัวเลือกของลวดเช่ือมขึ้นอยู่กับช่วงของอุณหภูมิที่การประยุกต์ใช้จะได้รับการทางานใน
อณุ หภมู นิ น้ั ดงั แสดงในตารางท่ี 6.3:
ตารางที่ 6.3 วัสดุเติมที่เหมาะสมสาหรบั การประยุกต์ใชก้ ารแลน่ ประสาน
อณุ หภูมิ เปอร์เซ็นต์ บทบรรยายรายละเอยี ด อณุ หภมู ทิ างาน
การประยุกต์ใช้ RACHP ของปริมาณเงิน
L-CuP6 730°C
≤ -20°C 0% L-Ag2P 710 °C
≤ -20°C 2% L-Ag5P 700 °C
≤ -40°C 5% L-Ag15P 670°C
≤ -70°C 15% L-Ag34 (45) Sn 630°C to 730°C
≤ -200°C ≥ 34%
การจัดการใชส้ ารทาความเยน็ ทีต่ ิดไฟได้อย่างปลอดภยั 182
ท้ังน้ีมีความเป็นไปได้สาหรับลวดเช่ือมบัดกรีแข็งที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัส เพ่ือให้ได้รับการใช้
กับงานท่อท่ีได้รับการจัดเส้นทางในเพดานหรือผนัง และโดยแท้จริงแล้ววัสดุดังกล่าวเป็นท่ีควรเลือกใช้ด้วย
เหตผุ ลของคา่ ใชจ้ า่ ย
ด้วยการจับคู่วัสดุทองแดง-ทองแดง การแล่นประสานด้วยวัสดุเตมิ ที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัส
ฟลกั ซ์ (โดยขึน้ อยู่กับการประยุกต์ใช้ RACHP) ไมจ่ าเป็นเพราะวา่ ส่วนประกอบฟอสฟอรัสแสดงตวั เปน็ ฟลักซ์
หา้ มใชล้ วดเชอื่ มโดยมพี นื้ ฐานบนดบี กุ หรอื ตะกว่ั ดบี ุกหรอื ตะกว่ั ไม่เหมาะสมสาหรบั การใชก้ บั สงิ่ บรโิ ภค
ในเครอื่ งใชส้ าหรบั การทาความเย็น ! ตะกว่ั เป็ นอนั ตรายต่อสขุ ภาพของมนุษย ์
6.2.2.2 อณุ หภูมกิ ารบัดกรีแข็ง
อุณหภูมิในอุดมคติที่ได้รับการใช้สาหรับการบัดกรีแข็งข้ึนอยู่กับลวดเช่ือมท่ีได้รับการเลือก
ขณะท่ีลวดเช่ือมน้ันหลอมเหลวที่อุณหภมู ิซึ่งแตกตา่ งกัน อุณหภูมิน้ันต้องต่ากว่าอุณหภูมิหลอมเหลวของโลหะ
พ้ืนฐานเสมอ ภาพที่ 6.4 แสดงความแตกต่างระหว่างทองแดงเท่านั้นและวัสดุที่ผสมด้วยเงินเชื่อม โดยวัสดุท่ี
ประกอบดว้ ยเงนิ เชอื่ มมสี ภาพหลอมเหลวดีมากทอี่ ณุ หภูมิตา่ มาก
วัสดุ สภาพ ทองแดงเทา่ นน้ั (L-Cu6) ผสมเงิน (L-Ag45Sn)
I หลอมเหลวดมี าก 730°C 670°C
II หลอมเหลวดี 710°C 640°C
III หลอมเหลวไม่ดี 650°C 600°C
IV ไม่หลอมเหลว 600°C 550°C
ภาพท่ี 6.4 อณุ หภมู ิการทางานของลวดเช่ือมการบดั กรีแข็งซง่ึ แตกต่างกันสองวสั ดุ
6.2.3 การแยกประเภทตามรูปร่างของตะเข็บท่ีไดร้ บั การบัดกรีอ่อน/ได้รับการแขง็
การบัดกรีช่องว่างเป็นวิธีการเช่ือมท่ีได้รับการใช้ซ่ึงพบมากท่ีสุดสาหรับการเชื่อมต่อท่อ ที่สามารถทา
โดยการใช้ตัวยึดจับระหว่างท่อ (ดูการบัดกรีแข็งด้วยตัวยึดจับถัดไป) หรือโดยการใช้ท่อ 2 ท่อซ่ึงปลายของท่อ
นั้นได้ผ่านการตอกรูปโลหะหรือการขยายออก (ดูตัวยึดจับที่ได้รับการทาขึ้นด้วยมือ) ระหว่างท่อและตัวยึดจบั
หรือระหว่างท่อ 2 ท่อ ท้ังน้ีต้องมีช่องว่างแคบๆ ในขณะท่ีบัดกรีแข็ง แรงดันของท่อที่คับแคบทาให้ลวดเชื่อม
เหลวดึงตัวสูงข้ึนในช่องว่าง โดยตามแนวคิดนี้การเติมช่องว่างนั้นก็จะสมบูรณ์ การทางานแรงดันของท่อที่คับ
แคบนี้เกดิ ข้นึ ภายใตต้ า้ นแรงโนม้ ถว่ ง ภาพท่ี 6.5 จะอธบิ ายปรากฏการณข์ องท่อท่ีคับแคบ (ท่อคาปิลลารี) นี้
การจดั การใชส้ ารทาความเยน็ ทีต่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภยั 183
การทางานของการคาปลิ ลารีในผลกระทบทช่ี ่องวา่ งแคบ: ไมม่ กี ารทางานท่ชี อ่ งวา่ งกว้าง: ระดับของของเหลว
ระดบั ของของเหลวดา้ นในทอ่ แคบ > ระดบั ด้านนอกท่อ ดา้ นในทอ่ แคบ = ระดับดา้ นนอก
ภาพที่ 6.5 การนาเสนอเชงิ บรรยายของผลกระทบของท่อคาปิลลารี
6.2.3.1 การบดั กรีแขง็ ด้วยตัวยดึ จบั
ทอ่ ไดร้ ับการเช่ือมต่อผ่านตัวยึดจบั และตัวยึดจับต้องไดร้ บั การเชื่อมต่อเข้ากับท่อผา่ นการบัดกรี
แข็งทจี่ ดุ การเช่อื มตอ่ ทงั้ หมด
หมายเหตุ สาหรับทอ่ ท่มี ีเสน้ ผ่านศนู ย์กลางด้านนอกจนถงึ ขนาด 54 มม.
ระยะกวา้ งซ่งึ เท่ากัน (ช่องว่างการแลน่ ประสาน/การบัดกรี) ระหวา่ งส่วนประกอบ
ช่องว่างต่าสูด: 0.02 มม.
ช่องว่างสูงสูด: 0.5 มม. ที่ช่องวา่ งสูงขนึ้ การทางานของคาปิลลารี อาจไมแ่ ขง็ แรงเพียงพอ
ย่งิ ช่องวา่ งย่ิงแคบมากข้นึ การคาปลิ ลารียง่ิ เตมิ แรงดันสงู ข้ึน
ตัวอย่าง
ชอ่ งวา่ ง 0.5 มม. ทาใหค้ วามสูงเพ่มิ สงู ข้ึนประมาณ 1.5 ซม.
ช่องวา่ ง 0.1 มม. ทาใหค้ วามสงู เพิม่ สงู ขนึ้ ประมาณ 10 ซม.
สาหรับผลที่ดีที่สุด ช่องว่างควรต้องแคบและเสมอกัน ส่ิงท่ีง่ายที่สุด คือ การใช้วัสดุท่ีมี
มาตรฐาน เนอื่ งจากวสั ดุท่มี มี าตรฐานนี้ ทาใหแ้ นใ่ จในความคลาดเคลื่อนทยี่ อมให้ขนาดเขา้ กนั ได้
ทอ่ และอปุ กรณ์ท่อตาม EN 12735-1 DIN 8905-1 หรอื มาตรฐานของสมาคมสหรัฐอเมริกา
สาหรับการทดสอบและวสั ดุ (ASTM)
อุปกรณ์ตามมาตรฐาน EN 1254-1 / EN 1254-4 หรือ ASTM
ผ้ผู ลติ ทท่ี าอุปกรณ์ตามมาตรฐาน ต้องมฉี ลากสินค้าบนเคร่ืองหมายผูผ้ ลิตและเครื่องหมายคุณภาพ
อปุ กรณท์ องแดงในอตุ สาหกรรมบรรลเุ ป้ าหมายดที สี่ ดุ ในงาน RACHP ทที่ นความตา้ นทานแรงดนั และน่าเชอื่ ถอื
การจดั การใช้สารทาความเย็นทต่ี ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 184
ท่อและอุปกรณ์ ควรมีการทาเคร่ืองหมายตอ่ ไปน:ี้
ขนาด (ท่ีบง่ ชีเ้ ส้นผ่านศูนย์กลางด้านนอกท่อ)
เคร่ืองหมายของผู้ผลติ
เครือ่ งหมายคณุ ภาพ
6.2.3.2 ชุดบานแฟลร์ (บานท่อและขยายท่อ)
มันมีความเป็นไปได้ท่ีจะบัดกรแี ข็งโดยไม่มีอุปกรณ์ยึดจับ รอยต่อแบบน้ีได้รับการทาโดยการใช้
ของเคร่ืองมือการก่อรูปขึ้น ดังเช่น ตัวตอกบานโลหะหรือตัวขยายท่อ วิธีการน้ีมีประสิทธิภาพในลดค่าใช้จา่ ย
ใช้ทารอยต่อจากการต่อท่อขนาดเดียว 2 ท่อเข้ากัน นอกจากท่อท้ัง 2 ท่อมีขาดเส้นรอบวงเดียวกัน ปลายท่อ
ข้างหนึ่งต้องถูกขยายออกเพ่ือทาเป็นปลอกท่อ ในท่ีน้ีปลายของท่ออื่นก็สามารถนาไปสวมใส่เข้าในได้ โดย
สุดท้ายทอ่ ไดร้ ับการบดั กรแี ขง็ เพ่อื ทาเป็นรอยต่อกันรวั่ ท่ีแขง็ แรง (ภาพที่ 6.6)
ความระมัดระวังต้องได้รับการเอาใจใส่เพ่ือทาให้มั่นใจว่าท่อไม่ได้รับการขยายออกมากเกินกว่า
ขนาดของช่องว่างที่กาหนดไว้สาหรับการบัดกรีแข็ง การตอกบานท่อและการขยายท่อ โดยทั่วไปจะใช้กับท่อ
ทองแดงชนิดอ่อน (ที่ได้รับการอบอ่อน) เท่าน้ัน กระบวนการทาให้เปลืองเวลาในการผลิตเนื่องจากท่อทองแดง
จะต้องถูกเตรียมสาหรับกระบวนการบัดกรีแข็งโดยการตัด การลบคมและการทาความสะอาดพ้ืนผิวอย่าง
ระมัดระวงั
สวมท่อดา้ นใน ท่อทตี่ อกบาน เพ่ือรอท่อสวมใส่
สวมทอ่ ด้านในทอ่ ท่ตี อกบาน เพ่ือเตรยี มเชือ่ มบัดกรีแขง็
เสน้ ขอบสุด (ดา้ นนอก) แนวเช่อื มที่เตมิ
ลวดเชือ่ มที่เติม
ทอ่ ภายใน ทอ่ ภายนอก
(ทส่ี วม) (ทตี่ อกบาน)
การจัดการใชส้ ารทาความเยน็ ท่ีติดไฟได้อย่างปลอดภัย 185
ภาพท่ี 6.6 หลกั การของการตอ่ บานท่อทองแดง
การบานท่อ
การขยายท่อ
ใชท้ ีจ่ บั บานท่อและตัวตอกบานทอ่ หรอื กรวยตอกบาน (ตามภาพท่ี 6.7)
จบั ยดึ ท่อทองแดงโดยทจี่ บั บานท่อ
สอดเขา้ ในตวั ตอกบานลงในรูทป่ี ลายของท่อทองแดงเพ่ือใหไ้ ดร้ บั การตอกบานท่อ
จดั ใหอ้ ยู่ตรงศูนย์กลางหรือปรับแนวแกนยาวของท่อทองแดงในตง้ั ตรงสมบรู ณ์
ใช้แรงตอกตวั ตอกบานด้วยค้อนลงในปลายท่อ เพื่อก่อรูปข้ึนรอยต่อทองแดง
รอยต่อการตอกบานท่อ สามารถทาได้ด้วยการใช้กรวยตอกตามรปู โลหะคล้ายกับการบานท่อ
เครอื่ งมอื
ทจ่ี บั บานทอ่ (ใช้จบั ทอ่ )
ตวั ตอกบานท่อ
ภาพท่ี 6.7 ตวั ตอกบานท่อ (ซ้าย) ภาพที่ 6.8 การใชเ้ ครื่องมอื ขันบานท่อทองแดง
และวธิ ที ่จี ับบานท่อทองแดง (ขวา) แทนวธิ กี ารใช้คอ้ นตอก
การบานท่อ
การทาให้ท่อบานออกเป็นวิธใี นการใช้เครอ่ื งบานท่อเพ่ือการเช่อื มต่อส่วนประกอบและงานท่อรอยตอ่
ท่ไี ดร้ บั การบานออก ควรทาใหค้ ลาดเคล่ือนน้อยที่สุด เน่อื งจากรอยต่อมแี นวโน้มมากขน้ึ ทจ่ี ะรั่วได้ การบานท่อ
การจัดการใชส้ ารทาความเยน็ ทต่ี ดิ ไฟได้อย่างปลอดภยั 186
ออก เพ่ือต้องการทาให้มีรูปร่างใหม่อีกคร้ังของปลายท่อ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับการตอกขยายท่อ ดูในบทท่ี 7
บนรอยต่อท่ีไดร้ บั การทาให้บานออก
การขยายท่อ
รอยต่อสามารถไดร้ บั การจดั เตรียมด้วยการใชข้ องเคร่ืองมือของเครื่องขยายออก ดังในภาพที่ 6.9
การขยายท่อ
เลอื กหวั ตัวบานท่อใหต้ รงตามเสน้ ผ่านศนู ย์กลางรอยตอ่ ท่อทต่ี อ้ งการขยาย
สอดเขา้ ในเครื่องขยายท่อและกดแกนโยกขยายท่อออก
เคร่อื งมอื
เครอ่ื งมือขยายท่อ (บานท่อ)
หวั ของเคร่ืองขยายท่อออกตามสน้ ผา่ นศูนย์กลางรอยตอ่ ทม่ี ีขนาดแตกตา่ งกัน
ภาพที่ 6.9 เครื่องขยายท่อทองแดง ภาพที่ 6.10 หวั ของเคร่อื งขยายทอ่ ทองแดง
และรอยต่อท่ีทอ่ ทองแดงขยายออกแล้ว
ภายหลังการตอกรูปโลหะหรือการขยายออก
รอยต่อทอ่ ทองแดง ทาใหม้ ่ันใจวา่ :
รอยต่อเรยี บร้อยและสะอาด
การจัดการใช้สารทาความเย็นทตี่ ดิ ไฟได้อยา่ งปลอดภัย 187
ช่องว่างสาหรบั การเจาะทะลุเป็นตาม
ขอ้ กาหนดความต้องการทีร่ ะบุดังแสดงในรูปท่ี A6.11
ภาพที่ 6.11 รอยต่อทีท่ ่อทองแดง
(ทีไ่ ด้รบั การตอกขยายออกแลว้ )
ปลอกท่อหรอื ท่อแยกที่ไดร้ บั การทาขึ้นดว้ ยมอื ต้องไดร้ บั การกระทาการอยา่ งเที่ยงตรงมากเพ่ือให้
ไดม้ าซึ่งชอ่ งว่างการบดั กรีแข็งทีย่ อมให้การทางานของคาปลิ ลารีงานบดั กรแี ข็ง
การเชอ่ื มต่อแบบน้ีไม่ได้รบั การยอมรบั ในการตดิ ตง้ั RACHP โดยการใชส้ ารทาความเย็นติดไฟ
การเช่อื มต่อแบบนี้ไม่ไดร้ บั การยอมรบั ในงานทอ่ กา๊ ซแอลพีจี การตดิ ต้งั น้ามันทาความร้อนและท่อก๊าซดว้ ย
6.2.4 การใช้ท่จี ับบานทอ่ สาหรบั การทาท่อวงจรสารทาความเย็น
ท่ีจับบานท่อได้รับการใช้ส่วนใหญ่มากๆ ของการออกแบบและการเชื่อมต่อท่อทองแดง ท่ีจับบานท่อ
สาหรบั การบดั กรแี ข็ง มีใช้งานในเชิงพาณชิ ย์และมีความแตกต่างระหว่างทจ่ี ับบานท่อสาหรับงานระบบท่อและ
วงจรการทาความเยน็ ท่ีจับบานท่อในงานระบบการทาความเย็นได้รับการผลิตโดยเฉพาะสาหรับอุตสาหกรรม
การทาความเย็นนี้และขึ้นอยู่กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้านนอกของท่อทองแดง/ระดับในการทาความเย็น
วสั ดุทม่ี ีคุณภาพของระดับในการทาความเย็น ควรใช้วัสดุทีดโี ดยเทยี บที่ความต้านทานแรงดนั และความสะอาด
เครอ่ื งหมายคุณภาพและการใหค้ ารบั รองท่ีมีอยู่
ถ้าจาเป็นต้องใช้ท่อทองแดงเช่ือมต่อกับอุปกรณ์กับการติดต้ังโดยใช้ข้อต่อเกลียว (เป็นตัวยึดจับ) ตาม
ความต้องการ ขอ้ ตอ่ เกลยี วโดยปกติตอ้ งทามาจากทองแดงท่ีมีสีแดงหรือทองเหลือง
ขนาดข้อต่อต้องพอดีในการจับยึด ตัวท่ีต่อผ่านและข้อต่อต้องได้รับการใช้สาหรับรอยต่อที่พอดีและต้อง
ระมัดระวังม่ันใจว่าระยะหา่ งระหว่างพ้ืนผิวของการประกอบจริง เป็นทไี่ ดย้ อมรับในการทางานของคาปิลลารี
การเช่อื มต่อโดยบดั กรีแขง็ ในการส่งถ่ายสารทาความเย็นกับการใช้สารทาความเยน็ ตดิ ไฟ ควรจะทา
ดว้ ยขอ้ ต่อที่ทามาจากทองแดง
การจัดการใช้สารทาความเย็นท่ีติดไฟได้อยา่ งปลอดภยั 188
6.3 ความปลอดภยั ภแาลพะทเค่ี 6ร.1่ือ2งขมอ้ อื ตท่อท่ีใชอง้ใแนดกงหาลราบกดหั ลการยีแบขบง็ ในงาน RACHP
6.3.1 ข้อกาหนดความต้องการความปลอดภยั
ขอ้ กาหนดความต้องการความปลอดภยั พ้นื ฐานในขณะงานการบัดกรีแขง็ รวมเข้าไว้ต่อไปน:ี้
การปอ้ งกันอุบัติเหตุ
ความปลอดภัยในสถานทปี่ ฏิบตั ิงาน
ความปลอดภยั ของสินคา้ และเครื่องมอื
ข้อระมดั ระวังทางอคั คภี ัยและกระบวนการเตือนภยั
การระบายอากาศที่เพยี งพอ
การอนญุ าตสาหรับการทางานในขณะที่มีความร้อน (ถา้ จาเปน็ )
6.3.2 อุปกรณป์ ้องกนั สว่ นบุคคล (พีพอี ี) ในขณะการบัดกรีแขง็
เมื่อกาลงั ทางานในการกระบวนการบัดกรีแขง็ ข้อระมดั ระวังทีค่ วรเอาใจใสเ่ พ่ือป้องกนั ส่วนที่เปิดเผย
นอกร่างกาย ที่ออกจากศีรษะ ลาตวั และเส้อื ผา้ ท่ีจะปกป้องจากความร้อนและเศษโลหะที่ร้อน โดยต้องสวมใส่
เส้อื ผา้ ที่ปกป้องอยา่ งเพียงพอ:
1. ควรสวมถุงมือเพื่อปกป้องต่อความร้อนและเศษโลหะท่ีร้อน ซ่ึงโดยปกติจะทาจากหนัง ท่ีเป็นตรา
สนิ ค้าทเี่ ป็นลขิ สทิ ธ์ๆิ ทมี่ อี ยู่วัสดุทตี่ า้ นทานความร้อนได้ ซึ่งเป็นท่ีรู้จกั ในนาม “เคฟลาร์ (Kevlar)”
2. การปกปอ้ งร่างกาย: บุคคลท่ีกาลงั ทางานควรสวมใสเ่ สื้อคลุมที่หน่วงเปลวไฟเมือ่ ใดทปี่ ฏบิ ัติสาหรับ
การทางานการบัดกรแี ขง็ การปกป้องบรเิ วณแขนเพม่ิ เตมิ อาจเป็นทีจ่ าเปน็ สาหรบั พ้ืนท่ีทางานจากดั
3. การปกป้องดวงตา: ทั้งนี้มีความจาเป็นเพ่ือปกป้องดวงตาต่อความร้อนและแสงจ้าซ่ึงอาจทาให้เกิด
ความล้าของดวงตา แต่ซ่ึงสาคัญมากขึ้นจากอนุภาคร้อนซึ่งลอยได้ ทั้งน้ีมีแว่นตาหลากหลายประเภทหรือใช้เป็น
แว่นตานริ ภัย ตามความพอใจของผทู้ างานและกิจกรรมทางสายตาย่อมมีอิทธพิ ลในการเลอื กของแต่ละบุคคล
4. หน้ากากปกป้องการหายใจ (สาหรับอนุภาคเล็กๆ) มีความจาเป็นสาหรับการปกป้องต่อระดับท่ีสูง
มากข้ึนของฝนุ่ ผงละเอยี ด หมอกและไอโลหะ การใช้หน้ากากท่มี ีความต้านทานการหายใจต่าและที่มีการลดลง
ของไอหมอกของแวน่ ตา หนา้ กากควรมีท่ีระบาย เพ่ือลดการสะสมของความรอ้ นลง
5. การปกป้องศีรษะและเท้า: ในพ้ืนที่ที่มีความเส่ียงทาให้บาดเจ็บจากวัตถุตกหล่นและการสัมผัสกับ
ช้นิ งานทรี่ อ้ น เปน็ ตน้ PPE ทัง้ สองรายการน้ี ควรต้องสวมใส่ทางาน
การจดั การใช้สารทาความเย็นทตี่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 189
6. พืน้ ทใี่ นงานการก่อสรา้ ง: เม่อื กาลงั ทางานในพ้นื ที่ในงานก่อสรา้ ง ทั้งนอี้ าจมคี วามจาเปน็ เพื่อจัดให้
มกี ารปกป้องจากภมู อิ ากาศ
ดบู ทที่ 2 สาหรับการสื่อสารที่มากขน้ึ กับความปลอดภัยสถานที่ทางานทัว่ ไป/อปุ กรณ์ป้องกันสว่ นบุคคล
6.3.3 เครื่องมือในการบดั กรีแข็ง (ตวั อยา่ ง)
อุปกรณ์เครื่องมือในการบัดกรีแข็งท้ังหมดซ่ึงประกอบรวมด้วยตัวปรับแรงดนั ตัวกันไฟย้อนกลับ สาย
เช่ือม หัวเชื่อม หัวพ่นและถังก๊าซ ควรจะได้รับการบารุงรักษาและได้รับการตรวจสอบโดยตรงตามมาตรฐาน
และข้อบังคับที่มีใช้งานอยู่ (ข้อบังคับแห่งชาติและระหว่างประเทศ) ทั้งคู่บนพ้ืนฐานรายวันและรายปี ผลของ
การตรวจสอบเหลา่ นี้ ควรไดร้ ับการบันทกึ และข้อมลู ในการบนั ทึกต้องไดร้ ับการเกบ็ รักษาไว้
ตวั อยา่ งสาหรบั เครื่องมือไดร้ ับการแสดงในภาพท่ี 6.13 ถึงภาพท่ี 6.18
อุปกรณ์ในงานบดั กรีแข็ง:
เพราะอุณหภมู กิ ารทางานทสี่ ูงข้นึ แหล่งความร้อนที่แตกตา่ งกันทใี่ ชส้ าหรับการบัดกรีแข็งมากกว่าการ
บดั กรอี ่อน ดังแสดงในตารางท่ี 6.4:
ตารางท่ี 6.4 ความแตกต่างของอปุ กรณ์การบดั กรแี ขง็
ออกซเิ จน-โพรเพน ออกซิเจน-อะซิทิลนี ออกซเิ จน-อะซิทลิ นี
สาหรับรอยต่อของท่อเล็ก ไม่น้อยกว่า สาหรับรอยต่อของทอ่ เล็ก ไม่ สาหรบั การบัดกรแี ข็งและการ
หรอื เท่ากับ 28 มม. นอ้ ยกว่าหรือเทา่ กับ 28 มม. เชอื่ มก๊าซของเสน้ ผ่าน
ทาใหป้ รบั ยากมากข้ึนทจี่ ะใช้ ศนู ยก์ ลางท้ังหมดที่ทาได้
มีประโยชน์สาหรับการใชง้ านบรกิ าร เพราะขนาดเปลวไฟใหญ่ขึ้น
สาหรบั การใชท้ ่ีโรงฝกึ งาน
แรงดันทางาน: มีประโยชนส์ าหรับการใช้งาน และพนื้ ทงี านก่อสรา้ ง
ออกซิเจน : 2.5 บาร์ การบริการ
โพรเพน: ~1.5 บาร์ แรงดนั ทางาน:
แรงดันทางาน: ออกซิเจน : 2.5 บาร์
อะเซทิลีน: 0.25 – 0.5 บาร์
อะเซทลิ ีน: ~0.5 บาร์
การจัดการใชส้ ารทาความเยน็ ที่ตดิ ไฟได้อยา่ งปลอดภัย 190
หวั เช่อื มการบัดกรีแข็ง ดว้ ยหัวพน่ :
ความเข้มของเปลวไฟได้รับการปรบั โดยขึ้นอยู่กับเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางท่อ สาหรับหัวพ่นของหัวเช่ือมท่มี ี
ขนาดแตกต่างกัน (หัวทอร์ช) สามารถเลือกได้ด้วย หัวพ่นท่ีเล็กๆ ก็ต้องใช้สาหรับเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กๆ
ทั้งน้ีมีหัวเชอ่ื มแบบฝักบวั ด้วย ซงึ่ ใชส้ าหรบั ในการช่วยกระจายความร้อนทดี่ ีขนึ้
ตัวจุดไฟด้วยหินจุดไฟ:
ตัวจุดไฟด้วยหินจุดไฟ สามารถจุดหัวเชื่อมที่ไม่เป็นเปลวไฟ ดังน้ันเปลวไฟนี้ควรใช้ตัวจุดไฟโดย
เฉพาะท่ีใช้เชิงพาณิชย์ เมื่อจุดเปลวไฟ วัตถุไม่ติดไฟโดยง่าย ควรไว้ในตาแหน่งท่ีใช้งาน และห้องนั้นควรได้รับ
การระบายอากาศ
วาลว์ สาหรับออกซเิ จน วาล์วสาหรับกา๊ ซเชื้อเพลิง
สายต่อออกซิเจน
ทีต่ ่อเปลี่ยนหัวเชือ่ ม มอื จับ สายต่อกา๊ ซเชือ้ เพลิง
ภาพท่ี 6.13 หัวทอร์ชเชื่อมสาหรับกา๊ ซเชอื้ เพลิงอะซิทีลนี หรือโพรเพน
ภาพที่ 6.14 หวั พ่นสาหรบั การบัดกรีแขง็ (เบอร์ 2-5) สาหรบั กา๊ ซเช้อื เพลิงอะซิทีลนี หรอื โพรเพน
การจัดการใช้สารทาความเย็นท่ตี ิดไฟได้อยา่ งปลอดภัย 191
ภาพที่ 6.15 หัวพ่นสาหรับการบดั กรแี ข็ง (ฝกั บวั ) สาหรับทอ่ ทองแดงขนาดใหญ่
และทใ่ี ช้ความร้อนสงู ที่ใช้กา๊ ซเชื้อเพลงิ อะซิทลี นี หรือโพรเพน
สายแรงดนั ขนาดกลาง จนถงึ 6 บาร์
เส้นผา่ นศนู ยก์ ลางภายใน 4 มม./4 มม.
ภาพท่ี 6.16 ชุดประกอบรวมของสายกับตวั กันไฟย้อนสาหรบั กา๊ ซเชื้อเพลงิ โพรเพนและออกซเิ จน
สายแรงดนั ขนาดกลาง จนถงึ 20 บาร์
เส้นผา่ นศนู ย์กลางภายใน 6 มม./6 มม.
ภาพท่ี 6.17 ชดุ ประกอบรวมของสายกบั ตวั กันไฟย้อนสาหรบั กา๊ ซเช้ือเพลิงอะซิทลี นี และออกซเิ จน
การจัดการใช้สารทาความเยน็ ทตี่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 192
6.4 ขนั้ ตอนภใานพกทา่ี ร6.ท18าบตัดวั จกดุ รไฟแี ดข้วง็ยหนิ จดุ ไฟ(แบบท่ัวไปและแบบปืน) กบั หินจดุ ไฟสารอง
6.4.1 การบดั กรีของกา๊ ซเฉื่อย (การบัดกรีแข็งด้วยก๊าซปอ้ งกนั -ด้วยก๊าซเฉื่อย)
การเกิดออกซิไดส์ของทองแดงต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดในขณะการบัดกรีแข็ง บนผิวด้านนอกของท่อ
ฟลกั ซจ์ ึงทามาเพ่ือใช้ในสิ่งนี้ ท่เี กดิ บนผิวด้านนอกของท่อ ในระบบ RACHP ชั้นฟลิ ม์ ทีต่ ้องถูกกาจัดออกจากผิว
ผนังข้างภายท่อสารทาความเย็นและน้ามันในขณะการทางาน เศษผิวปนเปื้อนอาจนาไปสู่ความเสียหายของ
ส่วนประกอบ เช่น คอมเพรสเซอร์ ท้ังน้ีทาให้เกิดการทางานอืดขึ้น เนื่องจากตัวกรองที่ต้องเปลี่ยนหรือต้องทา
ความสะอาดทไี่ มเ่ พยี งพอในระบบ
อีกทางหนึ่งของการหลีกเลี่ยงออกไซด์จากทองแดง (เรียกว่าเศษปนเปล้ือน) บนผนังด้านในของท่อ
และข้อตอ่ คอื ตอ้ งใช้ฉดี ลา้ งท่อดว้ ยก๊าซเฉือ่ ยในขณะทบี่ ดั กรแี ข็งเม่ือใดก็ตามที่เปน็ ไปได้ ทั้งนีก้ ารนาไนโตรเจน
แห้งที่ปราศจากออกซิเจน (OFDN) จะแทนท่ีออกซิเจนท่ีอยู่ในท่อ เพ่ือให้ออกซิเจนไม่สามารถทาปฏิกิริยากับ
ทองแดงได้ OFDN จะป้องกันความชืน้ เข้าไปในทอ่
ทั้งนี้ก๊าซเฉ่ือย(ซึ่งปกป้อง) ต่างๆ ดังเช่น ก๊าซที่มีตระกูลไนโตรเจน OFDN และสารผสมของก๊าซ
เหล่าน้ี ก๊าซซ่ึงก่อรูปข้ึน สารผสมของไนโตรเจน (ก๊าซเฉ่ือยชนิดหนึ่ง) และไฮโดรเจน ที่มีใช้งานเชิงพาณิชย์
สาหรับงานด้านความปลอดภยั ปรมิ าณไฮโดรเจนต้องไมม่ ากเกนิ คา่ สูงสุดของ 4% โดยปริมาตร
ดบู ทท่ี 5 หัวข้อ 5.3 สาหรับข้อมูลท่เี กี่ยวขอ้ งกับไนโตรเจนปราศจากออกซเิ จน
การบดั กรีแขง็ กบั กา๊ ซเฉ่ือย
ทาตามข้นั ตอนของการทาความสะอาด การใส่ฟลกั ซ์และการจับยึดชิ้นงาน
ขนั ยดึ ติดสายสาหรับ ไนโตรเจนแห้งที่ปราศจากออกซิเจน OFDN ประกอบเขา้ กบั ท่อ
ปรับอัตราการไหลให้ประมาณ 0.2 บาร์ ระมดั ระวงั เพ่ือเลี่ยงการสะสมแรงดนั ในท่อในขณะ
บดั กรแี ขง็ ส่งผลในรอยตอ่ ที่บัดกรแี ขง็ จะไมด่ ี ตรวจสอบโดยการอัดไนโตรเจนจ่มุ ลงในน้า
ถ้าเกดิ ฟองแสดงการไหลน้ันเพยี งพอและรบั ประกันวา่ ออกซิเจนไม่สามารถเขา้ สู่ท่อได้
ดาเนินกระบวนการบัดกรีแข็งตามคาสั่ง
ปดิ แหลง่ จา่ ย OFDN ภายหลังรอยตอ่ ทไี่ ด้รับการบดั กรีแข็งได้ผา่ นการทาให้เยน็ ลง การทา
ใหเ้ ยน็ ลงของรอยต่อท่ีได้รบั การบดั กรีแข็ง
การจดั การใชส้ ารทาความเย็นทตี่ ิดไฟได้อยา่ งปลอดภยั 193
เคร่ืองมอื
ถังกา๊ ซไนโตรเจนที่ปราศจากออกซเิ จน OFDN กบั อุปรณ์ปรบั แรงดนั
สายเช่อื มก๊าซ
การสง่ ก๊าซเฉ่อื ย(OFDN) ทอ่ ทองแดงและ
ขอ้ ต่อทบี่ ัดกรแี ข็ง
อดุ ข้อตอ่ ยางแลว้
ต่อกบั สายยาง
กา๊ ซเฉ่ือยไหลผา่ น
ท่ีทางอออก
ฟองอากาศ
ทีเ่ กิดขึ้น
ภาพท่ี 6.19 ตวั อย่างการเตรียมการบดั กรีแข็งร่วมกบั กา๊ ซเฉ่อื ย
เม่ือใช้สารทาความเย็นไฮโดรคาร์บอน ให้ใช้วธิ ี OFDN เพ่ือใหก้ า๊ ซเฉ่ือยในทอ่ น้ี
การบัดกรแี ข็งก๊าซเฉื่อยมีความสาคัญเพื่อเล่ยี งการเกิดออกซิไดส์ – อสิ ระในการเลือกใช้สารทาความเยน็
6.4.2 ขั้นตอนการบัดกรแี ข็ง
การจัดเตรียมเคร่ืองมือทจ่ี าเป็นท้ังหมดและการอนญุ าต ทาตาม 6 ข้นั ตอนที่สรปุ โดยย่อในภาพที่ 6.20:
ตัดท่อและทา ใส่ฟลักซ์ จับยดึ ชืน้ งาน การบัดกรแี ข็ง ทาใหเ้ ย็นลง ทาความสะอาด
ความสะอาด ฟลักซ์ส่วนเกนิ
ภาพที่ 6.20 ขั้นตอนการบัดกรีแข็ง
การจดั การใชส้ ารทาความเย็นทตี่ ิดไฟได้อย่างปลอดภัย 194
ขัน้ ตอนที่ 1 ตดั ท่อและทาความสะอาด
ตดั ทอ่ และทา ใส่ฟลักซ์ จบั ยดึ ชื้นงาน
ความสะอาด
การตดั ท่อทองแดง การบัดกรแี ข็ง ทาใหเ้ ยน็ ลง ทาความสะอาด
ฟลักซส์ ่วนเกิน
เทคโนโลยีต้ดแยกท่อท่ีไม่มีเศษโลหะ (โดยการไม่ตัด) และการเหลือเศษโลหะ (จากการตัด) เคร่ืองมือ
ตัดท่อเป็นเทคโนโลยีแบบตดั ท่ีไม่มีเศษโลหะและได้รับการเลือกใช้กับสารทาความเย็นติดไฟท่ีใช้งานและอาจมี
ใช้อยู่ท่ีพ้ืนที่ทางาน (โซนติดไฟช่ัวคราวอาจก่อตั้งข้ึน) (ดูบทที่ 4 หัวข้อ 4.5.3) เมื่อใช้เทคโนโลยีแบบผลิตเศษ
(ตวั อยา่ งเชน่ เลอื่ ยตดั ) ความระมัดระวังตอ้ งเอาใจใส่เพื่อกาจดั ออกเศษจากท่อหลังจากนั้น
เครือ่ งมือต่อไปนี้ใชส้ าหรับการตดั ท่อทองแดง:
เคร่ืองตัดท่อ
เล่ือยตดั ท่มี ชี ่องวา่ งเล็กๆ ระหวา่ งฟัน
ตวั อยา่ งไดร้ ับการแสดงในภาพท่ี 6.21 ถึง ภาพที่ 6.24
ภาพที่ 6.21 คัตเตอร์ตดั ท่อ 1/8 ถงื 5/8 น้วิ ภาพที่ 6.22 คตั เตอรต์ ัดท่อ 3/16 ถงื 7/8 นิ้ว
ภาพที่ 6.23 เลื่อยมือสาหรับตัดเหลก็ ภาพที่ 6.24 คัตเตอร์ตัดท่อ 1/8 ถืง 1 1/4 น้ิว
การทาความสะอาดทอ่ ทองแดง
ชั้นฟิล์มออกไซด์และสิ่งแปลกปลอม เชน่ สนมิ (ตัวยึดจบั เหล็ก) และเศษผงต้องกาจัดออกจากรอยต่อ
การบัดกรีแข็งก่อนทาการบัดกรีแข็ง มิฉะนั้นส่ิงดังกล่าวจะกันให้ลวดเชื่อมงานบัดกรีแข็ง เช่ือมไม่ติดจากการ
ตอ่ ช้นิ งานได้ เปน็ ไปได้ควรใชข้ องแปรงลวดและผ้า สกอ๊ ตไบซท์ าความสะอาดถ้าจาเปน็ วัสดุในท่อสามารถเป่า
การจัดการใช้สารทาความเยน็ ท่ตี ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 195
ออกด้วยไนโตรเจน OFDN ก่อนการประกอบและทาในขั้นตอนการบัดกรีแข็ง ท่อทองแดงที่จัดเตรียมสาหรับ
การขนสง่ ควรปดิ ผนกึ ดว้ ยฝาปิดหรือให้บีบทอ่ ขอ้ ต่อทใ่ี ชค้ วรจดั เก็บในกลอ่ งขนส่งหรอื ถงุ พลาสติกที่สะอาด
การทาความสะอาดท่อทองแดง
ความหนาของจาระบีหรือคราบน้ามนั สามารถเช็ดออกได้เป็นกรณพี ิเศษ เช่น สาหรบั สง่ิ ท่ีมผี ล
กับส่วนประกอบหรอื สิง่ ท่ีเป้อื นมากๆ ตัวทาละลาย เช่น อะซโิ ตน สามารถนามาใช้ได้
ชั้นฟลิ ์มออกไซด์สามารถขจัดออกไปได้ โดยใช้แปรงลวดหรือแผ่นทาความสะอาด
เศษผงและนา้ ยาล้างระบบตอ้ งขจดั ออก เชน่ การเป่าลา้ งออกจากท่อด้วยไนโตรเจน OFDN
สว่ นประกอบบางสว่ น ทีไ่ มจ่ าเปน็ ต้องทาความสะอาด
เครอื่ งมอื
แปรงลวด
รีมเมอร์ (ควา้ นลบคม)
แผน่ ทาความสะอาดทไ่ี มท่ าจากโลหะ, ขนแกะพลาสติก, ไม่มีเศษ
ไนโตรเจนปราศจากออกซเิ จน OFDN
ภาพท่ี 6.25 การลบคมดว้ ยท่ี ภาพท่ี 6.26 ทาความสะอาดผิว ภาพท่ี 6.27 การลบคมดว้ ยท่ี
ลบคมภายในและภายนอกท่อ ด้านนอกดว้ ยแผ่นทาความสะอาด
ลบคมแบบปากกา
การจดั การใช้สารทาความเยน็ ทต่ี ิดไฟได้อยา่ งปลอดภยั 196
ขน้ั ตอนทภี่า2พกทาี่ ร6ใ.ส2่8ฟลกกั าซร์ทาความสะอาด ภาพที่ 6.29 การทาความสะอาด
ภายในท่อด้วยแปรงลวด กอ่ นการประกอบการบัดกรแี ขง็
ตัดทอ่ และทา ใส่ฟลกั ซ์ จบั ยึดชืน้ งาน
ความสะอาด
การบดั กรีแขง็ ทาให้เย็นลง ทาความสะอาด
ฟลกั ซ์สว่ นเกนิ
ฟลักซ์ป้องกันพื้นผิวจากการเกิดออกซิไดซ์ในขณะการบัดกรีแข็ง สาหรับการเช่ือมต่อทองแดงกับ
ทองแดง (โดยขนึ้ อยกู่ บั ภารกจิ -งาน) ลวดเช่ือมทีป่ ระกอบดว้ ยฟอสฟอรัส (หรือเงนิ เช่อื ม) เป็นตัวเลอื กทหี่ นึ่ง
รอยต่อทไ่ี ด้รบั การบัดกรีแขง็ เสรจ็ ส้ิน การกาจัดฟลกั ซ์ทีเ่ หลือต้องขจัดออก การใช้ของแท่งลวดเชื่อมท่ี
เคลือบหรือมไี ส้ตรงกลางสามารถกันในการใชข้ องฟลักซใ์ นรปู แบบน้ายา ฟลักซ์สว่ นมากจะกดั กรอ่ นเลก็ น้อย
และเม่ือสัมผัสผวิ หนงั โดยเฉพาะกับแผล ควรได้รับการหลกี เลยี่ ง
การใสฟ่ ลกั ซ์
การใสฟ่ ลักซ์อยา่ งสมา่ เสมอที่ช้ินงานขณะที่เย็นดว้ ยแปรงก่อนการประกอบ เพ่ือทาให้มัน่ ใจวา่
การครอบคลุมของฟลักซ์นั้นจะสมบรู ณโ์ ดยตลอดรอยต่อของคาปิลลารี
ถา้ ฟลกั ซ์ในรูปแบบน้ายาต้องระมดั ระวงั ควรทจี่ ะกาจัดเศษของฟลักซ์จากดา้ นในวงจรสารทา
ความเย็น เนอื่ งจากเศษฟลักซ์สามารถส่งผลกระทบเชงิ ลบต่อสว่ นประกอบของคอมเพรสเซอร์
เครือ่ งมอื
แปรงทาฟลักซ์
ฟลักซ์
การจดั การใชส้ ารทาความเย็นที่ตดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 197
ภาพที่ 6.30 การใส่ฟลักซ์ ภาพที่ 6.31 ขอ้ ต่อทองเหลือง ภาพที่ 6.32 การบดั กรีแข็งกับข้อ
ตอ่ ทองเหลืองเข้ากับท่อทองแดง
ขน้ั ตอนที่
ขน้ั ตอนที่ 3 การจับยึดชน้ิ งาน
ตัดทอ่ และทา ใสฟ่ ลกั ซ์ จบั ยึดชน้ื งาน
ความสะอาด
การบัดกรีแข็ง ทาให้เย็นลง ทาความสะอาด
ฟลักซส์ ว่ นเกิน
ชิ้นสว่ นจาเป็นตอ้ งอยูน่ ง่ิ ๆ สาหรับการบดั กรีแข็งท่ีดี โดยเฉพาะเพื่อรักษาช่องวา่ งท่ีสม่าเสมอสาหรับ
การทางานของคาปลิ ลารีในเวลาเดยี วกนั รอยต่อของท่อท่ีบัดกรีแข็งตอ้ งสามารถเขา้ ถงึ ได้ด้วยแหลง่ ความร้อน
ลวดเชื่อมวสั ดุเตมิ และฟลกั ซ์ (ถา้ สามารถใชไ้ ด)้
การจับยึดชน้ิ งาน
ใช้เครือ่ งมือจับยึดชิน้ งานเพ่ือรกั ษารอยตอ่ ทอ่ ให้อยู่ในทส่ี าหรับการทาบดั กรีแขง็
กาหนดชอ่ งวา่ งการบดั กรีแข็งระหว่าง 0.02 มม. และ 0.5 มม. (เงื่อนไขกอ่ นหนา้ เปน็ ไปตาม
การใชข้ องอปุ กรณ์ยดึ จบั ท่ีทันสมัย)
เคร่อื งมอื
ปากกาจับสามขาหรือเคร่ืองมือทค่ี ลา้ ยกนั (ภาพท่ี 6.33)
อฐิ ทนไฟ
คมี และคีมล็อค
ปากกาจับชิน้ งาน
การจดั การใชส้ ารทาความเย็นทต่ี ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 198
ภาพท่ี 6.33 ตวั อย่างปากกาจับสามขากบั ตัวล๊อค ภาพท่ี 6.34 ตวั อยา่ งตัวลอ็ คท่อ
ข้นั ตอนสทาหี่ 4รบักการาบรตัดดิกตรัง้ีแงขาง็ นรทอ่อยตอ่ : การให้ความร้อนและการเตสมิาหลรวับดเกชาอ่ื รมตดิ ต้ังบนโต๊ะ
ตัดท่อและทา ใส่ฟลกั ซ์ จับยดึ ชื้นงาน
ความสะอาด
การบัดกรแี ขง็ ทาใหเ้ ยน็ ลง ทาความสะอาด
ฟลักซ์สว่ นเกนิ
การให้ความร้อนสาหรับการบดั กรีแข็งต้องให้เท่าถึงกับพ้ืนท่ีรอยต่อทั้งหมด เพื่อให้อุณหภูมิการบัดกรี
แข็งไปทั่วถึงเท่ากัน ลวดเช่ือมต้องหลอมเหลวและกระจายออก เพ่ือเช่ือมติดกับผิวโลหะช้ินงานภายในรอยต่อ
ต้องการระมดั ระวงั เอาใจใส่ หลกี เลย่ี งการให้ความร้อนมากเกินไปเฉพาะบางส่วน
การเตรยี มการ เรม่ิ ให้เปลวไฟ
ลาดับแรกให้เปดิ วาลว์ ออกซิเจนและต่อมาวาลว์ อะซที ิลีนเลก็ นอ้ ยบนมือจับและจดุ ไฟโดยทนั ที
การควบคุมวาลว์ อะเซทิลีนและปรับวาล์วออกซิเจนใหม่อีกคร้งั หนง่ึ ปรบั เปลวไฟให้ออ่ น
(เปลวไฟอะซีทลิ ีหรอื โพรเพนลดลงเล็กน้อย) โดยปรบั เป็นเปลวนวิ ตรอน
การบดั กรแี ข็งขึ้นอยู่กบั ขนาดของชิ้นงาน แรงดันการทางานของอปุ กรณท์ ใ่ี ชบ้ ดั กรีแขง็ โดย
กาหนดต้ังก๊าซออกซิเจนประมาณ 1.8 ถึง 2.5 บาร์และกา๊ ซอะซทิ ีลีน 0.2 ถึง 0.8 บาร์
เปลวไฟควรปรบั ลดลงเลก็ น้อย(ไม่ไฟแรงมา) ซึ่งหมายถึง การจ่ายออกซิเจนให้ต่าลง
ห้ามใชไ้ ฟแช็ก ซง่ึ มีความเสีย่ งกับการย้อนกลบั ของเปลวไฟหรือการระเบิดของไฟแช็ก เม่ือทาการ
บัดกรีแข็งกบั หวั เชื่อมอะเซทลิ ีน/ออกซเิ จน ความเสยี่ งการหลอมเหลวของวสั ดสุ งู มากเน่ืองจากอุณหภมู ิ
เปลวไฟท่สี ูงน่นั เอง กรณีนีร้ อยต่อของการบดั กรแี ขง็ จะไม่สามารถใช้ได้
กรวยกลาง
เปลวนวิ ตรอน
กรวยกลาง 199
เปลวรดี วิ ซ่ิง
การจดั การใช้สารทาความเยน็ ท่ีตดิ ไฟได้อยา่ งปลอดภยั
รูปการเผาไหม้คล้ายขนนก
ภาพที่ 6.35 ความแตกตา่ งของรูปร่างเปลวไฟในการบัดกรีแข็ง
การบดั กรแี ขง็
การจัดการใช้สารทาความเยน็ ที่ตดิ ไฟได้อยา่ งปลอดภัย 200
1. การใหค้ วามร้อนก่อนล่วงหน้า
ให้ความรอ้ นกอ่ นล่วงหนา้ กบั พนื้ ทที่ จ่ี ะบดั กรีแข็งทงั้ หมด วัตถปุ ระสงคค์ ือเพ่ือให้ทาความร้อน
ทั้งหมดของสว่ นทั้งคู่ (ส่วนสามส่วนสาหรบั ชิน้ รูปตวั ที) ซง่ึ ได้รับการบัดกรีแขง็
ให้ความรอ้ นทอ่ ภายในของรอยต่อท่ีจะไดร้ ับการบดั กรแี ขง็ เพื่อทาให้มนั่ ใจประสิทธิผลของ
ปรากฏการณ์ของคาปลิ ลารดี ้วย
2. ใหค้ วามร้อนไปยังอุณหภมู ิทางาน
ให้ความร้อนอย่างสม่าเสมอให้แตล่ ะรอยต่อเพื่อให้ไดร้ บั การบัดกรแี ขง็
หลีกเลยี่ งการให้ความร้อนมากเกนิ ไป ซ่งึ อาจหลอมเหลวท่ีผิวทอ่ อุณหภูมิการบัดกรีแข็งบน
ชิ้นส่วนควรได้รับการไปถึงในสงู ท่สี ดุ 3 นาทีสาหรบั ลวดเชือ่ มท่ีเติมการบัดกรแี ข็งที่ผา่ นการ
เลอื ก กรวยกลางภายในของเปลวไฟควรไม่สมั ผสั ช้ินงาน – โซนภายนอกเท่านัน้ อุณหภูมกิ าร
ทางานท่ีถกู ต้องได้รับการคงรักษาไว้ถ้ารอยต่อทจี่ ะได้รับการบดั กรแี ขง็ เป็นสแี ดงจากความร้อน
3. ใสล่ วดเชอ่ื มเติมในการบัดกรีแข็ง
ใสล่ วดเชอ่ื มเติมในการบัดกรีแข็งไปทเ่ี สน้ ตรงรอยต่อชิน้ งาน เมอ่ื ฟลักซ์หลอมเหลวกับชิ้นงาน
สม่าเสมอและอุณหภมู ิของการบัดกรแี ข็งทาให้สขี องชิ้นงานเปน็ สแี ดงเขม้
ต้องไมใ่ สเ่ ปลวไฟโดยตรงไปยงั แทง่ การบัดกรแี ข็ง – ให้อุณหภูมิของชน้ิ ส่วนหลอมเหลวลวดเชื่อม
ให้ความรอ้ นต่อไป ให้ชน้ิ ส่วนจนกระทั่งลวดเชอ่ื ม (แท่ง) หลอมเหลวและไหลลงในรอยต่อ
4. สน้ิ สดุ เส้นเชื่อมติดของรอยต่อ
ให้การทาความรอ้ นรอยต่ออย่างสม่าเสมอและเพ่มิ ลวดเช่อื มเติมปกหน้าการบดั กรแี ข็งเพ่ิมเติม
ระมดั ระวังการหลอมเหลวลวดเชอ่ื มทเ่ี ติมการบัดกรแี ข็งบนชน้ิ งานและไม่ใชใ่ นเปลวไฟ
5. ปดิ ชุดทาบัดกรแี ขง็
เมอ่ื ทางานเสรจ็ ใหป้ ดิ เปลวไฟ
ปดิ วาล์วท่อี อกจากออกซิเจนอันดบั แรกแล้วจงึ ปดิ ชดุ ทีท่ าบัดกรที งั้ หมด
•สาหรับการบัดกรแี ขง็ ข้อต่อวางแบบแนวตั้งเช่อื มจากด้านบนหรือปรับเป็นเชือ่ มจากล่างไปด้านบน
เมอ่ื ทาการบัดกรแี ข็งกับท่อท่ีมเี ส้นผ่านศนู ย์กลางขนาดใหญ่ แนวในการบัดกรีแขง็ ต้องทาโดยรอบ
และเติมลวดเช่อื มต้องหลอมเหลวลงในโซน
ตอ้ งดแู ลไมใ่ ห้มผี นุ่ (อนุภาค)ติดอยใู่ นชอ่ งท่ีบัดกรีแขง็ ถ้าเป็นไปได้, หลังจากกระบวนการบัดกรแี ข็ง,
ควรใชไ้ นโตรเจนปราศจากออกซิเจนล้างภายในท่อดว้ ย (อนุภาคทตี่ ดิ อยู่ในท่อ จะถูกเป่าออก)
การจดั การใช้สารทาความเยน็ ทีต่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภยั 201
ภาพที่ 6.36 สีการบัดกรีเมอ่ื ใหค้ วามร้อนมากไป(ซ้าย) สีที่ถูกต้องและสม่าเสมอ (ขวา)
ภาพท่ี 6.38 การเตมิ ลวดเช่อื ม
เครือ่ งมือ
แว่นตานริ ภยั และถุงมือ (หนา้ กากสาหรับอนุภาคท่ีละเอยี ด)
ชุดบัดกรีแข็ง
ลวดเชือ่ ม
ทจ่ี ุดไฟดว้ ยหินจดุ ไฟ
ขนั้ ตอนที่ 5 การทาให้เยน็ ลง
ตดั ทอ่ และทา ใส่ฟลกั ซ์ จบั ยดึ ชนื้ งาน
ความสะอาด
ทาความสะอาด
การจัดการใช้สารทาความเย็นที่ตกดิ ารไบฟดั ไกดร้อีแขยง็ า่ งปลอดภทาัยใหเ้ ย็นลง ฟลกั ซ์ส่วนเกิน 202
ชิ้นงานการบัดกรีแข็งทาให้เย็นลงที่อากาศโดยรอบ
จนกระท่ังโลหะบัดกรีแข็งได้ผ่านการแข็งตัว ห้ามเขย่ารอยต่อ
ในขณะกระบวนการบัดกรีแข็ง เน่ืองจากรอยต่อต้องใช้เวลาเพ่ือ
กลายเป็นของแข็งเมื่อรอยต่อนั้นเย็นลงจากอุณหภูมิ ท่ีจุด
หลอมเหลวของรอยต่อ เศษเขมา่ สามารถกาจัดออกจากส่วนติดได้
ภายหลงั
ภาพท่ี 6.39 การเยน็ ตวั ของรอยต่อ
ข้นั ตอนท่ี 6 การทาความสะอาดฟลกั ซ์ส่วนทีเ่ กินและความไมบ่ รสิ ุทธิ์อื่นๆ
ตัดทอ่ และทา ใส่ฟลักซ์ จบั ยดึ ช้ืนงาน
ความสะอาด
ทาใหเ้ ยน็ ลง ทาความสะอาด
การบดั กรีแข็ง ฟลักซส์ ว่ นเกิน
ฟลักซ์ท่ีเกินที่กัดกร่อนต้องได้รับการกาจัดออกภายหลังการบัดกรีแข็ง ด้วยน้าหรือโดยเชิงกล
ตวั อยา่ งเชน่ ด้วยแปรงหรอื ผา้ ช้นื
ช้ันฟิล์มออกไซด์การบัดกรีแข็งและอนุภาคแปลกปลอมต้องได้รับการกาจัดออกจากพ้ืนผิว
(ตัวอยา่ งเชน่ ดว้ ยการใชข้ องแปรงลวด)
รอยตอ่ ที่ไดร้ ับการบดั กรแี ข็งอย่างถกู ต้อง ดเู รียบและสะอาดและไม่ตอ้ งทางานใหมอ่ ีกคร้งั
6.4.3 คุณภาพของรอยต่อการแลน่ ประสาน ส่ิงที่หา้ มทา
สิ่งท่ีต้องทา
203
การจัดการใชส้ ารทาความเย็นทต่ี ดิ ไฟได้อยา่ งปลอดภยั
สวมใส่อุปกรณ์ปกปอ้ งสว่ นบุคคลที่เหมาะสมสม่าเสมอ หา้ มทาบดั กรีแข็งภายในระยะใกล้จากสายถา่ ยโอนกา๊ ซซง่ึ เผาไหมห้ รือ
ออกซเิ จน
ก่อนกิจกรรมการบัดกรแี ข็งใดๆ ตรวจสอบอปุ กรณ์สาหรับความ
เสียหาย ห้ามให้ความรอ้ นมากเกนิ ที่รอยต่อการบัดกรีแขง็
ไลไ่ นโตรเจนออกเมือ่ การบดั กรีแข็งเมอื่ ใดก็ตามท่ีทา หา้ มใชล้ วดเชื่อมเติมบดั กรีแข็งซ่งึ มอี ุณหภูมิใกล้กับอณุ หภมู ิ
หลอมเหลวของโลหะที่เชือ่ ม
ทาตามคาสงั่ ของผู้ผลติ สาหรับการบัดกรแี ขง็ ในชิน้ สว่ น – ตัวอย่างเชน่
เพือ่ ปกปอ้ งวาล์วบรกิ ารด้วยผ้าเปียกหรอื วัสดซุ ึ่งลดความร้อนลง ไมอ่ นุญาตให้ฟลักซ์เจาะทะลุลงในการจดั เตรียมท่อภายใน
หรอื ไม่ใช้ผ้าเปียกสาหรบั วาลว์ ขยายออกทเ่ี จาะจง
ตรวจสอบวา่ มีเคร่อื งมอื ถกู ต้องและวสั ดุ (ตัวอย่างเช่น ลวดเชือ่ ม หา้ มทางานในสภาพแวดลอ้ มสกปรก
ฟลกั ซ)์ สาหรบั ชนดิ ท่ีการเช่ือมตอ่ แตกตา่ งกนั
หา้ มใชง้ านอุปกรณ์ชุดบัดกรแี ข็งท่ีมคี วามเสยี หายทม่ี องเหน็ ได้ (สาย
ทาความรอ้ นชน้ิ การเชอื่ มต่ออย่างสมา่ เสมอ และเครื่องมือ)
หา้ มใชพ้ ืน้ ผวิ โลหะที่ไม่สะอาดสาหรับการกอ่ ข้ึนรูปรอยต่อ
รกั ษาไวช้ อ่ งวา่ งตา่ ท่สี ดุ ระหวา่ งรอยต่อ ห้ามใชอ้ งค์ประกอบของฟลกั ซท์ ี่ผดิ ทไี่ มเ่ หมาะสาหรบั โลหะซง่ึ กาลังใช้
ใชท้ ่อสะอาด กาจดั ออกความคม ห้ามคลุมพน้ื ท่ีของพ้ืนผิวดว้ ยฟลักซอ์ ยา่ งสมบูรณ์กอ่ นการเรมิ่ ขึน้ ของ
กระบวนการบดั กรีแขง็
ใชแ้ ผ่นปกป้องความร้อนถา้ สามารถใชไ้ ด้ ห้ามประกอบรอยตอ่ ในตาแหนง่ ทีผ่ ดิ ทีม่ กี ารปรับแนวผดิ พลาดสาหรับ
กระบวนการแล่นประสาน
ใช้ตวั ยึดจับทองแดงเชิงอุตสาหกรรมเพอ่ื ใหไ้ ด้มาซงึ่ ผลลัพธ์ดีทสี่ ดุ
การปรบั เปลวไฟหวั เชื่อมทไี่ ม่ถูกต้องนาไปสู่การสะสมของคารบ์ อน
ทาความรอ้ นให้ทอ่ เปน็ ลาดับทหี่ นงึ่ เพอื่ นาความร้อนสดู่ ้านในตวั ยึดจบั หรอื ทาใหเ้ กดิ การออซิไดสท์ ม่ี ากเกนิ
ตอ่ มาทาใหม้ ัน่ ใจวา่ ตวั ยดึ จับไดไ้ ปถึงอุณหภูมแิ ละเปลวไฟไดร้ บั การ
นาไปสูต่ ัวยึดจบั ห้ามท้ิงไวท้ อ่ ท่ีไมไ่ ดร้ ับการใช้/ยังไม่เสร็จ เปดิ สู่บรรยากาศ (ปิดด้วย
โดยสุดท้ายการทาบัดกรีแข็งไมค่ วรยาวนานมากกวา่ 5 นาที (ซึง่ ข้นึ อยู่ เตา้ เสียบทเี่ หมาะสม)
กบั ขนาดของชนิ้ งาน) สาหรับอปุ กรณ์เฉพาะ ให้ทาตามคาสง่ั การตดิ ตงั้
ของผผู้ ลิต หา้ มจดั เกบ็ วัสดุทอ่ ทองแดงและตัวยดึ จบั ด้วยกนั กับวสั ดุอืน่ ๆ
ใชก้ ารยึดตดิ ชน้ิ งานไวเ้ สมอ (ถ้าสามารถใช้ได้) สิง่ นท้ี าให้กระบวนการ
ของการบัดกรแี ขง็ งา่ ยมากขน้ึ ด้วย ห้ามทิ้งฟลกั ซ์สว่ นเกินเนือ่ งจากสงิ่ นสี้ ามารถนาไปสูร่ อยต่อทอี่ อ่ นแอ
ฝากลวดเชือ่ มทนั ทีถัดจากรอยต่อ เพอื่ ใหว้ สั ดไุ ม่กระจายออกเหนอื เนือ่ งจากวสั ดฟุ ลกั ซ์มีแนวโนม้ กัดกร่อน
พ้ืนผวิ ขา้ งนอก แต่ไหลโดยตรงลงในรอยตอ่
คงรกั ษาไว้การไหลเวียนอากาศที่สถานท่ีทางาน
ทาให้ไดก้ ารอนญุ าตของการทางานและแจง้ บคุ คลท่ีได้รับการเชอื่ มโยง
กับงานนนั้
กาจดั ออกฟลกั ซ์สว่ นเกนิ ภายหลังกระบวนการแล่นประสานเสร็จ
สมบูรณ์
6.5 การใหค้ าภราพบั ทร่ีอ6ง.4ค0วตาวั มอยส่าางมรอายรตถอ่ ขกาอรงบผดั กูบ้ รดั ีแกข็งรทแี ดี่ ขี (็งซ้าย) และรอยต่อทไ่ี ม่ดี (ขวา)
การจดั การใชส้ ารทาความเยน็ ทตี่ ดิ ไฟได้อย่างปลอดภัย 204
ข้อบังคับระหว่างประเทศ ISO 13585-2012 (ซ่ึงแทนท่ี EN 13133-2000) อธิบายข้อกาหนดความ
ตอ้ งการสาคัญสาหรับคุณสมบัติผู้ทาบัดกรีแข็งและและเป็นข้อกาหนดและเง่ือนไขของรายการ เกณฑก์ ารสอบ
กระบวนงานการตรวจสอบและพื้นทีข่ องการประยุกต์ใชส้ าหรับการให้คารับรองการทดสอบความสามารถของ
ผบู้ ดั กรีแขง็
ความสามารถของการบัดกรีแข็งท่ีต้องการนั้นปรับเปลี่ยนตามงานในส่วน RAC ซ่ึงแตกต่างกัน
(ตัวอย่างเช่น การทาความเย็นของซุปเปอร์มาร์เก็ต เครื่องปรับอากาศหรือขึ้นอยู่กับลักษณะท่ีทางานด้วย
ตัวเองได้) ดงั นัน้ ผผู้ ลติ และหนว่ ยงานที่ตดิ ตง้ั อาจต้องประยกุ ตใ์ ช้งานะและข้อกาหนดความต้องการการทดสอบ
ตวั อยา่ งผู้สอบบัดกรีแข็งโดยเป็นแบบฉบับและเกณฑ์การสอบ แสดงในภาพท่ี 6.41 และภาพที่ 6.42
ภาพท่ี 6.41 ภาพของ “ตวั อย่างการทดสอบผู้บดั กรีแขง็ ” สาหรับการใหค้ ารบั รองผ้บู ัดกรีแข็ง
ภาพท่ี 6.41 ตวั อย่างการทดสอบผู้บดั กรแี ขง็ ในเชิงปฏิบตั ิ รวมการดัดโคง้ และการบานท่อ
การจดั การใช้สารทาความเยน็ ท่ตี ิดไฟได้อย่างปลอดภยั 205