หนา ที่ 1
สรุปการเรยี นรหู ลักสูตรการอบรมพ่เี ลยี้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนา ที่ 2
รายงานผลการอบรมหลักสตู รพ่เี ลย้ี งวิชาการดวยระบบทางไกล
ของคณะครโู รงเรียนอนุบาลชยั ภูมิ อําเภอเมืองชยั ภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
ระดับประถมศึกษาตอนตน (หนู หนู กับ Zoo ใหม)
ระหวางวันท่ี 28 – 30 มีนาคม 2562
ณ สํานักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมชัยภูมิ เขต 1
ของ
นายธัชวุฒิ กงประโคน
ตาํ แหนง ครู อันดบั คศ.2
วิทยฐานะ ครูชาํ นาญการ
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภูมิ
สํานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
สรปุ การเรยี นรูหลกั สูตรการอบรมพเี่ ล้ียงวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนาที่ 3
บันทึกขอ ความ
สว นราชการโรงเรียนอนุบาลชัยภมู ิ อาํ เภอเมือง จงั หวัดชยั ภูมิ
ที่ วนั ที่ เดอื น พ.ศ. 2562
เรือ่ ง รายงานผลการอบรมหลักสตู รพเ่ี ลย้ี งวิชาการดวยระบบทางไกล ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน
(หนู หนู กับ Zoo ใหม) ประจาํ ปก ารศึกษา 2562
เรยี น ผอู ํานวยการโรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
ดวยขาพเจา นายธัชวุฒิ กงประโคน ตําแหนง ครู อันดับ คศ.2 วิทยฐานะ ครูชํานาญการ
ไดจัดทํารายงานผลการอบรมหลักสูตรพ่ีเลี้ยงวิชาการดวยระบบทางไกล ระดับประถมศึกษาตอนตน
(หนู หนู กับ Zoo ใหม) ประจําปการศึกษา 2562 ระหวางวันท่ี 28-30 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ณ
สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ซ่ึงจากเขารวมอบรมดวยระบบทางไกลมี
รายละเอียดการแลกเปลย่ี นเรยี นรเู พอ่ื เพมิ่ พนู ประสบการณและองคความรใู นประเด็นดังตอไปนี้
1) เสวนาการจดั กจิ กรรมสะเต็มศึกษา
2) กิจกรรมสงสยั ใครรู เร่อื ง หาฉันใหเ จอ
3) กิจกรรมสงสยั ใครร ู เรอื่ ง จ๊ิกซอวหรรษา
4) กิจกรรมคนดเู รง เสาะหา เร่อื ง วางแผนการเดินทาง
5) กิจกรรมคน ดูเรงเสาะหา เรอ่ื ง พชื และสัตวร อบตัวเรา
6) กจิ กรรมคนดเู รง เสาะหา เรื่อง บริเวณท่ีพืชและสัตวอาศยั อยู
7) กจิ กรรมคน ดูเรงเสาะหา เร่ือง ถุงเครอื่ งเขียน
8) กจิ กรรมคน ดเู รง เสาะหา เร่อื ง นับดูรูจํานวน
9) กจิ กรรมคน ดูเรง เสาะหา เร่ือง ไดโนเสารท่ีหนคู ิดถึง
10) กิจกรรมแกปญหาอยางวศิ วกร กจิ กรรมหนหู นกู บั Zoo ใหม
11) กจิ กรรมMentoring
อน่ึงในการประชุม สัมมนาทางวิชาการในคร้ังน้ี ถือเปนการพัฒนาตนเองในอีกรูปแบบหน่ึง
และเปนการสรางชุมชนแหงการเรียนรูทางวิชาชีพ(PLC) โดยใชเวลาในการพัฒนาตนเองและยกระดับ
ความรูความสามารถใหมีประสิทธิภาพเพ่ิมขึ้น จํานวน 3 วัน รวมทั้งส้ิน 18 ช่ัวโมง ซ่ึงขาพเจาจะนํามา
พัฒนานักเรียนในโรงเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา องคกร และสรางชุมชนแหงการเรียนรูทาง
วิชาชีพ (PLC) ทีม่ คี ุณภาพตอไป
บัดนไี้ ดด ําเนินการจดั ทําเสร็จส้ินเรียบรอยแลว จงึ เสนอรายงานผลการประชมุ สัมมนาทางวิชาการ
และการมอบรางวลั ฯ ตามท่ีแนบมาดว ยน้ี
จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณา
ลงชอื่ ..………………………….……………….
( นายธชั วฒุ ิ กงประโคน )
สรุปการเรียนรูหลกั สตู รการอบรมพ่ีเลีย้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 4
ผูร ายงาน
ความเห็นของหัวหนากลุมงานวิชาการ
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ...............................................
(นางจีรนันท ปุมพิมาย)
ความเหน็ ของรองผูอํานวยการกลุมงานบรหิ ารวิชาการ
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ...............................................
( นางนวพร รกั ขนั แสง )
ความเหน็ ของผูอาํ นวยการโรงเรียนอนุบาลชัยภูมิ
...............................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ...............................................
( นายใบบุญ บุญทน )
สรปุ การเรียนรูห ลกั สตู รการอบรมพ่ีเลีย้ งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาที่ 5
สรุปการเรียนรูหลกั สูตรการอบรมพเ่ี ลี้ยงวิชาการดว ยระบบทางไกล
ของคณะครโู รงเรยี นอนุบาลชัยภูมิ อําเภอเมอื งชัยภูมิ จังหวัดชยั ภูมิ
ระดับประถมศกึ ษาตอนตน (หนู หนู กบั Zoo ใหม)
ระหวางวนั ที่ 28 – 30 มีนาคม 2562
ณ สํานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมชัยภมู ิ เขต 1
ผเู ขารบั การอบรม
1. นายธัชวุฒิ กงประโคน ตําแหนง ครู สาขาวิทยาศาสตรศ กึ ษา
2. นางสาวสายไหม ใจดี ตาํ แหนง ครู สาขาคณิตศาสตร
3. นางอารยา วสุธนรัตนสกลุ ตําแหนง ครู สาขาคอมพิวเตอร
โรงเรยี นอนุบาลชัยภูมิ
สาํ นกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาชยั ภมู ิ เขต 1
สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
สรปุ การเรยี นรูหลักสตู รการอบรมพี่เลยี้ งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนาท่ี 6
ครูพีเ่ ลี้ยงประจําศนู ยก ารอบรม ผูเ ขารับการอบรมครดู ว ยระบบ
ทางไกลสะเตม็ ศึกษา การอบรมครูดว ยระบบทางไกลสะเต็ม
ศกึ ษา ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน (หนหู นกู บั Zooใหม)
ระหวางวนั ที่ 28-30 มีนาคม 2562
ณ สาํ นักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมชยั ภูมิ เขต 1
ขอมูลครพู เี่ ล้ยี งประจาํ ศนู ย
ช่ือ-สกุล นายธชั วุฒิ กงประโคน
ตําแหนง ครู
วิทยฐานะ ครูชาํ นาญการ
สาขา วิทยาศาสตรศ กึ ษา(ศษ.ม.)
โทรศพั ท 085-004-0991
อีเมล [email protected]
Facebook Krukan Thusshawoot
ID Line thukon
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอมูลครูพ่เี ล้ยี งประจาํ ศนู ย
ชื่อ-สกุล นางสาวสายไหม ใจดี
ตาํ แหนง ครู
วทิ ยฐานะ อนั ดบั คศ.1
สาขา คณิตศาสตร(คบ.)
โทรศัพท 089-580-5471
อเี มล [email protected]
Facebook Saimai jaidee
ID Line Saimai
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอมูลครูพเ่ี ลยี้ งประจําศนู ย
ชื่อ-สกุล นางอารยา วสธุ นรตั นส กลุ
ตําแหนง ครู
วิทยฐานะ ครชู ํานาญการ(คบ.)
สาขา คอมพิวเตอร
โทรศัพท 081-876-7671
อีเมล [email protected]
Facebook ครูเก อารยา อนบุ าลชัยภูมิ
ID Line Dakdaeaya18
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
สรุปการเรียนรหู ลักสตู รการอบรมพี่เลย้ี งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชัยภมู ิ
หนาท่ี 7
ครพู ี่เลย้ี งประจําศูนยก ารอบรม ผเู ขา รับการอบรมครดู วยระบบทางไกล
สะเตม็ ศึกษา การอบรมครดู วยระบบทางไกลสะเต็มศึกษา ระดับ
ประถมศกึ ษาตอนตน (หนหู นูกบั Zooใหม)
ระหวา งวันที่ 28-30 มนี าคม 2562
ณ สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมชัยภมู ิ เขต 1
เอกสารประกอบการอบรม
สรุปการเรยี นรูห ลักสูตรการอบรมพี่เลย้ี งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนาท่ี 8
กาํ หนดการการอบรมครูดว ยระบบทางไกลสะเต็มศกึ ษาสําหรับครูพีเ่ ลีย้ งประจําศนู ยการอบรม
ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน (หนหู นกู บั Zooใหม)
ระหวางวนั ท่ี 28-30 มนี าคม 2562
ณ สํานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมชยั ภูมิ เขต 1
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันท่ี เวลา กจิ กรรมการอบรม
วนั ท่ี 1 09.00 – 09.20 น. พบผอู าํ นวยการ สสวท.
ของการอบรม 09.20 – 10.00 น. เสวนาการออกแบบกิจกรรมสะเต็มศึกษาสกู ารนําไปใชใ น
หอ งเรยี น
10.00 – 11.00 น. กจิ กรรมสงสยั ใครร ู เร่ือง หาฉันใหเจอ
11.00 – 12.00 น. กิจกรรมสงสยั ใครรู เรอ่ื ง จิ๊กซอวห รรษา
13.10 – 14.00 น. กิจกรรมคนดเู รง เสาะหา เรอ่ื ง วางแผนการเดินทาง
14.00 – 15.00 น. กิจกรรมคน ดเู รงเสาะหา เรอื่ ง พชื และสตั วรอบตัวเรา
15.00 – 16.00 น. ทบทวนบทเรยี น
วนั ที่ 2 09.00 – 10.00 น. กิจกรรมคน ดเู รง เสาะหา เรอื่ ง บรเิ วณท่พี ืชและสัตวอ าศัยอยู
ของการอบรม 10.00 – 11.00 น. กิจกรรมคน ดเู รงเสาะหา เรื่อง ถุงเครื่องเขยี น
11.00 – 12.00 น. กจิ กรรมคนดเู รง เสาะหา เร่ือง นบั ดูรจู ํานวน
กิจกรรมคนดูเรงเสาะหา เรือ่ ง ไดโนเสารท่หี นูคิดถงึ
13.10 – 15.00 น. กิจกรรมแกปญ หาอยางวิศวกร กิจกรรมหนูหนูกบั Zoo ใหม
15.00 – 16.00 น. ทบทวนบทเรียน
วนั ท่ี 3 09.00 – 10.30 น. กจิ กรรมแกปญหาอยา งวิศวกร กจิ กรรมหนูหนูกบั Zoo ใหม
ของการอบรม 10.30 – 12.00 น. กิจกรรมแกปญ หาอยางวิศวกร กจิ กรรมหนหู นกู บั Zoo ใหม
13.10 – 14.00 น. ทําโครงงานสะเต็มศึกษา
14.00 – 15.00 น. ทดสอบ
วางแผนการนําไปใช
1. วิเคราะหตวั ชี้วัดของแตละวิชา
2. วิเคราะหชุดกจิ กรรมสะเต็มศกึ ษา
3. วางแผนการนําไปใชในหองเรียน
4. จัดลาํ ดบั ของแตล ะกิจกรรมให สอดคลอง เชอื่ มโยงกนั
การนําไปใช
1. ครูแตล ะวชิ านาํ กิจกรรมท่เี กีย่ วขอ งไปสอนในคาบเรยี นปกติ
2. จัดกิจกรรมการเรยี นรูใหบ รรลตุ ัวชีว้ ดั ของแตล ะวชิ า และทา ทายดวยปญ หาเชิงสะเต็มศึกษา
สรปุ การเรียนรูหลกั สตู รการอบรมพี่เล้ยี งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภมู ิ
หนาท่ี 9
สรุปความรทู ไี่ ดจากการอบรม
เสวนาการจัดกจิ กรรมสะเตม็ ศกึ ษา
จดุ เดน ของกิจกรรมสะเต็มศึกษา
1. กิจกรรมไดรับการออกแบบ พัฒนา ทดสอบและปรับปรุงเพ่ือใหสามารถนําไปใชไดจริงใน
หอ งเรียน
2. สามารถพัฒนาความรูและทักษะตาง ๆ ของผูเรียนไดอยางเหมาะสมตามวัย ภายใตการ
ชว ยเหลือของผูส อน
3. กระตุนการคิดและแกปญหาโดยใชความรูคณิตศาสตร วิทยาศาสตร เทคโนโลยี และอ่ืน ๆ
รว มกับกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม อันนําไปสูการพัฒนาตอยอดจากการเรยี นรูของผเู รยี นอยาง
เตม็ ศักยภาพ
4. ฝง การประเมินระหวางเรยี น เพ่ือพัฒนาการเรียนรูของผเู รยี นตลอดกระบวนการเรยี นรู
5. มคี วามยืดหยุนในการนําไปใชใ นสถานศึกษา ตามมาตรฐานการเรยี นรูและตัวชี้วัด กลุมสาระ
การเรียนรูคณิตศาสตร วิทยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน
พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
6. การเชื่อมโยงสูอาชีพ ใหผูเรียนไดรูจักอาชีพท่ีตองใชความรูคณิตศาสตร วิทยาศาสตรและ
เทคโนโลยี และสรา งแรงบันดาลใจและเปาหมายในการมงุ สูอ าชพี
รปู แบบของชุดกจิ กรรมสะเต็มศึกษา ปการศึกษา 2562
1. สงสัยใครรู
เปนการเร่ิมตนการเรียนรูของผูเรียน ผานกิจกรรมตางๆ เพ่ือจะนําผูเรียนเขาสูบรรยากาศท่ี
เก่ียวของกับชุดกจิ กรรมนั้น เชน เทคโนโลยีที่เคยใช อาชีพในปจจุบัน ผูเรียนจะไดเ ก็บเกี่ยวแนวคิดดาน
S M T จนนําไปสสู ถานการณป ญ หาทอี่ ยูในสว นทา ยสดุ ของชุดกิจกรรม
2. คน ดูเรงเสาะหา
เปน สวนของการเรยี นรูแ นวคดิ พ้ืนฐานดาน S M T ตามท่รี ะบใุ นตัวชีว้ ัดของแตละกลุมสาระ ใน
หลกั สตู รแกนกลาง
3. แกปญ หาอยา งวศิ วกร
เปนการทาทายใหผูเรียนนําความรู S M T มาใชแกปญหาเชิง STEM ดวยกระบวนการ
ออกแบบเชิงวิศวกรรม ทั้งนี้อาจตองลงมือปฏิบัติเพ่ิมเติม เพ่ือไดแนวคิดที่จําเปนตองใชแกปญหาตาม
เง่ือนไข ที่กําหนด แนวคิดเพิ่มเติมนี้สามารถเรียนรูไดตามวัย ของผูเรียน และไมเกินจากหลักสูตรมาก
นกั
สรุปการเรยี นรูห ลกั สตู รการอบรมพ่เี ลีย้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนา ที่ 10
การออกแบบเชิงวิศวกรรม
จุดเดนที่ชัดเจนขอหน่ึงของการจัดการเรียน
การเรียนรูแบบสะเต็ม คือการผนวกแนวคิดการ
ออกแบบเชิงวิศวกรรมเขากับการเรียนรูวิทยาศาสตร
คณิตศาสตร และเทคโนโลยี ของผูเรียน กลาวคือ
ในขณะที่นักเรียนทํากิจกรรมเพ่ือพัฒนาความรู ความ
เขาใจ และฝกทักษะดานวิทยาศาสตร คณิตศาสตร
และเทคโนโลยี ผูเรียนตองมีโอกาสนําความรูมา
ออกแบบวิธีการหรือกระบวนการเพื่อตอบสนองความ
ต อ ง ก า ร ห รื อ แ ก ป ญ ห า ท่ี เก่ี ย ว ข อ ง กั บ
ชีวิตประจําวัน เพื่อใหไดเทคโนโลยีซ่ึงเปน
ผลผลิตจากกระบ วนการออกแบ บ เชิง
วิศวกรรม (NRC, 2012) กระบวนการออกแบบเชิง
วิศวกรรมประกอบดว ยองคป ระกอบ 6 ข้นั ตอน ไดแ ก
1.ระบุปญหา (Problem Identification)
เปนการทําความเขาใจปญหาหรือความทาทาย วิเคราะหเง่ือนไขหรอื ขอจํากัดของสถานการณ
ปญ หา เพื่อกําหนดขอบเขตของปญ หา ซึง่ จะนําไปสกู ารสรางชิน้ งานหรือวิธกี ารในการแกป ญ หา
2.รวบรวมขอมูลและแนวคดิ ทเี่ กี่ยวของกับปญหา (Related Information Search)
เปน การรวบรวมขอมลู และแนวคิดทางวิทยาศาสตร คณิตศาสตร และเทคโนโลยีท่ีเกยี่ วของกับ
แนวทางการแกปญ หาและประเมนิ ความเปน ไปได ขอ ดีและขอ จาํ กัด
3.ออกแบบวธิ ีการแกป ญ หา (Solution Design)
เปนการประยุกตใชขอมูลและแนวคิดที่เกี่ยวของเพ่ือการออกแบบชิ้นงานหรือวิธีการในการ
แกป ญ หา โดยคํานึงถงึ ทรัพยากร ขอ จาํ กัดและเงื่อนไขตามสถานการณท่ีกําหนด
4.วางแผนและดําเนินการแกป ญหา (Planning and Development)
เปนการกําหนดลําดับข้ันตอนของการสรางช้ินงานหรือวิธีการ แลวลงมือสรางช้ินงานหรือ
พัฒนาวิธกี ารเพ่ือใชใ นการแกป ญ หา
5.ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไขวิธีการแกป ญหาหรือช้ินงาน (Testing, Evaluation and
Design Improvement)
เปนการทดสอบและประเมินการใชงานของชิ้นงานหรือวิธีการ โดยผลท่ีไดอาจนํามาใชในการ
ปรับปรงุ และพัฒนาใหมปี ระสทิ ธภิ าพในการแกปญหาไดอยางเหมาะสมที่สดุ
6.นําเสนอวธิ ีการแกปญ หา ผลการแกปญหาหรอื ช้นิ งาน (Presentation)
เปนการนําเสนอแนวคิดและข้ันตอนการแกปญหาของการสรางช้ินงานหรือการพัฒนาวิธีการ
ใหผูอ ่นื เขา ใจและไดขอเสนอแนะเพ่ือการพฒั นาตอ ไป
สรุปการเรยี นรูห ลกั สตู รการอบรมพี่เลย้ี งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนา ที่ 11
เน้อื หาทีเ่ กีย่ วของ
การวางแผนการทาํ งานอยางเปน ขน้ั ตอน
การจาํ แนกประเภทของสง่ิ ตางๆ
บริเวณท่สี ัตวและพชื อาศยั อยู
แผนภูมริ ูปภาพ
สรุปการเรยี นรูหลกั สูตรการอบรมพ่เี ลี้ยงวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
กิจกรรม หนาท่ี 12
รายละเอียดการจดั กจิ กรรม
สว นที่ 1 สงสัยใครร ู
สง่ิ ทไี่ ดจากการเรยี นรใู นกจิ กรรมนค้ี อื
นักเรยี นไดฝ กเปรยี บเทียบความเหมอื นความตา งของสง่ิ ของ
ตางๆ สามารถอานแผนผังเพ่ือจําแนกประเภทส่งิ ของตางๆ
และสามารถบอกประโยชนของการจาํ แนกประเภทสิ่งของ
ตางๆได ซึ่งกิจกรรมน้นี กั เรยี นไดฝก ทักษะท่จี าํ เปนขน้ั
พืน้ ฐานเบอ้ื งตนในการสํารวจตรวจสอบส่ิงของใกลตัวเพื่อ
จาํ แนกใหไดต ามสถานการณท่ีกาํ หนดไว
สิ่งทไ่ี ดจ ากการเรยี นรูในกิจกรรมนี้คอื
นกั เรียนไดฝ ก เปรียบเทียบความเหมอื นความตา งของส่งิ ของ
ตางๆ สามารถแกป ญ หาโดยใชก ารจาํ แนกประเภทและระบุ
เกณฑท่ใี ชใ นการจาํ แนกตามทักษะท่ีไดเ คยฝกเมื่อกจิ กรรม
ทแี่ ลงนอกจากน้สี ามารถแกไ ขปญ หาโดยการแสดงลาํ ดับ
ขั้นตอนอยางงา ยเพื่อท่จี ะนําทกั ษะเหลานี้ไปประยกุ ตใชใ น
กจิ กรรมถัดไปหลังจากนัน้ จึงใหน กั เรยี นบอกประโยชนข อง
การจําแนกประเทภของสง่ิ ตางๆจากกจิ กรรมและพยายาม
เช่ือมโยงกบั ชีวติ ประจําวันของนักเรยี นอีกดวย
สรปุ การเรียนรูหลกั สตู รการอบรมพเ่ี ลี้ยงวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
กิจกรรม หนา ท่ี 13
รายละเอียดการจัดกจิ กรรม
สว นท่ี 2 คน ดูเรงเสาะหา
สิง่ ท่ีไดจ ากการเรียนรูในกจิ กรรมนีค้ ือ
ในกจิ กรรมนีน้ ักเรียนไดฝก แกปญ หาโดยแสดงลําดบั ข้นั ตอน
ทช่ี ดั เจนและครบถว นตามเง่ือนไขท่ีกําหนดใหโดยนําแผนผัง
แสดงจดุ เริ่มตนและใหนกั เรยี นรว มกนั คิดและวางแผนแสดง
ลําดับข้ันตอนตามเงื่อนไขใหส ้ันและรวดเร็วท่สี ดุ และครบ
ตามเงอื่ นไงทีว่ างไว จากนนั้ ฝกใหน กั เรียนไดแลกเปล่ยี น
เรียนรูถึงวิธีการวางแผนของตนเองและเพ่ือนๆกลมุ อื่นๆ
และชว ยกนั สาํ รวจตรวจสอบความเปนไปไดรวมกัน
จากกิจกรรมดังกลา วฝก ใหนักเรยี นรูจังวางแผนและนํา
เง่ือนไขท่ีกําหนดมาแสดงวธิ ีการท่เี หมาะสมเพ่ือตอบปญ หา
สถานการณน ้นั ๆได
หลงั จากทไ่ี ดศกึ ษากจิ กรรมแลว ตอ งแสดงลําดบั ข้นั ตอนลง
ในบัตรคําส่งั ใหถูกตอง
สรุปการเรียนรูหลกั สูตรการอบรมพีเ่ ลย้ี งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชัยภมู ิ
กิจกรรม หนาที่ 14
รายละเอียดการจดั กิจกรรม
ส่ิงท่ไี ดจากการเรียนรูในกิจกรรมนคี้ อื
ในกจิ กรรมน้ีนักเรียนไดฝกทักษะเชน เดมิ เชน เดยี วกันกับ
กิจกรรมแรกกอนหนา น้ีแตเ พิ่มเติมถงึ เงื่อนไขท่ซี บั ซอนข้ึน
สรา งความทา ทายและฝกการคิดและวางแผนมากขึ้น ดวย
การกาํ หนดระยะทางที่สนั้ ท่สี ุด
หลงั จากทไ่ี ดศึกษากจิ กรรมสรางสถานการณต ามคําสั่งท่ี
กาํ หนดใหแลว นักเรยี นจะตอ งแสดงลําดับข้ันตอนลงใน
บตั รคาํ ส่งั ใหถูกตอง
สง่ิ ทไ่ี ดจากการเรยี นรูในกจิ กรรมน้คี ือ
ในกิจกรรมน้นี ักเรียนไดฝ ก ทักษะเชน เดิมเชนเดียวกนั กับ
กิจกรรมแรกกอนหนาน้ีแตเ พ่ิมเติมถงึ เงอื่ นไขทซี่ บั ซอนขึน้
สรา งความทาทายและฝกการคิดและวางแผนมากขึน้
สรุปการเรียนรหู ลกั สตู รการอบรมพเี่ ลย้ี งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
กิจกรรม หนา ที่ 15
รายละเอยี ดการจัดกจิ กรรม
หลังจากทีไ่ ดศึกษากจิ กรรมสรางสถานการณต ามคําส่งั ที่
กาํ หนดใหแ ลว นักเรยี นจะตองแสดงลําดบั ขัน้ ตอนลงใน
บัตรคาํ ส่งั ใหถูกตอง
สงิ่ ทีไ่ ดจากการเรยี นรูในกจิ กรรมนคี้ ือ
ในกิจกรรมนีน้ ักเรยี นไดฝกทักษะการสังเกตเพ่ือสาํ รวจและ
บอกชื่อพืชและสัตวท่ีอาศัยอยูใ นบรเิ วณทีก่ าํ หนด และบอก
สภาพแวดลอ มท่ีเหมาะสมตอ การดํารงชีวติ ของพชื และสตั ว
ในแตละบริเวณท่ีสาํ รวจ ซึ่งนักเรยี นตองออกไปเรยี นรนู อก
หอ งเรยี นครจู ึงจาํ เปน ตอ งชี้แจง กฎ กติกาในการทํา
กจิ กรรมและการทาํ กิจกรรมนอกหองเรียนใหช ัดเจนเพื่อให
นักเรยี นมุงประเด็นเฉพาะการสาํ รวจในส่ิงทไี่ ดรบั มอบหมาย
ใหน น้ั ทนั ตามเวลาที่กาํ หนดไว
นกั เรียนไดฝ ก สํารวจและวาดภาพประกอบการสงั เกตซึ่งจะ
ชวยฝก ใหน ักเรยี นเปน ผูเกบ็ รายละเอียดและรวบรวมขอมลู
ทีด่ ีในระดับข้นั พื้นฐานและนาํ ส่งิ ที่ไดจ ากการสาํ รวจน้ไี ป
แลกเปลย่ี นเรียนรรู ว มกนั ในช้ันเรียนและประมวลผลดวย
การบอกหรอื อธบิ ายสภาพแวดลอมทีเ่ หมาะสมตาม
ความคิดเหน็ ของตนเองกับเพื่อนๆในชน้ั เรียนได
สรปุ การเรยี นรูหลกั สูตรการอบรมพี่เล้ยี งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภมู ิ
กจิ กรรม หนาท่ี 16
รายละเอียดการจัดกิจกรรม
ส่งิ ทไี่ ดจ ากการเรยี นรูในกจิ กรรมน้ีคือ
หลังจากท่ีไดกจิ กรรมกอนหนาน้ีแลว นน้ั ในกิจกรรมนี้
นักเรียนไดฝกทกั ษะการสังเกตสิ่งแวดลอ มและระบุช่ือพืช
และสตั วท อ่ี าศัยอยูในส่ิงแวดลอมนั้นๆ บอกสภาพแวดลอม
ทเ่ี หมาะสมตอ การดํารงชวี ิตของพืชและสัตวใ นแตล ะบรเิ วณ
นั้น บอกผลของการเปลย่ี นแปลงสภาพแวดลอมในแหง ท่ีอยู
ตอ การดํารงชีวิตของพชื และสัตวท ีอ่ าศัยอยูในบรเิ วณนัน้ ๆ
และยงั สรางความตนื่ เตนดว ยการใช AR มาเปน สวนหน่ึง
ของการเรยี นรนู ้ี ซ่งึ แสดงใหเ หน็ วา สามารถนําเทคโนโลยีมา
ชวยสงเสริมการเรยี นรูแ ละสรางแรงบนั ดาลใจในการเรยี นรู
ของผเู รยี นไดเ ปน อยางดี
นักเรยี นไดฝ ก สาํ รวจ สังเกตสัตวท ีอ่ ยใู นสภาพแวดลอมท่ี
กาํ หนดใหแลวนาํ มาประมวลผลสรปุ เปน ขอ มูลตามแนวทาง
ท่ไี ดว างไวใ นระดบั เบื้องตน
ภาพ AR จระเขและนกแกว ท่ีชว ยสงเสรมิ การเรียนรขู อง
ผูเรยี น ซึ่งจะชว ยใหน กั เรยี นเกดิ ความเขา ใจมากยงิ่ ขึน้ วา
สัตวแตล ะชนดิ มคี วามแตกตางกันและอาศัยอยใู น
สภาพแวดลอมท่ีแตกตางกันเพอ่ื ใหส ามารถดํารงชีวติ ได
อยา งเหมาะสม
ภาพวาดและระบายสีกอนสองดูภาพ AR
สรุปการเรยี นรหู ลักสูตรการอบรมพ่ีเลยี้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภมู ิ
กจิ กรรม หนา ที่ 17
รายละเอียดการจัดกจิ กรรม
ภาพ AR ปลานีโม และลงิ ทช่ี วยสง เสรมิ การเรียนรขู อง
ผเู รียน ซ่งึ จะชวยใหน ักเรยี นเกดิ ความเขาใจมากย่งิ ขน้ึ วา
สัตวแ ตละชนดิ มคี วามแตกตา งกันและอาศัยอยใู น
สภาพแวดลอ มท่ีแตกตางกนั เพ่อื ใหสามารถดํารงชวี ิตได
อยา งเหมาะสม
ภาพวาดและระบายสกี อนสอ งดภู าพ AR
ภาพ AR หมีแพนดา ท่ีชว ยสงเสรมิ การเรียนรูของผเู รยี น ซง่ึ
จะชว ยใหน กั เรียนเกิดความเขาใจมากยิง่ ขึน้ วา สตั วแตล ะ
ชนดิ มีความแตกตางกันและอาศยั อยใู นสภาพแวดลอมท่ี
แตกตางกนั เพื่อใหสามารถดํารงชีวติ ไดอยา งเหมาะสม
ภาพวาดและระบายสกี อนสอ งดภู าพ AR
ส่ิงทไ่ี ดจ ากการเรยี นรูใ นกิจกรรมนี้คอื
ในกิจกรรมน้นี ักเรยี นไดฝ ก ทักษะการจําแนกสงิ่ ของออกเปน
ประเภทตา งๆ ตามเกณฑทก่ี าํ หนดข้นึ และบอกจาํ นวนของ
สิ่งของแตละประเภท ซึ่งเรมิ่ จากกจิ กรรมงายๆดวยการนาํ
ของใกลตัวมาจดั จําแนก ดว ยการต้งั คําถามถงึ ส่งิ ที่
เหมือนกนั และแตกตา งกันพรอมทงั้ นับจาํ นวน เปรียบเทียบ
และนําขอมูลท่ีไดน้นั มาบนั ทึกผลลงในตารางเพือ่ แสดงให
เห็นภาพของขอมลู ที่ไดจดั กระทาํ มากยงิ่ ข้นึ
สรปุ การเรียนรูห ลักสูตรการอบรมพ่ีเลยี้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชัยภมู ิ
กจิ กรรม หนาที่ 18
รายละเอยี ดการจัดกิจกรรม
ตารางบันทกึ ผลขอมูลของการนับจํานวนยางลบ โดย
นักเรียนไดรว มกนั สงั เกตและจาํ แนกขอมูลรวมกันภายใน
กลมุ ถึงสิง่ ที่เหมือนกันและแตกตา งกนั พรอมท้ังนับจาํ นวน
เปรยี บเทียบและนาํ ขอมูลทีไ่ ดนัน้ มาบนั ทกึ ผลลงในตาราง
เพอื่ แสดงใหเหน็ ภาพของขอมูลทีไ่ ดจัดกระทํามากย่ิงขึ้น
ตารางบนั ทกึ ผลขอมูลปากกาและดินสอ ซงึ่ เปน ส่ิงทใี่ ชเขยี น
ทมี่ รี ูปรา งลกั ษระทแ่ี ตกตางกัน นักเรยี นไดรวมกันสังเกต
และจําแนกขอมูลรว มกนั ภายในกลุม ถงึ สิ่งที่เหมือนกนั และ
แตกตางกันพรอมทงั้ นับจาํ นวน เปรียบเทยี บและนําขอ มูลที่
ไดน น้ั มาบนั ทกึ ผลลงในตารางเพื่อแสดงใหเ ห็นภาพของ
ขอ มูลที่ไดจัดกระทาํ มากยิ่งขึ้น
ส่ิงท่ไี ดจ ากการเรยี นรูในกิจกรรมนี้คอื
หลงั จากท่ีไดเรยี นรทู กั ษะเบ้ืองตนเก่ยี วกับการจัดกระทาํ
ขอ มลู ในกจิ กรรมท่ผี า นมานั้น ในกจิ กรรมนี้นักเรียนไดฝก
ทกั ษะเพ่ิมเตมิ จากการจาํ แนกสงิ่ ของออกเปน ประเภทตา งๆ
ดวยการนาํ เสนอขอมลู ท่ีกําหนดใหใ นรปู ตาราง จากการ
จาํ แนกสงิ่ ของออกเปน ประเภทตา งๆและจากการนบั ซ่ึงใน
กิจกรรมนี้พยายมเนน ย้ําซา้ํ ทวนดวยการนาํ เสนอ
สถานการณที่หลากหลาย
สรปุ การเรยี นรูห ลกั สตู รการอบรมพีเ่ ลีย้ งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
กจิ กรรม หนา ท่ี 19
รายละเอียดการจดั กิจกรรม
นกั เรียนไดฝก การนับจาํ นวนลูกปลาสตี างๆ แสดงวธิ กี ารนับ
และเปรยี บเทียบ
การฝกการนับจํานวน จะเรมิ่ จากส่ิงที่ใกลต วั และคอยๆเพ่ิม
ความซับซอนใหม ากยิง่ ขึ้น
นักเรยี นไดฝกการนบั จํานวนแมลงชนดิ ตา งๆ แสดงวิธีการ
นบั และเปรียบเทียบ
สิ่งทไ่ี ดจากการเรียนรใู นกจิ กรรมน้ีคือ
ในกจิ กรรมนนี้ ักเรียนไดฝ กทักษะในดานการอานขอมลู ท่ี
นําเสนอดว ยแผนภูมริ ปู ภาพ สามารถนาํ เสนอขอ มลู ดว ย
แผนภูมิรูปภาพ โดยใชขอมูลและรูปภาพที่กําหนดให ใช
ขอ มูลจากแผนภูมริ ูปภาพในการหาคาํ ตอบของโจทยปญ หา
เมอ่ื กําหนดรปู 1 รปู แทน 1 หนว ย
ซึง่ สง่ิ ทเี่ นนยํ้าในการจัดทาํ แผนภูมิรปู ภาพกับนักเรยี นนั้นคือ
ตองตัง้ ชื่อแผนภมู ิใหถ ูกตอง กําหนดชือ่ สง่ิ ที่ตองการ
นําเสนอ และจํานวนขอมูลลงในตารางใหถูกตอง
และกาํ หนดขอ กําหนดเพ่อื แทนจํานวนของสิ่งท่ตี องกา
นาํ เสนอในแผนภมู ิรูปภาพ
สรปุ การเรียนรหู ลกั สตู รการอบรมพเี่ ลยี้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
กิจกรรม หนา ท่ี 20
รายละเอียดการจดั กิจกรรม
ในกจิ รรมนจ้ี ะเริ่มตน จากตั้งคําถามจากรูปภาพที่วางรปู สัตว
ใหไ มต รงกันเพ่ือใหนักเรียนสังเกต เพื่อจะนาํ ขอมลู น้นั ไป
สรปุ ใหไ ด การจดั วางตาํ แหนงขอมลู ใหตรงกนั เพื่อใหง า ยตอ
การนบั และจัดกระทําขอมูล
ซึ่งนอกจากนใ้ี นการจดั ทําขอ มลู ในรูปแบบของแผนภูมิ
รูปภาพไมจ าํ เปนตอ งใสร ปู แทนจาํ นวนสิ่งของหรือสตั วกไ็ ด
ขอใหเราสามารถระบุชอ่ื สิ่งของหรือสตั วน ้ันใหตรงตาํ แหนง
แลว ใชสัญลกั ษณอ่ืนระบุจาํ นวนไดเชนเดยี วกนั
ฝก ใหนักเรียนนบั จํานวนไดโนเสารแลว นําขอมูลที่นบั ไดล ง
ในแผนภมู ริ ปู ภาพ โดยตอ งกําหนดช่ือแผนภูมิรูปภาพและ
กาํ หนดหนวยใหถ กู ตอ ง
ฝกใหน กั เรยี นศึกษาแผนภูมิรูปภาพและทําการตอบคําถาม
ที่กาํ หนดใหใหถกู ตอง
ซึ่งสงิ่ ทตี่ อ งการใหน ักเรียนสังเกตแผนภูมิรปู ภาพนี้คอื การ
กําหนดชื่อสัตวอ าจจะวาดรูปหรือเขยี นเปน ขอความก็ได
และจาํ นวนสตั วท ่พี บในตารางจะใชว ธิ กี ารวาดภาพสัตวช นดิ
น้นั ๆเพ่ือแสดงจํานวนสตั ว และจะตองวาดใหตําแหนง
ตรงกนั เพ่ือใหงายในการนับและเปรียบเทยี บขอมูล
สรปุ การเรยี นรูหลักสตู รการอบรมพี่เลย้ี งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภมู ิ
กจิ กรรม หนาท่ี 21
รายละเอียดการจดั กจิ กรรม
ฝกใหนกั เรยี นศึกษาแผนภูมิรูปภาพและทําการตอบคําถาม
ทีก่ าํ หนดใหใ หถูกตองเชนเดียวกนั กับแบบฝกหดั ชุดท่ี
แลว แตเ พ่ิมความซบั ซอนใหมากยิ่งขึ้น
ซ่งึ สิ่งทตี่ อ งการใหนักเรียนสงั เกตแผนภมู ริ ูปภาพนี้คอื การ
กาํ หนดชือ่ ส่ิงของทตี่ องการจําแนกพรอมวาดรูปประกอบ
และจํานวนของสงิ่ ของที่พบในตารางจะใชวธิ ีการวาดภาพ
โดยใชส ญั ลกั ษณชนิดเดียวกัน แตท าํ คนละสีเพ่ือใหสังเกตได
งา ยขึน้ และยังคงตองจดั ใหสญั ลกั ษณท ี่กาํ หนใหนัน้ วางให
ตาํ แหนงตรงกันเพ่ือใหงา ยในการนบั และเปรียบเทยี บขอมูล
อกี ทั้งแผนภูมิดงั กลา วยงั สามารถทาํ ไดท ัง้ ในแบบแนวตง้ั
และแนวนอน
คําถามทา ยแผนภมู กิ จ็ ะมีความซับซอ นและแสดงถงึ
ความสมั พันธของขอ มูลมากยิ่งขน้ึ ฝกใหน กั เรียนคิดและ
เปรียบเทียบขอมูลเชงิ สถติ ิ คิดวิเคราะห สงั เคราะหข อมลู
ออกมาอยางมเี หตุมีผล โดยยึดขอมลู ในแผนภมู เิ ปน หลัก
สวนที่ 3 แกป ญหาอยางวิศวกร
สิ่งท่ไี ดจ ากการเรียนรใู นกิจกรรมน้คี ือ
นักเรียนไดฝกทกั ษะการสังเกต สํารวจ สามารถบอกชือ่ พชื
และสตั วท ่อี ยูในบริเวณตางๆ ได และยงั สามารถบอก
สภาพแวดลอ มทีเ่ หมาะสมตอ การดาํ รงชีวติ ของพชื และสัตว
ในแตละบรเิ วณที่อาศยั อยูไดวามคี วามสัมพนั ธก นั อยา งไร
นอกจากนีน้ กั เรยี นสามารถจัดพืชและสัตวใหอยูในบรเิ วณที่
มีสภาพแวดลอมที่เหมาะสมตอการดาํ รงชีวติ ซง่ึ ในการ
ดาํ เนนิ กจิ กรรมสรางสวนสตั วน ้ันนกั เรยี นไดฝ ก แกป ญหา
โดยการแสดงลําดับขน้ั ตอนที่ชัดเจนและครบถว นตาม
เงอื่ นไข แกปญหาในสถานการณท ีก่ าํ หนดใหโ ดยใชแ ผนภูมิ
รปู ภาพ ดําเนนิ การวิเคราะหสถานการณปญ หา ออกแบบ
สรปุ การเรียนรหู ลกั สูตรการอบรมพ่ีเลี้ยงวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชัยภมู ิ
กิจกรรม หนาที่ 22
รายละเอียดการจดั กจิ กรรม
และนําเสนอแนวทางการแกปญหา ทดสอบ ปรับปรุง แกไ ข
และประเมนิ ความสาํ เร็จของผลงานของตนเองได
นกั เรยี นฝกทักษะการฟง จากเรอื่ งทคี่ รูอา นใหฟงจากนัน้
ดาํ เนนิ การตามคาํ สง่ั ท่ีปรากฏในใบกจิ กรรมเพื่อจะนําไปสู
การสรา งสวนสตั วต อ ไป
แสดงทศิ ทางการเดนิ ภายในสวนสัตวและมีจุดชมสัตวช นดิ
ตา งๆ ซ่ึงนักเรยี นจะตองฝกวางใหถกู ตองตามแนวทางของ
แบบฝกหดั นี้
สรปุ การเรยี นรูหลักสูตรการอบรมพ่ีเล้ยี งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
กจิ กรรม หนาที่ 23
รายละเอียดการจัดกิจกรรม
แสดงทิศทางการเดินภายในสวนสัตวแ ละมีจดุ ชมสตั วช นดิ
ตา งๆซ่ึงนักเรียนจะตองฝกวางใหถกู ตองตามแนวทางของ
แบบฝก หัดน้ี
หลักจากท่นี ักเรียนไดวางแผน ออกแบบและสรา งสวนสตั ว
ของกลุมตนเองแลว น้นั ในการตรวจสอบการสรางสวนสตั ว
เพ่ือใหไ ดรูปแบบเดียวกันจงึ จําเปน ตองสรางแบบวัดตาม
รายละเอยี ดจากขอมลู ที่กาํ หนด
สรุปการเรียนรูหลกั สูตรการอบรมพ่เี ลี้ยงวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
กิจกรรม หนา ท่ี 24
รายละเอยี ดการจัดกจิ กรรม
นกั เรยี นดาํ เนนิ การวางแผนและสรางสวนสัตวโ ดยตอ งวาง
แผนผังการเดนิ ทางตั้งแตทางเขา และทางออกใหถูกตอง
และจะตองมจี ุดชมววิ สัตว และสตั วท่ีพบในสวนสตั วต อ งมี
มากกวา 10 ชนิดขนึ้ ไป จากน้ัน นกั เรียนจดั สภาพแวดลอม
ใหเ หมาะสมกับสัตวเหลานน้ั ใหส ามารถอยูในสวนสัตวไ ด
อยางเหมาะสมปลอดภัยอีกทั้ง สัตวแตล ะชนดิ นน้ั หาก
สามารถอยูบรเิ วณเดียวกันหรือสภาพแวดลอมเดยี วกนั ได
จะตองจัดวางตําแหนง อยางไร นกั เรยี นจะตองฝกวิเคราะห
และสรางสวนสัตวออกมาแลว นาํ สวนสตั วท่ไี ดสรางข้นึ มา
น้ันออกมานาํ เสนอแลกเปลย่ี นเรยี นรภู ายในช้นั เรียนตอไป
ปญ หาและอุปสรรค
1) อปุ กรณสาํ หรับการฝก อบรมของศูนยที่รบั ผิดชอบยังมาไมถึง ตอ งไปขอรรวมทาํ กิจกรรมกบั
ศูนยอ ่นื
2) ระบบการถายทอดสญั ญาณเครือขา ยตดั ขัดในบางคร้ัง แตดขี น้ึ กวา ครง้ั แรกเม่ือปท ่ผี านมา
ขอเสนอแนะ
1) ครพู เ่ี ล้ยี งประจาํ ศูนย ในแตล ะระดับชัน้ ควรมีโอกาสรวมกนั สรางความเขาใจในเรือ่ งของ
ระดับชน้ั อนื่ ๆดว ยเพอ่ื นาํ ไปชวยเหลือกนั ในชวงท่ีรับมอบหมายใหเ ปน ครูพ่ีเลีย้ งฝกอบรมครู
ประจาํ ศนู ย
2) ควรมีการอัพโหลด VDO การอบรมหลังจากอบรมเสร็จในแตละวนั เพอื่ ใชใ นการทบทวน
3) ควรเพิม่ เติมชุดฝก อบรมสําหรบั ครูพเี่ ล้ียงอีก 1 ชุด นอกเหนือจากชดุ ฝก อบรมสาํ หรับครู
4) การสรุปความรใู นแตละวันนอกจากจะใหค ุณครูแตละภาคไดมีสว นรวมในการสรุปแลวทาง
วทิ ยากรสวนกลางควรมกี ารสรุปเนนยํา้ ดวยอีกคร้ังหนึ่งเพื่อใหขอมลู ที่ไดไมกวา งหรอื จบั
ประเด็นไมไ ดจ นเกินไป
สรุปการเรียนรหู ลกั สูตรการอบรมพ่ีเลี้ยงวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนา ที่ 25
ขอ มูลประกอบการศกึ ษาเพิ่มเตมิ
การคิดเชิงคํานวณ (computational thinking)
การคดิ เชิงคํานวณ (computational thinking) คือกระบวนการแกปญหาในหลากหลาย
ลักษณะ เชน การจดั ลําดับเชิงตรรกศาสตร การวเิ คราะหขอมูล และการสรางสรรคว ธิ ีแกป ญหาไปทีละ
ข้นั ทีละตอน(หรือท่เี รียกวา อัลกอรทิ ่ึม) รวมท้ังการยอยปญ หาท่ชี วยใหร บั มือกับปญหาที่ซับซอนหรือมี
ลกั ษณะเปนคาํ ถามปลายเปดได วธิ ีคิดเชิงคาํ นวณมีความจําเปน ในการพฒั นาแอพพลเิ คชัน่ ตา งๆ
สําหรบั คอมพวิ เตอร แตในขณะเดยี วกัน วธิ ีคิดน้ยี ังชวยแกปญหาในวิชาตา งๆ ไดดวย ดงั นัน้ เอง เมื่อมี
การบรู ณาการวธิ คี ิดเชิงคํานวณผานหลักสูตรในหลากหลายแขนงวชิ า นักเรียนจะเหน็ ความสัมพันธ
ระหวา งแตล ะวชิ า รวมทั้งสามารถนาํ วธิ ีคิดทเี่ ปน ประโยชนน ้ี ไปใชแ กป ญ หาในชีวิตจริงไดในระยะยาว
สรุปคาํ จํากัดความของการคดิ เชงิ คํานวณ
• ไมไ ดจาํ กดั อยเู พยี งการคดิ ใหเ หมือนคอมพิวเตอร
• ไมไ ดจ าํ กัดอยเู พยี งการคิดในศาสตรของนกั วทิ ยาศาสตรคอมพวิ เตอร
• แตเ ปนกระบวนการคดิ แกป ญหาของมนษุ ย เพ่ือส่งั ใหคอมพิวเตอรท ํางานและชวย
แกปญ หาตามท่เี ราตองการไดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ
• วิธคี ดิ เชิงคํานวณ ชวยทําใหป ญ หาทซี่ บั ซอนเขาใจไดง ายข้นึ เปน ทักษะท่เี ปน ประโยชน
อยา งยิง่ ตอทุกๆ สาขาวิชา และทกุ เร่ืองในชวี ิตประจาํ วนั
นิยามของ Computational Thinking หรือแนวคิดเชิงคํานวณ มนั มีหลายนยิ ามนะ แตทั้งน้ี
ท้ังน้นั แนวคดิ น้ีจะประกอบดวยแนวคิดยอ ย 4 อยา งดงั ตอนี้
1) Decomposition
2) Pattern recognition
3) Algorithm
4) Abstract thinking
แผนภาพแสดง แนวคดิ เชิงคาํ นวณ (Computational Thinking)
สรปุ การเรียนรหู ลกั สูตรการอบรมพี่เล้ียงวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาที่ 26
1) Decomposition “การแยกสวนประกอบ และการยอยปญหา”
Decomposition เปน การพิจารณาเพ่ือแบง ปญหา หรืองานออกเปน สว นยอ ย ทาํ ใหส ามารถ
จดั การกบั ปญหาหรืองานไดง ายข้นึ พูดงายๆ เอาปญหามาแยกยอยออกเปนสว นๆ
ตัวอยางการนาํ แนวคดิ นไ้ี ปใชต อนเขยี นโปรแกรม
เชน การเขียนโปรแกรมแยกเปน สวนๆ แยกเปนแพ็กเกจ แยกเปนโมดูล หรอื ทําระบบเปน
services ยอยๆ หรือมองเปน layer เปน ตน
ตัวอยางการนําไปใชน อกจากเขยี นโปรแกรม
- เราจะเรียนรวู า จักรยานทาํ งานอยางไร? ก็ใหพจิ ารณาแยกชิ้นสว นจกั รยานวา มีอะไรบา ง แลว
กไ็ ปศึกษาทลี ะชิน้
- เราจะเดินทางไปเทย่ี วหาดใหญ จะวางแผนเดินทางอยางไร? ซง่ึ เราอาจแยกยอยวธิ เี ดนิ ทาง
เปน 4 รปู แบบ เชน ขับรถไปเอง หรอื นงั่ รถทวั ร หรือนัง่ เครอื่ งบิน หรอื น่ังรถไฟ จากน้นั ก็มาวิเคราะหถ งึ
ขอดีขอเสยี แตละวิธีการ
- จักรยานคันหนึง่ ถา เราจะศึกษามนั ก็จะมองไดว า ประกอบไปดวย ลอ แฮนด โครงจักรยาน
ระบบขับเคลือ่ น หรอื อนื่ ๆ ถามองในรายละเอียดของลอจักรยานจะเหน็ วาประกอบดวย ยางลอ วงลอ
และซ่ีลวด เปน ตน
- รฐั บาลจะปฏริ ูปประเทศไทย กจ็ ะนาํ ปญ หาประเทศมาแยกยอยออกเปน ปฏิรูป 11 ดา น
จากนน้ั จึงไปปฏิรูปปญ หายอยทีละดา น
2) Pattern recognition “การหารปู แบบ”
Pattern recognition เปนทกั ษะการหาความสมั พนั ธทีเ่ กี่ยวของ แนวโนม และลักษณะทว่ั ไป
ของสิง่ ตาง ๆ
ตัวอยา งการนําแนวคดิ นี้ไปใชต อนเขยี นโปรแกรม
เม่ือมีการทาํ งานของโปรแกรมท่ีหลากหลายแบบ แตทวามรี ปู แบบทแี่ นน อนซ้ําๆ กัน เรา
สามารถยุบโคดมาอยใู นฟงกช ั่นเดียวกนั ไดหรือไม หรือเขียนเปน โปรแกรมวนลปู ใหอยูใ นลปู เดียวกัน
เปน ตน
ตวั อยางการนาํ ไปใชนอกจากเขียนโปรแกรม
– จัดหมวดหมสู ัตวท ่ีคลา ยคลึงกัน ใหอ ยู
ในสปชสี เดยี วกนั เพือ่ ใหง ายตอการศกึ ษา
– หาพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคน วานิยม
ซ้ืออะไร ชวงเวลาไหน มรี ูปแบบพฤติกรรมซํา้ ๆ
อะไรบาง
– ลองดูตวั อยางจากรูปขา งลา ง แลว ให
ลองระบุสง่ิ ของทเ่ี หมือนหรือแตกตางกัน
จากหนังสอื เรยี นวทิ ยาการคํานวณบทที่ 1 ชั้น ม.4
สรุปการเรียนรหู ลักสูตรการอบรมพเี่ ลีย้ งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาที่ 27
3) Algorithm “ข้นั ตอนวธิ ี”
Algorithm คอื ลําดบั ขนั้ ตอนในการแกป ญหาหรือการทาํ งานทชี่ ัดเจน การคดิ คน อธิบาย
ขัน้ ตอนวิธีในการแกปญหาตา ง ๆ
ตัวอยางการนาํ แนวคิดน้ไี ปใชต อนเขยี นโปรแกรม
สาํ หรบั คนเขยี นโปรแกรม คงรูจักกนั ดีไมต องอธิบายมาก เชน
-จะคาํ นวณหาพ้ืนทเ่ี สนรอบวง ตองมสี เตปคํานวณอยา งไรบาง
-จะคน หาขอมูลแบบ binary search ตอ งมขี ั้นตอน 1,2,3 อยางไรบาง
-จะหาเสนทางที่ใกลสดุ ในกราฟ ดว ยวิธี Dijkstra จะมีข้นั ตอน 1,2,3 อยางไรบาง
ตวั อยางการนําไปใชน อกจากเขยี นโปรแกรม
-จะวางแผนจบี สาว มีขน้ั ตอนอยางไร?
-จะไปเที่ยวเขาใหญ ตองวางแผนวาในแตล ะวันทาํ อะไรบาง เทย่ี วไหน กินขา วที่ไหน มีลาํ ดับ
ตามชว งเวลา?
-จะเตน เพลงคุกกเ้ี สย่ี งทาย ตองมเี สตป 1, 2, 3 อยา งไร?
4) Abstract thinking “การคดิ เชิงนามธรรม”
Abstract thinking เปนกระบวนการคดั แยกคณุ ลักษณะที่สําคญั ออกจากรายละเอียดปลีกยอย
ในปญ หา หรอื งานทกี่ ําลังพจิ ารณา เพ่ือใหไ ดขอมลู ทจี่ ําเปน และเพยี งพอในการแกป ญหา
ตวั อยางการนาํ แนวคิดนไ้ี ปใชต อนเขยี นโปรแกรม
- จากโจทยป ญหาเขยี นโปรแกรมทด่ี ยู งุ ยาก สามารถทาํ ใหงา ยข้ึนดว ยการสกัดเอาลัษณะสาํ คญั
ออกมาวาดเปน Object ใช Class diagram ลากเสนแสดงความสมั พันธกัน จากนัน้ ก็เริม่ เขยี น
โปรแกรมเปนแบบเชิงวตั ถุ เปนตน
- ถาเราจะสง ขอมลู ขาม network แลว เขียนโปรแกรมหาระยะทางสั้นท่สี ดุ ตองทําอยา งไร?
วิธีคิดก็จะสกัดรายละเอียดสําคัญออกมา เชน server ก็วาดเปนโหนด แลวมีเสนเชื่อมระหวางโหนด
พรอมระบุระยะทางบนเสน พอคิดแบบเชิงนามธรรมไดแลว ก็จะไดงายมากที่จะเอาทฤษฏีกราฟมา
คํานวณหาระยะทางสน้ั ทีส่ ุด เปนตน
ตวั อยางการนําไปใชน อกจากเขยี นโปรแกรม
– เราจะดูแผนทปี่ ระเทศไทย เพ่อื เที่ยวภาคเหนอื ถาดเู ตม็ รูปแบบ จะยงุ ยาก งงตาลาย มีหลาย
เสนทางเยอะไปหมด แตเราสามารถแกป ญ หา โดยตัดรายละเอยี ดสว นเกนิ ท้ิง เอาสถานทแี่ ละเสนทางท่ี
สาํ คญั ทจี่ ะใชเ ดินทาง มาวาดใสกระดาษก็พอ
ลองนกึ ถึงตัวอยา ง เวลาเราดูภาพเสนทางรถไฟฟา BTS จาก Google map? ขางลาง เพื่อใช
เดนิ ทาง ก็อาจตาลายเพราะมีรายละเอียดที่ไมจําเปนเกินมา รกสายตาย เชน เสน ทางถนน อาคาร
สถานท่ี วดั วาอาราม ฯลฯ
สรุปการเรยี นรูหลกั สตู รการอบรมพีเ่ ล้ียงวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ที่ 28
ภาพจาก Google Map
ดว ยวิธคี ิดแบบ Abstract thinking เราตดั รายละเอียดท่ีไมจ ําเปนทงิ้ เลือกเอาสิ่งที่สนใจคือ
เสนทางเดนิ รถ BTS เทานน้ั แลว นํามาวาดรูปใหมไ ดดงั รปู ขางลาง
ภาพจาก http://www.bts.co.th/customer/th/images/Master_RouteMap.jpg
หรอื ตัวอยา งวงจรไฟฟาในรปู ขางลาง ถา คดิ แบบ?Abstract thinking เราก็จะตดั รายละเอยี ดท่ี
ไมจําเปนท้ิง แลว วาดใหมเ ปน สัญลกั ษณวงจรไฟฟา กจ็ ะทําใหการคํานวณทางไฟฟา งายขึ้น
จากหนงั สือเรยี นวิทยาการคาํ นวณบทท่ี 1 ช้นั ม.4
สรปุ การเรยี นรูห ลกั สูตรการอบรมพีเ่ ลย้ี งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนาท่ี 29
วทิ ยาการคํานวณ
ถึงตรงน้จี ะเห็นวาแนวคดิ เชงิ คาํ นวณ ไมใ ชแ คแกปญ หาเวลาเจอโจทยดานโปรแกรมม่ิงอยาง
เดียว ยังสามารถนําไปใชแ กปญหาอยา งอ่ืนในชีวิตประจาํ ไดอกี ดว ย
เพราะเหตผุ ลนเี้ อง ในระดบั ชั้นประถม มธั ยม เขาจะไดปพู น้ื ฐานแนวคิดนใ้ี นวชิ า “วิทยาการ
คาํ นวณ” ซ่งี ในหนงั เรียนไมไ ดย กตวั อยางแคการเขียนโปรแกรมเทานนั้ แตจะสอนใหนําไปใชแ กป ญหา
อน่ื นอกจากการเขียนโปรแกรมอีกดว ย
ขณะเดียวกนั “แนวคิดเชิงคํานวณ” ผูใหญร ไู วก ไ็ มเ สียหายอะไร นอกจากจะคยุ กบั เด็กรเู รือ่ ง
แลว ยงั เอาไปใชในชวี ติ ประจําวันไดด ว ยครับ
ขออธบิ ายเพม่ิ เกี่ยวกับวิทยาการคาํ นวณ เปนวชิ าที่ปรบั หลักสตู รมาจากวชิ าเทคโนโลยี
สารสนเทศเน้อื หาจะครอบคลุมวิชาเหลา นี้ในระดับพ้ืนฐาน ไดแก
1. วทิ ยาการคอมพิวเตอร (Computer Science: CS)
2. เทคโนโลยสารสนเทศและการส่อื สาร (Information Communication Technology: ICT)
3. การรดู ิจทิ ัล (Digital Literacy: DL)
ซ่ึงหวั ใจของวิชานี้คือ พ้นื ฐานการคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) ที่มี 4 องคประกอบ
สําคญั ดังท่ีกลาวมาแลว ขา งตน
1. Decomposition (การแยกสวนประกอบ และการยอ ยปญ หา)
2. Pattern recognition (การหารูปแบบ)
3. Algorithm (ขน้ั ตอนวธิ )ี
4. Abstract thinking (การคิดเชงิ นามธรรม)
เพราะฉะนน้ั แลว การคดิ เชงิ คํานวณ (computational thinking) สามารถท่ีจะพัฒนาใหเด็กๆ เกิด
กระบวนการคดิ เชงิ วิเคราะห คดิ อยา งเปนระบบดว ยเหตผุ ลอยางเปน ขัน้ เปน ตอนเพื่อแกปญ หาตางๆ
สามารถนําไปปรบั ใชเพ่ือแกไขปญ หาในสาขาวชิ าตา งๆ ได
สรปุ การเรยี นรูหลักสูตรการอบรมพ่เี ล้ยี งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนาที่ 30
อลั กอริทึม (Algorithm)
อลั กอริทึม (Algorithm) คือ กระบวนการแกปญ หาทีส่ ามารถอธิบายออกมาเปน ข้นั ตอนทชี่ ดั เจน
เมอ่ื นําเขา อะไร แลว จะตองไดผลลพั ธเ ชนไร กระบวนการน้ีประกอบดว ย วิธีการเปนขัน้ ๆ และมสี ว นท่ี
ตอ งทําแบบวนซาํ้ อีก จนกระทัง่ เสรจ็ ส้ินการทํางาน
Algorithm ไมใ ชคําตอบแตเปน ชุดคาํ ส่ังท่ที าํ ใหไดคําตอบ วธิ กี ารในการอธบิ าย Algorithm ไดแ ก
1. Natural Language อธิบายแบบใชภาษาทเ่ี ราส่ือสารกนั ทวั่ ไป
2. Pseudo code อธบิ ายดว ยรหัสจําลองหรือรหัสเทียม
3. Flowchart อธิบายดว ยแผนผงั
การนําข้นั ตอนวธิ ีไปใชแกปญ หา ไมจํากัดเฉพาะการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร แตสามารถใช
กับปญ หาอื่น ๆ ไดเ ชน เดียวกัน เพื่อใหเกิดการใชท รพั ยากรอยา งมีประโยชนสงู สดุ ซง่ึ จาํ เปน ตอง
วางแผนอยา งเปนระบบ เปน ขั้นตอน จงึ จาํ เปน ตองอาศยั Algorithm ดวย เพ่ือใหทราบถงึ ข้ันตอนตา งๆ
และสามารถตัดทอนขั้นตอนที่เกินความจาํ เปน อีกทั้งยงั สามารถปรับปรงุ และเพิม่ เติมขน้ั ตอนใหม เขา
ไปได ชวยลดความสบั สนขณะทํางานดว ย
อลั กอริทึม เปน วธิ กี ารแสดงลําดบั ขัน้ ตอนในการทํางานหรือแกไ ขปญ หาอยางใดอยางหนึ่ง เชน
การกําหนดข้ันตอนเพื่อแกป ญหาการจดั เรยี งเอกสารในแฟม ขอมลู หรือการกําหนดอัลกอริทึมในการ
คนหาขอมูลในแฟมขอ มูลทั้งหมด เปน ตน
อลั กอริทมึ ทีด่ ีควรมีคุณสมบัติ ดงั น้ี
1. มีลาํ ดบั ขน้ั ตอนทํางาน กอ น-หลัง ชัดเจน
2. เขาใจงา ยและไมกาํ กวม
3. สามารถประมวลผลการทาํ งานดว ยคอมพิวเตอรได
4. การทํางานของอัลกอริทึมจะตอ งส้นิ สุด หลังจากดาํ เนนิ งานตามระยะเวลาที่กําหนด
ตัวอยา งอลั กอรทิ ึม : การตมไขไก อลั กอริทึมที่ 2
อลั กอริทมึ ท่ี 1
สรุปการเรียนรหู ลกั สูตรการอบรมพเี่ ล้ียงวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชัยภมู ิ
หนา ที่ 31
แหลงท่ีมาของขอมลู เพ่ิมเตมิ
การคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) คน เมือ่ วันที่ 29 มนี าคม 2562 จากเวบ็ ไซต
https://goo.gl/dXbpK9
แนวคดิ เชิงคํานวณอยางเปนระบบ Computational Thinking คนเมื่อวนั ที่ 29 มีนาคม 2562 จาก
เวบ็ ไซต https://goo.gl/eMDuQD
อลั กอริทึม (Algorithm) คน เม่ือวนั ท่ี 29 มนี าคม 2562 จากเวบ็ ไซต https://goo.gl/pxZUgj
สะเตม็ ศึกษาคืออะไร คนเม่ือวันที่ 29 มีนาคม 2562 จากเว็บไซต https://goo.gl/dXbpK9
https://goo.gl/Q4cF2E
สรุปการเรียนรูหลกั สูตรการอบรมพีเ่ ลยี้ งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ที่ 32
ภาพกิจกรรมการอบรม
สรุปการเรยี นรูห ลักสตู รการอบรมพี่เลีย้ งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนา ท่ี 33
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 34
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 35
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 36
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 37
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนา ท่ี 38
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาที่ 39
ผลการทดสอบ
ตารางแสดงผลการทดสอบหลงั การอบรมดว ยระบบออนไลน
ท่ี ชอื่ สกุล สาขา คะแนนทไ่ี ด (คะแนนเตม็ 50 คะแนน)
1 นายธัชวุฒิ กงประโคน วทิ ยาศาสตร 48 คะแนน
2 นางสาวสายไหม ใจดี คณติ ศาสตร 48 คะแนน
3 นางอารยา วสุธนรตั นส กลุ เทคโนโลยี 48 คะแนน
ตวั อยางการรายงานผลการทดสอบในระบบ
สรปุ การเรียนรหู ลักสูตรการอบรมพเี่ ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนาที่ 40
แบบทดสอบสาํ หรบั ครพู ่เี ลี้ยงประจาํ ศูนยการอบรม ระดับประถมศึกษาตอนตน
โปรดสงคาํ ตอบกอ น เวลา 24.00น.มิฉะนน้ั จะไมสามารถสงคําตอบได ทําแบบทดสอบไดตาม
จาํ นวนสทิ ธ์คิ งเหลอื ของแตละคน มีเวลาในการทําขอสอบแตละครงั้ ไมเ กิน 120 นาที (หากเลยเวลา
ระบบจะ logout อัตโนมตั ิ ตอง login และเริ่มทาํ ใหมทั้งหมด)
สวนบนของฟอรม
1. ขอ ใดไมใ ชว ตั ถุประสงคในการทํากิจกรรมโปรแกรมของน้าํ หวาน
ไดลองวางแผนการทํางาน โดยใชบ ตั รคําสง่ั ที่กําหนดให
เพ่ือทดสอบวา นักเรยี นคนใดมีทกั ษะการวางแผนการแกป ญหาดีที่สดุ
ใหเ ห็นความสาํ คัญของการใชคําสงั่ ซอนทับกนั ในการแกปญหา
ใหเ หน็ ความสําคญั ของการวางแผนการทํางานอยา งเปน ข้นั ตอน
2. จากสถานการณต อไปนี้
“ลกู หมีแพนดา ตวั หนงึ่ หนอี อกไปเดนิ เลน ดว ยความเปน หวงแมห มแี พนดา จึงออกไปตามหา แต
กอนกลบั บา นลกู หมแี พนดา หิว แมหมีแพนดาจึงตองพาลูกหมแี พนดาไปหาอาหาร” จะชว ยแมห มี
แพนดา วางแผนการเดนิ ทางอยา งไร
พาลกู หมีแพนดา > ไปหาแมหมแี พนดา > ไปกนิ อาหาร > กลับบาน
พาแมห มีแพนดา > ไปกินอาหาร > ไปหาลกู หมีแพนดา > กลบั บาน
พาแมห มแี พนดา > กลบั บาน > ไปกินอาหาร > ไปหาลูกหมีแพนดา
พาแมห มแี พนดา > ไปหาลูกหมีแพนดา > ไปกนิ อาหาร > กลบั บาน
3. หลังจากทํากิจกรรม อิ่มท่ัวกบั ตัวฟู ที่มีเปาหมายใหแมหมีแพนดา ไปชว ยลกู หมีแพนดาแลว
นกั เรียนท้ัง 2 กลุมนําเสนอเสนทางที่ไดว างแผนไว โดยกลมุ ที่ 1 สามารถวางแผนการเดินทางไปยัง
เปา หมายโดยเลือกใชเ สน ทางท่ีสน้ั กวากลุมท่ี 2 ในขณะท่ีกลุมท่ี 2 ก็สามารถวางแผนการเดนิ ทางไป
ยังเปา หมายไดเชน กนั แตใชเสนทางที่แตกตางจากกลุมที่ 1 คุณครูควรสรุปหรอื ใหค าํ แนะนํากับ
นักเรียนทง้ั 2 กลมุ อยางไร
เสน ทางในการเดนิ ทางไปยงั เปา หมายทถี่ ูกตองควรมีเสนทางเดียว
ครคู วรใหนักเรยี นกลุมท่ี 2 ปรับเปล่ยี นเสนทางใหส นั้ กวา กลมุ ที่ 1
เสน ทางในการเดินทางไปยงั เปาหมายอาจมีไดห ลายเสน ทาง
ครคู วรใหนักเรียนกลุมที่ 2 ปรับเปลยี่ นเสน ทางใหเ หมือนกลมุ ท่ี 1
สรปุ การเรยี นรูหลกั สูตรการอบรมพเี่ ลี้ยงวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนุบาลชยั ภมู ิ
หนาที่ 41
4. พจิ ารณาวธิ กี ารตมไข ดงั น้ี วิธที ่ี 3 วิธีที่ 4
วธิ ที ่ี 1 วิธีท่ี 2 ตมนํ้าใหเดือด ใสไข
ตม น้ําใหเดือด ตมน้าํ ใหเดือด รอ 10 นาที ตมน้าํ ใหเดือด
ใสไ ข ใสไ ข ดบั ไฟ / ปดเตา รอ 10 นาที
รอ 10 นาที รอ 5 นาที ปอกไข ดบั ไฟ/ปดเตา
ดับไฟ / ปด เตา ดบั ไฟ / ปด เตา ปอกไข
ปอกไข
วธิ ีการใดไมไดไขตมออกมา
วิธที ี่ 2
วธิ ีที่ 4
วิธีท่ี 3
วธิ ที ี่ 1
5. รอบการแสดงในสวนสตั วแหงหนงึ่ เปนดังน้ี เวลา
การแสดง
เสอื 08.00-09.00 น.
ยีราฟ 09.00-09.30 น.
งู 09.30-10.00 น.
ฮิปโปโปเตมัส 10.00-10.30 น.
ชางนอ ย 10.30-11.30 น.
พักกลางวนั
นกนานาชนิด 13.00-13.40 น.
จระเข 13.40-15.00 น.
ฝงู ลิง 15.00-15.30 น.
มา ลาย 15.30-17.00 น.
จะเลอื กเขาชมสวนสัตวในชวงเวลาใดจงึ จะรับชมการแสดงไดม ากที่สดุ โดยมีเง่ือนไขวาตองเขาชม
การแสดงตัง้ แตตนจนจบ
15.00 น. - 17.00 น.
09.00 น. - 11.00 น.
08.00 น. - 10.00 น.
13.00 น. - 15.00 น.
สรปุ การเรียนรูหลักสตู รการอบรมพ่เี ลยี้ งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนาท่ี 42
6. ขอใดเปน ลกั ษณะของอลั กอริทึม (algorithm) ท่ีดี
ชวยไปเอาขนมถว่ั ตดั ทีน่ าไกฝากไวทีป่ อมยามหนาหมูบานเราใหห นอย
ฝากซอื้ กาแฟเย็นหวานนอยที่รานคา หนาหมบู า นหนอย
ฝากซือ้ ผลไม 1 กโิ ลกรมั และถามไี ขซอื้ มาใหด ว ย 1 โหล
เดินตรงไปถึงรา นคา รานอาหารอรอ ยจะอยูทางซา ย
7. จากกิจกรรมถุงเคร่ืองเขยี น ขอ ใดกลา วถึงส่งิ สาํ คญั ในการสอนใหนกั เรยี นไดเ รยี นรเู กย่ี วกบั การ
จาํ แนกไดถ ูกตอง
ใหน ักเรียนสังเกตและบอกความเหมือนและความแตกตา งของสง่ิ ของตา ง ๆ
ใหน ักเรยี นแบงส่งิ ของตาง ๆ ออกเปน กลมุ โดยใชเ กณฑเ ดียวกันทุกกลุม
ใหน กั เรียนแบงสิ่งของตาง ๆ ออกเปนกลมุ กลุมละเทา ๆ กัน
ใหนักเรียนจัดแบง สิง่ ของตา ง ๆ ออกเปนกลมุ ใหไดจาํ นวนกลุมมากท่ีสุด
8. จากกิจกรรมถุงเครื่องเขยี น การใหน กั เรียนจาํ แนกยางลบตา งจากการใหจ ําแนกส่งิ ทใ่ี ชเ ขยี น
อยางไร
นกั เรยี นไดห ยบิ จับและแบงกลุมยางลบ แตน กั เรยี นไดแบงกลุมส่งิ ที่ใชเ ขยี นโดยไมต องหยบิ จบั
สงิ่ ท่ใี ชเขียน มีจาํ นวนของส่ิงของมากกวาและมีลักษณะท่หี ลากหลายมากกวายางลบ
นกั เรียนตอ งบอกเกณฑท่ีใชใ นการจาํ แนกยางลบ แตไ มต องบอกเกณฑท ี่ใชใ นการจาํ แนกสิ่งที่ใชเ ขยี น
ลักษณะของยางลบมีความหลากหลายมากกวาส่ิงทใี่ ชเ ขียน
9. พิจารณาบทสนทนาตอไปน้ี
ครู : ทาํ ไมเดก็ ๆ แตละคนตอบไมตรงกนั เลยคะ เราจะมวี ธิ กี ารนบั จาํ นวนของรปู ไดโนเสารชนิด
ตา ง ๆเหลานอ้ี ยา งไรดี เดก็ ๆ ถงึ จะนบั ไดครบ และตอบไดตรงกนั
นกั เรียน : คณุ ครูนบั ไปดว ยแลว กท็ าํ สญั ลักษณเอาไวสคิ ะ วา ตวั นนี้ ับไปแลว
ครู : ไดเ ลยคะ งั้นเรามานับไปพรอม ๆ กนั นะ
นักเรียนนบั ไปพรอมกบั คุณครู
ครู : ตอนนี้เรานับจาํ นวนของไดโนเสารค รบทกุ ตวั แลวครูกเ็ ขยี นตวั เลขแสดงจาํ นวนไวบน
กระดานแบบนี้ คนท่เี ดนิ ผา นไปผานมา เขาจะทราบไหมคะ วา ตัวเลขเหลา นแ้ี ทนอะไร
นกั เรียน : มนั งงคะ วา เปน อะไร
ครู : ถาอยางน้ันเราจะทาํ อยางไรดี ใหคนทเ่ี ดินผา นไปผานมาเขาไมงง และเขาใจเหมือนกับเรา
ดว ย
นักเรียน : เขียนชอ่ื ไดโนเสารไวขา ง ๆ ตัวเลขสิคะ
จากบทสนทนาขา งตน ขอใดคือเปา หมายปลายทางที่ครตู องการใหนกั เรียนเกิดการเรยี นรู
หาแนวทางแกปญหา จนนําไปสกู ารนําเสนอขอมลู ในรปู ตาราง
นับและบอกจํานวนของไดโนเสารชนิดตา ง ๆ ไดอยางถกู ตอง
จดจาํ และเขยี นช่ือของไดโนเสารชนิดตา ง ๆ ไดอยางถูกตอ ง
ชีใ้ หเ หน็ วา การนบั จาํ นวนของไดโนเสารสามารถทําไดหลากหลายวธิ ี
สรปุ การเรยี นรหู ลักสูตรการอบรมพเี่ ลีย้ งวชิ าการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนา ท่ี 43
10. จากสื่อการจัดการเรียนรูเกี่ยวกบั การนับตอไปนี้
ควรเรียงลําดับส่ืออยางไร เพ่ือชว ยใหนกั เรยี นเรยี นรเู ก่ยี วกับการนบั ไดด ีท่สี ดุ
C, B, A
B, C, A
A, B, C
C, A, B
11. องคป ระกอบทีจ่ าํ เปนของแผนภูมิรปู ภาพมอี ะไรบา ง
a. ช่อื แผนภมู ิ
b. ตวั แผนภูมิ
c. ขอ กาํ หนด
d. รูปภาพท่ใี ชตอ งเหมือนกนั ทั้งแผนภูมิ
e. รปู ภาพที่ใชต องแตกตา งกนั ทั้งแผนภมู ิ
ขอ a, b, d
ขอ a, b, c
ขอ a, b, c, e
ขอ a, b, c, d
สรุปการเรยี นรูหลกั สตู รการอบรมพ่เี ลี้ยงวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชัยภมู ิ
หนา ที่ 44
12.
ในการจัดการเรียนรเู รอ่ื งแผนภูมริ ูปภาพ ครูเลือกใชส ือ่ แบบท่ี 1 กอน แลวจงึ ใชส่อื แบบท่ี 2 เพอื่
จุดประสงคใด
ใหน ักเรียนเหน็ วา การจัดเรยี งรูปภาพท่ตี ิดกันนนั้ ไมสวยงาม จึงควรจัดเรยี งรปู ภาพใหห า งกัน
ใหนักเรียนเรียนรชู ่อื ไดโนเสารช นดิ ตาง ๆ และนบั จาํ นวนของไดโนเสารไดอยา งถูกตอง
ใหน ักเรียนเหน็ ประโยชนของการจดั เรียงรูปภาพใหตรงกนั เพ่อื ชวยใหเ ปรียบเทยี บไดง าย
ใหนกั เรยี นเขียนช่อื แผนภูมิและขอกําหนดของแผนภูมิรูปภาพไดอยางถูกตองครบถวน
13. หากเราจาํ แนกสัตวไ ดเ ปน 2 กลุม ดังภาพ
จากการจัดกลุมดังกลา ว เราใชเ กณฑใดในการจาํ แนก
ชนดิ ของสัตว
ขนาดของสตั ว
อาหาร
แหลงท่อี ยู
สรุปการเรียนรหู ลกั สตู รการอบรมพเี่ ล้ียงวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนุบาลชยั ภมู ิ
หนาที่ 45
14. จากการสังเกตและเปรียบเทยี บส่ิงแวดลอมบรเิ วณตาง ๆ ดงั ภาพ ขอสรปุ ใดถกู ตอง
ปลาเปนสตั วท พ่ี บไดในทุกสิง่ แวดลอ ม
ทกุ สงิ่ แวดลอมจะมีลกั ษณะเหมอื นกัน
ชนดิ ของสัตวท ี่อยใู นแตละส่ิงแวดลอ มจะแตกตางกนั
พืชที่พบในแตละสง่ิ แวดลอ มจะมลี ักษณะเหมือนกนั
15. ขอใดตอไปนี้กลาวไมถ ูกตองเกี่ยวกบั สัตวแ ละแหลง ท่ีอยู
อูฐพบไดในทะเลทราย เพราะสามารถลดการสญู เสยี นาํ้ ไดดี
หมขี ว้ั โลกพบไดในบริเวณท่ีมีอากาศหนาว เพราะมีขนปกคลุมรางกายหลายช้ัน
ชะนีอาศยั อยใู นปาได เพราะมีตน ไมซงึ่ เปนแหลงอาหาร
กบนาอาศยั อยูในทะเลได เพราะเปนสตั วน ้ํา
16. คลองแหงหน่ึงเปน ที่อยูอาศยั ของสตั วแ ละพชื น้ําหลาย ๆ ชนดิ ถา วนั หนง่ึ คลองแหงน้เี ต็มไป
ดวยขยะ จนทําใหนํา้ เนาเสีย จะเกดิ ผลกระทบอยา งไรบาง
นํ้าในคลองแหงนี้จะลดระดับลงอยา งรวดเรว็
อากาศบริเวณนน้ั จะรอนและแหง แลง
สัตวแ ละพชื นํ้าที่อาศัยอยูใ นคลองจะยายไปอยูแหลงนาํ้ อ่นื
สัตวแ ละพชื นา้ํ ท่ีอาศยั อยูในคลองอาจจะตาย
สรปุ การเรียนรูหลักสูตรการอบรมพ่เี ล้ยี งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาท่ี 46
17. กบชนดิ หน่ึงอาศัยอยบู ริเวณหนองนํา้ ถา เรานํากบชนดิ น้ีมาอยใู นทะเลทรายซ่ึงเปนบรเิ วณทม่ี ี
ความแหงแลงมาก กบจะอาศัยอยไู ดหรือไม เพราะเหตุใด
ได เพราะมีพื้นที่กวา งเปน ที่อยอู าศัย
ไมได เพราะไมม ีพืชนํ้าเปนแหลงหลบภยั
ได เพราะกบสามารถหาแมลงเปนอาหารได
ไมไ ด เพราะทะเลทรายแหงแลง ทาํ ใหก บสูญเสียน้ําในรางกาย
18. ถาเราไปสาํ รวจบริเวณปาชายเลนและปาดิบชืน้ แลวนาํ ขอมูลทีไ่ ดมาเปรียบเทยี บกัน ขอใดเปน
ขอมูลท่ีไดจ ากการเปรียบเทียบ
ปาชายเลนและปา ดิบชื้นมีสภาพแวดลอมเหมือนกนั
ลกั ษณะแหลง นํ้าท่ีพบในปาชายเลนและปา ดบิ ช้นื จะเหมือนกนั
เราจะพบปาชายเลนและปาดิบชืน้ ไดในพน้ื ที่เดียวกนั
พชื และสัตวท ี่พบในปา ชายเลนและปาดบิ ชน้ื จะแตกตางกนั
19. ถาเราไปสํารวจบรเิ วณสวนผัก เราจะพบสัตวต าง ๆ เชน หนอนผีเสอ้ื ซ่ึงกินใบผักเปน อาหาร
และ หลบภัยใตใ บผัก รวมทง้ั ยังพบมดท่ีอยูใตดนิ และเดนิ หาอาหารตามพนื้ ดิน
พจิ ารณาขอความตอไปนี้
a. สวนผกั เปนแหลง ทอี่ ยขู องหนอนผีเสอื้ และมด
b. สวนผักเปนแหลง อาหารของหนอนผีเสือ้ และมด
c. หนอนผีเส้อื และมดอาศัยอยใู ตด นิ
ขอ ใดตอ ไปนีถ้ ูกตอง
a, b และ c ถกู
b และ c ถูก
a และ b ถูก
a และ c ถูก
20. ขอใดคอื ลักษณะสาํ คญั ของกจิ กรรมสะเต็มศกึ ษา
สรา งช้ินงานทีม่ ีประสิทธภิ าพเพื่อแกป ญ หาในสถานการณต าง ๆ
สง เสริมใหผ เู รียนเกิดทักษะแหงศตวรรษท่ี 21
บูรณาการองคความรคู รบทง้ั 4 วชิ าคือ วิทยาศาสตร เทคโนโลยี วศิ วกรรมศาสตร และ
คณติ ศาสตร
ดาํ เนนิ การแกปญหาอยางเปนลําดบั ขน้ั ตอนทแ่ี นนอนและชัดเจน
สรุปการเรียนรูห ลักสตู รการอบรมพ่ีเล้ยี งวชิ าการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชัยภมู ิ
หนาที่ 47
21. การศึกษาสภาพแวดลอมทเี่ หมาะสมตอ การดาํ รงชีวิตของสัตวที่อาศยั อยูในแตล ะบรเิ วณ เปน
ข้นั ตอนใดของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
การรวบรวมขอมูลและแนวคิดเพือ่ สรรหาวิธีการที่เปนไปได
การระบปุ ญหา
การทดสอบ ประเมิน และปรับปรุงแกไขตน แบบ
การเลือกและออกแบบวธิ กี ารแกป ญหา
22. ขอใดคอื ลักษณะสาํ คญั ของกจิ กรรมสวนสงสัยใครร ู
การทา ทายใหผเู รยี นไดใ ชความรูเพื่อแกป ญหาตามสถานการณที่กําหนด
การกระตนุ ใหผเู รียนระดมความคิดและทดสอบสมมตฐิ านจากสถานการณปญหาที่กาํ หนด
การระดมความคิดท่ีเก่ียวขอ งกบั สถานการณปญหาของกิจกรรม
การนําผเู รยี นเขาสบู รรยากาศที่เกย่ี วของกบั สถานการณป ญ หาของกจิ กรรม
23. สถานการณใ นลกั ษณะใดที่จําเปน ตอ งใชกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
การทดสอบวัสดุประเภทตาง ๆ ทีจ่ มนํ้าและลอยนา้ํ
การรวบรวมขอมูลเกย่ี วกบั ชนิดของไดโนเสารป ระเภทกนิ พืช
การดาํ เนนิ การสาํ รวจแหลง ท่ีอยูของสิ่งมีชวี ิต
การเลอื กและออกแบบภาชนะที่สามารถใหอาหารสัตวเ ล้ียงไดอ ัตโนมตั ิ
24. ขอใดอยูใ นขนั้ การทดสอบ ประเมนิ และปรบั ปรุงแกไขตน แบบของสถานการณหนหู นูกบั ZOO
ใหม
การตรวจสอบจดุ ชมสตั วและการวางลูกศรคําส่ัง
การแสดงจาํ นวนสัตวในแผนภูมริ ูปภาพ
การใชขอมลู จากแผนภมู ิรปู ภาพในการหาคาํ ตอบ
การอภปิ รายขอมลู เก่ียวกับสัตวชนดิ ตา ง ๆ และแหลง ที่อยู
25. จดุ เนน ที่สาํ คัญของกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมคอื ขอใด
การนําเสนอวิธกี ารรา งและออกแบบช้นิ งานเพอ่ื แกปญหา
การนาํ เสนอปจ จัยท่ีเก่ยี วของตอการเลือกและออกแบบวธิ ีการเพ่ือแกป ญหา
การนําเสนอผลสาํ เร็จของการสรางชน้ิ งานเพอื่ แกปญ หา
การนําเสนอวธิ กี ารหรือข้ันตอนการทํางานเพ่ือแกป ญหา
สรปุ การเรยี นรหู ลกั สูตรการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดวยระบบทางไกล
โรงเรยี นอนบุ าลชยั ภมู ิ
หนา ท่ี 48
สรปุ การเรยี นรหู ลักสตู รการอบรมพเ่ี ลยี้ งวิชาการดว ยระบบทางไกล
โรงเรียนอนบุ าลชัยภมู ิ