ก
ก คำนำ รายงานนวัตกรรมการศึกษา( Innovation in Education ในการจัดทำรายงานนี้ให้ได้ทราบถึงการใช้ สื่อ เทคโนโลยีต่างๆ และวิธีการต่างๆในการจัดการเรียนการสอนโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการศึกษาเทคนิควิธีการ จัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดความสนใจ และมีประสิทธิภาพ ให้เหมาะกับผู้เรียน และสภาพการณ์ในยุคปัจจุบัน ด้วยชุดการสอน การพัฒนาแอปพลิเคชั่น BC Learning เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ Glide apps จัดเป็นเทคโนโลยีการศึกษาชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้ในการสอน เนื่องจากจัดเป็นระบบการเรียนการ สอนที่สมบูรณ์ ผู้เรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง หรือผู้สอนสามารถใช้กับผู้เรียนเป็นกลุ่มก็ได้ ชุดการสอนจะช่วยเร้า ความสนใจในเนื้อหาตามชั้นตอน ฝึกการตัดสินใจแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ได้เรียนรู้ เนื้อหาเป็นขั้นตอน ผู้เรียนอาจใช้เวลาในการเรียนที่ต่างกันตามความสามารถที่แตกต่างของแต่ละบุคคล ชุดการสอนเป็น นวัตกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้รายบุคคลด้วย ทางผู้จัดทำหวังว่า รายงานฉบับนี้จะให้ความรู้และเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาทุก ๆ ท่าน หาก รายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ
ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข หลักการและเหตุผล 1-5 วัตถุประสงค์ 6 วิธีการดำเนินการ 6-10 จุดเด่นของผลงาน 11 ประโยชน์ที่ใด้รับ 11 แนวทางการพัฒนาต่อยอด 12 บรรณานุกรม 13 คณะผู้จัดทำ 14 ภาคผนวก
1 นวัตกรรมการพัฒนาแอปพลิเคชั่น BC Learning เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ Glide apps สกร.อำเภอบาเจาะ 1. ชื่อสถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอบาเจาะ สังกัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนราธิวาส 2. ชื่อ – สกุลผู้เข้าแข่งขัน นายมะรอซะดี แซมะแซ ตำแหน่ง ครู นางสาวอิสตีซัน ดือเระ ตำแหน่ง ครู นางสาวอามานี หะยีแม ตำแหน่ง ครู 3. ชื่อผลงานนวัตกรรม การพัฒนาแอปพลิเคชั่น BC Learning เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน โดยใช้ Glide apps สกร.อำเภอบาเจาะ 4. หลักการและเหตุผลในการจัดทำ/พัฒนาสื่อนวัตกรรม การศึกษาเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพมีความสามารถที่จะปรับตัวได้อย่างรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงต่างๆและมีคุณลักษณะตามที่ประเทศชาติพึงประสงค์ เหมาะแก่กาลเวลาและบริบทสังคมไทยดัง ปรากฏจากนโยบายทางการปฏิรูปการศึกษาให้ความสำคัญสูงสุดกับการปฏิรูปการเรียนรู้ โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีการจัดกระบวนการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน เน้นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้คนสามารถพัฒนาสู่การเป็นคนที่สมบูรณ์ คือ เป็นคนดีคนเก่ง และดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขที่ แท้จริงรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น แนวโน้ม วิธีการ เรียนรู้ของผู้เรียนในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเน้นตัวผู้เรียนเป็นหลัก แทนการเน้นตัวผู้สอน ซึ่งการนำ สื่อดิจิทัลมาช่วยในการเรียนการสอนทำให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และทบทวนได้ด้วยตนเองโดยไม่มีข้อจำกัด และทำให้ ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้ ครูจัดการเรียนรู้โดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง จากการลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย ตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ทั้ง 3 ด้าน คือด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ และด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง และบรรลุเป้าหมายการ เรียนรู้ทั้ง 3 ด้านอย่างเต็มศักยภาพนั้นจำเป็นต้องมีสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับวัย ของผู้เรียนและลักษณะ เนื้อหาหรือกิจกรรมนั้น ๆ ด้วย เนื่องจากสื่อ/นวัตกรรมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ในเวลาอันรวดเร็ว สื่อการเรียนการสอน หมายถึง ตัวกลางหรือช่องทางในการถ่ายทอดองค์ความรู้ทักษะ ประสบการณ์ จากแหล่งความรู้ ไปสู่ผู้เรียน และทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเภทของสื่อการเรียนการสอน สื่อการเรียนการสอนแบ่งตามคุณลักษณะได้ 4 ประเภท คือ 1. สื่อประเภทวัสดุได้แก่ สไลด์ แผ่นใส เอกสาร ตำรา สารเคมี สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ และคู่มือการฝึกปฏิบัติ 2. สื่อประเภทอุปกรณ์ได้แก่ของจริง หุ่นจำลอง เครื่องเล่นเทปเสียง เครื่องเล่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายแผ่นใส อุปกรณ์และเครื่องมือในห้องปฏิบัติกา
2 3. สื่อประเภทเทคนิคหรือวิธีการ ได้แก่การสาธิต การอภิปรายกลุ่ม การฝึกปฏิบัติการฝึกงาน การจัด นิทรรศการ และสถานการณ์จำลอง 4. สื่อประเภทคอมพิวเตอร์ได้แก่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) การนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer presentation) การใช้ Intranet และ Internet เพื่อการสื่อสาร (Electronic mail: E-mail) และการใช้ WWW (World Wide Web) การแบ่งประเภทของสื่อการสอน ถ้าแบ่งตามระดับประสบการณ์ของผู้เรียน ซึ่ง เดล(Dale 1969:107) ได้แบ่งสื่อ การสอนออกเป็น 10 ประเภท โดยพิจารณาจากลักษณะของประสบการณ์ที่ได้รับจากสื่อการสอนประเภทนั้น โดย ยึดเอาความเป็นรูปธรรมและนามธรรมเป็นหลักในการแบ่งประเภทและได้เรียงลำดับจากประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรม ที่สุดประสบการณ์ ที่เป็นนามธรรมที่สุด (Abstract Concrete Continuum) เรียกว่า “กรวย ประสบการณ์” (Cone of Experience) ขั้นที่ 1 ประสบการณ์ตรงและมีความมุ่งหมาย (Direct Purposeful Experience) เป็นประสบการณ์ที่ เป็นรากฐานของประสบการณ์ทั้งปวง เพราะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงได้เห็น ได้ยินเสียง ได้สัมผัสด้วยตนเอง เช่น การเรียนจากของจริง (Real object) ได้ร่วม กิจกรรมการเรียนด้วยการลงมือกระทำ เป็นต้น ขั้นที่ 2 ประสบการณ์จำลอง (Contrived Simulation Experience) จากข้อจำกัดที่ไม่สามารถจัดการ เรียนการสอนจากประสบการณ์จริงให้แก่ผู้เรียนได้ เช่น ของจริงมีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป มีความซับซ้อน มีอันตราย จึงใช้ประสบการณ์จำลองแทน เช่น การใช้หุ่นจำลอง (Model) ของตัวอย่าง (Specimen) เป็นต้น ขั้นที่ 3 ประสบการณ์นาฏการ (Dramatized Experience) เป็นประสบการณ์ที่จัดขึ้นแทนประสบการณ์ จริงที่เป็นอดีตไปแล้ว หรือเป็นนามธรรมที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจและไม่สามารถ ใช้ประสบการณ์จำลองได้ เช่น การละเล่นพื้นเมือง ประเพณีต่างๆ เป็นต้น ขั้นที่ 4 การสาธิต (Demonstration) คือ การอธิบายข้อเท็จจริง ความจริง และกระบวนการที่สำคัญด้วย การแสดงให้เห็นเป็นลำดับขั้น การสาธิตอาจทำได้โดยครูเป็นผู้สาธิต นอกจากนี้อาจใช้ภาพยนตร์ สไลด์และฟิล์มสตริป แสดงการสาธิตในเนื้อหาที่ต้องการสาธิตได้ ขั้นที่ 5 การศึกษานอกสถานที่ (Field Trip) การพานักเรียนไปศึกษายังแหล่งความรู้นอกห้องเรียน เพื่อ เปิดโอกาสให้นักเรียนรู้หลายๆด้าน ได้แก่ การศึกษาความรู้จากสถานที่สำคัญ เช่น โบราณสถาน โรงงาน อุตสาหกรรม เป็นต้น ขั้นที่ 6 นิทรรศการ (Exhibition) คือ การจัดแสดงสิ่งต่างๆ รวมทั้งมีการสาธิตและการฉายภาพยนตร์ ประกอบเพื่อให้ประสบการณ์ในการเรียนรู้แก่ผู้เรียนหลายด้าน ได้แก่ การจัดป้ายนิทรรศการ การจัดแสดงผลงาน นักเรียน ขั้นที่ 7 ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ (Motion Picture and Television) ผู้เรียนได้เรียนด้วยการเห็นและ ได้ยินเสียงเหตุการณ์ และเรื่องราวต่างๆ ได้มองเห็นภาพในลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนจริง ไปพร้อมๆกัน ขั้นที่ 8 การบันทึกเสียง วิทยุ และภาพนิ่ง (Recording, Radio and Picture) ได้แก่ เทปบันทึกเสียง แผ่นเสียง วิทยุ ซึ่งต้องอาศัยเรื่องการขยายเสียง ส่วนภาพนิ่ง ได้แก่ รูปภาพทั้งชนิดโปร่งแสงที่ใช้กับเครื่องฉายภาพข้าม ศีรษะ(Overhead projector) สไลด์ (Slide) ภาพนิ่งจากคอมพิวเตอร์ และ ภาพบันทึกเสียงที่ใช้กับเครื่องฉายภาพทึบ แสง(Overhead projector) ขั้นที่ 9 ทัศนสัญลักษณ์ (Visual Symbol) มีความเป็นนามธรรมมากขึ้น จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นพื้นฐาน ในการเลือกนำไปใช้ สื่อที่จัดอยู่ในประเภทนี้ คือ แผนภูมิ แผนสถิติ -ภาพโฆษณา การ์ตูน แผนที่ และสัญลักษณ์ต่างเป็นต้น
3 ขั้นที่ 10 วจนสัญลักษณ์ (Verbal Symbol) เป็นประสบการณ์ขั้นสุดท้าย ซึ่งเป็นนามธรรมที่สุด ไม่มีความ คล้ายคลึงกันระหว่างวจนสัญลักษณ์กับของจริง ได้แก่ การใช้ตัวหนังสือแทนคำพูด สื่อการเรียนการสอนจำแนกตามคุณสมบัติ โดย Wilbure Young ได้จัดแบ่งไว้ดังนี้ 1. ทัศนวัสดุ (Visual Materials) เช่น กระดานดำ กระดานผ้าสำลี) แผนภูมิ รูปภาพ ฟิล์มสตริป สไลด์ ฯลฯ 2. โสตวัสดุ (Audio Materisls ) เช่น เครื่องบันทึกเสียง (Tape Recorder) เครื่องรับวิทยุ ห้องปฏิบัติการ ทางภาษา ระบบขยายเสียง ฯลฯ 3. โสตทัศนวัสดุ (Audio Visual Materials) เช่น ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ 4. เครื่องมือหรืออุปกรณ์ (Equipments) เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องฉายฟิล์มสตริปเครื่องฉายสไลด์ 5. กิจกรรมต่าง ๆ (Activities )เช่น นิทรรศการ การสาธิต ทัศนศึกษา ฯลฯ สื่อการเรียนการสอนจำแนกตามรูปแบบ (Form) โดย Louis Shores ได้แบ่งประเภทสื่อการสอนตามแบบไว้ ดังนี้ 1. สิ่งตีพิมพ์ (Printed Materials) เช่น หนังสือแบบเรียน เอกสารการสอน ฯลฯ 2 วัสดุกกราฟิก เช่น แผนภูมิ ( Charts) แผนสถิติ (Graph) แผนภาพ (Diagram) ฯลฯ 2. วัสดุฉายและเครื่องฉาย (Projected Materials and Equipment) เช่น ภาพยนตร์ สไลด์ ฯลฯ 3. วัสดุถ่ายทอดเสียง (Transmission) เช่น วิทยุ เครื่องบันทึกเสียง สื่อการเรียนการสอนตามลักษณะและการใช้ 1. เครื่องมือหรืออุปกรณ์ (Hardware) 2. วัสดุ (Software) 3. เทคนิคหรือวิธีการ (Techinques or Methods) คุณค่า และประโยชน์ของสื่อการเรียนการสอน 1. ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1.1 เรียนรู้ได้ดีขึ้นจากประสบการณ์ที่มีความหมายในรูปแบบต่างๆ 1.2 เรียนรู้ได้อย่างถูกต้อง 1.3 เรียนรู้ได้ง่ายและเข้าใจได้ชัดเจน 1.4 เรียนรู้ได้มากขึ้น 1.5 เรียนรู้ได้ในเวลาที่จำกัด 2. ช่วยให้สามารถเอาชนะข้อจำกัดต่าง ๆ ในการเรียนรู้ ได้แก่ 2.1 ทำสิ่งนามธรรมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น 2.2 ทำสิ่งซับซ้อนให้ง่ายขึ้น 2.3 ทำสิ่งเคลื่อนไหวช้าให้เร็วขึ้น 2.4 ทำสิ่งเคลื่อนไหวเร็วให้ช้าลง 2.5 ทำสิ่งเล็กให้ใหญ่ขึ้น 2.6 ทำสิ่งใหญ่ให้เล็กลง 2.7 นำสิ่งที่อยู่ไกลมาศึกษาได้ 2.8 นำสิ่งที่เกิดในอดีตมาศึกษาได้ช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้ 2.9 ช่วยให้จดจำได้นาน เกิดความประทับใจและมั่นใจในการเรียน
4 2.10 ช่วยให้ผู้เรียนได้คิดและแก้ปัญหา 2.11 ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล คุณค่าของสื่อการเรียนการสอนการเรียนการสอน 1.สื่อการเรียนการสอนสามารถเอาชนะข้อจำกัดเรื่องความแตกต่างกันของประสบการณ์ดั้งเดิมของผู้เรียน คือเมื่อใช้สื่อการเรียนการสอนแล้วจะช่วยให้เด็กซึ่งมีประสบการณ์เดิมต่างกันเข้าใจได้ใกล้เคียงกัน 2.ขจัดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ ประสบการณ์ตรงบางอย่าง หรือการเรียนรู้ 3.ทำให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงจากสิ่งแวดล้อมและสังคม 4.สื่อการเรียนการสอนทำให้เด็กมีความคิดรวบยอดเป็นอย่างเดียวกัน 5.ทำให้เด็กมีมโนภาพเริ่มแรกอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ 6.ทำให้เด็กมีความสนใจและต้องการเรียนในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น เช่นการอ่าน ความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ ทัศนคติ การแก้ปัญหา ฯลฯ 7.เป็นการสร้างแรงจูงใจและเร้าความสนใจ 8.ช่วยให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์จากรูปธรรมสู่นามธรรม นวัตกรรมการศึกษา “นวัตกรรมการศึกษา (Educational Innovation )” หมายถึง นวัตกรรมที่จะช่วยให้การศึกษา และ การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิด แรงจูงใจในการเรียนด้วยนวัตกรรมการศึกษา และประหยัดเวลาในการเรียนได้อีกด้วย ในปัจจุบันมีการใช้นวัตกรรม การศึกษามากมายหลายอย่าง ซึ่งมีทั้งนวัตกรรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายแล้ว และประเภทที่กําลังเผยแพร่ เช่น การเรียน การสอนที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Aids Instruction) การใช้แผ่นวิดีทัศน์เชิงโต้ตอบ (Interactive Video) สื่อหลายมิติ ( Hypermedia ) และอินเทอร์เน็ต [Internet] เหล่านี้ เป็นต้น นวัตกรรมการเรียนการสอน เป็นการใช้วิธีระบบในการปรับปรุงและคิดค้นพัฒนาวิธีสอนแบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการเรียน รายบุคคล การสอนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง การเรียนแบบมีส่วนร่วม การเรียนรู้แบบแก้ปัญหา การพัฒนาวิธีสอน จำเป็นต้องอาศัยวิธีการและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาจัดการและสนับสนุนการเรียนการสอน ตัวอย่างนวัตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอน ได้แก่ การสอนแบบศูนย์การเรียน การใช้กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ การ สอนแบบเรียนรู้ร่วมกัน และการเรียนผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต การวิจัยในชั้นเรียน ฯลฯ นวัตกรรมสื่อการสอน เนื่องจากมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครือข่ายและเทคโนโลยีโทรคมนาคม ทำให้นักการศึกษาพยายามนำศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการผลิตสื่อการเรียนการสอนใหม่ๆ จำนวน มากมาย ทั้งการเรียนด้วยตนเองการเรียนเป็นกลุ่มและการเรียนแบบมวลชน ตลอดจนสื่อที่ใช้เพื่อสนับสนุนการ ฝึกอบรม ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างนวัตกรรม – คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI : Computer-Assisted Instruction) – มัลติมีเดีย (Multimedia) – การประชุมทางไกล (Tele Conference) – วีดีทัศน์แบบมีปฎิสัมพันธ์ (Interactive Media/Video) – บทเรียนสำเร็จรูป (Programed Instruction)
5 – เครื่องช่วยสอน(Teaching Machine) – วิทยุและโทรทัศน์ช่วยสอน (Teaching By Radio and TV) – ชุดการสอน (Learning Packages) เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีการศึกษา (อังกฤษ: Educational Technology) เป็นศาสตร์ที่ประยุกต์เอาวิชาการต่างๆ มา จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งเกิดจากการออกแบบ การสอนตามหลักการออกแบบการเรียนการสอน (Instructional Design) โดยคำนึงถึงคุณลักษณะของผู้เรียน ความ เหมาะสมของสื่อที่สอดคล้องกับลักษณะเนื้อหาและความสนใจของผู้เรียน เทคโนโลยีการศึกษา เป็นคำที่มาจากคำสองคำ คือ เทคโนโลยีที่มีความหมายว่า เป็นศาสตร์แห่งวิธีการ ซึ่งมิได้มี ความหมายว่าเป็นศาสตร์แห่งเครื่องมือเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึง วัสดุและวิธีการด้วย เมื่อมาเชื่อมกับคำ ว่า การศึกษา เกิดเป็นคำใหม่ที่มีความหมายว่า การประยุกต์เครื่องมือ วัสดุและวิธีการไปส่งเสริมประสิทธิภาพการ เรียนรู้ ตลอดจนการจัดสภาพแวดล้อมใหม่เพื่อการเรียน การจัดทำพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการกระตุ้นและส่งเสริมให้ครูได้พัฒนาสื่อ ผลิต สื่อ ใช้สื่อในการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ ที่เน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมและ ค้นพบความรู้ด้วยตนเอง โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอบาเจาะ ได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงได้ให้ครูได้ พัฒนาสื่อ ผลิตสื่อ ใช้สื่อนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
6 5. วัตถุประสงค์ในการจัดทำ/พัฒนานวัตกรรม 1) เพื่อผลิตสื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2) เพื่อส่งเสริมให้ครูสร้างและพัฒนาสื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้สื่อ นวัตกรรมการพัฒนาแอปพลิเคชั่น BC Learning เพื่อส่งเสริมการ เรียนรู้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ Glide apps สกร.อำเภอบาเจาะ 3.1 เชิงปริมาณ - ผลิตสื่อสารสนเทศและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพตลอดทั้งปีการศึกษา 3.2 เชิงคุณภาพ - ครูผู้สอนใช้สื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6. วิธีดำเนินการจัดทำ/พัฒนาสื่อนวัตกรรม 1. วัสดุและอุปกรณ์ 1. โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ (Notebook computer) 2. โปรแกรม CANVA เป็นแอปพลิเคชันสำหรับสร้างสื่อการนำเสนอหลากหลายรูปแบบ เช่น Presentation, Poster, Card, Resume, Certificate, Infographic เป็นต้น ซึ่ง Canva นั้นจะมี Template หรือรูปแบบสำเร็จ รวมถึงขนาดมาตรฐานให้เลือกหรือ ผู้ใช้สามารถกำหนดขนาดหรือออกแบบสื่อเองจากหน้ากระดาษที่วางเปล่าเองได้
7 3. ไดร์ฟ (Google Drive) คือ โปรแกรมการจัดการเอกสารออนไลน์ของทาง Google หรือพื้นที่เก็บข้อมูล ระบบคลาวด์ หลักการทำงานจะคล้ายกับโปรแกรมเอกสาร ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเอกสารแบบออนไลน์ได้ โดยผ่านการใช้ บนเว็บเบราว์เซอร์ต่าง ๆ เช่น Inter Explorer, Chrome, Firefox และ Safari ซึ่งจะทำให้การใช้งานของเอกสารมี ความสะดวกมากขึ้น 4. Glide Application เป็นแพลตฟอร์มที่สามารทำแอพได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม สามารถสร้าง แอพจากเวบไซต์ Glide ได้เลย จะช่วยจัดการในด้านการแสดงผลข้อมูลต่างๆ จาก Google Sheet เราสามารถเลือก รูปแบบการแสดงผลได้หลากหลายแบบตามต้องการ โดยแค่มีข้อมูลใน Google Sheet ก็เปลี่ยนเป็น Mobile app ได้ ง่ายๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Androin นอกจากนั้นยังสามารถเผยแพร่ผ่านการ scan Qr Code หรือทาง ลิ้งค์ ได้นำมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบเป็นสื่อการสอนที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
8 2. วิธีการดำเนินการ 1) ประชุมวางแผนคณะทำงาน ขั้นตอนการวางแผนสร้างสื่อ หรือนวัตกรรม ประชุมวางแผน plc เพื่อกำหนดสภาพปัญหา ระหว่างผู้บริหารและบุคลากรโดยกำหนดสื่อ และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อดำเนินการจัดทำสื่อนวัตกรรม ตลอดจนยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดีขึ้น 2) สำรวจความต้องการพัฒนาสื่อนวัตกรรม 1) ดำเนินการสำรวจความต้องการการใช้สื่อนวัตกรรม ศึกษาเพื่อการเรียนการสอนสำหรับครูเช่น กำหนด เนื้อหารายวิชา ที่ครูต้องการทบทวนบทเรียน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 3) ดำเนินการจัดทำสื่อนวัตกรรม 3.1)กำหนดเนื้อหารายวิชา แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน โดยใช้ Google Form ที่จะนำมาพัฒนาสื่อ
9 3.2) ออกแบบเนื้อหาโดยการใช้ CANVA APPLICATION 3.3)ดำเนินการ บันทึกรูปภาพเป็นไฟล์ PNG จากนั้นเข้าใน Google Drive เพื่อสร้างไฟล์ที่เราต้องการ 3.4)นำข้อมูลที่สร้างไว้เข้าไปใน Google Drive พร้อมเปิดการตั้งค่า สาธารณะ 3.5)ดำเนินการสมัครเข้าใช้งาน Glide Application ผ่าน G-mail
10 3.6)เปิดเข้าใช้งานดำเนินการสร้างบทเรียน 4) นำสื่อไปใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ครูได้นำนำสื่อไปใช้ในการจัดกระบวนการเรียนรู้พบว่าผู้เรียนมีความสนใจในบทเรียนอย่างต่อเนื่องตาม ขั้นตอน อีกทั้ง ประหยัดเวลา วัสดุ อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย และบุคลากร ในขณะเดียวกันทำให้ผู้เรียนจำนวน มากเกิด การเรียนรู้อย่างคุ้มค่า ภายใต้สถานการณ์ที่ดีและได้มาตรฐานอย่างเดียวกัน 5) ประเมินผลการนำไปใช้สื่อ ดำเนินการประเมินจากผลคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบของ ผู้เรียนแต่ละคน 6) สรุปและรายงานผล เมื่อได้ดำเนินการทดลองใช้สื่อนวัตกรรม เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ได้ดำเนินสรุปและรายงานให้ผู้บังคับบัญชา ทราบ และได้นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงและพัฒนาสื่อ นวัตกรรมต่อไป
11 7. จุดเด่นของผลงาน ด้านการออกแบบ 1)การจัดวางรูปแบบมีความเหมาะสมกับสื่อการเรียนรู้ 2)นวัตกรรมมีความทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน มีความน่าสนใจ เนื้อหาเข้าใจง่าย ส่งผลต่อการพัฒนาการ เรียนรู้ของผู้เรียน ด้านเนื้อหา 1)ตัวอักษรในสื่อการเรียนฯ ชัดเจน อ่านง่าย 2)บทเรียนในสื่อการเรียนฯ ออกแบบใช้งานง่าย 3)เนื้อหาที่ใช้ในสื่อการเรียนฯ มีความน่าสนใจ ด้านการใช้งาน 1)สื่อการเรียนฯ มีความเหมาะสมกับผู้เรียน 2)สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 3)ความรวดเร็วในการเลือกดูข้อมูลในสื่อการเรียนฯ 8. ประโยชน์ที่ได้รับ 1)ได้สื่อนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2)ครูมีการพัฒนาสื่อและนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน 9. ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการจัดทำ/พัฒนาสื่อนวัตกรรม 1) ด้านผู้เรียน ผู้เรียนได้รับความรู้ตามหลักสูตรด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ใหม่อย่างมีคุณภาพและมีผลสัมฤทธิ์ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น 2) ด้านครูผู้สอน ครูสร้างและพัฒนาสื่อและนวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 3) ด้านสถานศึกษา สถานศึกษามีสื่อและนวัตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
12 10. แนวทางการพัฒนาต่อยอดต่อไป 1) พัฒนานวัตกรรมให้คลอบคลุม ครบทุกสาระการเรียนรู้และเนื้อหาวิชาเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของผู้เรียน 2) จัดให้มีการพัฒนาครูผู้สอนเกี่ยวกับการใช้สื่อการสอนโดยจัดอบรมหรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ สื่อ การผลิตสื่อขึ้นเอง 3) พัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องกับเนื้อหา ในผังการสร้างข้อสอบ (Test Blueprint) ด้านการศึกษานอกระบบ โรงเรียน (N-NET)และการบูรณาการมาตรฐานหลักสูตรการศึกษานอกระบบโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานกับ ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศดวรรษที่ 21 ปีการศึกษา 2566 (ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย) ลงชื่อ ผู้รับรอง (นางนูรไอนี ติสมานิ) ผู้อำนวยการสถานศึกษา กศน.อำเภอบาเจาะ ปฎิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถานศึกษา สกร.อำเภอบาเจาะ
13 บรรณานุกรม ดร.สมพงษ์ เกศานุช (2562). การพัฒนาสื่อนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวDevelopment of Innovative Media to Strengthen Participationin the Development of Rajamangala University of TechnologySuvarnabhumi to be a Green University สุนันทา สิ้นโศรก นวัตกรรมการเรียนการสอนด้วยห้องเรียนออนไลน์โดยใช้ Google Classroom และ สื่อ เทคโนโลยี วิชาภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 รองศาสตราจารย์ปรีชา พันธุ์แน่น' Assoc. Prof. Preecha Phannanการใช้สื่อนวัตกรรมเพื่อสร้างภาพลักษณ์ ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการข้อมูลข่าวสารสำหรับประชาชน ในประเทศไทย Innovation Communication for Image Provincial Electricity Authority (PEA) And Effectiveintegration information's channel in Thailand
14 คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นางนูรไอนี ติสมานิ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา กศน.อำเภอบาเจาะ ปฎิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถานศึกษา สกร.อำเภอบาเจาะ ผู้จัดทำ นายมะรอซะดี แซมะแซ ตำแหน่ง ครู นางสาวอิสตีซัน ดือเระ ตำแหน่ง ครู นางสาวอามานี หะยีแม ตำแหน่ง ครู
1 ภาคผนวก
2 ภาพกิจกรรม ประชุมวางแผน ดำเนินการจัดทำสื่อ นวัตกรรม
3