The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 24สลิตตา เพชรสุวรรณ, 2024-06-18 12:15:00

นาฎศิลป์

นาฎศิลป์

ดนตรีรี รี น รี นาฎศิศิศิ ล ศิ ลป์ป์ป์ป์ หน่น่ น่น่ วยการเรีรี รี ย รี ยนรู้รู้รู้ที่รู้ที่ ที่ที่ ที่ที่ 1 นาฏศิศิศิ ล ศิ ลป์ป์ต ป์ป์ ะวัวั วั น วั นออก จัดทำ โดย เด็กชาย กฤติน เพ็ชรรัตน์ ม.2/9 เลขที่ 1 จัดทำ โดย เด็กชาย กฤติน เพ็ชรรัตน์ ม.2/9 เลขที่ 1


นาฎศิลป์ตะวัน วั ออก หมายถึง ศิลปะการแสดงการร่ายรำ ในรูปแบบ ของระบำ ฟ้อนและการแสดงเป็นเรื่อ รื่ งราวที่เรีย รี กว่า ว่ ละครของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียที่มีความ สัมพันธ์ทางวัฒ วั นธรรมแรงโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ นาฏศิลป์ไทยได้แก่นาฏศิลป์อินเดียญี่ปุ่น ปุ่ นาฏศิลป์จีน นาฏศิลป์อินโดนีเซียนาฏศิลป์เขมรและนาฏศิลป์พม่า โดยจะการกล่าวถึงรูปแบบศิลปะประจำ ชาติมีความ เก่าแก่ทางวัฒ วั นธรรมของแต่ละประเทศดังนี้


นาฎศิลป์อินเดีย อินเดียเป็นต้นแบบในศิลปะหลายๆด้านชาวอินเดียมีความเชื่อและนับถือในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับศาสนาและเทพเจ้าซึ่งเกิดเป็น ตำ นานต่างๆขึ้นมากมายตำ นานเกี่ยวกับนาฏศิลป์อินเดียนี้ เกี่ยวข้องกับพระพรหมซึ่งเป็นผู้สร้างนาฏยเวทขึ้นตามข้อ สันนิษฐานว่า ว่ พระภารตฤาษีเป็นผู้แต่งแต่เขียนในลักษณะผู้เล่า เรื่อ รื่ งนาฎยเวทได้เรีย รี นมาจากพระพรหม


ภารตนาฎยัม เป็นนาฏศิลป์ของอินเดียตอนใต้มีลีลาการ ใช้จังหวะเท้าที่รวดเร็วมีความหมายในท่ารำ ใช้ศิลปะการร่ายรำ ตามตำ รานาฏยศาสตร์ของพระภรตฤาษีเป็นการฟ้อนรำ เพื่อบูชา เทพเจ้าเป็นการแสดงที่ใช้ผู้หญิงแสดงและนิยมแสดงเดี่ยวมี เครื่อ รื่ งดนตรีปรี ระกอบได้แก่กลอง (มาดังกัม) ฉิ่ง (ตาลัม) ขลุ่ย และไวโอลิน การแต่งกาย หญิงจะสวมเสื้อเข้ารูป คอกว้า ว้ ง แขนสั้น ตัวสั้นถึงใต้อก ห่มส่าหรี เกล้ามวยต่ำ หรือ รื สูงประดับด้วยดอกไม้และเครื่อ รื่ ง ประดับผม เจิมหน้าจุดสีแดงกลางหน้าผาก นาฎศิลป์อินเดียที่มีชื่อเสียงและเป็นที่แพร่หลาย มี 4 อย่างมีดังนี้ เป็น ภารตนาฎยัม


เป็นนาฏศิลป์ของอินเดียตอนเหนือนิยมแสดงเดี่ยวผู้ แสดงอาจจะเป็นผู้หญิงหรือ รื ชายก็ได้เป็นการแสดงผสม ระหว่า ว่ งวัฒ วั นธรรมฮินดูและมุสลิมลักษณะเด่นคือการเต้น หมุนตัวมีลีลาท่ารำ รวดเร็วมีบทร้องเกี่ยวกับเทพเจ้าของ ฮินดูและเรื่อ รื่ งราวจากวรรณคดี กถัก การแต่งกาย ตัวละครผู้หญิงจะสวมเสื้อคอกว้า ว้ ง แขนสั้น เอวลอยห่ม สาลี่ เกล้าผมมวย ใช้ส่าหรีค รี ลุมผมแล้วปล่อยชายยาวลงล่าง ตัวละครผู้ชายแต่งกายคล้ายกันใช้ผ้าโพกศีรษ


กถกฬิ หรือ รื กถักกฬิ เป็นนาฏศิลป์พื้นเมืองของอินเดียตอนใต้ส่วนใหญ่จะเล่น เป็นเรื่อ รื่ งแบบละครซึ่งส่วนมากเป็นมหากาพย์เช่นมหาภารตะ รามายณะและเรื่อ รื่ งจากนิยายปุร ปุ าณะใช้ผู้ชายแสดงล้วนใช้ ภาษาซับซ้อนมีการแต่งกายที่ประณีตใช้สีธรรมชาติเห็นลง บนใบหน้า การแต่งกาย จะนุ่งกระโปรงยาวคาดริ้ว ริ้ ตามขวางที่ชายกระโปรงใส่สุ่มด้านในสวมเสื้อแขนยาวเครื่อ รื่ งประดับศีรษะเป็นมงกุฎใหญ่มีรัศมี วงกลมใหญ่อยู่ด้านหลัง


การแต่งกาย หญิง : กระโปรงมีโครงคล้ายสุ่มไก่ประดับด้วยเลื่อมและดิ้นที่ ชายกระโปรง ตัวเสื้อคอกว้า ว้ งแขนสั้นเอวลอยผมเกล้ามวยสูงมี ผ้าบางๆคลุมด้านหลังของมวยผม ชาย : นุ่งผ้าลักษณะเพียงกางเกงปล่อยชายจับจีบหน้านาง หน้าด้านยาวกรอมเท้า ตัวเอกจะมีเครื่อ รื่ งสวมศีรษะ มณีปุรี ปุ รี เป็นนาฏศิลป์ของชาวมณีปุรี ปุ รี เรื่อ รื่ งที่แสดงเป็นนิยาย พื้นเมืองและเกี่ยวกับเทพเจ้ามีลีลาการแสดงที่ค่อนข้างช้า เป็นการฟ้อนรำ เพื่อบวงสรวงพระกฤษณะและนางราธา ผู้ แสดงมีทั้งชายและหญิงนิยมแสดงงู


นาฏศิลป์ญี่ปุ่น ปุ่ นาฏศิลป์ของญี่ปุ่น ปุ่ มีกำ เนิดมาจากการแสดงเพื่อบูชา เทพเจ้าแห่งภูเขาไฟบางประเทศเกิดจากแรงบันดาลใจ ทางศาสนา บางประเภทเกิดจากรสนิยมความต้องการ ของชนชั้นสูง พ่อค้า ชาวบ้าน ตามยุคสมัยที่แตกต่างกัน มีดังนี้


เป็นละครที่เก่าแก่ที่สุดละครโนะเกิดจากศาสนาแต่เดิมจะ แสดงตามวิห วิ ารมีข้อบังคับในการแสดงเคร่งครัดมากแสดง เรื่อ รื่ งเกี่ยวกับเทพเจ้าการแต่งกายงดงามแสดงจะสวมหน้ากาก ซึ่งถือว่า ว่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สร้างด้วยความประณีตท่าทางการ เคลื่อนไหวล้วนมีความหมายทั้งสิ้นแต่เดิมแสดงใต้ร่มไม้ต่อมา ทำ เป็นเวทีอย่างง่ายๆเป็นเวทีสี่เหลี่ยมคนดูจะได้ดูรอบๆจัดฉาก ง่ายๆเขียนรูปต้นสนและวางไม้ไผ่อย่างห่างๆ ละครโนะ


ละครคาบูกิ เป็นละครที่ได้รับความนิยมมากผสมผสานระหว่า ว่ งละครโนะและ ละครหุ่นบุนรากุแสดงทั้งมีการร้องและการภาคท่าทางการแสดง แบบแผนที่เคร่งครัดเรื่อ รื่ งที่แสดงเป็นเรื่อ รื่ งประวัติ วั ติ ศาสตร์ศาสนา และเทพนิยายใช้ผู้ชายแสดงล้วนแต่งกายด้วยสีฉูดฉาดมีเขียนหน้า คล้ายงิ้วแต่งหน้าแบบมีแผนตายตัวกำ หนดว่า ว่ สีใดเป็นของตัวละคร ใดเช่นผู้ร้ายหน้าสีน้ำ เงินพระเอกหน้าสีขาวเวทีละครสร้างอย่าง วิจิ วิจิ ตรงดงาม


ละครเคียวเง็น เป็นการแสดงละครตลกสลับฉากลักษณะคล้ายกับ จำ อวดของไทยสะท้อนให้เห็นความเรีย รี บง่ายของมนุษย์ เป็นละครเสียดสีเรื่อ รื่ งราวชวนหัวทั้งคำ พูดและการแสดง เนื้อเรื่อ รื่ งที่แสดงไม่มีการฝึกซ้อมใช้ความรู้สึกธรรมชาติ


ละครหุ่นบุนรากุ เป็นการแสดงที่นิยมและแพร่หลายที่สุดเป็นหุ่นที่สร้างขึ้น อย่างประณีตงงดงามขนาดเกือบเท่าคนจริง ริ สามารถเคลื่อนไหว ได้แทบทุกส่วนเรื่อ รื่ งที่แสดงมักจะแสดงเรื่อ รื่ งเดียวกับละครโนะ


ลักษณะเด่นของงิ้วนอกจากการร่ายรำ และการเคลื่อนไหวเสื้อผ้า เครื่อ รื่ งแต่งกายและการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำ คัญทำ ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวสีสันของการแต่งหน้าบวกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัวละครเช่นสีแดง หมายถึงความศักดิ์สิทธิ์ความกล้าหาญสีดำ หมายถึงความโกรธสีเหลือง หรือ รื สีทองหมายถึงความดีและพระ นาฏศิลป์จีนเกิดจากพิธีกรรมทางศาสนาการบูชาการฉลองชัยและ วิธี วิธี การขอความอุดมสมบูรณ์ในเกษตรก่อนการแสดงทุกครั้งจะมีการ เคารพบูชาบรมรูปของพระจักรพรรดิมิ่ง ฮ้วง เพราะถือว่า ว่ เป็นพระองค์ ทรงเชี่ยวชาญการละครและดนตรี นิวเป็นการแสดงที่ผสมผสานการขับ ร้องและการเจรจาประกอบกับลีลาท่าทางของนักแสดงให้ออกมาเป็น เรื่อ รื่ งราวโดยนำ เหตุการณ์ต่างๆในพงศาวดีมารวมทั้งความเชื่อทาง ประเพณีและศาสนาแสดงเป็นเรื่อ รื่ งราว นาฏศิลป์จีน


นาฏศิลป์ของประเทศอินโดนีเซียมีความหลากหลายเนื่องจาก มีเกาะมากมายแต่ละเกาะมิก็มีการแสดงของตนเองมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวที่โดดเด่นศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดคือการเชิดหุ่นเรีย รี กว่า ว่ วายัง นอกจากนี้ยังมีนาฏศิลป์ประจำ ชาติคือนาฏศิลป์สุมาตรานาฏศิลป์ ชวาและนาฏศิลป์บาหลี นาฏศิลป์อินโดนีเซีย


เรื่อ รื่ งที่ใช้แสดงในวายัง รามายณะ และมหาภารตะ โดยนำ มาทำ เป็นบทละครเฉพาะของวายังและมีการแทรกเรื่อ รื่ งปัญญาข้อคิด ขบขันในชีวิต วิประจำ วัน วั นำ มาเชื่อมโยงร่วมสมัยเป็นผลให้การแสดง ไว้ยั ว้ ยั งเป็นที่นิยมมาตลอด การแสดงเชิดหุ่นเงา หรือ รื วายัง เป็นนาฏศิลป์ประจำ ชาติที่เก่าแก่ที่สุดแต่เดิมขุนเชิดทำ ด้วย หนังสัตว์จึ ว์ จึ งเรีย รี กว่า ว่ วายังกุฤทธิ์นอกจากนี้ยังมีการแสดงว่า ว่ ยังใน รูปแบบอื่นเช่นว่า ว่ ยังเบร์เบร์วายังโกเล็ก ฯลฯ และยังมีวายังที่ใช้ คนแสดงจริง ริ เช่นวายังโตเป็งวายังโอรังเป็นต้น


นาฏศิลป์สุมาตรา ลักษณะการแสดงจะแสดงเป็นเรื่อ รื่ งราวของนิทานพื้นบ้าน และเรื่อ รื่ งราวในราชสำ นักจะไม่แสดงรามายณะและมหาภารตะ เพราะประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนอกจากนี้ยังมี ระบำ ชุดต่างๆซึ่งท่าทางเต้นนุ่มนวลทำ นองเพลงไพเราะ การแต่งกาย มีความงดงามผ้านุ่งที่ใช้มักเป็นลายหยกทอง และหยกเงินใส่เสื้อกำ มะหยี่แขนยาวตัวยาวคลุมสะโพก ผมเกล้า มวยต่ำ เสียบปิ่นปักผมสีทองหรือ รืใช้เครื่อ รื่ งประดับศีรษะสีทอง


นาฏศิลป์ชวา เป็นการแสดงที่มีพื้นฐานมาจากการรำ ในพระราชสำ นักมีลีลา ร่ายรำ ที่นุ่มนวลประณีตจังหวะที่ใช้ในการร่ายรำ จะช้ามีผ้าสไบเป็น ส่วนประกอบสำ คัญในการร่ายรำ เวลาแสดงตาจะตกตลอดเวลาไม่ ใช้สายตาไปยังคนดูวงดนตรีที่ รีที่ประกอบการแสดงเป็นวงดนตรี ประจําพระราชสำ นักตั้งแต่สมัยโบราณโดยใช้บรรเลงในงานพิธี ต่างๆปัจจุบันใช้เป็นวงดนตรีสำ รีสำหรับการฟ้อนรำ เรีย รี กว่า ว่ กาเมอลัน การแต่งกาย จะนุ่งผ้าถุงรัดรูปแบบหยอกยาการ์ตาโดยปล่อย ทิ้งชายยาวไว้ด้ ว้ ด้ านข้างหรือ รื แบบสุราการ์ตา คือนุ่งผ้าถุงจีบหน้า นางเล็กๆด้านซ้ายชายผ้ากลมข้อเท้าทิ้งชายยาวไว้ด้ ว้ ด้ านหลังผูกผ้า สไบไว้บ ว้ นที่เอวสวมเสื้อแขนยาวหรือ รื เสื้อแขนกุดตัวยาวใส่เสื้อเกาะ อกกำ มะหยี่สีเข้มปักลวดลายสีทองที่หน้าอกสวมกระบังหน้าทอง ประดับเลื่อมประดับมวยผมด้วยปิ่นปักผมใส่เครื่อ รื่ งประดับ


นาฏศิลป์บาหลีนาฏศิลป์บาหลี เป็นนาฏศิลป์ที่มีความเก่าแก่ได้รับอารยธรรมมาจากศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนาจากอินเดียซึ่งมีการได้รำ เพื่อบวงสรวงและบูชาสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนใหญ่เช่นระบำ เบนเด็กใช้รำ ในพิธีศาสนาและรำ เบิก โรงเพื่อบูชาเทวดาผู้แสดงเป็นหญิงล้วนถือถาดดอกไม้โปรยดอกไม้ไป รอบๆนอกจากนี้ยังมีการแสดงละครเป็นเรื่อ รื่ งราวเช่นมหาภารตะรา มายณะจาเป็นละครร้องแสดงเรื่อ รื่ งเจ้าชายปันหยีพื้นบ้านที่มีแบบแผน มาตรฐานลักษณะการแสดงมีชีวิต วิ ชีวาเร้าใจรวดเร็ว. นาฏศิลป์บาหลี นาฏศิลป์บาหลีเป็นนาฏศิลป์ที่มีความเก่าแก่ได้รับอารยธรรมมาจาก ศาสนาฮินดูและพระพุทธศาสนาจากอินเดียจึงมีการได้รำ เพื่อบวงสรวงและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นส่วนใหญ่เช่นระบำ เบนเด็กใช้รำ ในพิธีศาสนา และรำ เบิกโรงเพื่อบูชาเทวดาผู้แสดงเป็นหญิงล้วนถือถาดดอกไม้โปรยดอกไม้ไปรอบๆนอกจากนี้ยังมีการแสดงละครเป็นเรื่อ รื่ งราวเช่นมหา ภารตะรามายณะจาเป็นละครร้องแสดงเรื่อ รื่ งเจ้าชายปันหยีละครขึ้น บ้านที่มีแบบแผนมาตรฐานลักษณะการแสดงมีชีวิต วิ ชีวาเร้าใจรวดเร็ว จุดเด่นคือการยักย้ายสะโพก การใช้ดวงตาเป็นต้น


นาฏศิลป์บาหลีจะมีสีสันสวยงามหญิงนุ่งผ้าถุง การแต่งกาย ของนาฏศิลป์บาหลีจะมีสีสันสวยงามหญิงนุ่งผ้าถุงพันรอบตัวเองจะ พันผ้าถุงชาย่าลากยาวพื้นปัดไปด้านหลังมีผ้าคาดพันยาวพัน รอบตัวทิ้งชายไปด้านหลังบางชุดจะสวมเสื้อแขนยาวจะมีเครื่อ รื่ ง สวมศีรษะลวดลายทองหรือ รื กระบังหน้าถ้าเป็นการแสดงพื้นบ้านก็ จะเล่ามวยต่ำ ปิ่นทองและประดับด้วยดอกลั่นทมใส่เครื่อ รื่ งประดับ การแต่งกาย


การแสดงของเขมรแต่ดั่งเดิมใช้ผู้หญิงแสดง เพราะเป็นการ แสดงภายในพระราชสํานักเท่านั้นปัจจุบันเป็นการแสดงเพื่อ ประชาชน แต่หลายตอนที่ไม่เหมือนของอินเดีย และมีการแสดงอีก ชุดหนึ่ง คือ ชุดโมนิเมขลาเทพธิดาและเรีย รี มอายโชเจ้าพายุ ซึ่งเป็น ตํานานเดียวกับเมขลารามสูรของไทย ละครที่ได้รับความนิยมอีก หนึ่งชนิด คือละครบาสสัก (Bassae) การแสดงนาฏศิลป์ของ เขมรมี ลักษณะการร่ายรําที่นุ่มนวล สง่า ใกล้เคียงกับการแสดง ของไทย แต่ผู้รําจะรํากระดกเท้าดันหลังและจะย่อเข่ามากกว่าของ ไทย การประดับก็อยู่ระดับที่สูงกว่า ว่ จะไม่รํากดตัวกดไหล่เหมือน ไทย แต่จะย่อ รํานิ่ง สง่า ไม่อ่อนช้อยเหมือนของไทย มีทั้งการ แสดงนอกเรื่อ รื่ งพระอภัยมณี ละครเรื่อ รื่ งอิเหนา นาฏศิลป์เขมร


ลักษณะการแต่งกายในนาฏศิลป์ ของเขมร ในแแต่ละชุดจะมีความใกล้เคียงกันกับไทยมาก การแต่งกาย


นาฏศิลป์พม่า การแสดงของชาวพม่านั้นจะแสดงในพิธีการต่างๆ และมีส่วน ร่วมหรือ รื เกี่ยวข้องกับศาสนาและประเพณี นาฏศิลป์ที่เก่าแกของ พม่า ได้แก่ ระบําบวงสรวงเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ระบําพัดขิ่น แปลว่า ว่ ระบําวิญ วิ ญาณ ต่อเมื่อละครไทยในพระราชสํานักได้เสื่อมความนิยมลง “ละครพัดขิ่น” กลับเฟื่องฟุขึ้ ฟุ ขึ้ น ละครพัดขิ่นนั้นเป็นละครที่ ผูกเป็นเรื่อ รื่ ง มีท่าทางและบทเจรจาประกอบ และภายหลังได้เพิ่มบทตลกลงไปด้วย


ชายใส่เสื้อแขนยาว นุ่งโสรงหรือ รื กางเกงคลุมเข่า ประดับด้วยเลื่อม ดิ้นคล้ายกับของไทย ส่วนหญิงจะใส่เสื้อรัดอก สวมเสื้อแขนยาว ไม่มีกระดุม เปิดให้เห็นเสื้อตัวใน ชายเสื้อดโค้ง งอน นุ่งผ้าถุงกรอมเท้า เกล้ามวยสูงปล่อยชายผมผให้ยาวมา ด้านขวา ถ้าเป้นตัวเอกจะสวมเครื่อ รื่ งประดับศีรษะ การแต่งกาย


ขอบคุณสําหรับการรับชมจนมา ถึงตอนนี้ ขอบคุณครับ


Click to View FlipBook Version