ฉบับนักเรียน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนร้7ู ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับด้าน
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ
รายวชิ าชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6
ชื่อ—สกุล.............................................ช้ัน..........เลขท่ี.....
จดั ทาโดย นางสาวสาแลฮะ ดีซะเอ๊ะ
ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ
โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา
สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษายะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลบั ด้าน ก
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6
คำนำ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับ
ดา้ น เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปี
ที่ 6 เป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนสามารถ
ศกึ ษาคน้ คว้าได้ดว้ ยตนเอง โดยชดุ กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละชุดประกอบด้วย กิจกรรมเรยี นรู้นอก
ห้องเรียน และกิจกรรมเรียนรู้ในชั้นเรียน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนนำชุดกิจกรรมการเรียน รู้ไป
ดำเนินการกิจกรรมต่างๆได้สะดวกและมีประสิทธิภาพตรงตามจุดมุ่งหมายของการสร้างชุด
กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 ชุด ได้แก่ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ
กำเนิดของสิง่ มชี ีวิต อาณาจักรมอเนอรา (Monera) อาณาจักรโพรทสิ ตา (Protista) อาณาจักร
พชื (Plantae) อาณาจักรฟังไจ (Fungi) อาณาจักรสัตว์ (Animalia) และอนกุ รมวธิ าน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน
เรื่องความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6
ชดุ ที่ 8 เรื่องอนกุ รมวธิ าน ประกอบดว้ ย คำอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ กำหนดการจัดการ
เรียนรู้ ผังมโนทัศน์ คำแนะนำสำหรับครู แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมเรียนรู้นอก
หอ้ งเรียน : กอ่ นเขา้ ช้ันเรยี น กจิ กรรมเรียนรู้ในชั้นเรียน กิจกรรมนอกห้องเรยี น : หลงั เขา้ ชน้ั เรียน
เฉลย แบบบันทึกคะแนนและแบบประเมินผล สามารถนำไปเรียนรู้ได้อย่างสะดวกและมี
ประสิทธิภาพ
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือครู ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการ
เรียนของนักเรียน และการจัดการเรียนรู้สำหรับครูผู้สอน และผู้ที่สนใจ เพื่อใช้ในการพัฒนา
ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนต่อไป
สาแลฮะ ดซี ะเอ๊ะ
ชดุ ท่ี 8 เร่อื งอนกุ รมวิธาน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลบั ด้าน ข
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
สารบญั
เรอ่ื ง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
คำแนะนำสำหรบั นักเรียน ค
ผงั มโนทัศน์ จ
แผนผงั ขน้ั ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ฉ
สาระ ผลการเรยี นร้แู ละจุดประสงค์ ช
กิจกรรมเรยี นรู้นอกหอ้ งเรียน : ก่อนเข้าช้ันเรียน 1
2
- แบบทดสอบก่อนเรียน 5
- ใบความรู้ 16
- กิจกรรมสืบค้นข้อมูล 21
กิจกรรมเรียนรูใ้ นห้องเรียน : เข้าชั้นเรยี น 22
- กจิ กรรมปฏบิ ัตกิ าร 23
- แบบบนั ทกึ กิจกรรม 25
- แบบทดสอบหลงั เรยี น
28
กิจกรรมนอกห้องเรียน : หลงั เขา้ ชัน้ เรียน 30
แบบบันทกึ คะแนน 32
บรรณานุกรม
ชุดท่ี 8 เร่ืองอนกุ รมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลับดา้ น ค
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
คำแนะนำสำหรบั นักเรียน
การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับ
ห้องเรียนกลับด้าน เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยา 6 (ว33290) ช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 6 ชุดที่ 4 เรื่องอาณาจักรโพรทิสตา (Protista) จำนวน 3 ชั่วโมง โดย
แบ่งเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง และกิจกรรมการเรียนรู้ใน
หอ้ งเรียน จำนวน 2 ช่วั โมง นกั เรยี นควรเตรียมพร้อมและปฏบิ ัตติ ามคำแนะนำ ดงั ต่อไปน้ี
ขนั้ เตรียมกอ่ นใชช้ ดุ กจิ กรรม
1. นักเรยี นเขา้ รว่ ม Facebook Groups
ของหอ้ งเรยี น ท่ีครูไดส้ ร้างไว้ โดยสแกน QR code
2. ศกึ ษาขั้นตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
จุดประสงค์ ใหเ้ ข้าใจ
3. เตรียมความพร้อมของตนเองสำหรับทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและใน
ห้องเรียน
4. ศึกษาและปฏบิ ัติตามในกิจกรรมการเรยี นรู้นอกหอ้ งเรียนกอ่ นทุกครั้งที่จะเข้าร่วม
กิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน และเม่ือปฏิบัติกิจกรรมนอกห้องเรียน : หลังเข้าชั้นเรียน
ให้เรยี บร้อย
ข้ันการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
กจิ กรรมเรยี นร้นู อกหอ้ งเรียน : ก่อนเขา้ ช้นั เรยี น
1. ศกึ ษาจากใบความรูแ้ ละปฏบิ ตั ติ ามใบกจิ กรรมสืบค้นข้อมลู ด้วยตนเอง
2. หากมีปัญหาให้สอบถามครูผ่านการแชทของ Facebook Groups ได้
ตลอดเวลา
3. ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถและ
รอบคอบ
ชุดท่ี 8 เรื่องอนกุ รมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น ง
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6
กจิ กรรมเรยี นรู้ในหอ้ งเรียน : เขา้ ชั้นเรยี น
1. ศึกษาภาระงานให้เข้าใจ และปฏิบัตติ ามลำดับขน้ั ตอน
2. ปฏบิ ัติกจิ กรรมอย่างต้ังใจและมสี ่วนร่วมทกุ กิจกรรม
3. มวี ินยั และสมาธใิ นการทำกจิ กรรม
4. มีความสามัคคี มีน้ำใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุ่ม และไม่เอาเปรียบ
เพ่ือนร่วมกลุม่
กิจกรรมเรียนรู้นอกหอ้ งเรียน : หลังเขา้ ชนั้ เรยี น
1. ศึกษาภาระงานใหเ้ ขา้ ใจ และปฏิบัตกิ ิจกรรมใหค้ รบถ้วน
2. มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม มีความสามัคคี มีน้ำใจ และไม่เอาเปรียบ
เพ่ือนร่วมกลุม่
ขั้นหลังการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
รวบรวมผลงานท่ไี ด้จากการปฏิบัติกิจกรรมสง่ ครู เพอ่ื ประเมินผลการเรียนรู้
QR code
สำหรับชุดกจิ กรรมเรยี นรู้
ชดุ ที่ 8 เร่ืองอนกุ รมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลับดา้ น จ
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6
หน่วยการเรยี นท่ี 1 เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ
ชดุ ที่ 8 เร่ืองอนกุ รมวิธาน
ชุดกิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น ฉ
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6
แผนผังขนั้ ตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
ชุดที่ 8 เรอ่ื งอนกุ รมวิธาน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลับด้าน ช
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6
สาระ ผลการเรียนรแู้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ชุดท่ี 5 เรอื่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)
สาระวิทยาศาสตร์เพ่มิ เตมิ
สาระชวี วทิ ยา
สาระที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม
สมบัตแิ ละหน้าที่ของสารพันธุกรรม การเกดิ มวิ เทชนั เทคโนโลยีทางดเี อน็ เอ หลกั ฐานข้อมูล
และแนวคดิ เก่ียวกับวิวฒั นาการของสิง่ มีชวี ิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี - ไวน์เบิร์ก การเกิดสปี
ชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
1. อธิบาย และยกตวั อย่างการจำแนกสงิ่ มีชีวิตจากหมวดหมยู่ อ่ ย และวิธีการเขียนชื่อ
วทิ ยาศาสตรใ์ นลำดับข้ันสปชี สี ์
2. สรา้ งไดโคโทมัสคีย์ในการระบสุ ิง่ มีชีวติ หรือตวั อย่างที่กำหนดเป็นหมวดหมู่
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั (K)
1.1 อธบิ ายลกั ษณะสำคญั ของสตั ว์ (K2)
1.2 ยกตวั อย่างส่งิ มชี ีวิตอาณาจักรสตั ว์ (K2)
1.3 อภิปรายความหลากหลายของส่งิ มชี วี ิตอาณาจกั รสัตว์ (K2)
1.4 บอกประโยชนแ์ ละโทษของส่ิงมชี ีวิตอาณาจักรสตั ว์ (K4)
2. ด้านทกั ษะพิสัย (P)
2.1 ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมศกึ ษาเก่ยี วกบั สตั ว์ (P3)
2.2 จัดทำแผนผังมโนทศั นก์ ารจัดหมวดหมู่ของส่งิ มชี ีวิตอาณาจักรสัตว์ (P3)
2.3 มีกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม (P3)
3. ดา้ นจติ พิสัย (A)
มีวนิ ยั ซอ่ื สัตย์ ใฝห่ าความรู้ และม่งุ มั่นในการทำงาน (K2)
ชุดที่ 8 เร่อื งอนกุ รมวิธาน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 1
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
:
คำช้ีแจง : นกั เรยี นศึกษาดว้ ยตนเองนอกหอ้ งเรยี นและปฏิบตั ิดงั ต่อไปนี้
1. นกั เรียน สแกน QR Code เพ่อื ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
2. นกั เรียนศกึ ษาเน้อื หาจากใบความรู้
2.1 ใบความรู้ที่ 8.1 เรอ่ื งอนุกรมวธิ าน
2.2 ใบความรู้ที่ 8.2 เรื่องไดโคโตมัสคีย์
2.3 ใบความรู้ที่ 8.3 เรือ่ งการจำแนกสง่ิ มชี วี ิตกับความสัมพันธ์ในเชงิ วิวัฒนาการ
3. นักเรยี นจดั ทำใบกิจกรรมสืบคน้ ข้อมูล
3.1 ใบกจิ กรรมสบื ค้นข้อมูลที่ 8.1 เร่อื งการศึกษาอนุกรมวธิ าน
3.2 ใบกจิ กรรมสบื ค้นข้อมูลท่ี 8.2 เรื่องการใช้ไดโคโตมสั คีย์
3.3 ใบกิจกรรมสืบคน้ ข้อมูลที่ 8.3 เรื่องสรา้ งแคดโดแกรม
ชุดที่ 8 เรอ่ื งอนุกรมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน 2
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
Pre – test)
คำชีแ้ จง : นกั เรยี นพจิ ารณาเลอื กคำตอบทถ่ี กู ทส่ี ุด และทำเครือ่ งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดไมใ่ ชส่ ว่ นประกอบของอนุกรมวิธาน ข. Taxonomy
ก. Classification ง. Identification
ค. Nomenclature
2. Whittakeer ได้จัดแบ่งสง่ิ มีชวี ติ ออกเป็นก่ีอาณาจักร
ก. 2 ข. 3
ค. 4 ง. 5
3. เพราะเหตใุ ดไวรสั จงึ ไม่จัดอยู่ในอาณาจักรใดเลย
ก. ดำรงชวี ติ เปน็ ปรสิต
ข. ขาดคณุ สมบัติทางเซลล์
ค. มี RNA เปน็ สารพนั ธกู รรม
ง. เพิม่ จำนวนในเซลลอ์ ่ืน
4. ใครคอื บิดาแหง่ อนุกรมวิธาน ข. อรสิ โตเติล
ก. คาโรลัส ลินเนยี ส ง. ชาร์ล ดาวิน
ค. จอห์น เรย์
5. ขอ้ ใดไมใ่ ชแ่ นวทางการจัดหมวดหมู่ในปจั จุบนั
ก. Phenetices
ข. Cladistics
ค.Evolutionary classification
ง. Aritificial classification
ชดุ ท่ี 8 เรอ่ื งอนกุ รมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลบั ด้าน 3
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
6. ขอ้ ใดบ้างท่ีเขยี นช่อื วิทยาศาสตร์ของคนไดถ้ กู ต้อง
ก. Homo Sapiens ข. Homosapiens
ค. Homo sapiens ง. Homo sapiens
7. ชอื่ วิทยาศาสตร์ของสง่ิ มีชีวติ มีความหมายตรงกับขอ้ ใดมากทีส่ ดุ
ก. ใชเ้ รยี กสงิ่ มีชีวติ ท่ีค้นพบใหม่
ข. นกั วิทยาศาสตร์ใชเ้ รียกสง่ิ มชี วี ิต
ค. นกั วทิ ยาศาสตร์ยอมรับและเข้าใจตรงกนั
ง. เขียนดว้ ยภาษาองั กฤษ และขดี เส้นใตห้ รอื ใชต้ ัวพมิ พ์เอน
8. สง่ิ มีชีวิตทมี่ ีโครงสร้างรา่ งกายเป็นโฮโมโลกัสกัน (Homologous structure) ควรมีลักษณะใด
ก. โครงสร้างโฮโมโลกัสกัน ตอ้ งทำหนา้ ที่เหมอื นกนั
ข. สง่ิ มชี ีวติ เหลา่ นนั้ ต้องอยู่ในสปชี ีส์เดียวกัน
ค. ส่ิงมชี วี ิตเหล่าน้นั ควรสืบเช้อื สายมาจากบรรพบรุ ษุ รว่ มกัน
ง. สิง่ มชี วี ิตเหล่านัน้ ต้องมกี ลุ่มของยีนมาจากประชากรเดียวกัน
9. สิ่งมีชวี ิตทจี่ ัดกลมุ่ ใหอ้ ย่ใู นลำดบั ด้วยกนั ตอ่ ไปนล้ี ักษณะเฉพาะร่วมกนั (Common factor)
มากที่สุด
ก. จีนสั ข. ออร์เดอร์
ค. คลาส ง. สปีชีส์
10. ประจักษ์พยานใดตอ่ ไปนี้ ปกตจิ ะใชใ้ นการระบคุ วามสมั พันธ์ทางววิ ฒั นาการร่วมกนั ของ
สง่ิ มีชวี ติ
ก. ความคลา้ ยคลึงทางโครงสร้าง
ข. ความคล้ายคลงึ ทางสรีระ
ค. ความคลา้ ยคลึงทางหนา้ ท่ี
ง. ความคล้ายคลึงทางการเปลีย่ นแปลง
ชุดท่ี 8 เร่ืองอนกุ รมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 4
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
กระดาษคำตอบ ชอื่ ....................................................................
แบบทดสอบก่อนเรียน ช้ัน .............เลขท่ี ................
ชดุ ท่ี 8 เรอ่ื งอนุกรมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 5
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
ประกอบด้วย
ใบความร้ทู ่ี 8.1 เร่ืองอนกุ รมวธิ าน
ใบความรู้ท่ี 8.2 เรอื่ งไดโคโตมสั คีย์
ใบความรู้ที่ 8.3 เรอ่ื งการจำแนกสิ่งมชี วี ิตกบั ความสมั พันธ์ในเชิงววิ ฒั นาการ
ชดุ ท่ี 8 เร่อื งอนกุ รมวิธาน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลบั ดา้ น 6
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
เรื่องอนุกรมวธิ าน
อนกุ รมวิธาน (Taxonomy) มรี ากศพั ทม์ าจากภาษากรีกสองคำคอื taxis ทแี่ ปลว่า การจัด และ
คำวา่ nomos ทีแ่ ปลว่า กฎ ดงั นนั้ Taxonomy จงึ หมายถึงกฎเกณฑ์เกี่ยวกบั การจดั หมวดหมู่
ของสิง่ มชี วี ติ โดยจะแบง่ ออกเป็น 3 สว่ น คอื
1. Classification หมายถงึ กฎเกณฑ์การจดั สิ่งมชี วี ติ ออกเป็นหมวดหมู่
2. Identification หมายถงึ ตรวจสอบช่ือวิทยาศาสตร์ทถี่ กู ต้องของสิ่งมชี วี ติ
3. Nomenclature หมายถงึ การต้ังช่อื วิทยาศาสตร์ส่งิ มีชีวติ
บคุ คลสำคญั ทม่ี ผี ลงานด้านอนุกรมวธิ าน
ก. Carolus Linnnaeus ข. Robert Whittaker ค. Carl R. Woese
ภาพที่ 1 บุคคลสำคัญท่มี ผี ลงานดา้ นอนุกรมวธิ าน
ทม่ี า : (ก) https://th.erch2014.com/obrazovanie/87758-vklad-karla-linneya-v-
biologiyu-kratko-kakoy-vklad-v-razvitie-biologii-vnes-karl-linney.html
(ข) http://theyoungbiologist.blogspot.com/2012/12/robert-whittaker-influential-
biologists.html
(ค) https://www.syracuse.com/news/2012/12/carl_r_woese_syracuse_native_a.html
ชดุ ท่ี 8 เรอื่ งอนุกรมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลบั ดา้ น 7
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
การจดั หมวดหมู่ (Classification)
แนวทางการจดั หมวดหมู่
1. Traditional classification พิจารณาจากความคลา้ ยคลึงและความแตกต่าง
ทงั้ หลายระหวา่ งกลุ่มส่ิงมีชีวิต
2. Phylogenetic systematics เป็นการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยพิจารณา
จากแบบแผนของการแยกกันทางสายววิ ฒั นาการ (branching pattern of phylogeny)
3. Phenetics เป็นลักษณะการจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตโดยเปรียบทียบโครงสร้าง
ฮอมอโลกัส (Homologous structure) และ โครงสร้างแอนาโลกัส (Analogous
structure)
Homologous structure หมายถึงอวัยวะของสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันที่มีโครงสร้าง
ภายในหรือกระดูกคล้ายกันโดยอวัยวะนั้น ๆ อาจจะมีลักษณะภายนอกและการนำหน้าท่ี
เหมอื นกนั หรือแตกตา่ งกนั ก็ได้ เช่น ขาหน้าจระเข้ ปกี นก ครีบปลาวาฬ ขาหนา้ ของมา้ แขนของ
คน
Analogous structure หมายถงึ อวัยวะของสงิ่ มีชวี ติ ต่างชนิดกนั ทีม่ โี ครงสร้างภายใน
หรือโครงกระดูกแตกต่างกันทั้ง ๆ ที่อวัยวะนั้น อาจมีลักษระภายนอกและการทำหน้าที่
เหมือนกนั (หรือตา่ งกัน) เชน่ ปีกของนกกับปีกของแมลง หรือครบี ของปลากับครบี ของปลาวาฬ
ภาพท่ี 2 เปรยี บเทียบโครงสรา้ ง
ทม่ี า : http://group4cladistics.weebly.com/analogous-and-homologous-traits.html
ชุดที่ 8 เร่อื งอนุกรมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับห้องเรยี นกลับดา้ น 8
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6
ลำดบั ข้ันการจดั หมวดหมู่
ลำดับขั้น ขอ ง หม ว ด ห มู่
สิ่งมีชีวิต (taxonomic category)
ตั้งแต่ลำดับที่กำหนดลักษณะของ
ส่งิ มีชีวติ อยา่ งกว้าง ๆ คอื Domain
จนถงึ ลำดับที่มคี วามจำเพาะเจาะจง
มากทส่ี ุดคอื Species
ภาพท่ี 2 แผนผงั แสดงลำดบั การจัดหมวดหมู่ของหมีดำ (Ursus americanus)
ท่ีมา: https://soscity.co/things/secret-of-nomenclature/
สิ่งมชี ีวิตชนิดใดท่จี ดั อยู่
ในลำดับที่มีความจำเพาะ
เจาะจงสูงจะมีลักษณะร่วม
เดียวกันมากที่สุด เนื่องจากมี
บรรพบุรุษร่วมกัน เช่น สุนัข
บ้าน (Domestic dog) กับหมา
ป่า (Wolf) จะพบลกั ษณะร่วมมี
กว่า เนื่องจากอยู่ใน Genus
เดียวกัน
ภาพที่ 2 แผนผงั ความใกล้ชดิ กนั ในลำดับอนุกรม
ท่ีมา: https://sites.google.com/a/canacad.ac.jp/sl-hl-1-biology-4-ferguson/unit-11-
ecology/5-3-classification-of-biodiversity
ชุดที่ 8 เรือ่ งอนกุ รมวธิ าน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 9
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6
ระบบการต้ังชอ่ื (Nomenclature)
ช่อื ของสิง่ มชี ีวิตจะมี 2 แบบบ คือ
1. ช่ือสามญั (common name) คือชอ่ื ทใ่ี ชเ้ รียกสิ่งมชี ีวิตตามภาษาท้องถ่ินหรือภาษา
ประจำชาติ
2. ชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name) เป็นชื่อเรียกสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นที่ยอมรับของ
นักวิทยาศาสตร์ และเปน็ ช่ือทีก่ ำหนดขนึ้ มาหลกั สากล ใชร้ ะบบ binomial nomenclature
หลกั เกณฑใ์ นการตง้ั ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ มดี งั น้ี
1. ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ต้องเปน็ ภาษาลาตนิ หรือรากศพั ทม์ าจากภาษาลาตินเสมอ
2. ประกอบด้วย 2 ส่วน (binomial nomenclature) ส่วนแรกเป็นชื่อ Genus ขึ้นต้นด้วย
อักษรตัวใหญ่ ส่วนที่สองคือคำคุณศัพท์แสดงลักษณะที่เรียกว่า specific epithet ขึ้นต้น
ด้วยอกั ษรตวั เลก็
3. ช่ือวทิ ยาศาสตร์จะต้องเขียนตวั เอนหรอื ขีดเส้นใต้ โดยเส้นใตร้ ะหวา่ ง 2 คำไม่ต่อกนั
4. ถ้าทราบชือ่ ผู้ตงั้ ช่ือ จะลงช่ือยอ่ ของผู้ต้ังชอื่ ตามหลังช่ือวิทยาศาสตร์ เชน่ ต้นหางนกยูงไทยมี
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caesalpinia pulcherrima (Linn.) คำว่า Linn. เป็นชื่อย่อของ
Linnaeus
4. แต่ละหมวดหม่ตู ้องมชี อื่ วิทยาศาสตรท์ ถ่ี กู ต้องเพียงชื่อเดียว โดยใชช้ อื่ ทต่ี ้ังกอ่ น
5. การกำหนดชื่อหมวดหมู่ตั้งแต่ family ลงมาต้องมีตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเป็นแบบในการ
พจิ ารณา
ชุดที่ 8 เร่ืองอนกุ รมวิธาน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 10
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
ตวั อยา่ งช่ือวิทยาศาตร์
- บอกสถานทีพ่ บหรือที่อยอู่ าศยั ไดแ้ ก่
ชอื่ สามญั ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ความหมาย
ไส้เดอื นดิน Lumbricus terrestris คำว่า terrestris หมายถงึ อาศัยอยบู่ นบก
พยาธิใบไม้ในตับ Fasciola hepatica คำว่า hepatica หมายถึง ตบั
มะม่วง Mangifera indica คำวา่ indica หมายถึง ประเทศอินเดีย
- บอกลกั ษณะ เช่น สี รูปร่าง ขนาด ได้แก่
ชอ่ื สามญั ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ความหมาย
จำปี Michelia alba คำว่า alba หมายถงึ สขี าว
มะยม Phyllantus acidus คำวา่ acidus หมายถึง มีรสเปรย้ี ว
ปลาบึก Pangasianodon gigas คำวา่ gigas หมายถงึ ใหญ่ท่สี ดุ
เช้ือโรคแอนแทรกซ์ Bacillus anthrasis คำวา่ bacillus หมายถงึ รปู ทอ่ น
และคำว่า anthrasis หมายถึงโรคแอนแทรกซ์
- บอกชื่อผ้ตู ้งั หรอื เปน็ เกียรติแก่ผใู้ ดผหู้ น่ึง ได้แก่
ช่ือสามัญ ชื่อวิทยาศาสตร์ ความหมาย
ปลาปู่มหดิ ล Mahidolia mystasina คำวา่ Mahidolia เปน็ ช่ือของสมเด็จฯ
เจา้ ฟ้ามหิดลอดลุ เดช กรมหลวงสงขลา
นครินทร์
ชุดที่ 8 เร่ืองอนุกรมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลับดา้ น 11
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6
เร่ือง Dichotomous key
รปู วิธาน (Dichotomous Key)
เป็นเครือ่ งมือทีใ่ ช้ในการระบชุ นิด โดยรูปวธิ านจะกล่าวถึงลักษณะที่เดน่ ชัดและสำคัญซ่ึง
ใช้ในการเปรียบเทียบสิ่งมีชีวิตได้อย่างชัดเจน การเปรียบเทียบความแตกต่างของลักษณะ จะ
เปรยี บเทยี บเป็นคู่ ๆ จงึ เรยี กลกั ษณะนว้ี ่า“dichotomous key” รปู วธิ าน (key) มี 2 ประเภท
1. bracketed dichotomous key
: ใช้ระบบตวั เลขท่ีมีคขู่ องลักษณะทีเ่ ป็นทางเลอื กอยชู่ ดิ กนั
: คู่ของลักษณะทจี่ ะให้เป็นตัวเลอื กลำดับต่อไปอยู่ต่ำ ลงมา
ตัวอย่าง
1. ขนแบบ feather .................................................................................. เปด็
ขนแบบ hair ....................................................................................... ข้อ 2
2. มีถงุ หนา้ ท้อง ........................................................................................ จงิ โจ้
ไม่มีถงุ หน้าทอ้ ง .................................................................................... ลิง
2. indented dichotomous key
: คูข่ องลักษณะทเี่ ปน็ ทางเลือกอาจอยหู่ ่างกนั
ตวั อย่าง
1A ขนแบบ faether …………………………………………………………………….. เปด็
1B ขนแบบ hair …………………………………………………………………………... ข้อ 2
2A มีถงุ หนา้ ท้อง............................................................................ จิงโจ้
2B ไม่มถี งุ หน้าท้อง ....................................................................... ลิง
ชดุ ที่ 8 เร่ืองอนุกรมวธิ าน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 12
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6
ขน้ั ตอนการสร้างรปู วธิ าน
1. ศกึ ษาลักษณะต่าง ๆ ของพืชหรอื สตั ว์ แล้วสรา้ งตารางเปรยี บเทยี บลักษณะ
2. เขียนรูปวิธาน โดยกลา่ วถงึ ลักษณะเดยี วกนั ทมี่ คี วามแตกตา่ ง
3. คำขนึ้ ของรูปวิธานตอ้ งเป็นลักษณะเดียวกนั
4. การเปรียบเทยี บความแตกต่างในรูปวธิ าน ไม่ควรยาวและยากตอ่ การตดั สินใจในการ
ตวั อย่างไดโคโตมสั คยี ์ (dichotomous key) สัตว์มีกระดูกสนั หลัง
1. a. มขี น .................................................................................... ดูขอ้ 2
b. ไมม่ ีขน ................................................................................ ดขู ้อ 3
2. a. ขนเป็นเส้น (hair) ............................................................... สตั ว์เลี้ยงลูกดว้ ยน้ำนม
b. ขนเป็นแผงแบบขนนก (feather)....................................... สัตวป์ กี
3. a. มคี รีบคแู่ ละชอ่ งเหงือก ........................................................ ดูข้อ 4
b. ไมม่ ีทั้งครบี ค่แู ละชอ่ งเหงอื ก................................................ ดขู ้อ 5
4. a. มแี ผน่ กระดูกปดิ ช่องเหงอื ก มีชอ่ งเหงอื ก 1 ชอ่ ง ................ ปลากระดกู แขง็
b. ไม่มีแผ่นกระดกู ปดิ ชอ่ งเหงอื ก มีชอ่ งเหงอื ก 5 – 7 ช่อง....... ปลากระดูกออ่ น
5. a. ผวิ หนังมเี กล็ด....................................................................... สัตวเ์ ล้อื ยคลาน
b. ผวิ หนังไม่มีเกล็ด ................................................................. สัตว์สะเทินนำ้ สะเทนิ บก
ชดุ ท่ี 8 เร่อื งอนุกรมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลับด้าน 13
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
เรือ่ งการจำแนกสิ่งมชี วี ิตกับ
ความสัมพันธใ์ นเชิงวิวัฒนาการ
วิวัฒนาการชาติพันธุ์ (Phylogeny) เป็นการจำแนกสิ่งมีชีวิตโดยพิจารณาจาก
ความสัมพันธ์ในเชิงวิวัฒนาการระหว่างกลุ่มของสิ่งมีชีวิต หากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันควรมี
ลักษณะร่วมกันที่ถา่ ยทอดมาจากบรรพบุรุษรว่ ม (Common acestor) โดยจัดทำเป็นแผนภูมิ
วิวัฒนาการชาติพันธ์ (Phylogenetic tree หรือ Cladogram) เพื่อแสดงการแตกกิ่งก้านท่ี
เชื่อมโยงสิ่งมชี ีวติ species ต่าง ๆ ย้อนกลับไปยงั บรรพบรุ ษุ ร่วม โดยที่บรรพบุรษุ ร่วมทีย่ ้อนไป
ใกล้สุดแรกว่า บรรพบรุ ุษร่วมลา่ สดุ (recent common)
กลมุ่ ของสง่ิ มีชีวติ ตามวิวฒั นาการชาตพิ ันธ์ุ
ภาพท่ี 2 กลุ่มของส่งิ มชี ีวิตตามวิวัฒนาการชาติพันธ์ุ
ทมี่ า:
https://www.macmillanhighered.com/BrainHoney/Resource/6716/digital_first_con
tent/trunk/test/hillis2e/asset/img_ch16/c16_fig12.html
ชดุ ที่ 8 เรื่องอนุกรมวิธาน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลบั ดา้ น 14
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
การสร้าง Phylogenetic tree
2.1 สังเกตและอธิบายเกี่ยวกับลักษณะเชิงวิวัฒนาการ โดยอาศัยหลักฐานทาง
วิวัฒนาการที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจเป็นการยากที่จะบอกว่าลักษณะภายนอกที่เห็นเป็น
ลักษณะเชิงวิวัฒนาการที่มีบรรพบุรุษร่วมกันมาหรือไม่ เนื่องจากบางลักษณะเป็นเพียงการ
เปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นภายหลงั หรือการเปลีย่ นแปลงท่ีมพี ัฒนาการไปตามวัยของส่ิงมีชีวิตน้ัน ๆ
เช่น สีตวั ของกงิ่ ก๋า สขี องเปลือกหอย ความยาวของปีกนก เปน็ ตน้ ดงั นน้ั ลักษณะทเ่ี ลือกนำมาใช้
ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะในเชิงคุณภาพที่มักไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะไม่นิยมนำลักษณะในเชิง
ปริมาณมาใชใ้ นการจัดจำแนกโดยวธิ นี ี้
2.2 บนั ทึกขอ้ มลู พจิ ารณาลักษณะ 7 ลกั ษณะ และบันทึก ถา้ มลี ักษณะนน้ั ปรากฏอยู่จะ
ใช้เคร่ืองหมาย + และไม่มีใชเ้ ครอ่ื งหมาย –
ตารางที่ 1 การพจิ ารณาลักษณะของส่ิงมชี วี ติ 7 ลักษณะ
ลักษณะ (Characters) ปลา นก หนู คา้ งคาว
ปอด (lung)
รยางค์ขา 4 (bony limbs) - +++
ตอ่ มน้ำนม (mammary glands)
ขน (hair) - +++
ปกี (wings)
ฟนั (jaws) - - ++
ขนนก (feathers)
- - ++
- +- +
+ +++
- +- -
จะเห็นว่าลักษณะที่จำนำมาใช้จดั กลุ่มจะต้องเป็นลักษณะท่ีปรากฏในสัตว์มากกวา่ หนงึ่
สปีชีส์ แต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากลักษณะทีม่ ีปรากฏอยู่ในสัตวท์ ุกสปีชีส์จะสามารถจัดกลุ่มสตั ว์ได้
เพียงกลุ่มเดียว ส่วนลักษณะท่ีปรากฏอยู่ในสิง่ มีชวี ิตสปชี ีส์เดียวเท่านัน้ จะไม่สามารถจัดจำแนก
ร่วมกับกลุ่มอื่น ๆ ได้ จึงไม่นำลักษณะนั้นมาใช้ เช่น ลักษณะขนนก (Feather) ที่มีอยู่ในสัตว์
เพียงสปีชีสเ์ ดยี ว คอื นก
ชดุ ท่ี 8 เร่ืองอนุกรมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับดา้ น 15
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6
2.3 นำขอ้ มูลมาสร้างแผนภมู กิ ารจดั จำแนก ทเี่ รยี กว่า คลาโดแกรม (Cladogram) หรือ
Phylogenetic tree
ภาพที่ 1 Phylogenetic tree
ทมี่ า : https://sites.google.com/site/mrduquebiology/classroom-
news/36cladograms
ชุดที่ 8 เรือ่ งอนุกรมวธิ าน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น 16
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
คำช้ีแจง : นักเรียนทำกจิ กรรมสืบค้นขอ้ มลู โดยศึกษาความรู้จากใบความรู้
ใบกิจกรรมการสืบค้นขอ้ มลู 8.1 เรือ่ งการศกึ ษาอนกุ รมวธิ าน
ใบกิจกรรมการสบื ค้นขอ้ มลู 8.2 เรอ่ื งการใช้ Dichotomous key
ใบกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 8.3 เรื่องการสร้าง Phylogenetic tree
ชดุ ท่ี 8 เรอื่ งอนกุ รมวิธาน
ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับหอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 17
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
เรือ่ งการศึกษาอนุกรมวธิ าน
คำส่ัง : นักเรยี นศกึ ษาจากใบความรู้ และตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. อนุกรมวิธาน คืออะไร ................................................................................................................
2. การศกึ ษาอนกุ รมวธิ าน แบง่ เป็นก่ีส่วน อะไรบ้าง
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
3. Whittaker จดั กล่มุ สงิ่ มชี วี ติ ออกเปน็ หมวดหมู่อย่างไร
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
4. จงจัดลำดบั หมวดหมู่ ของสิ่งมีชวี ติ จากใหญไ่ ปหาย่อย
.........................................................................................................................................................
5. การจัดหมวดหมรู่ ะดบั โดเมน จดั แบ่งสงิ่ มชี ีวิตโดยใชเ้ กณฑ์อะไร................................................
6. Phylogenetic tree คอื อะไร.....................................................................................................
7. ชอื่ สามัญกบั ชอื่ วิทยาศาสตร์มคี วามแตกตา่ งกนั อย่างไร
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
8. Binomial nomenclature มีลกั ษณะเปน็ อยา่ งไร
.........................................................................................................................................................
9. เขยี นชอ่ื วิทยาศาสตรข์ อง มะมว่ ง ...............................................................................................
10.ผึง้ ชนั โรง มีชื่อวทิ ยาศาสตร์ วา่ Trigona apicalis Smith,1857 ให้นกั เรยี นระบุขอ้ มลู จัด
หมวดหมู่ให้ครบถ้วน
Domain : ……………………………………. Family :.............................................
Kingdom :…………………………………… Genus :..............................................
Phylum : .......................................... Species:………………………………………
Class :.................................................
Order :................................................
ชดุ ที่ 8 เร่อื งอนุกรมวิธาน
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลบั ดา้ น 18
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6
11. จับคู่สิ่งมชี ีวติ กับชอื่ วิทยาศาสตร์
Orysa sativa Helianthus annuus Felis domestica
Morus rubra
Piper nigrum L. Leucorchestris arenicola Nuphar lutea
Phuwiangosaurus sirindhornae
…………………………………………… …………………………………………… ………………………………….……
……..…………………………… ……………………………………… ………………………………….
……..…………………………… ………………………………….
ชดุ ที่ 8 เร่อื งอนกุ รมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลบั ดา้ น 19
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6
เรือ่ งการใช้ Dichotomous key
คำส่ัง : ให้นกั เรียนใช้ Dichotomous key ของสัตวม์ กี ระดูกสันหลงั เพื่อจัดจำแนกสิง่ มีชีวติ
Dichotomous key ของสตั วไ์ ม่มกี ระดูกสนั หลัง
1. a. รา่ งกายไม่มีสมมาตรหรือมสี มมาตรแบบรัศม…ี ...............….…….. ดูข้อ 2
b. ร่างกายมสี มมาตรแบบครง่ึ ซกี ……………......…..................…..…… ดูข้อ 3
2. a. ผนงั ลำตัวมรี ูจำนวนมาก……..........................……………………………Porifera
b. ผนังลำตัวไมม่ ีรู……………………………………………............................ Echinodermata
3. a. มีเทนทาเคิล(tentacle)………………………………………….…….……… Cnidaria
b. ไมม่ ีเทนทาเคลิ ………………….............................………………………… ดูขอ้ 4
4. a. มีโครงร่างภายนอกตวั (exoskeleton)………………………….………… ดูขอ้ 5
b. ไมม่ ีโครงสร้างภายนอกตวั ……………….........................……………… ดูข้อ 6
5. a. รยางค์เป็นข้อ……..............................……………………………………… Arthropoda
b. รยางค์ไมเ่ ป็นข้อ…………………………….............................…………… Mollusca
6. a. ลำตวั เป็นรปู ทรงกระบอก………………………………………………......... ดูข้อ 7
b. ลำตัวแบน……………………………………………………………................. Platyhelminthes
7. a. ลำตัวแบ่งออกเป็นปลอ้ ง ๆ …………………………………................… Annelida
b. ลา้ ตัวไม่เป็นปลอ้ ง………………………………………………..................... ดูขอ้ 8
8. a. มีเทนทาเคิลหรอื แขนย่นื ออก…………………………......................… Mollusca
b. ไมม่ ีเทนทาเคิล………………………………………............................…… Nematoda
ตวั อย่างสงิ่ มชี วี ติ แสดงการใช้ Phylum
1b → 3b →4b → 5a Arthropoda
ชุดที่ 8 เรื่องอนุกรมวธิ าน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับห้องเรยี นกลับดา้ น 20
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
เรื่องการสรา้ ง Phylogenetic tree
คำสง่ั : ให้นักเรียนพจิ ารณาลักษณะส่งิ มีชวี ติ และทำมาสรา้ ง Phylogenetic tree
1. ให้นกั เรียนทำเครื่องหมาย / ชอ่ งที่มีลกั ษณะ และ - ช่องทไ่ี มม่ ีลักษณะตามตาราง
ลกั ษณะสงิ่ มชี ีวติ กบ จระเข้ แมว คน
1.1 ขนแบบ hair
1.2 หัวใจ 4 ห้อง
1.3 ผวิ หนังเปน็ เกลด็ (scale)
1.4 ตอ่ มน้ำนม (mammary gland)
1.5 เลบ็ (claw)
1.6 ปอด (Lung)
2. นำข้อมลู จากตารางข้อ 1 สร้าง Cladogram
บรรพบรุ ุษรว่ มกัน
ชุดที่ 8 เร่อื งอนกุ รมวิธาน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) รว่ มกับห้องเรยี นกลบั ด้าน 21
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6
:
คำชี้แจง : นกั เรียนทำกิจกรรมเรียนรู้เกีย่ วกับการสรา้ ง Dichotomous key และบนั ทึกผลให้
ครบถว้ น ตามข้ันตอนต่อไปนี้
ชุดที่ 8 เรื่องอนุกรมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 22
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6
เร่ืองการสร้าง Dichotomous key
วสั ดุอุปกรณป์ ระจำกล่มุ
เมล็ดพืช จำนวน 7 ชนดิ ไดแ้ ก่ ถั่วเขยี ว แตงโม ส้ม ฟักทอง ขา้ ว ทานตะวัน ข้าวโพด
เวอร์เนียคาลิเปอร์ ดินสอ
เทปใส ฟิวเจอร์บอร์ด
ปากาเคมี
ขั้นตอนการทำกจิ กรรม
1. ใหน้ กั เรยี นกำหนดลักษณะของเมล็ดพชื เพ่ือท่จี ะศึกษา
2. บนั ทึกผลการใชล้ กั ษณะทก่ี ำหนดในการแบ่งกลมุ่ ของเมลด็ พชื
3. จดั ทำ Dichotomous key ของเมลด็ พืช
4. แลกเปลี่ยนการใช้ Dichotomous key
ชุดที่ 8 เร่ืองอนกุ รมวธิ าน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ด้าน 23
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6
เรือ่ ง
การสร้าง Dichotomous key
คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นบันทกึ ผลการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ในห้องเรยี น เร่ือง การสร้าง
Dichotomous key ดังน้ี
1. สมาชกิ ในกลุ่ม
1.1 ........................................................... เลขที่ ................
1.2 ........................................................... เลขที่ ................
1.3 ........................................................... เลขที่ ................
2. บนั ทึกผลการทำกจิ กรรม
2.1 แผนผังการแยกกลุม่ เมลด็ พชื
เมลด็ พืชทั้งหมด :
…………………………
…………………………
……
1a............................. 1b.............................
. .
2a....................... 2b.............................
.......
ชดุ ท่ี 8 เร่ืองอนกุ รมวิธาน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับดา้ น 24
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6
2.2 เขียน Dichotomous
สรปุ ผลการเรียนรู้ : อนุกรมวิธาน
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
ชุดที่ 8 เร่อื งอนุกรมวิธาน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลบั ด้าน 25
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6
Post – test)
คำช้แี จง : นักเรยี นเลอื กคำตอบที่ถกู ที่สุด และทำเคร่อื งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ
1. เพราะเหตุใดไวรสั จงึ ไม่จัดอยู่ในอาณาจกั รใดเลย
ก. ดำรงชวี ิตเปน็ ปรสติ
ข. ขาดคุณสมบัติทางเซลล์
ค. มี RNA เปน็ สารพันธูกรรม
ง. เพมิ่ จำนวนในเซลลอ์ นื่
2. ใครคือบิดาแหง่ อนกุ รมวธิ าน ข. อริสโตเติล
ก. คาโรลัส ลนิ เนียส ง. ชารล์ ดาวิน
ค. จอหน์ เรย์
3. Whittaker ไดจ้ ัดแบ่งส่ิงมีชีวติ ออกเปน็ กอ่ี าณาจักร
ก. 2 ข. 3
ง. 4 ง. 5
4. ขอ้ ใดบา้ งทเ่ี ขียนชอื่ วิทยาศาสตรข์ องคนได้ถูกตอ้ ง
ก. Homo Sapiens
ข. Homosapiens
ค. Homo sapiens
ง. Homo sapiens
5. ข้อใดไม่ใชแ่ นวทางการจดั หมวดหมู่ในปจั จุบนั
ก. Phenetices
ข. Cladistics
ค.Evolutionary classification
ง. Aritificial classification
ชุดท่ี 8 เรื่องอนุกรมวิธาน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 26
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
6. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ ่วนประกอบของอนกุ รมวิธาน
ก. Classification ข. Taxonomy
ค. Nomenclature ง. Identification
7. สงิ่ มีชวี ิตทม่ี โี รงสร้างรา่ งกายเป็นโฮโมโลกัสกนั (Homologous structure) ควรมลี กั ษณะใด
ก. โครงสรา้ งโฮโมโลกสั กนั ตอ้ งทำหน้าท่ีเหมือนกนั
ข. ส่ิงมชี ีวติ เหล่านั้นตอ้ งอยใู่ นสปชี ีสเ์ ดียวกัน
ค. สง่ิ มีชวี ิตเหล่าน้ัน ควรสบื เชอ้ื สายมาจากบรรพบรุ ษุ ร่วมกนั
ง. ส่งิ มชี ีวิตเหล่านน้ั ตอ้ งมีกลุ่มของยนี มาจากประชากรเดยี วกัน
8. ช่ือวทิ ยาศาสตร์ของสงิ่ มชี ีวติ มีความหมายตรงกับขอ้ ใดมากทสี่ ุด
ก. ใชเ้ รียกส่ิงมีชีวติ ท่ีค้นพบใหม่
ข. นักวทิ ยาศาสตรใ์ ชเ้ รียกส่ิงมีชีวติ
ค. นกั วทิ ยาศาสตร์ยอมรบั และเขา้ ใจตรงกัน
ง. เขยี นดว้ ยภาษาองั กฤษ และขีดเส้นใตห้ รอื ใชต้ ัวพมิ พ์เอน
9. ประจกั ษ์พยานใดตอ่ ไปนี้ ปกติจะใชใ้ นการระบุความสมั พันธท์ างววิ ัฒนาการรว่ มกนั ของ
สง่ิ มชี ีวติ
ก. ความคล้ายคลงึ ทางโครงสรา้ ง ข. ความคลา้ ยคลึงทางสรรี ะ
ค. ความคล้ายคลงึ ทางหนา้ ที่ ง. ความคลา้ ยคลึงทางการเปล่ยี นแปลง
10. สิ่งมชี วี ิตทีจ่ ัดกล่มุ ใหอ้ ยูใ่ นลำดบั ด้วยกนั ต่อไปน้ีลกั ษณะเฉพาะร่วมกัน (Common factor)
มากทสี่ ดุ
ก. จีนัส ข. ออร์เดอร์
ค. คลาส ง. สปีชีส์
ชดุ ที่ 8 เรอื่ งอนกุ รมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 27
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6
กระดาษคำตอบ ช่ือ .........................................................................
แบบทดสอบหลังเรียน
ชน้ั .............เลขที่ ................
ชดุ ท่ี 8 เรื่องอนกุ รมวิธาน
ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 28
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6
:
คำชแี้ จง : นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรรมหลังจากกิจกรรมการเรยี นร้ใู นหอ้ งเรียน
กิจกรรมเรื่อง ป้ายชอ่ื วิทยาศาสตรข์ องต้นไม้
ชดุ ท่ี 8 เรื่องอนุกรมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 29
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
กจิ กรรมเรื่อง จัดทำป้ายชือ่ วิทยาศาสตร์
1. นักเรียนเลอื กศึกษาต้นไม้ในโรงเรยี น / ชมุ ชน / บ้าน
2. จัดทำป้ายช่ือวิทยาศาสตรข์ องตน้ ไม้ โดยใช้วสั ดุและขนาดใดกไ็ ดต้ ามความเหมาะสมและ
ประหยัด
3. นำไปติดทตี่ น้ ไม้
4. บนั ทึกภาพปา้ ยช่อื วทิ ยาศาสตร์ และตน้ ไมท้ ่ตี ดิ ปา้ ยช่ือวิทยาศาสตร์แลว้
5. ติดภาพตามข้อท่ี 4 ดา้ นลา่ ง
ภาพป้ายชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ของตน้ ไม้ทนี่ กั เรยี นไดจ้ ัดทำ
ภาพตน้ ไม้ที่ติดปา้ ยชือ่ วทิ ยาศาสตร์
ชดุ ที่ 8 เรื่องอนุกรมวธิ าน
ชดุ กิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 30
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6
แบบบนั ทกึ คะแนน ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชุดท่ี 8 เร่อื งอนกุ รมวธิ าน
ชดุ ท่ี 8 เรอ่ื งอนุกรมวิธาน
ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลับด้าน 31
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
แบบบันทกึ คะแนนชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
ชดุ ท่ี 8 เรอื่ งอนกุ รมวธิ าน
ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (K) ดา้ น ด้าน
ทกั ษ จติ
ะ พสิ ยั
พสิ ัย (P)
(A)
12345 6 7 8
เลข ชื่อ - สกลุ ิกจกรรม ืสบค้นข้อมูล ่ีท 8.1 เ ื่รองการศึกษาอนุกรมวิธานร
ท่ี ิกจกรรม ืสบค้น ้ขอมูล ี่ท 8.2 เ ่ืรองการใช้ Dichotomous keyว
ิกจกรรม ืสบค้นข้อ ูมล ่ีท 8.3 เ ื่รองการส ้ราง Phylogenetic treeม
แบบทดสอบหลังเ ีรยน
ิ้ชนงาน : ้ปาย ่ืชอวิทยาศาสตร์
ับน ึทก ิกจกรรมการเ ีรยน ู้รใน ้หองเ ีรยน เ ่ืรองการส ้ราง
Dichotomous key
กระบวนการก ุ่ลม
พฤ ิตกรรมคุณลักษณะ ัอนพึงประสงค์
ร้อยละ
ผลการประเ ิมน
คะแนน 15 8 12 10 12 5 20 33 115 100
เกณฑ์การประเมนิ ผลการประเมิน
คะแนน 0 – 60 % ได้ระดบั ปรบั ปรงุ
คะแนน 60 – 70 % ไดร้ ะดับปานกลาง
คะแนน 71 – 80 % ไดร้ ะดบั ดี
คะแนน 80 – 100 % ไดร้ ะดบั ดมี าก
ชุดที่ 8 เรือ่ งอนกุ รมวธิ าน
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 32
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6
บรรณานุกรม
โครงการตำราวิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรม์ ลู นิธิ สอวน. (2552).ชีววิทยา 1. (พมิ พค์ รงั้ ท่ี 5).
กรุงเทพฯ :ด่านสุทธาการพิมพ.์
สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี (2563). หนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เตมิ วิทยา
ศาตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วทิ ยาชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 เลม่ 6 . กรุงเทพมหานคร : สกสค.
Weebly. (2563). Analogous and homologous traits. สบื คน้ เม่อื 20 กันยายน 2563, จาก
http://group4cladistics.weebly.com/analogous-and-homologous-traits.html
สำนักความหลากหลายทางชีวภาพ. (2012). กลไกการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความหลากหลาย
ทางชีวภาพ. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2563, จาก
http://chmthai.onep.go.th/chm/gti/general_meaning.html
Weebly. (2563). Analogous and homologous traits. สบื คน้ เม่อื 20 กันยายน 2563, จาก
http://group4cladistics.weebly.com/analogous-and-homologous-traits.html
http://chmthai.onep.go.th/chm/gti/general_meaning.html
ชดุ ท่ี 8 เรือ่ งอนุกรมวิธาน