The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 5_อาณาจักรพืช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by salaeha2560, 2022-03-12 05:22:33

ชุดที่ 5_อาณาจักรพืช

ชุดที่ 5_อาณาจักรพืช

ฉบับนักเรียน

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนร7ู้ ขนั้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลบั ดา้ น

เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ

รายวชิ าชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชอื่ —สกุล.............................................ช้ัน..........เลขที.่ ....

จัดทาโดย นางสาวสาแลฮะ ดซี ะเอะ๊
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จงั หวัดยะลา
สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษายะลา

ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ด้าน ก
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับ
ด้าน เรอ่ื งความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศึกษาปี
ที่ 6 เป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนสามารถ
ศกึ ษาค้นคว้าไดด้ ว้ ยตนเอง โดยชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้แต่ละชุดประกอบด้วย กจิ กรรมเรยี นรู้นอก
ห้องเรียน และกิจกรรมเรียนรู้ในชั้นเรียน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนนำชุดกิจกรรมการเรียน รู้ไป
ดำเนินการกิจกรรมต่างๆได้สะดวกและมีประสิทธิภาพตรงตามจุดมุ่งหมายของการสร้างชุด
กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 ชุด ได้แก่ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ
กำเนิดของสิง่ มีชีวิต อาณาจักรมอเนอรา (Monera) อาณาจักรโพรทสิ ตา (Protista) อาณาจักร
พชื (Plantae) อาณาจกั รฟังไจ (Fungi) อาณาจักรสตั ว์ (Animalia) อนกุ รมวิธาน

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกับห้องเรียน กลับด้าน
เรื่องความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6
ชุดที่ 5 เรื่องอาณาจักรพืช (Plantae) ประกอบด้วย คำแนะนำสำหรับนักเรียน แผนผังขั้นตอน
การใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมเรียนรนู้ อกห้องเรียน : กอ่ นเขา้ ช้นั เรยี น กจิ กรรมเรียนรู้ใน
ชนั้ เรียน กิจกรรมนอกหอ้ งเรยี น : หลังเขา้ ชัน้ เรยี น และแบบบนั ทกึ คะแนน สามารถนำไปเรียนรู้
ได้อยา่ งสะดวกและมปี ระสทิ ธิภาพ

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชดุ กิจกรรมการเรียนรูน้ ี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนของ
นกั เรียน และผ้ทู ี่สนใจ เพือ่ ใชใ้ นการพัฒนาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนตอ่ ไป

สาแลฮะ ดีซะเอ๊ะ

ชดุ ท่ี 5 เรือ่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลบั ดา้ น ข
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

สารบญั

เรอื่ ง หน้า

คำนำ ก
สารบัญ ข
คำแนะนำสำหรบั นักเรยี น ค
ผงั มโนทัศน์ จ
แผนผงั ขั้นตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ฉ
สาระ ผลการเรียนรแู้ ละจุดประสงค์ ช
กิจกรรมเรียนร้นู อกหอ้ งเรียน : กอ่ นเขา้ ช้ันเรยี น 1
2
- แบบทดสอบก่อนเรียน 5
- ใบความรู้ 23
- กจิ กรรมสืบค้นข้อมูล 26
กิจกรรมเรยี นรู้ในหอ้ งเรียน : เข้าชัน้ เรยี น 27
- กิจกรรมปฏิบตั ิการ 28
- แบบบันทึกกิจกรรม 31
- แบบทดสอบหลังเรยี น
34
กิจกรรมนอกห้องเรียน : หลังเขา้ ช้นั เรยี น 36
แบบบนั ทกึ คะแนน 38
บรรณานกุ รม

ชุดที่ 5 เรื่องอาณาจักรพชื (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ด้าน ค
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

คำแนะนำสำหรบั นกั เรยี น

การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับ
ห้องเรียนกลับด้าน เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยา 6 (ว33290) ช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 6 ชุดที่ 4 เรื่องอาณาจักรโพรทิสตา (Protista) จำนวน 3 ชั่วโมง โดย
แบ่งเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง และกิจกรรมการเรียนรู้ใน
ห้องเรียน จำนวน 2 ชั่วโมง นกั เรียนควรเตรียมพรอ้ มและปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังตอ่ ไปนี้
 ขัน้ เตรียมกอ่ นใชช้ ุดกจิ กรรม

1. นักเรยี นเข้ารว่ ม Facebook Groups
ของห้องเรียน ที่ครูไดส้ รา้ งไว้ โดยสแกน QR code

2. ศึกษาขัน้ ตอนการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรียนรู้
จดุ ประสงค์ ให้เข้าใจ

3. เตรียมความพร้อมของตนเองสำหรับทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและใน
ห้องเรยี น

4. ศกึ ษาและปฏบิ ัติตามในกิจกรรมการเรยี นรู้นอกห้องเรียนก่อนทุกคร้ังที่จะเข้าร่วม
กิจกรรมการเรยี นรูใ้ นห้องเรียน และเมื่อปฏิบัติกิจกรรมนอกห้องเรียน : หลังเข้าชั้นเรยี น
ใหเ้ รยี บร้อย
 ขั้นการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้

 กจิ กรรมเรยี นรู้นอกหอ้ งเรียน : กอ่ นเขา้ ชัน้ เรยี น
1. ศึกษาจากใบความรู้และปฏบิ ัตติ ามใบกจิ กรรมสบื ค้นข้อมลู ดว้ ยตนเอง
2. หากมีปัญหาให้สอบถามครูผ่านการแชทของ Facebook Groups ได้

ตลอดเวลา
3. ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถและ

รอบคอบ

ชดุ ท่ี 5 เรอ่ื งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลับด้าน ง
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

 กจิ กรรมเรยี นร้ใู นหอ้ งเรียน : เขา้ ช้ันเรียน
1. ศกึ ษาภาระงานให้เข้าใจ และปฏิบตั ติ ามลำดบั ขนั้ ตอน
2. ปฏิบตั กิ จิ กรรมอยา่ งตง้ั ใจและมีส่วนร่วมทกุ กจิ กรรม
3. มีวินยั และสมาธใิ นการทำกจิ กรรม
4. มีความสามัคคี มีน้ำใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุ่ม และไม่เอาเปรียบ

เพื่อนร่วมกลุ่ม
 กิจกรรมเรียนรู้นอกหอ้ งเรียน : หลังเขา้ ช้นั เรยี น
1. ศึกษาภาระงานให้เขา้ ใจ และปฏบิ ัติกจิ กรรมใหค้ รบถ้วน
2. มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม มีความสามัคคี มีน้ำใจ และไม่เอาเปรียบ

เพ่อื นรว่ มกลุม่

 ขัน้ หลงั การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้
รวบรวมผลงานทไี่ ด้จากการปฏบิ ัติกจิ กรรมส่งครู เพอ่ื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้

QR code
สำหรับชุดกจิ กรรมเรียนรู้

ชุดที่ 5 เรื่องอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลับด้าน จ
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6

หนว่ ยการเรยี นท่ี 1 เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ

ชดุ ท่ี 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับห้องเรยี นกลับด้าน ฉ
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

แผนผงั ขั้นตอนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

ชุดที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น ช
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

สาระ ผลการเรยี นรแู้ ละจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ชุดที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

 สาระวิทยาศาสตร์เพมิ่ เตมิ
สาระชีววิทยา
สาระที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

สมบตั แิ ละหนา้ ท่ีของสารพันธุกรรม การเกดิ มิวเทชนั เทคโนโลยที างดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูล
และแนวคิดเกย่ี วกบั ววิ ัฒนาการของสิง่ มีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี - ไวน์เบิร์ก การเกิดสปี
ชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
และอนกุ รมวธิ าน รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
 ผลการเรียนรู้

อธิบายลกั ษณะสำคญั และยกตัวอยา่ งสง่ิ มชี ีวติ อาณาจักรพืช
 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. ด้านพุทธพิ ิสัย (K)
1.1 อธิบายลกั ษณะสำคัญของพืช (K2)
1.2 ยกตัวอย่างสงิ่ มชี ีวิตอาณาจักรพชื (K2)
1.3 อภิปรายความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิตอาณาจกั รพืช (K2)
1.4 บอกประโยชนแ์ ละโทษของสิ่งมชี วี ติ อาณาจักรพชื (K4)

2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (P)
2.1 ปฏบิ ตั ิการทดลองศกึ ษาเก่ยี วกบั พืช (P3)
2.2 จัดทำแผนผังมโนทัศนก์ ารจัดหมวดหมขู่ องสงิ่ มชี วี ติ อาณาจกั รพืช (P3)
2.3 มกี ระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ (P3)

3. ดา้ นจติ พสิ ัย (A)
มวี นิ ยั ซื่อสัตย์ ใฝ่หาความรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (K2)

ชุดที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลบั ด้าน 1
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

:

คำช้แี จง : นักเรยี นศึกษาด้วยตนเองนอกหอ้ งเรยี นและปฏิบตั ดิ งั ต่อไปนี้
1. นักเรียน สแกน QR Code เพอ่ื ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

2. นกั เรียนศกึ ษาเน้อื หาจากใบความรู้
2.1 ใบความรู้ท่ี 5.1 เร่อื งลักษณะของสิง่ มชี วี ิตในอาณาจกั รพืช
2.2 ใบความรทู้ ่ี 5.2 เรอื่ งความหลากหลายของพชื

3. นักเรียนจัดทำใบกจิ กรรมสืบคน้ ข้อมูลท่ี 5.1 เรื่องตะลุยอาณาจักรพชื

ชุดที่ 5 เร่อื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลบั ดา้ น 2
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6

Pre – test)

คำชแี้ จง : นักเรียนพจิ ารณาเลือกคำตอบท่ถี ูกทส่ี ุด และทำเครอื่ งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ

1. ปจั จุบนั ใช้ข้อมลู ด้านใดในการจำแนกพืช ข. โครงสรา้ งดอก
ก. สัณฐานของอวยั วะ ง. ถูกทกุ ขอ้
ค. ลำดับเบสของสารพันธุกรรม

2. Alternation of Generation หมายถงึ อะไร
ก. พืชสามารถสืบพันธุไ์ ด้ท้งั อาศยั เพศและไม่อาศยั เพศ
ข. พืชดำรงชีวิตไดโ้ ดยทีม่ ี Chlorophyte ท้งั 2n และ n
ค. พืชท้ังมดี อกและไมม่ ีดอกในการสบื พนั ธุ์
ง. พชื ทม่ี ีเมล็ดเปลอื ยและมีเปลอื กห้มุ เมลด็

3. สาเหตใุ ดทเี่ ชื่อวา่ พชื ววิ ฒั นาการจาก Chara ข. มี Chlorophyll
ก. มี Cell wall ง. มีวงจรชวี ติ แบบสลับ
ค. มี Organelle ทม่ี เี ย่ือหมุ้ 2 ชั้น

4. Gemma cup คอื ส่วนใด
ก. โครงสรา้ งสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศยั เพศของ liverwort
ข. ตน้ sporophyte ของ moss
ค. Archegonium ของตน้ gametophyte ของ hornwort
ง. strobilus ของ lycophyte

5. พชื ในขอ้ ใดไมจ่ ดั อยู่ในกลุม่ ไม่มีทอ่ ลำเลียง ข. Hepatophyta
ก. Bryophyta ง. Lycophyte
ค. Anthocerophyta

ชุดที่ 5 เร่ืองอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับดา้ น 3
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6

6.พืชใดมลี กั ษณะ “เมล็ดไมม่ ผี ลหมุ้ ลำต้นคอ่ นข้างเตยี้ ใบประกอบแบบขนนกชน้ั เดยี ว สรา้ งโคน

เพศผูแ้ ละเพศเมยี แยกต้น”

ก. Gnetophyta ข. Cycadophyta

ค. Ginkophyta ง. Coniferophyta

7. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะเดน่ ของพืชดอกจากพืชกลุม่ อ่ืนๆ

ก. มีทอ่ ลำเลยี ง ข. มีวงจรชวี ิตแบบสลบั

ค. เมลด็ มรี งั ไขห่ ่อหุม้ ง. มีรากใบลำตน้ ทแ่ี ท้จรงิ

8. ขอ้ ใดบง่ บอกวา่ Gnetum มีลักษณะคล้ายพชื ดอก

ก. Xylem มแี ต่ Tracheid ข. Strobilus เปน็ ชอ่ แบบ Spike

ค. มีเมล็ด ง. ตน้ แยกเพศ

9. ข้อใดทไี่ มเ่ ป็นความจริงสำหรบั พืชพวกเฟิน
ก. มวี งจรชวี ิตแบบสลบั
ข. มีใบม้วนแบบลานนาฬิกา
ค. สร้างอับสปอรอ์ ยู่รวมกันเป็นกลุม่
ง. สโตรบลิ ัสประกอบดว้ ยกลมุ่ ของสปอรโ์ รฟลิ ล์

10. Sorus พบไดใ้ นพืชกลุ่มใด ข. มอส
ก. เฟิน ง. ปรง
ค. หญา้ ถอดปล้อง

ชุดที่ 5 เรอ่ื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น 4
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 6

กระดาษคำตอบ ชื่อ ....................................................................
แบบทดสอบก่อนเรยี น ชนั้ .............เลขท่ี ................

ชดุ ที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลับด้าน 5
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ประกอบด้วย

ใบความรู้ท่ี 5.1 เร่ืองลักษณะของสิ่งมีชีวติ ในอาณาจักรพืช
ใบความรู้ท่ี 5.2 เรื่องความหลากหลายของพชื

ชุดที่ 5 เรือ่ งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลบั ด้าน 6
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

เรอ่ื งลักษณะของสง่ิ มชี ีวิตในอาณาจกั รพชื

พืชเป็นสง่ิ มชี วี ติ ที่มีกำเนิดขน้ึ มาแลว้ ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านปี มหี ลกั ฐานหลายอย่างท่ีทำให้
เชอ่ื วา่ พืชมวี วิ ฒั นาการมาจาก Protista กลุ่ม Charophytes โดยมีการปรับตัวจากสภาพท่ีเคยอยู่
ในนำ้ ขึน้ มาอย่บู นบก

พชื เปน็ สิง่ มชี ีวิตหลากเซลล์ท่ีประกอบขน้ึ จากเซลลแ์ บบ Prokaryotic มี Cell wall ท่ีมี
องค์ประกอบแตกตา่ งจาก Fungi คอื เป็นสารพวกเซลลโู ลสเป็นส่วนใหญ่ พชื สามารถแปรเปลี่ยน
พลังงานจากแสงให้เก็บไว้ในรูปของพลังงานเคมีโดยอาศัยรงควัตถุต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน
Chloroplast ได้แก่ Chlorophyll a, b และ Carotenoid มีทั้งการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
และแบบอาศัยเพศ พชื พบระยะตวั อ่อน (Embryo) ได้ด้วย

พืชมีวงชีวิตแบบสลับ (Alternation of generation) โดยมี 2 ระยะ ได้แก่ ระยะ
sporophyte เป็นช่วงที่มีการสร้างสปอร์ มีจำนวน Chromosome เท่ากับ 2n เรียกว่า ระยะ
Diploid สว่ นระยะ gametophyte เปน็ ช่วงทม่ี ีการสร้างเซลล์สืบพนั ธุ์จาก spore ท่ีเจริญเติบโต
มีจำนวน Chromosome เทา่ กบั n เรียกว่า ระยะ Haploid

ภาพที่ 1 Alternation of generation
ท่มี า : (ก) https://www.w3spoint.com/plant-life-cycle-and-alternation-of-generation

ชดุ ที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลบั ด้าน 7
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6

พืชที่มีวิวัฒนาการต่ำจะปรากฏระยะ gametophyte นานกว่าระยะ sporophyte
เช่น มอส (moss) จะพบว่าต้น sporophyte เจริญเติบโตบนโต gametophyte ที่เห็นเด่นชัด
ส่วนพืชดอกซึ่งเป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงจะพบต้นในระยะ sporophyte มากกว่า
gametophytes

ภาพท่ี 2 ระยะ gametophyte และ ระยะ sporophyte ของพชื
ทีม่ า : https://www.majordifferences.com/2016/04/difference-between-
gametophyte-and-sporophyte.html

ชดุ ที่ 5 เรือ่ งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลบั ด้าน 8
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

เรอื่ งความหลากหลายของพชื

จากความสมั พนั ธข์ องสาหร่าย Charophyte และพชื ทมี่ บี รรพบรุ ษุ ร่วมกันดังทีก่ ลา่ ว
มาแล้ว สามารถสรุปสายวิวฒั นาการและกำเนิดของพชื กล่มุ ตา่ ง ๆ ไดด้ ังน้ี

ภาพท่ี 2 ความหลากหลายของพชื
ทีม่ า : https://www.digitalatlasofancientlife.org/learn/embryophytes/tracheophytes/

ชดุ ท่ี 5 เรอ่ื งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 9
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6

1. พืชไมม่ ที อ่ ลำเลยี ง (Non Vascular Plant)
เป็นพชื ไม่มีเนือ้ เยอื่ ลำเลยี ง Gametophyte เปน็ ระยะเดน่ พบเห็นไดท้ วั่ ไป มีไรซอยด์

(rhizoid) ทำหนา้ ท่ยี ึดเกาะดดู นำ้ และธาตุอาหาร Sporophyte เจริญบน Gametophyte ตลอด
ชีวติ มกั พบในแหล่งท่มี ีสภาพความชนื้ สงู พบไดท้ ้ังบนดนิ หนิ หรือเป็นพชื อิงอาศยั การปฏสิ นธิ
อาศยั นำ้ เปน็ ตัวกลางให้ sperm เคลื่อนท่ไี ปผสมกับเซลลไ์ ข่ มีทงั้ หมด 3 ไฟลัม ดังน้ี

1.1 ไฟลัมไบรโอไฟตา (phylum Bryophyta)
Gametophyte มีลักษณะคล้ายต้นพืชเล็ก ๆ ตั้งตรงเรียกว่า leafy soot ส่วนที่เป็น

แกนกลางคลา้ ยลำตน้ เรียกวา่ คอลอยด์ (Cauloid) ส่วนทคี่ ลา้ ยใบเรียกว่าฟิลลอยด์ (phylloid)
ติดรอบอกแกนกลาง ส่วนท่คี ล้ายราก เรยี กว่า ไรซอยด์ (rhizoid) ทำหนา้ ทยี่ ดึ เกาะ สร้างอวัยวะ
สืบพันธุ์เพศผู้เรียกว่า แอนเทอริเดียม (antheridium) และเพศเมีย เรียกว่า อาร์คีโกเนียม
(archegonium)

Sporophyte ฝงั ติดอยู่กบั เนื้อเยื่อของ Gametophyte ด้วยซตี า้ (seta) ทเ่ี ป็นก้านยาว
เพื่อชูอับสปอร์ (Sporangium) ตัวอับสปอร์หรือแคปซูล (capsule) ที่ทำหน้าที่ผลิตสปอร์อยู่
ภายใน จะมีฝาปิด (operculum) ซึ่งจะหลุดออกเมื่อ Sporophyte เจริญเต็มที่ เมื่อฝาปิดหลุด
ออกแลว้ จะเหน็ แผ่นบาง ๆ เปน็ ซี่ ๆ เรยี กว่า เพอริสโทมทธี (peristome teeth) เรยี งตัวรอบชอ่ ง
เปิด Spore ถูกปลดปล่อยจาก Capsule แล้วปลิวไปตกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
เจริญเติบโตเปน็ ตน้ แกมโี ทไฟต์ตอ่ ไป ตวั อย่างได้แก่ มอส

ก.โครงสร้างของต้นมอส ค.capsule

ภาพที่ 3 Bryophyta

ทม่ี า : (ก) http://biostudy4u.com/botany/bryophyta/

(ข) http://www.hiddenforest.co.nz/bryophytes/mosses/index.htm

ชดุ ที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน 10
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

1.2 ไฟลมั เฮปาโทไฟตา (phylum Hepatophyta)
พืชกล่มุ นม้ี ีชือ่ เรยี กท่วั ไปวา่ ลเิ วอรเ์ วริ ์ต (Liverwort) ชอบขน้ึ ในทช่ี มุ ชื้น อากาศคอ่ นข้าง

เยน็ พบทว่ั ไปใต้ร่มเงา และก่ิงไม้ผุ ๆ มีรูปร่างตา่ งกัน 2 แบบ ดงั นี้
1.พวกที่มีรูปร่างเป็นแผ่นแบน สีเขียว ทอดราบตามพื้นดิน ปลายแผ่นแตก 2 แฉก

ดา้ นล่างของแผ่นมี Rhizoid ทำหน้าทยี่ ึดเกาะดูดนำ้ และแรธ่ าตุจากดนิ เรยี กพวกน้วี ่า Thallose
liverwort ตัวอย่างเชน่ Marchantia และ Riccia

2.พวกที่มีใบชูขึ้นเหนือดินเล็กน้อย มีใบเรียงตัว 3 แถวรอบส่วนที่คล้ายลำต้น เรียกว่า
leafy liverwort แก่ Porella และ Cephaloziella เป็นต้น

Gametophyte สร้าง Archegoniophores รูปร่างคล้ายร่ม บริเวณด่านล่างมี
Archegonium ยื่นออกมา ส่วน Antheridium สร้างบริเวณด่านบนของ Antheridiophores
บางชนดิ สรา้ ง Antheridium และ Archegonium ใน Thallus เดียวกนั ส่วนการสบื พนั ธแุ์ บบไม่
อาศัยเพศทำโดยการสร้าง Gemma cup ภายในมี Gemma หรือ Gemmae มีรูปร่างคล้ายไข่
หรือรูปดาว หรือคล้ายเลนส์ซง่ึ จะหลุดจาก Gemma cup เมอ่ื ได้รับน้ำฝน เม่อื Gemmae หลุด
ไป สามารถเจริญเป็นต้นใหม่ได้ หรืออาจเกิดจากการขาดของต้นเดิมเนื้อเยื่อที่หลุดจากต้น
สามารถเจริญเป็นต้นใหม่ได้เชน่ กัน

ก. โครงสรา้ ง Gemma cup ข. ตน้ gametophyte

ภาพท่ี 4 Liverwort

ท่มี า : (ก) https://thenode.biologists.com/a-day-in-the-life-of-a-marchantia-lab/lablife/

(ข) https://www.researchgate.net/figure/The-Life-Cycle-of-the-Liverwort-Marchantia-

polymorpha_fig1_8618073

ชุดท่ี 5 เรือ่ งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ด้าน 11
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

1.3 ไฟลมั แอนโทซโี รไฟตา (Anthocerophyta)
พชื กลุ่มนี้ เรยี กวา่ ฮอรน์ เวิร์ต (Hornworts) มีลักษณะดงั นี้
1.3.1 Sporophyte รูปร่างเรียวยาวคล้ายเขาสัตวส์ ีเขยี ว ยาวประมาณ 1-4 cm. และมี

intercalary meristem ช่วยใหเ้ จริญเติบโตได้ตลอด
1.3.2 Gametophyte รูปร่างกลมหรือค่อนขา้ งรี แบน สเี ขียว สร้างอวัยวะสืบพันธ์

บรเิ วณดา้ นบนของ Thallus พบว่า Archegonium ฝังตวั อยู่ใน Gametophyte มโี ครงสร้างท่ี
คล้ายกับปากใบ (stomata like structure) การสืบพันธุแ์ บบไม่อาศัยเพศเกิดขน้ึ โดยการขาด
เป็นทอ่ น (Fragmentation)

1.3.3 เซลลท์ ี่ทำหน้าท่ใี นการสังเคราะหด์ ้วยแสงมี Chloroplast 1 เมด็ และมีอาหาร
สะสมเปน็ Pyrenoid เหมือนสาหร่ายสเี ขียวและ Isoetes (vascular plant)

ก. Sporophyte และ Gametophyte ข. Alternation of generationsของ Hornwort
ภาพที่ 5 Hornwort
ท่มี า : https://www.indefenseofplants.com/blog/2018/12/11/an-introduction-to-
hornworts

ชดุ ท่ี 5 เรอื่ งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรียนรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับหอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 12
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

2. พชื มีท่อลำเลยี ง (Vascular Plants)
2.1 พชื ที่มที อ่ ลำเลียงแต่ไมม่ ีเมล็ด (Seedless Vascular Plants)
พืชกลุ่มนี้มีลักษณะสำคัญ คือ มีเนื้อเยื่อลำเลียง 2 ชนิด ได้แก่ เนื้อเยื่อลำเลียงน้ำ

(xylem) และเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร (phloem) ต้น Sporophyte จะมีลักษณะแตก
กิ่งก้านสาขาออกมา และเจริญแยกจากตน้ Gametophyte บางชนิดสร้าง Spore ได้แบบเดียว
(homospore) บางชนิดสามารถสร้าง Spore ได้ 2 แบบขนาดแตกต่างกัน ขนาดเล็กเรียกว่า
microspore เจริญไปเป็น Gametophyte เพศผูส้ รา้ งเซลล์สบื พันธ์เุ พศผู้ ส่วนขนาดใหญ่เรยี กว่า
megaspore เจริญตอ่ ไปเปน็ Gametophyte เพศเมยี จะสรา้ งเซลลส์ บื พันธเุ์ พศเมยี

พืชกลุ่มนี้มีใบที่แท้จริง (leaf) มี
เนื้อเยื่อลำเลียงภายใน โดยสามารถแบ่ง
ได้ 2 ประเภท คือ ใบแบบไมโครฟิลล์
( m i c r o p h y l l ) ห ร ื อ ไ ล โ ค ฟ ิ ล ล์
(lycophyll) เป็นใบที่มีขนาดเล็กและมี
เส้นใบ 1 เส้นต่อใบ ซึ่งพบในพืชกลุ่ม
lycophyte และใบแบบเมกะฟิลล์ หรือ
ใบแบบยูฟิลล์ (euphyll) ซึ่งพบในพืชที่มี
ทอ่ ลำเลียงกลุ่มที่มีเมล็ด

พืชที่มีท่อลำเลียงที่ไม่มีเมล็ด
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม
lycophyte และ กล่มุ monilophyte

ภาพที่ 5 ลกั ษณะใบของพืชแตล่ ะกลมุ่
ที่มา : https://www.researchgate.net/publication/269930650

ชดุ ที่ 5 เร่อื งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลับดา้ น 13
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

2.1.1 Lycophyte (Phylum Lycopodiophyta)
พืชกลุ่มนี้มีใบเป็นแบบ Microphyll มีการสร้างสปอร์ภายใน sporangium

sporophyll บริเวณปลายกิ่ง เรียกว่า สโตรบิลัส (strobilus) มีการแตกกิ่งแบบ 2 แฉก
(Dichotomous branching) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มยอ่ ย

1) กลุ่ม Lycopodium หรือที่เรียกว่า Club moss เช่น สร้อยนางกรอง
ช้องนางคลี่ หางสิงห์ มีการสร้างสปอร์แบบเดียว (homospore) ลำต้นเหนือดินมี Microphyll
จำนวนมาก เรยี งตัวติดกับลำตน้ แบบวนเป็นเกลยี ว หรือวนเปน็ วง

2) กลุ่ม Selaginella หรือเรียกว่า Spike moss เช่น ตีนตุ๊กแก กนกฟิลิปปินส์
หญ้ารังไก่ ลำต้นอาจตั้งตรงหรือแผ่ปกคลุมดิน Microphyll เรียงตัวติดกับลำต้นแบบวนเป็น
เกลียว หรอื เรียงเป็นแถว 4 แถว มลี กิ ิวส์ (Ligule) อยูท่ ฐี่ านของใบแต่ละใบและท่ีด้านบนใบด้วย
รากแตกแขนงออกจากกิ่งเพื่อทำหน้าทีย่ ึดพยงุ ลำต้นซึ่งเรียกว่า ไรโซฟอร์ (Rhizophore) สร้าง
Microspore และ Megaspore อยู่ภายในอับสปอร์คนละอัน Sporophyte มี Strobilus ท่ี
ปลายกิ่ง โดยท่ีอับสปอร์ของ megaspore จะอยู่ส่วนล่าง และอับสปอร์ของ microspore อยู่
ส่วนบนของช่อ Strobilus เดียวกัน การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศโดยการสร้างบัลบิล (Buibil)
หรอื เกิดการหักของลำตน้ งอกเป็นตน้ ใหม่

3) กลุ่ม Isoetaceae หรอื กระเทียมน้ำ เปน็ พชื นำ้ ที่สามารถสร้างสปอร์ 2 แบบ
(heterospore) เช่นเดียวกบั กล่มุ Selaginella

ก.ช้องนางคล่ี ข. กระเทียมน้ำ ค. หญ้ารังไก่

ภาพท่ี 6 Lycopodium

(ทม่ี า : (ก) https://www.nanagarden.com/product/108879

(ข) https://www.invasive.org/browse/taxthumb.cfm?order=301#

(ค) https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Selaginella_martensii_OB10.1.jpg

ชดุ ท่ี 5 เรื่องอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลบั ด้าน 14
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6

2.1.2 Monilophyte พืชกลุ่มพบว่ามีใบแบบยูฟิลล์ (euphyll) ซึ่งเป็นใบมีเส้นใบ
มากกว่า 1 เส้น และมีการแตกแขนงในแผ่นใบ พัฒนาการของแผ่นใบมาจากเนื้อเยื่อเจริญที่มี
ตำแหนง่ ปลายใบและขอบใบ น้ปี ระกอบดว้ ยสมาชกิ 3 กลุ่ม คือ หวายทะนอย (Psilotum) หญ้า
ถอดปล้อง (horsetail) และเฟริ ์น (fern)

1) หวายทะนอย เปน็ พืชชนิดน้ีมที ่อลำเลียงเฉพาะในสว่ นของลำต้น จงึ จัดว่าไม่มี
รากและใบทีแ่ ทจ้ รงิ มีไรซอยด์ ไม่มใี บแตจ่ ะมีใบเกล็ดหรือสเกล (Scale) เลก็ ๆ อยู่บนลำตน้ มีลำ
ต้นใต้ดินขนาดเล็ก ลำต้นแตกเป็นคู่ (Dichotomous branching) สร้าง Sporangia อับสปอร์
เกิดอยู่บนลำต้นหรือก่ิงตรงบริเวณมุม ซึ่ง Sporangia ประกอบด้วย 3 Sporangia เชื่อมติดกนั
เรยี ก Synangium สปอรม์ ลี กั ษณะเหมือนกนั ทง้ั หมด (Homospore) Gametophyte ขนาดเล็ก
สีน้ำตาลอยู่ในดิน พบวา่ มีเชอ้ื ราเขา้ มาอาศยั อย่รู ว่ มกันดดู ซึมสารไนเตรทฟอสเฟตและสารอินทรีย์
อน่ื ๆ สกุลทพ่ี บมากได้แก่ Psilotum sp.

ภาพท่ี 7 หวายทะนอย (Psilotum sp.) (A. Habitat Sporophyte B.ลำตน้ เหนอื ดนิ
C.Dichotomy branching D. Sporangium)
ทม่ี า : https://www.vcbio.science.ru.nl/en/virtuallessons/pterophyta/

ชุดที่ 5 เรอ่ื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 15
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

2) หญ้าถอดปล้อง (Equisetum) รูจ้ ักกันทั่วไปในชือ่ ของ Horse tail หญา้ หางมา้
พบมากในเขตร้อนช้ืนและหนาวเยน็ เนอ้ื เยื่อผวิ มีส่วนประกอบประเภทซิลิกา มีท่อลำเลียงท้ังใน
ใบ ดอก ราก ลำต้นใตด้ นิ (Rhizome) สามารถแตกแขนงไปได้มาก ใบมลี กั ษณะเปน็ เกล็ดติดกัน
เรียงตัวรอบข้อหญา้ หางม้า ลำต้นเหนือดินเปน็ ลำต้นตั้งตรงมีข้อปล้องชดั เจน ตามผิวลำต้นจะมี
รอยเวา้ ลึกเปน็ ร่องยาวตามความยาวของลำต้น ตรงบริเวณขอ้ ของลำตน้ จะมสี เกล (Scale) ซึ่งมี
ลกั ษณะคล้ายใบเล็ก ๆ แห้ง ๆ สนี ้ำตาล ตดิ อยู่โดยเรียงตวั รอบข้อ (Whorled) ที่ขอ้ ยงั มีการแตก
กิ่งซึ่งก็แตกแบบรอบข้อเช่นเดียวกัน โดยแตกออกมาเรียงสับหว่างกับ Scale ภายในลำต้นจะ
กลวงยกเวน้ บรเิ วณขอ้ จะตัน บางกิ่งเปลย่ี นแปลงเป็น Fertile Stalk ตรงปลายก่งิ มีสปอแรนจิโอ
ฟอร์ (Sporangiophore) จำนวนมาก เรียกว่า Strobilus สปอร์ที่สร้างเป็นชนิดเดียวกันหมด
Gametophyte สร้างเซลล์สืบพันธุ์ 2 แบบ Antheridium ทำหน้าที่สร้างสเปิร์ม และ
Archegonium ทำหนา้ ท่สี รา้ งไข่

ก. Habitat Sporophyte ข. โครงสรา้ งของ Equisetum

ภาพที่ 7 Equisetum

ทม่ี า : (ก) https://en.wikipedia.org/wiki/Equisetum#/media/File:Equisetopsida.jpg

(ข) https://kollathdesign.com/portfolio/horsetail-anatomy/

ชุดท่ี 5 เรอื่ งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 16
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพมิ่ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

3) เฟิร์น จัดเป็นพืชกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในพืชกลุ่มไม่มีเมล็ด มีความหลากหลายสูง
เช่น Marattia เป็นสกุลเฟิร์นต้น มีใบยาวถึง 9 เมตร กว้างประมาณ 4.5 เมตร นอกจากนี้ยังมี
เฟิร์นสกุลอื่นทีอ่ าศยั อยู่ในน้ำ เช่น Salvinia (จอกหูหนู) และ Azolla (แหนแดง) มีใบขนาดเลก็
มาก มีลำต้นเรียกว่า ไรโซม (Rhizome) ใช้เรียกทั้งต้นที่อยู่ใต้ดนิ หรือเหนอื ดินกไ็ ด้ ไรโซมอาจมี
ลักษณะต้ังตรงหรือวางทอดขนานกับดนิ หรอื อาจไหลไปตามผิวดนิ การเกดิ ใบและรากบนไรโซม
จะมี 2 แบบคือแบบที่ใบและรากเกดิ อยู่คนละด้านของไรโซม และแบบที่ 2 เป็นแบบที่ไรโซมจะ
ตัง้ ตรง ใบอ่อนปลายใบมว้ นงอเข้าหาโคนใบเรียกว่า Circinate vernation เฟิรน์ มกี ลุ่มอับสปอร์
(sorus) ซึ่งมี sporangium จำนวนมาก ภายใน sporangium แต่ละอันจะมีสปอร์อยู่มาก ต้น
Gametophyte ที่เจริญมาจากสปอร์ จะมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ เรียกว่า prothallus ซึ่งจะมี
archegonium สำหรบั สรา้ งเซลลไ์ ข่ และ antheridium ที่จะสร้างสเปริ ์ม

ก. Marattia ข. แหนแดง ค.ชายผ้าสีดา

ง. ขา้ หลวงหลังลาย จ. ย่านสเิ ภา ฉ. เฟิร์นยายแพก

ภาพที่ 8 ตัวอยา่ งเฟิร์น

ทมี่ า : (ก) http://tropical.theferns.info/viewtropical.php?id=Angiopteris+evecta

(ข) https://www.scimath.org/image-biology/item/9757-2019-02-06-06-16-12

(ค) https://suphagarden.blogspot.com/2019/01/platycerium-desvaux.html

(ง) https://www.suansangsuk.com/tree_list/article_plant.php?id=235

(จ) https://www.baanlaesuan.com/102883/diy/wicker-material

(ฉ) https://oer.learn.in.th/search_detail/result/25787

ชดุ ที่ 5 เร่อื งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับดา้ น 17
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6

2.2 พชื ท่ีมีเมลด็ (Seed Plants)
เป็นกลุ่มพชื มีท่อลำเลียงที่มีเมล็ด (seed) ที่เจริญจากส่วนของออวุล (ovule) ทำให้พืช

ประสบความสำเร็จในการอยู่รอดและสบื พนั ธ์ุมากขึน้ เนอื่ งจากเอ็มบรโิ อทีอ่ ยู่ในเมล็ดสามารถเกิด
การพกั ตวั (seed dormancy) จนกวา่ สภาวะแวดลอ้ มเหมาะสมจงึ เจรญิ เติบโตได้ จงึ เรยี กกลุ่มน้ี
ว่า สปอร์มาโทไฟต์ (spermatophyte) มลี ักษณะใบแบบยูฟิลล์ (euphyll) คือมีเส้นใบมากกว่า
1 เส้นแยกแขนงภายใบ สปอร์มาโทไฟตส์ ่วนใหญ่จะมขี นาดใหญ่และพบว่าระยะสปอโรไฟต์เป็น
อิสระจากระยะแกมีโทไฟต์ ที่ลดรูปไปเหลือช่วงสั้นๆ แกมีโทไฟต์เพศผู้จะอยู่ในรูปของเรณู
(pollen) ซึ่งจะมีการถ่ายเรณู (pollination) ไปยังแกมีโทไฟต์เพศเมียที่อยู่ภายในรังไข่ โดยมี
เนอื้ เยือ่ integument อีกช้นั หน่ึง สามารถแบง่ พืชท่ีมเี มล็ดออกเป็น 2 กลุม่ คอื พืชเมล็ดเปลือย
(gymposperm) และพชื ดอก (angiosperm)

ภาพท่ี 10 โครงสรา้ งรงั ไขข่ อง Spermatophyte
ทีม่ า : https://dyckarboretum.org/tag/gymnosperm/

เมล็ดของ Gymnosperm จะไมพ่ บรังไขห่ อ่ หุ้ม เพราะเป็นกลุ่มพืชไมม่ ดี อก เมล็ดจะ
เจริญบนแผน่ ใบท่อี ยบู่ ริเวณโครงสรา้ งโคน

ชดุ ที่ 5 เรอ่ื งอาณาจักรพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 18
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6

2.2.1 พืชเมลด็ เปลือย (gymposperm) เน่ืองจากพชื กล่มุ น้อี อวุลไม่มรี ังไขห่ อ่ หุม้
ดงั น้นั เมล็ดจงึ ไมม่ ผี ลห่อหมุ้ มีโครงสร้างที่สรา้ งอับสปอร์ เรียกว่า โคน (cone) หรอื สตอบิลสั โดย
ทโี่ คนจะแยกเพศตามชนดิ ของสปอร์ท่ีสรา้ ง โคนที่สร้างไมโครสปอร์ เรยี กว่า โคนเพศผู้ (male
cone) โคนท่ีสรา้ งเมกะสปอร์ เรียกวา่ โคนเพศเมีย (female cone) พชื กลุ่มนมี้ ที ้ังหมด 4 ไฟลัม
ได้แก่ Cycadophyta Ginkophyta Coniferophyta และ Gnetophyta

1) phylum Cycadophyta เป็นพืชทมี่ ลี ำตน้ ขนาดใหญ่ บางชนดิ สูง 20 เมตร
ใบเปน็ แบบเมกะฟิลล์ท่เี ปน็ ใบประกอบแบบขนนกเรียงอยู่โดยรอบทางด้านบนของลำต้น ใบออ่ น
มีลกั ษณะคล้ายใบเฟินคอื ม้วนงอ โดยปลายใบย่อยจะม้วนงอเขา้ หาแกนกลางของกา้ นใบ
สามารถเกิดการเจรญิ แบบทตุ ิยภมู ิ (secondary growth) มีการแยกเพศคนละตน้ (dioecious
plant) มีการสรา้ งสปอร์ 2 ชนิดคอื ไมโครสปอร์ จะเกดิ อยใู่ นไมโครสปอแรนเจียม ซ่ึงอยบู่ นไม
โคร สปอโรฟิล และอยู่กนั เป็นกลมุ่ ในสโตรบิลัสเพศผู้ (Male strobilus) พบวา่ sperm ยงั คงมี
flagella คลา้ ยกับในพชื ทไ่ี ม่มีเมลด็ แต่แตกต่างจากพืชมีเมล็ดกลุม่ อน่ื ที่เหลือ สว่ นเมกาสปอรจ์ ะ
อย่ใู นเมกาสปอแรนเจยี มซึง่ เกิดอยูบ่ นเมกาสปอโรฟิลและอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเรียกว่า สโตรบลิ ัส
เพศเมยี (Female strobilus) จะทำหนา้ ที่สร้างเมกาสปอร์ ในประเทศไทยพบ 1 สกุลคอื Cycad
เชน่ C. rumpii (ปรงทะเล) C. siamensis (มะพรา้ วเตา่ ) C. circinalis (มะพรา้ วสดี า) C.
micholitzii (ปรง)

ก. Cycad siamensis ข. Male strobilus ค. Female strobilus

ภาพที่ 5.8 Cycadophyta

ท่ีมา : http://www.nana-bio.com/e-learning/biodiversity/biodiversityPlant15/

BiodiversityPlant15.html

ชุดท่ี 5 เรื่องอาณาจักรพชื (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลับด้าน 19
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

2) phylum Ginkophyta ปัจจุบันเหลือเพยี งชนิดเดียวคือ แปะก๊วย (Ginkgo
biloba ) จัดเป็น Living fossil ขนาดใหญ่สูงถึง 100 ฟุต มีกิ่งก้านสาขา เนื้อไม้ไม่มีเวสเซล
(Vessel) ไซเลมทีเทรคีต ใบเปน็ ใบเด่ียวรูปพดั ท่ียอดของปลายใบมักเวา้ ลึกเข้ามาในตัวแผน่ ใบ ทำ
ให้ดูเหมือนตัวแผ่นใบแยกเป็น 2 ส่วน (Bifid) เส้นใบเห็นชัดว่ามีการแยกสาขาแบบแยกเป็น 2
แฉก (Dichotomous) แต่จะไมเ่ ป็นรา่ งแห ใบตดิ กบั กิ่งแบบสลับกง่ิ บนลำตน้ จะมี 2 ชนิดคือ กิ่ง
ยาว (Long shoot) เป็นก่งิ ที่มีใบธรรมดาไมม่ ีการสร้างอวยั วะท่ีใช้ในการสบื พันธ์ุ สว่ นก่ิงอีกชนิด
หนึ่งคอื กิ่งสัน้ (Spur shoot) จะเป็นกิ่งสั้น ๆ มีใบติดอยู่เป็นกลุ่ม และมีการสร้างอวัยวะท่ใี ช้ใน
การสบื พนั ธค์ุ อื อวัยวะสร้างเซลล์สืบพนั ธุเ์ พศผู้เกดิ บนช่องสโตรบิลัสเพศผู้ และอวัยวะสร้างเซลล์
สบื พนั ธ์เุ พศเมียเกดิ บนช่องสโตรบิลัสเพศเมีย แยกเปน็ ตน้ เพศผแู้ ละต้นเพศเมีย สโตรบิลัสเพศผู้มี
ลักษณะเป็นช่อยาวแบบแคทกิน ไม่มีแบรค บนช่อจะมีใบสปอโรฟิลล์จำนวนมาก ซึ่งแต่ละใบ
เปลี่ยนแปลงไปมีลกั ษณะเป็นก้านชูที่ปลายก้านมีอับสปอร์เพศผู้ 2 อับตดิ อยู่ ส่วนสโตรบิลัสเพศ
เมียมีลักษณะเป็นก้านยาว ปลายสุดเห็น Ovule ติดอยู่ 2 อัน ซึ่งมักจะเปน็ หมันเสีย 1 อัน เมื่อ
โอวูลนี้ได้รับการผสมก็จะเจริญเป็นเมล็ด มีลักษณะคล้ายผล เพราะภายนอกมีเนื้อนุ่ม ต้นอ่อน
ภายในเมล็ดมใี บเลยี้ ง 2 ใบ

ก. ลักษณะใบ ข. กงิ่ เพศเมีย ค. กิง่ เพศผู้

ภาพท่ี 11 ตน้ แปะกว๊ ย (Ginkgo biloba )

ทม่ี า : http://www.nana-bio.com/e-learning/biodiversity/biodiversityPlant01/

BiodiversityPlant01.html

ชดุ ท่ี 5 เร่อื งอาณาจักรพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 20
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

3) phylum Coniferophyta พชื ในกล่มุ น้ีเน้ือไมม้ กี ารเจริญขน้ั ทส่ี อง ใบเรียงตัว
ติดกับลำต้นแบบวนเป็นเกลียวหรือตรงข้าม ใบมักมีรูปร่างเป็นรูปเข็ม บางชนิดใบมีลกั ษณะเป็น
เกลด็ ใบสีเขยี ว ระบบรากเปน็ รากแกว้ มักพบ Mycorhyza ทีร่ ากด้วย ไซเลมประกอบด้วยเทรคีต
เปน็ ส่วนใหญ่ คอร์เทกซ์ของตน้ มักมีน้ำมันหรือยางท่มี กี ลน่ิ เฉพาะ

ก. Cone เพศผู้ ในการสืบพันธุ์พบว่า สโตรบิลัสเพศผู้
และสโตรบิลัสเพศเมียมักเกิดอยู่บนต้น
เดียวกัน (Monoecious) สโตรบิลัสเพศ
เมียประกอบด้วยสเกล
(Megasporophyll) ทำหน้าท่สี รา้ งโอวูล
(Ovuliferous scale) ในแต่ละสโตรบิลัส
มสี เกลหลายอัน แต่ละสเกลมักมีโอวูล 2
อนั สว่ นสโตรบลิ ัสเพศผู้จะประกอบด้วย
สเกล (Microsporophyll) จำนวนมาก
แต่ละสเกลจะมีการ สร้างละอองเกสรตัว
ผู้อยู่ภายในถุง (Pollen sac) เมื่อโอวูล
ได้รบั การผสมจะเจริญเป็นเมล็ดที่ภายใน
มีต้นอ่อนที่มีใบเลี้ยงตั้งแต่ 2 ใบจนถึง
เป็นจำนวนมาก

ข. Cone เพศเมยี
ภาพท่ี 12 Coniferophyta
ท่ีมา : https://www.macmillanhighered.com/BrainHoney/Resource/6716/
digital_first_content/trunk/test/hillis2e/asset/img_ch21/c21_fig17.html

ชดุ ที่ 5 เร่ืองอาณาจักรพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 21
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

4) Phylum Gnetophyta เปน็ พืชกลมุ่ เล็ก ๆ ท่ีมีสมาชิกเพยี ง 3 สกุล
คือ Gnetum, Ephedra และ Welwitshia มีลักษณะบางอย่างคล้ายคลึงกับพืชดอก
จึงจัดเป็น Gymnosperm ที่มีวิวัฒนาการสูงสุด ส่วนใหญ่พบในเขตแห้งแล้งหรือ
ทะเลทราย บางชนิดพบในเขตร้อนพืชในกลุ่มนี้มีทัง้ ไม้พุ่ม ไม้เลื้อย ใบเป็นใบเดี่ยวตดิ
กบั ลำต้นแบบตรงข้ามหรือเรยี งรอบขอ้ เน้ือไมม้ กี ารเจริญขน้ั ทสี่ องและมี Vessel พืชมี
ลักษณะเป็นไม้เลื้อยหรือไม้ยืนตน้ เนื้อไม้มีการเจริญขั้นที่สอง ใบเดี่ยวแผ่กว้าง มีเส้น
ใบเรียงตัวเป็นร่างแห ใบติดกับลำต้นแบบตรงข้าม ต้นแยกเป็นต้นเพศผู้และต้นเพศ
เมีย สโตรบิลสั มลี ักษณะคลา้ ยชอ่ ดอกแบบสไปค์

ก. Gnetum gnemon L. ข. ผักเหลยี ง

ค. Ephedra ง. Welwitschia

ภาพท่ี 13 Phylum Gnetophyta

ท่มี า : (ก) https://www.flickr.com/photos/adaduitokla/6241001749/ (ข)

https://puechkaset.com/ (ค) https://nootriment.com/ephedra-plant/ (ง)

https://www.crossoverafricatours.com/2019/07/26/welwitschia-mirabilis/

ชุดท่ี 5 เรือ่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลับด้าน 22
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

2.2.2 พืชดอก (Angiosperm)
ลักษณะทั่วไปของพืชกลุ่มนี้คือ มีราก ใบ ลำต้นที่แท้จริง มีระบบท่อ

ลำเลียงเจริญดีมาก Xylem ประกอบด้วย Vessel เป็นส่วนใหญ่ ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำ ส่วน
Phloem ทำหนา้ ท่ีลำเลยี งอาหาร มีอวัยวะสบื พันธค์ุ ือ ดอกเจริญอยู่บนก้านดอก มที ง้ั ท่ีเป็นดอก
สมบูรณ์ และดอกไม้สมบูรณ์ ดอกสมบูรณ์ประกอบด้วย Sepal Petal Stamen และ Pistil
เมล็ดมีรังไข่ห่อหุ้ม เมื่อรังไข่พัฒนาเต็มที่จะกลายเป็นผล มีการปฏิสนธิซ้อน มีวงชีวิตแบบสลับ
แกมีโตไฟต์มีขนาดเล็กอยู่บนสปอโรไฟต์ จากหลักฐานการวิเคราะห์ข้อมูลของDNA ในพืชดอก
พบว่าพืชในวงศ์แอมโบเรลลา (Amborellaceae) น่าจะเป็นพชื ดอกในกลุ่มแรก ๆ ท่เี กิดข้นึ

ก. Amborella trichopoda ข. สายววิ ัฒนาการของพชื ดอก

ภาพท่ี 14 Angiosperm

ที่มา : (ก) https://bio113.weebly.com/amborella-trichopoda.html

(ข) https://newcaledoniaplants.com/plant-catalog/amborella/)

ชุดท่ี 5 เร่อื งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลับด้าน 23
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

คำช้ีแจง : นักเรียนทำกิจกรรมสืบค้นขอ้ มลู โดยศึกษาความรู้จากใบความรู้

 ใบกจิ กรรมสืบค้นขอ้ มลู ท่ี 5.1 เร่ืองตะลยุ อาณาจักรพชื

ชดุ ที่ 5 เรือ่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน 24
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6

เร่ืองตะลุยอาณาจักรพชื

คำสั่ง : นักเรียนศกึ ษาเกย่ี วกับอาณาจักรพชื (Plantae) จากใบความรู้ และตอบคำถามต่อไปน้ี

1. Alternation of generation หมายถึง
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
2. พืชมีววิ ฒั นาการมาจากสง่ิ มีชวี ิตกลมุ่ ............................................ ชนดิ ...................................
3. ลกั ษณะท่นี ำมาใชใ้ นการจดั กลมุ่ พืช มี ................. ลักษณะ ไดแ้ ก่
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
4. พชื ไมม่ ีท่อลำเลียงมี .................. กลมุ่ ไดแ้ ก่ ............................................................................
5. พืชท่มี ที ่อลำเลียงมี ................... กลุม่ ไดแ้ ก่ ............................................................................
6. Gemma cup เปน็ โครงสร้างของ ...................................... ทำหนา้ ที่ .....................................
7. ฮอร์ทเวริ ท์ มีจดุ เดน่
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
8. ใบแบบ lycophyll แตกต่างจาก ใบแบบ euphyll อยา่ งไร
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
9. ยกตัวอย่างพืชในกลมุ่ Monilophyte มา 5 ชนดิ
.......................................................................................................................................................
10. ใบของเฟริ ์นแตกต่างจากพืชกลมุ่ อื่นอยา่ งไร
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
11. พชื ชนิดหน่งึ มลี ำตันขนาดเล็ก ไม่มีใบและรากทแ่ี ทจ้ รงิ แตกกง่ิ ยอ่ ยเปน็ คู่ ๆ และมีการสรา้ ง
สปอร์ชนิดเดยี วในอับสปอร์ตรงซอกกง่ิ พชื ชนดิ นคี้ อื
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

ชดุ ที่ 5 เรอ่ื งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนร้ตู ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 25
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

12. พืชในกล่มุ ปรงกบั พชื ในกลมุ่ สน มีลกั ษณะใดทแ่ี ตกต่างกนั ....................................................
.......................................................................................................................................................
13. พืชดอกมีลักษณะเดน่
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
14. จงระบชุ อื่ โครงสร้างทีเ่ ห็นจากภาพ และระบุวา่ พบในพืชชนดิ ใด

1.โครงสร้าง คือ ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

2.โครงสร้าง คอื ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

3.โครงสรา้ ง คอื ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

4.โครงสรา้ ง คือ ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

5.โครงสร้าง คือ ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

6.โครงสร้าง คอื ......................................................................................
พบในพืช ................................................................................................

ชดุ ที่ 5 เร่อื งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 26
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

:

คำชี้แจง : นกั เรยี นทำกจิ กรรมเรียนรเู้ กี่ยวกับอาณาจักรพืช และบนั ทกึ ผลใหค้ รบถ้วน ตาม
ข้นั ตอนตอ่ ไปนี้

ชดุ ท่ี 5 เร่ืองอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูต้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 27
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6

เรือ่ งการศกึ ษาลกั ษณะของพืช

 วัสดอุ ปุ กรณ์ประจำกลุ่ม 5. ใบมดี โกน
6. แว่นขยาย
1. กล้องจุลทรรศน์
2. สไลด์
3. กระจกปดิ สไลด์
4. เข็มเข่ีย

 ขนั้ ตอนการทำกจิ กรรม
1. นักเรียนแบ่งกล่มุ ศึกษาลักษณะภาพรวม และเฉพาะโครงสร้างของตัวอย่าง

พืช ทัง้ 6 ชนดิ กล่มุ ละ 1 ชนดิ
2. นกั เรียนบนั ทึกรายละเอียดลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรม พร้อมวาด

ภาพประกอบหรอื ถา่ ยภาพตดิ
3. นักเรียนนำเสนอผลการศึกษาพชื แต่ละชนิด
3. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ และอภปิ รายผลการศึกษาลกั ษณะของพืชแตล่ ะชนดิ
4. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหป์ ระโยชน์และโทษของพืช และเขยี นในกระดาษ

โพสต์อิท นำไปแปะไวท้ บ่ี อร์ดต้นไม้
5. นักเรียนบนั ทึกสรปุ การเรยี นรใู้ นชั้นเรียน

ชดุ ที่ 5 เร่อื งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับหอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 28
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

เร่ือง

การศกึ ษาลักษณะของพชื

คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนบนั ทึกผลการทำกิจกรรมการเรียนรใู้ นห้องเรียน เรอื่ ง การศึกษาลักษณะ
ของพืชดงั นี้
1. สมาชกิ ในกล่มุ

1.1 ........................................................... เลขที่ ................
1.2 ........................................................... เลขที่ ................
1.3 ........................................................... เลขที่ ................
1.4 ........................................................... เลขที่ ................
1.5 ........................................................... เลขที่ ................
1.6 ........................................................... เลขที่ ................

2. บนั ทึกผลลักษณะที่สังเกตไดจ้ ากแวน่ ขยาย และโครงสรา้ งเฉพาะดว้ ยกล้องจลุ ทรรศน์

ตัวอย่าง จัดอย่ใู นกลมุ่ ลกั ษณท่ีสังเกต ภาพโครงสร้างท่ศี ึกษาดว้ ยกล้องจุลทรรศน์
พชื (วาดหรอื ติดภาพ)

หญา้ รงั
ไก่

ชุดที่ 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลับด้าน 29
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6

ตัวอยา่ ง จัดอยู่ใน ลกั ษณท่ี ภาพโครงสรา้ งทศี่ ึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์
พืช กลุ่ม สังเกต (วาดหรือตดิ ภาพ)

เฟริ ์น

มอส

ใบและ
โคนของ
ตน้ สน

ชุดที่ 5 เรือ่ งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 30
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6

3. ประโยชนข์ องพชื
3.1 ........................................................................................................................................
3.2 ........................................................................................................................................
3.3 ........................................................................................................................................

4. โทษของพืช
4.1 ........................................................................................................................................
4.2 ........................................................................................................................................
4.3 ........................................................................................................................................

สรปุ ผลการเรียนรู้ : สง่ิ มีชีวิตอาณาจักรพืช

.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

ชุดท่ี 5 เร่อื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลบั ด้าน 31
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6

Post – test)

คำช้แี จง : นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถกู ท่ีสุด และทำเคร่ืองหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ

1.พืชใดมลี กั ษณะ “เมลด็ ไมม่ ผี ลหุ้ม ลำตน้ ค่อนข้างเตย้ี ใบประกอบแบบขนนกชั้นเดยี ว สร้างโคน

เพศผ้แู ละเพศเมียแยกตน้ ”

ก. Gnetophyta ข. Cycadophyta

ค. Ginkophyta ง. Coniferophyta

2. Sorus พบได้ในพชื กล่มุ ใด ข. มอส
ก. เฟิรน์ ง. ปรง
ค. หญ้าถอดปลอ้ ง

3. ปัจจุบันใช้ขอ้ มลู ด้านใดในการจำแนกพชื ข. โครงสร้างดอก
ก. สัณฐานของอวยั วะ ง. ถกู ทุกขอ้
ค. ลำดับเบสของสารพันธุกรรม

4. ข้อใดทไ่ี ม่เปน็ ความจริงสำหรบั พืชพวกเฟนิ
ก. มีวงจรชีวิตแบบสลับ
ข. มใี บม้วนแบบลานนาฬิกา
ค. สร้างอบั สปอรอ์ ย่รู วมกันเป็นกลมุ่
ง. สโตรบิลัสประกอบด้วยกลมุ่ ของสปอร์โรฟลิ ล์

5. Alternation of Generation หมายถงึ อะไร
ก. พืชสามารถสืบพันธ์ไุ ด้ทั้งอาศัยเพศและไมอ่ าศัยเพศ
ข. พืชดำรงชวี ติ ได้โดยที่มโี ครโมโซมทง้ั 2n และ n
ค. พืชท้งั มดี อกและไม่มีดอกในการสืบพนั ธ์ุ
ง. พชื ท่ีมีเมล็ดเปลือยและมีเปลอื กหมุ้ เมล็ด

ชุดท่ี 5 เรอื่ งอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 32
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

6. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะเด่นของพืชดอกจากพชื กลุ่มอ่ืนๆ
ก. มีท่อลำเลียง
ข. มีวงจรชีวิตแบบสลับ
ค. เมลด็ มรี งั ไข่หอ่ หุ้ม
ง. มีรากใบลำตน้ ที่แท้จรงิ

7. สาเหตใุ ดท่เี ชื่อว่าพืชวิวัฒนาการจาก Chara ข. มีคลอโรฟลิ ล์
ก. มีผนังเซลล์ ง. มวี งจรชีวิตแบบสลับ
ค. มอี อรแ์ กเนลล์ ท่ีมีเยอื่ หมุ้ 2 ช้นั

8. Gemma cup คือสว่ นใด
ก. โครงสรา้ งสบื พันธแ์ บบไม่อาศยั เพศของลเิ วอรเ์ วิรต์
ข. ต้นสปอโรไฟตข์ อง moss
ค. Archegonium ของต้นแกมโี ทไฟตข์ อง ฮอรน์ เวิรต์
ง. สโตรบิลัสของ lycophyte

9. พชื ในข้อใดไมจ่ ดั อยู่ในกลมุ่ ไม่มที อ่ ลำเลยี ง ข. Hepatophyta
ก. Bryophyta ง. Lycophyta
ค. Anthocerophyta

10. ขอ้ ใดบง่ บอกว่า Gnetum มีลักษณะคล้ายพชื ดอก

ก. Xylem มีแต่เทรคตี ข. สโตรบิลัสเปน็ ช่อแบบสไปค์

ค. มเี มลด็ ง. ต้นแยกเพศ

ชดุ ที่ 5 เร่อื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 33
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

กระดาษคำตอบ ชอ่ื .........................................................................
แบบทดสอบหลังเรียน
ช้ัน .............เลขท่ี ................

ชดุ ที่ 5 เร่ืองอาณาจักรพชื (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลับด้าน 34
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6

:
คำชี้แจง : นักเรียนปฏิบตั กิ จิ กรรมหลังจากกิจกรรมการเรยี นร้ใู นหอ้ งเรียน

กจิ กรรมเรื่อง แผนผงั มโนทัศน์ “อาณาจักรพืช (Plantae)

ชุดท่ี 5 เรือ่ งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 35
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

กิจกรรมเรอื่ ง แผนผังมโนทศั น์ “อาณาจกั รพืช (Plantae)

นักเรียนจดั ทำแผนผังมโนทัศน์ “อาณาจกั รพืช (Plantae)”

ชดุ ท่ี 5 เรอ่ื งอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 36
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6

 แบบบนั ทึกคะแนน ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชุดที่ 5 เรือ่ ง
อาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ ท่ี 5 เรื่องอาณาจักรพืช (Plantae)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 37
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

แบบบันทกึ คะแนนชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชดุ ท่ี 5 เรือ่ งอาณาจักรพชื (Plantae)

ช่อื ..........................................................................................ชั้น .............เลขที่ ................

ท่ี รายละเอียด คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้

ด้านพุทธิพิสยั (K)

1 กจิ กรรมสืบคน้ ข้อมลู ที่ 4.1 เรอื่ ง มารจู้ ักโพรทิสต์ 22

2 แบบทดสอบหลังเรียน 10

3 ชิ้นงาน : แผนผงั มโนทศั น์ อาณาจกั รโพรทิสตา 12

5 แบบบนั ทึกกจิ กรรมการเรียนรู้ เร่อื งความ 5

หลากหลายของโพรทสิ ต์

ดา้ นทักษพสิ ัย (P)

5 กระบวนการกลุ่ม 20

ดา้ นจิตพสิ ัย (A)

7 พฤติกรรมคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 33

รวม 102

รอ้ ยละ 100

ผลประเมิน

เกณฑ์การประเมนิ ผลการประเมิน
คะแนน 0 – 60 % ได้ระดบั ปรบั ปรุง
คะแนน 60 – 70 % ไดร้ ะดับปานกลาง
คะแนน 71 – 80 % ไดร้ ะดับดี
คะแนน 80 – 100 % ไดร้ ะดับดมี าก

ชดุ ท่ี 5 เรื่องอาณาจกั รพชื (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับด้าน 38
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

บรรณานกุ รม

โครงการตำราวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตรม์ ลู นิธิ สอวน. (2552).ชวี วิทยา 1. (พมิ พค์ รั้งที่ 5).
กรงุ เทพฯ :ด่านสุทธาการพมิ พ์.

สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2563). หนังสอื เรยี นรายวิชาเพิม่ เติมวทิ ยา
ศาตรแ์ ละเทคโนโลยี ชวี วทิ ยาชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 เล่ม 6 . กรงุ เทพมหานคร :
สกสค.

W3spoint. (2020). Plant Life Cycle And Alternation of Generation. สืบค้นเมอื่ 8
กันยายน 2563, จาก https://www.w3spoint.com/plant-life-cycle-and-
alternation-of-generation

Major Differences. (2016). Difference between Gametophyte and Sporophyte.
สืบคน้ เม่อื 8 กนั ยายน 2563, จาก
https://www.majordifferences.com/2016/04/difference-between-
gametophyte-and-sporophyte.html

Elizabeth J.Hermsen. (2020). Introduction to Vascular Plant Structure. สืบค้นเม่อื 8
กันยายน 2563, จาก
https://www.digitalatlasofancientlife.org/learn/embryophytes/tracheop
hytes/

Study on Biology. (2017). Bryophyta. สบื ค้นเมอ่ื 8 กันยายน 2563,จาก
http://biostudy4u.com/botany/bryophyta/

The Hidden Forest. (2000). Moss Reproduction. สบื ค้นเมื่อ 8 กนั ยายน 2563, จาก
http://www.hiddenforest.co.nz/bryophytes/mosses/index.htm

Mario Arteaga-Vazquez. (2015). A day in life of a Marchantia lab. สืบค้นเมื่อ 8
กนั ยายน 2563, จาก https://thenode.biologists.com/a-day-in-the-life-of-a-
marchantia-lab/lablife/

Milos Tanurdzic and Jo Ann Banks. (2004). Sex – Determining Mechanisms in Land
Plants. สบื คน้ เม่ือ 8 กนั ยายน 2563, จาก
https://www.researchgate.net/figure/The-Life-Cycle-of-the-Liverwort-
Marchantia-polymorpha_fig1_8618073

ชดุ ท่ี 5 เรือ่ งอาณาจกั รพืช (Plantae)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลบั ดา้ น 39
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

บรรณานุกรม (ต่อ)

Indefenseofplants. (2018). An Introduction to Hornworts. สืบคน้ เม่ือ 8 กันยายน 2563,
จาก https://www.indefenseofplants.com/blog/2018/12/11/an-
introduction-to-hornworts

Jeremy Dkhar and Ashwani Pareek. (2014). What determines a leaf’s shape?. สืบคน้
เมอ่ื 8 กันยายน 2563, จาก
https://www.researchgate.net/publication/269930650

ศรีทอง_Orchid. (2010). เฟิร์นชอ้ งนางคลี. สบื ค้นมอ่ื 8 กนั ยายน 2563, จาก
https://www.nanagarden.com/product/108879

Invasive.org. (2018). Isoetales. สืบคน้ เมื่อ 8 กนั ยายน 2563, จาก
https://www.invasive.org/browse/taxthumb.cfm?order=301

Jerzy Opiola. (2012). Selaginella martensii OB10.1.jpg. สืบคน้ เมื่อ 8 กันยายน 2563,
จาก

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Selaginella_martensii_
OB10.1.jpg

Radboud University Nijmegen. (2014). Virtual Classroom Biology. สืบคน้ เม่ือ 8
กันยายน 2563, จาก
https://www.vcbio.science.ru.nl/en/virtuallessons/pterophyta/

Cambridge Botanic Garden. (2008). Equisetopsida.jpg. สบื ค้นเม่ือ 8 กนั ยายน 2563,
จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Equisetum#/media/File:Equisetopsida.jpg

Kollathdesign. (2021). Horsetail Anatomy. สบื คน้ เมือ่ 8 กนั ยายน 2563, จาก
https://kollathdesign.com/portfolio/horsetail-anatomy/

ชดุ ท่ี 5 เรื่องอาณาจักรพืช (Plantae)


Click to View FlipBook Version