The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

น.1 จำนวนนับไม่เกิน 100000 12 ซม(1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Piya Wan, 2022-09-10 05:18:37

น.1 จำนวนนับไม่เกิน 100000 12 ซม(1)

น.1 จำนวนนับไม่เกิน 100000 12 ซม(1)

โครงสรา้ งหน่วยการเรยี นรู้
รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 3 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดข้ึนจาก
การดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชีว้ ัด ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขียนตัวเลข ฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและ ตัวหนังสือแสดงจานวนนับ ไม่เกนิ
100,000 และ 0

ค 1.1 ป.3/2 เปรียบเทยี บและเรยี งลาดับ จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0
ค 1.2 ป.3/1 บอกจานวนทีห่ ายไปในแบบรปู ของจานวนท่ีเพ่ิมขึน้ หรือลดลง ทลี ะเทา่ ๆ กนั

หนว่ ยการ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / แผนการจัดการเรยี นรู้ เวลา
เรยี นรู้ท่ี (ช่วั โมง)

เรือ่ ง จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 12
1 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง การเตรยี มความพร้อม 1
1
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง จานวนนบั ไมเ่ กิน 10,000 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง หลักและค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของจานวนนบั ไมเ่ กนิ
100,000 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง การเปรียบเทียบจานวน 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เร่ือง การเปรียบเทียบจานวน 1
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การเรียงลาดบั จานวน 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง การเรียงลาดบั จานวน 1
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง แบบรปู ของจานวนท่เี พม่ิ ขนึ้ หรือลดลงทีละเทา่ ๆ กัน 1
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เร่ือง แบบรปู ของจานวนท่ีเพิม่ ขึน้ หรือลดลงทลี ะเท่า ๆ กนั 1
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 11 เรื่อง กิจกรรม สนามกีฬานา่ รู้ 1
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 12 เรอ่ื ง ทดสอบทา้ ยบทเรยี น

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่ือง จานวนนับไม่เกนิ 100,000

เร่อื ง การเตรียมความพร้อม เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวันท่ี 18 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การของจานวน

ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และการนาไปใช้

ตัวชีว้ ดั : -

ทักษะพ้นื ฐานของนกั เรียน

1.การนบั และการบอกจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000

2.การอา่ นและการเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนังสือแสดงจานวนนับไม่เกนิ 1,000

3.หลกั และคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวนนับไมเ่ กิน 1,000

4.การเขยี นในรปู กระจายของจานวนนับไมเ่ กนิ 1,000

5.การเปรียบเทียบและเรยี งลาดบั จานวนนบั ไมเ่ กิน 1,000

6.แบบรปู ของจานวนท่ีเพิ่มข้ึนทลี ะ 2 ทลี ะ 5 ทีละ 10 ทีละ 100

7.แบบรปู ของจานวนที่ลดลงทลี ะ 2 ทลี ะ 5 ทีละ 10 ทลี ะ 100

สาระสาคญั

การนบั จานวนนบั หลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักการเขยี นในรปู กระจาย การเปรียบเทยี บ

จานวนการเรยี งลาดับจานวนแบบรปู ของจานวนที่เพิ่มข้นึ แบบรปู ของจานวนทีล่ ดลง

ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน

ใบงานที่ 1 เรือ่ ง การเตรียมความพรอ้ ม

กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้

1.ครูใช้ข้อมูลในหนังสือเรยี นหนา้ เปิดบทเพื่อกระตุ้นความสนใจเก่ียวกบั การแขง่ ขันกีฬาท่ีมีผูเ้ ข้าชม

เป็นจานวนมากและเช่ือมโยงไปถงึ เรอ่ื งจานวนท่มี ีคา่ มากตามจานวนผเู้ ข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโดยใช้คาถาม

เชน่

− มีใครเคยไปชมกีฬาท่มี ผี ู้เข้าชมจานวนมากบา้ งไหม

− นักเรียนคิดว่าสนามกีฬาท่ีจดั แข่งขนั ฟตุ บอลของทมี ชาติจะจคุ นไดเ้ ทา่ ไร

− จากภาพเปน็ การแข่งขันฟตุ บอลกระชบั มติ รทมี่ ีทีมเหย้าและทีมเยือนนกั เรยี นคดิ วา่ ทมี สีอะไรเปน็ ทีมเหย้า

ทีมสอี ะไรเปน็ ทมี เยือน (ครสู ามารถถามและให้ความรู้ จากกรอบเกร็ดความรู้ในเร่อื งทมี เหย้าและทมี เยือน)

2.ครูให้นกั เรยี นสงั เกตจานวนผเู้ ขา้ ชมของฝง่ั ทีมเหย้าและทีมเยอื นทป่ี รากฏบนจอในสนามและนาไปสู่

การทบทวนค่าประจาหลกั ของเลขโดดในหลักหนว่ ยหลกั สิบ หลกั ร้อย และหลกั พัน เพ่ือนาเข้าสบู่ ทเรยี น

แสน หมน่ื พัน รอ้ ย สบิ หน่วย

3.ครนู าภาพบัตรลกู คิดแสดงจานวนผ้เู ข้าชมเยือน 25,678 โดยท่ี

2 อยใู่ นหลักหมืน่ มคี า่ เท่ากบั 20,000

5 อยใู่ นหลักพนั มคี ่าเทา่ กบั 5,000

6 อยู่ในหลักร้อย มคี า่ เท่ากบั 600

7 อยใู่ นหลกั สบิ มีคา่ เทา่ กับ 70

8 อยู่ในหลักหน่วย มีคา่ เท่ากับ 8

4.ใช้หนงั สือเรียนหน้าเตรียมความพร้อม เพื่อตรวจสอบความรู้พนื้ ฐานของนักเรียน เร่ืองการ

เขยี นแสดงจานวนและการเปรียบเทียบจานวนไม่เกนิ 1,000 โดยในส่วนแรกให้นกั เรยี น ทบทวนการแสดง

จานวนด้วยรูปแผ่นตารางร้อยแผ่นตารางสิบและแผน่ ตารางหน่วยโดยให้เขยี น ตัวเลขฮนิ ดูอารบิกตวั เลขไทย

และตวั หนังสือ ดงั นี้

=
ฮนิ ดอู ารบิก 222
ตัวเลขไทย ๒๒๒
ตวั หนงั สอื สองร้อยย่ีสิบสอง
5.ครอู ธิบายใหน้ ักเรยี นได้ทบทวนเร่ืองการเขียนในรูปกระจายจากรูปแผน่ ตารางแสดงจานวน
222 ซ่ึงเขยี นในรูปกระจายได้ 222=200+20+2
6.ครตู รวจสอบและทบทวนความรู้ เรือ่ งการเปรยี บเทยี บจานวนโดยใช้สถานการณ์รา้ นค้า
ขายของทรี่ ะลึก โดยให้นักเรยี นเปรียบเทียบ ราคาของส่งิ ของในแต่ละขอ้ พร้อมกบั การอธิบาย

ครถู ามทีละข้อดว้ ยคาถาม 1)“รม่ กับ หมวก สง่ิ ใดมรี าคามากกวา่ นกั เรียนทราบได้

อย่างไร”นักเรยี นอาจตอบว่า ร่มราคามากกวา่ หมวกเพราะ 285 มากกว่า 199

7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เกย่ี วเรือ่ งการอา่ นและการเขยี นแสดงจานวน วา่ “การนบั

จานวนนบั หลกั และคา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลักการเขยี นในรูปกระจาย การเปรยี บเทยี บจานวนการเรียงลาดับ

จานวนแบบรปู ของจานวนที่เพิ่มขน้ึ แบบรูปของจานวนท่ีลดลง”

8. หากมีนกั เรยี นท่ีมคี วามรู้พื้นฐานไมเ่ พียงพอ ในเร่ืองการอา่ นและการเขียนแสดงจานวน ครูสามารถ

ให้นกั เรยี น ทาใบงานท่ี 1 เตรียมความพร้อม

ส่ือการเรียนรู้

1.หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.3

2. ทาใบงานที่ 1 เตรยี มความพร้อม

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

จดุ ประสงคก์ าร วธิ วี ัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน

เรียนรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทาใบงาน ทาใบงาน 60% ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์

การประเมิน

2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรมดา้ น นักเรยี นได้คะแนนระดับ

กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ทักษะกระบวนการ คณุ ภาพดีขึน้ ไป

3. ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ น นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ท่พี ึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทีพ่ ึง คณุ ลักษณะ ที่พึงประสงค์ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป

ประสงค์

ใบงานท่ี 1 เตรียมความพรอ้ ม

เขียนตวั เลขแสดงจานวน

1.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………....................................................................................... ..........................
............................................................................................................................. .................................................

2.
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………....................................................................................... ..........................
........................................................................................................................................................... ...................
3.เปรยี บเทียบราคาของสินคา้ ตอ่ ไปนี้

1) รม่ กับ หมวก...............................................................................................
2) เสอ้ื กบั แว่นตา...............................................................................................
3) พวงกญุ แจ กับ แวน่ ตา................................................................................
4) หมวก กับ พวงกุญแจ.....................................................................................

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง จานวนนับไมเ่ กิน 100,000

เร่ือง จานวนนับไมเ่ กนิ 10,000 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สอนวนั ที่ 19 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/1 อา่ นและเขียนตัวเลข ฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและ ตวั หนังสือแสดงจานวนนบั

ไมเ่ กิน 100,000 และ 0

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวัด

1.บอกวธิ ีอา่ นและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและตวั หนงั สอื แสดงจานวนนบั ไมเ่ กิน 10,000

(K)

2.อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลขไทยและตัวหนงั สอื แสดงจานวนนบั ไม่เกิน 10,000 (P)

3.นกั เรยี นมคี วามมุง่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ทไี่ ด้ไปต่อยอดในการเรียนเร่ืองต่อไป (A)

สาระสาคญั

การอา่ นจานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 อา่ นตามคา่ ประจาหลักจากซ้ายไปขวาการเขยี นแสดงจานวนอาจ

เขียนเป็นตัวเลข ฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย หรือตวั หนังสอื จานวนส่หี ลกั มีจานวนที่อยู่หลกั หน่วยหลกั สิบ

หลกั รอ้ ยและหลักพนั

สาระการเรยี นรู้

1.ความรู้

จานวนนบั ไมเ่ กิน 10,000

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอื่ มโยง

3.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวนิ ยั

2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. มุ่งม่ันในการทางาน

ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน

ใบงานที่ 2 เร่ือง จานวนนบั ไมเ่ กนิ 10,000

กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครแู นะนาแผน่ ตารางรอ้ ยแผ่นตารางสบิ และ แผน่ ตารางหน่วยและแสดงให้เห็นวา่ เมือ่ นาแผ่น

ตาราง- ร้อยมา10 แผน่ ชวนนกั เรยี นนับไปทลี ะแผน่ พรอ้ มกนั 100 200 300 400 500 600
700 800 900 และ1,000 เพื่อจะแนะนาว่ารูปลกู บาศก์เกิดจากการซ้อนกัน ของแผน่ ตาราง

ร้อย 10 แผ่น ได้รปู ลูกบาศก์พนั 1 รปู

จากน้ันจากนนั้ ชวนใหน้ ักเรียนดูรูปขบวนพาเหรดในหนังสอื เรียน หน้า 5 มจี านวนผเู้ ขา้ รว่ ม
ขบวนพาเหรดเท่ากบั หนึง่ พนั สองรอ้ ยส่ีสบิ แปดคน

เขยี นตวั เลขและตวั หนังสอื แสดงจานวน ดงั น้ี
ตัวเลขฮินดูอารบกิ 1,248 ตวั เลขไทย ๑,๒๔๘
ตวั หนงั สอื หนึง่ พนั สองรอ้ ยสส่ี บิ แปด

3.ใหน้ กั เรียนเขียนแสดงจานวน ในรูปตัวเลขฮินดูอารบิกตัวเลขไทยและตัวหนงั สือ ครูอาจยกตวั อย่าง
เพม่ิ อกี 2-3 ตวั อย่าง

4.เพอื่ ฝึกให้นักเรียน ได้อา่ นและเขียนแสดงจานวนไมเ่ กิน 10,000 ในรปู ตวั เลขฮินดูอารบกิ
ตวั เลขไทย และตัวหนงั สือจากน้นั ใหน้ ักเรียนจบั คู่ หรือ กลมุ่ ละ2-3 คนทาแบบฝึกหดั 2

ข้อในกรอบทา้ ยหนังสือเรยี นหน้า 5
5.จากภาพในหนังสือเรียนหน้า 6 ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบวา่ รูปดา้ นบนแสดงจานวนอะไรเมอื่

นักเรียนตอบและ เขยี นไดถ้ ูกต้อง ครูแนะนาว่าหากเราต้องใชภ้ าพแสดง จานวนทมี่ ีค่ามาก ครอู าจวาดภาพให้
นักเรยี น ดูเพื่อแสดงใหเ้ ห็นวา่ การใชภ้ าพแสดงจานวนที่มีคา่ มากน้นั ครูจงึ แนะนาส่ือชดุ ลูกคดิ ซ่งึ ประกอบด้วย
หลกั ลกู คิดและลกู คิดและแนะนาการใช้ หลกั ลูกคดิ ทีละหลกั แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันใสล่ กู คิดให้ตรงหลักตาม
จานวนในรูปภาพในหนงั สือเรียนหนา้ 6

พนั รอ้ ย สิบ หน่วย เขยี นตัวเลขและตัวหนงั สือแสดง
จานวน ดังนี้ ตัวเลขฮินดอู ารบกิ
4,254
ตวั เลขไทย ๔,๒๕๔

ครถู ามนักเรยี นว่าการใช้หลักลูกคิดแสดงจานวนแต่ล่ะจานวน นักเรยี นบางคนอาจจะยังตอบไมไ่ ด้
ครคู วรแสดงให้นักเรยี นเห็นโดยการใช้ หลกั ลกู คดิ แสดงจานวน 9,999 ซง่ึ จะเหน็ ว่าเลขโดด
ในแต่ละหลักของจานวนนีเ้ ปน็ 9 ดงั นัน้ จึงใสล่ ูกคดิ ในแตล่ ะหลักได้ 9 ลกู
6.จากนั้นครูถามนักเรยี นว่าถา้ ใสล่ กู คิดในหลักหนว่ ยเพิ่มอกี 1 ลกู จะเกิดอะไรขึน้ นกั เรยี นสามารถบอกได้
หรือไมว่ ่าเมือ่ เพิม่ ลูกคิด 1 ลูก ดงั กลา่ วแลว้ หลกั ลูกคิดแสดงจานวนครูอธบิ ายเพิ่มเติมวา่ เมื่อเพมิ่ ลูกคิดในหลัก
หน่วยเปน็ 10 หน่วยจะมคี า่ เท่ากับ1 สบิ ครใู สล่ ูกคดิ เพ่ิมในหลกั สบิ เป็น 10 สิบ และ 10 สิบ มีคา่ เทา่ กบั 1
ร้อย ครใู สล่ กู คิดเพิ่มในหลักร้อยเป็น10 รอ้ ย และ 10 รอ้ ย มีคา่ เทา่ กบั 1 พนั ครใู ส่ลกู คดิ เพิ่มใน
หลกั พัน เป็น 10 พนั และ 10 พนั มคี า่ เท่ากับ 1 หมน่ื

เขียนตัวเลขและตัวหนงั สือแสดงจานวน ดงั นี้ ตัวเลขฮินดอู ารบกิ
10,000
ตวั เลขไทย ๑๐,๐๐๐
ตวั หนงั สือ หน่ึงหมืน่

7.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยให้นักเรียนเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิก
ตัวเลขไทยและ ตัวหนังสือจากนั้นทาใบงานท่ี 2 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้

สื่อการเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์

2.ใบงานท่ี 2 เร่ือง จานวนนับไมเ่ กิน 10,000

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การ วธิ วี ดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ

เรยี นรู้ 70% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน นักเรียนได้คะแนนระดบั
คณุ ภาพดีขึน้ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ นกั เรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ คุณภาพดีขึน้ ไป
3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม
ท่ีพงึ ประสงค์ (A) คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ดา้ นคุณลักษณะ
ท่ีพึงประสงค์

ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง จานวนนบั ไม่เกิน 10,000

เขยี นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.....................................................................................…………….………………………..............................................

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.....................................................................................…………….………………………..............................................

ชื่อ ........................................................................................................... ช้นั ป. 3 เลขท.่ี .......................

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง จานวนนบั ไม่เกิน 100,000

เรอ่ื ง จานวนนับไม่เกนิ 100,000 เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวนั ท่ี 20 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขียนตวั เลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทยและ ตวั หนงั สือแสดงจานวนนบั

ไม่เกิน 100,000 และ 0

จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ู่ตวั ช้ีวดั

1.บอกวธิ ีอ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทยและ ตัวหนงั สอื แสดงจานวนนบั ไมเ่ กนิ

100,000 (K)

2. อ่านและเขยี นตัวเลขฮนิ ดูอารบกิ ตวั เลขไทยและ ตัวหนังสอื แสดงจานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 (P)

3.นกั เรยี นมีความมุง่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ที่ได้ไปตอ่ ยอดในการเรียนเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคัญ

การอ่านจานวนนับไม่เกิน 100,000 อ่านตามค่าประจาหลักจากซ้ายไปขวาการเขยี นแสดงจานวนอาจ

เขียนเป็นตวั เลข ฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย หรอื ตัวหนังสือ จานวนสห่ี ลักมจี านวนที่อยูห่ ลักหนว่ ยหลกั สบิ

หลกั ร้อยและหลักพัน

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

จานวนนบั ไม่เกิน 100,000

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอ่ื มโยง

3.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี ินัย

2. ใฝ่เรียนรู้

3. มงุ่ มั่นในการทางาน

ช้ินงานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 3 เร่ือง จานวนนับไมเ่ กิน 100,000

กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครนู าชดุ ลกู คดิ มาแสดงจานวนเพอื่ ให้นักเรียน บอกจานวนจากหลักลกู คิดและเขียนตวั เลข

ฮินดูอารบิกตวั เลขไทยและตวั หนังสอื ครใู ชล้ ูกคิดแสดงจานวน 34,286 และ 46,007 ตามหนังสือเรียนหนา้
9 เพื่อให้นักเรยี นอ่าน และเขียนตัวเลขแสดงจานวนและให้ครกู าหนดตัวเลข แสดงจานวนแล้วใหต้ วั แทน
นกั เรียนออกมาแสดงจานวน ลูกคิดในแตล่ ะหลกั

เขยี นตวั เลขและตวั หนงั สือแสดงจานวน ดงั นี้
ตัวเลขฮินดูอารบกิ 34,286
ตวั เลขไทย ๓๔,๒๘๖
ตัวหนังสือ สามหมน่ื สพ่ี นั สองรอ้ ยแปดสิบหก

ตวั เลขฮนิ ดูอารบิก 46,007
ตวั เลขไทย ๔๖,๐๐๗
ตวั หนงั สือ ส่หี ม่นื หกพันเจด็

จากนั้นครแู นะนาการเขยี นตัวเลขแสดงจานวนตง้ั แต่สห่ี ลัก นิยมเขียนเคร่ืองหมาย จลุ ภาค (,) คนั่ ระหวา่ ง
ตวั เลขในหลกั รอ้ ยและหลักพัน

2.ครูใช้หลกั ลกู คดิ ท่มี ีลกู คดิ 9 ลกู ในหลักหม่ืน แลว้ ถามว่า หลักลูกคดิ น้แี สดงจานวนใด (เก้า
หมนื่ )

เขยี นตัวเลขและตวั หนงั สือแสดงจานวน ดงั นี้
ตัวเลขฮนิ ดอู ารบกิ 100,000
ตัวเลขไทย ๑๐๐,๐๐๐

จากนั้นและถ้าครูใสล่ กู คดิ เพมิ่ อีก 1 ลกู แลว้ ถามนกั เรยี นว่า หลกั ลกู คิดนี้แสดงจานวนใด
(นักเรยี นบางคนอาจตอบวา่ 10 หม่ืนบางคนอาจตอบวา่ 1 แสน)

3. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยให้นักเรียนเขยี นตัวเลขฮินดูอารบิกตัวเลข
ไทยและ ตัวหนังสือจากนัน้ ทาใบงานท่ี 3 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รยี นรู้

ส่อื การเรียนรู้

1.หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์

2.ใบงานที่ 3 เรือ่ ง จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การ วธิ ีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ

เรยี นรู้ ใบงาน 60% ข้ึนไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ด้านทักษะ คุณภาพดีขน้ึ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
ด้านคุณลักษณะ คุณภาพดีข้ึนไป
3. ด้านคุณลักษณะ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน ทพี่ ึงประสงค์
ทพ่ี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์

ชื่อ ........................................................................... ชัน้ ป. 3 เลขท่ี .........................

ใบงานที่ 3 เรือ่ ง จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000

เขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสอื แสดงจานวน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
…………….………………………...................................................................................................................................

เขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก และตัวเลขไทยแสดงจานวน
1) เจด็ หมนื่ สองพันหกร้อยหกสบิ สาม

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
…………….……………………….............................................................................................................. .....................

2) แปดหมืน่ เกา้ พนั สองร้อยเก้าสิบ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
................................................................................................................. .............................................................
…………….……………………….............................................................................................................. .....................

3) สี่หมน่ื สามร้อยเอ็ด
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
…………….……………………….............................................................................................................. .....................

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4

กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จานวนนับไม่เกิน 100,000

เรื่อง หลักและคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวนนับไม่เกิน 100,000 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวนั ท่ี 23 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขยี นตวั เลข ฮนิ ดอู ารบิก ตัวเลขไทยและ ตวั หนงั สือแสดงจานวนนบั

ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0

จุดประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ูต่ ัวชี้วดั

1.บอกหลกั คา่ ของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย (K)

2.เขียนหลกั ค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั และเขยี นแสดงจานวนในรปู กระจาย (P)

3.นกั เรยี นมคี วามมงุ่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ท่ีไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A)

สาระสาคญั

การอ่านจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000 อา่ นตามค่าประจาหลกั จากซา้ ยไปขวาการเขยี นแสดงจานวนอาจ

เขยี นเปน็ ตัวเลข ฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย หรือตวั หนงั สอื จานวนสห่ี ลกั มจี านวนที่อย่หู ลกั หน่วยหลกั สิบ

หลกั รอ้ ยและหลักพัน

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

หลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลกั ของจานวนนับไม่เกนิ 100,000

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเช่อื มโยง

3.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย

2. ใฝ่เรยี นรู้

3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

ชิน้ งานหรอื ภาระงาน

ใบงานท่ี 4 เร่อื ง หลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000

กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ใช้ลูกคดิ และหลักลกู คิดเริ่มต้นแนะนาหลกั และ ค่าประจาหลักโดยเขยี นตัวเลขบนกระดานและให้

นักเรยี น ชว่ ยกนั ใส่ลูกคิดในหลกั ลูกคิดแตล่ ะหลักให้ถูกต้อง เช่น 3,523 ซ่งึ เปน็ จานวน 4หลกั ประกอบดว้ ย
เลขโดด 4 ตวั แลว้ ใสล่ ูกคดิ ตามตาแหน่งหลักหน่วยหลกั สิบ หลักรอ้ ย และหลักพนั ตามลาดับ ครูแนะนาว่า
จากลูกคดิ มี 3 พัน กบั 5 รอ้ ย กับ 2 สิบกับ 3 หน่วย ซึ่งทาใหร้ คู้ ่าของเลขโดด

3,523 คือ 3 พนั กับ 5 รอ้ ย กับ 2 สบิ กบั 3 หนว่ ย
3 ในหลักพนั มีคา่ 3,000
5 ในหลักร้อย มีค่า 500
2 ในหลกั สิบ มคี ่า 20
3 ในหลกั หนว่ ย มคี า่ 3

เขียนในรูปกระจาย 3,523 = 3,000 + 500 + 20 + 3
2.ครแู นะนาว่าในการเขียนจานวน ในรูปกระจายหลกั ใดที่เป็น0ไมจ่ าเป็นต้องเขยี น 0 ในหลกั
นนั้ กไ็ ด้
3.ครูใชล้ กู คิดและหลกั ลกู คดิ แนะนาจานวน 5 หลัก จานวน 52,402

5 ในหลกั หมื่น มคี ่า 50,000
2 ในหลกั พนั มีคา่ 2,000
4 ในหลักรอ้ ย มีค่า 400

0 ในหลกั สิบ มีค่า 0
2 ในหลักหนว่ ย มีคา่ 2
เขยี นในรปู กระจาย 52,402 = 50,000 + 2,000 + 400 + 0 + 2
หรือ 52,402 = 50,000 + 2,000 + 400 + 2
4.ครูแนะนาจานวน 100,000 ซ่ึงเป็น จานวน 6 หลัก มี 100,000 คือ 1 แสน กับ 0 หมืน่ กับ
0 พนั กบั 0 ร้อย กบั 0 สิบ กับ 0 หน่วย

5.ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน เปน็ รายบคุ คลโดยครูใบงานท่ี 3 นาภาพข่าวการว่งิ
มาราธอนโดยเลอื กรปู ที่มจี านวนคนเขา้ รว่ มเป็นจานวนมากพร้อมระบุจานวนผ้เู ขา้ รว่ ม โดยเขยี นเป็นตัวเลขบน
กระดานแล้วใหน้ กั เรยี น บอกค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และ เขยี นแสดงจานวนในรปู กระจาย สรุปสิง่ ที่
เรยี นรู้
สอ่ื การเรียนรู้

1.หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์

2.ใบงานที่ 4 เรือ่ ง หลักและค่าของเลขโดดในแตล่ ะหลกั ของจานวนนับไม่เกิน 100,000

การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การ วิธวี ดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน

เรียนรู้ ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การ
ประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั คณุ ภาพ
ดา้ นทักษะกระบวนการ ดขี นึ้ ไป
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นทักษะ
กระบวนการ (P) กระบวนการ

3. ด้านคุณลักษณะที่ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับคุณภาพ
ดา้ นคณุ ลักษณะ ดขี น้ึ ไป
พึงประสงค์ (A) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ ท่พี ึงประสงค์

ชื่อ ............................................................................................ ช้นั ป. 3 เลขท่ี ..............................

ใบงานที่ 4 เรือ่ ง หลกั และค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของจานวนนับไมเ่ กนิ 100,000

บอกคา่ ของเลขโดดในแต่ละหลกั ของจานวนผู้เขา้ วง่ิ มาราธอนการกุศล พร้อมทั้งเขียนแสดงจานวนในรูป
กระจายจานวนผเู้ ขา้ วง่ิ มาราธอนการกศุ ล 93,968 คน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….………………………....................................................................................... ..........................
..............................................................................................................................................................................
.....................................................................................…………….………………………..............................................
.................................................................................. ...............................……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………….
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.......................…………….………………………............................................................................................................
...................................................……………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………….………………………...............................................................
................................................................................................................................................ ..............................
........................................................................................................ ...............................…………….…………………
……...............................................................................................................................................................………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………….……………………….........................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 5

กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000

เรื่อง การเปรียบเทยี บจานวน เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 สอนวันท่ี 24 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ชี้วดั : ค 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดับ จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000 และ 0

จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ ัวชี้วดั

1.บอกวธิ ีเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนทีม่ จี านวนหลักเท่ากนั และเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนที่มี

จานวนหลกั ไม่เทา่ กัน (K)

2. เปรยี บเทยี บจานวนสองจานวนทม่ี จี านวน หลกั เท่ากันและเปรียบเทยี บจานวนสองจานวน ทีม่ ี

จานวนหลกั ไม่เท่ากัน (P)

3.นักเรยี นมคี วามม่งุ ในการทางานและสามารถนาความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A)

สาระสาคญั

การเปรียบเทยี บจานวนสองจานวน จะใชค้ าวา่ เทา่ กับ มากกวา่ นอ้ ยกวา่ ซง่ึ แทนด้วยเครื่องหมาย => <

ตามลาดับ โดยพจิ ารณาดังนี้ ถา้ จานวนหลักไมเ่ ท่ากนั จานวนท่มี ี จานวนหลักมากกว่าจะมากกว่า ถ้าจานวน

หลักเทา่ กันจานวนที่ค่าของเลขโดดในหลักที่อยู่ซ้ายสดุ มากกว่า จะมากกว่า แตถ่ า้ เลขโดดในหลักซา้ ยสดุ มีค่า

เท่ากัน ให้พจิ ารณาค่าของเลขโดด ในหลักถัดไปทางขวาทีละหลกั

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

การเปรียบเทยี บจานวน

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1. ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2 .การเชือ่ มโยง

3. การแกป้ ญั หา

4. การให้เหตุผล

3.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี ินัย

2. ใฝเ่ รียนรู้

3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง การเปรยี บเทียบจานวน

กิจกรรมการจดั การเรียนรู้

1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกบั การ ไปชมกีฬาในสนามกฬี าขนาดใหญ่ นารปู
ตวั อย่างต๋ัวเขา้ ชมกฬี าท่ีบอกเลขท่ีนง่ั

โซน A มีความจุ 8,505
ทนี่ ่งั โซน B มคี วามจุ 3,600 ทนี่ ่ัง
โซน C มีความจุ 12,245 ท่นี ่ัง

2.ครอู ธิบายการเปรียบเทียบจานวนสองจานวนท่มี จี านวนหลักไมเ่ ท่ากัน โดยยกตัวอย่าง
จานวน ท่นี ั่งของโซน A กบั โซน C เปรยี บเทียบ 8,505 กบั 12,245 ครอู าจใชก้ ารถาม-ตอบ ดังน้ี

− 8,505 กบั 12,245 มจี านวนหลักเทา่ กันหรือไม่ (ไม่เท่ากัน)
− 8,505 เปน็ จานวนกีห่ ลัก (8,505 เป็นจานวนส่หี ลกั )
เลขโดดท่ีอยซู่ า้ ยสุดคือจานวนใดและ มีคา่ เท่าไร (8 มีค่า8,000)
− 12,245 เป็นจานวนกี่หลัก (12,245เปน็ จานวนห้าหลัก)
เลขโดดทอ่ี ยู่ซ้ายสดุ คือจานวนใด และมีค่าเท่าไร(1มีค่า 10,000)
− 8,505 มากกวา่ หรือ น้อยกว่า 12,245(8,505 น้อยกวา่ 12,245)
3. ครเู ขียนบนกระดาน โดยใชเ้ ครื่องหมาย < ได้ 8,505 <12,245หรอื บอกการ
เปรยี บเทียบได้อีกแบบคือ 12,245 มากกวา่ 8,505 และเขียนโดยใช้เคร่ืองหมาย > ได้ 12,245 >
8,505และอธบิ ายวา่ 8,505 เปน็ จานวนส่หี ลัก โดยมีเลขโดด 8 อยใู่ นหลักพัน มีค่า 8,000 ส่วน 12,245
เป็นจานวนหา้ หลัก โดยมเี ลขโดด1 อยใู่ นหลักหมืน่ มีค่า 10,000 หรือเทา่ กบั 10 พัน ดงั น้นั 8,505 จงึ
น้อยกวา่ 12,245
4.ครู ให้นักเรยี นช่วยกันเปรยี บเทยี บจานวนที่นง่ั ของโซนB กบั โซน C ซ่งึ จะได้ 3,600 นอ้ ย
กว่า 12,245 (3,600 <12,245) หรอื 12,245 มากกว่า 3,600 กับ 12,245 > 3,600)
5.ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตว่า การเปรยี บเทียบจานวนสองจานวนที่มจี านวนหลัก ไม่เทา่ กนั จะ
พิจารณาอย่างไร

(การเปรียบเทียบจานวนสองจานวนท่มี ีจานวนหลกั ไม่เท่ากันจานวนท่ีมีจานวน หลักมากกวา่ จะมากกวา่ )

สอื่ การเรยี นรู้

1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์

2.ใบงานที่ 5 เรอื่ ง การเปรยี บเทียบจานวน

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ าร วิธวี ดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ

เรียนรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์

การประเมิน

2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้านทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ

กระบวนการ (P) กระบวนการ ดา้ นทักษะกระบวนการ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป

3. ด้านคณุ ลกั ษณะที่ สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั
พึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะ คุณภาพดีขน้ึ ไป
ท่ีพงึ ประสงค์

ชื่อ ................................................................................................................. ชน้ั ป . 3 เลขท่ี ..........................

ใบงานท่ี 5 เร่อื ง การเปรียบเทยี บจานวน 12,975

เปรียบเทียบจานวน โดยใชเ้ คร่อื งหมาย = > < 1,439
11,439
1) 4,362 45,902
76,439
2) 36,902

3) 6,902

4) 54,902

5) 7,395

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000

เรอื่ ง การเปรียบเทียบจานวน เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวันท่ี 25 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทยี บและเรยี งลาดบั จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0

จดุ ประสงค์การเรียนร้สู ตู่ วั ชี้วดั

1.บอกวิธีเปรียบเทียบจานวนสองจานวนทีม่ ีจานวนหลกั เท่ากันและเปรียบเทียบจานวนสองจานวนที่มีจานวน

หลกั ไมเ่ ท่ากนั (K)

2. เปรยี บเทียบจานวนสองจานวนท่มี จี านวน หลกั เทา่ กนั และเปรียบเทยี บจานวนสองจานวน ที่มจี านวนหลัก

ไม่เทา่ กนั (P)

3.นกั เรยี นมคี วามมงุ่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปต่อยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคญั

การเปรยี บเทยี บจานวนสองจานวน จะใช้คาว่าเทา่ กับ มากกว่านอ้ ยกวา่ ซ่ึงแทนดว้ ยเคร่ืองหมาย =>

< ตามลาดบั โดยพิจารณาดังน้ี ถา้ จานวนหลกั ไมเ่ ท่ากันจานวนที่มี จานวนหลักมากกว่าจะมากกวา่ ถ้า

จานวนหลักเท่ากันจานวนที่ค่าของเลขโดดในหลกั ที่อย่ซู า้ ยสุดมากกว่า จะมากกว่า แตถ่ ้าเลขโดดในหลักซา้ ย

สดุ มีคา่ เท่ากัน ให้พจิ ารณาคา่ ของเลขโดด ในหลักถัดไปทางขวาทีละหลกั

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

การเปรียบเทียบจานวน

2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

1.ความสามารถในการสือ่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอ่ื มโยง

3. การแก้ปญั หา

4. การใหเ้ หตุผล

3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวินยั

2. ใฝเ่ รียนรู้

3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

ชน้ิ งานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 6 เร่ือง การเปรยี บเทียบจานวน

กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครยู กตวั อยา่ งการเปรียบเทียบจานวนสองจานวน คือ 100,000 กบั 98,789 100,000
มากกว่า 98,789 (100,000 > 98,789) หรือ 98,789 นอ้ ยกวา่ 100,000 (98,789 < 100,000)
2.ครูอธิบายว่า 100,000 เป็นจานวน หกหลัก หลกั ทีอ่ ยู่ซา้ ยสุดคือหลักแสน 1 ในหลกั แสน มีค่า
100,000 หรือ 10หมน่ื 98,789 เป็นจานวนหา้ หลัก หลกั ที่อยูซ่ ้ายสุดคือหลกั หม่นื 9 ในหลักหมืน่

มีค่า 90,000
ดังนั้น 100,000 > 98,789 หรือ 98,789 < 100,000
3.ครสู นทนากับนักเรยี นเก่ยี วกับกีฬาซีเกมส์ จานวนเหรยี ญรางวลั รวมของการแข่งขนั กีฬาซเี กมส์

จนถงึ ครัง้ ท่ี 28 พ.ศ. 2558 ของ 5 ประเทศ ดงั นี้ดังนี้

4.ครูถามนักเรียนว่าประเทศไทยและประเทศอนิ โดนีเซียประเทศใด ได้จานวนเหรียญรางวัลรวม
มากกวา่ นน้ั คือต้องเปรียบเทียบ 5,558 และ 4,852 ดังน้ี

− 5,558 และ 4,852 มีจานวนหลักเท่ากันหรือไม่ (เท่ากัน)
− 5,558 และ 4,852 เป็นจานวนกีห่ ลัก (5,558 และ 4,852 เปน็ จานวนส่ีหลัก)
− 5,558 เลขโดดทอี่ ยู่ซ้ายสุดคือจานวนใดและมีคา่ เท่าไร (5 มคี ่า 5,000)
− 4,852 เลขโดดท่ีอยซู่ า้ ยสดุ คอื จานวนใดและมีค่าเท่าไร (4 มคี า่ 4,000)
− 5,558 มากกวา่ หรือ นอ้ ยกว่า 4,852 (5,558 มากกวา่ 4,852)
5.ครอู ธบิ ายว่า 5,558 เปน็ จานวนสี่หลกั หลกั ทางซ้ายสุดคอื หลกั พัน 5 ในหลักพัน มีค่า 5,000
และ 4,852 เปน็ จานวนส่ีหลกั หลกั ทางซา้ ยสดุ คือหลกั พัน 4 ในหลักพนั มีค่า 4,000 จะได้ 5,558 > 4,852
ดงั น้ัน จานวนเหรยี ญรวมของประเทศไทยมมี ากกวา่ จานวนเหรยี ญรวมของประเทศอนิ โดนเี ซีย
6.ครตู ัวอย่างเพิม่ เติม ครูยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนเปรียบเทยี บจานวน สองจานวนที่มจี านวนหลักเท่ากนั
และค่าของเลขโดด ท่อี ยู่ซา้ ยสุดมีคา่ เท่ากนั เช่น 43,230 กับ 43,195 ดงั น้ี
− 43,230 และ 43,195 มจี านวนหลกั เทา่ กันหรือไม(่ เทา่ กัน)
− 43,230 และ 43,195 เป็นจานวนก่ีหลกั (43,230 และ 43,195 เป็นจานวนหา้ หลัก)

− 43,230 และ 43,195 เลขโดดท่อี ยู่หลักหม่ืนคือจานวนใดและมีค่าเท่าไร(4 มีค่า 40,000)
− 43,230 และ43,195 เลขโดดที่อยหู่ ลักพนั คือจานวนใดและมีค่าเทา่ ไร (3 มีคา่ 3,000)
จากน้นั ครเู ขียนเลขโดดทอ่ี ย่หู ลกั เดียวกันให้ตรงกันเพ่ือง่าย ในการนามาเปรยี บเทยี บกนั เมือ่ ค่าของ
เลขโดดของหลักที่อยู่ซ้ายสุดทีม่ ีคา่ เทา่ กนั ให้พิจารณาคา่ ของเลขโดดในหลกั ถัดไปทางขวาทีละหลัก ดังน้ี

43,230 และ 43,195 มี 4 ในหลกั หมน่ื มคี ่าเท่ากัน 40,000 เท่ากัน และ 3 ในหลกั พนั มีคา่
3,000 เท่ากนั 43,230 มี 2 ในหลักร้อยมคี ่า 200 และ 43,195 มี 1 ในหลกั รอ้ ย มีค่า 100

ดังนนั้ 43,230 > 43,195
6.ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ การเปรียบเทียบจานวนสองจานวน ทม่ี จี านวนหลักเทา่ กันจะพิจารณา
อย่างไร (การเปรยี บเทียบจานวน สองจานวนทีม่ ีจานวนหลกั เทา่ กันจานวนท่คี า่ ของเลขโดดในหลัก ที่อยู่
ซา้ ยสุดมากกว่าจะมากกว่า)
7. จากนน้ั ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น เปน็ รายบุคคลโดยให้ทาใบงานที่ 6
ส่ือการเรยี นรู้

1.หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์

2.ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง การเปรยี บเทยี บจานวน

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การ วิธีวัด เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน
เรียนรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ คณุ ภาพดีข้ึนไป

3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
ท่พี ึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ดา้ นคุณลกั ษณะ คุณภาพดีขนึ้ ไป
ทีพ่ ึงประสงค์

ชื่อ ......................................................................................................................... ช้นั ป. 3 เลขท่ี .................................

ใบงานท่ี 6 เรือ่ ง การเปรียบเทยี บจานวน 12,975

เปรียบเทยี บจานวน โดยใช้เคร่ืองหมาย = > <

1) 12,362

2) 25,902 1,439

3) 6,902 1,439

4) 5,902 5,902

5) 17,395 17,439

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000

เรื่อง การเรยี งลาดบั จานวน เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวนั ที่ 26 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชีว้ ัด : ค 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทียบและเรียงลาดบั จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0

จุดประสงค์การเรยี นร้สู ่ตู ัวชี้วดั

1.บอกวิธีเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมากหรือจากมากไปน้อย (K)

2.เรียงลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมากหรือจากมากไปนอ้ ย (P)

3.นกั เรียนมีความมงุ่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ทไี่ ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรียนเร่ืองต่อไป (A)

สาระสาคัญ

การเรียงลาดบั จานวนอาจทาได้โดยหาจานวน ทม่ี ากท่ีสุดและนอ้ ยท่สี ุดก่อน จากนัน้ นาจานวนมา

เรียงลาดับจากมากไปน้อย หรอื จากน้อยไปมาก

สาระการเรยี นรู้

1.ความรู้

การเรยี งลาดับจานวน

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอ่ื มโยง

3. การแกป้ ญั หา

4. การให้เหตผุ ล

3.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มีวินัย

2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

ช้นิ งานหรอื ภาระงาน

ใบงานท่ี 7 เร่ือง การเปรียบเทยี บจานวน

กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
1.ครูยกตวั อย่างสถานการณก์ ารเลอื กซ้ือรถจักรยานของขนุ จากรา้ นค้าทต่ี ิดราคาไวต้ ่างกัน 3 ร้าน

ดังน้ี รา้ น A ตดิ ราคาไว้ 5,990 บาท รา้ น B ตดิ ราคาไว้ 6,090 บาท และ รา้ น C ตดิ ราคาไว้ 5,890 บาท
ดังนี้

2. ครอู ธิบาย 5,990 6,090 5,890 เปน็ จานวนสห่ี ลกั พิจารณาคขู่ องเลขโดดในหลักพัน ดังนี้
5, 9 9 0 5 ในหลกั พนั มีค่า 5,000
6, 0 9 0 6 ในหลกั พนั มคี ่า 6,000
5, 8 9 0 5 ในหลักพนั มีค่า 5,000

จะได้ 6,090 มากทีส่ ุด 5,990
5,890 เปน็ จานวนสห่ี ลกั เลขโดดในหลักพนั มีค่า 5,000 เท่ากัน จงึ พจิ ารณาเลขโดดในหลักรอ้ ย
5,990 9 ในหลักร้อย มีค่า 900 5,890
8 ในหลกั ร้อย มคี ่า 800 จะได้ 5,990 มากกว่า 5,890
ดงั นัน้ เรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไปมาก ดังน้ี 5,890 5,990 6,090

3.ครตู ิดบตั รตัวเลขบนกระดาษ 4 บตั ร แล้วใหน้ ักเรียนเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมากจาก
บตั รตวั เลข16,990 6,890 42,670 46,782

4.ครูใหน้ ักเรียนสังเกต จานวนทั้งส่ีกอ่ นวา่ แต่ละจานวนเป็นจานวนก่หี ลักแลว้ ตอบคาถามว่า บอกได้

หรอื ไม่ จานวนใดมากทีส่ ุด และนอ้ ยท่สี ดุ จากน้ันพจิ ารณา 16,990 42,670 และ 46,782 ครถู ามนักเรียนว่า
สามจานวนนมี้ จี านวนหลักเท่ากันเลขโดดที่อยูซ่ ้ายมือสุดของแต่ละจานวนมคี ่าเทา่ ไร
นักเรียนควรตอบได้วา่ 16,990 มี 1 ในหลกั หมน่ื มคี ่า 10,000

42,670 มี 4 ในหลกั หม่ืน มคี า่ 40,000
และ 46,782 มี 4 ในหลักหมน่ื มคี า่ 40,000
จะได้ 16,990 เป็นจานวนท่นี อ้ ยทสี่ ุด จากน้ันครูพจิ ารณาโดยใชบ้ ัตรตัวเลขตดิ บนกระดาน ดงั นี้

จากนัน้ พจิ ารณา 42,670 และ 46,782ครูถาม นักเรียนวา่ จานวนใดมากกกว่า คดิ ได้อย่างไรนักเรยี นควรตอบ
ไดวา่ 46,782 มากกวา่ 42,670 เพราะ เลขโดดในหลักพันของ 46,782 มีคา่ มากกว่า 42,670

ดังนัน้ เรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไปมาก ไดด้ ังนี้6,890 16,990 42,670 46,782
5.ครถู ามนกั เรยี นว่าถ้าตอ้ งการเรียงลาดับจานวนสีจ่ านวนน้ีจากมากไปน้อยทาได้อย่างไร โดยสมุ่
ตวั แทนนกั เรยี นออกมาติดบัตรตวั เลขบนกระดาน จะได้ 46,782 42,670 16,990 6,890
6.ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุป การเรียงลาดบั จานวนอาจทาไดโ้ ดย หาจานวนทีม่ ากทีส่ ดุ และน้อยท่ีสุด
กอ่ น จากน้ันนาจานวนมาเรียงลาดับจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก จากน้นั ใหน้ ักเรียนทาใบงานท่ี 7
ส่อื การเรียนรู้

1.หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์

2.ใบงานที่ 7 เรอื่ ง การเรยี งลาดับจานวน

การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์การ วิธวี ัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน

เรียนรู้ ใบงาน 60% ข้ึนไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดับ
ด้านทักษะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
ดา้ นคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน ท่พี ึงประสงค์
ท่ีพงึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์

ชื่อ ................................................................................................................................ ช้นั ป. 3 เลขที่ ...............................

ใบงานท่ี 7 เรือ่ ง การเรยี งลาดับจานวน 26,248 26,480
1.เรียงลาดบั จานวนจากมากไปนอ้ ย

1) 5,264 5,217 5,239

2) 68,795 68,792 68,453 68,476 68,654

3) 27,650 40,983 56,354 61,085 82,314

2.เรียงลาดบั จานวนจากน้อยไปมาก 64,832 51,249

1) 26,784 36,495 17,396

2) 46,825 43,982 41,674 42,058 45,981

3) 53,069 53,064 53,068 53,062 53,067

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง จานวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
เรื่อง การเรยี งลาดบั จานวน

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 สอนวนั ท่ี 27 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนนิ การของจานวน

ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบัตขิ องการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวชีว้ ัด : ค 1.1 ป.3/2 เปรยี บเทียบและเรียงลาดับ จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
จุดประสงค์การเรยี นร้สู ่ตู ัวชี้วดั

1.บอกวิธีเรียงลาดับจานวนจากน้อยไปมากหรือจากมากไปน้อย (K)

2.เรียงลาดบั จานวนจากนอ้ ยไปมากหรือจากมากไปนอ้ ย (P)
3.นกั เรียนมีความมงุ่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ที่ได้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A)
สาระสาคัญ

การเรียงลาดบั จานวนอาจทาได้โดยหาจานวน ท่ีมากที่สดุ และนอ้ ยทส่ี ุดก่อน จากนนั้ นาจานวนมา

เรียงลาดับจากมากไปน้อย หรอื จากน้อยไปมาก
สาระการเรยี นรู้

1.ความรู้

การเรยี งลาดับจานวน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอ่ื มโยง
3. การแกป้ ญั หา
4. การให้เหตผุ ล

3.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน

ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 8 เร่ือง การเปรียบเทยี บจานวน

กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครูติดบัตรตวั เลขบนกระดาน 5 บัตร แล้วใหน้ กั เรียนเรยี งลาดับจานวน จากมากไปน้อยจากบตั ร

ตวั เลข 80,078 67,355 6,819 67,957 100,000 โดยครวู างตาแหน่งการ เรียงลาดับจากมากไปน้อยบน
กระดาน ดงั น้ี

ให้นกั เรยี นสังเกตจานวนทง้ั หา้ จานวนก่อนว่าแต่ละจานวนเปน็ จานวนกีห่ ลักแลว้ ถามนักเรียนวา่ บอกได้
หรอื ไมว่ า่ จานวนใดมากท่ีสุดและจานวนใดนอ้ ยทสี ุดนักเรยี นควรตอบไดว้ ่า 100,000 หกหลัก 100,000 เป็น
จานวนท่มี ากท่สี ดุ 6,819 เป็นจานวนสีห่ ลัก
ดงั น้นั 6,819 เป็นจานวนที่น้อยที่สุดครูใหน้ ักเรียนนาบตั รตวั เลข 100,000 และ6,819 มาติดให้ตรงตาแหน่ง
จะได้

2.จากนัน้ พิจารณา 80,078 67,355 และ 67,957 ครูถามนักเรียนวา่ สามจานวนนมี้ ีจานวนหลัก เท่ากัน
เลขโดดทีอ่ ย่ซู ้ายสุดของแต่ละจานวนมีคา่ เทา่ ไร นกั เรียนควรตอบไดว้ า่ 80,078 มี 8 ในหลกั หมื่น มีค่า 80,000
67,355 มี 6 ในหลกั หมื่น มคี า่ 60,000 และ67,957 มี 6 ในหลกั หมน่ื มคี า่ 60,000 จะได้ 80,078
เป็นจานวนทม่ี ากที่สุด ซึ่งในขั้นตอนนี้ ครูให้นักเรียนนาบตั ร 80,078 มาเติมในตาแหนง่ ดงั นี้

3.จากนน้ั พจิ ารณา 67,355 และ 67,957 ครูถามนักเรียนว่าจานวนใดมากกกว่าคดิ ได้อย่างไร
นกั เรยี นควรตอบได้ว่า67,957 มากกวา่ 67,355 เพราะ เลขโดดในหลกั รอ้ ยของ
67,957 มีค่ามากกวา่ 67,355 ครูใหน้ ักเรยี นนาบตั ร

67,355 และ 67,957 มาเตมิ ในตาแหน่ง ดงั น้ี

ดังนนั้ เรยี งลาดบั จานวนจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 100,000 80,078 67,957 67,355 6,819
4.ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน เป็นรายบคุ คลโดยใหน้ ักเรยี นทาใบงานท่ี 8 เรยี งลาดบั จานวนจากน้อย
ไปมาก
สอื่ การเรียนรู้

1.หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์
2.ใบงานที่ 8 เร่ือง การเรยี งลาดับจานวน

การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การ วธิ ีวดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน

เรยี นรู้

1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์

การประเมนิ

2. ด้านทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ
พฤติกรรมด้านทักษะ คุณภาพดีข้นึ ไป

กระบวนการ

3. ดา้ น สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั
คุณลักษณะทีพ่ ึง คณุ ลักษณะท่พี ึง
ประสงค์ (A) ประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป

คุณลกั ษณะ

ทพ่ี ึงประสงค์

ใบงานที่ 8 เรือ่ ง การเรียงลาดบั จานวน 26,480

1.เรยี งลาดับจานวนจากมากไปนอ้ ย

1) 5,264 5,217 5,239 26,248

2) 78,795 78,792 68,453 68,476 68,654

3) 27,650 40,983 56,354 61,085 82,314

2.เรยี งลาดบั จานวนจากน้อยไปมาก 64,832 51,249

1) 26,784 36,495 17,396

2) 46,825 43,982 41,674 42,058 45,981

3) 53,069 53,064 53,068 53,062 53,067

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 9

กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง จานวนนบั ไมเ่ กิน 100,000

เรื่อง แบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มขึน้ หรอื ลดลงทลี ะเท่า ๆ กัน เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 สอนวนั ท่ี 30 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ัด

มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์ แบบรูปความสัมพันธ์ฟังกช์ ัน ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้

ตัวช้วี ัด : ค 1.2 ป.3/1 บอกจานวนที่หายไปในแบบรูป ของจานวนทีเ่ พิ่มขึน้ หรือลดลง ทีละเท่า ๆ กนั

จุดประสงคก์ ารเรยี นรสู้ ู่ตวั ชี้วัด

1.บอกจานวนทหี่ ายไปในแบบรปู ของจานวนท่เี พิม่ ข้นึ หรอื ลดลงทีละเท่า ๆ กนั (K)

2.เขยี นบอกจานวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจานวนท่ีเพ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆกัน (P)

3.นกั เรียนมคี วามม่งุ ในการทางานและสามารถนาความรู้ที่ไดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคัญ

แบบรปู ของจานวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง ทีละเท่าๆ กนั เปน็ ชุดของจานวนท่ีมี ความสมั พนั ธ์กันอยา่ ง

ตอ่ เนอ่ื งในลกั ษณะ ทีเ่ พ่ิมขึน้ หรอื ลดลงทีละเทา่ ๆกัน

สาระการเรยี นรู้

1.ความรู้

แบบรูปของจานวนทีเ่ พ่ิมข้ึนหรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กัน

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชื่อมโยง

3. การแก้ปญั หา

4. การให้เหตุผล

3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี นิ ัย

2. ใฝ่เรยี นรู้

3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

ชิ้นงานหรือภาระงาน

ใบงานท่ี 9 เรอื่ ง แบบรูปของจานวนท่เี พ่มิ ขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน

กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้
1.ครูตดิ บัตรภาพแบบรูป จากนนั้ ถามนกั เรยี นว่า
− จากรปู 1 ถงึ รปู 4 มีลกั ษณะแตกตา่ งกนั อย่างไร (มีจานวนรูปส่ีเหลย่ี มเพิม่ ข้ึน)
− รูป 5 จะมลี ักษณะอย่างไร (มจี านวนรูปสี่เหล่ียม เพิม่ ข้นึ )

2. ครูให้นกั เรยี นพิจารณารูป1 แลว้ ใชก้ ารถาม-ตอบ เพื่อให้นกั เรียนเข้าใจเก่ียวกบั แบบรูปของ
จานวนท่เี พ่ิมขน้ึ ทลี ะเท่า ๆ กัน ดังนี้

− รูป 1 มีรปู สี่เหล่ยี ม กร่ี ูป (6รปู )
− รูป 2 มรี ูปส่เี หลย่ี ม กร่ี ูป (9รูป)
− รูป 3 มรี ูปสเ่ี หลี่ยม กี่รูป (12 รปู )
− รปู 4 มีรูปสี่เหลย่ี ม กร่ี ูป (15 รปู )
จากน้ันเขยี นจานวนรปู สีเ่ หล่ียมบนกระดาน 6 9 12 15 … แล้วใหน้ ักเรียนสังเกต
ว่า จานวนทค่ี รเู ขยี นเพ่ิมขึ้นหรือลดลง (นักเรยี นตอบ เพิ่มข้ึนทีละ 3) คิดได้อยา่ งไร (นาจานวนท่ีอย่ตู ดิ กัน
ลบกนั )จานวนถดั ไปคือ จานวนใด(18) คิดไดอ้ ย่างไร (15เพ่ิมขึ้น 3 เป็น18) รูป 5 มรี ูปส่ีเหลย่ี มกี่รปู (18รูป)

3. ครูให้นักเรียนวาดรปู 5 ลงในสมดุ ครูอธบิ ายว่า ตัวอยา่ งนเ้ี ปน็ ตวั อยา่ งของ แบบรูปของ
จานวนทเ่ี พมิ่ ขึ้นทลี ะเทา่ ๆกัน โดยเพ่ิมขนึ้ ทีละ 3 ซ่ึงสามารถหาจานวนถัดไปได้จาก15 +3 = 18 นกั เรยี นอาจ
ใช้ เวลาในการหาคาตอบครูอาจแนะโดยใช้การคณู เพราะการคูณเปน็ การบวกซา้ ๆ

4.ครูติดบตั รตัวเลขทเี่ ป็นแบบรูปบนกระดาน ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 30 คือ
162 166 170 174 178

แล้วถามนักเรียนวา่ จานวนถดั ไปคือจานวนใดครูให้นกั เรียนสงั เกตว่า162 166 170 174 178 (นา
จานวนท่อี ยู่ติดกนั ลบกนั ) จานวนถดั ไปคือเท่าไร (182) คิดได้อยา่ งไร (178 เพิ่มข้นึ 4 เป็น 182) ครู
อธิบายว่าตัวอย่างนี้เป็นตวั อย่างของแบบรปู ของจานวนที่เพิ่มขึ้นทลี ะเท่า ๆ กนั

5.จากน้นั นกั เรียนทาใบงานที่ 9
สื่อการเรยี นรู้

1.หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์
2. ใบงานที่ 9 เรอื่ ง แบบรปู ของจานวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทลี ะเท่า ๆ กัน

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การ วิธวี ดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน

เรียนรู้ ใบงาน 60% ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั
ด้านทกั ษะ คณุ ภาพดีข้ึนไป
2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
ด้านคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้นึ ไป
3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น ทพ่ี งึ ประสงค์
ที่พึงประสงค์ (A) คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์

เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เน้อื หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง

ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกับ

สถานการณ์

ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ

เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ

เล็กนอ้ ย บางสว่ น

เกณฑ์ประเมนิ คุณภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2

7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดับ 1

ช่อื ............................................................................................................. ชัน้ ป.3 เลขท่ี ....................

ใบงานที่ 9 เร่อื ง แบบรูปของจานวนทเ่ี พ่มิ ข้ึนหรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กัน
แบบรูปต่อไปน้ีเปน็ แบบรูปของจานวนทเ่ี พม่ิ ขึ้นทลี ะเท่าไร และจานวนที่หายไปในแบบรปู

คอื จานวนใด

1) 12, 15, 18, ,
2) 28, 31, 34, ,
3) 34, 37, , 41,
4) 45, , 51, , 57
5) 52, 55, 58, ,
6) 61, 64, , ,73
7) 80, 83, 86, ,
8) 94, 97, 100, ,
9) 105, 108, , 114,
10) 120, 123, 126, ,

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง จานวนนับไมเ่ กิน 100,000

เร่อื ง แบบรูปของจานวนท่ีเพิ่มขน้ึ หรือลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 สอนวันท่ี 31 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์ แบบรูปความสัมพันธฟ์ ังกช์ นั ลาดับและอนุกรม และนาไปใช้

ตัวชี้วัด : ค 1.2 ป.3/1 บอกจานวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจานวนทเี่ พิ่มขน้ึ หรือลดลง ทีละเท่า ๆ กัน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรูส้ ่ตู ัวช้ีวดั

1.บอกจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนท่ีเพิม่ ขึ้นหรือลดลงทลี ะเท่า ๆ กนั (K)

2.เขยี นบอกจานวนที่หายไปในแบบรูปของจานวนทเ่ี พิ่มข้นึ หรอื ลดลงทีละเทา่ ๆกัน (P)

3.นกั เรียนมคี วามมุ่งในการทางานและสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปต่อยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคญั

แบบรูปของจานวนทีเ่ พิ่มขน้ึ หรือลดลง ทลี ะเท่าๆ กนั เป็นชุดของจานวนที่มี ความสัมพนั ธก์ ันอย่าง

ต่อเนอื่ งในลกั ษณะ ท่เี พิ่มขนึ้ หรือลดลงทลี ะเทา่ ๆกนั

สาระการเรยี นรู้

1.ความรู้

แบบรูปของจานวนทีเ่ พิ่มขึ้นหรอื ลดลงทลี ะเท่า ๆ กัน

2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชอื่ มโยง

3. การแก้ปญั หา

4. การให้เหตุผล

3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินยั

2. ใฝเ่ รียนรู้

3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

ช้ินงานหรือภาระงาน

ใบงานที่ 10 เรื่อง แบบรูปของจานวนทเี่ พ่ิมขึน้ หรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน

กิจกรรมการจดั การเรียนรู้

1.ครูใชค้ าถามดังน้ี

− แบบรปู น้มี ีความสัมพนั ธแ์ บบเพิม่ ขึน้ หรอื ลดลงและเพ่ิมขนึ้ หรอื ลดลงทลี ะเทา่ ไร

− นกั เรยี นหาจานวนทหี่ ายไปได้อยา่ งไรและตรวจสอบความถูกต้องอย่างไร
2.ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั หาจานวน ทีห่ ายไปในแบบรปู ในกรอบทา้ ยหนังสือเรียน หน้า 31 ซ่งึ ต้องหา
จานวนทหี่ ายไปสองจานวนครแู ละนกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
3.หาจานวนที่หายไปในแบบรูป 42 51 ….. 69 78 87 96 ตามหนังสอื เรียนหน้า 32โดยให้
นักเรียนชว่ ยกันคิดวา่ แบบรปู นีเ้ พิม่ ขนึ้ หรือว่าลดลงเพิ่มข้นึ ทลี ะหรือลดลงทลี ะเท่าไรจานวนท่ีหายไปในแบบรูป
คือจานวน ใด (นักเรยี นตอบไดว้ า่ แบบรูปนี้เป็นแบบรูปที่เพิ่มขึ้น ทีละ9) จานวนทห่ี ายไป คอื 60
ครูชใี้ หเ้ หน็ วา่ จานวนถัดไป หาไดจ้ ากการบวกด้วย 9 (42 + 9 = 51)และตรวจสอบ ความถูกต้อง
โดยใชจ้ านวนท่อี ยตู่ ดิ กนั ค่อู น่ื ๆ เชน่ 69 และ 78 (69 + 9 = 78) 78 และ 87 (78 + 9 = 87)
จากนน้ั หาจานวนท่ีหายไปในแบบรูป และ ให้คิดว่าในแต่ละข้อเป็นแบบรปู ทเ่ี พิ่มข้ึนหรือลดลงทีละเทา่ ไร
4.ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ แล้วให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทากิจกรรมไม้ขีดเสริมปญั ญา

4 7 10 13 เป็นแบบรปู ทเ่ี พิ่มขนึ้ ทีละ 3

21 16 11 6 เปน็ แบบรูปทลี่ ดลงทีละ 5

9 7 5 3 เปน็ แบบรูปทลี่ ดลงทีละ 2

5. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียน เป็นรายบุคคล จากนนั้ ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น เปน็
รายบุคคลโดยครูใบงานท่ี 6 จากนนั้ ร่วมกนั สรุป ส่งิ ที่ได้เรียนรู้ วา่ แบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึน้ หรือลดลง ทลี ะ
เท่าๆ กัน เปน็ ชดุ ของจานวนทีม่ ี ความสมั พันธก์ ันอยา่ งต่อเน่ืองในลักษณะ ทเ่ี พ่มิ ขน้ึ หรือลดลงทลี ะเทา่ ๆกนั

2. ใบงานท่ี 10 เรือ่ ง แบบรูปของจานวนท่เี พม่ิ ข้ึนหรือลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั
ส่ือการเรียนรู้

1.หนังสือเรียนคณิตศาสตร์
2. ใบงานที่ 10 เรอื่ ง แบบรูปของจานวนทเ่ี พม่ิ ข้นึ หรือลดลงทีละเทา่ ๆ กนั

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การ วธิ ีวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน

เรยี นรู้

1. ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์

การประเมิน

2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั

กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึน้ ไป

กระบวนการ

3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับ

ที่พึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้ึนไป

ทีพ่ งึ ประสงค์

เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เน้อื หา 4 3 21
2. รปู แบบ
เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบียบ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกตอ้ ง

ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถกู ต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

นา่ สนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกับ

สถานการณ์

ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ

เป็นระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบียบ

เล็กนอ้ ย บางสว่ น

เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2

7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดับ 1

ช่ือ.................................................................................................... ช้นั ป.3 เลขท่ี ..............................

ใบงานท่ี 10 เรื่อง แบบรูปของจานวนท่เี พมิ่ ขึ้นหรือลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั

1. จงเขยี นแบบรูปเพ่ิมทลี ะเทา่ ๆกนั มา 5 จานวน มา 3 ข้อ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.....................................................................................…………….………………………..............................................
.................................................................................. ...............................……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………….
..........................................................................................................................................................................

2. จงเขยี นแบบรูปลดลงละเท่าๆกัน มา 5 จานวน มา 3 ขอ้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………….……………………….................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.....................................................................................…………….………………………..............................................
................................................................................................ .................……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………….
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่อื ง จานวนนับไมเ่ กนิ 100,000

เรื่อง กิจกรรม สนามกีฬาน่ารู้ เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง

ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 สอนวันที่ 1 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2565

มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั

มาตรฐาน ค 1.2 เขา้ ใจและวิเคราะห์ แบบรูปความสัมพันธฟ์ ังกช์ นั ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้

ตัวช้ีวัด : ค 1.2 ป.3/1 บอกจานวนท่ีหายไปในแบบรูป ของจานวนท่เี พ่มิ ข้นึ หรือลดลง ทีละเท่า ๆ กนั

จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ช้ีวัด

1.บอกจานวนท่ีหายไปในแบบรปู ของจานวนท่ีเพมิ่ ขึ้นหรอื ลดลงทลี ะเท่า ๆ กนั (K)

2.เขยี นบอกจานวนทห่ี ายไปในแบบรูปของจานวนทีเ่ พ่ิมขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆกนั (P)

3.นักเรียนมีความมงุ่ ในการทางานและสามารถนาความรู้ทีไ่ ด้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A)

สาระสาคญั

แบบรูปของจานวนทเี่ พ่ิมขนึ้ หรอื ลดลง ทีละเท่าๆ กัน เป็นชุดของจานวนท่ีมี ความสัมพันธก์ นั อย่าง

ตอ่ เนือ่ งในลกั ษณะ ท่เี พ่ิมข้ึนหรอื ลดลงทีละเท่าๆกนั

สาระการเรียนรู้

1.ความรู้

แบบรปู ของจานวนทีเ่ พ่ิมข้ึนหรอื ลดลงทลี ะเทา่ ๆ กนั

2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

1.ความสามารถในการสื่อสารความหมายทางคณิตศาสตร์

2.การเชื่อมโยง

3. การแกป้ ัญหา

3.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. มีวินยั

2. ใฝ่เรียนรู้

3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

วธิ จี ัดกจิ กรรม

1. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน แจกบตั รกจิ กรรมใหก้ ลุ่มละ 4 บัตร

2. นักเรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาข้อมลู ความจุของสนามกีฬา แล้วเติมขอ้ มลู ในบัตรกจิ กรรม

3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเรียงลาดบั ความจขุ องสนามกฬี าจากกมากไปน้อย หรอื จากกน้อยไปมาก

4. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ บอกชอื่ สนามกีฬาทีม่ ีความจมุ ากกว่า 80,000 คน

5.เมอื่ ทุกกลุ่มทาเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้วครูให้นกั เรียนพิจารณาวา่ สนามกีฬาใดเหมาะสมกับ การจดั การแข่งขัน
รายการต่อไปน้ี เพราะเหตุใด

− การจัดแขง่ ขนั ฟุตบอลกระชับมิตรทมี่ ีผเู้ ข้าชม 60,000 คน
− การจัดพธิ เี ปดิ กีฬาโอลมิ ปิกฤดูร้อนที่มผี ูเ้ ข้าชม 80,000 คน
− การจัดพิธีเปดิ ฟุตบอลรอบคัดเลือกโอลิมปกิ ที่มีผู้เข้าชม 45,800 คน หากกลุ่มใดมี
สนามกีฬาทเ่ี หมาะสมกับรายการดังกล่าวใหต้ ัวแทนกลมุ่ ยืนขน้ึ และบอกข้อมลู ของสนามกีฬาที่
เหมาะสมน้นั ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
สื่อการเรยี นรู้

1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

จุดประสงคก์ าร วธิ วี ัด เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน

เรียนรู้ กจิ กรรม สนามกีฬา 60% ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
น่ารู้ การประเมิน
1. ด้านความรู้ (K) การเขา้ รว่ มการทา แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
ดา้ นทักษะ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
กิจกรรม กระบวนการ
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพดีข้ึนไป
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ทพ่ี ึงประสงค์

3. ด้านคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน
ที่พงึ ประสงค์ (A) คุณลักษณะที่พึงประสงค์

เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝกึ หัด/ใบงาน

ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. 1.ความถกู ต้องของ
เนือ้ หา 4 3 21
2. รูปแบบ
เนอ้ื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ
3. ความเปน็ ระเบยี บ
ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง

ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นส่วนใหญ่

การนาเสนอ การนาเสนอถูกต้อง การนาเสนอ การนาเสนอไม่

นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์

เหมาะสมกับ

สถานการณ์

ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ

เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบียบ

เลก็ นอ้ ย บางส่วน

เกณฑ์ประเมินคุณภาพ

10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2

7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง ระดับ 1

ช่อื ....................................................................................................... ช้ัน ป.3 เลขที่ ..................

แบบทดสอบทา้ ยหน่วย เรื่อง จานวนนบั ไม่เกนิ 100,000

คะแนนเต็ม 30 คะแนน เวลา 60 นาที
..........................................................................................................................................................

ตวั ช้วี ัด

มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การเนินการของจานวน

ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ค 1.1 ป.3/1 อ่านและเขยี นตัวเลข ฮินดูอารบิก ตวั เลขไทยและ ตัวหนงั สอื แสดงจานวนนบั ไม่เกนิ

100,000 และ 0

ค 1.1 ป.3/2 เปรียบเทียบและเรียงลาดบั จานวนนบั ไม่เกิน 100,000 และ 0

ค 1.2 ป.3/1 บอกจานวนท่ีหายไปในแบบรูป ของจานวนที่เพมิ่ ขึ้นหรือลดลง ทลี ะเท่า ๆ กัน

..........................................................................................................................................................




Click to View FlipBook Version