Best-Pracetice-คนคิดฐานสอง-เรียนรู้ผ่านสื่อยุคใหม่

แบบนาเสนอ Best Pracetice
 ครู  ผู้บรหิ าร

ชอื่ ผลงาน คนคิดฐานสอง เรียนรู้ผ่านส่ือยคุ ใหม่ (Digital Learning)

เจ้าของผลงาน นางสาวจิตสภุ า บญุ ถาวร

โรงเรยี น บา้ นบากัน

สังกัด สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษากระบี่

โทรศพั ท์ 075-630-575 โทรสาร -

โทรศัพทม์ ือถือ 061-1740898 E-mail : [email protected]

ผลงานสอดคล้องกับคณุ ลกั ษณะโรงเรยี นสุจรติ
 ทักษะกระบวนการคดิ
 มวี ินยั
 ซอื่ สัตย์
 สจุ รติ
 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
 จิตสาธารณะ

คานา

เอกสารเล่มน้ีจัดทาข้ึน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายงานการใช้สื่อการสอนของโรงเรียนบ้านบากัน และ
เป็นเอกสารประกอบการคัดเลือกผลงานนวัตกรรมท่ีเป็นเลิศ ตามนโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ โดยมีรายละเอียดประกอบการพิจารณาตามรูปแบบการนา
วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ/ผลงานนวัตกรรม ได้แก่ ความสาคัญของผลงานนวัตกรรมที่นาเสนอ จุดประสงค์และ
เป้าหมาย กระบวนการผลิตผลงาน ผลการดาเนินการ/ผลสัมฤทธ์ิ/ประโยชน์ที่ได้รับ ปัจจัยความสาเร็จ
บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned) การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลท่ีได้รับ เงื่อนไขความสาเร็จ
และเอกสารหลักฐาน/ภาคผนวก

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งวา่ เอกสารเล่มน้จี ะสามารถใช้ประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการในการ
คัดเลือกผลงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี และขอขอบพระคุณคณะกรรมการทุกท่านเป็นอยา่ งสงู มา ณ โอกาสนด้ี ้วย

ลงชือ่
(นางสาวจติ สภุ า บญุ ถาวร)
ครูโรงเรยี นบ้านบากนั

สารบัญ

เรือ่ ง หนา้
คานา ………………………………………………………………………………….…………………………………………… ก
สารบญั ………………………………………………………………………………….……………………………………..… ข
ชื่อผลงาน ……………………………………………………………………………………………………………………….. 1
ความสาคัญของผลงาน/นวตั กรรมถอดบทเรยี น ……………………………………..…………………………. 1
จุดประสงค์และเปา้ หมายของงาน/นวตั กรรมถอดบทเรยี น ………………………….……………………… 1
3
จุดประสงค์ของงาน/นวตั กรรมถอดบทเรยี น …………………………………………………….. 3
เป้าหมายของงาน/นวัตกรรมถอดบทเรียน ……………………………………………………….. 3
กระบวนการผลติ ผลงาน หรือข้ันตอนการดาเนนิ งาน …………………………….…………………………… 5
Flow Chart คนคดิ ฐานสอง เรยี นรผู้ ่านสื่อยุคใหม่ ……………………………………………. 6
ผลการดาเนนิ การ ผลสมั ฤทธิ์และประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ …………………………………………….……………… 6
ผลที่เกดิ ตามจุดประสงค์ …………………………………………………………………………………. 7
ผลสัมฤทธิ์ของงาน …………………………………………………………………………………………. 8
ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ …………………………………………………………………………………………… 9
ปัจจัยความสาเรจ็ (Key Success)……………………………………………………….…………………………… 9
บทเรยี นทไี่ ด้รบั (Lesson Learned) ………………………………………………………………………..………. 9
การเผลแพร่/การไดร้ ับการยอมรับ/รางวัลท่ไี ดร้ บั ………………………………………….…………………… 9
เงอื่ นไขความสาเร็จ …………………………………………………………………………………………………………. 9
ข้อสังเกต ……………………………………………………………………………………………………… 10
ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………. 10
แนวทางการนาผลงาน/นวัตกรรมไปใช้ …………………………………………………………….. 10
Best Practice สอดคล้องกับคณุ ลักษณะของโรงเรียนสุจรติ …………………………………………….… 11
กจิ กรรมท่สี อดคล้องกบั ปฏิญญาโรงเรยี นสจุ ริต ………………………………………………………………….. 12
ภาคผนวก ………………………………………………………………………………………………………………………..

ชอ่ื ผลงาน : คนคิดฐานสอง เรียนรผู้ า่ นสื่อยคุ ใหม่ (Digital Learning)

………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………

1. ความสาคญั ของผลงาน/นวตั กรรมถอดบทเรียน

เมื่อกล่าวถึง “การทุจริต” หรือ “การคอรัปชั่น” มักเข้าใจกันว่าหมายถึง “การโกง” น่ันคือ การไม่
ซื่อสัตย์สุจริตของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ทาความผิดโดยเจตนา มีการไตร่ตรอง และวางแผนอย่างมีข้ันตอน
ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดข้ึนในประเทศต่างๆ ท่ัวโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศท่ีพัฒนาแล้วหรือประเทศที่
กาลังพัฒนา การคอรัปชั่นได้กลายมาเป็นปัญหาท่ีมีความสาคัญท่ีสุดปัญหาหนึ่งของหลายๆ ประเทศ รวมทั้ง
ประเทศไทยด้วยเช่นกัน การคอรัปช่ันในหน่วยงานต่างๆ น้ันอาจเริ่มจากเรื่องเล็กน้อยท่ีทุกคนคิดว่าไปเป็นไร
จนเพ่ิมความรุนแรงและซับซ้อนขึ้นเร่ือยๆ แม้ว่าบางประเทศได้ก้าวสู่ความทันสมัย มีระบบบริหารราชการ
สมัยใหม่ มีการรณรงค์เพ่อื แกป้ ัญหาแล้วกต็ าม

จากสภาพปญั หาขา้ งตน้ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) จึงมีแนวทางในการที่จะ
ปกป้องและแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเร่ิมจากสถาบันสาคัญ น่ันคือ โรงเรียน ซ่ึงมีความใกล้ชิดกับเด็ก เพ่ือ
เสริมสร้าง ปลูกฝังลักษณะนิสัยการต่อต้านการทุจริต โดยการดาเนินโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม
และธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษา หรือทเ่ี รียกกนั วา่ โรงเรยี นสุจรติ

ปัจจุบันนี้หากพูดถึงเรื่องการศึกษานั้น โลกออนไลน์นับเป็นส่ิงหนึ่งที่เข้ามาช่วยให้คนสามารถเข้าถึง
การศกึ ษาทีต่ อบโจทยไ์ ดง้ า่ ยข้ึน ตลอดระยะเวลาทผี่ ่านมาแนวโนม้ การนาเสนอคอนเทนต์ในแบบวีดีโอสั้นได้รับ
การตอบรับอย่างล้นหลามและอยู่ในกระแสความนิยมทั่วโลกในฐานะผู้นาในการสร้างสรรค์วิดีโอสั้น TikTok
มุ่งม่ันที่จะยกระดับแพลตฟอร์มให้เป็นมากกว่า community แห่งความสร้างสรรค์และความบันเทิง
ด้วยการเตรียมความพร้อมในการปล่อยแคมเปญ TikTokUni ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิดระดับโลก TikTok For
Good ในการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่เกิดแรงบันดาลใจและช่วยกันสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยแคมเปญ
ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ท่ีจะผลักดัน และสนับสนุนให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนต์ทางการศึกษาซ่ึงจะนาไปสู่
การเรียนรู้อย่างมีสีสนั และสนุกสนานมากย่ิงข้ึน ปัจจุบันได้มีนักการศึกษาเป็นจานวนมากท้ังที่เป็นผู้คร่าหวอด
ในวงการ และผู้เช่ียวชาญจากหลากหลายสาขาหันมาใช้ TikTok ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อให้ความรู้
ในด้านต่างๆ จุดเด่นของ TikTok คือ การใช้ระบบอัลกอริท่ึมในการวิเคราะห์พฤติกรรมและความสนใจของ
ผู้คนได้อย่างแม่นยา ทาให้ TikTok กลายเป็นเครื่องมือท่ีสามารถนาเสนอคอนเทนต์ที่โดนใจส่งตรงถึงผู้ชมทุก
กล่มุ เปา้ หมาย คอนเทนต์บน TikTok มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เน่ืองจากสามารถมอบความสนุกสนานให้กับ
ผคู้ นทัง้ ในฐานะผู้ชม และผสู้ ร้างสรรค์คอนเทนตพ์ รอ้ มเอฟเฟกตต์ า่ งๆ ภายในตัวที่จะช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถ
สรา้ งสรรค์คอนเทนตเ์ พื่อการเรยี นรู้ และส่งต่อให้ผชู้ มได้อย่างน่าสนใจ ต่ืนเต้นเร้าใจ และง่ายต่อการเข้าใจมาก
ยง่ิ ข้ึน

โรงเรียนบ้านบากันเป็นโรงเรียนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนสุจริต และให้ความสาคัญในการ
ต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ โดยการปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามให้กับบุคลากรภายในโรงเรียน และนักเรียน
ตามปฎิญญาของโรงเรียน ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก และดิฉันในฐานะครูผู้รับผิดชอบการจัดการเรียน

การสอนรายวิชาเพิ่มเติมหลกั สูตรต่อต้านการทุจริต ได้เล็งเห็นถึงสภาพการทุจริตคอรัปชั่นของหน่วยงานต่างๆ
จึงมีแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมผ่านสื่อยุคใหม่ที่
เรยี กวา่ TikToK

แนวคิดสาคัญที่เก่ียวข้องกับการสร้างบรรยากาศท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ในห้องเรียน เพ่ือเป็นการจูงใจ
ผู้เรียน คือการจัดโครงสร้างการเรียนรู้ให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จ โดยมีหลักการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่อยู่
ในระดับความสามารถท่ีนักเรียนสามารถทาได้ คือไม่ยากเกินไป ไม่ง่ายเกินไป มีความท้าทายความสามารถ
กล่าวคือ เป็นงานทม่ี ีความยากงา่ ยในระดบั ทีผ่ ูเ้ รยี นสามารถทาได้เม่อื ได้รับการชี้แนะจากครู ทาให้เห็นช่องทาง
ทาให้ประสบความสาเร็จได้ หรืออยู่ในช่วงที่นักเรียนมีศักยภาพที่จะไปให้ถึง (The Zone of Proximal
Development : ZPD) ตามแนวคิดของไวกอ็ ทสกี ซ่ึงในการมอบหมายงานครูต้องบอกเป้าหมายและลักษณะ
ของงานให้ชัดเจน ไม่กากวม และจัดให้มีข้อมูลย้อนกลับแก่งานของผู้เรียน คือการให้สารสนเทศท่ีผู้เรียน
สามารถนาไปใช้ และปรับปรุงงานให้ดีขึ้น จากแนวคิดที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นที่มาของการนาเสนอกระบวนการ
ทางานที่มีชื่อว่า “CIPPA” ซ่ึงระบุองค์ประกอบสาคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็น
สาคัญ กลา่ วคอื

C มาจากคาว่า Construct หมายถึง การสร้างความรู้ตามแนวคิดของทฤษฎีการสรรค์สร้างความรู้
(Constructivism) โดยครูสร้างกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนมีโอกาสสร้างความรู้ด้วยตนเอง เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้
ผเู้ รียนมสี ่วนร่วมทางสตปิ ัญญา

I มาจากคาว่า Interaction หมายถึง การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือส่ิงแวดล้อมรอบตัว กิจกรรม
การเรียนรู้ท่ีดีจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคลและแหล่งความรู้ท่ีหลากหลาย
ซ่ึงเปน็ การชว่ ยให้ผู้เรียนมีสว่ นร่วมทางสงั คม

P มาจากคาว่า Physical Participation หมายถึง การให้ผู้เรียนมีโอกาสได้เคล่ือนไหวร่างกายโดย
การทากิจกรรมในลักษณะต่างๆ เปน็ การช่วยใหผ้ ้เู รียนมสี ่วนรว่ มทางกาย

P มาจากคาว่า Process Learning หมายถึง การเรียนรู้กระบวนการต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีดี
ควรเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการต่างๆ ซ่ึงเป็นทักษะที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต เช่น กระบวนการ
แสวงหาความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการพัฒนาตนเอง เป็นต้น
การเรียนรู้กระบวนการเป็นส่ิงสาคัญเช่นเดียวกับการเรียนรู้เน้ือหาสาระต่างๆ และการเรียนรู้เก่ียวกั บ
กระบวนการเปน็ การช่วยให้ผู้เรยี นมีส่วนร่วมทางด้านสตปิ ัญญาอกี ดว้ ย

A มาจากคาว่า Application หมายถึง การนาความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียน
ได้รับประโยชน์จากการเรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เช่ือมโยงระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติ ซึ่งจะทาให้
การเรยี นรู้เปน็ ส่งิ ท่ีมีประโยชน์

จากหลักการสาคัญข้างต้นน้ี ทาให้เกิดการขับเคลื่อนกิจกรรม คนคิดฐานสอง เรียนรู้ผ่านสื่อยุคใหม่
โดยให้ความสาคญั กบั คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์โรงเรียนสจุ รติ คอื ทกั ษะกระบวนการคิด และความมีวินยั

2. จดุ ประสงค์และเปา้ หมายของงาน/นวตั กรรมถอดบทเรยี น
จดุ ประสงค์
1. เพื่อปลูกฝัง ป้องกันเครือข่ายการทุจริต โดยเน้นให้นักเรียนตระหนักรู้และเข้าใจถึงระบบการคิด

ฐานสอง และฐานสบิ
2. เพื่อพัฒนาคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์โรงเรียนสุจริตของนักเรียนด้านทักษะกระบวนการคิดและ

ความมวี นิ ัย
3. เพื่อสนบั สนุนให้นกั เรียนกล่มุ เปา้ หมายพัฒนาส่อื การเรยี นรู้และจัดกิจกรรมสง่ เสริมคุณลักษณะของ

โรงเรยี นสุจริตขยายสนู่ กั เรยี นอนื่ ในโรงเรยี น

เปา้ หมาย
 เปา้ หมายเชิงปริมาณ

1. นักเรยี นโรงเรียนบ้านบากนั ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-3 จานวน 86 คน
 เปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพ

1. นกั เรียนระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาตระหนัก รู้และเข้าใจถึงระบบการคิดฐานสอง และฐานสบิ
2. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษามีทักษะกระบวนการคิดและความมีวินัยตามคุณลักษณะ
อันพงึ ประสงค์ตามโครงการโรงเรยี นสุจริต
3. นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาพัฒนาส่ือการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะของ
โรงเรียนสจุ รติ ขยายสู่นักเรยี นอ่ืนในโรงเรียน
3. กระบวนการผลติ ผลงาน หรือขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน
ขนั้ ท่ี 1 การเตรยี มความพรอ้ มกอ่ นการดาเนนิ งาน
หัวหน้าฝ่ายวิชาการมอบหมายคณะครูผู้รับผิดชอบการดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาเพ่ิมเติม
หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาแต่ละระดับช้ัน จากนั้นพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการจัด
การเรียนการสอนรายวิชาหลักสูตรตา้ นทจุ ริต
ข้นั ท่ี 2 การวางแผนการดาเนนิ งาน
ศึกษาสภาพปัจจุบัน วิเคราะห์ปัญหา รวบรวมข้อมูลจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภายใน
ชั่วโมงเรียนของตน โดยการสารวจความต้องการของนักเรยี นถงึ ลักษณะการจดั กิจกรรมภายในห้องเสร็จแล้วจึง
ทาการสรปุ ปัญหา
ข้ันที่ 3 การสร้างทางเลอื ก
สร้างทางเลือกให้กับนักเรียน วางแผนเพ่ือหาวิธีการแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย สรุปทางเลือกให้กับ
นักเรียน โดยการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ สร้างความสนใจให้นักเรียน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทั้งด้าน
ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ในรูปแบบท่ีเรียนว่า กระบวนการสอนแบบ “CIPPA” ซ่ึงผู้เรียนได้มี
โอกาสสร้างความรู้ และความรู้สึกที่ดี ผ่านกระบวนทางานท่ีครูออกแบบไว้ ทาให้นักเรียนมีความรู้สึก
ผ่อนคลายเปน็ อิสระ เปน็ สงิ่ ท่ีทาให้เกดิ ขน้ึ ได้โดยเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นมีอสิ ระในการศึกษาค้นควา้ ด้วยตนเอง

ข้นั ท่ี 4 การปฏบิ ัตงิ านตามแผน

ดาเนนิ การตามแผนทีร่ ว่ มกนั กาหนดไว้ โดยมีกิจกรรมทด่ี าเนินการ

กิจกรรม กลุม่ เป้าหมาย ผลท่ไี ด้จากการดาเนินงาน ผรู้ ับผิดชอบ
ครผู รู้ ับผดิ ชอบ
ประชุมเชิงปฏิบัติการเพ่ือ หัวหน้าห้อง ตวั อย่างผลงานนกั เรยี นทีส่ รา้ งโดย
แอพลิเคชัน่ TikTok
พัฒนาสื่อการเรียนด้วย ระดับชัน้
แอพลเิ คชั่น TikTok
มัธยมศกึ ษา

จัดกิจกรรมการเรียนการ นกั เรียนระดบั ชน้ั ความร้คู วามเข้าใจ ประสบการณ์ ครูผู้รบั ผิดชอบ
สอนในชั่วโมงเรียน “คน มัธยมศกึ ษา และทกั ษะในการสง่ เสริม พัฒนา
คดิ ฐานสอง เรียนรู้ผ่านสื่อ ระบบการคิดฐานสองและฐานสิบ
ยุคใหม”่ รวมถงึ คุณลักษณะของโรงเรยี นสจุ รติ

พัฒนาสอ่ื การเรยี นรู้ นักเรยี นระดบั ชน้ั ส่อื การเรียนร้ทู ่นี ักเรยี นจดั ทาข้ึน นกั เรียนระดับชัน้
เสริมสร้างการไม่ทุจริต มธั ยมศึกษา หลังจากผา่ นการเรยี นการสอนในชน้ั มธั ยมศึกษา
เปน็ ของตนเอง เรียน
นกั เรยี นระดับชน้ั คณุ ลกั ษณะของโรงเรียนสจุ รติ ดา้ น นักเรียนระดับชั้น
พฒั นาและเผยแพรผ่ ลงาน มธั ยมศกึ ษา ทกั ษะกระบวนการคดิ และความมี มธั ยมศกึ ษา
ของตน ขยายสู่นักเรียน วนิ ัย
ระดับประถมศึกษา และ
ในโลกออนไลน์

ขนั้ ที่ 5 ติดตามผลการดาเนินกจิ กรรม
คณุ ครตู ดิ ตามนเิ ทศ สนับสนนุ การดาเนนิ งาน ให้คณะทางานดาเนนิ การพฒั นากจิ กรรมท่ีรับผดิ ชอบ
อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ มีการนาข้อบกพร่องมาประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างครูกับนักเรียน นักเรียนด้วย
กนั เอง เพ่อื จะได้นามาปรับปรุงแกไ้ ขต่อไป
ขัน้ ที่ 6 การตรวจสอบและประเมินผลการดาเนินงาน
ประเมินผลเป็นระยะ ๆ เพ่ือตรวจสอบความก้าวหน้า เพื่อให้การพัฒนางานเป็นตามเง่ือนไขและ
เป้าหมายท่ีวางเอาไว้
ขน้ั ที่ 7 การรายงานผลและประยุกตใ์ ช้
การรายงานผลการจัดกิจกรรม คนคิดฐานสอง เรียนรู้ผ่านส่ือยุคใหม่ ต่อคุณครูและผู้อานวยการ
โรงเรยี น เผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์กจิ กรรมต่อไป

ข้นั ตอนในการดาเนนิ งานสามารถเขียนเป็น Flow Chart ไดด้ ังน้ี
“คนคดิ ฐานสอง เรยี นร้ผู า่ นสือ่ ยคุ ใหม่”

การเตรียมความพร้ อมก่ อนการดาเนินงาน

การวางแผนการดาเนินงาน

การสร้ างทางเลือก

CIPPA การปฏบิ ัตงิ านตามแผน

ตดิ ตามผลการดาเนินกจิ กรรม

การตรวจสอบและประเมนิ ผลการดาเนินงาน ปรบั ปรุง
กจิ กรรม
บรรลุหรือไม่

4. ผลการดาเนนิ การ ผลสัมฤทธ์ิและประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับ
4.1 ผลทเ่ี กดิ ตามจุดประสงค์
4.1.1 นักเรียนได้รับการปลูกฝัง ป้องกันเครือข่ายการทุจริต โดยเน้นให้นักเรียนตระหนักรู้

และเข้าใจถงึ ระบบการคดิ ฐานสอง และฐานสบิ เนื่องจากการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ต่างไปจากเดิม
คือ การเรียนรู้แค่ในหนังสือเรียนที่นักเรียนคุ้นชินนั้น เปลี่ยนมาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กาลังเป็น
ความนิยมของเด็ก ช่วยสร้างแรงจูงใจให้แก่นักเรียนอยากท่ีจะเข้าไปเรียนรู้ และนาเอาไปปรับใช้ใน
ชีวิตประจาวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของ (พัชรี สวนแก้ว) ท่ีกล่าวไว้ว่า เด็กเรียนรู้โดยผ่าน
ความสนใจท่ีมีต่อสิ่งต่างๆ เน่ืองจากเด็กจะเรียนรู้ส่ิงใดได้ดีก็ต่อเมื่อเด็กมีความสนใจต่อส่ิงนั้นๆ ซึ่งเป็น
ธรรมชาตขิ องเด็กอยู่แล้ว เด็กมีความสนใจต่อส่ิงต่างๆ ท่ีแวดล้อมตนเอง โดยเฉพาะส่ิงของหรือวัตถุที่น่าสนใจ
สะดดุ ตา เร้าความสนใจเด็กจะเข้าใกล้และตอ้ งการศึกษาสนใจใคร่รู้และคน้ หา

4.1.2 นักเรียนได้รับการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์โรงเรียนสุจริตของนักเรียนด้าน
ทักษะกระบวนการคิดและ ความมีวินัย ตามกระบวนการเรียนการสอนแบบ CIPPA Model โดยเน้นผู้เรียน
เป็นสาคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ให้นักเรียนใช้ทักษะกระบวนการคิด จินตนาการ
สร้างสรรคผ์ ลงานบนพ้ืนฐานของความมวี นิ ยั ในตัวเอง และยงั สามารถเผยแพร่ให้กบั นักเรียนคนอ่ืนได้อีกด้วย

4.1.3 นักเรียนกลุ่มเป้าหมายสามารถพัฒนาสื่อการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริม
คุณลักษณะของโรงเรียนสุจริตขยายสู่นักเรียนอื่นในโรงเรียน สืบเน่ืองมาจากกระบวนการเรียนการสอนแบบ
CIPPA Model เป็นการเรียนรู้ท่ีนาเอาทฤษฎีไปใช้จริงในทางปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับคุณธรรมที่จะต้องควบคู่
ไปกับจริยธรรม ดังนัน้ ครูจึงเปดิ โอกาสให้นักเรียนแสดงศักยภาพโดยการประยุกต์ใช้ส่ือสมัยใหม่มาช่วย นั้นคือ
แอพลิเคชนั่ ในกลุ่มวัยรนุ่ TikTok ซึ่งนกั เรียนให้ความสนใจและถา่ ยทอดออกมาได้เปน็ อยา่ งดี

4.2 ผลสัมฤทธิข์ องงาน
4.2.1 นักเรียนได้รับการปลูกฝัง ป้องกันเครือข่ายการทุจริต โดยเน้นให้นักเรียนตระหนักรู้

และเข้าใจถึงระบบการคิดฐานสอง และฐานสบิ

คนคิดฐานสอง หนงั สือเรียน/ใบความรู้ CIPPA Model +TikTok
เรียนร้ผู ่านส่อื ยุคใหม่ (จานวนเด็กทง้ั หมด 86) (จานวนเดก็ ทั้งหมด 86)

สปั ดาห์ท่ี 1 49 คน (สง่ งาน) 66 คน (ส่งงาน)
คดิ เป็นร้อยละ 56.98 คิดเปน็ รอ้ ยละ 76.74
สัปดาหท์ ี่ 2
51 คน (สง่ งาน) 75 คน (ส่งงาน)
สัปดาห์ที่ 3 คิดเปน็ รอ้ ยละ 59.30 คดิ เปน็ ร้อยละ 87.21

สัปดาหท์ ี่ 4 63 คน (ส่งงาน) 83 คน (สง่ งาน)
คา่ เฉล่ยี คิดเปน็ รอ้ ยละ 73.25 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 96.51

70 คน (สง่ งาน) 83 คน (ส่งงาน)
คิดเป็นร้อยละ 81.39 คดิ เปน็ ร้อยละ 96.51

67.73 89.24
ระดับพฒั นาการผลตา่ ง +21.51

4.2.2 นักเรียนได้รับการพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์โรงเรียนสุจริตของนักเรียนด้าน

ทกั ษะกระบวนการคดิ และ ความมวี ินยั

การพัฒนาคณุ ลักษณะท่ี หนงั สอื เรยี น/ใบความรู้ CIPPA Model +TikTok
พึงประสงค์ (จานวนเด็กทง้ั หมด 86) (จานวนเดก็ ท้งั หมด 86)
ไดร้ ะดบั 3 คา่ เฉล่ียร้อยละ ได้ระดบั 3 คา่ เฉลยี่ รอ้ ยละ

ทกั ษะกระบวนการคิด 45 คน 52.33 77 คน 89.53

ความมวี ินยั 68 คน 79.07 80 คน 93.02

ค่าเฉล่ีย 65.70 91.28

ระดบั พฒั นาการผลตา่ ง +25.58

4.2.3 นักเรียนกลุ่มเป้าหมายสามารถพัฒนาส่ือการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริม
คณุ ลักษณะของโรงเรียนสจุ รติ ขยายสู่นักเรียนอืน่ ในโรงเรยี น

การพัฒนาคณุ ลกั ษณะท่ี หนังสอื เรียน/ใบความรู้ CIPPA Model +TikTok
พึงประสงค์ (จานวนเด็กท้ังหมด 86) (จานวนเดก็ ท้ังหมด 86)
ได้ระดับ 3 คา่ เฉล่ยี รอ้ ยละ ไดร้ ะดับ 3 คา่ เฉล่ยี รอ้ ยละ
สร้างและพฒั นาสื่อการ 45 คน 52.33 77 คน 89.53
เรียนรู้ดว้ ยตนเอง
จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ 45 คน 52.33 80 คน 93.02
คุณลักษณะของโรงเรยี น
สจุ รติ ขยายสนู่ ักเรยี นอืน่ ใน 52.33 91.28
โรงเรยี น ระดบั พฒั นาการผลตา่ ง +38.95

คา่ เฉลีย่

4.3 ประโยชนท์ ี่ได้รบั
ผลที่เกิดข้ึนกับนักเรียน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาได้รับการปลูกฝัง ป้องกันเครือข่าย

การทุจริตโดยเน้นให้นักเรียนตระหนักรู้และเข้าใจถึงระบบการคิดฐานสอง และฐานสิบ ตามกระบวนการ
จัดการเรียน การสอนในรูปแบบของ CIPPA เน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนา นาเอาหลักทฤษฎีไปใช้
ปฏิบัติจริง ผ่านการเรียนรู้บูรณาการกับสื่อใหม่ๆท่ีเรียกว่า TikTok ทั้งนี้ทาให้นักเรียนเกิดทักษะความคิดที่ดี
และความมวี นิ ัยในตนเอง ตลอดทงั้ สามารถพฒั นาผลงานและเผยแพรใ่ หก้ ับผ้ทู สี่ นใจไดอ้ ีกด้วย

ผลท่ีเกิดกับครูผู้สอน ทาให้ครูผู้สอนได้ทราบถึงรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ต่างไป
จากเดิม จากที่ใช้แค่หนังสือเรียนและใบความรู้ เปลี่ยนเป็นการบูรณาการกับสื่อใหม่ๆ ในปัจจุบัน และยังได้
ทราบถงึ ลกั ษณะความสนใจของผู้เรยี นแต่ละคน เพือ่ ที่จะไดพ้ ฒั นารปู แบบการสอนต่อไปในอนาคตอีกดว้ ย

ผลที่เกิดข้ึนกับโรงเรียน ทาให้โรงเรียนได้ทราบข้อมูลพ้ืนฐานที่เป็นประโยชน์ อันจะส่งผล
ตอ่ การจัดรปู แบบกิจกรรมการเรียนการสอน ชุมนุม หรือการจัดทาโครงการท่ีเหมาะสมเพ่ือรองรับแผนพัฒนา
ทม่ี ีความสอดคลอ้ งกับนโยบายสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานต่อไป

5. ปัจจยั ความสาเร็จ (Key Success)
1. เด็กให้ความร่วมมือและเข้ามามีส่วนร่วมในการทากิจกรรมเป็นอย่างดี มีความกระตือรือร้นสนใจ

เปน็ อยา่ งดี
2. การวางแผนการดาเนินงานอย่างเป็นระบบ และการตั้งเป้าหมายของการดาเนินงานส่งผลให้

สามารถดาเนนิ งานได้ตามวัตถปุ ระสงค์ทต่ี ้องการส่งเสริมและพฒั นาไดเ้ ป็นอย่างดี
3. สอ่ื ทน่ี ามาใช้มีความนา่ สนใจ ทนั ยุคทนั สมยั เหมาะกบั สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19

ในปัจจบุ นั อกี ท้งั ยังสร้างแรงจูงใจในการทากิจกรรมของเด็กได้เปน็ อย่างดี
4. ครูมีการพัฒนาตนเองในรูปแบบของการจัดการเรียนการสอนอย่างสม่าเสมอ และทันต่อการ

เปลี่ยนแปลงการจดั การเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 สามารถนาเอารูปแบบ กระบวนการ เทคนิคการสอนมาปรับใช้
ใหเ้ ข้ากับสถานการณแ์ ละบริบทของสถานศึกษา

5. ผู้บริหารสถานศึกษาคอยให้คาช้ีแนะ ติดตามและสนับสนุนท่ีเป็นประโยชน์ในการพัฒนารูปแบบ
การสอน และการทากจิ กรรมอยา่ งสม่าเสมอและต่อเน่ือง

6. บทเรียนท่ไี ด้รับ (Lesson Learned)
การนาเอาแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง TikTok มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทางการศึกษาให้กับ

นกั เรียนนั้น ช่วยส่งเสรมิ และกระตุ้นความสนใจให้เด็กเกิดการเรียนรู้เก่ียวกับระบบการคิดฐานสองและฐานสิบ
และอยากเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมได้เป็นอย่างดี ทั้งในระดับห้องเรียนและบนโลกออนไลน์ได้อย่างไร้
ขีดจากัด อีกท้ังเพ่ิมความสามารถในการนาเสนอเน้ือหาที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
น่าสนใจ ท้ังนี้เป็นการช่วยฝึกทักษะกระบวนการคิดและความมีวินัยของนักเรียนตามคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์โรงเรียนสุจรติ อีกด้วย

7. การเผลแพร่/การได้รบั การยอมรบั /รางวัลท่ีได้รับ
1. การได้มีโอกาสนาสื่อไปเผยแพร่แก่คณะครูในสถานศึกษาเดียวกัน แลกเปล่ียนเรียนรู้ผ่านกิจกรรม

การนิเทศภายใน
2. เผยแพรผ่ า่ นสือ่ สงั คมออนไลน์ เช่น facebook , TikTok ท้งั คุณครู และของนักเรียนเอง

8. เงือ่ นไขความสาเร็จ
ขอ้ สังเกต
1. ความพร้อมของครู เน่ืองจากทุกกิจกรรมต้องมีครูเป็นผู้สาธิตในบางครั้ง และเป็นผู้กากับ ดูแล

ใหค้ าปรกึ ษาโดยตลอด หากครูไมม่ ีความพรอ้ มหรือขาดความมงุ่ มนั่ ทุ่มเท ก็ยากทีจ่ ะดาเนินการได้สาเร็จ
2. การเลือกกิจกรรมในการดาเนินการ จะต้องมีความสอดคล้องกันระหว่างกิจกรรม วิธีดาเนินการ

และท่ีสาคัญที่สุด คือการวัดผลประเมินผล เน่ืองจากคุณลักษณะโรงเรียนสุจริตน้ันเป็นการวัดพฤติกรรมที่
แสดงออกมากกว่าความรู้ความเข้าใจ จึงจาเป็นต้องสร้างเครื่องมือวัดหรือเก็บข้อมูลให้สะท้อนพฤติกรรม
ทีแ่ ทจ้ ริง

3. ความร่วมมือระหว่างครูและนักเรียน หากทาได้อย่างต่อเน่ืองสม่าเสมอจะสามารถแลกเปลี่ยน
เรยี นรกู้ นั ได้มากขึน้

ข้อเสนอแนะ
1. การให้นักเรียนเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเพื่อให้เกิดประสบการณ์ตรง โดยเฉพาะกิจกรรมในเชิงปฏิบัติ
เพอ่ื เสรมิ สร้างคุณลักษณะของโรงเรยี นสจุ รติ ให้กับผู้เรียน โดยเลือกจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับระดับช้ันและวัย
ของนกั เรียน ท้ังน้ีเพราะประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมมีมากมาย เช่น การใช้ชีวิตร่วมกันใน
กล่มุ การทางานเปน็ หมู่คณะ ทกั ษะชีวติ ภาวะผู้นา ทักษะการคิด ความรับผิดชอบ เป็นต้น
2. การพัฒนาส่ือของนักเรียนเพื่อเผยแพร่ผลงานต่อสาธารณชน เป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานของ
ผู้เรยี น จะสามารถสรา้ งความม่นั ใจ รู้สึกภูมใิ จ และมีเจตคติทด่ี ีตอ่ การกระทาทสี่ ุจรติ
แนวทางการนาผลงาน/นวตั กรรมไปใช้
1. การเลือกกิจกรรมใดๆ ต้องคานึงถึงบริบทและสภาพแวดล้อม จุดเน้น วิสัยทัศน์ของโรงเรียน
เพอื่ ใหก้ ารดาเนนิ การสามารถทาไดอ้ ย่างต่อเน่ือง เปน็ ระบบ และเกิดผลกบั ผ้เู รียนอยา่ งย่ังยนื
2. การวัดผลประเมินจากการจัดกิจกรรม จะต้องสะท้อนพฤติกรรมที่แท้จริงของผู้เรียน ดังนั้น
เคร่ืองมือในการวัดผลประเมินผลจะต้องมีความสอดคล้องกับกิจกรรม เพราะกิจกรรมที่ดาเนินการน้ันเป็น
กิจกรรมปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจของนักเรียนในถึงระบบการคิดฐานสอง และฐานสิบ และพัฒนา
คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์โรงเรยี นสุจริตของนักเรยี นดา้ นทักษะกระบวนการคิดและ ความมีวนิ ยั อีกด้วย

9. Best Practice สอดคล้องกับคุณลักษณะของโรงเรยี นสจุ รติ

คุณลกั ษณะ กิจกรรมทส่ี อดคล้อง เครือ่ งมือทีใ่ ช้
แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น
1. ทกั ษะกระบวนการคิด คนคดิ ฐานสอง
- ออกแบบการจัดกิจกรรมการ เรียนรผู้ า่ นส่ือยุคใหม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน
เรยี นรู้
- วางแผนการผลิตและพัฒนาส่ือ คนคิดฐานสอง
TikTok เรียนรู้ผ่านส่อื ยุคใหม่
- ความคดิ สรา้ งสรรค์
- การแกป้ ัญหาทีเ่ กิดขน้ึ จากการ
ปฏิบัตงิ าน
2. ความมวี นิ ัย
- ร่วมกจิ กรรมอยา่ งสม่าเสมอ
- การตรงต่อเวลา
- การร้หู น้าท/ี่ รบั ผดิ ชอบตอ่ งาน
- มีความสามัคคีภายในกลุม่

10. กจิ กรรมท่ีสอดคล้องกับปฏิญญาโรงเรียนสุจรติ

ปฏิญญาโรงเรยี นสุจรติ กจิ กรรมท่ีสอดคล้อง วธิ กี าร
1. การปลกู ฝัง 1. คนคดิ ฐานสองเรียนรู้ผา่ นสอื่
“เราจะปลกู ฝงั ค่านิยมความมี ยุคใหม่ - นักเรียนถ่ายทอดผลงานผา่ นสอ่ื
วนิ ัยให้แกน่ กั เรยี น จนกลายเปน็ - การให้ความรู้เกี่ยวกับความมี TikTok ส่งผลงานครูตาม
อตั ลกั ษณ์ประจาตัว ผา่ นกจิ กรรม วินัย กาหนดเวลา
การเรยี นรู้ใหเ้ ปน็ รปู ธรรมและ - ครปู ฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างด้าน - เผยแพรป่ ระชาสมั พันธผ์ ลงาน
ยัง่ ยืน” ความมวี ินยั ของตนเองลงในโลกออนไลน์
- การประเมนิ ความพึงพอใจในการ
ทากจิ กรรมของสมาชกิ ทุกคน

2. การป้องกัน 1. คนคิดฐานสองเรียนรู้ผ่านส่ือ
“เราจะร่วมมือกนั ป้องกนั และ
ตอ่ ต้านการทุจรติ ทุกรูปแบบ” ยุคใหม่ - นักเรยี นถ่ายทอดผลงานผา่ นสอ่ื

- การใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั ความมี TikTok ส่งผลงานครูตาม

วนิ ยั กาหนดเวลา

- การใหค้ วามรเู้ กย่ี วกับระบบการ - เผยแพร่ประชาสัมพันธผ์ ลงาน

คิดฐานสองและฐานสบิ ของตนเองลงในโลกออนไลน์

- ครปู ฏิบตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งที่ดี - การประเมนิ ความพึงพอใจในการ

ทากจิ กรรมของสมาชิกทุกคน

3. การสร้างเครอื ข่าย 1. คนคิดฐานสองเรยี นรผู้ ่านสอ่ื

“เราจะสรา้ งเครอื ขา่ ยเดก็ ดมี ีวนิ ัย” ยุคใหม่ - นักเรยี นถา่ ยทอดผลงานผา่ นส่อื
TikTok ส่งผลงานครูตาม
- การให้ความรู้เก่ยี วกับความมี กาหนดเวลา
- นกั เรียนจดั กิจกรรมเผยแพร่
วินัย ผลงานให้กบั นกั เรียนรุ่นน้อง
ภายในโรงเรียนเพอ่ื เปน็ แนวทางใน
- ครปู ฏิบตั ิตนเปน็ แบบอยา่ งด้าน การเรียนรูแ้ ละปฏิบตั ิไปในทางทดี่ ี
- เผยแพร่ประชาสมั พันธผ์ ลงาน
ความมีวนิ ยั ของตนเองลงในโลกออนไลน์
- การประเมนิ ความพึงพอใจในการ
ทากิจกรรมของสมาชิกทุกคน

11. ภาคผนวก





กจิ กรรม คนคดิ ฐานสอง เรียนรู้ผ่านส่อื
ยคุ ใหม่ เปิดโอกาสใหร้ ุ่นพผ่ี ลิตและ
พัฒนาสอ่ื การเรยี นร้ทู ่ีนาเอาแอพลเิ คชัน่
TikTok มาสร้างสรรคผ์ ลงานบูรณาการ
ความรู้ระบบการคิดฐานองและฐานสิบ
และสามารถนาความร้มู าเผยแพรแ่ ก่ร่นุ
นอ้ งภายในโรงเรยี น ตลอดจนนาไป

ปฏิบตั ิจรงิ ในชวี ติ ประจาวนั