คิดอีกแลว้
Flash Thought
27. คดิ แล้วขา
พ.ศ. 2565
ความคิดท่ีแวบเขา้ มาในสมอง
ประไพ กลิ่นขจร
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 239
คดิ แล้วขาํ
น่งั อ่านหนงั สอื Mindset แลว้ คดิ ยอ้ นถึง
ตวั เองในทกุ ขน้ั ตอน แลว้ ก็ยนื ยนั วา่ มนั เป็นเรอ่ื งจรงิ
ตามท่ี Dr. Dwek ไดน้ าํ เสนอไวใ้ นหนงั สือเลม่ นี้
โดยเฉพาะเร่อื งในโรงเรยี นอยา่ งแนวคดิ ตา่ งๆ ท่ีจะ
กลา่ วต่อไปนี้
The worst student we had, the worst I
have ever encountered, was in his life outside
the classroom as mature, intelligent, and
interesting a person as anyone at the school.
What went wrong?
นกั เรยี นบ๊วยท่ีเรามเี ป็นนกั เรยี นบ๊วยท่ฉี นั เคย
พบว่าชีวติ นอกหอ้ งเรยี นของเขานนั้ มวี ฒุ ิภาวะ
ฉลาด และน่าสนใจพอๆ กบั นกั เรยี นท่อี ยใู่ นโรงเรยี น
มนั เกิดอะไรขนึ้ ...
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 240
น่นั สเิ ร่อื งนีเ้ กดิ ขนึ้ จรงิ ไดเ้ สมออยา่ งนอ้ ยก็
กรณีหน่ึงท่สี ามารถนาํ มาเลา่ ได้ เพราะเป็นเรอ่ื งของ
เพ่ือนท่ีเขามกั จะเลา่ ดว้ ยตวั ของเขาเองเสมอวา่ “ผม
อายจงั เลยท่ีสอบตก” แต่ในความคิดของเราก็คิดวา่
“ทาํ ไมตอ้ งอายนะ่ เพราะเธอก็สอบบ๊วยทกุ ปีตง้ั แต่
เด็ก” จนถงึ วนั นี้ คือ ชน้ั ประถมปีท่ี 5 ท่ีต่างกนั ก็คือ
ทกุ ปีนน้ั เขาสอบผ่าน แตค่ รง้ั นีเ้ ขาสอบตกตอ้ งเรยี น
ซา้ํ ชนั้
จากนนั้ เราก็ไมไ่ ดข้ ่าวเขาอีกเลย เพราะเขา
ยา้ ยโรงเรยี นไปเรยี นท่จี งั หวดั อ่ืน ซง่ึ ไมร่ ูว้ า่ ท่ีไหน
อยา่ งไร เป็นอนั ว่าคงจะไมไ่ ดพ้ บเจอกนั อกี แลว้ และ
ชีวติ ของเขาก็คงจะลมุ่ ดอนไปตามสภาพ
จากชนั้ ประถมปีท่ี 6 ท่ีไมม่ เี ขาจนกระท่งั ถงึ
ระดบั มหาวทิ ยาลยั ตอนนน้ั เราอยมู่ หาวทิ ยาลยั ชนั้
ปีท่ีสองแลว้ เป็นมหาวทิ ยาลยั ท่อี ย่ไู กลบา้ นตอ้ งพกั
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 241
อยใู่ นหอ แลว้ วนั หน่งึ ท่บี รเิ วณใตห้ อพกั ท่เี ป็นท่ีน่งั
พกั ของนกั ศกึ ษาและแขกผมู้ าเยือน ก็มีผูค้ น
มากมายตามปกติมาน่งั เกา้ อที้ ่ีมโี ต๊ะเป็นชดุ ๆ
เหมือนรา้ นอาหาร เราก็เดนิ ผ่านบรเิ วณนนั้ บอ่ ยๆ
เพ่ือไปรบั ประทานอาหาร หรอื ไปทาํ ธรุ ะสว่ นตวั
วนั นีเ้ หลอื บไปเหน็ ชายหน่มุ คนหน่งึ มาน่งั รอเพ่ือน
อยทู่ ่โี ต๊ะตวั หน่งึ แวบแรกก็ไมไ่ ดส้ นใจอะไร แตเ่ ม่อื
ส่งิ ท่ีเห็นมนั เรา้ ใหต้ อ้ งหนั กลบั ไปมองซา้ํ ดว้ ย
รูปลกั ษณข์ องชายหน่มุ คนนน้ั ไมไ่ ดต้ ่างไปจากเดมิ
เลยแมแ้ ตน่ อ้ ย ทาํ ใหเ้ ราจาํ เขาไดท้ นั ที เขาน่นั เอง
เขามาอยทู่ ่ีน่ีไดอ้ ยา่ งไร เขามาเรยี นท่นี ่ีหรอื เขา
เรยี นคณะอะไร เขามาเรยี นหรอื เขาอาจจะมาหา
ญาตกิ ็ได้ แตด่ ลู กั ษณะแลว้ ไมไ่ ดม้ ขี องสมั ภาระใดๆ
ท่ีแสดงวา่ มาหาญาติ ความสงสยั ผดุ ขนึ้ มาในสมอง
อย่างมากมาย แตด่ ว้ ยความดีใจท่ีไดพ้ บเพ่ือนท่ี
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 242
น่าจะเป็นจดุ ท่ีสาํ คญั กว่าเร่อื งอ่ืน จงึ รบี หนั กลบั ไปดู
ใหช้ ดั ๆ อีกครงั้ จนทาํ ใหเ้ ขานน้ั หนั มามอง แลว้ ตา่ งก็
จาํ กนั และกนั ได้ แลว้ ตา่ งก็ทกั ทายกนั แบบไม่
คาดคิดวา่ จะไดพ้ บกนั และคาํ ถามแรก
“เธอเรยี นท่ีน่ีหรอื ”
“ใช”่ น่ีคือคาํ ตอบท่ีทาํ ใหป้ ระหลาดใจมาก
พอแลว้ แตข่ ออย่าใหค้ าํ ตอบตอ่ ไปทาํ ใหฉ้ นั
ตอ้ งชอ็ คแน่น่ิงไปเลยนะ และแลว้ มนั ก็เป็นอ่นื ไป
ไมไ่ ดเ้ ม่อื เขาตอบวา่ “ผมอย่คู ณะแพทยศาสตร”์
แลว้ ยงั ไมพ่ อยงั เลา่ เร่อื งเก่าท่ีประทบั ใจไดอ้ ีกว่า
“เธอสอบไดท้ ่ีหน่งึ แต่เราสอบตก” โอย้ มนั ช่างเป็น
เร่อื งเจ็บปวดอะไรเชน่ นี้ แลว้ มีเร่อื งท่เี คยรูม้ าว่า เขา
เคยบอกกบั เพ่ือนว่า เขานน้ั สอบไดท้ ่สี องเป็นรอง
จากเรา แต่ท่ีจรงิ แลว้ ผลออกมาวา่ เขาสอบตก น่นั
หมายความวา่ อะไร ขอ้ สอบนนั้ ไมเ่ ท่ียงหรอื เขามี
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 243
ความคิดเหน็ ท่แี ตกต่างจากนกั เรยี นคนอ่นื หรอื
อย่างไร แตต่ อนนี้ เราพบแลว้ วา่ ความสามารถของ
คนนนั้ มนั พฒั นาไดจ้ รงิ ๆ เพราะเขาเลา่ วา่ เม่อื เขา
สอบตกแลว้ เขาก็พยายามตง้ั ใจเรยี นจนสามารถ
เขา้ เรยี นโรงเรยี นเตรยี มอดุ มศกึ ษาได้ และสามารถ
สอบเขา้ มหาวิทยาลยั ได้ ณ วนั นี้
เรอ่ื งเลา่ นีจ้ งึ เป็นการยืนยนั ความเหน็ ของ Dr.
Dwek ไดเ้ ป็นอยา่ งดี และสาํ หรบั เร่อื งการอ่าน
หนงั สอื นน้ั Dr. Dwek ก็ไดก้ ลา่ วถงึ ความจรงิ ท่ีพบ
กบั นกั เรยี นท่วั ไป ซง่ึ หน่ึงในนน้ั ก็น่าจะเป็นเราดว้ ย
น่นั คอื
They read the textbook and their class
notes. If the material is really hard, they read
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 244
them again. Or they might try to memorize
everything they can, like a vacuum cleaner.
พวกเขาจะอา่ นหนงั สือเรยี นและบนั ทกึ จาก
หอ้ งเรยี น ถา้ เอกสารมนั ยากมากจรงิ ๆ เขาก็จะอ่าน
ซา้ํ ๆ หรอื อาจจะพยายามจาํ ทกุ ส่งิ อยา่ งเทา่ ท่จี ะ
สามารถจาํ ได้ ทาํ ตวั เหมือนเป็นเคร่อื งดดู ฝ่นุ เลยคะ่
เช่ือไหมว่า อา่ นแลว้ รูส้ กึ วา่ Dr. Dwek เขารู้
ไดอ้ ยา่ งไรวา่ เราเป็นอยา่ งนน้ั เราทง้ั อา่ นทงั้ ทอ่ ง มี
อยคู่ รง้ั หน่ึง อ่าน lecture อย่เู ลม่ หน่ึงมนั ปรมิ าณไม่
มาก คิดไปคิดมา ถา้ เราทอ่ งไปใหห้ มดขอ้ สอบ
ออกมาก็ไมห่ นีไปจากนีแ้ น่นอน อยา่ กระนน้ั เลย
ทอ่ งไปทกุ ตวั อกั ษรเลย เหมอื นเครอ่ื งดดู ฝ่นุ อย่างท่ี
Dr. Dwek พดู ไมม่ ีผิด แลว้ ขอ้ สอบกอ็ อกอยา่ งนนั้
จรงิ ๆ เราเขียนไดห้ มดเหมือนเป็น lecture อีกเลม่
หน่งึ เลย เป็นความภาคภมู ใิ จมาก เวลานนั้ คดิ วา่
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 245
อาจารยจ์ ะรูไ้ หมวา่ ลกู ศษิ ยจ์ าํ ไดท้ กุ ตวั แต่ในทาง
กลบั กนั ก็มีความรูส้ กึ ลกึ ๆ วา่ เราไดอ้ ะไรจากวิชานี้
บา้ ง ท่ีเราตอ้ งทอ่ งเพราะไมเ่ ขา้ ใจ จงึ ตอ้ งจาํ ไป ไม่
เหมือนวชิ าคณิตศาสตรท์ ่ีไมต่ อ้ งดอู ะไรมากมาย
เม่อื เขา้ ใจหลกั เกณฑก์ ย็ อ่ มแกโ้ จทยป์ ัญหาได้ มนั
เป็นความจาํ เป็น เพราะกลวั จะไมไ่ ดเ้ กรดท่ีดี น่ีไง
คนนีล้ ะ่ มี fixed mindset
เป็นคน fixed mindset มานาน กว่าจะ
เปล่ยี นแปลงก็มาถึงระดบั ปรญิ ญาโทแลว้ และเม่อื
มาเหน็ ประโยคตอ่ ไปนี้ ย่งิ ทาํ ใหย้ อ้ นคดิ
Thank you for the lesson. It is a
valuable one, perhaps the most valuable I’ve
learned at Columbia.
เม่อื นกั เรยี นของ Dr. Dwek ไดเ้ ขียนจดหมาย
ถงึ อาจารยข์ องเขาโดยมขี อ้ ความตอนหน่ึงว่า
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 246
“ขอขอบคณุ สาํ หรบั บทเรยี นนี้ มนั เป็นบทเรยี นท่ีมี
คา่ อนั หน่งึ ซง่ึ บางทีมนั ดจู ะมีคา่ มากท่ีสดุ เท่าท่ีเคย
ไดเ้ รยี นรูม้ าในมหาวทิ ยาลยั Columbia แหง่ นี”้
มนั ช่างเป็นคาํ กลา่ วท่เี หมอื นกบั ท่เี ราเคยบอก
กบั อาจารยท์ า่ นหน่ึงท่ีเคยสอนวชิ า Materials ใน
ระดบั ปรญิ ญาโท ซง่ึ ในครงั้ นนั้ เราไดเ้ กรด B มา
อย่างทลุ กั ทเุ ล ดว้ ยทาํ งานไมท่ นั เวลาอนั
เน่ืองมาจากเครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ สีย ทาํ ใหอ้ าจารย์
ผสู้ อนมองว่าเป็นบคุ คลเหลวใหล แตเ่ ราคงไม่
สามารถจะแกต้ วั อยา่ งไรได้ ณ เวลานน้ั ดเู หมือน
ท่านจะรูส้ กึ โกรธดว้ ย
ต่อมาโลกชา่ งแสนกลม เราตอ้ งวนเวียนมา
พบท่านในฐานะอาจารยท์ ่ีปรกึ ษาวทิ ยานิพนธอ์ ีก
ครงั้ ในครง้ั นี้ เราไดใ้ ชว้ ิชา materials ท่ีเรยี นมาทาํ
เอกสารประกอบการสอนออกมาเลม่ หน่งึ อยา่ ง
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 247
คอ่ นขา้ งจะสมบรู ณท์ ีเดียวเพ่อื จะใชป้ ระกอบการทาํ
วิจยั แบบทดลองปฏิบตั ิ เม่อื อาจารยผ์ สู้ อนทา่ น
ดงั กลา่ วไดเ้ ห็นผลงานออกมาเป็นรูปธรรมเชน่ นนั้
ท่านถงึ กบั องึ้ แลว้ กลา่ ววา่ “หนทู าํ ไดข้ นาดนีเ้ ชียว
หรอื ”
“คะ่ ก็หนไู ดเ้ รยี นจากคอรส์ ท่ีอาจารยส์ อนน่ะ
คะ่ ”
“แตอ่ าจารยใ์ หห้ นู B เองอะ่ ”
“ออ้ ไมเ่ ป็นไรค่ะ เคร่อื งคอมพิวเตอรข์ องหนู
มนั ขดั ขอ้ งจรงิ ๆ”
“ครูขอโทษนะ”
“ไมเ่ ป็นไร หนไู ดเ้ รยี นรูแ้ ลว้ ก็ไดเ้ ห็นประโยชน์
ว่าทาํ ไดจ้ รงิ แคน่ ีก้ เ็ พียงพอแลว้ หนมู าเรยี นเพ่อื ให้
ไดค้ วามรู้ ไมใ่ ช่เพ่ือเกรดค่ะ”
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 248
จาก ณ วนั นนั้ วนั ท่ยี งั ไมม่ หี นงั สอื เร่อื ง
mindset ออกมาจาํ หน่าย แตก่ แ็ สดงใหเ้ หน็ ว่า คนท่ี
มแี นวคดิ แบบ fixed หรอื growth mindset ก็มอี ยู่
ท่วั ไปในโลกใบนี้ หากแตว่ ่าใครจะเลือกเป็นแบบ
ไหน ซ่งึ จะทาํ ใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ ในชีวติ ท่ี
แตกตา่ งกนั ไป
คิดอีกแลว้ (Flash Thought) หนา้ 249