The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อาหารจากธัญพืช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

อาหารจากธัญพืช

อาหารจากธัญพืช

Keywords: ธัญพืช

50 ปี กรมส่งเสรมิ การเกษตร

(พ.ศ. 2510 - 2560)

ความหมายของตราสัญลกั ษณ์

l ตัวเลข 50 พร้อมข้อความ “50 ปี กรมสง่ เสรมิ การเกษตร” และ
ตราสัญลกั ษณก์ รมส่งเสรมิ การเกษตร แทนวาระครบรอบ 50 ปี
สถาปนากรมสง่ เสรมิ การเกษตร ออกแบบให้ตวั เลข 50 เก่ยี วพันกนั
เหมอื นสญั ลักษณ์ infinity ซึ่งหมายถงึ ความไมม่ ที ส่ี ิน้ สดุ
l ใบไม้ แสดงถึงสญั ลักษณ์ทางการเกษตร มาจากตราสญั ลักษณป์ ระยกุ ต์
ของกรมสง่ เสริมการเกษตร
ความหมายเป็น 50 ปีท่ีมุ่งม่ันปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง
ดว้ ยความสามคั คีและเป็นน�้ำหนง่ึ ใจเดยี วกนั เปน็ ผสู้ ง่ เสริมนำ� ความสำ� เร็จ ความกา้ วหนา้
มาสู่กิจการเกษตรกรรมด้านต่างๆ และมีการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรเพ่ือประโยชน์
แก่เกษตรกรตลอดไป



เอกสารค�ำแนะน�ำที่ 1/2561

อาหารจากธัญพืช

พมิ พ์ครงั้ ที่ 1 : จำ� นวน 5,000 เล่ม เมษายน พ.ศ. 2561
จัดพิมพ ์ : กรมส่งเสรมิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พิมพท์ ่ี : บริษทั นวิ ธรรมดาการพิมพ์ (ประเทศไทย) จำ� กดั

คำ�นำ�

กระแสการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ธัญพืช
นับเป็นพืชอาหารอีกทางเลือกหนึ่งท่ีมีความน่าสนใจ
ไดร้ บั การยอมรบั วา่ มคี ณุ คา่ ทางอาหารสงู เพราะมที ง้ั วติ ามนิ
แร่ธาตุต่างๆรวมท้ังยังให้โปรตีนสูง และมีไขมันดีท่ีเป็น
ประโยชน์ต่อร่างกาย ธัญพืชเป็นอาหารท่ีเหมาะกับคน
ทุกเพศทุกวัย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
กับช่วงวัยตามหลักโภชนาการ
กรมสง่ เสรมิ การเกษตรจงึ ไดจ้ ดั ทำ� เอกสารคำ� แนะนำ�
เรื่อง “อาหารจากธัญพืช” ข้ึน เพ่ือรวบรวมสูตรอาหาร
ท้ังคาวหวาน จากธัญพืชชนิดต่างๆซึ่งจะเป็นประโยชน์
แกผ่ ทู้ ส่ี นใจ สามารถนำ� ไปปรงุ ประกอบอาหารและสามารถ
นำ� ไปประยกุ ต์สตู รอาหารได้อยา่ งหลากหลายอกี ดว้ ย

กรมสง่ เสริมการเกษตร
2561

สารบัญ

357

9 11 13

15 17 11
13
อาหารคาว 3 หอ่ หมกปลากราย 15
5 หมีก่ รอบ 17
ข้าวอบธัญพืช 7 หลนถั่วทรงเครอื่ ง
ข้าวเกรยี บถัว่ ด�ำ 9 ฮ่อยจ๊อปู
โจ๊กลกู เดอื ย
น�้ำสลัดครีม (มายองเนส)

สารบญั

19 20 21

23 25 26

27

อาหารหวาน 19 ลูกเดือยอบกรอบ 25
20 หม้อแกงขา้ วโพดหวาน 26
นำ�้ นมข้าวโพด 21 ไอศกรีมรสวานลิ า 27
วุ้นธัญพชื 23
บวั ลอยนำ�้ ขิง
ลกู เดือยเปยี กทรงเคร่ือง

บทนำ�

ธัญพืช เป็นค�ำใช้เรียกพืชที่ให้เมล็ดส�ำหรับใช้เป็นอาหาร และได้รับ
การยอมรับว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีท้ังวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ ให้โปรตีนสูง
และมีไขมนั ดที ีเ่ ปน็ ประโยชน์แกร่ า่ งกาย สำ� หรบั ประเทศไทยเรามคี วามหลากหลาย
ของธญั พชื ในเขตรอ้ นอยมู่ าก เนอื่ งจากมสี ภาพภมู อิ ากาศรอ้ นชน้ื ทมี่ อี ณุ หภมู สิ งู กวา่
20 องศาเซลเซียส ท�ำให้สามารถปลกู ธัญพืชหลักอยา่ ง “ข้าว” ในปริมาณมากได้
และเมอื่ หลงั ฤดกู าลเกบ็ เกย่ี วขา้ วแลว้ พนื้ ทน่ี าขา้ วยงั เหมาะสมทจี่ ะเพาะปลกู ธญั พชื
ชนิดอื่นได้อีกด้วย เช่น ข้าวโพด ลูกเดือย ข้าวเหนียวด�ำ เม็ดบัว งาขาว งาด�ำ
เมล็ดถั่วต่างๆ เป็นต้น พืชเหล่านี้ไม่ต้องการน้�ำมาก มีความทนแล้งในระยะ
เจริญเติบโตได้ การปลูกธญั พชื เหลา่ น้เี ปน็ พืชหลงั นานนั้ นอกจากจะท�ำให้เกษตรกร
มรี ายไดท้ เ่ี พมิ่ ขนึ้ แลว้ ยงั ชว่ ยปรบั สภาพดนิ เพมิ่ แรธ่ าตุ และลดปญั หาโรคและแมลง
ไดอ้ กี ดว้ ย สำ� หรบั ผบู้ รโิ ภคอยา่ งเรา การเลอื กรบั ประทานธญั พชื นนั้ ควรเลอื กรบั ประทาน
ธญั พชื ใหไ้ ดป้ ระโยชนส์ งู สดุ นน้ั ตอ้ งรบั ประทานธญั พชื ทไี่ มผ่ า่ นกระบวนการ ขดั สี บด
หรือแปรสภาพให้เปน็ ผง (แปง้ ) เพราะธญั พืชเหล่าน้จี ะสูญเสียคุณค่าทางอาหารไป
คอ่ นขา้ งมากในระหวา่ งการแปรรปู การนำ� ธญั พชื เตม็ เมลด็ มาประกอบอาหารโดยตรง
จึงท�ำให้ได้รับประโยชน์จากธัญพืชได้มากกว่า งานวิจัยมากมาย
พูดถึงประโยชน์ของการรับประทานธัญพืชว่า ช่วยบ�ำรุงร่างกาย
ในด้านต่างๆ ช่วยต้านความเสื่อมถอย ช่วยชะลอวัย
ช่วยในการควบคุมน้�ำหนัก ลดไขมัน
ในรา่ งกายได้ จะชว่ ยใหผ้ วิ พรรณดี
ยงั ชว่ ยสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ของรา่ งกาย
ตอ่ เชอ้ื โรคจากภายนอกไดเ้ ปน็
อย่างดี

1 กรมสง่ เสริมการเกษตร

ก า ร รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร จ า ก ธั ญ พื ช
หลากหลายชนิด นอกจากจะได้รับ
สารอาหารท่ีมีคุณค่าหลากหลายชนิดแล้ว ยังช่วยไม่ให้
สารอาหารอย่างใดอย่างหน่ึงสะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไป
จนกลับกลายเป็นโทษกับร่างกายเสียเอง ดังน้ัน ธัญพืชจึงเป็นอาหาร
ทเี่ หมาะกบั คนทกุ เพศทกุ วยั ไมว่ า่ จะไปประกอบอาหารหรอื รบั ประทานเลน่
เป็นอาหารว่าง อย่างไรก็ดีควรรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับ
ชว่ งวยั ตามหลกั โภชนาการ และนอกจากนกี้ อ่ นทจี่ ะนำ� ธญั พชื มาประกอบอาหารหรอื
มารับประทานทุกครั้ง ควรสังเกตบรรจุภัณฑ์และสถานที่เก็บให้ดีเสียก่อน
เพราะหากบรรจุภัณฑ์ช�ำรุด อาจท�ำให้เมล็ดธัญพืชได้รับความชื้นท่ีเหมาะแก่
การเจรญิ ของจุลินทรีย์ เช้ือรา ซ่ึงจะก่อให้เกดิ ผลเสียต่อผู้บริโภคได้
แท้จริงแล้วการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพนั้นควรเริ่มจากอาหารท่ีมี
อยู่ในท้องถ่ินอย่างประเทศไทยเราก่อน เน่ืองจากเมล็ดธัญพืชหาง่าย ราคาถูก
และสามารถปลูกได้ในประเทศไทย ซ่ึงมีให้เลือกสรรอยู่มากมายตามความต้องการ
และยังสามารถน�ำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนู
ตามความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค
ในการจัดท�ำเอกสารคร้ังนี้ จึงเป็นการ
รวบรวม และคดิ คน้ ตำ� รบั อาหารจากธัญพืช
เพื่อให้สามารถน�ำไปดัดแปลงหรือเป็น
ต้นแบบสูตรในการปรุงประกอบอาหาร
ท่ีมีความหลากหลายและมีสารอาหาร
ท่ีเหมาะสมแก่ร่างกาย โดยไม่จ�ำเจ
ไดอ้ ีกดว้ ย

2อาหารจากธญั พชื

3 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

อาหารคาว

ข้าวอบธญั พืช

สว่ นผสม

ข้าวสารหอมมะลิ 2 ถว้ ยตวง ถ่ัวแดงตม้ สุก 1 ถว้ ยตวง
(ควรเปน็ ข้าวเก่า) เม็ดบัวต้มสุก 1/2 ถว้ ยตวง
เห็ดหอมแหง้ 5 ดอก ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
เผอื ก 1 1/2 ถ้วยตวง ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
กุนเชียง 100 กรัม น้ำ� ตาลทราย 1 ชอ้ นโต๊ะ
หมู 3 ชน้ั 100 กรัม น�้ำมันพืชส�ำหรับทอด 2 ถ้วยตวง
กุ้งแหง้ 30 กรมั นำ้� มนั พชื ส�ำหรบั ผัด 3 ชอ้ นโตะ๊
กระเทียมสับหยาบๆ 1 ช้อนโต๊ะ นำ�้ เปลา่ (ส�ำหรับหุงข้าว) 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ�

1. ซาวขา้ วดว้ ยนำ�้ สะอาด 1 ครัง้ ใส่กระชอนพักไว้
2. นำ� เห็ดหอมแห้งแชน่ ้ำ� ท้งิ ไว้ รอจนเหด็ หอมนมิ่ น�ำขน้ึ บีบนำ้� ออก ตัดขัว้ ทิ้งหัน่ เปน็ ชิ้นตามยาว
3. ปอกเปลือกเผอื ก และหั่นเป็นสี่เหลย่ี มลกู เต๋า
4. กุนเชยี งหน่ั แนวเฉียงๆ ให้ชน้ิ ค่อนขา้ งหนา
5. หมู 3 ช้ัน ล้างน้�ำ ผ่งึ ให้แหง้ ห่ันเป็นชิ้นขนาดพอดี
6. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น�้ำมันใช้ไฟกลาง น�้ำเผือกลงไปทอด พอผิวตึงๆ ตักข้ึนพักไว้ กุ้งแห้ง
ทอดพอสุกตักข้ึนพกั ไว้
7. เทน�้ำมันทใ่ี ชท้ อดแลว้ ออก ใสน่ ้ำ� มนั สำ� หรบั ผดั พอน้ำ� มนั รอ้ นได้ท่ี ใส่กระเทียมเจยี วใหห้ อม
8. ใสห่ มู 3 ช้ัน ผัดใหเ้ ขา้ กันสักครู่ ใส่เหด็ หอม เผือก กุนเชียง ที่เตรยี มไว้ ลงผดั ในกระทะ
9. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส น้�ำตาลทรายลงไป ปรงุ รสตามชอบ
8. ใสก่ ุ้งแหง้ ถ่วั แดง เม็ดบัว ผดั ตอ่ ใหเ้ ข้ากนั
9. น�ำข้าวสารท่ีเตรียมไว้ ลงไปผัดในกระทะ จนเมล็ดขา้ วสารเปล่ียนสี
10. ตักใส่หมอ้ เตมิ นำ้� เปลา่ หุงจนสุก
11. จัดใสจ่ าน หรอื ภาชนะอน่ื ๆ เช่น กระบอกไมไ้ ผ่ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม

4อาหารจากธญั พืช

5 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

ข้าวเกรียบถัว่ ดำ�

ส่วนผสม

ถว่ั ด�ำต้มบดละเอียด 1/3 ถ้วยตวง พริกไทยป่น 1 ชอ้ นชา
ผงชาโค 2 ช้อนชา เกลือป่น 1 1/2 ชอ้ นชา
แป้งมนั ส�ำปะหลงั 2 ถว้ ยตวง น�้ำตาลทราย
กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ� เดือด 1 ชอ้ นโต๊ะ
รากผกั ชี 1 ช้อนชา 4/3 ถว้ ยตวง

วธิ ีทำ�

1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยปน่ เข้าดว้ ยกันจนละเอยี ด
2. ผสมเครื่องที่โขลกกับถั่วดำ� และผงชาโค นวดใหเ้ ขา้ กนั ใส่แปง้ ลงนวด
3. ละลายเกลือป่น น�้ำตาลลงในน้�ำเดือด 1/3 ถ้วยตวง ค่อยๆ ใส่น้�ำลงในส่วนผสมในข้อท่ี 2
นวดใหส้ ่วนผสมปั้นได้เปน็ ก้อนยาว เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 1 น้วิ
4. ปลู ังถึงด้วยผ้าขาวบางหรือใบตอง วางแป้งท่ีปนั้ แลว้ ลงในลงั ถงึ นงึ่ ด้วยน�้ำเดอื ดไฟแรงจนสุก
ประมาณ 45 นาที
5. นำ� ออกมาจากลังถงึ พง่ึ ลมให้หมาด หั่นเปน็ แวน่ บางๆนำ� ไปตากแดดจนแหง้ สนทิ
6. เวลารับประทานทอดในนำ้� มันรอ้ นพอสุกพองกรอบตกั ขึน้

หมายเหตุ :
● นำ้� เดือดท่นี ำ� มานวดแป้งควรเปน็ นำ�้ เดือดและเทลงในแป้งใช้พายคนใหเ้ ขา้ กัน
● การปั้นแป้งเพ่ือน�ำไปน่ึงสามารถท�ำได้หลายวิธี เช่น เม่ือปั้นแท่งแป้งเรียบร้อยแล้ว
สามารถห่อด้วยพลาสติกทนความร้อนมัดหนังยางท้ังด้านบนและล่างน�ำไปน่ึงในไอน�้ำเดือด
จนสกุ พกั ใหเ้ ยน็ เกบ็ ไวใ้ นตูเ้ ย็นพอแขง็ นำ� มาห่นั บางๆ ตากแดด

6อาหารจากธัญพืช

7 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

โจ๊กลกู เดือย

ส่วนผสม

ปลายข้าวหอมมะล ิ 1/4 ถ้วยตวง ตน้ หอมซอย 1 ชอ้ นชา
ลูกเดอื ยตม้ สุก 1/4 ถว้ ยตวง พริกไทยปน่ (สำ� หรบั โรยหนา้ )
หมูสับละเอยี ด 3 ชอ้ นโตะ๊ น้ำ� 300 มิลลลิ ติ ร
ซอี ๊ิวขาว 1/4 ชอ้ นชา ขงิ ออ่ นซอยละเอยี ด 1 ช้อนชา
เกลือปน่ 1/4 ช้อนชา

วิธที ำ�

1. นำ� ลกู เดอื ยคดั สง่ิ สกปรกออก ลา้ งนำ�้ สะอาด และแชน่ ำ้� คา้ งคนื 1 คนื กอ่ นนำ� ไปนงึ่ ควรลา้ งนำ�้
ใหส้ ะอาดหลายๆครัง้
2. นึ่งลูกเดอื ยใหส้ ุกน่มิ พักไว้
3. ซาวปลายขา้ วหอมมะลดิ ว้ ยน้ำ� สะอาด 1 ครง้ั ใส่กระชอนพักไว้ใหส้ ะเดด็ น�ำ้
4. นำ� นำ�้ ใส่หม้อตั้งไฟแรง รอใหเ้ ดอื ดจึงใสข่ ้าวลงไป คนเป็นระยะๆ ใหเ้ ขา้ กนั
5. พอเริ่มเดือดอกี ครงั้ ให้หร่ไี ฟอ่อน คนไปเร่ือยๆ จนขา้ วสกุ และเนือ้ เนียน
6. ใส่หมูสบั ใสล่ ูกเดือยตม้ สุก หมน่ั คนใหเ้ ข้ากนั
7. ทิ้งไว้พอเร่มิ เดือด เตมิ ซอี ๊วิ ขาว หรือ เกลือป่น เล็กน้อย คนไม่ให้ตดิ กน้ หม้อ ชมิ ดูให้พอดี
8. ตักเสิรฟ์ ร้อนๆ ใส่ไขล่ วก โรยหนา้ ด้วยตน้ หอมซอย ขงิ ซอย พริกไทยป่น เลก็ น้อย

หมายเหตุ : ลูกเดอื ยทส่ี ุกแลว้ สามารถเกบ็ ใส่ภาชนะสะอาดปดิ สนทิ ไวใ้ นตู้เย็นได้ 3 – 5 วัน
ถา้ ตอ้ งการใสไ่ ข่ ให้ใสไ่ ขล่ วก (โดยใช้ไขไ่ ก่ลวกในนำ�้ เดือด ประมาณ 3 นาที)

8อาหารจากธัญพชื

9 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

น�้ำสลัดครีม (มายองเนส)

สว่ นผสม 2 ฟอง พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
1/2 ถ้วยตวง นำ�้ ตาลทราย 1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 1/3 ถว้ ยตวง นำ้� มันพชื 2 ถ้วยตวง
นมข้นหวาน 1/3 ถว้ ยตวง ถวั่ ดำ� ตม้ สกุ 1/4 ถ้วยตวง
นำ�้ มะนาว งาขาวค่ัวบดละเอียด 2 ชอ้ นโตะ๊
นำ้� สม้ สายช ู 3 ช้อนชา งาดำ� คัว่ บดละเอยี ด 2 ชอ้ นโต๊ะ
เกลอื ปน่ 2 ช้อนชา
มสั ตาร์ดครีม

วิธที ำ�

1. ใส่นมข้นหวาน น้�ำมะนาว น�้ำส้มสายชู เกลือป่น มัสตาร์ดครีม พริกไทยป่น น�้ำตาลทราย
และไข่ไก่ ลงในโถปัน่ เปิดเครอื่ งใหท้ �ำงานดว้ ยความเรว็ สงู สดุ ของเครอ่ื งนาน 1 นาที
2. ใส่น�้ำมันพืชหรือน�้ำมันมะกอกทีละน้อยลงในโถปั่นท่ีมีส่วนผสมในข้อที่ 1 ใส่ถ่ัวด�ำ งาขาว
และงาด�ำ ตีจนสว่ นผสมเขา้ กนั เทส่วนผสมท่ีเสรจ็ แลว้ ลงในภาชนะ
3. เกบ็ ใสภ่ าชนะสะอาด ปิดสนิท แช่ต้เู ย็นส�ำหรบั รบั ประทานกบั ผกั สลดั

หมายเหตุ :
● ปรมิ าณน้ำ� สลดั ครีมทำ� สำ� เร็จประมาณ 900 กรัม
● บรรจุภาชนะ ถ้วยละ 90 กรัม ได้ 10 ถว้ ย

10อาหารจากธัญพชื

11 กรมสง่ เสริมการเกษตร

หอ่ หมกปลากราย

ส่วนผสม

ปลากราย 1 ถ้วยตวง ใบโหระพา 1 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะท ิ 1 3/4 ถว้ ยตวง ใบมะกรดู ห่ันฝอย 2 ใบ
แปง้ ขา้ วเจ้า 1 ช้อนชา พริกช้ีฟ้า 1 เม็ด
เกลือป่น (ใสใ่ นกะทริ าดหน้า) 1/2 ช้อนชา ผักชี 1 ตน้
นำ�้ พริกแกงเผ็ด 1/3 ถว้ ยตวง น�ำ้ ปลา 3 ชอ้ นโตะ๊
ถั่วดำ� ตม้ สุก 1/2 ถว้ ยตวง น�ำ้ ตาลปบ๊ี 1-2 ช้อนชา
ถว่ั เขียวซีกเลาะเปลือกตม้ สกุ 1/4 ถ้วยตวง หัวกะทิ (สำ� หรบั ราดหน้าหอ่ หมก) 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก ่ 1 ฟอง ใบตองสำ� หรบั ท�ำกระทง
ผกั กาดขาวฝอย 2 ถ้วยตวง

วธิ ีทำ�

1. ใส่หัวกะทิส�ำหรับราดหน้าห่อหมก 1/2 ถ้วยตวง เกลือป่น แป้งข้าวเจ้า ผสมคนให้เข้ากัน
ตง้ั ไฟออ่ นพอข้น ยกขึ้นเตรียมไวห้ ยอดหน้าห่อหมก
2. ท�ำกระทงใบตองโดย ตัดใบตองเป็นรูปวงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 นิ้ว น�ำใบตอง
รูปวงกลม 2 ช้ิน วางซ้อนกันแนวนอน 1 ช้ิน แนวต้ัง 1 ชิ้น เพอ่ื ไมใ่ หใ้ บตองขาดเยบ็ มมุ สี่มุม
เปน็ กระทงประมาณ 12 ชนิ้
3. เตรียมผัก ใบโหระพาเด็ดใบ ผักกาดขาวฝอย ลวกสุกผ่านน�้ำเย็นบีบออกให้แห้ง
ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกช้ีฟ้าหั่นเอาเสน้ ยาวเลก็ ผกั ชีเดด็ ใบ
4. ใส่น�ำ้ พริกแกงเผ็ด ปลากราย หัวกระทิ 1 3/4 ถ้วยตวง ค่อยๆ เติมกะทิ ในอา่ งผสมใชพ้ ายไม้
คนไปในทางเดียวกัน จนส่วนผสมข้น ใส่ถ่ัวด�ำต้มสุกและถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกต้มสุก
คนใหเ้ ข้ากัน ใสไ่ ขค่ นตอ่ ให้เขา้ กัน ปรงุ รสด้วยน�้ำปลา นำ้� ตาลป๊ีป คนตอ่ จนส่วนผสมเข้ากันดี
5. ใส่ผักท่ีเตรียมไว้ในกระทงใบตอง ใส่ส่วนผสมข้อท่ี 4 ให้เต็มกระทง วางเรียงลงลังถึง
นึ่งใช้ไฟปานกลาง 10 นาที เปิดฝาลังถึง หยอดกะทิ ตกแต่งหน้าด้วยใบมะกรูด พริกแดง
และผกั ชี นงึ่ ตอ่ อีก 2 นาที
6. ยกลงจดั เสิร์ฟ

12อาหารจากธัญพชื

หม่กี รอบ

ส่วนผสม

เสน้ หมี ่ 1 หอ่ พริกแดงหนั่ ฝอย 1 เม็ด
กุ้งสดหั่นชนิ้ เล็กๆ 1/4 ถว้ ยตวง ผักชเี ดด็ เป็นใบๆ 1 ต้น
เนอื้ หมูหั่นชิน้ เล็กๆ 1/4 ถว้ ยตวง กระเทียมดองหัน่ บางๆ 2 ชอ้ นโต๊ะ
เตา้ หูเ้ หลอื งหนั่ ช้นิ เลก็ ๆ 1/2 ถ้วยตวง ไข่เป็ด 2 ฟอง
เทา่ ก้านไมข้ ีดทอดกรอบ เปลือกผิวสม้ ซ่าหัน่ ฝอย 1 ชอ้ นโต๊ะ
กระเทียมสบั 1 ชอ้ นโต๊ะ ถ่ัวลิสงซอยตามยาวเม็ดค่วั 1/2 ถ้วยตวง
หอมแดงสับ 1 ชอ้ นโต๊ะ ถว่ั เขียวเลาะเปลือก อบ 1/2 ถว้ ยตวง
ถ่ัวงอก 1/2 ถ้วยตวง น้ำ� มัน (สำ� หรับทอด) 4 ถ้วยตวง
กยุ ช่าย 1 ถว้ ยตวง น�้ำมัน (ส�ำหรบั ผัด) 5 ช้อนโต๊ะ

13 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

เครื่องปรงุ 1 ชอ้ นโตะ๊
3 1/2 ชอ้ นโตะ๊
เตา้ เจ้ียว
น�้ำสม้ สายชู 3 ช้อนโต๊ะ
นำ�้ ปลา 3/4 ถว้ ยตวง
น้ำ� ตาลปี๊บ 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
น�้ำมะนาวและน้ำ� สม้ ซา่
ซอสมะเขือเทศ 2 ชอ้ นโตะ๊
เกลอื ป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำ� ตาลทราย (สำ� หรับโรยคลุกหมี่กรอบ)
พรกิ ป่น 1 ช้อนโต๊ะ
1 ช้อนชา

วิธีทำ�

1. แชเ่ สน้ หมใ่ี นนำ้� 1 นาที นำ� ขนึ้ ใหส้ ะเดด็ นำ้� แผเ่ สน้ หมบ่ี นตะแกรงผง่ึ พอหมาด ทอดในนำ้� มนั รอ้ นๆ
ให้เหลอื งกรอบใช้ไฟปานกลาง
2. ใส่น�้ำมัน ผัดกระเทียม หอมแดง เจียวให้เหลืองอ่อนๆ จากน้ันใส่ซอสมะเขือเทศกับน�้ำมัน
ส�ำหรับผัด 5 ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะตัง้ ไฟ ใสห่ อม ใสห่ มูและกงุ้ ลงผัด ปรุงรสดว้ ยเต้าเจีย้ ว
นำ�้ ส้มสายชู น้�ำปลา นำ�้ ตาลปีบ๊ เกลือปน่ พริกป่น ผัดจนเหนียว ใส่น�ำ้ มะนาวและน�้ำสม้ ซ่า
ผัดหรือคนใหเ้ ข้ากันชิมรส 3 รส
3. ใส่เส้นหมี่ลงคลุกไฟอ่อนๆ ให้ทั่วเส้นเกาะกัน โรยน�้ำตาลทรายให้ทั่ว ใส่เต้าหู้ ถั่วลิสงค่ัว
ถ่ัวเขียวและเปลือกผิวส้มซา่ หั่นฝอย คลุกให้เขา้ กัน จดั ใส่จานใสไ่ ขท่ อดกรอบ
4. โรยกระเทยี มดอง ผกั ชี พรกิ แดง ถว่ั งอก ใบกยุ ชา่ ยขา้ งๆ จาน

วธิ ที ำ�ไขท่ อดกรอบ

ตไี ขพ่ อแตก เทลงในกระชอน ใสใ่ นกระทะ ทมี่ นี ำ้� มนั รอ้ นใชไ้ ฟปานกลาง แกวง่ กระชอนไปมา
สูงพอประมาณ ไข่จะลงกระทะเป็นสายๆ พอเตม็ กระทะทอดจนเหลืองกรอบ

14อาหารจากธญั พืช

หลนถั่วทรงเครอ่ื ง

สว่ นผสม 1/2 ถว้ ยตวง หอมแดงซอย (2) 1/2 ถว้ ยตวง
5 ชอ้ นโตะ๊ พรกิ ชฟี้ ้าแดง เขียว เหลือง 3 เมด็
เตา้ เจี้ยวขาวอย่างดี ถว่ั เขยี วต้มสุก 1/4 ถ้วยตวง
หอมแดงซอย (1) 1/2 ถ้วยตวง ถว่ั แดงต้มสุก 1/2 ถ้วยตวง
เนื้อหมสู บั ละเอยี ด 3/4 ถ้วยตวง ถ่ัวด�ำต้มสุก 1/4 ถ้วยตวง
กงุ้ สบั หยาบ
กะทิ 2 ถว้ ยตวง

15 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

เครอ่ื งปรงุ

น้ำ� ตาลป๊ีบ 3 1/2- 4 1/2 ชอ้ นโตะ๊
น้ำ� มะขามเปียก 1/2 ถว้ ยตวง
เกลือสมทุ รปน่

ผกั สด 5 ลกู ถัว่ ฝกั ยาว 8 ฝกั
10 แงง่ ถวั่ พู 15 ฝกั
แตงกวา 5 ลกู
ขมน้ิ ขาว
มะเขือเปราะ

วิธที ำ�

1. ใส่เต้าเจี้ยวในกระชอน เปิดน้�ำไหลผ่านล้างเต้าเจ้ียวให้คลายความเค็ม ซอยหอมแดงบางๆ
เนอ้ื หมสู บั ใหล้ ะเอยี ด กงุ้ ลา้ งสะอาดแกะเปลอื กกงุ้ เอาหวั หางออก ผา่ หลงั ดงึ เสน้ ดำ� ออกสบั หยาบ
2. โขลกเต้าเจ้ียวหลนกบั หอมแดงซอย (1) 5 ชอ้ นโต๊ะ ใหล้ ะเอียด ใสเ่ นือ้ หมู เนอื้ กุง้ โขลกต่อ
ใหเ้ ข้ากนั หรือคนให้เข้ากนั พักไว้
3. ละลายเครื่องที่โขลกไว้กับกะทิ ต้ังไฟใช้ไฟปานกลาง พอเดือดปรุงรสด้วยน้�ำตาลปี๊บ
น้�ำมะขามเปียก เกลือสมุทรป่น ใส่ถ่ัวเขียว ถั่วแดง ถ่ัวด�ำ ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง ชิมรส
ใส่หอมแดงซอย (2) 1/2 ถว้ ยตวง พรกิ ชี้ฟ้าเมอ่ื พริกสุกยกลง
4. รบั ประทานกับผกั สด เช่น แตงกวา ขม้นิ ขาว มะเขือเปราะ ถ่วั ฝกั ยาว ถั่วพู ฯลฯ

หมายเหตุ
● การหลนเต้าเจยี้ วระวงั การตม้ อยา่ ใหแ้ ตกมัน เนื้อหลนจะเปน็ ลูกๆ
● การเตมิ เนอ้ื หมู และกุง้ ลงในสว่ นผสมอย่าให้กะทริ ้อนมาก เน้ือสตั ว์ จะเป็นก้อนๆ
● การต้มถว่ั ทุกชนิด ควรแชน่ �้ำ ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนน�ำไปตม้ ให้สุก

16อาหารจากธญั พืช

ฮอ่ ยจอ๊ ปู

สว่ นผสม 1 ถว้ ยตวง
2 1/2 ถ้วยตวง
เน้ือป ู
กุ้งแชแ่ ขง็ 1 ถ้วยตวง
เนอื้ หมู 1 ถว้ ยตวง
หมบู ด 3/4 ถว้ ยตวง
มันหมหู นั่ ส่ีเหลีย่ ม 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมนั สำ� ปะหลงั 1 ชอ้ นโต๊ะ
พรกิ ไทยขาว

17 กรมส่งเสรมิ การเกษตร

กระเทียม 2 ช้อนโตะ๊
รากผกั ชี 2 ชอ้ นโต๊ะ
มนั แกวขดู บีบน้ำ� ท้ิง 1/2 ถว้ ยตวง (แหว้ หนั่ สีเ่ หลย่ี ม 100 กรมั )
ไขไ่ ก่ 1 ฟอง
เกลอื ปน่ 1 ชอ้ นชา
น้ำ� ตาลทราย 2 ชอ้ นโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ชอ้ นโตะ๊
ตน้ หอมซอย 1/3 ถว้ ยตวง
ผงปรุงรส 2 ช้อนโตะ๊
เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ
ฟองเต้าหู้ (ฮกู่ )ี่ 2 แผ่น
น้ำ� จิ้มบว๊ ย 1 ถ้วย

วธิ ที ำ�

1. แกะเปลือกกุ้งผ่าหลังดึงเส้นด�ำออกมาคลุกเคล้ากับแป้งมันส�ำปะหลังแล้วจึงล้างผ่านน�้ำ
จนน้ำ� ใส นำ� ข้นึ พักใหส้ ะเด็ดน้�ำแช่ช่องแขง็ 30 นาที
2. โขลกรากผกั ชีกระเทยี มพรกิ ไทยใหล้ ะเอยี ด
3. ตกี ้งุ ให้แตกหา้ มสับ เตรียมไว้
4. น�ำส่วนผสมข้อท่ี 2 ข้อท่ี 3 และมันหมู หมูบดลงเคร่ืองผสมอาหารใช้หัวตีรูปตัว k
เติมเบคก้ิงโซดา เปิดเครอ่ื งใช้ความเร็วปานกลางนาน 5 นาที ปรบั ความเร็วตำ�่ เตมิ เกลือปน่
นำ�้ ตาลทราย ซอี ว๊ิ ขาว ผงปรงุ รส และมนั แกวขดู ใหส้ ว่ นผสมเขา้ กนั เตมิ ไขไ่ ก่ แปง้ มนั สำ� ปะหลงั
เนอื้ ปู และตน้ หอมซอยลงไปพอเขา้ กันพักไว้ในช่องแชแ่ ข็งประมาณ 20 นาที
5. เตรียมฟองเต้าหู้ตัดชิ้นสี่เหล่ียม พรมน�้ำบนฟองเต้าหู้ให้นิ่มเล็กน้อย ใส่ไส้ม้วนท่ีเตรียมไว้
ใหเ้ ป็นรูปทรง มัดด้วยเชอื กเป็นปล้องๆ ขนาด 1 – 1 1/2 นิว้ ตามตอ้ งการ
6. นำ� ไปนงึ่ 15 - 20 นาที นำ� ออกมาผงึ่ บนตะแกรงใหค้ ลายรอ้ นตดั เชอื กทง้ิ นำ� ไปทอดในนำ้� มนั รอ้ น
ไฟปานกลางใหฟ้ องเต้าหดู้ ้านนอกกรอบ ด้านในนุม่
7. จดั เสิรฟ์ ค่กู บั น�ำ้ จมิ้ บ๊วย

หมายเหตุ : ถ้าไม่มีเคร่ืองผสมอาหาร สามารถใช้มีดสับส่วนผสมท่ีเป็นเน้ือสัตว์ให้ละเอียด
แล้วใช้มอื นวดหรอื ใชพ้ ายคนใหเ้ ขา้ กนั

18อาหารจากธัญพืช

อาหารหวาน

น้ำ� นมขา้ วโพด

สว่ นผสม

ขา้ วโพดหวาน 3 ฝกั น�้ำเปลา่ 3/4 ถว้ ยตวง
น�้ำใบเตย 5 ถ้วยตวง เกลอื ป่น 1 1/2 ช้อนชา
นำ�้ ตาลทรายหรอื น้ำ� ผ้ึง 3/4 ถว้ ยตวง

วธิ ีทำ�

1. ขา้ วโพดหวานปอกเปลอื ก ลา้ งใหส้ ะอาด ฝานเอาแตเ่ นอื้ ตม้ กบั นำ�้ จนสกุ ประมาณ 5-10 นาที
2. น�ำข้าวโพดหวานท่ีต้มแล้วมาปั่นให้ละเอียด ค่อยๆ ใส่น�้ำใบเตย ปั่นจนเข้ากันดี กรองด้วย
กระชอนตาละเอียด
3. น�ำข้าวโพดหวานท่ปี ั่นแล้วมาตม้ ใหเ้ ดอื ดปรงุ รสด้วยเกลือป่น น�ำ้ เชอ่ื ม จนเข้ากัน
4. บรรจนุ ้�ำนมขา้ วโพดใส่ขวด เก็บไวใ้ นตเู้ ย็น

หมายเหตุ :
● การทำ� น�้ำเชือ่ ม นำ้� ตาลทราย 3/4 ถว้ ยตวง น�ำ้ เปล่า 3/4 ถว้ ยตวง ตม้ รวมกนั และกรอง
● น�ำ้ นมข้าวโพดควรเก็บไว้ในต้เู ยน็ เพ่อื ไมใ่ ห้เสยี เร็ว

19 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

ว้นุ ธัญพชื

สว่ นผสม 10 กรมั ลกู เดือยต้มสกุ 30 กรมั
1,000 กรมั ถ่ัวแดงต้มสกุ 30 กรมั
ผงวนุ้ เมด็ บัวต้มสกุ 30 กรัม
นำ้� เปล่า 280 กรมั
น�ำ้ ตาลทราย 

วธิ ีทำ�

1. ผสมวุน้ กบั น้ำ� เปลา่ คนใหเ้ ข้ากนั นำ� ไปต้ังไฟออ่ นๆ ต้มให้เดือด
2. ใส่นำ�้ ตาลทราย คนใหเ้ ข้ากัน ยกลงจากเตาพกั ไว้
3. นำ� ลูกเดือยตม้ สุก ถั่วแดงต้มสุก เม็ดบวั ต้มสุก ใสล่ งพมิ พ์ทเี่ ตรียมไว้ หยอดส่วนผสมว้นุ ลงไป
นำ� ไปแชเ่ ยน็ ให้วนุ้ เซต็ ตวั

หมายเหตุ : ถา้ ต้องการใหว้ ุ้นมีสีสนั สวยงาม ใหใ้ ชน้ ้ำ� ใบเตยแทนท่ีน�้ำเปล่า 100 กรัม

20อาหารจากธญั พืช

บวั ลอยน้ำ� ขงิ

ส่วนผสมไส้งาดำ�

เนยขาว 1/2 ถ้วยตวง น�้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
งาด�ำคั่ว 2 ถว้ ยตวง น�้ำมันกลนิ่ ผิวสม้ 2 ชอ้ นโตะ๊
เกลือป่น 1 ช้อนชา

21 กรมสง่ เสริมการเกษตร

วิธที ำ�ไสง้ าดำ�

1. ล้างงาด�ำให้สะอาด ใส่ภาชนะตากงาให้แห้ง คั่วงาด�ำด้วยไฟอ่อนจนงาสุกและมีกลิ่นหอม
บดงาให้ละเอยี ด พักไว้
2. ใส่น�้ำตาลทรายลงในกระทะพอน�้ำตาลละลายและมีกลิ่นน้�ำตาลไหม้เล็กน้อยใส่เนยขาว
เกลอื ปน่ ลงผสมให้เขา้ กนั
3. ใส่งาด�ำบดผสมให้เข้ากันใส่น�้ำมันกล่ินผิวส้มคลุกเคล้าให้เข้ากันและจับตัวกันเป็นก้อน
ตกั ใส่ภาชนะน�ำเขา้ ตูเ้ ย็น 1 คืน
4. แบง่ งาดำ� ออกชงั่ นำ้� หนกั ประมาณ 8 กรมั ปน้ั เปน็ กอ้ นกลมนำ� ไปแชต่ เู้ ยน็ ใหไ้ สจ้ บั ตวั เปน็ กอ้ นแขง็

ส่วนผสมแปง้

แปง้ ข้าวเหนยี ว 2 ถ้วยตวง ใบเตย 5 ใบ
นำ�้ เยน็ 1/2–1/3 ถว้ ยตวง

วธิ ีทำ�แป้ง

1. ใส่แป้งข้าวเหนียวลงในภาชนะค่อยๆใส่น้�ำเย็นลงในแป้งทีละน้อยจนแป้งจับตัว นวดให้แป้งนุ่ม
แบง่ แปง้ น้�ำหนกั ประมาณ 10 กรัม
2. แผ่แป้งออกใส่ไส้งาด�ำลงตรงกลางห่อแป้งเข้าหากัน ระวังอย่าให้เป็นรูโดยการหุ้มให้ปิดไส้
นำ� ไปแชเ่ ยน็ 1 คนื
3. ใส่ใบเตยลงในน�้ำ ต้มน�้ำให้เดือดตักใบเตยออก ใส่แป้งบัวลอยลงต้มประมาณ 3-4 นาที
หรอื ใหแ้ ป้งบัวลอย ลอยข้ึนมาตกั ใส่น�ำ้ เยน็ พอคลายร้อนตกั ใส่ถ้วย เติมน้�ำขิง จดั เสริ ฟ์ รอ้ นๆ

สว่ นผสมนำ้� ขิง 3 แงง่ ใหญ่ น�้ำตาลออ้ ย 3 ถ้วยตวง
10 ถ้วยตวง
ขงิ แกท่ ุบใหแ้ ตก
นำ�้ เปล่า

วธิ ีทำ�

ใส่น�้ำเปล่าลงในหม้อต้ังไฟให้เดือด ใส่ขิงแก่ลงต้มประมาณ 20 นาที เติมน้�ำตาลอ้อย
คนให้นำ้� ตาลละลายพอเดอื ดอกี คร้งั ยกลงกรองจะไดน้ ำ�้ ขิงท่ีมีกลิน่ หอม

หมายเหตุ : การต้มน้ำ� ขิงไม่ควรตม้ นานเกนิ ไปจะไดน้ ำ้� ขิงที่มรี สเผ็ดเกนิ และมีกลน่ิ แรงเกนิ ไป

22อาหารจากธญั พชื

23 กรมสง่ เสริมการเกษตร

ลูกเดือยเปยี กทรงเคร่ือง

ส่วนผสม

ลูกเดือย 1 ถว้ ยตวง
นำ้� ตาลทราย 1 - 1 1/2 ถ้วยตวง
เนอื้ มะพร้าวอ่อน (ขูดเป็นเส้น) 1/2 ถว้ ยตวง
เผือกน่งึ สกุ หนั่ สี่เหล่ียมลกู เต๋า 1/2 ถว้ ยตวง
เม็ดบวั ตม้ สกุ 1/4 ถว้ ยตวง
หัวกะทิ 1 ถว้ ยตวง
เกลอื ปน่ 1/4 ช้อนชา 
แป้งขา้ วโพด (ละลายกบั นำ�้ 1/4 ถว้ ย) 1 ชอ้ นโต๊ะ
น้�ำเปลา่ 3 ถว้ ยตวง

หมายเหตุ : จะใส่ขา้ วโพด แปะก๊วย ถัว่ ตา่ งๆ เพิ่มตามชอบก็ได้

วิธีทำ�

1. นำ� ลกู เดอื ยคดั สงิ่ สกปรกออก ลา้ งนำ้� สะอาด และแชน่ ำ้� คา้ งคนื 1 คนื กอ่ นนำ� ไปตม้ ควรลา้ งนำ้�
ใหส้ ะอาดหลายๆ คร้งั
2. ตม้ ลกู เดอื ยให้สุกนมิ่ ประมาน 10 - 15 นาท ี ตักลกู เดอื ยข้นึ ใหส้ ะเดด็ นำ�้ พักไว้
3. น�้ำเปล่า ค่อยๆ เติมน�้ำตาลทราย ชิมรสหวานตามชอบ ใส่เน้ือมะพร้าวอ่อน เผือก เม็ดบัว
ลงไปคนให้เขา้ กนั
4. นำ� แปง้ ข้าวโพดมาละลายกบั นำ�้ เปลา่ จากน้นั เทลงใสห่ มอ้ คนให้เขา้ กันสักพกั ยกลง
5. ผสมหัวกะทิและเกลือป่นเข้าด้วยกัน ต้ังไฟให้เดือด ส�ำหรับราดหน้าลูกเดือยเปียกให้มี
รสเคม็ ตัดหวาน
6. เวลาเสริ ฟ์ กต็ ักขนมใสถ่ ว้ ยแลว้ ราดด้วยน้ำ� กะทิ

24อาหารจากธัญพชื

ลูกเดือยอบกรอบ

สว่ นผสม

ลกู เดือย 500 กรัม พริกไทยด�ำเม็ด 20 กรมั
ใบมะกรดู 100 กรัม น้�ำมนั พืช 1 ลติ ร (1,000 กรัม)
เกลอื ป่น 10 กรัม นำ�้ เปลา่ ส�ำหรับต้มลูกเดือย
นำ�้ ตาลทราย 50 กรมั

วธิ ีทำ�

1. นำ� ลกู เดอื ยคดั สงิ่ สกปรกออก ลา้ งนำ้� สะอาด และแชน่ ำ�้ คา้ งคนื 1 คนื กอ่ นนำ� ไปนงึ่ ควรลา้ งนำ้�
ให้สะอาดหลายๆครั้ง
2. นึ่งลกู เดอื ยให้สกุ น่มิ พักไว้
3. จากนั้นน�ำเข้าตู้อบ อณุ หภมู ิ 60 องศาเซลเซยี ส นาน 4 ชัว่ โมง (ถา้ ไมม่ ีตอู้ บใหน้ ำ� มาตากแดด)
4. นำ� ลกู เดอื ยทอี่ บไว้ มาแบง่ ทอดในนำ�้ มนั ทร่ี อ้ นจดั จนมลี กั ษณะพองฟมู สี เี หลอื งทอง (แบง่ ทอด
ครง้ั ละไมต่ อ้ งมาก ทอดจนหมด)
5. ซอยใบมะกรูดเป็นฝอยแล้วนำ� ลงทอดในน�้ำมัน พักไว้
6. ทอดพรกิ ไทยเม็ดทเี่ ตรยี มไวใ้ นนำ�้ มันพอสุก พกั ไว้
7. น�ำลูกเดือยที่ทอดแล้วใส่ภาชนะที่สามารถคลุกเคล้าได้ โรยด้วยน้�ำตาลทราย พริกไทยเม็ด
ทีท่ อดแล้ว เกลือป่น ใบมะกรดู ฝอยทท่ี อดแลว้ คลุกเคล้าเบาๆ ให้เข้ากนั
8. บรรจุในภาชนะปดิ สนทิ พร้อมรบั ประทานหรอื นำ� ไปจำ� หนา่ ย

25 กรมสง่ เสริมการเกษตร

หม้อแกงข้าวโพดหวาน

สว่ นผสม

ไขไ่ ก/่ ไข่เปด็ 8 ฟอง
น�้ำตาลมะพร้าว 2 1/2 ถว้ ยตวง + 2 ชอ้ นโต๊ะ
ใบเตย
หัวกะท ิ 5 ใบ
ข้าวโพดหวานฝานบางๆ 2 ถว้ ยตวง
หอมแดงเจียว 1/2 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ
7 ช้อนโตะ๊

วธิ ีทำ�

1. ตีไขไ่ กข่ น้ึ ฟูเติมน้�ำตาลมะพรา้ วลงในไข่
2. ขย�ำส่วนผสมไข่ น้�ำตาลมะพร้าว ด้วยใบเตยให้น�้ำตาลมะพร้าวละลายและไข่ข้ึนฟู
กรองดว้ ยผา้ ขาวบาง
3. ผสมส่วนผสมหมอ้ แกงกบั ขา้ วโพดหวานคนให้เขา้ กัน
4. เทสว่ นผสมใสถ่ าดนำ� เขา้ อบทอี่ ณุ หภมู ิ 350-400 องศาฟาเรนไฮต์ จนหนา้ ขนมเหลอื งและสกุ
ใชเ้ วลาประมาณ 30 นาที
5. วางพักใหข้ นมคลายความร้อนโรยหนา้ ด้วยหอมแดงเจียว

ทมี่ าของสตู รอาหาร : อภญิ ญา มานะโรจน์ เจตนพิ ทั ธ์ บณุ ยสวสั ด์ิ และจกั ราวธุ ภเู่ สม. 2557. “การพฒั นา
ผลิตภัณฑ์ขนมหม้อแกงจากข้าวโพดหวาน” งานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนงบประมาณเงินรายได้
คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
26อาหารจากธญั พืช

ไอศกรีมรสวานลิ า

สว่ นผสม

ถว่ั เขยี วตม้ สุก 1/2 ถว้ ยตวง วปิ ปิ้งครมี 1 ถ้วยตวง
ถ่ัวแดงต้มสกุ 1/2 ถ้วยตวง ผงเจลาติน 1/2 ชอ้ นโตะ๊
ถวั่ ดำ� ตม้ สุก 1/2 ถว้ ยตวง นมสด
น�้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง+1 ชอ้ นโต๊ะ กลน่ิ วานลิ าผง 2 ถ้วยตวง
นำ้� เดือด 1/2 ถ้วยตวง 1 ช้อนชา

วธิ ที ำ�

1. ผสมส่วนผสมที่เป็นของแหง้ เขา้ ด้วยกนั
2. ตม้ น้�ำใหเ้ ดอื ดเทใส่ลงในข้อที่ 1 คนส่วนผสมให้ละลาย
3. จากนั้นเติมนมสด วิปปิ้งครีม กล่นิ วานลิ าลงไป คนให้เข้ากนั นำ� สว่ นผสมที่ได้เข้าต้เู ยน็ แช่ไว้
ประมาณ 1 ชว่ั โมง หรือนานกว่านั้น
4. เทส่วนผสมข้อท่ี 3 ใส่ลงเครื่องปั่นไอศกรีม ใส่ถ่ัวเขียว ถ่ัวแดง ถั่วด�ำ ลงผสมรวมกัน
เปิดเครือ่ งปัน่ ไอศกรมี ปน่ั จนไอศกรมี จับตัวกัน
5. ตักใสถ่ ้วยน�ำไปแชใ่ นต้แู ช่แขง็
หมายเหตุ
● นอกจากถว่ั ที่กลา่ วมาเราสามารถเลือกใช้ถว่ั ชนิดอ่นื ๆ เพมิ่ ได้
● เนอื้ สัมผสั ของถ่วั เมอ่ื ปั่นเป็นไอศกรมี แล้วจะมลี กั ษณะแข็ง
● สามารถใชก้ ะทแิ ทนนมสดและวปิ ปง้ิ ครมี ได้

27 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

เอกสารคำ�แนะนำ�ท่ี 1/2561

อาหารจากธญั พืช

ท่ปี รกึ ษา อธิบดีกรมสง่ เสริมการเกษตร
รองอธิบดกี รมสง่ เสรมิ การเกษตร
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล รองอธิบดกี รมส่งเสริมการเกษตร
นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธบิ ดีกรมสง่ เสรมิ การเกษตร
นายสำ� ราญ สาราบรรณ์ รองอธบิ ดีกรมส่งเสริมการเกษตร
ว่าท่ีรอ้ ยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ ์ ผอู้ ำ� นวยการส�ำนกั พัฒนาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี
นางดาเรศร์ กติ ติโยภาส ผู้อำ� นวยการกองพัฒนาเกษตรกร
นางอญั ชลี สุวจิตตานนท์
นางสาวภาณี บุณยเกือ้ กลู

เรียบเรียง ผอู้ �ำนวยการกลมุ่ พัฒนาแม่บา้ นเกษตรกรและเคหกิจเกษตร
นางสาวฉัฐสิณี หาญกิตติชัย
นางขวัญจติ ต์ เกตกุ นั นักวชิ าการสง่ เสริมการเกษตรช�ำนาญการ
นางสาวพชิ ญาภัค จนั ทร์นิยมาธรณ ์ นักวิชาการสง่ เสริมการเกษตรช�ำนาญการ
นางสาวสตุ าภา ทองสมจิต นกั วิชาการสง่ เสรมิ การเกษตรชำ� นาญการ
นายเอนก มีชนะ นกั วชิ าการส่งเสรมิ การเกษตรชำ� นาญการ
นางสาวสทุ ติ า พุทธา นกั วชิ าการสง่ เสริมการเกษตรปฏบิ ตั กิ าร
นางสาวลลดิ า ศิริเสาร ์ นกั วิชาการส่งเสรมิ การเกษตรปฏิบตั ิการ
นายวโิ รจน์ กจิ ไมตรี นักวชิ าการสง่ เสรมิ การเกษตรปฏิบตั กิ าร
กลมุ่ พัฒนาแมบ่ า้ นเกษตรกรและเคหกิจเกษตร
กองพฒั นาเกษตรกร
กรมสง่ เสริมการเกษตร

ภาพ
นายอภสิ ทิ ธิ์ ลอื พกั ตร ์ หวั หนา้ กลมุ่ โสตทัศนปู กรณ์
นายกฤตวฒั น์ ขันธเศษ นายชา่ งเทคนคิ ปฏิบัติงาน
กลุ่มโสตทัศนูปกรณ์ ส�ำนักงานเลขานกุ ารกรม กรมสง่ เสรมิ การเกษตร

จัดทำ� ผ้อู �ำนวยการกลุม่ พัฒนาสือ่ สง่ เสรมิ การเกษตร
นกั วชิ าการเผยแพร่ช�ำนาญการ
นางรจุ ิพร จารุพงศ์
นางสาวอำ� ไพพงษ์ เกาะเทยี น
กลุ่มพฒั นาสอื่ สง่ เสรมิ การเกษตร
สำ� นักพฒั นาการถา่ ยทอดเทคโนโลยี
กรมส่งเสรมิ การเกษตร

www.doae.go.th


Click to View FlipBook Version