พรปีใปี หม่ The Sleeping Beauty (Valse) One Summer Day Prince of Egypt Kamado Tanjiro No Uta Plastic Love Yesterday Once More พระบาทสมเด็จ ด็ พระบรมชนกาธิเธิบศร มหาภูมิ ภู พมิลอดุลย ดุ เดชมหาราช บรมนาถบพิตพิร Pyotr Ilyich Tchaikovs Joe Hisaishi Stephen Lawrence Schwartz Go Shiina Mariya Takeuchi The Carpenter Programme
ถ้าเธอรัก รั ใครคนหนึ่ง นึ่ โลกที่ไที่ ม่มี ม่ เธ มี อ รัก รั แรกพบ Cinderella ยิน ยิ ดีที่ ดี ไที่ ม่รู้ ม่ จัรู้ ก จั 30 ยัง ยั แจ๋ว จ๋ ปัณ ปั ฑพล ประสารราชกิจกิ ธิติธิวัติฒ วั น์ รองทอง ชวรัต รั น์ หรรษคุณ คุ าฒัย ฒั PORTRAIT Tattoo Colour Tattoo Colour 25 hours ลพ บุรี บุ รั รี ต รั น์ Programme
1. กรุณาแต่งกายอย่างสุภาพ 2. ควรเดินทางถึงสถานที่ก่อนเริ่มการแสดงอย่างน้อย 30 นาที 3. ในระหว่างพักการแสดง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 10 - 15 นาที ผู้ชมควรกลับมาที่นั่งก่อนเริ่มการแสดงช่วงถัดไป 4. ไม่ลุกออกจากที่นั่งขณะรับชมการแสดง 5. กรุณาปิดเสียงเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดขณะรับชมการแสดง 6. ไม่ควรพาเด็กที่อายุต่ำ กว่า 5 ปี เข้าชมการแสดง 7. ไม่ใช้แสงแฟลชขณะบันทึกภาพและวิดีโอ เนื่องจากแสงแฟลช อาจรบกวนสมาธิของนักดนตรี ข้อ ข้ แนะนำ ในการรับ รั ชม
ในปีการศึกษา 2547 คณะกรรมการชุมนุมได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตขึ้น ในรูปแบบของ วงซิมโฟนีออร์เคสตรา (symphony orchestra) ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นวงดนตรีคลาสสิก ขนาดใหญ่ มีความหลากหลายในชนิดของเครื่องดนตรี และถือเป็นวงดนตรีซึ่งเป็นที่ยอมรับ ในระดับนานาชาติ โดยการแสดงครั้งแรกนั้น ได้แสดงบทเพลงที่มีชื่อเสียง อาทิ บทเพลง ซิมโฟนีหมายเลข 5 ในบันไดเสียง ซี-ไมเนอร์ (Symphony No. 5 in C Minor) ของ ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน (Ludwig van Beethoven) และชุมนุมได้รับเสียงตอบรับเป็นที่พอใจ หลังจากนั้นจึงได้ขออนุมัติจากมหาวิทยาลัยเพื่อจัดตั้งเป็น “ชุมนุมวงดุริยางค์สากลแห่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ในปีพ.ศ. 2548 และยกระดับขึ้นเป็นกลุ่มกิจกรรมในสังกัดของ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพต่อไป ชุมนุมดุริยางค์สากลแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University Symphony Orchestra) เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2545 จากการรวมกลุ่มของนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีใจรักในดนตรีคลาสสิก ช่วงแรกมีสมาชิกประมาณ 10 คน ภายใต้ชื่อ “TU Chamber” สมาชิกได้มีการฝึกซ้อมและร่วมแสดงคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยชุมนุมมีโอกาสร่วมงานกับมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก ในงานครบรอบ 70 ปี การสถาปนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยเหตุนี้จึงกำ หนดให้วันที่ 27 มิถุนายน เป็นวันครบรอบของ การก่อตั้งชุมนุมมาตั้งแต่บัดนั้น Thammasat University Symphony Orchestra (TUSO)
หลังจากนั้น มีนักศึกษาทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยสนใจสมัครเป็นสมาชิกของชุมนุมเป็น จำ นวนมาก จึงมีการแบ่งเป็นกลุ่มย่อยในชุมนุมโดยใช้ชนิดเครื่องดนตรีเป็นเกณฑ์ เช่น วงดุริยางค์ เครื่องเป่า วงดุริยางค์เครื่องสาย วงดุริยางค์แชมเบอร์มิวสิก และวงซิมโฟนีออร์เคสตรา ทําให้ คณะกรรมการชุมนุมเห็นว่าชื่อชุมนุมวงดุริยางค์สากลนั้นมีความหมายแคบจนเกินไป ในพ.ศ. 2550 จึงขออนุมัติจากมหาวิทยาลัยในการเปลี่ยนชื่อชุมนุมเป็น “ชุมนุมดุริยางค์สากลแห่งมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์” (Thammasat University Symphony Orchestra) จวบจนวันนี้ มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมชุมนุมกับทุกปีการศึกษา ซึ่งรวมไปถึงนักศึกษาที่มีพื้นฐานทาง ด้านดนตรีและนักศึกษาที่ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน อย่างไรก็ดี ชุมนุมมีการจัดการ เรียน การสอนให้ความรู้พื้นฐานทางดนตรีและจนถึงสนับสนุนให้สมาชิกทุกคนสามารถบรรเลงเพลง ได้อย่างมีความสุข ชุมนุมยังผลักดันให้สมาชิกได้ร่วมจัดกิจกรรมมากมายทั้งภายในและภายนอก มหาวิทยาลัย เช่น ร่วมแสดงวงซิมโฟนีออร์เคสตราในงานวันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ และคอนเสิร์ต ใหญ่วงซิมโฟนีออร์เคสตราในมหาวิทยาลัยซึ่งมีนักดนตรีร่วมกว่า 70 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาปัจจุบัน ศิษย์เก่า และนักดนตรีสมทบจากภายนอก ซึ่งทําให้การแสดงมีความสมบูรณ์เปรียบเสมือนนักดนตรี อาชีพมากขึ้น ด้านกิจกรรมอื่น ๆ ได้แก่ จัดมินิคอนเสิร์ตภายในมหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสแสดงวง Chamberทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเช่นกัน อีกทั้งยังได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตวง ประเภทซิมโฟนีออร์เคสตรา ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (National University of Laos) นครหลวงเวียงจันทร์ อีกด้วย
ภูมิพัฒน์ ได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขัน. Thailand Trumpet Competition 2009 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ และได้รับ เลือกให้เป็นนักดนตรีวงเยาวชนแห่งประเทศไทย ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ ชั้นปีที่ 3 ได้เรียน การอำ นวยเพลงและการประพันธ์เพลงเพิ่มเติมกับนาวาอากาศโทพิรุณ เจ๊ะวงศ์ และหลังจากสำ เร็จการศึกษาจากโรงเรียน ดุริยางค์ทหารอากาศ เขาสอบผ่านการคัดเลือกชิงทุนเพื่อเข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต ในแขนง วิชาการแสดงดนตรีเครื่องมือทรัมเป็ต โดยมี ดร.วานิช โปตะวนิช เป็นผู้สอน ระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยดนตรี ได้เริ่มเรียนวิชาอำ นวยเพลงกับ ดร.วานิช โปตะวนิช ภูมิพัฒน์ ตั้งวัฒนมงคล เริ่มเรียนดนตรีกับอาจารย์จรัญ เรืองทอง ที่โรงเรียนสายปัญญารังสิต ต่อมาได้เรียนทรัมเป็ตกับ นาวาอากาศตรี อารมณ์ สิงห์ทองคำ และพันจ่าอากาศเอกอภิเชษฐ์ เกิดยอด หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ เครื่องมือทรัมเป็ต โดยมีพันจ่าอากาศเอกอภิศักดิ์ อ่อนน้อม และเรืออากาศโทกัสสร บัวแก้ว เป็นผู้สอน ในระหว่างที่ศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นผู้อำ นวยเพลงของวง RTAF WIND SYMPHONY และได้เข้าประกวดรายการ Rangsit Music Competition 2015 ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1, การประกวดวงโยธวาทิต นักเรียน นักศึกษา ชิงถ้วยพระราชทาน ฯ ครั้งที่ 35 ประจำ ปี 2559 ประเภทบุคคลทั่วไป ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระหว่างที่ศึกษาอยู่ได้มีโอกาสเข้าร่วม Conducting Master Class กับศิลปินระดับโลก เช่น Jan Van Der Roots, Douglas Bostock และ Edward Carroll ต่อมาได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยรังสิต เข้าศึกษาระดับปริญญาโทที่ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบัน ภูมิพัฒน์ รับราชการอยู่ที่กองดุริยางค์ทหารอากาศ ตำ แหน่งนักดนตรี แผนกโยธวาทิต กองดนตรี กองดุริยางค์ทหารอากาศ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ภูมิ ภู พั มิ ฒ พั น์ ตั้ง ตั้ วัฒ วั นมงคล - Conducter -
ภัทรศัย ทิพยาณานุกูล จบการศึกษาจากสาขาดุริยางคศาสตรบัณฑิต เอกการปฏิบัติไวโอลิน (Violin Performance) เกียรตินิยมเหรียญทอง จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสเอแอนด์เอ็ม คอร์ปัสคริสตี (Texas A&M University - Corpus Christi) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระหว่างการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยยังได้รับทุนจาก The Morris L. Lichtenstein Foundation และเป็นสมาชิกของวง Lichtenstein String Quartet ภายใต้การดูแลของ Dr. Carrie Pierce และได้เข้า ร่วม Chamber Music Workshop กับวง Dali String Quartet และ Chiara String Quartet ภัท ภั รศัย ศั ทิพ ทิ ยาณานุกู นุ ล กู - Conducter - ภัทรศัยเริ่มเรียนไวโอลินตั้งแต่อายุ 11 ปี กับ อ.ฐิติพรรณ แววหงษ์, Alessandro Cappello, อ.ธันวิน ใจเพียร และ ดร.Dr. Jose Flores และเคยเข้าร่วม Masterclass กับ Dr. Ursula Dehler,Dr. Lin He และ Rudolf Koelman และมี โอกาสร่วมบรรเลงไวโอลินกับวงวงซิมโฟนีออร์เคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Kingsville Symphony Orchestra และ TAMU-CC University Symphony Orchestra และได้เป็น concertmaster รับเชิญของวง Thammasat University Symphony Orchestra นอกจากการบรรเลงไวโอลินแล้ว ภัทรศัยยังมีความสนใจด้านการอำ นวยเพลง โดยศึกษากับ รศ.ดร.นรอรรถ จันทร์ กล่ำ , ดร.วานิช โปตะวานิช, Dr. Ronald Scott, อ.วชิรวิชญ์ ปัญญาลักษณ์ และ Douglas Bostock ซึ่งภัทรศัยได้มีโอกาส เข้าร่วม Conducting Workshop และ Masterclass กับ Dr. Donald Schleicher (New York) กับ Hikotaro Yazaki (Bangkok), Douglas Bostock (Bangkok, Tokyo, Taiwan) และ Christopher Lyndon-Gee (Kiev, Ukraine) ปัจจุบันภัทรศัยเป็นสมาชิกของวง Royal Bangkok Symphony Orchestra (RBSO) และเป็น Conductor และ Music Director ของวง Panyotai High School String Orchestra และสอนวิชาไวโอลินที่โรงเรียนปัญโญทัย (Panyotai Waldorf School)
สุพิชชา สุขุม เริ่มต้นเรียนไวโอลินเมื่ออายุ 9 ปี ที่โรงเรียนดนตรียามาฮ่า สาขาเซนทรัลบางนากับ อาจารย์พุทธ ไวทยานุวัตติ สุพิชชาได้เข้าร่วมเล่นในวงสยามกลการ บางนา ซิมโฟนี ออร์เคสตรา และ ได้มีโอกาส เข้าร่วมการแข่งขัน Yamaha Thailand Music Festival 2017 ในรายการ Violin Solo & Piano และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เมื่ออายุ 18 ปี สุพิชชาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของววง ดุริยางค์สากลแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และได้ร่วมเล่นในคอนเสิร์ตที่จัดแสดงโดยชุมนุมดุริยางค์ สากลแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาโดยตลอด เช่น The Magic Beam Concert, Harmony in Chaos Concert, Dragon and Flower Concert, The Odyssey Concert, The Myth and Tales Concert และ Until Unlight Concert ปัจจุบัน สุพิชชากําลังศึกษาในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศึกษาการแสดง ไวโอลินกับอาจารย์ภัทรศัย ทิพยาณานุกูล สุพิ สุ ช พิ ชา สุขุ สุ ขุ ม - Concertmaster -
ปุณยุทธ อุทัยพันธ์ เรือนแก้ว เริ่มศึกษาไวโอลินเมื่ออายุ 16 ปี ที่โรงเรียนดนตรีศิลปะ ครูจีออร์เครสตรา โดยมีคุณครูปริญ สุวรรณโน เป็นผู้ฝึกสอน และในช่วงขณะเดียวกัน ก็ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของวงโยธวาทิตประจำ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่ง ปัจจัยสำ คัญที่ช่วยพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนความรู้ทางด้านดนตรีให้แก่ปุณยุทธ ปัจจุบัน ปุณยุทธกำ ลังศึกษาในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และเป็น สมาชิกของวงดุริยางค์สากลแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปุณยุท ยุ ธ อุทั อุ ย ทั พัน พั ธ์ เรือ รื นแก้ว ก้ - Concertmaster -
สาส์นจากประธานชุม ชุ นุม สวัสดีครับ ผมธรรมศาสตร์ ทองแกมแก้ว ปอนด์ครับ ประธานชุมนุมดุริยางค์สากล แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University Symphony Orchestra) ในคอนเสิร์ตสุดพิเศษครั้งนี้ พวกเราได้รวบรวมบทเพลงที่หลากหลายเพื่อส่งมอบความรัก ในรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่ทุกท่าน ในการแสดงครั้งนี้ ทุกท่านจะได้รับฟังบทเพลงรัก หลากหลายรูปแบบ อาจมีทั้งเพลงที่ตรงใจท่านหรือไม่ก็ตาม แต่ผมรับรองได้ว่า พวกเรา TUSO จะบรรเลงเพลงทุกเพลงด้วยความรักอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะเพลิดเพลินและได้รับความสุขจาก คอนเสิร์ตสุดพิเศษในครั้งนี้กลับไป ขอบคุณครับ
– พระบาทสมเด็จ ด็ พระบรมชนกาธิเธิบศร มหาภูมิ ภู พมิลอดุล ดุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตพิร – พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรียบเรียงโดย 1.สิรภพ ขุนนุชนารถ 2.ธรรมศาสตร์ ทองแกมแก้ว พรปีใหม่ เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ลำ ดับที่ 13 ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือน ธันวาคม พ.ศ.2494 โดยมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่ แก่บรรดาพสกนิกรไทย จึงทรงพระราชนิพนธ์เพลง "พรปีใหม่" และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำ ร้องเป็นคำ อวยพรปีใหม่ หากสังเกตในส่วนเนื้อเพลงที่มีคำ ว่า ‘ข้า’ นั้นก็เป็นคำ สรรพนามบุรุษที่หนึ่งมาจากคำ ว่า ‘ข้าพเจ้า’ ซึ่งหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เพื่อให้เพลงนี้เสมือนกับพระองค์ มาอวยพรให้เหล่าพสกนิกร ด้วยพระองค์เองผ่านบทเพลง ส่วนคำ ว่า ‘ปวงท่าน’ ในที่นี้ก็หมายถึง พสกนิกรคนไทยทุกหมู่เหล่า โดยเนื้อหาของคำ อวยพรปีใหม่มีอยู่ว่า ขอให้ชีวิตรื่นรมย์สมหวังใน ทุกสิ่ง โดยพระองค์ท่านยังได้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้อวยพรให้ทุกคนมีโชคดีเข้ามาในชีวิต อีกทั้ง ยังให้รุ่งเรืองสุขสมหวังทุกสิ่งตลอดปีและตลอดไป พรปีใปี หม่
TheSleepingBeauty หนึ่ง นึ่ ในบทประพัน พั ธ์ ที่ใที่ ช้ปช้ ระกอบการแสดงบัล บั เลต์ โดยงานนี้เ นี้ป็น ป็ หนึ่ง นึ่ ชิ้น ชิ้ จากบทประพัน พั ธ์ทั้ ธ์ ง ทั้ 3 ผลงานของ “ปิอ ปิ อตร์ อิลิ อิ ช ลิ ไชคอฟสกี”กี (Pyotr Ilyich Tchaikovsky) อีก อี2 ผลงานคือ คื SwanLakeและThe Nutcracker โดยผลงานนี้ปนี้ ระพัน พั ธ์เ ธ์ สร็จ ร็ในค.ศ.1889 และจัด จั แสดง ครั้ง รั้ แรกที่โที่ รงละครมาริอิ ริ น อิ สกี้ (Mariinsky Theatre) ณ กรุง รุ เซนต์ปีต์ เ ปี ตอส์เ ส์ บิร์ บิ ก ร์ ประเทศรัส รั เซีย ซี ในวัน วั ที่ 15 มกราคม ค.ศ.1890 Tchaikovsky ประพันธ์งานนี้โดยนำ เรื่องราวจากต้นฉบับของพี่น้องตระกูลกริมม์ (Brothers Grimm) ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับ เจ้าหญิงออโรราที่ถูกสาปโดยแม่มดร้ายให้เข้า สู่ภวังค์หลับใหล โดยมีข้อแม้ว่า หากเจ้าหญิง จะฟื้น เธอต้องได้รับจุมพิตอันเป็นรักแท้จาก เจ้าชาย โดยเจ้าหญิงออโรราถูกบรรยายไว้ว่า เป็นเจ้าหญิงที่มีรูปโฉมที่งดงามไร้ผู้เทียบเทียม และมีจิตใจที่บริสุทธิ์กับทุกสิ่งมีชีวิต การแสดงบัลเลต์ชุดนี้มีความยาว ประมาณ 3 ชั่วโมง โดยการดำ เนินเรื่องหลัก จะแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งกันระหว่าง ของพลังแห่งความดีและความชั่วร้าย อีกทั้ง งานประพันธ์ชิ้นนี้ได้รับความชื่นชมและได้ ค่าตอบแทนจากพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ ที่ 3 (Tsar Alexander III) และในค.ศ. 1903 บทประพันธ์นี้นับว่าเป็นการแสดง บัลเลต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ ที่ 2 ในคณะบัลเลต์มาริอินสกี ประพันธ์โดย Pyotr Ilyich Tchaikovsky
One Summer’s Day เป็นบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away (2003) ภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์อนิเมชันยอดเยี่ยม มาได้ ทำ ให้เพลงของฮิซาอิชิยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก เพราะเมื่อพูดถึง Spirited Away แล้ว นอกจากภาพเด็กหญิงในชุดสีแดงกับมังกรตัวสีฟ้าที่บินฉวัดเฉวียนบน ท้องฟ้า ผู้ที่เคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้ย่อมนึกถึงทำ นองในบทเพลงของโจที่คลอไปกับ ฉากเหล่านั้นด้วยเสมอ สำ หรับ One Summer’s Day เป็นบทเพลงที่ให้ความรู้สึก เศร้า แต่ก็ยังให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและโหยหาบางสิ่ง ซึ่งบรรยาย ความซับซ้อนในด้านอารมณ์ของ Spirited Away ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในการ เรียบเรียงดนตรีของ One Summer’s Day เองก็ยังสามารถตีความได้ถึงตัวละคร เอกอย่างจิฮิโระ และการการเติบโตของตัวละครได้เป็นอย่างดีจะสังเกตได้ว่าตลอด ทั้งเพลงจะมีเสียงเปียโนเป็นทำ นองหลัก อันเปรียบได้กับจิฮิโระซึ่งเป็นตัวละครผู้ ดำ เนินเรื่อง และการประพันธ์ที่เริ่มด้วยเปียโนโซโล จากนั้นเครื่องดนตรีอื่นก็ค่อย ๆ ตามเข้ามาจนกลายเป็น Full orchestra ในที่สุด ก็เปรียบได้กับพัฒนาการของ ตัวละครและการเติบโต อย่างค่อยเป็นค่อยไปของจิฮิโระนั่นเอง One Summer's Day – Spirited Away – ประพันธ์โดย Joe Hisaishi
Prince of Egypt – The Prince of Egypt – The Prince of Egypt เป็นละครเพลงที่สตีเฟน ชวาร์ทซ์ ประพันธ์เนื้อร้องและทำ นองผู้ประพันธ์หนังสือ คือฟิลิป ลาซบนิก อ้างอิงจากภาพยนตร์แอนิเมชันเดอะ พริ้นซ์ออฟอียิปต์ในพ.ศ.2541 ตัวละครเพลงกล่าวถึงช่วง ชีวิตของโมเสสตั้งแต่เป็นเจ้าชายแห่งอียิปต์ ไปจนถึงเรื่อง เทวลิขิตสุดท้ายที่ให้เขานำ พาชาวยิวหรือชาวฮีบรูออก จากอียิปต์ The Prince of Egypt เป็นการดัดแปลงเรื่องราวในพระคัมภีร์ของโมเสส ผู้ซึ่งเป็นชาว ฮีบรู เมื่อครั้งเป็นทารกได้ถูกโยเชเวดผู้เป็นแม่นำ ลอยไปบนแม่น้ำ ไนล์เพื่อหลบหนีจากการฆ่าล้าง เผ่าพันธุ์ จากนั้นได้รับการอุปการะจนเป็นเจ้าชายแห่งอียิปต์ และในที่สุดก็ได้มาเป็นผู้ปลดปล่อย ของพระเจ้าของชาวฮีบรู จากการกดขี่ของฟาโรห์รามเซสผู้เป็นพี่ชาย Kamado Tanjiro No Uta – Go Shiina – บทเพลงนี้ก นี้ ล่า ล่ วถึง ถึ ตัว ตั ตนของ "คามาโดะ ทัน ทั จิโจิ ร" ตัว ตั ละครเอกของการ์ตู ร์ น ตู เรื่อ รื่ งดาบพิฆ พิ าตอสูร สู ผู้ที่ผู้จำ ที่ จำต้อ ต้ งผัน ผั ตัว ตั เป็น ป็ นัก นั ล่า ล่ อสูร สู เพื่อ พื่ หาวิธี วิใธี ห้น้ ห้ อ น้ งสาวเพีย พี งคนเดีย ดี วของเขา ได้ก ด้ ลับ ลั คืน คื เป็น ป็ มนุษ นุ ย์เ ย์ หมือ มื นดัง ดั เดิม ดิ ซึ่ง ซึ่ นับ นั ว่า ว่ เป็น ป็ การแสดง ความรัก รั ที่ยิ่ ที่ ง ยิ่ ใหญ่ข ญ่ องตัว ตั ละครเอกของเรื่อ รื่ ง ประพันธ์โดย Stephen Lawrence Schwartz ประพันธ์โดย Go Shiina เรียบเรียงโดย ประติวรรษ พรหมทอง
Plastic Love – Mariya Takeuchi – ประพัน พั ธ์โธ์ ดย1.MariyaTakeuchi 2.TatsuroYamashita เรีย รี บเรีย รี งโดย ปุณ ปุ ยุท ยุ ธอุทั อุ ย ทั พัน พั ธ์ เรือ รื นแก้ว ก้ Yesterday Once More – The Carpenters – ประพันธ์โดย The Carpenters บทเพลงนี้พู นี้ ด พู ถึง ถึ หญิง ญิ สาวที่เ ที่ จ็บ จ็ ปวดจากความรัก รั และเยีย ยี วยาความรู้สึรู้ก สึ ของตัว ตั เองด้ว ด้ ยการออกไปหา แสงสีใสี นยามค่ำ คืน คื โดยการมีค มี วามสัม สั พัน พั ธ์แ ธ์ บบ onenight stand เพื่อ พื่ ลืม ลื และหนีจ นี ากความเจ็บ จ็ ปวด ชั่ว ชั่ คราวอีก อี ทั้ง ทั้ คำ ร้อ ร้ งของบทเพลงนี้ยั นี้ ง ยั บรรยายถึง ถึ ผู้หผู้ ญิง ญิ คนหนึ่ง นึ่ ที่สู ที่ ญสู เสีย สี รัก รั แท้ไท้ป แม้ห ม้ ลัง ลั จากนั้น นั้ จะมี ผู้คผู้นเข้า ข้ มาหาเธอ อย่า ย่ งไรก็ต ก็ ามเธอกลับ ลัไม่ส ม่ ามารถ สลัด ลั ทิ้ง ทิ้ ความรู้สึรู้ก สึ เปลี่ย ลี่ วและโดดเดี่ย ดี่ วอัน อั เกิด กิ จาก การสูญสู เสีย สี ครั้ง รั้ นั้น นั้ ออกจากหัว หัใจได้ บทเพลงนี้เล่าถึงความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อ เพลงและเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตในวัยเด็ก ในตอนนั้นขณะที่เธอเพียงแค่เปิดวิทยุฟังและ เมื่อวิทยุเล่นเพลงที่เธอชอบ เธอก็มีความสุข แล้ว แตกต่างจากในยุคปัจจุบัน ที่ทุกอย่างได้ เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ประพันธ์โดย 1.ปัณฑพล ประสารราชกิจ 2.ธิติวัฒน์ รองทอง 3.ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย เรียบเรียงโดย สิรภพ ขุนนุชนารถ ถ้า ถ้ เธอรัก รั ใครคนหนึ่ง – บุพ บุ เพสัน สั นิวาส 2 – "ถ้าเธอรักใครคนหนึ่ง" เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส โดย กล่าวความถึงการมาพบกันของคนที่เคยเป็นคู่รักกันในอดีตชาติ รวมถึงการย้อนเวลากลับ มาพบเจอคู่ชีวิตในอดีตกาล เมื่อแรกเริ่มต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจในพรหมลิขิตที่ทำ ให้ได้มา พบกัน แต่ความรู้สึกความรักที่เกิดขึ้นได้ทำ ให้ทั้งสองฝ่ายรับรู้ถึงความรักที่เกิดขึ้น ซึ่ง เปรียบเสมือนเนื้อหาของเพลงที่กล่าวว่า "เมื่อเรารักใครคนหนึ่งแล้ว เราไม่อาจบอกได้ว่า ใครเป็นผู้ลิขิตความรักนี้หรือความรักเราจะสั้นยาวเพียงใด แต่แค่เพียงความรู้สึกรักที่มีก็ เพียงพอแล้วที่ทำ ให้เราได้มีความสุขกับทุกช่วงเวลาที่เรารู้สึกรักเขา" ความรักจึงเป็นสิ่งที่ ไม่ต้องการเหตุผล ไม่ต้องใคร่ครวญถึงที่มา แต่มันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตนเองที่รู้สึกได้ เมื่อเรารักใครคนหนึ่ง
โลกที่ไที่ ม่มี ม่ เ มี ธอ – PORTRAIT – ประพันธ์โดย 1.คชภัค ผลธนโชติ 2.อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ เรียบเรียงโดย สิรภพ ขุนนุชนารถ "โลกที่ไที่ ม่มี ม่ เ มี ธอ" ประพัน พั ธ์โธ์ ดย วง PORTRAITคชภัค ภั ผลธนโชติและอนัน นั ต์ดาบเพ็ช พ็ รธิก ธิ รณ์ โดยเริ่ม ริ่ แรก ตะวัน วั ชวลิต ลิ ธํา ธํ รง หรือ รื ที่รู้ ที่ จัรู้ก จั กัน กัในนามว่า ว่ ปอย Portrait มีค มี วามคิด คิ ที่อ ที่ ยากจะเขีย ขี น เรื่อ รื่ งนี้ม นี้ านานหลายปี สาเหตุจ ตุ ากความสะเทือ ทื นใจในวิน วิ าทีที่ ที ต้ ที่ อ ต้ งสูญสู เสีย สี ผู้เผู้ป็น ป็ ที่รั ที่ ก รั หรือ รื คนรัก รัไป และต่อ ต่ มาเมื่อ มื่ ปอย ได้รั ด้ บ รั รู้เรู้รื่อ รื่ งราวของคุณ คุ นิรุ นิ ต รุ ติ์ ศิริ ศิ จ ริ รรยา ที่สู ที่ ญสู เสีย สี ภรรยาไปอย่า ย่ งกะทัน ทั หัน หั จากอุบั อุ ติ บั เ ติ หตุ ทำ ให้ค ห้ วามสะเทือ ทื นใจในเรื่อ รื่ งราวเหล่า ล่ นั้น นั้ ได้ถู ด้ ก ถู ปลุก ลุ ขึ้น ขึ้ มา สิ่ง สิ่ นี้จึ นี้ ง จึ เป็น ป็ เสมือ มื นกับ กั แรงบัน บั ดาลใจให้ ปอย เริ่ม ริ่ ต้น ต้ เขีย ขี นเพลงนี้แ นี้ ละกลั่น ลั่ กรองออกมาอย่า ย่ งซื่อ ซื่ สัต สั ย์จ ย์ นออกมาเป็น ป็ บทเพลงแสนเศร้า ร้ เพลงนี้ "โลกที่ไที่ ม่มี ม่ เ มี ธอ" เป็น ป็ เพลงที่ถ่ ที่ า ถ่ ยทอดเรื่อ รื่ งราวความรู้สึรู้ก สึ ของคนที่สู ที่ ญสู เสีย สีในยามที่ต้ ที่ อ ต้ งเผชิญ ชิ กับ กั การจากลา การถูก ถู ทอดทิ้ง ทิ้ ถูก ถู บอกเลิก ลิ หรือ รื การจากไปอย่า ย่ งไม่มี ม่ วั มี น วั กลับ ลั ของคนที่รั ที่ ก รั คนที่อ ที่ ยู่ ข้า ข้ งกัน กั ความรู้สึรู้ก สึ เจ็บ จ็ ปวดทรมาน เหมือ มื นถูก ถู ผลัก ลัให้ไห้ปอยู่ใยู่ นอีก อีโลกหนึ่ง นึ่ เป็น ป็ โลกที่เ ที่ ราไม่รู้ ม่ จัรู้ก จั เต็ม ต็ ไปด้ว ด้ ยความมืด มื มน เป็น ป็ โลกแห่ง ห่ ความเหงาและว่า ว่ งเปล่า ล่
รัก รั แรกพบ – Tattoo Colour – รักแรกพบ ของ Tattoo Colour เล่าถึงผู้ชาย ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องรักแรกพบมาก่อนกระทั่งพบกับผู้ หญิงที่ทำ ให้เขาได้รู้ว่า "รักแรกพบ" นั้นเป็นอย่างไร แม้ว่าแท้จริงแล้วเพลงนี้ รัฐ หนึ่งในสมาชิกของวงจะ ยอมรับว่าแต่งขึ้นมาเพื่อล้อเลียนเพลงของนักแต่ง เพลงรุ่นพี่อย่าง บอย โกสิยพงษ์ เท่านั้น ประพันธ์โดย รัฐ พิฆาตไพรี เรียบเรียงโดย สิรภพ ขุนนุชนารถ Cinderella – Tattoo Colour – ประพันธ์โดย Tattoo Colour เรียบเรียงโดย อภูดม เกษมสถิตสถาพร Cinderella เพลงจากวง Tattoo Colour เพลงแนวรักอกหักในทำ นองที่สนุกสนาน เล่าถึง เรื่องของชายคนหนึ่งเฝ้ารอที่จะเจอหญิงสาวในร้านกลางคืนแห่งหนึ่ง แต่เมื่อได้เจอแล้วยังไม่ทันพูด ยังไม่ทันได้ร่ำ ลา เธอก็หายไปเหมือนกับตัวละครซินเดอเรลล่า ทำ ให้ชายคนนั้นต้องนอนร้องไห้ เสียใจ จึงเป็นสาเหตุที่ทำ ให้ชื่อเพลงว่า Cinderella และผู้แต่งเนื้อร้องยังให้อีกหนึ่งเหตุผล ที่ใช้ชื่อนี้ เพราะว่าแต่งเพลงนี้จบในช่วงเวลาเที่ยงคืนซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Cinderella ที่ต้องรีบกลับ เพราะว่าเวทมนตร์จะเสื่อมหลังเวลาเที่ยงคืน เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ บอย โกสิยพงษ์ ได้แต่งเพลง "เรื่องจริง" ที่เล่าเนื้อหาถึงชายหนุ่มที่ตกหลุมรัก ผู้หญิงคนหนึ่งตั้งแต่แรกเห็นโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน กระทั่งเพลงนี้ดังขึ้นมาทำ ให้ "รัฐ" ที่ไม่เชื่อ เรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ คิดอยากแต่งเพลงขึ้นมาหักล้างอีกฝ่าย ซึ่งเนื้อเพลงตอนแรกที่เขาแต่งนั้น ไม่ได้ออกมาแนวหวานซึ้ง แต่ในท้ายที่สุดก็มาแก้เนื้อร้องใหม่จนเป็นฉบับที่ได้ยินกันในปัจจุบัน
ยินดีที่ไที่ ม่รู้ ม่ จัรู้ ก จั – 25 hours – ยินดีที่ไม่รู้จัก หนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์กวน มึน โฮ เรื่องราวของชายและหญิงที่มาพบ กันในต่างแดน ท่องเที่ยวไปด้วยกัน ทำ อะไรที่ไม่เคยทำ ด้วยกัน และได้รักกันโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้จักกัน เลยตลอดทั้งการเดินทาง “ยินดีที่ไม่รู้จัก” เป็นเพลงที่เล่าแทนคนสองคนกำ ลังจะละทิ้งโลกแห่ง ความเป็นจริงที่มีปัญหาต่าง ๆ มากมาย เพื่อจดจ่ออยู่กับความสุขตรงหน้าที่กำ ลังจะเกิด และใช้ชีวิต ในทุกวันให้มีความสุขเหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต พร้อมที่จะต่อสู้ปกป้องซึ่งกันและกันและแม้ว่า ทั้งคู่จะไม่รู้จักกัน แต่ก็พร้อมที่จะทำ สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นต่อไปโดยไม่ได้คิดหรือคาดหวังอะไร ศิลปิน 25 hours เรียบเรียงโดย อภูดม เกษมสถิตสถาพร 30 ยังแจ๋ว จ๋ – ลพ บุรี บุ รั รี ต รั น์ – ประพันธ์โดย ลพ บุรีรัตน์ เรียบเรียงโดย นาวิน เอมเปรมศิลป์ "30 ยังแจ๋ว" เป็นเพลงลูกทุ่งที่มีแง่มุมที่สื่อถึงเรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนาน โดยเพลงนี้เคยมีชื่อว่า “สามสิบยังสวย” แต่เมื่อเสนอไปให้นายทุนค่ายเพลงก็ไม่ถูกนำ ไปทำ ต่อ จึงได้นำ เพลงนี้ส่งให้แก่ ยอดรัก สลักใจ ขับร้องในเวลาต่อมา โดย “30 ยังแจ๋ว” สื่อว่าเลข 30 เป็นตัวเลขที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนกลัว เพราะถือกันว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่าง "ความสาว กับ ความแก่" แต่ในขณะเดียวกันอายุก็ ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการมีความรักแต่อย่างใด โดยบทเพลงได้บรรยายถึงผู้หญิงที่ถึงแม้จะอายุมาก แต่ยังคงมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามจนไม่น่าเชื่อว่าอายุ 30 ปี
MUSICIAN CONDUCTER ภูมิ ภู พัมิฒพัน์ ตั้ง ตั้ วัฒวันมงคล ภัทภัรศัยศัทิพทิยาณานุกู นุ ล กู FIRST VIOLIN ศุภ ศุ ณัฐณัชัยชัสังสัฆะ ปุณ ปุ ยุท ยุ ธ อุทั อุ ยทัพันพัธ์ เรือรืนแก้วก้ ธีรธีธินัธินนัทน์ ภักภัมี ณัฏณัฐณิชณิา อุร อุ ะวัฒวันพันพัธุ์ ชฎา พลธีรธีะเสถียถีร เพชรอุษ อุ า คูวั คู ฒวันาภาศิริศิริ สุพิ สุ ชพิชา สุขุ สุ ม ขุ เฌอเอล์มล์พูล พู เกษ SECOND VIOLIN อังอัศวีร์วีร์สดากร ธัญธั ไชยมาดี จิณจิณพัตพันาคนุช นุ ณัฏณัฐ์ ไกรฤกษ์ อิศอิรา ขำ อ่ออ่น สรรค์พค์ณิชณิ ใบมงคล วิชวิยานนท์ วุฒิ วุ ณฒิรงค์ตค์ระกูล กู บุญบุ เอิญอิ ไกรระวี เจษฎาภรณ์ ทิพทิยาณานุกู นุ ล กู VIOLA ธนพงษ์ คงเอี่ย อี่ มพิธีพิธี ธานัทนัธนาวรวงศา นาวินวิเอมเปรมศิลศิ ป์ ชนัญนัญา มัชมัฉิมฉิานนท์ CELLO สิริสินริดา กอวัฒวันา ผศ. ธัชธัพงศ์ ศรีสุรีว สุ รรณ ชัยชัมงคล วิริวิยริะสัจสัจาภรณ์ เนตรชนก จินจิจักจัแก้วก้ DOUBLE BASS วรรธนิศนิหอตระกูล กู สรัลรัชนา เซนชัยชั FLUTE / PICOLO วิภวิาวี เลิศลินภากาศ ศรุธิ รุ ตธิา ขาวแก้วก้ ภาวันวัต์ ราชภัณภัฑารักรัษ์ ปุณ ปุ โณปถัมถัภ์ OBOE คิจคิจารินริพงคพนาไกร ENGLISH HORN กนกนภา จันจัทร์ศิร์ริศิริ CLARINET / BASS CLARINET รัฐรันันนัท์ ศิริศิเริทพวัฒวันา ศุภ ศุ วุฒิ วุฒิแพร่แร่สงเอี่ย อี่ ม สุท สุ ธิวธิรรณ วรรณสมบัติบัศิติริศิริ BASSOON วรพล ดวงแก้วก้ สิรสิพร จงกล FRENCH HORN เจ้าจ้พระยา มาสง พงษ์พันพัธ์ เลี้ย ลี้ งถนอม สมัชมัญ์ ทรรศยางกูร กู วีรวีชัยชัพรหมมินมิทร์ สุกั สุ ญกัญา แย้มย้ชื่น ชื่ TRUMPET / CORNET นราชิตชิชัยชัชนะ นภัทภัธนันนัต์ เปล่งล่ทรัพรัย์สิย์นสิ ภัทภัรา รัชรัตภูษิ ภูษิต สิรสิภพ ขุน ขุ นุช นุ นารถ TROMBONE กันกัตินัตินนัท์ วิเวิศษสิงสิห์ ชาฎา ช่าช่งศักศัดิ์ นิตินิธติร ไวทยวันวั ภคพงศ์ โตพิทัพิกทัษ์กุล กุ TUBA กาญจน์ กี้ปกี้ ระเสริฐริทรัพรัย์ PERCUSSION สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่ ธรรมศาสตร์ ทองแกมแก้วก้ วนสพรรณฑ์ สันสัต์วต์รนารถ กรวิชวิญ์ อนุน นุ ตการุณ รุ ศุภ ศุ ณัฐณัเพียพีรสูต สู ร E. GUITAR สหรัถรัลิมลิปนเวทย์สย์กุล กุ PIANO กวินวิสิริสิจัรินจัทกุล กุ มณีรัณีตรัน์ ปลื้ม ลื้ ถนอม กุล กุ รัตรัน์ จงอภิรัภิตรันกุล กุ มรุเ รุ ชษฐ์ ทองเทพไพโรจน์ MANAGEMENT TEAM อาจารย์ที่ ย์ ปที่ รึก รึ ษา ผศ. ธัชธัพงศ์ ศรีสุรีว สุ รรณ ประธาน คณะกรรมการ ธรรมศาสตร์ ทองเกมแก้วก้ รองประธาน คณะกรรมการ กวินวิสิริสิจัรินจัทกุล กุ
เลขานุก นุ าร สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่ ประสานงาน วิชวิชุริ ชุ ณีริ ณีชุม ชุ พล กฤติมติา อึ้ง อึ้ ตระกูล กู เอกสาร / โครงการ ณัฐณัณิชณิาช์ เหลือลืงธุว ธุ ปราณี สุก สุ ษมา คล่อล่งนักนัรบ พลอยไพลินลิมูสิ มู กสิะ ปทิตทิตา พงศ์เศ์ศรษฐสันสัต์ ทรัพ รั ยากรบุค บุ คล ภาสกร พัฒพันชู จิณจิณพัตพันาคนุช นุ อริษริา มานมูเ มู ลาะ พันพัธุ์ผธุ์ รา พันพัธุ์วธุ์ งศ์ ธีรธีภัทภัร ตั้ง ตั้ จิตจิเกษมสุข สุ เดโชดม สมพงษ์ ธนพัฒพัน์ จันจัทวงษ์ ธำ รง แซ่เซ่ฉินฉิ วิภวิาวี เลิศลินภากาศ ศุภ ศุ วุฒิ วุฒิแพร่แร่สงเอี่ย อี่ ม อมิตมิตา ปั้น ปั้ เหน่งน่เพ็ชพ็ร์ ผู้เผู้รีย รี บเรีย รี งเพลง ธรรมศาสตร์ ทองแกมแก้วก้ ปุณ ปุ ยุท ยุ ธ อุทั อุ ยทัพันพัธ์ เรือรืนแก้วก้ สิรสิภพ ขุน ขุ นุช นุ นารถ อภูด ภู ม เกษมสถิตถิสถาพร นาวินวิเอมเปรมศิลศิ ป์ การเงินงิ รัฐรันันนัท์ ศิริศิเริทพวัฒวันา ศุภ ศุ ณัฐณัชัยชัสังสัฆะ วนสพรรณฑ์ สันสัต์วต์รนารถ ชินชิอิสอิร์ พ่อพ่ค้าค้ พีรพีภาส งอกผล ณฐกมล นุสุ นุ ว สุ รรณ พัสพั ดุ ศรุธิ รุ ตธิา ขาวแก้วก้ ธนพัฒพัน์ ปั้น ปั้ ก้อก้ง ณัฐณัธยาน์ เงินงิราง ปาละตา ขำ เจริญริ ณัฏณัฐณิฌณิา ดำ สี ศุภ ศุ าวีร์วีร์กิตกิติกัติลกัยาวงศ์ ภูบ ภู ดี ลิมลิปิผปิล ภัทภัรา รัชรัตภูษิ ภูษิต สวัสวั ดิกดิาร เมธา ภิญภิ โญภาพ สิริสินริดา กอวัฒวันา กัญกัญาวีร์วีร์ผ่อผ่งใส อรรครินริท์ ไชยเดช เรือรืงรินริสอดส่อส่งกิจกิ พรรณิศณิา สว่าว่งศรี ประสานงาน ผู้เผู้รีย รี บเรีย รี งเพลง สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่ สุท สุ ธิวธิรรณ วรรณสมบัติบัศิติริศิริ สถานที่ กันกัตินัตินนัท์ วิเวิศษสิงสิห์ กฤตภาส เกิดกิสุข สุ นัทนัธิ์ฤธิ์ดี กฤษณะภักภัดี ชาฎา ช่าช่งศักศัดิ์ ปุณ ปุ ยวัจวัน์ จำ ชาติ ศิรศิตา ด่าด่นอุด อุ มกิจกิ วชิรชิาวรรณ ทวนทอง จณิศณิกานต์ เจริญริ โพธิ์ ธัญธั ไชยมาดี สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่ อังอัศวีร์วีร์สดากร ปาณิสณิรา พงษ์ศรีกูรีร กู อิงอิกฤษฏิ์ สุท สุ ธิศัธิกศัดิ์ศดิ์รี ชญานิษนิฐ์ โลหะกิจกิจา ณัฏณัฐณิชณิา อุร อุ ะวัฒวันพันพัธุ์ บรรณารัก รั ษ์ บรรณาธิกธิาร กุล กุ รัตรัน์ จงอภิรัภิตรันกุล กุ ชลชาติ โพธิ์เธิ์งินงิ ธัญธั ไชยมาดี สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่ ชัยชันิพันิทพัธ์ ลอยวัฒวันกุล กุ กิติกิกัติญกัญา เขมะชัยชัเวช ผัง ผั วงและเวที กุล กุ รัตรัน์ จงอภิรัภิตรันกุล กุ มรุเ รุ ชษฐ์ ทองเทพไพโรจน์ สโรชา นุ่มนุ่ แจ่มจ่
O P E R A T I O N T E A M ป ร ะ ส า น ง า น กิ ติ กิ กั ติ ญกั ญ า เ ข ม ะ ชั ย ชั เ ว ช ช น ก นั น นั ท์ นิ ล นิ จั น จั ท ร์ ชั ย ชั นิ พั นิ ท พั ธ์ ล อ ย วั ฒ วั น กุ ล กุ วิ ช วิ ชุ ริ ชุ ณี ริ ณี ชุ ม ชุ พ ล อ ริ ษ ริ า ม า น มู เ มู ล า ะ B A C K S T A G E จ ณิ ศ ณิ ก า น ต์ เ จ ริ ญ ริ โพ ธิ์ ชิ น ชิ อิ ส อิ ร์ พ่ อพ่ค้ า ค้ ภู บ ภู ดี ลิ ม ลิ ปิ ผ ปิ ล สุ ก สุ ษ ม า ค ล่ อล่ง นั กนั ร บ L I G H T ปุ ณ ปุ ย วั จวั น์ จำ ช า ติ ส ร ชั ช ชั พ ง ศ์ พ ศ์ ล า พิ บู พิ ล บู ย์ สิ ริ สิ ก ริ ร ศั กศั ดิ์ ป ดิ์ ร ะ เ ส ริ ฐ ริ S O U N D ณั ฏณั ฐ ณิ ฌ ณิ า ดำ สี เ ด โช ด ม ส ม พ ง ษ์ ฝ่ า ฝ่ ย ข า ย ณั ฐณั ณิ ช ณิ า ช์ เ ห ลื อ ลื ง ธุ ว ธุ ป ร า ณี ต ณี ภ า ส ก ร พั ฒ พั น ชู ป ร ะ ช า สั มสั พั นพั ธ์ ม ณี รั ณี ตรั น์ ป ลื้ ม ลื้ ถ น อ ม ก ม ล รั ตรั น์ โป ธ า ก ฤ ต ช ญ า หิ รั หิ ญรั โณ ก วิ น วิ สิ ริ สิ จั ริ น จั ท กุ ล กุ ช น ก นั น นั ท์ นิ ล นิ จั น จั ท ร์ ชุ ติ ชุ ก ติ า ญ จ น์ สุ ริ สุ ไ ริ พ ศ า ล ส กุ ล กุ ณิ ช ณิ ก า น ต์ บ ร ร ลุ สุ ลุ ข สุ ภู ว ภู ด ล แ สง อ รุ ณ รุ ส ร ชั ช ชั พ ง ศ์ พ ศ์ ล า พิ บู พิ ล บู ย์ สิ ริ สิ ก ริ ร ศั กศั ดิ์ ป ดิ์ ร ะ เ ส ริ ฐ ริ โ ป ส เ ต อ ร์ ม ณี รั ณี ตรั น์ ป ลื้ ม ลื้ ถ น อ ม ณิ ช ณิ ก า น ต์ บ ร ร ลุ สุ ลุ ข สุ อ อ ก แ บ บ สู จิ สู บั จิ ตบั ร ม ณี รั ณี ตรั น์ ป ลื้ ม ลื้ ถ น อ ม สิ ริ สิ ก ริ ร ศั กศั ดิ์ ป ดิ์ ร ะ เ ส ริ ฐ ริ ช น ก นั น นั ท์ นิ ล นิ จั น จั ท ร์