The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 65303080010, 2022-08-04 02:44:16

ไมเคิล แองเจโล

ไมเคิล
แองเจโล

Keywords: ไมเคิล แองเจโล

นักประติมากรรม

ไมเคิล
แองเจโล

ประวัติ
วัยเด็ก (ค.ศ. 1475 – ค.ศ. 1488)


ในเมืองกาเปรเซที่ ณ ปัจจุบัน เรียกกันว่า กาเปรเซมีเกลันเจโล เป็นเมือง


เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใน วัลติเบอริน่า ใกล้กับเมืองอาเรสโซ แคว้นตอสคานา เขา

เป็นบุตรของ ลูโดวิโค ดิ เลโอนาโด บัวนารอติ ซิโมนี กับ ฟรานเชสกา ดิ

เนรีแห่งมินิอาโตแห่งเซียนา ครอบครัวของเขาเคยเป็นพนักงานธนาคาร

ขนาดเล็กในฟลอเรนซ์ แต่ธนาคารกลับไม่ประสบความสำเร็จ พ่อของเขาจึง

รับตำแหน่งราชการในเมืองกาเปรเซ ในขณะที่มีเกลันเกิด พ่อของเขาทำ

งานเป็นแมยิสเตร็ดและนายกเทศมนตรีของโกมูเนชิว ครอบครัวของเขา

เชื่อว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากเคาน์เตส มาทิลดาแห่งคาโนสซาแห่งตอส

คานาซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ แต่มีเกลันเจโลเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น

หลายเดือนหลังจากที่มีเกลันเกิด ครอบครัวของเขาได้ย้ายกลับไปอยู่ใน

ฟลอเรนซ์ เขาได้รับการเลี้ยงดูที่นั้น และหลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิตใน

ค.ศ. 1481 (เมื่อเขาอายุได้ 6 ขวบ) เขาได้ไปอาศัยอยู่กับพี่เลี้ยงและสามี

ของเธอซึ่งเป็นคนตัดหินในเมืองเซตติญาโน เมืองที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของ

เหมือนหินอ่อนและฟาร์มเล็ก ๆ

สร้างชื่อลือเลื่องด้วยประติมากรรมชิ้นเอกของโลก

ไมเคิลแองเจโลไปที่โรมตอนอายุ 21 ปี เริ่มต้นด้วยงานแกะสลักหินอ่อน

รูปเทพเจ้าแห่งไวน์ Bacchus เมื่องานเสร็จกลับถูกปฏิเสธจากพระ

คาร์ดินัล Raffaele Riario ผู้ว่าจ้าง ต่อมาถูกนำไปประดับอยู่ในสวนของ

นายธนาคาร ปลายปี 1497 เขาได้รับการว่าจ้างจากพระคาร์ดินัล Jean

de Bilhères-Lagraulas ให้ทำงานแกะสลักหินอ่อน Pieta รูป

พระแม่มารีใบหน้าเศร้าหมองกำลังประคองร่างของพระเยซูที่เพิ่ งอัญเชิญ

ลงจากกางเขน ไมเคิลแองเจโลใช้เวลาไม่ถึงสองปีงานก็เสร็จ ผลงานที่

ออกมางดงามอย่างยิ่งสมจริงทุกรายละเอียด สร้างความอัศจรรย์ใจแก่

ผู้ได้ชมเป็นอย่างมาก เป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นแรกที่เขาทำสำเร็จด้วยวัย

เพียง 24 ปี Pieta เป็นหนึ่งในงานประติมากรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดใน

โลก ปัจจุบันเก็บรักษาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน เป็นแม่

เหล็กดึงดูดใจให้ผู้คนมาเยี่ยมชมมหาวิหารแห่งนี้อย่างคับคั่งตลอดทั้งปี

ปี 1499 ไมเคิลแองเจโลกลับมาที่เมืองฟลอเรนซ์ ได้รับการ

ทาบทามให้ทำงานแกะสลักหินอ่อนชิ้นใหญ่รูปเดวิด (David) ซึ่ง

เป็นโครงการที่ริเริ่มมา 40 ปีแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากช่าง

แกะสลักที่เคยรับงานนี้ต่างเห็นว่าหินอ่อนชิ้นนี้มีตำหนิและไม่แข็ง

แรงพอที่จะทำรูปปั้ นใหญ่ขนาดนั้นได้ ไมเคิลแองเจโลรับงานนี้

ตอนที่เขาอายุ 26 ปี ใช้เวลาราว 4 ปี ระหว่างปี 1501 – 1504

แกะสลักก้อนหินอ่อนที่ถูกทิ้งไว้ไม่มีใครเหลียวแลนาน 25 ปีให้

เป็นวีรบุรุษผู้งามสง่าสวยงามราวผู้วิเศษเนรมิตขึ้น และกลาย

เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขา คณะกรรมการของ

เมืองที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งซานโดร บอตติเชลลี

และเลโอนาร์โด ดาวินชี ถูกเรียกตัวมาเพื่อพิจารณาสถานที่ตั้ง

David และได้เลือกให้ตั้งที่จตุรัส Piazza della Signoria หน้า

วัง Palazzo Vecchio ต่อมาในปี 1873 ถูกย้ายไปไว้ที่หอศิลป์

Galleria dell’Accademia ส่วนที่เดิมได้สร้างรูปปั้ นจำลอง

ของ David ตั้งไว้แทน รูปหินอ่อนแกะสลัก David จากฝีมือ

ของไมเคิลแองเจโลเป็นประติมากรรมชิ้นเอกของโลกและเป็น

สัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ตลอดมาถึงปัจจุบัน

ช่วงเวลาเดียวกับที่แกะสลัก David ไมเคิลแองเจโลยัง

มีผลงานหินอ่อนแกะสลักชิ้นเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่งคือ

Madonna and Child หรือที่เรียกกันว่า Madonna of

Bruges รูปพระแม่มารีกับพระเยซูองค์น้อยบนตัก มี

ลักษณะและความงดงามใกล้เคียงกับ Pieta ปัจจุบันอยู่

ที่โบสถ์ Church of Our Lady ที่เมือง Bruges

ประเทศเบลเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมีผลงานหินอ่อนแกะ

สลักชั้นยอดอีกมากมาย เช่น Moses รูปปั้ นประดับหลุม

ฝังศพพระสันตะปาปา Julius II ในโบสถ์ Church of

San Pietro in Vincoli ที่กรุงโรม และ Dying slave

กับ Rebellious Slave ที่เป็นประติมากรรมดาวเด่นใน

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมทั้งบรรดารูปแกะสลักจำนวนมากที่

ประดับตามโบสถ์และหลุมฝังศพหลายแห่ง ซึ่งล้วน

งดงามวิจิตรสมกับที่มาจากฝีมือของประติมากรอันดับ 1

ของโลกตลอดกาล

โบสถ์น้อยซิสตีนที่สถิตภาพเขียนสุดมหัศจรรย์

ปี 1508 พระสันตะปาปา Julius II ได้ให้ไมเคิล

แองเจโลเขียนภาพบนเพดานโบสถ์น้อยซิสตีน
(Sistine Chapel) ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่มากกว่า

500 ตารางเมตร ประกอบด้วยภาพกว่า 300

ภาพ ทั้งหมดเป็นภาพเขียนปูนปั้ น (Fresco)

ตรงกลางเพดานเป็นภาพเขียนเหตุการณ์จาก

พระคัมภีร์ปฐมกาล 9 ภาพ หนึ่งในนั้นที่อยู่

กลางกลุ่มคือภาพ The Creation Of Adam

เป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขา ภาพเขียน

บนเพดานโบสถ์น้อยซิสตีนเป็นหนึ่งงาน

จิตรกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุคเรอเนสซองส์

ไมเคิลแองเจโลใช้เวลาถึง 4 ปีในการสร้างงาน

สุดมหัศจรรย์ชิ้นนี้ ภาพทุกภาพล้วนสวยงามน่า

ประทับใจ



ปี 1534 ไมเคิลแองเจโลรับงานชิ้นใหญ่ที่สุดอีกชิ้นหนึ่ง

จากพระสันตะปาปา Clement VII เป็นการเขียนภาพปูน

ปั้ นบนผนังหลังแท่นบูชาภายในโบสถ์น้อยซิสตีนคือภาพ

The Last Judgement เป็นภาพขนาดใหญ่มาก เขียน

บนพื้นที่ 13.7 x 12 เมตร เขาใช้เวลานานถึง 8 ปีในการ

เขียนภาพนี้ ในภาพแสดงการมาครั้งที่สองของพระเยซู

และการพิพากษาของพระองค์ตามคัมภีร์ใบเบิล เมื่องาน

เสร็จภาพเปลือยของพระเยซูและพระแม่มารีถูกวิพากษ์

วิจารณ์ว่าล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีการรณรงค์โดย

พระคาร์ดินัลให้เอาออกไปหรือเซ็นเซอร์เสีย แต่พระ

สันตะปาปาไม่ยินยอม ต่อมาในปี 1564 ไม่นานก่อนที่

ไมเคิลแองเจโลจะเสียชีวิตสภาคาทอลิกมีมติให้ทำการ

เซ็นเซอร์โดยให้ลูกศิษย์ของไมเคิลแองเจโลเป็นผู้เขียน

ภาพทับบริเวณที่ไม่เหมาะสม แต่มีการคัดลอกภาพ

ต้นฉบับเอาไว้ด้วย

ไมเคิลแองเจโลยังมีผลงานภาพเขียนชั้นยอดอีกหลายภาพ เช่น ภาพ Doni Tondo ที่เขียนด้วยสีน้ำมัน

และสีฝุ่นซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่หอศิลป์อุฟฟีซีในเมืองฟลอเรนซ์, ภาพ Manchester Madonna และ

ภาพ The Entombment ทั้งสองภาพนี้เขียนด้วยสีฝุ่น ปัจจุบันอยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติ (ลอนดอน) รวมทั้ง

ผลงานภาพปูนเปียกชิ้นสุดท้าย The Crucifixion of St. Peter ที่โบสถ์น้อยพอลลีน (Pauline Chapel)

ด้วยฝีมือขั้นเทพและผลงานการเขียนภาพที่ยอดเยี่ยม ไมเคิลแองเจโลจึงได้รับการยกย่องเป็นจิตรกรสำคัญ

ที่สุดคนหนึ่งในยุคเรอเนสซองส์ โดยเฉพาะในงานภาพเขียนปูนปั้ นต้องยอมรับว่าเขาเป็นสุดยอดฝีมือจริงๆ

งานออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอก

ไมเคิลแองเจโลรับงานออกแบบและสร้างหลุมฝังศพให้กับบุคคล

สำคัญในยุคนั้นหลายที่ รวมทั้งของตระกูล Medici ผู้ปกครอง

เมืองฟลอเรนซ์และพระสันตะปาปา งานสร้างหลุมฝังศพมีทั้งงาน

สถาปัตยกรรมและประติมากรรม เขาใช้เวลาในการสร้างหลุมฝัง

ศพของพระสันตะปาปา Julius II นานถึง 40 ปี (ปี 1505–1545)

เพราะนอกจากจะประกอบด้วยรูปปั้ นจำนวนมากแล้ว ไมเคิลแองเจ

โลยังมีงานอื่นที่ต้องทำให้เสร็จอีกมาก ปี 1523 ไมเคิลแองเจโลได้

ออกแบบห้องสมุด Laurentian Library ที่โบสถ์ San Lorenzo

ในเมืองฟลอเรนซ์ซึ่งถือเป็นต้นแบบของลัทธิจริตนิยม

(Mannerism) เขาออกแบบห้องโถงและบันไดของที่นี่ได้โดดเด่น

มาก ปี 1546 ได้ออกแบบลวดลายบนพื้นบริเวณจตุรัส Piazza

del Campidoglio ในกรุงโรม ด้วยลวดลายที่สวยงามสลับซับ

ซ้อนเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่ง ไมเคิลแองเจโลยังได้

ออกแบบประตู Porta Pia และวิหาร Santa Maria degli

Angeli e dei Martiri ในกรุงโรมอีกด้วย



ไมเคิลแองเจโลในวัย 70 ปีได้รับงานชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตอีก

ครั้งหนึ่ง ปี 1546 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสถาปนิกของ

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) ในกรุงโรม งาน

ก่อสร้างมหาวิหารดำเนินมาแล้ว 50 ปี และงานฐานรากทำเสร็จ

ตามแปลนของ Donato Bramante สถาปิกคนแรกตั้งแต่ปี

1506 สถาปนิกคนอื่นได้ทำงานต่อเนื่องกันมามีการ

เปลี่ยนแปลงแบบหลายครั้ง แต่งานก่อสร้างมีความคืบหน้า

น้อยมาก ไมเคิลแองเจโลคงแนวคิดหลักของ Bramante เอา

ไว้แต่ได้ออกแบบใหม่หลายส่วน โดยเฉพาะตรงโดมที่สวยสง่า

เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารแห่งนี้ งานก่อสร้างก้าวหน้าไป

ด้วยดีแต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นโดมที่เสร็จสมบูรณ์

ด้วยตาตัวเอง เนื่องจากเขาเสียชีวิตไปเสียก่อนที่โดมจะสร้าง

เสร็จ


Click to View FlipBook Version