1.3 การประกอบธุรกจิ ตามแนวคดิ ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
แนวทางการประกอบธุรกจิ ตามแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนว
ทางการดารงอยแู่ ละปฏิบตั ิตนของประชากรในทุกระดบั ใหด้ าเนินทางสายกลางเพอ่ื ใหร้ อดพน้ และสามารถ
ดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมน่ั คงและยง่ั ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์
เศรษฐกจิ พอเพยี ง คือ เศรษฐกิจที่สามารถอุม้ ชูตวั เองได้ มีความพอเพียงกบั ตนเอง และอยไู่ ด้
โดยไม่เดือดร้อน ดว้ ยการสร้างพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจของตนเองใหด้ ีก่อน คือ ต้งั ตวั ใหพ้ ออยู่ พอกิน พอใช้ ไม่
มุ่งหวงั แต่จะทุ่มเทสร้างความความเจริญทางเศรษฐกิจใหร้ วดเร็วแต่เพียงอยา่ งเดียว เพราะผทู้ ่ีมีอาชีพและมี
ฐานะทางเศรษฐกิจในข้นั ท่ีสูงข้ึนไปตามลาดบั ต่อไปได้
หลกั การของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
กรอบแนวคดิ เป็นปรัชญาที่ช้ีแนวทางการดารงชีวติ และปฏิบตั ิตนในทางท่ีควรจะเป็นโดยมีพ้ืนฐานมาจากวถิ ีชีวติ ด้งั เดิมของ
สงั คมไทย ซ่ึงสามารถนามาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดท้ ุกสถานการณ์และเป็นการมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลา
มุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภยั และวกิ ฤติเพื่อความมน่ั คงและยงั่ ยนื ของการพฒั นา
คุณลกั ษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การปฏิบตั ิตนไดใ้ นทุกระดบั โดยเนน้ การปฏิบตั ิตามสายกลางและ
การพฒั นาอยา่ งเป็นข้นั ตอน
คำนิยำม ความพอเพียงจะตอ้ งประกอบดว้ ย 3 คุณลกั ษณะพร้อม ๆ กนั ไดแ้ ก่
- ความพอประมาณ คือ ความพอดีที่ไม่นอ้ ยเกินไปและไม่มากเกินไป
- ความมีเหตุผล คือ การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ของความพอเพียงน้นั จะตอ้ งเป็นไปอยา่ งมีเหตุผล
- การมีภูมิคุม้ กนั ในตวั ท่ีดี คือ การเตรียมตวั ใหพ้ ร้อมรับกบั ผลกระทบและการเปล่ียนแปลงดา้ นต่าง ๆ
เง่ือนไข การตดั สินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพียงน้นั จะตอ้ งอาศยั ความรู้และคุณธรรมเป็นพ้ืนฐาน
- เงื่อนไขความรู้ คือ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั ในการนาความรู้และวิทยาการต่าง ๆ มาใช้
- เง่ือนไขคุณธรรม คือ มีความตระหนกั มีความซื่อสตั ยส์ ุจริต มีความขยนั อดทน
แนวทำงปฏบิ ตั ิ ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับจากการนาแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ คือ การพฒั นาท่ีสมดุลและ
ยง่ั ยนื พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงทุกดา้ น ท้งั ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ความรู้ และเทคโนโลยี
ความรบั ผดิ ชอบของธรุ กิจต่อสงั คม
การดาเนินงานของธุรกิจมกั จะเก่ียวขอ้ งกบั สงั คมท้งั ภายในและภายนอกกิจการในลกั ษณะของการ
พ่ึงพาอาศยั ซ่ึงกนั และกนั ซ่ึงอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุก ๆ ดา้ น เพื่อใหก้ ารดาเนินงานของธุรกิจเป็นไปตาม
วตั ถุประสงคท์ ่ีกาหนดไว้ ธุรกิจจึงจาเป็นตอ้ งมีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม
1.ควำมรับผดิ ชอบต่อผู้ประกอบกำรหรือผู้ถือหุ้น
โดยการดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพและมีกาไรเพียงพอแก่การ
จดั สรรใหแ้ ก่ผปู้ ระกอบการหรือผถู้ ือหุน้
ควำมรับผดิ ชอบ 2.ควำมรับผดิ ชอบต่อผู้บริหำร โดยการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทน
ของธุรกจิ ต่อสังคม ในรูปของสวสั ดิการต่าง ๆ เพ่อื เป็นแรงจูงใจและสร้างความมนั่ คง
ภำยในองค์กร ใหแ้ ก่ผบู้ ริหาร
3.ควำมรับผดิ ชอบต่อลกู จ้ำงหรือพนักงำน โดยจ่ายเงินเดือนและค่าจา้ ง
ใหแ้ ก่ลูกจา้ งและจดั สวสั ดิการต่าง ๆ ส่งผลใหพ้ นกั งานเกิดความ
จงรักภกั ดีต่อองคก์ ร
ควำมรับผดิ ชอบของธุรกจิ ต่อสังคมภำยนอกองค์กร
1.ควำมรับผดิ ชอบต่อลกู ค้ำ คือ การตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคหรือลูกคา้ ทุก ๆ
ดา้ น ดว้ ยการผลิตสินคา้ หรือการบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
2.ควำมรับผดิ ชอบต่อเจ้ำหน้ำท่ี ผปู้ ระกอบการจาเป็นตอ้ งกยู้ มื เงินจากสถาบนั การเงินต่าง ๆ
กิจการตอ้ งรับผดิ ชอบดว้ ยการจ่ายดอกเบ้ียและเงินตน้ คืน
3.ควำมรับผดิ ชอบต่อคู่แข่งขนั การปฏิบตั ิตนเคารพกฎเกณฑข์ องสังคมและธุรกิจท่ีร่วมกนั
กาหนดข้ึนระหวา่ งองคก์ รต่าง ๆ
4.ควำมรับผดิ ชอบต่อรัฐบำล ธุรกิจใหค้ วามร่วมมือกบั ภาครัฐ ดว้ ยการปฏิบตั ิตนตาม
กฎหมายและระเบียบของสงั คมดว้ ยการเสียภาษอี ากรอยา่ งถูกตอ้ ง
5.ควำมรับผดิ ชอบต่อสำธำรณชน สร้างทศั นคติที่ดีต่อธุรกิจ เพราะสาธารณชนคือลูกคา้ ซ่ึงมี
ผลต่อความสาเร็จของธุรกิจ
6.ควำมรับผดิ ชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะท่ีอยอู่ าศยั ที่ผคู้ นหนาแน่นเกิดชุมชนแออดั
ก่อใหเ้ กิดปัญหาเกี่ยวกบั สิ่งแวดลอ้ มเป็นพษิ เช่น น้าเสีย การจราจรติดขดั ซ่ึงเกิดจากการขาด
ความรับผดิ ชอบของธุรกิจ