การจัดทำหน่วยการเรยี นรู้
รายวิชา การงานอาชีพ 5 รหสั ง33101 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ เวลาเรียนทั้งส้นิ 12 ชว่ั โมง
หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา
(ชว่ั โมง)
1 คัมภรี ์วถิ รี วย 1. ประวตั ิ ความสำคัญของระบบไอซที ี
2. รูปแบบและประเภทของธุรกิจพาณชิ ย์ 12
อเิ ล็กทรอนิกส์
3. แนวทางสอู่ าชีพ
4. ประสบการณใ์ นอาชพี
5. การจดั ทำโครงงานอาชีพ
6. การนำเสนอรายงานในรูปแบบต่าง ๆ
7. การจัดนทิ รรศการ
8. การสร้าง facebook fanpage
รวม 12
โครงสรา้ งรายวชิ า ง33101
ลำดบั ชอ่ื หน่วย จุดประสงค์ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
(ช่วั โมง) คะแนน
1 คัมภีรว์ ถิ ีรวย 1. แนวทางการเข้าสู่ อธบิ ายหลักการ วิธีการ 12 70
อาชีพ ขัน้ ตอน กระบวนการทำ
- การเตรยี มตัวหางาน ธรุ กจิ พาณชิ ยอ์ เิ ล็กทรอนิกส์
และพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ มีความร้แู ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั
- ลกั ษณะความม่นั คง งานอาชีพที่สนใจและอาชีพ
และความกา้ วหน้า ในทอ้ งถน่ิ มีทักษะ
- การสมคั รงาน กระบวนการกล่มุ ในการทำ
- การสัมภาษณ์ โครงงานอาชพี เพอ่ื ให้
- การทำงาน นักเรียนสามารถสรา้ งชน้ิ งาน
- การเปลย่ี นงาน หรือผลิตภณั ฑ์ทีท่ ำจาก
2. คณุ ลกั ษณะท่ดี ี วตั ถดุ บิ ในทอ้ งถ่นิ
ต่ออาชีพ โดยศกึ ษากระบวนการ
- คุณธรรมและจริยธรรม ทำงานจากวทิ ยากรและ
ในการประกอบอาชีพ ปราชญ์ชาวบา้ น หาความรู้
- คา่ นิยมในการประกอบ เพมิ่ เตมิ จากแหล่งเรียนรู้
อาชพี ในท้องถน่ิ และแหล่งเรยี นรู้
3. การเลือกใช้ ใน Social Network เพอ่ื ใหเ้ กดิ
เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม ทกั ษะท่จี ำเป็นในศตวรรษ
4. ประสบการณใ์ น ที่ 21 ในการจำหน่ายสนิ ค้า
อาชีพ ทางออนไลน์ ซึง่ เป็นการ
- การจำลองอาชพี ชว่ ยเหลือผปู้ กครองในการ
- กิจกรรมอาชีพ หารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น และ
5. การทำโครงงานอาชีพ นักเรยี นสามารถน้อมนำเอา
6. การนำเสนองาน หลักปรัชญาเศรษฐกิจ
7. การสรา้ ง พอเพยี งมาแก้ปญั หาในการ
FACEBOOK FANPAGE ใช้ชีวติ ประจำวนั และมคี วาม
ภาคภูมใิ จในการสบื สาน
อนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่
และมเี จตคติที่ดีตอ่ การ
ประกอบอาชพี สจุ รติ
3
โครงสร้างรายวชิ า ง33101 (ต่อ)
ลำดบั ชอ่ื หนว่ ย จดุ ประสงค์ สาระสำคญั เวลา น้ำหนัก
(ชัว่ โมง) คะแนน
2 ธรุ กิจ SMEs - มีความรู้ ความเข้าใจ ธุรกจิ ขนาดกลางและ 8 30
ในการทำธรุ กิจ SMEs ธรุ กิจขนาดยอ่ ม เปน็
และเตรียมตวั ในการ ธรุ กิจ
เป็นผู้ประกอบการทด่ี ี ทีไ่ ดร้ บั ความนยิ ม
- ความสำคัญของ เพราะใช้เงนิ ลงทุนไมม่ าก
ธรุ กิจขนาดกลางและ นักและใช้แรงงาน
ขนาดย่อม (SMEs) ปฏิบัติงานจำนวนน้อย
- ประเภทของธุรกิจ การประกอบธรุ กิจ
ขนาดกลางและขนาด ขนาดกลางและขนาดย่อม
ย่อม (SMEs) ให้ประสบความสำเร็จ
- ลกั ษณะของธุรกิจ ผปู้ ระกอบการต้องศึกษา
ขนาดกลางและขนาด การเขยี นแผนธรุ กิจ การ
ย่อม (SMEs) ใชเ้ งนิ ลงทุน และการ
- การประกอบธรุ กิจ บริหารทรพั ยากรบุคคล
ขนาดกลางและขนาด ให้เข้าใจอยา่ งแทจ้ ริง
ย่อม (SMEs) เพ่อื ใหธ้ รุ กจิ เจรญิ เติบโต
- แผนธรุ กจิ ไม่ขาดทุนและเป็นผูท้ ่ีมี
- การวางแผนและ จรรยาบรรณตอ่ อาชีพ
การบรหิ ารความเส่ียง
ด้วยการทำประกนั ภัย
- การบริหารจัดการ
ธรุ กิจขนาดกลางและ
ขนาดยอ่ ม (SMEs)
- การเงินและการ
บญั ชสี ำหรบั ธุรกจิ
ขนาดกลางและขนาด
ยอ่ ม (SMEs)
กำหนดการจดั การเรยี นรู้รายวชิ า ง33101
สัปดาห์ ช่วั โมง สาระการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ จำนวนช่วั โมง
1
2 1 1. ประวัติ ความสำคัญของ เพ่ือทราบประวตั ิและจุด 1
3 ระบบไอซีที กำเนดิ ของระบบไอซที ี
4 2 2. รปู แบบและประเภทของ อธิบายรูปแบบและประเภท 1
6
ธุรกจิ พาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ของธุรกจิ พาณชิ ย์
8
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
10
11 3 3. แนวทางสู่อาชีพ คน้ หาตนเองในการ 1
13
14 ประกอบอาชีพทสี่ นใจและ
ถนัด
4 4. ประสบการณ์ในอาชพี จำลองอาชีพให้มี 2
ประสบการณ์ในอาชีพ
6 5. การจัดทำโครงงาน เพ่ือศกึ ษาโครงงานอาชีพ 2
อาชีพ ท่นี ักเรียนสนใจและสามารถ
สร้างความรดู้ ว้ ยตนเอง
,เขียนสรุปผลการศึกษาตาม
รปู แบบการจัดทำรายงาน
โครงงานได้ถูกต้อง
8 6. การนำเสนอรายงาน การนำเสนอรายงาน 2
ในรูปแบบต่าง ๆ ในรูปแบบวีดทิ ัศน์,Anyflip,
Google sites ฯลฯ
10 7. การจัดนทิ รรศการ แสดงผลงานสู่สาธารณะ 1
11 8. การสร้าง facebook ชอ่ งทางในการจำหน่าย 2
fanpage สินค้าแบบออนไลน์
13 เก็บคะแนน สอบกลางภาค 1
14 9. ความสำคัญของธุรกิจ ธรุ กจิ (SMEs) มคี วามสำคญั 1
ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม ในการขับเคล่ือนเศรษฐกิจ
(SMEs) ของประเทศ
5
กำหนดการจัดการเรียนรู้รายวชิ า ง33101 (ต่อ)
สัปดาห์ ชวั่ โมง สาระการเรยี นรู้ จุดประสงค์ จำนวนช่วั โมง
15
16 15 10. ประเภทของธุรกิจและ สามารถเลือกประเภทใน 1
17
18 ลกั ษณะของธุรกิจขนาด การทำธรุ กิจได้อย่าง
19
กลางและขนาดย่อม เหมาะสม
20
(SMEs)
16 11. แผนธรุ กจิ การเขยี นแผนธุรกิจ 1
แสดงรายละเอียดและ
กจิ กรรมต่าง ๆ ที่ทำให้
ธุรกจิ บรรลเุ ปา้ หมายทตี่ ง้ั ไว้
17 12. การวางแผนและการ การทำประกันภยั เพ่ือลด 1
บริหารความเส่ียงด้วยการ ความเสย่ี งจากความ
ทำประกนั ภัย เสียหายของธรุ กจิ
18 13. การบรหิ ารจดั การธุรกจิ การบริหารจดั การธรุ กิจ 1
ขนาดกลางและขนาดย่อม เพอ่ื ชว่ ยสนับสนุนให้ธุรกจิ
(SMEs) ประสบความสำเรจ็ โดยใช้
หลัก 4 P
19 - การเงนิ และการบญั ชี การเงนิ และการบญั ชีเป็น 1
สำหรบั ธรุ กิจขนาดกลาง การบนั ทึกรายรับ-รายจา่ ย
และขนาดย่อม (SMEs) หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ
เพอื่ ใช้เป็นฐานในการจดั ทำ
งบประมาณทางการเงนิ ของ
ธรุ กจิ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย
ท่วี างไว้
20 วดั ผลและประเมินผล สอบปลายภาค 1
6
ข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้แบบ TCAS Model เสรมิ ด้วย Social Network
T = TEAM
C = CONSTRUCTIVISM
A = ACTIVE LEARNING
S = SOCIAL NETWORK
เป็นการประยุกตใ์ ช้การจดั การเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อให้นักเรียนทำงานกระบวนการกลุ่ม
และศึกษาความรจู้ ากบทเรียนออนไลน์ที่ครูพฒั นาบทเรียนขึ้นมาใน google sites และแสวงหา
ความร้เู พ่มิ เติมใน social network เพื่อนำมาปฏบิ ตั งิ านและสามารถสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง
นำมาวัดและประเมินผลรว่ มกันในชัน้ เรยี น เพ่ือจะไดน้ ำไปปรับปรุงแก้ไขและนำผลงานเผยแพร่
สูส่ าธารณะด้วยรูปแบบต่าง ๆ ใน social network
1. ขน้ั นำเสนอ หมายถงึ ขน้ั ทคี่ รผู ูส้ อนให้นักเรียนศกึ ษาใบความรู้จากบทเรียนออนไลน์
หนว่ ย คัมภรี ์วถิ ีรวย กำหนดสถานการณ์ ศกึ ษาสถานการณ์ ดูตวั อยา่ งจาก รูปภาพ สื่อใน Youtube
และแหลง่ เรยี นรอู้ น่ื ๆ และครูใช้เทคนคิ การตง้ั คำถามเก่ียวกบั สาระการเรียนรูท้ ก่ี ำหนดในแผน
การจดั การเรยี นรแู้ ต่ละแผน เชน่ สาระการเรยี นรตู้ ามหลักสูตรและสาระการเรียนร้ทู ี่เป็นขน้ั ตอน
ของโครงงานเพื่อใชเ้ ป็นแนวทางในการวางแผนการเรียนรู้
2. ข้นั วางแผน หมายถงึ ข้นั ที่นักเรยี นรว่ มกนั วางแผน โดยการระดมความคดิ อภิปราย
หารือข้อสรปุ ของกลุ่ม เพื่อใช้เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิ
3. ข้นั ปฏบิ ตั ิ หมายถงึ ขั้นที่นักเรยี นปฏบิ ตั ิกจิ กรรม เขียนสรปุ รายงานผลทีเ่ กิดขึ้นจากการ
วางแผนรว่ มกันและทำรายงานผลด้วยส่ือ เทคโนโลยี เพอ่ื นำไปเผยแพร่สูส่ าธารณะ
4. ขน้ั ประเมนิ ผล หมายถึง ข้ันการวดั และประเมินผลตามสภาพจริง โดยใหบ้ รรลุ
จุดประสงค์การเรียนรทู้ ่ีกำหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยมีครผู สู้ อน นักเรยี นและเพื่อนร่วมกัน
ประเมนิ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
รหัสวิชา ง33101 รายวชิ า การงานอาชพี 5 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง คมั ภีรว์ ิถีรวย ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
เรอื่ ง ประสบการณใ์ นอาชพี
เวลา 2 ช่ัวโมง
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 2 : การอาชีพ
มาตรฐาน ง 2.1 เขา้ ใจ มีทักษะท่ีจำเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยี
เพ่ือพัฒนาอาชีพมคี ุณธรรม และมีเจตคติทดี่ ตี ่ออาชีพ
2. ตัวชีว้ ัด
ง 2.1 ม.4-6/2 เลอื กและใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมกับอาชีพ
ง 2.1 ม.4-6/3 มีประสบการณ์ในอาชีพท่ีถนัดและสนใจ
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ความรู้ (K) นกั เรียนสามารถ
1 อธิบายวธิ กี ารทำผ้ามัดย้อมแบบย้อมเยน็ จากคราม
2. อธิบายวิธกี ารทำผา้ มัดยอ้ มแบบย้อมร้อนจากดอกบัวแดงแหง้
3. เขียนแผนทค่ี วามคดิ สรุปความรูจ้ ากการจำลองอาชีพ
3.2 ทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นมีความสามารถ
1. ปฏิบตั กิ ารจำลองอาชีพไดต้ ามข้ันตอนทว่ี างแผนไว้
2. นำเสนอขน้ั ตอนการทำผ้ามัดยอ้ มเป็นวีดิทัศน์ด้วยโปรแกรมต่าง ๆ
3.3 คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุ่งม่ันในการทำงาน
3. รกั ความเป็นไทย
4. สาระการเรยี นรู้
1. การทำผา้ มดั ย้อมแบบย้อมเยน็ จากสคี ราม
2. การทำผ้ามัดย้อมแบบย้อมร้อนจากดอกบัวแดงแหง้
31
5. สมรรถนะสำคญั
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งม่ันในการทำงาน
3. รกั ความเป็นไทย
7. สาระสำคัญ
การทำผ้ามัดย้อม เปน็ การฝึกประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรูเ้ ก่ียวกับอาชีพ เกิดทักษะการทำงาน
การแกป้ ัญหา การทำงานรว่ มกนั เกดิ ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายผา้ มัดย้อมแบบต่าง ๆ
มีความภาคภมู ิใจในการอนุรกั ษภ์ มู ิปัญญาท้องถ่ินและเหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย
8. จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาผูเ้ รยี น
ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3R 8C 2L)
R1-Reading(อา่ นออก) R2-(W)Riting(เขยี นได้) R3-(A)Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )
C-1 Critical thinking and problem solving คือ มีทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ การคิด
อย่างมีวิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้
C-2 Creativity and innovation คอื การคิดอยา่ งสร้างสรรค์และคดิ เชิงนวัตกรรม
C-3 Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวฒั นธรรม
และกระบวนการคิดขา้ มวฒั นธรรม
C-4 Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเปน็
ทมี และภาวะความเปน็ ผูน้ ำ
C-5 Communication information and media literacy คอื มที กั ษะในการสื่อสาร
และการรูเ้ ทา่ ทันสอ่ื
C-6 Computing and IT literacy คอื มที ักษะการใช้คอมพวิ เตอร์และร้เู ท่าทนั
เทคโนโลยี
C-7 Career and learning skills คือ มที กั ษะอาชพี และการเรียนรู้
C-8 Compassion คอื มีความเมตตากรณุ า มคี ณุ ธรรม และมรี ะเบียบวินยั
32
L-1 Learning (ทักษะการเรยี นร)ู้ L-2 Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผนู้ ำ)
ความสามารถและทกั ษะของผ้เู รยี นศตวรรษท่ี 21 ที่สง่ เสรมิ ทกั ษะ 3 ด้าน คือ
1. ทักษะดา้ นการเรียนรู้และนวตั กรรม
2. ทกั ษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
3. ด้านชวี ติ และอาชีพ
9. กิจกรรมการเรยี นรู้
ชว่ั โมงที่ 1
ข้นั ท่ี 1 ข้นั นำเสนอ
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และการเก็บคะแนนใหน้ ักเรียนทราบ
2. ครูสนทนากับนักเรยี นในช่วงสถาณการณ์โรคระบาดโควดิ -19 มคี รอบครัวใครบา้ ง
ที่ผูป้ กครองไดร้ ับผลกระทบทางเศรษฐกิจและนกั เรยี นไดช้ ่วยเหลือผู้ปกครองประหยัดค่าใชจ้ า่ ย
อย่างไร
3. ครูสอบถามถึงสินค้าในชมุ ชนวา่ จำหนา่ ยอะไรบ้าง และนกั เรียนจะมีแนวทางในการ
หารายได้เพื่อชว่ ยเหลอื ครอบครัวไดอ้ ยา่ งไร
4. ครูสอบถามนักเรียนเกี่ยวกบั ความรู้ในเรอื่ งอาชีพท่ีครูให้ศกึ ษาใบความรูล้ ว่ งหนา้
จากบทเรียนออนไลน์ หน่วย คมั ภีร์วิถรี วย ใน Google Sites ท่คี รูสรา้ งข้ึน
5. ครนู ำผา้ คลุมไหล่ เสื้อคลมุ และผา้ ถงุ มาโชวไ์ วท้ หี่ น้าหอ้ งเรยี นแลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบ
คำถามวา่ สนิ ค้าแตล่ ะชนิดทำการมดั ย้อมสีธรรมชาตทิ ีท่ ำมาจากอะไรบ้าง
6. ครูนำเอาดอกบัวแดงแหง้ ขึ้นมาสอบถามนักเรยี นวา่ รจู้ กั การทำผ้ามัดยอ้ มจากดอกบวั
หรอื ไมเ่ พราะท่ีบ้านโนนกอก ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อดุ รธานี ไดท้ ำผา้ มดั ย้อมจากกดอกบวั
7. ครูให้นักเรียนชมวดี ทิ ศั น์การย้อมผา้ จากครามบ้านเชยี งของนักเรยี นรุ่นพี่ทค่ี รูพาไปฝึก
ทำผ้ามดั ย้อมกับปราชญ์ชาวบา้ น ซง่ี บันทึกวีดทิ ัศน์ข้ันตอนการทำผา้ มดั ย้อมจากครามแล้วนำไปโพสต์
ในชอ่ ง Youtube:เรียนทำผา้ มดั ยอ้ มบ้านเชียง (3 นาที)
ขั้นท่ี 2 ข้ันวางแผน
8. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การฝกึ ทำผา้ มัดย้อมใหน้ ักเรียนทราบและการบันทึกขั้นตอน
การทำงานเพ่ือนำเสนอครูและเพ่ือนดูเปน็ วีดทิ ัศน์
9. ครูสาธติ การมดั ผา้ อย่างไรถงึ จะเกดิ ลวดลายตามทีต่ อ้ งการ สามารถนำเอาวัสดอุ ะไรหรือ
นักเรียนจะมีวิธกี ารแกป้ ัญหาในการใชว้ ัสดอุ ะไรบ้างท่ีจะทำให้เกดิ ลวดลายแปลกใหม่ขนึ้ มา
10. ครูเตรียมอุปกรณ์ไวห้ น้าชนั้ เรียน และอธบิ ายขนั้ ตอนการทำผ้ามัดย้อมท่ีจะใหน้ ักเรียน
33
ทำในวันน้ี ซึ่งเปน็ การย้อมผ้าแบบยอ้ มเย็นจากสีตน้ ครามและการย้อมผ้าแบบย้อมร้อนจากดอกบัว
แดงแหง้ วา่ จะได้ออกมาสีอะไร และมขี น้ั ตอนกระบวนการทำทีแ่ ตกตา่ งกันอยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ข้นั ปฏบิ ัติ
11. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ ๆละ 4-5 คน เพื่อแต่ละกลุ่มจะได้ทำผ้าเชด็ หนา้ จากการย้อมเยน็
1 ผืน และการย้อมรอ้ น 1 ผืน โดยเลือกต้งั หวั หน้ากลมุ่ และแบง่ หน้าทีก่ นั ทำตามความสามารถ
ของแต่ละคนเพื่อฝึกทำผา้ มดั ย้อม เลือกทำตามแบบในใบความรู้หรอื ทำตามความคดิ สร้างสรรค์
ของสมาชิกในกลุ่มแลว้ บันทกึ ภาพนง่ิ และบนั ทกึ เปน็ วดี ิทัศน์ไว้เพื่อตดั ตอ่ นำเสนองานสง่ ครูใน
หอ้ งเรยี น Google classroom และสัปดาหห์ นา้ ใหน้ ำผลงานท่ีนักเรยี นไดค้ ิดสร้างสรรค์ออกแบบ
มาประเมินร่วมกันวา่ มดั อย่างไรถงึ เกดิ ลวดลายตามที่ต้องการ
ข้นั ท่ี 4 ขนั้ ประเมินผล
12. หลงั จากนักเรียนทำผ้ามดั ย้อมไดร้ ่วมกันสรปุ ถึงกระบวนการทำงาน ว่ามีการทำตาม
ข้ันตอนทว่ี างแผนไว้หรอื ไม่ และมวี ิธกี ารแกป้ ัญหาอย่างไรในการทำงานบ้าง
13. ครูแจง้ ให้นกั เรียนเข้าดู Youtube จากรายการ sadoodta : ผา้ ทองจากบัวแดง
จากใบความรู้ท่ี 5 ในบทเรียนออนไลน์มาล่วงหน้า เพื่อจะได้ร่วมกนั วเิ คราะห์การทำงานของรายการ
ในสัปดาหห์ น้า
ชว่ั โมงที่ 2
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั นำเสนอ
1. ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ยี วกับขั้นตอนในการทำผา้ มัดย้อมในสัปดาหท์ ่แี ล้วและความรสู้ ึก
ท่ีไดท้ ำผ้ามดั ยอ้ ม
2. ครสู อบถามนกั เรยี นในการดู Youtube จากรายการ sadoodta : ผา้ ทองจากบัวแดง
แล้วร่วมกันวิเคราะห์จากการทำรายการวา่ มีอาชีพอะไรท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการทำงานของรายการนบี้ ้าง
เพือ่ เข้าใจกระบวนการทำงานของกิจกรรมอาชีพ
ข้ันท่ี 2 ขน้ั วางแผน
2. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเตรยี มตวั อธิบายขน้ั ตอนการทำผา้ มัดย้อมหนา้ ชนั้ เรียนพรอ้ มกับ
นำเสนอผลงานด้วยวีดิทศั นท์ ่ีบนั ทึกไว้
34
ข้ันท่ี 3 ข้ันปฏิบัติ
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มอธิบายขนั้ ตอนการทำผ้ามัดย้อมประกอบวดี ทิ ศั น์ท่นี ำมาเสนอพร้อม
นำผ้าเช็ดหน้าท่ยี ้อมจากครามและดอกบัวแดงให้ครูและเพื่อนดู
4. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันอธิบายการเกิดลวดลายในการมัดย้อมผ้าเพื่อเข้าใจเทคนิคในการมดั
เพื่อใหเ้ กดิ ลวดลายทสี่ วยงาม
ข้ันที่ 4 ข้นั ประเมนิ ผล
5. นักเรยี นร่วมกันสรปุ การทำผา้ มัดย้อมของแต่ละกล่มุ วา่ เกดิ ลวดลายอย่างไร เปน็ ตาม
แบบในใบความรู้หรอื ลายทีน่ ักเรยี นสบื คน้ มาเอง หรือเกดิ ลวดลายตามทีน่ ักเรยี นคิดสรา้ งสรรค์ข้ึนมา
หรอื ไม่
6. นักเรียนร่วมกนั ประเมนิ วีดทิ ัศน์ของแต่ละกลุ่มทน่ี ำมาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี นว่าควรปรับปรุง
แก้ไขเพิ่มเตมิ อย่างไร
7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมการทำผา้ มดั ยอ้ ม เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจแนวทางในการ
ประกอบอาชีพว่าในแต่ละกิจกรรมอาชีพสามารถสร้างอาชีพอน่ื ๆ อกี หลากหลายอาชีพทแี่ ตกต่าง
ตามความสามารถของแตล่ ะคน เชน่ นกั เรยี นท่ไี ดร้ ับมอบหมายให้มีหน้าท่ีตดั ตอ่ วดี ิทัศน์ ในอนาคต
อาจจะเลือกเรียนสาขาอาชีพที่ใช้ความสามารถทางคอมพวิ เตอร์ หรอื นกั เรียนท่ีมีความสนใจในสีที่
นำมาย้อมผ้า อาจจะเลือกเรยี นทางด้านวทิ ยาศาสตร์เพ่ือทดลองหาวสั ดยุ อ้ มผา้ จากสธี รรมชาตอิ นื่ ๆ
ก็ได้ หรอื นักเรียนบางคนอาจจะประกอบอาชีพครศู ิลปะ,นางแบบ,ดีไซนเ์ นอร์,พิธีกร เป็นตน้
8. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรุปถงึ แนวทางในการประกอบอาชีพท่ีหลากหลายและทักษะ
ทจี่ ำเปน็ จากการจำลองอาชีพและประโยชน์ของการใชเ้ ทคโนโลยใี นการทำงานเพอื่ ให้มเี จตคตทิ ่ดี ี
ต่ออาชีพในท้องถ่ิน
9. ครแู จ้งใหน้ กั เรยี นส่งวีดทิ ศั น์การทำผ้ามัดย้อมที่แกไ้ ขปรบั ปรุงแล้วตามคำแนะนำ
ของเพื่อนแลว้ บันทกึ ลง Youtube ของนักเรียนและส่งให้ครูในหอ้ งเรยี น google classroom
10. ครใู ห้นักเรียนสรุปความรูท้ ไ่ี ด้รับจากการทำผ้ามดั ยอ้ มด้วยแผนทีค่ วามคิด
10. ส่ือการเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้
ส่ือการเรยี นรู้
1. ใบความรู้ท่ี 4 เร่ือง ประสบการณ์ในอาชีพจากบทเรียน google sites หนว่ ย คมั ภรี ์วิถรี วย
ใน www.rachinuthit.ac.th ห้องเรยี นออนไลน์ครูวนิดา
2. เน้อื หาในเวบ็ ไซตอ์ ืน่ ๆ
3. Youtube : เรียนทำผา้ มัดยอ้ มบ้านเชยี ง
35
4. Youtube จากรายการ sadoodta : ผ้าทองจากบัวแดง
5. กระทะไฟฟ้า
6. นำ้ ตาลทรายแดง
7. กะละมัง
8. นำ้ คราม
9. ยางวง
10. โทรศัพท์มือถอื
11. ดอกบัวแดงแห้ง
12. นำ้ เปลา่
แหลง่ เรียนรู้
1. หอ้ งปฏิบัตกิ ารงานธรุ กิจ
2. หอ้ งสมดุ ดิจติ อล
ภาระงาน/ชน้ิ งาน
1. ใบกิจกรรมท่ี 4.1 การนำเสนอวธิ ีการทำผ้ามัดย้อมด้วยวีดิทศั น์
2. ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 สรปุ การทำผ้ามัดย้อมด้วยแผนที่ความคดิ
36
11. การวัดผลและประเมินผล
จดุ ประสงค์ วิธวี ัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การ
- การสงั เกต ประเมิน
การเรยี นรู้ พฤติกรรมในชั้นเรียน เกณฑ์การผา่ น
- แบบประเมนิ ไมต่ ำ่ กว่า
ด้านความรู้(K) - การตอบคำถาม ใบกิจกรรม ระดบั 2
- แบบบนั ทกึ คะแนน
1. อธิบายวิธกี ารทำผา้ มัด ระหวา่ งเรยี น เกณฑ์การผ่าน
แบบสังเกตพฤติกรรม ไม่ตำ่ กวา่
ยอ้ มแบบย้อมเย็นจากคราม - ตรวจผลงานจาก การทำงานกล่มุ ระดับ 2
2. อธบิ ายวธิ ีการทำผา้ มัด การทำใบกิจกรรมท่ี
ยอ้ มแบบย้อมร้อนจาก 4.1-4.2
ดอกบัวแดงแห้ง
3. เขยี นแผนทค่ี วามคิด
สรุปความรจู้ าก
ประสบการณ์ในการจำลอง
อาชีพ
ด้านทักษะกระบวนการ(P) สังเกตพฤติกรรม
1. ปฏิบตั ิการจำลองอาชีพ
ได้ตามขนั้ ตอนท่ีวางแผนไว้
2. นำเสนอข้ันตอนการทำ
ผา้ มดั ย้อมเปน็ วีดิทศั น์
ดว้ ยโปรแกรมตา่ ง ๆ
ด้านคุณลกั ษณะ การสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม เกณฑ์การผ่าน
ทพ่ี งึ ประสงค์(A)
1. ใฝเ่ รียนรู้ ด้านคุณลักษณะ ไม่ตำ่ กว่า
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
3. รักความเปน็ ไทย อันพงึ ประสงค์ ระดบั 2
37
12. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้
ชนั้ ...............
สรปุ ผลการประเมินผเู้ รยี นดา้ นความรู้
นักเรยี นจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรยี นรู้อยใู่ นระดับ 1
นกั เรียนจำนวน .........คนคดิ เป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรยี นรู้อยู่ในระดับ 2
นักเรียนจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรียนรู้อยใู่ นระดับ 3
นักเรียนจำนวน .........คนคิดเป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรียนรู้อยใู่ นระดับ 4
สรปุ ผลการประเมนิ ผู้เรยี นดา้ นทกั ษะกระบวนการ
นักเรียนจำนวน .........คนคดิ เปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรียนรู้อยู่ในระดับ 1
นักเรียนจำนวน .........คนคดิ เปน็ รอ้ ยละ.............มีผลการเรยี นรู้อยู่ในระดับ 2
นกั เรียนจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรียนรูอ้ ยใู่ นระดับ 3
นักเรยี นจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มผี ลการเรียนรอู้ ยใู่ นระดับ 4
สรปุ ผลการประเมนิ ผเู้ รียนด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
นกั เรียนจำนวน .........คนคดิ เป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรียนรู้อยู่ในระดับ 1
นกั เรียนจำนวน .........คนคดิ เป็นรอ้ ยละ.............มีผลการเรียนรูอ้ ยู่ในระดับ 2
นักเรยี นจำนวน .........คนคิดเป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรยี นรอู้ ยใู่ นระดับ 3
นักเรียนจำนวน .........คนคิดเป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรียนรอู้ ยู่ในระดับ 4
สรปุ ผลการประเมนิ ผเู้ รยี น
นักเรยี นจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรยี นรู้อยใู่ นระดับ 1
นักเรียนจำนวน .........คนคดิ เปน็ ร้อยละ.............มีผลการเรียนรู้อยใู่ นระดับ 2
นกั เรยี นจำนวน .........คนคดิ เป็นรอ้ ยละ.............มผี ลการเรยี นรู้อยใู่ นระดับ 3
นกั เรยี นจำนวน .........คนคิดเปน็ ร้อยละ.............มผี ลการเรยี นรูอ้ ยใู่ นระดับ 4
สรุปโดยภาพรวมมนี กั เรียนจำนวน .........คนคดิ เปน็ ร้อยละ...........ทผ่ี า่ นเกณฑร์ ะดับ 2 ขึ้นไป
ซ่ึง........ กว่าเกณฑ์ทีก่ ำหนดไว้รอ้ ยละ 80 มนี ักเรียนจำนวน ...........คนคิดเปน็ รอ้ ยละ..............
ทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑท์ กี่ ำหนด
ลงชอ่ื .......................................... ผูส้ อน
(นางวนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์)
ครูชำนาญการพเิ ศษ
วันท่.ี ............เดือน..................พ.ศ. ...............
38
ขอ้ สงั เกต/ค้นพบ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. .........................
แนวทางแก้ไขปัญหาเพ่ือปรับปรงุ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................ ................
................................................................................................................... .............................................
............................................................................................................................. ...................................
......................................................................................................................................................
ผลการพฒั นา
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................................. .........
ลงชอื่ ......................................... ผู้สอน/ผู้บันทกึ
(นางวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์)
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ
วนั ที่.............เดือน..................พ.ศ. ...............
39
13. ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้ทู ไ่ี ด้รบั มอบหมายจากหวั หนา้ สถานศกึ ษา
13.1 ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพ
1. ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แลว้ เป็นแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
สามารถนำไปใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
2. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ
............................................................................................................................. .................................
................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................
..............................................................................................................................................................
ลงช่อื
(นายบญั ชา สานะสี)
ตำแหนง่ หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี
13.2 ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของรองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ
1. ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แลว้ เปน็ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
สามารถนำไปใชจ้ ดั กิจกรรมการเรียนร้ไู ด้
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้
2. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
............................................................................................................................. .................................
........................................................................................................................................ ......................
............................................................................................................ ..................................................
............................................................................................................................. .................................
ลงชือ่
(นายสำเนยี ง พิลาโสภา)
ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการ กลุ่มบริหารวิชาการ
40
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเปน็ รายบคุ คล
ชอ่ื .....................................................ช้นั ............................. ห้อง ..................................
ครูผสู้ อน .............................................................................................................
สังเกตวนั ที่................. เดือน ............................ พ.ศ. .................................
*****************************************************************************
คำชี้แจง เพือ่ สังเกตพฤตกิ รรมการเรียนของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล ครผู ู้สอนเปน็ ผู้สงั เกตนกั เรียน
ในขณะดำเนนิ การสอน แลว้ ใสค่ ะแนนพฤติกรรมทเี่ ป็นจรงิ ของนักเรยี น
รายการ พฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ รวมผล
321 การประเมนิ
12
1 ความสนใจ
2 การแสดงความคดิ เห็น
3 อาสาตอบคำถาม
4 ความรับผดิ ชอบ
ลงชื่อ............................................ผูป้ ระเมิน
(.........................................)
............../..................../................
41
เกณฑก์ ารสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนเป็นรายบคุ คล
รายการประเมิน ระดบั คุณภาพและคำอธบิ ายแตล่ ะระดับ
3 หมายถึง ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง
1. ความสนใจ ต้ังใจเรยี นและมคี วาม ต้งั ใจเรยี นและมีความ ตั้งใจเรียนและมีความ
กระตือรอื ร้นท่จี ะมสี ว่ น กระตือรอื ร้นทจี่ ะมี กระตือรอื รน้ ท่จี ะมี
ร่วมในการเรยี น ส่วนร่วมในการเรียน สว่ นร่วมในการเรยี น
สมำ่ เสมอ ไมส่ มำ่ เสมอ น้อย
2. การแสดงความ แสดงความคดิ เหน็ มาก แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเหน็
คดิ เหน็ สม่ำเสมอ มเี หตผุ ลดี ไม่สมำ่ เสมอ มีเหตุผล นอ้ ยมาก
พอใช้
3. อาสาตอบ อาสาตอบคำถาม อาสาตอบคำถาม อาสาตอบคำถาม
คำถาม เปน็ ประจำ เปน็ บางคร้งั น้อยมาก
4. ความรับผิดชอบ ทำงานสำเร็จอย่างดี ทำงานสำเรจ็ อยา่ งดี ทำงานสำเร็จแต่
และตรงเวลาทีก่ ำหนด แต่ไมต่ รงเวลาที่ ไม่ทนั เวลาที่กำหนด
กำหนด
คะแนน เกณฑก์ ารจัดระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ
9 - 12 ผ่านเกณฑ์
5-8 คุณภาพ ผา่ นเกณฑ์
1-4 ดี ไม่ผ่านเกณฑ์
พอใช้
ควรปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารผ่าน ต้ังแตร่ ะดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป
สรุป ผ่าน ไมผ่ ่าน
42
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่มในการทำผา้ มดั ย้อม
กลุ่มที่.....................ช่อื กลุม่ ...............................................................................................................
สมาชิกกลุ่ม
1. ……………………………………... 2. ……………………………………………
3. ………………………………………. 4. ……………………………………………
5. ..……………………………………. 6. ……………………………………………
คำชีแ้ จง ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในขณะปฏิบัติกิจกรรมแล้วสรปุ การประเมินการสงั เกต
รายการ ระดบั คณุ ภาพ
32 1
1. ความรบั ผิดชอบในการทำงาน
2. ความรว่ มมอื ในการทำงาน
3. ความต้งั ใจในการทำงาน
4. กระบวนการทำงาน
ลงชือ่ ……………………………….ผ้ปู ระเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/……….
43
เกณฑ์การสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ในการทำผ้ามัดยอ้ ม
ระดบั 32 1
คะแนน
ประเด็น ทำงานทรี่ บั มอบหมาย ทำงานที่ได้รับ ไมร่ ับผิดชอบต่อการ
การประเมิน ทำงานทรี่ ับมอบหมาย
ความรับผดิ ชอบ อย่างเตม็ ความสามารถ มอบหมายเปน็ บางคร้ัง ทำงานเสร็จล่าชา้
ในการทำงาน ผลงานพอใช้
และพยายามแกป้ ญั หา ไม่แก้ปญั หาด้วยตนเอง
ความรว่ มมือ หลีกเลยี่ งและ
ในการทำงาน ดว้ ยตนเองทุกครั้ง แตค่ ุณภาพผลงาน ไม่ร่วมมือ/ไมแ่ สดง
ความคดิ เหน็ เลย
ความต้งั ใจใน ผลงานมีคุณภาพดี คอ่ นข้างดี ตอ้ งควบคุมและช้แี จง
การทำงาน การทำงานทไี่ ด้รบั
รว่ มมือทำงานกับสมาชกิ ใหค้ วามรว่ มมือและ มอบหมายบ่อย ๆ
กระบวนการ ไมม่ ีการวางแผนท่ดี ี
ทำงาน ในกลุม่ อย่างเต็มใจ แสดงความคิดเห็นเป็น และข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ
ไมม่ ีระบบ
ทกุ ครงั้ บางครง้ั
ทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย ต้องคอยระวังใหท้ ำงาน
ตามกำหนดเวลา ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
เป็นบางคร้ัง
ดำเนินการวางแผนและ ดำเนินการวางแผน
ปฏิบตั ติ ามขั้นตอน แต่ปฏิบตั ิงานไม่เปน็ ไป
อยา่ งมรี ะบบ ตามขัน้ ตอน
ระดบั คุณภาพ
ระดบั ดี เทา่ กับ 3 คะแนน
ระดับพอใช้ เท่ากบั 2 คะแนน
ระดับปรับปรงุ 1 คะแนน
สรปุ การประเมิน ดี 10 - 12 คะแนน
พอใช้ 7 - 9 คะแนน
ปรบั ปรุง 4 - 6 คะแนน
เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แต่ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป
สรุป ผา่ น ไมผ่ ่าน
44
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงานการทำผ้ามดั ย้อม
เรื่อง การทำผ้ามัดย้อมด้วยครามและดอกบัวแดงแห้ง........................................................................
ผู้ปฏบิ ตั /ิ กลุม่ ..........................................................................ภาคเรยี นท่ี .............ชั้น........................
รายการประเมิน ระดับคุณภาพ
4 321
1. ความรใู้ นเนอื้ หา
2. รปู แบบการนำเสนอ
3. การใชส้ อ่ื ประกอบการนำเสนอ
4. การตอบคำถาม
ลงชือ่ ……………………………….ผปู้ ระเมิน
(………………………….……)
…………/…………/……….
45
เกณฑ์การประเมินของแบบประเมินการนำเสนอผลงานการทำผ้ามดั ย้อม
ประเดน็ เกณฑ์การใหค้ ะแนน/ระดับคุณภาพ
การประเมิน 4 321
1. ความรู้ นำเสนอเนอ้ื หาถูกต้อง นำเสนอเนือ้ หา นำเสนอเนอ้ื หา นำเสนอเนอื้ หา
ในเนอื้ หา ครบถว้ น หรอื มากกว่า ถูกต้อง ครบถว้ น ถูกต้อง เป็นบางเร่ือง และ
ทีก่ ำหนดพร้อมทัง้ แต่อธิบาย แต่ไม่ครบถว้ น และ ไมส่ ามารถอธบิ าย
อธิบายและขยายความ รายละเอยี ด อธิบายรายละเอียด รายละเอยี ด
เน้ือหาได้ บางเรือ่ งไม่ได้ ไดเ้ ล็กน้อย เพิ่มเติม
2. รปู แบบ มีวิธกี ารนำเสนอ มวี ิธีการนำเสนอ นำเสนอข้อมลู หรือ ไมม่ ีการจดั ลำดับ
การนำเสนอ ทีน่ า่ สนใจชวนตดิ ตาม ทน่ี า่ สนใจ และ ผลงาน ขอ้ มูลทน่ี ำเสนอ
และนำเสนอข้อมลู หรือ นำเสนอข้อมลู โดยการอา่ น และ ทำใหผ้ ฟู้ งั ไม่
ผลงานเป็นลำดับ หรอื ผลงานเป็น จัดหวั ขอ้ ไว้ไม่เป็น เขา้ ใจเน้ือหาที่
ขัน้ ตอนอยา่ งชดั เจน ลำดบั ขน้ั ตอน ระบบ นำเสนอ
3. การใช้ ใช้เทคโนโลยีในการ ใช้ภาพนิ่ง วดี ิ ใช้ภาพนงิ่ วดี ทิ ศั น์ ไมใ่ ช้ส่ือประกอบ
สอ่ื นำเสนอ ใชภ้ าพน่ิง ทศั น์ แผนผัง ประกอบ การนำเสนอเลย
ประกอบ วดี ทิ ศั น์ แผนผัง ประกอบการ การนำเสนอบ้าง
การนำเสนอ ประกอบการนำเสนอ นำเสนอ สื่อท่ีใช้ เป็นบางครั้งและส่อื
อยา่ งชดั เจน ส่ือท่ีใช้ ชว่ ยสนับสนุน นั้นไม่ค่อยสมบูรณ์
ช่วยสนบั สนนุ เนือ้ หา เนือ้ หาและ กบั เนอ้ื หาสาระที่
และการอธิบายได้เปน็ การอธบิ ายได้ นำเสนอ
อย่างดี
4. การตอบ เปิดโอกาสใหผ้ ฟู้ ังแสดง สามารถตอบข้อ ตอบปัญหางา่ ย ๆ ไมส่ ามารถตอบ
คำถาม ความคิดเหน็ หรือ ซักถามได้ แต่ไม่ เกีย่ วกบั เน้ือหา คำถามเกีย่ วกับ
ซักถาม โดยสามารถ สามารถอธบิ าย ทนี่ ำเสนอได้ เนอ้ื หาทีน่ ำเสนอ
ตอบคำถามได้ถูกต้อง รายละเอียด
พร้อมทงั้ อธบิ ายขยาย เพ่ิมเติม
ความได้
46
เกณฑ์การประเมินการนำเสนอผลงานการทำผา้ มดั ยอ้ ม
ระดับคณุ ภาพ หมายถึง ดมี าก
ระดบั 4 หมายถงึ ดี
ระดับ 3 หมายถงึ พอใช้
ระดับ 2 หมายถึง ปรับปรงุ
ระดบั 1
สรปุ ผลการตรวจผลงาน ดมี าก
14-16 คะแนน ดี
11-13 คะแนน พอใช้
8-10 คะแนน ปรับปรงุ
ต่ำกวา่ 7 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สิน
- รายบคุ คล นกั เรยี นมีผลการประเมินไมต่ ่ำกวา่ ระดบั 2 จึงถอื ว่าผา่ น
- รายกลมุ่ รอ้ ยละ 80 ของจำนวนนักเรียนท้ังหมดมีผลการรยี นร้ไู มต่ ่ำกวา่ ระดบั 2
เกณฑ์การผ่าน ตง้ั แต่ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป
สรปุ ผา่ น ไม่ผา่ น
47
แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
คำช้ีแจง ทำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งตรงกับใบกิจกรรม ตามเกณฑก์ ารประเมนิ ทีก่ ำหนด
รายการประเมนิ
ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มั่นใน รักความ รวม สรุปผล
เลขที่ ช่อื -ชอื่ สกลุ การทำงาน เปน็ ไทย คะแนน การประเมนิ
4 4 4 12 ผา่ น ไมผ่ ่าน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
48
รายการประเมนิ
ที่ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันใน รกั ความ รวมคะแนน
การ เป็นไทย สรปุ ผล
ชือ่ -ชื่อสกลุ ทำงาน การประเมนิ
4 4 ผ่าน ไมผ่ า่ น ผ่าน ไม่ผ่าน
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
49
เกณฑ์แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เกณฑ์การให้คะแนน
ประเดน็ (4) (3) (2) (1) น้ำหนกั
การประเมิน นกั เรยี นไม่มี คะแนน
ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี น นกั เรียน นักเรยี น ความใส่ใจ
กระตือรอื ร้น 4
มุ่งมัน่ ใน มีความใส่ใจ มีความใสใ่ จ มีความใสใ่ จ และซักถาม
การทำงาน 4
กระตือรือรน้ กระตือรอื ร้น กระตือรอื ร้น เสนอไมเ่ ป็น
รกั ความ ความจริงและ 4
เป็นไทย ชอบซักถาม ชอบซกั ถาม ชอบซกั ถาม แอบอ้าง
ข้อมูลคนอื่น 12
ทกุ ครง้ั บ่อยครงั้ บางครง้ั
ไม่ค่อยใช้
ตง้ั ใจทำงาน เสนอความจรงิ เสนอเปน็ สินค้าท้องถน่ิ
และ
ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ถงึ แม้ว่าผลที่ ความจรงิ ไม่เหน็ คุณคา่
ของการ
พยายาม ออกมาตรงกบั และแอบอา้ ง อนรุ กั ษส์ ืบ
ทอด
หาคำตอบ สืบค้น คนอืน่ แต่แอบ ข้อมลู คนอืน่ ภมู ิปญั ญาไทย
ขอ้ มูลจากแหลง่ อ้างข้อมูลคนอน่ื บ่อยครง้ั
เรียนรู้เพือ่ ให้ไดม้ า
ของคำตอบ
แสดงออกถึงความ แสดงออก ไม่ค่อยใช้
ภูมใิ จ ถงึ ความภมู ิใจ สินคา้ ทอ้ งถน่ิ
เห็นคณุ คา่ เห็นคณุ คา่ แต่ภมู ิใจและ
รว่ มอนุรกั ษ์ ร่วมอนุรักษ์ เห็นคณุ คา่
สืบทอดภูมิปญั ญา สบื ทอด ของการ
ไทยและนำไป ภูมิปัญญาไทย อนุรักษส์ บื
เผยแพร่ แต่ไม่สามารถ ทอด
แกบ่ ุคคลอื่น เผยแพร่ ภมู ปิ ัญญาไทย
แก่บคุ คลอื่นได้
รวม
ลงชอ่ื ...........................................ผูป้ ระเมิน
(.........................................)
............../..................../....................
50
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
ระดับคุณภาพ
ระดับ 4 หมายถงึ ดมี าก
ระดับ 3 หมายถงึ ดี
ระดบั 2 หมายถงึ พอใช้
ระดับ 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
สรปุ ผลการตรวจผลงาน
10-12 คะแนน ดมี าก
7-9 คะแนน ดี
4-6 คะแนน พอใช้
0-3 คะแนน ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ารตดั สิน
- รายบคุ คล นักเรยี นมผี ลการประเมนิ ไมต่ ่ำกวา่ ระดับ 2 จึงถอื วา่ ผา่ น
- รายกลมุ่ รอ้ ยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมดมผี ลการรยี นรไู้ ม่ต่ำกวา่ ระดบั 2
เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดบั คุณภาพพอใช้ขึน้ ไป
สรุป ผ่าน ไม่ผา่ น
51
แบบประเมินแผนท่ีความคิด (Mind Mapping)
คำช้แี จง ให้ครูผสู้ อนทำเครอ่ื งหมาย / ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ - สกุล รูปแบบ เนือ้ หา สัญลักษณ์ การใช้สี รวม
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
52
เลขที่ ช่ือ- สกุล รูปแบบ เนื้อหา สัญลกั ษณ์ การใช้สี รวม
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
ลงช่ือ................................................
(นางวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์)
………./…………………./………………
53
เกณฑ์แบบประเมนิ แผนท่ีความคิด (Mind mapping)
ประเดน็ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
การประเมิน
รูปแบบ เขียนความคิดรวบ เขียนความคิดรวบ เขยี นความคิด เขียนความคิด
ยอดหลกั ไว้ ยอดหลักอยู่ รวบยอดหลักไว้ รวบยอดหลักไม่อยู่
ตรงกลาง ตรงกลาง ตรงกลาง ตรงกลาง
หนา้ กระดาษ หนา้ กระดาษ หนา้ กระดาษ หนา้ กระดาษตัว
ตวั ใหญ่ ความคดิ ตวั ใหญ่ ความคิด ตวั ใหญ่ความคิด ใหญ่ ความคดิ ที่
ทส่ี ำคญั น้อยลงไป ทส่ี ำคัญน้อยลงไป ท่สี าคญั นอ้ ย สำคัญน้อยลงไปอยู่
อย่บู รเิ วณริมขอบ อยูบ่ รเิ วณรมิ ขอบ ลงไปอยบู่ รเิ วณ บรเิ วณรมิ ขอบ และ
โดยทกุ ก่งิ เรม่ิ เสน้ โดยบางกงิ่ เรมิ่ เสน้ รมิ ขอบ แต่ขนาด ขนาดเส้นเท่ากัน
ใหญ่แลว้ ค่อย ใหญแ่ ลว้ ค่อยเรยี ว เสน้ เทา่ กนั ตลอด ตลอด
เรียว เลก็ ลง ทงั้ ก่ิง
ทงั้ ก่ิง
เล็กลง
เนอื้ หา การนำเสนอ การนำเสนอ การนำเสนอไม่ การนำเสนอไม่
เปน็ ไปตามลำดับ เปน็ ไปตามลำดับ เป็นไปตามลำดับ เปน็ ไปตามลาดับ
ข้ันตอนความ ขั้นตอนความ ขน้ั ตอน ข้ันตอนความ
ถกู ต้องของเน้ือหา ถูกต้อง ความถกู ตอ้ ง ถกู ต้อง
และไม่เขียนทบั ของเน้ือหา ของเน้ือหา และ ของเนอื้ หาและ
เสน้ แต่เขียนทบั เสน้ ไม่เขียนทบั เสน้ เขียนทบั เสน้
ความคิด แสดงออกถึง มีแนวคดิ แปลก มคี วามนา่ สนใจ ไมแ่ สดงแนวคิด
สรา้ งสรรค์ ความคดิ ใหม่ แตย่ งั ไม่มีแนวคิด ใหม่
สรา้ งสรรคแ์ ปลก แต่ยงั ไม่เป็น แปลกใหม่
ใหมแ่ ละเป็น ระบบ
ระบบ
การใชส้ ี ใช้สที ช่ี ่วยจดจำ ใชส้ ีทชี่ ่วยจดจำ ใชส้ ที ่ชี ว่ ยจดจา ไมใ่ ชส้ ที ่ชี ว่ ยจดจา
เพลินตา สเี ดียว เพลินตา สีเดยี ว เพลนิ ตา แต่คน เพลินตา
ตลอดก่งิ แตล่ ะ ตลอดก่งิ บางก่ิง ละสใี นก่งิ
ก่งิ สไี มซ่ า้ กนั สีซา้ กนั เดียวกนั
54
เกณฑ์การประเมนิ แผนท่ีความคิด (Mind mapping)
ระดบั คุณภาพ
ระดบั 4 หมายถึง ดมี าก
ระดับ 3 หมายถงึ ดี
ระดบั 2 หมายถงึ พอใช้
ระดบั 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
สรปุ ผลการตรวจผลงาน
14-16 คะแนน ดมี าก
11-13 คะแนน ดี
8-10 คะแนน พอใช้
ตำ่ กวา่ 7 คะแนน ปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารตดั สนิ
- รายบคุ คล นกั เรยี นมผี ลการประเมินไม่ต่ำกวา่ ระดบั 2 จึงถอื ว่าผา่ น
- รายกลุ่มรอ้ ยละ 80 ของจำนวนนักเรียนท้งั หมดมผี ลการรยี นรู้ไม่ต่ำกว่าระดบั 2
เกณฑก์ ารผ่าน ตัง้ แตร่ ะดับคุณภาพพอใช้ขึ้นไป
55
ใบความรทู้ ่ี 4
ประสบการณใ์ นอาชีพ
1. ความหมายของการเสรมิ สร้างประสบการณใ์ นงานอาชีพ
การเสริมสร้าง หมายถึง การส่งเสริมให้การทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิม่ ขึน้ โดยอาจจัดให้มี
การฝึกอบรม การสรา้ งขวญั และกำลังใจ การจูงใจ หรอื การอ่นื ใดในอันท่จี ะเสรมิ สร้างและพัฒนา
เจตคติจิตสำนกึ และพฤติกรรมของผู้ประกอบอาชีพให้เปน็ ผทู้ ีม่ ีใจรกั ในอาชีพของตนเอง
ประสบการณ์ หมายถงึ การทมี่ นุษย์ผา่ นภาวะการรบั รู้ ได้เห็น ได้ฟงั และไดป้ ฏบิ ตั ิ
ด้วยตนเองมาแล้วบอ่ ยครัง้ จนสะสมเปน็ ประสบการณ์และความชำนาญ เช่น ศลิ ปินท่ีมีใจรักและ
ชื่นชมความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะดอกไม้หลายชนิดจึงมักจะเข้าไปสัมผัสชื่นชมกับความงาม
ของธรรมชาติและนิยมถา่ ยทอดความงามด้วยการวาดภาพธรรมชาตเิ ปน็ พเิ ศษ
2. ความเป็นมาและความสำคัญ
องคค์ วามรู้เก่ียวกบั ศิลปะการนำผา้ มาย้อมด้วยสีท่ีไดจ้ ากความร้ภู ูมปิ ญั ญาชาวบา้ น
ได้ถูกค้นพบ ปฏบิ ตั ิและถ่ายทอดมาจากรุน่ สรู่ ่นุ ตง้ั แต่สมัยพุทธกาล ดงั จะเห็นได้วา่ พระพทุ ธเจา้
พร้อมสาวกท้งั หลายก็ใช้ผ้าบังสกุ ุลสีขาวที่ใชส้ ำหรับห่อศพมาซกั แลว้ กย็ ้อมด้วยสธี รรมชาติเพื่อเปน็
ผา้ จวี รนงุ่ หม่ เหมือนกนั ดังน้นั จงึ เปน็ ภูมิปญั ญาการเอาผ้าแล้วมายอ้ มด้วยสีธรรมชาติ จากการดึงปม
ชายผ้า หรือการพึ่งพาธรรมชาตแิ ละพงึ่ พาตัวเอง
การทำผ้ามัดย้อมใชเ้ อง เป็นความภาคภูมิใจของคนทำและคนท่จี ะสวมใสด่ ว้ ยเพราะผลงาน
เปน็ ศลิ ปะหนึ่งเดียวในโลกที่ไมเ่ หมอื นใครและไม่มใี ครเหมือน โดยมีเราเป็นศลิ ปินเอก ที่สำคัญสีท่ีได้
จากธรรมชาตจิ ะมีคุณสมบัติในการรกั ษาโรคภยั ไขเ้ จ็บไปในตัวด้วย เชน่ ผ้ายอ้ มคราม ย้อมฝางแดง
ผ้ายอ้ มดอกบัวแดง เป็นตน้
56
3. วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ทำผา้ มัดยอ้ ม
1. บอกเลา่ วธิ ีการและความเป็นมาของลวดลายผ้าได้
2. บอกองค์ประกอบและความเป็นมาของสยี ้อมผ้าได้
3. บอกชนิดและคุณสมบตั ิของสารทำปฏิกิรยิ าที่ใช้ในการยอ้ มผ้าได้
4. มีความรกู้ ารออกแบบลายผ้าและสามารถสร้างสรรค์ลายผา้ ด้วยตนเอง
5. อธบิ ายวธิ ีเลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ในท้องถ่นิ มาทำผ้ามดั ยอ้ มได้
6. บอกข้นั ตอนการทำผา้ มัดย้อมได้
7. ปฏบิ ัตกิ ารทำผา้ มดั ยอ้ มได้ตามขนั้ ตอนอย่างประหยดั และปลอดภัย
8. นำเสนอผา้ มัดย้อมต่อเพ่ือนๆ และประเมนิ ผลเพ่ือปรับปรุงผลงานได้
9. มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อกิจกรรม รักและภูมิใจงานดา้ นศิลปะ งานเพื่อสงั คม
การจำลองอาชพี
การจำลองอาชีพเปน็ การจดั กิจกรรมเพ่ือการเรียนรูเ้ ก่ยี วกับอาชีพทีส่ ถานศึกษาจดั ทำให้
เสมอื นจรงิ โดยมีวัตถุประสงค์ใหน้ กั เรียนมที ักษะการทำงานอาชีพ เหน็ คุณค่าของงานอาชีพสุจริต
และเหน็ แนวทางในการประกอบอาชีพ
ความรู้ท่วั ไปเก่ยี วกบั การจำลองอาชีพ
ประโยชน์ของการปฏิบัติกจิ กรรมจำลองอาชีพ มดี งั น้ี
1. ช่วยใหร้ จู้ ักงานอาชพี และขอบข่ายงานอาชพี ต่าง ๆ
2. เขา้ ใจวิธกี ารทำงานเพ่อื ประกอบอาชีพท่ีมีความแตกตา่ งจากการทำงานเก่ียวกบั การเรยี น
3. มีความสามารถเบ้ืองตน้ ในการจัดการเก่ียวกับบุคคลท่ีร่วมงานและการทำงานใหส้ ำเรจ็
ลุล่วง โดยอาศยั ทรัพยากรในการทำงาน ได้แก่ วสั ดุ อุปกรณ์ เครอื่ งมือ เงนิ งบประมาณ และเวลา
4. เกดิ ทกั ษะในการทำงาน เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานร่วมกนั ทักษะการใช้
เทคโนโลยี ทักษะการแก้ปัญหา ซ่งึ ทกั ษะเหลา่ น้ีจำเป็นต้องนำมาใช้ในการประกอบอาชีพทุกอาชีพ
5. ไดร้ ับประสบการณต์ รง การปฏบิ ัติกจิ กรรมจำลองอาชพี มีส่วนช่วยให้เราได้รับความรู้
เกย่ี วกับการประกอบอาชีพและมที ักษะในการทำงาน ซึ่งเป็นประสบการณท์ ีจ่ ะทำใหเ้ กิดความเข้าใจ
ทคี่ งทน และตดิ ตัวผู้ปฏิบัตงิ านตลอดไป
6. นำไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชีพของตนเองในอนาคตได้
57
ทกั ษะทใี่ ชใ้ นกจิ กรรมจำลองอาชีพ
การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมจำลองอาชพี จำเปน็ ตอ้ งนำทักษะตา่ ง ๆ มาใชเ้ พอ่ื ให้การทำกิจกรรม
ของกลุม่ ประสบความสำเรจ็ ได้แก่
1 ทักษะกระบวนการทำงาน
ทักษะกระบวนการทำงานเป็นการลงมือทำงานดว้ ยตนเอง โดยมุง่ เนน้ การฝกึ วธิ กี ารทำงาน
อย่างสม่ำาเสมอ ท้ังการทำงานเปน็ รายบุคคลและการทำงานเปน็ กลุ่ม เพื่อใหส้ ามารถทำงานไดบ้ รรลุ
เปา้ หมาย โดยขน้ั ตอนของกระบวนการทำงานมีดังนี้
1. การวเิ คราะห์งาน นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งศึกษารายละเอียดของงานท่ีจะทำวา่ มีลักษณะ
อย่างไร มรี ายละเอยี ดปลีกย่อยอะไรบา้ ง เพือ่ นำขอ้ มลู เหลา่ นี้ไปใช้ในการกำหนดวัตถปุ ระสงค์
การเตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมือ พร้อมกับกำหนดวิธีการทำงาน
2. การวางแผนในการทำงาน นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ควรร่วมกันวางแผนการในการทำงาน
โดยกำหนดแนวทางปฏบิ ตั ิงานไว้ลว่ งหน้าวา่ จะทำอะไร ทำเมอื่ ไร ทำวิธีใด ใครเป็นผทู้ ำ กำหนดงาน
เสรจ็ เม่ือใด แล้วจงึ กำหนดภาระงานหรือหนา้ ท่คี วามรบั ผิดชอบของแต่ละคน ได้แก่ ขอบข่ายงานเวลา
ปฏิบัตงิ าน รายการงานที่ตอ้ งปฏิบตั ิ ผ้รู บั ผดิ ชอบ และวิธีการปฏบิ ตั งิ าน
3. การปฏิบัตงิ านตามลำดบั ขั้นตอน เมอื่ นักเรียนแตล่ ะคนหรือแต่ละกล่มุ ไดร้ บั มอบหมาย
หนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบแล้วให้ลงมอื ปฏบิ ัตงิ านจริงตามแผนทว่ี างไว้
4. การประเมินผลการทำงาน หลังจากปฏบิ ตั ิงนเสรจ็ แล้ว ใหร้ ว่ มกันตรวจสอบผลการ
ปฏบิ ตั งิ านว่าเป็นไปตามแผนทว่ี างไว้หรือไม่ ผลงานมีข้อดีหรอื ข้อบกพร่องอย่างไร และควรปรบั ปรงุ
ผลงานสว่ นใดบา้ ง ถา้ พบขอ้ บกพร่องจะต้องร่วมกันหาวธิ ีการปรบั ปรงุ แกไ้ ขทนั ที
2 ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา
ปัญหาทเี่ กิดข้ึนแต่ละวันสามารถแก้ไขได้โดยนำหลกั การแกป้ ญั หาเบื้องตน้ มาใช้ดงั ต่อไปนี้
1. การพิจารณาปญั หา เป็นการทำความเขา้ ใจปัญหาหรอื ความต้องการอย่างละเอยี ด
พรอ้ มกับพจิ ารณาวา่ ข้อมลู หรือเง่อื นไขท่กี ำหนดเพยี งพอที่จะทาคำตอบหรือแกป้ ัญหาหรือไม่
ถา้ ไมเ่ พยี งพอให้หาข้อมูลเพิม่
58
2. การวางแผนแก้ปัญหา ปัญหาหน่งึ ๆ อาจมีวิธีการแก้ปัญหาไดห้ ลายวิธีและแต่ละวิธี
อาจใช้เวลาในการแกป้ ัญหาแตกตา่ งกัน ดงั น้นั จงึ ควรเลอื กวธิ ีการทเี่ หมาะสมท่ีสดุ แล้วนำวธิ กี ารนนั้ ๆ
ไปวางแผนแก้ปัญหา
3. การแก้ปญั หา เมื่อเลอื กวิธกี ารแก้ปัญหาท่ีเหมาะสมและวางแผนแกป้ ัญหาได้แลว้ ให้นำ
วิธีการน้นั ไปลงมอื ปฏิบตั ิจริง
4. การตรวจสอบและปรับปรุง เมื่อทำการแก้ปญั หาตามวธิ กี ารท่เี ลอื กแลว้ ตอ้ งตรวจสอบ
ดวู า่ วธิ ีการท่ีเลอื กมาน้นั สามารถแก้ปญั หาไดห้ รือไม่ ไดผ้ ลลัพธ์ถูกต้องหรือไม่ ถา้ การแกป้ ัญหาไม่ได้
ผลหรอื ได้ผลไมด่ ีเท่าท่ีควร ใหย้ ้อนกลับไปปฏิบตั ิตามขั้นตอนใหมอ่ ีกครง้ั
3 ทกั ษะการทำงานร่วมกัน
ทักษะการทำงานร่วมกนั เปน็ การทำงานรว่ มกนั ตง้ั แต่ 2 คนข้ึนไป โดยมเี ป้าหมายในการ
ทำงานอย่างเดยี วกนั สมาชกิ ในกลุม่ แบง่ งานกนั ทำและทำงานตามหนา้ ทด่ี ว้ ยความรับผิดชอบ
ใหค้ วามชว่ ยเหลอื พงึ่ พาซงึ่ กันและกันจนงานประสบความสำเร็จ เมือ่ ทำงานเสร็จแลว้ จะต้องมี
การประเมินผล ถ้าได้ผลงานทมี่ คี ุณภาพน่าพอใจ ควรจะใหร้ างวัลแก่กลุ่ม พร้อมกับเผยแพรผ่ ลงาน
แตถ่ า้ ผลงานไม่สำเรจ็ ตามเป้าหมาย จะตอ้ งชว่ ยกันหาทางปรับปรุงการทำงานใหด้ ีขึน้ โดยช้ันตอน
ของกระบวนการกลุ่มมีดงั น้ี
1. การเลอื กหวั หนา้ กลุ่ม หวั หนา้ กลมุ่ หรอื ผูน้ ำ คือ ผู้ทท่ี ำให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย
โดยอาศยั ความรว่ มมือจากสมาชกิ ในกลุ่ม หวั หน้ากล่มุ จึงเป็นผู้ทม่ี ีความสำคัญต่อความสำเร็จหรือ
ความลม้ เหลวของกล่มุ หวั หน้ากลุ่มทม่ี ีความสามารถจะสร้างวิสยั ทัศน์ร่วมกบั กลุ่ม เป็นศูนย์กลาง
ในการประสานพลัง เพ่ือให้ฟันฝา่ อุปสรรดและเป้าหมายที่ต้องการได้ นอกจากนีห้ วั หนา้ กลมุ่
ตอ้ งกล้าตัดสนิ ใจ และสรา้ งความเปลย่ี นแปลงให้เกดิ กบั กลุ่มในทิศทางทเ่ี หมาะสม
2. การกำหนดเป้าหมาย เป้าหมายเป็นตัวกำหนดสิ่งที่กลุ่มต้องการว่าคืออะไร สมาชิก
ในกลุ่มจะตอ้ งมเี ป้าหมายในการทำงานตรงกัน มีความชัดเจน และมองเหน็ ผลทจ่ี ะไดร้ ับเมื่อปฏิบัติ
งานสำเร็จ
3. การวางแผนในการทำงาน เปน็ การกำหนดกจิ กรรมในการทำงานไว้ล่วงหนา้ ว่าจะตอ้ งทำ
อะไรบา้ งจะทำอะไรก่อน-หลงั จะแบ่งหนา้ ที่ในการทำงานอยา่ งไร และมีขั้นตอนการทำงานอย่างไร
เพอื่ ให้บรรลเุ ป้าหมายท่ีกำหนดไว้ ซงึ่ การวางแผนที่ดีจะชว่ ยใหบ้ รรลุเป้าหมายได้งา่ ยขนึ้ และทำให้
ร้วู า่ ทรพั ยากรแต่ละชนิดจะต้องใชอ้ ย่างไรบา้ ง ใชเ้ ม่ือไร และจะใชใ้ ห้เกิดประโยชน์สงู สดุ ไดอ้ ยา่ งไร
การวางแผนท่ดี ีจึงต้องอาศัยวิสัยทศั นข์ องสมาชิกในกลุ่มดว้ ย
59
4. การแบง่ งานตามความสามารถ การจัดแบ่งหนา้ ทีข่ องสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มให้ชดั เจน
เปน็ การปอ้ งกันปัญหาการก้าวกา่ ยหนา้ ที่ซึง่ กันและกัน หรือการทำงานทีซ่ ้ำซ้อนกนั ซึง่ เป็นหนา้ ท่ี
ของหวั หน้ากลุ่มที่จะมอบหมายงาน โดยการพจิ ารณาว่าสมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ มีความสามารถ
ดา้ นใดบา้ งทจ่ี ะช่วยให้การทำงานของกลุม่ บรรลเุ ปา้ หมายที่กำหนดไว้ แลว้ จึงจดั การแบง่ งาน
ตามความรู้ ความสามารถ และความถนัดของสมาชิกแต่ละคน
5. การปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหนา้ ที่ เมื่อสมาชกิ แต่ละคนได้รับมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบ
ตามความรูค้ วามสามารถของตนเองแล้ว จงึ ลงมือปฏบิ ัติตามหน้าทแี่ ละควบคุมการปฏบิ ัติงาน
ของตนเองใหเ้ ปน็ ไปตามแผนทวี่ างไวจ้ นงานประสบความสำเรจ็
6. การประเมินผลและปรบั ปรุงงน เป็นขัน้ ตอนสดุ ทา้ ยของกระบวนการทำงานกลุ่ม
การประเมนิ ผลจะทำใหผ้ ปู้ ฏิบตั งิ านได้ทราบว่ากล่มุ ไดบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้หรือไม่
ซง่ึ การประมนิ ผลนนั้ สามารถทำได้ในทุกขัน้ ตอนของกระบวนการกลมุ่ เมื่อประเมินผลแลว้ พบว่า
การปฏิบตั ิงานของกลมุ่ ประสบความสำเร็จและใชเ้ วลาในการปฏบิ ตั งิ านน้อย ก็แสดงให้เห็นว่า
การจดั การของกลมุ่ เป็นการจัดการทด่ี แี ละมีประสทิ ธิภาพ แต่ถา้ ไมป่ ระสบผลสำเร็จ สมาชกิ ในกลมุ่
จะต้องนำบญั หาหรือช้อบกพร่องที่พบมาปรบั ปรุงแก้ไข เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางการปฏิบตั งิ านในครัง้
ตอ่ ไป
4. ทกั ษะการแสวงหาความรู้
ทกั ษะการแสวงหาความรู้เปน็ วธิ กี ารและกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้นกั เรยี นไดศ้ ึกษาค้นคว้าหา
ความรเู้ พื่อนำไปใช้ประกอบการเรียนเนอื้ หาต่าง ๆ ทักษะการแสวงหาความรมู้ ีข้ันตอนดังนี้
1. การศึกษาค้นคว้าข้อมลู ท่ีต้องการทราบจากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ ง ๆ เชน่ หอ้ งสมุด หนงั สือ
เอกสาร สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ เวบ็ ไซต์
2. การรวบรวมขอ้ มลู ความรู้ โดยนำมาคัดแยกจัดกลุม่ เปน็ หมวดหมู่ แล้วจดั เก็บใหเ้ ปน็ ระบบ
เพอื่ ให้ง่ายต่อการนำไปใชอ้ ้างอิงในเรื่องตา่ ง ๆ
3. การสงั เกต โดยพิจารณารายละเอยี ด ข้อดี และขอ้ เสียของสง่ิ ต่าง ๆ ทพี่ บเห็น เพอื่ เลือก
นำมาใชใ้ ห้เหมาะสมกับการทำงานของตนเอง
4. การสำรวจ โดยค้นคว้าข้อมลู เรอ่ื งเดยี วกนั จากหลายแหล่งการเรียนรู้ หรอื ค้นห่าว่า
ในแหลง่ เดียวกนั น้ีมีข้อมูลอะไรอยู่บา้ ง
5. การบันทกึ เป็นการจดสาระสำคัญท่ีไดจ้ ากการศึกษาคน้ คว้า การสังเกต และการสำรวจ
ข้อมูลความรู้ เพ่ือเป็นหลกั ฐานหรือรอ่ งรอยของการดันพบ โดยสร้างแบบบนั ทึกใหเ้ หมาะสมกับ
วิธีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล เชน่ แบบบันทึกความรู้ แบบบนั ทึกการสังเกต แบบบนั ทึกการสำรวจ
60
5 ทกั ษะการจดั การ
ทักษะการจดั การเป็นความพยายามของบุคดลทจี่ ะจดั ระบบงาน (ทำงานเป็นรายบุคคล)
และจดั ระบบคน (ทำงานเป็นกลุ่ม) เพ่ือให้ทำงานสำเรจ็ ตามเป้าหมายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่ือใหเ้ กิด
ประโยชนส์ ูงสดุ ทกั ษะการจดั การมีขั้นตอนดงั นี้
1. การตั้งเป้าหมาย เป็นการกำหนดว่าสิ่งท่ีกลุ่มหรือองคก์ รต้องการคืออะไร แต่ละกลุม่ จะ
ตอ้ งมเี ป้าหมายเดยี วกัน ซึ่งเป้าหมายจะมีทั้งเป้าหมายระยะส้นั และระยะยาว โดยเปา้ หมายทต่ี ั้งขึน้
อาจมกี ารเปลย่ี นแปลงได้
2. การวเิ คราะหท์ รพั ยากร เป็นการพจิ ารณาว่าทรัพยากรท่ีมีอยู่ ไดแ้ ก่ คน วัสดุ อุปกรณ์
เคร่ืองมอื งบประมาณ และเวลา จะสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายทีต่ ัง้ ไวห้ รอื ไม่ ถ้ามีทรัพยากรใด
ไมเ่ พยี งพอจะตอ้ งรบี จัดหามาเตรยี มไวใ้ หพ้ ร้อมและเพยี งพอ
3. การวางแผนและการกำหนดทรัพยากร เปน็ การกำหนดกิจกรรมไวล้ ่วงหน้าว่าจะต้องทำ
อะไร ส่ิงใดบ้าง เพ่อื ใหบ้ รรลุเป้าหมายทต่ี ้ังไว้ โดยใช้รัพยากรทมี่ อี ยู่ให้เหมาะสม และเกิดประโยชน์
สงู สดุ ได้แก่ การจัดคนทำงานในหนา้ ทตี่ า่ ง ๆ การคน้ หาหรือจัดซอ้ื วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ
เพ่มิ เติม การจดั สรรเงนิ เพอ่ื ใช้ในการดำเน่ินงานดา้ นต่าง ๆ รวมทงั้ การบรหิ ารเวลาในการทำงาน
เพอ่ื ใหง้ านเสร็จตามกำหนด
4. การปฏิบัตติ ามแผนและการปรบั ปรุงแผน โดยให้แต่ละกลุม่ ลงมือปฏิบัติงานตามแผ่น
และควบคุมใหเ้ ป็นไปตามแผนท่ีวางไว้ แต่ถ้าพบปญั หาในขณะท่ปี ฏิบัติงานอาจมีการปรับเปลี่ยน
แผนที่วางไว้ เพื่อหลีกเลีย่ งปัญหาหรอื ข้อบกพร่องที่อาจจะเกิดข้ึนได้
5. การประเมนิ ผล เป็นการตรวจสอบเพื่อให้ทราบว่าการปฏบิ ัตงิ านในทุกขั้นตอนของ
กระบวนกล่มุ บรรลุตามเปา้ หมายที่กำหนดไวห้ รอื ไม่ ถ้าประสบความสำเรจ็ โดยใชเ้ วลานอ้ ยกวา่
ทก่ี ำหนดไว้ ก็แสดงว่าการจัดการของกลมุ่ เป็นการจดั การที่ดี แต่ถา้ ไม่ประสบผลสำเร็จ กลมุ่ จะต้อง
นำปัญหาหรอื ข้อบกพร่องที่พบมาปรับปรุงแกไ้ ข เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางการปฏิบัติงานในครัง้ ตอ่ ไป
61
การจำลองอาชพี ทำผา้ มดั ย้อม
ครูเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในการย้อมผ้า ซึ่งมีการยอ้ ม 2 วธิ ี คือ
1. การย้อมเยน็ โดยการพับผา้ มสั ลนิ ขนาด 30x30 cm. แลว้ มัดตามแบบทเ่ี ลือกมาหรอื
นักเรียนจะคิดลวดลายขน้ึ มาเองตามความเข้าใจในเทคนิคการมัดเพ่ือไม่ใหส้ ีดูดซึมเข้าไป จะทำใหเ้ กดิ
ลวดลายที่สวยงาม เมือ่ มัดลายเสรจ็ แล้งจึงนำผา้ ไปจ่มุ น้ำสะอาดในกะละมงั ท่เี ตรียมไว้ บดิ ใหห้ มาด
แล้วนำมาลงย้อมในน้ำครามพร้อมย้อมสำเร็จรปู แชท่ ิ้งไวใ้ นน้ำครามประมาณ 10 นาที แล้วนำข้นึ มา
วางบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ จึงนำลงไปหมักไว้ในถุงพลาสติกอยา่ งน้อย 6 ชว่ั โมง เพือ่ ใหส้ รติดเนือ้ ผา้
จงึ นำเอาออกมาล้างน้ำเปลา่ แลว้ ผ่ึงใหแ้ ห้ง จะได้ผ้าเชด็ หน้ายอ้ มครามทมี่ ีสีและลวดลายท่ีสวยงาม
2. การย้อมร้อน โดยการต้มดอกบัวแห้งแลว้ กรองเอาแตน่ ้ำทตี่ ้มสุกแลว้ มานำน้ำดอกบัว
เอาไปต้มให้เดือด จึงนำเอาผ้ามสั ลนิ ขนาด 30x30 cm.ทม่ี ัดตามแบบท่ีเลือกมาหรอื นักเรยี นจะคดิ
ลวดลายขึ้นมาเองตามความเขา้ ใจในเทคนคิ การมัดเพื่อไม่ใหส้ ีดดู ซมึ เขา้ ไป จะทำใหเ้ กดิ ลวดลาย
ที่สวยงาม เมื่อมัดลายเสรจ็ แลง้ จงึ นำผ้าไปจุ่มนำ้ สะอาดในกะละมังที่เตรยี มไว้ บิดใหห้ มาดแลว้ นำมา
ลงตม้ ในน้ำดอกบัวแหง้ ท่ีเดือดประมาณ 10-20 นาที จงึ นำเอาผา้ มาแกะยางหรอื วสั ดทุ ่ีมัดลายผา้ ออก
จะเหน็ ลวดลายทม่ี ัดได้อย่างชัดเจน จำนำเอาไปผึง่ ให้แหง้ จะไดผ้ ้าเชด็ หนา้ ย้อมจากดอกบวั แดงที่มี
สที องและลวดลายที่สวยงาม
62
ตวั อย่างการมัดลายผ้า
63
64
65
ตัวอยา่ งการทำวีดทิ ัศนน์ ำเสนอขั้นตอนการดำเนินงาน
Youtube จากรายการ sadoodta : ผา้ ทองจากบวั แดง
66
Youtube:เรียนทำผา้ มดั ย้อมบา้ นเชียง
67
ภาพครูสาธติ การมัดผ้าเพ่ือใหเ้ กิดลวดลายในการทำผา้ มดั ยอ้ ม
68
ใบกิจกรรมท่ี 4.1
เรื่อง การนำเสนอวธิ กี ารทำผ้ามัดยอ้ มดว้ ยวีดทิ ศั น์
คำชีแ้ จง ให้นักเรียนทำผา้ มัดย้อมแลว้ บันทึกภาพและตัดต่อกระบวนการทำงานจนสำเรจ็
เป็นวีดทิ ัศน์เพื่อให้เห็นภาพข้ันตอน กจิ กรรม การปฏิบัตงิ านเพ่ือนำเสนอผลงานของนักเรยี น
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ปฏิบัตกิ ารจำลองอาชพี ได้ตามขัน้ ตอนทวี่ างแผนไว้
2. นำเสนอขน้ั ตอนการทำผ้ามัดยอ้ มเป็นวีดิทัศนด์ ว้ ยโปรแกรมต่าง ๆ
69
เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 4.1
เรอื่ ง การนำเสนอวธิ ีการทำผา้ มัดยอ้ มดว้ ยวดี ทิ ศั น์
1. ปฏิบตั กิ ารจำลองอาชพี ได้ตามข้นั ตอนทีว่ างแผนไว้
2. นำเสนอขน้ั ตอนการทำผา้ มัดยอ้ มเปน็ วีดิทัศนด์ ว้ ยโปรแกรมตา่ ง ๆ
70
ใบกิจกรรมท่ี 4.2
เรอ่ื ง สรปุ ความรู้ในแผนท่ีความคดิ
คำชีแ้ จง เขยี นสรุปความรู้ท่ไี ด้รับจากประสบการณ์ในการจำลองอาชีพผ้ามดั ย้อมและทำเปน็
แผนที่ความคิด
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. เขียนแผนทค่ี วามคิดสรุปความรูจ้ ากประสบการณ์ในการจำลองอาชีพ
2. เพ่ือใหน้ กั เรียนมีเจตคตทิ ่ีดีต่ออาชพี
เขียนสรุปความรู้ท่ไี ดร้ ับดังน้ี
1. นักเรียนสามารถบรู ณาการกจิ กรรมคร้ังน้ีกบั วิชาใดและในเร่อื งใดบ้าง
2. นักเรยี นได้มีบทบาทในกจิ กรรมอยา่ งไร
3. นกั เรยี นสามารถใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์จากการทำผา้ มดั ยอ้ มไปประยุกตก์ ับการประกอบ
อาชพี อน่ื อย่างไร
4. นักเรยี นไดร้ บั ความรู้ในเร่ืองใดบา้ ง
5. นักเรียนทำกิจกรรมแลว้ สามารถเลือกประกอบอาชีพใดไดบ้ ้าง
6. นกั เรียนคดิ วา่ สามารถนำเอาความรูจ้ ากกิจกรรมคร้ังน้ีไปปรบั ใช้
ในชวี ติ ประจำวนั ของนักเรียนได้อย่างไรบา้ ง
71
การทาผา้ มดั ยอ้ ม
จากสคี รามและ
ดอกบวั แดง
72
เฉลยใบกิจกรรมท่ี 4.2
เร่ือง สรุปความรใู้ นแผนทค่ี วามคิด
เขียนสรุปความรู้ทีไ่ ดร้ บั ดงั น้ี
1. นักเรยี นสามารถบูรณาการกิจกรรมคร้ังนี้กบั วิชาใดและในเรอื่ งใดบา้ ง
เฉลยคำตอบ วชิ าเทคโนโลยี ในการตัดต่อวีดิทศั น์ วชิ าวิทยาศาสตร์ ในเรื่องสีจากธรรมชาติ
วิชาศลิ ปะ ในการใชโ้ ทนสี ออกแบบลายผา้ การใชส้ ีธรรมชาติ เป็นตน้
2. นกั เรยี นไดม้ บี ทบาทในกิจกรรมอยา่ งไร
เฉลยคำตอบ 1. มัดลายผ้า 2. กำกับดแู ลขนั้ ตอนการย้อม 3. ถา่ ยภาพนิ่ง 4. ถ่ายวีดทิ ศั น์
5.ตัดต่อวีดิทศั น์ 6. เขียนบทการนำเสนอ ฯลฯ
3. นักเรยี นสามารถใชค้ วามคิดสรา้ งสรรคจ์ ากการทำลายผ้ามัดยอ้ มจากผ้าเชด็ หน้าทีฝ่ ึกประสบการณ์
ในอาชีพไปประยกุ ต์ใช้กับการสรา้ งสรรค์งานอน่ื อยา่ งไร
เฉลยคำตอบ ประยุกตล์ ายในการมัดย้อมเส้ือผา้ ผา้ คลุมไหล่ เสอื้ เกา่ มายอ้ มให้เป็นเสอื้ ใหม่ ฯลฯ
4. นกั เรียนได้รับความรู้ในเรื่องใดบ้างจากการฝกึ ประสบการณใ์ นอาชีพ
เฉลยคำตอบ การฝึกมัดลายผา้ สจี ากคราม สจี ากดอกบวั แดงแห้ง วธิ กี ารย้อมผ้าแบบยอ้ มเยน็
วธิ ีการย้อมผา้ แบบย้อมร้อน การตัดต่อวทิ ศั น์ ฯลฯ
5. นักเรียนทำกิจกรรมแลว้ สามารถเลือกประกอบอาชีพใดไดบ้ ้าง
เฉลยคำตอบ นักเรียนที่ได้รบั มอบหมายใหม้ หี น้าทีต่ ัดต่อวดี ทิ ศั น์ ในอนาคตอาจจะเลอื กเรียน
สาขาอาชพี ท่ีใช้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ หรือนักเรยี นท่ีมีความสนใจในสีที่นำมาย้อมผา้
อาจจะเลอื กเรยี นทางดา้ นวิทยาศาสตรเ์ พื่อทดลองหาวสั ดยุ อ้ มผา้ จากสธี รรมชาติ หรือนกั เรียน
บางคนอาจจะประกอบอาชีพครูศิลปะ,นางแบบ,ดไี ซน์เนอร์,พธิ กี ร,คนเขียนบท เป็นต้น
6. นักเรยี นคิดวา่ สามารถนำเอาความรู้จากกิจกรรมครั้งนี้ไปใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ย่างไรบา้ ง
เฉลยคำตอบ 1. สามารถประหยัดรายจ่ายผูป้ กครองในการย้อมเส้ือผา้ ได้ดว้ ยตนเอง
2. รจู้ ักวธิ กี ารทำสีย้อมผา้ จากวสั ดุในธรรมชาติ
3. สามารถหารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น
4. สามารถนำไปประกอบอาชีพได้
ภาคผนวก