The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติตำบลน้ำแก่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Prakaydaow Srisaypong, 2020-06-16 03:55:19

ประวัติตำบลน้ำแก่น

ประวัติตำบลน้ำแก่น

ประวตั หิ มบู่ ้านต้าบลนา้ แก่น
อ้าเภอภูเพยี ง จังหวดั น่าน

ห้องสมุดประชาชนอ้าเภอภูเพียง
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอา้ เภอภเู พียง
ส้านกั งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัดน่าน

1

ค้านา้

E-book ประวตั ิหมบู่ ้านต้าบลน้าแก่นเล่มนี้ จัดท้าขึน้ เพ่ือเปน็ การส่งเสรมิ การอา่ น ใหก้ บั ประชาชน
ทวั่ ไป และผ้ใู ช้บริการหอ้ งสมดุ ประชาชนทสี่ นใจได้เรียนรู้เกย่ี วกบั ประวัติความเป็นมาของแต่ละหมูบ่ า้ น ใน
พืน้ ท่ตี า้ บลนา้ แกน่ ซึ่งตา้ บลนา้ แกน่ มหี มู่บา้ นทัง้ สิ้น จ้านวน 10 หมู่บ้าน และจะเกิดประโยชนต์ ่อผ้ศู กึ ษา
เปน็ อยา่ งมาก เพราะเป็นความรทู้ างประวตั ศิ าสตรข์ องชุมชน และทีส่ า้ คัญปจั จบุ นั คนรุ่นใหมน่ บั วันจะไม่
ค่อยมคี วามรู้ และอาจหลงลืมเร่อื งราวประวตั ิความเปน็ มาตา่ งๆ ของชมุ ชนไปบา้ ง อีกทง้ั การนา้ เสนอขอ้ มูล
เก่ียวกับประวตั ิความเป็นมาของชมุ ชน ผา่ นทาง E-book นี้ จะเปน็ การนา้ เทคโนโลยีมาชว่ ยใหค้ นอ่าน
หนังสือให้มากขน้ึ เพราะปัจจบุ ันคนเรมิ่ อ่านหนงั สอื และคน้ คว้าหาข้อมูลจากเอกสาร หนงั สือ ต่างๆ นอ้ ยลง
และหนั มาสนใจสื่อออนไลนก์ นั มากขึน้ เพราะฉะนั้น ผูจ้ ดั ท้าหวงั ว่า E Book เลม่ น้ี จะมีประโยชน์กับผู้อ่าน
แล้วผูศ้ ึกษาตอ่ ไป ไมม่ ากก็น้อย หากผดิ พลาดประการใด ขออภัยมา ณ ทน่ี ดี้ ้วย

พฤษภาคม 2563
หอ้ งสมดุ ประชาชนอา้ เภอภเู พยี ง

สารบญั หน้า

เร่อื ง 1
4
ค้านา้ 5
สารบญั 8
9
ข้อมูลท่วั ไปต้าบลน้าแกน่ 10
ประวัติบ้านน้าแก่นเหนือ 11
ประวัตบิ า้ นน้าแกน่ กลาง 12
ประวัติบา้ นใหมน่ ้าแก่น 13
ประวัติบ้านนาเหลืองมว่ งขวา 14
ประวตั บิ า้ นน้าแกน่ ใต้ 15
ประวัติบา้ นใหม่ร่มเย็น
ประวตั ิบ้านนาลอ้ ม
ประวัติบา้ นไรส่ ามคั คี
ประวัติบา้ นแกน่ อุดร
ประวตั ิบ้านแกน่ นคร

บรรณานกุ รม
คณะผู้จดั ทา้

1

ขอ้ มลู ทว่ั ไปต้าบลน้าแกน่

ประวตั ิตา้ บลนา้ แกน่

ค้าว่า ต้าบลน้าแก่น เป็นช่อื ของลา้ หว้ ยนา้ แกน่ ซงึ่ เป็นล้าห้วยขนาดใหญไ่ หลมาจากขนุ เขาดอย
นา้ แกน่ ไหลจากทางทิศตะวันออก มีความยาว 30 กโิ ลเมตรเศษ โดยไหลผ่านบ้านไร่สามัคคี บา้ นน้าแก่น
เหนือ บ้านนา้ แกน่ กลาง บ้านน้าแก่นใต้ บา้ นก้อดแกว้ บ้านมว่ งใหม่ บา้ นนาปงั บ้านน้าลัด บา้ นสบแกน่
เป็นลา้ หว้ ยท่ีไปหลอ่ เล้ียงผืนนาในต้าบลน้าแกน่ ตา้ บลนาปัง ตา้ บลกองควาย และทุ่งนาข่อย ต้าบลท่านา้ ว
และก่อนทช่ี ื่อวา่ น้าแกน่ นนั้ ก็มีผเู้ ชี่ยวชาญในหมู่บา้ นไดไ้ ปเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วในปา่ เขา ต้นน้าล้าธาร ใน
บรเิ วณนน้ั มีผูพ้ นเห็นตน้ ไมใ้ หญอ่ ยตู่ ้นหนึ่งใหญข่ นาด 3 คนวาลอ้ ม เปน็ ไม้ทม่ี ีชอ่ื วา่ ไม้แกน่ สาร หรือเรยี กกัน
วา่ ไม้สารเงิน ซง่ึ ตง้ั อยบู่ รเิ วณริมฝง่ั น้าหรอื ขนุ ห้วย (ต้นก้าเนดิ นา้ )

ดงั นน้ั ในต้าบลหม่บู ้านจึงใหฉ้ ายาวา่ เป็นห้วยน้าแกน่ เปน็ ช่ือของหมบู่ ้าน ต้าบลน้าแก่นตลอดจนถงึ
วนั น้ี

ตา้ บลน้าแก่นมที ง้ั หมด 10 หมู่บ้าน ประกอบไปดว้ ย บ้านนา้ แก่นเหนือ หมู่1 ทีจ่ รงิ แลว้ บ้านน้าแก่น
เหนือไมไ่ ดอ้ ยทู่ างทศิ เหนือ อยทู่ างทศิ ตะวันออกแต่อยู่เหนือน้า จงึ มชี อ่ื วา่ บา้ นน้าแกน่ เหนือ ถดั ไปเป็นบา้ น
น้าแกน่ กลาง หมู่ 2 บ้านใหม่น้าแก่น หมู่ 3 ได้แยกจากบ้านน้าแก่นกลาง เม่ือปี พ.ศ 2522 ให้ชื่อวา่ บา้ น
ใหมน่ า้ แก่น ตอ่ จากนั้นเป็นบา้ นนาเหลืองมว่ งขวา หมู่ 4 เดิมชอ่ื บ้านห้วยนาเหลอื งหว้ ยผ้าซึ่งมชี าวบา้ น
อาศัยอยู่ตามรมิ ห้วย เม่ือปี 2349 ไดม้ นี ายขวา ชิณาวงค์ ไดเ้ ชญิ ชวนเพอื่ นบา้ นทอ่ี ยู่บา้ นหว้ ยผา้ ใหม้ าอยู่
รวมกนั เป็นบา้ นห้วยนาเหลอื ง เม่ือชาวบ้านท้ังสองหมบู่ ้านไดม้ ารวมกันมปี ระมาณ 25 หลังคาเรอื น จึงไดม้ ี
การเรียกรอ้ งให้เปล่ียนช่ือหมู่บ้านใหม่ เพอื่ ทีจ่ ะเปน็ เกียรติแก่นายขวา ชิณาวงคซ์ ่ึงเป็นแกนนา้ ในการจัดตั้ง
หมบู่ ้านจึงให้ชื่อว่า บ้านนาเหลืองม่วงขวา ชื่อนนี้ อกจากไดย้ กยอ่ งนายขวาแล้ว ยงั ไดม้ กี ารผนวกช่อื เข้ากับ
ตน้ มะมว่ งชนดิ หนงึ่ ซึ่งมลี ้าตน้ ใหญ่มากๆ ชาวบ้านเช่อื กันว่าเปน็ ตน้ ไม้ศักดส์ิ ิทธิ์ เพราะตั้งอยู่ในเขตดงเจา้
หลวง ดงเจา้ หลวงแหง่ น้ีในอดีตเคยเป็นวดั เก่า แต่ปัจจุบันตัง้ เปน็ ศาลพระภมู เิ จ้าทีป่ ระจา้ หมบู่ า้ น และ
เรียกชอ่ื ตน้ ไมว้ ่า ต้นม่วงขวา จึงเป็นทม่ี าของบ้านนาเหลอื งมว่ งขวา หมู่ 4 หมู่ 5 บ้านนา้ แก่นใต้ เรียกตาม
สายน้า เพราะอยูท่ างใต้นา้ หมู่ 6 หมบู่ ้านท่แี ยกออกจากบ้านนา้ แก่นใต้ เมื่อ พ.ศ.2527 .ใหช้ ่อื วา่ บ้านใหม่
รม่ เย็น หมู่ 7 ไดแ้ ยกออกจากบา้ นนา้ แก่นเหนอื เมอื่ ปี 2505 ให้ช่อื วา่ บา้ นนาล้อม หมู่ 7 บ้านหมู่ 8 บ้าน
ไรส่ ามัคคี ได้แยกออกจากบา้ นนาลอ้ ม เมอ่ื ปี พ.ศ.2515 เนอื่ งจากมผี ู้คนไปท้าไรอ่ ยูท่ ี่ห้วยหวายไดป้ ลูกบา้ น
อยู่ในไร่ ต่อมาก็ขยายมีหลังคาเรือนเพิ่มขึน้ จึงไดต้ ้ังหมบู่ ้านไร่สามัคคี บ้านหมู่ 9 บา้ นแก่นอุดรได้แยกจาก
บา้ นนา้ แกน่ เหนอื เมอ่ื ปี พ.ศ.2530 ต้ังช่ือว่าบา้ นแก่นอดุ ร แก่น หมายถงึ ลา้ ห้วยนา้ แกน่ อดุ ร คือทศิ เหนือ
จึงไดช้ ือ่ ว่าบ้านแก่นอดุ ร หมู่ 10 บ้านแก่นนคร ไดแ้ ยกมาจากบา้ นนา้ แก่นเหนือเมอื่ ปี พ.ศ.2538 ได้อนุรกั ษ์
คา้ วา่ นา้ แกน่ ไว้ จึงเรียกว่าบา้ นแก่นนคร

2

ส่ิงดีๆที่มอี ยใู่ นหมบู่ ้าน/ชมุ ชน คือ ประเพณสี ขู่ วัญ ยาสมุนไพร การรักษาโรคด้วยทางไสยศาสตร์
คาถาอาคม ส่งเคราะห์ สง่ เปงิ่ ส่งโจน สืบชะตา สง่ ผี เลยี้ งผี

ส่งิ ท่ีสญู หายไป คือ ดนตรพี ืน้ บ้าน สะล้อ ซอซงึ คา่ ว จอ้ ย ดา้ หัวผสู้ งู อายตุ ามบ้าน
แนวทางการอนุรักษ์สืบสาน คอื ก้าลังรณรงค์อยูม่ ีประเพณี เช่น การประกวดคา่ ว จ้อย และส่งเสริม
ให้เดก็ และผูส้ ูงอายุเลน่ ดนตรีพ้ืนบ้าน
หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งในการอนุรกั ษ์สืบสานและฟ้นื ฟรู บั ผดิ ชอบ คอื องคก์ ารบริหารสว่ นทอ้ งถิ่นตา้ บล
น้าแก่น ประเพณีท้องถน่ิ สักการะเจ้าหลวงผาสารท 3 เป็ง เจา้ ตน้ น้าวัดน้าแก่นเหนอื สักการะเจ้าหลวงห้วย
นาเหลอื ง งานประเพณี 4 เป็ง เจ้าปกู่ ้าน้าแก่นใต้ งาน 5 เป็ง พระครูสเุ ทพพรมลขิ ติ พระธาตุบวั หลวง
วัดนา้ แก่นกลาง (วดั สวา่ งอรุณ)

3

สภาพท่วั ไปของตา้ บลน้าแก่น

สภาพท่ัวไปของตา้ บลนา้ แกน่ เป็นทรี่ าบสงู ประกอบด้วยภเู ขาสูงเป็นส่วนใหญ่ทีล่ าดเอยี งและที่
ราบลมุ่ เลก็ นอ้ ย ไม่มีแมน่ ้าขนาดใหญม่ เี พียงลา้ หว้ ยขนาดเล็ก มีเนอ้ื ท่ีประมาณ 27,914 ไร่ หรอื ประมาณ 44.6
ตารางกิโลเมตร

ทศิ เหนอื จดกบั ตา้ บลมว่ งตด๊ึ และ ต้าบลน้าเกี๋ยน

ทศิ ใต้ จดกับต้าบลนาเหลือง อ้าเภอเวียงสา

ทศิ ตะวันออก จดกบั อา้ เภอแม่จรมิ

ทิศตะวันตก จดกบั ตา้ บลนาปัง และตา้ บลทา่ น้าว

ประชากรส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมอื งดง้ั เดิม อาชีพและรายได้ของประชากรต้าบลนา้ แกน่ ส่วนใหญ่
จะประกอบอาชพี เกษตรกรรมและเลยี้ งสัตว์ และนอกจากน้ียังมรี ายไดจ้ ากการประกอบอาชพี ตา่ งจงั หวดั
และตา่ งประเทศ ต้าบลน้าแกน่ มพี นื้ ทั้งหมดจ้านวน 10 หม่บู า้ น ไดแ้ ก่

หมู่ 1 บา้ นนา้ แก่นเหนือ หมู่ 6 บ้านใหมร่ ม่ เย็น

หมู่ 2 บ้านน้าแกน่ กลาง หมู่ 7 บา้ นนาลอ้ ม

หมู่ 3 บ้านใหม่นา้ แก่น หมู่ 8 บา้ นไรส่ ามคั คี

หมู่ 4 บา้ นนาเหลืองม่วงขวา หมู่ 9 บา้ นบา้ นแกน่ อุดร

หมู่ 5 บ้านนา้ แก่นใต้ หม1ู่ 0 บ้านแกน่ นคร

4

ประวตั บิ ้านน้าแก่นเหนือ

บ้านนา้ แกน่ เหนอื ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต้าบลน้าแกน่ อ้าเภอภเู พียง จงั หวัดนา่ น เป็นหมู่บา้ นทเ่ี ริม่ ก่อตง้ั
มาตงั้ แต่ปี 2326 มีอายปุ ระมาณ 200 ปี ผทู้ เี่ ปน็ หัวหนา้ มเี ชอ่ื สายมาจากเจ้าเมืองนา่ นและเปน็ คนท่มี คี วาม
ขยันท้ามาหากินแห่งลา้ นา้ แก่นคือ นายแสน มาจากจงั หวัดล้าปาง มีภรรยาเป็นคนบ้านนา้ แกน่ เหนือและมี
ความรูด้ ้านการเกษตร การกอ่ สร้างเหมอื งฝายและทา้ การขุดนา ทา้ สวน ชาวบ้านเลยขนานนามวา่ ป่แู ผด
ไดส้ รา้ งฝายบา้ นน้าแกน่ เหนือเลาะไปทางทิศเหนือทดน้าและระบายน้าไปสู่บรเิ วณท้องนาท่ขี ดุ ไว้ ฝายน้ีจงึ
ได้ชอื่ วา่ ฝายปู่แผด

สภาพภูมิศาสตร์

อาณาเขต

ทศิ เหนือ ติดกบั บ้านนาลอ้ ม

ทศิ ใต้ ตดิ กบั บา้ นแกน่ อุดร

ทิศตะวนั ออก ตดิ กบั บา้ นแก่นนคร

ทศิ ตะวันตก ตดิ กับ บา้ นน้าแกน่ กลาง

ประชากร ประชากรสว่ นใหญ่เป็นคนพืน้ เมือง มปี ระชากรทั้งหมด 256 คน อาชีพและรายได้ของ

ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพทา้ ไร่ ทา้ นา รับจา้ ง ปลูกข้าวโพด ไมผ้ ล และเลยี้ งสตั ว์

ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรสว่ นใหญ่นับถอื ศาสนาพุทธ มีความเช่อื เร่ือง

ไสยศาสตร์ ความเชอื่ แบบเกา่ ๆ เช่น การส่งผี ส่งเคราะห์ สืบสะตาบ้าน ทา้ บายศรีสขู่ วญั และการ

สืบชะตากับคนเจบ็ ป่วย

ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ การจกั สาน

5

ประวัติบ้านน้าแก่นกลาง

บ้านน้าแก่นกลาง ตัง้ อยู่หมู่ 2 ตา้ บลน้าแกน่ อา้ เภอภูเพียง จังหวัดนา่ น มอี ายุประมาณ 300 ปี อยู่
หา่ งจากทว่ี า่ การอ้าเภอภเู พยี ง 6 กิโลเมตร และอย่หู า่ งจากจงั หวดั นา่ น 11 กโิ ลเมตร

ตามต้านานเล่าวา่ สมยั ดกึ ดา้ บรรพ์ห้วยน้าแกน่ เปน็ ลา้ หว้ ยขนาดใหญ่น้าไหลผา่ นตลอดทง้ั ปี และมี
สตั วน์ า้ โดยเฉพาะปลาชกุ ชมุ ปา่ ไม้มีความอดุ มสมบรู ณ์ มีสัตว์ปา่ นานาชนดิ อาศยั อยู่ และยังเปน็ ที่สงิ สถิตของ
เหล่าเทพยดา ทรี่ ักษาป่าตน้ น้าองค์หน่ึงนามวา่ เจ้าหลวงผาสารท ซึง่ เปน็ เทพหนุ่มรปู งามมอี ิทธฤิ ทธิม์ าก
เป็นเจา้ ขนุ นา้ แก่น เยอ้ื งไปทางทศิ ใต้ (ปจั จุบนั อยอู่ า้ เภอเวยี งสา) มีเทพองค์หน่ึงนามว่า เจ้าหลวง
ผาง่าม ปกครองอยู่ ซ่งึ เจา้ หลวงผางา่ ม ก็มีฤทธิ์ไมแ่ พเ้ จ้าหลวงผาสารทด้วย และมธี ดิ าองคห์ นง่ึ รปู งามมาก
นามว่าเจา้ หญิงผาฮาง ซง่ึ เปน็ ที่หมายปองของหน่มุ ท้ังปวงรวมท้ังเจ้าหลวงผาสารทดว้ ย มีการไปมาหาสู่กนั
เสมอ ในระหวา่ งเดินทาง เจา้ หลวงผาสารทพร้อมบรวิ ารไดเ้ กบ็ ผลไม้ปา่ ชนิดหน่งึ ชอื่ มะก้ายป่า รบั ประทาน
ปรากฏวา่ ผลมะก้ายปา่ ตดิ คอ (ชาวบา้ นเรยี กวา่ แก้น ) จงึ ใหบ้ ริวารตกั นา้ จากหว้ ยนา้ แก่นมาด่มื ปรากฏวา่ หาย
ติดคอ (หายแกน้ ) จึงเรยี กล้าห้วยแหง่ นว้ี ่า “นา้ แกน้ ” ต่อมาเพย้ี นเป็นล้าน้าแกน่ และเจ้าหลวงผาสารทได้
สู่ขอเจ้าหญงิ ผาฮางตอ่ เจา้ หลวงผางา่ ม แต่เจ้าหลวงผาง่ามไมย่ อมยกให้จงึ เกิดการต่อสู้ประลองฝีมือกัน
เจ้าหลวงผาสารทได้ใชศ้ รยงิ ผางา่ มซึ่งเปน็ ทอี่ ยู่ของเจา้ หลวงผางา่ มแตกออกเปน็ สองเส่ียง เจ้าหลวงผาง่าม
จึงยงิ ผาสารทจนหักสะบ้ันลง แตเ่ จ้าหลวงผาสารทมอี ทิ ธฤิ ทธจ์ิ งึ ยกหินตงั้ ไว้เหมอื นเดิม ในทีส่ ดุ เจ้าหลวง
ผางา่ มจงึ ยกเจา้ หญงิ ผาฮ่างใหเ้ จา้ หลวงผาสารท ทั้งสองเมืองจึงเปน็ มิตรต่อกันตงั้ แต่น้นั มา

ในหว้ ยน้าแก่น เป็นป่าเขาตน้ น้าล้าธาร หา่ งจากบา้ นไร่สามัคคี ไปทางทศิ ตะวันออกประมาณ 3
กิโลเมตร มกี อ้ นหนิ ขนาดใหญ่กอ้ นหนึง่ วดั โดยรอบประมาณ 4 วาโอบ มีหนิ ก้อนเล็กๆ หลายกอ้ นสลบั กนั ไว้
ชว่ ยให้หนิ ก้อนใหญ่สามารถตงั้ ไดต้ รง ซง่ึ หนิ กอ้ นน้มี มี าต้ังแตด่ ึกดา้ บรรพ์ ชาวบา้ นเรยี กหนิ ก้อนนี้ว่า “หินเจ้า
หลวงผาสารท” และมเี ทพที่สิงสถติ คือ เจา้ หลวงผาสารท ตามความเชอื่ ทเ่ี ลา่ ต่อกันมาชา้ นาน เปน็ ท่ี
สักการบชู าของชาวบ้านและชาวป่า นายพรานที่เข้าไปล่าสัตวแ์ ละหาของปา่ หากผ่านไปมากจ็ ะพากนั กราบ
ไหว้ขอความสวสั ดีในการเดินทางและชาวน้าแก่นก็จะต้องไปสกั การบชู าทกุ ๆปี เมือ่ ถึงวนั สงกรานต์ผา่ นไป 3
วัน หรอื เมอื่ เกิดฝนแล้งไม่มนี า้ จะมาท้านาหล่อเล้ยี งตน้ ข้าว ชาวบ้านน้าแก่นก็จะมาอธิฐานขอฝนจากเจา้
หลวงผาสารทในพธิ จี ะเรยี กตวั แทนผู้ทีท่ า้ การอธิบายหรือหมอผีว่า ข้าวจ้า ตอ้ งเปน็ ชายสูงอายุทมี่ ีโวหาร คอื
สามารถพูดจาต่อกลอนกับผไี ด้ โดยการอธิษฐานจะใชก้ ารวาไม้ของข้าวจ้า แล้วถามผีวา่ ฝนจะตกเม่ือไหร่
วันไหน ถา้ ตกวนั นน้ั ใหไ้ มส้ น้ั หรอื ยาว ก็ตามแตโ่ วหารของขา้ วจา้ และทุกครงั้ ที่มีพธิ ีอธิษฐานขอฝนจากเจา้
หลวงผาสารทแลว้ กจ็ ะมฝี นตกตามนนั้ ทกุ คร้ัง จึงท้าให้ชาวบา้ นเล่อื มใสและพากนั เครารพยกย่องจ้าหลวงผา
สารทมากขึน้ ในปจั จบุ นั ชาวบา้ นจึงพากนั สรา้ งหอ (ศาล ) เซ่นไหว้ สกั การบูชา ข้นึ มา 2 หลงั หลงั แรกอยทู่ ี่
บา้ นนา้ แก่นเหนอื ใกล้กบั ฝายลกู ที่ 2 ทางทศิ ตะวนั ตกของฝายปจั จบุ ัน หลงั ท่ี 2 ตั้งอย่บู รเิ วณธรณีสงฆ์ วดั
ม่วงใหม่ ต้าบลนาปงั อย่ทู างทิศตะวันตกของวัด ในเดือน 8 เหนือ แรม 13 ค่้า จะมีการเซ่นไหว้ท้ัง 2

6

เป็นประจ้าและเฉพาะหลังที่ 2 คือบา้ นใหมน่ าปงั มกี ารลงเจา้ เข้าทรง โดยคนทรงจะเรียกว่า ทีน่ งั่ เจ้าหลวง
มกี ารฆา่ ควายเซน่ ไหว้ โดยการยกท่สี าธารณะให้เปน็ ท่ีท้ากนิ ไวส้ า้ หรับผแู้ ทงควายเรยี กวา่ “นาแตง” สว่ นทเ่ี ปน็
โผง้ คอื นายฝายลกู ท่ี 4 (ผดู้ ูแลฝาย, หัวหน้าฝาย ) จะได้รบั คา่ จา้ งโดยยกนาให้ทา้ กนิ เปน็ จ้านวน 5 ไร่ การ
จัดสรรน้าใหน้ าทุกแห่งไดน้ ้าเสมอกัน ผู้ดูแลทง่ นาปงั “โผง้ ” หรอื นายฝายจะได้ท้ากินเป็นค่าตอบแทน ตอ่ มา
ประมาณ 60 ปีเศษ เลิกการฆ่าควายเซน่ ไหว้ทั้งสองแห่งไดย้ กผลประโยชนใ์ ห้นายฝายลกู ที่ 4“ฝายทา่ มา้ ”

สว่ นทางบา้ นน้าแก่นกลางก็มกี ารฆ่าควายเซน่ ไหว้ ตอ่ มาเปล่ียนเป็นหมูแทน มกี ารทรงเจา้ คนทรง
หรือ “ท่นี ัง่ ” เป็นร่างทรงให้เจา้ หลวงมาประทบั รา่ งทรงจะแสดงปาฏิหารยิ ์ โดยโยนคนโทดนิ ปากทองเหลือง
คนโทดนิ ปากเงนิ กระทบหอยอยา่ งแรง แตค่ นโทไมแ่ ตก ประเพณนี ีเ้ ลิกเม่ือ พ.ศ. 2478 เน่ืองจากคนทรงเจา้
ไมเ่ ปน็ ความจรงิ เหมอื นแตก่ ่อน วนั เซน่ ไหว้นน้ั มีร่างทรง 2 คนแตเ่ ป็นรา่ งทรงท่ีไม่มปี าฏิหารยิ ์และไมศ่ กั ดส์ิ ิทธิ์
จงึ มชี าวบา้ นไปตอ่ วา่ และไปแจ้งความต่อเจา้ หนา้ ท่ี ฐานหลอกลวงประชาชนต้งั แต่นั้นมาประเพณีนก้ี ถ็ ูกเลิกไป

ปรากฏการณธ์ รรมชาติทผ่ี า่ นมา ปีไหนมพี ายเุ ข้ามานา้ หลากท่วมไร่นา และเหมืองฝาย เล่ากนั ว่าจะมี
เสอื ขนาดใหญต่ ัวหนึ่งเดินไปตามล้าห้วยถึงฝายลกู ท่ี 4 แลว้ เดินกลับ ในเวลากลางคนื โดยไม่มีใครพบเห็น
คงทิ้งรอยเท้าขนาดใหญม่ ากเท่าปากจานกว้าง 8 นวิ้ ให้คนได้ดคู รบ 4 เทา้ ชาวบ้านเช่อื กันวา่ เสือตวั นั้นเปน็
เสอื ของเจา้ หลวงผาสารท และเปน็ พาหนะของเจา้ หลวงผาสารทท่ีใชข้ ี่มาดแู ลความเรียบร้อยของเหมืองฝาย
ตา่ งๆรวมไปถึงไร่นาทา้ กินของประชาชน

ชุมชนบา้ นนา้ แกน่ กลาง มผี คู้ นจากทต่ี า่ งๆเขา้ มาตง้ั ถน่ิ ฐานอยปู่ ระมาณ 300 กว่าปีมาแลว้ เปน็ ชุมชน
แรกของน้าแก่น มกี ารสรา้ งวดั มีการปลกู ตน้ โพธ์ทิ ่ีมมุ ด้านทศิ ตะวันออก (มุม) เหนอื ตน้ โพธ์ชิ าวบ้านเรยี กวา่
“ตน้ สะหลีหลวง” และได้ล้มลงเมื่อ 2490 วันนัน้ เปน็ วันพระ เช้ามดื ประมาณตี 3 ชาวบา้ นแถบน้ันได้ยินเสยี ง
ส้ันเทือนลนั่ เหมอื นแผ่นดนิ ไหวเสียงดังครนื ใหญแ่ ล้วสงบไป พอรงุ่ เช้าชาวบ้านโจษจันท์คุยกนั วา่ ก่ิงโพธ์ทิ โี่ น้ม
มาทางวหิ ารได้ลม้ ลงทางดา้ นวหิ ารดา้ นตะวนั ออก หา่ งจากรูปปั้นสงิ ห์ 2 ตวั เพียงเลก็ นอ้ ย ตามรูปการแลว้ ต้น
โพธ์ิน่าจะลงกลางวิหาร แตล่ ม้ ไปทางดา้ นหนา้ วหิ ารแทน ทางพระครูสเุ ทพ ธรรมลิขติ หรือ หลวงพอ่ เขียนเทพ
ปสุ สเสเทโว เจา้ อาวาสวดั สวา่ งอรณุ (วดั น้าแก่นกลาง ) ทา่ นบอกวา่ มเี ทพารักษ์ช่วยรกั ษาไม่ให้โดนกลางวิหาร
และทีเ่ หลอื อกี 2 กงิ่ ใหญ่ต่อมา2 ปกี ล็ ้มลงหมด

7

ประเพณี วฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณขี องบ้านน้าแกน่
ประเพณที างศาสนาของบ้านน้าแกน่ นิยมเทศน์มหาชาติแบบท้านองพ้นื เมือง ใชท้ ้านองเลน่ ลกู คอ

เสียงสงู และเสยี งต้า่ อ่านใหถ้ กู จังหวะ วฒั นธรรมในการแตง่ กายของชาวบา้ นคอื แต่งกายพ้ืนเมอื งผ้าทอดว้ ย
หูกเปน็ ผา้ ขาวยอ้ มด้วยผลไม้ เชน่ ชาวเหนอื เรียกตามชาวเหนือ (หมอ้ ฮ่อม ) การนงุ่ หม่ ออ่ นชอ้ ย เรยี บรอ้ ย
( แตป่ จั จุบันนีก้ ารแต่งกายของชาวบา้ นได้พัฒนาเปลีย่ นแปลงตามสมัยนยิ มขึ้น )

ประเพณแี ละวนั สา้ คัญในหมบู่ า้ นในวนั เพ็ญเดือน 3 หรือวันมาฆบูชา จะมีประเพณี 5 เป็ง มีการ
ทา้ บญุ ปิดทองพระธาตบุ รรจอุ ัฐิของจา้ อาวาส ซึง่ ชาวบา้ นให้ความศรทั ธาและเลอ่ื มไสมาโดยตลอด ในปี 2544
ไดม้ กี ารฉลองพระวิหารและกา้ แพงวดั ซึง่ ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน 18 ปีควบค่กู บั งาน 5 เป็งไปด้วย
วัฒนธรรมในการใช้ภาษาพนื้ เมืองของชาวบ้านจะใช้สรรพนามแทนตวั เองวา่ เจ้า (คะ่ ส้าหรบั ผูห้ ญงิ ) อ้าย
( ส้าหรบั ผู้ชาย ) เม่อื ถึงวันสงกรานตจ์ ะมกี ารละเล่นกันอยา่ งสนุกสนาน มกี ารให้โชคให้พรและรดนา้ ดา้ หวั
ผู้แก่ผเู้ ฒา่ สบื ตอ่ กันเรือ่ ยมา

การทา้ บุญในวดั ประจา้ ปี ตามปกติในระหว่างเขา้ พรรษากจ็ ะมกี ารอบรมศีลธรรมและมีผมู้ ารักษา
อโุ บสถศีล 2 -3 คน ไม่ขาด เมอื่ ออกพรรษาถงึ วันสา้ คญั ทางศาสนา เช่น วนั มาฆบูชา วันวิสาขบูชา หรอื
อัตถมบี ูชาก็ได้ประชมุ ชาวบ้านท้าพิธีฟังเทศนเ์ วียนเทยี นมาทุกปภี ายหลังคณะสงฆไ์ ด้เพมิ่ วนั อาสาฬหบูชา เขา้
อีก 1 วัน ก็ได้พยายามทา้ สืบตอ่ กนั มา

8

ประวัติบ้านใหมน่ า้ แก่น

บ้านใหมน่ ้าแก่น ต้ังอยหู่ มทู่ ่ี 3 ต้าบลน้าแกน่ อา้ เภอภูเพยี ง จงั หวดั นา่ น เปน็ หม่บู า้ นทีม่ อี ายุ
ประมาณ 23 ปี โดยแยกออกจากหมู่บ้านนา้ แกน่ กลาง หมทู่ ี่ 2 เมือ่ ปี 2521 มีนายหยวน จองคา้ เป็น
ผู้ใหญบ่ ้านคนแรก มีประวตั คิ วามเป็นมาเช่นเดยี วกบั บา้ นน้าแกน่ กลาง ต้ังอย่หู ่างจากทวี่ ่าการอา้ เภอภเู พยี ง
6 กโิ ลเมตร และห่างจากตวั จงั หวดั น่าน 8 กโิ ลเมตร

สภาพภมู ิศาสตร์

อาณาเขต

ทิศเหนอื ตดิ กบั บา้ นน้าแกน่ กลาง

ทศิ ใต้ ตดิ กับ บา้ นนาเหลืองมว่ งขวา

ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านแกน่ อดุ ร

ทิศตะวนั ตก ติดกับ บ้านก๊อด

สภาพภมู ปิ ระเทศ พ้นื ท่เี ปน็ ทีร่ าบสงู บนเนินเขามีไหลเ่ ขาเป็นแนวยาว เป็นที่ต้ังบ้านเรือน สวนทา้ ไร่
ทา้ สวน อาชพี และรายได้ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม เล้ยี งสัตว์ นับถือศาสนาพุทธ

ประชากร ประขากรสว่ นใหญ่เปน็ คนพน้ื เมือง มีประชากรทั้งหมด 501 คน อาชีพและรายได้ของ
ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี ทางการเกษตร ได้แกน่ ท้าสวนและรบั จ้าง

ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ทา้ ธปู สมนุ ไพร แปลรูปกระดาษสา ท้าพวงหรดี งานศพ

9

ประวัติบา้ นนาเหลืองม่วงขวา

บา้ นนาเหลอื งมว่ งขวา ต้ังอย่หู มู่ที่ 4 ต้าบลน้าแก่น อ้าเภอภเู พยี ง จังหวดั น่าน เดิมเปน็ หมูบ่ า้ น
เลก็ ๆ มปี ระชากรอาศยั อยปู่ ระมาณ 25 หลงั คาเรือน ต้งั อยบู่ ริเวณหว้ ยนาเหลือง มีผู้นา้ หมบู่ า้ น ซ่ึงในขณะนั้น
เปน็ กรรมการวดั ชอ่ื นายม่วงขวา และมีต้นมว่ งขวา ซ่งึ เปน็ ชื่อเฉพาะของมะม่วงท่วี ดั เกา่ เปน็ ศาลาพระภูมเิ จา้
ทขี่ องหมบู่ ้าน มดี งเจา้ หลวงเรยี กว่า เจา้ หลวงมว่ งขวา หมบู่ ้านมอี ายุราว 100 ปีเศษ เดิมอยู่ในเขตการ
ปกครองของอา้ เภอเวยี งสา จังหวัดน่าน เปน็ บ้านหมู่ 1 ต้าบลนาเหลืองใน ต่อมาได้โอนมาอยูใ่ นเขตการ
ปกครองของอ้าเภอเมืองน่าน จงั หวดั นา่ น เม่ือ 2493 มกี ารเปล่ยี นผู้น้าหมู่บ้านมาหลายยุคหลายสมยั จนถงึ
ปจั จุบนั ในเขตการปกครองของอ้าเภอภูเพยี ง จังหวัดน่าน

สภาพภูมศิ าสตร์ สภาพภูมิศาสตร์ ทตี่ ง้ั ของหม่บู า้ นในปจั จุบนั เปน็ เพยี งตา้ นานของไม้สัก
ประชากร ประชากรสว่ นใหญ่เปน็ คนพน้ื เมือง มีประชากรทงั้ หมด 608 คน อาชพี และรายไดข้ อง
ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพทางการเกษตร ได้แก่ ท้าสวนและรบั จ้าง
ศาสนา ประเพณี และวฒั นธรรม ประชากรสว่ นใหญ่นับถอื ศาสนาพุทธ
ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ส่วนมากเปน็ งานหตั ถกรรมในดา้ นจักสาน การประดษิ ฐ์ของใชใ้ นชวี ิตประจ้าวัน
ของใช้ในบ้านในครัวเรอื น และการทา้ ธปู สมุนไพรไล่ยงุ
สถานท่ีส้าคญั มวี ดั แอ่งเกบ็ น้า และป่าเขาตามธรรมชาติ

10

ประวตั บิ า้ นน้าแก่นใต้

บา้ นนา้ แก่นใต้ ต้ังอยหู่ มู่ 5 ต้าบลน้าแก่น อา้ เภอภูเพยี ง จังหวดั น่าน เปน็ หมู่บา้ นที่เกา่ แก่มอี ายุหลาย
ร้อยปี ตั้งโดยการน้าของก้านนั ตะ๊ ไชยเลศิ เม่อื ประมาณ 2440 เดมิ ก่อนหนา้ น้นั มีชื่อว่า บ้านน้าแก่นปา่ เป้า
คา้ ว่า ปา่ เป้า มาจาก สมยั น้นั พมา่ กับขมุสรู้ บกันทีห่ มูบ่ ้านขมุ ซงึ่ เปน็ ทอี่ ยขู่ องบ้านน้าแกน่ ใต้ ชาวบา้ นได้
นา้ เอาตน้ เป้ามากองรวมกนั เปน็ จา้ นวนมาก เพื่อจะน้าเอามาเผาถ่านท้าเป็นดนิ ปืนไฟไวส้ ู้รบกับพมา่ ชาวบ้าน
จงึ ตง้ั ชื่อหมู่บา้ นของตนว่า บา้ นนา้ แก่นปา่ เปา้ และเปล่ยี นมาเปน็ บ้านนา้ แกน่ ใตใ้ นปจั จบุ ัน

สภาพภมู ศิ าสตร์

อาณาเขต

ทศิ เหนอื ติดกบั ตา้ บลม่วงตด๊ึ และต้าบลท่านา้ ว

ทิศใต้ ตดิ กับ บา้ นใหม่นา้ แกน่

ทิศตะวันออก ตดิ กบั บา้ นน้าแก่นกลาง

ทิศตะวนั ตก ตดิ กับ บา้ นใหม่ร่มเย็น
สภาพภูมิประเทศ มพี ื้นทที่ ้งั หมดประมาณ 1200 ไร่ เปน็ พ้ืนทีก่ ารเกษตรประมาณ 250 ไร่ สภาพ
ภมู ปิ ระเทศเปน็ เนินเขาเตย้ี ๆ และที่ราบลมุ่ นา้ แกน่ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ส่ี ้าคัญ มลี า้ น้าก่น เป็น

ล้านา้ ทไ่ี หลผา่ นหมบู่ ้าน มปี ่าสงวนของหมบู่ า้ น สระนา้ และฝายเกบ็ น้า

ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรนบั ถอื ศาสนาพุทธ ใชภ้ าษาทอ้ งถน่ิ ติดตอ่ กันภายใน
หมบู า้ นและในจังหวดั ประเพณีท่ัวๆไปคล้ายๆกับท้องถิ่นใกลเ้ คยี ง มีความเช่ือในเรอ่ื งไสยศาสตร์ต่างๆ เชน่
การสะเดาะเคราะห์ บูชาโชค ส่ขู วญั

ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ งานทอผา้ งานจกั สาน

11

ประวัตบิ ้านใหม่รม่ เยน็

บ้านใหมร่ ม่ เยน็ ตง้ั อยหู่ มทู่ ่ี 6 ต้าบลน้าแกน่ อา้ เภอภเู พยี ง จงั หวัดน่าน มีอายปุ ระมาณ 160
ปีมาแลว้ อย่หู ่างจากท่วี า่ การอา้ เภอภเู พยี ง ประมาณ 5 กโิ ลเมตร และห่างจากตวั จงั หวัดนา่ น ประมาณ
11 กโิ ลเมตร มีประวตั ิความเป็นมาเชน่ เดียวกบั บา้ นน้าแกน่ ใต้ ต่อมาบ้านนา้ แกน่ ใตแ้ บง่ การปกครอง
ออกเปน็ 2 หมูบ่ ้าน คอื หมู่ 5 และหมทู่ ่ี 6 เพราะภายหลังบ้านน้าเก๋ียน ไดข้ อแยกจากตา้ บลน้าแกน่ ไป
จงึ เปน็ บ้านใหม่ร่มเยน็ ในปี 2527 โดยนายเสาร์ กันทะ เป็นคนตั้งช่อื หม่บู ้านและเป็นผ้ใู หญบ่ ้านคนแรก

สภาพภมู ิศาสตร์

อาณาเขต

ทศิ เหนือ ตดิ กบั สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ และ ตา้ บลน้าเกี๋ยน

ทิศใต้ ตดิ กับ บ้านกอ๊ ด และ บา้ นนา้ แกน่ กลาง

ทศิ ตะวนั ออก ตดิ กับ บ้านนา้ แก่นใต้

ทศิ ตะวนั ตก ตดิ กบั บ้านนาปัง

สภาพภูมิประเทศ บา้ นใหมร่ ม่ เย็น มเี นอ้ื ท่ปี ระมาณ 1400 ไร่ สภาพพื้นทีส่ ว่ นใหญ่เป็นพื้นท่ี
ราบสูง มีลา้ นา้ แกน่ ไหลผา่ นหมู่บา้ นเหมาะแกก่ ารท้าการเกษตร

ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรนับถอื ศาสนาพุทธ เพราะได้รบั การสืบทอดจาก
บรรพบุรษุ มีวดั น้าแก่นไดเ้ ป็นศนู ยร์ วมจิตใจ ชาวบ้านบางส่วนช่ือเรื่องไสยศาสตร์และโชคลาง มี
พธิ ีกรรมต่างๆ ท่ปี ระกอบขนึ้ มาตามความเชอ่ื ของบรรพบรุ ษุ และไดท้ ้าสืบต่อกนั มาจนถึงปจั จุบนั เช่น
การสะเดาะเคราะห์ บชู าโชค ทานขา้ วก้ปู ๋ี (เท่าอายู ) การสขู่ วัญคนทีห่ ายปว่ ยและคนทส่ี งู อายุในวนั
สงกรานต์ ตลอดจนพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆในแตล่ ะเทศกาล

สถานทส่ี ้าคญั วัดน้าแก่นใต้ จะมบี า้ นใหม่รม่ เย็นแยกมาจากบา้ นน้าแกน่ ใต้ เปน็ ศนู ยร์ วมจิตใจ
ชาวบา้ นบางสว่ นเช่ือเร่อื งไสยศาสตร์และโชคลาง มีพธิ กี รรมตา่ งๆ ท่ีประกอบขน้ึ มาตามความเชอื่ ของ
บรรพบรุ ุษ และไดท้ ้าสบื ต่อกนั มาจนถงึ ปจั จุบัน เชน่ การสะเดาะเคราะห์ บูชาโชค ทานข้าวกู้ปี๋ (เทา่ อาย)ุ
การส่ขู วญั คนท่ีหายปว่ ยและคนท่สี ูงอายุในวนั สงกรานต์ ตลอดจนพธิ กี รรมทางศาสนาตา่ งๆในแต่ละ
เทศกาล ชง่ึ วัดแหง่ นี้ถอื วา่ เปน็ ศนู ย์รวมจิตใจของคนทง้ั 2 หมบู่ า้ น

12

ประวตั ิบา้ นนาลอ้ ม

บ้านนาลอ้ ม ต้งั อยหู่ มทู่ ี่ 7 ต้าบลน้าแก่น อา้ เภอภูเพียง จังหวดั นา่ น บ้านนาล้อมเปน็ นาลอ้ ม
เปน็ หมู่บา้ นทแี่ ยกมาจากบ้านน้าแก่นเหนือ ประมาณ พ.ศ.2490 เดิมมปี ระชากร 90 คน ปจั จุบนั มี
ประชากร 357 คน เพอื่ ความสะดวกในการปกครองราษฎรในหมูบ่ ้านจึงขอแยกเป็นหมู่บ้านนาล้อม หมู่
7 ต้าบลนา้ แก่น มีนายศรี วยั มูล เป็นผ้ใู หญ่บา้ นคนแรก เมอ่ื 2507

สภาพภูมศิ าสตร์

อาณาเขต

ทศิ เหนือ ตดิ กับ บ้านนา้ เก๋ียน

ทศิ ใต้ ติดกบั บา้ นน้าแกน่ เหนือ

ทศิ ตะวนั ออก ตดิ กบั บ้านสามัคคี

ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านน้าแก่นกลาง

สภาพภูมปิ ระเทศ มีเน้อื ทีท่ ้งั หมดประมาณ 120 ไร่ สภาพพื้นที่ส่วนใหญเ่ ป็นพน้ื ทีร่ าบสงู
ราษฎรปลูกบ้านบนทีร่ าบสูง มีลา้ นา้ แก่นไหลผา่ น ทท่ี ้ากนิ สว่ นใหญเ่ ปน็ ภเู ขา ราษฎรหมูบ่ ้านเป็น
เกษตรกร นิยมปลูกขา้ วโพด พืชยืนตน้ และเลย้ี งสัตว์ มีป่าชุมชนเปน็ ทรัพยากรธรรมชาติที่ส้าคัญของ
หมู่บา้ น

ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรสว่ นใหญน่ ับถอื ศาสนาพุทธ มีความเชอ่ื เร่อื ง
ไสยศาสตร์ กับความเช่ือถือแบบเกา่ เชน่ การสง่ ผี สืบชะตาบ้าน การท้าบญุ บายศรีสขู่ วัญ การส่งพรหม
การท้าข้าวปุ้น และการสบื ชะตากบั คนเจบ็ ป่วย วัฒนธรรมการแตง่ กาย ผู้ชายจะใสเ่ สื้อหมอ้ ฮอ้ ม
กางเกงขากว๊ ย ผ้หู ญงิ ใส่เสอื้ แขนกระบอก สวมผา้ ถงุ หากมีประเพณหี รอื เทศกาลผ้หู ญิงและผชู้ าย
จะแต่งกายตามสมัยนยิ ม

ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ การจกั สาน การตีเหล็ก การละเลน่ พืน้ บ้าน เชน่ ดนตรีพ้ืนเมือง ชาวบา้ น
นาลอ้ มสามารถเอาวัสดุไมไ้ ผม่ าท้ากระบุง ตะกร้า ตลอดจนการจกั ตอก น้ามาประดิษฐ์หมวก การทอผ้า
ปักผาแบบชาวเขา และการตมี ีดพร้า

13

ประวตั บิ ้านไร่สามคั คี

บา้ นไรส่ ามคั คี ต้งั อยูห่ มู่ที่ 8 ต้าบลน้าแกน่ อา้ เภอภูเพยี ง จังหวัดน่าน บา้ นไรส่ ามคั คเี ปน็ หมบู่ า้ น
ท่มี ีอายุมาเกอื บ 100 ปี โดยระยะแรกชาวบ้านจากหม่บู า้ นอน่ื มาประกอบอาชีพทา้ ไรข่ า้ วโพด สรา้ ง
กระท่อมอย่ตู ามเชิงเขาใกลล้ ้าหว้ ยท่ีช่อื วา่ ล้าหว้ ยนา้ แกน่ พอนานเขา้ มีชาวบา้ นเข้ามาสมทบเพ่อื ท้าไร่ขา้ ว
เพิม่ ขึ้นอกี ยังตงั้ เป็นชมุ ชนและหมู่บา้ นทช่ี ่ือวา่ ห้วยฝา่ ยและบา้ นห้ายตา๋ ว อาศัยท่ีราบลมุ่ ตามล้าหว้ ยน้าแก่น
เปน็ ท่ที ้ามาหากิน แต่เนอ่ื งจากการคมนาคมไมส่ ะดวกในการตดิ ตอ่ กบั โลกภายนอก จึงยา้ ยหมบู่ ้านมายงั
พนื้ ท่ีอยปู่ จั จุบันและตัง้ ชือ่ ใหม่วา่ บา้ นไร่สามัคคี ตอ่ มาไดม้ ีโครงการสรา้ งอา่ งเก็บน้า ซ่งึ เปน็ โครงการตาม
แนวพระราชด้าริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ชาวบ้านไดอ้ าศัยแหลง่ นา้ นเี้ ป็นทหี่ าปลาเลย้ี งชพี

สภาพภูมิศาสตร์

อาณาเขต ติดกับ อา่ งเกบ็ น้าแก่นและปา่ สงวน
ทิศเหนือ

ทิศใต้ ตดิ กบั บ้านนาล้อม

ทิศตะวนั ออก ตดิ กบั ลา้ น้าแก่น และสันเขา

ทิศตะวนั ตก ตดิ กบั บา้ นน้าเกีย๋ น และเนินเขา
สภาพภูมิประเทศ มพี ้ืนท่ีประมาณ 60 ไร่ สภาพพ้นื ทสี่ ่วนใหญ่เป็นสนั เขาและเนินเขาปา่ ไม้ พ้นื ที่
เป็นท่ีราบเชงิ เขา มลี ้าหว้ ยน้าแกน่ ไหลผ่านทางดา้ นทศิ ตะวนั ออกของหมบู่ ้าน มีป่าไม้ ช่ึงอยใู่ นโตรงการ
เฉลมิ พระเกียรติ มีสตั ว์ปา่ สตั ว์น้าในอา่ งเกบ็ น้า ซึ่งเป็นแหลง่ ประมงขนาดใหญพ่ อสมควร
ศาสนา ประเพณี และวฒั นธรรม ประชากรสว่ นใหญน่ บั ถือศาสนาพทุ ธ มีความเชอ่ื เร่ือง
ไสยศาสตร์และภตู ผีปีศาจซึง่ มักจะมพี ิธีกรรมต่างๆ เพือ่ ให้เปน็ การผ่อนคลายความทุกขแ์ ละใหเ้ กิดความ
สบายใจ เชน่ การสะเดาะเคราะห์ การเรียกขวัญ การเซน่ ไหวผ้ ีประจ้าปา่ ช้า ผปี ระจา้ ทไ่ี ร่ท่นี า เปน็ ตน้

ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ชาวบ้านไร่สามคั คี โดยเฉพาะผูส้ ูงอายุจะใช้เวลาสว่ นใหญท่ า้ การจกั สาน
ตะกรา้ กระบงุ และอปุ กรณ์ ที่ใช้ในการหาปลา เช่น ข้อง

สถานทที่ อ่ งเทยี่ ว อ่างเกบ็ นา้ แกน่ เปน็ อา่ งเก็บขนาดใหญ่ มที วิ ทศั นง์ ดงาม ในเทศกาลส้าคญั ๆ
จะมีนกั ท่องเท่ยี วมาเทย่ี วเป็นประจา้

14

ประวตั บิ า้ นแกน่ อดุ ร

บ้านแก่นอดุ ร ต้ังอยหู่ มู่ 9 ตา้ บลนา้ แก่น อา้ เภอภเู พียง จังหวดั น่าน เปน็ หม่บู า้ นทแ่ี ยกมาจาก
บ้านน้าแก่นเหนอื ตัง้ ขึน้ มาประมาณ 200 ปีมาแลว้ บ้านน้าแกน่ เหนือเปน็ หมูบ่ ้านทใ่ี หญแ่ ละมีประชากร
มากเพอื่ ความสะดวกในการปกครองทางราษฎรในหมู่บ้านจงึ ขอแยกเป็นหม่บู ้านใหม่ คอื หมบู่ า้ นแก่นนคร
หมู่ท่ี 9 ตา้ บลนา้ แก่น อ้าเภอภเู พยี ง จงั หวัดนา่ น

สภาพภมู ิศาสตร์
อาณาเขต
ทิศเหนือ ตดิ กับ บ้านนา้ แกน่ เหนือ
ทิศใต้ ตดิ กับ บ้านนาเหลืองม่วงขวา
ทิศตะวันออก ตดิ กบั ทท่ี ้าการเกษตรเขตปา่ สงวนและเขตอา้ เภอแม่จริม
ทศิ ตะวันตก ตดิ กบั บ้านนา้ แก่นกลาง
สภาพภูมิประเทศ มเี นอ้ื ท่ปี ระมาณ 145 ไร่ สภาพพน้ื ทเ่ี ปน็ ท่ีราบซึง่ มจี ้านวนน้อย ราษฎร

ปลกู บา้ นอยูต่ ามเนนิ เขามลี า้ น้าแกน่ ไหลผา่ นหมู่บ้าน สภาพทที่ ้ากนิ ส่วนใหญ่เป็นภเู ขา
ศาสนา ประเพณี และวฒั นธรรม ประชากรส่วนใหญน่ ับถือศาสนาพทุ ธ มีความเชอื่ เรอ่ื ง

ไสยศาสตร์ กับความเชื่อถอื แบบเก่าๆ เป็นการแกป้ ัญหาต่างๆเกี่ยวกับมีการปว่ ยไข้ เช่น การส่งผี การท้า
บายศรีส่ขู วัญ การส่งพรหม การทา้ ขา้ วป้นุ และการสืบชะตา เป็นต้น

ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินทส่ี า้ คญั ได้แก่ การจกั สาน กระบุง ตะกร้า หมวก การตีมีด
และการเลน่ ดนตรีพนื้ เมอื ง

สถานทสี่ า้ คญั และสถานที่ท่องเที่ยว
สว่ นมากจะเปน็ วดั วาอาราม และป่า ที่ยังอุดมสมบูรณต์ ามธรรมชาติ

15

ประวัติบา้ นแก่นนคร

บา้ นแกน่ นคร ตงั้ อยู่หมู่ท่ี 10 ตา้ บลน้าแกน่ อ้าเภอภูเพยี ง จังหวัดน่าน เปน็ หม่บู ้านทแี่ ยกมาจาก
บา้ นนา้ แกน่ เหนือ ต้งั ข้นึ มาประมาณ 2 ปี บ้านนา้ แกน่ เหนอื เปน็ หมูบ่ า้ นทใี หญ่ ทางราษฎรในหมบู่ า้ นจงึ ขอ
แยกมาต้งั หม่บู ้านใหม่ เพอ่ื การบริหารงานทางด้านการปกครองให้มคี วามพัฒนาและดา้ เนินงานไดส้ ะดวก
และด้าเนินงานดว้ ยความเรียบร้อย จึงขอแยกหมู่บ้านมาต้งั เป็นหมู่บ้านอีกหมบู่ ้านหน่งึ คือหมูบ่ า้ นแกน่ อดุ ร
ต่อมามกี ารขอแยกเปน็ อกี 1 หมู่บ้าน คือหมบู่ ้านแก่นนคร

สภาพภูมิศาสตร์

อาณาเขต

ทิศเหนอื ติดกับ ล้าน้าแก่นและหมูบ่ ้านนาล้อม

ทิศใต้ ตดิ กบั บ้านแกน่ อุดร

ทศิ ตะวนั ออก ตดิ กบั ท่ีท้าการเกษตรและเขตอ้าเภอแม่จรมิ
ทิศตะวนั ตก ตดิ กบั บ้านนา้ แกน่ เหนือ

สภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพพื้นท่ีทัว่ ไปเปน็ ทีร่ าบซึง่ มจี า้ นวนนอ้ ย ราษฎรปลูกบ้านอย่ตู ามเนินเขา มี
ล้าน้าแก่นไหลผา่ นหมู่บา้ นสภาพที่ท้ากินสว่ นใหญเ่ ปน็ ภูเขา

ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชากรส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนาพุทธ มีความเชื่อเรื่อง
ไสยศาสตร์กบั ความเชอ่ื แบบเก่าๆ เปน็ การแกป้ ญั หาตา่ งๆเกี่ยวกับมกี ารป่วยไข้ เชน่ การสง่ ผี การท้าบายศรี
สู่ขวัญ การส่งพรม การท้าขา้ วป้นุ และการสบื ชะตาเปน็ ต้น

ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ มกี ารจกั สาน การตมี ีดและการละเล่นพ้นื บา้ น เช่น เล่นดนตรีพืน้ เมอื ง
ชาวบา้ นแก่นนครสามารถนา้ เอาวสั ดุทเ่ี หลือใช้มาประดิษฐ์เป็นตะกร้า กระบุง ตลอดจนการถักตอกแลว้
นา้ มาประดิษฐ์เป็นหมวก

สถานท่ีส้าคญั และสถานทที่ ่องเทย่ี ว

สถานท่ที อ่ งเท่ยี วสว่ นมากในปา่ เนินเขา ตามลา้ หว้ ย ตามวดั และแหล่งเกบ็ น้าประจา้ ตา้ บล

อ้างองิ

ศรจี ันทร์ งานมลู เขียว . (2560). ขอ้ มลู ท่ัวไปตา้ บลนา้ แกน่ [จตพุ ร ปญั ญา, ผู้สมั ภาษณ]์ .

คณะผู้จดั ท้า

ทีป่ รกึ ษา ผูอ้ า้ นวยการ กศน. อ้าเภอบ้านหลวง
1. นายถนอม อกอุ่น รกั ษาการในต้าแหนง่ ผู้อ้านวยการ กศน.อ้าเภอภูเพียง
ครอู าสาฯ
2. นางสาวธดิ ารตั น์ สายสงู
บรรณรกั ษ์ห้องสมดุ ประชาชนอ้าเภอภูเพียง
ผู้จัดทา้
1. นางประกายดาว ศรีสายพงษ์ ครอู าสาฯ

ออกแบบ ครู กศน.ตา้ บลน้าแก่น
1. นางสาวธญั ญารัตน์ เกษมศาสตร์

รวบรวมเนือหา
1. นางจตุพร ปญั ญา


Click to View FlipBook Version