การศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตวั เอง
การเขยี นรักการอ่านของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี5/4
โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พแุ ค จงั หวดั สระบรุ ี
นายธนพล คมเหลก็ เลขที่ 10
นางสาวสุมาลี ฉมิ ยาม เลขที่ 28
นางสาวอนนั ตญา สุมาลัย เลขที่ 29
นางสาวอรสา คงคาชาติ เลขท่ี30
นางสาวเพชรดา โมหม่ืนไวย เลขท่ี32
นางสาวสุวิภา พะนอ เลขที่37
นางสาวจไุ รวรรณ ทองภู เลขท่ี 38
นางสาวอคิราภ์ ผาปะทะ เลขท่ี 39
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/4
เสนอ
คณุ ครูยวุ ดี ญาณสิทธิ์
รายงานเล่มนเ้ี ป็นส่วนหนึง่ ของวิชาการศกึ ษาคน้ ควา้ ตนเอง
สารบญั หนา้
ก
เรอื่ ง ข
ประวตั ผิ ู้จดั ทา 1-2
บทคัดย่อ 3-6
บทที่1 บทนา 7-11
บทที่2 เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง 12-15
บทที่3 วิธกี ารศกึ ษาคน้ ควา้ 16-18
บทที่4 ผลการศกึ ษาค้นคว้า 19-20
บทท่ี5 อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 21
ภาคผนวก
บรรณานุกรม
ก
ประวตั ิผจู้ ดั ทา
เรอ่ื งการเขยี นบนั ทกึ การอา่ น
นายธนพล คมเหล็ก
ประวัติส่วนตัว
เกิดวนั ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2545 อายุ 18ปี
ท่อี ยู่ 70/3 หมู่1 ต.พุแค อ.เฉลมิ พระเกียรติ จ.สระบุรี 18240
ประวัติการศกึ ษา
ปี พ.ศ. 2557 ช้ันประถมศึกษาปีที่6โรงเรยี นบารงุ วทิ ยา
ปีพ.ศ. 2563ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5/4 เลขที่ 10
โรงเรียนเทพศริ ินทรพ์ ุแค
นางสาวสุมาลี ฉิมยาม
ประวตั ิส่วนตัว
เกิดวนั ที่ 10 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2546 อายุ 17 ปี
ทอี่ ยู่ 23/1 หมู่ 2 ตาบล พกุ ร่าง อาเภอ พระพุทธบาท
จงั หวดั สระบรุ ี
ประวัตกิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี.6
โรงเรยี นวัดหนองคณฑี (พลานกุ ูล )
ปี พ.ศ.2563 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี.5/4 เลขที่29
โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
นางสาวอนันตญา สมุ าลยั
ประวัตสิ ว่ นตวั
เกดิ วนั ที่ 7 เดือน เมษายน พ.ศ.2547 อายุ 16 ปี
ที่อยู่ 7/2 หมู่ 5 ตาบล - อาเภอ เฉลิมพระเกียรติ
จงั หวดั สระบรุ ี
ประวตั ิการศึกษา
ปี พ.ศ.2558 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี.6 โรงเรียนวัดท่าวัว
ปี พ.ศ.2562 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่.5/4 เลขท่ี 30
โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค
นางสาวอรสา คงคาชาติ
ประวัติส่วนตัว
เกิดวนั ที่ 14 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ.2546 อายุ 17 ปี
ที่อยู่ 255 หมู่ 3 ตาบล หน้าพระลาน อาเภอ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัด
สระบรุ ี
ประวัตกิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2557 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี.6 โรงเรยี นวฒั นานกุ ลู วทิ ยา
ปี พ.ศ.2563 ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี.5/4 เลขท่ี31
โรเรยี นเทพศริ ินทร์ พุแค
นางสาวเพชรดา โมหมืน่ ไวย
ประวัติสว่ นตัว
เกิดวนั ที่ 12 เดือน มีนาคม พ.ศ.2547 อายุ 16 ปี
ที่อยู่ 36/5 หมู่ 1 ตาบล - อาเภอ เฉลิมพระเกยี รติ
จงั หวดั สระบุรี
ประวตั ิการศึกษา
ปี พ.ศ. 2558 ช้ันประถมศึกษาปที ี่.6
โรงเรยี นวัดสาธปุ ระชาสรรค์
ปี พ.ศ. 2563 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี.5/4 เลขท่ี33
โรงเรียนเทพศริ นิ ทร์ พุแค
นางสาวสุวิภา พะนอ
ประวตั ิสว่ นตวั
เกิดวนั ที่ 11 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ.2546 อายุ 16-17 ปี
ท่อี ยู่ 105 หมู่ 6 ตาบล เขาดินพฒั นา อาเภอ เฉลิมพระเกยี รติ
จังหวัด สระบุรี
ประวัตกิ ารศึกษา
ปี พ.ศ.2557 ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี.6
โรงเรียนบ้านหว้ ยหนิ ขาวมติ รภาพท่ี 213
ปี พ.ศ.2563 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี.5/4 เลขท่ี38
โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
นางสาว จุไรวรรณ ทองภู
ประวตั ิส่วนตัว
เกิดวนั ที่ 14 ตลุ าคม พศ. 2546 อายุ 17 ปี
ท่อี ยู่ 23/13 หมู่ 5 ต.หว้ยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. สระบุรี 18000
ประวัตกิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ. 2558 จบชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6
โรงเรียน ทรัพสมบูรณ์ พิทยาคม
ปี พ.ศ. 2563 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรยี นเทพศริ ินทร์ พเุ เค
นางสาวอคิราภ์ ผาปะทะ
ประวตั ิสว่ นตัว
เกดิ วนั ท่ี 19 มิถนุ ายน พ.ศ. 2546 อายุ 17 ปี
ทอี่ ยู่ 6 หมู่ 5 ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี 18120
ประวตั กิ ารศกึ ษา
ปี 2558 ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6
โรงเรยี นอนบุ าลเทศบาลตาบลเขางู
ปี 2563 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5/4 เลขที่ 40
โรงเรยี นเทพศริ ินทร์ พแุ ค
ข
ชือ่ เรอื่ ง การเขียนรักการอ่านของนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปี
ที่ 5/4
นายธนพล คมเหลก็ เลขท่ี 10
ผ้ศู ึกษา
นางสาวสมุ าลี ฉิมยาม เลขท่ี 28
นางสาวอนนั ตญา สมุ าลัย เลขที่ 29
นางสาวอรสา คงคาชาติ เลขท่ี 30
นางสาวเพชรดา โมหมื่นไวย เลขท่ี 32
นางสาวสวุ ิภา พะนอ เลขท่ี 37
นางสาวจุไรวรรณ ทองภู เลขที่ 38
นางสาวอคิราภ์ ผาปะทะ เลขท่ี 39
ครูที่ปรกึ ษา ครยู วุ ดี ญาณสทิ ธิ์
ระดบั การศกึ ษา
นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 5/4
โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จังหวดั สระบุรี
ปีการศกึ ษา รายวชิ า การศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตวั เอง (IS)
2563
บทคดั ยอ่
การอ่านมีความสาคัญอย่างยิ่ง ยิ่งเทคโนโลยีเจริญรุดหน้าไป
เท่าไหร่ การอ่านย่ิงมีความสาคัญและจาเป็นมากเท่านั้น แต่การอ่าน
จะตอ้ งไดร้ บั การปลกู ฝังมาแตเ่ ยาว์วัยจากครอบครัว โรงเรียน และสังคม
การส่งเสริมให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่านรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง
น้ัน จะวา่ ยากกย็ าก แต่ถา้ วา่ ไมย่ ากก็ไมถ่ งึ กับเหลือบา่ กว่าแรงทจ่ี ะทาได้
1
บทท1่ี
บทนา
ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา
ในสังคมปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการอ่านมีความสาคัญและ
จาเป็นในการดาเนินชีวิตของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีความจาเป็นที่ต้อง
ใช้การอ่านตลอด ท้ังในเรื่องส่วนตัว หรือด้านการทางานในแต่ละวัน
ถ้าหากมีรากฐานการอ่านท่ีดีก็จะทาให้สื่อความหมายและส่ือภาษาจาก
ส่ิ ง ท่ี อ่ า น ไ ด้ เ ร็ ว แ ล ะ เ ข้ า ใ จ ม า ก ข้ึ น
ปจั จุบันนี้คนไทยสว่ นใหญย่ งั ไมม่ ีนิสยั รักการอ่านและไมร่ ู้จกั ใช้การอ่าน
เพื่อพัฒนาจิตใจของตนเอง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนการอ่านยัง
เกิดขึ้นน้อย ซ่ึงพบว่าในแต่ละปีมีการอ่านหนังสือเฉล่ียไม่เกิน 8
บรรทัด ถา้ หากนาตัวเลขน้ี ไปเปรยี บเทียบกับประเทศที่เจรญิ แลว้
ดังน้ันรายงานการศึกษาค้นคว้าด้วยตอนเองเรื่องการ
เขียนรักการอ่านโรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี ฉบับน้ี มุ่ง
ศกึ ษาเพ่ือให้ความร้กู ารเขียนรกั การอ่านตอ่ ไป
วตั ถปุ ระสงคข์ องการประเมนิ
1 .เพ่อื ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนรู้จักใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์
ดว้ ยการอ่านหนงั สือ
2. เพื่อปลกู ฝังให้นกั เรียนมีนสิ ัยรักการอา่ น
ขอบเขตของการศกึ ษา
1. กลุ่มเปา้ หมาย : นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5/4
2. เน้ือหา : การเขยี นรักการอา่ น
3. ระยะเวลา : ปีการศกึ ษา 2563
สมมตุ ิฐานการศกึ ษา
2
ศกึ ษาพฤติกรรมการเขียนรักการอา่ นของนักเรียนชั้น
มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/4
ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
นกั เรียนรจู้ ักใช้เวลาวา่ งในการอา่ นหนังสอื ดว้ ยตนเอง
3
บทที่ 2
เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง
ในการจัดทารายงาน วิชาการศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้
เร่ือง การเขยี นรกั การอ่านของนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่5/4 ผู้จัดทาได้
ศึกษาจากเอกสารและเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเขียนรักการอ่าน
ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี
1.กลวิธใี นการบันทกึ การอ่าน
2.วิธีบันทกึ ขอ้ มลู จากการอ่าน
3.วธิ ีสรุปความ
4.ประโยชน์ของการเขยี นรกั การอ่าน
5.ความสาคัญของการอา่ นและการเขยี น
6.งานวิจัยทเี่ กีย่ วข้อง
กลวธิ ใี นการบันทกึ การอา่ น
๑. รู้จักเลือกและมีวิธีการบันทึกท่ีเป็นระบบ คานึงถึงวัตถุประสงค์ของ
การอ่านอยู่เสมอว่าเราต้องการอะไรจากการอ่าน ก่อนที่จะลงมือบันทึก
ต้องสารวจข้อเขียนน้ันอย่างคร่าว ๆ โดยภาพรวมพิจารณาว่าอะไรคือ
ประเด็นความคิดสาคัญของเร่ือง เลือกอ่านและบันทึกเฉพาะบางส่ิงที่
เก่ยี วขอ้ งกับประเดน็ ทตี่ อ้ งการศกึ ษาเท่าน้นั
๒. ทราบวัตถุประสงค์และความสาคัญของข้อเขียนน้ัน ก่อนลงมือบันทึก
เ ร า ต้ อ ง ท ร า บ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ แ ล ะ บ ท บ า ท ห น้ า ที่ ข อ ง ข้ อ เ ขี ย น นั้ น ว่ า มี
ความสาคัญอย่างไร ไม่ว่าจะต้องการบันทึกข้อความในข้อเขียนน้ัน
เพียงบางส่วนหรอื ทง้ั หมดก็ตาม ทงั้ นโี้ ดยพจิ ารณาส่วนต่าง ๆ ดังน้ี
๑) พิจารณาชื่อเรือ่ ง บทคัดยอ่ หรือบทนา
๒) อา่ นขอ้ ความย่อหน้าแรก
๓) สารวจข้อเขียนนั้นอย่างคร่าว ๆ หัวเรื่องย่อยและสังเกตวิธีการ
เรียงร้อยองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ
๔) อ่านส่วนที่เป็นภาพประกอบและคาดเดาว่าผู้เขียนใช้เน้ือหา
ส่ ว น นั้ น เ พื่ อ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ อ ะ ไ ร ก า ร ส า ร ว จ เ ป็ น ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ที่ มี
4
ประสิทธิภาพท้ังน้ีเพราะจะทาให้ผู้อ่านสามารถเลือกอ่านเฉพาะส่วนที่
เก่ียวข้องกับสิ่งท่ีเราต้องการอ่านเท่านั้นซ่ึงจะช่วยประหยัดเวลาในการ
อา่ นได้เปน็ อย่างดี
วิธบี นั ทกึ ขอ้ มลู จากการอ่าน
การบันทึกข้อมูลจากการอ่านทาได้หลายวิธีเช่น การคัดลอก
ข้อความโดยตรง การถอดความการสรุปความแต่ ในท่ีนี้จะใช้วิธีการ
สรุปความ
การสรุปความคือ การเลอื กเอาเฉพาะสิ่งท่เี ปน็ ประเด็นสาคัญของเร่
องและการสนับสนุนประเด็นนั้นอย่างส้ัน ๆ ด้วยถ้อยคาภาษาของเราเอง
ข้ อ ค ว า ม ที่ ส รุ ป ม า ต้ อ ง แ ส ด ง ส า ร ะ ส า คั ญ ข อ ง เ รื่ อ ง ท้ั ง ห ม ด ไ ด้ อ ย่ า ง
ครบถ้วนชัดเจนดังน้ันผู้อ่านจึงต้องอ่านเนื้อหาของเร่ืองนั้นให้เข้าใจจึง
จะสามารถสรุปความได้อย่างถูกต้องการสรุปความจะส้ันกว่าการถอด
ความมากเพราะเป็นการสรุปเอาเฉพาะประเด็นสาคัญเท่านั้น ในขณะท่ี
การถอดความเป็นการนาทุกประเด็นในข้อเขียนน้ันมาเขียนใหม่เป็น
ประเด็นๆ ไปแต่การสรุปความเป็นการเลือกเอาประเด็นสาคัญเท่านั้น
รายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ เช่นตัวอย่าง ต้องตัดท้ิงไป ในการสรุป
ความอาจมีการจัดเรียงลาดับประเด็นสาคัญใหม่และย่อใจความทั้งหมด
ให้ส้ันเข้า
วิธีสรุปความ
๑) บนั ทกึ ชือ่ ผู้แต่งและรายละเอยี ดเก่ียวกับการพมิ พ์ข้อเขยี นน้ัน
๒) อ่านข้อเขยี นอยา่ งครา่ วๆ แบ่งเนือ้ หาออกเป็นตอนๆ
๓) อ่านขอ้ เขยี นน้นั อยา่ งรอบคอบ อาจอา่ นหลายครง้ั หากยงั ไมเ่ ข้าใจ
๔) อ่านย่อหน้าแรกและยอ่ หนา้ สดุ ทา้ ยอย่างละเอียด
๕) พยายามมองหาประเด็นความคิดหรือการแสดงเหตุผลในข้อเขียน
น้ัน
5
ประโยชน์ของการเขียนรักการอา่ น
1. ชว่ ยให้เกิดการพฒั นาการด้านความคิดใหก้ ับนักเรียน
2. ชว่ ยส่งเสริมทักษะการใชภ้ าษาดา้ นการฟงั พูด อ่าน และเขียน
3. ช่วยเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นไดแ้ สดงออกถงึ ความสามารถทมี่ อี ยู่
4. ช่วยในการฝกึ ทักษะทางภาษาและทบทวนเนื้อหาวิชาต่า
5. ช่วยประเมนิ ผลการเรียนการสอน
6. ช่วยให้นักเรียนเกิดความเพลิดเพลิน และผ่อนคลายความตึงเครียด
ในบทเรียน
7. ช่วยสง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นมคี วามสามัคคี รู้จกั การเออ้ื เฟ้ือชว่ ยเหลือกนั
8. ช่วยสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมีความสามัคคี ร้จู ักการเอือ้ เฟือ้ ชว่ ยเหลอื กนั
9. ชว่ ยฝกึ ความรับผดิ ชอบและฝึกใหน้ กั เรียนรจู้ กั ปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์
10. ชว่ ยใหค้ รไู ด้เห็นพฤตกิ รรมของนักเรยี นชัดเจนยิง่ ขึ้น
11. ให้เปน็ กจิ กรรมนาเข้าสู่บทเรียน เสรมิ บทเรียนและสรุปบทเรยี น
12. เปน็ การสรา้ งนิสยั ให้เด็กเป็นบคุ คลแหง่ การเรียนรตู้ ลอดชวี ิต
ความสาคัญของการอ่านและการเขยี น
การอ่านมีความสาคัญอย่างยิ่ง ย่ิงเทคโนโลยีเจริญรุดหน้าไปเท่าไหร่
การอ่านยงิ่ มีความสาคัญและจาเป็นมากเท่านั้น แต่การอ่านจะต้องได้รับ
การปลกู ฝงั มาแต่เยาวว์ ยั จากครอบครัว โรงเรียน และสังคม การส่งเสริม
ให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่านรู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเองนั้นการ
เ ขี ย น เ ป็ น เ รื่ อ ง ส า คั ญ ข อ ง ผู้ ท่ี ก า ลั ง ศึ ก ษ า เ พ ร า ะ ก า ร เ ขี ย น เ ป็ น ก า ร
ถ่ายทอดความรสู้ ึกนึกคิด
จากผู้เขียนสู่ผู้อ่านโดยใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการชักนาความคิด
ความรู้ ประสบการณ์ ความรสู้ กึ
อารมณ์และทศั นคติ
6
งานวิจัยทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
ชอ่ื ผลงาน การเขียนรักการอ่านของนกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่5/4
ชอ่ื ผู้เสนอผลงาน ปยิ ธิดา รอดซุง
โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค
สังกดั สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสระบุรี เขต 1
การสารวจสภาพและความต้องการในการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัย
รักการอา่ นให้กบั นกั เรยี นระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พบขอ้ มูลดังนี้
นักเรียนและผู้ดาเนินกิจกรรมเห็นว่าการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการ
อา่ นในระดับปานกลาง นักเรียนและผู้ดาเนินกิจกรรมมีความต้องการให้
จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านใน ระดับ มากในด้านลักษณะ
กจิ กรรม ตอ้ งการใหม้ ีการทากิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกับสิ่งที่ได้อ่านหลังจาก
อ่านเร่ืองต่างๆ จบเป็นอันดับแรก ในด้านเวลาในการจัดกิ จกรรม
ต้องการให้มีการกาหนดช่วงเวลาสาหรับการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการ
อ่านอย่างชัดเจน เป็นอันดับแรกในด้านการกระตุ้นให้นักเรียนอ่าน
หนังสือ นักเรียนต้องการให้มีการ จัดกิจกรรมเพ่ือกระตุ้นให้นักเรียนมี
เป้าหมายหรือมุ่งม่ันท่ีจะอ่าน เป็นอันดับแรกในขณะท่ีผู้ดาเนินกิจกรรม
ต้องการให้มีการประกาศรายชื่อยอดนักอ่านประจาวันหรือสัปดาห์หรือ
เดือนเป็นอันดับแรก และในด้านบทบาท ของผู้ดาเนินกิจกรรม นักเรียน
ต้องการให้มีการแนะนาหนังสือที่น่าสนใจให้กับนักเรียนไปอ่านนอก
เวลาเป็น อันดับแรกส่วนผู้ดาเนินกิจกรรมต้องการให้มีการกาหนดให้
นกั เรียนทกุ คนมบี นั ทกึ การอ่านประจาตวั เป็นอันดบั แรก
ปิยธิดา รอดซุง (2560). พฤติกรรมการเขียนรักการอ่าน. [ออนไลน์].
เขา้ ถงึ ไดจ้ าก. http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/161884.pdf
(วันท่คี ้นข้อมลู : 5 ตลุ าคม 63).
7
บทที่ 3
วธิ ีการศกึ ษาคน้ ควา้
ในการศกึ ษาคร้ังนี้ ผศู้ ึกษาไดท้ าการศึกษาปัญหาการทาบนั ทึก
การอา่ นของนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พแุ ค
จังหวดั สระบรุ ี ซ่ึงมีวิธีการดังน้ี
ระเบยี บวธิ ที ใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
ในการศึกษาใช้รปู แบบ การสารวจ การศกึ ษาค้นคว้า ดว้ ยวธิ ีการ
สืบค้นข้อมูล จากหนงั
หนงั สอื อนิ เตอร์เน็ต และตอบแบบสอบถาม
ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งทใี่ ชใ้ นการศกึ ษาประชากร
ประชากรทใี่ ช้ในการศึกษาคร้ังนี้ เป็นนกั เรยี นระดับชัน้
มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จังหวัดสระบุรี ภาคเรียนท่ี 1
ปกี ารศกึ ษา 2563 จานวน 6 หอ้ งเรยี น ห้องละ 5 คน เป็นนักเรียนทงั้ สน้ิ 30
คน
กลุม่ ตวั อยา่ ง
กลุม่ ตัวอย่างทีใ่ ช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ได้แก่ นกั เรยี นระดับช้ัน
มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียน เทพศริ ินทร์พแุ ค จังหวดั สระบุรี ภาคเรยี นท่ี
1 ปีการศึกษา 2563 เปน็ นักเรียนทง้ั สิ้น 30 คน ได้มาโดยวธิ ีสุ่มตวั อยา่ ง
อยา่ งงา่ ย จานวน 6 หอ้ งเรยี น เพ่ือตอบ แบบสอบถามที่สรา้ งข้นึ
ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการศึกษา ในภาคเรียนท่ี 5 ปกี ารศกึ ษา 2563 เป็น
เวลา 4 เดือน ตัง้ แต่เดือน
8
พฤศจิกายนถงึ เดือนกุมพาพันธ์
วธิ ดี าเนนิ การศกึ ษา
ผศู้ กึ ษาไดด้ าเนนิ การตามขน้ั ตอน ดงั นี้
1.กาหนดเร่ืองทจี่ ะศึกษา ประชุมร่วมกัน และวางแผนวา่ จะ
ศกึ ษาเร่อื งปญั หาการทาบันทึกการอา่ นของนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปี
ที่5 โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ พแุ ค จงั หวังสระบุรี
2.เลอื กเรอ่ื งท่ีจะศึกษา โดยเลือกเร่อื งที่สมาชกิ มีความสนใจ
มากทีส่ ุด
3.สมาชิกทั้ง 5 คนของกลมุ่ พบครผู ู้สอนเพ่อื ปรึกษา วางแผน
และรบั ฟังความคิดเห็น ปรบั ปรุงแกไ้ ข
4.เขยี นความสาคัญความเป็นมาของปัญหา วตั ถุประสงค์
สมมุติฐานขอบเขต
5.สร้างเครอื่ งมือ ทเี่ ปน็ แบบสอบถาม
6.นาเคร่ืองมือที่ปรบั ปรงุ แลว้ ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
7.รวบรวมข้อมลู
8.วเิ คราะห์ขอ้ มลู
9.สรุปผลการศกึ ษา
9
ขนั้ ตอนวธิ ดี าเนนิ การศกึ ษา
กาหนดเรือ่ งที่จะศึกษา
สารวรปัญหา
ศกึ ษาแนวคิดและแก้ปญั หา
ตัง้ ชื่อเร่ืองทีจ่ ะศกึ ษา
พบครูทีป่ รกึ ษา (คุณครูยุวดี ญาณสิทธ์ิ)
ศึกษาวธิ กี ารเขยี นบทนา
สรา้ งเครือ่ งมือ
(แบบสอบถาม)
ปรบั ปรุงเครอ่ื งมอื และ
นาไปทดลองใช้กลับกลุ่มตัวอย่าง
รวบรวมข้อมูล
วิเคราะห์ข้อมูล
สรุปผลการศึกษา
10
เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา
เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษาครั้งน้ี คอื แบบสอบถาม 1 ฉบบั ซง่ึ มี
รายละเอียดดงั นี้
1.ออกแบบสอบถาม เรื่อง การศกึ ษาและแก้ปญั หาการทาบันทึกการ
อา่ น ของนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 โรงเรยี นเทพศริ ินทร์ พแุ ค จงั หวัด
สระบุรี โดยขอคาแนะนาจาก คุณครูยุวดี ญาณสิทธโิ์ ดย เตรยี มรา่ งข้อ
คาถาม มลี กั ษณะเป็นข้อคาถามจานวน 8 ข้อ เป็นแบบ มาตราส่วน
ประมาณ 5 ระดับ คอื
5. หมายถงึ เหน็ ด้วยมากที่สดุ
4. หมายถึง เหน็ ด้วยมาก
3. หมายถงึ เหน็ ด้วยปานกลาง
2. หมายถึง เหน็ ด้วยน้อย
1. หมายถงึ เหน็ ด้วยน้อยท่ีสุด
การพจิ ารณาคา่ เฉลี่ย ใชเ้ กณฑ์ดังนี้
คา่ เฉล่ยี 4.51 – 5.00 หมายถึง เห็นด้วยมากทส่ี ดุ
คา่ เฉล่ยี 3.51 – 4.50 หมายถึง เหน็ ดว้ ยมาก
คา่ เฉลย่ี 2.51 – 3.50 หมายถึง เหน็ ด้วยปานกลาง
คา่ เฉลยี่ 1.51 – 2.50 หมายถงึ เหน็ ด้วยนอ้ ย
ค่าเฉลย่ี 1.00 – 1.50 หมายถงึ เห็นด้วยนอ้ ยทีส่ ดุ
11
2. สร้างแบบสอบถาม เรอ่ื งการศึกษาและแกป้ ญั หาการทาบันทกึ
การอ่าน ของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศริ ินทร์ พุแค
จังหวัดสระบรุ ี โดยขอคาแนะนาจาก คุณครยู ุวดี ญาณสทิ ธ์ิ จากนน้ั
นามาปรบั ปรุงแกไ้ ข แลว้ นาไปตรวจสอบความเหมาะสม
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
การศกึ ษาคร้ังน้ีได้ดาเนนิ การโดยนาแบบสอบถามทส่ี ร้างขนึ้ ให้
นกั เรยี นกลมุ่ ตวั อย่างตอบ จานวน 30 คน และเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จาก
นักเรียน ท่ีเป็นกล่มุ ตวั อย่าง โดยผู้ศึกษาทั้ง 5 คน ดาเนนิ การ เก็บ
รวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง
การวเิ คราะหข์ ้อมลู
ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ผศู้ ึกษาได้วิเคราะห์ขอ้ มลู ดังน้ี
1.นาแบบสอบถามทั้งหมดที่ตอบโดยนกั เรยี นกลุ่มตวั อย่าง มาหาค่า
คะแนนรวม
2.นาผลรวมมาคิดคา่ ร้อยละ 2.35
สถิติทใี่ ชใ้ นการศึกษา
สถิติทีใ่ ช้ในการศกึ ษาครง้ั น้ี คอื การหาค่าเฉลี่ยคิดเปน็ ร้อยละ 2.35
12
บทท่ี 4
ผลการศกึ ษาคน้ คว้า
การศึกษาค้นคว้าครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้นักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี เพื่อ
สง่ เสรมิ ใหน้ ักเรยี นรู้จักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ดว้ ยการอา่ น
หนงั สือโดยนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมลู ต่าง ๆ ดงั นี้
นกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรยี นเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบรุ ี ทาบันทกึ การอ่านกันทุกคนและใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชนม์ าก
ข้ึนในการเขียนบนั ทกึ การอา่ น
ค่าคะแนนรอ้ ยละ
รายการประเมนิ 54321
1. นักเรียนเขียนรักการอ่านทกุ สปั ดาห์ 53.65 19.51 14.63 7.31 4.87
2. นักเรียนได้รับความรู้และประโยชน์จาก 46.34 24.39 12.19 7.31 9.75
การการบันทึกการอา่ น
3. นักเรยี นชนื่ ชอบการเขยี นรักการอา่ น 60.97 24.39 9.75 2.43 2.43
4.นกั เรียนใช้เวลาจดบนั ทึกรักการอ่านทุกคร้ัง 46.34 29.26 17.07 4.87 2.43
เมอื่ มีโอกาส
5. นักเรียนสามารถนาทักษะไปใช้ในการ 36.58 34.14 9.75 4.87 17.07
เรยี นได้
13
6. บันทึกการอ่านชว่ ยให้นักเรียนอ่านหนังสือ 39.02 29.26 17.07 4.87 9.75
ไดห้ ลากหลายประเภท
7.ห้องสมุดมีหนังสือเพียงพอให้นักเรียนอ่าน 48.78 19.51 12.19 9.75 9.75
และจดบนั ทึกรักการอา่ น
8.นักเรียนอ่านหนังสือได้คร้ังละนานๆ โดยไม่ 46.34 17.07 14.63 12.19 9.75
รู้สึกเบ่อื
ตารางท่ี 1 พบว่านักเรียนเขยี นรกั การอา่ นทกุ สปั ดาห์ ระดบั 5 คดิ เป็นร้อย
ละ 53.65 ระดับ 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 19.51 ระดบั 3 คิดเปน็ รอ้ ยละ 14.63 ระดบั
2 คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.31 ระดบั 1 คดิ เป็นร้อยละ 4.87 นกั เรยี นไดร้ ับความร้แู ละ
ประโยชน์จากการการบนั ทกึ การอา่ นระดับ 5 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 46.34 ระดับ 4
คิดเป็นร้อยละ 24.39 ระดับ 3 คิดเป็นรอ้ ยละ 12.19 ระดบั 2 คิดเปน็ รอ้ ยละ
7.31 ระดับ 1 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.75 นกั เรยี นชนื่ ชอบการเขียนรกั การอ่าน
ระดับ 5 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 60.97 ระดับ 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 24.39 ระดับ 3 คดิ เปน็
ร้อยละ 9.75 ระดับ 2 คิดเป็นรอ้ ยละ 2.43 ระดับ 1 คดิ เป็นร้อยละ 2.43
นักเรียนใช้เวลาจดบนั ทกึ รักการอา่ นทุกครงั้ เมื่อมีโอกาส ระดบั 5 คิดเปน็
รอ้ ยละ 46.34 ระดบั 4 คดิ เป็นรอ้ ยละ 29.26 ระดับ 3 คดิ เป็นรอ้ ยละ 17.07
ระดบั 2 คิดเป็นร้อยละ 4.87 ระดบั 1 คิดเปน็ ร้อยละ 2.43 นักเรียนสามารถ
นาทักษะไปใชใ้ นการเรยี นได้ ระดับ 5 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 36.58 ระดบั 4 คดิ
เป็นร้อยละ 34.14 ระดับ 3 คิดเปน็ รอ้ ยละ 9.75 ระดบั 2 คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.87
ระดับ 1 คิดเป็นรอ้ ยละ 17.07 บนั ทกึ การอา่ นชว่ ยให้นักเรียนอ่านหนงั สอื ได้
หลากหลายประเภท ระดับ 5 คดิ เป็นร้อยละ 39.02 ระดับ 4 คดิ เป็นร้อยละ
29.26 ระดับ 3 คิดเปน็ ร้อยละ 17.07 ระดบั 2 คิดเปน็ ร้อยละ 4.87 ระดับ 1
คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.75 ห้องสมุดมหี นังสือเพยี งพอใหน้ กั เรยี นอ่านและจดบนั ทกึ
รกั การอา่ น ระดับ 5 คดิ เป็นร้อยละ 48.78 ระดับ 4 คดิ เป็นรอ้ ยละ 19.51
ระดับ 3 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.19 ระดับ 2 คดิ เปน็ ร้อยละ 9.75 ระดบั 1 คดิ เป็น
รอ้ ยละ 9.75 นักเรียนอ่านหนังสอื ไดค้ รั้งละนานๆ โดยไมร่ ้สู กึ เบื่อ ระดบั 5 คดิ
14
เปน็ รอ้ ยละ 46.34 ระดบั 4 คิดเป็นรอ้ ยละ 17.07 ระดบั 3 คดิ เป็นร้อยละ
14.63 ระดับ 2 คิดเปน็ ร้อยละ 12.19 ระดบั 1 คิดเปน็ รอ้ ยละ 9.75
ตารางท่ี 2 แสดงผลการประเมนิ เรื่อง นกั เรียนไดร้ บั ความรแู้ ละประโยชน์
จากการการบนั ทึกการอ่าน นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5/4 โรงเรียน
เทพศิรินทร์ พแุ ค จังหวัดสระบรุ ี
รายการประเมนิ คา่ เฉลี่ย ระดับคณุ ภาพ
2.68 ปานกลาง
1.นกั เรยี นเขยี นรักการอ่านทกุ สัปดาห์ 2.31 น้อย
2.นักเรยี นไดร้ บั ความรู้และประโยชนจ์ าก 3.04 ปานกลาง
2.31 น้อย
การการบันทกึ การอ่าน 1.82 นอ้ ย
1.95 นอ้ ย
3.นกั เรยี นชืน่ ชอบการเขยี นรักการอ่าน
4.นักเรียนใช้เวลาจดบันทึกรักการอ่าน 2.43 น้อย
2.31 นอ้ ย
ทกุ ครัง้ เมือ่ มโี อกาส 2.35 นอ้ ย
5.นักเรียนสามารถนาทักษะไปใช้ในการ
เรยี นได้
6.บั น ทึ ก ก า ร อ่ า น ช่ ว ย ใ ห้ นั ก เ รี ย น อ่ า น
หนังสอื ได้หลากหลายประเภท
7.ห้องสมุดมีหนังสือเพียงพอให้นักเรียน
อา่ นและจดบันทกึ รกั การอ่าน
8.นักเรียนอ่านหนังสือได้ครั้งละนานๆ
โดยไมร่ ู้สึกเบอื่
รวมทงั้ หมด
15
จากตารางท่ี 2 พบว่านักเรียนเขียนรักการอ่านทุกสัปดาห์ มี
ค่าเฉล่ีย 2.68 ในระดับคุณภาพ ปานกลาง นักเรียนได้รับความรู้และ
ประโยชนจ์ ากการการบนั ทึกการอ่าน มีค่าเฉล่ีย 2.31 ในระดับคุณภาพ
น้อย นักเรียนชื่นชอบการเขียนรักการอ่าน มีค่าเฉลี่ย 3.04 ในระดับ
คุณภาพ ปานกลาง นักเรียนใช้เวลาจดบันทึกรักการอ่านทุกคร้ังเมื่อมี
โอกาส มีค่าเฉลี่ย 2.31 ในระดับคุณภาพ น้อย นักเรียนสามารถนา
ทักษะไปใช้ในการเรียนได้ มีค่าเฉลี่ย 1.82 ในระดับคุณภาพ น้อย
บันทึกการอ่านช่วยให้นักเรียนอ่านหนังสือได้หลากหลายประเภท มี
ค่าเฉล่ีย 1.95 ในระดับคุณภาพ น้อย ห้องสมุดมีหนังสือเพียงพอให้
นักเรียนอ่านและจดบันทึกรักการอ่าน มีค่าเฉล่ีย 2.43 ในระดับคุณภาพ
น้อย นักเรียนจะนาความรู้ที่ได้จากการทาขนมไทยไปใช้ประโยชน์ มี
ค่าเฉล่ยี 2.31 ในระดับคณุ ภาพ นอ้ ย
16
บทที่ 5
อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ
จากการศกึ ษาครง้ั นี้ เพื่อให้นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษา
ท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี รู้จักการวางแผนในการ
ทาบันทึกการอ่าน การวินัยในการค้นคว้า หาข้อมูล สามารถสรุปผล
อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะได้ดงั น้ี
วัตถุประสงค์ของการศกึ ษา
1. เพื่อให้นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
จังหวดั สระบุรี รจู้ กั การวางแผนในการทาบนั ทึกการอ่าน
2. เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค
จงั หวดั สระบรุ ี วนิ ยั ในการคน้ คว้า ข้อมลู
ขอบเขตของการศึกษา
1. ประชากรที่ใช้ในการศึกษา
ประชากรท่ีใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ศึกษาปัญหาการทาบันทึกการอ่าน
ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบรุ ี จานวน 6 ห้อง หอ้ งละ 5 คน
2. กลุ่มตัวอยา่ งทใ่ี ช้ในการศึกษา
กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการศึกษาการแก้ปัญหาการการทาบันทึกการอ่าน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบุรี
17
เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในการศกึ ษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วยแบบสอบถาม
จานวน 1 ฉบับ เร่ือง การศึกษาและแก้ปัญหาการการทาบันทึกการอ่าน
ข อ ง นั ก เ รี ย น ชั้ น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 5 โ ร ง เ รี ย น เ ท พ ศิ ริ น ท ร์ พุ แ ค
จงั หวดั สระบุรี จานวน 8 ข้อ
การวิเคราะหข์ ้อมลู
ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล ผู้ศึกษาได้วเิ คราะห์ข้อมูลของนักเรียนที่
มีต่อ เรื่อง การศึกษาและแก้ปัญหากการทาบันทึกการอ่าน ของนักเรียน
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรีโดยการ
คิดคะแนนเฉลี่ย เปน็ คา่ รอ้ ยละ 5.72
สรุปผลการศึกษา
ผลการศึกษาที่มีต่อการศึกษา เร่ืองการศึกษาและแก้ปัญหา
ก า ร ท า บั น ทึ ก ก า ร อ่ า น ข อ ง นั ก เ รี ย น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัดสระบุรี อยู่ใน
ระดับคณุ ภาพมากท่ีสดุ
การอภปิ รายผล
จากการศึกษาการศึกษาและแก้ปัญหาการทาบันทึกการอ่าน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์ พุแค จังหวัด
สระบุรี พบว่า นักเรียนทุกคน มีความพึงพอใจหรือทัศนคติ อยู่ในระดับ
มากทส่ี ดุ คิดเป็นร้อยละ 5.72
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการศึกษาครัง้ นี้
18
1. สามารถนาไปศึกษาปัญหาต่าง ๆ ท่ีพบในโรงเรียนได้ แต่ควรมี
ตวั แปรร่วมดว้ ย เพอ่ื ให้การศึกษามคี ุณภาพ
2. สามารถนาไปศึกษากบั กลมุ่ ตวั อยา่ งอืน่
3. ควรมเี วลาศึกษามากขนึ้
4. วธิ กี ารเก็บเงนิ และการประหยดั เงิน
5. ควรเพิม่ รายการประเมินให้มากข้ึน
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก แบบสอบถาม
บรรณานกุ รม
นพมาศ .(2513).กลวธิ ใี นการเขยี นบนั ทกึ การอา่ น สบื ค้น 1 ตลุ าคม
2563
https://kruthainps.files.wordpress.com/2011/07/e0b881e0b8b2e
0b8a3e0b980e0b882e0b8b5e0b8a2e0b899e0b89ae0b8b1e0b
899e0b897e0b8b6e0b8811.pdf
ชาญวิทย์ ปรีชาพานชิ พัฒนา. (2559).วธิ บี นั ทึกข้อมลู จากการอ่าน
สบื ค้น 1 ตลุ าคม 2563
https://sites.google.com/site/kachpronlovepla/02-kar-kheiyn/08-
withi-cd-banthuk-cak-kar-xan
นฤมล.(2556).วิธสี รปุ ความ สืบค้น 1 ตลุ าคม 2563
https://sites.google.com/site/supawadee11984/--kar-kheiyn-
srup-khwam
นฐพร.(2557).ประโยชนข์ องการเขยี นรกั การอา่ น สืบคน้ 1 ตลุ าคม
2563
https://education.kapook.com/view65127.html
สรุ นิ ทร์ ยิง่ นกึ .(2558).ความสาคญั ของการอา่ นและการเขียน สืบค้น 1
ตลุ าคม 2563
http://www.kruthai40.com/
ปยิ ธดิ า รอดซุง .(2560).งานวิจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สบื คน้ 5 ตุลาคม 2563
http://libdoc.dpu.ac.th/thesis/161884.pdf