The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รุ่งผกา ยะแสง, 2024-02-14 22:21:42

ฝุ่น PM. 2.5

ฝุ่น PM. 2.5

ฝุ่น PM 2.5 ฝุ่น PM 2.5 เป็นละอองขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมมนุษย์ และธรรมชาติที่สร้างสรรค์ฝุ่นและละอองต่าง ๆ ในอากาศ รวมถึงการเผาไหม้พลังงานที่ใช้เชื้อเพลิง หรือการเผาไหม้วัสดุต่าง ๆ การขนส่งทางถนนและรถบรรทุกที่เกิดมลพิษ การเผาไหม้ป่า การเผาไหม้ ขยะ และกิจกรรมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถซึมผ่านสิ่งกีดขวางขนาด ใหญ่ในทางเดียว โดยสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์และสัตว์ อันเป็นอันตรายต่อ สุขภาพได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคทางหายใจและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ในระยะยาว ดังนั้นการ ควบคุมและลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสุขภาพและความปลอดภัยของมนุษย์และ สิ่งมีชีวิตทั่วไปในสิ่งแวดล้อม การพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีที่สะอาดและยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญในการ ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว ฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบต่อร่างกายได้หลายแบบ โดยมีผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนี้: 1. ผลกระทบทันที (ระยะสั้น): • การระคายเคืองของทางเดินหายใจ: PM 2.5 สามารถซึมผ่านทางเยื่อบุคอและเข้า สู่ทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองของลำคอ น้ำมูก หรือทางเดิน หายใจ เช่น การไอ หรือคัดจมูก และทำให้ผู้ที่มีโรคหืดหรือหอบหืดมีอาการที่รุนแรง ขึ้นได้ 2. ผลกระทบในระยะยาว: • โรคทางหายใจ: การสัมผัสกับ PM 2.5 ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น โรคหืด หอบหืด หรือโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรังอื่น ๆ • โรคหัวใจและหลอดเลือด: การสัมผัส PM 2.5 ในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงใน การเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจ อักเสบ • ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ: การสัมผัส PM 2.5 ในระยะยาวยังเชื่อมโยงกับการเสื่อมสภาพ ของระบบทางเดินหายใจ ภาวะเม็ดเลือดขาวเสื่อม ภาวะภูมิคุ้มกันลดลง และการ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง


การลดปริมาณ PM 2.5 ในอากาศอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกาย ในระยะยาวนั้น ดังนั้น การรักษาคุณภาพอากาศและการป้องกันการสัมผัสกับ PM 2.5 เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับสุขภาพของประชากรทั่วไป ฝุ่น PM 2.5 อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตใจของบุคคลได้ในรูปแบบต่อไปนี้: 1. ความเครียดและความกังวล: การสัมผัสกับสภาพอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงอาจทำให้ผู้คน รู้สึกเครียดและกังวลได้ เนื่องจากความไม่สบายใจในสภาพอากาศที่ไม่ดีอาจทำให้พวกเขา กังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของตนเองหรือคนที่รัก 2. อาการซึมเศร้า: การสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอาจมีความเชื่อมโยงกับการ เสื่อมสภาพของสุขภาพจิต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้าหรืออารมณ์เสียต่าง ๆ ได้ 3. การนอนหลับไม่สมบูรณ์: การมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศอาจส่งผลต่อการนอนหลับของบางคน โดยอาจทำให้มีปัญหาในการหลับหรือมีคุณภาพการนอนที่ไม่ดี 4. สถานการณ์ทางสังคม: สภาพอากาศที่ไม่ดีเนื่องจากฝุ่น PM 2.5 สูงอาจส่งผลต่อสภาพ อารมณ์และสถานการณ์ทางสังคมที่ไม่ดีในชุมชน โดยเฉพาะหากมีการเรียกร้องการแก้ไข สภาพอากาศที่ไม่ดีจากฝุ่น PM 2.5 และมีข้อโต้แย้งหรือการไม่พอใจในการจัดการสภาพ อากาศได้อย่างเห็นได้ชัด การรักษาสภาพอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยอาจช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจิต ใจของบุคคลได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่รู้สึกมีผลกระทบจิตใจจากฝุ่น PM 2.5 อาจต้องการ พิจารณาการใช้เครื่องมือช่วยในการจัดการกับความเครียดและอารมณ์เสียที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการ ปรึกษาหรือการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการจัดการกับความเครียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพได้ คุณสามารถดำเนินการตามแนวทาง ดังต่อไปนี้: 1. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5: การสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีระบบกรอง อากาศสามารถช่วยป้องกันการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้สวม หน้ากากทุกครั้งที่อยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง หรือเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีฝุ่นใน อากาศ


2. อยู่ในระหว่างภายใน: พยายามเข้าอยู่ในระหว่างภายในในวันที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง เพื่อลดการ สัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่น และเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่จำเป็น 3. ลดกิจกรรมที่สร้างฝุ่น: หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง และลดการใช้เครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง เช่น เครื่องกลไฟฟ้าหรือรถจักรยานยนต์ ให้มากที่สุดที่เป็นไปได้ 4. รักษาคุณภาพอากาศภายในห้อง: ใช้เครื่องฟอกอากาศหรือเครื่องปรับอากาศในบ้านเพื่อ ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ในอากาศภายในห้อง และรักษาความสะอาดภายในบ้านให้ดี 5. ระวังการเผาไหม้: หลีกเลี่ยงการเผาไหม้วัสดุต่าง ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง เพราะการเผาไหม้อาจ เป็นต้นตำรับที่สร้างฝุ่น PM 2.5 ในอากาศ 6. รักษาสุขภาพอย่างเหมาะสม: รักษาสุขภาพด้วยการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ ออก กำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดื่มน้ำเพียงพอ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM 2.5 อย่างหอบหืดหรือโรคหัวใจ 7. การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าสภาพอากาศจะมีฝุ่น PM 2.5 สูง คุณยังสามารถ ออกกำลังกายอย่างปลอดภัยได้ด้วยวิธีต่อไปนี้: 1. เลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม: พยายามออกกำลังกายในเวลาที่มีฝุ่น PM 2.5 น้อยที่สุด เช่น ในช่วงเช้าหรือเย็นในขณะที่ฝุ่น PM 2.5 มักจะน้อยกว่าในช่วงกลางวัน นอกจากนี้ควร เลือกสถานที่ที่มีฝุ่นน้อย ๆ หรืออาจใช้ห้องฟิตเนสหรือยิมในการออกกำลังกายแทนการออก กำลังกายกลางแจ้ง 2. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น: สวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีการกรองอากาศเพื่อป้องกัน การสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ในขณะที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง 3. เลือกกิจกรรมที่มีความเป็นอยู่สูง: เลือกทำกิจกรรมที่ไม่ต้องการการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป เช่น โยคะ การเดินเร็ว หรือการวิ่งเล่นในระยะเวลาสั้น ๆ โดยไม่ต้องออกกำลังกายอย่างหนัก 4. รักษาการเย็นร่างกาย: รักษาการเย็นร่างกายโดยใช้เสื้อผ้าที่เหมาะสมและหายใจเข้าเป็น ภายใน หรือเลือกทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความพยายามน้อยลงในระยะเวลาที่มีฝุ่น PM 2.5 สูง


5. ระวังสภาพอากาศ: ให้ระวังสังคมอากาศและติดตามข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ หาก สภาพอากาศแสดงให้เห็นถึงฝุ่น PM 2.5 สูง แนะนำให้ลดระยะเวลาการออกกำลังกายหรือ เลื่อนการออกกำลังกายไปยังเวลาที่มีฝุ่นน้อยลง 6. ดูแลสุขภาพ: การออกกำลังกายในสภาพอากาศที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงอาจส่งผลกระทบต่อ สุขภาพ แนะนำให้ระวังสังคมสุขภาพและหากมีอาการไม่สบายใจในขณะออกกำลังกายควร หยุดทันทีและพักผ่อนอย่างเพียงพอ เกณฑ์การตรวจวัดค่าดัชนีอากาศสามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับตามความรุนแรงของค่าดัชนีอากาศ ต่าง ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามเกณฑ์ที่ใช้ในแต่ละประเทศหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ต่อไปนี้คือเกณฑ์ที่ใช้บ่อยที่สุด: 1. ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index - AQI): AQI เป็นดัชนีที่ใช้ในการวัดคุณภาพ อากาศโดยรวม โดยค่า AQI จะแสดงระดับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระดับความ มลพิษในอากาศ แต่ละระดับของ AQI จะมีการแจ้งเตือนความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ดี (0-50), ปานกลาง (51-100), ไม่ดี (101-150), มีอันตรายต่อสุขภาพ (151-200), มากมาย (201- 300), และอันตรายอย่างรุนแรง (มากกว่า 300) 2. ค่าฝุ่น PM 2.5: ค่าฝุ่น PM 2.5 เป็นการวัดปริมาณของละอองฝุ่นขนาดเล็กน้อยที่มีขนาดไม่ เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ ปกติจะใช้เกณฑ์ดังนี้: • 0-12 µg/m³: คุณภาพดี • 12.1-35.4 µg/m³: คุณภาพปานกลาง • 35.5-55.4 µg/m³: คุณภาพเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ • 55.5-150.4 µg/m³: คุณภาพไม่ดี • 150.5-250.4 µg/m³: คุณภาพแย่มาก • มากกว่า 250.5 µg/m³: คุณภาพแย่มากที่สุด 3. ค่าฝุ่น PM 10: ค่าฝุ่น PM 10 เป็นการวัดปริมาณของละอองฝุ่นขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน ซึ่งมีเกณฑ์ดังนี้: • 0-54 µg/m³: คุณภาพดี


• 55-154 µg/m³: คุณภาพปานกลาง • 155-254 µg/m³: คุณภาพเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ • 255-354 µg/m³: คุณภาพไม่ดี • 355-424 µg/m³: คุณภาพแย่มาก • มากกว่า 425 µg/m³: คุณภาพแย่มากที่สุด การตรวจวัดค่าดัชนีอากาศทำได้โดยการใช้เครื่องมือตรวจวัดค่าดัชนีอากาศที่มีให้บริการทั่วไปหรือ ติดตั้งในพื้นที่โดยเฉพาะ โดยข้อมูลจากค่าดัชนีอากาศนี้สามารถใช้ในการดำเนินการป้องกันและ ปรับปรุงสภาพอากาศได้ตามความเหมาะสม


Click to View FlipBook Version