The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาระบบสารสนเทศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ณัฐพร, 2024-01-24 02:08:02

การพัฒนาระบบสารสนเทศ

การพัฒนาระบบสารสนเทศ

1.1 ความหมายของการพัฒนาระบบสารสนเทศ การพัฒนาระบบสารสนเทศ หมายถึง การพัฒนาระบบสารสนเทศที่ใช้เทคนิคการ ศึกษา การ วิเคราะห์ และการออกแบบระบบสารสนเทศขององค์กรให้สามารถดำเนินงานอย่างมีโดยบางครั้งจะ เรียกวิธีการดำเนินงานในลักษณะนี้ว่า “การวิเคราะห์และออกแบบระบบ (System Analysis and Design)” เนื่องจากผู้พัฒนาระบบต้องศึกษาและวิเคราะห์การไหลเวียนของข้อมูล ตลอดจน ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยนำเข้า ทรัพยากรดำเนินงาน และผลลัพธ์ เพื่อทำการออกแบบระบบ สารสนเทศใหม่ แต่ในความเป็นจริงการพัฒนาระบบมิได้สิ้นสุดที่การออกแบบ ผู้พัฒนาระบบจะต้อง ดูแล การจัดหา การติดตั้ง การดำเนินงาน และการประเมินระบบว่าสามารถดำเนินงานได้ตามต้องการ หรือไม่ ตลอดจนกำหนดแนวทางในการพัฒนาระบบในอนาคต อย่างไรก็ดี จะใช้ทั้ง “การพัฒนา ระบบ” และ “การวิเคราะห์และออกแบบระบบ” รูปที่ 1.1 วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ


1.2 ความหมายของวงจรการพัฒนาระบบ เพื่อให้นักวิเคราะห์และทีมงานพัฒนาระบบทำงานได้อย่างคล่องตัวมีลำดับขั้น และเป้าหมาย ที่ แน่นอน นักวิเคราะห์ระบบควรจะทราบถึงว่า ระบบสารสนเทศนั้นพัฒนาขึ้นมาอย่างไร มีขั้นตอน อย่างไร นั่นก็คือนักวิเคราะห์ต้องรู้ว่าวงจรการพัฒนาระบบคืออะไร ดังนี้วงจรการพัฒนาระบบ (Systems Development Life Cycle) เป็นวงจรที่แสดงถึงกิจกรรม ต่าง ๆ ในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่ ต้นจนเสร็จเป็นระบบงานที่ใช้ได้ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบบต้องทำความเข้าใจว่าในแต่ละขั้นตอนทำอะไร และทำอย่างไร โดยมีอยู่ 7 ขั้นตอนด้วยกันคือ 1. เข้าใจปัญหา (Problem Recognition) 2. ศึกษาความเป็นไปได้(Feasibitiy Study) 3. วิเคราะห์(Analysis) 4. ออกแบบ(Desing) 5. พัฒนา(Development) 6. ทดสอบและติดตั้ง(Implementation and Testing 7. บำรุงรักษา(Maintenance) รูปที่ 1.2 วงจรการพัฒนาระบบ


1.3วงจรการพัฒนาระบบ เป็นกิจกรรมแรกของการพัฒนาระบบงานซึ่งนักวิเคราะห์ระบบต้องสนใจปัญหา โอกาสและ เป้าหมายที่ชัดเจนของงานต่าง ๆ เมื่อพบปัญหาและโอกาสที่สามารถนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาแก้ไข ได้นั้น จึงเป็นจุดเริ่มในการพัฒนาระบบงาน นักวิเคราะห์ระบบจะต้องพยายามหาโอกาสในการ ปรับปรุง โดยใช้ ระบบคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยในงานด้านต่าง ๆ เริ่มจากการตรวจสอบเบื้องต้น (Preliminary Investigation) โดยนักวิเคราะห์ระบบจะตรวจสอบจากผู้ใช้ระบบที่ประสบปัญหาจาก การพัฒนาระบบงานที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น ต้องการแข่งขันกับคู่ต่อสู้ในการลดต้นทุนการผลิตสินค้า โดย การลดจำนวนการสต๊อกวัตถุดิบ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องพิจารณาในการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้าไป ใช้ในการเก็บข้อมูลสต๊อกวัตถุดิบ และการประมวลผลการสังวัตถุดิบ เป็นต้น การพัฒนาระบบงานสารสนเทศจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้บริหารหรือผู้ใช้ตระหนักว่าต้องการ ระบบ สารสนเทศ หรือต้องแก้ไขระบบเดิม โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1.1 นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ ต้อง ศึกษาระบบโดยละเอียด เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาที่ เกิด ขึ้นในองค์กร ตัวอย่างปัญหา เช่น บริษัท A เปิดสาขา เพิ่มมากขึ้น ระบบเติมไม่ได้ครอบคลุมถึง การขยายตัว ของบริษัท บริษัท 8 เก็บข้อมูลผู้ขายได้เพียง 1,000 ราย แต่ปัจจุบันระบบนี้มีข้อมูล ผู้ชาย 900 ราย และ ในอนาคตจะมีเกิน 1,000 ราย รูปที่ 1.3 วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศการเข้าใจปัญหา


เมื่อกำหนดปัญหาที่เกิดขึ้นกับการพัฒนา ระบบงานได้และตัดสินใจจะสร้างและพัฒนาระบบ งานขึ้นมาใหม่นั้น นักวิเคราะห์ระบบจะทำการศึกษา ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับเปลี่ยนระบบ โดยใช้ระยะเวลาในการพัฒนาระบบน้อยที่สุด และ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด แต่ให้ได้ผลลัพธ์เป็นที่ น่าพอใจและมีประสิทธิภาพมากที่สุด การศึกษาความเป็นไปได้ จะพิจารณาจาก ปัจจัย 3 ประการ คือ • ความเป็นไปได้ด้านเทคนิค (Technically Feasibility) • ความเป็นไปได้ด้านการปฏิบัติ (Operational Feasibility) • ความเป็นไปได้ด้านการลงทุน (Economic Feasibility) ความเป็นไปได้ด้านเทคนิค (Technically Feasibility) การศึกษาความเป็นไปได้ด้าน เทคนิค หรือด้านเทคโนโลยี จะทำการตรวจสอบว่า ภายใน องค์กรมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ ต่อพ่วง รวมทั้งเครื่องมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ จำนวนเท่าใด เพียงพอหรือไม่ และ สมรรถนะของ เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับใด เป็นต้น ความเป็นไปได้ด้านการปฏิบัติ (Operational Feasibility) การศึกษาความเป็นไปได้ ทางด้าน การปฏิบัติ นักวิเคราะห์ระบบจะต้องพิจารณาดูว่าแนวทางแต่ละแนวทางที่จะใช้แก้ไขปัญหา นั้น จะต้องสนอง ความต้องการของผู้ใช้ระบบหรือไม่เพียงใด จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิธีการทำงาน ของผู้ใช้ระบบหรือไม่ อย่างไร และมีความพึงพอใจกับระบบใหม่ในระดับไต นอกจากนี้ จะต้อง พิจารณาว่าบุคลากรที่จะพัฒนาและ ติดตั้งระบบมีความรู้ความสามารถหรือไม่ และมีจำนวนเพียงพอ หรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอจะหาได้หรือไม่ และ ระบบใหม่สามารถเข้ากันกับการทำงานของระบบที่มีอยู่ใน ปัจจุบันหรือไม่


ความเป็นไปได้ด้านการลงทุน (Feasibility) การศึกษาความเป็นไปได้ด้านการ ลงทุน จะ เป็นการตรวจสอบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของโครงการรวมทั้งเวลาที่จะต้องใช้ในการพัฒนาระบบ โดย พิจารณาว่าเป้าหมายของการทำโครงการที่ได้กำหนดไว้ สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในวงเงินที่กำหนด ไว้ หรือไม่ และหากมีการดำเนินงานโครงการในขั้นต่อไปทั้งหมดจนจบ จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ จะได้รับกำไรหรือผลประโยชน์จากระบบใหม่คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบซึ่ง ผู้บริหารจะตัดสินใจว่าควรจะดำเนินการต่อไปในขั้นตอนการวิเคราะห์หรือจะยกเลิกโครงการทั้งหมด นักวิเคราะห์ระบบจะต้องพิจารณาความเป็นไปได้ทั้ง 3 ด้านดังกล่าวเพื่อที่จะเลือกใช้แนวทางการ พัฒนา ระบบงานที่มีความเป็นไปได้สูงสุด ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาความเป็นไปได้ของ นักวิเคราะห์ระบบ ก็คือ การเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ พร้อมทั้งการค่าใช้จ่ายและ กำไรที่คาดว่า จะได้รับ รวมทั้งรายละเอียดอื่น ๆ ที่ระบบใหม่ต้องการใช้ รูปที่ 1.4 ความเป็นไปได้ทางการเงิน


การวิเคราะห์ระบบ เป็นขั้นตอนของการศึกษาการทำงานของระบบงานเดิม (ปัจจุบัน) เพื่อ ต้องการ ค้นหาว่าทำงานอย่างไร ทำอะไรบ้าง และมีปัญหาใดเกิดขึ้นบ้าง หรือใช้ระบบต้องการให้มี การเปลี่ยนแปลง อย่างไร ส่วนใดของระบบ บ้าง หรือต้องการให้ระบบใหม่ทำอะไรได้บ้าง นักวิเคราะห์ ระบบ จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ขององค์กรเพื่อนำมาจัดทำรายงานการทำงานของระบบ ปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในการวิเคราะห์ระบบก็คือ การทำความเข้าใจกับระบบและปัญหา ของ ระบบให้ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้นักวิเคราะห์ระบบทำการออกแบบระบบได้ถูกต้องและ ตรงตาม ความต้องการของผู้ใช้ กระบวนการวิเคราะห์ระบบ คือ การทำความเข้าใจในทางธุรกิจ (Business Function) และการกำหนดความต้องการของระบบ (System ) โดยทำการรวบรวม ข้อมูล ในระบบงานเดิม ซึ่งทำให้รู้ถึงขั้นตอนการทำงานและปัญหาของระบบที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด การเก็บ รวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และสามารถกระทำได้ด้วยเทคนิคต่าง | ๆ เช่น การสัมภาษณ์ การออกแบบ สอบถาม การสังเกตการณ์ หรือโดยการตรวจสอบรายละเอียดจากเอกสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงและถูกต้องมากที่สุด โดยการวิเคราะห์ระบบประกอบด้วยขั้นตอนหลัก2 ขั้นตอน ดังนี้ รูปที่ 1.5 Fact Gathering


• การกำหนดความต้องการของระบบ (System Requirement ) คือ การรวบรวมข้อมูล รวมถึงข้อเท็จจริงของระบบโดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล (Information Gathering Method) เพื่อ นำข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางในการ แก้ไขปัญหา • การความต้องการระบบใหม่ (Structuring) คือขั้นตอนการวิเคราะห์ ความต้องการของ ระบบใหม่จากปัญหาที่พบในการทำงานของระบบเดิม โดยใช้แผนภาพเพื่อการจำลองขั้นตอนการ ทำงาน และจำลองข้อมูลของระบบใหม่ นักวิเคราะห์ระบบต้องค้นหาความต้องการของผู้ใช้ระบบ และใช้ความต้องการเหล่านี้เป็นปัจจัยในการ กำหนดเป้าหมายสำหรับระบบใหม่ Analysis Requirement Specification รูปที่ 1.6 Application Analysis Logical Moodel


การออกแบบระบบ จะเป็นการเสนอระบบใหม่ โดยที่นักออกแบบระบบจะดำเนินการ ออกแบบ ระบบใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงโปรแกรมเดิมที่มีอยู่ ออกแบบฐานข้อมูลใหม่ หรือเปลี่ยนแปลง ฐานข้อมูลเดิม ที่มีอยู่ ออกแบบรายละเอียดเกี่ยวกับการทำงานของผู้ใช้ และจะต้องเลือกอุปกรณ์ที่ ต้องใช้ในการติดตั้งระบบ ในการสร้างระบบใหม่จะต้องใช้อะไรบ้าง เป็นต้น การเขียนขอบเขตของระบบ คือ การตั้งชื่อขอบเขตของระบบมากำหนดข้อมูล(Data)และ สารสนเทศ(Information)วามีการนำข้อมูลนำเข้ามาในระบบมีอะไรบ้าง ละเมื่อข้อมูลนั้นผ่าน กระบวนการต่างๆ แล้วจะออกมาเป็นผลลัพ์อะไรบ้างในลักษณะสารสนเทศอย่างไร ระบบงานคอมพิวเตอร์ทุกระบบงานในปัจจุบันต้องการกระบวนการที่จะเข้าถึง (Access) ข้อมูล ที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้น นักวิเคราะห์ระบบจึงจะต้องพยายามออกแบบ ระบบงาน ให้เกิดความสะดวกและลดความซ้ำซ้อนกันของข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพื่อลดความยุ่งยากใน การปรับปรุงระบบ อย่างไรก็ดีระบบคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสม ทั้ง ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เช่นหน่วยความจำ (Memory) ก็ต้องมีเพียงพอ ทางด้านซอฟต์แวร์จะต้องมี ระบบบริหารฐานข้อมูล(DBMS: Data Base Management System) มาเป็นตัวกลาง เพื่อที่จะ เชื่อมโยงระหว่างระบบงานคอมพิวเตอร์กับฐานข้อมูล EXTERNAL EXTERNAL SCOE PE รูปที่ 1.7 แสดงข้อมูลระบบและสารสนเทศ DATA INFORMA TTION


ระบบรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของระบบงาน ระบบงานควรมีระบบการรักษาความปลอดภัย (Security) เพื่อคุ้มครองระบบคอมพิวเตอร์ ระบบรักษาความปลอดภัยในระบบงานคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ • ระบบรักษาความปลอดภัยภายนอกระบบงาน (Physical Security) การป้องกันภายนอก ของ ระบบงานคอมพิวเตอร์ เช่น การล็อกห้องคอมพิวเตอร์ หรือป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ หรือระบบการป้องกันการคัดลอกข้อมูล เป็นต้น • ระบบรักษาความปลอดภัยภายในระบบงาน (System Security and Integrity) จำเป็นต้องมี ระบบรักษาความปลอดภัยภายในระบบงานเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ใช้ข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูล ได้ รูปที่ 1.8 ระบบรักษาความปลอดภัย


การพัฒนาระบบ เป็นการสร้างส่วนประกอบแต่ละส่วนของระบบโดยเริ่มเขียนโปรแกรมและ ทดสอบ โปรแกรม การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบและฐานข้อมูลจากข้อมูลต่าง ๆ ของระบบ โปรแกรมเมอร์จะเขียน โปรแกรมตามข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ซึ่งควรมีการ ตรวจสอบผลการทำงานของ โปรแกรมร่วมกับนักวิเคราะห์ระบบ เพื่อค้นหาว่าอาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ที่ใดบ้างของระบบ เพื่อให้เข้าใจ และทำงานได้โดยไม่มีปัญหา อาจจะอบรมตัวต่อตัว หรือเป็นกลุ่มก็ได้ การทดสอบระบบ เป็นขั้นตอนของการทดสอบระบบก่อนที่จะนำไปปฏิบัติการใช้งานจริง ระบบจะต้องได้รับการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องใด ๆ งานจริงต้องมีการ ทดสอบการทำงานของระบบโดยโปรแกรมเมอร์หรือผู้ใช้งานระบบหรือทดสอบการทำงาน ๆ ก่อนจะ นำระบบไปใช้ ร่วมกับระหว่างโปรแกรมเมอร์และผู้ใช้งานระบบ การทดสอบควรใช้ข้อมูลที่ปฏิบัติงาน จริง เพื่อดูผลลัพธ์ ที่ได้ว่าถูกต้องและตรงตามความต้องการของผู้ใช้หรือไม่ การติดตั้ง ขั้นตอนถัดไปหลังจากที่ได้ทำการทดสอบ จนมีความมั่นใจแล้วว่าระบบสามารถ ทำงาน ได้จริง และตรงกับความต้องการของผู้ใช้ระบบ จากนั้นจึงดำเนินการติดตั้งระบบเพื่อใช้งาน จริงต่อไป CODING/TESTING ........................... รูปที่ 1.9 ภาพการทดสอบ และการติดตั้งระบบ


การบำรุงรักษาเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาระบบ ภายหลังขั้นตอนการติดตั้งระบบ จะต้องมี การประเมินผลการทำงานของระบบ ซึ่งเป็นการตรวจสอบว่าระบบใหม่ที่ติดตั้งใช้งานนี้ สามารถใช้งานตรง ตามวัตถุประสงค์ สนองตอบความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้มีความพึงพอใจและ ยอมรับการทำงานกับระบบใหม่มากน้อยเพียงใด หรือมีปัญหาอุปสรรคอย่างไร ส่วนการบำรุงรักษาระบบนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องกระทำ เพื่อขจัดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่ อาจ เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานของระบบ และเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงระบบให้เหมาะสม ระบบที่พัฒนาขึ้นอาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างที่เพิ่งค้นพบ ต้องรีบแก้ไขโปรแกรมให้ถูกต้องเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ สามารถใช้งานตามวัตุประสงค์ สนองความต้องการของผู้ใช้ ผู้ใช้มี ความพึงพอใจและยอมรับการทำงานของระบบ ขั้นตอนการบำรุงรักษา


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การพัฒนาระบบสารสนเทศ Systems Development Life Cycle วงจรการพัฒนาระบบ เป็นวงจรที่แสดงถึง กิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละขั้นตอน Problem Recognition การเข้าใจปัญหา Feasibility Study การศึกษาความเป็นไปได้ Analysis การวิเคราะห์ Design การออกแบบ Development การพัฒนา Implementation and Testing การทดสอบและติดตั้ง Maintenance การบำรุงรักษา


แบบฝึกหัด หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การพัฒนาระบบสารสนเทศ ตอนที่ 1 จงตอบคำถามต่อไปนี้ (พอสังเขป) 1. จงบอกความหมายของการพัฒนาระบบสารสนเทศ ตอบ 2. จงบอกความหมายของวงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle) ตอบ 3. วงจรการพัฒนาระบบ (System Development Life Cycle) มีกี่ขั้นตอน อะไรบ้าง ตอบ 4. การศึกษาความเป็นไปได้ของระบบมีขั้นตอนอย่างไร ตอบ 5. จงบอกความจำเป็นในการดูแลและรักษาระบบ ตอบ


แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ตอนที่ 2 จงเลือกข้อที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว 1. วงจรการวิเคราะห์ระบบหมายถึงอะไร ก. เป็นการกำหนดให้เป็นไปได้ในทิศทางเดียวกันและกำหนดขั้นตอนให้นักวิเคราะห์ระบบ ปฏิบัติงานได้โดยมีข้อบกพร่องน้อยที่สุด ข. เป็นการกำหนดระบบงานให้แปลกใหม่อยู่เสมอให้กับนักวิเคราะห์ระบบงาน ค. เป็นการกำหนดระบบปฏิบัติการให้รับไปคนละทิศทางและให้มีความซับซ้อน ง. เป็นการกำหนดระบบงานให้มีมาตรฐานและพัฒนาระบบงานอยู่เสมอ 2. วงจรการพัฒนาระบบแบ่งออกเป็นลำดับขั้นตอนกี่ขั้นตอน ก. 4 ขั้นตอน ข. 5 ขั้นตอน ค. 6 ขั้นตอน ง. 7 ขั้นตอน 3. SDLC ย่อมาจากอะไร ก. System Development Life Circle (SDLC) ข. System Development Life Cycle (SDLC) ค. System Description Life Circle (SDLC) ง. System Description Life Cycle (SDLC)


4. บุคลากรใดเป็นตัวกลางในการพัฒนาระบบ ก. ผู้ใช้ระบบ ข. ผู้สร้างระบบ ค. นักวิเคราะห์ระบบ ง. เจ้าของระบบ 5. การเขียนโปรแกรมของระบบ จัดอยู่ในระยะใดของการพัฒนาระบบ ก. การวิเคราะห์ ข. การออกแบบ ค. การพัฒนา ง. การศึกษาความเป็นไปได้ 6. การเก็บรวบรวมข้อมูล อยู่ในขั้นตอนใดของการพัฒนาระบบ ก. การศึกษาความเป็นไปได้ ข. การวิเคราะห์ ค. การออกแบบ ง. การพัฒนา 7. ขั้นตอนสุดท้ายของวงจรการพัฒนาระบบคือข้อใด ก. การพัฒนา ข. การทดสอบและติดตั้ง ค. การปรับปรุง ง. การบำรุงรักษา


8. การรับรู้สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนใดของวงจรการพัฒนาโปรแกรม ก. การเข้าใจปัญหา ข. ศึกษาความเป็นไปได้ ค. การวิเคราะห์ ง. การประเมินค่า 9. การพัฒนาระบบสารสนเทศ หรือการแก้ไขระบบสารสนเทศเดิม โดยเสียค่าใช้จ่ายและเวลาน้อย ที่สุดเป็นขั้นตอนใด ก. การเข้าใจปัญหา ข. ศึกษาความเป็นไปได้ ค. การวิเคราะห์ ง. การวางแผน 10. การทดสอบโปรแกรมอยู่ในขั้นตอนใดของวงจรการพัฒนาระบบ ก. การออกแบบ ข. การพัฒนา ค. การทดสอบและติดตั้ง ง. ถูกทุกข้อ


Click to View FlipBook Version