The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือการเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้นด้วย Google Colab เล่มนี้ จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจฝึกเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้นด้วยตนเอง ผู้อ่านสามารถอ่านคำอธิบาย ทำความเข้าใจ ฝึกเขียนตามและตรวจสอบผลของโปรแกรมได้จากหนังสือทุกขั้นตอน โดยในเล่มจะมีตัวอย่าง กิจกรรมพร้อมเฉลยสำหรับฝึกฝนด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ง่าย แม้ไม่เคยมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมมาก่อน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by umporn.w55, 2024-01-28 18:49:00

การเขียนโปรแกรมภาษา PYTHON เบื้องต้น ด้วย GOOGLE COLAB

หนังสือการเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้นด้วย Google Colab เล่มนี้ จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่สนใจฝึกเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้นด้วยตนเอง ผู้อ่านสามารถอ่านคำอธิบาย ทำความเข้าใจ ฝึกเขียนตามและตรวจสอบผลของโปรแกรมได้จากหนังสือทุกขั้นตอน โดยในเล่มจะมีตัวอย่าง กิจกรรมพร้อมเฉลยสำหรับฝึกฝนด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ง่าย แม้ไม่เคยมีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมมาก่อน

Keywords: การเขียนโปรแกรม,Python,Google colab,ภาษาไพทอน

การเขียนโปรแกรม ภาษา PYTHON เบอ ื ้ งตน ้ ด้วย GOOGLE COLAB รองศาสตราจารย์ ดร. อัมพร วัจนะ


ส ่ ั งซอ ื ้ หน ั งส ื อ • E-Book ฉบับเต็ม : https://se-ed.com/s/dlWB • หนังสือเล่ม : Facebook fanpage ครูวิทย์ยุคใหม่สอน อย่างไรให้สร้างสรรค์


การเขียนโปรแกรม ภาษา PYTHON เบอ ื ้ งตน ้ ด้วย GOOGLE COLAB รองศาสตราจารย์ ดร. อัมพร วัจนะ



ข ค ำน ำ หนังสือการเขียนโปรแกรมภาษา Pythonเบื้องต้นด้วย Google Colab เล่มนี้ จัดท า ขึ้นส าหรับผู้ที่สนใจฝึกเขียนโปรแกรมภาษา Python เบื้องต้นด้วยตนเอง แต่ไม่มีพื้นฐาน การเขียนโปรแกรมเลย โดยผู้เขียนเข้าใจดีว่าส าหรับคนธรรมดาอย่างเรา การท าความ เข้าใจกับภาษาโปรแกรมนั้น บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากเหลือเกิน ฉะนั้นหนังสือ ส าหรับการฝึกเขียนโปรแกรมเบื้องต้นจะต้องเริ่มต้นจากการใช้ภาษาธรรมดา ๆ ง่าย ๆ เพื่อให้เข้าใจได้ และเมื่อเข้าใจพื้นฐานเบื้องต้นแล้ว จึงค่อยก้าวข้ามความธรรมดาไปสู่การ ใช้ภาษาตามแบบฉบับของโปรแกรมเมอร์ในล าดับถัดไป ซึ่งในหนังสือเล่มนี้ จะเน้นการปู พื้นฐานหลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น โดยเรียงล าดับจากง่ายไปหายาก ไม่เน้นให้ข้อมูล เยอะ ๆ ยาก ๆ มาก ๆ แต่เน้นให้เข้าใจ เน้นการใช้ภาษาที่คนธรรมดาสื่อสารกัน เพื่อให้ง่าย ต่อการท าความเข้าใจ และเลือกใช้ Google Colab ในการฝึกเขียนโปรแกรมเพื่อลด ขั้นตอนการลงโปรแกรมที่ยุ่งยาก ซึ่งผู้อ่านสามารถอ่านค าอธิบาย ท าความเข้าใจ ฝึกเขียน ตามและตรวจสอบผลของโปรแกรมได้จากหนังสือทุกขั้นตอน โดยในเล่มจะมีตัวอย่าง กิจกรรมพร้อมเฉลยส าหรับฝึกฝนด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ง่าย แม้ไม่เคยมีพื้นฐานการเขียน โปรแกรมมาก่อน


ค สำรบัญ หน้ำ ค ำน ำ ก สำรบัญ ข กำรเขียนโปรแกรม 2 โปรแกรม 2 การเขียนโปรแกรม 3 Google Colab 4 การติดตั้ง Google Colab 4 การใช้งาน Google Colab 6 เริ่มต้นเขยีนโปรแกรมภำษำ Python 12 การตั้งชื่อ 12 รูปแบบโครงสร้างโปรแกรมภาษา Python 13 กำรแสดงข้อมูลออกทำงจอแสดงผล 16 ฟังก์ชัน print 16 การเขียนคอมเมนต์ 18 ชนิดข้อมูล 20 ชนิดข้อมูล 20 ฟังก์ชัน type 20 กำรแปลงชนิดข้อมูล 24 ฟังก์ชัน str 24 ฟังก์ชัน int 25 ฟังก์ชัน round 26 ฟังก์ชัน float 27 หน้ำ


ง กำรก ำหนดตัวแปร 28 การก าหนดตัวแปรชนิดตัวอักษร 28 การก าหนดตัวแปรชนิดจ านวนเต็ม 30 การก าหนดตัวแปรชนิดจ านวนจริง 30 การก าหนดตัวแปรหลาย ๆ ตัว พร้อมกัน 31 กำรรับข้อมูล 34 ฟังก์ชัน input 34 ตัวด ำเนินกำร 38 ตัวด าเนินการทางคณิตศาสตร์ 38 ตัวด าเนินการเปรียบเทียบ 42 ตัวด าเนินการตรรกศาสตร์ 43 ข้อมูลชนิด list 48 การสร้าง list 48 ฟังก์ชัน len 49 การเข้าถึงข้อมูลใน list 50 กำรกำ หนดเงอื่นไข 56 ค าสั่ง If 56 ค าสั่ง If-else 57 ค าสั่ง If-elif-else 59 การก าหนดเงื่อนไขที่มีมากกว่าหนึ่งเงื่อนไข 60 การก าหนดเงื่อนไขโดยน าค าสั่ง if มาซ้อนกัน 63 กำรวนซำ ้ 66 ค าสั่ง while 66 การท างานของค าสั่ง while ร่วมกับ break 67 การท างานของค าสั่ง while ร่วมกับ continue 68 หน้ำ


จ การท างานของค าสั่ง while ร่วมกับ else 69 ฟังก์ชัน for 70 การท างานของค าสั่ง for ร่วมกับ range 72 การท างานของค าสั่ง for ร่วมกับ break 73 การท างานของค าสั่ง for ร่วมกับ continue 74 การท างานของค าสั่ง for ร่วมกับ else 75 การน าค าสั่ง for มาซ้อนกัน 75 ฟังก์ชัน 78 การสร้างฟังก์ชัน 78 การเรียกใช้งานฟังก์ชัน 79 การก าหนดพารามิเตอร์ของฟังก์ชัน 80 การก าหนดค่าให้กับพารามิเตอร์ในฟังก์ชัน 81 การก าหนดค่า defaultของพารามิเตอร์ในฟังก์ชัน 81 การใช้ return ในฟังก์ชัน 82 กำรสร้ำง CLASS & OBJECT 86 การสร้าง CLASS 86 การก าหนดฟังก์ชันภายใน CLASS 87 การสร้างวัตถุของ CLASS 88 การเรียกใช้ฟังก์ชันภายใน CLASS 88 การก าหนดลักษณะของวัตถุภายใน CLASS 89 การใช้ฟังก์ชัน init ในการก าหนดลักษณะ 90 INHERITANCE 92 การสร้าง SUBCLASS 92 หน้ำ


ฉ สรุป 96 เฉลยกิจกรรม 106 บรรณำนุกรมประวัตผิู้เขยีน ดัชนี


1 ส่ังซอ ื ้ หนังสอ ื การเขียนโปรแกรมภาษา Python เบอ ื ้ งตน ้ ด้วย Google Colab • E-Book ฉบับเต็ม : https://se-ed.com/s/dlWB • หนังสือเล่ม : Facebook fanpage คร ู ว ิ ทยย ์ ุ ค ใหม่สอนอย่างไรให้สร้างสรรค์


2 การเขียนโปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม คือ ชุดของค ำสั่ง ที่ก ำหนดขึ้นมำเพื่อให้คอมพิวเตอร์ท ำงำน ซึ่งเป็นกำร น ำค ำสั่งต่ำง ๆ หลำย ๆ ค ำสั่งมำเขียนเรียงต่อกันเป็นขั้นตอนจนเกิดชุดค ำสั่ง เพื่อสั่งกำร ให้คอมพิวเตอร์ท ำงำนหรือประมวลผลตำมขั้นตอนนั้น ๆ ดังนั้นกำรเขียนโปรแกรมจึงเป็นกำรก ำหนดชุดค ำสั่งเพื่อสั่งกำรให้คอมพิวเตอร์ ท ำงำนหรือประมวลผลตำมล ำดับขั้นตอนที่ก ำหนดให้ โดยชุดค ำสั่งต้องถูกสร้ำงขึ้นจำก ภำษำคอมพิวเตอร์หรือภำษำโปรแกรม เนื่องจำกคอมพิวเตอร์ไม่สำมำรถเข้ำใจภำษำ มนุษย์ เช่น ภำษำไทย หรือ ภำษำอังกฤษได้ ดังนั้นหำกต้องกำรสื่อสำรหรือสั่งกำร คอมพิวเตอร์ เรำจึงจ ำเป็นต้องเรียนรู้ภำษำคอมพิวเตอร์หรือภำษำโปรแกรมเพื่อใช้เป็น สื่อกลำงในกำรสื่อสำรกับคอมพิวเตอร์นั่นเอง ซึ่งภำษำโปรแกรมก็มีให้เลือกใช้งำนได้หลำกหลำย เช่น C, C++, JavaScript, PHP, SQL, Visual Basic และภำษำอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งกำรใช้บล็อกค ำสั่งที่เรียกว่ำ Block programming ซึ่งเป็นกำรน ำบล็อกค ำสั่งต่ำง ๆ มำเรียงต่อกันเหมือนกับกำรต่อตัว ต่อเลโก้ แทนกำรเขียนชุดค ำสั่งด้วยภำษำคอมพิวเตอร์ก็สำมำรถสั่งกำรให้คอมพิวเตอร์ ท ำงำนได้เช่นกัน


3 การเขียนโปรแกรม โปรแกรม คือ ชุดของค ำสั่งที่ก ำหนดขึ้นมำเพื่อให้คอมพิวเตอร์ท ำงำน ดังนั้น กำร เขียนโปรแกรมจึงเป็นกำรน ำค ำสั่งมำเขียนเรียงต่อกันเป็นขั้นตอนจนเกิดชุดค ำสั่ง โดย ขั้นตอนกำรเขียนโปรแกรมหรือขั้นตอนกำรก ำหนดชุดค ำสั่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ท ำงำน สำมำรถเรียงล ำดับง่ำย ๆ ดังนี้ 1) คิดก่อนว่ำโจทย์หรือปัญหำคืออะไร หรืออยำกให้คอมพิวเตอร์ท ำงำนอะไรให้เรำ 2) เขียนค ำอธิบำยล ำดับขั้นตอนกำรแก้ปัญหำนั้น ๆ ออกมำให้ชัดเจนเป็นขั้นตอน ว่ำท ำอย่ำงไรคอมพิวเตอร์ถึงจะแก้โจทย์ปัญหำนี้ได้ เรียกขั้นตอนนี้ว่ำ “กำรเขียน อัลกอริทึม” (Algorithm คือ กระบวนกำรแก้ปัญหำที่อธิบำยออกมำเป็นล ำดับ ขั้นตอน) โดยควำมเร็วของโปรแกรมจะแตกต่ำงไปตำมล ำดับกำรจัดวำง อัลกอริทึม 3) เลือกภำษำคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ในกำรเขียนโปรแกรม 4) ศึกษำค ำสั่ง หลักกำรเขียนโปรแกรมของภำษำคอมพิวเตอร์นั้น ๆ 5) เริ่มต้นเขียนโปรแกรมโดยกำรหยิบค ำสั่งมำเรียงตำมล ำดับขั้นตอนที่ก ำหนดใน อัลกอริทึม ซึ่งคอมพิวเตอร์จะแก้ปัญหำได้โดยใช้วิธีกำรต่ำง ๆ เช่น กำรเรียงล ำดับ กำรวนซ ้ำ กำรด ำเนินกำรทำงคณิตศำสตร์เป็นต้น 6) ทดสอบกำรท ำงำนของโปรแกรมว่ำสำมำรถสั่งกำรให้คอมพิวเตอร์ท ำงำนหรือ แก้ปัญหำได้ตรงตำมควำมต้องกำรหรือไม่ 7) ตรวจสอบชุดค ำสั่ง แก้ไขข้อผิดพลำดของโปรแกรม และทดลองแก้ปัญหำซ ้ำ ๆ จนโปรแกรมท ำงำนได้ถูกต้อง ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เรำจะได้เรียนรู้ภำษำ Python ซึ่งเป็นภำษำโปรแกรมภำษำ หนึ่ง เรำจะได้เรียนรู้ค ำสั่งและหลักกำรเขียนโปรแกรมภำษำ Python เรียงล ำดับจำกง่ำยไป ยำก เพื่อให้ทุกคนเข้ำใจและสำมำรถเขียนโปรแกรมภำษำ Python ได้ โดยจะใช้เครื่องมือ ช่วยในกำรเขียนโปรแกรม คือ Google Colab นั่นเอง


4 Google Colab Google Colab หรือ Google Colaboratoryเป็นบริกำร software บน cloud จำก Google ที่ให้เรำสำมำรถสร้ำง Notebook เพื่อใช้เขียนโปรแกรมภำษำ Python ได้ฟรี โดย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใด ๆ บนอุปกรณ์ของเรำ โดยสำมำรถเข้ำใช้งำนผ่ำนเว็บบรำวเซอร์ ทั่วไป ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่ำง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเลต เป็นต้น ซึ่ง สะดวกต่อผู้ใช้งำนที่เริ่มต้นฝึกหัดกำรเขียนโปรแกรมภำษำ Python เบื้องต้น การตดิตัง้ Google Colab ส ำหรับกำรติดตั้งหรือเชื่อมโยง Google Colab ไปยัง Google Drive ของเรำนั้น ผู้ใช้งำนจะต้องมีบัญชีของ Google โดยให้เปิดใช้งำน Google Chrome และลงชื่อเข้ำใช้งำน Google Drive ด้วยบัญชีของ Google แล้วคลิกที่ My drive >> More >> Connect more apps หรือ ไดรฟ์ ของฉัน >> เพมิ่เตมิ >> เชอื่มต่อแอปเพิ่มเติม หลังจำกนั้นที่ช่องค้นหำ ให้ค้นหำด้วยค ำว่ำ Colab จะปรำกฎแอป Colaboratory ให้คลิกเลือกและท ำกำรติดตั้ง โดย คลิก (1) Install >> (2) continue >> (3) เลือกบัญชี Google ของเรา หรือ คลิก (1) ตดิตัง้ >> (2) ต่อไป >> (3) เลือกบัญชี Google ของเรา ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


5 (1) (2) (3) ขัน้ตอนการตดิตัง้ Google Colab


6 การใช้งาน Google Colab เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วสำมำรถเรียกใช้งำน Google Colab โดยไปที่ My Drive >> More หรือ ไดรฟ์ ของฉัน >> เพิ่มเติม จะปรำกฏตัวเลือก Google Colaboratory ให้ คลิกเลือกและเริ่มกำรใช้งำน โดยจะปรำกฏหน้ำต่ำงแนะน ำ Google Colab และกำรใช้ งำน ดังนี้ หน้าต่างแนะน า Google Colab และการใช้งาน การสร้างไฟล์ใหม่ ให้คลิก File >> New notebook หรือ คลิก ไฟล์ >> สมุดบันทึกใหม่จำกแถบ เมนูด้ำนบน


7 โดยไฟล์ใหม่จะประกอบด้วยแถบเมนูด้ำนบน แถบเมนูด้ำนซ้ำย และส่วนของกำร เขียนโค้ดและข้อควำม โดยในส่วนของกำรเขียนโค้ดและข้อควำมจะมีลักษณะเป็นเซลล์ (Cell) เรำสำมำรถคลิก + โค้ด หรือ + ข้อความ เพื่อเพิ่มเซลล์ส ำหรับพิมพ์โค้ดหรือ ข้อควำม ด้ำนในเซลล์จะมีแถบเครื่องมือส ำหรับใช้แก้ไขข้อมูลภำยในเซลล์ ส่วนของการเขียนโค้ดและข้อความ การเปลี่ยนชอื่ไฟล์ สังเกตที่ชื่อไฟล์ Untitled0.ipynb ที่ต ำแหน่งบนสุดด้ำนซ้ำยมือ ซึ่งก ำหนดมำให้ สำมำรถคลิกและแก้ไขชื่อไฟล์ได้ตำมต้องกำร เช่น Python-1.ipynb


8 การก าหนดสารบัญ ให้คลิก ที่แถบเมนูด้ำนซ้ำย แล้วคลิกที่ + ส่วน เพื่อเพิ่มสำรบัญ ซึ่งจะปรำกฏข้อควำม ส่วนใหม่ โดย ส่วนใหม่ เป็นเซลล์เพิ่มมำทำงด้ำนขวำในส่วนของกำรเขียนโค้ดและ ข้อควำม ซึ่งเรำสำมำรถแก้ไขชื่อส่วนใหม่นี้ตำมต้องกำร โดยกำรคลิกแก้ไขที่แถบเครื่องมือ ด้ำนขวำ


9 ทั้งนี้สำมำรถ ลบ หรือ จัดล ำดับสำรบัญ โดยกำรคลิกลูกศร ขึ้น หรือ ลงที่แถบ เครื่องมือ การเขียนโค้ดและข้อความ เมื่อน ำเม้ำส์ไปชี้ที่ต ำแหน่งด้ำนล่ำงของเซลล์ จะปรำกฏตัวเลือกระหว่ำง + โค้ด และ + ข้อความ เมื่อคลิกที่+ โค้ด จะปรำกฏเซลล์ใหม่ หรือ Code cellขึ้น ส ำหรับเขียนโค้ด เมื่อคลิกที่ + ข้อความ จะปรำกฏเซลล์ใหม่ หรือ Text cell ขึ้น ส ำหรับเขียน ข้อควำมหรือค ำอธิบำยต่ำง ๆ


10 การแสดงผลลัพธ์ สำมำรถแสดงผลลัพธ์ของ โค้ด หรือ ค ำสั่ง ที่เขียนขึ้นบน Google Colab โดยกำร Run หรือ คลิกที่ปุ่ ม ด้ำนซ้ำยของเซลล์ หรือ กด Shift + Enter จะปรำกฏผลลัพธ์ของค ำสั่งในล ำดับถัดมำ การเข้าถึงไฟล์ ไฟล์และข้อมูลต่ำง ๆ ภำยในไฟล์จะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติและไฟล์จะถูกจัดเก็บ ไว้ในโฟลเดอร์ Colab Notebooks ใน Google Drive กำรเข้ำถึงไฟล์ ให้คลิก File >> Open notebooks หรือ คลิก ไฟล์ >> เปิ ดสมุดบันทึก แล้วจะปรำกฏหน้ำต่ำงขึ้นมำให้ คลิกเลือกไฟล์ที่ต้องกำร หรือพิมพ์ชื่อไฟล์ในช่อง กรองสมุดบันทึก เพื่อค้นหำ


11 หน้าต่างแสดงไฟลท์เี่คยเปิดใช้งาน เมื่อพร้อมแล้ว เรำมำสร้ำง Google Colab Notebook แล้วมำเริ่มเรียนเขียน โปรแกรมภำษำ Python ไปพร้อม ๆ กันได้เลย โดยในหัวข้อต่อ ๆ ไป จะเป็นกำรเริ่มต้น เรียนรู้ค ำสั่งพื้นฐำนง่ำย ๆ ที่ใช้ในกำรเขียนโปรแกรม สำมำรถท ำตำม โดยพิมพ์ค ำสั่งใน Code cell และคลิก แสดงผลลัพธ์ใน Colab notebook ได้เลย


12 เริ่มต้นเขยีนโปรแกรมภาษา Python การตัง้ชอื่ กำรตั้งชื่อหรือกำรก ำหนดชื่อให้กับตัวแปร ฟังก์ชัน List หรือ CLASS ในภำษำ Python มีกฎเกณฑ์ที่ต้องค ำนึงถึง ดังนี้ 1) ชื่อที่ตั้งจะต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร หรือ underscore ( _ ) เท่ำนั้น เช่น age, _address 2) ถ้ำชื่อที่ตั้งประกอบด้วยค ำมำกกว่ำ 1 ค ำ ให้คั่นแต่ละค ำด้วย underscore เช่น home_address 3) ชื่อที่ตั้งจะต้องประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือ underscore เท่ำนั้น จะ ประกอบด้วยสัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น + - * / % @ { } : ; [ ] = < > “ ‘ , | & ( ) \ ไม่ได้ 4) ชื่อที่ตั้งจะต้องไม่ซ ้ำกับ Keywords ในภำษำ Python หรือค ำเฉพำะที่ถูก สงวนไว้ซึ่งห้ำมน ำไปใช้ตั้งชื่อใด ๆ


13 Keywords ในภาษา Python and del for is return while as elif from lambda or with assert else global none pass yield break except if nonlocal print exec class false Import not try continue finally in raise True False 5) ชื่อที่ตั้งด้วยตัวอักษรตัวใหญ่กับตัวอักษรตัวเล็กถือว่ำเป็นคนละตัวกัน เช่น NAME, Name, name ถือว่ำเป็นคนละตัวกัน 6) ชื่อที่ตั้งไม่จ ำกัดควำมยำวของตัวอักษร 7) ชื่อที่ตั้งควรสื่อควำมหมำย เพื่อควำมเข้ำใจและสะดวกต่อกำรน ำไปใช้งำนต่อเช่น ก ำหนดชื่อตัวแปรอำยุ ว่ำ age ซึ่งจะรู้ได้ทันทีว่ำตัวแปรนี้เก็บค่ำของอำยุ เป็นต้น รูปแบบโครงสร้างโปรแกรมภาษา Python กำรเขียนโปรแกรมภำษำ Python มีกำรจัดรูปแบบโครงสร้ำงโปรแกรมโดยกำรใช้ ย่อหน้ำ เพื่อจัดแบ่งค ำสั่งในโปรแกรมออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ โดยค ำสั่งที่อยู่ในกลุ่มหรือระดับ เดียวกันจะต้องมีย่อหน้ำตรงกัน เช่น บรรทัดที่ กลุ่มคา ส่ังที่1 1 กลุ่มคา ส่ังที่1 2 กลุ่มคา ส่ังที่2 3 กลุ่มคา ส่ังที่2 4 กลุ่มคา ส่ังที่3 5 กลุ่มคา ส่ังที่2 6 กลุ่มคา ส่ังที่1 7


14 ค ำสั่งที่อยู่ในย่อหน้ำด้ำนในจะเป็นเหมือนค ำสั่งย่อย ๆ ที่อยู่ภำยในค ำสั่งที่อยู่ย่อ หน้ำด้ำนนอก และโปรแกรมจะประมวลผลผิดพลำดหำกจัดย่อหน้ำไม่ตรงกัน โดยกำรจัด ย่อหน้ำสำมำรถใช้ space bar หรือ Tab ก็ได้ โปรแกรมจะประมวลผลค ำสั่งทีละบรรทัด ตำมล ำดับ ซึ่งในกรณีนี้ โปรแกรมจะประมวลผล กลุ่มค ำสั่งที่ 1 (บรรทัดที่ 1) >> กลุ่ม ค ำสั่งที่ 1 (บรรทัดที่ 2) >> กลุ่มค ำสั่งที่ 2(บรรทัดที่ 3) >> กลุ่มค ำสั่งที่ 2 (บรรทัดที่ 4) >> กลุ่มค ำสั่งที่ 3 (บรรทัดที่ 5) >> กลุ่มค ำสั่งที่ 2 (บรรทัดที่ 6) >> กลุ่มค ำสั่งที่ 1 (บรรทัดที่ 7) ตำมล ำดับ


15


16 การแสดงข้อมูลออกทางจอแสดงผล ฟังก์ชัน print ฟังก์ชัน print ใช้ส ำหรับแสดงข้อมูล ข้อควำมหรือตัวเลข ออกทำงจอหรืออุปกรณ์ แสดงผล กำรเรียกใช้งำนฟังก์ชัน print ให้พิมพ์ print(ข้อมูลที่ต้องกำรแสดง) สำมำรถพิมพ์ print ติดกับ (ข้อมูลที่ต้องกำรแสดง) โดยไม่เว้นช่องว่ำงหรือจะเว้น ช่องว่ำงก็ได้ ซึ่งจะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน (เช่นเดียวกับฟังก์ชันหรือค ำสั่งอื่น ๆ ที่จะ น ำเสนอต่อจำกนี้) แต่หำกข้อมูลที่ต้องกำรแสดงเป็ นข้อควำมจะต้องอยู่ภำยใน เครื่องหมำย " " (double quotation marks) หรือ' ' (single quotation marks) เสมอ โดย กำรใช้เครื่องหมำย " " หรือ' 'จะให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน


17 ตัวอย่าง 1 กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อควำม จำกตัวอย่ำง 1 เมื่อพิมพ์ print(“Hello Python”) ข้อควำมที่แสดงออกทำง จอแสดงผล คือ Hello Python ดังนั้น เมื่อพิมพ์ print("ข้อควำม") ข้อควำมที่แสดงทำงจอแสดงผลจะไม่แสดง เครื่องหมำย " " หำกต้องกำรให้แสดงเครื่องหมำย " " หรือ ' ' ในข้อควำมด้วย ให้พิมพ์ เครื่องหมำย \ หน้ำ " หรือ' ที่ต้องกำรให้แสดง และหำกต้องกำรให้แสดงข้อควำมในบรรทัดใหม่ให้ใส่ \n หน้ำข้อควำมที่ต้องกำร ให้แสดงในบรรทัดใหม่ กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงตัวเลข สำมำรถพิมพ์ print(ตัวเลข) ได้เลย โดยไม่ต้อง ใส่เครื่องหมำย " " หรือ ' ' เหมือนกับกำรแสดงข้อควำม แต่หำกพิมพ์ print("ตัวเลข") ก็ สำมำรถท ำได้เช่นเดียวกัน โดยตัวเลขที่แสดงออกทำงจอแสดงผลจะอยู่ในรูปของข้อควำม นั่นเอง


18 ตัวอย่าง 2 กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงตัวเลข จำกตัวอย่ำง2เมื่อพิมพ์ print(11054) ข้อมูลที่แสดงออกทำงจอแสดงผล คือ 11054 ทั้งนี้สำมำรถใช้ฟังก์ชัน print แสดงผลเป็นรูปร่ำงต่ำง ๆ ตำมต้องกำร ตัวอย่าง 3 กำรใช้ฟังก์ชัน printแสดงผลเป็นรูปร่ำงต่ำง ๆ จำกตัวอย่ำง 3 เป็นกำรก ำหนดให้ฟังก์ชัน print ในแต่ละบรรทัดแสดงผลเป็น รูปร่ำงต่ำง ๆ กัน และผลลัพธ์ที่แสดงออกทำงจอแสดงผลจะเป็นรูปร่ำงที่เกิดจำกกำร แสดงผลของฟังก์ชัน print ในแต่ละบรรทัด ตำมล ำดับ กิจกรรม 1: เขียนโปรแกรมเพื่อแสดงผลเป็นรูปหัวใจที่มีขนำดตำมต้องกำร การเขียนคอมเมนต์ เครื่องหมำย #ใช้ส ำหรับกำรเขียนคอมเมนต์(Comment) หรือข้อควำมเพื่อ อธิบำยรำยละเอียดกำรท ำงำนของโปรแกรมในส่วนนั้น ๆโดยที่โปรแกรมจะไม่ประมวลผล ข้อควำมที่อยู่หลังเครื่องหมำย # 1 2 3 4 5 6 7 8 บรรทัดที่


19 ตัวอย่าง 4 กำรเขียนคอมเมนต์ จำกตัวอย่ำง 4 เมื่อพิมพ์ print("(^(oo)^)") # print() เป็นค ำสั่งแสดงข้อมูล ออกทำงจอแสดงผล โปรแกรมจะประมวลผลเฉพำะ print("(^(oo)^)") และแสดง ข้อควำม (^(oo)^) ออกทำงจอแสดงผล แต่จะไม่ประมวลผลข้อควำม "print() เป็นค ำสั่ง แสดงข้อมูลออกทำงจอแสดงผล"ซึ่งอยู่หลังเครื่องหมำย # หำกต้องกำรเขียนคอมเมนต์ที่มีควำมยำวหลำยบรรทัดสำมำรถท ำได้โดยกำร พิมพ์ """ ข้อควำมที่ต้องกำรเขียนคอมเมนต์ """ โดยโปรแกรมจะไม่ประมวลผลข้อควำมที่อยู่ระหว่ำงเครื่องหมำย """ สำมำรถ ใช้ได้ทั้งเครื่องหมำย """ หรือ''' ทั้งนี้ สำมำรถพิมพ์เครื่องหมำย """ ให้อยู่ในบรรทัดเดียวกัน หรือคนละบรรทัดกับข้อควำมที่ต้องกำรเขียนคอมเมนต์ก็ได้ ตัวอย่าง 5 กำรเขียนคอมเมนต์หลำยบรรทัด 1 2 3 4 5 บรรทัดที่


20 ชนิดข้อมูล ชนิดข้อมูล ชนิดข้อมูล คือ สิ่งที่ใช้ก ำหนดลักษณะและขอบเขตของข้อมูลนั้น ๆ ข้อมูลที่มีชนิด ของข้อมูลแตกต่ำงกันจะมีคุณสมบัติที่แตกต่ำงกัน ชนิดข้อมูลในภำษำ python มีให้ เลือกใช้งำนหลำกหลำย โดยข้อมูลแต่ละชนิดก็จะมีเป้ำหมำยในกำรใช้งำนที่แตกต่ำงกัน ซึ่งชนิดข้อมูลที่มีกำรใช้งำนบ่อย ๆ เช่น ข้อมูลชนิดตัวอักษร (String) ข้อมูลชนิดจ ำนวน เต็ม (Integer)ข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง (Float) ข้อมูลชนิดค่ำควำมจริง (Booleans) เป็นต้น โดยในกำรตรวจสอบชนิดข้อมูลจะใช้ฟังก์ชัน type ในกำรตรวจสอบ ฟังก์ชัน type ฟังก์ชัน type ใช้ตรวจสอบชนิดของข้อมูล กำรเรียกใช้งำนฟังก์ชัน type ให้พิมพ์ type(ข้อมูลที่ต้องกำรตรวจสอบ)


21 และหำกต้องกำรตรวจสอบข้อควำมจะต้องพิมพ์ข้อควำมให้อยู่ภำยใน เครื่องหมำย " " หรือ' ' เสมอ ตัวอย่าง 6 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบข้อควำม จำกตัวอย่ำง 6 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบข้อควำม ผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็น ข้อมูลชนิด str โดยตัวย่อ str หรือ String เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร ซึ่งจะรวมถึงเครื่องหมำย ต่ำง ๆ และกำรเว้นช่องว่ำง โดยข้อมูลชนิดตัวอักษรจะต้องอยู่ในเครื่องหมำย " " หรือ ' ' เสมอ ตัวอย่าง 7 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบตัวเลข


22 จำกตัวอย่ำง 7 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบตัวเลข ผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็นข้อมูล ชนิด int โดยตัวย่อ int หรือ Integer เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม ที่มีค่ำเป็นจ ำนวนเต็ม บวก จ ำนวนเต็มศูนย์และจ ำนวนเต็มลบ ซึ่งอำจเป็นเลขฐำนสิบ เลขฐำนสอง (น ำหน้ำด้วย 0b) เลขฐำนแปด (น ำหน้ำด้วย 0o) หรือเลขฐำนสิบหก (น ำหน้ำด้วย 0x) เช่น ดังนั้น ข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็มที่ไม่มีตัวเลขและตัวอักษรน ำหน้ำก็คือเลขฐำนสิบ นั่นเอง ตัวอย่าง 8 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบตัวเลขทศนิยม จำกตัวอย่ำง 8 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบตัวเลขทศนิยม ผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็นข้อมูลชนิด float โดย Float เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริงหรือจ ำนวนทศนิยม มีค่ำเป็นได้ ทั้งจ ำนวนบวกและจ ำนวนลบ


23 ตัวอย่าง 9 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบค่ำควำมจริง (True หรือ False) จำกตัวอย่ำง 9 กำรใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบค่ำควำมจริง ผลลัพธ์ที่ได้คือ เป็น ข้อมูลชนิด Booleans โดยตัวย่อ bool หรือ Booleans เป็นข้อมูลชนิดค่ำควำมจริงหรือ ข้อมูลตรรกะ ซึ่งเป็นค่ำควำมจริงของเหตุกำรณ์มีค่ำเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) เท่ำนั้น (ศึกษำเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลชนิด Booleans หน้ำ 42 – 46)


24 การแปลงชนิดข้อมูล ฟังก์ชัน str ฟังก์ชัน str ใช้แปลงชนิดข้อมูลให้เป็ นข้อมูลชนิดตัวอักษร กำรเรียกใช้งำน ฟังก์ชัน str ให้พิมพ์ str(ข้อมูลที่ต้องกำรแปลงให้เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร) ตัวอย่าง 10 เป็นกำรแปลงข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม 54 ให้เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร '54'


25 จำกตัวอย่ำง 10เมื่อใช้ฟังก์ชัน type ในกำรตรวจสอบชนิดข้อมูลของ 54 ผลลัพธ์ ที่ได้คือ int หรือ เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม เมื่อใช้ฟังก์ชัน str ในกำรแปลงชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ '54'ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร ฟังก์ชัน int ฟังก์ชัน int ใช้แปลงชนิดข้อมูลให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม กำรเรียกใช้งำน ฟังก์ชัน int ให้พิมพ์ int(ข้อมูลที่ต้องกำรแปลงให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม) ตัวอย่าง 10 กำรแปลงข้อมูลชนิดตัวอักษร "54" ให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม 54 และกำร แปลงข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง 56.7 ให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม 56 จำกตัวอย่ำง 11"54" เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร เมื่อใช้ฟังก์ชัน int ในกำรแปลงชนิด ข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ 54 ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม และ 56.7 เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวน จริง เมื่อใช้ฟังก์ชัน int ในกำรแปลงชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ 56 ซึ่งเป็นข้อมูลชนิด จ ำนวนเต็ม ทั้งนี้เป็นกำรแปลงข้อมูลชนิดจ ำนวนจริงให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็มโดยกำร ตัดทศนิยมทิ้งไป ซึ่งจะแตกต่ำงจำกกำรท ำให้เป็นจ ำนวนเต็มหรือกำรปัดเศษตำมหลัก คณิตศำสตร์ อย่ำงไรก็ตำมหำกต้องกำรปัดเศษตำมหลักคณิตศำสตร์สำมำรถเลือกใช้ ฟังก์ชัน round


26 ฟังก์ชัน round ฟังก์ชัน round ใช้แปลงชนิดข้อมูลตัวเลขให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม กำร เรียกใช้งำนฟังก์ชัน round ให้พิมพ์ round(ข้อมูลชนิดตัวเลขที่ต้องกำรแปลงให้เป็นจ ำนวนเต็ม) ตัวอย่าง12 กำรใช้ฟังก์ชัน round แปลงข้อมูลชนิดตัวเลข 56.75และ 56.35ให้เป็นข้อมูล ชนิดจ ำนวนเต็ม จำกตัวอย่ำง 12 ตัวเลข 56.75เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง เมื่อใช้ฟังก์ชัน round ในกำรแปลงชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้ คือ 57ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม และ 56.35เป็น ข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง เมื่อใช้ฟังก์ชัน round ในกำรแปลงชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้ คือ 56 ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่ำงจำกกำรใช้ฟังก์ชัน int ซึ่งเป็น กำรแปลงข้อมูลชนิดจ ำนวนจริงให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็มโดยกำรตัดทศนิยมทิ้งไป แต่ กำรใช้ฟังก์ชัน round จะเป็นกำรปัดเศษตำมหลักคณิตศำสตร์


27 ฟังก์ชัน float ฟังก์ชัน float ใช้แปลงชนิดข้อมูลให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง กำรเรียกใช้งำน ฟังก์ชัน float ให้พิมพ์ float(ข้อมูลที่ต้องกำรแปลงให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง) ตัวอย่าง 13 กำรแปลงข้อมูลชนิดตัวอักษร "54" ให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง 54.0และ กำรแปลงข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม 54 ให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง 54.0 จำกตัวอย่ำง 13 "54" เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร เมื่อใช้ฟังก์ชัน float ในกำรแปลง ชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ 54.0 ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง และ 54 เป็นข้อมูลชนิด จ ำนวนเต็ม เมื่อใช้ฟังก์ชัน float ในกำรแปลงชนิดข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้คือ 54.0 ซึ่งเป็น ข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง และหำกต้องกำรแปลงข้อมูลชนิดตัวอักษรให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวน จริงที่มีทศนิยมหลำยต ำแหน่งก็สำมำรถท ำได้โดยกำรพิมพ์ข้อมูลชนิดตัวอักษรให้มีจ ำนวน ทศนิยมตำมต้องกำร ตัวอย่าง 14 กำรแปลงข้อมูลชนิดตัวอักษร "54.79" ให้เป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง 54.79


28 การก าหนดตัวแปร กำรก ำหนดตัวแปรเป็นกำรก ำหนดหรือตั้งชื่อให้กับข้อมูล เพื่อให้สำมำรถอ้ำงอิง ถึงหรือเรียกใช้งำนในโปรแกรมได้หรืออำจกล่ำวได้ว่ำเป็นกำรก ำหนดค่ำหรือข้อมูล ต่ำงๆให้กับตัวแปรนั่นเอง กำรก ำหนดตัวแปรสำมำรถท ำได้โดยพิมพ์ ตัวแปร = ค่ำของตัวแปรที่ต้องกำรก ำหนด การก าหนดตัวแปรชนิดตัวอักษร เป็ นกำรก ำหนดข้อมูลชนิดตัวอักษรให้กับตัวแปร ข้อมูลจะต้องอยู่ภำยใน เครื่องหมำย " " หรือ' ' เสมอ สำมำรถก ำหนดตัวแปรโดยกำรพิมพ์ ตัวแปร = "ค่ำของตัวแปรที่ต้องกำรก ำหนดเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร"


29 ตัวอย่าง 15 กำรก ำหนดตัวแปร name ให้เก็บข้อมูล Johnซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร จำกตัวอย่ำง 15 เป็นกำรก ำหนดตัวแปร nameให้เก็บข้อมูล Johnซึ่งเป็นข้อมูล ชนิดตัวอักษร โดยกำรพิมพ์ name = "John"ซึ่งเมื่อใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบชนิดข้อมูลที่ เก็บอยู่ในตัวแปร name แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ คือ str ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร ทั้งนี้ สำมำรถใช้ฟังก์ชัน printแสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปร nameออกทำง จอแสดงผลได้ ตัวอย่าง 16 กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปร จำกตัวอย่ำง 16 เมื่อพิมพ์ print(name) เป็นกำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่ เป็นค่ำของตัวแปร nameออกทำงจอแสดงผล คือ John ตัวอย่าง 17 กำรก ำหนดตัวแปร aให้เก็บข้อมูลตัวเลข5ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร


30 จำกตัวอย่ำง 17 เป็นกำรก ำหนดตัวแปร aให้เก็บข้อมูลตัวเลข 5ซึ่งเป็นข้อมูล ชนิดตัวอักษร โดยกำรพิมพ์ a = "5" และใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัว แปร aออกทำงจอแสดงผล คือ 5 การก าหนดตัวแปรชนิดจ านวนเต็ม เป็นกำรก ำหนดข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็มให้กับตัวแปร สำมำรถก ำหนดตัวแปรโดย กำรพิมพ์ ตัวแปร = ค่ำของตัวแปรที่ต้องกำรก ำหนดเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม ตัวอย่าง 18 กำรก ำหนดตัวแปร b ให้เก็บข้อมูลตัวเลข5ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม จำกตัวอย่ำง 18 เป็นกำรก ำหนดตัวแปร b ให้เก็บข้อมูลตัวเลข 5ซึ่งเป็นข้อมูล ชนิดจ ำนวนเต็ม โดยกำรพิมพ์ b = 5 และใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัว แปร b ออกทำงจอแสดงผล คือ 5 การก าหนดตัวแปรชนิดจ านวนจริง เป็นกำรก ำหนดข้อมูลชนิดจ ำนวนจริงหรือจ ำนวนทศนิยมให้กับตัวแปร สำมำรถ ก ำหนดตัวแปรโดยกำรพิมพ์ ตัวแปร = ค่ำของตัวแปรที่ต้องกำรก ำหนดเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนจริง


31 ตัวอย่าง 19 กำรก ำหนดตัวแปร cให้เก็บข้อมูลตัวเลข5.78ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวน ทศนิยม จำกตัวอย่ำง 19 เป็นกำรก ำหนดตัวแปร c ให้เก็บข้อมูลตัวเลข 5.78ซึ่งเป็นข้อมูล ชนิดจ ำนวนจริงหรือจ ำนวนทศนิยม โดยกำรพิมพ์ c = 5.78 และใช้ฟังก์ชัน printแสดง ข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปร cออกทำงจอแสดงผล คือ 5.78 การก าหนดตัวแปรหลาย ๆ ตัว พร้อมกัน เรำสำมำรถก ำหนดค่ำให้กับตัวแปรหลำย ๆ ตัว พร้อมกันได้โดยกำรพิมพ์ ตัวแปร 1, ตัวแปร 2, ตัวแปร 3 = ค่ำของตัวแปร 1, ค่ำของตัวแปร 2, ค่ำของตัวแปร 3 และสำมำรถใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อควำมและค่ำของตัวแปรหลำย ๆ ตัวออก ทำงจอแสดงผลพร้อมกัน โดยพิมพ์ print(ตัวแปร1, ตัวแปร2, ตัวแปร 3) ตัวอย่าง 20 กำรก ำหนดค่ำให้กับตัวแปรหลำย ๆ ตัว พร้อมกัน


32 จำกตัวอย่ำง 20 เป็นกำรก ำหนดตัวแปร x, y, z ให้เก็บข้อมูล orange, banana, appleซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร โดยตัวแปร x จะเก็บข้อมูล orange ตัวแปร y จะเก็บ ข้อมูล banana และตัวแปร z จะเก็บข้อมูล apple หลังจำกนั้นจึงใช้ฟังก์ชัน print แสดง ข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปร x, y, z ออกทำงจอแสดงผล คือ orange banana apple และกำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อควำมหรือค่ำของตัวแปรหลำย ๆ ตัวออกทำง จอแสดงผลพร้อมกันนั้น สำมำรถท ำได้หลำยลักษณะ เช่น โดยกำรพิมพ์ print(ตัวแปร1+ตัวแปร2+ตัวแปร 3) ตัวอย่าง 21 กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงค่ำของตัวแปรหลำย ๆ ตัวออกทำงจอแสดงผล จำกตัวอย่ำง 21 เป็นกำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปร x, y, z ออกทำงจอแสดงผลพร้อมกัน ซึ่งเป็นกำรแสดงผลของตัวแปร x รวมกับตัวแปร y และ ตัวแปร z โดยมีผลลัพธ์คือ orangebananaapple เรียงต่อกันโดยไม่มีช่องว่ำง แต่หำก ต้องกำรให้มีกำรเว้นช่องว่ำงระหว่ำงผลลัพธ์ก็สำมำรถท ำได้ โดยกำรพิมพ์ print(ตัวแปร1+" "+ตัวแปร2+" "+ตัวแปร 3) ทั้งนี้ภำยใน " " มีข้อมูลช่องว่ำงซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษรอยู่ โดยระยะห่ำง ระหว่ำงตัวแปรก็ขึ้นอยู่กับจ ำนวนช่องว่ำงที่ก ำหนดใน " " นั่นเอง


33 ตัวอย่าง 22 กำรใช้ฟังก์ชัน print แสดงค่ำของตัวแปรหลำย ๆ ตัวออกทำงจอแสดงผล โดยมีกำรเว้นช่องว่ำงระหว่ำงตัวแปร กิจกรรม 2: ก ำหนดค่ำให้กับตัวแปรหลำย ๆ ตัว พร้อมกัน โดยให้ตัวแปรแต่ละตัวเก็บ ข้อมูลคนละชนิดกัน และใช้ฟังก์ชัน print แสดงข้อมูลที่เป็นค่ำของตัวแปรออกทำง จอแสดงผล


34 การรับข้อมูล ฟังก์ชัน input ฟังก์ชัน input ใช้ส ำหรับรับข้อมูลจำกผู้ใช้งำนโปรแกรมเข้ำมำทำงคีย์บอร์ด กำร เรียกใช้งำนฟังก์ชัน input ให้พิมพ์ input("ข้อควำมที่จะแสดงก่อนรับข้อมูล") โดยข้อควำมที่ต้องกำรแสดงจะต้องอยู่ในเครื่องหมำย " " หรือ' ' เสมอ ตัวอย่าง 23 กำรรับค่ำเข้ำมำเก็บไว้ในตัวแปร name จำกตัวอย่ำง 23 โปรแกรมจะแสดงข้อควำม Enter your name : เพื่อรับข้อมูลเข้ำ มำทำงคีย์บอร์ด ผู้ใช้งำนป้อนข้อมูลแล้วกด Enterข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในตัวแปร name


35 แล้วโปรแกรมจะแสดงข้อควำม Hello ตำมด้วยข้อมูลที่เก็บไว้ในตัวแปร name ซึ่ง ในที่นี้ คือ Jam โดยข้อมูลที่รับเข้ำมำทำงคีย์บอร์ดจะเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษรเท่ำนั้น เมื่อใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบชนิดข้อมูลที่เก็บอยู่ในตัวแปร name แล้ว ผลลัพธ์ ที่ได้ คือ str ซึ่งเป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร กิจกรรม 3: เขียนโปรแกรมเพื่อรับข้อมูล ชื่อเล่น และ บ้ำนเกิด พร้อมกล่ำวค ำทักทำยและ บอกว่ำเขำมีบ้ำนเกิดอยู่ที่ใด หำกต้องกำรรับข้อมูลที่เป็ นจ ำนวนเต็มหรือจ ำนวนทศนิยม จะต้องใช้ ฟังก์ชัน int หรือfloat ในกำรแปลงชนิดข้อมูลที่รับเข้ำมำในโปรแกรม


36 ตัวอย่าง 24 กำรรับค่ำอำยุแล้วแปลงเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็มเก็บไว้ในตัวแปร age จำกตัวอย่ำง 24 โปรแกรมจะแสดงข้อควำม Enter your age: และรับข้อมูลเข้ำ มำทำงคีย์บอร์ด แปลงข้อมูลเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม แล้วเก็บไว้ในตัวแปร age เมื่อใช้ฟังก์ชัน type ตรวจสอบชนิดข้อมูลที่เก็บอยู่ในตัวแปร age แล้ว ผลลัพธ์ที่ ได้ คือ intซึ่งเป็นข้อมูลชนิดจ ำนวนเต็ม กิจกรรม 4: เขียนโปรแกรมเพื่อรับข้อมูลที่เป็นตัวเลขจ ำนวนเต็ม 2 ค่ำ กิจกรรม 5: เขียนโปรแกรมเพื่อรับข้อมูลที่เป็นตัวเลขจ ำนวนจริง 2 ค่ำ


37 ส่ังซอ ื ้ หนังสอ ื การเขียนโปรแกรมภาษา Python เบอ ื ้ งตน ้ ด้วย Google Colab • E-Book ฉบับเต็ม : https://se-ed.com/s/dlWB • หนังสือเล่ม : Facebook fanpage คร ู ว ิ ทยย ์ ุ ค ใหม่สอนอย่างไรให้สร้างสรรค์


Click to View FlipBook Version