หนังสืออบี ุ๊ค
คำนำ
อีบุ๊คเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนรู้ วิธีการแพ๊คแบตเตอรี่ลิเธียมให้กับมอเตอร์ไซค์
ไฟฟา้ เพอ่ื ใหไ้ ด้ศึกษาหาความรู้ในเร่ืองราวของการแพค๊ แบตเตอรีล่ เิ ธียม สำหรับคนทีต่ ้องการจะแพ๊ค
แบตเตอรี่ใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ถูกต้องตามการใช้งาน และให้ได้มีคุณภาพกับการใช้งานของ
แบตเตอรี่ลเิ ธยี มทีเ่ ราแพ๊คให้กับรถมอเตอร์ไซค?ไฟฟา้ ของเราเป็นอย่างดี รวมไปถึงการอ่านและลงมือ
ปฏบิ ตั ิในการแพค๊ แบตเตอร่ีลิเธยี มอย่างเขา้ ใจแบบง่ายๆ
ผู้จัดทำคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำอีบุ๊คเล่มน้ีจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ
ศกึ ษาและต้องการท่จี ะแพ๊คแบตเตอรล่ี ิเธยี มให้รถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟา้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี
By-ช่างเดฟ
สารบัญ หนังสอื อีบุ๊ค
1.มอเตอร์ไซค์ไฟฟา้ คืออะไร หนา้
2.สว่ นประกอบสำคัญของรถมอเตอร์ไซคไ์ ฟฟ้า 5
3.แบตเตอร่ี 6
4.แบตเตอรท่ี ่ีใชก้ บั รถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟ้า 7
5.แบตเตอรลี่ ิเธียมไอออนคืออะไร 8
6.การทำงานของแบตเตอรลี่ ิเธียมไอออน 9
7.ประเภทของแบตเตอรี่ 10
8.ตารางประเภทของแบตเตอรีล่ เิ ธยี ม 11-17
9.ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัตขิ องแบตเตอรล่ี ิเธยี ม 18
10.คา่ ภายในของแบตเตอรีล่ ิเธยี ม 19
11.แบตเตอรี่ลิเธยี มท่ีนำมาใช้กบั รถมอเตอรไ์ ซคไ์ ฟฟ้า 20-24
12.ขอ้ มูลเฉพาะของแบตเตอรล่ี เิ ธียมฟอสเฟส 25
13.ข้อมลู เฉพาะของแบตเตอรล่ี ิเธยี มไอออน NMC 26
14.วธิ ีการเลือกซื้อเซลล์แบตเตอร่ีทมี่ าใชใ้ นการแพ๊ค 27
15.ความรพู้ ื้นฐานเก่ยี วกบั การต่อแบตเตอรี่ 28
16.อปุ กรณแ์ ละเครื่องมอื ท่ีใช้ในการแพ๊คแบตเตอร่ี 29-34
17.ขนั้ ตอนและวิธกี ารแพ๊คแบตเตอร่ี 48V,60V,72V 35-54
55-79
รถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟ้า
รถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟ้าคือรถมอเตอร์ไซค์ทใ่ี ช้แบตเตอรเ่ี ป็นพลังงานในการขบั เคลื่อนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามี
สว่ นประกอบเช่นเดยี วกับจักรยานไฟฟ้าเช่นกัน แตน่ ำ้ หนกั ของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะหนักกว่าจักรยานไฟฟ้า
มากมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะต้องพิจารณาระยะทางก่อนนำไปใช้งานเพื่อให้เหมาะกับความจุของแบตเตอร์ร่ีที่มีอยู่
เพราะถา้ แบตเตอร์ร่หี มดกลางทางจะต้องเปน็ หรือถอดแบตไปชาร์จซ่ึงจะไม่สะดวกซักเทา่ ไหรน่ ักส่วนประกอบ
ของชุดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็เหมือนกับจักรยานไฟฟ้ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีจุดเด่นเหนือกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไปคือ
การบำรุงรักษาต่ำมากไม่ต้องเติมน้ำมันวิ่งเงียบออกตัวเร็ว แต่ก็มีข้อเสียคือจะต้องพกชาร์จเจอร์ไว้ในการที่จะ
วิ่งไกล ๆ เกินกว่าความสามารถของแบตเตอรี่และการชาร์จแต่ละครั้งใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงการที่เราจะใช้
มอเตอร์ไซคไ์ ฟฟา้ เราต้องให้ความสำคัญแบตเตอรี่กบั ระยะทางในการใช้งานได้ดี
สว่ นประกอบสำคัญของรถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟา้
ชดุ มอเตอรก์ ารขับเคล่อื น
กลอ่ งควบคุม
ชุดคนั เรง่
แบตเตอรี่
แบตเตอรร่ี
แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบตเตอรี่มีอยูด่ ้วยกันหลายประเภทประสิทธิภาพ
คุณภาพความเชื่อถือได้และราคาที่แตกต่างกันทั้งนี้การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ของเรานนั้ จะตอ้ งมขี นาดแรงดันไฟท่ใี ชใ้ นการจ่ายไฟกับมอเตอรใ์ ห้มีความเหมาะสมกบั การนำมาใช้งานดว้ ย
แบตเตอรีท่ ี่ใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าใช้พลังงานจาก Rechargeable batteries มีทั้งการใช้แบตเตอรี่แบบตะก่ัว
Lead Acid ซึ่งราคาไม่แพง แต่มีข้อ จำกัด หลายประการเช่นน้ำหนักมากและอายกุ ารใช้งานไมน่ านเท่าที่ควร
กับสมัยใหม่ที่นิยมเลือกใช้แบตเตอร่ีลิเธยี ม Lithium battery ที่ใช้ลิเธยี มเป็นวัสดุขั้วของแบตเตอร่ีเนือ่ งจากลิ
เธียมเปน็ ธาตทุ ่มี นี ำ้ หนักน้อยและค่าศักย์ไฟฟ้ารดี ักชั่นมาตรฐานทต่ี ่ำเมอื่ นำมาใชเ้ ป็นวัสดุขั้วจะได้แบตเตอร่ีที่มี
ความจพุ ลังงานสงู
แบตเตอรร์ ล่ี เิ ธยี มไอออนคืออะไร
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-lon Battery)คือ แบตเตอรี่ขนาดเล็ก ความจุสูง แบตเตอรี่ลิเธียม
ไอออนพัฒนามาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 โดยบริษัท Asahi Chemicals และได้ วางตลาดในปี 1991
โดยบริษัท Sony แบตเตอร่ีรุ่นแรกนี้ได้ใช้ในโทรศัพท์มือถือของ Kyocera จดุ เด่นของ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
คือความจุพลงั งานและ กำลงั ไฟฟ้าที่สูงกว่าแบตเตอรี่ตระกลู นเิ กิลและกรดตะก่ัว นอกจากนี้ ยังมีค่าศักย์ไฟฟ้า
สูง มีอัตราการสูญเสียประจุ ระหว่างไม่ใช้งาน (self-discharge rate) ทต่ี ำ่ และมคี วามปลอดภัยสูง
การทำงานของแบตเตอรลี่ เิ รยี มไอออน
เมอ่ื มีการอัดประจุ (charge) ไอออนของอเิ ธียมจะเคล่ือนออกจากโครงสร้างของขว้ั บวก ผา่ นเยือ่ เลอื ก
ผา่ นเข้าส่ขู ั้วลบ เกิดเปน็ สารประกอบของลเิ ธียมและคารบ์ อนและขณะเดยี วกันอเิ ล็กตรอนจะเคลื่อนจาก
ข้ัวบวกสขู่ ั้วลบผา่ นวงจรภายนอก และขณะเกิดการคายประจุ (discharge)ปฏิกิรยิ าจะเกดิ ในทางตรงกนั ขา้ ม
ดงั แสดงในภาพด้านขนกระบวนการที่ ไอออนของลิเธยี มสอดแทรกเข้าไปอยใู่ นโครงสร้างของวสั ดุขั้วบวกหรือ
ข้วั ลบ เรยี กว่า lithium intercalation หรือ lithium insertion
ประเภทของแบตเตอร่ลี เิ ธยี ม
แบตเตอรลี่ เิ ธียมไอออนท่ีใชใ้ นปัจจุบันมี 6 ประเภท โดยทั่วไปจะแบง่ ตามวสั ดุทีใ่ ชท้ ำช่ัวบวกสว่ นขัว้
ลบทำจาก แกรไฟต์เป็นหลกั แตจ่ ะมีประเภท LTO (Lithium Titanate) ทีแ่ ตกตา่ งออกไปคอื มีขวั้ ลมเป็น ลิ
เธยี มไททาเนต ทั้งนเ้ี นื่องจากแบตเตอร่ีลิเธยี มไอออนแตล่ ะประเภทมคี ุณสมบัติแตกตา่ งกัน จึงมเี หมาะสมต่อ
การใชง้ านท่ีแตกตา่ งกนั ไปดว้ ย
1. ลิเธียมโคบอลต์ออกไซด์ (lithium cobalt oxide)ผลิตจากลิเรียมคาร์บอเนต (LIC0O2 ) และ
โคบอลต์ มีความจูประจุที่สูงนิยมใช้ในโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและกล้องดิจิตอล โดยมีขั้วแคโทด
เป็นโกบอลด์ออกไซด์ และมีแกรไฟต์เป็นขั้วแอโนด มีสัดส่วนการใช้งานประมาณร้อยละ75 อย่างไร ก็ดี
แบตเตอร่ชี นดิ นีม้ ขี อ้ จำกดั บางอย่าง คอื ช่วงการใชง้ านสน้ั (short lifespan) จงึ ตอ้ งมกึ ลประจุไฟใหม่บอ่ ยคร้ัง
2. ลิเธยี มแมงกานีสออกไซด์ (lithium manganese oxide:LMO) ผลติ จากลิเทียมแมงกานสี ออกไซด์
(LiMn204)หรืออาจเรียกว่า lithium manganese spinel โดยเทคโนโลยีดังกล่าวถูกค้นพบในยุค ค.ศ. 1980
และถูกนำ มาผลิตเพื่อใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 1996 โดย Moll Energy จัดว่ามีความเสถียรทางอุณหภูมิสูง
ทำให้เกดิ ความปลอดภัยในการใชง้ านมากกว่าแบตเตอรช่ี นิดอนื่ ๆ มกั ใชง้ านในอปุ กรณ์การแพทย์อุปกรณ์ชาร์จ
และอืน่ ๆ มลี ดั สว่ นการใช้งาน ร้อยละ 8
3. ลเิ ธยี มไอออนฟอสเฟต (lithium iron phosphate) ผลติ จาก LiFePO4 มีสัดสว่ นการใช้งานอยู่ท่ี ร้อยละ 2
มีความตา้ นทานต่ำ จึงส่งผลใหอ้ ุณหภมู คิ ่อนข้างเสถยี ร มชี ่วงอายุการใช้งานยาวนานให้ความคุ้มค่า แต่ให้
พลังงานที่ต่ำกว่า นิยมใชใ้ นแบตเตอรรี่ ถจักรยานยนต์ที่ต้องการอายุการใช้งานยาวนาน มสี ัดสว่ นการใชง้ านท่ี
รอ้ ยละ 2
4. ลิเธียมนิเกิลแมงกานสี โคบอลตอ์ อกไซด์
(lithium nickel manganese cobalt oxide: NMC)
Li Nil / 3 Mn1 / 3 Col / 3 02 มีองค์ประกอบของนกิ เกิลแมงกานีส และโคบอลต์อยา่ งละ 1/3 เพอ่ื ให้ได้
แบตเตอร่ีท่ีมีกำลังมากถูกนำมาใช้งานในอปุ กรณ์ชารจ์ รถยนตแ์ ละรถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เนื่องจากมอี ัตรา
เกดิ ความร้อนต่ำ (low self-heating rate) มรี าคาถกู ว่าชนิดลเิ ธียมโคบอลตอ์ อกไซด์ เนื่องจากมีสดั ส่วนการ
ใช้ปรมิ าณโคบอลต์ท่ีน้อยกวา่ 15
5. ลิเธยี มนิเกิลโคบอลต์อะลูมิเนียมออกไซด์ (lithium nickel cobalt aluminium oxide: NCA)
ยังไม่เป็นที่แพรห่ ลาย แต่เริ่มถูกนำมาใช้งานมากขนึ้ ในรถไฟขับเคลื่อน ดว้ ยไฟฟ้าและอุปกรณ์เกบ็ พลังงาน
(Grid storage) มีราคาค่อนข้างแพงนยิ มใช้ในยานยนต์ขับเคลอื่ นดว้ ยไฟฟา้ ที่ต้องการพลังงานสงู และมีอายุ
การใช้งานยาวนาน และไม่พบปัญหาการติดไฟหรือระเบดิ
6. ลิเธียมนิเกลิ ออกไซด์ (lithium nickel oxide) ผลติ จาก LiNiO2 เป็นแคโทด แบตเตอรีล่ ิเธียมดงั กล่าว เชน่
วสั ดุท่ใี ช้เป็นขั้วแคโทด ขั้วแอโนด ศกั ย์ไฟฟา้ เซลล์ (cell voltage) ความหนาแนน่ พลงั งาน (energy density)
และข้อมูลเปรยี บเทียบในเชงิ กำลังไฟฟ้า (power) ความปลอดภยั (Safety) อายุการใช้งาน (lifetime) และ
ราคา เปน็ ต้น แบตเตอร่ีท่ที ำจากวสั ดุตา่ งชนิดกันจะส่งผลให้เกดิ การกักเกบ็ พลังงานท่แี ตกตา่ งกนั ไปด้วย
ตารางประเภทของแบตเตอรี่ลิเธียม
ประเภทที่ วัสดุข้วั บวก วสั ดขุ ้วั ลบ การใช้งาน
1
Lithium Cobalt Oxide แกรไฟต์ โทรศัพท์มอื ถอื แท็บเลต็ แล็ปท็อป
(LiCoO2 , LCO) กล้องดจิ ิทลั
2 Lithium Manganese Oxide แกรไฟต์ เครื่องมือไฟฟ้า ( Power tools)
(LIMn2 O4, LMO) อุปกรณ์การแพทย์ระบบส่งกำลังใน
บ้านพาหนะไฟฟ้า
3 Lithium Nickel Manga nese แกรไฟต์ จักรยานไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์
Cobalt Oxide ระบบส่งกำลังในยานพาหนะไฟฟ้า
(Li(Ni,Mn,Co)O2, NMC,NCM) (มักใช้ในรถไฮบริด) ระบบสำรอง
ไฟฟ้า
4 Lithium Nickel Cobalt แกรไฟต์ อุปกรณ์การแพทย์ระบบส่งกำลังใน
Aluminum Oxide ยานพาหนะไฟฟ้า (เช่นที่พบใน
(Li(Ni,Co,Al)O2, NCA) Tesla Model S) ระบบรองไฟฟา้
5 Lithium Iron Phos phate แกรไฟต์ ระบบส่งกำลังในยานพาหนะไฟฟ้า
(LiFePO4, LFP) หรือแทนแบตเตอรี่กรดตะกั่วใน
ร ถ ย น ต ์ ( Start-Lighting-Ignition
battery) ระบบที่ต้องการกระแส
และความทนทานสูง
6 แกรไฟต์ หรือ LMO Lithium Titanate ระบบสำรองไฟฟ้า ระบบส่งกำลังใน
(Li4Ti5O12,LTO) ยานพาหนะไฟฟ้า (Mitsubishi
i-MiEV, Honda Fit EV)
วสั ดขุ ั้วบวก หนว่ ย LCO หรอื NCA NMC LMO LFP
วสั ดุขั้วลบ แกรไฟต์ แกรไฟต์ แกรไฟต์ LTO แกรไฟต์
ออกแบบโดยเนน้ ความจุพลัง ความจุ กำลังไฟฟ้า จำนวน กำลงั ไฟฟา้
พลงั งาน รอบใน
หรอื การใช้
กำลงั ไฟฟ้า งาน
ช่วงแรงดนั การใช้ V 2.5-4.2 2.5-4.2 2.5-4.2 1.5-2.8 2.0-3.6
งาน
(Operating
Voltage range)
แรงดนั เฉลย่ี V 3.6-3.7 3.6-3.7 3.7-3.8 2.3 3.3
(Nominal cell
voltage)
ความจพุ ลงั งานตอ่ Wh/kg 175- 100-240 100-150 70 60-110
น้ำหนกั 240(cylindrical)
130-
450(pouch)
ความจพุ ลังงานตอ่ Wh/L 400- 250-640 250-350 120 125-250
ปริมาณ 640(cylindrical)
250-
450(pouch)
อตั ราการคายประจุ C2 2-3 2-3 >30 10 125-250
อย่างต่อเนือ่ ง สำหรับ
(Continuous แบตเตอร่ี
discharge rate) ความจุ
พลังงานสูง
>30
สำหรับ
แบตเตอร่ี
อายกุ ารใชง้ าน รอบ กำลงั ไฟฟ้า
ชว่ งอุณหภูมทิ ี่ oC สงู
สามารถอดั ประจุได้
ชว่ งอุณหภูมทิ ี่ oC 500+ 500+ 500+ 4000+ 1000+
สามารถคายประจไุ ด้ 0-45 0-45 0-45 0-45 0-45
-20-60 -20-60 -30-60 -30-60 -30-60
คา่ ภายในของแบตเตอรี่ลิเธียม
1.) โวลต์ V: ย่อมาจาก voltage หมายถึงระดบั แรงดนั ของตัวแบตเตอรี่ lipo
โดยปกตแิ รงดันจากแบตเตอรี่ชนิด NI-CD, NI-MH จะมีแรงดนั ตอ่ เซลล์ที่
1.2 โวลต์ แตแ่ รงดันของแบตเตอรี่ lipo ตอ่ 1 เซลลจ์ ะเทา่ กบั 3.7 โวลต์
2.) มิลลแิ อมป์ mAh: ยอ่ มาจาก mili-ampere hours หมายถงึ ความจตุ อ่ ช่วั โมงท่ี
สามารถจ่ายกระแสไฟได้จนแบตเตอรี่หมดเช่นแบตขนาด 1,000 mAh หาก
นำไปตอ่ กับเคร่ืองใช้ที่ใช้กระแส 1,000 mAh แบตเตอรก่ี ้อนนีจ้ ะจ่ายกระแสไฟ
ได้ 1 ชวั่ โมงกอ่ นจะหมดประจุ
3.) ค่าซี
คา่ C คอื ความสามารถในการจา่ ยกระแสสูงสดุ ต่อเน่อื งและคงทีช่ ่ัวขณะ การคำนวณ ค่า C ของ lipo
- mAh x ค่า C / 1,000 = คา่ การจ่ายกระแสสงู สุด
ตัวอยา่ งเช่น หากทต่ี วั แบตเตอร่ี ระบุไวว้ า่
-7.4V 1,000 mAh = 20C
หมายถงึ แบตเตอรีม่ คี วามสามารถจ่ ายกระแสไฟได้ที่
-1,000 mAh x 20C = 20,000 MA = 20 Amps เลยทเี ดียว
( คา่ " C " ยง่ิ มากยิ่งจา่ ยไฟไดแ้ รง)
4. ค่า DOD
ค่า DOD มีความสำคัญ เนื่องจากแบตเตอรี่แบบที่ชาร์จใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ตะกั่วหรือ
แบตเตอรี่ลิเธียมมักจะมีความสมั พันธ์ระหว่างค่าความจุที่ถูกใช้ไป และรอบอายุการใช้งานซึ่งมักจะแปรผกผัน
กัน กล่าวคือ ยิ่งค่าความจุของแบตเตอรี่ถูกใช้ไปมาก จำนวนรอบการใช้งานก็จะสัน้ ลง เนื่องจากการคืนสภาพ
หลงั จากการใชง้ านสสู่ ภาพปกตทิ ำได้ยาก หากกา่ มี % ค่า DOD ทีส่ ูง
5. ความตา้ นทานภายใน (Internal resistance)
คือความด้านทานของเซลล์ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ที่มีต่อกระแสไฟฟ้าที่ผ่าน เป็นความด้านทานภายใน
เซลล์ เนื่องจากข้อต่อภายในและผลของสารเคมี (เช่น การเกิดโพราไรเซชั่น)ทำให้กระแสไฟฟ้า ในวงจรมีค่า
น้อยกว่า เป็นความสามารถของวัตถุในการต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้าค่าของความต้านทานขึ้นอยู่กับ
สภาพต้านทานของสาร ที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุและรูปร่างของวัตถุ หน่วยของความด้านทาน คือ มิลลิ
โอห์ม (๒./2) เมื่ออิเล็กตรอนเคลื่อนที่ในวัตถุจะชนอะตอม และมอบพลังงานให้ทำให้วัตถุร้อน เป็นการใช้
พลงั งานจากแหลง่ แรงเคลือ่ นไฟฟ้า
ขอ้ มมูลเฉพาะของแบตเตอร่ีลเิ ธยี มฟอสเฟต(LFP)
ขอ้ มูลเฉพาะของแบตเตอรี่ลิเธยี มไอออน(NMC)
วิธีการเลอื กซื้อเซลลแ์ บตเตอรีม่ าใชใ้ นการแพ็ค
สงิ่ ทเ่ี ราพจิ ารณาเลือกซอ้ื เซลลแ์ บตเตอร่มี าแพ็ค จะต้องดูคุณภาพของแบตเดอรจี่ ากโรงงานหรือผขู้ าย
เซลล์แบตเตอรี่ วา่ มีการทดสอบคณุ ภาพของแบตเตอรี่เหรอไม่
สง่ิ ทเ่ี ราควรรู้ในการทดสอบเซลล์แบตเตอรีค่ ือ
1. ค่าการชารท์ ของเซลลแ์ บตเตอรีไ่ ด้ตามสเปคของแบตเตอรี่
เช่น สเปคแบตเตอรช่ี าร์ทเต็ม ท4่ี .2v 4,000mah เวลาชาร์ท
เต็มแลว้ ต้องไดต้ ามท่ีระบุใว้
2. ค่าการดิทชารท์ หรือการกายประดูออกจนหมดแล้ว จากการ
ใช้เครื่องทดสอบ กระแสของเซลลแ์ บตเตอรี่ไดต้ ามสเปคหรือไม่
เช่น เซลลแ์ บต 4.2v 4,000mah การดิทชาร์ท 4.2V-3.2V
กระแลที่ได้ด้อง 4,000mมh เหมือนสเปกที่บอกใว้
3. การใชเ้ ครื่องทดสอบการปล่อยค่า C ต่อเน่ืองได้ตามสเปค
ของเซลลแ์ บตเตอร่ี ท่ผี ู้ผลติ ไดบ้ อกไว้หรือไม่
(ค่า " C " ยิ่งมากยิง่ จ่ายไฟได้แรง)
3V 8V
วิธีเชือ่ มต่อแบตเตอรี่ แบบขนาน
เปน็ การตอ่ แบบเพิ่มความจุ กระแส(A) จะมากข้นึ แตแ่ รงดนั เท่าเดิม (V) การตอ่ แบบขนาน-คือการนำข้ัวบวก
ของแบตเตอร่หี นงึ่ ไปตอ่ กับข้ัวบวกของอีกลูกหน่งึ และนำหัวรบแบตเตอร่ีหนึ่งไปต่อกบั ขั้วลบอีกลูกหนึ่ง การต่อ
แบบนี้จะทำให้กระแสไฟฟ้าเพิ่มข้ึนแต่แรงเท่าเดิม
การตอ่ แบตเตอร่ีแบบผสม
การต่อแบตเตอรี่แบบ ผ ส ม ( MixBattery
Connection) ก า ร ต่ อ แบตเตอรี่แบบนี้จะ
ผสมผสานระหว่างการต่อแบตเตอรี่แบบอนุกรมและแบบขนานเข้าไปด้วยกัน โดยเราสามารถออกแบบได้เลย
ว่าเราต้องการให้แบตเตอร์รี่จ่ายไฟเท่าไหร่ หรือ ต้องการให้ชุดแบตเตอรี่มี แรงดัน(V) ไฟฟ้ากี่โวลต์ และ
กระแสไฟฟ้า (A)เท่าไหร่
ตวั อย่าง
ในกรณที ี่เราจะแพ็คแบตเตอร่ี ลิเธียมไอออน Nmc
- แรงดนั ไฟฟา้ 3.7V 4,000 mah ( 4 Ah)
- ระบบ 48V 20 AH
- เซลล์แบตเตอรใี่ ช้อยู่ 65 เซลล์ ต่ออนกุ รมกัน 1 แถว 13 เซลล์ = 48 V (3.7V x 13S = 48V)
-ต่อขนานกัน 5 แถวได้ 20 AH ใน 1 แถวได้ 4 Ah (5P x 4 Ah ) = 20 Ahต่ออนกุ รม 13S x 3.7V = 48V
ตวั อยา่ ง
ในกรณที เ่ี ราจะแพ็คแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน Nmc
-แรงดันไฟฟา้ 3.7V 4,000 mah ( 4 Ah)
-ระบบ 60V 20 AH
-เซลลแ์ บตเตอร์ร่ีใช้อยู่ 85 เซลล์ ต่ออุกรมกัน 1 แถว 16เซลล์ = 62V (3.7 x 16S = 67 V)
-ตอ่ ขนานกัน 5 แถว ได้ 20 AH ใน 1 แถวได้ 4 Ah (5P x 4 Ah ) = 20 Ah ต่ออนุกรม 16S x 4.2V = 67v
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกบั การเชื่อมแบตเตอรแ่ี บบ อนกุ รม ขนาน และผสม
การต่อแบบอนุกรม เป็นการต่อเพ่ือเพ่มิ แรงดัน (V) แต่กระแส(A)เท่าเดมิ
การตอ่ แบบอนุกรม – คือการนำข้ัวบวกของแบดเตอรี่เซลล์ท่หี นงึ่ มาต่อกับข้วั ลบอีกเซลลห์ นึ่งไปเรอ่ื ยๆจนได้
แรงดนั ตามที่ออกแบบไว้ การต่อแบบอนกุ รมนจ้ี ะทำใหแ้ รงดันไฟฟา้ เพิม่ ขน้ึ แต่กระแสในระบบจะเท่าเดิม
แบตเตอรี่ลิเธยี มที่นิยมนำมาใช้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบตเตอรีล่ ิเธียมเองน้ัน ก็ยังมีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละ
ประเภทจะเหมาะสมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานต่างกัน สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เมื่อทดสอบหลายๆ ด้าน
ทั้งด้านกำลังอายุการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพโดยรวมแล้วแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ฟอสเฟต
Lithium Iron Phosphate (LFP ห ร ื อ LiFeP04) แ ล ะ Lithium Nickel Manganese Cobalt (NMC) ซ่ึ ง
แบตเตอรท่ี ั้ง 2 ชนิดจะมจี ดุ เดน่ ทใ่ี หก้ ำลังสูง อายุการใชง้ านยาวนาน และมีความปลอดภัยสูง
ตัวอย่าง
ในกรณที เ่ี ราจะแพคแบตเตอรี่ลเิ ชียมไอออน Nmc
-แรงดันไฟ 3.7v 4000 Mah (4 Ah)
-ระบบ 72V 20 AH
-เซลล์แบตเตอรี่ใช้อยู่ 100 เซลล์ ตอ่ อนกุ กรมกนั 1 แถว
มี 20 เซลล์ = 74v (3.7Vx 20S=74V)
-ตอ่ ขนานกนั 5 แถวได้ 20AH ใน1แถวได้ 4 Ah(5P x 4Ah) = 20 Ah
อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือท่ใี ชใ้ นการแพ็คแบตเตอร่ี
1. มตั ตมิ เิ ตอร์วดั ความตา้ นทาน
2. มิตเตอรด์ ิจติ อล
3. หัวแรง้ และตะก่ัว
4. เคร่ืองสปอต
5. รางใส่เซลลแ์ บตเตอร่ี (โฮลเดอร์)
6. ลวดการเชอื่ มตอ่ เซลล์แบตเตอรี่ ( นคิ เกดิ )
7. เทปกาวแบบกนั ความร้อน
8. เทปกาวกนั ซ็อตของขั้วบวกเซลลแ์ บตเตอร่ี
9. แผ่นอพี ็อกซ่ีกันช็อต
10. เทปใยสับปะรด Filament Tape ลายตาราง
11. ทอ่ หด PVC
12. ขว้ั ตอ่ แอนดิสัน
13. สายไฟ DC
14. Bms
1. เครอื่ งวดั ความต้านทานภายในแบตเตอร่ี
เป็นเคร่ืองมอื วัดทางไฟฟ้าที่มีความสามารถในการวัดค่า
ไดห้ ลายประเภท เช่น การวดั แรงดนั ไฟฟา้ (voltage)
กระแสไฟฟา้ (Current) ความถไี่ ฟฟ้า (frequency)
และความต้านทานไฟฟ้า (Resistance) เป็นต้น ซงึ่ เป็นเครื่องมือวัดพื้นฐานที่มคี วามจำเปน็ ในการพฒั นา
ชิ้นงานทางอิเล็กทรอนกิ ส์เปน็ อยา่ งมาก
2. มติ เตอร์ดิจิตอลวดั แรงดันไฟ
เป็นเคร่อื งมอื วัดทางไฟฟ้าที่มีความสามารถในการวัดค่าได้
หลายประเภท เช่น การวดั แรงดนั ไฟฟ้า (voltage)
กระแสไฟฟ้า (Current) ความถ่ีไฟฟ้า (frequency)
เป็นต้น ซ่ึงเปน็ เครื่องมือวัดพ้ืนฐานที่มีความจำเปน็ ในการพัฒนา
ชนิ้ งานทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอยา่ งมาก
3. หวั แร้งและตะกั่ว
- หัวแร้ง เปน็ เคร่อื งมือที่ใช้ในการบดั กรี โดยให้ความร้อนกับสารบัดกรี จนหลอมเหลวและไหลเขา้ ไปรวม
ช้ินงานโลหะเขา้ ด้วยกัน เปน็ เครอ่ื งมือที่ในการบดั กรีอุปกรณท์ างไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์
- ตะกั่วเปน็ วสั ดุที่ทำหน้าที่ ตัวเช่อื มประสานรอยต่อของสายไฟหรือขาของอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์เข้า
ดว้ ยกนั หรือต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ สเ์ ข้ากบั ลายวงจร
4. เครื่องสปอต (Spot welding)
เครอ่ื งสปอต เป็นเครื่องมือใชส้ ำหรับการเช่ือมระหว่างแผ่นนิคเกิลและขัว้ ของเซลล์แบตเตอร่ีใหม้ ีการยึดตดิ
ท่ดี ขี องขั้วแบตเตอรีแ่ ละแผ่นนิคเกลิ สำหรับการแพค็ แบตเตอร่ใี ช้กบั รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
5.รางใส่เซลลแ์ บตเตอร่ี (โฮลเดอร์)
เปน็ ตัวยึดของเซลล์แบตเตอรี่ในการแพ็คแบต ใหค้ วามหนาแนน่ แขง็ แรงสำหรบั การแพค็ และยังทำใหเ้ ซลล์
แบตเตอรี่มีชว่ งระยะห่างแต่ละเซลล์ ทำให้มีการระบายความร้อนของเซลลแ์ บตเตอรี่ไดด้ ้วย ตัวโฮลเดอรท์ ใ่ี ช้ก็
มีให้เลือกซ้ือได้ตามขนาดของเซลลแ์ บตเตอร่ที ่เี ราจะนำมาแพ็ค เวลาซอื้ เราต้องดูขนาดดว้ ยว่าเซลลแ์ บตเตอรี่
ขนาดไหน เช่น เซลล์ ขนาด 18650 21700 32650 เป็นต้น
6.ลวดนิเกิล
ใช้สำหรับการเชื่อมตอ่ ระหวา่ งขัว้ ของแบตเตอรี่ สำหรับการแพ็คให้มคี วามยึดตดิ แนน่ กบั ขั้วของ
แบตเตอรี่ เพอื่ ใหแ้ รงดันและกระแสไฟของเซลล์แบตเตอรี่ไหลผา่ นไดด้ มี ากข้ึนสำหรบั ลวดนิเกลิ ทใ่ี ช้กันก็จะมี
ตามขนาดของเซลลแ์ บตเตอรี่ท่ีจะนำมาแพ็คดว้ ยเหมือนกนั เชน่ มีขนาด 0.1- 0.2 มิล
7. เทปกาวแบบกนั ความร้อน
ใช้สำหรบั ตดิ กนั ช็อตหลังจากที่เราเร่ิมสปอตขัว้ ของเซลลแ์ บตเตอร่ใี นแต่ละเซลลแ์ บตเตอร่ี เราจะติดเทปกาวไว้
ทุกครัง้ หลังจากสปอตเสรจ็ เพอื่ ป้องกันการช็อตระหวา่ งการสปอตขว้ั แบตเตอร่กี ับแผน่ นคิ เกลิ กันความร้อน
สะสมภายในแพ็คแบตเตอร่ี
8. เทปกาวกนั ช็อตของข้ัวเซลลแ์ บตเตอร่ี
ใชส้ ำหรับตดิ ทขี่ ั้วบวกของเซลลแ์ บตเตอรี่ เพ่ือป้องกันการช็อตระหว่างข้วั ลบ ช่วงที่สปอตลวดนคิ เกิลทข่ี ั้วบวก
เพราะตัวข้วั บวกมพี นื้ ทอี่ ยู่ใกลข้ ว้ั ลบมากและมีพื้นท่ีในการสปอตทน่ี ้อยเพื่อป้องกนั การช็อตเราตวรติดเทปกาว
แบบแหวนที่ข้ัวบวกไว้ในขน้ั ตอนของการแพ็คด้วย
9. แผ่นอีพ็อกซ่กี ันซ็อต
ใชส้ ำหรบั กันซอ็ ตและใช้ป้องกันการกระแทกในการใช้งานของแบตเตอรี่ท่เี รแ่ พค็ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟา้
ทใ่ี ชแ้ ผน่ อีพอ็ กซใี่ นท้องตลาดทัว่ ไปท่ใี ชม้ ีขนาด 2 มิลลเิ มตรขน้ึ ไป
10. เทปใยสับปะรด FILAMENT TAPE ลายตรง
ใชส้ ำหรบั ยึดติดเซลลแ์ บตเตอรใ่ี หม้ คี วามแนน่ หนามาหข้ึนและใช้ติดแผน่ อีพ็อกซ่ีกับตัวแบตเตอรีท่ ี่
แพ็คแลว้ ให้มีความแข็งแรงมากขน้ึ
11. ท่อหด PVC
ใชส้ ำหรับหอ่ หุม้ ตวั แบตเตอร่ีที่เราแพ็ค เพ่ือป้องกนั ไม่ใหน้ ้ำเข้าไปในแบตเตอร่ี กันซ็อต และทำให้
แบตเตอร่ีทแ่ี พ็คดเู ป็นสดั สว่ นสวยงามเมือ่ นำไปใชง้ าน
12. ขั้วแอนดิสนั
อตั ราการรองรับแรงดันไฟตรง หน่วย 30A 50A 120A 175A
ขณะใชง้ าน โวลต์ / Volts 600 600 600 600
เส้นผา่ นศูนย์กลางรูรับสายของ
ขว้ั สมั ผสั มม. / mm. 2.1 5.5 8 10
พ้นื ท่หี นา้ ตดั รรู บั สายของข้ัว
สัมผัส ตาราง มม./ 5.1 21.2 40.25 85
หมายเลขขนาดสายทรี่ องรบั Sq. mm.
คุณสม ับ ิต อุณหภมู กิ ารใช้งานของตัวเรือน 12 3 0 00
มาตรฐานการรองรบั เปลวไฟของ AWG -20ถงึ 105 -20ถึง105 -20ถงึ 105 -20ถึง105
ตวั เรือน องศา C. UL94 V-0 UL94 V-0 UL94 V-0 UL94 V-0
วัสดขุ องเรือน
วัสดุของขว้ั สัมผสั ตาราง มม./ Polycarbonate Polycarbonate Polycarbonate Polycarbonate
พน้ื ท่หี น้าตดั สายไฟ Sq. mm. ทองแดงชุบเงนิ ทองแดงชบุ เงิน ทองแดงชบุ เงิน ทองแดงชุบเงิน
มม. / mm.
เส้นผ่านศูนยก์ ลางสายไฟ 3.2 8.03 20.1 31.97
หมายเลขขนาดสายไฟ AWG
สายไฟขนาดท่ีเหมาะสม รองรบั กระแสไฟตรงสูงสุดพืน้ ที่ แอมแปร์ / 2.02 3.2 5.07 6.38
เปิด(Free Ai) 12 8 4 2
รองรับกระแสไฟตรงสงู สดุ ในท่อ A.dc 41 73 135 181
รอ้ ยสาย(Conduil) แอมแปร์ /
23 46 80 100
A.dc
ขั้วแอนดิสัน เป็นขั้วต่อไฟไปใช้งานสำหรับแพ็คแบตเตอรี่ที่เราทำการแพ็คแบตเตอรี่เสร็จแล้ว ข้ัว
แอนดิสันมีอยูด่ ้วยกัน 2 แบบ คือตัวผู้และตัวเมียในการต่อใชง้ าน การเลือกขั้วต่อแอนดิสันนั้นเราตอ้ งเลือกค่า
ของขั้วที่สามารถทนต่อกระแส ไฟที่ไหลผ่านได้ จากแบตเตอรี่ที่เราใช้มีปริมาณและการใช้งานกี่แอมป์
(สามารถดูไดจ้ ากตารางดา้ นบน)
อัตราการรองรบั แรงดนั ไฟตรง หน่วย 30A 50A 120A 175A
ขณะใช้งาน โวลต์ / Volts 600 600 600 600
เส้นผ่านศนู ย์กลางรรู บั สายของ
ขว้ั สมั ผัส มม. / mm. 2.1 5.5 8 10
พน้ื ท่หี นา้ ตัดรรู บั สายของข้ัว
สมั ผสั ตาราง มม./ 5.1 21.2 40.25 85
หมายเลขขนาดสายทรี่ องรบั Sq. mm.
คุณสม ับ ิต อุณหภูมิการใช้งานของตัวเรือน 12 3 0 00
มาตรฐานการรองรบั เปลวไฟของ AWG -20ถึง105 -20ถึง105 -20ถงึ 105 -20ถงึ 105
ตวั เรือน องศา C. UL94 V-0 UL94 V-0 UL94 V-0 UL94 V-0
วัสดุของเรือน
วัสดุของขว้ั สัมผสั ตาราง มม./ Polycarbonate Polycarbonate Polycarbonate Polycarbonate
พืน้ ที่หน้าตัดสายไฟ Sq. mm. ทองแดงชุบเงิน ทองแดงชุบเงนิ ทองแดงชบุ เงิน ทองแดงชบุ เงิน
มม. / mm.
เส้นผ่านศูนยก์ ลางสายไฟ 3.2 8.03 20.1 31.97
หมายเลขขนาดสายไฟ AWG
สายไฟขนาดท่ีเหมาะสม รองรับกระแสไฟตรงสูงสุดพ้ืนท่ี แอมแปร์ / 2.02 3.2 5.07 6.38
เปิด(Free Ai) 12 8 4 2
รองรับกระแสไฟตรงสงู สดุ ในท่อ A.dc 41 73 135 181
ร้อยสาย(Conduil) แอมแปร์ /
23 46 80 100
A.dc
13. สายไฟ DC
สายไฟที่ใชก้ ับแบตเตอรี่ท่ีเราแพค็ จะต่อออกจาก Bms ไปใช้งานน้นั ต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับ
แบตเตอรี่ท่แี พ็คดว้ ยจะต้องรองรับแรงดนั และกระแสไฟท่ีนำไปใชง้ าน เพ่ือให้เกิดความรอ้ นและไหม้ สายไฟใน
การใชง้ านจะต้องเลือกขนาดท่ีสามารถรองรับกระแสไฟวา่ มีปริมาณทอี่ อกมาน้นั มีกี่แอมป์ (สามารถดูได้จาก
ตารางดา้ นบน)
14. Bms
Battery Management System (BMS) ในแบตเตอรี่ คือ ระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ใดๆ ท่ีใช้ในการ
จดั การแบตเตอร่แี บบชาร์จได้ (แบตเตอร่ีแบบแพค็ ) ซ่ึงมหี ลายขนาดข้ึนอยกู่ บั จำนวนอนกุ รมแบตเตอรท่ี จี่ ะใช้
งาน คลา้ ยกับวงจรปอ้ งกนั แบตเตอร่ี PCB Protected แบบเซลลเ์ ดียว แตถ่ ้าพดู ถงึ วงจร BMS จะหมายถึงการ
ต่อแบตเตอรี่หลายก้อน แบตเตอร่ีแบบแพ็ค ซึ่งจะมีฟงั กช์ ั่นการทำงานที่มากกว่าวงจรป้องกัน PCB
Protected อยา่ งวงจรป้องกัน PCB Protected จะทำหน้าท่สี ำคญั ๆ 3 อยา่ ง ไดแ้ ก่ คอยปอ้ งกันการใชง้ านท่ี
กระแสเกนิ (Over Current Protection) ป้องกนั แรงดันการชาร์จไฟเกิน (Over Charge Voltage
Protection) และป้องกันการใช้ไฟในระดับโวลตท์ ่ตี ่ำกว่ากำหนด
วธิ ีการทำงานของ BMS สังเกตข้อบอ่ งพร่องและตรวจสอบจากเซน็ เซอร์เซลลท์ ห่ี ลักๆ เช่น
การวดั กระแส
ในการต่อวงจรใช้งานมีการประมวลผลจาก ECU เพื่อตรวจสอบไม่ให้จ่ายเกินกว่า Capacity ของ
แบตเตอรส่ี ามารถปลอ่ ยได้โดยการตัด/ต่อ ไปท่ภี าคจ่ายไฟ ฟอสเฟต หรอื คอนแทกเตอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
การเสยี หายตอ่ วงจรและเซลล์
การวดั อณุ หภมู ิ
เพื่อป้องกันอุณหภูมิเกินค่ามาตราฐานของแบตเตอรี่ ถ้าเกินจะสั่งหยุดการทำงานทันที เมื่ออุณหภูมิ
ลดลงกจ็ ะเปิดวงจรอกี คร้งั
การวัดความดนั
เม่ือตอ้ งการแรงดันไฟ ตอ้ งทำการตอ่ อนุกรม เชน่ แบตเตอร่ีลิเธียมไอออน 48V จะต้องตอ่ อนุกรม กัน
3.7×13S = 48V ลเิ ธยี มไอออนเฟส 48V จะต้องต่ออนุกรม กัน 3.2×15S = 48V
เวลาซื้อ BMS เคา้ จะบอกว่า ตอ้ งก่ี S คอื ช่องท่สี ามารถตอ่ อนกุ รมได้เพ่ือท่ีจะได้แรงดัน (V)
BMS จะทำการตรวจเช็คแรงดนั ในเวาชารจ์ /ดิสชาร์จ เพือ่ ปรับความสมดุลของแตล่ ะเซลลข์ องแบตเตอร่ี (S)
การเลือกใช้ BMS
แบตเตอรี่ลิเธียมแต่ละชนิดต้องใช้ MBS ที่แตกต่างกัน (บางชนิดอาจใช้ด้วยกันได้ เช่น NMC NCA)
โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต ที่คนส่วนมากชอบคิดว่ามันคือแบตลิเธียม ซึ่งจริง ๆ ก็ใช่นั่นแหล่ะ แต่
คาแร็คเตอร์มันต่างกัน แบตเตอรี่รี่ลิเธียมฟอสเฟตจะมี voltage ที่ต่ำกว่าไม่ว่าจะเป็น Maximum voltage,
nominal voltage หรือ cut-off voltage จะต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมทั่ว ๆ ไป ซึ่งหากเอา BMS ของ
แบตลิเธียมฟอสเฟตไปใช้แบตลิเธียมปกติ มันจะชาร์จได้ไม่เต็ม เพราะมันตะตัดก่อน และมันไม่มีส่วนช่วยใน
การปอ้ งกันแบตเตอรี่
วธิ ีการเลือกใช้ BMS มาใช้กบั การแพ็คแบตเตอร่ี
รถมอเตอร์ไซไฟฟ้านั้น ใหด้ ูทีโ่ หลดการใช้งานเราเผื่อการพีทของโหลดใชง้ านต้องเผื่อไว้ถึง 3 เท่า เช่น
หากโหลด 20A คือเอา 20A × 3 = 60A ให้เลือก BMS ที่ 60-80 A เพราะถ้าเราเลือกแอมป์น้อยการการพีท
ในการใช้งานของ BMS จะทำให้ BMS ร้อนและเสียไว ยิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งดี เพราะรองรับโหลดได้มากขึ้น แต่ก็จะ
แพงข้ึนตามลำดับ และทส่ี ำคัญต้องเลือก BMS ให้ตรงตามชนิดของเซลล์แบตเตอร่ีท่ีไปแพ็คให้ดูว่าแบตเตอร่ีท่ี
เราแพค็ เป็นชนิดไหนเชน่ NMC หรือ LEP ดว้ ย
ตัวอยา่ งเลอื ก Bms
การแพ็คแบตเตอร่ีให้รถมอเตอร์ไซคไ์ ฟฟ้าในปัจจบุ ันทใี่ ช้กันอยมู่ แี รงดันไฟเรมิ่ ตน้ 48V 60V 72V ย่ิงแรงดนั ไฟ
มากรถมอเตอร์ไซค์กแ็ รงตามไปดว้ ยและกระแสไฟที่ใชห้ รือแอมป์(A)กส็ ามารถเลือกตามปรมิ าณการใช้งานได้
ยิ่งแอมป์มาก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟา้ กย็ ิง่ ไดร้ ะยะทางที่มากข้ึนด้วย แตร่ าคาในแพ็คก็จะแพงขึ้นเช่นกนั
การแพ็คแบตเตอรี่
1. 48V 20AH (3.7 x 13 = 48V) ต้องใช้ Bms ขนาด 13S 60AH หรือมากกว่า
2. 60V 20AH (4.2 x 16 = 67V) ตอ้ งใช้ Bms ขนาด 16S 60AH หรือมากกว่า
3. 72V 20AH (3.7 x 20=74 V) ต้องใช้ Bms ขนาด 20S 60AH หรือมากกวา่
ขนั้ ตอนการแพ็คแบตเตอรี่
ขน้ั ตอนท่ี 1
การนำเซลลแ์ บตเตอรี่ลเิ ธยี มท่ีซื้อจากผูข้ ายทจ่ี ะแพค็ ไปชาร์ทไฟใหเ้ ต็มเพื่อใหไ้ ด้แรงดันไฟ (V) และ
กระแสไฟ (A) เทา่ กันทุกเซลล์ก่อนทีจ่ ะแพ็คเพ่ือใหไ้ ด้คุณภาพท่ดี ีของเซลลแ์ บตเตอร่ีท่ีจะนำไปใช้งานกับรถ
มอเตอรไ์ ซคไ์ ฟฟา้ ทเี่ ราใช้งาน
ขั้นตอนท่ี 2
การจดั กรุ๊ปเซลล์แบตเตอรลี่ เิ ธียมใหไ้ ดค้ า่ ความต้านทานภายใน (IR) มีหนว่ ยเป็นมิลโิ อหม์ ทีเ่ ทา่ กนั หรอื
ให้ไดใ้ กล้เคียงมากท่สี ดุ โดยการนำเอาคา่ IR ในกรปุ๊ มาบวกกันเพ่ือให้ไดผ้ ลรวมของแตล่ ะกรุป๊ ท่เี ทา่ กันหรือ
ใกล้เคยี งกนั มากที่สุดขั้นตอนนีเ้ ปน็ ส่ิงสำคญั มากสำหรับการแพค็ แบตเตอร่ีใช้กับมอเตอร์ไซค์ไฟฟา้
วธิ ีการทำมีดงั น้ี
1. การนำเซลล์แบตเตอร่ีลเิ ธยี มทีช่ ารท์ เตม็ แลว้ ทัง้ หมดมาวดั หาคา่ IR แล้วทำการเขียนคา่ IR ไวท้ ี่
เซลลแ์ บตเตอรีท่ ุกเซลล์โดยใช้เครอ่ื งวดั ค่าความต้านทานภายในแบตเตอรีเ่ ป็นตวั วัด 2. การนำเซลล์แบตเตอรี่ที่
วดั ค่า IR ทง้ั หมดทจ่ี ะแพ็คมาทำการจัดกร๊ปุ เซลลแ์ บตเตอร่ีจากคา่ IR ทวี่ ัดไดโ้ ดยใชโ้ ฮลเดอรใ์ นการจัดวางเซลล์
แบตเตอรี่โดยการจดั คา่ ความต้านทานภายในแตล่ ะกร๊ปุ ให้ได้เทา่ กันมากทส่ี ดุ หรือให้ได้ใกลเ้ คียงมากที่สดุ นำคา่
IR ในกร๊ปุ มาบวกกันให้ได้ผลรวมท่ใี นแต่ละกรุ๊ปเทา่ กันหรือใกลเ้ คียงกนั มากทส่ี ดุ ตามรูปตัวอย่างในตารางหน้า
ถดั ไป
ข้ันตอนการแพ็คแบตเตอร่ี
ข้ันตอนที่ 1
การนำเซลล์แบตเตอรลี่ เิ ธยี มทซ่ี อื้ จากผู้ขายทีจ่ ะแพ็คไปชารจ์ ไฟใหเ้ ต็ม เพ่ือให้ไดแ้ รงดันไฟฟ้า (V) และ
กระแสไฟฟ้า (A) เท่ากนั ทุกเซลล์กอ่ นทจี่ ะแพ็ค เพ่ือให้ไดค้ ุณภาพทด่ี ีของเซลล์แบตเตอร่ีทจี่ ะนำไปใชง้ านกบั รถ
มอเตอรไ์ ซค์ไฟฟ้าที่เราใชง้ าน
ขั้นตอนท่ี 2
การจดั กรุป๊ เซลลแ์ บตลิเธยี มใหไ้ ด้คา่ ความตา้ นทานภายใน (IR) มหี น่วยเป็นมลิ ิโอห์ม ทเี่ ท่ากนั หรอื ให้
ไดใ้ กล้เคยี งมากทีส่ ดุ โดยการนำเอาค่า IR ในกรุป๊ มาบวกกันเพือ่ ให้ไดผ้ ลรวมของแตล่ ะกรุ๊ปท่ีเทา่ กันหรือ
ใกล้เคียงมากทีส่ ดุ ขั้นตอนน้เี ป็นสิง่ สำคญั มากสำหรบั การแพ็คแบตเตอรีใ่ ช้กับมอเตอร์ไซคไ์ ฟฟ้า
วิธกี ารมดี งั นี้
1. การนำเซลล์แบตเตอรลี่ เิ ธียมทีช่ ารจ์ เต็มแลว้ ทัง้ หมดมาวัดหาคา่ IR แลว้ ทำการจดบันทึกคา่ IR ไวท้ ่ี
เซลลแ์ บตเตอร่ที ุกเซลล์โดยใช้เคร่อื งวดั ค่าความต้านทานภายในแบตเตอรี่ เปน็ ตัววดั
2. การนำเซลลแ์ บตเตอรท่ี ว่ี ดั คา่ IR ทงั้ หมดทีจ่ ะแพค็ มาทำการจัดกรปุ๊ เซลลแ์ บตเตอรี่ จากค่า IR ทวี่ ัด
ได้โดยใช้โฮลเดอร์ในการจดั วางเซลล์แบตเตอรี่ โดยการจดั ค่าความตา้ นทานภายในแต่ละกรุ๊ปใหไ้ ด้ค่าเท่ากนั
มากทสี่ ุดหรือใหไ้ ดใ้ กล้เคยี งมากท่สี ุดนำค่า IR ในกรุ๊ปมาบวกกนั ให้ได้ผลรวมทใี่ นแตล่ ะกรุ๊ปเทา่ กนั หรือ
ใกลเ้ คยี งกันมากทสี่ ดุ ตามรปู ตัวอยา่ งในตาราง
ตวั อยา่ ง
การจดั เรยี งกร๊ปุ เซลลแ์ บตเตอร่ลี ิเธยี ม 60 V 20 AH
ตวั อย่าง
การจัดเรยี งกรุ๊ปเซลล์แบตเตอร่ี – 72 V 20 AH
ขนั้ ตอนท่ี 3
การเตรยี มแผน่ นเิ กลิ มาตัดให้ไดพ้ อดีกบั เซลลแ์ บตเตอร่ีท่เี ราจะสปอตแผ่นนิเกลิ กบั ขั้วแบตเตอร่ี นิเกิล
ที่ทั้งเป็นเส้นเดียวและเป็นเส้นกู่ที่ใช้ในการสปอต ต้องทำการวัดช่วงระยะของเซลล์แบดเตอรี่ เพื่อจะได้ตัดนิ
เกิลได้พอดกี ับการสปอต ขนาดแผ่นนิเกิลสำหรับการสปอตใช้ขนาด 0.15 มลิ
การตดั และวางแนวแผน่ นเิ กิลในการสปอตระบบแบตเตอร่ี 48 V 20 AH
ด้านท่ี 1
ด้านท่ี 2
การตดั และวางแนวแผน่ นเิ กลิ ในการสปอตระบบแบตเตอร่ี 60 V 20 Ah
ด้านที่ 1
ดา้ นที่ 2
การตัดและวางแนวแผน่ นเิ กลิ ในการสปอตระบบแบตเตอร่ี 72 V 20 Ah
ด้านท่ี 1
ด้านที่ 2
ขนั้ ตอนท่ี 4
การสปอตนิเกิลกับเซลล์แบตเตอรี่ โดยใช้เคร่ืองสปอตสำหรับแถบนิเกิล 0.15 มม. ให้กดปุ่ม 4P และ
ปัจจุบันเป็น 4-5 ในทำนองเดียวกันสำหรับแถบนิเกิล 0.2 มม. ให้กดปุ่มพัลส์ 4P,6P และปุ่มปัจจุบันเป็น 7-8
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปากกาเชื่อมถูกบีบอัดด้วยปุ่มแถบนิเกิลและขั้วแบตเตอรี่จากนั้นกดสวิตช์เท้า คุณจะ
สงั เกตเหน็ ประกายไฟเล็กๆ และทำสปอตจุด 2 ครงั้ จะได้จดุ บนแถบนิเกิล 4 จดุ เพื่อให้แผน่ นิเกลิ ยึดติดแน่นกับ
ขัว้ เซลล์แบตเตอรไ่ี ด้เปน็ อย่างดี
1.การสปอตแพ็คแบตเตอร่ที ีแ่ พ็คจะมี 2 ด้าน ด้านต่อไฟไปใชง้ านและดา้ นการต่อขนานเซลลท์ ้ังหมด
- การสปอตเราจะเริ่มจากด้านขั้วบวกก่อนที่แผ่นนิเกิลเส้นเดี่ยวจากนั้นไล่สปอตแผ่ยนิเกิลเส้นคู่เพื่อ
ขนานเซลลใ์ หค้ รบ ไปจบการสปอตแผน่ นิเกลิ ทีข่ ้ัวลบของการแพ็คแบตเตอร่ี
- สว่ นอีกด้านก็ทำการสปอตแผน่ นิเกลิ เสน้ คู่ เพื่อขนานเซลลแ์ บตเตอรี่ทง้ั หมดจนครบ
2.เช็คความถูกต้องการสปอต การยึดติดของแผ่นนิเกิลให้มีความแน่นหนามากที่สุด จากนั้นใช้มิเตอร์
วดั แรงดนั ไฟดูว่ามแี รงดนั ไฟออกมาตามที่ได้แพค็ ไวห้ รือไม่
ขั้นตอนที่5
การตดิ เทปกาวกนั ความร้อนใหก้ ับแพ็คแบตเตอรท่ี ่ีแพ็คเพ่ือปอ้ งกันความร้อนสะสมภายในแพค็
แบตเตอรี่ ท่จี ะเกิดขนึ้ ในระหว่างการใชง้ าน
ขน้ั ตอนท่ี6
การตอ่ BMS ใชใ้ นการจัดเซลล์แบตเตอร่ีให้ทำงานอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพในการงาน สาย Bms ทใ่ี ช้งาน
จะเรยี กการตอ่ กี่ S เช่น 13S ใช้สาย Bms ทง้ั หมด 13 เสน้ ในการต่อในระบบ จะเรยี กดังนี้ B+ B- B1-B13 ข้ัว
ตอ่ ไปงานเรยี กว่า B+C- รปู ด้านบนการใช้ bms แบบ 13S ระบบ 48v
1.เราต้องถอนสาย Bms ออกจากตัววงจรก่อนต่อสาย bms ทำการปอกปลายสายทุกเส้นไว้ 1 ซ.ม.
สำหรับการบัดกรีกบั แผน่ นิเกิลทีเ่ ราไดส้ ปอตไว้
2.การบดั กรสี าย bms เขา้ กับแพ็คแบตเตอร่ีท่เี ราได้แพ็คไว้เราทำการบัดกรจี ุดเริม่ ต้นท่ีสาย B-ก่อนท๋ี
ฝ่ังข้ัวลบเปน็ เสน้ แรกจากนนั้ สายบดั กรีB1.B2.B3.B4.B5.B6.B7.B8.B9.B10.B11.B12.B+
จนครบทกุ เสน้ ท่ฝี ่ังขวั้ บวกและทำการตรวจเชค็ สายทกุ เส้นอีกคร่ังว่าเราบัดกรีมคี วามยึดตดิ แน่นดีหรือไมแ่ ละ
ความถูกตอ้ งของสายทตี่ ่อในระบบนำวงจร Bms มาต่อเขา้ กับสาย
การต่อสาย Bms เขา้ แพคแบตเตอร่ี
ระบบ 60 V 20 AH
การต่อสาย Bms เขา้ แพคแบตเตอรี่
ระบบ 72 V 20 AH
3. ใช้มติ แตอร์ วดั แรงดนั ไฟที่ตวั Bms ทข่ี วั้ B+,C- ดวู า่ มแี รงดันไฟ V ออกตามที่เราแพ็คหรือไม่ ในรปู
ด้านบนคือการแพ็คในระบบ 48V ถ้าวัดแล้วมีแรงดันไฟออก 48V แสดงว่าต่อ Bms ถูกต้องแล้ว ถ้าวัดแล้ว
แรงดันไฟที่ขั้ว B+.C- ไม่มีแรงดันไฟออกมาแสดงว่าเราต่อสาย Bms ผิด ดังนั้นต้องใช้มิตเตอร์ไปวัดที่ขั้ว + -
ของแพ็คแบตเตอรี่โดยตรง วัดแล้วแรงดันไฟออกแต่วัดผ่าน Bms แรงดันไฟไม่ออก แสดงว่าเราต่อสาย Bms
ผิดตำแหน่ง ต้องไปไล่ดูสายที่เราต่อไว้ถูกต้องหรือไม่ หรือบัดกรีสายจุดใดจุดหนึ่งไม่แน่น จนไม่สามารถทำให้
Bms จา่ ยแรงดันไฟออกมาได้ควรเชค็ ใหด้ ี จนกว่าที่ Bms จ่ายแรงดันไฟออกมาได้ พรอ้ มทีจ่ ะนำไปใช้งาน
4. เก็บสาย Bms ให้ดูเป็นระเบียบเรยี บร้อยสวยงามและใช้เทปกาวกันความร้อนตดิ อีกรอบเพื่อความ
แน่นหนาของสาย
ขนั้ ตอนท่ี 7
การต่อสายไฟออกมาใชง้ าน
การต่อสายไฟออกมาใช้งานเราจะต่อจาก Bms จากขั้ว B+.C- ก่อนต่อสายไฟออกมาใช้งาน เราต้อง
ทำการเข้าปลกั แอนดสิ ัน กอ่ นโดยการบดั กรีข้ัวให้แน่นสำหรบั การนำไปต่อใชง้ าน หลงั จากนน้ั ก็นำปลายสายไฟ
ขั้วบวก ขั้วลบ ไปต่อกับ B+.C- ของ Bms เพิ่มการต่อสายชาร์ทไฟให้กับแพคแบตเตอรี่ ท่านจะต่อเข้าพร้อม
กบั ขัว้ แอนดิสนั ด์เลยกไ็ ดเ้ พอ่ื สะดวกต่อการนำไปชาร์ทไฟ
ขั้นตอนที่ 8
การตดิ แผ่นอีพ็อกซี่เพื่อปอ้ งกันการกระแทกและการช็อตกับตัวรถ เราจะติดแผน่ อพี ็อกซีใหค้ รบดา้ น
ของแพ็กแบตเตอรที่ เ่ี ราทำการแพค็ โดยใชเ้ ทปกาวใยสับปะรด เปน็ ตัวติดทบั ให้เกิดความติดแนน่ ของแผน่ อีพ็
อกซี่กับตัวแบตเตอรี่ให้ความแข็งแรงมากขน้ึ
ข้ันตอนท่ี 9
การหมุ้ ท่อหด PVC เพอื่ ป้องกันนำ้ เข้าตัวแบตเตอรี่ทเ่ี ราแพ็คการตัดทอ่ หดให้ได้ตามขนาดของแพ็ค
แบตเตอร่ีทเี่ ราแพค็ ทำการสวมใส่กบั แบตเตอร่แี ล้วใช้ความร้อนจากไดรท์ ำความร้อนเป่าท่อหดใหเ้ ข้ากบั
รูปทรงของแบตเตอร่ีและทำการยิงซิลิโคลนตามช่องใหป้ ิดสนทิ อีกรอบกนั น้ำเข้าเพื่อไม่ให้เกดิ ความเสียหายใน
การนำไปใชง้ านกับรถมอเตอรไ์ ซค์ไฟฟา้