ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
คำ นำ
แหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ศาล
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จัดทำ
ขึ้นเพื่ อถ่ายทอดประวัติความเป็นมา
ของ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน
ม ห า ร า ช ที่ มี อ ย่ า ง ย า ว น า น ซึ่ ง เ ป็ น ส ถ า น
ที่สำคัญของคนในชุมชน ที่เป็นแหล่ง
ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ใ ห้ ค น รุ่ น ห ลั ง ไ ด้ รั บ รู้ ถึ ง
ความรักชาติ จึงเป็นหนังสือได้
ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ข อ ง ศ า ล ส ม เ ด็ จ
พระเจ้าตากสินมหาราช เพื่ อให้ผู้อ่าน
เ ห็ น ถึ ง คุ ณ ค่ า ท า ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ อั น
ยาวนานเพื่ อให้ประชาชนเกิดความรู้
แ ล ะ ส ร้ า ง ค ว า ม ต ร ะ ห นั ก ใ น คุ ณ ค่ า ข อ ง
ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ศ า ล ส ม เ ด็ จ
พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น ม ห า ร า ช
ส า ร บั ญ
0 1 . ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จ
พระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระบรม
ราชาที่ ๔
0 2 . กำ เ นิ ด
พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น ม ห า ร า ช
ค ว า ม เ ค รี ย ด ท า ง ส รี ร วิ ท ย า ห รื อ ท า ง ชี ว วิ ท ย า
เ ป็ น ก า ร ต อ บ ส น อ ง ข อ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต ต่ อ ตั ว ส ร้ า ง
ค ว า ม เ ค รี ย ด
0 3 . เ ข้ า ยึ ด จั น ท บู ร
ก า ร เ ดิ น ท า ง เ ป็ น ก า ร เ ค ลื่ อ น ที่ ข อ ง ผู้ ค น ร ะ ห ว่ า ง
ตำ แ ห น่ ง ที่ ตั้ ง ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ ที่ ค่ อ น ข้ า ง ห่ า ง ไ ก ล
0 4 . ก อ บ กู้ ก รุ ง ธ น บุ รี
ก า ร เ ดิ น ท า ง เ ป็ น ก า ร เ ค ลื่ อ น ที่ ข อ ง ผู้ ค น ร ะ ห ว่ า ง
ตำ แ ห น่ ง ที่ ตั้ ง ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ ที่ ค่ อ น ข้ า ง ห่ า ง ไ ก ล
ห น้ า 1 | ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า
กำ เ นิ ด ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น ม ห า ร า ช
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จ
พระบรมราชาที่ ๔ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงมีพระนามเดิมว่า “หยง
แซ่แต้ " เกิดในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ รัชกาลที่ ๔ แห่งราชวงศ์
พลูหลวง ( จุลศักราช ๑๐๙๔ - ๑๑๒๐ หรือ พุ ทธศักราช ๒๒๗๔ - ๒๓๐๑)
เป็นบุตรของ “นายไหฮอง แซ่แต้ " ชาวจีนต่อมาได้เป็นนายอากรบ่อนเบี้ยมี
นามว่า " ขุนพั ฒน์ " มารดาชื่อ " นางนกเอี้ยง " เป็นบุตรขุนางชั้นผู้น้อย
ประสูติ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๑๗ เมษายน
พ.ศ. ๒๒๗๗ เวลาประมาณ ๑๑.๐๐นาฬิ กา เจ้าพระยาจักรีได้ขอเป็นบุตร
บุญธรรม และตั้งชื่อทารกน้อยนี้ว่า “สิน”
ห น้ า 2 | ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า
กำ เ นิ ด ส ม เ ด็ จ
พ ร ะ เ จ้ า ต า ก สิ น
มหาราช
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรง
ป ร า บ ด า ภิ เ ษ ก ขึ้ น ท ร ง ค ร อ ง ร า ช ย์ เ ป็ น
พ ร ะ ม ห า ก ษั ต ริ ย์ ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า ใ น
ทางพิ ธีการ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๓๑๐ ทรงเป็นพระมหา
ก ษั ต ริ ย์ พ ร ะ อ ง ค์ เ ดี ย ว ใ น ส มั ย
อาณาจักรธนบุรี ขณะพระชนมายุได้
๓๔ พรรษา พระองค์เสด็จสวรรคต
เมื่อวันที่ ๖ เมนายน พ.ศ. ๒๓๒๕
เมื่อมีพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษา
ทรงครองราชย์นานถึง ๑๕ ปี พระ
ราชโอรส พระราชธิดา รวมทั้งสิ้น
๓๐ พระองค์
ห น้ า 3 | ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า
เ ข้ า ยึ ด จั น ท บู ร ภ า ย ห ลั ง จ า ก เ ดิ น ทั พ อ อ ก จ า ก วั ด
พิ ชัย ๒๓ วัน พระองค์ได้มีพระ
หลังจากพระองค์ยึดเมืองระยองได้ ขณะพั กอยู่บริวณวัดลุ่ม ราชปณิธานว่า “กรุงศรีอยุธยา
มหาชัยชุมพล ได้เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์พายุหมุนจนบิดต้น คงจะเสียแก่พม่าเป็นแท้ ตัวเรา
ตาลเป็นเเกลียวโดยไม่คลายตัว ซึ่งซาวบ้านเรียกว่า ( ตาลขด คิ ด จ ะ ซ่ อ ง สุ ม ป ร ะ ช า ร า ษ ฎ ร ใ น
) บรรดาทหารทั้งหลาย ต่างก็ยกพระยาวชิรปราการเป็น (เจ้า แ ข ว ง เ มื อ ง หั ว เ มื อ ง ต ะ วั น อ อ ก ทั้ ง
ตาก) ป ว ง ใ ห้ ไ ด้ ม า ก แ ล้ ว จ ะ ย ก ก ลั บ เ ข้ า ไ ป
กู้ ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า ใ ห้ ค ง คื น เ ป็ น ร า ช า
นีดังเก่า แล้วจักทำนุบำรุงสมณ
พราหมณ์ประชาราษฎร ซึ่งอนาถา
หาที่พำนักบ่มิได้ ให้ร่มเย็นเป็นสุขา
นุสุข และจะยอยกพระบวรพุ ทธ
ศ า ส น า ใ ช้ โ ช ด น า ก า ร ไ พ บู ล ย์ ขึ้ น
เหมือนอย่างแต่ก่อน เราจะตั้งตัว
เ ป็ น เ จ้ า ขึ้ น ใ ห้ ค น ทั้ ง ห ล า ย นั บ ถื อ
ยำเกรงจงมาก การซึ่งจะก่อกู้
แผ่นดินจึงจะสำเร็จโดยง่าย การ
ป ร ะ ก า ศ ตั้ ง ตั ว ขึ้ น ใ น ค รั้ ง นี้ มี ศั ก ดิ์
เทียบเท่า " พระบรมวงศานุวงศ์
" อย่างไรก็ตาม ก็อาจพิ จารณา
แ น ว คิ ด ท า ง ก า ร เ มื อ ง ไ ด้ เ ช่ น กั น ว่ า
พ ร ะ ย า ต า ก ป ร ะ ก า ศ ต น เ ป็ น พ ร ะ เ จ้ า
แ ผ่ น ดิ น
นั บ ตั้ ง แ ต่ ย ก ทั พ อ อ ก จ า ก
กรุงศรีอยุธยาแล้ว เจ้าตากมุ่งยึด
“ เ มื อ ง จั น ท บู ร ” ซึ่ ง ก่ อ น เ ข้ า ตี เ มื อ ง
ไ ด้ มี รั บ สั่ ง ใ ห้ ท ห า ร ทุ ก ค น ทำ ล า ย
หม้อข้าวให้หมด หมายจะให้ไปกิน
ข้าวในเมืองจันทบูร จนตีได้เมือง
จันทบูร โดยเดินทัพเมื่อวันที่ ๑๔
มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๑๐ หลังจาก
นั้นจึงยกทัพไปตีเมืองตราด ผู้
ก ร ม เ มื อ ง แ ล ะ ผู้ ค น ส มั ค ร ใ จ เ ข้ า ม า
ร่ ว ม ด้ ว ย กั บ พ ร ะ อ ง ค์ เ ป็ น จำ น ว น
มาก เนื่องจาก(เมืองตราด) ไม่
ถู ก ยึ ด ค ร อ ง โ ด ย ท ห า ร พ ม่ า
ห น้ า 4 | ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า
ก อ บ กู้ ก รุ ง ธ น บุ รี
การเดินทางกลับจันทรบูร โดยเดิน
ทั พ ม า ท า ง ท ะ เ ล ด้ ว ย ก อ ง เ รื อ ร บ ( เ รื อ
ชาวบ้าน) และเรือสำเภาจีนที่ยอมเข้า
ร่วมรบด้วย พร้อมทรัพย์สิน ถือว่า
เ ป็ น ยุ ท ธ ปั จ จั ย ที่ สำ คั ญ ก่ อ น ที่ จ ะ เ ส ร็ จ
ประทับเรือ ได้ทรงกระทำพิ ธีบูชา
เ ท ว ด า ฟ้า ดิ น ที่ ท้ อ ง อ่ า ว บ้ า น ส ลั ก
บ ริ เ ว ณ ที่ ส ร้ า ง โ บ ส ถ์ ห ลั ง เ ก่ า ข อ ง วั ด
สลักฆ่าหมู(ชื่อเดิม) ปัจจุบัน คือวัด
สลัก หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าโสม อำเภอ
เขาสมิง จังหวัดตราด
พ ร ะ เ จ้ า ต า ก ท ร ง ร ว บ ร ว ม
กำลังพลจนมีจำนวน ๕,๐๐๐ นาย
จึ ง ไ ด้ ย ก ก อ ง ทั พ เ รื อ อ อ ก จ า ก จั น ท บู ร
ล่องมาตามฝั่ งทะเลอ่าวไทย จนถึง
ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อสู้จนยึด
กรุงธนบุรีจากพม่าได้ นายทองอิน
เจ้าเมืองธนบุรี ซึ่งพม่าแต่งตั้งให้นั้น
ถู ก ป ร ะ ห า ร ชี วิ ต ต่ อ จ า ก นั้ น ไ ด้ ย ก ก อ ง
เรือต่อไปถึงกรุงศรีอยุธยา เข้า
โจมตีค่ายโพธิ์สามต้น จนสามารถขับ
ไ ล่ ท ห า ร พ ม่ า อ อ ก จ า ก อ า ณ า จั ก ร ไ ด้
แ ล ะ ส า ม า ร ถ ก อ บ กู้ ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า
จากการยึดครอง ใช้เวลาเพี ยงเจ็ด
เ ดื อ น ห ลั ง เ สี ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า
ห น้ า 5 | บ ร ร ณ า นุ ก ร ม
บ ร ร ณ า นุ ก ร ม
ข้อมูลจากป้ายประวัติ สืบค้น 7
ธันวาคม 2564