กะปิ
วสั ดอุ ปุ กรณ
1. ครกตํา ควรใชครกทีท่ ําดว ยทอ นไมขนาดใหญและสากไมต าํ
2. กะละมัง ใชใสกะป และหมักกะปท ี่ทําเสร็จแลว
3. ทพั พี ใชใ นการตักกะปท ่ตี าํ เสร็จแลว
4. ไห ใชใ สก ะปท่ีตาํ เสร็จแลว เพอ่ื ใหกะปเก็บไวไ ดนาน
ข้นั ตอนการทํา
1. นาํ กุงท่ีไดมาลางกบั นํา้ ทะเลไมควรลา งในนํ้าธรรมดาเพราะจะทําใหกุงเสีย
รสชาติได เพื่อใหไ ดร สชาติ กะปดี และลา งส่ิงสกปรกที่ติดมากับกุงออกแลว
นาํ กุงไปตากแดด โดยไมใ หแหงจนเกินไป ควรตากพอหมาดๆเพราะหากตาก
แหง จะทาํ ใหตาํ ไดไ มล ะเอียด
2. นาํ กงท่ีตากไวพ อหมาดๆมาตํา ซ่งึ ขณะทีต่ ําจะตองใสเ กลอื ผสมลงไปดว ย
โดยใชกงุ 3 กิโลกรัม เกลือ 1 ถวยตวง แลวตําผสมใหเ ขากัน
3.นํากงุ ตผี สมเกลอื และตาํ เสร็จใสกะละมงั หมักไวป ระมาณ 3 คืน
4. เมอื่ ครบ 3 คืนแลว นาํ กงุ ทีห่ มักไวไปปนเปนกอนแบนๆแลวนาํ ไปตากแดดอกี
ครง้ั หน่ึงประมาณ 2 วนั
5. เมื่อครบ 2 วนั แลว ใหน าํ กุงทตี่ ากไวม าตําอีกคร้ังหนงึ่ ใหละเอียด ใสเ กลือลงไป
อีกครั้งหนง่ึ ประมาณ 1/4 ถวยตวง แลว ใสนํา้ ตาลเลก็ นอยตามชอบ จะไดก ะปท ี่มีรสชาติท่ีดี
ถกู หลกั อนามยั
6. วธิ เี กบ็ รกั ษากะปม ี 2 ขน้ั ตอน คอื 1) อดั แนน 2) ขดั น้าํ